บุพเพวายร้าย(สอง)9.
80% “ ไม่อยากบอกตอนนี้ก็ไม่เป็นไร” ไอ้แบงค์พูด
“ ไม่ใช่ว่ากรูบอกไม่ได้แต่มันไม่มีอะไร” ผมว่า แต่คิดว่าไอ้แบงค์ไม่เชื่อก็คบกันมานานสิบกว่าปี ย่อมพอรู้ว่าเพื่อนมีเรื่องในใจ ถึงจะไม่พูดก็เถอะ
“ .................” ไอ้แบงค์เงียบ
“ ถ้างั้นแค่นี้นะ” ผมบอกกดสายออก แล้วหมุนตัวกลับมา เห็นหมอแว่นกับพยาบาลเดินออกมาจากห้องจักร ผมรีบวิ่งไปหา แล้วถามอาการจักร หมอบอกว่าอาการจักรไม่น่ามีอะไรน่าเป็นห่วง ซึ่งอาจจะกลับบ้านได้ตอนบ่าย เพราะจักรเองก็บอกหมอว่าอยากไปพักต่อที่บ้าน
ผมกลับเข้าไปในห้อง จักรกำลังขึ้นไปบนเตียง เสียงเปิดประตูทำให้จักรหันมา
“....................” มองกันและกัน ในมือจักรถือโทรศัพท์พับของจักรเอง ก่อนหน้าที่ผมเข้ามาจักรคงเดินไปโทรศัพท์ตัวเองที่โต๊ะโซฟา ผมจำได้ว่าเอาวางไว้เมื่อคืน
“ ยืมโทร-สับหน่อย” จักรว่าเมื่อผมเดินเข้าไป ผมหันไป
“ ของตัวเองมีทำไมไม่ใช้” ผมว่าหยุดที่ตู้เย็นก่อนที่จะถึงเตียงจักรเพราะหิวน้ำ มือกำลังเปิดตู้เย็น
“ แบตหมด” จักรบอก ผมเลยเดินไปยื่นโทรศัพท์ของผมให้ จักรมองผมก่อนที่คว้าโทรศัพท์ไปด้วยความรวดเร็วราวกับว่าผมจะอะไรก่อนหน้านั้น
จักรกดหมายเลขแล้วยกโทรศัพท์แนบหู โทรหาใคร?
“ ครับแม่” จักรพูด ผมเทน้ำเย็นๆจากขวดที่เพิ่งเอาออกมา หูก็ฟังไปด้วย
“ ครับ แบตหมด”
“ จักรไม่ได้ดู”
“ อยู่...โรง-บาล ไม่ได้เป็นอะไร แค่ไม่สบายตอนบ่ายก็จะออกจากโรง-บาลแล้ว”
“ แม่ไม่ต้องมา! จักร ...”
“ครับครับ” เสียงดังเบาลงก่อนที่กดสายออกแล้วนั่งนิ่งๆครู่หนึ่งก่อนที่จะนอนลง ส่วนโทรศัพท์ผมก็วางไว้ปลายเตียงให้ผมรู้เองว่าไม่ใช้แล้ว
ผมเลยเดินไปเอา แล้วพูดว่า
“ ขอบคุณสักคำก็ไม่มี” และทันที่ที่ผมพูดจบ
“ ขอบคุณ!” จักรก็พูดว่าขอบคุณทันที เสียงนั้นสั้นและห้วนตามเคย
“ อย่ากวน อารมณ์ไม่ดี” ผมบอก
“ ใครจะไปรู้ว่ามรึงจะอารมณ์ดีไม่ดี” ผมหยุดหันไปมองจักร ที่ชอบยั่วโมโหผมเหลือเกิน ผมเลยว่าจะเดินไปสั่งสอนสักหน่อย แต่จักรหน้าซีดผมเลยถอยออกมา
“ ถ้าไม่แน่ อย่ากวนอีก” ผมบอก เดินกลับมาตู้เย็นเพราะลืมเอาขวดน้ำใส่คืนเข้าไป
“ ชิ!” จักรทำเสียงพร้อมยักไหล่ข้างเดียว ผมวางขวดน้ำลงบนหลังตู้เย็นเต็มแรง จะให้โกรธให้ได้ใช่ไหม?!
ผมเดินไปหยุดที่เตียงก่อนที่ดึงมือจักร
“ บอกว่าอารมณ์ไม่ดี
อย่ากวน!” ผมว่า
“ ปล่อยมือกรู!” จักรบอกจ้องหน้าผม ผมจ้องกลับ
“ ไม่ปล่อยจะทำไม!” ผมจ้อง พร้อมยิ้มเยาะว่าผมไม่ปล่อยจะทำอะไรได้
“ ปล่อย!
กรูขยะแขยงมรึง!” จักรตะคอกบอก สะบัดแขนให้หลุด
“ ขยะแขยง หึ” ผมบีบคางจักรก่อนที่บดริมฝีปากลงบนปากจักรเจ้าตัวดิ้นผลักผมออกมา แต่สู้ผมไม่ได้ตามเคย ก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายหยุดเอง
“ ...................” ดวงตาเริ่มแดงของจักรจ้องผมเหมือนอยากฉีกผมเป็นชิ้นๆ
“ ......... ถ้าไม่อยากให้ร้ายกว่านี้....ควรรู้ว่าต้องทำยังไง” ผมบอกคิดว่าจักรน่าจะไม่กล้ากวนอีก แต่
“ กรูเกลียจมรึง สักวันเถอะ กรูจะให้มรึงมากราบแทบเท้ากรู ขอร้องกรู!” “ ฝันเหรอ หรือว่าเพ้อ
ห่ะ” ผมว่าตบหัวจักรแต่ไม่แรง แต่ตบให้รู้ว่า อย่าฝันว่าจะมีวันนั้น ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดไ
ม่มีทาง! “ มรึงก็คอยดู!” “ ไม่คอยดู เ
พราะมันไม่มีทางเกิดขึ้น!” ผมตะคอกกลับ เอาสิวะเกลียจมากนัก แม่งปล้ำเลยสะใจดีนอกจากผมจะชื่อชนะและผมยังเป็นพวกชอบเอาชนะด้วย
ผมผลักจักรลงไปกับเตียง จักรตกใจจนดูเหมือนไม่รู้จะทำยังไง
“ นี่มรึงจะทำอะไร?!” จักรถามพยายามจะลุกขึ้น แต่มือที่ผมกดมือจักรไว้ไม่ท่าทีว่าจะให้จักรทำได้สำเร็จ
“ อยากให้ทำอะไรล่ะ?” ผมว่าก้มลงได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากแก้มเนียนๆ จักรหลับตาลงหน้าหันหนีไปไกลที่สุดที่จะทำได้
!!?? ผมหยุดเหมือนสติเพิ่งกลับมา ผมโกรธได้ง่ายๆเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำ อาจจะเป็นเพราะตอนนั้ผมมีเรื่องเต็มหัวไปหมดจนไม่อยากที่จะรับอะไรเพิ่ม ผมบอกตัวเองว่าจักรไม่เกี่ยวเลยผปล่อยจักรแล้วเดินออกมาทรุดนั่งลงบนเก้าอี้
จักรยังนอนอยู่ท่าเดิมจนถึงเวลาพยาบาลเอาอาหารเช้าเข้ามา...
“.............”
.
.
.
ก็อก ก๊อก เสียงเคาะประตูแล้วไอ้แบงค์ก็เปิดประตูเข้ามา ถือข้าวมาด้วยกล่องหนึ่งและถุงร้าน 24 ชาวโมงถุงเล็กๆ ตอนนี้เวลา 8 โมงครึ่ง
“...................” ผมหันไปมอง จักรที่นอนอยู่บนเตียงกดรีโมทเปลี่ยนชื่อไปเรื่อย คิดว่าทำเพื่อจะได้ไม่ต้องมาสนใจใคร คงคิดว่าผมกับไอ้แบงค์เป็นธาตุอากาศ
“.........” ไอ้แบงค์เดินมาหาผมแล้วยื่นถุงที่ถือมาให้ผม
ผมเอามาดูในถุงร้าน 24 ชั่วโมง มีแปรงสีฟัน ยาสีฟัน
“ แปรงฟันกินข้าว แล้วมรึงก็กลับไปอาบน้ำที่คอนโด” ไอ้แบงค์บอก ผมมองหน้ามันก่อนที่จะก้มลงมา เพราะมองแล้วไม่สนิทใจ
ผมอยากจะกระชากคอเสท่อไอ้แบงค์แล้วพูดว่า ‘มรึงรู้ไหมว่ากรูกำลังจะบ้าเพราะมรึง!’
“ กรูจะเอาข้าวไปกินที่คอนโดด้วยเลย กินที่นี่ไม่อร่อย” ผมว่ามองจักร บอกให้รู้ไปด้วยเลยว่าผมก็ไม่ชอบจักรเหมือนกัน แต่ผมยังอยู่ที่นี่เพราะผมคือต้นเหตุที่ทำให้จักรมานอนโรง-บาลเลยต้องมาอยู่
“ เออ เดี๋ยวที่นี่กรูดูให้” ไอ้แบงค์บอกนั่งลงแทนที่ผม
พลันผมก็คิดไปถึงเรื่องจุม ไอ้แบงค์มันก็มาดูแลจุมที่โรง-บาลแบบนี้ รึว่าไอ้แบงค์จะสนใจจักรจริงๆ
ไม่หรอก ไอ้แบงค์มันมีแฟนแล้วมันไม่มีทางนอกใจเจน แต่ความรักมันห้ามได้ที่ไหนไม่งั้นผมก็คงไม่คิดหนักแบบนี้
ช่างไอ้แบงค์ มันจะชอบใครก็ตามใจมัน ไม่เกี่ยวกับผม!!!!
“ กรูอาจจะมาอีกตอนบ่ายๆ” ผมบอกเพราะนอนไม่พอตั้งแต่เมื่อคืนกลับไปนอนดีกว่า จักรก็ไม่เป็นไรแล้ว .
.
ขับรถมาถึงคอนโดก็อาบน้ำนอนเลย ข้าวที่ไอ้แบงค์ซื้อมาให้ก็ไม่ได้กิน จนกระทั่งตื่นตอนบ่ายโมง ผมถึงได้กิน ซึ่งมันยังไม่บูดกินได้
ผมนั่งกินข้าวที่โต๊ะในห้องเงียบๆคนเดียว อยากจะโทรไปหาไอ้แบงค์ ถามว่าจักรแผลงฤทธิ์อะไรรึเปล่า?
หรือว่าผมอยากได้ยินเสียงไอ้แบงค์ก็ตาม แต่ผมก็โทรไป
“ แบงค์ เป็นไงบ้าง?” ผมถามวางช้อนลงบนจานข้าว เพราะมุ่งมั่นกับการโทรศัพท์มากกว่า
“กรูกำลังจะโทรหา ว่าพ่อแม่จักรมา”เสียงไอ้แบงค์เหมือนคลื่นซัดตัวผมเช่นเคย ผมต้องยืนอย่างมั่นคงไม่ได้คลื่นทำอะไรผมได้ และต่อไปผมก็จะชิน .. .
“ เหรอ?”
“ อืม และหมอให้กลับบ้านได้แล้ว”
“ ก็ดี” ผมบอก รู้ว่าเรื่องต่างๆมันเยอะมากเกินไป ให้มันจบไปเป็นเรื่องๆ
“กรูจะได้ไม่ต้องไปเฝ้า ..” ผมบอก เรื่องราวมันจะได้จบสักที
“ ..........”
“ เดี่ยวกรูอาบน้ำแล้วไป” ผมบอกก่อนที่จะวางสาย ตามด้วยมองมือถือของตัวเอง
….จักร...
.
.
.
อย่างที่ไอ้แบงค์ว่าผมไปทำร้ายจักรผมกับปรางก็ไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม มีแต่จะทำให้เรื่องราวมันมากขึ้นยังดีที่ผมกลับตัวทัน ไม่งั้นทุกอย่างคงยากกว่านี้ จากนี้ผมกับจักรก็คงไม่มีอะไรอะไรมากไปกว่านี้ ถึงผมจะยังโกรธจักกร ไม่พอใจจักรก็ตาม แต่ผมจะพยายาม
พยายามที่จะไม่โกรธ ไม่แค้น หวังให้ตัวเองทำได้จริงๆครับ
ผมไปถึงโรง-บาลตอนบ่าย2 ในห้อง จักรก็แต่งตัวในชุดเสื้อยืดสีขาวสกรีนลายตัวปลาสีเหลือง กางเกงขาสั้นเลยเข่าสีดำ
และมีผู้หญิงผู้ชายในวันกลางคนที่ผมเห็นในรูปบ้านจักรวันที่ไปวันนั้น และเด็กผู้หญิงมัดผมหางม้า ร่วมทั้งไอ้แบงค์ที่ยืนอยู่
พ่อ แม่ น้องสาว
“ สวัดดีครับ” ผมยกมือไหว้
“ หวัดดีจ้ะ นี่คงเป็นชนะ พี่ที่คณะจักรและยังพาจักรมาส่งโรงพยาบาลใช่ไหม?” แม่จักรถาม
“ ครับ” ผมบอกหันไปมองไอ้แบงค์ว่า มรึงบอกกอะไรไปบ้าง ช่วยให้กรูรู้ที กรูจะได้เล่นต่อได้
“ ขอบใจนะจ้ะที่ช่วยดูแลจักร ถ้าไม่ได้ชนะจักรคงแย่” (แม่จักร)
“ หรือไม่แย่กว่าเดิม” จักรบอก แม่จักรเลยหันไปทำตาดุ ส่วนผมก็ปั้นหน้าเป็นพี่ชายแสนดีต่อไป(เนียนมาก55)
“ ไม่เป็นไรครับ คุณแม่” ผมบอก จักรมองผมด้วยความพอใจที่ผมตีบทซ่ะแตกกระจุ้ย
“ แม่กลับเถอะ” จักรเร่ง
“ ไม่ขอบคุณพี่เขาก่อนล่ะจักร ที่พี่เขาช่วยดูแล” แม่จักรบอก ผมลอบยิ้มที่มุมปากนิดหนึ่งและจงใจให้จักรเห็นเพียงคนเดียว
“ ไม่เป็นไรครับคุณแม่ผมเต็มใจ จักรคงเขิน ” ผมบอก ไม่ได้เขินหรอกแต่เกลียดผมเข้าไส้ทีเดียว
จักรจ้องมองผมนิ่งแต่ไม่กล้าแสดงออกมามากนัก
“ ข อ บ คุ ณ ค รั บ พี่ ช น ะที่ ดู แล ผม” จักรพูดฝืนเต็มทน ผมรู้สึกสนุกอย่างช่วยไม่ได้
“ พี่เต็มใจ” ผมว่ายิ้มหน้าบานเป็นจานเชิง ที่ได้แกล้งคน ทำหยิ่งทำเกลียจดีนัก
“ และขอบคุณแบงค์ด้วยนะ” แม่ของจักรบอกอีก ก่อนที่จะลุกขึ้นพร้อมกันทั้งครอบครับ แต่ไม่ร่วมจักร เพราะจักรยืนอยู่แล้ว
“ ครับ” (ไอ้แบงค์)
แล้วครอบครัวจักรก็เดินออกไป แต่ก่อนนั้นผมเอามือไปสะกิดแขนจักรที่เดินรั้งท้าย
“ ..........” จักรหันควับมาค้อนผมด้วยสายตาไม่เป็นมิตร จะกัดผมหรือเปล่าเนี่ย 55
ผมว่าจะพูดว่าแล้วเจอกันทิ้งท้ายวักหน่อยแต่ไมได้พูดเพราะไอ้แบงค์มันดึงแขนผมให้เงียงซ่ะงั้น ผมก็พูดไม่ได้พูดครับ เพราะพอไอ้แบงค์มันแตะแขนผมก็เย็นวาบตรงที่โดนจับ จนต้องหันหน้าไป
“ .....................ไร?” ผมบอกดึงแขนกลับมาเหมือนปกติ
“ อย่าทำเรื่องขึ้นมาอีก”
“ รู้น่า” ผมว่าแสดงให้เห็นว่ารำคาญแต่จริงๆแล้ว ผมรู้สึกเหมือนกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกซ่ะอย่างงั้นครับ
“ .........” ไอ้แบงค์มองหน้าผม เหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่พูดผมเลยเดินออกมา ตามด้วยไอ้แบงค์
“ .................” ผมกับไอ้แบงค์เดินเคียงคู่กันจนกระทั่งเข้าลิฟท์ ทั้งในลิฟท์ จนกระทั้งออกจากลิฟท์โดยไม่มีคำพูดใดๆ ทว่ามันรู้สึกดีมากทีเดียว
.
.
.
วันนั้นผมกลับบ้าน เพราะไม่รู้จะไปไหน พอกลับถึงบ้านพ่อก็ทักซ่ะเจ็บทรวงในว่า ‘อกหักมาล่ะซิถึงกลับบ้านได้’
ผมก็บอกก็ตอบแบบไม่กลัวเสียฟอร์มว่า หล่อๆอย่างลูกพ่อมิเหรอจะอกหัก พ่อได้แต่หัวเราะเหอๆ
พ่อผมอายุจะ 50 แล้วแต่ยังดูหนุ่มกว่าอายุเยอะ บ้านผมทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและค้าเหล็ก ตอนนี้พี่ชายคนโตเป็นคนดูแลในส่วนของก่อสร้าง แต่โรงานเหล็กพ่อผมยังดูแลอยู่
แม่ของท่านตายตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมจึงจำหน้าแม่ได้แค่ลางๆ รู้แต่ว่าท่านเป็นคนใจดีและตัวเล็ก เพราะงั้นบ้านผมเป็นจึงเป็นบ้านชายล้วน พ่อผมท่านจึงพูดเรื่อยๆว่าเมื่อไรพี่ชายผมจะพาลูกสะใภ้มาอยู่สักที พี่ชายผมชื่อ นายคุนเอก (พี่เอก) มีแฟนแล้วคบกันตั้งแต่มหาลัยจนตอนพี่ผม 30 แล้ว แว่วๆว่าจะแต่งกันไม่กี่ปี2ปีนี้ พ่อผมล่ะดีใจจนออกนอกหน้า ผมเลยชอบว่า อย่าทำหน้าดีใจนัก เดี๋ยวเขาไม่ยกลูกสาวให้มาเป็นสะใภ้ และลูกชายพ่อก็จะหมากขันหมาก
ผมนอนอยู่บ้านได้ 2 วันก็นึกอยากออกไปสู้โลกกว้างเลยโทรชวนไอ้แบงค์ ไอ้วุฒิไปเที่ยว(อีกแล้ว) เพราะผมอยากจะกลับวงวรชีวิตเหมือนเดิม แต่ไม่มีใครว่างตามเคย โดยเฉพาะไอ้แบงค์มันบอกว่านัดกับเจนไว้
ผมถึงกับอึ้งไปเลย เพราะเจ็บที่ใจแปล๊บๆ ก็เขาแฟนกันจะไปไหนด้วยกันมันก็ไม่แปลก ผมที่เป็นเพื่อนนี่สิไปหวงมันแปลก
ผมต้องทำให้ได้
ผมเลยต้องแต่งตัวหล่อไปเที่ยวคนเดียว
แต่กว่าจะผมจะไปก็ปาเข้าไป4 ทุ่มครับ เพราะนั่งอยู่ในรถไม่ขับออกมาจากบ้านสักที่เกือบ 2 ชั่วโมง ตอนที่ผมเข้าไปในผับตอนนั้นคนกำลังเยอะมากจนอึกอัดไม่ว่าที่ไหนก็มีแต่คน ผมเกิดความรู้สึกอยากกลับขึ้นมาทันที
แต่คิดว่าไหนๆก็มาแล้ว เพราะถึงกลับไปก็ไม่มีอะไรทำ มีแต่จะคิดมาก
แต่
แล้ว
พลัน
สายตาผมก็มองเห็นโต๊ะหนึ่ง
ผมมองเห็นไอ้แบงค์ นั่งกับ จักร ซีซี่ และอีก 2 คนที่ผมไม่แน่ใจว่าเคยรู้จักรหรือเปล่า?
ผมเดินเข้าไปหาทันที
“ พี่ชนะ!?” ซีซี่เรียกชื่อผมทันที่เห็นพร้อมยืนขึ้น ใบหน้ายิ้มอารมณ์ดี ทั้งหน้าแดงหน่อยๆคงเมาบ้างแล้ว
ผมหันไปจ้องไอ้แบงค์ที่ใส่เสื้อสีม่วงก่อนที่ผมจะมองจักร หรือว่าที่ผมคิดจะเป็นจริง....
“ ไหนกรูชวนว่านัดกับเจน?” ผมถาม พยายามระงับอารมณ์น้อยใจไว้ในอก แต่ยังไงคนฟังก็รู้สึกได้
“ เจนกลับไปแล้ว ที่บ้านโทรตาม”
“ แล้วทำไมมรึงไม่ไปส่ง?” ผมถามอีก ซีซี่ และ เพื่อนอีก 2 คนมองผมนิ่ง ส่วนจักรทำเหมือนไม่เห็นผมมองออกไปนอกโต๊ะ
“ ไปส่งมาแล้ว แต่กลับมาอีก เลยมาเจอพวกน้องเขา” ไอ้แบงค์ตอบหน้าตาเฉย ทั้งที่ผมแทบอยากจะตะโกนบอกว่าผมรู้สึกยังไง
“ ............” ผมหันสายตาไปมองจักร ….คิดว่าไอ้แบงค์กับจักร.....
“ พี่ชนะนั่งด้วยกันไหมค่ะ หรือว่านัดใครไว้” ซีซี่ชวน ผมตอบว่ามาคนเดียว ซีซี่ยิ้มดีใจ ผมนั่งลงคำชวน
“ แล้วอีก 2 คนชื่ออะไรกันล่ะ?” ผมถาม หางตามองจักรที่หน้าแดงแปร้ด เมา
“นี่ยูและนี่ชิดค่ะ” ซีซี่แนะนำ พอบอกชื่อผมก็พอจำได้ ยูผิวขาวย้อมผมสีน้ำตาลทำให้ดูขาวเวอร์ ทำให้นึกไอ้วุฒิหมีเผือก ส่วนชิด คิ้วสวยมากทั้งเข้มและเรียงตัวดี คล้ายไอ้แบงค์นิดหนึ่งแต่ชิดท่าทางดูกวนๆหน่อย และยังใส่ต่างหูสีชมพูดแบบจุดที่หูทั้ง 2 ข้าง
(โต๊ะเป็นวงกลม นั่งเรียงกันโดยเริ่มจากไอ้แบงค์ จักร ซี ชิด ยู และผม หรือก็คือผมนั่งติดกับไอ้แบงค์)
“ จักรมรึงไหวป่ะ?” ยูถามจักร เจ้าตัวส่ายหน้าตาลืมขึ้นหลับลง
“ แม่ง โลก มัน กลม เจอ ตัว เหี้ย จนได้” จักรว่าที่ละคำ ผมก็ขึ้นสิครับ เพราะจักรว่าผม แต่ผมไม่พูด
“...............”
ควับ!
จักรเอาหัวพิงต้นแขนไอ้แบงค์
“ พี่ผมเมา” จักรว่า ไม่รู้ว่าไปสนิทกันตั้งแต่ตอนไหน ทั้งที่ก่อนหน้านี้หน้าแทบไม่อยากมอง
“ ซีซี่พาเพื่อนกลับบ้านเถอะ” ไอ้แบงค์ว่า ผมจ้องจักรที่เอาหัวพิงไหล่ไอ้แบงค์รู้สึกใจหาย
“ เอางั้นเหรอค่ะ แต่หนูยังสนุกอยู่เลย” ซีซี่ว่า แต่ก็ลุกขึ้นแล้ว พร้อมทั้งยูและชิด
“ งั้นพี่ไปส่งให้ พี่ก็คิดว่าจะกลับแล้ว” ผมบอกไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงขันอาสา ไอ้แบงค์มองผมอย่างงๆ
“ แต่พี่เพิ่งมาไม่ใช่หรือค่ะ”(ซีซี่)
“ ใช่ แต่พี่ชักรู้สึกไม่สบายคิดว่าจะกลับดีกว่า” ผมบอก ตอนนี้จักรรู้สึกว่าจะกลับไปแล้ว
“ ชนะมรึงเพิ่งมา อยู่ต่อสักหน่อยก็ได้ เดี๋ยวกรูไปส่งจักรเอง” ไอ้แบงค์บอกพยุงจักรที่ตัวอ่อนเหมือนไม่มีกระดูกให้ยืนขึ้น
“ พี่เดี๋ยวผมไปส่งเอง เพราะผมเองก็มีธุระ” ชิดบอก
“ ไม่เป็นไร พี่ไปเอง แล้วก็ชนะฝากดูน้องๆเขาด้วยนะ” ไอ้แบงค์มันพูดเหมือนดักคอผม
เพราะไอ้แบงค์มันไม่เชื่อใจผม เลยไม่ยอมให้ผมไปส่งจักร ผมมันไม่น่าเชื่อขนาดเลยเหรอว่าผม...
** ** ** **
1. คอมเม้นต์คือสิ่งที่ทำให้เจ้าหญิงรู้ว่าท่านคิดยังไง และช่วยพัฒนาเจ้าหญิงเจ้าค่ะ
2. เจ้าหญิงคิดเข้าข้างตัวเองว่าท่านเป็นเดือดร้อนเพราะท่านอิน 
3. ขอบคุณที่ติดตามมาจนถึงตอนนี้
4. คอมเม้นต์เจ้าหญิงอ่านทุกเม้นต์เจ้าค่ะ ถึงจะไม่ได้ตอบก็ตาม
5. ขอบคุณทุกความห่วงใย
6. คำผิดขอบคุณ 
- ท่านChae
- ท่านpattra_13
- ท่านmimirin