Caress : รักร้อนจากสตรอว์เบอร์รี่หาดใหญ่ถึงหนุ่มเชียงใหม่พราวเสน่ห์
ท่ามกลางเด็กนักเรียนมากมายที่ยืนตากแดดรอเข้าแถวหลังเสียงสัญญาณดังก้อง มีเด็กกลุ่มหนึ่งยืนคุยกันใต้ร่มไม้ไม่สนใจเสียงนั้น เด็กหนุ่มหน้าคม คิ้วเข้ม คุยเก่ง นาม ‘เต๋าสตรอว์เบอร์รี่’ ยืนเคียงข้างเพื่อนรักที่กลายเป็นรักเพื่อนจีบสาวน้อยวัยเดียวกันอยู่ ข้างกายสาวน้อยคนนั้นมีหนุ่มรุ่นพี่และยังเป็นลูกพี่ลูกน้อง หน้าตาธรรมดาค่อนไปทางดี รอยยิ้มมีเสน่ห์ ยืนหัวเราะกับมุขขำของเขาและเพื่อน ผลไม้เมืองหนาวคอยสังเกตเพื่อนรักว่ามีใจปฏิพัทธ์กับสาวน้อยที่ชื่อก้อยในระดับใด แค่ชอบ อยากได้ หรือจริงจังกว่านั้น..ไม่ว่า ‘พิ’ เพื่อนรักจะอยากสานสัมพันธ์กับก้อย..กับผู้หญิงคนไหนก็ตาม ระดับที่สูงกว่านั้นแค่ไหน เต๋าสตรอว์เบอร์รี่ก็พร้อมจะเป็นป๋าดันให้ทันที ถ้าเป็นความสุขของหนุ่มคนนี้..ผลไม้เมืองหนาวก็พร้อมจะทำให้ได้ทุกอย่าง
ครั้ง สองครั้ง มันก็เพียงพอที่เต๋าสตอรว์เบอรรี่จะเห็นคำเฉลยจากคนคู่นี้ พิอยากได้ก้อยมาเป็นครึ่งหนึ่งของหัวใจ แต่จะจริงจังหรือไม่..ก็ค่อยดูไปเรื่อย ๆ แต่ที่ผลไม้เมืองหนาวเห็นพิรุธจากลูกพี่ลูกน้อง ‘พี่โป้ง’ หนุ่มผู้มีรอยยิ้มทรงเสน่ห์ เขี้ยวเล็ก ๆ ข้างขวากระชากใจสาวน้อยห้องผลไม้เมืองหนาวมาได้หลายตัว อย่าเห็นเป็นเรื่องประหลาดที่เต๋าสตรอว์เบอร์รี่จะเรียกผู้หญิงทุกคนว่า ‘นี๊หน่ะ’ ศัพท์แสลงของ ‘ชะนี’ พี่โป้งคนนี้มีสายตาโลมเลียเพื่อนรักของผลไม้เมืองหนาวอยู่ลึก ๆ ..แต่ไม่ลึกเกินสายตาคมกริบของเต๋าสตอรว์เบอร์รี่จะค้นพบ!
เช่นนั้นจึงยังความไม่พอใจมาสู่ก้นบึ้งหุบเหวในหัวใจของเต๋าสตรอว์เบอร์รี่ผู้มีแต่ไมตรีจิตต่อคนรอบข้าง ความไม่ชอบใจนี้ยังถูกเสริมความจงชังเพิ่มเข้ามาอีกครั้งเมื่อ..พี่โป้งอาจจะใช้ก้อยเป็นสะพานให้ได้ใกล้ชิดพิเพื่อนรัก ความคิดจินตนาการของคนช่างกว้างไกลเกินจะคาดเดา ผลไม้เมืองหนาวคิดไปไกลโดยไม่ได้ไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน ความไม่ชอบขี้หน้าพี่โป้งจึงเพิ่มขึ้นมาแสนเท่าล้านทวี ไม่มีใครสามารถฉุดเต๋าสตอรว์เบอร์รี่ขึ้นมาจากหุบเหวแห่งความจงเกลียดจงชังพี่โป้งได้ ไม่ใช่เพราะทุกคนเห็นตรงกันว่าโป้งชั่วช้า ไม่ใช่เพราะกลุ่มเพื่อนคิดว่าโป้งจะเป็นคนทำให้พิหวั่นไหว แต่เป็นเพราะ..ทุกคนเห็นว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยยิ่งกว่าปลายเล็บขบเสียอีก ด้วยพื้นฐานของเต๋าสตรอว์เบอร์รี่ไม่เคยเกลียดใครจริงจังนั่นเอง
นับวันความ ‘เกลียดขี้หน้า’ ของเต๋ายิ่งทวีความรุนแรงเทียบได้กับเฮอร์ริเคน ขนาดก้อยกับเพื่อนรักใส่คอนเวิร์สกันไปแล้ว ผลไม้เมืองหนาวก็ยังคงอคติแรงกล้าใส่พี่โป้งอยู่ดี ทุกครั้งที่พี่โป้งเข้ามาเล่นหัว หยอกล้อเพื่อนรัก ผลไม้เมืองหนาวมักไม่เก็บความรู้สึกไม่ชอบใจนั้น แสดงมันออกมาอย่างโจ่งแจ้งชัดเจน คอยกันไม่ให้หนุ่มพราวเสน่ห์ไม่ให้เข้ามาใกล้เพื่อนรัก คอยกีดเมื่อเพื่อนรักถูกลวนลามจนดูน่าเกลียด สายตาที่สื่อความเกลียดส่งถึงพี่โป้งได้อย่างไม่ยากเย็น ฝ่ายพี่โป้งมิได้ใส่ใจกับเพื่อนรักรักเพื่อนอย่างผลไม้เมืองหนาวเท่าใดนัก เพราะตนเองก็เคยรู้สึกไม่ชอบหน้าคนอื่นแบบไม่มีเหตุผลเหมือนกัน
เรื่องรู้สึกดีกับแฟนของลูกพี่ลูกน้องนั้นเป็นเรื่องจริงที่เถียงยังไงก็แพ้ มันก็แค่ความชอบเท่านั้น ไม่ได้อยากครอบครองแต่อย่างใด มีเก็บเอาไปช่วยตัวเองบ้างเป็นบางครั้ง..ตามประสาเด็กวัยรุ่นเก(ย์)เรทั่ว ๆ ไป หนุ่มยิ้มพราวเสน่ห์คนนี้ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ได้แต่เฉพาะผู้หญิง ยังมีอารมณ์กับเพศเดียวกันได้อีกด้วย..แต่มากสุดก็แค่ใช้ปากเท่านั้น สอดใส่ข้างใน..ยังไม่เคยคิด ผิดกับผลไม้เมืองหนาว ผู้หญิงก็ได้ผู้ชายก็เอา! เต๋าสตรอว์เบอร์รี่จะเลือกมีอะไรกับเพศเดียวกันก็ต่อเมื่ออยาก..กอดพิ ทุกครั้งที่ร่วมรักจะต้องถึงจุดสุดยอดด้วยชื่อ ‘พิ’ เท่านั้น เต๋าสตอรว์เบอร์รี่ไม่ได้ใสซื่อ ‘รักพิโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน’ มันไม่มีในโลกบูดเบี้ยวใบนี้หรอก หัวใจกับร่างกายของผลไม้เมืองหนาวไม่ได้มาจากส่วนผสมเดียวกัน หัวใจมีกลไกการทำงาน คือ ความรักและความสุข แต่ร่างกาย..ทำงานขับเคลื่อนไปตามอารมณ์ใคร่..เท่านั้น
พิเพื่อนรักเป็นคนอัธยาศัยเลิศ หน้าตาดีมีคนชอบเยอะ แต่ที่กล้าเข้ามาจีบโจ่งแจ้งเห็นจะมีไม่กี่คน พิมักไม่ระวังตัวกับผู้ชายเพราะไม่คิดว่าจะมีผู้ชายด้วยกันมาจีบ เว้น..อนิรุทธิ์ เพื่อนใหม่ที่เข้ากลุ่มมาล่าสุดนี่ก็เข้าข่ายการมาจีบพิเช่นกัน เต๋าสตอรว์เบอร์รี่ไม่ทันได้ระวังเพื่อนใหม่ที่จะเข้ามาช่วงชิงหัวใจพิเพื่อนรัก ไม่ทันได้คิดว่า..พิจะมีใจให้เพศเดียวกัน นึกไม่ถึงว่าพิจะเปิดใจให้ผู้ชาย..คนอื่น! ผลไม้เมืองหนาวสังเกตการกระทำบางอย่างของพิที่แสดงออกกับเพื่อนใหม่ที่ชื่อ ‘ไทโย’ บางครั้ง..มันมากกว่าเพื่อน ตัดสินใจเอ่ยถามเพื่อนรักถึงเรื่องเพื่อนใหม่
“..........พิ มึงสนิทกับไอ้ไท...ถึงขนาดมันไปหาที่บ้านเลยเหรอ? กูถามมึง..มึงตอบกูตามตรงนะ
มึงสองคน....เป็นอะไรกันวะ?” อาการตอบตะกุกตะกัก และสายตาที่หวั่นไหวของพิทำให้ผลไม้เมืองหนาวอดปวดแปลบในใจไม่ได้ คำถามผุดขึ้นมาในใจมากมาย ‘ทำไมต้องเป็นไอ้ลูกครึ่งนั่น?! ..กูเฝ้ามาตั้งนานทำไมไม่เลือกกู!’ ความไม่พอใจถาโถมใส่หัวใจผลไม้เมืองหนาวไม่ยั้ง..แต่ต้องสะกดความโมโห ปรับน้ำเสียงและพยายามคุยให้เป็นเรื่องปกติ เลือกจะวางตัวเป็นเพื่อนและเลือกเดินทางนี้มาตั้งแต่แรก มันก็ไม่มีสิทธิ์จะตีโพยตีพาย ยิ่งถ้าเพื่อนรักจะรักใคร..ยิ่งต้องยินดีด้วย เหม่อมองผืนฟ้ากว้างใหญ่..ปลอบใจตัวเองว่า ‘เป็นเพื่อนมันดีกว่าเป็นแฟนไม่รู้กี่ร้อยเท่า แฟนเลิกกันไปก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ แต่เพื่อน..ยังได้อยู่ใกล้ ๆ ไปจนตาย ยังอยู่ในสายตาตลอดไปด้วย555’ ทำหน้าเพื่อนที่ดีจนถึงที่สุด..
“...ความรักแบบนี้มันไม่ง่ายหรอก กูเอาใจช่วยว่ะพิ
กูว่าไอ้ไทมันก็เป็นคนดีนะ มันยังไม่มีแฟนด้วย...มันบอกกูงั้นนะ เฮ้อ...กูว่าแล้ว...มันแปลก ๆ อยู่ดี ๆ ก็มาตีสนิทเข้ากลุ่มด้วยเฉยเลย555” เพื่อนรักกับคนรักล่าสุด คนรักที่ผู้ชายอย่างเต๋าสตอรว์เบอร์รี่จะคิดได้เป็นเรื่องสุดท้ายในโลก เพื่อนรักมีแฟนเป็นผู้ชาย ..เป็นผู้ชายที่มนุษย์ตอเรสอย่างเต๋าต้องยอมแพ้ ‘พิชอบมัน’ เพียงพอแล้วที่เต๋าตอเรสจะยอมรับไทโย อยู่ข้าง ๆ ตามคำสัตย์ที่บอกพิ..ต้องทำให้ได้!
วันนี้เลิกเรียนเพื่อนรักกับกลุ่มเพื่อนมีนัดเดินดูร้านขายเครื่องดนตรีที่เปิดใหม่ ณ บ้านเต๋าสตรอว์เบอร์รี่หลังการไถเงินครั้งใหญ่เพื่อมวลมนุษยชาติห้อง 2 ได้เฉิดฉายในวันออกร้าน ในร้านขายเครื่องดนตรีเพื่อนรักเกิดความไม่พอใจที่คนรักดูสนิทสนมกับนางฟ้าที่ชื่อ ‘น้องปูนใส’ ผลไม้เมืองหนาวเห็นอาการนั้น แต่ไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่มย่าม ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนรักอย่างไทโยต้องไปเคลียร์เอง หางตาคมกริบเหลือบเห็นคนที่เกลียดอยู่ทุกขณะจิตเดินกึ่งวิ่งเหมือนกำลังหนีใครมาจากทางฟูดคอร์ท คิ้วเข้มขมวดติดกันแต่ก็เก็บความสงสัยไว้ หลังจากเพื่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน เต๋าตอเรสรีบเดินเข้าไปดูวงจรปิด มองหาหนุ่มรุ่นพี่ว่าอยู่ตรงไหนของห้าง แล้วก่อนหน้านั้น..มันหนีอะไร?
ภาพที่ขึ้นจอทำให้ผลไม้เมืองหนาวยิ้มกริ่ม หายค้างคาใจในทันที พี่โป้งของสาว ๆ ถูกเด็กผู้ชายหน้าหวานห้อง 3 ตามตื้อ มองจากภาพหลาย ๆ ช็อตแล้ว..น่าจะมีซัมทิงกันมาก่อน อะไรที่ทำให้เต๋าคิดได้อย่างนั้นน่ะเหรอ..
พี่โป้งยืนอยู่หน้าห้องน้ำให้เด็กห้อง 3 กอด โดยที่มือพี่โป้งเท้าเอวข้างหนึ่ง ยกมืออีกข้างขึ้นมานวดขมับเหมือนคิดไม่ตก ดึงไหล่เด็กคนนั้นออกแล้วพูดอะไรซักอย่าง เด็กคนนั้นยืนนิ่งปล่อยให้พี่โป้งเดินจากไป แต่เดินได้ไม่กี่ก้าวก็หันหลังเรียกแล้วทำท่าวิ่งเข้าใส่ นี่สินะ..ไอ้โป้งมันถึงได้ทำท่าหนีเมื่อเย็น หัวเราะ ‘หึ’ ในคอก่อนจะไล่เปิดดูว่าเวลาล่าสุดหนุ่มยิ้มพราวเสน่ห์ออกจากห้างไปแล้วรึยัง? ยืนซื้อหนังสืออยู่ในร้านติดประตูทางออกด้านหลัง เต๋าตอเรสยิ้มร้ายกับตัวเอง ปรินท์ภาพคู่รักหน้าห้องน้ำชายออกมาก่อนจะรีบสาวเท้าไปที่ประตูทางออกเป้าหมายให้เร็วที่สุด ไม่มีเรื่องเร้าใจผ่านเข้ามาให้ชีวิตรู้สึกมีสีสันมานานมากแล้ว ล่าสุดที่มีคือวิ่งหลบฝ่าดงตีนจากพวกเด็กปริ้นซ์..มีเรื่องสนุก ๆ ให้ทำอีกแล้ว
“มึงเป็นเกย์เหรอ?..ไอ้โป้ง” เอ่ยทักลูกพี่ลูกน้องแฟนเก่าเพื่อนรักที่เดินมาไขกุญแจรถยนต์ หนุ่มยิ้มพราวเสน่ห์ละมือจากการไขกุญแจแล้วหันมาทางต้นเสียงที่เพิ่งจะกล่าวหาตน เต๋าตอเรสยืนพิงรถยนต์อีกคันแล้วโบกรูปในมือไปมา โป้งยืนนิ่งมองภาพในมือผลไม้เมืองหนาว ใบหน้ายียวน สายตาสมเพช และคำพูดปีนเกลียวของเต๋าตอเรสมันทำให้หนุ่มรุ่นพี่โมโหขึ้นมา
“มึงเสือกอะไรด้วยไอ้เต๋า? กูจะเป็นรึไม่ได้เป็นมันก็เรื่องของกู!” เก็บกุญแจเข้ากระเป๋ากางเกงแล้วปรี่เข้าไปคว้ากระดาษในมือเต๋าสตอรว์เบอร์รี่ ผลไม้เมืองหนาวดีดหลังจากรถและดึงมือหลบ ผลักไหล่หนาออกและกล่าวน้ำเสียงเรียบแต่ถ้อยคำบาดจิต
“..ไม่เป็นก็อย่าเดือดร้อน กูว่าจะปรินท์ไปให้ไอ้พิดูหลาย ๆ ท่า หน้าห้องน้ำในห้างกูยังมีเด็ดกว่านี้อีกหลายช็อต..ไอ้โป้ง” เน้นเรียกชื่อคำหลังไม่มีรุ่นพี่รุ่นน้องชัดถ้อยชัดคำ หนุ่มยิ้มพราวเสน่ห์กัดฟันกรอด ข่มอารมณ์โกรธที่กำลังพวยพุ่งอย่างสุดความสามารถ ถ้าไม่มีไพ่ใบสุดท้ายชื่อ ‘พิ’ ที่ผลไม้เมืองหนาวทิ้งลงมาเมื่อครู่ หนุ่มคนนี้ก็พร้อมจะเข้าห้ำหั่นไม่สนใจผลที่จะออกมาเหมือนกัน
“..อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไปหน่อยเลยเต๋า พิมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ล่ะ? มีอะไรก็คุยกับพี่คนเดียวพอ อยากได้อะไรรึเปล่า? พี่หาให้ได้นะ..” โป้งคิดว่าผลไม้เมืองหนาวอาจจะอยากแบล็คเมล์ เลยถามว่าอยากได้อะไรแลกกับการเก็บความลับเล็กน้อยเรื่องนี้ เต๋าตอเรสส่งสายตาดูถูกให้หนุ่มรุ่นพี่ต้องกวนอารมณ์ขุ่นให้ข้นขึ้นมาอีกครั้ง..
“กูไม่ได้อยากได้เหี้ยอะไรไอ้โป้ง บ้านกูรวย!” ปรายตามองรุ่นพี่อีกครั้งก่อนจะเดินเข้ามาหรี่ตามอง..
“เลิกเข้ามายุ่มย่ามกับพิ แล้วกูจะไม่บอกใครเรื่องนี้” หลังจากฟังข้อเสนอของเต๋าตอเรส หนุ่มยิ้มพราวเสน่ห์ก็มั่นใจเรื่องที่เคยสงสัยว่า ‘ไอ้เหี้ยนี่มองยังกะหวงพิ..แม่งแอบชอบเพื่อนรึเปล่าวะ?’ ยกยิ้มมุมปากแล้วส่งสายตารู้ทันไปให้เต๋าตอเรส คิ้วเข้มของผลไม้เมืองหนาวขมวดอีกครั้ง..
“..อะไร? มึงจะเลิกยุ่งกับพิใช่มั้ย?” เต๋าตอเรสเอ่ยปากถามหลังแปลสายตากวนใจนั่นไม่ออก โป้งใช้ ‘ยิ้มสมเพช’ ที่เต๋าใช้กับตนเมื่อครู่ส่งกลับไปให้เต๋าพร้อมคำพูดเผ็ดร้อน..
“มึงบอกเรื่องกูชอบผู้ชายให้พิรู้ พิก็คงจะไม่รู้สึกขยะแขยงเรื่องนี้หรอกน้องเต๋า..” เว้นช่วงไว้ให้เต๋าตอเรสสนใจจะฟังประโยคถัดไปยิ่งขึ้น
“ถ้าเทียบกับเรื่องเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่ออย่างมึง! เพื่อนที่กินข้าวหม้อเดียวกันที่คอยคิดหาโอกาสตุ๋ยตูดพิอยู่ตลอด..มึงมันน่าสมเพชไอ้เต๋า!” หนุ่มรุ่นพี่พูดโพล่งเรื่องจริงที่เต๋าตอเรสพยายามเก็บมาตลอดได้ตรงจุด และ..แทงใจดำ! ‘ไอ้เหี้ยยยย’ ผลไม้เมืองหนาวสติหลุดก่อนจะปล่อยรูปต้นเรื่องลงกับพื้น ดวงตาคมกริบจ้องหนุ่มยิ้มพราวเสน่ห์ที่ยืนกอดอกยิ้มเยาะอยู่ด้วยประกายวาวโรจน์ ขยี้รูปนั้นด้วยฝ่าเท้าและพุ่งเข้าทำร้ายรุ่นพี่ด้วยบันดาลโทสะ หมัดขวาตรงของผลไม้เมืองหนาวพลาดเป้าเพราะหนุ่มรุ่นพี่ที่รอจังหวะอยู่หลบทัน สวนเข้าสีข้างจัง ๆ เต็มหมัด..แต่เต๋าตอเรสไม่สะทก นักกรีฑาที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและมีเรื่องมีราวอยู่บ่อย ๆ โดนแค่นี้ย่อมไม่มีอาการ หนุ่มรุ่นพี่รูปร่างสูงโปร่งกับเต๋าตอเรสที่สูงไล่เลี่ยกันแต่ตัวหนากว่า แค่นี้ก็พอจะรู้ตอนจบ..มวยคนละรุ่น
“ไอ้สัด! ปล่อยกู..” เต๋าสตรอว์เบอร์รี่จับรุ่นพี่ยัดเข้ามาในรถของตนที่จอดอยู่คันสุดท้ายของแถว ดึงถุงเท้านักเรียนจากเท้ามาอุดปากและชกท้องเต็มแรงอีกหมัด โป้งที่ทั้งจุกทั้งเจ็บหมดแรงจะขัดขืน เต๋าตอเรสแสยะยิ้มแกะเข็มขัดและรั้งกางเกงดำของรุ่นพี่ลง ด้วยพื้นที่ในรถมันแคบทำให้การรุกรานของเต๋าตอเรสที่หวังจะขู่ให้รุ่นพี่กลัวผิดพลาดไปหมด กางเกงที่คิดว่ารูดลงมันก็จะหลุดติดมือมันกลับติดสะโพก! โป้งที่ยังพอมีแรงเหลือพ่นถุงเท้าออกแล้วพยายามปัดมือและดึงกางเกงขึ้น ผลไม้เมืองหนาวชกเล็งไปที่ลิ้นปี่ หนุ่มรุ่นพี่นอนตัวงอบิดไปมาด้วยทั้งจุกและหายใจไม่ออก เต๋าตอเรสที่ถูกโทสะเข้าครอบงำดึงกางเกงลงและเขี่ยออกจากตัว จับพลิกหันหลัง ตรงเข้าล็อกคอแล้วงัดขึ้น หนุ่มยิ้มพราวเสน่ห์สำลักอากาศหายใจติดขัด ผลไม้เมืองหนาวจิกผมสั้นเกรียนที่ไม่ค่อยจะติดมือของรุ่นพี่มาข้างหลัง ขู่เค้นเสียงลอดไรฟันข้างหูโป้ง..
“อย่ายุ่งกับพิ อย่าเสือกมาชอบพิอีก..กูจะเตือนมึงครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ไม่อย่างนั้น..กูจะระเบิดข้างหลังมึง!” ขู่และบดเบียดสะโพกเข้าหาก้นงอนของรุ่นพี่สำทับคำขู่นั้น
“..หึ..ถึงพิจะไม่ชอบกู แต่ก็ไม่มีวันชอบคนไม่มีน้ำยาอย่างมึงเหมือนกัน! อ่อก..” อารมณ์ไม่ยอมแพ้ของหนุ่มรุ่นพี่ทำให้แค่นพูดประโยคที่คิดว่าเต๋าตอเรสต้องเสียหน้า ผลไม้เมืองหนาวเลือดขึ้นหน้ารัดคอโป้งแน่นกว่าเดิม และรูดซิบกางเกงตัวเอง งัดน้องชายออกมาปั่นให้แข็ง..
“ตอนแรกกูแค่คิดจะขู่ แต่ปากดี ๆ อย่างมึงคงต้องจัดหนักให้ซักดอก!” หนุ่มรุ่นพี่ตาเหลือกลานเมื่อบั้นท้ายสัมผัสเข้ากับอวัยวะคล้ายท่อนแขนร้อนฉ่า ดิ้นหนีก็ถูกรัดแน่น ขาดอากาศเข้ามาเลี้ยงปอด พอปล่อยให้มีอากาศหายใจก็ถูกอีกฝ่ายชก หมัดที่เต๋าสตรอว์เบอร์รี่ส่งมาติด ๆ กัน 2 หมัดเข้าที่ท้องน้อยทำให้เรี่ยวแรงที่มีอยู่ถูกรีดออกอีกครั้ง
“กูต้องใช้ถุงยางรึเปล่าโป้ง?..หึ!” ถุงเท้าสกปรกถูกยัดเข้ามาอุดปากอีกครั้ง คำพูดดูถูกจากปากรุ่นน้องถูกส่งเข้ามาให้เจ็บใจ..เจ็บใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทุกครั้งที่ขยับดิ้นหนีจะต้องถูกหมัดของฝั่งตรงข้ามพุ่งเข้ามาที่เดิม..ความแข็งขืนที่เต๋าตอเรสยัดเยียดให้หนุ่มยิ้มพราวเสน่ห์มันดิบและเถื่อน ไม่มีเล้าโลม สารหล่อลื่นคือน้ำลายของผลไม้เมืองหนาวที่ถ่มออกมาเท่านั้น จับหนุ่มรุ่นพี่ที่หมดเรี่ยวแรงหันหลัง ดันหน้าให้ติดกับกระจก ไม่มีเสียงร้องขอให้หยุดจากรุ่นพี่ มีแต่เสียงลมหายใจแรงของผลไม้เมืองหนาวและเสียงเนื้อที่กระทบกัน ผลไม้เมืองหนาวฝืนทำจนสำเร็จความใคร่ด้วยแรงโมโห..
“อาฮ์..พิ! ซืดดดดดด” สบถและคราวยาว ดึงความแข็งขืนออกมาปลดปล่อยใส่เสื้อนักเรียนของรุ่นพี่ ทั้งเลือดทั้งน้ำรักเปรอะติดเต็มไปหมด เต๋าสตรอว์เบอร์รี่เห็นเลือดที่ไหลออกมาจากช่องด้านหลังของโป้งก็เริ่มถูกความรู้สึกผิดทิ่มแทงใจ แต่จะให้เอ่ยปากขอโทษมันก็ใช่ที่ ทิฐิสูงทำให้ผลไม้เมืองหนาวเอ่ยปากให้เจ็บใจอีกครั้ง..
“อย่ายุ่งกับพิอีก!..หวังว่ากูคงไม่ติดโรคอะไรจากมึงนะ หรือมึงจะคิดตังค์..เท่าไหร่ล่ะ?” พูดออกไปแล้วก็อยากกัดลิ้นตัวเอง ขนาดคนพูดยังรู้สึกว่ามันแรง..แล้วคนฟังล่ะ? ไม่มีการตอบโต้จากโป้ง กลิ่นเลือดและกลิ่นคาวคละคลุงทั่วรถ แผ่นหลังที่นิ่งสนิทค่อย ๆ ขยับลุกขึ้นนั่ง มือขาวซีดเอื้อมจับประตูรถ เต๋าตอเรสเอื้อมมือไปปลดล็อคให้ หนุ่มรุ่นพี่รวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายพาตัวเองออกมาจากรถ หยิบกางเกงติดมืออกมาสวมด้านนอก กะเผลกเดินไปที่รถตัวเอง ล้วงกระเป๋าควานหากุญแจ..ไม่มี ยืนนิ่งข่มจิตใจก่อนจะเดินช้า ๆ ออกจากลานจอดรถ ยืนตากฝนล้างเลือดและน้ำสกปรกที่ติดตามเสื้อผ้าออก เรียกรถมอ’ไซค์รับจ้างแถวนั้น แข็งใจนั่งมาจนถึงบ้าน จ่ายเงินและหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง โทรศัพท์มือถือก็ไม่อยู่ในกระเป๋ากางเกงอีกข้าง กุญแจรถยนต์กับโทรศัพท์ที่หายไป..ต้องตกอยู่ในรถอับปรีย์จัญไรของไอ้เต๋าแน่ สูดหายใจเข้าปอดแรง ๆ กลืนน้ำตาและความเสียใจลงไป
“..ทำทานให้หมา!” เดินเกาะราวบันไดขึ้นชั้น 2 เปิดประตูห้องแล้วตรงเข้าห้องน้ำไปยืนใต้ฝักบัว เปิดน้ำให้ราดลงมา..ทั้งชุดนักเรียน หันหน้าเข้าผนังปล่อยให้สายน้ำเย็น ๆ ช่วยปลอบโยนจิตใจและร่างกายที่บอบช้ำ เจ็บใจที่ทำอะไรมันไม่ได้..ปล่อยให้มันดูถูก ให้มันข่มขืน! ชกผนังจนเลือดไหลจากมือเป็นทาง กัดฟันกลั้นน้ำตา ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นห้องน้ำ เสียหน้า เสียใจ และยังเสียตัว! คำสุดท้ายก่อนเต๋าตอเรสจะถึงฝั่งยังติดอยู่ในหัวโป้ง ‘พิ’ มันคิดว่ามันกำลังทำอยู่กับพิ ดูถูกกูจนถึงที่สุดสินะ..ชกผนังระบายความอัดอั้นตันใจ นั่งอยู่จนร่างกายจะทนไม่ไหวถึงยอมออกจากห้องน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินมาหน้ากระจกสำรวจร่างกายตัวเอง ชายโครงแดงเป็นที่ ๆ หน้าท้องแดงช้ำ บางที่ขึ้นริ้วสีเขียว เดินเข้าไปใกล้กระจก..หน้าตาไม่มีรอยแผลและรอยช้ำเลยแม้แต่จุดเดียว นึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นโป้งก็วิ่งเข้าไปอ้วกในห้องน้ำ หมดแรงนั่งพิงกับชักโครกและอาบน้ำให้สะอาดอีกครั้ง ออกมาหายาแก้ไข้กับแก้อักเสบกิน ทายาที่หลังมือและค้นลิ้นชักหาผ้าพันแผลเตรียมไว้ให้ป้าช่วยพันก่อนไปโรงเรียน โชคดีที่พ่อกับแม่ไม่อยู่บ้านไปเชียงใหม่เยี่ยมยายกันหมด ถอนหายใจพรูและข่มตาให้หลับ ยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องไปโรงเรียน จะยอมให้ไอ้เด็กเมื่อวานซืนมันดูถูกอีกไม่ได้!
หลังจากรุ่นพี่เมียข้ามคืนของผลไม้เมืองหนาวเดินกะเผลกออกไปจากรถ ความผิดทั้งหมดก็เข้ามาทำร้ายเต๋าตอเรสทันที นั่งสำนึกผิดอยู่นานก่อนจะตัดใจขับรถเข้าบ้าน เสียงโทรศัพท์ไม่คุ้นหูที่ดังอยู่ในรถทำให้เต๋าต้องจอดแล้วมองหา ‘สงสัยของโป้ง?’ ตกใจตัวเองที่พอได้ฟันเค้าแล้วก็เรียกเค้าซะดี หยิบโทรศัพท์ของโป้งขึ้นมาจ้องหน้าจอ รูปที่โชว์เป็นรูปเด็กผู้ชายหน้าหวานคนนั้น ‘น้องไอติม’ ร่างกายสั่งการเร็วกว่าสมอง ผลไม้เมืองหนาวกดรับทักทายปลายสายด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“สวัสดีครับไอติม พี่โป้งอาบน้ำอยู่ครับ..พี่โป้งเค้าโทรกลับไม่ได้หรอกไอติม เพราะเดี๋ยวพี่โป้งต้องเป็นเมียพี่ก่อนนอนอีกรอบน่ะ แค่นี้ก่อนนะ..จะไปอาบน้ำให้โป้ง!” วางแล้วกดปิดเครื่อง ไม่นึกประหลาดใจตัวเองเลยสักนิดว่า..ตัวเองกำลังแสดงความเป็นเจ้าของหนุ่มยิ้มพราวเสน่ห์อยู่ โยนโทรศัพท์โป้งไว้เบาะข้างคนขับ กลับมาถึงบ้านก็เข้าไปค้นดูในรถว่ารุ่นพี่ทำอะไรตกไว้อีกบ้าง? เจอกุญแจรถเพิ่มมาอีก 1 อย่าง เก็บ 2 อย่างในกระเป๋ากางเกง เดินขัด ๆ ขึ้นบ้าน ให้แม่บ้านยกข้าวขึ้นมาให้บนห้อง อาบน้ำ กินข้าวและกดพาราไป 2 เม็ด เดินไปล้วงกระเป๋ากางเกงนักเรียนตัวเดิม ควักกุญแจรถกับโทรศัพท์โป้งมาวางบนหัวเตียง ‘แล้วค่อยหาทางคืนทีหลัง..’ จับน้องชายตัวเองที่รู้สึกแสบ ๆ ก็ควักออกมาเพ่ง ‘เส้นสองสลึงกูขาดเหรอเนี่ย? ถึงว่า..แสบชิบหาย’ เก็บน้องชายเข้าที่และเอนหลังนอน หยิบมือถือหนุ่มรุ่นพี่มากดเปิดดูอย่างถือวิสาสะ รูปในมือมีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย กดไปเรื่อย ๆ ก็สะดุดตากับภาพคนคุ้นเคยที่มีตัวเองติดอยู่ในภาพด้วย ปลายนิ้วกดเซฟให้เป็นภาพหน้าจอ และกดลบออกเพราะ..เพราะอะไรไม่รู้ เต๋าตอเรสนอนนิ่ง หลับตาข่มให้หลับ ใบหน้าที่ลอยออกมาส่งก่อนนอนไม่ใช่หน้าพิ..หน้าที่นึกถึงอยู่ตลอด กลับเป็นใบหน้าเจ็บปวดของ ‘พี่โป้ง’ เมียไม่กี่ชั่วโมงของเต๋าตอเรส มันคงจะเป็นการสนองของกรรมเพียงเท่านั้นกระมัง..ผลไม้เมืองหนาวปลอบใจตัวเอง ถ้ามันเป็นแค่การสนองของกรรมเพียงอย่างเดียวเหมือนที่คิดก็ดีไป
แต่ถ้าหน้าพี่โป้งตามมาหลอกหลอนวนเวียนอยู่ในหัวตลอด 24 ชม. โดยที่เต๋าตอเรสกลับมีความสุขล่ะ..
คนที่เป็นเงาในหัวใจมาตลอดอย่าง ‘พิ’..คงจะหายไปในอีกไม่ช้า
และถูกแทนที่ด้วยแสงสว่างจากหนุ่มเชียงใหม่ยิ้มพราวเสน่ห์ไป..
..ตลอดกาล..
.......................................
แถม
.
.
“สวัสดีครับไอติม พี่โป้งอาบน้ำอยู่ครับ..พี่โป้งเค้าโทรกลับไม่ได้หรอกไอติม เพราะเดี๋ยวพี่โป้งต้องเป็นเมียพี่ก่อนนอนอีกรอบน่ะ แค่นี้ก่อนนะ..จะไปอาบน้ำให้โป้ง!” เด็กหนุ่มหน้าหวานที่ชื่อ ‘ไอติม’ มองหน้าโทรศัพท์อย่างงง ๆ หลังจากที่ตัดสินใจโทรหาพี่โป้ง คนที่เคยคิดว่ากำลังจะเป็นแฟน
“..หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้....” กดโทรออกอีกครั้งก็ได้รับคำตอบที่ตอกย้ำว่า ‘...พี่โป้งต้องเป็นเมียพี่ก่อนนอนอีกรอบน่ะ...’ พี่โป้งเป็นเมีย..ใครกัน? เพราะแบบนี้น่ะเหรอ..ถึงไม่ยอมตกลงปลงใจกับตน น้ำตาที่แห้งไปกลับไหลออกมาอีกครั้ง..
“..อีติ๋ม! ผัวมึงไม่รับโทรศัพท์ใช่มั้ย?! กูบอกมึงแล้วว่าอย่าไปง่ายกับใคร มึงมันเดียงสา อ่อนต่อโลก ไม่ทันเล่ห์ผู้ชายหรอก!” เสียงเหยียดหยันแต่แฝงด้วยความสงสารของเพื่อนในกลุ่มที่ชื่อ ‘ออม’ ดังขึ้น หันไปมองเพื่อนด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตาแล้วเอ่ยถาม..
“..ชั้นไม่ดีตรงไหนออม? อยากให้ทำยังไงชั้นก็ยอมตามใจ ชั้นรักเค้ามากนะ..รักมานานแล้วด้วย พอมีอะไรกันแล้วคิดว่าจะได้เป็นแฟน..กลับมาบอกเลิกชั้น ฮึก..” ไอติม หรือ ‘ติ๋ม’ ในกลุ่มเพื่อนตัดพ้อให้เพื่อนสาวฟัง โดยไม่ได้แปลความคำว่ามีอะไรกันของไอติมนั้น มันแค่การออรัลให้เท่านั้น ไม่ได้สอดใส่รวมร่างแต่อย่างใด คำนั้นมันทำให้เพื่อนสาวเข้าใจผิดไป..อย่างมากมาย
“นี่มันฟันมึงแล้วทิ้งเหรอ?! สัดหมา! หน้าเหี้ย!..ติ๋ม มึงไม่ต้องเสียใจนะ มึงสวยขนาดนี้ต้องมีคนที่รักมึงจริงรออยู่ข้างหน้าแน่ ๆ อย่าไปเสียน้ำตาให้คนอย่างผัวมึงอยู่เลย..ออกไปท่องราตรีโบยบินปลดปล่อยตัวเองท่ามกลางฝูงหมู่ผู้ชายดีกว่านะ..” ปากเพื่อนสาวปลอบใจไอติม ดวงตาล่องลอยไปตามจินตนาการ..อยู่ท่ามกลางผู้ชายที่รายล้อมอยู่นับสิบ ไอติมยิ้มให้เพื่อนที่ดวงตาเหม่อลอย ด้วยนึกไปว่า ‘ออม..อุตส่าห์อยู่เป็นเพื่อนช่วยฟังเราระบายความเสียใจ ยอมทิ้งโอกาสเที่ยวผับกับ ‘เจ้เอ็มม่า’..
“ขอบใจนะออม เราดีขึ้นมากแล้ว..เค้าไม่รักก็ไม้ต้องไปง้อหรอกเนอะ ออมยังอยากไปท่องราตรีอยู่มั้ยล่ะ? โทรหาเจ้เอ็มม่ากัน!” รอยยิ้มสดใสของไอติมทำให้เพื่อนสาวอย่างออมสบายใจขึ้น กดโทรศัพท์หาพี่สาวร่วมโลกแล้วนัดเจอกันหน้าผับสีม่วง
“ไปค่ะไอศครีม! น้องออมคนนี้จะเป็นพี่เลี้ยงเทรนให้ไอซ์หลอกล่อผู้ชายให้เข้ามาติดบ่วงเองค่ะ คึคึ” ไอติมยิ้มขำกับท่าทางของเพื่อนสาว หน้าตาบวกรูปร่างที่แมนเกินร้อยช่างขัดกับอาการสาวแตกตรงหน้าเหลือเกิน
ไอติมหนุ่มหน้าหวานพลาดหวังจากพี่โป้ง..หนุ่มเชียงใหม่ยิ้มพราวเสน่ห์..
แต่..ไม่เคยท้อหรือหมดหวัง
คนที่เป็นอีกครึ่งของชีวิต..คงจะเข้ามาหาในสักวัน
ยิ้มให้กับอนาคตที่ยังมองไม่เห็นและมีความสุขกับปัจจุบันอย่างเต็มที่ที่สุด
“..ไปกันเถอะ..ออม..”
...............................................
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
จิ้มบวกคืนและบวกขอบคุณค่ะ
ตอบเม้นท์..ทีหลังนะคะ -/////-