ผมนั่งละเลียดขนมปังที่พี่เรย์ขนมาเป็นเสบียงกินรอมื้อเที่ยงอยู่บนรถพี่เรย์ เหลือบไปมองหน้าหล่อน้อยกว่าไทที่ตั้งใจขับรถ นึกถึงเรื่องไม่กี่ชั่วโมงก่อนแล้วก็อดเขินไม่ได้แฮะ พี่เรย์มันชอบผมว่ะครับ! มันเป็นเกย์..เหมือนผมกับไทเป๊ะ ๆ ..
“กินเข้าไปไอ้พิ พี่รู้นะว่ามึงนินทาพี่อยู่!” ขนมปังที่เพิ่งกลืนแทบจะติดหลอดลมให้ผมสำลักตาย รู้มากชิบหายยยยยย เลิกคิ้วใส่แล้วทำไม่รู้ไม่ชี้หยิบนมมาเจาะดูดปู๊ดเดียวหมดกล่อง ‘พี่เรย์กินป่าว?’ แสดงความมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ที่เข้าวงการเกย์มาทีหลัง ยื่นขนมปังที่แกะแล้วไปให้ พี่เรย์แสดงความมีมารยาทตอบกลับผมด้วยความเอ็นดู
“แดกให้อิ่มเหอะ! พี่กินมาแล้ว..” เสียงทำร้ายจิตใจผมในตอนแรก ถูกประโยคที่สองชโลมด้วยคำพูดธรรมดา แต่ดวงตาน่าเคลิบเคลิ้ม..
“เหรอออออออ” เลิกคิ้ว ทำตาโตประกอบก่อนจะตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะของเรย์จิซังที่ดังกระหึ่มรถ ผมไม่ใช่สาว ๆ หรือหนุ่มน้อยคนอื่น ๆ ครับ ดวงตาระยิบระยับของพี่เรย์ไม่ทำให้ผมระทดระทวยง่าย ๆ หรอก อะไร?! ผมเคยหวั่นไหวแต่ผมไม่ปล่อยใจเหอะ!
“ไอ้พิ ไทมันไปเอาสูทมารึยัง? โทรถามเร็ว อีกไม่กี่ซอยก็ถึงร้านสูทแล้ว..ถ้ามันยังไม่ได้รับเราจะได้แวะรับเอง โทรเลย!” หยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างเอ้อระเหย กดปุ่มแบบโอ้เอ้ ผมไม่อยากกวนไทครับ ไทต้องยุ่งหัวหมุนอยู่แน่ ๆ แล้วผมก็เชื่อว่าไทต้องสั่งให้คนไปรับสูทแล้วแน่นอนครับ
“พี่เรย์ผมกดไม่ทันแล้วครับ ผมว่าไทสั่งให้คนรับสูทมาแล้วล่ะ เรารีบไปหาไทกันดีกว่า” เก็บโทรศัพท์แล้วบอกพี่เรย์ให้รีบกลับ พี่เรย์มันยิ้มก่อนจะแซวผม ‘หิวมากกว่ามั้ง?555+’ หึหึ พี่มึงกวนตีนว่ะไท!
เลี้ยวรถเข้าโรงแรมพี่เรย์ก็กดโทรหาไท เด็กญี่ปุ่นให้ขึ้นมาที่ห้องทำงานได้เลย พี่การ์ดขับรถไปเก็บผมกับพี่เรย์ก็เดินไปหาอะไรกินที่ห้องไท เปิดประตูห้องผมก็โดดเข้าหาเด็กญี่ปุ่นด้วยความคิดถึง..
“หิววววววว ไทสั่งอะไรให้กินมั่ง มีผัดเผ็ดเนื้อด้วย!” อย่ากล่าวหาว่าผมตะกละ นี่มันเที่ยงแล้วผมยังไม่มีอะไรตกถึงก้นหลุมดำ..หมายถึงอะไรที่มันหนักท้องไงครับ ขนมปังไม่กี่ชิ้น นมไม่กี่กล่องมันไม่เรียกว่าอาหารหลักนะครับ เด็กญี่ปุ่นยื่นจานข้าวและเลื่อนเก้าอี้เข้ามานั่งใกล้ ๆ
“พี่เรย์กินข้าวแล้วไปหาป๊าด้วยนะ เห็นว่าคืนนี้จะไม่อยู่รับเพื่อนญี่ปุ่นน่ะ บอกต้องพาพวกชุดกากีไปเคาท์ดาวน์ที่พัทยา..พี่เรย์ต้องอยู่รับเพื่อนที่ญี่ปุ่นของพ่อคนเดียวว่ะ” เรย์จิซังเงยหน้าจากชามข้าวขึ้นมามองหน้าไทของผม ถอนหายใจยาวแล้วบ่นออกมานิดหน่อย
“กูไม่มีปัญหาหรอกกะอีแค่เรื่องช่วยพ่อเทคแคร์เพื่อนน่ะ แต่แม่ง..มึงรู้จักคิตาฮาระซังมั้ยไอ้ไท มันมาเคาท์ดาวน์ด้วยว่ะ รายนั้นน่ะเรื่องมากเป็นที่หนึ่ง จุ้นจ้านกับชีวิตคนอื่นไม่พอยังลามมาวุ่นวายกับก้นกูด้วยนี่สิ กูรับไม่ได้ว่ะ!” ไทขำก๊ากไม่เกรงใจหน้าบูดบึ้งของพี่เรย์เลยครับ คิตาฮาระซังคนนี้ผมเคยเจอครับ แกเป็นไบอารี่ส์ที่หน้าตาค่อนไปทางดี อายุแค่ 35 แต่ประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจมากครับ กุมบังเหียนบริษัททำเซิร์ฟเวอร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เป็นผู้ส่งออกอัญมณีรายใหญ่ มีอิทธิพลกับวงการธุรกิจโลก เพราะความใหญ่ของแกเลยทำให้ทุกคนมองข้ามรสนิยมประหลาดของแกกันหมด ครั้งแรกที่เจอกันผมก็โดนเลยครับ เดินดุ่มเข้ามาขอจับมือทักทาย พอผมยิ้มให้แล้วยื่นมือให้จับคิตาฮาระซังก็ดึงผมเข้ามากอด มันไม่ใช่การกอดธรรมดาครับ..แอบจับก้นผมด้วย! จำได้ว่าไทดึงผมออกมาจากคิตาฮาระซังแล้วดึงแขนผมให้หลบข้างหลัง พี่เรย์ถึงกับเดินเข้าไปผลักอกคิตาฮาระซังเพราะไม่พอใจที่ลวนลามผม ป๊าเข้าไปเคลียร์ก่อนจะบอกให้ตาแก่นั่นรู้ว่าผมเป็นสะใภ้เล็ก มันถึงยอมเลิกยุ่มย่ามกับผม หันไปแทะโลมไทกับพี่เรย์แทน555 ผมว่าคิตาฮาระซังน่าจะแกล้งไทกับพี่เรย์คืนมากกว่านะครับ เพราะทุกครั้งที่คิตาฮาระซังมาจะต้องมีสาวสวย หรือไม่ก็หนุ่มหล่อมาเทคแคร์ด้วยอยู่แล้ว ไทบอกผมว่าผู้หญิงจะเป็นพวกผู้หญิงอย่างว่าแต่จะอยู่ระดับเกรดเอ หรู มีระดับพอตัว แต่ถ้าเป็นผู้ชายก็จะเป็นพวกโฮสต์เบอร์ต้น ๆ ของร้านใหญ่ ๆ ในญี่ปุ่น เหลือบมองพี่เรย์แล้วสงสารเลยครับ รอบนี้ไม่มีป๊าอยู่ด้วยคงอึดอัดน่าดู เฮ้ย! พี่เรย์มันถอนหายใจใส่ชามต้มกระดูกหมูของผมเฉยเลย..หายใจแรงด้วย!
“ถอนหายใจอะไรแรงนักพี่เรย์..น้ำมูกลงชามต้มแล้วใครจะกล้าแดกวะ ผมแค่กลัวมันจะเค็มเท่านั้นเองพี่555+” พี่เรย์มันคงหมั่นไส้ผมที่ห่วงกินมากกว่าห่วงสุขภาพจิตของพี่เรย์ มันลุกมาล็อคคอแล้วเอามะเหงกยีหัวผมใหญ่เลย ไม่เจ็บหรอกครับแต่มันก็แสบหนังหัวดีเหมือนกัน555+ พี่เรย์ปล่อยผมก่อนจะเดินออกไปหาป๊า ไทลุกตามพี่เรย์ออกไปแป๊บหนึ่งแล้วเดินย้อนกลับมาหาผม ดึงเข้ามากอดเต็มอ้อมแขน ผมได้อมยิ้มให้ไทหอมทั่วหน้า หลับตารับสัมผัสจากปลายจมูกเย็นแต่กลับเป่าลมร้อนใส่ผมซะอย่างนั้น วันนี้ผมทำสปาหน้าตอนบ่ายครับ555+ ‘คิดถึง..’ ฟังแล้วมันโคตรชื่นใจเหอะ! จูบปลายคางเอาใจมันทีหนึ่งแล้วกอดเด็กญี่ปุ่นไว้แน่น
“..รีบกลับนะ” ไทยิ้มรับก่อนจะเดินออกจากห้องทิ้งให้ผมอยู่กินข้าวเที่ยงคนเดียว เหงาครับ..แต่อิ่มสัตว์อ่ะ ไม่มีใครแย่งกินซักคน555 กินเสร็จก็โทรหาคนยกไปเก็บ เข้าไปอาบน้ำแล้วแต่งตัวออกไปเดินดูห้องจัดเลี้ยง
“แม่หวัดดีครับ” เห็นแม่ยืนอยู่กับน้องครีม อิน และ..คุณนลินี จะเดินหนีก็ไม่ทันแล้วครับ ทำไม่อินต้องยืนบังยัยนี่มิดเลยเนี่ย!?
“คุณพิสวัสดีค่ะ เหมียวเอากระเช้ามาสวัสดีปีใหม่คุณปราณีกับคาซูมะซังแทนคุณแม่น่ะค่ะ คืนนี้เหมียวไม่ได้มานะคะ ติดรับลูกค้าที่เขาใหญ่น่ะค่ะ ถ้าไม่ติดลูกค้าเหมียวก็อยากอยู่ฉลองกับคุณพิจริง ๆ นะคะ..” ยิ้มแกน ๆ และปล่อยให้คุณนลินีกอดแขนแน่นต่อไป ไม่รู้ถูกชะตาอะไรกับผมมากมาย ขนาดไทตั้งบริษัทให้ผมอยู่เป็นส่วนตัวแม่คุณยังตามมาส่งน้ำเอาขนมมาฝากอยู่บ่อย ๆ ถ้าบริษัทใหม่เปิดเมื่อไหร่ผมจะคอยดู..ว่าจะมีปัญญาส่งน้ำส่งขนมอยู่อีกรึเปล่า?
“คุณเหมียวไม่รีบกลับแล้วเหรอคะ? ได้ยินว่าต้องรีบไปดูดอกไม้ที่ร้านประจำด้วยไม่ใช่เหรอ?” น้องครีมเดินเข้ามากอดแขนผมที่ยังว่างอีกข้างก่อนจะชะโงกหน้ามาถามคุณนลินีที่เกาะเป็นปลิงดูดเลือดอีกด้าน เอาเลยครีม..จัดการเลย!
“พี่พิทานข้าวเที่ยงรึยังคะ? ครีมยังไม่ได้กินอะไรเลยอ่ะ พี่พิพาครีมไปหาอะไรกินหน่อย..แต่ไม่กินส้มตำนะคะ ครีมเอียนกลิ่นปลาร้าอ่ะค่ะ ยืนตรงนี้นาน ๆ ครีมก็แทบจะอ้วกแล้วอ่ะ” คุณเหมียวหน้าตึงก่อนจะตอบโต้น้องครีมดุเดือด น้องครีมยิ้มแย้มแล้วตอกกลับแบบไม่รู้สึกรู้สากับคำเชือดเฉือนของคุณเหมียว แม่เบือนหน้าไปกลั้นยิ้มก่อนจะขอตัวไปดูความเรียบร้อยในงานต่อ อินยืนมองน้องครีมด้วยสายตาไม่พอใจ ผมรู้..อินไม่ได้ไม่พอใจที่น้องครีมแกล้งลูกค้าผม แต่อินไม่พอใจที่เห็นมือน้องครีมจับแขนผมต่างหาก คู่นี้เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานานแล้วครับ ชอบแกล้งกัน กัดกัน เหน็บแนมสารพัดแต่ก็ไม่เคยทะเลาะกันจริงจังครับ สนิทกันตั้งแต่ไปเที่ยวทะเลคราวนั้นล่ะครับ ยิ่งพอมาทำงานที่เดียวกันยิ่งสนิทกันมากขึ้น น้องครีมเป็นคนคุมบัญชีแทนพนักงานที่ยักยอกเงินของโรงแรมไทครับ ส่วนอินมาฝึกงานเฉย ๆ ผมเคยพูดเปรย ๆ กับอินเรื่องน้องครีม ‘ครีมน่ารักดีนะ อินว่ามั้ย? ชอบเค้าก็บอกเค้าไปสิอิน หมาคาบไปแดกพี่ไม่รู้ด้วยนะ55+’ เจ้าอินมันอึนครับ ทำไม่รู้ไม่ชี้แต่หวงเค้าออกนอกหน้าประจำ..
“พิยุ่งรึเปล่า..ไปดูข้างหลังฉากกับไทหน่อย อ้าวคุณเหมียว? สวัสดีครับ มานานแล้วเหรอครับ ครีมกับอินพาคุณเหมียวไปนั่งที่ล็อบบี้สิ ตรงนี้มันวุ่นวาย..คืนนี้เชิญด้วยนะครับ เรามีเคาท์ดาวน์กัน ขอตัวนะครับ” เด็กญี่ปุ่นมาแบบพายุเลยครับ ทักทายยัยนั่นเสร็จก็โอบไหล่ผมออกมาดิ่งเข้าหลังเวที ปล่อยให้ครีมกับอินแกล้งคุณเหมียวได้ตามชอบใจ555+ คุยกับคนจัดเอฟเฟกส์เรียบร้อยก็เดินไปดูความเรียบร้อยกับเด็กญี่ปุ่นอีกรอบก่อนจะขึ้นมาอาบน้ำเตรียมตัวรับแขก
“พิชุดแขวนตรงนี้นะครับ อาบน้ำกัน..” เดินเข้าห้องน้ำไปให้ไทถูหลัง ผลัดกันสระผมก่อนจะปล่อยให้ไทโกนหนวดให้ เสร็จจากโกนหนวดผมก็บริการนวดขมับ ไทก็บริการนวดน้องชายผมที่เมื่อยแบบสุด ๆ ให้แบบเต็มสตรีม..ด้วยริมฝีปากสีแดงของไทเอง -///- ขี่หลังไทออกมาแต่งตัว เด็กญี่ปุ่นหยิบเสื้อมาสวมให้ผมก่อนจะหันไปแต่งตัวให้ตัวเอง ผม ไท พี่เรย์ตัดสูทใหม่ร้านเดียวกัน แบบเดียวกัน แต่คนละสีครับ พี่เรย์สีน้ำตาลเข้มเหลือบทอง ไทสีดำ ผมสีเทา แต่งตัวเสร็จไทกับผมก็ดูความเรียบร้อยของเสื้อผ้า หน้า ผม
“ไทหล่อว่ะ” ชมไปตามเนื้อผ้าครับ มันใส่สูทแบบทักซิโดขึ้นสุด ๆ หล่อเหี้ย ๆ ..
“พิหล่อกว่า..” ยิ้มกว้างรับคำชมว่าผมหล่อเทพ เด็กญี่ปุ่นฟัดแก้มแบบเมามันส์..ขำจนเมื่อยมันถึงจะยอมปล่อย ไทให้ผมเอาสูทไปให้พี่เรย์ก่อนค่อยตามลงไปช่วยรับแขก หิ้วสูทไปเคาะห้องพี่เรย์แล้วเปิดเข้าไป พี่เรย์คงจะอาบน้ำอยู่เลยไม่ได้ยินเสียงผม เดินเข้าไปชิดประตูห้องน้ำแล้วตะโกนบอกพี่เรย์เรื่องสูท พี่เรย์ตะโกนกลับ ‘เออ!’ ยืนลังเลอยู่กลางห้อง..จะแขวนไว้ตรงไหนได้ล่ะครับ ห้องแม่งมีแต่เครื่องเสียงเต็มไปหมด ตู้เสื้อผ้าก็ไม่มี เดินตรงไปที่เตียงแล้ววางสูทพาดไว้
“ไอ้พิ! ทำไมมึงไม่แขวนในตู้เสื้อผ้า?” พี่เรย์เปิดประตูทันเห็นผมกำลังวางสูทพาดเตียงพอดี มันเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพ้นท์รูปลำโพงของมันให้ผมดู..กูคงจะรู้หรอกว่ามันคือตู้เสื้อผ้า ไม่ใช่ลำโพงยักษ์ วางไว้ที่เดิมก่อนจะเดินเลี่ยงไปที่ประตู พี่เรย์ดึงมือผมไว้ก่อนจะเลิกแขนเสื้อผมดู..นาฬิกาข้อมือ
“ผมจะใส่ไว้ตลอด..จนกว่าพี่เรย์จะขอให้ผมเลิกใส่” พี่เรย์ยิ้มบางใส่นาฬิกาก่อนยิ้มนั้นจะค่อย ๆ จางหายไป ปล่อยมือผมแล้วหันหลังไปแต่งตัว ปิดประตูห้องให้พี่เรย์และเดินตามหาไท พี่เรย์ดีกับผมมาตลอดแต่ผมชอบพี่เรย์ตอบไม่ได้ การใส่นาฬิกาที่พี่เรย์ขอให้ผมพกติดตัวไว้ตลอด ของแทนตัวพี่เรย์ที่จะอยู่กับผมทุกที่ที่ผมไป..ผมคงทำให้พี่เรย์ได้เท่านี้ครับ
“สวัสดีครับ เชิญครับ” เดินเข้าไปยืนข้างเด็กญี่ปุ่นที่ยืนรับแขกหน้างานกับแม่ ผมช่วยพาแขกเข้าไปนั่งที่โต๊ะแล้วจัดการเรื่องเครื่องดื่มให้ก่อนจะเดินย้อนกลับมาหาไท พี่เรย์ตามมาสมทบทีหลังแม่เลยเดินเข้าไปทักทายแขกในงาน ปล่อยให้ผม 3 คนยืนหล่อดึงดูดสายตาแขกต่อไป ยืนคุยกันออกรสอยู่ดี ๆ พี่เรย์มันก็ชะงัก ไทหยุดคุยแล้วมองไปทางที่เรย์จ้อง ผมเลยต้องหันไปมองตามทิศนั้น..
“สวัสดีพิรุณ วันนี้เธอหล่อมาก ชั้นมองเห็นเธอแต่ไกลเลย..” ยิ้มมารยาททักทายคิตาฮาระซังที่มีโฮสต์หนุ่มหล่อยืนข้างซ้ายแค่คนเดียว ไทขยับมาบังผมก่อนจะจับมือทักทายคิตาฮาระซัง
“สวัสดีครับ คุณพ่ออยู่ข้างใน..เชิญครับ” เด็กญี่ปุ่นผายมือเชื้อเชิญตาแก่นั่นเป็นสัญญาณ แต่มันกลับยืนมองหน้าผมนิ่ง สายตาแทะโลมที่เหมือนกำลังร่วมรักกับผมทำพี่เรย์กับไทเดือดได้ง่าย ๆ เลยครับ พี่เรย์ขยับเข้าใกล้มันแต่คราวนี้การ์ดของมันเร็วกว่าครับ การ์ดเข้ามาขวางพี่เรย์ไว้ทัน พี่เรย์กัดฟันกรอดแล้วหันไปหามัน
“..เชิญ” พี่เรย์เดินนำเข้าไปในงาน คิตาฮาระซังหันมาโค้งให้ผมก่อนจะเดินตามพี่เรย์ไป เด็กญี่ปุ่นบดกรามแน่นผมได้แต่ลูบแขนไทเบา ๆ ‘ไอ้แก่นั่นมันก็แค่อยากกวนตีนไทกับพี่เรย์..อย่าเดินตามเกมส์มันสิไท’ ไทหันมามองผมแวบหนึ่งก่อนจะเบือนหน้าหนี ไทสูดลมหายใจเข้าแล้วปล่อยทิ้งหลายครั้ง จับมือผมที่ลูบแขนมากุมหลวม ๆ ผมเงยหน้าไปยิ้มให้กำลังใจเด็กญี่ปุ่น
“ไม่มีใครแล้วล่ะ..เราเข้าข้างในกัน” ผมชวนเด็กญี่ปุ่นให้เข้าไปรวมกับป๊า แม่ พี่เรย์ในงาน เด็กญี่ปุ่นกลับยื้อมือผมไว้แล้วดึงให้เดินตามออกไปอีกทาง ไทควักโทรศัพท์โทรหาป๊า ‘ป๊าไทไปฉลองกับพินะ’ วางหูจากป๊าเด็กญี่ปุ่นก็ปล่อยมือผม เดินห่างออกไป 5-6 ก้าวแล้วหันมาจ้องตาผม..
“คุณเต็มใจจะก้าวข้ามผ่านปีเก่าแล้วใช้ชีวิตที่เหลือรับปีใหม่กับผมมั้ย? พิรุณ..” อมยิ้มกับมุขของเด็กญี่ปุ่นก่อนจะตอบ ‘เต็มใจครับ’ ก้าวเข้าหามือที่ยื่นรออยู่แล้วกระชับแน่น เด็กญี่ปุ่นก้มหอมแก้มผมก่อนจะพาขึ้นลิฟท์ไปดาดฟ้าของโรงแรม พี่การ์ดยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู ไทให้พี่การ์ดกลับไปฉลองกับที่บ้านและให้เอาป้ายงดให้บริการมาวางไว้หน้าประตู เด็กญี่ปุ่นล็อคประตูแล้วเข็นฉากมากั้นประตูกระจกไว้ ผมเดินเข้ามาซึมซับบรรยากาศโรแมนติกที่เด็กญี่ปุ่นเตรียมไว้รอ
แสงไฟสีส้มที่อยู่ตามทางเดินตัดกับสีฟ้าของสระว่ายน้ำ ประกายน้ำสะท้อนวิบวับเล่นกับแสงไฟ ไทโอบเอวผมเดินไปนั่งที่โซฟายาวเพียงตัวเดียวที่ตั้งอยู่ หันไปมองหาเก้าอี้ยาวที่เคยวางรอบสระว่ายน้ำ ‘ไทให้คนเก็บไปรวมที่ห้องเก็บอุปกรณ์ชั้น 7 น่ะ’ สะดุ้งกับเสียงกระซิบทุ้มนุ่มข้างหูก่อนจะย่นคอหลบริมฝีปากที่จูบแถวใบหู คว้าไวน์มาเทใส่แก้วแล้วยื่นให้เด็กญี่ปุ่นไปถือ ไทยิ้มให้ผมแล้วรับไวน์จากผมไปจิบ ทิวทัศน์กลางคืนรอบเมืองใหญ่จากตรงนี้สวยมากครับ ตึกใหญ่ด้านล่างเล็กเท่ากล่องไม้ขีดไฟ ถนนคดเคี้ยวเหมือนงูหลามเป็นร้อยตัวมานอนขด ไฟทางตามถนนเรียงเป็นเส้นเหมือนเอาไฟสีมาแขวนประดับตามต้นคริสต์มาส
“..ช่วยกินหน่อย” ปากแก้วเย็นเฉียบแตะริมฝีปากผมเบา ๆ เด็กญี่ปุ่นอ้อนให้ช่วยดื่มไวน์ในแก้ว อมยิ้มก่อนจะจับแก้วแล้วยกพรวดรวดเดียวลงหลุมดำ ร้อนในท้องวาบ..อร่อยดีเหมือนกันแฮะ เทใส่แก้วจนเกือบเต็มก่อนจะยื่นให้ไทถือไว้ ก้มลงถอดรองเท้าและถุงเท้าออก พับขากางเกงแล้วนั่งลงริมสระ หย่อนขาลงจุ่มน้ำ..เย็นเจี๊ยบเลยครับ! ขนลุกซู่แล้วหัวเราะกับอาการบ้าบอของร่างกาย เด็กญี่ปุ่นยิ้มก่อนจะทำตามผม เสียงเพลงคลอเบา ๆ จากเคาน์เตอร์เบียร์ที่อยู่ด้านหลังเงียบไป เด็กญี่ปุ่นจับขาผมไว้ ‘ไม่ต้องหรอกครับ..อยู่แบบเงียบ ๆ บ้างก็ดีเหมือนกัน’ นั่งแกว่งขาตีน้ำเบา ๆ จิบไวน์รสเยี่ยม ลมหนาวพัดแทรกสูทเนื้อดีจนทำให้ต้องขยับหาไออุ่นจากคนข้าง ๆ ไทยิ้มก่อนจะวาดแขนกอดผมไว้หลวม ๆ
“อีกกี่นาทีจะเข้าปีใหม่ครับ?” ยกข้อมือดูเวลา ‘อีกครึ่งชั่วโมง..’ นาฬิกาที่ผมใช้ดูเวลาเป็นของที่พี่เรย์ซื้อให้ ผมควรจะบอกไท..
“ไท..นาฬิกาเรือนนี้พี่เรย์ให้ผมเป็นของขวัญปีใหม่ ผมตั้งใจจะใส่ติดตัวไว้ตลอด ไท..ไม่ว่าผมใช่มั้ย?” เด็กญี่ปุ่นมองนาฬิกาที่ข้อมือผมก่อนจะเงยหน้าสบตา เลิกคิ้ว กอดไหล่ผมโยกไปมา
“ผมจะว่าพิเรื่องอะไรล่ะ พี่เรย์ไม่ได้ซื้อของให้ใครง่ายนะครับ พิใส่ไว้ตลอดน่ะดีแล้ว หายากยิ่งกว่าพระสมเด็จอีกนะ555+..ผมไม่หึงหรอก” ไทยิ้มอ่อนโยนก่อนจะกอดผมแน่น ผมไม่รู้ว่าไทพูดจริงรึเปล่าเรื่องหึงผมกับพี่เรย์ แต่..คนที่จะเข้าใจและยอมรับการตัดสินใจทุกอย่างของผมโดยไม่มีข้อแม้ ก็มีแต่ผู้ชายคนนี้คนเดียว
“ขอบคุณนะ ไม่หึงน่ะดีแล้ว..ปวดหัวเปล่า ๆ” กอดคืนแล้วดันตัวออกมามองตาสีน้ำตาลที่สบครั้งไหนก็เจอแต่ความรักอยู่ในดวงตาคู่นี้เสมอ
“ผมรักไท คนเดียว...” ประคองหน้าหล่อเข้ามารับจูบแผ่วเบาที่แก้มซ้าย ผละออกมามองตาอีกครั้งก่อนจะเอียงแก้มซ้ายตัวเองให้เด็กญี่ปุ่นได้หอมคืนบ้าง ที่เหลือก็เหมือนเดิมล่ะครับ ไทฟัดผมจนปวดแก้มไปหมดถึงจะยอมหยุด555+ เด็กญี่ปุ่นคลายอ้อมกอดแล้วหยิบแก้วไวน์มาจิบก่อนจะป้อนไวน์ให้ผม..ทางปาก
“ให้หมดขวดเลยมั้ย? นอนแม่งตรงนี้แหละ” บอกเด็กญี่ปุ่นก่อนจะอ้าปากรับไวน์มาละเลียดลงคอ ไทยิ้มก่อนจะวางแก้วไว้ด้านหลัง จับขวดไวน์แล้วกระดกเข้าปาก..มันเอาจริงเว้ยเฮ้ย!? เผลอแป๊บเดียวไวน์หายไปค่อนขวดแล้วครับ ผมเริ่มตึงแล้วเหมือนกัน
“พิ..” กระซิบแบบเซ็กส์ซี่ของไทปลุกไฟในอกผมให้คุกรุ่น หันหน้าไปรับจูบเพียว ๆ ยิ่งทำให้ไฟมันโหมกระพือแรงยิ่งขึ้น ขยับตัวกอดคอเด็กญี่ปุ่นและเอียงหน้ารับความหวาน ไทถอดสูทตัวนอกผมออก ตามด้วยสูทของตัวเอง ริมฝีปากสีแดงที่มีรสไวน์ไม่ผละออกจากริมฝีปากผมเลยแม้แต่วินาทีเดียว เลื่อนลมหายใจร้อนไปเป่ารดที่หู ซอกคอ อก และหน้าท้องแกร่งของผม
“ไท..เอาจริงเหรอ?” เด็กญี่ปุ่นหยุดรุกรานผมก่อนจะยันตัวขึ้นมากอดแน่น ถอนหายใจยาวแล้วผละออกมาจรดริมฝีปากที่แก้มผม เลื่อนจูบมาเรื่อย ๆ ..
‘ปัง!’ เสียงดังจากที่ไหนซักแห่งทำให้เราผละออกจากกัน แสงสว่างวาบที่อยู่เหนือหัวทำให้รู้ที่มาของเสียงดังเมื่อครู่ทันที
“ดอกไม้ไฟเหรอ?..” ผมครางเสียงเหมือนละเมอเมื่อดอกไม้ไฟสวย ๆ อยู่ใกล้แค่มือเอื้อม เด็กญี่ปุ่นนิ่งมองดอกไม้ไฟเหมือนถูกมนต์สะกด มันสวยจริง ๆครับ ผมขยับไปนั่งตักไท ดึงมือเด็กญี่ปุ่นมากอดตัวเองไว้หลวม ๆ นั่งมองภาพวาดดอกไม้ไฟประดับท้องฟ้ายามค่ำคืน กระซิบสวัสดีปีใหม่กับไทอย่างไม่เบื่อ..
“สวัสดีปีใหม่ครับคุณอาทิตย์” ผมสวัสดีปีใหม่ 1 ครั้ง เด็กญี่ปุ่นก็จูบผม 1 ครั้ง..เลิกสงสัยแล้วใช่มั้ยครับว่าทำไมผมถึงสวัสดีปีใหม่ไทอยู่ได้555+
จะผ่านปีใหม่อีกซักล้านครั้ง..
ผมก็จะเป็นคนเดียวที่มีสิทธิ์ได้รับจูบรับปีใหม่จากคนคนนี้เสมอ..
‘สวัสดีปีใหม่ครับ..พิรุณ’
……………..
แถม
.
.
ร้านอาหารญี่ปุ่นในห้างใจกลางเมืองใหญ่ มีผู้ชายหน้าตาคล้ายกัน 2 คน นั่งทานข้าวกับผู้หญิงมีอายุอีก 1 คน 3 คนนั้นคุยกันเรื่องงานจัดเลี้ยงขอบคุณลูกค้าในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่โรงแรมของลูกชายคนเล็ก หลังมื้ออาหารผู้เป็นแม่แยกไปทำผมที่ร้านประจำ ส่วนลูกชาย 2 คนตั้งใจจะกลับโรงแรม เดินผ่านร้านขายเสื้อผ้าผู้ชายยี่ห้อดัง พี่ชายเหลือบเห็นนาฬิกาข้อมือที่วางโชว์อยู่ด้านหน้าเลี้ยวเข้าไปดูทันที น้องชายที่เดินมาด้วยกันเดินตามเข้าร้านไปติด ๆ
“ขอดูเรือนที่โชว์ข้างหน้าหน่อย” ถอดแว่นดำแล้วบอกพนักงานให้หยิบนาฬิกาที่วางโชว์ด้านหน้า พนักงานหยิบตัวโชว์ที่วางมาทั้งหมด 3 เรือน ดวงตาสีน้ำตาลสวยพิศนาฬิกาทั้ง 3 เรือนก่อนจะหยิบเรือนที่อยู่ตรงกลางให้พนักงานใส่กล่อง
“เดี๋ยว! ถ้าพี่เรย์จะใส่เองทำไมไม่เลือกเรือนแรก? พี่เรย์..ซื้อให้ใคร?” น้องชายคว้านาฬิกาเรือนนั้นไว้ก่อนจะเอ่ยปากถาม พี่ชายสบตาสีน้ำตาลที่คล้ายกันกับดวงตาตัวเองก่อนจะถอนหายใจยาว
“กูจะซื้อเป็นของขวัญปีใหม่ให้พิ..แล้วก็จะขอให้พิใส่มันไว้ตลอดด้วย” บอกน้องชายไปตามตรง ไทโยถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าให้พี่ชายตัวเอง และยื่นนาฬิกาเรือนนั้นคืนพนักงาน เรย์จิรับถุงนาฬิกาแล้วเดินออกจากร้านไปด้วยกัน
ตลอดทางที่เดินไปขึ้นรถยนต์จนถึงที่หมาย พี่น้องคู่นี้ไม่ได้เอ่ยปากคุยกันแม้แต่ประโยคเดียว จมอยู่กับความคิดของตัวเองจนถึงโรงแรม ก้าวเท้าลงจากรถแล้วขึ้นไปที่ห้องทำงานของตัวเอง
“ไท!..” น้องชายที่เดินแยกไปกำลังจะบิดลูกบิดเข้าห้องตัวเองชะงัก หันมามองพี่ชายที่แอบชอบแฟนตัวเองมาเกือบ 6 ปีด้วยดวงตาว่างเปล่า
“กูจะส่งท้ายปีเก่าด้วยการสารภาพกับพิ..ว่ากูแอบชอบมัน” เรย์จิยืดอกบอกน้องชายเรื่องนี้หน้าตาธรรมดา ไทโยรับฟังเรื่องนี้ด้วยใบหน้าขุ่นเคือง พี่ชายมองดวงตาเอาเรื่องของไทโยนิ่งก่อนจะเอ่ยปากบอกเรื่องที่ตั้งใจจะทำหลังจากนั้น..
“แล้วกูก็จะรับปีใหม่ด้วยการ..ตัดใจ มองอะไรดี ๆ ที่มันควรจะเป็นของกูซักที หัวใจกูทำงานหนักมาพอแล้วว่ะ..” เรย์จิตั้งใจจะหยุดความรู้สึกที่แอบชอบแฟนน้องชายเป็นของขวัญปีใหม่รับเบญจเพส ไทโยยืนนิ่งฟังประโยคนั้นด้วยความรู้สึก..โล่งใจ ยิ้มให้กำลังใจพี่ชาย..
“ขอบคุณนะพี่เรย์ ผมเชื่อ..ว่าพิจะต้องเข้าใจพี่เรย์ ทุกเรื่อง..” ยิ้มส่งคืนน้องชายและหันหลังเข้าห้องตัวเอง
หวังไว้ว่า..ปีใหม่ที่จะกำลังจะมาถึง พระพรหมคงจะส่งเนื้อคู่มาให้เจอซักที..
“ขอให้สวย รวย นมตู้มเถ๊อะ!” ยกมือท่วมหัวก่อนจะขอพร ถ้าเรย์จิมีญาณทิพย์รู้ล่วงหน้า..
ไอ้ที่ขอพระพรหมไปเรย์จิคงไม่เอ่ยปากออกมาเด็ดขาด..
..แน่ ๆ 555+..
..........................................
ว่างแล้วก็รีบปั่นมาให้อ่านเลยค่ะ
สีเขียวบรรยายรวม สีน้ำเงินไทโย สีดำน้องพิค่ะ
รบกวนดูคำผิดให้ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามค่า
ปล. คุณ Églantier✿ จิเพิ่งตามแก้เสร็จวันนี้อ่ะค่ะ -////- จิ้มบวกขอบคุณเตงนะคะ เค้าพิมพ์ผิด ตก เกินเต็มเลยอ่า