เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus  (อ่าน 2506403 ครั้ง)

ออฟไลน์ Paracetamol

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-2
ยังไม่มาเลยแฮะ  :call:

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากๆเลยค่ะ อ่านรวดเดียวเลย
หลงรักน้องริว ช่างเป็นเด็กที่น่ารักมากๆ
พี่ไผ่ก้อดูแลน้องดีๆนะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ รอตอนหน้าค่ะ

ออฟไลน์ Na_RimKLonG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
รอ  ต่อไปค้าา   :call: :call: :t3: :t3:

ออฟไลน์ spring

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-7
คุณน้องริวจาไปเจอว่าที่แม่ยายแล้ววววว ฮิฮิ้ววว  :mc4:


************************************



ตอนที่ 19



ตอนแรกที่รู้ว่าพสุจะพาไปกินข้าวกับแม่  ริวก็ดีใจจนออกนอกหน้า  แต่พอออกจากบ้านไปไม่เท่าไหร่  เด็กหนุ่มก็เริ่มหน้าเจื่อน  ท่าทางกระสับกระส่ายจนพสุอดสงสัยไม่ได้

“เป็นอะไรไปริว  ท่าทางกระสับกระส่ายเชียว”


“พี่...ริวไม่ไปได้ไหม”


“อะไรนะ?”


“ริวไม่ไปกินข้าวกับแม่พี่ได้ไหมครับ”


“ทำไมล่ะ  มีปัญหาอะไรเหรอครับ”


“ริว...ริวกลัว”


“กลัวแม่พี่เหรอ?”


“เปล่าครับ  ริวกลัวว่าริวจะไปทำอะไรไม่ดีๆ อีก  แม่พี่ก็อาจจะโกรธริวก็ได้”


“ไม่หรอกน่า  อย่าตีตนไปก่อนไข้สิริว  ยังไม่ทันเกิดอะไรก็กลัวไปก่อนแล้ว”


“พี่ไผ่ต้องช่วยริวนะ  อย่าให้ริวทำอะไรไม่ดีต่อหน้าแม่พี่นะ”

พสุไม่ตอบ  แต่ละมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัยมาวางบนไหล่ของเด็กหนุ่มแล้วบีบเบาๆ  

.
.
.
.
.

ร้านอาหารบรรยากาศโปร่งสบาย  ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนไผ่  และสระน้ำที่มีปลาแหวกว่ายเต็มไปหมด  ที่นั่งแยกออกเป็นโซนต่างๆ  เป็นยกพื้นเหนือน้ำ  มีทั้งแบบมีหลังคาและแบบเปิดโล่ง  พอพสุเข้าไปในร้าน  พนักงานก็เข้ามาทักอย่างคุ้นเคย  แล้วพาเดินไปอีกด้าน  สตรีร่างผอมบางนั่งรออยู่ที่หมู่เก้าอี้ใต้กอไผ่สีเหลืองทองริมสระ  พอหันมาเห็นพสุกับริวก็ส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้  รอยยิ้มหวานคุ้นตานั้น  ทำให้ริวอดเหลียวไปมองหน้าพสุไม่ได้  แม่ลูกยิ้มได้อ่อนโยนเหมือนกันไม่มีผิด



“สวัสดีครับแม่”  พสุไหว้แล้วปราดเข้าไปกอด  ร่างผอมบางดูจะยิ่งบอบบางเมื่ออยู่ในอ้อมแขนของลูกชาย  ก่อนที่แม่ของ
พสุจะหันมาทางริวแล้วส่งยิ้มให้


“สวัสดีครับ”


“สวัสดีจ้ะ  แหม! เป็นฝรั่งแต่ไหว้สวยเชียวนะจ๊ะ...นานๆ จะได้เห็นคนไหว้สวยๆ แบบนี้สักที  เด็กเดี๋ยวนี้เขาไหว้แผล็บๆ เหมือนจะรีบไปไหน...มาจ้ะ  ทานอะไรกันดีลูก  ริวกินเผ็ดได้หรือเปล่า”


“อย่าดีกว่าครับแม่  ที่นี่ยิ่งทำรสจัดแบบไทยแท้ๆ อยู่  แม่สั่งอะไรมาบ้างครับ” พสุถามพลางนั่งลงแล้วส่งเมนูให้ริวดู  ส่วน
เขานั้นมาบ่อยจนไม่ต้องเปิดเมนูแล้ว


“สั่งของว่างแล้วจ้ะ ก็มีวิหคนอนรัง  ข้าวตัง  ช่อม่วง  ล่าเตียง  ม้าฮ่อ  พวงประทัด”  สุดาพูดไม่ทันขาดคำ  ของว่างในถาด
ใบใหญ่รูปดอกไม้ที่ข้างในแบ่งเป็นช่องใส่อาหารหน้าตาแปลกสำหรับริว  


“ริวเคยกินไหมลูก  นี่เป็นของว่างแบบไทยโบราณจ้ะ”


“ริวเคยเห็นอันนี้...ครูเคยทำให้กินครับ  นอกนั้นไม่รู้จัก”  ริวชี้ไปที่ข้าวตังที่อยู่ใกล้ตัวสุด  แล้วกวาดตาไปตามของว่างใน
ถาดอย่างสนใจ


“สวยนะครับ” เด็กหนุ่มจ้องช่อม่วงอย่างสนใจ เพราะรู้สึกว่าเหมือนดอกไม้มากกว่าของกิน


“ลองกินสิจ๊ะ  อาหารไทยไม่ได้มีดีแค่รูปนะจ๊ะ  แต่ยังรสดีด้วย”  สุดาบอกพร้อมกับตักของว่างอย่างละชิ้นใส่ในจานแบ่ง
ให้ริว  เด็กหนุ่มไหว้ขอบคุณแล้วลองกิน  ตาโตเป็นประกายวาววับเมื่อได้ลิ้มรส  



ยิ่งเมื่ออาหารถูกลำเลียงมาริวก็ยิ่งตื่นตาตื่นใจ  เด็กหนุ่มชอบตัวภาชนะที่สลักจากฟักทองบ้าง  แฟงบ้าง  มากกว่าตัว
อาหาร  ริวหยิบแตงกว่าที่แกะสลักเป็นใบไม้มานั่งจ้องอยู่นานจนพสุและสุดาหันมาเห็น



“ทำไมไม่กินละจ๊ะ”


“สวยจังครับ  ริวเสียดาย” สีหน้าชื่นชมของริวทำให้สุดาภูมิใจ  ที่อาหารไทยๆ เป็นสิ่งน่าสนใจสำหรับคนต่างชาติ


“ถ้าชอบ  วันหลังก็ให้พี่เขาพามาสิลูก  ไผ่จะได้มาหาแม่บ่อยๆ”  


“ริวก็อยากมาครับ  แต่ไม่รู้พี่ไผ่จะว่างไหม”


“อยากมาก็บอกแล้วกัน  แล้วพี่จะพามา” พสุตอบยิ้มๆ  รู้สึกดีใจที่เห็นริวสนิทสนมกับแม่เขาง่ายๆ


“เย้! ริวจะได้มาหาแม่...เอ่อ  ให้ริวเรียกแม่ได้ไหมครับ” เด็กหนุ่มขออนุญาตด้วยสีหน้าเกรงใจ


“ได้สิจ๊ะ”


“...แม่...ริวไม่ได้เรียกใครแบบนี้มาตั้งนาน” ริวพูดเสียงแผ่วลง  แม่...เป็นบาดแผลใหญ่ในหัวใจที่ไม่เคยจางหาย  แตะทีไรก็เจ็บปวดทีนั้น


“แม่เสียไปหลายปีหรือยังจ๊ะริว”


“ตั้งแต่ริว 8 ขวบครับ...จนถึงตอนนี้ก็เกือบ 10 ปีแล้ว”


“โถ...ไม่เป็นไรนะลูก  คิดเสียว่าริวเป็นลูกแม่ก็แล้วกัน  เป็นลูกคนเล็กของแม่นะจ๊ะ”


“ขอบคุณครับ”



น้ำเสียงอ่อนโยน  กับการคอยตักโน่นตักนี่ใส่จานให้  ทำให้ริวรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก   เด็กหนุ่มคิดว่าคงเป็นเพราะสุดาหน้าเหมือนพสุ  เขาก็เลยรู้สึกคุ้นเคย  พอกินข้าวเสร็จ  พสุกับริวก็เดินออกมาส่งสุดาที่รถ



“ว่างเมื่อไหร่ก็โทรหาแม่นะลูกนะ  จะได้มากินข้าวด้วยกันอีก”  สุดาพูดพร้อมกับกอดลูกชายไว้แน่น  พสุหัวเราะเบาๆ กอดแม่เต็มอ้อมแขนด้วยความรัก  ยิ่งได้ฟังเรื่องของริว  เขายิ่งรู้สึกว่าตัวเองให้เวลากับแม่น้อยเหลือเกิน


“ครับแม่  ไผ่รักแม่นะ” พสุหันไปหอมแก้มแม่ซ้ายขวา  สุดาก็หอมลูกชายตอบ  ก่อนจะหันมาเห็นริวยืนมองตาละห้อย  ก็อดสงสารไม่ได้


“มาริว  มาให้แม่กอดหน่อยจ้ะ” สุดากางแขนออกกว้าง  ใบหน้ายิ้มแย้มอ่อนโยน  ริวชะงักไปนิดหนึ่งด้วยความตกใจ  ไม่คิดว่าสุดาจะเรียกเขาไปกอด  แต่เพราะเป็นแม่ของพสุ  ทำให้ริวไม่อยากให้เธอคิดว่าเขารังเกียจ  เด็กหนุ่มขยับเข้าไปหาช้าๆ  พอได้ระยะ  สุดาก็เป็นฝ่ายดึงเด็กหนุ่มเข้ามากอด  


วงแขนบอบบาง  แต่นุ่มนวลและอบอุ่นทำให้อาการเกร็งของกล้ามเนื้อคลายตัวลง  ริวลังเลแต่ก็กอดตอบ   แล้วเปลี่ยนเป็นกอดไว้แน่น




...แม่... ความรู้สึกอุ่นซ่านในอกที่พลุ่งขึ้นมาจนร้อนไปหมดทั้งหน้าและกระบอกตา  เหมือนเวลาที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของแม่ตอนที่เขาเป็นเด็กไม่มีผิด  
เด็กหนุ่มซุกหน้ากับ ไหล่บอบบางแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาดื้อๆ  แม้กลิ่นกายจะหอมกันคนละแบบ  แต่ความรู้สึกที่ได้รับไม่แตกต่างกันเลยสักนิดเดียว


“..แม่...แม่ครับ...ริวคิดถึงแม่...” ริวพ้อเสียงสั่นเครือ อ้อมแขนอบอุ่นและดวงตาเด็ดเดี่ยวของแม่เหมือนภาพฉายซ้ำๆ ในหัวไม่หยุด


“ไม่ต้องร้องลูก...นี่ก็แม่เหมือนกันนะครับ” สุดาบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน  แล้วลูบหัวทุยบนไหล่เบาๆ ตอนแรกเธอก็ตกใจที่จู่ๆเด็กหนุ่มก็กอดเธอแน่น  แถมยังร้องไห้อีก  แต่พอได้ยินว่าคิดถึงแม่ ก็ใจอ่อนยวบ  เธอก็นึกเอ็นดูเด็กหนุ่มเป็นทุนเดิมอยู่แล้วตั้งแต่รู้ว่าริวแต่งเพลงเพราะๆ เพลงนั้นให้พสุ  ยิ่งได้รู้ว่าริวกำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก  ก็ยิ่งสงสารเด็กหนุ่มมากขึ้น


“ไม่เอา...ไม่ร้องไห้นะจ๊ะ คนเก่งของแม่”  สุดาลูบหลังลูบไหล่ให้เด็กหนุ่มเพื่อปลอบใจ  



พสุผ่อนลมหายใจช้าๆอย่างโล่งอกแล้วเปลี่ยนเป็นดีใจเมื่อเห็นว่า  นอกจากริวจะสัมผัสตัวแม่เขาได้โดยไม่มีอาการหวาดกลัวแล้ว  ดูเหมือนแม่เองก็เอ็นดูริวมากกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก  ทั้งที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก  แต่ดูแม่เขาให้ความสนิทสนมกับริวราวกับเป็นลูกอีกคน....................................................



เมื่อเริ่มออกรายการหลายๆ รายการ  ทั้งเพลงยังถูกเปิดจากทุกคลื่นวิทยุทั่วประเทศ  เพราะเขมชาติสั่งโหมโปรโมท เพื่อให้  คิสมีเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว  ซิงเกิ้ลของพสุขึ้นชาร์ทอันดับหนึ่งแทบทุกสถานี  คลิปที่คิสมีไปออกรายการถูกเรียกดูทางอินเตอร์เน็ตเยอะมาก  และเริ่มมีกลุ่มคนหลากหลายวัยรวมตัวกันตั้งเป็นแฟนคลับคิสมี  ที่มีคนเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกหลายร้อยคนต่อวัน  ไม่นับกลุ่มที่แยกไปตั้งคลับเฉพาะให้แต่ละหนุ่ม  

สำหรับพสุการที่เพลงของเขาได้รับกระแสตอบรับที่แรงมากๆ  และได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่บวก  ทำให้ชายหนุ่มมีกำลังใจในการร้องเพลงขึ้นอีกมาก  เขารู้สึกขอบคุณริวเหลือเกินที่แต่งเพลงดีๆ มาให้

วันนี้เป็นครั้งแรกที่ต้องร้องเพลงในรายการสด ทางรายการให้เวลาไว้ 3 เพลง แต่ติดที่ไวยากรณ์ไปถ่ายแบบต่างประเทศ  เลยเหลือกัน 4 หนุ่ม   ทางรายการขอให้เตรียมเพลงอะไรก็ได้ให้สักเพลง  ตอนแรกกรเวชก็คิดว่าจะให้ตะวันเป็นคนร้อง  แต่ริวอาสาจะร้องอีกเพลงเอง  

ริวไม่ได้บอกว่าจะร้องเพลงอะไร  ขอแค่เปียโนตัวเดียว  เขาจะเล่นเอง  ทางรายการก็คิดว่าคงเป็นเพลงสากล  เพราะเห็นว่าริวเป็นคนต่างชาติ
แต่ทันทีที่อินโทรขึ้น  พสุเป็นคนแรกที่รู้ว่าเด็กหนุ่มจะร้องเพลงอะไร



“ก่อนเคยเหงา...เคยรู้สึกเหว่ว้า......”


กล้องซูมเข้าไปที่ใบหน้าและจับที่ตาโตๆ ของเด็กหนุ่ม...คำว่าเหงา...เหมือนโดดออกมาจากดวงตาแสนเศร้าคู่นั้น...ทำให้คนดูแทบร้องไห้ตาม  น้ำเสียงทุ้มนุ่ม...ผสานกับเสียงเปียโนได้พอเหมาะ  สะกดให้ทั้งห้องส่งเงียบกริบ


“เธอเป็นมากกว่ารัก...เพราะเธอนั้นเป็นครึ่งชีวิต.......” เสียงทุ้มนุ่มหางเสียงทอดอ่อนแทบเป็นอ้อน  เมื่อเด็กหนุ่มกวาดตาไปที่คนดูรอบๆ ห้องส่งแล้วหยุดลงที่เพื่อนๆ ในวง  พสุส่งยิ้มให้กำลังใจเมื่อสบตากัน


“และสุดท้ายก็เจอว่าเธอคือทุกอย่างที่เติมเต็มหัวใจ...จากนี้ทุกลมหายใจ....ฉันคือเธออออออออ” เสียงโน้ตเพลงสุดท้ายหายไปในอากาศ  ในห้องส่งยังคงเงียบกริบ  จนเด็กหนุ่มลุกขึ้นโค้ง  เสียงกรี๊ดก็ดังถล่มทลายจนแม้แต่พิธีกรสาวยังเผลอกรี๊ดเบาๆ


“แหม!...เสียงอ้อนซะขนาดนี้  ชักอยากจะฟังเพลงของน้องริวเองซะแล้วสิคะว่าจะอ้อนขนาดไหน...มีโปรแกรมจะปล่อยซิงเกิ้ลเมื่อไหร่คะ”


“ก็ราวๆต้นเดือนหน้าครับ” ริวตอบเสียงเบาแล้วก้มหน้างุด  หน้าและหูแดงก่ำด้วยความอาย


“เราจะปล่อยเพิ่มอีก 3 เพลงครับ  เป็นซิงเกิ้ลของตะวัน  ของริว แล้วก็ของธีรดลครับ” พสุรีบตอบแทนให้  เพราะรู้ดีว่าริวกำลังเขินที่ได้ยินคนดูตะโกนแซวว่าริวน่ารัก


“เปิดตัวรับอากาศหนาวครับ...เผื่อจะมีใครยอมให้ไออุ่น” ธีรดลตอบแล้วหันไปแซวแฟนคลับในท้ายประโยค  เรียกเสียงกรี๊ด เสียงโอ๋จากแฟนคลับได้ดังสนั่น


“โอ๊ย!เวลาหมดแล้ว...รู้สึกเร็วมากๆ เลยค่ะ  เสียดายที่น้องไวย์ติดงานอยู่ต่างประเทศนะคะ” พิธีกรสาวบอกด้วยสีหน้าเสียดายสุดแสน  เพราะเธอออกจะปลื้มไวยากรณ์เป็นพิเศษ


“ครับ  แต่รับรองครับว่าวันอาทิตย์นี้  ไวยากรณ์กลับมาทันร่วมงานอุ่นรักจากดวงใจแน่นอน  ก็ขอเชิญทุกท่านเลยนะครับ  นอกจากผ้าห่มแล้ว  จะเป็นหนังสือหรืออุปกรณ์การเรียน  รวมไปถึงข้าวสารอาหารแห้ง เราก็ยินดีรับบริจาคทั้งหมดครับ” พสุหันไปเชิญชวนผ่านกล้องไปถึงคนดูทางบ้านเพราะนี่เป็นรายการถ่ายทอดสด


“ใช่ครับถือว่าเราไปทำบุญร่วมกันนะครับ” ธีรดลเสริม  ก่อนที่ทุกคนจะไหว้ลาผู้ชม…………….…………………………………………



วันอาทิตย์รถตู้มารับตั้งแต่เที่ยงกว่าๆ  ทั้งที่วงคิสมีต้องขึ้นเวทีตอน 5 โมงเย็น  ด้วยเหตุผลว่า  ไปเตรียมตัวก่อน เนื่องจากคาดว่าการจัดงานใหญ่กลางกรุงแบบนี้รถน่าจะติดมหาศาล  แล้วก็จริงดังที่คาด....รถติดมาก  ยิ่งใกล้ที่จัดงานก็ยิ่งแน่นจนแทบขยับไม่ได้  ไวยากรณ์ขอขึ้นรถไฟฟ้าไปแทน  เพราะเหลือระยะทางอีกเพียงสองสถานีเท่านั้น  ทั้งยังเป็นการเช็คเรตติ้งไปในตัว   เนื่องจากงานนี้เป็นการออกงานครั้งแรกของวงคิสมี

ตอนแรกกรเวชก็ลังเล  แต่เมื่อโทรไปประสานกับทีมงานที่รอรับอยู่ที่งานก็ได้รับการรับรองว่าจะไปคอยรับที่สถานี  ซึ่งเดินออกมานิดเดียวก็เข้าห้างได้เลย  คาดว่าจะไม่มีปัญหาอะไร  อีกอย่างคิสมีเพิ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรก  คงไม่ถึงกับถูกรุมมากเหมือนวงดังๆวงอื่น  ทั้ง5หนุ่ม  กับอีก1 ผู้จัดการส่วนตัวจึงลงจากรถตู้วิ่งขึ้นสถานีรถไฟฟ้า ตั้งแต่ซื้อตั๋วไปจนไปยืนรอรถ  ทั้ง 5หนุ่มก็ถูกจ้องเขม็ง  แล้วคนแรกที่ถูกจำได้ก็คือพสุ


“พี่ไผ่!”  เสียงเด็กสาวคนหนึ่งอุทานขึ้นมาก่อน  คราวนี้คนที่รอรถหันมามองเป็นตาเดียว  พสุหันไปส่งยิ้มให้แล้วแอบโล่งใจเมื่อรถเข้ามาจอด  คนลงไม่มากนัก  เพราะใกล้ถึงสถานีใหญ่ที่ห้างกลางเมืองแล้ว เมื่อเข้าไปในรถไฟฟ้า  ทั้ง 5 หนุ่มก็ถูกกรเวชต้อนไปยืนหลบมุม  แต่ดูเหมือนจะสายเกินไป  เมื่อสาวน้อยที่จำพสุได้  วิ่งนำเพื่อนๆ มาหา  


“คิสมี!” หนึ่งในสาวๆที่วิ่งมากรีดเสียงใส่  เพราะเธอจำพสุกับไวยากรณ์ได้  คนอื่นๆเริ่มหันมามอง  เด็กสาวกลุ่มนั้นไม่สนใจใคร  ขอจับมือและขอถ่ายรูปกับ 5หนุ่ม  ไปๆ มาๆ คราวนี้ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นก็เริ่มจำ 5 หนุ่มได้  หลายคนที่ได้ดูรายการ  ดันเข้ามาเพื่อขอถ่ายรูปกับริวด้วย  
เด็กหนุ่มซ่อนตัวอยู่หลังพสุและยึดเสื้อชายหนุ่มไว้แน่นด้วยมือชื้นเหงื่อ  พสุอดเหลียวไปมองด้วยความห่วงไม่ได้  คนแน่นๆ แบบนี้ หวังว่าริวจะประคองตัวลงไปจากรถไหว...

ออฟไลน์ *4_m3*

  • ~เธอคือของขวัญจากฟ้าไกล คือคำตอบของหัวใจ~
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-1
^
^
จิ้มก่อนอ่านค่ะ รอเธอมาตั้งนานข้างเดียว~


อ่านแล้วๆ คุณสุดาเป็นว่าที่แม่ยายจริงอ่ะ
ริวน่ารักขึ้นทุกวัน เหมือนลูกแมวเลยแฮะ ขี้อ้อน หวงเจ้าของ และไม่ชอบให้คนแปลกหน้าแตะตัว
พี่ไผ่ปกป้องริวให้ได้นะ ดูแลริวดีดีล่ะ
สู้นะคะ ทั้งไรเตอร์ทั้งคนโพสเลย   :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-08-2010 20:55:03 โดย *4_m3* »

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
แปะ ไว้อ่านพรุ่งนี้ 555

ออฟไลน์ Na_RimKLonG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
ย๊ากกกก

มาแล้ว  555

อ่านต่อ  หนุกหนานน  +1  ให้ไรเตอร์ที่รักของเรา  หุหุ

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
มาต่อแว้วววววววววว

สนุกมาก

รักไรเตอร์จัง

ออฟไลน์ Paracetamol

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-2
มาแล้วมาแล้ว เย้ๆ ><
ดังใหญ่เลย
แม่ไผ่น่ารักดีจังน้า

ออฟไลน์ justlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :-[ การทานข้าวกะแม่พี่ไผ่  น้องริวผ่านฉลุยฝากเนื้อฝากตัวไว้นะ 

 :impress2: อยากฟังริวเล่นเพลงมากกว่ารักด้วย เล่นกะเปียโนมันอินมากเลยนะ


 :L2:ยังให้ +1 ไม่ได้ งั้นขอมอบช่อดอกไม้ให้สัก 1 ช่อก่อนแล้วกัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
ขอบคุณค่ะ :L2: :L2:
 :pig4:

ออฟไลน์ maio2000

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ฮ่า :laugh: มาอัพแล้ว พอเห็นนี้อยากจะร้องกรี๊ดให้บ้านแตก
ตอนนี้ก็น่ารัก ทั้งวงเลย ชอบมาก แต่เป็นน้องริวจังเลย
ฝากพี่ไผ่ดูแลริวด้วยนะ รอตอนต่อไปนะค่ะ สู้ๆ :bye2:

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
เฮ้อ
ริวจะเป็นแบบนี้อีกนานมั้ยนะ
ไผ่ ช่วยรักษาอาการของริวให้หายด้วยเถิด
กลัวจัง กลัวว่าสักวันมันจะมีอะไรร้ายแรง
 o18

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
ตายๆ ริวจะไหวไหมนั่น

ออฟไลน์ ~Harmony~

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ตอนนี้ทำให้รุสึกว่าน้องริวน่ารักน่าทะนุถนอมมาก
ทำให้เราต้องลุ้นต้องห่วงไปด้วยตลอด
แต่ไม่ว่าที่ไหนขอแค่มีพี่ไผยุด้วยก้อคงพอล่ะเนอะ
ดีใจที่มาต่อนะคะ
รอตอนต่อไปจร้า

kenshinkenchu

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจที่หนูริว  เปิดใจให้คุณแม่พี่ไผ่อีกคน ><

pattyam

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด กับคำว่าแม่ยาย เจ้าคะ^^ :z1:

เข้าทางแม่ไว้นะน้องริวลูก ต่อไปก็ดีเอง
แล้วงานนี้น้องริวจะรอดไหมลูกเจอคนเยอะๆแบบนี้ ลุ้นให้น้องปรับตัวได้เร็วๆ
แต่ถ้าน้องใกล้คนได้มีหวัง คนต้องแย่งน้องเยอะแน่ๆ ก็ลูกชายชั้นน่าตาดีซะขนาดนี้ โฮะๆ พี่ไผ่ต้องดูน้องไว้ดีๆนะคะ


ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
ไออ่านมาราทอนเลยค่ะ จะนอนก็ไม่ได้นอนเพราะติดใจเรื่องนี้ ^^

เอาเป็นว่าเขียนได้ดีเข้าถึงอารมณ์มากค่ะ  o13  ,, เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์+คนโพสนะ :กอด1: :L2:

เด๋วคราวหน้าไอจะเมนท์เยอะกว่านี้นะ ไม่ไหวแล๊ะ ขอไปนอนก่อน ง่วงเป็นบ้า (เด๋วพรุ่ง เอ๊ย วันนี้ต้องไปเรียนอีก&งานก็ยังไม่เสร็จ) บาย~ :a12:

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ spring

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-7
วันนี้ไรท์เตอร์เค้าฟิตจริงอะไรจริง  :fire:

ต้องรีบเอามาลงให้ละ เก็บไว้เดี๋ยวของเข้าตัว  :sad4:


*************************************



ตอนที่ 20



รถมาจอดที่สถานีใหญ่  ไวยากรณ์เป็นคนแรกที่แหวกสาวๆวิ่งลงไปก่อน  ตามด้วยตะวันที่อาศัยออร่าเย็นเยือก  กั้นคนให้ยอมถอยให้เขาเดินผ่าน  พสุดึงแขนริวเดินตามตะวันไปติดๆโดยกรเวชคอยกันไม่ให้คนถูกตัวริวมากนัก  มีธีรดลเดินยิ้มแป้นรั้งท้ายช่วยไม่ให้ดูเหมือนหนีแฟนเพลงจนน่าเกลียดเกินไป  

เด็กสาวกลุ่มนั้นยังวิ่งตามมา  สร้างความสนใจให้คนที่เดินผ่านไปมา  และเมื่อมีคนจำได้การถูกกรุ้มรุมก็เริ่มอีกครั้ง  แต่คราวนี้มีทีมงานที่มารอรับเข้ามาช่วย  5 หนุ่มจึงเคลื่อนที่ไปช้าๆ ผ่านแฟนเพลงที่ต่างพยายามยื่นมือมาให้จับ  กว่าจะเข้าไปถึงห้องพักได้เล่นเอาเหงื่อแตกพลั่กกันทุกคน



“ไงนายไวย์  เรตติ้งแรงดีไหมล่ะ” กรเวชประชดทั้งที่ยังหอบ  เพราะกว่าดันฝูงชนเข้ามาในห้องที่ทางห้างจัดไว้ให้ได้ก็เล่นเอาเหนื่อย


“โห...ผมนึกว่าไม่รอดซะแล้ว” ไวยากรณ์โอดครวญแต่หน้าบานแฉ่ง  พลางยกน้ำขึ้นดื่มอย่างกระหาย  ใครจะไปคิดว่ายังไม่ทันขึ้นเวที  กระแสจะแรงขนาดนี้


“ริว...ไหวไหม” พสุถามเสียงเบา  เมื่อสังเกตเห็นเด็กหนุ่มยังหน้าซีดเผือดอยู่  ริวพยักหน้าแต่ทิ้งตัวลงหนุนตักพสุด้วยความเหนื่อยอ่อน  พสุหันไปเปิดเป้  หยิบผ้าเย็นออกมาส่งให้เด็กหนุ่มเช็ดหน้าเช็ดมือ   


“ไหวไหมริว” ธีรดลเป็นอีกคนที่เข้ามาถาม  แต่ไม่ได้แตะต้องตัวริว  เพราะรู้ว่านอกจากพสุ  เด็กหนุ่มจะไม่ค่อยชอบถูกใครสัมผัสนัก  


“เดี๋ยวเราซ้อมเพลงปากเปล่ากันอีกนิดละกันนะ  เพื่อเรียกเสียงแล้วก็แก้ประหม่าด้วย  พี่รู้ว่าทุกคนเป็นมืออาชีพ  แต่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ใช่ไหมล่ะ  ไงริวไหวไหม” กรเวชหันมาถามน้องเล็กสุดของวงด้วยความเป็นห่วง  


“ครับ” ริวหน้าซีดมาก  แต่เด็กหนุ่มก็พยักหน้ารับแข็งขันจนกรเวชวางใจ

ตะวันเดินกลับเข้ามาในห้อง  พร้อมกับส่งขวดช็อกโกแลตเย็นให้ริว  กรเวชมองตามอย่างแปลกใจ  เพราะด้วยนิสัยเงียบขรึมและไม่ชอบยุ่งกับใคร  การที่ตะวันใส่ใจริวขนาดนี้ก็แสดงว่าเอ็นดูเด็กหนุ่มไม่น้อย


“เอ้า!  กินลูกอมแล้วมาซ้อมเพลงกัน” ไวยากรณ์ที่หายไปพักใหญ่ๆ  กลับมาส่งลูกอมให้ริวเป็นถุงแถมยังหันไปดุธีรดล ที่เมียงมองจะเข้ามาขอชิมบ้างเพราะเขาซื้อมาให้ริว  

กรเวชมองภาพนั้นอย่างปลื้มใจ  อย่างน้อยๆ  วงคิสมีก็แสดงถึงความรักความสามัคคีกัน  เขาได้แต่หวังว่า  วันข้างหน้า  แม้มีชื่อเสียง  มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง  ความรักความสามัคคีนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงไป

ในฐานะวงใหม่  คิสมีได้ร้อง 3 เพลง คือเพลงรวม  เพลงเต้นสนุกของไวยกรณ์  และเพลงช้าแสนหวานของพสุ ซึ่งก็เรียกเสียงกรี๊ดได้ถล่มทลาย โดยเฉพาะเพลงของพสุนั้น  คนดูร้องตามกันกระหึ่มจนชายหนุ่มเองยังอึ้งอย่างคาดไม่ถึง  แสงแฟลชจากกล้องนับร้อยทำให้ตาพร่าจนแม้กลับเข้าหลังเวทีแล้ว


“ขอบใจมากนะริว” พสุหันมากอดเด็กหนุ่มแน่นด้วยความตื้นตันใจ  ไม่เคยคิดว่าคนดูจะชอบขนาดนี้  ริวไม่ได้ตอบอะไร  แต่อมยิ้มและกอดตอบพสุแน่นเช่นกัน  แค่เห็นพสุมีความสุขเขาก็เป็นสุขยิ่งกว่า

“อะไรๆ  จะกอดกันสองคนได้ไง  พี่ไผ่ก็พี่ผมเหมือนกันนะ” ไวยกรณ์โวยวายก่อนจะกระโดดเข้าไปกอดพสุ ธีรดล วิ่งมากอดไวยกรณ์กับพสุแล้วพากันหัวเราะลั่น กรเวชใช้ศอกกระทุ้งแขนตะวันเบาๆเป็นเชิงสรรพยอก


“ไม่เข้าไปกอดกับเพื่อนบ้างเหรอ” ตะวันไม่ได้ตอบเพียงแต่อมยิ้มนิดๆเท่านั้น  เขาเองก็ดีใจที่ก้าวแรกของวงดูจะประสบความสำเร็จอย่างคาดไม่ถึง
…………………………………..




เช้าวันรุ่งขึ้น  ทุกคนถูกปลุกแต่เช้าเพื่อไปถ่ายเอ็มวีของเพลงรวมที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง  ซึ่งมีทั้งนักศึกษาและนักเรียนจากโรงเรียนสาธิตอยู่ในรั้วเดียวกัน  ทุกคนลงจากรถมานั่งรอแต่งหน้าด้วยอาการง่วงๆ งงๆ  เหมือนยังไม่ตื่นดี  ยกเว้นพสุที่ชินกับการนอนดึกตื่นเช้าแบบนี้  เพราะเวลาที่เขาต้องไปถ่ายละครต่างจังหวัด  เขาต้องเดินทางเช้ากว่านี้ด้วยซ้ำ


“ว๊าย!ตายแล้ว  ใครมาดับธูปฉันเนี่ย” เสียงกรีดร้องของผู้จัดการกองถ่าย  เล่นเอา 4 หนุ่มที่กำลังแต่งตัวแต่งหน้าเพื่อเตรียมถ่ายมิวสิควีดีโอวันแรก  หันขวับไปมองริวเป็นตาเดียวกัน  เด็กหนุ่มแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จก่อนใครเหมือนเคยและกำลังตั้งสมาธิอยู่กับการท่องบทจนไม่ได้ใส่ใจเสียงรอบกายแม้แต่น้อย


“ริว...ริว” ไวยากรณ์เรียกซ้ำๆอยู่หลายรอบกว่าเด็กหนุ่มจะได้ยิน


“ครับ?”


“ใครไปดับธูปที่เขาจุดไว้”


“ธูป?...คืออะไรเหรอ” ริวทวนคำแล้วทำหน้าเหรอหรา


“เมื่อสักพักเนี่ย   ริวเอาขวดน้ำไปทำอะไร?” พสุถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ  แม้ริวจะพูดไทยคล่องร้องเพลงชัด  แต่ก็ใช่จะเข้าใจทุกอย่างเหมือนคนไทย


“อ๋อ...พอดีริวเห็นใครไม่รู้ จุดไฟทิ้งไว้  ริวกลัวมันไหม้อุปกรณ์ครับ  เลยเอาน้ำไปดับมาแล้ว  รับรองว่าดับสนิท  หายห่วง” ริวตอบเสียงใสแล้วยืดอกรับท่าทางภูมิใจ


“ไฟที่นายว่านี่เขาหมายถึงไม้เล็กๆ ยาวๆ  มัดเป็นกำๆ ควันเยอะๆ  แล้วปักไว้ใช่ไหม?”ไวยากรณ์ทำเสียงดุใส่  แต่ริวมองกลับตาใสไม่ได้มีท่าทางกลัวเกรง


“ฮื่อ... ควันเยอะแยะเลย  ดีนะที่ไม่ได้ไหม้ลามไปที่ไหน   ไม่รู้เด็กอะไรมาเล่น  ซนจริงๆ”


“เออ! เวรกรรม”  ไวยากรณ์ตบหน้าผากตัวเองเบาๆ  ขณะที่ธีรดลหัวเราะงอหาย  


“ฮะๆๆ”  


ตะวันที่ตีหน้าขรึมตลอดเวลายังอดอมยิ้มไม่ได้  ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหน้าอย่างปลงๆ กับความซื่อของไอ้หนูจำไมประจำวง  พสุพยายามกลั้นหัวเราะ  สายตาที่มองริวทั้งเอ็นดูและอ่อนใจ  เด็กหนุ่มทำหน้าเหรอหราไม่เข้าใจว่าคนอื่นขำอะไรกันแต่พอหันมาเห็นพสุยิ้มเจ้าตัวก็ยิ้มแป้นตอบ


“พี่ไผ่ขำอะไรเหรอ  หรือว่าริวทำอะไรผิดอีกแล้ว?” ริวถามแล้วขยับเก้าอี้เข้ามาติดกับเก้าอี้ของพสุ


“ที่ริวเอาน้ำไปดับน่ะเขาเรียกธูป  ผู้จัดการกองถ่ายเขาไปจุดเอาไว้”


“จุดทำไม  เดี๋ยวก็ไฟไหม้หรอกครับ”


“เขาจุดเพื่อไหว้เจ้าที่เจ้าทาง  ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนการถ่ายทำ  เพื่อขอให้การถ่ายทำสำเร็จไปได้ด้วยดี  มันเป็นเรื่องของความเชื่อ  และธรรมเนียมปฏิบัติ” พสุอธิบายให้เด็กหนุ่มฟัง  แม้จะรู้ว่าคงลำบากที่จะให้ริวเข้าใจได้ง่ายๆ  แต่เขาก็ไม่เคยท้อที่จะสอน


“ไม่เห็นจะเข้าใจเลย  งานจะออกมาดีไม่ดีก็ต้องอยู่นักแสดง  กับความพร้อมของทีมงานสิครับ”


“อย่างตอนอยู่อเมริกา  ริวแขวนถุงเท้าไว้ที่ต้นคริสมาสต์ทำไม  คิดว่าซานตาครอสจะมาจริงๆ เหรอ” ไวยากรณ์สวนกลับอย่างอดรนทนไม่ได้  


“ตอนเด็กๆก็เชื่อแบบนั้น  แต่พอโตถึงรู้ว่าอลันเอาของขวัญมาใส่ให้” ริวพูดถึงอลันด้วยความเคยชิน  แต่ก็ไม่มีใครสงสัยจะถามว่าอลันคนนี้เป็นใคร  ริวก็เลยปล่อยผ่าน


“นั่นแหละริว  มันก็คล้ายๆ กันนั่นแหละ  จริงๆ คือการสร้างขวัญและกำลังใจอย่างหนึ่ง  อย่างที่เราไปแสดงคอนเสิร์ตเมื่อวาน  ตอนที่ฝนทำท่าจะตก  แล้วทีมงานเอาตะไคร้ไปปักกลับหัวไง”


“ครับ  ตอนแรกริวจะเข้าไปถามแต่พี่ไผ่ไม่ให้ริวถามเขา”


“มันเป็นอะไรที่คล้ายแบบนั้น  สรุปก็คือเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ”


“ไม่เห็นจะเข้าใจเลย”  ริวเกาหัวแกรกๆ  แถมทำหน้าเอ๋อๆ งงๆ  ไวยากรณ์ได้แต่ส่ายหัวแล้วเดินไปหาของกินเล่น  ทั้งที่ความจริงอยากจะตบหัวไอ้หนูริวแก้โง่สักที  แต่ยังจำภาพริวที่ช็อกหายใจไม่ออกจนหน้าเขียวได้ดี  ก็เลยไม่กล้าเสี่ยงไปแตะต้องตัวเด็กหนุ่มตอนเผลอ


กว่าจะแต่งหน้าทำผมกันเสร็จ  รอบๆ บริเวณนั้นก็เต็มไปด้วยนักเรียนและนักศึกษาที่มารอดูการถ่ายทำเอ็มวี  


“พี่ไผ่ขา...พี่ไผ่”  เสียงเด็กสาวกลุ่มหนึ่งตะโกนเรียก  พสุหันไปมองแล้วโบกมือให้  สาวๆ ก็กรี๊ดกันดังสนั่น  ไวยากรณ์เห็นอย่างนั้นเลยหันไปส่งจูบบ้าง  เรียกเสียงกรี๊ดได้ดังไม่แพ้กัน


ก่อนที่ไวยากรณ์จะได้โชว์ลีลาเรียกเสียงกรี๊ดต่อ  ผู้กำกับก็เรียกให้ไปเตรียมถ่ายทำ  นักเรียนและนักศึกษา เกือบ 20 คนที่จะมาเข้าฉากด้วยมาเตรียมพร้อมแล้ว  เพลงรวมมีเนื้อหาในแนวการมุ่งไปสู่ความฝันของแต่ละคนที่แตกต่างกันถ่ายทอดผ่านกลุ่มนักเรียนนักศึกษาเหล่านี้  หลังจากถ่ายรอบแรกเสร็จได้ภาพที่ต้องการแล้ว  ผู้กำกับก็ให้นักแสดงประกอบไปพักได้  ส่วนวงคิสมีนั้นให้อยู่เช็คเทปก่อน  เผื่อจะมีอะไรต้องแก้ไข


คณบดีกับอาจารย์ 3−4 ท่านเดินมาหยุดยืนดู  พสุเห็นก็รีบแยกตัวไปไหว้ทักทาย  


“ไผ่เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนสาธิตที่นี่” ตะวันหันมาบอกริว  ราวกับรู้ว่าเด็กหนุ่มกำลังจะถามอะไร  ริวรับคำเบาๆ แล้วชะเง้อมองตามพสุตลอดเวลา  แต่ดูเหมือนพสุจะคุยติดลม  คนอื่นๆ เริ่มไปกินข้าวกันแล้ว  แต่ริวยังไม่ไปเพราะจะรอกินข้าวพร้อมพสุ


“ริว...ไปกินข้าวไป” ธีรดลที่กินข้าวเรียบร้อยแล้ว  เดินมาตามริวด้วยความเป็นห่วง


“ริวรอพี่ไผ่ครับ”


“ไผ่คงยังไม่เลิกคุยง่ายๆหรอกมั้ง  นานๆ จะได้มาโรงเรียนเก่าที  ริวไปกินก่อนเถอะ  เดี๋ยวปวดท้องนะ”


“ริวรอดีกว่าครับ”


“งั้นก็ตามใจนะ”


ริวเหลียวไปมองอีกรอบ  เห็นพสุยังคุยเพลินไม่มีท่าทางว่าจะเลิกง่ายๆ  เด็กหนุ่มเหลียวไปมองรอบๆ  แต่ก็ไม่เห็นห้องน้ำ จะไปถามจากทีมงานก็เกรงใจเพราะเห็นกำลังกินข้าวกันอยู่  เด็กหนุ่มจึงเดินหาเองตามลำพัง  ซึ่งก็อยู่ไม่ห่างจากที่ตั้งกองถ่ายนัก


พอออกจากห้องน้ำริวก็เจอกับนักศึกษากลุ่มใหญ่ที่ดูเหมือนจะมาห้องน้ำเหมือนกัน


“ริว!”


“น้องริว”


นักศึกษาสาวกลุ่มนั้นเข้ามารุมล้อมรอบตัว  ริวสูดลมหายใจลึกพยายามตั้งสติทั้งที่มือเย็นไปหมด  เพราะแม้พวกเธอจะเข้ามารุมล้อม  แต่ก็ไม่ได้แตะต้องตัวเขา ส่วนใหญ่จะงัดสมุดมาให้เขาเซ็นชื่อให้เสียมากกว่า


“น้องริวขา  ทำไมมือสั่นจังเลย”


“น้องริวผิวสวยจังเลยค่ะ”


“ริวจ๋าเซ็นเล่มนี้ด้วย”


เสียงระเบ็งเซ็งแซ่รอบๆตัว  ไม่เท่ากับกลิ่นน้ำหอมหลากหลายกลิ่นจากพวกเธอ  ริวพยายามสะกดกลั้นอาการคลื่นไส้ไว้จนขนลุกซู่  เหงื่อเย็นๆไหลจากขมับและแผ่นหลัง  ทุกครั้งที่พยายามสูดลมหายใจลึกเพื่อบรรเทาอาการวิงเวียน  กลับได้กลิ่นน้ำหอมเหล่านั้นมากขึ้นไปอีก


“ริว! ทำอะไรอยู่  เร็วๆ ผู้กำกับเรียกแล้ว”


“พี่ตะวัน!” สาวๆ หันขวับไปพร้อมกัน  พอเห็นคนที่มาตามริวถนัดก็กรีดเสียงใส่อย่างตื่นเต้น


“พี่ตะวันขา  ขอลายเซ็นก่อนได้ไหมคะ นิดเดียวเอง”


“เดี๋ยวไปเซ็นที่กองถ่ายได้ไหมครับ  ตอนนี้ทางโน้นเขารอให้ไปเข้าฉากอยู่”


“ได้ค่ะ”  สาวๆ รับคำแล้วเดินตาม  ขณะที่ตะวันดึงแขนเสื้อริวลากให้เดินแกมวิ่งกลับไปที่กองถ่าย


“ริวมาแล้วพี่  โน่น พี่ตะวันพามาแล้ว”  ไวยากรณ์รีบบอกก่อนที่ทุกคนจะออกไปตามหาริว


พสุถึงกับถอนใจเฮือกอย่างโล่งอก  เขามัวคุยกับอาจารย์  หันมาอีกทีไม่เห็นริวแล้ว  กำลังคิดจะออกไปตาม ก็พอดีตะวันพาริวกลับมาเสียก่อน  สีหน้าขาวซีดของริวเห็นแต่ไกล  พสุเห็นอย่างนั้นก็หันไปคว้ากระติกน้ำแข็ง  หยิบผ้าเย็นที่เตรียมไว้ออกมาส่งให้ริว


“พี่ไผ่ขา  พวกหนูพาน้องริวมาส่ง”  เด็กสาวคนหนึ่งตะโกนบอกอย่างเอาหน้า  ขณะที่ตะวันปรายตาเป็นเชิงให้พสุรับหน้าแทน  เขาจูงริวไปจนถึงเก้าอี้ที่ทางกองถ่ายจัดไว้ให้  กรเวชก็รีบเข้ามาดูแล  ก่อนจะเดินกลับไปที่เด็กสาวกลุ่มนั้นเพื่อแจกลายเซ็นตามสัญญา  พอตะวันมาพสุก็รีบปลีกตัวเพื่อไปดูริว  


“เป็นไงบ้าง  เห็นดลบอกว่ายังไม่ได้กินข้าวเหรอ” พสุถามพลางส่งผ้าเย็นอีกผืนให้ริวเช็ดแขนเช็ดมือ


“ริวรอพี่”


“แล้วจะไปห้องน้ำทำไมไม่เรียกพี่ไปเป็นเพื่อน” กรเวชติงเสียงเรียบเป็นเชิงบอกให้รู้ว่าเขาโกรธ  ทั้งที่ตอนแรกเขาเองก็หน้าซีดด้วยความตกใจเหมือนกัน  ที่รู้ว่าริวหายไป  ทีมงานคนที่เห็นริวเดินแยกไป  ถูกดุที่เห็นแล้วไม่ตามไปคอยดูแล  ดีว่ายังไม่ทันออกตามตะวันก็พากลับมาเสียก่อน


“ริวเกรงใจ  เห็นพี่กินข้าวอยู่”


“ริว...มันเป็นหน้าที่พี่นะ  ที่ต้องคอยดูแลศิลปิน  ถ้าริวไปแล้วเกิดอะไรขึ้น หรือถูกทำร้าย  จะทำยังไง” คราวนี้กรเวช ขึ้นเสียงสูงด้วยความโมโห  แม้จะเข้าใจดีว่าริวไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัตินี้  แต่ต้องดุไว้ก่อนเพื่อกันไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเป็นหนที่สอง


“ริวขอโทษครับ” ริวก้มหน้างุดด้วยความรู้สึกผิด  และกลัวว่าพสุจะตำหนิ


“ถ้างั้นผมพาริวไปกินข้าวก่อนนะครับ  เลยมื้อเที่ยงมาตั้งนานแล้วเดี๋ยวปวดท้อง”


“ไปเถอะ”


“ไปริว” พสุแตะไหล่ริวเป็นเชิงให้ลุกตามไปสมทบกับไวยากรณ์และตะวัน


“ดุนิดดุหน่อยละกางปีกป้องเป็นแม่ไก่เชียวนะไผ่  สปอยล์น้องขนาดนี้...เด็กมันจะไม่ติดได้ยังไง”  กรเวชบ่นงึมงำแล้วมองตามทั้งคู่ด้วยความเป็นห่วง


“ขอบใจนะตะวันที่พาริวกลับมา  ว่าแต่นายรู้ได้ยังไงว่าริวไปห้องน้ำ” พสุลุกตามตะวันไปตักอาหารแล้วเลยถือโอกาสขอบคุณ


“เห็นตอนริวเดินออกไป  ก็เลยตามไปดู  นึกอยู่เหมือนกันว่าต้องโดนรุมแน่ๆ” ตะวันตอบด้วยสีหน้านิ่งๆ  แต่พสุรู้ดีว่าภายใต้หน้ากากเย็นชานั้น  ซ่อนความมีน้ำใจและเอื้ออาทรต่อคนรอบข้างไว้มากแค่ไหน


“โชคดีจริงๆ ที่นายเห็น  ไม่งั้นริวคงแย่” พสุหันไปมองเด็กหนุ่ม  เห็นหน้ายังซีดมือยังสั่นอยู่ก็นึกสงสาร  อยากลูบหัวปลอบก็ติดว่ามีตาเป็นพันคู่คอยจ้องมอง

…………………………….


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






OhJa

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดด ตะวันเท่อ่ะ นิ่งๆขรึมๆ เอาใจไปเล้ย
ขอลุ้นคุณตะวันเพิ่มอีกคนแล้วกัน  :o8:
น้องริวดูท่าจะแย่ ถ้าไม่มีพี่ไผ่ดูแลจะเป็นไงเนี่ย

ออฟไลน์ Paracetamol

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-2
ไรท์ฟิตจริงๆน้า
นึกว่ายังไม่มาซะอีก
ตะวันน่ารักดีแฮะ น่าเชียร์จริงๆ
ไวย์ ก็ติดใจไงไม่รู้แฮะ
ไผ่ยังอันดับ 1 อยู่คร้าบบ บบ

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
ชอบตะวันจังเลย
หาคู่ให้ตะวันบ้างดิ
 :z1:

ออฟไลน์ maio2000

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ดีใจค่ะ ไรเตอร์ฟิต คนอ่านก็ได้กำไรเพราะมาเร็วมาบ่อย
ตะวันเท่มากเลยอ่ะ แล้วจะมีคู่ไมเนี่ยลุ้นมาก
คนอื่นๆด้วย ไงไรเตอร์ก็ฟิตบ่อยนะค่ะ สู้ :bye2:

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
ฟิตบ่อยๆนะคะไรเตอร์

รออ่านอย่างใจจดจ่อเลย

รักหนูริวจัง :กอด1:

pattyam

  • บุคคลทั่วไป
รักไรเตอร์ รักคนโพสเจ้าคะ><
วันนี้มาเร็ว อิๆแอบติดใจพี่ตะวันอีกคน คนนี้น่าจะเป็นเคะที่ดีได้? 555+
แสดงว่าวง Kiss Me น่าจะมีคนมีปมในใจกันหลายๆคน ขอให้คลี่คลายปมเหล่านี้ได้ในเร็ววันนะคะ
ส่วนน้องริวยังคงน่ารักเสมอ พี่ไผ่ก็น่าร๊ากกก แล้วก็จุ๊บๆๆ พี่ตะวันเจ้าคะ :impress2:

cmos

  • บุคคลทั่วไป
น้องริวน่ารักเหมือนเดิม เหอะ ๆ

kenshinkenchu

  • บุคคลทั่วไป
อ๊าย...........  ชอบตะวัน  น่ารัก ><

แหม.. ถ้าไม่ติดว่าน้องริวกลัวผูั้้คนขนาดนี้  จะนอกใจเชียร์พี่ตะวัน  ฮ่าๆ

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อไรอาการนี้ของน้องริวจะหายขาดซะทีหนอ
คงต้องใช้ความรักความอบอุ่อย่างมากมายเลย เป็นโอสถในการเยียวยา

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
ตะวัน o13
ริว :o8:
ไผ่ :3123:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด