เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus  (อ่าน 2507953 ครั้ง)

dragonfly08

  • บุคคลทั่วไป
รอฉลองวันเกิดน้องริว
 :กอด1: น่ารักเกิ้นนนน

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
พี่กร พี่นี่ก้อเยอะแยะมากมายนะ เฮ้อ
คิดถึงตะวันจังเลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ

thisispom

  • บุคคลทั่วไป
พี่ไผ่จะมีเซอร์ไพรส์อะไรให้น้องริวบ้างจ้ะ

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป

fungfung

  • บุคคลทั่วไป
พี่กรทำไมชอบบังคับริวนักนะสงสารน้องบางเถอะ
แถมยังมีมารเข้ามาผจญชีวิตริวอีกตังหาก
แต่งานนี้พี่ไผ่จะเซอร์ไพรส์อะไรให้ริวน้าอันนี้น่าลุ้น

V_we

  • บุคคลทั่วไป
ง่ะ ทำไมอ่านไปก็ยิ่งหงุดหงิดกับความเจ้ากี้เจ้าการของอิพี่กรก็ไม่รู้
จะอะไรนักหนากับริวมากเนี่ย
เฮ้ย อึกอัดแทนริวจริงๆ
 :เฮ้อ:
ส่วนพลอย งักๆ
ริวไม่มีที่ว่างในหัวใจให้หรอกจ้า
ตัดใจซะเถอะ อย่าไปวุ่นวายกับริวเลย
 o18
พี่ไผ่น่ารักเนอะ
มีแอบจัดการวันเกิดในริวแน่ๆ
รอสองคนนี้รักอ่ะ
+1 ขอบคุณค่ะที่มาต่อให้
เป็นกำลังใจจ้า

ออฟไลน์ mutoo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-37
สงสารริวจัง
พี่ไผ่มาปลอบหวานๆหน่อย
 :impress3:

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
ชอบริวตอนหนุนตัดไผ่จังมันดูอบอุ่นไงไม่รู้ :o8:
อยากให้รักกันเร็ว ๆ จัง คงจะหวานหน้าดูเลย
 :pig4: writer คะ

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
Re: เธอคือ...ลมหายใจ b
«ตอบ #548 เมื่อ20-09-2010 19:07:28 »

ลองนึกภาพว่าน้องริวจะหน้าตาเป็นยังไง
ก็นึกไม่ออกสักที
กลัวจังว่าริวจะรุกพี่ไผ่
หึหึ



อยากให้อิมเมจริวเป็นแบบนี้จัง




ปล. ขอบคุณรูปจาก http://www.benaf7.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-09-2010 19:14:43 โดย padigree »

ออฟไลน์ spring

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-7
^
^
^
^
^

กีสสสสสสสสสสสส  ฝรั่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง   :o8:



ว๊าย เจอฝรั่ง เกือบลืม


เจ๊ไรท์เตอร์ฝากจดหมายน้อยถึงคนอ่านจ้า


******************************************

ตามอ่านแต่ละคอมเม้นต์แล้วฮามาก  ขอยกยอดมาตอบรวมๆนะคะ

“เพราะโลกนี้  ไม่ได้มีแค่เราสองคน”

เวลาที่เขียนนิยาย  มักจะอิมเมจตัวละครอิงคนตัวเป็นๆ  สมมติว่าพี่ไผ่อาจจะเป็นดาราที่ดังประมาณ พี่ติ๊กเจษฎา(แต่เวลาเขียนไม่ได้อิมเมจเป็นหน้าพี่ติ๊กนะคะ  อิอิ)

แล้วถ้าเกิดเขาเจอน้องริว ในชีวิตจริงๆ  เขาจะทำยังไง  เพราะถ้าเขาเกิดรู้ตัวว่าเขารักน้องริว  แล้วจะทำยังไง  ก็โลกนี้ไม่ได้มีแต่พี่ไผ่กับน้องริวสองคน  และสังคมบ้านเรา ชายรักชาย  ก็ไม่ใช่จะเป็นที่ยอมรับสักเท่าไหร่

เหมือนที่ PEENAT บอกว่าเวลาของริวมันเหมือนหยุด  เพราะ...มันไม่สามารถจะก้าวต่อได้

แต่สำหรับไผ่  ริวก็เหมือนน้ำ  ที่ค่อยๆแทรกซึม  หล่อเลี้ยง  ไปทีละนิด  กว่าจะรู้ตัวไผ่ต้นนี้ก็ขาดน้ำหล่อเลี้ยงไม่ได้ซะแล้ว(แผนการชั่วร้ายจริงๆ วะฮ่าฮ่าฮ่า)

มีคนขัดใจว่าทำไมนิยายเรื่องนี้ชะนีเยอะ...กร๊ากกกกก เยอะแต่ไม่ร้ายนะคะ (ยกเว้นบ้างบางคน)

ก็แหม  ริวเป็นนักร้องนา  หล่อด้วย  พี่ไผ่ก็เป็นดาราสุดฮอต  เป็นพระเอกเบอร์1 ไม่มีสาวๆมาวุ่นวายสิคะแปลก  หรือจะเขียนให้มีหนุ่มๆมาวุ่นวายแทน?  อรั๊ยยย ปวดหัวแทนกรเวช  คริคริ

 

พี่ไผ่  ย้ำอีกรอบว่าพสุเป็นชายแท้ๆ  ที่อิป้า(คนเขียน) พยายามจะให้มันกลายพันธุ์ หันมาเป็นชายรักชาย  ก็เลยลำบ๊ากลำบาก  ต้องหลอกล่อด้วยความน่ารักทั้งหลายทั้งปวงจากนุ้งริว  ซึ่งหลายๆคนก็คงดูออกว่าตอนนี้ พี่ไผ่ เผลอ  ถลำ  ไถล  ไถกระดืบๆ  ลงมาในกับดักทีละนิดๆ  หุหุ  กว่าจะรู้ตัว คงปีนขึ้นไปไม่ได้แล้ว

 

น้องริว ลูกริวของหลายๆคนแถวนี้  อิอิ  ก็นะ เด็กมันโตมาใสๆ  ไม่เค๊ยไม่เคยจะสัมผัสมนุษย์มนาที่ไหน  ดันมาหลงรักคนในทีวี  ชีวิตมันก็เลยต้องพลิกผัน  จากราชาบนยอดตึกกลางมหานคร  มาย่ำต๊อกๆเป็นสินค้าให้บริษัทเพลงเล็กๆขายอย่างนี้แหละ  เหมือนจะน่าสงสาร...แต่...หึหึ...หุหุ...วะฮะฮะฮะ...โปรดติดตามตอนต่อไป

 

กรเวช   คนนี้สิ น่าจ๋งจ๋านของจริง  กรั่กๆ มีแต่คนเกลียด  จริงๆกรเวชก็แค่พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

และกรเวชมองว่าเด็กๆในวงทุกคนเป็นน้องเป็นลูก(อย่างริวนี่ประมาณลูกคนเล็ก) ถึงได้พยายามจะปกป้องจากทุกๆอย่าง

รวมถึงรักษาภาพลักษณ์ของทุกคนให้ออกมาดูดี

ถ้าเราเป็นกรเวช  มีหน้าที่ที่จะต้องดูแลศลป.  แล้วเริ่มเห็นเค้าลางไม่ชอบมาพากล  เราจะเฉยทำไม่รู้ไม่ชี้  ปล่อยให้เรื่องมันบานปลายได้เหรอคะ?

กรเวชไม่ได้ทำเพราะเกลียด  แต่ทำเพราะรักและเป็นห่วง อีกอย่างมันคือหน้าที่นี่นา

 

                ส่วนคนอื่นๆ อย่างพี่ตะวัน  เจ้าไวย์  พี่ดล(ที่บทน๊อยน้อย  น่าจ๋งจ๋าน)  แก้วกุดัน  คุณแม่+ป้าใจ  และป๊ะป๋าของพสุ  รวมไปถึงตัวละครหน้าใหม่ไฟลุกพรึบๆอย่าง แพรพลอย... 

อยากให้มองว่าคนเหล่านี้เป็นสีสันของชีวิต ริวกับพี่ไผ่นะคะ

เพราะตราบใดที่ริวยังรักแต่พี่ไผ่  และใจพี่ไผ่ยังมีแต่น้อง  คนอื่นก็เป็นแค่สีสันในชีวิตเท่านั้นเอง  แม้ว่าบางครั้ง สีสันเหล่านี้จะทำให้ชีวิตแทบล้มคว่ำลงไป  แต่...หากริวกับไผ่ยังมั่นคง  ปัญหาทุกอย่างก็ย่อมผ่านไปด้วยดีนะคะ

 

และอีกคำถามสำคัญ
  ใครรุกใครรับฟระ?...ง่า...เอ...เอ่อ...อืม...แหะๆ  ม่ายบอก!

อ่านๆกันไปก็น่าจะเดาได้ม้างงงงงงงง   คาดว่าสักตอนที่ 60 -70 ก็น่าจะเดาได้...ง่า...ไม่ใช่แระ  นานเกิ๊นนนน


****************************************



ตอนนี้วนิดาขอไปหาคุณพี่ประจักษ์ก่อนนะคร๊ะ พี่เค้าเรียกแระ  :-[


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้ที่อยากรู้ที่สู๊ดดดดดดดดดคือ

ใครจะรุกจะรับกลัเนี้ย


หรือว่าจะผลัดกันดี 5555555555555

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
555 ดูๆ ไปแล้ว ต้นรักกำลังเริ่มหยั่งรากลึกลงไปในหัวใจของสองคนสิเจ้าค่ะ

รอดูต่อไปค่ะว่า จะผลิดอกออกผลงอกงามขนาดไหน

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
ถ้ามีเวลามาตอบเม้น.ฝากบอกไรท์เตอร์ด้วยได้ไหมค่ะว่า. :m16: :m16: :m16:มาต่อเร็วๆๆๆๆๆๆ :serius2: :serius2: :serius2:
เดี๋ยวจะส่งเครื่องดื่มบำรุงกำลังไปให้ค่ะ.
 :call: :call: :call: :call:

taem2love

  • บุคคลทั่วไป
ใครจะรุกใครจะรับบางที่มันก็ไม่ได้สำคัญนะเพราะเรื่องที่สำคัยกว่า คือมันเกิดจากความรักของคนสองคน

(แต่ขอเดาว่านักเขียนคงตลบหลังคนอ่านจนหน้าหงายได้) ตอนนี้ต้องคอลุ้นว่าเมื่อไรคุณพสุจะตกหลุม(พราง)รัก

จนปีนขึ้นมาไม่ได้สักที แล้วน้องริวจะเกิดปัญหาอะไรไหม ในการถ่ายละคร(น่าเป็นห่วง) คาดโทษนังแพรพลอยไว้ก่อน

ยิยายเรื่องนี้มันวายย่ัะ ชะนีหลบไป ชิ......น่ารักใสๆอ่านแล้วยิ้มได้ แต่ก็สะเทือนใจจนน้ำตาร่วงได้เช่นกัน

ภาษาสวยงาม อ่านได้ลื่นใหล ถ้าไม่ได้คลิกเข้ามาอ่านคงเสียดายมากๆ ที่พลาดเรื่องราวดีๆเรื่องนี้

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2

วู้วววววววว
รอน้องริวจ้า

เดาไม่ออกจริงๆเลยว่าใครจะรุกหรือรับเนี่ย
 :m20:

ออฟไลน์ Paracetamol

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-2
เราเชียร์ไผ่รุกนะ!! 55 :laugh:
แต่คงจะอีกนานกว่า 2 คนนี้จะรักกันจริงๆ(ไผ่จะรักริวจริงๆแบบแฟน)
ลุ้นกันต่อไป~

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
เราคนหนึ่งล่ะไม่เคยเกลียดกรเวช
แล้วค่อนข้างเห็นใจนสถานะและบทบาทที่กรเวชกำลังเป็นอยู่ด้วยซ้ำ
แตขอชมว่าไรเตอร์ ทำได้เนียนดีมากที่พยายามปรับเปลี่ยนให้ชายแท้อย่างไผ่เปลี่ยนไป

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงงงงงงงงน้องริวกับพี่ไผ่แล้ววววววววววว

ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
ใครจะรุกใครจะรับเค้าไม่สน เค้าสนแต่ว่ามาต่อได้แล้ว  :m16: :m16:
แล้วเอา แพรพลอยไปปล่อยป่าไกลๆๆเลย  :fire: :fire:

ออฟไลน์ spring

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-7
ตอนที่ 32



ตี 4 กว่าๆเท่านั้น  พสุก็ปลุกริวให้ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวแต่เช้ามืด  ริวยอมลุกขึ้นทั้งที่แทบลืมตาไม่ขึ้น  เมื่อคืนเด็กหนุ่มถ่ายละครจนดึก  ดีว่ากรเวชให้รถตู้ของบริษัทไปคอยรับ  ไม่อย่างนั้นเขาคงหลับคาพวงมาลัยแน่ๆ  พอขึ้นรถได้ริวก็หลับต่อทันที  ไม่รับรู้ว่าพสุจะพาไปไหน


“ท่าทางน้องจะง่วงนะลูก”


เสียงคุ้นหูดังขึ้นข้างๆ  ทำให้ริวที่หลับซุกอยู่กับเบาะข้างคนขับขยับตัวเล็กน้อย  แต่ยังลืมตาไม่ขึ้น....


“ครับ  งัดออกมาจากที่นอนเลยนะครับเนี่ย” พสุตอบหัวเราะๆ  ริวฝีนลืมตาขึ้นมอง  พอเห็นว่าเป็นสุดา เด็กหนุ่มก็รีบลุกขึ้นนั่งแล้วไหว้สุดากับป้าใจ


“สวัสดีครับแม่  สวัสดีครับป้าใจ”

“สวัสดีครับลูก”

“พี่ไผ่ไม่เห็นบอกเลยว่าจะมาหาแม่” ริวออกตัวเขินๆ  อายที่มัวแต่นอนไม่รู้เหนือรู้ใต้  ว่ามาถึงบ้านสุดาตั้งแต่เมื่อไหร่

“ก็ไม่ได้มาหาแม่  แต่จะมารับแม่กับป้าใจไปกับเราต่างหาก”  พสุตอบพลางเหลือบมองกระจกส่องหลังเพื่อถอยรถ

“ไปไหนครับ?”

“เดี๋ยวถึงก็รู้...นอนไปก่อนเถอะ  ใกล้ถึงแล้วพี่จะปลุก” พสุตอบยิ้มๆแล้วออกรถ  พอใกล้ถึงพสุก็ปลุกริวตามสัญญา  เด็กหนุ่มลุกขึ้นมานั่งงัวเงีย  ก็พบว่าตอนนี้ฟ้าสางแล้ว  รถเลี้ยวเข้าไปจอดที่หน้าอาคารเล็กๆ  ผู้หญิงวัยกลางคนในเครื่องแต่งกายสีฟ้าอ่อนจนเกือบขาวเดินออกมาต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม


“สวัสดีค่ะ”

“สวัสดีครับ...มาริวทางนี้  นี่ครูมะลิวัลย์  เป็นหัวหน้ามูลนิธิ ‘กอดของแม่’ ”

“สวัสดีครับ”

“สวัสดีค่ะ  ทางมูลนิธิต้องขอบคุณน้องไผ่น้องริวมากนะคะ  ที่จะมาทำบุญวันเกิดที่นี่  เชิญทางนี้เลยค่ะ  ทางเรานิมนต์พระไว้ให้แล้ว”


ริวหันไปมองหน้าพสุงงๆ  พสุโอบไหล่เด็กหนุ่มดึงให้เดินไปด้วยกันแล้วกระซิบเบาๆ


“วันนี้วันเกิดริว  พี่กับแม่ก็เลยคิดกันว่าอยากให้ริวได้ทำบุญใหญ่ๆ สักครั้ง  ริวเคยไปตักบาตรแล้ว  แต่มาที่นี่ริวจะได้ทั้งทำบุญตักบาตร  แล้วก็จะได้เลี้ยงอาหารเด็กกำพร้าที่นี่ด้วย”

“...พี่รู้ได้ยังไงว่าวันนี้วันเกิดริว...”

“บังเอิญเห็นเมล์ของริวที่เปิดทิ้งไว้น่ะ  ขอโทษนะที่พี่เสียมารยาทไปดูเมล์ของริว”

“ไม่เป็นไรครับ  เรื่องของริวไม่มีอะไรเป็นความลับสำหรับพี่อยู่แล้ว”

“พี่ไม่รู้ว่าวันเกิดที่ผ่านมาริวทำอะไร  แต่พี่คิดว่า  การได้ทำบุญกับเด็ก  น่าจะเป็นการฉลองวันเกิดที่ดี  เป็นการเริ่มปีที่ 19 ในชีวิตด้วยความเป็นมงคล...เริ่มด้วยการเป็นผู้ให้  น่าจะดีใช่ไหมริว”

“ดีครับ...ริว...เอ่อ...” ริวพูดต่อไม่ถูก  ยังไม่หายงง  แต่เมื่อพสุพาเข้าไปถึงห้องข้างใน  พระสงฆ์ 9 รูปที่ทางมูลนิธินิมนต์ไว้ก็เข้ามาในห้องจากประตูอีกด้าน   นี่เป็นครั้งแรกที่ริวได้ทำบุญอย่างเต็มรูปแบบ 


พสุนำให้เสร็จตั้งแต่อาราธนาศีล  ไปจนสอนริวประเคนสำรับ  ซึ่งริวก็ทำตามทุกอย่าง   นอกจากอาหารที่สุดาโทรสั่งมาจากร้านประจำแล้ว  ยังมีเครื่องสังฆทานที่สุดากับป้าใจจัดใส่ถาดใบย่อมๆมาอย่างงดงามให้ริวได้ถวายพระ 


“พี่ไผ่ช่วยริวหน่อย”  ริวหันไปกระซิบพสุเพราะไม่รู้จะทำยังไง  พสุจึงเข้าไปช่วยริวถวายสังฆทานจนเสร็จแล้วจึงมาไหว้พระรับพร  ซึ่งพสุอธิบายให้ริวฟังก่อนแล้วว่าการรับศีลรับพรคืออะไร  ริวจึงสัญญากับตัวเองว่าวันนี้เขาจะรักษาศีลห้า  ตลอดทั้งวัน


หลังจากเสร็จพิธีสงฆ์  ครูมะลิวัลย์ก็พาทุกคนไปยังโรงอาหาร  ที่นั่นมีเด็กเล็กตั้งแต่ 2-5 ขวบนั่งเรียงรายกันเต็มห้อง 


“ที่นี่เรามีเด็กประมาณ 30 คนนะคะ  แต่มีเจ้าหน้าที่แค่ 6 คน  ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละค่ะ  ว่าไม่เพียงพอ  แต่ยังดีที่มีอาสาสมัครประจำมาคอยช่วยอีก 5 คน...แต่จะมาตอนสายๆหน่อย”

“เด็กเล็กมากเลยนะครับครู”

“ค่ะน้องไผ่  แต่ไม่หมดแค่นี้หรอกนะคะ  เรายังรับอุปการะค่านม ให้แม่ยากจนที่ไม่มีนมผงเลี้ยงลูก  อีก12 คน  กลุ่มนี้จะมารับนมผง  ผ้าอ้อม  แล้วก็พวกของใช้เด็กทุกสุดสัปดาห์ค่ะ”

“อย่างนี้ค่าใช้จ่ายต่อเดือนก็เยอะนะสิคะครู” สุดาถามแล้วเหลียวมองเด็กๆ อย่างเวทนา  แม้เสื้อผ้าของเด็กๆ จะสะอาดสะอ้าน  แต่ก็ดูรู้ว่าเป็นของเก่า  คงได้รับบริจาคมาอีกที

“ค่ะคุณแม่...ตกเดือนหนึ่งก็เกือบสองแสน  แต่เงินบริจาคได้อย่างมากไม่เกินเดือนละ 5 หมื่น นานๆ จะมีคนมาบริจาคมากๆ สักครั้ง”

“อ้าว! แล้วอยู่ได้ยังไงครับ?”

“ก็รายได้จากการทำของขายในนามมูลนิธิน่ะค่ะ  แล้วก็มีเอกชนบางแห่งบริจาคพวกนมผง  กับผ้าอ้อมมาให้บ้าง  หรือไม่เจ้าหน้าที่ก็ไม่รับเงินเดือนบ้าง...ก็พอช่วยๆ กันให้รอดไปแต่ละเดือน”


พวกเด็กๆ ต่างเหลียวมามองเมื่อเห็นแขกแปลกหน้าเดินตามหลังแม่ครู  หลายคนที่พอรู้ความหันมายกมือไหว้  บางคนจำพสุได้เพราะเคยเห็นเขาเล่นละคร  ก็ลุกจากเก้าอี้มาเงยขึ้นจ้องมองชายหนุ่มตาแป๋ว  พสุจึงคุกเข่าลงไปใกล้ๆ


“สวัสดีครับ”

“อุ้ม”  เด็กหญิงตัวน้อยร้องขอ  พสุจึงช้อนตัวเธอขึ้น  เท่านั้นเองก็โกลาหล  เมื่อเด็กคนอื่นๆ อยากถูกอุ้มบ้าง  พวกเด็กๆ ลุกจากเก้าอี้มากอดหลัง  กอดแขนพสุ  บางคนเข้ามากอดขาริว  สุดา และป้าใจแล้วร้องขอให้อุ้มบ้าง  ครูพี่เลี้ยงและแม่บ้านที่ดูแลรีบเข้ามาห้าม พวกเด็กๆ ถึงยอมถอยกลับไปนั่งที่เดิม

“เด็กๆเขาขาดความรัก  อยากถูกกอด  อยากให้คนที่มาอุ้มเขา  พอเห็นคนมาเยี่ยม  ก็จะมาขอให้อุ้มแบบนี้แหละค่ะ  ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้ตกใจ” ครูมะลิวัลย์ออกตัว  เพราะเกรงว่าแขกที่มาจะไม่พอใจที่เด็กๆมารุมล้อมขอให้อุ้ม

“ไม่หรอกค่ะ  ไม่ตกใจ  แต่สงสารมากกว่า...ที่นี่มีคนมาเยี่ยมบ่อยไหมคะ” สุดาถามพลางลูบหัวเด็กที่นั่งอยู่ใกล้เบาๆ

“ไม่บ่อยหรอกค่ะ  มูลนิธิเรามีขนาดเล็ก  เพิ่งตั้งได้แค่ปีเดียว  ไม่มีงบประมาณจากส่วนราชการเข้ามาดูแล  เราก็ทำกันเองดูแลกันเอง  เจ้าหน้าที่ที่นี่ส่วนใหญ่ก็อยู่ด้วยความสงสารเด็กๆ ทั้งนั้น” 


พสุพยักหน้ารับ ก่อนจะวางเด็กหญิงตัวน้อยลงบนเก้าอี้ของเธอ  เด็กน้อยทำท่างอแงเหมือนไม่อยากให้เขาวาง  ครูพี่เลี้ยงเข้ามาเตือนถึงได้ยอม
ริวมองเด็กเหล่านั้นด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก  เหมือนเห็นภาพสะท้อนของตัวเอง  แต่เขายังโชคดีกว่าเด็กพวกนี้  อย่างน้อยๆครั้งหนึ่งเขาเคยมีแม่กอดและตอนนี้เขาก็มีพสุ  แต่เด็กพวกนี้ถูกทอดทิ้งตั้งแต่เกิด ไม่เคยสัมผัสอ้อมแขนของแม่

ครูพี่เลี้ยงช่วยกันยกอาหารเข้ามาตักแจกเด็กๆ  สุดากับป้าใจจึงเข้าไปช่วย  ขณะที่พสุยังอยู่กลางวงล้อมของเด็กๆ  ริวจึงเดินไปหาครูมะลิวัลย์


“ครูครับ...ริวอยากช่วยพวกเด็กๆ  ริวต้องทำยังไงครับ?”


ครูมะลิวัลย์ยิ้มแย้มอย่างใจดี  เธอเดินนำริวออกไปยังอาคารที่อยู่ติดกัน  ซึ่งเป็นที่เก็บลังนมและข้าวของเด็กอ่อนอยู่ไม่มากนัก 


“ก็ได้หลายอย่างนะคะ  น้องริวก็อาจจะช่วยบริจาคเงิน  เป็นค่าอาหาร  ค่านม  แล้วก็พวกข้าวของเครื่องใช้เด็กเล็กก็บริจาคได้ค่ะ  หรือถ้าว่าง  จะแวะมาเยี่ยมเขาแบบวันนี้ก็ได้” ครูมะลิวัลย์ชี้แจงด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ  เธอไม่ได้เร่งรัดให้ริวบริจาคเงินมากๆ ทั้งที่พอรู้ว่าริวเป็นนักร้องดัง  แต่อยากให้เด็กหนุ่มทำด้วยความเต็มใจมากกว่า 

“ครูบอกว่าที่นี่มีค่าใช้จ่ายเดือนละเกือบสองแสน” ริวถามพลางเอื้อมมือไปจับเสื้อผ้าในลัง  เป็นเสื้อผ้าเก่าที่มีคนบริจาคมา  ซึ่งรอการซ่อมแซมแล้วค่อยคัดแยกไปซักให้เด็กๆ ใส่

“ค่ะ...ก็แยกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ   คือค่าอาหารกับค่านมผงและข้าวของเครื่องใช้

“ถ้าริวจะขอออกส่วนตรงนี้ให้จะได้ไหมครับ”

“ได้ค่ะ  น้องริวจะบริจาคเท่าไหร่ก็ได้”

“ไม่ใช่ครับ  หมายถึง...คือริวพูดไม่ถูก...เดี๋ยวริวมานะครับ”  ริวบอกพร้อมกับวิ่งไปหาพสุ  ชายหนุ่มกำลังป้อนข้าวเด็กคนหนึ่งอยู่  พอเงยขึ้นมาเห็นริวก็ส่งยิ้มมาให้

“ไปซนที่ไหนมา” พสุสรรพยอกขำๆ  ถ้าเป็นปกติริวคงทำหน้ามุ่ย  ปากยื่นที่ถูกแซวว่าเป็นเด็กน้อย  แต่ตอนนี้ริวมีสิ่งที่สนใจมากกว่ารออยู่

“พี่ไผ่เอาสมุดเช็คมาไหม”

“เอามา อยู่ในรถแน่ะ” พสุบอกพร้อมกับยื่นกุญแจรถให้  ริวรับกุญแจแล้ววิ่งออกไปเอาสมุดเช็คเงินสด  แล้วกรอกตัวเลขที่ต้องการลงไป  ก่อนจะกลับไปหาครูมะลิวัลย์แล้วยื่นเช็คสองใบให้


ครูมะลิวัลย์รับเช็คด้วยสีหน้ายิ้มแย้มในตอนแรก  ก่อนจะกระพริบตาถี่ๆ อย่างงุนงงเมื่อเห็นตัวเลขในเช็คทั้งสองใบ


“สองล้าน!...เอ่อ บริจาคสองล้านเลยเหรอคะ”

“ครับ...คือแยกกันเป็นค่าอาหารพวกเด็กๆ 1 ล้าน  กับค่านมค่าของใช้ของเด็กอีก1 ล้าน อย่างที่ครูบอกไงครับ”

“ขอบคุณมากนะคะน้องริว...เงินก้อนนี้จะช่วยเด็กๆ ไว้ได้อีกเกือบปีเลยล่ะค่ะ  แล้วจะให้ลงนามผู้ให้ทุนอาหารกลางวันกับทุนค่านมค่าข้าวของเครื่องใช้เป็นชื่อน้องริวนะคะ”

“ไม่ครับ..เอ่อ ค่าอาหารเด็กๆ ให้เป็นชื่อทุนแม่สุดาได้ไหมครับ”

“ได้ค่ะ  แล้วอีกล้านละคะ  จะให้เป็นชื่อใคร”

“ชื่อแม่นามิครับ” 

“ค่ะ  เดี๋ยวครูจะไปจัดการให้นะคะ”

“ครับ...เอ่อมีอีกอย่างครับ...คือ ต่อไปนี้  ถ้าทางมูลนิธิต้องใช้จ่ายอะไร  ให้ติดต่อไปที่นี่ครับ...เขาจะจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้”  ริวบอกพร้อมกับยื่นเบอร์โทรศัพท์ของอลันให้ครูมะลิวัลย์ 


ครูมะลิวัลย์นิ่งไปชั่วขณะ  แค่เงิน 2 ล้านก็น่าตกใจแล้ว  แต่ถ้าริวรับอุปการะทั้งหมด  ก็หมายความว่าต่อไปพวกเด็กๆ ก็จะได้รับการดูแลอย่างเต็มที่เสียที


“ขอบคุณมากนะคะน้องริว...ครูขอให้สิ่งที่น้องริวทำในวันนี้  ส่งผลให้น้องริวประสบความสำเร็จทุกๆ อย่างในชีวิตนะคะ” ครูมะลิวัลย์น้ำตาคลอด้วยความยินดี  ดีใจแทนเด็กๆที่จะมีผู้มาอุปถัมภ์  ไม่ว่าริวจะรับดูแลให้ในระยะสั้นๆ  หรือระยะยาว  ก็ล้วนแต่มีผลดีกับเด็กๆ ทั้งนั้น

“ครับ...งั้น...ริวไปหาพี่ไผ่นะครับ” ริวตอบรับเขินๆที่เห็นครูมะลิวัลย์มองเขาด้วยสายตาชื่นชม

“ค่ะ”  ครูมะลิวัลย์มองตามเด็กหนุ่มไปจนลับตาจึงตรงไปห้องทำงานยื่นเช็คทั้งสองใบให้เจ้าหน้าที่การเงิน  พอเห็นเช็คสองสาวถึงกับอุทานด้วยความตกใจ  และยิ่งรู้ว่าริวจะรับอุปการะมูลนิธิก็แทบโดดกอดกัน  พวกเธออดทนกันมาเป็นปีก็เพราะความสงสารเด็กกำพร้าเหล่านี้  หลายครั้งที่ไม่ได้เงินเดือน  หรือได้ไม่เต็มเดือน  ก็ยอมทนเพราะอยากให้เด็กๆ ได้กินอิ่ม  การที่ริวมาช่วยอุปถัมภ์ก็เป็นหลักประกันได้ว่าต่อไปพวกเด็กๆ ก็จะไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีเงินซื้ออาหารซื้อนมอีก

ริวกลับไปหาพสุ  ภาพที่เห็นคือพสุนั่งอยู่กลางกลุ่ม  มีเด็กคนหนึ่งนั่งบนตัก  ขณะที่อีกคนกอดคอแล้วซบหน้ากับหลังพสุ  ส่วนที่เหลือก็รายล้อมอยู่รอบตัวเพื่อฟังนิทาน  แม้จะรู้สึกดีกับภาพที่เห็น  แต่อีกใจริวก็อดอิจฉาเด็กๆ ไม่ได้  อยากเป็นคนที่นั่งตักพสุ  หรือไม่  แค่ได้ซบหน้าอยู่กับหลังพี่ก็ยังดี


“ขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ”

“ได้ครับ/ค่ะ”  พวกเด็กๆ เงยหน้าขึ้นมามองริวแล้วหลีกให้ริวเข้าไปกลางวง  ริวยกตัวเด็กที่ยืนพิงหลังพสุขึ้นแล้วนั่งพิงหลังพสุแทน  ก่อนจะวางเด็กชายคนนั้นลงบนตักตัวเอง  เจ้าตัวทำหน้างงๆ ตอนแรก  แล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างจนเห็นฟันหลอด้วยความดีใจ  เด็กที่เหลือทำหน้าเสียดายอยากจะให้ริวอุ้มบ้าง 

“ตักพี่นั่งได้ 3 คนนะ  ใครจะนั่งอีก” พอขาดคำ  เด็กๆ ก็แย่งกันเข้ามานั่งตักริว  แต่สุดท้ายก็แย่งมานั่งได้อีกแค่ 2 คน  ที่เหลือจึงทำได้เพียงขยับเข้ามาเกาะแขนเกาะหัวเข่าริวไว้เท่านั้น

“อะไรละเนี่ย?”  พสุถามแล้วเอาศอกถองแขนริวเบาๆ  เด็กหนุ่มหัวเราะแล้วทิ้งน้ำหนักพิงหลังพสุเต็มที่

“เฮ้ยหนัก!  พี่กำลังเล่านิทานอยู่”

“ก็เล่าไปสิ  ริวจะฟัง  ใช่ไหมเด็กๆ”

“ครับ/ค่ะ”


พสุเห็นเด็กๆ จ้องเขาเขม็งเพื่อรอฟังนิทาน  จึงจำต้องปล่อยเลยตามเลยให้เด็กโข่งได้ใจต่อไป  หลังจากเล่านิทานจบไปสองเรื่อง ครูพี่เลี้ยงก็มาตามเด็กๆ ไปเข้าห้องเรียน  พสุจึงค่อยๆขยับเหยียดขาออกเพราะความเมื่อย  เมื่อไม่มีเสียงเด็กๆ เซ็งแซ่อยู่รอบตัวชายหนุ่มถึงรู้ว่าเด็กโข่งที่พิงหลังเขาหลับไปซะแล้ว  หลับท่ามกลางเสียงจ้อกแจ้กจอแจของเด็กๆ ได้หน้าตาเฉย  พสุหมั่นไส้เกือบจะแกล้งลุกให้ริวหงายหลังเล่นแล้ว  แต่ก็อดสงสารไม่ได้  เมื่อคืนริวกลับมาถึงบ้านตอนตี 2  แล้วเขาก็ปลุกริวตั้งแต่เช้า  ริวเพิ่งได้นอนไม่กี่ชั่วโมง คงง่วงเต็มที  แถมวันนี้ยังเป็นวันเกิดริว  พสุจึงปล่อยให้เด็กหนุ่มนั่งพิงหลับต่อไป  จนแม่กับป้าใจที่ตามครูมะลิวัลย์ไปดูรอบๆ  เดินย้อนกลับมา  สีหน้าของแม่เหมือนมีอะไรอยากจะคุยด้วย แต่ติดที่พสุลุกไปไหนไม่ได้


“เอาหมอนไหมคะ  จะได้นอนสบายๆ” ครูมะลิวัลย์เดินไปหยิบหมอนมาส่งให้พสุ  ชายหนุ่มประคองหัวริวลงวางบนหมอน  เด็กหนุ่มขยับตัวนิดหน่อยแต่ไม่ตื่น  พสุจึงลุกไปหาแม่

“มีอะไรหรือเปล่าครับแม่”

“ครูมะลิวัลย์บอกแม่ว่าริวบริจาคเงินสองล้าน” สุดาตอบด้วยสีหน้ากังวลใจ

“ครับ?!”

“หนึ่งล้านเป็นกองทุนอาหารกลางวัน บริจาคในชื่อแม่  อีกล้านเป็นทุนค่านมผงกับของใช้เด็กอ่อน  บริจาคในชื่อแม่นามิ...คงจะเป็นชื่อคุณแม่ของริว”

“ให้ทุนละล้านเลยเหรอครับ...ผมเพิ่งรู้ว่าริวมีเงินเก็บมากขนาดนั้น”  พสุขมวดคิ้วมุ่น  ตลอดเวลา 6 -7 เดือนที่อยู่ด้วยกัน  ริวแทบไม่ใช้จ่ายอะไรเลย  นอกจากของกินของใช้เล็กๆน้อยๆที่ส่วนใหญ่พสุมักจะซื้อมาให้  เด็กหนุ่มมีการ์ดแพลตทินั่มอยู่ 1ใบ  แล้วก็ใช้แต่การ์ดใบนั้นเวลาที่เขาพาไปซื้อเสื้อผ้า  เพราะริวซื้อของเองไม่เป็นและดูท่าทางจะไม่คิดว่าเงินมีความสำคัญ  ถึงได้กล้าบริจาคมากมายขนาดนั้น

“ไม่แค่นั้นนะลูก  ริวยังรับเป็นผู้อุปการะ  รับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดของมูลนิธิด้วย”

“ริวจะไปเอาเงินเยอะขนาดนั้นมาจากไหนครับ”

“แม่ไม่ได้อยากขัดคอน้องนะลูก ถ้าริวจะทำบุญแม่ก็เห็นดีด้วย  แต่เงินเยอะขนาดนี้  แม่กลัวริวจะเอาค่าตัวทั้งหมดมาเป็นเงินอุปถัมภ์มูลนิธิน่ะสิ  น้องคงจะสงสารเด็กๆ... ไผ่เคยบอกแม่เองนี่ว่าน้องใช้เงินไม่เป็น  แล้วต่อไปริวจะอยู่ยังไงละลูก” สุดาทำหน้าหนักใจ  เธอเอาเงินของเธอกับพสุไปทำบุญกับครูมะลิวัลย์ ถึงได้รู้เรื่องทั้งหมด  ครั้นจะออกปากค้านพอเห็นสีหน้าดีอกดีใจของครูกับเจ้าหน้าที่แล้วก็พูดไม่ออก จึงรีบมาปรึกษาพสุ

“เดี๋ยวไผ่จะถามริวให้ดีกว่าครับแม่”

“จ้ะ” 


เมื่อพสุเดินย้อนกลับไปที่ห้อง  ก็พบริวเดินสวนออกมาพอดี


“พี่ไปไหนมา” เด็กหนุ่มถามแล้วทำสีหน้าโล่งใจที่เจอกัน

“ไปดูห้องด้านโน้น  มีอะไรเหรอ”

“เปล่าครับ  แต่ริวตื่นมาแล้วไม่เห็นพี่  ก็เลยมาตามหา”

“ริว...พี่คุยอะไรด้วยหน่อยสิ”

“ครับ”

“เดี๋ยวไผ่ตามไปนะครับแม่”

“จ้ะ” สุดาหันไปพยักหน้าเรียกป้าใจให้ตามครูมะลิวัลย์ไปดูเด็กๆ เรียนหนังสือ


พสุดึงแขนริวออกมายืนคุยกันใต้ต้นไม้ริมสนามหญ้าเล็กๆ


“ริวบริจาคเงินให้มูลนิธิ 2 ล้านเลยเหรอ?”

“ครับ”

“แล้วยังรับอุปถัมภ์มูลนิธิด้วย?”

“ครับ”

“ริว...ริวรู้หรือเปล่าว่าค่าใช้จ่ายของมูลนิธิตกเดือนละเท่าไหร่?” พสุถามด้วยสีหน้าหนักใจ  เพราะเห็นตาแป๋วๆ มองเขาเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร

“รู้ครับ  ก็ครูบอกว่าเกือบๆ สองแสน”

“ใช่ไง  ปีหนึ่งก็ตก 2 ล้านกว่า  เงินมากขนาดนั้นริวจะไปหาจากไหน”

“ก็เงินริวที่...”  ริวชะงัก  ลังเลว่าควรบอกความจริงพสุหรือไม่ว่าเขามีทรัพย์สินเท่าไหร่  แต่ก่อนที่เขาจะมาเมืองไทย  อลันเคยขอให้เขาสัญญาว่าจะไม่บอกใครเรื่องสถานะทางการเงินของเขา  ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของริวเอง  แต่ริวไม่คิดว่าพสุจะทำอันตรายอะไรเขาอย่างแน่นอน

“ริว..เงินค่าตัวปีละ 2 ล้านเองนะ  ถึงจะได้เพิ่มจากการรับงานที่นอกเหนือจากการร้องเพลงอื่นๆ อีก  แต่พี่ก็ไม่คิดว่าจะมากพอให้ริวใช้จ่ายแบบนี้ได้  แล้วอีกอย่าง...เรื่องบ้านละริว  ริวคิดจะซื้อบ้านไม่ใช่เหรอ  ถ้าไม่มีเงินเก็บเลย ริวจะซื้อบ้านได้ยังไง” พสุถามด้วยความเป็นห่วง  แม้อาจจะทำให้ริวเสียหน้าไปบ้าง  แต่ถ้าเขาจะเป็นคนไปขอยกเลิกเรื่องรับอุปถัมภ์มูลนิธิให้ริว  คิดว่าครูมะลิวัลย์คงไม่ว่าอะไร  ส่วนเงินสองล้านที่ริวบริจาคไปแล้วก็ถือว่าริวได้ทำบุญใหญ่ไป

“คือ...เรื่องอุปถัมภ์มูลนิธิ  อลันเขาจะจัดการให้ครับ”

“อลัน?”

“ครับ...เขาเป็น...ผู้ปกครองของริว”  ริวเกาหัวแกรก  เพราะไม่รู้จะแทนสถานะของอลันว่าอะไรดี

“อ๋อ...เข้าใจแล้ว  ถ้าอย่างนั้นก็แล้วไป  พี่นึกว่าริวจะเอาเงินค่าตัวทั้งหมดมาทุ่มกับการอุปถัมภ์ที่นี่ซะอีก  พี่ไม่ได้อยากจะห้ามริวทำบุญหรอกนะ  แต่ถ้าทำจนตัวเองเดือดร้อนพี่ก็ไม่เห็นด้วย” พสุถอนใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก  คำตอบของริวยิ่งเป็นการยืนยันว่าผู้ปกครองของริวรวยแค่ไหน  ยังดีที่ริวไม่ใช่เด็กมือเติบ  ไม่อย่างนั้นรายได้เดือนละแสนกว่าๆ คงไม่พอใช้แน่นอน

“ขอบคุณครับ...ริวรู้ว่าพี่หวังดีกับริว  แต่ริวไม่เคยลืมหรอกครับว่าริวฝันอะไรไว้...รับรองว่าริวต้องซื้อบ้านในฝันของเราให้ได้เลย” ริวตอบด้วยน้ำเสียงสดใส  ดวงตาเป็นประกายาววาม  ด้วยความตื้นตันใจที่พสุห่วงใย  เขารู้ว่าอลันก็ห่วงใยเขาเหมือนกัน  แต่เขาไม่เคยตื้นตันและมีความสุขมากเหมือนเวลาพสุเป็นห่วง

“อะไรมาลงมาเรา  บ้านของริวคนเดียวต่างหาก”

“อ้าว! พี่จะไม่อยู่กับริวเหรอ?” ริวอุทานเสียงสูง  ตาโตๆเ บิกกว้างอย่างตกใจ

“หึหึ...อยู่ได้ยังไง  พี่ก็ต้องอยู่กับครอบครัวพี่สิ” พสุยังแกล้งทำเมิน  นึกขำที่ริวทำท่าตกใจนักหนาแค่เขาบอกว่าจะไม่อยู่ด้วย

“พี่ไผ่จะไม่อยู่กับริวจริงๆ เหรอ?”ริวถามย้ำแล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

“เรื่องอะไร  พี่ก็อยู่กับแม่พี่สิ”

“งั้น...ริวไม่ซื้อบ้านแล้ว  ริวอาศัยพี่อยู่ก็ได้” เด็กหนุ่มกระตุกชายเสื้อพสุเบาๆเป็นเชิงวอนขอ

“ได้ไง...ใจคอจะให้พี่เลี้ยงจนตายหรือไง” พสุถามด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ  ไม่กล้าทำหน้าขึงขังให้ริวใจเสียอีก  เด็กหนุ่มยิ้มร่าทันทีที่เห็นพสุหัวเราะ 

“ค้าบบบบบ”

“ไม่ไหวหรอก ตัวโตขนาดนี้แถมกินขนมเก่งอีกต่างหาก  พี่เลี้ยงไม่ไหวแน่ๆ”

“ริวจะกินน้อยๆก็ได้” ริวทำเสียงอ่อยๆ แล้วทำหน้าจ๋อย  จนพสุอดสงสารไม่ได้

“บ้าเหรอ  พี่ล้อเล่น...พูดก็พูดเถอะ  แล้วนี่เอาเงินค่าตัวมาบริจาคหมดเลย  ทีนี้จะกินอะไรหืม?”

“ก็ให้พี่เลี้ยงไง  พี่เลี้ยงริวได้อยู่แล้ว” ริวตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ  แล้วยิ้มจนตาหยีให้  พสุหมั่นไส้จับหัวทุยโยกไปโยกมาเล่น 

“น้องไผ่น้องริวคะ  เข้าไปดูเด็กๆ กันไหมคะ  เดี๋ยวจะได้เวลากินนมแล้ว” เจ้าหน้าที่ออกมาตามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“ครับ”


เมื่อพสุกับริวเข้าไป  ครูมะลิวัลย์ก็กล่าวขอบคุณทุกคนในนามของมูลนิธิ  แล้วให้เด็กๆ ขอบคุณอีกครั้ง  ตอนแรกพสุก็คิดจะอยู่ต่อจนถึงเด็กๆ กินข้าวเที่ยง  แต่เห็นริวทำตาปรอยๆ  ก็รู้ว่าน้องคงง่วง จึงตัดสินใจพาทุกคนกลับบ้าน  ตอนแรกก็วางแผนกันว่าจะอยู่กินข้าวกับแม่ก่อน  แต่พอเห็นรถบิดาจอดอยู่พสุก็เปลี่ยนใจ  ชายหนุ่มไม่ยอมลงจากรถด้วยซ้ำ  พอสุดากับป้าใจลง  เขาก็ไหว้ลาแล้วขับรถออกมาเลย


...............................

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






lasom

  • บุคคลทั่วไป
:a5:หล่อแล้วยังใจดีอีกตะหาก o13

เมื่อไหร่พี่ไผ่จะเลิกเอ็นดูน้องแล้วเปลี่ยนมาเป็นรักซะทีน้าสสสส:m26:

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
อ่านข้อความจากคนแต่งแล้วก็เข้าใจอะไรๆมากขึ้นจ้าาา
น้องริวน่ารักเนอะ...น้องจิตใจดีแบบนี้ขอให้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามานะคะ
พี่ไผ่กับคุณพ่อเป็นอะไรที่คงประสานรอยร้าวยากแล้วสิ แย่จังเลย : (

kenshinkenchu

  • บุคคลทั่วไป
ก๊าก......  ตอนแรกอยากเข้าไปตบปากพี่ไผ่ มาพูดให้น้องริวใจเสีย
โธ่.. ที่แท้ก็หยอกเอินกันเป็นเรื่องธรรมดาซซะแล้ว


ปล.  ใจจริงเราก็รู้นะว่าพี่ไผ่เป็นเคะแน่นอนเลย  แต่เราชอบบุคลิกแบบน้องริว  อยากให้น้องริวเป็นเคะมาก.................

แต่นับวันความหวังเริ่มริบรี่  ก็พี่ไผ่อ่ะ สาวเอาๆ  เจ๊ กลุ้มใจที่สุด  :o12:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


มาทำบุญแล้ว คืนนี้น้องริวก็จะได้นั่งเทียน ว๊ายยยยยยยยยยย เป่าเทียนแล้วสิคะ  จะมีอะไรเกิดขึ้นไหมหละน๊าสำหรับคืนวันเกิด รอต่อไป พรุ่งนี้อัพช่ายปะคะ 55555555555555555555


  :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2010 01:27:25 โดย samsoon@doll »

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
มาให้กำลังใจน้องริว
+1

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
เง้อ
น้องริวของพี่
ช่างเป็นคนดีจริงๆเลยนะเนี่ย
 o13

พี่ไผ่จ๋า
รอวันที่พี่ไผ่จะรุกน้องริวนะ


ออฟไลน์ nirun4

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
HBD น้องริว แต่ว่าไม่มีแบบฉลองกันสองต่อสองเหรอครับ :impress2:

KM

  • บุคคลทั่วไป
ริวรุกไผ่ซักทีสิ ฮ่าๆๆ

thisispom

  • บุคคลทั่วไป
+1 ค่ะ พี่ไผ่น้องริวน่ารัก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด