เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus  (อ่าน 2506877 ครั้ง)

ออฟไลน์ spring

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-7
หึๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 o8

yun

  • บุคคลทั่วไป
หวาดเสียว
 :sad4:

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
อยากรู้จักค่ะว่าไวย์ง้อตะวันยังไง :z3:
ขอบคุณค่ะ มาต่อยาวได้ใจจริงๆค่ะ อ่านมันไปเลย :a5: :a5:
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

SweetSmile

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุดก็เข้าใจกัน
อยู่บ้านเดียวกันก็งี้แหละ
มีกระทบกระทั่งกันบ้าง
แต่ก็ต้องมีใครซักคนที่เป็นคนไกล่เกลี่ย
ใช่มั้ยจ๊ะพี่ไผ่ แองเจิ้ลของน้องริว

น้องริวโกรธแทนพี่ไผ่ขนาดนี้
พี่ไผ่ไม่รักน้องริวไม่ได้แล้วน๊า    :กอด1:

dragonfly08

  • บุคคลทั่วไป
น้องริวน่ารักอะ ยิ่งตอนมองคนโน้นที คนนี้ทีตอนกินสุกี้ แหมน่ารักจริงจัง  :กอด1:

ออฟไลน์ kissme

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 457
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
 :o8: :-[ โอ้...ในที่สุดก็อ่านทันจนได้ เยี่ยมมาก ๆ เลยจ๊ะ o13

 :serius2: ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลย อ่านแบบ non-stop ข้ามวันข้ามคืน  แล้วก็สงสัยตนเองว่าปล่อยผ่านเรื่องสนุก ๆ แบบนี้ไปได้ไง

 :กอด1:อบอุ่น นุ่มนวลดีจัง หากไม่รักกันสิแปลก :L2:


:กอด1: ขอบคุณนะจ๊ะที่แต่งเรื่องดีดีแบบนี้ให้ได้อ่าน

ออฟไลน์ Tageszeit

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1

หนึ่งคืนที่ตามอ่านจนทัน เล่นเอาสว่างเลย
รู้สึกอบอุ่นจนร้อนเลย ประทับใจครับสนุกมากๆ
ริวน่ารักมาก พี่ไฝ่ก็ใจดีมากมาย
ขอบคุณไรเตอร์มากที่แต่งเรื่องน่ารักแบบนี้มาให้อ่าน
เป็นกำลังใจให้แล้วก็รอตอนต่อไปนะครับ  :L2:

RakorN

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าริวรู้จักการใช้กำลังรับรองไวย์โดนต่อยๆแน่
โทษฐานทำพี่ไผ่เจ็บ และทำร้ายพี่ตะวันด้วยคำพูด
ตอนริวผลักไหล่ไวย์อ่ะ บอกตรงๆแอบสะใจค่ะ
เพราะไวย์มันทำตัวเองทั้งนั้น
ดีได้เท่าเศษเสี้ยวของพี่ไผ่แก้วกุดันอาจจะแลบ้าง
แต่นี้...ปากหมา อารมณ์ร้อน หนักสุดก็เรื่อง มั่ว!
ใครดีๆที่ไหนเค้าจะอยากได้เป็นแฟนตัวกันหล่ะ
ระวังเหอะ นางแบบคนนั้นจะโยนมาว่าตัวเองท้องกับไวย์
(เห็นแว่บๆว่ามีข่าวออกมาแล้วด้วยใช่ไหม? ถ้าจำไม่ผิด)

ปล1,อยากรู้ข่าวในอดีตของพี่ตะวัน จะมีเฉลยไหมคะ?
ปล2,แอบคิดเหมือนหลายคนค่ะว่า ไวย์+ตะวัน
แล้วไวย์กับริวเนี้ยก็จูงมือกันเข้าชมรม 'เกียมัว'กันได้เลย
:laugh:

ออฟไลน์ mutoo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-37
เอ่อออออ
บรรยากาศเหมือนน้องริวจะเป็นฝ่ายกดพี่ไผ่หรือเปล่า
อุ้มกันได้ตัวปลิวขนาดนั้นน่ะ

ออฟไลน์ milky way

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
พี่ไผ่ ช่างเป็นคนดีเหลือเกิน
ริวก็น่ะ น่ารัก ช่างอ้อนชะมัด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ spring

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-7
ตอนที่  41



บรรยากาศในการอัดเสียงวันนี้แตกต่างจากเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง  เพราะไวยากรณ์เที่ยวแกล้งคนโน้น แซวคนนี้ตลอดเวลา  ขณะที่ธีรดลก็ขยันยิงมุกให้ได้ฮากันตลอด  จะมีคนที่แปลกไปก็คือริว  เด็กหนุ่มมักจะนั่งเหม่อบ่อยๆ  จนกรเวชต้องคอยเตือน  หลังจากอัดเสียงเสร็จ  พสุก็เห็นริวไปยืนคุยกับธีรดลด้วยสีหน้าเคร่งเครียดแม้แต่ธีรดลก็ทำหน้าเครียดตามไปด้วย


“ไปๆ  เสร็จแล้วก็รีบกลับ ทีมคอสตูมเขามารออยู่ที่บ้านแล้ว”  กรเวชเร่งให้ทุกคนขึ้นรถกลับไปบ้านพัก  เมื่อไปถึงทีมคอสตูมก็รออยู่แล้วจริงๆ  คนอื่นๆนั้นไม่มีปัญหาเท่าไหร่  ยกเว้นธีรดลที่ผอมลงจนต้องร่นเอวกางเกงเข้าทุกตัว  ขณะที่ริวกลับไหล่หนากว่าเดิมมากเสียจนต้องขยายไซส์เสื้อผ้าออกไปอีก

“โอ๊ย! สมกับเป็นวัยกำลังโต  ทั้งไหล่ทั้งอกขยายพรวดๆอย่างนี้สงสัยอีกหน่อยต้องให้ริวใส่เสื้อแขนกุดแล้วหล่ะ” พี่นกเล็กบอกยิ้มๆ  แล้วอดจิ้มกล้ามแข็งๆ บนต้นแขนของเด็กหนุ่มไม่ได้  บทเรียนจากการวัดตัววงคิสมีครั้งแรกทำให้เธอเตรียมเก้าอี้เล็กมาด้วย  เพราะนักร้องวงนี้สูงกันทุกคน  ยิ่งไวยากรณ์กับริวนั้น  สูงจนช่างชะเง้อยังไม่ถึงไหล่  ต้องปีนเก้าอี้วัด

“ผมไม่ชอบใส่เสื้อแขนกุด” ริวค้านเสียงอ่อยๆ หน้าจ๋อยๆ  แต่ทุกคนหัวเราะกันครืน  เด็กหนุ่มเลยหันหาที่พึ่งหนึ่งเดียว

“พี่นกเล็กเขาล้อเล่น...แต่ความจริงริวใส่แขนกุดได้นะ  ไหล่สวยโชว์ได้สบาย”  พสุปลอบขำๆ  แต่ริวส่ายหน้าเดียะ  พอวัดตัวเสร็จ  ริวก็รีบไปหาธีรดล  แยกไปคุยกันสองคนจนเห็นพสุจะขึ้นชั้นบนนั่นแหละถึงได้วิ่งตามไป


เช้านี้พสุต้องออกมาทำงานข้างนอก  แม้ข้อเท้าที่เจ็บจะดีขึ้นมากแล้วแต่ชายหนุ่มก็พยายามไม่เคลื่อนไหวมากนัก  เพราะไม่อยากให้เกิดอักเสบขึ้นมาอีกจนเป็นอุปสรรคในการไปถ่ายทำมิวสิควีดีโอในวันพรุ่งนี้

พสุถูกเชิญมาร่วมรายการทำอาหาร  ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 เทปด้วยกัน  ก็ต้องแยกถ่าย 4 ฉาก  ระหว่างที่กำลังรอให้ทีมงานเซตฉากที่สอง  โทรศัพท์ที่เขาตั้งสั่นไว้ก็มีสายเรียกเข้า  พสุดูเบอร์บนหน้าจออย่างแปลกใจ  ร้อยวันพันปีไวยากรณ์ไม่เคยโทรหา  วันนี้เกิดอะไรขึ้นถึงได้โทรมาหาเขาได้


“ว่าไงไวย์?” 

“พี่ไผ่....ริวไปกับพี่เหรอ” ไวยากรณ์ถามทันทีอย่างคนใจร้อนโดยไม่มีการทักทายใดๆ ทั้งสิ้น

“พี่มากับรถตู้บริษัท”

“อ้าว! แล้วริวไปไหน”

“ไวย์มีอะไรกับริวเหรอ  เผื่อริวโทรมาพี่จะบอกให้”

“ไม่มีอะไรครับ  ว่าจะถามอะไรริวสักหน่อย...ถ้างั้นแค่นี้นะครับพี่ไผ่  ผมไม่กวนพี่ทำงานแล้ว”


พสุเองก็สงสัยว่าริวไปไหน  ในเมื่อเขารู้ตารางงานของริวดีว่าวันนี้ริวไม่มีงาน  ชายหนุ่มจึงตัดสินใจโทรหาริว  ปกติถ้าเขาโทรหา  เสียงเรียกเข้าดังแค่ครั้งสองครั้งริวก็จะรับสายแล้ว  แต่วันนี้พสุรอจนสายตัดริวก็ไม่รับโทรศัพท์ ชายหนุ่มจึงโทรไปอีกหลายรอบ  แต่ริวก็ไม่รับสายอยู่ดี

พสุแทบไม่มีสมาธิทำงาน  กังวลไปสารพัดว่าริวจะเป็นอะไรหรือเปล่า  แต่พอกลับมาถึงบ้านพัก  ก็ไม่เจอใครอยู่บ้านเลยสักคน  พสุเดินหาไปทั่วบ้านด้วยความกังวลใจ จนได้ยินเสียงเปียโนแว่วๆ  จึงขึ้นไปหาตะวันที่ห้อง




ก๊อกๆ




“เชิญ”

“ตะวัน! ริวอยู่กับนายหรือเปล่า”

“เปล่า” ตะวันตอบพลางก้มเขียนโน้ตเพลง   

“แล้วหายไปไหนของเขา...”  พสุรำพึงอย่างแปลกใจแกมเป็นห่วง  น้ำเสียงนั้นทำให้ตะวันถึงกับหยุดทำงานเงยหน้าขึ้นมามอง

“ทำไม...มีอะไรเหรอ?”

“เปล่า...ขอบใจนะตะวัน”

“อืม...” ตะวันพยักหน้าแล้วก็จมกับโลกส่วนตัวต่อไป  พสุกลับลงมาที่ห้องด้วยความกังวล  ริวไปอยู่ที่ไหนกันแน่  แล้วทำไมริวถึงไม่รับโทรศัพท์  เบอร์นี้เป็นเบอร์ที่เขารู้เพียงคนเดียว  ริวไม่เคยให้โทรศัพท์เครื่องนี้ห่างตัว  นอกจาก...โทรศัพท์จะหาย

“นี่เอาโทรศัพท์ไปทิ้งไว้ไหนอีกนะริว...ไหนสัญญาว่าจะเก็บรักษาอย่างดีไง...เฮ้อ!”


จนถึงเวลาอาหารค่ำริวก็ยังไม่กลับมา  พสุเริ่มนั่งไม่ติด  แต่ชายหนุ่มก็ยังรักษาสีหน้านิ่งๆ ไว้ตอนที่ตะวันลงมากินข้าวด้วย  จนเกือบเที่ยงคืนไวยากรณ์ก็กลับจากงานเดินแบบ  ส่วนธีรดลนั้นรู้ๆ กันว่าวันนี้เขาต้องไปหาลูกที่ต่างจังหวัด  จึงเหลือเพียงริวคนเดียวที่ยังไม่กลับบ้าน  พสุลองโทรหาริวอีกครั้ง...

เสียงเพลงรอสายซึ่งก็เป็นเพลงของพสุ  ดังอยู่นานจนสายถูกตัดไป  แต่เมื่อต่อสายอีกครั้งคราวนี้กลายเป็นบริการฝากข้อความ...หมายความริวไม่ต้องการรับสายเขาถึงกับปิดเครื่องหนีอย่างนั้นเหรอ?  พสุหรี่ตา จ้องมองโทรศัพท์นิ่ง  ก่อนจะตัดสินใจโทรหากรเวช


“ว่าไงไผ่...”

“ขอโทษนะครับพี่กรที่โทรมารบกวนเวลาพักผ่อน”

“พี่ยังไม่นอนหรอกไผ่  มีอะไรหรือเปล่า”

“ริวยังไม่กลับบ้านเลยครับ  พี่กรพอจะรู้ไหมครับว่าริวไปไหน”

“อ้าว! ริวไม่ได้บอกเหรอว่าไปต่างจังหวัดกับดล” คำตอบของกรเวชเล่นเอาพสุงง  แล้วเปลี่ยนเป็นโมโห  ปกติริวไม่เคยไปไหนโดยไม่บอกเขา  แต่คราวนี้นอกจากไม่บอก  ยังปิดเครื่องหนีอีกต่างหาก

“เปล่าครับ”

“เอ้า! พี่ก็นึกว่าไผ่รู้แล้วเสียอีก”

“ผมไม่รู้อะไรเลยครับพี่กร...ถ้าผมรู้ว่าเขาไปเที่ยวผมคงไม่โทรมารบกวนพี่กรเด็ดขาดเลยครับ”


พสุยังคงควบคุมน้ำเสียงให้ราบเรียบ  ทั้งที่ในใจเดือดปุดๆ ด้วยความโมโห  เขาเป็นห่วงริวจนแทบทำงานทำการไม่ได้  กังวลไปสารพัดว่าเด็กหนุ่มจะเป็นอะไรไป  แต่ริวไปเที่ยวโดยไม่คิดจะบอกเขาสักคำแถมยังปิดเครื่องใส่เหมือนไม่อยากให้เขาโทรไปวุ่นวาย


“เอ่อไผ่...ริวอาจจะ...” กรเวชพยายามหาข้อแก้ตัวให้ริว  แต่พสุพูดตัดบทเสียก่อน

“ไม่เป็นไรครับ  เขาสบายดีก็โอเคแล้ว  ผมแค่แปลกใจที่เห็นเขาหายไปเท่านั้นเอง  ขอโทษที่รบกวนนะครับพี่กร  สวัสดีครับ” พสุวางสายแล้วเม้มปากนิ่ง  ดวงตาเป็นประกายไหววูบด้วยความโกรธแกมน้อยใจ

“ในเมื่อไม่อยากให้พี่ยุ่ง  พี่ก็จะไม่ยุ่งกับนายอีก” 


พสุเฝ้าวนเวียนคิดทั้งคืน  หรือที่ผ่านมาเขาวุ่นวายกับริวมากเกินไป  บางทีริวอาจอยากเป็นตัวของตัวเอง  มากกว่าให้เขาไปคอยสั่งสอนก็ได้  ที่ริวว่าง่ายก็เพราะเด็กหนุ่มเกรงใจ  ถึงได้ยอมทำตามที่เขาบอก....เพราะมัวคิดเรื่องนี้ทำให้พสุเครียดจนนอนไม่หลับ  มาผล็อยหลับไปตอนประมาณตี 5 

.
.
.
.
.

พอ 6 โมงเช้า  พสุก็แทบจะลุกจากเตียงไม่ไหว  หากไม่เพราะตั้งนาฬิกาปลุกไว้เขาคงไม่ตื่นแน่ๆ  ชายหนุ่มลงมารอขึ้นรถตู้ด้วยอาการเบลอๆ  ลอยๆ  แถมยังปวดหัวหนึบๆ  จนแทบไม่อยากทักทายใคร  ทั้งที่เช้านี้บรรยากาศสดใส  ทีมงานทักกันลั่นด้วยความกระตือรือร้นที่จะได้ออกต่างจังหวัด


“ไงไผ่ สีหน้าไม่ดีเลย”

“ง่วงสุดๆ เลยครับพี่กร...นี่รถมายังครับ  ขอขึ้นไปนอนรอบนรถดีกว่า  ตอนนี้ผมง่วงแทบจะลงนอนตรงนี้แล้ว”

“มาโน่นแล้ว  ขึ้นไปบนรถเลยไป  ของๆ เรามีแค่กระเป๋าสองใบนี่เหรอ”

“ครับ” พสุตอบรับเรียบๆ 


ทั้งที่คิดไว้แล้วว่าจะไม่ยุ่งกับริว  แต่สุดท้ายเขาก็จัดกระเป๋ามาให้เด็กหนุ่มจนได้...พสุให้เหตุผลกับตัวเองว่าเขาจัดให้ริวเพราะไม่ต้องการให้ทีมงานมาเสียเวลารอริวกลับมาจัดกระเป๋าอีก  ถือเสียว่าเป็นการจุ้นจ้านครั้งสุดท้ายก็แล้วกัน 


“ไปๆ ขึ้นไปนอน  เดี๋ยวกระเป๋าพี่ให้คนอื่นเอาขึ้นรถให้”

“ขอบคุณครับพี่กร” พสุยกมือไหว้  แล้วขึ้นไปนอนเบาะคู่หลัง  เพื่อไม่ให้ใครรบกวน  ถึงจะง่วงจะเพลียแค่ไหน  แต่ก็ยังได้ยินเสียงทีมงานแว่วๆ  เสียงทักทาย  เสียงเปิดประตูรถเข้ามา  ตามด้วยเสียงจัดข้าวของที่ท้ายรถ  ที่เยอะขนาดต้องพับเบาะหลังสุดเก็บ  เพื่อให้วางสัมภาระได้หมด




“พี่กร...พี่ไผ่ละครับ”  พสุนอนนิ่งทันทีที่ได้ยินเสียงริวทักกรเวช

“อยู่บนรถแน่ะ” 


เสียงเปิดประตูรถ  ตามด้วยเบาะข้างตัวที่ไหวยวบ  แต่พสุก็ยังหลับตานิ่งทำเหมือนไม่รับรู้


“พี่...ทำไมมานั่งตรงนี้ละครับ  ไปนั่งที่เบาะด้านหน้าสิ  ริวไม่ชอบนั่งข้างหลัง...พี่ไผ่...พี่ไผ่ครับ  ไปนั่งเบาะหน้ากัน” ริวอ้อนเสียงใสแถมยังเขย่าแขนพสุเบาๆ  ทำให้ความหงุดหงิดที่ชายหนุ่มพยายามระงับไว้ขุ่นขึ้นมาอีก

“อย่ายุ่งได้ไหม” พสุยังหลับตานิ่ง  แต่น้ำเสียงราบเรียบเย็นชา  ทำเอาทุกคนในรถอึ้งไปกันหมด  แม้แต่ริว

“แต่ริวไม่ชอบนั่งเบาะหลังสุดนี่ครับ  ไปนั่งเบาะหน้ากันนะพี่” ริวเริ่มเสียงอ่อยลง  ใจเสียที่เห็นพสุลืมตาขึ้นมามองหน้าเขาด้วยสายตาเย็นชา  ก่อนจะผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว  แล้วลงจากรถไปเปิดประตูหน้าข้างคนขับ  ขึ้นไปนั่งแล้วปิดล็อค  ท่ามกลางสีหน้าตะลึงพรึงเพริดของคนทั้งรถ

“เอ่อ...ริว  ปล่อยพี่เขานอนดีกว่านะ อย่าไปกวนเลย  พี่ไผ่เขาไม่ค่อยสบายน่ะ” กรเวชกระซิบปรามหน้าเจื่อนๆ

“เหรอครับ...” ริวหน้าเผือด  จ้องมองคนที่นั่งอยู่ข้างคนขับตาละห้อย  สีหน้าเหมือนจวนเจียนจะร้องไห้ของเด็กหนุ่มทำให้ทุกคนสงสาร  แต่นาทีนี้ไม่มีใครกล้าไปวุ่นวายกับพสุแน่นอน  ไม่เคยมีใครเห็นพสุโกรธมาก่อน  และเป็นครั้งแรกของริวที่เจอพสุทำสีหน้าเย็นชาใส่  สีหน้าแบบนี้น่ากลัวยิ่งกว่าเวลาพี่โมโหหลายเท่า




บรรยากาศในรถเงียบกริบ  ริวนั่งชิดในสุด  ของเบาะหลังคนขับ  เพื่อจะมองหน้าคนที่นั่งคู่กับคนขับไปตลอดทาง  เด็กหนุ่มชะเง้อชะแง้  คอยมอง แต่ไม่กล้าเข้าใกล้  ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะปลุกพสุเข้าห้องน้ำเมื่อรถแวะจอดปั้ม




ทันทีที่ถึงที่หมาย  ทุกคนก็ทยอยลงจากรถ  ช่วยกันขนข้าวของ  พสุลงจากรถไล่ๆ กับคนขับ  สีหน้ายังดูเพลียๆ  แต่ชายหนุ่มไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธเมื่อถูกจัดให้พักห้องเดียวกับริว  แม้แต่ตอนที่ริวแย่งกระเป๋าของเขาไปลากให้  พสุก็ปล่อยให้เด็กหนุ่มลากไป  ไม่ได้สนับสนุนหรือคัดค้าน  พอเข้าไปในลิฟต์  พสุก็กอดอกพิงผนังลิฟต์เฉย  ตาจ้องมองแต่ไฟบอกชั้นนิ่ง จนกระทั่งถึงชั้นที่พัก  พอประตูลิฟต์เปิด  เขาก็ก้าวออกไปเป็นคนแรก  ริวลากกระเป๋าสองใบเดินตามไปอย่างรวดเร็ว  พอพสุไขประตูเข้าไป  เด็กหนุ่มก็ตามติดชนิดก้าวต่อก้าว


“พี่ไผ่หิวมั๊ย  ริวสั่งข้าวให้นะครับ”

“ไม่ต้อง  ขอบคุณ”  น้ำเสียงราบเรียบ  แต่เย็นชาจนริวหน้าเสีย  เด็กหนุ่มยืนนิ่งอยู่กลางห้องขณะที่พสุเข้าไปอาบน้ำ  พออาบเสร็จพสุก็รีบแต่งตัว  โดยไม่เหลือบมองหน้าริวสักนิดเดียว  ริวได้แต่ยืนเก้ๆกังๆ  ทำอะไรไม่ถูก  อยากให้พสุพูดด้วยสักคำก็ยังดี

“พี่ไผ่...ริว...” ริวยังไม่ทันได้พูด  เสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้นมาเสียก่อน




RRRRRRRRRRRRRR




“ครับพี่กร...จะลงไปเดี๋ยวนี้แหละครับ...พี่กรบอกให้รีบลงไป  ทีมงานรออยู่” พสุหันไปบอกริวแล้วออกจากห้องไปทันที  ริวทำได้เพียงรีบเดินตามพสุออกมา  เมื่อไปทันที่หน้าลิฟต์ก็พบว่าตะวัน ไวยากรณ์ และธีรดลก็ยืนรอลิฟต์อยู่เหมือนกัน

“พี่ไผ่อาบน้ำแล้วเหรอ” ไวยากรณ์หันมาทักเพราะเห็นเครื่องแต่งกายของพสุดูแปลกไป

“อืม”

“แต่หน้ายังซีดๆ อยู่เลยนะพี่  ไหวเหรอ?”

“ไหว...เดี๋ยวแต่งหน้าก็มองไม่รู้แล้ว”  พสุตอบเสียงเรียบแล้ว  เดินนำเข้าไปทันทีที่ประตูลิฟต์เปิด  ริวตามไปยืนประกบหลัง  แต่พสุก็เฉย  ไม่เหลียวมามองสักนิด  เด็กหนุ่มจึงทำได้เพียงก้มหน้าแล้วแอบมองพสุเป็นระยะๆ


พอลงไปถึงก็พบว่าทีมงานตั้งกองกันที่สวนหน้าโรงแรมนั่นเอง  หลังจากเก็บภาพนิ่งกันสักพัก  พี่พลก็สั่งให้ยกกองไปถ่ายที่ทะเล  สร้างความงุนงงให้ทุกคนมาก  ขนาดทีมงานยังหันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก  เพราะตามคิวจะต้องปักหลักถ่ายเอ็มวีของพสุต่อที่นี่  ส่วนคิวที่ทะเล  เป็นของตะวันในวันพรุ่งนี้


“ทำไมยกไปถ่ายทะเลก่อนละพี่?”

“แกรึฉันเป็นผู้กำกับไอ้จิ้ม...เรื่องมากเดี๋ยวปั๊ดลดตำแหน่งลงไปยกไฟเลย”

“ค๊าบ  ไม่ถามแล้วค๊าบ” ผู้ช่วยผู้กำกับยกมือไหว้พี่พลขำๆ  ก่อนจะช่วยกันจัดของเตรียมไปลงเรือ  พสุมองตามหลังผู้กำกับมือทองไปปะทะกับสายตาของกรเวชที่มองมาที่เขาอยู่ก่อนแล้ว  พอกรเวชเห็นเขามองก็หลบตาอย่างมีพิรุธ

“พี่พลครับ...ที่เราต้องยกกองไปถ่ายเอ็มวีของตะวันก่อนนี่เป็นเพราะผมหรือเปล่าครับ” พสุอาศัยระหว่างที่ทุกคนกำลังชุลมุนขนของลงเรือตัดสินใจเข้าไปถามพี่พลตรงๆ 

“...อือ...ใช่” พี่พลก็ตอบตรงๆ เหมือนกัน 


แม้จะคิดอยู่แล้วว่าสาเหตุมาจากเขา  แต่พอได้ฟังคำตอบพสุก็ใจแป้วด้วยความรู้สึกผิดหวัง...ผิดหวังในตัวเองที่ไม่เป็นมืออาชีพพอ


“ผมทำอะไรผิดพลาดเหรอครับ  ถ้าพี่บอกผมจะรีบแก้ไขทันทีเลย”

“ไผ่...นี่ไม่ใช่ละครนะ  แต่เรากำลังจะถ่ายเอ็มวี  เพลงของไผ่...ตัวตนของไผ่...แล้วเนื้อหาของเพลงมันคือความรักที่อบอุ่นนะ  เข้าใจไหมว่าตอนนี้สีหน้าไผ่มันไม่อยู่ในอารมณ์นั้นเลย  มันคนละฟิวกัน  สีหน้าไผ่เหมาะกับเอ็มวีรักแบบเศร้าๆของตะวันมากกว่า...ดูสิทั้งไผ่ทั้งริว  ทำหน้าเหมือนเคี้ยวบอระเพ็ด  ขืนถ่ายไปก็ต้องถ่ายใหม่อยู่ดี”

“ขอโทษครับพี่พล” พสุไหว้พี่พล  สีหน้าจืดเจื่อนจนพี่พลสังเกตเห็น

“ไม่เป็นไร  พี่รู้ว่าเรื่องบางอย่างมันก็อยู่เหนือการควบคุม  เพราะถึงไผ่จะเป็นดารา  ก็ยังเป็นคน ไม่ใช่หุ่นยนต์  จะให้ยิ้มได้ตลอดเวลาตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ได้ยังไง...ไม่ต้องรู้สึกผิดล่ะ  ไปเตรียมตัวเข้าฉากได้แล้ว”

“ครับ” พสุรับคำแล้วเดินคอตกไปลงเรือ


เอ็มวีของตะวันเพลงนี้  เป็นรูปแบบการอกหักของแต่ละคนที่จะแตกต่างกัน  ทุกคนจะมีบทพูดสั้นๆ เพื่อแสดงอารมณ์  แล้วหลังจากนั้นจะมานั่งรวมกันเพื่อฟังตะวันร้องเพลงเล่นกีตาร์บนเรือที่ลอยลำอยู่กลางทะเล




โดยเริ่มจากไวยากรณ์ เป็นรักแบบวัยรุ่นใจร้อน  ทะเลาะกับแฟนด้วยเรื่องไร้เหตุผลบ่อยๆ จนทำให้ต้องเลิกกัน


ธีรดล  เป็นความรักแบบคนมีครอบครัว  ที่ทะเลาะกันเพราะปัญหาชีวิตรุมเร้าจนต้องแยกกันไปคนละทาง   


พสุ เป็นรักแบบห่างไกล คนรักส่งแหวนหมั้นคืนมาเพราะเธอกำลังจะแต่งงานกับคนใหม่   


ริวเป็นรักแบบแอบรักแฟนคนอื่น  และเธอไม่ต้องการจะสานสัมพันธ์ต่อไปอีกจึงบอกเลิกทางโทรศัพท์ 


และตะวันเป็นความรักที่คนรักเพิ่งตายจากไป  จนรู้สึกเหมือนไม่อยากมีชีวิตอยู่



หลังจากถ่ายฉากของไวยากรณ์  ธีรดล  และพสุเสร็จแล้ว  ก็ถึงคราวของริว  เด็กหนุ่มมีบทสนทนากับคนรักผ่านโทรศัพท์สั้นๆ


“นี่ริวเองนะครับ...ฮัลโหล...ฮัลโหล...” 


ผู้กำกับยิ้มร่ากำลังจะสั่งคัตก็ต้องอ้าปากค้าง  เพราะริวเริ่มพูดต่อไปอีกทั้งที่ไม่มีในบท


“พี่จะไม่พูดกับริวสักคำเลยเหรอ...ริวรู้ว่าริวผิด...แต่อย่าทำแบบนี้เลยนะครับ...ริวขอร้อง...”


ปลายเสียงของเด็กหนุ่มสั่นสะท้าน  ริวก้มหน้างุด  เห็นแต่หยาดน้ำที่หยดลงจากปลายจมูก


“ซูมเข้าไปเลย  ตอนนี้แหละ” พี่พลเร่งตากล้องพลางจับตามองมอนิเตอร์เขม็ง

“บอกให้ริวเงยหน้าหน่อยสิพี่  ผมเห็นแต่ปลายจมูก” ตากล้องบอกพี่พลเสียงเบาเพราะกลัวเสียงจะหลุดเข้าไป

“ปลายจมูกก็ได้ ถ่ายตอนน้ำตาหยดไว้ทันหรือเปล่า”

“ทันครับ....”

“คัต! ริวเจ๋งมาก”  พี่พลตะโกนบอก  ก่อนจะรีบเช็คภาพอย่างเร่งด่วน  ขณะที่ช่างแต่งหน้ารีบเอาทิชชูเข้าไปส่งให้ริว


พสุอึ้ง...ไม่คิดว่าริวจะกล้าเล่นนอกบท  ตอนแรกชายหนุ่มเกือบจะเข้าไปดุริวแล้ว  แต่กลับได้ยินพี่พลกับผู้ช่วยกำลังปรึกษากันเรื่องมุมกล้อง ด้วยความพอใจ  เขาก็เลยนิ่งไว้  หลายคนเข้าไปชมริวว่าเล่นได้ดี  ซึ่งเด็กหนุ่มก็เพียงพยักหน้ารับแล้วยิ้มแหยเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าพูดอะไรออกมา  พสุเมินหน้าไปทางอื่นแม้จะรู้ว่าริวคอยมองมาที่เขาตลอดเวลา 




กว่าจะถ่ายทำเสร็จก็ค่ำ  เมื่อเรือกลับมาถึงโรงแรมก็ปาไปเกือบ3 ทุ่มแล้ว  ทุกคนรีบกินข้าวแล้วแยกย้ายกันเข้าห้อง  เพราะตอนเช้าต้องตื่นแต่เช้าเพื่อให้ทันแสงแรกของพระอาทิตย์

พสุมาถึงห้องก็ตรงเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า  เพื่อจะอาบน้ำแล้วรีบเข้านอน  แต่ริวไม่ยอม  เด็กหนุ่มตามเข้ามาขวางหน้าพสุไว้


“พี่โกรธริวเหรอครับ...”  ริวถามเสียงสั่น  ตาแดงก่ำ  น้ำตาคลอจวนเจียนจะหยดจนพสุไม่อยากสบตาด้วย

“เปล่านี่” พสุตอบแล้วพยายามจะหลีกริวไปห้องน้ำ

“ไม่ได้โกรธแล้วทำไมพี่ไม่พูดกับริวเลยล่ะ...ถ้าริวทำให้พี่โกรธ  พี่จะดุจะด่ายังไงก็ได้  ริวยอมทุกอย่าง  แต่อย่าเย็นชากับริวแบบนี้เลยนะ  ริวทรมานมากเลย...”  น้ำตาเม็ดโตๆ ไหลอาบแก้ม  ริวพูดไปร้องไห้ไปเหมือนเด็กๆ  จนพสุไม่รู้จะทำยังไง

“เรื่องแค่นี้ทำไมต้องร้องไห้” พสุถามเสียงขุ่น  แม้จะกำลังโมโห  แต่น้ำตาของริวก็ทำให้เขายั้งคำพูดไว้โดยไม่รู้ตัว

“ก็พี่ไม่พูดกับริว...”

“พี่ควรพูดอะไรเหรอ...ริวจะฟังในสิ่งที่พี่พูดหรือไง?”

“ฟังสิครับ...ไม่ว่าพี่ไผ่พูดอะไรริวก็เชื่อฟังพี่ทุกอย่างอยู่แล้ว”

“เหรอ?...แล้ววันนี้ตอนถ่ายเอ็มวีมันอะไร?  ริวทำอย่างนั้นทำไม  รู้ไหมว่าถ้าพี่พลเขาไม่พอใจขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น  งานมันจะเสียกันไปหมดเพราะริวทำอะไรไม่คิดนี่แหละ!!”

“ริวขอโทษครับ...แต่ตอนนั้นริวทนไม่ไหวจริงๆ...พี่ไผ่ยกโทษให้ริวเถอะนะ  อย่าเย็นชากับริวแบบนี้อีกเลยนะครับ”

“ค่อยคุยกันทีหลังเถอะ  ตอนนี้พี่เหนื่อยมาก  อยากพักผ่อน  เข้าใจไหมริว!” พสุเตือนเสียงหนัก  แล้วแหวกริวให้หลีกไปให้พ้นทางที่จะเข้าห้องน้ำ

“ไม่เข้าใจ...พี่ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะครับ  มีอะไรเราก็คุยกันได้ทุกเรื่องไม่ใช่เหรอ...พี่อย่าหนีหน้าริวเลยนะ”  ริวตามไปยื้อศอกพสุไว้ไม่ให้เข้าห้องน้ำ  พสุกระตุกแขนหนีการเกาะกุมของเด็กหนุ่ม  พลางถอนใจเฮือกอย่างหงุดหงิด  ชายหนุ่มเดินกลับมาที่โทรศัพท์แล้วต่อสายลงไปที่เคาน์เตอร์


“ผมขอเปิดบ้านพักส่วนตัว 1 หลังครับ...ใช่ครับผมเอง...ได้ครับ  ผมไม่เกี่ยงราคา...ผมต้องการตอนนี้เลยไม่ทราบจะสะดวกไหมครับ...ครับ...ขอบคุณครับ”  พสุหันไปแต่งตัว แล้วลากกระเป๋าออกมา  เก็บของใช้ที่วางไว้หน้ากระจกใส่กระเป๋า 

“พี่จะไปไหน?”

“ไปพักที่อื่น!  ถ้าอยู่ที่นี่แล้วนอนไม่ได้  ก็จะไปนอนที่อื่น!” พสุตอบพลางรูดซิปกระเป๋า  แล้วลากออกไปจากห้อง


......................................................








************************************
 :oni1:

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
+ 1  มาม่าอร่อยกำลังดี

แต่ไหง อ่านไปเหมือน ผัวเมียงอนกันหว่า อิ ๆ   

แสดงความเห็น ถูกใจ เมื่อ  ได้อ่านแล้ว  วินาที
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-10-2010 20:47:35 โดย PEENAT1972 »

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
อ้ายยยยยยยยยย มาม่าอ่ะ
ไผ่จ๋า น้องเค้ามีเหตุผลนะ ฟังหน่อยยยยยยยยยยยย  :sad4:

SweetSmile

  • บุคคลทั่วไป
น้องริวไปไหนทำไมไม่บอกพี่ไผ่
เห็นมั้ยพี่ไผ่เค้าโกรธแล้วนะ
เวลาไผ่โกรธเนี่ยน่ากลัวเหมือนกันเนอะ
น้องริวเข้าหน้าไม่ติดเลย
ขนาดร้องไห้ก็แล้วไผ่ก็ยังไม่หายโกรธ
ถึงกับย้ายที่พักหนีน้องริวกันเลยทีเดียว
แล้วคราวนี้ริวจะทำไงเนี่ย
จะง้อยังไงให้พี่ไผ่หายโกรธน๊า

ออฟไลน์ ChiOln

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
น้ำตาร่วงตามริว

สงสารริวมากเลย

พี่ไผ่ฟังน้องหน่อยสิ T T

ออฟไลน์ mutoo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-37
โอยยยยยยๆๆๆๆ
สงสารริวอ่ะ :m15:
พี่ไผ่ก็ค่อยๆคุยดีๆได้มะ งอนอยู่นั่น น้องมันจะรู้มั้ยเนี่ย

กรูว่างานนี้ฝีมือไอ้กรเวชแน่ๆ

ขอนะ ขอตะโกนดังๆว่า "ไม่เอาดราม่าได้ม๊ายยยย!!!"  :serius2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-10-2010 21:07:01 โดย mutoo »

bbc52

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกกกกกก

พี่ไผ่งอนน้องริวววว

อย่ามาม่าาาเยอะนะ คนอ่านอยากได้แบบหวานๆๆๆ

ออฟไลน์ yakusa

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
โอ้มาม่า   :serius2:     

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
ร้องไห้เรยอ่า
วันหลังไม่เอาแบบนี้แร้วน้า
เค้าเคียด

fOnfOn :D

  • บุคคลทั่วไป
จะเรียกว่ามันเป็นมาม่าดีมั๊ยเนี๊ย

เพราะเท่าๆ ที่อ่านมาเหมือนพี่ไผ่งอนริวที่ไปไหนไม่บอก เลยเก็บเอามาน้อยใจ

แอบเห็นด้วยที่ว่า "เหมือนผัวเมียงอนกัน"  :m20: :m20:

แต่นานๆ จะเห็นพี่ไผ่สาวแตกแบบนี้แหะ งอนที่น่ากลัวเชียว  เป็นเราริวมาทำหน้าอ้อนใกล้ๆ นี้ หุหุ :-[ คงยกโทษให้ไปแล้ว


ยังไงก็สู้ๆ นะค่ะริว ง้อพี่ไผ้ให้ได้นะคะ เราว่าริวต้องไปหาลูกพี่ดลแน่เลยอ่า ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0
พี่ไผ่   เวลาโกรธ  น่ากลัวสุดๆ ไม่ฟังอะไรเลย


จัดมาม่าไปแล้ว   ขอต่อเลยอย่าให้ค้างได้ป่ะ

ออฟไลน์ Na_RimKLonG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
กินมาม่าอิ่มแทนข้าวกันเลยทีเดียว   :serius2:

chae

  • บุคคลทั่วไป
โห..แบบนี้มันสุดยอดเลย
ความรู้สึกของคนที่โดนปฏิเสธน่ะ เจ็บมากเลย

ออฟไลน์ aeyja55

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
สงสารริวจัง  :m15: :m15:

hahn

  • บุคคลทั่วไป
ดราม่าซะงั้น จะงอนนานไหมเนี่ย แต่ ริวไปทำอะไรมาเอ่ย

ออฟไลน์ justlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :m15:ตอนนี้ซินะ มาม่าที่เคยเกริ่นไว้ ที่ผ่านมาเรื่องของไวย์ เหมือนน้ำจิ้มไปเลย



 :monkeysad:สงสารริวจัง  ตอนนี้พี่ไผ่โกรธ ดูหน้ากลัว แอบกลัวอีกด้านเหมือนกัน ตอนที่ริวโกรธ มันจะเป็นยังไง :sad11:

OhJa

  • บุคคลทั่วไป
โหยๆ พี่ไผ่ผู้แสนดี
ถึงกับออกอาการ เพราะแค่คิดว่าริวไม่ให้ความสำคัญกับตัวเองก่อนคนอื่นเนี่ยนะ
นับว่าเป็นข่าวดีได้มั้ยว่าพี่ไผ่เริ่มจะรู้สึกอะไรๆกับน้องริวแล้ว
แต่ว่า..พี่ไผ่อย่าใจร้ายกับน้องริวนักเลย สงสารน้องริว  :sad4:

chayanit

  • บุคคลทั่วไป
สงสารริวจัง   :m15: :monkeysad:

พี่ไผ่งอนน้องริวววว

ขอต่อเลยอย่าให้ค้างได้ป่ะ

Miyabi

  • บุคคลทั่วไป
พี่ไผ่งอนหนักจัง
น้องริวง้อขนาดนี้แล้ว  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
:เฮ้อ:

เง้ออออ .. แล้วริวหายไปไหนมา รีบๆเคลียร์น้า ยังไงไผ่ก็ฟังน้องหน่อยเหอะนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด