เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus  (อ่าน 2512890 ครั้ง)

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
 :z2:
มารอน้องริว กับพี่ไผ่

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก 'ไมตัดตอนค้างกันแบบเนี๊ย!!! กำลังเตลิดเลย..... :serius2:

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
 มารอจ้า  :call:

ออฟไลน์ spring

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-7
ตอนที่ 65



ปวดหัว...คอแห้งผากแสบร้อนเหมือนกลืนทรายเข้าไป...และโลกหมุนคว้างจนพสุต้องหลับตานิ่งๆ  ไม่สามารถลุกขึ้นได้ทันทีทันใดอย่างที่ใจคิด...อาการแบบนี้  ไม่ต้องหาหมอก็บอกได้ทันทีว่าเขาเมาค้างเข้าให้แล้ว 

เมื่อคืนเขาเมาขนาดไหน?...วันเกิดกรเวชเขาโดนกรอกไปหลายแก้ว  เหล้าเพียวๆ ทำเอาเขาสติหลุด...จน...


“เฮ้ย!...โอ๊ย!” พสุทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่งแล้วหัวทิ่มลงไปกับหมอนในท่าสโลว์  ปวดหัวจี๊ดเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ  ท้องไส้ปั่นป่วนจนเกือบคายของเก่า  ต้องค่อยๆ ฟุบลงไปนอนนิ่งๆ

“พี่...เป็นไงบ้างครับ  ปวดหัวเหรอ...เดี๋ยวนะ” เสียงทุ้มๆ ร้อนรนดังอยู่ข้างหู  ก่อนที่เสียงฝีเท้าจะย่ำออกไป  แล้วครู่เดียวประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาอีก  ผ้าชุบน้ำเย็นๆ ถูกเช็ดจนทั่วหน้า  ก่อนที่คอเขาจะถูกช้อนขึ้นแล้วบางอย่างเย็นๆ ก็แตะแนบลงมาบนริมฝีปาก

“กินนิดนะครับ  พี่ตะวันบอกว่าแก้เมาค้าง”

“อืม...” พสุรับคำเบาๆ  แล้วหลับหูหลับตาดื่มน้ำจากขวดที่จ่อปากเข้าไปรวดเดียวหมด  มือที่ช้อนหัวเขาถึงได้วางศีรษะเขาลงบนหมอน  ผ้าเย็นๆ ถูกวางลงบนหน้าผากอีกครั้ง


พสุฝืนลืมตาขึ้นมอง ไม่ว่าจะปวดหัวแค่ไหน  แต่เขาก็อยากเห็นหน้าริว  ดวงตาใสแจ๋วจ้องมองเขาในระยะใกล้จนพสุหน้าร้อนวาบอย่างไม่มีสาเหตุ 


“ปวดหัวมากมั๊ยครับ...กินยาแก้ปวดเอาไหมพี่”

“ไม่เป็นไรริว  อีกสักเดี๋ยวคงดีขึ้น”  พสุเค้นเสียงตอบเบาๆ  แค่ตอบริวเขาก็กระเทือนไปทั้งหัวแล้ว  ชายหนุ่มหลับตาลงแล้วรีบลืมตาขึ้นมองหน้าริวอีกครั้งเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าทำไมเขาถึงพรวดพราดลุกขึ้นจนปวดหัวจี๊ดในตอนแรก

“ริว...เมื่อคืน...เอ่อ...พี่...”  พสุอึกอัก  ละอายเกินกว่าจะกล้าถาม 

“ครับ?” สีหน้างุนงงของริวทำให้พสุพูดต่อไม่ออก  เพราะเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าฝันหรือจริง  แต่ถ้าเป็นความฝันก็เป็นฝันที่น่าละอาย  เขาฝันว่าเขาจูบริว  ไม่แค่จูบ  แต่ยังเกือบจะ...ปล้ำริวด้วยซ้ำ...ในความฝันเขาแน่ใจว่าเขาปลดปล่อยออกมา  ความสุขสมเสียวซ่านยังติดอยู่ในความรู้สึก  แต่กลับจำรายละเอียดทั้งหมดไม่ได้...

“มีอะไรเหรอครับ?” ริวถามเสียงซื่อตาใส  จนพสุรู้สึกเหมือนอาการอึดอัดในอกค่อยคลายลง


ริวเป็นเด็กโกหกไม่เป็น  เวลาคิดอะไรทุกอย่างจะแสดงออกทางสีหน้าแววตาหมด  ในเมื่อเด็กหนุ่มยังคงมีสีหน้าแจ่มใสไร้วี่แววผิดปกติอย่างนี้  ก็แปลว่าทุกสิ่งที่เขากลัวเป็นเพียงความฝันเพ้อเจ้อของเขาคนเดียว


“ช่างเถอะ...พี่นึกไม่ออกแล้วว่าจะถามอะไร” พสุบอกแล้วแอบถอนใจอย่างโล่งอก

“ครับ...พี่หิวไหม  ริวไปยกอาหารเช้ามาให้เอาไหมครับ” ริวถามแล้วแตะมือมาบนหน้าผากและสองแก้มเหมือนจะวัดไข้  พสุเกือบสะดุ้งดีว่าคุมตัวเองทัน  ชายหนุ่มพยายามข่มความรู้สึกเขินอายลงไปอย่างยากเย็น  ริวแตะต้องตัวเขาก็เป็นเรื่องปกติแท้ๆ  แต่ทำไมวันนี้เขาต้องเขินด้วย...คงเพราะฝันบ้าๆ เมื่อคืนทำให้เขาเกิดกระดากอายกับแค่สัมผัสเล็กๆ น้อยๆ ของริว

“ไม่ต้องหรอกริว ขอบคุณนะครับ...ริวล่ะ กินหรือยัง?”

“ยังครับ  ริวรอพี่” ดวงตาใสแจ๋วเป็นประกายอ่อนโยนที่จับจ้องอยู่ใกล้ๆ  ทำให้พสุวางหน้าไม่ถูก  จึงเลี่ยงด้วยการแสร้งทำเป็นกุมหัวแล้วหลับตา

“ริวไปกินก่อนนะ...พี่คงยังกินอะไรตอนนี้ไม่ได้หรอก  มีหวังออกหมดแน่”

“ริวจะรอกินพร้อมพี่”  เด็กหนุ่มตอบเสียงอ้อน  แล้วขยับเข้ามากอดเอว  วางหน้าลงบนอกของพสุทั้งที่ยังนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นข้างเตียง 

“ริวไปกินข้าวเถอะครับ  นะ...เด็กดี เชื่อพี่นะ...ตอนนี้พี่ลืมตาไม่ไหวจริงๆ  แต่พี่ไม่อยากให้ริวปวดท้อง เข้าใจไหม” พสุดุเสียงอ่อนเบา  จนฟังดูไม่น่ากลัวสักนิดแม้แต่ในความรู้สึกของคนดุเอง  ชายหนุ่มได้แต่โทษว่าเป็นเพราะเขายังเมาค้างทำให้ไม่มีแรงจะทำเสียงเข้มใส่ริว

“ครับ...งั้นเดี๋ยวริวมานะ”  ริวรับคำง่ายๆ  แล้วยกหัวออกจากอกของชายหนุ่ม

“ครับผม”  พสุตอบแล้วยิ้มทั้งที่ยังหลับตา  รู้สึกถึงน้ำหนักบนฟูกข้างตัวที่หายไป  ก่อนเสียงเปิดประตูดังขึ้นเบาๆ  ชายหนุ่มหลับตานิ่งๆอยู่ครู่หนึ่งก็รู้สึกได้ว่ามีคนเข้ามาในห้องอีกครั้ง

“เป็นไง  ยังแย่อยู่เหรอไผ่” ตะวันถามพร้อมกับทรุดลงนั่งบนที่นอนข้างตัวพสุ 

“อืม...เมื่อคืนฉันทำอะไรไปบ้างตะวัน”  พสุถามทั้งๆ ที่หลับตานิ่ง  เขาไม่เคยเมาจนขาดสติเหมือนเมื่อคืน  ยิ่งคิดก็ยิ่งละอายจนไม่กล้ามองหน้าตะวัน  เพราะกลัวจะเจอสายตาเวทนาในสภาพน่าสังเวชของเขาเมื่อคืน

“ไม่นะ  ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่านายเมา...ฉันเองก็มารู้เอาตอนเช้า  ริวไปขอยาแก้เมาค้างถึงได้รู้”

“เหรอ...เมื่อคืนเมาจนไม่รู้เรื่องเลย  ไม่รู้ทำอะไรบ้าๆ ไปบ้างหรือเปล่า” ประโยคหลังพสุบ่นพึมพำเสียงแผ่วจนตะวันเองก็ฟังไม่รู้เรื่อง

“อะไรนะ”

“เปล่า...ไม่ได้ทำอะไรประหลาดๆ ให้ขายหน้าก็ดีแล้ว”

“นายน่ะเป็นคนเมาที่สงบเสงี่ยมที่สุดแล้ว  เมื่อคืนพี่กรเมาหลับก่อนใครเพื่อนจนดลต้องแบกกลับมา  แล้วลุกมาอ้วกให้ดลเช็ดซะสองรอบ  ส่วนเจ้าไวย์  อาละวาดฟาดงวงฟาดงาซะน่าเหยียบให้จมดิน  นี่ก็นอนครางอ๋อยๆ  ปวดหัวจนลุกไม่ไหวเหมือนกัน”

“อืม” พสุตอบแล้วกดคลึงขมับเบาๆ เหมือนยังปวดหัวอยู่ทั้งที่ความจริงถ้าจะลุกขึ้นเขาก็คิดว่าคงลุกไหวแล้ว

“งั้นฉันไม่กวนแล้ว  นายหลับต่อละกัน” ตะวันบอกแล้วลุกขึ้นจนที่นอนไหวยวบ

“แต้งกิ้วตะวัน” พสุลอบถอนใจยาวเมื่อตะวันออกจากห้องไป  ได้แต่ภาวนาให้ทุกอย่างเป็นแค่ความฝัน  เพราะถ้าเขาทำอะไรริวไปจริงๆ  เขาคงละอายแก่ใจจนไม่กล้ามองหน้าน้องอีกเลย


พสุกำลังจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ ก็ได้ยินเสียงเปิดประตู  ชายหนุ่มจึงแกล้งนอนเฉยแต่แอบหรี่ตาดู  เห็นริวเดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วถอดสเวตเตอร์ออกเหลือแต่เสื้อยืดแขนสั้นข้างใน  รอยช้ำสีแดงปนเขียวขนาดใหญ่ตรงท้องแขนด้านหลังทำให้พสุเบิกตากว้าง  ก่อนจะลุกพรวดขึ้นจากที่นอนไปจับแขนเด็กหนุ่มไว้อย่างลืมตัว


“โอ๊ะ! “ ริวหลุดปากอุทานพร้อมกับสะดุ้งทั้งที่พสุแค่จับแขน  ยังไม่ได้สัมผัสโดนตรงรอยเขียวช้ำด้วยซ้ำ

“เป็นอะไรริว?”

“...ริวล้มครับ...นี่พี่ลุกมาทำไม  ยังปวดหัวอยู่ไม่ใช่เหรอครับ”

“ตั้งแต่เมื่อไหร่?  ทำไมพี่ไม่รู้?” พสุไม่สนใจในสิ่งที่ริวถาม  แต่สนใจกับรอยช้ำที่เห็นได้ชัดว่ากล้ามเนื้อบริเวณนั้นบวมปูด

“เอ่อ...ตั้งแต่...เมื่อคืนนี้ครับ” ริวตอบอึกอัก  แล้วหลบตาวูบเมื่อพสุมองหน้า

“ตอนไหน...แล้วล้มที่ไหน”

“ล้มในอ่างน้ำครับ”

“ริวไม่ใช่คนซุ่มซ่ามนี่...แล้วเมื่อคืนริวก็ไม่ได้กินเหล้าไม่ใช่เหรอ” พสุถามย้ำขณะนึกทบทวนว่าริวจะล้มตอนไหนได้  ในเมื่อก่อนไปร่วมงานวันเกิดกรเวช  ริวก็อยู่กับเขาตลอดเวลา

“เปล่าครับ”

“แล้วทำไม...” พสุชะงัก  ภาพเบลอๆ ลอยๆ ในหัว  เหมือนผุดไล่เรียงขึ้นมา...เขาพยายามจะอาบน้ำเอง...เขาปัดมือริวตอนที่เด็กหนุ่มประคอง...แต่ตัวเองกลับยืนไม่อยู่...แล้วเขาก็ล้มคว่ำลงไปโดยที่ไร้รอยขูดขีดแม้แต่นิดเดียว....

“พี่เหรอ?  เพราะพี่สินะที่ทำให้ริวเจ็บตัวขนาดนี้” พสุถามเสียงแผ่วด้วยความเสียใจ  ไม่คิดว่าตัวเองจะไร้สติจนพลอยให้ริวต้องเจ็บตัวไปด้วย

“เอ่อ...”

“ขอโทษนะครับ  พี่ไม่น่าเมาขนาดนั้นเลย” พสุเอ่ยขอโทษเสียงพร่า  รู้สึกแย่กับพฤติกรรมของตัวเองอย่างบอกไม่ถูก  ริวเจ็บ  ท่าทางจะเจ็บมากด้วย...แล้วเป็นเขาเองที่ทำให้น้องเจ็บตัว

“ช่างมันเถอะพี่  นิดเดียวเอง”

“นิดเดียวที่ไหน  ที่ตาแดงๆ ตัวรุมๆ นี่ไม่ใช่เพราะแขนอักเสบหรอกนะ?” พสุถามพลางแตะหลังมือไปบนหน้าผากและซอกคอของริว  ผิวสัมผัสอุ่นจัดกว่าปกติยืนยันได้ทันทีว่าริวมีไข้

“ไม่หรอกครับ...คือ...ก็...นิดนึง” คงเพราะสายตาคาดคั้นของพสุทำให้ริวไม่กล้าโกหก  เด็กหนุ่มก้มหน้างุดๆ เมื่อยอมรับออกมา 

“เฮ้อ! สงสัยพี่กับเหล้านี่ต้องลากันขาด  เมาแล้วทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วยนี่แย่มากๆ”

“ริวไม่ใช่คนอื่นสักหน่อย  พี่อย่าพูดอย่างนี้สิ” ริวทำเสียงงอแง  แล้วกอดเอวซุกหน้ากับบ่าของพสุ  อุณหภูมิที่ค่อนข้างสูงกว่าปกติ  ทำให้พสุกอดตอบเด็กหนุ่มด้วยความเป็นห่วง 

“พี่หมายความว่า พี่เมาแล้วขาดสติน่ะ  เฮ้อ! ขอโทษจริงๆนะครับ  เจ็บมากไหม” พสุถามแล้วลูบผมนิ่มบนไหล่เบาๆ

“ไม่เป็นไรครับ  เดี๋ยวอาบน้ำซะหน่อยก็หายไข้แล้ว”

“งั้นไปอาบน้ำ  น้ำอุ่นนะครับ  ห้ามอาบน้ำเย็นนะรู้ไหม”

“ครับ”  ริวถอนตัวจากอ้อมแขนของพสุอย่างอ้อยอิ่ง  อยากกอดไว้ให้นานกว่านี้แต่เวลานัดก็ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว  จึงทำได้เพียงยอมเข้าไปอาบน้ำตามที่พสุบอก


พสุหันไปเปิดกระเป๋า  จัดเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาวางให้ริว  แล้วหันไปเก็บข้าวของที่วางกองๆ ไว้บนโต๊ะเพื่อใส่กระเป๋า  สายตาก็เหลือบไปกระดาษสีชมพูสดใสในถังขยะที่ว่างเปล่า  ชายหนุ่มขมวดคิ้วแล้วเก็บขึ้นมาดูให้แน่ใจอีกครั้ง 

นามบัตรของโคเยจีที่เธอยื่นให้เมื่อวาน?  จะว่าริวทิ้งโดยไม่ดู  ก็ไม่น่าใช่  เพราะนิสัยริวไม่ใช่คนกระด้างขนาดนั้น  แม้ไม่ถึงกับละเอียดรอบคอบมากมาย  แต่ริวก็ไม่ใช่คนสะเพร่า


“เสร็จแล้วครับ  ตาพี่อาบ....เอ่อ...” ริวชะงัก คำพูดค้างอยู่กลางประโยคแล้วจ้องมองกระดาษในมือพสุด้วยสีหน้าคล้ายตกใจ  ก่อนจะหลบตาวูบ

“ริวทิ้งเหรอ?” พสุถามพลางโบกนามบัตรของโคเยจีไปมา

“...ครับ”

“อ้าว! ถ้าไม่อยากได้แล้วไปรับมาทำไมละ”

“...ก็...ก็ริวกลัวพี่รับ” ริวเงียบไปครู่หนึ่งก็สารภาพเสียงอ่อยๆ  คำตอบแบบไม่คาดฝันทำเอาพสุงงไปชั่วขณะ

“หืม?....หมายความว่ายังไง”

“ก็โคเยจี  เค้าชอบมาวุ่นวายกับพี่...ริวกลัวพี่จะชอบเค้า” ริวตอบแล้วทำแก้มพอง ปากยื่นเหมือนเวลาที่ถูกขัดใจ  แต่พสุหน้าร้อนวาบ  หัวใจกระตุกวูบแล้วเต้นระรัวอย่างไม่มีสาเหตุ

“ริว...โตแล้วนะครับ  ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ  ริวต้องแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันให้ได้รู้ไหม” พสุทำเสียงดุหลังจากที่นิ่งไปนาน  กว่าจะข่มอาการใจเต้นหน้าร้อนวูบๆ ของตัวเองลงได้

“...ครับ...”ริวรับคำเสียงเบาเหมือนรู้สึกผิด  จนพสุอดสงสารไม่ได้

“...พี่นึกว่าริวชอบเขาเสียอีก” หลุดปากไปแล้วพสุก็แทบจะกัดลิ้นตัวเอง  นี่เขาพูดอะไรออกไป

“หา?” ริวเงยหน้าขึ้นมามองพสุแล้วทำตาโต

“ก็เห็นเขาเข้ามาคุยกับพี่ทีไร  ริวก็เข้ามาแทรกทุกที  นึกว่ากลัวพี่แย่งจีบเสียอีก” ชายหนุ่มพยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกแปลกๆ ของตัวเอง  ด้วยการแกล้งแซวริวแทน

“เปล่าสักหน่อย  ริวไม่ได้สนใจเขาสักหน่อย” ริวตอบแล้วทำหน้าตาตื่น  เหมือนตกใจที่พสุเข้าใจผิด

“ก็ไม่ได้ว่าอะไร  ทำไมต้องโวยวายล่ะ...หึหึ”

“พี่ไผ่...อย่าหัวเราะสิ” ริวทำเสียงงอแงแล้วปราดเข้ามากอดเอวพสุ  เอาหัวไถๆ กับไหล่เขาจนชายหนุ่มหลุดขำออกมา

“หัวเราะก็ผิดอีก...เฮ้ย! ตัวอะไรเนี่ยมาไล่งับพี่...” พสุท้วงขำๆ  ไม่เข้าใจว่าเรื่องแค่นี้ทำไมถึงทำให้เขาขำมากมายนัก  ชายหนุ่มไม่ได้ต่อต้านแม้จะโดนริวงับไหล่เขาเบาๆ 

“พี่ล้อริวนี่...กัดซะเลย...งั่มๆ...” ริวทำเสียงขู่แล้วงับไปตามไหล่และแขนของพสุ  ชายหนุ่มก็ได้แต่หัวเราะ  แปลกที่อาการหนักๆ ในอกหายไปดื้อๆ  สมองโล่งโปร่งทั้งที่เขาเพิ่งหายเมาค้าง 

“เฮ้ย! พอแล้ว...เป็นหมาเหรอมากัดพี่อยู่ได้...ริ้วววว” พสุท้วงแล้วหัวเราะเหมือนคนบ้าจี้  ขำริวที่ฟัดแขนเขาไม่เลิกเหมือนลูกหมาฟัดตุ๊กตา  พอชายหนุ่มดันหน้าผากริวออกจากไหล่  เด็กหนุ่มก็เปลี่ยนเป้าหมาย  หันมาไล่งับมือที่ดันหน้าผากแทน  พสุหดมือหนี  เป็นจังหวะเดียวกับที่ริวก้มหน้าตามมาพอดี  ปากของเด็กหนุ่มหยุดก่อนถึงปากของพสุแค่นิดเดียวก่อนที่จะไถลไปบนแก้มและใบหูของเขา


ชายหนุ่มสะดุ้ง  ยืนตัวแข็งโดยอัตโนมัติ  หัวใจกระตุกเมื่อนึกถึงคืนที่ริวจูบเขาเปะปะด้วยฤทธิ์ยา


“เฮ้ย! สกปรก” พสุร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆ ริวเลียแก้มเขาแผล็บ  เด็กหนุ่มเลียหน้าเขาจริงๆ  แล้วไม่ใช่แค่ครั้งเดียวแต่หลายครั้งจนน้ำลายเปียกแก้ม

“อี๋! แหวะ  สกปรกว่ะ” พสุทำเสียงขยะแขยง  แล้วแสร้งทำเป็นเช็ดน้ำลายของริวออกแรงๆ เพื่อกลบเกลื่อนอาการร้อนวูบวาบบนใบหน้าของตัวเอง  ก่อนจะเขกหัวริวเบาๆ

“พี่ง่ะ  เขกหัวริวทำไม” ริวโวยวายแล้วหน้ามุ่ย  แต่ตาโตเป็นประกายวาววับ

“ก็ใครใช้ให้มาเลียหน้าพี่  เดี๋ยวสิวขึ้นกันพอดี”

“ก็ริวเป็นลูกหมา  ลูกหมาเลียเจ้าของ” ริวตอบหน้าตาเฉยแล้วทำท่าจะเลียหน้าเขาอีก แต่ชายหนุ่มดันคางริวไว้

“ห้ามเลีย...ไหนว่าจะเป็นโคอาล่า  ตอนนี้เปลี่ยนสัญชาติเป็นหมาซะงั้น  มันคนละสกุลกันเลยนะ” พสุพูดพร้อมกับจับแก้มริวดึงยืดจนเจ้าตัวร้องอู้  แต่ไม่ถอยหนี 

“พี่ไผ่อ่า...เจ็บน๊า” ริวโอดโอย  สองแก้มแดงเป็นรอยจนพสุต้องลูบเบาๆ เพราะรู้สึกผิดนิดหน่อยที่แกล้งหนักมือไป

“สมน้ำหน้า  ปล่อยพี่ได้แล้ว  พี่จะไปอาบน้ำ”

“ม่ายเอา  พี่ยังไม่โอ๋ริวเลย  ดึงแก้มริวเจ็บอ่า” ริวทำเสียงงอแง  แล้วกอดพสุแน่น  ซุกหน้ากับซอกคออุ่นเพื่อสูดกลิ่นหอมจากตัวพสุ 


พสุยืนหลับตานิ่ง  ซึมซับความอบอุ่นของวงแขนที่กอดรัดเขาไว้ด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด  อุ่นใจ...สุขใจ...และสบายใจ  จนเผลอกอดตอบเด็กหนุ่มแนบแน่น 

ทุกครั้งที่เขากอดริว  ชายหนุ่มมักจะรู้สึกว่าเขากำลังปลอบโยนเด็กหนุ่มเสมอ  แต่วันนี้พสุกลับรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นเขาที่ถูกปลอบ



ตึ๊ดๆๆๆๆๆๆๆ  เสียงปลุกจากโทรศัพท์มือถือที่พสุตั้งปลุกไว้  เรียกสติของชายหนุ่มกลับมา  พสุคลายอ้อมแขนออกแล้วดันตัวริวออกเบาๆ  ซึ่งเด็กหนุ่มก็ยอมให้เขาดันออกไปแต่โดยดี


“พี่จะไปอาบน้ำแล้ว  ริวตรวจดูข้าวของให้ครบนะ  อย่าเผลอวางอะไรทิ้งไว้ล่ะ”

“ครับ”


พสุถอดเสื้อคลุมออก  แล้วกวาดตาไปตามร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเอง ก่อนจะถอนใจเฮือกอย่างโล่งอก  ความมั่นใจกลับคืนมาเกือบเต็มที่เมื่อชักแน่ใจว่าความรู้สึกวาบหวิวเมื่อคืนเป็นเพียงความฝันของเขาเท่านั้น  ชายหนุ่มพยายามสลัดเรื่องน่าอายออกจากสมองแล้วรีบอาบน้ำเพื่อให้ทันเวลาออกเดินทาง

เมื่อพสุออกมาแต่งตัว  ก็พบว่าริวจัดของเสร็จแล้วแต่ยังใส่แต่เสื้อยืดตัวเดียว  เสื้อสเวตเตอร์ที่พสุจัดไว้ให้ยังวางอยู่บนเตียง  เด็กหนุ่มนั่งมองเขาแต่งตัวเงียบๆ  พอพสุแต่งตัวเสร็จริวก็เข้ามากอดเอวแล้ววางคางไว้บนไหล่ของพสุเพื่อมองสบตากันในกระจก


“พี่...พี่ใช้น้ำหอมกลิ่นเดิมนะ”

“ทำไมล่ะ  กลิ่นใหม่นี่ก็หอมดีนี่”

“ริวชอบกลิ่นเดิมอ่ะ  กลิ่นนี้ก็หอม...แต่ริวได้กลิ่นแล้วนอนไม่หลับอ่ะ” ริวทำเสียงออดๆ  แล้วทำจมูกฟุดฟิดจนพสุอดหัวเราะไม่ได้

“เอ้า! ไหงงั้น   ตกลงว่าพี่ใส่น้ำหอม  หรือริวใส่น้ำหอม”

“พี่ใส่ไง  แต่ริวเป็นคนดมนี่นา นะๆ...ใช้กลิ่นเดิมนะพี่นะ”  ทั้งๆที่คำพูดของริวก็เหมือนไม่มีอะไร แต่พสุรู้สึกหน้าร้อนวาบๆ  จนเขารำคาญตัวเอง  ว่าเขาเป็นอะไรนักหนา  หน้าถึงได้ขยันร้อนเหลือเกิน...สงสัยกลับไปต้องหาหมอเช็คประสาทบ้างแล้ว

“ก็ได้  ปล่อยพี่ก่อนสิ  น้ำหอมขวดเดิมอยู่ในกระเป๋าแน่ะ  พี่เอาของใส่กระเป๋าไปหมดแล้ว”

“ริวหยิบมาให้แล้ว  นี่ไง”  ริวล้วงขวดน้ำหอมของพสุออกมาวางบนโต๊ะ  ชายหนุ่มสบตาใสแจ๋วบนกระจกแล้วเป็นฝ่ายหลบตา  พอเขาฉีดน้ำหอมลงบนคอ  ริวก็ชะโงกมาดมแล้วพยักหน้าหงึกๆ

“ผ่านๆ  กลิ่นนี้ผ่านตลอด”

“ทะลึ่งแล้ว...ไปๆ  ไปรวมกับคนอื่นได้แล้ว...เอ๊ะ! เจ็บเหรอริว” พสุอุทานด้วยความตกใจ  เขาตบไหล่ริวหนักๆ  ลืมไปว่าไหล่ข้างนี้เป็นข้างเดียวกับแขนที่เจ็บ 


ริวยิ้มแหยๆ ให้พสุแล้วถอยออกห่างแต่พสุหันไปดึงเด็กหนุ่มกลับมาดูแขน  รอยช้ำนอกจากจะเข้มขึ้นจนเกือบเป็นสีม่วง  ยังดูเหมือนไม่ยุบบวมลงด้วยซ้ำ


“กินยาแก้อักเสบหรือยังริว...เดี๋ยวพี่เอายาให้นะ” พสุหันไปคว้ากระเป๋าเดินทางมาเปิด  แต่ริวตามมานั่งข้างๆ

“ไม่เป็นไรพี่”

“ไม่เป็นไรได้ยังไง  แค่พี่แตะแขนยังสะดุ้งขนาดนี้...ไปหาหมอกันไหม?” ชายหนุ่มถามแล้วส่งยาแก้อักเสบให้ 

“ไม่ต้องหรอกครับ  คืนนี้เราก็กลับกันแล้ว  ไว้ไปหาหมอที่เมืองไทยดีกว่า” ริวรับยาไปกินอย่างว่าง่าย  แต่ดื้อเรื่องที่จะไปหาหมอ

"แต่ถ้าอักเสบ...”

“เดี๋ยวเขาจะไปเที่ยวกันแล้ว  เราไปขึ้นรถกันดีกว่าครับ”


พสุถอนใจเฮือก  ดูท่าริวคงไม่ยอมไปหาหมอง่ายๆ แน่  พอออกมาจากห้อง  ก็พบว่ากระเป๋าของตะวันกับธีรดลมาวางรออยู่ในห้องรับแขกแล้ว  เหลือแต่ของกรเวชและไวยากรณ์ที่ตะวันกับธีรดลแทบต้องลากออกมาจากห้องทั้งคนทั้งกระเป๋าเพราะต่างยังเมาค้างจนลุกไม่ขึ้น

เมื่อลากกันออกมาข้างนอกบ้านได้  ก็พบว่ารถตู้มารออยู่ก่อนแล้ว  ตะวันกับธีรดลช่วยกันยกกระเป๋าของทุกคนขึ้นรถ  ขณะที่พสุคอยต้อนคนเมาค้างและคนเจ็บแขนขึ้นไปนั่งบนรถเช่นกัน

เสียงไวยากรณ์บ่นออดๆ ว่าปวดหัวจนไม่อยากเที่ยวไหนแล้ว  แต่มติของส่วนรวมที่จะเที่ยวปิดท้ายทริปก่อนขึ้นเครื่องกลับไปโซลทำให้เด็กหนุ่มไม่กล้าโวยวาย

แม้การมาเที่ยวครั้งนี้จะได้เที่ยวเพียงน้อยนิด  แค่ได้ดูวิวทะเลสวยๆ ตอนที่รถแล่นไปตามถนนเลียบทะเล  และสองข้างทางที่มีแต่ดอกไม้สีเหลืองสดใสจากสนามบินมายังรีสอร์ท  แต่ก็นับว่าคุ้มค่าหากเทียบกับเวลาเพียงวันเดียวที่พวกเขามี  ทำไมพวกเขาจะไม่รู้ว่าตารางงานของคิสมีแน่นแค่ไหน  หยุดงาน 1 วัน บริษัทต้องสูญเสียรายได้ไปหลายแสนบาท  แล้วยังค่าใช้จ่ายที่มาถึงเกาหลีนี่อีก  แต่เขมชาติก็ยังอุตส่าห์พาพวกเขาเที่ยวในฤดูทำงานแบบนี้  ต้องยอมรับในความมีน้ำใจของเขมชาติจริงๆ

พวกเขาแวะเรื่อยรายทาง ตั้งแต่ Mount Songak ที่หาดทรายเป็นสีดำเพราะเกิดจากหินลาวาภูเขาไฟ  ที่นี่มีเรือให้บริการดูปะการังด้วยแต่พวกเขาไม่มีเวลามากพอ  รถจึงจอดเพียงครู่เดียวก็เดินทางต่อ  ก่อนจะได้หยุดแวะชมทุ่ง Repe Seed สีเหลืองกระจ่างกว้างสุดสายตา  ทั้งคณะที่มีผู้หญิงมาคนเดียว  จึงเพียงแค่ชะลอรถ  ขับชมทุ่งสีทองนั้นไปเรื่อยๆ โดยไม่คิดจะแวะลงไปถ่ายรูปกับทุ่งดอกไม้  แล้วมุ่งตรงไปที่จุดหมายก็คือที่หน้าผาหินลาวาภูเขาไฟ Jusangjeolli เป็นลักษณะลาวาที่ไหลลงทะเลแล้วแข็งตัวกลายเป็นแท่งหิน น้ำในทะเลเป็นสีเขียวมรกตใส


“พี่ไผ่ค้าบ” พสุหันไปตามเสียงเรียกแล้วยิ้มทันทีโดยอัตโนมัติ  ริวถ่ายรูปเขาไว้แทบทุกอิริยาบถ  ก่อนที่พสุจะถ่ายรูปให้เด็กหนุ่มบ้าง  ริวหันซ้ายหันขวา  แล้ววิ่งเอามือถือไปยื่นให้ธีรดล  ก่อนจะวิ่งกลับมากอดไหล่พสุเพื่อแอ็คท่าถ่ายคู่กัน


ก่อนขึ้นรถ  ทุกคนถูกเรียกให้มาถ่ายรูปหมู่ด้วยกัน  รวมทั้งไวยากรณ์และกรเวชที่โซเซมาเข้ากล้องด้วยสภาพเหมือนภาพถ่ายติดวิญญาณไม่มีผิด  เรียกเสียงฮาให้ทุกคนยกเว้นเจ้าตัว

ออกจาก Jusangjeolli  ก็ไปยังน้ำตก Jeongbang Waterfall  เป็นน้ำตกที่ตกลงสู่ทะเลโดยตรง  นับเป็น 1 ใน 10 วิวที่สวยที่สุดของเกาะเชจู  โดยเฉพาะถ้ามองมาจากทะเล 

หลังจากหยุดชมความงามของน้ำตกและแอ็คท่าถ่ายรูปกันสนุกสนาน  ก็เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสุดท้าย  นั่นก็คือถนนซากุระ  ซึ่งกำลังมีการจัดงานเฉลิมฉลองกัน  แต่เนื่องจากหลายคนบ่นเบื่อรถเยอะ คนเยอะ  ก็เลยแวะพักกันที่ Stadium Park  ซึ่งเป็นสวนสาธารณะ  มีรถนักท่องเที่ยวจอดอยู่หลายคัน  ทั้งสองฝั่งถนนและในสวนเต็มไปด้วยต้นซากุระที่กำลังออกดอกสะพรั่ง  แน่นอนว่าคราวนี้ก็ไปแอ็คท่าถ่ายรูปกับต้นซากุระกันถ้วนหน้า  ไม่เว้นแม้แต่ทรงเผ่าหรือเขมชาติ 

ไวยากรณ์กับกรเวชที่เพิ่งฟื้นจากอาการเมาค้าง  จึงได้มีภาพถ่ายที่หน้าตาดูคล้ายๆ มนุษย์ไว้เป็นที่ระลึกการมาเที่ยวเชจูในครั้งนี้บ้าง   ก่อนที่จะโบกมืออำลาเกาะเชจูไปสนามบิน Jeju เพื่อขึ้นเครื่องไปโซล  ซึ่งกว่าจะถึงโซลก็ราว 2 ทุ่มกว่าๆ แล้ว  เขมชาติเช็คไฟล์ทแล้วก็ให้ทุกคนพักผ่อนตามสบายเพื่อรอเวลาเดินทางกลับกรุงเทพ

..................................

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
 :z13:จึ้ก

พี่ไผ่น้องริว จะได้กลับไปกินมาม่าที่ไทยแระ เอิ้กๆ  :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-01-2011 00:59:30 โดย ZakuPz »

ออฟไลน์ อิสระ

  • ถ้า add ให้กอด,ถ้า give five ให้จุ๊บ,ถ้า ment ให้เบอร์ คิคิ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-8
    • https://www.facebook.com/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-1433707443445407/?modal=admin_todo_tour
พี่ไผ่คิดแค่ฝัน
แต่หนูริวรับกำไรไปเต็มๆ
เชียร์ริวรีบศึกษาวิธีกดพี่ไผ่ให้ได้เร็วๆ
ฮิ้ววววววววววววว :mc4:

ออฟไลน์ วิหคท่องนภา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
เนียนมาก.......ทำไมไม่เปิดเผยความในใจกันซักทีน๊าาาาาา

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
...ไม่ทันใจคนอ่าน ลุ้นเหนื่อย  :serius2:
+1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-01-2011 01:27:43 โดย Little Devil »

ออฟไลน์ kabung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-3
อ่อยยยย น้องริว งื๊ออออ

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
น้องริวได้แต่เก็บความจริงที่เกิดขึ้นไว้ในใจ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ maio2000

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :sad4: พี่ไผ่จำไม่ได้ แต่งี้ก็ดีเหมือนกันกลัวพี่ไผ่จะเข้าหน้าน้องไม่ติด
แค่นี้ก็หน้าร้อนหลายรอบแล้ว แต่ไงพี่ซื่อบื่้องี้เนีย
เชียร์น้องริวหาวิธีจับกดพี่ให้ได้เลย ริวสู้ๆ

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
หึหึ
เมาค้างกันใหญ่ๆๆ
ริวเนียนได้อีก... เนียนแล้วได้กำไรก็คุ้มนะเออ :impress2:

cloundy

  • บุคคลทั่วไป
ริวเนียนมาก ดูซื่อๆ แต่แอบร้ายนะเนี่ย
พี่ไผ่ดูไม่ออกเลย  :jul3: :jul3:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
จะกลับเมืองไทยกันแล้ววววววววววววววววววววววววววว

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
"แต่วันนี้พสุกลับรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นเขาที่ถูกปลอบ"

ประโยคนี้ทำให้คิดได้ว่า พี่ไผ่น่าจะเริ่มรู้ตัวแล้ว ว่า "รับ" ฮ่าๆๆๆๆ

น้องริวทำตัวปกติได้น่าหมั่นไส้มาก!!!!
พี่ไผ่จับไม่ได้เลยนะว่าเมื่อคืนน่ะของจริง
งื้อออ กลับไทยจะมีอะไรมาเซอไพร์ส ป่ะเนี่ย
พี่ไผ่กับน้องริวกำลังน่ารักเลยอ้ะ
><

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
เนียนเนอะริว :laugh:


ไผ่รีบพาริวไปตรวจเร็วๆนะ เห็นแล้วเจ็บแทนอ่ะ ริวต้องปวดมากแน่ๆ :serius2:

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
พี่ไผ่จ๋า
มันคือความจริงเน้อ ไม่ใช่ความฝัน


ริว
ไปหาหมอเถอะนะ
ให้หมอดูแขนหน่อย

เค้ากลัว
 :sad4:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
โรแมนติกขนาดเลียหน้ากันเลย คิดดู๊ อิอิ
พี่ไผ่ ไม่ว่องไวเลย เดี๋ยวไม่ทันริวมันน๊า

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ริวเก่งจัง ทำลายหลักฐานซะเกลี้ยง ทำเอาพี่ไผ่คิดว่าฝันไป 5555

ออฟไลน์ ChiOln

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
ความรู้สึกค่อย ๆ ซึม เข้ามาทีละนิด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






hahn

  • บุคคลทั่วไป
น้องริวเนียนซะไม่มีสงสัยนับวันรอกดพี่ไผ่แน่ๆ

lasom

  • บุคคลทั่วไป
มีความสุขจังเลยรักกันๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :กอด1:

ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0
เดี๋ยวนี้ริวชักเจ้าเล่ห์นะ


พี่ไผ่ระวังตามน้องไม่ทันนะ

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
บางขณะที่วิญญาณวัยรุ่นเข้าสิง อิฉันก็รู้สึกหงุดหงิด
ที่พี่ไผ่กับน้องริวไปไม่ถึงไหนกันซะที ช้าาาาาาจั๊ง
แต่พอวิญญาณวัยรุ่นออกจากร่างก็ให้คิดได้ว่า อืม..ดีเหมือนกัน
ค่อยๆซึมทีละนิดๆ ความรักความรู้สึกนี้จะได้แนบแน่นติดตรึงถาวร ไม่คลอนแคลน
(เอิ่ม.. แต่ก็อยากเห็นอยากรับรู้ คู่นี้รักกันแบบคนรักไวไวเจ้าค่ะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-01-2011 11:48:23 โดย yayee2 »

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
พี่ไผ่ ไม่ต้องไปหาหมอหรอก  ถามริวซิว่าพี่เป็นอะไร  555

ออฟไลน์ milky way

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
 :mc4:  ดีใจจัง ไม่มีมาม่า
พี่ไผ่ดันคิดว่าฝันไป แถมยังรู้เรื่องที่คิดไปเองว่าริวชอบยัยนักร้องนั่น
ริวรุกเยอะๆเลยน่ะ เดี๋ยวพี่ก็รู้ใจตัวเองแล้วล่ะ
ดีจังได้กลับมาไทยซะที
กลับมาหวานกันที่ไทยต่อน่ะ

ปล. อ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึง พี่ น้อง คู่หนึ่ง
เราว่ามีกลิ่นอายของทั้งคู่อยู่

ออฟไลน์ Anonymus

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-1
เข้ามาหากำลังใจ......ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์นาค้าบ :pig4:
กะลังปั่นตอนจบ(มั๊ง??)...หลังจาก เพิ่งเขียน NC เสร็จไปหมาดๆ :เฮ้อ:ฟู่วววว เล่นเอาปาดเหงื่อ
การเขียน NC เป็นอะไรที่เปลืองพลัง(หื่น)มากมาย
พอมาย้อนดูเนื้อเรื่องทั้งหมด...จ๊ากกกกก  :a5: เขียนยาวเยี่ยงนี้เชียวหรือ 
เพิ่งเคยเขียนนิยายยาวๆขนาดนี้เป็นครั้งแรก 555 
อย่างที่เคยบอกไว้ตั้งแต่ต้นว่าแนวนี้ไม่เคยเขียนมาก่อน 
หากมันอืดๆ  เอื่อยๆ เรื่อยๆมาเรียงๆมากไป ก็ขออำภัยนะค้าบ
ส่วนโครงการเรื่องต่อไป...อืม.....ถามคนอ่านดีกว่าเนาะ
ถ้าเป็นแนว  เหนือธรรมชาติ  จะอ่านกันมะค้าบ
เข้ามาถามความเห็นดู  เพราะยังไงก็จะเขียน(แล้วจะถามเพื่อ? :z6:) แหะๆ ล้อเล่นนนนน
อยากอ่านแนวไหน  ลองนำเหนอกันดูนะค้าบ  เผื่อพล๊อตที่คิดไว้จะตรงใจคนอ่านบ้าง

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
เป็นกำลังใจให้ปั่นต่อค่ะ

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
มัวแต่กลัวจะมองหน้ากันไม่ติด
แล้วเมื่อไหร่จะได้รักกันซะทีคะ?
พี่ไผ่ หนูริว

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
หนูริวชักเจ้าเล่ใหญ่แล้วนะลูกอย่างงี้พี่ไผ่จะไปไหนรอด  :z1:
 :pig4: คะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด