เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus  (อ่าน 2512785 ครั้ง)

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
 :-[น่าร๊ากกก  เมื่อไหร่ไผ่จะรู้ตัวซักทีเนี่ยยย  ลุ้นๆๆๆ :z3:

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
ค่อย ๆ รุก...เดี๋ยวพี่ไผ่จะเตลิด  :z1:
ตอนนี้น้องริวทำพี่ไผ่หวั่นไหวได้แล้ว...คราวหน้าอย่าปล่อยให้ดิ้นหลุดนะ o18

zeen11

  • บุคคลทั่วไป
เดี๋ยวนี้น้องริวรุกหนักขึ้นทุกวันๆ  :haun4: :haun4: :haun4:


แต่ทำไมพี่ไผ่ไม่รู้ใจตัวเองเสียทีละเนี่ย  :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
ซะงั้น
แล้วเมื่อไหร่คู่นี้เค้าคืบหน้ามากกว่าความเป็นพี่น้องล่ะ
 :เฮ้อ:

narrybo

  • บุคคลทั่วไป
ไผ่ เริ่มรักๆๆๆ ริวแล้ว อิอิ

ออฟไลน์ aeecd

  • :: 8018 ::
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-0


แอร๊ยยยยยยส์ :-[เขิลลลลลล
อยูกันสองคนค่อยกอดเนอะ อิอิ

ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0
ริวจากเด็กใสซื่อกลายร่างเป็นเจ้าเล่ห์ตาใสได้ไงเนี่ย



พี่ไผ่มัวแต่สั่นอยู่  สู้น้องสิคะ  อย่าปล่อยให้น้องรุกอยู่ฝ่ายเดียว

eve2011

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
พสุก็สับสน ริวก็ไม่สารภาพจริงจัง จะไปรอดไหมเนี่ยยยยยยย

ปล.อลันหายไปเลยแฮะ แอบคิดถึง

ออฟไลน์ akihito

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อ๊ายยยยยยย เขินนน :o8:
น่ารักมากมายอ่าาา :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าริวจะหื่นขึ้นนะเนี่ย พี่ไผ่เมื่อไรจะรู้ตัวเนี่ย เฮ้อ :เฮ้อ:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
ริวน่ารัก ทำไมพี่ไผ่ไม่รับรักริวเสียที อิอิ สงสารน้องนา

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
พี่ไผ่ยังไม่รู้ต้วว่าโดนน้องริวที่น่ารักแอบจูบตอนหลับ
น้องริวชักจะเจ้าเล่ห์ขึ้นมาแล้ว
แต่ก็ยังน่ารักอยู่ดี

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักมากอ่ะ....
อ่านไปลุ้นไป จนรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนโรคจิตเลย...ลุ้นแบบว่าเมื่อไหร่จะได้กันจริงๆซักที  :laugh:

+1  o13

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
เข้ามารอ... :t3:

 :call: :call:

Narcissus

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามารอด้วยคน ขอให้อัพ  :call:
 :onion_asleep: :onion_asleep:

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
น้องริวน่รักจัง


illuses

  • บุคคลทั่วไป
พี่งตามอ่านทัน
ความรักแบบไม่มีเงื่อนไขของริวนี่น่ารักจริงๆ :o8:

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
คึคึ เริ่มมีใจกับน้องแล้ว    :-[

lasom

  • บุคคลทั่วไป
อิอิ พี่ไผ่ใจสั่น หวั่นไหว :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านอีกจัง

ออฟไลน์ milky way

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
ริวจ๋า ริวบอกรักพี่ได้ชนะเลิศมาก
พี่ไผ่ค่ะ ริวบอกว่ารักพี่ พี่เป็นชิวิตขิงริว
พี่เป็นทุกอย่างของริว เป็นเพื่อน พ่อ พี่
และเป็นคู่ชีวิต
อยากให้พี่เข้าใจความรู้สึกที่ริวตั้งใจจะบอก
เข้าใจเร็วๆน่ะพี่

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
หลังๆมานี่ ริวเนียนบ่อยน้าาาา
เริ่มรู้สึกสงสารพี่ไผ่ เหมือนโดนริวแกล้งเลยอ่าาา

แต่ชอบนะ พี่ไผ่เขินน่าร้ากกก

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-15
ประตู?
ริวช่างอ้อนจริงๆ :impress3:  แต่ว่านับวันยิ่งเจ้าเลห์ขึ้นทุกวัน หน้าซื่อๆ ตาใสๆ นี้ร้ายไม่เบา :laugh:

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
ไม่รู้พี่หรือน้องซื่อกว่ากัน...รอเฉลยจากไรเตอร์ :laugh3:

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
ริวเจ้าเล่ขึ่นนะเนี่ยพี่ไผ่ตามกันไม่ทันเลย o18
รู้สึกเหมือนว่า 2 คนกำลังจะยอมรับความรู้สึกตัวเองแล้วยังไงไม่รู้  :impress2:

 :pig4:คะ

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
อยู่กันสองคนสงสัยจะโดนมากกว่ากอดแน่ๆ

ออฟไลน์ spring

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-7
ตอนที่ 69





หากเป็นวงบอยแบนด์ทั่วไป  เวลาจะจ้างงานก็สามารถจ่ายค่าตัวแบบยกวงซึ่งส่วนใหญ่จะไม่สูงมากนัก  แต่ไม่ใช่คิสมี  เพราะ 5 หนุ่มของคิสมี “ขายแยก”  ได้สบายๆ  ฉะนั้นถ้าผู้จัดรายไหนอยากได้คิสมี ค่าตัวจึงเท่ากับจ้างศิลปินดังๆคราวละ 5 คน  แม้จะมีค่าตัวสูงลิบลิ่วขนาดนั้น  แต่คิวงานของคิสมีก็แน่นเสียจนหลายๆ งานต้องถูกปฏิเสธหรือขอเลื่อนออกไป 

ในบรรดา 5 หนุ่มของคิสมี  มีเพียงตะวันกับริวเท่านั้นที่ไม่รับงานเดี่ยว  สำหรับริวนั้นมีข้อยกเว้นในกรณีที่งานไหนจ้าง “คู่”  ก็คือมีพสุไปด้วย ริวถึงจะรับงาน  กอปรกับช่วงนี้เพลงคู่ของพสุกับริวกำลังมาแรงมาก  ทำให้งานคู่ค่อนข้างถี่  และละครของริวที่กำลังออกอากาศก็สร้างแฟนเพลงจากกลุ่มคนดูละครได้อีกมหาศาล

แต่ตะวันยังคงไม่รับงานเดี่ยวอยู่เช่นเดิม  ชายหนุ่มจะรับงานก็ต่อเมื่อไปยกวง และอีกข้อแม้คือ  เขาไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องส่วนตัวในทุกกรณี  แม้จะโดนสื่อมวลชนด่าแค่ไหน  ตะวันก็ยังคงยึดมั่นกับข้อแม้ของตัวเองอย่างเหนียวแน่นชนิดที่ใครก็บังคับเขาไม่ได้

วันนี้เป็นวันที่คิสมีออกงานร่วมกันทั้งวง  กรเวชจึงทำหน้าที่ดูแลศิลปินเพียงคนเดียว  เนื่องจากเป็นงานเปิดตัวเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ  ทางผู้จัดอยากให้ 5 หนุ่มช่วยโปรโมทสินค้าด้วยการเล่นเกมกับคนดู  ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเกมง่ายๆ แต่เปลืองเนื้อเปลืองตัวสักหน่อย  เพราะรางวัลนั้นเป็นการทำตามคำขอของผู้ชนะ  อาจจะโดนขอให้กอดหรือหอมแก้ม  กรเวชจึงจำเป็นต้องไปคุยให้ “เคลียร์” ในกติกาเสียก่อน  ทั้ง 5 หนุ่มจึงถูกปล่อยให้พักผ่อนในห้องรับรอง


“เป็นอะไรไป  สีหน้าไม่ดีเลย”  ตะวันถามเสียงเรียบ  หลังจากสังเกตเห็นอาการเหม่อลอยของพสุมาได้สักพัก 

“ไม่มีอะไรหรอก” พสุตอบปฏิเสธด้วยสีหน้าปกติ  แต่ประกายไหววูบในดวงตาฟ้องว่าเจ้าตัวกำลังมีปัญหา และลำบากใจที่จะพูดให้ใครฟัง

“อืม...ถ้าอยากเล่าเมื่อไหร่  ฉันก็พร้อมจะฟังนายนะ”

“แต๊งตะวัน...” พสุตอบรับหน้าเจื่อนๆ  และไม่ยอมสบตาเขาเหมือนเคย

“อืม”

“พี่ไผ่...” เสียงเรียกนำมาก่อน  ที่ร่างสูงๆ จะวิ่งปรูดมายืนชิดหลังพสุ

“นี่ๆ พี่ฟังนี่สิครับ” ริวพูดอย่างตื่นเต้นแล้วยื่นหูฟังข้างหนึ่งมาให้  พสุรับไปฟังแล้วเลิกคิ้ว  สีหน้าที่ดูไม่สบายใจเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วยความยินดีก่อนที่พสุจะหันมายิ้มกว้างให้ตะวัน

“วงเราได้รับคะแนนโหวตเป็นศิลปินสุดฮอตแห่งปี  และได้รางวัลเพลงยอดเยี่ยมด้วย...เราได้สองรางวัลเลยตะวัน” พสุบอกด้วยน้ำเสียงสดใส  รางวัลอาจไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดแต่ก็เป็นยาชูใจของคนทำเพลงทุกคนที่รู้ว่าผู้ฟังให้การยอมรับผลงานของตนเองมากแค่ไหน

“เจ๋ง” ตะวันตอบแล้วชะงักเมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นของโทรศัพท์มือถือ  ชายหนุ่มล้วงออกมากดรับโดยไม่ต้องมองหน้าจอ  เพราะคนรู้เบอร์ของเขามีแค่เพื่อนๆ ในวง  กรเวช และ...ผู้จัดการคนใหม่ของเขาเท่านั้น

“ตะวัน! คิสมีได้สองรางวัลเลยรู้หรือยัง” น้ำเสียงตื่นเต้นที่ลอดมาในสายทำให้มุมปากบางยกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

“รู้แล้ว...โทรมาเรื่องแค่นี้อะนะ” ชายหนุ่มทำเสียงเรียบๆ ติดจะรำคาญด้วยซ้ำ  แต่อีกฝ่ายก็ยังตื่นเต้นดีใจไม่เลิก

“อะไรเรื่องแค่นี้  นี่เรื่องใหญ่เลยนะ  ต้องฉลองรู้ป่ะ”

“เออน่า...” ตะวันตอบแล้วชะงักเมื่อเหลือบไปเห็นสายตาสงสัยของพสุกับริว  ชายหนุ่มรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาดื้อๆ จึงเผลอพูดเสียงห้วนไปกับปลายสาย

“แค่นี้นะจะทำงาน”

“...เอ่อ...ขอโทษนะ  ไม่รู้ว่าทำงานอยู่...งั้นแค่นี้นะ บาย” น้ำเสียงหงอยๆ ของคนปลายสายทำให้ชายหนุ่มรู้สึกไม่สบายใจ  แต่ตะวันก็ยังคงเก็บความรู้สึกนั้นไว้ภายใต้สีหน้าเรียบเฉย 

“ริว...พี่อยากกินน้ำกีวี  ริวไปซื้อให้พี่หน่อยสิ  ตู้ขายน้ำอยู่ข้างๆ ห้องนี่แหละ”

“ครับ” ริวรับคำแล้วลุกออกไปอย่างรวดเร็ว

“ทีหลังเวลาเขิน  นิ่งเสียบ้างก็ได้นะ” พสุบอกยิ้มๆ ตาเป็นประกายวาววับล้อเลียน

“อะไร...” ตะวันถามเสียงห้วนแทบเป็นกระชาก  หากเป็นคนอื่นคงไม่กล้าพูดอะไรอีก  แต่ไม่ใช่กับพสุ

“ก็ไม่อะไร...แต่จะไม่โทรไปหาสักหน่อยเหรอ  ป่านนี้น้อยใจแล้วมั้ง”

“ไม่ใช่เรื่อง...” ตะวันทำเสียงขุ่น หน้าบึ้ง  แต่โหนกแก้มเป็นสีระเรื่อ  ชายหนุ่มลุกพรวดแล้วเดินออกไปจากห้องสวนกับริวที่เดินถือกระป๋องน้ำหน้าเหรอหรามาให้พสุ

“พี่ตะวันโกรธอะไรเหรอครับ”

“พี่ไปกระตุกหนวดเสือเข้าน่ะ” พสุตอบยิ้มๆ แล้วรับน้ำผลไม้ทั้งสองกระป๋องมาเปิดยื่นให้ริวก่อนด้วยความเคยชิน

“ยังไงครับ?”  ริวจิบน้ำไปจ้องหน้าพสุไปด้วยความสงสัย

“ก็....ไม่มีอะไร” พสุตอบยิ้มๆ  แล้วยกน้ำผลไม้ขึ้นดื่มรวดเดียวหมด  ริวแม้จะยังข้องใจ  แต่เมื่อพสุไม่พูดเด็กหนุ่มก็ไม่คิดจะซักถามเพราะนี่เป็นเรื่องของตะวัน  ไม่ใช่เรื่องของพสุ  เด็กหนุ่มจึงเลิกใส่ใจเพียงเท่านั้น

“พี่...ค่ำนี้ริวต้องเข้าออฟฟิศ  พี่ไปกับริวนะ”

“เพลงยังไม่เรียบร้อยเหรอ?”

“อีกนิดหน่อยครับ  พี่เผ่าอยากให้มันสมบูรณ์แบบกว่านี้”

“ก็เอาสิ”

“ขอบคุณครับ” ริวตอบแล้วขยับเข้ามาใกล้จนพสุชะงัก นึกว่าเด็กหนุ่มจะเข้ามากอด  แต่ริวเพียงแค่เอาหูฟังมาใส่ให้เขาอีกข้าง  เพื่อให้ฟังเพลงใหม่ที่เพิ่งแต่งทำนองเสร็จเท่านั้น  แม้ริวจะไม่ได้กอดเขาตามที่เคยรับปากไว้  แต่เด็กหนุ่มก็ป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ตัวไม่ยอมห่าง


...................................................................


พอกลับมาถึงบ้านพัก  ทุกคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน  พสุสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงอ้อมแขนที่โอบรัดรอบตัวเขาแน่นทันทีที่ประตูห้องนอนปิดลง


“อะ...อะไรริว”  พสุถามเสียงพร่า  ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าพออยู่กันตามลำพังริวต้องเข้ามากอดเขาแน่ๆ

“ริวอยากกอดพี่ใจจะขาด” ริวบอกเสียงเบา  แล้วซุกหน้าไว้กับต้นคอเขา  ลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดซอกคอทำให้พสุร้อนวาบไปทั้งตัว  ชายหนุ่มพยายามจะดึงแขนที่โอบรอบเอวออกแต่ริวไม่ยอมปล่อยง่ายๆ

“ปล่อยเถอะ  พี่อึดอัด  อยากอาบน้ำ” พสุปรามเสียงเรียบทั้งที่ในใจปั่นป่วนราวกับมีพายุ 

“ไม่เอา” ริวปฏิเสธทันควันแล้วกอดรัดชายหนุ่มแน่นกว่าเดิม

“เดี๋ยวจะต้องเข้าออฟฟิศไม่ใช่เหรอ  รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่า” ชายหนุ่มรีบยกเรื่องงานขึ้นมาอ้าง เพราะดูจะเป็นเหตุผลที่ดีที่สุดในเวลานี้

“เดี๋ยวก่อนได้ไหม  ริวยังได้กอดพี่นิดเดียวเอง” ริวทำเสียงอ้อนแบบที่เคยใช้ได้ผลมาตลอด  แต่ไม่ใช่กับครั้งนี้...

“ไม่ได้  ไปเร็วๆ  ไปอาบน้ำ” พสุทำเสียงดุแกมเอ็นดู  ก่อนจะปลดแขนริวออกจากเอวได้สำเร็จแล้วดันหลังให้เด็กหนุ่มกลับไปอาบน้ำที่ห้องตัวเอง

“ก็ได้...อาบน้ำแล้วริวกอดพี่ใหม่ได้ไหม?”

“ไปอาบน้ำ”


ริวยังไม่วายต่อรอง  แต่โดนดุสำทับจึงได้แต่หน้าจ๋อย


“ครับ”


พอไล่เด็กหนุ่มกลับไปอาบน้ำห้องตัวเองได้พสุก็รีบเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเช่นกัน  ทั้งที่เขาคิดว่าใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำน้อยกว่าปกติแล้วแท้ๆ  แต่เมื่อออกจากห้องน้ำก็พบว่าริวมานอนรออยู่บนเตียงแล้ว  พอเห็นหน้าเขา  เด็กหนุ่มก็ลุกปราดเข้ามากอดเขาไว้แน่น


“ริว! จะกอดพี่ทำไมนักหนา” พสุทำเสียงแข็งแล้วปลดแขนริวออกพร้อมกับเดินหนีแต่ริวตามมายึดแขนเขาไว้แน่น

“ทำไมล่ะ  ริวกอดพี่ไม่ได้เหรอ?”

“ก็พี่อึดอัด” พสุตอบแล้วไม่กล้ามองหน้าริว  กลัวว่าตัวเองจะใจอ่อนอีก

“แต่พี่สัญญากับริวเองนะ  ว่าถ้าอยู่กันลำพังสองคน   พี่จะไม่ห้ามไม่ให้ริวกอดพี่”

“แต่...”พสุอึกอัก  เพราะเขารับปากริวไปอย่างนั้นจริงๆ

“ไม่รู้แหละ  ริวจะกอด” ไม่แค่เถียงแต่ริวยังโถมเข้ากอดแรงจนพสุหงายหลังล้มลงไปบนที่นอน  ชายหนุ่มขยับจะลุกขึ้นเป็นจังหวะเดียวกับที่ริวก้มหน้าตามลงมา  ใบหน้าของทั้งคู่จึงหยุดอยู่ห่างกันเพียงนิดเดียวเท่านั้น  พสุขยับจะถอยแต่ริวกลับแนบปากจมูกตามติดมาบนแก้มเขา!


“ริวทำอะไร!” พสุเอ็ดแกมอุทานด้วยความตกใจ  แม้ริวจะทำอาการเหมือนยื่นหน้ามาชนแก้มเขาแล้วถอยห่างก็ตาม  แต่พสุก็ไม่คิดว่าสิ่งนี้จะเป็นเรื่องปกติธรรมดาอีกต่อไป

“ทำไมล่ะ...ทีพี่ยังจูบริวได้เลย” คำตอบเสียงซื่อตาใสของคนตรงหน้า  ทำให้พสุนอนตะลึง  ตัวชาวาบด้วยความตกใจ

“ริวรักพี่นะ  ทำไมริวจะจูบพี่ไม่ได้” ริวถามซ้ำแล้วแนบใบหน้าลงบนอกของพสุหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข


พสุดันไหล่เด็กหนุ่มออกห่างแล้วรีบลุกขึ้นนั่งเผชิญหน้ากับริวด้วยสีหน้าซีดเผือด


“ตะ...ตั้งแต่เมื่อไหร่” ชายหนุ่มถามละล่ำละลัก  ขณะที่คนฟังจ้องเขาตาแป๋วอย่างงุนงง

“อะไรครับ”

“พี่ไป..จะ...จูบริวตั้งแต่เมื่อไหร่?” พสุถามเสียงพร่ารู้สึกถึงเหงื่อเย็นๆไหลตามแผ่นหลัง 

“ก็...ตอนที่ไปเกาหลี พี่ก็จูบริว  แล้วเมื่อคืนพี่ก็จูบริวนะ  ถึงริวจะหลับๆ ตื่นๆ แต่ริวก็รู้สึก”  ริวอธิบายแล้วส่งยิ้มให้พสุ  พลางขยับเข้ามาหาขณะที่พสุนั่งตัวแข็งค้าง  หมายความว่าที่ผ่านมาริวรู้ตัวมาตลอดว่าโดนเขาจูบ...

“ริวรู้!”

“ครับ...ริวชอบ  เวลาพี่จูบริวอุ่นดีออก  ริวชอบ ริวมีความสุขมากๆ เลย”


ริวตอบแล้วยิ้มแป้น ดวงตากลมโตไร้เดียงสาเป็นประกายวาววับด้วยความสุข  ราวกับกำลังพูดเรื่องขนมของโปรด  หรืออะไรสักอย่าง  ไม่ใช่เรื่องช็อกความรู้สึกจนพสุพูดไม่ออกอย่างตอนนี้


“ทำไมพี่ทำหน้าอย่างนั้นล่ะ  พี่โกรธริวเหรอ?” ริวถามแล้วจ้องหน้าพสุด้วยสายตางุนงงแกมเป็นกังวล

“ริว...มันไม่ใช่เรื่องดีเลยนะ...มัน...คือตอนนั้น...เอ่อ...พี่...”พสุพูดไม่ออก  ความรู้สึกผิดและละอายถาโถมเข้ามาจนเหมือนในลำคอจุกแน่นไปหมด  เขาจะบอกกับริวว่ายังไงดี...

“ไม่ดีตรงไหน  ก็ริวรักพี่  พี่ก็รักริว”

“แบบน้อง!” พสุตอบสวนทันควันดังแทบเป็นตะโกน  จนเด็กหนุ่มสะดุ้ง  หน้าตาเหรอหราด้วยความตกใจ

“ฮื่อ...ก็แล้วทำไมพี่จะจูบริวไม่ได้ล่ะ”

“ริว ผู้ชายน่ะเขาไม่...” พสุพูดไม่ออก  ถ้าเขาบอกริวว่าผู้ชายกับผู้ชายจูบกันมันไม่ใช่เรื่องปกติวิสัย  แล้วริวจะคิดกับเขายังไง  เพราะเขาเองที่เป็นคนไปจูบเด็กหนุ่ม  เขาประมาทเกินไปที่คิดว่าริวจำไม่ได้  น้องจำได้  แต่เพราะความไร้เดียงสาทำให้ริวไม่รู้สึกว่านั่นคือสิ่งผิดแปลกแต่อย่างใด  พสุมัวแต่หาเหตุผลมาอธิบายกับริว  จึงไม่ทันระวังเมื่อเด็กหนุ่มจู่โจมจูบเขาอีกครั้ง

“ริว!” พสุอุทานแล้วรีบดันใบหน้าของเด็กหนุ่มออก  เมื่อรู้ตัวว่าโดนริวจูบ  ถึงจะแค่เอาปากมาชนปากเขาก็ตาม 

“ทำไมล่ะ  พี่ยังจูบริวได้เลย  ริวก็อยากจูบพี่เหมือนกัน” ริวถามด้วยสีหน้างุนงง  เหมือนไม่เข้าใจว่าพสุผลักเขาออกห่างทำไม

“ก็ตอนนั้นพี่เมา” พสุแก้ตัวเสียงสั่น  พยายามถอยหนีแต่ริวก็ขยับตัวตามติด

“แต่เมื่อคืนพี่ไม่ได้เมา”

“พี่ก็แค่ละเมอ” พสุเถียงเสียงห้วนขึ้นเรื่อยๆ  จนริวชะงัก  นั่งมองหน้าเขานิ่ง

“แล้วถ้าไม่เมา ไม่ละเมอพี่จะไม่จูบริวเหรอ?”


สีหน้าไร้เดียงสานั้นทำให้พสุยิ่งรู้สึกละอายแกมโมโหตัวเอง  จนเผลอโพล่งออกมาเสียงดัง


“ถ้ามีสติใครจะไปทำบ้าๆ แบบนั้น!”


ริวหน้าเสีย  เด็กหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่งจ้องหน้าพสุด้วยน้ำตาคลอเบ้า


“ริวไม่เข้าใจ  ทำไมพี่จูบริวได้ แต่ริวจูบพี่ถึงกลายเป็นว่าริวทำเรื่องบ้าๆ”  ริวถามเสียงสั่น  แต่กลับยิ่งเป็นการตอกย้ำความผิดพลาดให้พสุยิ่งรู้สึกรังเกียจตัวเองจนกลายเป็นความโกรธ

“มันไม่ใช่แค่นั้นริว  ผู้ชายกับผู้ชายเขาไม่จูบกันหรอก  มันผิดปกติ!...มันเป็นเรื่องน่ารังเกียจ  น่าอาย  ริวเข้าใจไหม!” เผลอตวาดออกไปแล้วพสุก็อยากจะกัดลิ้นตัวเอง  เมื่อเห็นหยาดน้ำใสๆ ร่วงผล็อยจากตาโต  สายตาที่มองเขาทั้งตัดพ้อ  น้อยใจ  และเสียใจจนพสุทำอะไรไม่ถูก

“ริว...คือพี่...”

“ริวไม่รู้ว่าพี่รังเกียจริว...ขอโทษครับ” ริวผุดลุกขึ้นแล้วผลุนผลันออกไปจากห้อง 


พสุลุกจะตามไปแต่ขากลับก้าวไม่ออกดื้อๆ  เขาจะบอกกับริวว่ายังไง  จะอธิบายอะไรกับน้องดี  ทุกอย่างไม่ใช่ความผิดริว  แต่เป็นความผิดของเขาเอง  เขาเป็นคนเริ่ม  เป็นคนไปจูบน้อง  ริวไร้เดียงสาขนาดนั้นย่อมไม่เข้าใจเป็นธรรมดาว่านั่นเป็นเรื่องผิดปกติ  เขาเป็นคนทำให้ริวเข้าใจผิดแล้วเขาก็ยังเป็นคนทำร้ายความรู้สึกริวซ้ำอีก

พสุตัดสินใจตามไปหาริวที่ห้อง  ยังไงเสียคืนนี้เขาก็ต้องอธิบายทุกอย่างให้ริวเข้าใจ  แม้ว่าต่อไปเขากับริวจะมองหน้ากันไม่สนิทเหมือนเดิม  แต่พสุก็เชื่อว่าความผูกพันที่พวกเขามีให้กันมาตลอด  จะทำให้ริวยอมรับฟังเหตุผลเขาได้บ้าง


“ริว...ริว...เปิดประตูหน่อย  พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”  พสุเคาะห้องอยู่ครู่ใหญ่กลับไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา  ชายหนุ่มจึงลองหมุนลูกบิดก็พบว่าห้องไม่ได้ล็อค

“ริว...” พสุเรียกซ้ำแล้วหันไปเปิดไฟเพราะเห็นว่าไม่มีคนตอบ  ก็พบว่าริวไม่ได้อยู่ในห้อง  ชายหนุ่มเดินไปดูในห้องน้ำก็ไม่พบจึงปิดไฟแล้วเดินออกมายืนคว้างอยู่หน้าห้อง 


มืดค่ำป่านนี้แล้วริวจะไปไหนได้...พอคิดว่าริวจะหายไป พสุก็สะดุ้งใจหายวาบด้วยความตกใจ  คราวที่แล้วเพราะน้อยใจเขา  ริวก็ออกไปเดินคนเดียวทั้งที่ไม่รู้จักถนนหนทางในเกาหลีจนไปถูกตำรวจจับ  แม้ตอนนี้จะอยู่เมืองไทย  แต่เขาก็ไม่รู้ว่าริวจะเตลิดไปถึงไหน 

พสุวิ่งกลับไปที่ห้อง  หยิบกระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถ  ขณะที่เดินลงไปที่รถก็โทรหาริวไปด้วย  แต่เด็กหนุ่มไม่รับสาย


“รับสิริว...รับสิ  ปัดโธ่ริว!” พสุสบถเบาๆ ด้วยความร้อนใจ  เป็นจังหวะเดียวกับที่ตะวันเดินขึ้นบันไดสวนมาพอดี

“มีอะไรไผ่”

“นายเห็นริวบ้างไหมตะวัน”

“เห็น...ก็ทำงานอยู่กับพี่เผ่า” ตะวันตอบรับด้วยสีหน้างุนงง

“อะไรนะ...บ้าจริง! ลืมไปได้ไงเนี่ย” พสุอุทานแล้วถอนใจเฮือกอย่างโล่งอก  เขาลืมไปเลยว่าทรงเผ่านัดริวเข้าไปห้องอัด  ชายหนุ่มทรุดลงนั่งบนขั้นบันไดแล้วลูบหน้าที่มีแต่เหงื่อพลางถอนใจยาวซ้ำอีกที

“ทะเลาะกันเหรอไผ่” ตะวันหยุดยืนมองกิริยานั้นแล้วถามคำถามที่ทำเอาพสุเกือบสะดุ้ง

“ทำไมนายถามแบบนั้น” พสุถามเสียงแผ่ว  แต่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับตะวัน

“สีหน้าริวไม่ดีเลย  ดูท่าทางเหม่อๆ ด้วย  ถามอะไรก็ไม่พูด”

“...........................” คำตอบของตะวันยิ่งทำให้พสุรู้สึกแย่กว่าเดิมจนพูดอะไรไม่ออก  เพราะรู้ดีแก่ใจว่าใครทำให้ริวเป็นแบบนั้น

“ฉันว่านายรีบคุยกันให้เคลียร์ดีกว่า  บอกตรงๆ ว่าเห็นสีหน้าริวแล้วฉันไม่สบายใจ”

“อืม...” พสุรับคำแล้วถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนจะกลับเข้าห้อง  ชายหนุ่มลังเลที่จะตามริวไปที่ออฟฟิศ  เขาเกรงว่าถ้าเห็นหน้าเขาริวอาจจะไม่มีสมาธิทำงาน  หรือไม่ถ้าริวเกิดงอแงขึ้นมาก็อาจจะกลายเป็นว่าไปทะเลาะกันให้คนอื่นรู้เห็นเปล่าๆ...ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับริว  มันน่าละอายเกินกว่าที่จะให้ใครมารับรู้  เขาต้องแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเอง  และต้องรีบแก้ให้เร็วที่สุดด้วย


เกือบตี 2  ทรงเผ่าถึงได้ขับรถพาริวมาส่ง  พสุนอนไม่หลับจึงลงไปเปิดประตูรับทันทีที่ได้ยินเสียงบีบแตรเรียก

พอเห็นว่าคนมาเปิดประตูเป็นเขา  ริวก็ชะงักแล้วเดินเลี่ยงเข้าบ้านไปโดยไม่มองหน้าพสุสักนิดเดียว  ยิ่งทำให้พสุใจหาย  ริวไม่เคยเมินเขา  ไม่ว่าเขาจะดุแรงสักแค่ไหน  อย่างมากเด็กหนุ่มก็ร้องไห้  และพยายามจะพูดคุยกับเขาให้ได้  แต่คราวนี้ริวกลับหลบเขา  แม้แต่หน้าก็ไม่ยอมมอง ทำให้ยิ่งร้อนใจอยากตามไปคุยให้รู้เรื่อง  แต่ชายหนุ่มก็ต้องหยุดสนทนากับทรงเผ่าที่อุตส่าห์พาริวมาส่งถึงบ้าน
   

“ขอบคุณมากครับพี่เผ่าที่พาริวมาส่ง” พสุยกมือไหว้ทรงเผ่า  พยายามควบคุมกิริยาให้สงบทั้งที่ใจแล่นตามริวขึ้นไปนานแล้ว

“ไผ่ดูน้องหน่อยนะ  สงสัยจะไม่สบาย” ทรงเผ่าบอกเสียงเรียบแต่สายตาที่มองเข้าไปในบ้านดูกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“ริวเป็นอะไรครับ?” พสุถามเสียงร้อนรนด้วยความเป็นห่วง 

“ก็เมื่อกี้  กำลังทำงานอยู่ก็วิ่งไปอาเจียน  ให้กลับมาพักก็ไม่ยอมมา  จนอาเจียนอีกรอบ  พี่ก็เลยลากกลับมานี่แหละ...ถ้ายังอาเจียนอีกพี่ว่าต้องไปโรงพยาบาลแล้วล่ะ  อาจจะอาหารเป็นพิษก็ได้”

“ขอบคุณครับพี่เผ่า  งั้นเดี๋ยวผมไปดูริวก่อน” พสุยอมเสียมารยาทด้วยการไม่เชิญอีกฝ่ายเข้าบ้านด้วยซ้ำ  ตอนนี้เขาเป็นห่วงริวจนแทบจะทิ้งทรงเผ่าไว้คนเดียวแล้ว

“ไปเถอะ” ทรงเผ่าตอบรับอย่างเข้าใจก่อนจะหันกลับไปที่รถ  พสุปิดประตูแล้ววิ่งขึ้นไปชั้นบนทันที

“ริว...ริว...เปิดประตูให้พี่หน่อย”พสุเคาะประตูเรียกอยู่หลายรอบ  แต่ริวก็ไม่ขานรับ  ชายหนุ่มพ่นลมหายใจพรวดด้วยความร้อนใจ  หากไม่ติดว่าตอนนี้ดึกมากแล้วเขาคงโทรไปถามหากุญแจสำรองจากแม่บ้าน  พสุหันรีหันขวางอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจโทรหาริว  ตอนแรกเขาคิดว่าริวจะไม่รับสาย  แต่สุดท้ายเด็กหนุ่มก็รับโทรศัพท์จนได้

“ครับ” น้ำเสียงเบาๆ ที่ลอดมาตามสายทำให้พสุใจชื้นขึ้นมาทันที  อย่างน้อยริวก็ยังไม่เป็นอะไร

“ริวครับ เปิดประตูให้พี่หน่อย” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน  อยากให้ริวรู้ว่าเขาอยากคุยด้วยจริงๆ

“ริวจะนอนแล้ว” เสียงสั่นเครือที่มาตามสายทำให้พสุใจหายวูบ  น้องอาจจะ...ร้องไห้...

“ริว  พี่ว่า...” ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะยกเหตุผลมาอ้างให้ริวเปิดประตู เด็กหนุ่มก็พูดตัดบทขึ้นมาเสียก่อน

“ริวเหนื่อย”


น้ำเสียงเศร้าๆ นั้น  ทั้งอ่อนล้าและน้อยใจจนพสุยังรู้สึกได้  ชายหนุ่มยืนนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ  ไม่รู้จะทำยังไงให้ริวยอมเปิดประตูให้เขาเข้าไป


“เอ่อ...พี่เผ่าบอกพี่ว่าริวไม่สบาย  ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม” พสุถามซ้ำด้วยความเป็นห่วง  เขาไม่รู้ว่าทำไมริวถึงอาเจียน  อาจจะเจ็บป่วยหรืออาจจะเพราะ...เขา  ไม่ว่าจะสาเหตุไหน  ก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆอยู่ดี

“...ครับ” ริวรับคำเบาๆ  หลังจากเงียบไปนานจนพสุเกือบถอดใจ

“งั้นก็นอนพักเถอะ  ถ้ามีอะไรก็โทรหาพี่  หรือไม่ก็มาเรียกพี่ก็ได้นะ” พสุปลอบด้วยน้ำเสียงนุ่มเบา  รู้สึกได้ว่าตอนนี้ริวคงไม่ยอมให้เขาเข้าไปแน่ๆ 

“ครับ” ริวรับคำแค่นั้นแล้วตัดสายไปดื้อๆ 


พสุจ้องมองประตูห้องของเด็กหนุ่มด้วยความกังวล  ไม่ว่าจะด้วยความน้อยใจหรืออะไร  แต่เขาก็ไม่ต้องการกดดันให้ริวยิ่งเครียดไปมากกว่านี้ จึงยอมถอยแต่โดยดี


……………………………………………

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

พี่ไผ่ใจร้ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :sad4: :sad4: :sad4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-01-2011 00:20:38 โดย samsoon@doll »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด