เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus  (อ่าน 2512758 ครั้ง)

ออฟไลน์ aeecd

  • :: 8018 ::
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-0

อะไรเนี่ยเมื่อไรจะผ่านพ้นช่วงนี้ไปสักที
 :o12:

ออฟไลน์ milky way

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
ทุกอย่างต้องดีขึ้นแน่นอน
แต่เมื่อพี่ไผ่รู้ความจริง
คงไม่มีมาม่า ชามที่ห้าที่หกอีกน่ะค่ะ

CIndY59

  • บุคคลทั่วไป
ขอให้ตอนต่อไปไม่มาม่านะค่ะ

สงสารพี่ไผ่จะแย่แล้ว เหลือเพียงน้องริวอยู่คนเดียวแล้ว :m15:

ถ้ารู้ความจริง หวังว่าพี่ไผ่จะไม่โกรธน้า น้องริวเขาทำไปเพราะรัก

ปล.อลันเป็นทุกอย่างจริงๆ คนอะไรยังกับซุปเปอร์แมน

ออฟไลน์ Anonymus

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-1
อ้างถึง
"เคี่ยว" ขับเคี่ยว, เคี่ยวเข็ญ
ใช้ "เขี้ยว" น่าจะถูกกว่า (เช่น เขี้ยวลากดิน, เขี้ยวเล็บ)

ขอบคุณค้าบ  จริงๆคนตรวจก็ท้วงมาแล้ว  แต่อิป้าคนแต่งดื้อ จะใช้คำนี้

แหะๆ  สงสัยจะเข้าใจความหมายผิดจริงๆ  เดี๋ยวจะรีบไปแก้ค้าบ

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
ขอให้เรื่องไม่ดีหมดไปซักที
ต่อไปเจอแต่เรื่องดี ๆ นะไผ่

 :pig4: คะ

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
อลันสุดยอดจริงๆ ไวมั่ก  o13

ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0
ป้าคนแต่งคะ  จะให้พี่ไผ่ผอมไปไหน   จะเหลือแต่กระดูกแล้วนะ

แล้วจะเอาแรงที่ไหนไปกดน้องริวอ่ะ

CIndY59

  • บุคคลทั่วไป
ป้าคนแต่งคะ  จะให้พี่ไผ่ผอมไปไหน   จะเหลือแต่กระดูกแล้วนะ

แล้วจะเอาแรงที่ไหนไปกดน้องริวอ่ะ

ก็ผอมให้น้องริวกดสิ >///<

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
หวังว่าเมื่อไผ่ได้รู้ความจริงจากทนายแล้วว่า ใครดำเนินการเรื่องหนี้สินของพ่อ
ไผ่คงไม่เอาแต่อารมณ์เป็นที่ตั้ง แล้วก็มัวแต่มีทิฐิและความหยิ่งในศักดิ์ศรี จนโกรธริวนะ
อยากให้ไผ่มองความรักอันยิ่งใหญ่ที่ริวมีให้ไผ่มากกว่าน่ะ

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
เฮ้อ หมดทุกข์หมดโศกซะทีนะพี่ไผ่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nut_ml

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
รอตอนต่อไปฮับ ^^

konmaidee

  • บุคคลทั่วไป
รออ่านตอนต่อไปนะครับ  :m15: :m15: :call:

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
แก้วยังมองออกเลย แล้วเมื่อไรพี่ริวจะมองไผ่ออกละเนี่ย ตามลุ้นต่อไปจ้า

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
ยังไม่ได้อ่านซักตอนเลยค่ะ แต่มาเม้นไว้ก่อน  :z2:
ลืมส่งทางเมลล์ให้เราหรือเปล่าคะ? :m16: :m16:

ออฟไลน์ spring

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-7
ตอนที่ 84




วันรุ่งขึ้นหลังจากเก็บกระดูกบิดาแล้วนำเถ้าถ่านไปโปรยไว้ที่วัดที่เดียวกับมารดาเรียบร้อยแล้ว  พสุก็ตัดสินใจไปหาทนายสุจริตที่บริษัท  โดยมีริวขับรถไปให้เหมือนเคย  แต่เด็กหนุ่มนั่งรออยู่ข้างนอกตอนที่พสุเข้าไปคุยกับทนายสุจริตในห้องทำงาน


“นี่เป็นเอกสารข้อมูลทั้งหมดที่ผมได้รับมอบหมายมา...แล้วก็ในซองนี้...เป็นหนังสือสัญญาของคุณพรเทพกับคู่กรณีทั้งหมดที่เคลียร์ไปเรียบร้อยหมดแล้ว”


พสุเปิดดูเอกสารต่างๆ  และฟังทนายสุจริตพูดถึงข้อเสียเปรียบมากมายที่บิดาของเขาโดนเอารัดเอาเปรียบจากบรรดาเจ้าหนี้  และเพื่อนร่วมหุ้นทุกคน   ชายหนุ่มเห็นตัวเลขของแต่ละสัญญาแล้วหนาวยะเยือก  ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีใครให้คนอื่นกู้ยืมโดยไร้ทรัพย์สินค้ำประกันด้วยวงเงินที่สูงขนาดนี้ได้  นับว่าบิดาของเขาเป็นคนที่มีเครดิตดีอย่างเหลือเชื่อ มิน่าถึงได้มีหนี้สินนับร้อยล้านทั้งยังกลายเป็นผู้เซ็นค้ำประกันให้ใครต่อใครจนหนี้พอกพูนไว้ขนาดนี้


“คุณสุจริตครับ...แล้ว...คนที่เคลียร์หนี้สินทั้งหมดนี่ให้ผมละครับ...เขาเป็นใคร?”


ทนายสุจริตมองหน้าพสุนิ่งไปเล็กน้อย  ก่อนจะหยิบเอกสารอีกชุดยื่นให้พสุดู  ชายหนุ่มกวาดตาดูเอกสารการโอนเงินเข้าบัญชีทนายสุจริตแล้วสะดุดนิ่งจนแทบลืมหายใจเมื่อเห็นชื่อเจ้าของบัญชี  “ริว  เกรสัน”


“เป็นไปไม่ได้...” พสุหลุดเสียงครางออกมาด้วยความตกใจ  ชายหนุ่มนั่งนิ่งอึ้งด้วยความงุนงง  เขาไม่เข้าใจว่าทำไมริวถึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้  และที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ  ริวไปเอาเงินพวกนี้มาจากไหน...

“เอ่อ...คุณสุจริตพอจะสรุปยอดรวมได้มั๊ยครับ  ว่าจริงๆแล้วผมเป็นหนี้ เอ่อ...อยู่เท่าไหร่” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงที่ยังพร่านิดๆ  หลังจากรวบรวมสติได้

“ครับ...เฉพาะเงินสดที่ชำระเรียบร้อยแล้ว 178 ล้าน 6 แสนบาทครับ  แต่ในส่วนของธนาคารที่คุณพรเทพทำการกู้ร่วมกับเพื่อนๆ นั้น  คดียังอยู่ในชั้นศาล  คงต้องรอให้ศาลตัดสินก่อนนะครับ  ซึ่งดูจากรูปคดีแล้วก็คาดว่าคงต้องชำระอีกประมาณ 15  ล้านบาท  เฉพาะในส่วนของคุณพรเทพครับ”


พสุยกมือเย็นเฉียบขึ้นลูบหน้า...เขามีหนี้สิน 178 ล้านกว่าๆ  ยังไม่นับส่วนที่ยังไม่ได้ชำระอีกประมาณ 15 ล้าน  นี่เขาจะไปหาเงินจำนวนมหาศาลนี้มาจากไหน?


“ขอบคุณมากครับคุณสุจริต...แล้ว..ผมจะขอสำเนาเอกสารพวกนี้กลับไปได้มั๊ยครับ”

“ได้ครับ  สักครู่นะครับ”  ทนายสุจริตเรียกเลขาเข้ามารับเอกสารออกไป  ครู่เดียวพสุก็ได้สำเนาของเอกสารทั้งหมด รวมถึงใบโอนเงินจากบัญชีริวด้วย  ชายหนุ่มลาทนายสุจริตออกมาข้างนอกแล้วชะงักเมื่อเห็นหน้าริว

“พี่...เป็นไงบ้าง...มีอะไรหรือเปล่า?” ริวเข้ามาถามทันทีอย่างร้อนใจเพราะเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของพสุ


พสุเม้มปากนิ่ง  วูบแรกที่เห็นดวงตาใสแจ๋วคือความโกรธ...โกรธที่ริวทำเหมือนเขาเป็นหัวหลักหัวตอ  อยากรู้ว่าริว จะบอกความจริงเขาเมื่อไหร่เรื่องหนี้สินที่ริวออกรับหน้าแทนทั้งหมดนี้...


“เดี๋ยวไปคุยกันในรถ” พสุบอกเสียงเรียบแล้วเดินนำลิ่วออกมาขึ้นรถ  ริววิ่งตามมาติดๆ  เด็กหนุ่มคอยเหลือบมองหน้าพสุมาตลอดทางแต่พสุไม่มีอารมณ์จะพูดด้วย  เพราะเกรงว่าหากเขาพูดอะไรไปตอนนี้  จะต้องกลายเป็นการทะเลาะกันอย่างแน่นอน

“พี่ครับ...ถึงบ้านแล้ว...พี่มีเรื่องอะไรเหรอ  บอกริวได้มั๊ย?”

“พี่ขออยู่คนเดียวสักพักนะริว...” พสุไม่ตอบคำถามแต่เลือกจะหลบไปใช้เวลาคิดคนเดียวเงียบๆ

“แต่...”

“พี่ขออยู่คนเดียว!” พสุตวาดแล้วชะงักเมื่อเห็นเด็กหนุ่มสะดุ้ง  สีหน้างุนงง ค่อยๆกลายเป็นซีดสลดเหมือนลูกหมาหงอยทำให้พสุได้สติ  ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึกแล้วเดินหนีเข้าห้อง  ก่อนที่เขาจะพูดจารุนแรงไปมากกว่านี้


ชายหนุ่มอ่านเอกสารทุกแผ่นอย่างละเอียด  ซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายเที่ยว  ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกเครียดจนปวดมวนในท้องไปหมด  ชายหนุ่มหยุดสายตาไว้ที่ชื่อเจ้าของบัญชีที่โอนเงินมาเคลียร์หนี้สินให้เขา  ก่อนจะสอดเอกสารทั้งหมดลงในซอง  แล้วทิ้งตัวลงนอนมองเพดานด้วยความสับสน...

เขาไม่คิดว่าเด็กแบบริวจะรู้เรื่องธุรกิจ  และยิ่งแน่ใจว่าริวไม่รู้จักทนายสุจริต  ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น  ใครคือคนที่จัดการติดต่อทนายสุจริตแทนริว...พสุนึกทบทวนไปถึงบริษัทที่ทนายสุจริตอ้างว่าเป็นผู้ติดต่อมา....R.Corporation เป็นใคร?  เกี่ยวข้องอะไรกับริว  ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียดจนต้องลุกวิ่งเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำ  ชายหนุ่มอาเจียนออกมาเป็นน้ำใสๆ  เพียงเล็กน้อย  แต่อาการปวดจุกในท้องรุนแรงจนต้องกลับไปทิ้งตัวลงบนเตียงครู่หนึ่งถึงลุกไหว

พสุเพิ่งสำนึกว่าวันนี้เขาแทบไม่ได้กินอะไรเลยตลอดทั้งวัน  แล้วถ้าเขาไม่ได้กิน  ริวก็คงไม่ได้กินเช่นกัน  เพราะเด็กหนุ่มคอยอยู่ดูแลเขาตลอดเวลา  ป่านนี้ริวอาจจะปวดท้องเหมือนเขาอยู่ก็ได้  

พสุตัดสินใจออกมาจากห้อง  เสียงเปียโนจากห้องนั่งเล่นทำให้พสุรู้ได้ทันทีว่าริวอยู่ที่ไหน  เด็กหนุ่มนั่งเหม่ออยู่ที่เปียโน  เสียงไล่โน้ตถี่บ้างห่างบ้าง  ฟังยังไงก็ไม่เป็นเพลง  เหมือนริวแค่เอาเสียงเป็นเพื่อนมากกว่าจะเล่นจริงจัง


“ริว...กินข้าวหรือยัง”


พอหันมาเห็นพสุเด็กหนุ่มก็วิ่งเข้ามาหา  แล้วทำท่าจะกอด  แต่พสุกลับดันไหล่กว้างไว้

“กินข้าวแล้วหรือยัง?” พสุถามซ้ำ  ทำไม่เห็นใบหน้าซีดสลดของเด็กหนุ่ม

“ยังครับ  ริวรอพี่” ริวตอบแล้วมองพสุตาละห้อย  อยากรู้ว่าทำไมพสุถึงทำหมางเมินด้วย

“งั้นไปกินข้าวกัน  ป่านนี้พี่แมวคงตั้งโต๊ะไว้ให้แล้ว”

“พี่...พี่โกรธอะไรริวเหรอ  ริวทำอะไรผิดอีกแล้วใช่มั๊ย?” น้ำเสียงสั่นสะท้าน  และหยาดน้ำเอ่อคลอเต็มตาโตๆ ทำให้พสุใจไหวยวบด้วยความเสียใจ  ชายหนุ่มละมือจากไหล่กว้างเอื้อมจะไปลูบหัวเด็กหนุ่ม  แต่กลับหยุดชะงักแล้วลดมือลงข้างตัวแทน  ริวมองตามมือพสุแล้วใจหายวูบ  แน่ใจว่าพสุคงโกรธเขามากจริงๆ
    
“ไปกินข้าวก่อน  ส่วนเรื่องอื่นเดี๋ยวค่อยคุยกัน”

“...ครับ” ริวรับคำหงอยๆ  แล้วเดินตามเขาไปที่โต๊ะอาหารแต่โดยดี


แม้ร่างกายจะต้องการอาหารแค่ไหนก็ตาม  แต่เอาเข้าจริงๆ  ทั้งพสุและริวต่างก็กินไม่ลงทั้งคู่  ริวเขี่ยข้าวไปมาแล้วคอยชำเลืองมองพสุตลอดเวลา  พอเห็นพสุวางช้อนเด็กหนุ่มก็หยุดกินทันที  

พสุลุกกลับเข้าไปในห้องนอนเพื่อหยิบเอกสาร  แต่ริวเดินตามเข้ามาติดๆ  ชายหนุ่มจึงยื่นเอกสารการโอนเงินให้ริว  เด็กหนุ่มรับไปดูแล้วชะงัก  หน้าเสีย  ก่อนจะเงยขึ้นมองหน้าพสุด้วยสายตาหวาดหวั่น


“พี่...ริว...ริวเอ่อ...”

“จะบอกพี่เมื่อไหร่ริว...พี่ควรรู้เรื่องนี้เมื่อไหร่?” พสุถามเสียงเรียบ  แต่ดวงตาไหวระริกด้วยความผิดหวัง

“เอ่อ...ริว...ริวแค่ไม่อยากเห็นพี่เป็นทุกข์”

“ริวก็เลยมาใช้หนี้ให้พี่เสียเอง...ริวเอาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหน...จากญาติที่อเมริกาใช่มั๊ย?” พสุคาดคั้นด้วยน้ำเสียงขมขื่น  ลำพังแค่ริวเขาก็เจ็บใจจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว  นี่กลายเป็นว่าญาติของริวก็พลอยมารับรู้ไปด้วยว่าเขามีหนี้สินมากมายและไม่มีปัญญาจะชดใช้ด้วยตัวเอง

“เปล่านะ  นั่นเงินริวเอง...ริวไม่ได้เอาของใครมา  ทั้งหมดนั่นเป็นเงินที่ริวหามาได้เอง  ไม่ใช่เงินคนอื่น”

“...พี่เพิ่งรู้ว่าริวมีเงินส่วนตัวมากขนาดนั้น...” พสุทำเสียงเย็น  ไม่ใช่ไม่เชื่อริวแต่เขากำลังหยันตัวเอง

“พี่ไผ่ครับ...เงินริวก็เหมือนเงินพี่  ทำไมพี่ต้องคิดมากด้วย” ริวถามด้วยน้ำเสียงสั่นเบา  แล้วเอื้อมมือมาหาจับแขนพสุ

“ไม่เหมือนหรอกริว  เงินนั่นเป็นเงินของริว  ไม่ใช่ของพี่...แล้วหนี้สินพวกนี้ก็เป็นเรื่องของพี่กับพ่อพี่  ไม่ใช่เรื่องที่ริวควรจะก้าวก่าย”  น้ำเสียงเย็นชาของพสุทำให้มือที่แตะอยู่บนแขนเขาหลุดผล็อย  ริวทอดสายตาผิดหวัง  เสียใจ มองพสุนิ่งงันอยู่นานกว่าจะตั้งคำถามเสียงแผ่ว

“...พี่เคยบอกว่าริวเป็นน้องคนสำคัญไม่ใช่เหรอ...แล้วพ่อพี่ไม่ใช่พ่อริวเหรอ...ริวไม่ใช่คนในครอบครัวอีกแล้วเหรอครับ...ริวก็แค่อยากเห็นพี่มีความสุข...ไม่อยากเห็นพี่ต้องเสียใจอีก...ริวไม่รู้ว่าทำแบบนี้แล้วก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของพี่...ริวขอโทษนะครับ”


พสุสะอึกกับคำพูดของริว  แววตาตัดพ้อน้อยใจของน้องทำให้เขารู้สึกเกลียดตัวเองอย่างบอกไม่ถูก...เพียงเพราะเขาไม่มีปัญญาใช้หนี้ให้บิดา  พอริวก้าวเข้ามาแก้ปัญหานี้ให้  ความรู้สึกที่เหมือนตัวเองด้อยคุณค่าทำให้เขาพาลใส่ริว อย่างไร้เหตุผลที่สุด...

ความรู้สึกละอายแก่ใจทำให้พสุมองหน้าริวไม่ได้อีก  ชายหนุ่มหันรีหันขวาง  ก่อนจะเดินเร็วไปคว้ากุญแจรถกับกระเป๋าสะพายแล้วรีบร้อนออกจากบ้านไปโดยไม่ฟังเสียงเรียกของริว...นาทีนี้  เขาขอเวลาอยู่คนเดียวเงียบๆ  เพื่อให้หัวเย็นลงกว่านี้อีกสักหน่อย...พสุขับรถไปเรื่อยๆ  ในหัววนเวียนอยู่แต่เรื่องแม่  เรื่องพ่อ เรื่องหนี้สิน และเรื่องของริว......



เอี๊ยดดดดดดดด...



พสุเหยียบเบรกเต็มแรงเมื่อจู่ๆรถแท็กซี่คันหนึ่งก็เลี้ยวพรวดออกมาจากซอย  ชายหนุ่มได้ยินเสียงเบรกลั่นถนนจากด้านหลัง  พอเหลือบไปมองก็เห็นแท็กซี่อีกคันจ่ออยู่ที่ท้ายรถ  และคนขับชะโงกออกมาด่าเขา  จึงเปิดประตูออกไปยกมือไหว้เพื่อขอโทษ  ทำให้แท็กซี่อารมณ์ร้อนคนนั้นคลายความโมโห  ชายหนุ่มกำลังจะกลับเข้ารถเมื่อเหลือบไปเห็นรถของริว  เขาไม่รู้ว่าริวตามเขามาด้วย  แต่เขายังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับริวในเวลานี้  

ชายหนุ่มกลับขึ้นรถแล้วขับหนีริว แต่ไม่ว่าจะลัดเลาะเข้าซอยโน้นออกซอยนี้  ริวก็ยังขับตามเขามาอย่างกระชั้นชิด  พสุคิดหาหนทางจนสมองหมุนจี๋  ก่อนจะตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าไปในผับชื่อดังของถนนบันเทิงเส้นนี้...ผับชั้นสูง  ราคาแพงลิบลิ่วแน่นอนว่าย่อมมีระบบรักษาความปลอดภัยชั้นยอดและ...ไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้า

ริวจอดรถแล้วรีบวิ่งตามพสุเข้าไป  แต่กลับถูกการ์ดหน้าประตูกั้นไว้


“ขอดูบัตรประชาชนด้วยครับ...อายุไม่ถึง20ปี  เข้าไม่ได้นะครับ”

“ผมไม่ได้มาเที่ยว  ผมแค่มาตามพี่...ผมตามพี่พสุมาครับ”

“ผมทราบครับว่าคุณเป็นใคร  แต่ที่นี่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีห้ามเข้า...ขออภัยนะครับ”


ริวหน้าเสีย  ได้แต่ยืนละล้าละลัง  ไม่รู้จะทำยังไง  


“ริวนี่!  ริว คิสมีใช่มั๊ยจ๊ะ” เสียงทักจากด้านหลังทำให้ริวต้องหันกลับไปมอง  ผู้หญิงสามคนแต่งกายด้วยชุดที่เปิดมากกว่าปิดทั้งบนและล่าง  จ้องเขาตาโต แล้วพากันกรี๊ดเบาๆ เมื่อจำเขาได้

“...ครับ”

“ต๊าย! ตัวจริงหล่อจัง...ว่าแต่มาทำอะไรที่นี่จ๊ะหนุ่มน้อย  อายุยังไม่ถึงไม่ใช่เหรอ”

“ที่นี่ไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 เข้านะจ๊ะ”

“แล้วนี่มากับใครเหรอ...หรือว่าคิสมีมาเที่ยวที่นี่!”


ริวชะงักเมื่อเห็นพวกเธอหันไปสบตากันด้วยท่าทางดีอกดีใจ  เด็กหนุ่มเม้มปากนิ่งก่อนจะเดินเร็วๆ กลับมาที่รถ  พสุกำลังโกรธ  ไม่แน่ว่าอาจจะกินเหล้าก็ได้  พสุไม่ใช่นักดื่มอาจจะเมาง่ายๆ  แล้วผับนี้มีแต่ผู้หญิงสวยๆ เข้าออกเป็นว่าเล่น...ริวนิ่วหน้าด้วยความร้อนใจ  ก่อนจะตัดสินใจโทรขอความช่วยเหลือ...

พสุถอนใจเฮือกยาว  ตอนแรกเขาอาจจะโกรธที่ริวทำอะไรไปโดยพลการ  แต่เมื่อมีเวลาได้คิดทบทวน  เขาก็ยิ่งละอายแก่ใจ  ที่ผ่านมาริวแสดงให้รู้อยู่ตลอดเวลาว่าให้ความสำคัญกับเขาขนาดไหน  ไม่ว่าเขาจะมีปัญหาอะไรเด็กหนุ่มก็พร้อมจะเคียงข้างและเผชิญหน้าทุกอย่างแทนถ้าทำได้  เขาน่าจะรู้อยู่แล้วว่าถ้าเขาเจอกับปัญหารุมเร้าขนาดนี้  มีหรือที่ริว จะทนอยู่เฉยๆ ได้  ซึ่งถ้าเดาไม่ผิด  คนที่ช่วยติดต่อทนายสุจริตให้น่าจะเป็นผู้ปกครองของริว  เด็กหนุ่มคงโทรไปขอความช่วยเหลือ  แล้วทางโน้นก็ติดต่อทนายให้... แม้ริวจะยืนยันว่านั่นเป็นเงินของตัวเอง  แต่ผู้ปกครองของริวจะมองเขายังไง  อาจคิดว่าเขาหลอกใช้ความสนิทสนมของริวหาผลประโยชน์ให้ตัวเองหรือเปล่า...

จู่ๆ เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามก็มีคนทรุดลงนั่ง  พสุเงยขึ้นสบตาคนนั่งตรงข้ามแล้วชะงักไปอย่างคาดไม่ถึง


“นายมาทำอะไรที่นี่ตะวัน?”

“ริวโทรตามฉันให้มาดูนาย...น้องห่วงนายมากนะไผ่”


พสุเม้มปาก  แล้วหลบตาตะวัน  ก่อนจะกระดกยกเหล้าขึ้นดื่มติดๆ กันหลายแก้ว  จนตะวันต้องคว้าข้อมือเขาไว้


“นายเป็นอะไรไป...มีเรื่องหนักหนาจนบอกใครไม่ได้เลยเชียวเหรอไผ่?” น้ำเสียงเรียบนิ่งเหมือนจะเย็นชา  แต่พสุรู้ดีว่าตะวันห่วงเขาแค่ไหน  ไม่อย่างนั้นตะวันคงไม่มาหาเขาถึงที่นี่

“...บางเรื่อง  มันก็ยากเกินกว่าจะบอกใครได้นะตะวัน”

“เหล้าไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรเลย  นายก็รู้”

“ฉันรู้...แต่ฉันหมดแรงแล้ว...ขอฉันลืมปัญหาทุกอย่างไปสักคืนก็ยังดี...แค่ตอนนี้เท่านั้น...”


ตะวันปล่อยข้อมือที่เขาจับไว้  แล้วทิ้งตัวลงในความหนานุ่มของโซฟา  เพื่อจับตาดูพสุกระดกเหล้าเข้าปากติดๆ กันอีกหลายแก้วต่อไปเงียบๆ  จนพสุเอนตัวพับไปกับเก้าอี้นวมตอนเกือบเที่ยงคืน  ตะวันถึงตัดสินใจโทรหาริว  สัญญาณรอสายดังเพียงครั้งเดียวริวก็กดรับทันที แปลว่าเด็กหนุ่มคงรอเขาอย่างใจจดใจจ่อแล้ว


“พี่กำลังจะพาไผ่กลับไปส่งแล้วนะ”

“ผมยังรออยู่ครับ   เดี๋ยวผมพาพี่ไผ่กลับเอง”

“อ้าว! งั้นรอสักครู่  เดี๋ยวพี่ออกไป”  ตะวันหันไปเรียกบริกรมาเก็บเงิน   แล้วประคองพสุเดินโซเซออกไปข้างนอก  ริวปราดเข้ามาช่วยประคองพสุไปขึ้นรถ  แล้วส่งกุญแจรถของตัวเองให้ตะวัน

“พี่ขับรถริวกลับละกันครับ”

“ไม่เป็นไร  เดี๋ยวพี่กลับแท็กซี่ก็ได้”

“ไม่ได้หรอกครับ  ริวโทรตามพี่มา  จะให้พี่กลับแท็กซี่ได้ยังไง  พี่เอารถริวไปนะครับ  แล้วทิ้งไว้ที่บริษัทก็ได้  ริวค่อยไปเอาวันหลัง” พอริวยืนยันแบบนั้นตะวันก็จำต้องรับกุญแจรถไว้เพราะไม่อยากอ้อยอิ่งอยู่หน้าผับนานนัก  ริวยังอายุไม่ถึง 20  ถ้ามีนักข่าวมาเห็นอาจกลายเป็นข่าวได้  ยังดีหรอกที่ริวเอารถคันซีดานมาแทนที่จะเป็นคันสปอร์ต  ไม่อย่างนั้นคงสะดุดตาคนมากกว่านี้

“อืม...ก็ได้  งั้นเดี๋ยวพี่จะเอารถไว้ที่บ้านพักละกัน  ริวก็ไปเอากุญแจที่พี่จันนะ”

“ครับ”  ริวรับคำแล้วขับรถพาพสุกลับบ้าน  ขณะที่ตะวันเองก็ขับรถของริวกลับไปออฟฟิศ

“...ขอโทษนะริว...พี่ขอโทษ...ขอโทษ...” น้ำเสียงแผ่วๆ ของพสุทำให้ริวหันกลับไปมองเพราะฟังไม่ถนัดว่าชายหนุ่มพูดอะไร  พสุนอนตาปรือปรอยอยู่บนเบาะที่ปรับเอนจนแทบเป็นนอนราบ  แต่ขยับตัวไม่ได้มากนักเพราะติดเข็มขัดนิรภัย

“ขอโทษทำไมครับ” ริวถามเพื่อขอคำยืนยันจากพสุ  ทั้งที่พอจะคาดเดาได้ว่าพสุหมายถึงเรื่องอะไร  

“ขอโทษที่พี่ตวาดริว...ทั้งที่ริวหวังดีกับพี่แท้ๆ...ขอโทษนะ...ขอโทษจริงๆ” พสุพึมพำขอโทษแล้วหลับตาลงเพราะมึนหัว  แต่มือป่ายเปะปะหาที่ปลดล็อคเข็มขัดนิรภัย

“อย่าขอโทษเลยครับ  พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย  ริววุ่นวายมากไปจริงๆ”

“วุ่นวายเหรอ...ถ้าทั้งหมดที่ริวทำให้พี่ คือความวุ่นวาย...แล้วสิ่งที่พี่ทำกับริวจะเรียกว่าอะไรดี...หึหึ...นั่นสิ...เรียกว่าอาราย...” พสุถามเสียงแผ่วแล้วหัวเราะเบาๆ หยันตัวเองทั้งที่ยังไม่ลืมตา


เสียงหัวเราะขมขื่นของพสุทำให้ริวตัดสินใจชะลอรถแล้วจอดชิดไหล่ทาง  ก่อนจะชะโงกเข้าไปมองใบหน้าในเงาสลัวรางให้ถนัด  จนได้กลิ่นแอลกอฮอล์กรุ่นจากลมหายใจของพสุ


“พี่ไม่ต้องรู้สึกผิดกับริว  ริวรักพี่  ริวยินดีแล้วก็เต็มใจจะทำทุกอย่างให้พี่...แค่ได้อยู่ข้างๆ พี่  ริวก็พอใจแล้ว”


พสุลืมตาขึ้นมองริวแล้วพยายามจะยันตัวเองลุกขึ้นแต่ติดเข็มขัดนิรภัย  ทำให้ต้องทรุดจมลงในเบาะอย่างเดิมเพราะเมาเกินกว่าจะปลดเข็มขัดเองได้


“...พี่เป็นพี่ที่แย่ที่สุด...ช่ายไผ่  แกมันแย่!..แย่!” พสุตะโกนแล้วตบบนเบาะข้างตัวแรงๆ  แต่ริวคว้าข้อมือชายหนุ่มไว้เสียก่อน  

“หึหึ...อันธพาล!  งี่เง่า...พี่มันงี่เง่าทำตัวเป็นเด็กขี้อิจฉา...เรื่องพ่อตัวเองแท้ๆ  แต่กลับไม่มีปัญญาจัดการกับหนี้สินของพ่อด้วยตัวเอง  พอริวมาแก้ปัญหาทุกอย่างให้  แทนที่จะสำนึก...พี่กลับพาลโกรธริวเพราะเสียหน้า...เพราะอาย...ช่างเป็นคนที่น่าสมเพชจริงๆ...ไอ้คนน่าสมเพช!” พสุด่าตัวเองด้วยน้ำเสียงติดจะอ้อแอ้เพราะความเมา  


ริวรวบมือของพสุมากุมไว้กับอกด้วยมือข้างหนึ่ง  อีกข้างก็ลูบเหงื่อออกจากใบหน้าของชายหนุ่ม  แล้วเสยผมเปียกชื้นไปข้างหลังก่อนจะก้มลงจูบบนหน้าผากร้อนที่เปียกเหงื่อชื้นแผ่วเบา  เด็กหนุ่มไล้ริมฝีปากจากหน้าผากลงมาบนแก้มอุ่นระอุแล้วกระซิบข้างหูพสุด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน


“พี่อย่าว่าตัวเองแบบนี้อีกนะครับ...ริวมีความสุขที่ได้ทำอะไรให้พี่บ้าง  ริวอยากดูแลพี่  อยากเห็นพี่มีความสุข  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ริวอยากให้พี่รู้ว่าพี่ยังมีริวนะครับ...ริวรักพี่นะ...ริวรักพี่ที่สุดในโลก  พี่เป็นทุกอย่างในชีวิตของริวนะครับ”


พสุถอนหายใจยาวจนแทบเป็นสะอื้น  ในสมองที่มึนงงสับสนด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์พยายามจะคิดตามที่ริวพูด  แต่สิ่งเดียวที่ยังหลงเหลือในสติพร่าเลือนคือคำว่า ‘รัก’

เพราะ ‘รัก’ สินะ  ริวถึงทุ่มเททุกอย่าง  คอยอยู่ข้างๆเขาตลอดเวลา  ในยามที่ต้องสูญเสียแม่และพ่อไป  เขาเคยคิดว่าตัวเองคงแตกสลายไปแล้วด้วยความเจ็บปวดหากไม่เพราะมีอ้อมแขนอบอุ่นคอยประคองไว้  

พสุสะท้านด้วยรู้สึกหนาวเยือกเมื่ออ้อมแขนที่โอบรอบตัวเขาหายไป  ชายหนุ่มพยายามจะไขว่คว้าไว้  แต่ฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็พรากเอาสติสัมปชัญญะไปเสียก่อน...............


................................................................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2011 21:32:41 โดย spring »

ออฟไลน์ imac

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
เอาใจช่วยทั้งไผ่และริวนะครับ....

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ไผ่รู้ริวช่วยจ่ายหนี้แทนให้ แต่ยังไม่รู้ความจริงทั้งหมด
ทำไมต้องว่าริวใหน้องเสียใจด้วย
ไผ่ยังไงก็ช่วยทำใจยอมรับความรู้สึกของริวสักที
ว่าริวทั้งรักทั้งห่วงไผ่มากที่สุด
อยากให้อลันมาหาริวนจริงๆ

annis204

  • บุคคลทั่วไป
เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์พรากเอาสติสัมปชัญญะของพสุไปแต่ แต่...
แต่คนเขียนเนี่ยพรากเอาหัวใจของเดี๊ยนไปแล้วค่ะ มันใกล้แล้วใช่มั้ยค่ะ
วันที่เดี๊ยนรอคอย แล้วกว่าจะเข้าเล้าได้เนี่ย มันช่างยากเย็นเสียเหลือเกิ๊น
วันที่น้องริวจะได้ฟีเจอริ่งกับพี่ไผ่ตัวตัว

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
เฮ้อ มีตังค์เยอะ ก็ทุกข์

ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
พายุเริ่มจะสงบแล้ว

วันสดใสรอพี่ไผ่กับริวอยู่ :กอด1:



ปล. เข้าเล้าได้แล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ :laugh: :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






hahn

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อไหร่จะสิ้นสุดเรื่องวุ่นวายซะทีนะ สงสารทั้งคู่จัง

ออฟไลน์ lomekung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1

ออฟไลน์ EunJin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
พี่ไผ่อย่าโกรธหนูริวเลยนะ..... อยากเห็นสองคนนี้ใจตรงกันมากๆๆค่ะ

ออฟไลน์ eastwind

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-4
กว่าจะเข้ามาในเล้าได้ ยากเย็นจริงๆ
ดูเหมือนความสัมพันธ์คงใกล้จะคืบหน้ากว่าเดิมแล้วใช่มะ :o8:

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
บรรยากาศเหมือนจะเริ่มดี
+1

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
ตึงเครียด  :sad2:
แต่อย่างน้อยพี่ไผ่็รู้ความจริงแล้วก็ดีกว่าแหละนะ

ออฟไลน์ Anonymus

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-1
อ้างถึง
ยังไม่ได้อ่านซักตอนเลยค่ะ แต่มาเม้นไว้ก่อน  
ลืมส่งทางเมลล์ให้เราหรือเปล่าคะ?


ไม่ลืมหรอกค่ะ  แต่นิยายมันอยู่ในคอมอีกตัว  ตอนนี้ใช้โน้ตบุ๊คอยู่  ก็เลยยังไม่ได้ส่งให้สักที

อ้างถึง
เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์พรากเอาสติสัมปชัญญะของพสุไปแต่ แต่...
แต่คนเขียนเนี่ยพรากเอาหัวใจของเดี๊ยนไปแล้วค่ะ มันใกล้แล้วใช่มั้ยค่ะ
วันที่เดี๊ยนรอคอย แล้วกว่าจะเข้าเล้าได้เนี่ย มันช่างยากเย็นเสียเหลือเกิ๊น
วันที่น้องริวจะได้ฟีเจอริ่งกับพี่ไผ่ตัวตัว


อิอิ  อุ๊อุ๊ :z2: ลั๊ลลา ลั๊ลลา

aekporamai2

  • บุคคลทั่วไป
เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์พรากเอาสติสัมปชัญญะของพสุไปแต่ แต่...
แต่คนเขียนเนี่ยพรากเอาหัวใจของเดี๊ยนไปแล้วค่ะ มันใกล้แล้วใช่มั้ยค่ะ
วันที่เดี๊ยนรอคอย แล้วกว่าจะเข้าเล้าได้เนี่ย มันช่างยากเย็นเสียเหลือเกิ๊น
วันที่น้องริวจะได้ฟีเจอริ่งกับพี่ไผ่ตัวตัว


กดบวกให้ดังๆๆ

mimirin

  • บุคคลทั่วไป
อย่าเพิ่งปล่อยมือซี่ น้องริว  กำลังได้มู้ดเชียว  เห็นป่ะ  พี่ไผ่คว้าแห้วเลย  

เกือบเกิดปัญหาใหญ่ซะแล้ว แต่ทุกอย่างก็ลงเอยด้วยดี  เพราะการหันหน้าคุยกัน

อย่าลืมกลับไปนอนกอดพี่ไผ่แน่นๆล่ะ  ชดเชย "อ้อมกอด" ของวันนี้   :กอด1:

ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0
คุยกันตอนเมาเนี่ยตื่นมาจะจำได้หรือป่าวอ่ะ


อยากโกรธกันให้ขมเลยนะ  หันมาหวานกันไว้ดีกว่า :monkeysad:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด