เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus  (อ่าน 2512817 ครั้ง)

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2

mimirin

  • บุคคลทั่วไป
แหม๊  อยากจับมาเขกกระโหลกสักที  เจ้าเด็กตีสองหน้าเก่งเอ๊ยยยย 555

ในที่สุดก็ผ่านด่านสุดท้ายได้แล้ว...... จัดเตรียมงานแต่งได้เลยพรรคพวก

SweetSmile

  • บุคคลทั่วไป
น้องริวขี้อ้อนจริงจริ๊ง
พี่ไผ่เริ่มทำใจได้แระ
กับความสัมพันธ์กับน้องริว
ตอนนี้เริ่มไม่อายอลันแล้ว
เริ่มเป็นไปในทิศทางที่ดี ^^


ออฟไลน์ LimousinX9

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 229
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ต่อจากนี้จะมีดราม่าอีกรึเปล่าหน่อ รู้สึกหวาดๆไงไม่รู้ฮาๆ o22

ออฟไลน์ oilzii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0

ออฟไลน์ mana_ai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
รออ่านต่ออยู่นะคะ  o13

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6

ออฟไลน์ spring

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-7
วันนี้อารมณ์ดี เงินเดือนออก มาต่อแล้วจ้า กร๊ากกกกกกกกกก

***********************


ตอนที่ 116.2



พสุโล่งอกที่ริวว่าง่าย  ไม่ว่าจะป้อนอะไรให้ก็ยอมกิน  ทั้งที่ตอนแรกทำท่างอแงเหมือนจะไม่อยากกินอะไร  ชายหนุ่มตักอาหารให้ตัวเองและริวสลับกันไปมาจนกระทั่งอาหารในรถเข็นเกือบหมด  ริวถึงเบ้หน้า  ส่ายหัวว่าอิ่ม  พสุจึงลุกไปจัดยาหลังอาหารมาให้ริว 


“พี่อิ่มหรือเปล่าครับ  มัวแต่ป้อนริว  ไม่ค่อยเห็นกินอะไรเลย”

“อิ่มสิครับ  อิ่มตื้อเลย”

“งั้น...ไปห้องอัดเสียงกันดีกว่าครับ  ริวมีอะไรจะอวดพี่ด้วย”


ริวคว้ามือพสุพาไปยังห้องที่อยู่ติดกัน  ชายหนุ่มเคยเห็นฝีมือการทำเพลงของริวมาแล้ว  เมื่อได้เห็นห้องทำงานของริวชายหนุ่มจึงไม่แปลกใจนัก  อุปกรณ์บันทึกเสียงรุ่นใหม่ทันสมัยกว่าห้องอัดที่บริษัทของเขมชาติทั้งที่ริวไม่ได้อยู่ที่นี่มาเป็นปี 


“พี่นั่งก่อนนะครับ” 


พสุทรุดลงนั่งบนเก้าอี้หนานุ่มขณะที่ริวตรงดิ่งไปยังคอมพิวเตอร์  ครู่เดียวจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ในห้องก็ฉายภาพของพสุในอิริยาบถต่างๆ  ประกอบดนตรีท่วงทำนองแผ่วเบานุ่มนวลได้ยินเสียงเครื่องดนตรีบรรเลงทีละชิ้นชัดเจน


“ริวแต่งเพลงพวกนี้เวลาคิดถึงพี่...ในหัวริวมีภาพพี่  มีแต่เรื่องของพี่เต็มไปหมดจนต้องระบายออกมาเป็นดนตรีแบบนี้”  ริวเดินกลับมาทรุดลงนั่งข้างๆ พสุ  ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนใสจ้องมองหน้าชายหนุ่มนิ่ง  จนพสุอดเขินไม่ได้ 


ชายหนุ่มกวาดตาไปรอบๆ ห้องแก้เขิน  ก่อนจะสะดุดหูกับดนตรีท่อนหนึ่งในเพลงที่ริวแต่งให้


“ท่อนนี้คุ้นๆ นะ  คล้ายๆเพลงประกอบหนังอนิเมชั่น” พสุหันไปล้อริว  ตั้งใจจะแซวว่าริวเห็นเขาเหมือนเจ้าตัวนั้นหรืออย่างไร  แต่คำตอบที่ได้รับทำเอาพสุอึ้ง

“ครับ  ริวแต่งท่อนนี้ได้ก่อน  แล้วเลยลองแต่งออกมาทั้งเพลง  อลันฟังแล้วชอบก็เลยเอาไปให้เพื่อนเขาฟัง”

“ริวเป็นคนแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์เพลงนั้นเหรอ!”  พสุคำนวณอายุริวกับเพลงแล้วยิ่งอึ้งเป็นคำรบสอง  เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้โด่งดังเมื่อราวๆ 4-5 ปีที่แล้ว

“ครับ...จริงๆมีอีกหลายเพลง...อยู่ไหนน๊า...นี่ไงครับ”  ริวบอกพร้อมกับหยิบแฟ้มใส่โน้ตเพลงส่งให้พสุ  ชายหนุ่มรับมาดูแล้วยิ่งตกใจเมื่อจำได้ว่าบางเพลงนั้นได้รับรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วยซ้ำ

“แล้วทำไม...ทำไมริวไม่ใช้ชื่อตัวเองล่ะ”

“ริวแค่แต่งเล่นสนุกๆ...ขืนใช้ชื่อตัวเองตอนขาย  ก็ยุ่งยากทีหลังเปล่าๆ”

“ริว...ถ้าริวเก่งขนาดนี้...ทำไมต้องลำบากไปออดิชั่นด้วยล่ะ  แค่ยื่นใบสมัครไป  ยังไงคุณเขมก็ต้องรับริวอยู่แล้ว”

“ก็เพราะคิสมี มีพี่ยังไงล่ะ  กว่าริวจะไปออดิชั่นได้  ริวต้องจ้างครูมาสอนร้องเพลงอยู่ตั้งหลายวัน  เพราะริวหัดเล่นดนตรี  หัดร้องเพลงจากการฟัง  อันไหนไม่เข้าใจก็อาศัยเปิดตำราเอา”

“ลำบากมากสินะ  กว่าจะได้เป็นนักร้องสมใจ”

“ตอนเรียนร้องเพลงไม่ยากหรอกครับ  ตอนเรียนภาษาไทยยากกว่าตั้งเยอะ...ทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน  กว่าจะเข้าใจ  กว่าจะพูดได้ชัดเจนไม่เพี้ยน  ริวต้องเรียนรู้อยู่เป็นปีๆ”

“เป็นปีเชียวเหรอ?”

“ก็ระหว่างนั้นริวก็ต้องเรียนหนังสือไปด้วย  อีกอย่าง  ริวไม่ได้เรียนแค่จะพูดภาษาไทยได้นี่ครับ  ริวเรียนวิชาการเป็นคนไทยต่างหาก”

“วิชาอะไรนะ”

“ครูที่สอนริวบอกว่า  ครูสอนวิชาการเป็นคนไทยให้ริว สอนให้รู้ว่าคนไทยชอบอะไรไม่ชอบอะไร  สอนมารยาท  สอนร้องเพลงด้วย  ที่พี่ล้อว่าริวร้องแต่เพลงเก่าๆ  ก็เพราะครูบอกว่าเพลงแบบนั้นไม่เพียงแค่เพราะ  แต่มีความงามของภาษาด้วย  ถ้าริวอยากเข้าใจคนไทยให้ลึกซึ้ง  ริวก็ต้องเรียนรู้จากเพลงแบบนั้น”
“อยากเป็นคนไทยขนาดนั้นเชียวเหรอริว  พี่นึกว่าแค่อยากร้องเพลงไทยเป็นซะอีก”

“ริวอยากเป็นคนไทย  เพราะพี่เป็นคนไทย...ริวอยากเรียนรู้ภาษาไทย  ก็เพราะอยากฟังเพลงที่พี่ร้องเข้าใจ  อยากแต่งเพลงที่เหมาะกับเสียงของพี่  อยากได้ยินพี่ร้องเพลงที่ริวแต่ง”

“ริว...ที่ทำลงไปทั้งหมดเพราะพี่เหรอ?” พสุถามเสียงแผ่วด้วยความตกใจ...ทึ่ง...แล้วค่อยๆ กลายเป็นความปลาบปลื้มตื้นตันจนพูดไม่ออก

“ครับ...เกือบ 5 ปีเชียวนะครับกว่าริวจะพร้อมไปอยู่ข้างๆ พี่...แต่สิ่งที่ยากที่สุดจนริวแทบถอดใจ  ก็คือการต้องออกไปสัมผัสกับมนุษย์อีกครั้ง...สำหรับริวตอนนั้นมนุษย์ส่วนใหญ่น่ารังเกียจ  น่าขยะแขยง...อาทิตย์แรกๆ ที่ต้องออกไปเดินบนถนนปะปนกับคนอื่น  ริวไม่เคยทนเดินได้ถึงชั่วโมงก็อาเจียนออกมาซะก่อน”

“โธ่เอ๊ยริว...ทำไมต้องทรมานตัวเองขนาดนั้น” พสุหลุดเสียงครางแผ่ว  ใจหายเมื่อคิดตามไปว่าริวจะทรมานแค่ไหน

“ถ้าไม่ทำอย่างนั้น  ริวก็ไปอยู่ข้างๆ พี่ไม่ได้สิครับ...”


พสุพูดไม่ออก  ชายหนุ่มลุกเข้าไปสวมกอดริวไว้แน่น  ปวดหน่วงในอกด้วยความสงสารน้อง  แต่ก็ตื้นตันในความรักของริว  เพื่อให้ได้ไปหาเขา  ริวต้องทุ่มเทถึงเพียงนี้...ขณะที่เขาไม่เคยรับรู้เลยแม้แต่น้อย


“แต่ที่ริวทำไปมันคุ้มค่าที่สุดเลย...พี่รู้มั้ยครับ  ตอนที่ริวเปิดประตูเข้าไปแล้วเห็นพี่นอนหลับอยู่บนโซฟาในห้องรับรองน่ะ  ริวดีใจแค่ไหน  ริวรู้สึกเหมือนพี่เป็นทูตสวรรค์  เหมือนของล้ำค่าจนไม่กล้าแตะต้อง...แต่ตอนที่พี่ยิ้มให้ริว...โลกมันสว่างจ้าไปหมดเลย...เพลงมายแองเจิ้ล...ริวหมายถึงพี่นะครับ” ริวกระซิบบอกแล้วแนบปากเข้าหาช้าๆ  พสุแนบปากตอบ  ความรู้สึกอุ่นซ่าน  เต็มตื้นอยู่ในอก  ทุกอย่างที่ริวทำเพื่อเขา  ช่างมากมายจนไม่อาจคิดฝันว่าจะมีใครทุ่มเทเพื่อความรักได้ถึงเพียงนี้ 


ริวยังค้นโน้ตเพลงที่เคยเขียนไว้ออกมาให้พสุเลือกดูว่าจะมีอันไหนที่เอาไปใช้กับอัลบั้มใหม่ได้อีก  ทั้งคู่ขลุกอยู่ในห้องอัดเสียงจนกระทั่งการ์ดมาเคาะเรียก  เพราะเลยเวลาอาหารเย็นมานานมากแล้ว


“เกือบสี่ทุ่มแล้วริว...ไปกินข้าวกันดีกว่า  เดี๋ยวริวต้องเช็ดตัวด้วย”

“ครับ” ริวรับคำแต่หอบเอากล่องใส่ซีดีมาอีกหลายกล่อง  จนพสุต้องแย่งมาถือเสียเอง  เพราะเกรงจะกระเทือนแผลไปมากกว่านี้


พสุนอนลืมตาโพลงในความมืด  ขณะที่ริวหลับไปนานแล้ว  คงเพราะวันนี้เด็กหนุ่มพาเขาเที่ยวชมอาณาจักรน้อยๆ ทั้งห้องนอนห้องอัดเพลงจนเพลีย  พอยาออกฤทธิ์จึงผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว

พสุถอนใจยาว ทุกสิ่งทุกอย่างโถมเข้าใส่ราวกับน้ำหลาก ทั้งที่ตอนแรกเขาเพียงต้องการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างเขากับริวให้ดีที่สุด  ยิ่งพอริวถูกยิง  ความหวาดกลัวที่ต้องสูญเสียริวไปทำให้เขายิ่งแน่ใจว่าเขารักน้องมากแค่ไหน 

แต่แล้วบอดี้การ์ดของริวก็เข้ามา  ตามติดด้วยคนที่พสุเข้าใจมาตลอดว่าเป็นผู้ปกครองของริว  กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นทนายผู้ดูแลผลประโยชน์  และ...ริวกลายเป็นมหาเศรษฐี  มีทรัพย์สินมากมาย...มากเสียจนเงินที่ริวชดใช้แทนพ่อของเขา  เป็นเพียงเศษเงินก้นกระเป๋า....แล้วเขาล่ะ  สถานะตอนนี้ของเขาคืออะไรกันแน่?

พสุสูดลมหายใจลึก...แปลบปลาบในอกเมื่อความจริงค่อยๆ เปิดเผยทีละน้อย...ริวพยายามทำทุกอย่างเพื่อไปหาเขาที่เมืองไทย...อำนาจเงินและอิทธิพลที่ริวมี  ทำให้พสุอดสงสัยไม่ได้ว่า  สิ่งที่เขาคลางแคลงมาตลอดจะเป็นความจริง...

เขาอาจเข้าวงคิสมีเพราะเป็นความต้องการของริว...ความสามารถระดับเขา  ไม่น่าจะเข้าตาเขมชาติขนาดนั้น  ที่เขาถูกดึงเข้าวงโดยไม่ผ่านการออดิชั่น  เพราะคำสั่งของริว....

แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น  ทำไมริวต้องพยายามฝึกร้องฝึกเล่นดนตรีเพื่อให้ผ่านการออดิชั่น  ทั้งที่ริวเพียงเดินเข้าไปก็ทำได้อยู่แล้ว...หรือเรื่องที่เขมชาติดึงเขาเข้าวง  จะเป็นความต้องการของเขมชาติเองจริงๆ...พสุถอนใจยาวซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ด้วยความสับสน


‘หรือเราจะถามริวตรงๆไปเลย...’ พสุชะงัก  คำถามมากมายในสมองค่อยเลือนหายไป  เมื่อความคิดหนึ่งผุดขึ้นแทนที่


ถามเพื่ออะไร?  รู้แล้วจะได้อะไร?  ไม่ว่าคำตอบจะเป็นยังไงก็ตาม  ในเมื่อเขาตัดสินไปแล้วว่าจะอยู่กับริว  จะเคียงข้างและกุมมือน้องไว้ไม่ปล่อย  แล้วเขาจะแสวงหาคำตอบเหล่านั้นไปทำไมอีก...

สิ่งหนึ่งที่พสุเชื่อมั่นโดยไม่มีความระแวง คลางแคลงใจแม้แต่นิดเดียว  คือความรักที่ริวมีให้เขา...นั่นคือสิ่งเดียวที่ประคับประคอง  ให้เขามีกำลังใจก้าวผ่านเส้นทางยากลำบากมาจนถึงวันนี้...แม้แต่วินาทีนี้ที่ทุกอย่างดูสับสนไปหมด  ความรักของริวก็ยังเป็นเหมือนปราการแข็งแกร่งให้พักพิงใจ  และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  ชายหนุ่มมั่นใจว่าริวจะไม่มีวันปล่อยมือเขาและเขาก็จะไม่ปล่อยมือริวเช่นกัน

ริวขยับตัวเบาๆ เหมือนละเมอ  ผมนุ่มฟูระปลายคางจนอดลูบเล่นไม่ได้  พสุก้มลงจูบบนศีรษะและหน้าผากอุ่นเบาๆ  สูดกลิ่นยาสระผมกับกลิ่นกายหอมอ่อนๆไว้ในอก  แล้วเลื่อนปากลงไปคลอเคลียบนผิวแก้มนุ่มเนียน 


“พี่ก็หลงรักรอยยิ้มเหมือนเด็กของริวตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเหมือนกันนะ”  พสุกระซิบบอกแล้วขยับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นเมื่อเด็กหนุ่มเบียดซุกเข้ามา...


..................................................


ปากนุ่มๆ  แตะไล้คลอเคลียทั่วไปหน้า  ปลุกให้พสุต้องลืมตาตื่นขึ้นมาทั้งที่ยังไม่หายง่วง  ตากลมโตจ้องเป๋ง  พอเห็นเขาตื่นเต็มตาก็ยิ้มหวานจนพสุอดยิ้มตอบไม่ได้


“ครับ?” พสุเลิกคิ้วถามง่วงๆ

“ริวหิวข้าว” ริวบอกเสียงอ้อนๆ แล้วยิ้มประจบ

“โอเค...ขอพี่ล้างหน้าแป๊บนึง” พสุบอกแล้วหอมแก้มเด็กหนุ่มเบาๆ

“ค้าบ” ริวยิ้มตาหยี  แล้วลงไปยืนคอยข้างเตียง 


พสุสลัดผ้าห่มออกจากตัวแล้วลุกเข้าไปล้างหน้า  ริวเดินตามมาหยุดยืนคอย  พอพสุล้างหน้าเสร็จก็ส่งผ้าขนหนูให้ทันที 


“มีข้าวต้มกุ้งด้วย...แต่ริวอยากกินข้าวต้มปู” ริวบอกทันทีที่พสุเปิดดูอาหารเช้าบนรถเข็น   พสุหลุดหัวเราะพรืดเมื่อได้ยินอย่างนั้น

“ทำลำบากนะ  ปูมันคาว  ไม่เหมือนกุ้ง...แม่ไม่อยู่แล้ว  คงหาคนทำให้กินลำบาก  ไว้พี่จะถามป้าใจให้นะว่ามันต้มยังไงไม่ให้คาว” หางเสียงของพสุพร่าไปเล็กน้อยเมื่อเอ่ยถึงแม่...ไม่มีอีกแล้วคนที่ขยันทำอาหารสารพัดมาให้...ไม่มีตักอุ่นๆ ให้หนุนนอน...อกอุ่นที่เคยซุกซบยามอ่อนล้า...น้ำเสียงนุ่มนวลที่คอยปลุกปลอบ...ไม่มีอีกแล้ว

“พี่จะทำให้ริวกินเหรอ” ตาโตใสแจ๋วที่จ้องเขาเป็นประกายระยับ  ทำให้พสุปัดความหม่นหมองในใจออกไป 

“แน่ละสิ...พี่ไม่ทำแล้วใครจะทำให้ริวล่ะ” ชายหนุ่มตอบยิ้มๆ  แล้วอดหัวเราะไม่ได้เมื่อริวโถมมากอดเขาแน่น

“ริวรักพี่ที่สุดในโลกเลย” ริวบอกเสียงใส  แล้วเอาหัวไถๆ อกเขา  เป็นท่าอ้อนประจำตัวที่พสุเคยล้ออยู่บ่อยๆ ว่าเหมือนลูกหมามากกว่าแมว

“พี่เชื่อ  โดยเฉพาะเวลาทำของกินให้เนี่ย  รักเป็นพิเศษจริงๆ”

“งื้อ...ริวไม่ได้เห็นแก่กินสักหน่อย...แต่ที่พี่ทำให้กินมันอร่อยกว่าที่ซื้อจากร้านนี่”

“ลาออกมาทำอาหารขายดีกว่ามั้ย  ท่าทางจะรุ่ง  ขนาดอาหารสั่งจากโรงแรมยังอร่อยสู้ไม่ได้นี่” พสุประชดขำๆ  ขนาดสั่งอาหารจากร้านอาหารไทยที่ได้ชื่อว่าอร่อยจนคนอเมริกันเองยังต้องไปต่อแถวซื้อ  ริวยังบ่นว่าเขาทำอร่อยกว่า  ไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มพูดเพราะอ้อนเขาหรือเพราะรู้สึกแบบนั้นกันแน่...เพราะพสุเองก็เคยคิดว่าอาหารที่แม่ทำอร่อยกว่าที่ร้านดังๆ ทำอยู่ดี  รสมือที่คุ้นเคยมักจะทำให้คนเรารู้สึกเหมือนเป็นอาหารที่อร่อยที่สุด  พอกินอาหารเช้าเสร็จ  ริวก็ลากพสุขึ้นไปห้องชั้นบน  เพราะอยากให้พสุเล่นเปียโนให้ฟัง


“จะเอาเพลงอะไร” พสุถามหลังจากลองไล่เสียงเปียโน  เสียงกังวานใสสมราคาอันแพงลิบลิ่วทำให้พสุคันไม้คันมืออยากเล่นเช่นกัน

“มากกว่ารัก” ริวตอบทันที  แล้วนั่งลงคอยที่พรมกลางห้อง

“เพลงนี้อีกแล้วเหรอ  ทำไมชอบให้พี่เล่นแต่เพลงนี้ล่ะ” พสุถามขันๆ 

“ก็ริวชอบ” ริวตอบเสียงอ้อน  แล้วยิ้มจนตาหยีที่เห็นพสุหัวเราะชอบใจ


พสุไล่คีย์ไปมา  ก่อนจะเริ่มเล่นเพลงให้ริวฟัง  แต่โน้ตท่อนแรกไม่ใช่เพลงที่ต้องการ  ริวก็หน้างอง้ำ  ขณะที่พสุยังมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาอ่อนโยนเมื่อเริ่มร้องเพลง





“กี่คราวที่ความรัก ต้องลงเอยด้วยน้ำตา กี่คราวที่ล้าจนไม่อยากมีใคร
กี่ครั้งที่เสาะหา ผ่านมาแล้วก็เลยไป ไม่มีใครที่เหมือนเธอ…"




หน้าหงิกงอเพราะถูกขัดใจค่อยๆ คลายออกช้าๆ  แล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มแป้น  ริวลุกมาวางคางลงบนเปียโนเพื่อจ้องมองพสุด้วยสายตาดื่มด่ำ



"เปรียบเธอดั่งจุดหมาย สุดท้ายของนักเดินทาง
เมื่อเจอเธอแล้วก็ไม่อยากเจอใคร
ไม่มีใครอีกแล้วที่มีความรักจริงใจ เท่ากับเธอที่ให้ฉัน
หยุดตรงนี้ที่เธอ ไม่ไปใกลแล้วใจ จะหยุดทั้งใจไว้ที่เธอ
หยุดตรงนี้ที่เธอ เพราะเธอที่ฉันเจอ คือคนที่รักฉันหมดใจ
เปียกปอนกับลมฝน ฝ่าลมพายุมากมาย ก็เดินมาไกลจนแทบหมดกำลัง
ไม่เคยจะคาดคิด ว่าคนที่สิ้นหนทาง จะได้พบรักเช่นเธอ
เปรียบเธอดั่งจุดหมาย สุดท้ายของนักเดินทาง
เมื่อเจอเธอแล้วก็ไม่อยากเจอใคร
ไม่มีใครอีกแล้วที่มีความรักจริงใจ เท่ากับเธอที่ให้ฉัน
หยุดตรงนี้ที่เธอ ไม่ไปใกลแล้วใจ จะหยุดทั้งใจไว้ที่เธอ
หยุดตรงนี้ที่เธอ เพราะเธอที่ฉันเจอ คือคนที่รักฉันหมดใจ
อยากจะขอบคุณฟ้า...ที่ให้เรารักกัน....และให้ฉันได้พบเธอ....
หยุดตรงนี้ที่เธอ เพราะเธอที่ฉันเจอ คือคนที่รักฉันหมดใจ.....
จะหยุดใจไว้...ให้กับเธอ”



“จริงเหรอ...จริงๆ นะพี่”  ริวถามทันทีที่พสุเล่นจบแล้วจ้องหน้าชายหนุ่มเขม็งเพื่อรอคำตอบ  แต่พสุกลับอมยิ้มเฉย

“พี่อ่ะ  ตอบหน่อยสิค้าบ” ริวลากเสียงยาวอย่างออดอ้อน

“ดูจากการกระทำดีกว่ามั้ย  คำพูดก็แค่ลมปาก  ลอยหายไปกับสายลมได้ง่ายๆ”  พสุตอบยิ้มๆ แล้วชะโงกไปจูบบนปลายจมูกโด่งเบาๆ อย่างเอาใจเพราะสังเกตเห็นประกายหม่นแสงในดวงตาโต


ริวนิ่วหน้าอยู่ครู่หนึ่งก็พยักหน้า  แล้วเบียดเข้ามานั่งบนเก้าอี้ตัวเดียวกับพสุ  แต่เก้าอี้ตัวเล็กเกินกว่าที่ผู้ชายตัวโตๆ สองคนจะนั่งด้วยกัน  ริวเลยดึงพสุมานั่งตักแต่พสุกลับลุกขึ้น


“ทำไมไม่นั่งละครับ” ริวเงยหน้าขึ้นมองตามพสุอย่างสงสัย

“ริวเจ็บแผลอยู่นี่ครับ” พสุตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแล้วลูบผมเด็กหนุ่มเบาๆ

“ไม่เจ็บหรอก  แค่นี้เอง” ริวบอกพร้อมกับพยายามดึงแขนพสุให้นั่งลง  แต่พสุส่ายหน้าปฏิเสธแล้วเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนพรม  เด็กหนุ่มจึงลุกตามไปนั่งข้างๆแล้วทำหน้างอง้ำที่ถูกขัดใจ

“อย่าดื้อสิครับ  ไว้แผลหายก่อนนะ” พสุปลอบแล้วจับหัวทุยโยกเบาๆอย่างหยอกล้อ  ทำให้ริวยิ้มออก 

“เดี๋ยวพี่จะกินให้อ้วนๆ  ให้หนักสักร้อยโล  ถึงตอนนั้นดูซิว่าริวยังจะให้พี่นั่งตักไหวมั้ย”

“...ถ้าพี่หนักร้อยโลริวนั่งตักพี่ก็ได้” ริวตอบหลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง  พสุหัวเราะก๊าก  พลอยให้เด็กหนุ่มหลุดเก๊ก ขำพรืดออกมาด้วย....

“พี่ว่าหลายเพลงในนี้น่าจะใช้กับอัลบั้มใหม่ได้นะ ริวจะได้ไม่ต้องแต่งใหม่  แค่เกลาเสียหน่อยก็โอเคแล้ว” พสุบอกหลังจากที่เงียบอยู่ครู่ใหญ่  เพราะต่างคนต่างจมอยู่กับโน้ตเพลงมากมายตรงหน้า 


ชายหนุ่มเงยหน้าจากโน้ตเพลงเพราะพูดด้วยแล้วไม่ได้ยินริวตอบมาเหมือนเคย  แต่พอสบตากับริวก็อดยิ้มไม่ได้  เพราะเด็กหนุ่มเล่นจ้องหน้าเขา  แล้วอมยิ้มกริ่ม  พอเขามองตอบริวก็ทำท่าเขินนอนกลิ้งไปกลิ้งมาเล่นบนพรม  สักพักก็หยุดจ้องหน้าเขาอีก


“มีอะไรหรือเปล่า จ้องพี่อยู่ได้” ชายหนุ่มถามแล้วขยี้ผมนุ่มเล่น หลังจากปล่อยให้ริวจ้องมองมาครู่ใหญ่ๆ

"ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ...ว่าจะมีวันนี้...วันที่พี่มานั่งอยู่ในห้องนี้...มันเป็นภาพในฝันของริวมาตลอดตั้งแต่เห็นพี่ครั้งแรก” ริวอธิบายแล้วยิ้มกว้าง  ใบหน้าแดงซ่านด้วยความสุขจนเอ่อท้น

“ที่บริษัทน่ะเหรอ” พสุถามด้วยความสนใจพลางวางโน้ตเพลงลงเพื่อตั้งใจฟังริว

“เปล่าครับ...ในโทรทัศน์...ตอนพี่ประกวดร้องเพลง...ริวเห็นพี่ครั้งแรกก็สะอึกเลย...ยังจำแววตาพี่ได้ติดตา...ประกายตาของพี่ เหมือนกับตาของแม่ริวไม่มีผิด....แววตาของนักสู้ ที่มุ่งมั่น  เด็ดเดี่ยว...เสียดายที่อัดไว้ไม่ทัน” 

“พี่เป็นตัวแทนของแม่สินะ”  พสุยิ้มอ่อนโยน แล้ววางมือนิ่งๆ บนผมหนานุ่มของเด็กหนุ่ม

“นั่นมันตอนแรกที่ริวเห็นพี่ต่างหาก  แต่พอได้เฝ้าดูพี่ตลอดทั้งวันทั้งคืน...ริวก็รู้ว่าพี่ไม่ใช่ตัวแทนของแม่ พี่กับแม่เป็นคนละคนกัน และไม่มีวันจะทดแทนกันได้  แต่ริวก็เลิกดูไม่ได้  เพราะริวหลงรักพี่ไปแล้ว” หางเสียงทอดอ่อน  หวานทั้งคำพูดและดวงตาจนพสุหน้าร้อนวาบ

“หลงรักทั้งๆที่ยังไม่เคยเจอกันเนี่ยนะ” ชายหนุ่มถามขำๆ ปนเขินนิดๆ

“ครับ...พี่ยิ้มทำไมครับ  ริวตลกเหรอ”

“เด็กแก่แดด...ตอนนั้นริวอายุเท่าไหร่...สิบสอง หรือสิบสาม” พสุล้อแล้วบีบจมูกโด่งเบาๆ

“จะสิบสี่แล้วต่างหาก...รักก็คือรัก...อายุไม่เห็นจะเกี่ยวเลย” ริวทำเสียงงอแง  แก้มพองแบบเด็กถูกขัดใจ  ที่ทำให้พสุอดยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้  ชายหนุ่มชะโงกไปหอมแก้มพองๆ เล่น  แต่ก็ทำให้ริวหน้าบาน  หายงอนเป็นปลิดทิ้ง  เด็กหนุ่มขยับเข้ามากอดคลอเคลียพสุเหมือนเคย

“จะบอกว่าอายุไม่เกี่ยวก็คงไม่ได้หรอกนะริว...เพราะความเป็นเด็ก  บางครั้งก็ทำให้เราแยกแยะระหว่าง  รักกับปลื้ม  หรือรักกับหลงไม่ออกนะครับ” พสุบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน  คบกันมาขนาดนี้มีหรือจะไม่รู้ว่าการสอนริวต้องใช้ความรักความอ่อนโยนเท่านั้นถึงจะโน้มน้าวใจเด็กหนุ่มได้

“แต่ริวมั่นใจว่าริวรักพี่...รักมาตลอด...แล้วก็จะรักตลอดไปด้วย...แล้วพี่ละครับ  รักริวบ้างหรือยัง” ริวยืนยันด้วยท่าทางมั่นใจ  แล้วอดคาดคั้นขอคำตอบจากพสุไม่ได้

“พี่คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่ทำ  น่าจะบอกให้ริวรู้แล้วนะ  ว่าพี่รู้สึกยังไง” พสุตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ  แต่สายตาจับจ้องปฏิกิริยาของเด็กหนุ่มอย่างตั้งใจ

“ริวคิดว่ารู้ครับ  แต่ริวก็ยังอยากได้ยินจากปากพี่อยู่ดี” ริวตอบหน้าเศร้า  ตาหม่นแสงเพราะไร้ความหวังว่าจะได้ยินคำรักจากปากพสุ


พสุผุดลุกขึ้นนั่ง  จ้องมองใบหน้าหม่นหมองของริวนิ่ง...บทเรียนแห่งความสูญเสียและเกือบจะสูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่า ยังไม่เพียงพอที่จะให้เขาละ ลด ทิฐิในตัวตนของเขาลงอีกหรือไร...ทั้งที่รู้ว่าอะไรสำคัญที่สุดในชีวิต  แล้วยังจะรั้งรอต่อไปเพื่ออะไรอีก...


“แน่ใจเหรอว่าอยากได้ยิน...พี่เป็นคนเห็นแก่ตัวนะริว...ถ้าพี่พูดออกไปพี่ก็หมายความตามนั้น  นั่นแปลว่าพี่จะไม่ยอมปล่อยมือจากริวอีกแล้วนะ  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  ต่อให้ริวเจอใครที่ดีกว่าพี่  ใครที่เหมาะสมกว่า...พี่ก็จะไม่ยอมปล่อยริวไปเป็นอันขาด” พสุถามย้ำอีกครั้งเพื่อผูกมัดด้วยวาจา...ให้อย่างไร เขาก็ยังเห็นแก่ตัวอยู่ดี

“ริวอยากให้เป็นอย่างนั้นมาตลอด  อยากให้พี่เป็นเจ้าของริว  แล้วริวก็อยากเป็นเจ้าของพี่ด้วย  ริวอยากให้มือของเราจับกันไว้ตลอดไป  ไม่เคยคิดจะปล่อยมือจากพี่เลยสักครั้ง” ริวตอบเสียงหนักแน่น  ดวงตาเป็นประกายเจิดจ้าด้วยความหวัง


พสุประคองวงหน้าของริวให้อยู่นิ่งๆ  แล้วสูดลมหายใจลึก  ก่อนจะไล้ปลายนิ้วบนแก้มเนียนละเอียดใสแผ่วเบา  ขณะที่สายตาจ้องตาริวแน่วแน่


“... สำหรับพี่...ริวไม่ได้เป็นแค่คนที่พี่รัก...แต่ริวเป็นเหมือนลมหายใจ...ถ้าไม่มีริว พี่ก็มีชีวิตอยู่ไม่ได้...นั่นคือริวในใจพี่” พสุพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง  หนักแน่น  เพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาพูด  ว่ามาจากหัวใจเขาอย่างแท้จริง

“พี่...พี่พูดเพราะกว่าริวฝันไว้ซะอีก...ริวดีใจที่สุดเลยครับ” ริวบอกเสียงสั่น น้ำตารื้นด้วยความตื้นตัน  ไม่เคยคิดว่าจะได้ยินคำรักแบบนี้จากปากพสุ...ไม่สิ...มากกว่ารัก...พสุไม่เพียงแค่รักเขา...แต่เขาสำคัญดุจลมหายใจ...สำคัญถึงเพียงนั้น

“พี่บอกริวแล้วว่าคำพูดมันก็แค่ลมปาก  แต่พี่อยากให้ริวดูที่การกระทำ...นับจากนี้  พี่จะพิสูจน์ให้ริวรู้ว่า  ริวจะเป็นคนสำคัญที่สุดเสมอ  ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่สำคัญเท่าริวอีกแล้ว...พี่สัญญา”

“ครับ...ขอบคุณครับ  ริวรักพี่ที่สุด...แค่มีพี่  ริวก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว I love you sweetheart. I'll be with you forever”ริวตอบเสียงสั่นหยาดน้ำแวววาวร่วงผล็อยด้วยความตื้นตัน 


พสุไล้ปากลงบนปลายจมูกโด่งแผ่วเบา  แล้วเลื่อนไปซับหยดน้ำบนแก้มเนียนไว้ไม่ให้ตกลงพื้น  แล้วกระซิบตอบเบาๆ



* “I want you to know that you’ll always in my heart till my breath is last...ริวจะอยู่ในใจพี่ตราบจนลมหายใจสุดท้าย”


*http://www.krurem.com/learn-english/improve-your-english/love-word/

...........................................................
............................

ออฟไลน์ ณยฎา

  • ขอเพียงมีเธออยู่คู่ฉัน แม้นหลับก็มิฝันถึงสิ่งใด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-3
จิ้ม ฉึก! ฉึก!

ออฟไลน์ justlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :-[ กรี๊ดดดดดดดดดน่ารักง่ะ  พี่ไผ่รู้แล้วใช่ม๊าย ว่าริวเค้าแอบรักตัวอย่างมากมายเลยน๊า 
 :impress2:ดีใจที่ไผ่ได้รู้ว่าริวทำไปมากแ่ค่ไหน ความรักมันเติบโตมานาน ไม่ใช่รักเล่นๆนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ChiOln

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
โอ๊ยซึ้ง T T

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
โอ๊ย หวานกว่านี้จะมีอีกมั๊ยนี่  :-[ 

เธอคือลมหายใจ ตอนแรกก็คิดว่าริวจะพูดคำนี้ กลายเป็นพี่ไผ่ที่บอกน้องริวซะนี่  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
 :-[ นี่เองที่มาของชื่อเรื่อง
หวานจริงวุ้ย   :-[


pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนนี้แล้วประทับใจมากๆเลยค่ะ
นึกๆไปถึงสิ่งที่ริวพยายามมาตลอด จนมาถึงวันนี้
โอยยย อยากร้องไห้
+ขอบคุณสำหรับตอนนี้ค่ะ

ออฟไลน์ kabung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-3
พี่ไผ่ กรี๊ดด  :-[

ตายสนิทกับตอนนี้

อ๋อยย ยิ้มจนแก้มจะฉีกแล้ววววว

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
น่ารักจัง
ตอนแรกแอบเครียดนึกว่าจะมาม่าซะอีก

ออฟไลน์ Altasia

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
โอ๊ย! : ซึ้งอ่ะ ชอบพี่ไผ่ตอนนี้จัง นั่งอ่านไปยิ้มไปเลยนะเนี้ย เห็นริวมีความสุข เราก็มีความสุขตาม หุหุ

ออฟไลน์ Hachi_an1234

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
นู๋ริวววววว.. ทำไมทำตัวได้น่ารักขนาดนี้.. พี่ไผ่ก็น่ากอดด..
ตอนนี้พี่ไผ่เข้าใจแล้วใช่ปะ... ว่าความรักของริวมันมากมายยยยอะ.. ฮาๆๆๆ..
ก็นู๋ริวเค้าอุตสาห์ร่ำเรียนภาษาไทย ฝึกทำตัวให้เข้ากับผู้คนทั้งๆที่เกลียดเนี้ย.. ก็เพื่อพี่ไผ่คนเดียวเลยนะเนี้ย...
ฮุๆๆ ชอบๆๆ พี่ไผ่กับนู๋ริวกระหนุงกระหนิงกัน.. ฮาๆๆๆ
แล้วมาต่อเร็วๆๆนะฮับพี่..... อยากเห้ฯความน่ารักของทั้งคู่อีก..
รักพี่ไผ่และนู๋ริว.... :กอด1:

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
เหยยยยย
อดเขินแทนพสุไม่ได้อ่ะ
พอมาฟังทั้งหมดแล้ว มันเขินมากจริงๆ
การที่ใครซักคนทำเพื่อนเราขนาดนี้
งื้อออ!!!

ออฟไลน์ Piaanie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
โอยยอ่านจบหัวใจพองแทบละเบิด มันมากกว่ารักจริงๆอ่ะ   :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ซึ้งมากเลย หวานใส่กันตลอด น่ารัก
ชอบที่ไผ่พูดว่าริวคือลมหายใจ ขาดไม่ได้
ไผ่ได้รับรู้ความรักของริวแล้ว ดีใจจัง

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
น้ำตาซึมเลยอ่าาาา

ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0
ในที่สุดก็บอกรักริวซะที




hahn

  • บุคคลทั่วไป
ซึ้งมากมายจริงๆ  +1

darkeyes1

  • บุคคลทั่วไป
อ๊าก....ก  หวานกันเข้าไป  หวานกันให้น้ำตาลซึมเข้าไปในเส้นเลือดเป็นเบาหวานตายกันไปข้าหนึ่งเลย

โห... จากรักข้างเดียวที่เห็นคนรักเป็นคนๆเดียวในโลกของตัวเอง เริ่มกลายเป็นกันและกันเสียแล้ว

"ทั้งคู่ต้องอยู่คู่กัน ขาดใครคนใดคนหนึ่งไปไปไม่ได้" นี่แหละๆ
เรื่องใหนใครแต่ง ใครพูดหวานๆว่าต้องอยู่เป็นคู่เท่านั้นเนี้ย

มันไม่เท่าเรื่องนี้เลย เรื่องนี้ของจริง สิ้นเธอสิ้นใจของแท้เลย  เหอๆๆ :sad4:

ออฟไลน์ treerat002

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
ถ้าเราเป็นพี่ไผ่ พอได้รู้ว่าริวทำอะไรให้บ้าง เราคงนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นแหละ  :sad4:

ซึ้งใจ ในที่สุดพี่ไผ่ก็รับริวเข้าไปแบบเต็มหัวใจซักที  :o8:

จะหวานไปไหนคะ?  :-[

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ค่ะ  :กอด1:

และจะติดตามต่อไปนะคะ  o13

ออฟไลน์ l2ozen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น่าร๊ากกกกกกกกกกก :L2:

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
ซึ้งอ่ะT^T

สรุปว่าชื่อเรื่องมาจากสิ่งที่พี่ไผ่พูดสินะ แต่ทั้งสองคนให้ความรู้สึกว่าแต่ละคนคือลมหายใจของกันและกันจริงๆนะ ถ้าใครคนหนึ่งเป็นอะไรไปจะเป็นยังไเนี่ย ไม่อยากคิด...

ออฟไลน์ iranen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ซึ้งมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :กอด1:
หวังว่าคงไม่มาม่าตอนกลับไทยนะ
รับไม่ด้ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ sogato

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ซึ้งมาก :m1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด