เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus  (อ่าน 2512877 ครั้ง)

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
อบากบอกว่าหนังสือหนามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :sad5:
เห็นตอนแรกนี่แอบตกใจเลย  :try2:
หนาไม่พอ ยังมี3เล่มอีกตังหาก  อ่านทีต้องเคลียร์งานก่อนอะไรก่อนเลย  :laugh:

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น  แค่ความหนา ก็คุ้มค่า คุ้มราคามากค่ะ  999 ไม่ถือว่าเสียเปล่าเลย  o13
ยิ่งคุณภาพคับเล่ม ยิ่งไม่ต้องบอกเนอะ ว่าคุ้มขนาดไหน  :กอด1:

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
แวะมาทักทายตามประสา คน คุ้นเคย 555 (เหรอ)

มีพรายกระซิบว่าคนแต่งเรื่องนี้คือ   แต่น แต๊น แต้น 

คือคนที่เรารู้จัก เพราะฉะนั้นจึงต้องรีบมาอ่าน 

แต่ ยังอ่านไม่จบนะค่ะ เพิ่งจะเริ่มอ่านตอนที่เค้าจัดพิมพ์แล้วนี่นะ (ช้าได้อีก) หุหุ

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ

darkeyes1

  • บุคคลทั่วไป
อึม...  เมื่อวานได้หนังสือจากบ้านใหญ่แล้ว แต่ใจอยากเล่นเกมส์  เลยเล่นก่อน  พึ่งอ่านเมื่อเช้า

เอ่อ...  อ่านจนถึงตอนพิเศษของผู้แต่งแล้ว ยังอ่านไม่จบนะ แต่รู้สึกเหมือนเป็นภาคที่ริวปลดปล่อยตัวตนจริงๆอย่างที่ผู้แต่งบอกจริงๆด้วยอะ

แต่ความน่ารัก และอะไรหลายๆอย่างยังคงเหมือนเดิม  แล้วที่สำคัญ ดูรูปแบบของเรื่องรวมๆ โดยตัดเนื้อหากับเนื้อเรื่องที่แตกต่างออก มันแทบเป็นเรื่องย่อการพัฒนาความสัมพันธ ระหว่างริวกับไผ่เลยอะ แถมมีหลายฉาก  ไม่สิเกือบทุกฉากเลยที่ทำให้อดนึกถึงเนื้อเรื่องหลักไม่ได้

ประมาณว่า  แม้สถานที่จะแตกต่าง สถานะภาพจะแตกต่างกัน แต่เหตุการณ์ทำนองนี้เคยเกิดขึ้นแล้วในเรื่องหลัก  เล่นเอาแทบอยากตะโกนดังๆว่า ผมจำได้ๆ  อะไรประมาณเนี้ย เหอๆ (ท่าจะเ็ป็นเอามาก)

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
อิจฉาคนที่สั่งหนังสือจังเลย เค้าอยากได้มั่ง

ออฟไลน์ spring

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-7
ป้าฝากจดหมายมาจ้า ^^

*********************

จดหมายน้อยถึงคุณผู้อ่าน
 
คิดว่าหนังสือคงถึงมือทุกท่านแล้วนะคะ  สำหรับคนที่โอนหลังจากวันที่ 12   จะจัดส่งหนังสือให้วันจันทร์ที่ 20 นี้นะคะ
ตอนนี้หนังสือที่สั่งพิมพ์รอบแรกหมดแล้วนะคะ  เหลือเฉพาะส่วนของคนที่สั่งจองและยืนยันเมล์ไว้เท่านั้น  ในส่วนของคนที่เพิ่งได้อ่านและต้องการหนังสือ  ขอรวบรวมจำนวนสักนิดนะคะ  คิดว่าไม่เกินสิ้นเดือนนี้คงทราบว่าจะสั่งใหม่กี่เล่ม  ใครสนใจก็เมล์มาได้ที่ tanjai1991@gmailดอทคอม  ค่ะ (อย่าลืมเปลี่ยน “ดอทคอม” เป็น .com ด้วยนะคะ)
ในส่วนของภาคพิเศษ  ที่เคยขอข้อมูลของหลายๆท่านไป  แต่กลับได้ออกไม่กี่ฉาก ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ  แบบว่าด้วยเนื้อเรื่องมันบังคับไม่สามารถลงรายละเอียดได้จริงๆ  เอาไว้แก้ตัวในเรื่องใหม่นะคะ  แฮ่...
 
ด้วยรักจากใจ
Anonymus
 
ปล.ใครจะกล้าให้น้องแวมไพร์โดนกดตอนที่อีกฝ่ายกลายเป็น....ได้ละคะ  ไม่เอา ไม่งาม  (แต่ก็เกือบเขียนแหละ)

ออฟไลน์ £.Ma|e¥

  • ชั้นคือผู้หญิงโรคจิต!! โฮะๆๆ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
Re: เธอคือ...ลมหายใจ b
«ตอบ #6755 เมื่อ18-06-2011 22:27:20 »

ูู^
^
^
จิ้มๆๆๆๆ  :z13: :z13:  :m20:
v
v
v
(แทรกกลางซะงั้น >..<)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2011 22:29:33 โดย What.wa »

ออฟไลน์ spring

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-7
ยังมีคนรออ่านมั้ยน๊า เห็นใครๆ ก็ได้หนังสือกันหมดแล้ว  :sad4:

****************


ตอนที่ 119



‘จะๆกับฉากสวีทหวานกลางร้านข้าวต้ม ของนักร้องหนุ่มต. กับหนุ่มนิรนาม’

‘นักร้องหนุ่มต. จากวงบอยแบนด์ชื่อดัง เดินจูงมือกับหนุ่มหน้าใสดูหนังรอบดึก’


หนังสือบันเทิงและหนังสือพิมพ์หน้าบันเทิงลงภาพตะวันกับใครคนหนึ่งขณะที่ทั้งคู่กำลังออกจากโรงหนัง  อีกภาพเป็นตอนทั้งคู่นั่งกินข้าวต้มด้วยกันแม้ภาพจะไม่ชัดนัก  แต่ก็ดูรู้ว่าเป็นตะวัน

เขมชาติถอนใจยาว  ก่อนจะมองหน้าศิลปินในสังกัดของตัวเองอย่างหนักใจ


“เราต้องจัดแถลงข่าวเรื่องของคุณนะตะวัน”

“ไม่!” ตะวันปฏิเสธทันควัน  

“ตะวัน” เขมชาติปรามเสียงหนักๆ หรือเขาจะคิดผิดที่ขอจัดการเรื่องนี้เอง  แทนที่จะให้กรเวชจัดการให้เหมือนที่ผ่านมา

“ไม่เด็ดขาด  เกนต้องไม่ถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย  สื่อโจมตีผม  ไม่ใช่เกน”  ตะวันคัดค้านเสียงแข็ง  ขณะที่คนอื่นๆ หันไปสบตากัน  แล้วนิ่งฟังอย่างสงบ

“แต่ถ้าไม่พูดความจริง  ทุกอย่างก็จะยิ่งแย่ไปกันใหญ่”

“แต่ถ้าเปิดเผยออกไป  เกนจะกลายเป็นเป้าให้สื่อรุมทึ้ง  เรื่องของเธอจะถูกขุดคุ้ย  หรืออาจจะมีผลทางกฎหมายขึ้นมาก็ได้  ผมจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นเด็ดขาด”

“ก็ถ้าบริษัทเราไม่ฟ้อง  ใครจะทำอะไรได้  อีกอย่างข่าวแบบนี้จะฮือฮาแค่ระยะแรกๆ เท่านั้น  เดี๋ยวพอมีเรื่องอื่นเข้ามา  ข่าวก็จะซาไปเอง”

“จริงครับ  แค่ระยะสั้นๆ  อีกหน่อยข่าวอื่นก็เข้ามากลบ  เพราะงั้นปล่อยให้สื่อเล่นข่าวไป  ไม่ต้องแถลงอะไรทั้งนั้น ผมไม่แคร์ว่าใครจะมองผมเป็นยังไง”

“ตะวัน  แค่พูดความจริงทุกอย่างก็จะจบนะ”

“แล้วไงครับ  หลังจากนี้เกนขวัญจะเป็นยังไง  จะต้องเจออะไรบ้าง  ชีวิตผมหาความสงบไม่ได้เพราะสื่อมามากพอแล้ว  ผมไม่ต้องการให้เกนต้องแปดเปื้อนไปด้วย”


เขมชาติถอนหายใจเฮือก  แล้วต่อสายออกไปข้างนอก  ก่อนจะวางสายโดยไม่ได้พูดกับคนข้างนอกสักคำเดียว


“แต่เรื่องนี้ตะวันตัดสินใจคนเดียวไม่ได้” เขมชาติบอกเสียงเรียบ ดูเหมือนจะเจตนาให้คนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาได้ยินเช่นกัน

“ถูกค่ะ  เกนก็ควรมีสิทธิ์ตัดสินใจด้วยไม่ใช่เหรอคะ” ผู้มาใหม่เอ่ยเสียงหนักแน่น  ก่อนจะเดินนำเข้ามา  แต่ที่ทำให้ทุกคนในห้องจ้องมองเป็นตาเดียวคือชายหนุ่มร่างโปร่งผิวขาวใส  ผู้มีใบหน้าละม้ายกับคนเดินนำราวกับคู่แฝด

“เกน”  ตะวันหลุดเสียงเรียกแผ่วเบา ใบหน้าที่เคยเรียบเป็นหน้ากากเสมอ  เปลี่ยนเป็นตกใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นคนที่มากับเกนขวัญถนัดตา  

“เกนไม่กลัวสื่อหรอกนะคะ  แถลงข่าวเถอะค่ะ  ดีกว่าปล่อยไว้แบบนี้  พี่จะมีแต่เสียกับเสีย” เกนขวัญทรุดลงนั่งข้างๆ ตะวันแล้วกุมมือเขาไว้  โดยทำเป็นไม่ได้ยินเสียงกระแอมกระไอของพี่ชาย

“พี่ไม่แคร์” ตะวันตอบเสียงเรียบ  แต่ดวงตาเป็นประกายอ่อนโยนอย่างเห็นได้ชัด

“แต่เกนแคร์  แคร์พี่  แคร์คิสมีทุกคน  ปัญหาทั้งหมดมันเริ่มมาจากเกนนะคะ  เกนต้องรับผิดชอบ”

“ไม่เกี่ยวกันเลย”

“เกี่ยวสิคะ  ก็ในเมื่อเราตกลงจะคบกัน  เราก็ต้องช่วยกันฝ่าฟันปัญหาทุกอย่างสิคะ  ไม่ใช่ปล่อยให้อีกคนเผชิญปัญหาอยู่คนเดียว  หรือถ้าเกนมีเรื่อง  พี่ตะวันจะไม่ช่วยเกนเหรอคะ”

“จะเป็นอย่างงั้นได้ยังไง”

“ก็นั่นสิคะ  แล้วเกนจะปล่อยพี่เผชิญทุกอย่างคนเดียวได้เหรอ...ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยค่ะ   เท่ออก  ได้เป็นแฟนกับตะวันแห่งคิสมี...จู่ๆ ก็กลายเป็นคนที่ผู้หญิงค่อนประเทศอิจฉา  ไม่ดีตรงไหนคะ”

“มันไม่ใช่เรื่องน่าสนุกนะเกน  พี่กลัวว่าเกนจะเดือดร้อนเพราะพี่...”

“ไม่ต้องโยกโย้หรอกน่า  ยัยเกนแกแกร่งพอ  ไม่งั้นคงไม่รับมือกับคุณอยู่ได้ตั้งหลายเดือนหรอก” พี่ชายเกนขวัญขัดคอเสียงเยาะหยัน

“พี่กรดอ่า  ไหนว่าจะพูดดีๆ ไง” เกนขวัญหันไปปรามพี่ชายเบาๆ ด้วยความเกรงใจ  เพราะถึงอย่างไรงานนี้คนผิดก็คือเธอ  ทำให้พี่ๆ ต้องพลอยวุ่นวายไปด้วย

“เออ!”  พี่ชายเกนขวัญกระแทกเสียงแล้วทำหน้าบึ้ง  ไหล่หนากว่าน้องสาวเล็กน้อย  พิงเก้าอี้แรงๆ ด้วยความหงุดหงิด  ขณะที่น้องสาวหันไปกุมมือตะวันไว้เพื่อให้กำลังใจ

“ขอแนะนำให้รู้จักอย่างเป็นทางการอีกครั้งละกันนะ  นี่คือคุณกรกฎ  ตัวจริง  ส่วนคุณกรกฏที่เรารู้จักกันมาหลายเดือนคือน้องเกนขวัญ  หวานใจคุณตะวันของเรา” เขมชาติแนะนำยิ้มๆ  


เรื่องเกนขวัญปลอมตัวเป็นพี่ชาย  เพื่อมาสมัครเป็นผู้ช่วยผู้จัดการของ
คิสมีนั้น  เขาเองก็เพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้  ตอนที่เริ่มมีข่าวลือเรื่องตะวันทำท่าสนิทสนมกับผู้จัดการส่วนตัวมากเป็นพิเศษ  กรเวชก็เรียกผู้ช่วยผู้จัดการคนใหม่เข้าไปเตือน  เกนขวัญจึงสารภาพความจริง  เพราะเธอทนไม่ได้ที่ตะวันถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเกย์  

เกนขวัญแอบเอาเอกสารของกรกฏมาสมัครงานได้เพราะอาศัยว่าหน้าคล้ายกันมากจนแทบแยกไม่ออกหากไม่ยืนเทียบกัน  ความจริงแล้วเธอยังเป็นแค่นิสิตปี 2 เท่านั้น


“ตกลงว่าจริงเหรอเนี่ย?  ต้มผมซะเปื่อยเลยนะน้องเกนขวัญ” ธีรดลโอดโอยด้วยความตกใจ  ที่ผ่านมาเขาเข้าใจว่าเกนขวัญดูนุ่มนิ่มเพราะเป็นเกย์  ไม่ทันเฉลียวใจว่าเธอเป็นผู้หญิงปลอมตัวมา คงเพราะรูปร่างสูงค่อนข้างผอมเพรียวไม่ค่อยมีส่วนเว้าส่วนโค้งนัก  ทำให้พรางตาคนได้ง่าย  แถมเธอยังไปตัดผมเสียสั้นเกรียน  จนแม้แต่กรกฏยังผมยาวกว่าน้องสาว

“เวอร์ไปพี่ดล  จริงๆ น้องเกนเขาก็สวยน่ารักออก  เราไปคิดว่าเขาเป็นตุ๊ดเป็นแต๋วเลยไม่ทันเอะใจเองมากกว่า”  ไวยากรณ์ออกตัวแทนเกนขวัญและถือโอกาสทับถมธีรดลไปในตัว

“รีบออกรับแทนเชียวนะ  แน่ใจเร้อว่าคุณแก้วเขาจะยอมเซย์เยสกะแกอ่ะ  เดี๋ยวก็แห้วอีกหรอกเจ้าไวย์”

“ปาก...ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าพี่ใบ้หรอก” ไวยากรณ์หันไปทำหน้าบึ้งใส่
ธีรดล  ขณะที่เกนขวัญได้แต่ยิ้มแหยๆ  เพราะเท่าที่เธอรู้  พี่สาวดูเหมือนยังไม่ยอมรับปากว่าจะคบกับไวยากรณ์

“เกนต้องขอโทษทุกคนด้วยนะคะ ที่เกนทำตัวเป็นสิบแปดมงกุฎหลอกลวงทุกคนมาตลอด  ขอโทษจริงๆ ค่ะ”

“เอาน่าน้องเกน  คิดเสียว่ามันเป็นบุพเพอาละวาดละกัน”

“เอ่อ...แล้วคุณกรกฎนี่...ตกลงว่าเป็นผู้ชายแน่เหรอครับ  ไม่ใช่ผู้หญิงปลอมตัวมาเหมือนน้องเกนขวัญนะ?”


ธีรดลอดข้องใจไม่ได้  เพราะคนตรงหน้า  หน้าตาสวยเหมือนผู้หญิงยิ่งกว่าน้องสาวเสียอีก  แม้จะมีไหล่หนาและมีกล้ามเนื้อตึงสวย  แต่ก็ยังดูเพรียวบาง  ทำให้อดเข้าใจผิดไม่ได้


“แน่ครับ  ผมมีแฟนแล้ว จะแต่งกันอีกไม่กี่เดือนด้วย”  กรกฎตอบยิ้มๆ  แต่สายตาจิกกัดจนธีรดลคอหดหน้าจ๋อย  ขณะที่ไวยากรณ์หัวเราะเยาะดังลั่น

“เราจะจัดแถลงข่าวเรื่องของตะวันในวันพรุ่งนี้”


งานแถลงข่าวกลายเป็นเรื่องฮือฮาขึ้นหน้าหนึ่ง ของหนังสือพิมพ์และหนังสือบันเทิงแทบทุกฉบับ  เมื่อตะวันยอมรับว่าคบอยู่กับคนในภาพจริง  แต่เจ้าตัวไม่ใช่ผู้ชายอย่างที่ใครๆ คิด  พร้อมกับเปิดตัวเกนขวัญกับกรกกฎ  ทั้งคู่คือน้องแท้ๆ ของแก้วกุดั่นนางแบบสาวชื่อดังที่มีข่าวว่าคบหาดูใจอยู่กับไวยากรณ์  

นักข่าวพากันฮือฮาที่เห็นเกนขวัญและพี่ชายซึ่งตอนนี้จำต้องแสดงตัวในฐานะผู้จัดการของตะวัน  หน้าคล้ายกันราวกับแฝดทั้งที่อายุห่างกันเกือบ 7 ปี  แต่เมื่อเอาภาพในข่าวมาเทียบ  ก็ยืนยันได้ว่าคนที่ไปไหนมาไหนกับตะวัน เป็นเกนขวัญจริงๆ ไม่ใช่พี่ชาย  

ตะวันเล่าว่าเขาเจอเกนขวัญตอนคอนเสิร์ตแรกของคิสมี  เธอคือเด็กสาวคนที่ล้มลงไปจนโดนเหยียบแขนหัก และตะวันเป็นคนลงไปช่วยเธอ  นักข่าวหลายคนฮือฮาเพราะจำเหตุการณ์นั้นได้  ตะวันให้เหตุผลว่าที่ปิดข่าวเรื่องคบกันเพราะเกนขวัญยังเป็นนักศึกษาอยู่  เกรงว่าจะกระทบกับการเรียนจึงไม่ยอมให้สัมภาษณ์ในตอนแรก  แต่เมื่อเรื่องราวทำท่าจะบานปลายจึงจำต้องเปิดตัวคนรัก  

พอนักข่าวพาดพิงไปถึงอดีตคนรักของตะวันที่เพิ่งเลิกกับสามี  และให้ข่าวยืนยันว่าตะวันเป็นเกย์  เขมชาติก็เหยียดยิ้ม  แล้วบอกให้นักข่าวคนดังกล่าวไปถามความจริงจากอดีตผู้จัดการส่วนตัวของดุจดาวเองจะดีกว่า  เพราะได้ข่าวว่ารายนั้นกำลังจะออกหนังสือแฉอยู่อีกไม่กี่วัน  สร้างความฮือฮาให้นักข่าวอีกรอบ  ขณะที่ตะวันเองยังเหลียวมองหน้า  เขมชาติ อย่างแปลกใจเพราะเขาก็เพิ่งทราบเรื่องนี้


..................................................


พสุวางโทรศัพท์ลงช้าๆ  พี่ลูกเจี๊ยบเพิ่งโทรมาบอกว่าขายที่ดินแปลงที่สระบุรีได้แล้วและถ้าพสุพร้อมก็นัดโอนเงินกันได้ทันที  ตอนแรกพสุเกือบพลั้งปากบอกให้พี่ลูกเจี้ยบช่วยขายบ้านของเขาให้ด้วย  โชคดีที่ยั้งปากไว้ทัน

ริวรักบ้านหลังนี้  หากรู้ว่าขายบ้านให้ใคร  เด็กหนุ่มคงไม่แคล้วดิ้นรนไปซื้อกลับคืนมา   หากรวมเงินที่ได้จากการขายที่ดินที่สระบุรี  กับมูลค่าของบ้านหลังนี้  ก็น่าจะพอใช้หนี้ริวได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องแตะต้องบ้านสวน  ชายหนุ่มจึงตัดสินใจต่อสายอีกครั้ง


“คุณสุจริตครับ  ผมพสุเองครับ...ผมมีเรื่องอยากจะขอร้องให้ช่วย...ไม่ทราบว่าคุณสุจริตว่างเมื่อไหร่ครับ...ครับ...ขอบคุณมากครับ”


แม้ทนายสุจริตจะยอมรับว่ามูลค่าของบ้านพสุ  บวกกับเงินสดที่ได้จากการขายที่ดินที่สระบุรี จะเพียงพอที่จะใช้หนี้ริวได้ทั้งหมด  แต่สุดท้าย  คนที่จะตัดสินใจได้ว่าจะรับคืนเป็นเงินสดหรือที่ดิน  ก็ยังต้องเป็นริวเองอยู่ดี  ทนายสุจริตจึงแนะนำให้พสุกลับมาคุยกับริวให้เรียบร้อยก่อน


“นี่อะไรครับ?” ริวถามด้วยความงุนงง  เมื่อพสุเอาเอกสารและเช็คเงินสดวางเรียงให้ตรงหน้า

“โฉนดบ้านหลังนี้  กับเงินสดที่พี่ขายที่ที่สระบุรีมาได้  ริวเซ็นรับไว้ด้วยนะ” พสุอธิบายด้วยน้ำเสียงสดใส  ต่อไปนี้เขาจะได้มองหน้าน้องได้อย่างเต็มภาคภูมิ  ไม่ต้องคอยตะขิดตะขวงใจทุกครั้งที่กอดริวอีกแล้ว

“ทำไมริวต้องเซ็นรับละครับ” ริวก้มอ่านเอกสารอย่างงุนงง  ไม่เข้าใจว่าพสุจะให้เขาเซ็นทำไม

“พี่คืนเงินที่ริวจ่ายหนี้แทนพ่อพี่ไปยังไงล่ะ” พอได้ยินอย่างนั้นริวก็ผลักเอกสารทั้งหมดออกห่างราวกับเป็นของร้อน

“ริวไม่เอาหรอก  นี่มันเงินของพี่นะ  แล้วบ้านนี้ก็บ้านพี่  ทำไมจะต้องมายกให้ริวด้วยครับ”

“ถ้าริวไม่อยากได้เป็นโฉนดบ้าน งั้นพี่จะขายแล้วเอาเงินสดมาคืนก็แล้ว กันนะ” พสุชี้แจงอย่างใจเย็น  ขณะที่ริวเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อได้ยินว่าพสุจะขายบ้านหลังนี้  บ้านที่ริวอาศัยจนคุ้นเคย  ผูกพันราวกับเกิดและโตที่นี่

“ไม่ๆ!  ขายได้ไงครับ  นี่บ้านเรานะ” ริวอุทานเสียงหลงแล้วคว้าโฉนดบ้านไปถือไว้

“แต่ยังไงริวก็ต้องรับไว้สักทางนะ  ถ้าไม่เซ็นรับโฉนดบ้าน  ก็ต้องรับเป็นเงินสดไป” พสุบอกยิ้มๆ  แล้วยื่นเอกสารให้เซ็นอีกครั้ง

“แต่...” ริวก้มมองเอกสารในมือพสุ  และโฉนดบ้านในมือด้วยความไม่สบายใจ

“รับไปเถอะริว  พี่ต้องใช้หนี้แทนพ่อพี่  ถ้าริวไม่รับเงินคืนไป  พี่ก็ไม่สบายใจนะ” พสุอธิบายแล้วลูบผมเด็กหนุ่มเบาๆ  ริวคว้ามือพสุมาจูบแล้วกุมไว้แนบกับอก  แรงสะเทือนใต้ฝ่ามือระรัวจนพสุแปลกใจ

“พี่...พี่สัญญาได้มั้ย...ว่าถ้าริวรับไว้แล้ว...แล้วทุกอย่างระหว่างเราจะไม่เปลี่ยนไป...สัญญาได้มั้ยครับ” ริวถามด้วยน้ำเสียงเครือสั่นจนแทบจะร้องไห้  เขากำลังมีความสุข  มีความสุขเสียจนกลัวความเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง  พอรู้ว่าพสุจะใช้หนี้คืนด้วยการยกบ้านหลังนี้ให้  เด็กหนุ่มก็กังวลไปสารพัด  


ไม่มีบ้านแล้ว...หากวันใดพสุอยากไปจากเขา  พสุคงไปง่ายๆเพราะไม่มีพันธะใดๆ ผูกพันเอาไว้  แต่ริวลืมคิดไปว่า  ความสูญเสียอันใหญ่หลวงที่ผ่านมาเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับพสุเพียงใด สมบัตินอกกายเหล่านี้ ไม่มีความ สำคัญเท่าคำสัญญาและความผูกพันที่พวกเขามีต่อกัน


“พี่สัญญา...ถ้าจะมีอะไรเปลี่ยน  พี่รับรองว่ามันต้องเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น” พสุยืนยันหนักแน่นเพื่อให้ริวสบายใจขึ้น

“ดียังไง...พี่บอกได้มั้ย”  ริวยังไม่วายคาดคั้น  เด็กหนุ่มต้องการให้แน่ใจว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ระหว่างพวกเขา

“พี่ก็ไม่รู้...แต่พี่เคยบอกริวไปแล้ว  ว่าพี่จะไม่ปล่อยมือจากริวเป็นอันขาด  ต่อให้ริวไม่ต้องการพี่ก็ตาม”

“ไม่มีวันนั้นหรอกครับ” ริวพูดจบก็เซ็นชื่อลงในเอกสารทั้งหมดที่พสุส่งให้  

“พี่ก็รู้ว่ากว่าริวจะมีวันนี้ได้  ริวต้องรอคอยมานานแค่ไหน  ริวต่างหากละครับที่จะไม่ยอมปล่อยมือจากพี่เป็นอันขาด  แล้วริวก็จะไม่ยอมให้ใคร หรืออะไรมาทำให้พี่ปล่อยมือจากริวด้วย” เด็กหนุ่มยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น  แล้วรวบตัวพสุเข้ามากอด  


พสุลูบหลังกว้างเบาๆ  กระซิบข้างหูอย่างหยอกเย้าว่าริวคิดมากเป็นตาแก่  จึงโดนริวลากขึ้นเตียงไปด้วยกัน  ปล่อยให้เช็คเงินสดและโฉนดถูกวางทิ้งไว้บนโต๊ะหัวเตียงอย่างไร้คนสนใจ


..................................................


ธีรดลลงจากรถตู้ด้วยสีหน้าอ่อนล้า  มีกรเวชเดินตามหลังมาติดๆ ปีกว่าๆ ที่ต้องวิ่งรอกระหว่างศาลกับออฟฟิศ  เพื่อสู้คดีมรดกของลูกสาวตัวน้อย  วันนี้เป็นวันตัดสินคดี  เพื่อนๆ จึงมารอกันพร้อมหน้าด้วยความเป็นห่วง


“เป็นไงบ้างพี่ดล” ไวยากรณ์เป็นคนแรกที่วิ่งปราดเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง

“ชนะคดี”ธีรดลตอบเสียงแห้งเบาใบหน้าหม่นหมองแทนที่จะยินดีปรีดาที่ชนะคดี

“แล้ว...ทำไมทำหน้าแบบนั้นละพี่”

“ไอ้พวกนั้นน่ะสิ  พอแพ้คดี มันก็ตามมาว่ากระทบกระเทียบเรื่องอาการป่วยของน้องเดือน  พอสื่อสนใจมันก็โพนทะนาว่าน้องเดือน..ป่วยเป็นอะไร”


กรเวชอธิบายด้วยน้ำเสียงขมขื่น  ขนาดเขายังแค้นจนแทบจะฆ่าพวกมันทิ้ง  แล้วธีรดลจะเจ็บปวดแค่ไหนที่ลูกสาวตัวน้อยถูกประจานว่าติดเชื้อเอดส์มาจากมารดา  ทั้งที่คนเอาเชื้อร้ายมาแพร่  ก็เป็นพ่อแท้ๆ ของน้องเดือนเอง  แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นย่าเป็นปู่กลับประจานหลานสาวตัวเล็กๆ เพียงเพื่อความสะใจ และแก้แค้นที่แพ้คดี


“ไอ้สารเลวเอ๊ย  พี่กรฟ้องมันเลย  ฟ้องมันให้หมดตัวเลย  ไอ้เลว! เด็กตัวนิดเดียวยังลากเข้ามาเกี่ยวได้อีก ชั่วจริง” ไวยากรณ์ยังคั่งแค้นไม่หาย  เขาเคยเจอน้องเดือน  เด็กน้อยตาแป๋ว  หน้าตาน่ารัก  ช่างพูดช่างประจบ  ทั้งๆ ที่อายุเพียงสองขวบเศษแต่ฉลาดเกินเด็กวัยเดียวกัน  หากไม่เพราะภูมิคุ้มกันบกพร่อง  คงไม่ต้องนั่งๆ นอนๆ อยู่แต่ในบ้านแบบนั้น

“ยังไงเขาก็พูดไปแล้ว...ไม่มีประโยชน์ที่จะไปเอาความกับคนพวกนั้น...ช่างหัวมันเถอะ  ยังไงเราก็หนีความจริงไปไม่พ้นอยู่ดี”  ธีรดลปรามเสียงขื่น  


สำหรับเขา  นี่เป็นชัยชนะแห่งความเจ็บปวด  แม้น้องเดือนจะยังเล็กเกินกว่าจะรับรู้เรื่องนี้ แต่หากข่าวเรื่องน้องเดือนติดโรคร้ายแพร่ออกไป  ชาวบ้านละแวกที่มารดาอาศัยอยู่คงตั้งแง่รังเกียจแน่นอน  ธีรดลตัดสินใจแล้วว่าจะพามารดากับน้องๆ ย้ายมาอยู่ในกรุงเทพด้วยกัน  และกรเวชก็รับปากว่าจะช่วยหาหมู่บ้านจัดสรรที่บรรยากาศดีๆ ไม่พลุกพล่านให้


“ใจเย็นๆ นะดล  เดี๋ยวเรื่องก็คงซาไปเอง  ไม่มีสื่อไหนกล้าเล่นข่าวเกี่ยวกับเด็กนักหรอก  มีหวังโดนพวกสิทธิมนุษยชนเล่นงานตาย”

“ตอนนี้ประเด็นมันเบนมาแล้วต่างหากไผ่...นักข่าวเขาข้องใจว่าดลน่ะเป็นเอดส์ด้วยหรือเปล่า”

“เฮ้ย! บ้าบอไปกันใหญ่แล้ว...แต่พี่ดลจะมีเชื้อได้ไง  ก็วันก่อนเรายังบริจาคเลือดกันอยู่เลย”

“ก็นั่นแหละ  ต่อให้ดลมีหลักฐานเรื่องไม่มีเชื้อเอชไอวี  แต่ก็โดนเล่นงานว่าอยากได้มรดก  เลยรับเลี้ยงน้องเดือนไว้ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ลูก”

“ถ้าสื่อฉบับไหนเล่นข่าวนี้นะ  ผมจะหาทนายมาฟ้องมันเอง  เลวจริงๆ  พี่ดลเลี้ยงลูกมาคนเดียวตั้งนาน  กว่าจะมีเรื่องไอ้มรดกบ้าบออะไรนี่”


ธีรดลยิ้มขื่น จะมีสักกี่คนที่เข้าใจว่าเขารักน้องเดือนแค่ไหน  นับตั้งแต่น้องเดือนลืมตาดูโลก  ธีรดลก็เป็นคนประคบประหงมเลี้ยงดูหนูน้อยมาตลอด  จนถึงกับต้องลาออกจากงานประจำ  แม้จะรู้ว่าหนูน้อยติดโรคร้ายมา  แต่ธีรดลก็ยังมีความหวังว่าสักวันจะมีปาฏิหาริย์ที่ช่วยรักษาลูกสาวตัวน้อยๆ ให้หายจากโรคนี้ หากไม่เพราะมรดกของน้องเดือน  ชีวิตของเขากับลูกสาวคงสงบสุข  ด้วยความรักและความหวังเล็กๆ ต่อไป  


“บางที...ผมอาจไม่เหมาะที่จะอยู่ในฐานะนักร้องอีกแล้วก็ได้” ธีรดลพูดด้วยน้ำเสียงท้อแท้  แต่เพื่อนๆ ร่วมวงต่างส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย

“พูดอะไรอย่างนั้นดล  ไม่ร้องเพลงแล้วดลจะไปทำอะไร  กลับไปเป็นนักดนตรีแบ็คอัพอย่างเก่าหรือไง  แล้วครอบครัวของดลล่ะ  ทั้งแม่  ทั้งน้องๆ  แล้วยังค่าใช้จ่ายของน้องเดือนอีก  พี่ไม่ได้ดูถูกนะ  แต่มรดกแค่นั้น  เทียบกับค่ารักษาน้องเดือนไม่กี่ปีก็หมด”


กรเวชติงเสียงเข้ม  เขารู้ว่าธีรดลกำลังเสียใจ  ท้อใจ  แต่จะปล่อยให้ท้อจนทำลายตัวเองด้วยวิธีโง่ๆ อย่างลาออกจากวงไม่ได้เป็นอันขาด


“แต่ถ้าผมอยู่  ก็มีแต่จะฉุดให้ชื่อเสียงของวงตกต่ำลง  ผมไม่อยากให้คิสมีต้องสิ้นชื่อเพราะผม”

“คิดมาก...อย่าไปยึดติดขนาดนั้นเลยดล  ทุกวงมันมีดังก็มีดับทั้งนั้น  มีวงดังๆ มากมายที่ทุกวันนี้คนจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ  จะแปลกอะไรถ้าสักวันจะไม่มีคนรู้จักคิสมี” พสุเตือนด้วยน้ำเสียงหนักแน่น  เพื่อนร่วมวงต่างพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย  ไม่มีใครอยากให้ธีรดลโทษตัวเองอีกแล้ว

“จริงด้วยพี่ดล  คิดมากหน้าจะยิ่งเหี่ยวนะ   พี่ยิ่งแก่ๆ อยู่” ไวยากรณ์ทำเสียงปลอบ  แต่ตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์  

“ไอ้ไวย์!” ธีรดลหันขวับผุดลุกขึ้นฉับพลัน  แต่ไวยากรณ์ที่ระวังตัวอยู่แล้วโดดผลุงไปไกล  แล้ววิ่งหนีหน้าตั้ง  มีธีรดลวิ่งไล่กวดเตะไปติดๆ  


คนอื่นๆ พากันหัวเราะ  ยกเว้นพสุ  ชายหนุ่มทอดตามองเพื่อนร่วมวงที่วิ่งไล่กวดกันอยู่ที่สนามหน้าออฟฟิศนิ่ง  ก่อนชะงักเมื่อเหลือบไปเห็นรถตู้ของบริษัทเข้ามาจอดส่งนักร้องรุ่นน้องที่หน้าออฟฟิศ


“อ้าว! ทำไมป่านนี้เพิ่งมากัน  สงสัยเพิ่งไปเรียนร้องเพลงกลับมา...เลยเวลาซ้อมไปเป็นชั่วโมงๆ  คอนเสิร์ตก็จะถึงอยู่อีกไม่กี่วันแท้ๆ  ไม่ไหวจริงๆ เด็กพวกนี้” กรเวชบ่นพึมด้วยความไม่พอใจ  คงเพราะเขาคุ้นกับการดูแลคิสมีที่ทุกคนเป็นมืออาชีพ  ทำงานง่ายและมีความรับผิดชอบสูง  พอมาเจอนักร้องรุ่นใหม่ที่อ่อนประสบการณ์และขาดวินัยก็อดหงุดหงิดไม่ได้

“ไปเรียนร้องเพลงเหรอครับ?  ทำไมละครับ” พสุหันไปถามอย่างแปลกใจ  เด็กกลุ่มนี้เคยมีผลงานออกมาบ้างแล้ว  แม้จะไม่ถึงขั้นออกอัลบั้มเดี่ยว  แต่ก็ไม่น่าจะอ่อนความสามารถขนาดนั้น

“ก็พี่เผ่านะสิ  บ่นว่าเด็กชุดนี้ร้องเพลงยังไม่ค่อยดีนัก  แล้วพื้นฐานทางดนตรีก็น้อยมาก  คุณเขมก็เลยให้ไปเรียนเพิ่มเติม  แต่ครูนงนุชแต่งงานไปแล้ว  คนที่เก่งพอๆ กับครูนงนุช  เขาก็เปิดสถาบันสอนมากกว่าจะยอมมาเป็นพนักงานของบริษัทเรา  ก็เลยต้องส่งเด็กออกไปเรียนนี่แหละ...จะว่าไป สอนร้อง สอนเล่นดนตรีนี่ก็ดีนะ  เด็กสมัยนี้สนใจด้านนี้กันเยอะจะตาย  ถ้าอย่างไผ่นี่คงเปิดสอนการแสดงควบไปด้วยยังได้”

“น่าสนใจนะครับ” พสุตอบยิ้มๆ  ขณะที่กรเวชหัวเราะชอบใจ

“พี่พูดเล่นหรอก  ขืนไปกันหมด  พี่ก็ตกงานสิ...อ้าวเฮ้ย! ทำไมนักดนตรีเพิ่งมาถึง  อะไรกันพวกนี้เหลวไหลจริง  พี่ต้องไปดูหน่อยแล้ว”


กรเวชรีบเดินแทบเป็นวิ่งลงไปชั้นล่าง  ขณะที่พสุยังจ้องมองสนามหน้าออฟฟิศนิ่งงัน...บางที  เขาอาจจะเจอถนนเส้นใหม่  ที่ต้องการแล้วก็ได้


..................................................

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2011 22:38:21 โดย spring »

ออฟไลน์ £.Ma|e¥

  • ชั้นคือผู้หญิงโรคจิต!! โฮะๆๆ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
กรี๊ดดดดดดด พี่ไผ่~    :m1:

tamaki1

  • บุคคลทั่วไป
ได้รับหนังสือแล้วนะคะ ต้องขอบคุณมากๆเลยนะคะ

ladymoon_yy

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
ยังตามอ่านอยู่ค่า ไม่ต้องห่วง ดพราะไม่ได้สั่งหนังสือ แหะๆ ไม่มีกะตังค์

จะรอตอนต่อไปค่า

ปล.คิสมีโชคดีที่มีแต่คนดีๆร่วมวง

little_nok

  • บุคคลทั่วไป
นึกไว้แล้วเชียว ว่าไผ่ต้องเลิกร้องเพลง
หางานที่เกี่ยวข้องกับการร้องเพลงทำ ซึ่งเขารักและมีความสุข
แถมยังได้ใช้ชีวิตอยู่กันเงียบๆ สงบๆ กับริว
ริวก็เก่ง อัจฉริยะทางดนตรีอยู่แล้ว เปิดสถาบันสอนดนตรีกันไปเลยดีกว่า
ดีใจที่มีความรู้ตัวว่ารัก ชอบอะไร แล้วมุ่งตรงไปทางนั้น
แอบเห็นคนเขาได้หนังสือกัน ดีใจไปด้วย
แต่พี่คงไม่ได้เก็บหนังสือนะคะ ต้องขอโทษด้วย ได้แต่แอบอ่านฟรี
ขอบคุณมากที่มาโพสให้คนอ่านได้ความสุขไปด้วย

ออฟไลน์ oilzii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
หนูริวของแจ้โผล่มาน้อยเลื้อออออเกินนนน
ปอลิง ขอกรี๊ดพี่ไผ่ด้วยคนนนนน  :o8:

ออฟไลน์ nomo9

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
สื่อกะปู่ย่าใจร้าย เด็กเป็นเอดส์มันผิดตรงไหน เลวร้ายที่สุดใช้เด็กเป็นเครื่องมือ -*-

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจที่ได้รู้จัก คิสมี  :กอด1:

ออฟไลน์ ammer

  • มีหัวใจแต่ไร้ความรู้สึก
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
ถ้าพี่ไผ่จะเลิกร้องเพลง ก็ไม่ใช่เรื่องเศร้าอีกต่อไป เพราะไม่ว่าจะยังอยู่คิสมี หรือจะเลิกร้องไปทำงานอย่างอื่น ไม่ว่าทางไหนพี่ไผ่ก็จะมีริวอยู่ด้วยเสมอ  :o8:

ใช่มั้ยค่ะ? o18

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
บอกตรงๆว่า ยังไม่ได้อ่านในหนังสือเลยอ่ะ
ตื่นเต้นค่ะ ไม่กล้าอ่าน กลัวจบ
^^

แต่ตอนนี้ เหมือน ได้รุ้เรื่องคนในวง เยอะขึ้น
อ่อยยย สงสารพี่ดล จังเลยอ่ะ ,,
พี่ตะวันก็นะ หวิดละ ถ้าผิดฝาผิดตัวนี่ ... ได้แฟนหนุ่มมาเลยนะ
ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
พสุกรุยทาง เบื้องหลังเลย
ริวก้อคงโอเคให้ผ่าน เพราะไม่ชอบออกสื่ออยู่แล้ว

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
ได้ทำงานที่รัก ได้อยู่กับคนที่รัก
แค่นี้ก็มีความสุขแล้วเนอะพี่ไผ่เนอะ  :-[

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆ แอบเสียใจเบาเบา ที่ตะวันคู่กับเกน เค้าอยากให้คู่กรดอ่ะ  :-[

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
ยังรออ่านอยู่ค่า
โล่งอกเรื่องตะวันไป
เรื่องดลก็หายห่วงปเปราะนึง  ใครจะว่ายังไงก็ช่าง ดลสู้ๆ

ออฟไลน์ Piaanie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
ผ่านไปได้ด้วยดีนะนี่ พี่ไผ่เจอหนทางออกใหม่ๆ แบบไหนน๊อ ขอให้ดีต่อน้องด้วยนะ

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้พี่ไผ่คงพูดได้เต็มปากว่าทุกสิ่งที่กำลังจะสร้างเพื่ออนาคตของตัวเองกับริวมาจากมือตัวเองแล้ว
ตอนนี้พี่ไผ่ดูสุขุม โตขึ้นเยอะมากจริงๆ

ปล..ยังตามอ่านอยู่นะคะ

ออฟไลน์ silw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ยังตามอ่านอยู่ค่ะ สนุกมากเพิ่งตามมาได้ไม่นาน

อยากได้หนังสืออยู่นะ แต่อยู่ต่างประเทศซื้อไม่ได้ TT,TT

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
อ่านยังไม่ัทันหายคิดถึงริวเลย
ไผ่ได้ัพบเส้นทางใหม่ จะเลิกร้องเพลงแล้วเหรอ

Narutear

  • บุคคลทั่วไป
หุๆ ยังตามอยู่คะ ยังตามอยู่ (แม้จะอ่านจบแล้ว)

แต่อ่านจบยิ่งอยากเกาะคนเขียนแล้วบอกว่า "อยากอ่านเรื่องของอลันนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!"  :z3:

เขียนเถอะนะค่า  :serius2:

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
 :m13:ยังรออ่านอยู่น๊า ริวกะไผ่น่าร๊ากกกกก :m1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด