เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus  (อ่าน 2512825 ครั้ง)

ออฟไลน์ amito

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-0
พี่ไผ่เลือกรักริวมากกว่าการร้องเพลงที่พี่ไผ่รัก  อย่าให้เป็นการเลือก ผิด นะริว ดูแลพี่ไผ่ดีๆนะ

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-15
ได้อ่านทันแล้ว หลังจากห่างกันไปนานริวของป้า

ออฟไลน์ kunkai

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3734
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
อ๊า....
จะจบแล้วเหรอเนี่ย :laugh:

ออฟไลน์ mana_ai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
โอยยยย :z3:
จาลงแดงแล้วววว อยากอ่านต่อจังเลยค่าาาา :o8:

ออฟไลน์ ammer

  • มีหัวใจแต่ไร้ความรู้สึก
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
ลาออกไปอยู่ด้วยกัน :-[

ออฟไลน์ MRchai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 286
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
อยากบอกว่าไม่อยากไห้จบเลย แต่กะเข้ามารอทุกวันนะครับ

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
รออ่านตอนจบอยู่จ้า

ออฟไลน์ cy55555

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
สนุกเว่อร์เห็นพัฒนาการของริวได้ชัดเจนมาก
จากเด็กโนเนะ กลายมาเป็นหนุ่มเจ้าเล่ห์
ไผ่หนีไปไหนรอดก็แปลกแล้ว  ฮ่าๆๆๆๆ

ออฟไลน์ อิสระ

  • ถ้า add ให้กอด,ถ้า give five ให้จุ๊บ,ถ้า ment ให้เบอร์ คิคิ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-8
    • https://www.facebook.com/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-1433707443445407/?modal=admin_todo_tour
แอบน้ำตาซึมตอนไผ่เลือกระหว่างริวกับการร้องเพลง
รักริว รักไผ่ รักคิสมี รักเรื่องนี้
ที่สุดก็คือ รักคนเขียนที่สุด
ติดตามตั้งแต่ตอนแรกจนจะตอนสุดท้ายแล้ว
ไม่มีอะไรจะบอกนอกจากความประทับใจ
จะเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจไปอีกนานๆ :กอด1: :L2: :L1:

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
วิ่งมากรี๊ด กรี๊ด ใส่ความหวาน เขินอ่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องดี ๆ ที่ใกล้จะจบแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






SweetSmile

  • บุคคลทั่วไป
การตัดสินใจของพี่ไผ่ช่างยิ่งใหญ่จริง ๆ
ปลื้มใจไปกับน้องริวด้วยน๊า
ที่พี่ไผ่เลือกน้องริวแล้วยอมสละงานที่รัก
ช่างเป็นความรักที่งดงามจริง ๆ

ตอนหน้าจะจบแล้วเหรอคะ
ใจหายจัง...ต้องคิดถึงพี่ไผ่กับน้องริวมากแน่ ๆ

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
เข้ามารอพร้อมดัน  :z2:

nam-nueng

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงพี่ไผ่แล้วค่ะ มาต่อเร็วๆนะค๊ะ ~~

ออฟไลน์ spring

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-7
ตอนที่ 121



ทันทีที่รถแลนด์โรเวอร์สีขาวเลี้ยวเข้าไปในลานบ้าน  สุนัขอ้วนตันสี่ห้าตัวก็วิ่งปราดเข้ามาเห่ากรรโชกอย่างดุร้าย  แต่พอประตูรถเปิดเสียงเห่าก็กลายเป็นเสียงครางหงิงด้วยความยินดี   พวกมันตะกายคนที่เพิ่งลงจากรถจนแทบล้ม  หางยาวฟาดพั่บๆ ด้วยความดีอกดีใจเช่นเดียวกับเจ้าของที่แข่งกันวิ่งหน้าตั้งออกมาจากสวน


“สวัสดีครับคุณไผ่  คุณริว” ร่างหนาตันแบบมะขามข้อเดียวยกมือไหว้กราด  ขณะที่สตรีร่างอวบอิ่มใบหน้างดงามหมดจด  วิ่งตามหลังมาติดๆ  ก็ยกมือไหว้พสุกับริวแล้วรีบเดินเลยเข้าไปในบ้านเพื่อยกน้ำเย็นๆ ออกมาให้

“ไงจิต...สบายดีเหรอ”

“สบายดีครับ”  จิตรกรยิ้มหน้าบาน  ขณะที่ริวหันไปไหว้ขอบคุณเมื่อภรรยาของจิตรกรยกน้ำเย็นออกมาให้  พสุบิดตัวอย่างเมื่อยขบแล้วเงยหน้าขึ้นมองบ้านก่อนจะชะงักไปเล็กน้อย  ชายหนุ่มจ้องมองบ้านนิ่งอยู่ครู่หนึ่งเพื่อให้แน่ใจ

“ริวขึ้นบ้านไปก่อนนะ  พี่ขอคุยกับจิตก่อน  เดี๋ยวตามขึ้นไป”

“ครับ”  ริวรับคำแล้วเดินขึ้นบ้านไป  ขณะที่ภรรยาของจิตรกรก็เข้าครัวไปเตรียมอาหารให้พสุกับริว

“จิต...ทาสีบ้านใหม่เหรอ?” พสุถามหลังจากเดินดูรอบๆ บ้านจนแน่ใจ  รอยยิ้มของจิตรกรแหยลงเมื่อได้ยินพสุถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

“เอ่อ...ครับ...ผมเห็นน้ำมันที่ชักเงาไว้มันร่อนหลุดหมดแล้ว  ก็เลยทาใหม่...เอ่อ...ขอโทษครับที่ทำไปโดยพลการ”

“แล้วเอาเงินที่ไหนมาซื้อของซ่อมแซมบ้าน...รางน้ำนั่นก็ทำใหม่สินะ  หลังคาด้วย...หมดนี่ก็หลายหมื่น...เอาเงินที่ไหนมาทำ  จิตไม่เคยขอเบิกเงินนอกเหนือจากเงินเดือนนี่?” พสุหันมามองหน้าจิตรกรนิ่งอย่างคาดคั้น  ทำให้เขาไม่กล้าโกหก 

“เอ่อ...คือ...เงินเดือนกับค่าใช้จ่ายในบ้านที่คุณไผ่ให้มา  ผมไม่ค่อยได้ใช้อะไร เพราะเราสองคนผัวเมียมีเงินเดือนอยู่แล้ว  ก็เลยเก็บรวบรวมไว้ซ่อมแซมบ้าน...คือ...ผมกลัวบ้านจะโทรม” จิตรกรตอบอึกอัก 


เขาเกิดที่นี่  แม้จะไม่ใช่บนเรือนหลังนี้  ตั้งแต่จำความได้  เขาก็เห็นบ้านหลังนี้มาตลอด  รู้สึกผูกพัน ราวกับบ้านนี้เป็นญาติผู้ใหญ่ที่เคารพรัก  ทุกครั้งที่เห็นความเสื่อมโทรมของบ้าน จิตรกรก็ร้อนรนต้องหาทางซ่อมแซมให้ยังคงงดงามเหมือนใหม่อยู่เสมอ


“งั้นเหรอ...จิตรักบ้านนี้มากสินะ”

“ครับ...ผมเห็นเรือนใหญ่มาตั้งแต่เล็กจนโต เสียดายครับ กลัวจะผุไป  ...คิดถึงตอนคุณดาท่านยังอยู่...ท่านเคยทำโทษให้ผมถูเรือน  ถูกันลิ้นห้อยกว่าจะทั่ว...เล่นเอาเข็ดไม่กล้าปีนขึ้นไปขโมยไข่นกอีกเลย” จิตรกรเอ่ยถึงความหลังอย่างเป็นสุข  ที่นี่มีแต่ความทรงจำที่งดงามเสมอ  จนจิตรกรไม่อาจตัดใจย้ายไปอยู่ที่อื่นได้  ทั้งที่บ้านสวนไกลกับที่ทำงานมาก เขาก็ยอมตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อไปทำงานให้ทัน  แทนที่จะย้ายไปอยู่ใกล้ๆ ที่ทำงาน


พสุพยักหน้ารับขำๆ ก่อนจะเดินไปดูผลไม้ในสวน  ต้นไม้ในสวนออกดอกออกผลสะพรั่ง  ไม่ต่างจากตอนที่แม่เขายังอยู่...ไม่สิ  ดูจะงามยิ่งกว่าตอนที่แม่เขาอยู่เสียอีก  สมกับที่จบเกษตรมา จิตรกรดูแลทั้งบ้านและสวนของแม่ให้ยังคงงดงามรุ่งเรืองไม่ผิดกับสมัยที่ตาเขายังอยู่  ทั้งที่สมัยนั้นสวนเขามีคนงานนับสิบคน  แต่จิตรกรทำสองคนกับภรรยาเสียเป็นส่วนใหญ่  มีลูกจ้างรายวันมาช่วยบ้างเฉพาะเวลาใส่ปุ๋ยและเก็บผลผลิตเวลามีพ่อค้ามารับซื้อเท่านั้น

พสุอมยิ้มมองสะพานไม้ไผ่แข็งแรงที่พาดข้ามท้องร่องเป็นระยะๆ  ยิ่งเห็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่จิตรกรทำ  เขาก็ยิ่งแปลกใจว่าจิตรกรเอาเวลาที่ไหนมาทำในเมื่อต้องทำงานประจำไปด้วย


“จิต...ได้ข่าวว่ามีปัญหากับที่ทำงานเหรอ”

“ก็เรื่องปัดแข้งปัดขาหาผลประโยชน์ใส่ตัวกันนั่นแหละครับ  ผมมันพวกปลายอ้อปลายแขม...เดี๋ยวผมไปตัดมะพร้าวน้ำหอมมาให้นะครับ คุณไผ่กลับไปรอที่เรือนใหญ่ดีกว่าครับ  เดี๋ยวยุงกัด”

“อืม”


ครู่ใหญ่ๆ  จิตรกรก็แบกทลายมะพร้าวตัวเอียงเข้ามาที่เรือน  ขณะที่ภรรยาของเขาเรียกให้คนงานยกตะกร้าผลไม้ที่คัดแล้วไปใส่รถให้พสุ 

พสุยืนมองภาพนั้นนิ่ง  ก่อนจะเดินขึ้นไปบนเรือน  ห้องพระถูกกวาดถูไว้สะอาดเอี่ยม  พื้นกระดานสะอาดจนขึ้นเงาปลาบเหมือนสมัยที่แม่เขายังมีชีวิตอยู่  รูปภาพของแม่กับพ่อวางอยู่บนหิ้งข้างรูปตากับยาย  ถัดมาเป็นรูปของป้าใจ  ชายหนุ่มเหลือบไปมองพวงมาลัยมะลิสดแล้วอมยิ้ม ธูปที่เพิ่งไหม้ลามไปไม่ถึงครึ่งดอก  แสดงว่าริวเพิ่งเข้ามากราบพ่อแม่ไปเมื่อสักครู่นี้เอง 

ชายหนุ่มกราบพระ  กราบตา ยาย พ่อ แม่ และป้าใจ  ก่อนจะนั่งมองพวกท่านนิ่งๆ ด้วยสายตาสงบ  ป้าใจเสียชีวิตหลังพ่อแม่เขาไม่ถึงปี  แกนอนหลับแล้วจากไปเงียบๆ  วันนี้เขากับริวเพิ่งไปทำบุญครบ 5 ปีให้พ่อแม่มาเลยแวะมาเยี่ยมบ้านสวน 


“จิต...เข้ามานี่แน่ะ” พสุเรียกเมื่อเห็นจิตรกรทำท่าจะออกไปเมื่อภรรยาเขาเก็บสำรับเรียบร้อยแล้ว

“เข้ามาทั้งสองคนนั่นแหละ”  พสุเรียกสำทับเมื่อภรรยาของจิตรกรทำท่าจะถอยออกไปเพราะคิดว่าไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง

“ท่าทางสองคนจะรักบ้านนี้มากใช่มั้ย” พสุถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ  แต่คนฟังหันไปสบตากันด้วยท่าทางกระสับกระส่าย

“ครับ...เอ่อ...คุณไผ่จะขายบ้านสวนเหรอครับ?”  จิตรกรถามแล้วหน้าเสีย  ขณะที่ภรรยาของเขาเบือนหน้าหนีไปอีกทาง  แล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

“เปล่าหรอก...ที่ถามเพราะอยากรู้ว่ารักที่นี่มากหรือเปล่า”

“รักครับ  รักมาก  ถ้าคุณไผ่ไม่คิดจะขาย  ผมสองคนผัวเมียจะดูแลให้ดีที่สุดเลยครับ  ถึงเงินค่าขายผลไม้จะไม่ได้มากนัก  แต่คิดว่าถ้าลงผักที่ริมท้องร่องเพิ่ม  ก็น่าจะได้เงินเพิ่มอีกครับ” จิตรกรอาสาละล่ำละลัก  ดีใจที่ได้ยินว่าพสุยังไม่คิดจะขายบ้านสวน

“ก็ดีนะ  ถ้าทำได้  ว่าแต่จะไหวเหรอ  ไหนจะงานประจำอีก...” พสุถามยิ้มๆ  ขณะที่จิตรกรใจชื้น  แล้วเริ่มเสนอแนะหนทางเพิ่มรายได้  ราคาที่ดินที่พุ่งทะยานขึ้นจนแผ่นดินแห่งนี้มีค่าราวกับทองคำ  เทียบไม่ได้เลยกับรายได้อันน้อยนิดแค่เพียงไม่กี่แสนบาทต่อปีที่ได้จากผลผลิตในสวน  ทำให้จิตรกรกับภรรยาช่วยกันคิดหาวิธีเพิ่มรายได้ให้สวนเพื่อให้พสุพึงพอใจกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น

“ไหวครับ  เลิกงานแล้วกลับมาทำก็ไหว น้ำท่าเราก็มีเยอะ  ทำผักได้ตลอดทั้งปีเลยครับ”

“ถ้างั้นจิตก็ออกจากงานมาทำเสียเลยไม่ดีกว่าเหรอ  ขยันๆ แบบนี้น่าจะได้เงินมากกว่าไปเป็นลูกจ้างที่บริษัท” พสุเสนอด้วยน้ำเสียงหนักแน่นขณะที่คนฟังอึ้งไปชั่วขณะ

“ผมก็เคยคิดไว้ครับ...แต่...” จิตรกรอึกอักแล้วหันไปสบตากับภรรยาอย่างอึดอัดใจ  เพราะแม้งานประจำที่ทำอยู่จะไม่ค่อยสุขใจนัก  แต่ก็เป็นแหล่งรายได้หลักของเขา

“นี่...ฉันให้...” พสุบอกพร้อมกับวางซองเอกสารในมือลงตรงหน้าทั้งคู่  จิตรกรกับภรรยาหยิบไปเปิดดูก็พบว่าเป็นโฉนดที่ดินบ้านสวน  ทั้งคู่หันมองหน้ากันงงๆ  ก่อนจะชะงักหน้าซีดเผือดเมื่อพสุพลิกให้ดูชื่อของจิตรกรที่สลักอยู่หลังโฉนดในฐานะเจ้าของที่ดิน

“คุณไผ่!  ทำไมครับ?...ผะ...ผมไม่มีปัญญาซื้อที่นี่หรอกครับ” จิตรกรอุทานละล่ำละลัก  ตัวชาไปหมดด้วยความตกใจ

“ก็ไม่ได้ขาย  แต่ยกให้” พสุตอบด้วยน้ำเสียงปกติ  ขณะที่สองสามีภรรยาอ้าปากค้าง

“มะ...ไม่ได้หรอกครับ  ที่ไม่ใช่ราคาแสนสองแสน  ที่นี่ราคาเป็นร้อยๆ ล้านนะครับ”  จิตรกรท้วงเสียงสั่นด้วยความตกใจ 

“ทำไมล่ะ  คิดจะขายหรือไง” พสุถามยิ้มๆ  แต่คนฟังตาเหลือกด้วยความตกใจ

“เปล่าครับ  ไม่เคยคิดเลยสักครั้ง” จิตรกรปฎิเสธเสียงหลง  จนพสุอดหัวเราะไม่ได้

“ก็ดีแล้ว  นั่นแหละคือเหตุผลที่ฉันยกบ้านนี้กับที่แปลงนี้ให้จิต”

“ผมรับไม่ได้หรอกครับ  แค่คุณดาเลี้ยงผมมาจนโต  ให้ที่อยู่ที่กิน  แล้วยังส่งให้ผมเรียนจนจบนี่ก็เป็นพระคุณท่วมหัวแล้ว  แค่นี้ผมก็ไม่รู้จะตอบแทนพระคุณท่านได้ยังไงแล้ว” จิตรกรยื่นโฉนดคืนให้พสุ 


คนอื่นอาจจะว่าเขาโง่  แต่จิตรกรถูกย่าใจกรอกหูมาตั้งแต่เด็ก  ทุกอณูที่ก่อเกิดเป็นเลือดเนื้อ  หล่อเลี้ยงให้เขาเติบโต  มีชีวิต  มีความรู้  มีหน้าที่การงานมั่นคง  ล้วนมาจากข้าวแดงแกงร้อนที่ประมุขของบ้านนี้เอื้อเฟื้อเจือจุนเขามา  สุดาไม่เพียงให้ที่อยู่ที่กิน  แต่ยังให้ความรักความเมตตาราวกับเขาเป็นลูก  ไม่ใช่เด็กกำพร้าใต้ใบบุญ 

สิ้นสุดา  พสุก็เอื้อเฟื้อเขาสม่ำเสมอ  แม้เขาและภรรยามีงานทำมั่นคง  แต่พสุก็ยังให้บ้านอาศัยฟรีๆ  ให้รถไว้ใช้  ให้เงินเดือนทุกเดือน  ทั้งที่เขากับภรรยาเพียงแค่ช่วยดูแลบ้านสวนให้  จิตรกรกับภรรยาจึงทุ่มเทเวลาทั้งหมด  ดูแลบ้านดูแลสวนด้วยความรักและเอาใจใส่  ให้สมกับที่พสุไว้ใจ


“ถ้าอยากตอบแทน  ก็ดูแลที่นี่ให้ดี  รักที่นี่ให้เหมือนที่แม่ฉันรัก  เท่านี้แม่ก็คงดีใจมากแล้ว”

“แต่ว่า...” จิตรกรพยายามจะค้าน  แต่พสุส่ายหน้าปรามไว้

“ฉันรู้ว่าจิตรักที่นี่มาก  ดูบ้านดูสวนก็รู้แล้ว...ฉันเองถึงจะรักที่นี่มาก  แต่จิตก็รู้ว่าฉันไม่ค่อยได้มาสักเท่าไหร่  ทั้งโรงเรียน  ทั้งร้านก็ยุ่งจนแทบกระดิกตัวไม่ได้...แล้วยังที่มูลนิธิ...พรุ่งนี้ก็ต้องออกแต่เช้าไปดูแลไร่เพชรบูรณ์อีก”


พสุชี้แจงแล้วถอนใจเฮือก  แม้จะออกจากวงการมาหลายปี  แต่เขาไม่เคยว่างเลย  ทั้งโรงเรียนดนตรีที่เขากับธีรดลหุ้นกันเปิด  แล้วยังร้านขายเครื่องดนตรีของริวอีก  ไม่นับมูลนิธิกอดของแม่  ที่ริวรับอุปการะไว้  พสุก็เข้าไปดูแลอย่างเต็มที่  เพื่อให้ริวมีเวลาแต่งเพลง และเป็นโปรดิวเซอร์ให้บางอัลบั้ม  เพราะช่วงนี้บริษัทของเขมชาติกำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด  ริวในฐานะหุ้นส่วนก็ต้องเข้าไปช่วยดูแล


“ฉันคิดว่าแม่คงดีใจ  ถ้ารู้ว่าฉันยกบ้านนี้ให้จิต  เพราะจิตจะดูแลที่นี่ได้ดียิ่งกว่าฉันหลายเท่า...ขอแค่สัญญาอย่างเดียวเท่านั้น คืออย่าขายสวนให้นายทุนเอาไปทำบ้านจัดสรรเสียก็แล้วกัน” พสุแซวขำๆ  เพราะมั่นใจว่าจิตรกรรักบ้านนี้เกินกว่าจะทำอย่างนั้นแน่นอน

“คุณไผ่ครับ...มันมากเกินไป  มากเกินวาสนาผม”

“ไม่มากหรอก...จิตรู้ใช่ไหมว่าฉันกับคุณริวอยู่ด้วยกัน  ยังไงฉันก็ไม่มีทายาทอยู่แล้ว  จิตเองก็เหมือนคนในครอบครัว  ฉันเห็นจิตมาแต่เล็กแต่น้อย  ถึงหลังๆ จะไม่ค่อยได้เจอไปบ้างก็เถอะ  แต่ฉันแน่ใจว่าจิตจะดูแลที่นี่ได้ดีที่สุด  และรักบ้านนี้ไม่แพ้ที่ฉันกับแม่รัก...ส่วนเงินค่าผลไม้ทั้งหมดที่จิตโอนไปให้  ฉันฝากไว้เป็นชื่อเจ้าตัวเล็ก...ถือเสียว่าเป็นทุนเริ่มต้นก็แล้วกันนะ แล้วต่อไปนี้  รายได้จากสวนก็เก็บไว้ไม่ต้องโอนไปให้ฉันอีกแล้ว...ถ้าคิดถึงกัน  ก็เอาผักเอาผลไม้ในสวนไปให้ก็พอ”


จิตรกรพูดไม่ออก  แต่ทรุดตัวลงกราบเท้าพสุพร้อมๆ กับภรรยาจนพสุตกใจรีบก้มลงคว้ามือทั้งสองคนไว้แทบไม่ทัน


“อย่าทำแบบนี้สิ...ไม่เอาน่า”

“ผม...ผมขอบพระคุณครับ...” จิตรกรพูดได้เพียงแค่นั้น ก้อนสะอื้นก็จุกคอจนพูดต่อไม่ออกอีก ส่วนภรรยานั้นนั่งน้ำตาไหลพรากไปแล้ว ไม่คิดไม่ฝันว่า ชีวิตนี้จะมีที่ดินเป็นของตัวเอง  หนำซ้ำยังเป็นบ้านสวนที่พวกเธอรักจับใจอีกด้วย

“แค่จิตดูแลที่นี่ดีขนาดนี้  ฉันก็ชื่นใจแล้ว  มีสวนเป็นของตัวเองแล้ว ต่อไปจิตก็ไม่ต้องไปลำบากใจเป็นลูกน้องใครอีก เป็นนายของตัวเองยังไงก็ดีกว่าละนะ  แล้วถ้ามีปัญหาอะไรก็ไปหาฉันได้  เพราะฉันก็นับจิตเป็นคนในครอบครัวอยู่แล้ว” พสุบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน 

“ครับ...ครับ...ขอบพระคุณครับ” จิตรกรรับคำสะอึกสะอื้น  น้ำตาร่วงผล็อยๆ ด้วยความตื้นตันใจในความเมตตาของพสุ

“แล้วกัน เลยขี้แยทั้งผัวทั้งเมีย  ระวังลูกเห็นแล้วเอาไปล้อล่ะ” พสุแซวขำๆ  ก่อนจะขอตัวกลับ  เพราะไม่อยากให้พี่แมวรอเปิดประตูจนดึก



..................................................



“โกรธพี่หรือเปล่า  ที่ยกบ้านสวนให้จิต  แทนที่จะให้ริว” พสุถามยิ้มๆ  เมื่อริวอาบน้ำเสร็จแล้วตามมานั่งเบียดบนเก้าอี้หน้าเปียโน  ตลอดเวลาที่เขาคุยกับจิตรกรและภรรยา  ริวก็เลี่ยงไปเดินดูคนงานคัดแยกผลไม้อยู่ข้างล่าง  เพราะรู้ว่าพสุมีเรื่องสำคัญจะคุยกับจิตรกร

“โกรธทำไมครับ  บ้านของพี่  พี่อยากให้ใครก็ให้สิครับ  อีกอย่างถ้าพี่ให้ริว  ริวก็ดูแลบ้าน ดูแลสวนไม่เป็น  แม่คงร้องไห้ถ้าต้นไม้ตายหมดเพราะริว” ริวตอบยิ้มๆ  ขนาดจิตรกรคอยให้คำแนะนำ  เขายังดูแลต้นไม้ได้ไม่ดีนัก 

“พี่ก็เหมือนริว  ถึงรักบ้านสวนแค่ไหน  แต่ก็ดูแลได้ไม่ดีอย่างที่จิตกับเมียดูแล  อีกอย่าง  จิตก็นับเป็นญาติคนเดียวที่พี่เหลืออยู่  ยังไงซะพี่ก็รับปากป้าใจไว้แล้วว่าจะดูแลจิตให้ดี  พี่ก็ควรมีอะไรให้จิตไว้สร้างเนื้อสร้างตัวบ้าง”


พสุอธิบายแล้วพยายามดึงมือซุกซนออกจากเสื้อ  แต่นิ้วยาวกลับเลื่อนหนีเร็วเหมือนงู  ริวฝังจมูกลงบนต้นคอของพสุ  ขณะที่มือก็สอดเข้าไปลูบไล้หน้าท้องแกร่ง  วนเล่นเบาๆ ก่อนจะเขยิบขึ้นไปบีบคลึงยอดอกของพสุจนหดเกร็งเป็นไตแข็ง


“นั่นสิครับ...ดีซะอีก  จิตดูแลสวนเก่งขนาดนี้  ไว้เราอยากกินอะไรก็ให้จิตปลูกให้กิน”

“เอางั้นเลยนะ” พสุพึมพำตอบเสียงพร่า  ลมหายใจเริ่มสะดุด เมื่อสะโพกเสียดสีกับส่วนร้อนผ่าว  ไม่รู้ว่าริวดึงเขาขึ้นมานั่งตักตั้งแต่เมื่อไหร่

“ครับ  ริวอยากกินสตรอเบอร์รี่  พี่ว่าจิตจะปลูกเป็นมะ” ริวถามแล้วยกต้นขาพสุขึ้น ดันให้หมุนกลับมานั่งคร่อมตักเขาไว้  พสุก็ให้ความร่วมมือแต่โดยดี 

“สตรอเบอร์รี่มันเป็นไม้เมืองหนาวนะริว  ที่บ้านสวนปลูกไม่ได้หรอก” พสุบอกแล้วงับจมูกริวเบาๆ  เพื่อหยอกล้อ

“หนาวเหรอครับ  ถ้าที่ไร่เพชรบูรณ์จะได้มั้ยครับ”


ริวควานปากตามติดแต่พสุเบี่ยงหนี  แล้วหัวเราะเบาๆ  เมื่อเห็นว่าริวเริ่มทำเสียงจิ๊จ๊ะที่จูบเขาไม่ได้สักที  ชายหนุ่มหยุดรอจนริวเบียดปากลงแนบชิด  เสียงหัวเราะถูกกลืนหายไป  กลายเป็นเสียงลิ้นสัมผัสเสียดสีกันแทน


“อืม...น่าจะได้...ต้องลองถามจิตดู” พสุตอบหอบๆ  เมื่อริวยอมปล่อยปากเขาเป็นอิสระ  ริวช้อนต้นขาพสุให้เกี่ยวรอบเอว  แล้วยกชายหนุ่มขึ้นอุ้มเข้าห้องนอนทั้งอย่างนั้น

“ถ้าปลูกได้  เราก็ให้จิตสอน  แล้วเราไปหัดปลูกกันเองนะครับ  ริวอยากทำไร่สตรอเบอร์รีของเราเอง” ริวบอกพลางถอดเสื้อผ้าพสุเหวี่ยงไป  แล้วก้มลงดูดยอดอกสีแดงไว้ในปาก พลางขบเล่นจนแผ่นหลังพสุเดาะลอยด้วยความเสียวซ่าน

“ก็ดีนะ...น่าสนุกดี...ว่าแต่...เราจะ...มีเวลา...ดูแลเหรอ” พสุถามเสียงขาดเป็นห้วง  ริวเบียดร่างเปล่าเปลือยเข้าแนบชิดจนสะโพกสัมผัสกับส่วนร้อนจัดที่เบียดกระแซะจนใจหวิว

“มีสิครับ...พี่ไวย์กับพี่ตะวัน  จะขอหุ้นที่โรงเรียนกับเราด้วย  เราก็ไม่ต้องไปดูแลโรงเรียนทุกวัน...ส่วนที่ร้านเราก็ยกให้พี่ดลทำไปเลย...ทีนี้เราก็มีเวลาดูแลไร่ของเราแล้ว” ริวตอบเสียงดังบ้างเบาบ้าง  เพราะง่วนกับการดูดชิมผิวตึงแน่นของพสุอย่างหิวกระหาย

“เอางั้นก็ได้...พ่อเกษตรกรตัวอย่าง...อา...” พสุหลุดเสียงครางกระเส่าเมื่อปากและมือของริวฟอนเฟ้นไปทั่วจนเขาหัวหมุน  เสียงลมหายใจสะดุดยามร่างกายสอดประสานเป็นหนึ่งกลับมาหอบกระเส่าเมื่อจังหวะการเคลื่อนไหวเร่งกระชั้น  ต่างปรนเปรอและดื่มกินความหอมหวานจากกันและกันอย่างหลงใหล  เวลาไม่ได้ทำให้ความกระหายในรสรักเสื่อมถอย  แต่กลายเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ให้แนบแน่นยิ่งขึ้น



..................................................



“เป็นไงริว” พสุถามยิ้มๆ  หลังจากที่ริวออกไปดูตัวอย่างไร่สตรอเบอร์รี่กับเพื่อนบ้านสวนติดกัน  ตอนแรกพสุจะไปด้วย  แต่ลูกคนงานที่มาปลูกบัวป่วย  พสุจึงพาเด็กไปหาหมอและเพิ่งกลับมาถึงก่อนริวเพียง 5 นาทีเท่านั้น

“โอ๊ยพี่! ถ้าพี่ไปเห็นนะ  พี่ต้องรีบกลับไปลากจิตมาดูแน่เลย  เราปลูกได้ชัวร์ครับ ขนาดดินเขาไม่ดีเท่าเรา  สตรอเบอร์รี่เขายังออกลูกดกเชียว...แต่ท่าทางดูแลยากเหมือนกันครับ” ริวบอกแล้วถอนหายใจพรู  ลมหายใจเป็นไอฟุ้งเพราะอากาศที่เพชรบูรณ์เริ่มเย็นยะเยือก  อีกไม่กี่วันคงเข้าสู่ฤดูหนาวเต็มตัว

“งั้นวันหลัง  ชวนจิตกับคนที่บ้านมาเที่ยวที่นี่ดีกว่า  เรือนพักแขกก็เสร็จแล้วนี่  วันนี้คนงานเขาลงบัวเสร็จหมดแล้ว” พสุบอกพร้อมกับส่งผ้าขนหนูให้  เพื่อให้ริวไปอาบน้ำก่อน  อาหารเย็นนั้นไม่ต้องทำเพราะคนงานทำมาให้เพื่อขอบคุณที่พสุพาลูกไปหาหมอ  แล้วยังช่วยจ่ายค่ายาให้  พสุรับไว้เพราะเห็นว่าเป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ  หากเขาไม่รับไว้อีกฝ่ายก็จะไม่สบายใจเสียเปล่าๆ

“อาบด้วยกันนะครับ”

“อย่ามาอ้อน...นี่ยังไม่มืดเลย”

“เดี๋ยวก็มืดแล้ว  นะครับ...นะ นะ” ริวเชิญชวนด้วยดวงตาเป็นประกายระยับ  เขาไม่รอให้พสุปฏิเสธรีบดันชายหนุ่มเข้าห้องน้ำไปด้วยกันอย่างรวดเร็ว



..................................................



พสุฮัมเพลงเบาๆ ขณะที่ริวเบียดเข้ามาในผ้าห่มแล้วกอดเขาไว้แน่น  ชายหนุ่มไม่ได้ปฏิเสธเพราะอ้อมกอดของริวช่วยปกป้องเขาจากอากาศเย็นยะเยือกบนระเบียงโล่งไร้หลังคา 

ลมแรงหอบเอาไอเย็นฉ่ำจากน้ำลอดพื้นกระดานเป็นมันปลาบขึ้นมาจนอากาศยามค่ำยิ่งเย็นยะเยือก  สระน้ำกว้างใหญ่รอบบ้านทำให้บ้านหลังนี้เย็นฉ่ำตลอดทั้งปีโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ 

ริวอยากปลูกบ้านในฝันและพสุก็สนับสนุน  ด้วยกำลังเงินมหาศาล  บ้านน้อยกลางบึงน้ำของริวจึงผุดขึ้นราวกับเนรมิต  ด้วยฝีมือของบริษัทรับสร้างบ้านมือหนึ่ง  แม้จะแพงจนพสุตกใจ  แต่ความประณีตของฝีมือช่างและความใส่ใจในทุกรายละเอียด  ทำให้พสุต้องยิ้มรับเฝื่อนๆ ในวันที่บ้านน้อยเสร็จสมบูรณ์ 

แต่เมื่อได้อยู่ไปสักระยะ  พสุก็พบว่าระบบประหยัดพลังงานของบ้านกลายเป็นสิ่งที่คุ้มค่ากว่าที่เงินที่ลงทุนไปมาก  บ้านพักแขก สำหรับเพื่อนฝูงที่จะมาเยี่ยมจึงเริ่มผุดขึ้นตามผังที่บริษัทเขียนแปลนไว้ให้ 


“หนาวมั้ยครับ” ริวถามแล้วซุกไซ้ซอกคอพสุเล่น  จนพสุต้องพลิกตัวไปนอนอีกด้าน  อาศัยหนุนหมอนใบเดียวกัน  พอริวขยับจะตาม  พสุก็กดไหล่เด็กหนุ่มให้นอนลงอย่างเดิม

“นอนแบบนี้แล้วนึกถึงอะไรมั้ยริว” พสุถามพลางลูบแก้มริวเล่น 


ริวหันมาจ้องหน้าพสุนิ่ง  จนชายหนุ่มต้องหันกลับมาสบตาด้วย  แม้จะนอนกลับหัวกัน  แต่ประกายหม่นในดวงตาก็สื่อกันได้ถึงหัวใจ


“คิดถึงตอนที่มาที่นี่กับแม่กับป้าใจครับ...คืนนั้นดาวก็สวยเหมือนคืนนี้”

“แต่ตอนนี้เหลือเราแค่สองคนแล้ว” พสุตอบเสียงแผ่วเบา  เหงาและหนาวเยือกในอก  เมื่อคิดว่าถ้าวันหนึ่งเหลือเพียงตัวคนเดียว  เขาจะเป็นอย่างไร

“ไม่เป็นไรหรอกครับ” ริวบอกแล้วผุดลุกขึ้นดึงตัวพสุขึ้นมากอดไว้แน่น

“เพราะริวจะกอดพี่ไว้แน่นๆ  จะไม่ปล่อยให้พี่เหงาเป็นอันขาด ริวเคยสัญญาไว้แล้วว่าริวจะไม่ทิ้งพี่ไว้คนเดียว  ริวจะไม่ยอมตายก่อนพี่แน่”


พสุกอดริวแน่น  ริวพูดราวกับนั่งอยู่กลางใจว่าตอนนี้เขากลัวอะไรอยู่ ริวกอดตอบแล้วเอนพิงหลังกับฝาบ้าน  เหยียดเท้าออกไปจนสุดก็ยังไม่ถึงขอบระเบียงที่กว้างขวาง  ขณะที่สายตาแหงนเงยขึ้นจับจ้องดวงดาวที่กะพริบพราวบนท้องฟ้า  มากมายและสว่างไสวราวกับจะเอื้อมมือถึง  พสุวางใบหน้าไว้ที่ซอกคออุ่น  ขณะที่ฝ่ามือก็ยกขึ้นลูบแก้มระคายด้วยไรหนวดของริวเบาๆ



“เธอคือลมหายใจ  เธอคือทุกอย่าง...

จะรักเธอ...ไม่มีวันจาง  ไปจากใจ 

ก็เพราะ...เธอคือ...ลม...หายใจ...

เธอคือทุกสิ่ง...ให้ทิ้งอะไรก็ยอมทุกอย่าง...

จากนี้...ใจฉันจะมีแต่เธอ”



พสุฮัมเพลงเบาๆ น้ำเสียงนุ่มทอดอ่อนเบา  หายไปในอากาศ  แต่ริวยังหยุดฟังนิ่งอยู่อีกครู่ใหญ่


“เพราะจังครับ” ริวกระซิบเสียงแผ่ว  แล้วกระชับวงแขนให้โอบรัดพสุแน่นขึ้นอีกนิด

“แน่นอน  มันเป็นเพลงพิเศษของเราสองคนนี่นา”  พสุตอบยิ้มๆ  เปลือกตาปิดพริ้ม  ปล่อยกายใจให้เปิดรับสัมผัสอุ่นซ่านจากวงแขนที่โอบรอบตัว

“ชื่อเพลงอะไรครับ” ริวถามพลางไล้ปากบนผิวแก้มเนียนละเอียดของพสุ

“...ลมหายใจ” พสุตอบทั้งที่ยังหลับตาสนิท  เพลินฟังเสียงหัวใจใต้แผ่นอกที่เขาพักพิงเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ

“อ๋อ! ชื่อเพลงริวนี่เอง” ริวหยอดมุกสวนกลับมา  เล่นเอาพสุถึงกับหลุดหัวเราะเบาๆ  ไม่ได้ขำมุกฝืด  แต่ขำคนช่างยกยอตัวเอง

“กล้าเล่นนะมุกนี้” พสุแซวขำๆ  แล้วลืมตาขึ้นมองเมื่อริวจูบปลายจมูกเขาเบาๆ

“I want you to know that you’ll always in my heart till my breath is last. ริวยังจำคำนี้ได้ขึ้นใจ...เพราะงั้นเพลงนี้จะชื่อว่าเพลงริว  ก็ไม่ผิดใช่มั้ยครับ” ริวถามแล้วจูบไล้บนใบหน้าพสุทีละส่วนด้วยความรู้สึกเต็มตื้น 


พสุพิสูจน์คำสัญญาในวันนั้นด้วยความรักและเอาใจใส่ในทุกเรื่องของริว  ไม่ว่าจะวันวาน  หรือวันนี้พสุก็พิสูจน์ให้ริวเห็นแล้วว่า  เขาสำคัญที่สุดเสมอ


“นั่นสินะ...ก็ริวเป็นลมหายใจของพี่นี่นา” พสุตอบยิ้มๆ  ทั้งที่หัวใจพองฟูด้วยความยินดีที่ริวยังจำคำพูดของเขาได้  ทั้งที่ผ่านมาหลายปีแล้ว

“เราเป็นลมหายใจของกันและกันครับ” ริวกระซิบชิดปากพสุ  แล้วเบียดปากลงบดเคล้า  วงแขนโอบรัดกันและกันราวกับจะผนึกกายหลอมรวมเป็นหนึ่ง  ดุจเดียวกับหัวใจ




.........................จบบริบูรณ์.........................



***************

จบแล้วละเน้อ คงคิดถึงพี่ไผ่น้องริวและทุกคนมากเลย  :o12:


(โดยเฉพาะป้าคนแต่ง คิดถึงมาก  ควรรีบแต่งตอนพิเศษอลันกะป๋ามาเฟียมาเรยยย  :laugh:)




 :bye2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-07-2011 20:59:59 โดย spring »

ออฟไลน์ boylove_yj

  • ล้มแล้วยืน คือคนที่แกร่ง!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1511
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1203/-48
    • http://www.facebook.com/pages/Chocolate-Love-Fan-Club/255241697823084

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
จบแล้ว ,,
รู้สึกใจหายนิดๆที่จะไม่ได้อ่านความเป็นไปของ สองคนนี้แล้ว
แต่เราก็คิดว่า พี่ไผ่ กับนองริว จะโลดแล่นอยู่ใจจินตนาการเราต่อไป
วันไหนนึกถึง ,, ก็คงจะยิ้มได้

ขอบคุณมากๆเลยนะคะ สำหรับนิยายดีดีเรื่องนี้
รักตัวละครทุกตัวเลยค่ะ
ชอบมาก  ^^

ออฟไลน์ kabung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-3
โฮวววววว จบแล้ววอ่าาาา ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆๆ อบอุ่นๆๆแบบนี้นะคะ ชอบมากก ซิกๆๆๆ

ว่าแต่ รอตอนพิเศษของอลัน คึคึ


ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
+1 ให้ตอนจบค่ะ รักน้องริว-พี่ไผ่  :กอด1: ขอบคุณที่นำเรื่องดีดีมาให้อ่านกัน  :L2:


ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
จบลงแบบสวยงาม

ขอบคุณคะ

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
จะมีเรื่องของอลันต่อมั้ยอ่ะคะ  :impress:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
เฮ้ออ ในที่สุดก็จบแล้ว ถึงแม้จะรู้ว่าจะลงเอยยังไงก็ยังเอาใจช่วยจนถึงบทสุดท้ายอยู่ดี  :กอด1:
ขอบคุณคนแต่ง คนโพสที่อยู่มาด้วยกันตลอด
หวังว่าคงมีเรื่องราวผลงานใหม่ ๆ มาให้อ่านต่อไปนะคะ จะติดตามแน่นอนคะ  ^ ^ o13

+1

majam

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณมากนะครับ :bye2:

ออฟไลน์ lomekung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1

ออฟไลน์ MRchai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 286
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ชอบมากครับคุณป้า ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆๆ  จะมีตอนพิเศษป่าวครับนี่รอนะครับ

lasom

  • บุคคลทั่วไป

jeje

  • บุคคลทั่วไป
ชอบเรื่องนี้มาก  โดยเฉพาะตัวเอกทั้งพี่ไผ่และริวน่ารักมากๆ  ขอบคุณคนเขียนมากๆ

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
จบไปแบบหวานกันเบาเบาของพี่ไผ่กับน้องริว เค้าเป็นดั่งลมหายใจของกันและกัน อิจฉาตาร้อนตลอด คิคิคิ
ขอบคุณนะค่ะที่แต่งเรื่องดีๆ มาให้อ่านกัน

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุดเรื่องราวของไผ่กับริวก็มาถึงตอนแฮปปี้เอ็นดิ้ง
ซึ่งทำเอาดิฉันอ่านไปยิ้มไปด้วยความสุขไปกับตัวละคร
จึงขอส่ง  :L2:  มาพร้อมกับคำขอบคุณค่ะ
และอยากบอกว่า :L1:ผู้เขียนคนนี้จัง

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
ง่า จบไปอีกเรื่อง ดีใจที่จบ happy  :กอด1: แต่ก็นะ หมดเรื่องอ่านไปเรื่องนึงเลย  :o8:

ขอบคุณคนเขียนที่แต่งเรื่องสนุกๆมาให้อ่านค่ะ  :L2:

bellity

  • บุคคลทั่วไป
ตั้งแต่ตอนแรกถึงตอนนี้ต้องบอกว่าขอบคุณมากๆ ครับสำหรับเรื่องราวดีๆ

ถึงผมจะไม่ได้ติดตามมาอ่านตั้งแต่เม้นแรกแต่ก็ได้ติดตามมาตั้งแต่ช่วงกลางๆ เรื่อง

ร่วมรู้สึกไปกับตัวละคร สังเกตพัฒนาการของตัวละคร รักและผูกพันธ์กับตัวละคร

ขอบคุณทั้งคนแต่งและคนโพสเลยนะครับ

ปอลิง ถ้าจะแถมตอนพิเศษด้วยก็ดีนะ 55+ อยากรู้คู่ของอลัน ^^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด