We are...คือ เรารักกัน ตอนพิเศษ ด้วยความคิดถึง100%... 16/12/13 [P.314]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: We are...คือ เรารักกัน ตอนพิเศษ ด้วยความคิดถึง100%... 16/12/13 [P.314]  (อ่าน 3331025 ครั้ง)

ทะเลหัวใจ

  • บุคคลทั่วไป
                                                     




ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

admin
thaiboyslove.com


****************************************************************************








 

 
 


ก่อนอื่นก็ต้องสวัสดีทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ ^^

นิยายเรื่องนี้เป็นแนวไหนทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วใช่มั้ย ฮ่าฮ่า :laugh:^__^

ภาษาในเรื่องก็อาจจะหยาบคายบ้าง ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยคะ

ยังไงก็ขอให้สนุกและมีความสุขกับเรื่องวุ่น วาย ของพวกเขานะคะ^_______________^จูจุ๊ฟ


                                                 





  ตอนที่ 1



“หน้ากูเหมือนบิดามารดามึงรึไง มองอะไรนักหนาวะ แม่ง”   ผมก้มหน้าบ่นพึมพัมเป็นหมีกินผึ้ง แหะๆขืนพูดออกไปให้ไอ้พวกเด็กวิศวะได้ยินละก็ตีนเรือนหมื่นเรือนแสนอาจรุมตื้บหน้าผมได้

ไอ้ที่ผมทำได้ก็แค่ก้มหน้าก้มตาเดินจนจะกลายเป็นวิ่งอยู่แล้ว
ผมรู้สึกประหม่าจนขาแทบขวิดเพราะม้านั่งหน้าตึกวิศวะมีคนนั่งกันเต็มไปหมด มิหนำซ้ำพวกมันก็เอาแต่จ้องผม ถึงจะเป็นผู้ชายด้วยกันก็เหอะผมก็ทำตัวไม่ถูกอยู่ดีที่ถูกมอง

แถมบางคนยังซุบซิบแล้วก็ยิ้มๆอีกต่างหาก พวกคุณเข้าใจใช่มั้ยว่าความรู้สึกผมเป็นยังไงเวลาที่เราต้องตกอยู่ท่ามกลางสายตาของคนหมู่มาก


“น้องครับ ชื่ออะไรหรอ น่ารักจังเลย” เสียงของไอ้เวรไหนซักตัวที่ซ่ากล้าแซวผมจากนั้นก็มีเสียงสัมพเวสีร้องโห่โหยหวนตามมันมา ไอ่เชี่ยยย มึงช่วยแหกตาดูได้มั้ยกูผู้ชายเว้ย มึงแซวทำหอกไรวะ ผมรู้ผมเข้าใจว่าคณะนี้ผู้หญิงมีน้อยแต่จำเป็นมั้ยที่ต้องมาแซวผมเนี่ย ไอ่ฟวยยยย


“พี่ชื่อดินนะคร้าบบบ 085487xxxx ว่างๆก็โทรมาได้นะจ๊ะที่รัก” แค่นั้นแหละเสียงวี้ดวิ้วผิวปากก็ดังยังกับขบวนแห่สิงโต ไอ่สัดที่รักพ่อที่รักแมร่งมึงสิ อ๊ากกก :serius2: ผมอยากจะบ้าถูกผู้ชายด้วยกันแซว

คิดดูว่ามันอัปยศอดสูแค่ไหน แอ๊กกก ตูจะฟ้องแม่ตู แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมถูกผู้ชายแซว หนักๆเลยนะเคยถูกจีบมาแล้ว  เหอๆ แต่ก็ใช่ว่ามันจะชินกันง่ายๆนะครับไอ้เรื่องแบบนี้
ผมอยากจะกู่ร้องให้ก้องโลกกกกกกกก กูแมนเว้ย ผู้ชายทั้งแท่ง สัด
 

ไอ้พีม พีมมมมมม ทางนี้ๆ” ในที่สุดผมก็เจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ผมรีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปหาไอ้แทนเพื่อนรักสุดหล่อจนแทบจะกลายเป็นกระโจนเข้าหามัน ไอ้เพื่อนชั่วมึงไปอยู่ไหนมาถึงปล่อยให้กูเผชิญนรกเพียงลำพัง

แต่ดูจากสีหน้าและน้ำเสียงเหมือนไอ้แทนจะเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่เพราะมันกำลังยิ้มขำและมีแววล้อเลียนผมอยู่  ไอ้นี่วอนตีนกูซะแล้ว


“ทำไมมาช้าวะ กูหิวจนไส้จะขมวดเป็นปมแล้วเนี่ย แล้วเป็นอะไร ไม่สบายหรอหน้าแดงๆ”  ขอบใจ ขอบใจจริงๆที่เว้นช่องไฟไว้ให้กูพูด ผมเหนื่อยมากแถมอารมณ์เสียเลยไม่ตอบแต่จริงๆไม่มีแรงด่าแต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยก็คงไม่ใช่ไอ้พีม

ถึงจะยังด่าไม่ได้กูขอแลบลิ้นใส่ให้รู้ว่านอยส์ก็ยังดีวะ ก็เพราะมันนี่แหละทำให้ผมต้องเดินถ่อสังขารมาหาเพื่อจะแดกข้าวด้วยกันและยังทำให้ผมถูกพวกผีนรกนั่นข่มขืนทางสายตาและคำพูด


“เฮอะ” ผมส่งเสียงในลำคอแล้วกรอกตามองทางอื่น มันยังมีอารมณ์มากวนตีนผมอีกนะ ทั้งที่รู้ๆอยู่ว่าผมอารมณ์ไม่ดี แต่ดูสิ ดูมันยิ้ม เดี๋ยวพ่อกระโดดฉีกปากขาดเลยแม่ง ต้องใช้คำว่ากระโดดครับเพราะส่วนสูงของผมกับมันเป็นอะไรที่ห่างไกลกันเหลือเกิน

จนบางครั้งก็ให้นึกสมเพชเวทนาตัวเองอยู่ลึกเพราะๆหัวของผมอยู่แค่ระดับอกมัน พูดแต่ละทีต้องเงยหน้าอย่างว่ามันอ่ะ186 แต่ผม 168 ทำบุญมาน้อยจริงๆกู

“โอ๋ๆกูล้อเล่นๆ มึงก็รู้คณะกูมันชิบหายแค่ไหน นานๆทีถึงจะมีของสวยๆงามๆมาให้ชม มึงอย่าถือเลยนะคิดซะว่าทำบุญทำทาน” ป๊าดดดดดโธ่ มึง มึงเป็นเพื่อนกูป่ะเนี่ยไอ้เชี่ยแทน

“งั้นมึงลองบ้างมั้ยละสัด อยากทำบุญมั่งมั้ย ก่อนที่กูจะส่งมึงไปลงนรก”

“ก็อยากอยู่อ่ะนะ แต่กูมันหล่อวะ ไม่ได้น่ารักแบ๊วๆอย่างมึง”

“ไอ้แทน มึงได้แดกตีนกูแทนข้าวเที่ยงแน่” ผมชักจะโมโหจริงๆแล้วนะ เชี่ยแทนแมร่งกวนไม่เลิก มันก็แบบนี้ตลอด ชอบก่อกวนให้องค์อารมณ์โมโหของผมแรงกว่าเดิมเห็นเพื่อนเหวี่ยงแล้วมันมีความสุข โครตโรคจิตเหอะ

 “ฮ่าๆ กูล้อเล่นๆ ไปกินข้าวกันเดี๋ยวเสี่ยแทนเลี้ยงเอง”เอาของกิน+ฟรีมาล่อกูหรอมึง เฮอะ ถ้าคิดว่ามันจะได้ผลละก็มึงคิดถูกแล้ววะ วะฮะฮะฮ่า^_^

“เหอะ ลองไม่เลี้ยงดูสิ กูเอามึงเดี้ยงแน่” ผมคาดโทษมันระหว่างเดินไปโรงอาหารของวิศวะ บริเวณนี้เป็นอาณาจักรของวิศวะครับ กว้างโคตรพ่อโคตรแม่เหอะ มีทั้งตึกเรียนรวมที่อลังการงานสร้างมาก แล้วก็มีตึกยิบย่อยของภาควิชาแต่ละสาขาเป็นสิบๆได้มั้ง คนเยอะเลยใหญ่ เข้าใจ เห็นแบบนี้แล้วก็สำเหนียกว่าคณะของผมก็ลูกเมียน้อยดีๆนี่เอง

“ทำไมมึงต้องให้กูถ่อมาถึงที่นี่ด้วยวะ” ลืมบอกไปครับว่าผมอยู่ปีสองคณะศิลปกรรม ผมเรียนที่มหาลัยชื่อดังอันดับต้นๆของเมืองไทยเลยนะ ภูมิใจๆ^_^แต่ที่ไม่เข้าใจคือไอ้แทนมันจะทรมานผมด้วยการให้มาหาทำไม ศิลปกรรมกับวิศวะไม่ได้ใกล้กันเลยนะครับพี่น้องครับ เดินจนขาแทบหลุด

“ก็กูอยากกินข้าวกับมึง” หลับตาฟังยังรู้เลยว่ามันตอแหล

“แล้วทำไมมึงไม่ขับรถไปหากูละ ให้กูเดินมาหา เหนื่อยนะเว้ย”

“รถกูถูกยึด”

“ยึด?ใครยึด”บ้านมันก็ออกจะรวย รถก็ซื้อเงินสดแล้วโดนยึดได้ไง

“ป๊า”อ๋ออออออออออ ที่แท้ก็บุคคลท่านนี้นี่เอง

“หึ สมน้ำหน้ามึงพาผู้หญิงเข้าบ้านละสิ” ” ป๊าไอ้แทนไม่เคยด่าไม่เคยห้ามลูกชายคนเล็กของบ้านเรื่องมันจะควงใคร เอาใครขออย่างเดียวอย่าพาเข้าบ้านจนกว่าคนคนนั้นจะเป็นแม่ของลูก ซึ่งคาดว่าถ้าเหี้ยแทนไม่รอบครอบถุงยางละก็ ป๊ามันคงได้หลานเป็นกุรุดแล้วมั้ง


“แหะๆมึงอ่ะ อย่าบ่นกูเลยนะ แค่ป๊าด่ากูก็เซ็งจะแย่” ผมเหล่ตามองไอ้แทนที่หัวเราะ แหะๆแห้งๆ แล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าเอือมๆ ไอ้แทนเป็นมนุษย์ที่หนังหน้าหล่อมากถึงมากที่สุดคนหนึ่ง แถมบ้านยังเสือกรวยอีกต่างหาก

สมัยม.ปลายมันเคยถ่ายแบบนิตยสารวัยรุ่นหลายครั้ง แต่พอเข้ามหาลัยแล้วเฮียแกก็ไม่ขอทำเพราะเอาเวลาไปทำกิจกรรม(บนเตียง) แน่นอนครับรูปหล่อพ่อรวยโคตรอย่างมันย่อมมีคนเข้ามาหาไม่เคยขาด(เตียง) จนผมกลัวว่าเอดส์จะแดกคอมันเข้าซักวันถึงมันจะป้องกันและคัดเกรดผู้หญิงก็เหอะ

“ฮ่าฮ่า สมน้ำหน้าแมร่งกูสะใจโว้ย โรงแรมเยอะแยะเสรือกพาเข้าบ้าน มึงมันควายขนานแท้เลยวะเพื่อน”

“ก็คนนี้กูจริงจังหวังแต่งนิหว่าแต่ไอ้ห่าเทนมันเอาไปฟ้องป๊า” อ๋อ จะโทษว่าพี่เทนผิดว่างั้น สันดานจริงๆเพื่อนกู พี่เทนคือพี่ชายของเชี่ยแทนครับ พี่แกเป็นอะไรที่อยู่เหนือคำบรรยายมากเพราะฉะนั้นผมจะไม่บรรยาย โปรดติดตามต่อไปในภายภาคหน้านะครับ

“ถุ๊ย จริงจังตอนหวังฟันล่ะสิมึง”

“มึงอย่ามองกูแบบนั้นดิวะคนนี้กูเอาจริง”

“อืม กูเชื่อว่ามึงเอาเค้าจริงๆ”  ยักคิ้วกวนตีนมันหน่อยค่อยผ่อนคลายอารมณ์ เลยโดนมันตบกบาลกลับ

“สัด คนละเอาเว้ย” ไอ้แทนโวยวายผมยักไหล่ หน้าอย่างมันมีแค่เอาเดียวเท่านั้นแหละครับ

“เออๆ เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน กูขอเคลียร์เรื่องที่มึงไม่เดินไปหากูแต่ให้กูเดินมาหา ขอบอกว่ากูเหนื่อยโคตร” ยังไม่จบครับยังไม่จบ เหนื่อยสัดแบบนี้ก็ขอโวยหน่อยเหอะ

“โถ่ ไอ้คุณเพื่อนครับ มึงก็รู้กว่ากูจะไปถึงตึกคณะมึง ต้องผ่านทั้งบัญชี นิเทศน์ เศรษฐศาสตร์ ถาปัตถ์ เด็กกูอยู่ตรึมแล้วถ้ากูเดินไปหามึงนะ หึ คงอยู่รอดปลอดภัยไปถึงมือมึงหรอก” หืม? อิคณะอื่นไม่ว่าหรอก แต่ไอ้แทนมีกิ๊กอยู่ถาปัตถ์ด้วยหรอ

“อ่อกูลืมไปว่ามึงมันหล่อ มึงมันฮอท แล้วไหนข้าวจะให้กูแทะผนังตึกมึงรึไง”


“ ครับๆเพื่อนครับ หูยยแมร่งดุยังกับปอบนะมึง”

“เออ กูมันปอบเดี๊ยะปั๊ดจกกินตับมึงคนแรก คนยิ่งหิวๆอยู่” ผมกับมันเดินไปบ่นไปก็มาถึงโรงอาหารวิศวะครับ บร๊ะเจ้า!!! นี่คนหรือรังมดตะนอย เยอะชิบหาย จะเกิดมาเยอะแยะอะไรนักหนาวะรกโลก ถึงผมจะเคยมาที่นี่ไม่ถึงสามครั้ง(บอกเพื่อ)

แต่ก็พอจะบอกได้ว่าโรงอาหารวิศวะเป็นอะไรที่เสื่อมมากครับ บรรยากาศยังกับสวนจตุจักรวันเสาร์อาทิตย์ คือคนเยอะ วุ่นวาย เสียงดัง ที่สำคัญร้อนสัดๆ

 “กินไรมึง” ไอ้แทนพาผมมาหยุดยืนคิดว่าเราสองคนจะแดกอะไรเป็นพระกระยาหารในกลางวันนี้ มันกัดปากมองร้านต่างๆพลางทำหน้าครุ่นคิดหนักจนเกินจำเป็น อะไรวะแค่จะเลือกร้านข้าวมึงต้องทำหน้าเครียดขนาดนี้เลยหรอแทน


ไอ้แทนมันจับมือผมไว้เพราะกลัวจะถูกคนอื่นเบียดล้ม นี่ขนาดมีมือไอ้แทนจับไว้ยังมีไอ้ยักษ์ตัวใหญ่จากไหนไม่รู้เดินมาชนไหล่ผมจนแทบเอาหน้าลงไปคิสซิ่งกับพื้นโรงอาหาร เออ กูรู้พวกมึงมันสูง ล่ำ บึก ทึนทึก แต่ช่วยสงสารกูบ้างอะไรบ้าง ตอนนี้ผมเหมือนยืนอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่กลางป่าทึบที่ขึ้นบดบังจนมิดหัว แว้กก กูหายใจไม่ออกเว้ย บริจาคออกซิเจนให้กูบ้างงงงง

“ข้าวมันไก่” ผมคิดไรไม่ออกนอกจากอยากออกไปจากดงคน เลยบอกอะไรที่ไม่ต้องคิดมาก  กูจะตายแล้วเพื่อนแทน

“แล้วมายืนทำส้นตีนอะไรหน้าร้านข้าวขาหมูวะ” เอ๊า ไอ้นี่ ได้ข่าวว่ามึงนะพากูเดิน ลากกูมาแล้วพากูหยุด จะด่ากูทำไม  กูผิดอะไร สาดดดด แต่สุดท้ายมันก็พาผมฝ่าคลื่นอมนุษย์ออกมาจากร้านข้าวขาหมูได้สำเร็จ หึ ร้านข้าวมันไก่ไม่ต่างจากร้านข้าวขาหมูเลยวะ


“มึงรออยู่นี่นะ เดี๋ยวกูไปซื้อเอง” ผมพยักหน้ารับคำมันและระหว่างรอไอ้แทนไปหาเสบียงผมก็พยายามมองหาที่นั่ง คนเยอะจริงวุ้ย แล้วคนจะมองกูทำไมวะเนี่ยเดี๋ยวพ่อเอาส้อมจิ้มตาแตก สงสัยด้วยการแต่งตัวของผมที่เข้าขั้นเซอร์(ซกมก)แล้วพวกเด็กวิศวะอาจจะดูออกว่าผมอยู่คนละสังกัดกับพวกมัน แล้วไงวะสาวนิเทศน์ สาวบัญชีถ่อมากินมาอ่อยถึงนี่มึงก็มองกันไปซี้ อย่ามองกู กูประหม่า เดี๋ยวลมบ้าหมูกูขึ้น ยิ่งร้อนๆอยู่ เกิดชักละมึงเอ๊ย มันส์พะยะคะ
 

“ป่ะมึง หาที่นั่ง”

“อ้าว ทำไมเร็วจังวะ”

“หึหึ กูหล่อไง” เกี่ยว??ผมเบ้ปากแล้วฟาดกะโหลกมันไปดังๆ หมั่นไส้ จริงๆแอบเห็นว่ามันเก็กหน้าขรึมใช้เด็กปีหนึ่งซื้อให้  นี่แหละที่เค้าเรียกว่าเลวไร้ที่ติ


“กูไม่ขำ กูหิว เข้าใจ๊” มันบ่นอุบอิบพลางหาโต๊ะนั่งและไม่นานเราก็หาที่นั่งได้สำเร็จครับเพราะไปเบียดเบียนน้อง แหะๆคือโต๊ะมันยาวอ่ะครับแต่น้องนั่งกันแค่สามคน เห็นมันพอเหลือๆเลยไปขอแจม แต่พอน้องเห็นหน้าไอ้แทนก็แทบยกโต๊ะให้

ก็ไอ้เวรนี่มันเป็นพี่ว้าก กลุ่มมันทั้งกลุ่มเลยมั้งได้ข่าว ตอนแรกผมไม่เชื่อมันเลยนะ ก็ดูหน้ากับนิสัยมันดิใครเค้าจะกลัว กะล่อนตอแหลสาระแนขนาดนั้น แต่ส่วนมากเนื้อแท้(สันดาน)ของพวกพี่ว้ากก็มีแต่รั่วๆฮาๆทั้งนั้นแหละครับ


“เออ กูลืมถามไอ้คิวไปไหนวะ ทำไมไม่มากับมึง”โห เพิ่งคิดจะถามถึงเพื่อนนะมึงนะ กินข้าวจะหมดครึ่งจานแล้ว

“ไปแดกข้าวกับเมีย”

“เมีย?คนเดิมป่ะ”

“คนเดิม แต่ก็มีมาเพิ่มเรื่อยๆเหมือนมึง”มันหัวเราะถูกใจแทบกดไลค์ให้ผม

“โหยยย ไอ่ห่านี่เลววะกูว่าแล้วพี่เจนเอามันไม่อยู่หรอก เหี้ยคิวเจ้าชู้จะตาย” พี่เจนคือแฟนของไอ้คิวครับ ไอ้คิวคือเพื่อนอีกคนของพวกผม เราห้าคน ผม ไอ้แทน ไอ้คิว ไอ้ปัน แล้วก็ไอ้เชนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ม.1

คงไม่ต้องบอกนะครับว่าจะรู้เช่นเห็นชาติ หมาๆของกันและกันขนาดไหนรักไม่รักก็คิดดูเหอะว่าพวกผมตกลงปลงใจจะไม่พรากจากกัน ถึงขั้นจูงจมูกกันเอ็นทรานส์ที่เดียวหมด เดชะบุญว่านรกยังไม่อยากให้พวกผมต้องพรากจากกันเลยติดที่นี่ทุกตัว


ไอ้แทนติดวิศวะ ไอ้เชนเป็นหมอฟันไอ้นี่มันฟันสมชื่อคณะจริงๆครับ ไอ้คิวกับผมเรียนศิลปกรรม
ส่วนรายสุดท้ายไอ้ปันเรียนรัฐศาสตร์พ่อมันเป็นนักการเมืองน่ะ พวกผมจะเจอกันทุกศุกร์สุดสัปดาห์หรือถ้าเป็นไปได้ก็จะพยายามให้มากกว่านั้น 

ยกเว้นผมกับไอ้คิวที่เจอกันทุกวัน เพื่อนผมอย่างกับเอฟโฟ หล่อสุดตับสุดไตกันทุกนาย สนใจคนไหนบอกได้นะครับเดี๋ยวติดต่อให้ แต่ระวังนะพวกมันหล่อรวยก็จริง แต่พวกนี้มันนับถือลัทธิฟันแล้วทิ้งนะครับสาวๆ มีแต่ผมนี่แหละรักจริง ^__^พวกมันเลยบอกว่าผมเป็นจุดด้อยของกลุ่ม ชิชะ


“มึงกับมันต่างกันมาก” ผมดันจานข้าวไปไว้ข้างๆแล้วคว้าแก้วแป๊ปซี่มาดูด อ่า อิ่มแล้วอารมณ์ดีจังเลย

“ไรๆ กูไม่เคยเจ้าชู้เว้ย คบใครก็เปิดเผยตลอด” อยากจะเอาช้อนหนีบลิ้นมันจริงๆ แล้วที่ให้กูช่วยเคลียร์ตอนรถไฟใต้ดินชนกันเมื่อวันก่อน คือไอ้ควายป่าที่ไหนวะ ดูๆ ดูมันยิ้มภูมิใจ

“แล้วไอ้เชนล่ะ วันศุกร์นี้มันเอาไง” ผมถามถึงไอ้หมอฟันดะ ฟันดะคือฉายาที่ไอ้ปันตั้งให้ไอ้เชนครับ เหมาะมาก  ฮ่าฮ่า

“ก็ไม่ว่าไง ก็ไป”

“มึงโทรหามันแล้วหรอ”

“เปล่า คุยในเฟช เออพีม ตอนบ่ายมึงมีเรียนมะ เอี๊ยวไอ่อะอูอ๋อย” พอมันเห็นว่าผมอิ่มแล้วมันก็รีบจ้วงเลยครับ คนหล่อแต่แดกข้าวไร้มารยาทดูแล้วก็อนาถจิตได้เหมือนกัน ทีอยู่ต่อหน้าสาวละแทบจะจัดระเบียบเม็ดข้าว

“ช้าๆก็ได้มึง กูไม่รีบ” แต่ดูเหมือนไอ้แทนจะรีบโกยใหญ่เลย ยี๊ มีหนังไก่แผล่มออกมาจากปากมันด้วย พอมันกวาดข้าวจนเรียบก็เอาจานวางซ้อนจานของผมแล้วเอาน้ำไปกระเดือก สัด แล้วมึงจะเอาหลอดมาทำด๋อยอะไรวะ


“ไปดูกูซ้อมบาสมั้ยมึง”

“หือ??” ร้อยวันพันปีมันไม่เคยชวนผมไปดูมันทำกิจกรรมอะไรเลย จนผมแทบจะไม่รู้จักเพื่อนพ้องน้องพี่ในคณะมัน ต่างกับมันที่ซี้กับเพื่อนในคณะผมแทบทุกคนแม้กระทั่งลุงยาม ป้าแม่บ้านมันก็ตีซี้หมด

“ทำไมมึงทำหน้างั้นวะ กูชวนไปดูบาสนะเว้ยไม่ได้จะพาไปรุมโทรม”

“ไอ้เวร กูแค่สงสัยว่าทำไมอยู่ดีๆจะพากูไปดูมึงซ้อม” แล้วมันก็ฉีกยิ้มกว้างจนปากจะขยายไปถึงหางคิ้ว แถมยังบิดไปบิดมายังกับสาวน้อยแรกรุ่นถูกมดคันไฟกัดผมขมวดคิ้วมองมันงงๆ อย่าบอกนะว่าผิดสำแดงน้ำซุปข้าวมันไก่

“ก็   ไม่มีอะไร ก็แบบว่าจะพาไปรู้จักกับเพื่อนสะใภ้” มันหยิบหลอดขึ้นมาม้วนๆ เออเว้ยดูไม่จืดจริงๆจนน้องปีหนึ่งมองมันอึ้งๆอย่าว่าแต่น้องเลยครับ พี่ก็ชักกลัวๆเพื่อนตัวเองแล้วเนี่ย

“เพื่อนสะใภ้?เมียใหม่มึง?”


“อื้อออ ก็คนที่กูพาเข้าบ้านอ่ะมึง คนที่กูบอกว่ากูจริงจังไง” เห็นมันเป็นแบบนี้ก็แปลกแฮะ ไอ้แทนอาย แบบนี้ต้องกระจาย!!! แต่สงสัยมันจะจริงจังอย่างที่พูดละมั้ง ชักอยากจะเห็นหน้าผู้หญิงที่ทำให้ไอ้แทนเป็นแบบนี้แล้วสิ แต่เดี๋ยวก่อนผมยังไม่ปักใจเชื่อมันร้อกกก ลายเสือใช่ว่ามันจะลบกันง่ายๆ


“มึงคบใคร ก็บอกจริงจังทุกรายพอได้ฟันแล้วแม่งก็ทิ้ง”

“โหยยยพีม กูพูดจริงนะเว้ยมึง กูจริงจัง”

“เออๆ กูจะพยายามเชื่อมึงละกัน ว่าแต่สวยมั้ยมึง”

“น่ารัก”^_^

“มากมั้ย”

“โคตรของโคตร สุดใจอ่ะมึ้ง”><



……………………………………………..



หลังจากนั่งฟังไอ้แทนพรรณนาความน่ารักของว่าที่เมียเสร็จ  มันก็พาผมมาที่สนามบาสของคณะวิศวะแต่ไม่เห็นจะมีใครเลย นอกจากพี่ปีไหนไม่รู้ประชุมอะไรซักอย่าง ไอ้แทนมองหาเพื่อนมันเลิ่กลัก พอดีกับโทรศัพท์มันแหกปากลั่น


“ฮัลโหล ว่าไงมึง”

“เออ กูอยู่หนามบาสแล้วเนี่ย”

“อ้าวไอ้เวร แล้วเสรือกบอกกูมานี่”

“เออๆ ”

“เอ้อ เดี๋ยวกูไป” มันวางสายแล้วทำหน้าเซ็งๆ

“มีไรมึง เมียมึงท้องหรอ” บทลงโทษของความปากหมาคือถูกซัดกบาลไปหนึ่งดอก เหี้ยมือหนักชิบ

“เพื่อนกูอยู่สนามบอล”

“อ้าว แล้วบอกให้มึงมานี่ทำไม”

“มันเสือกเปลี่ยนใจกระทันหันน่ะ พีมมึงไปรอกูที่สนามบอลนะ เดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายจะเห็นคนเยอะๆนั่งรอกูอยู่ตรงนั้นแหละ”

“อ้าว แล้วมึงจะไปไหน พากูมาแล้วจะปล่อยเกาะหรอ ไมมึงทำงี้วะ” ผมก็โวยสิครับ จะทิ้งกูไปเรอะ

“เออน่า กูไปรับเมียก่อน มึงไปรอตามที่กูบอกนะ”

“เชี่ยแทน ไอ้เพื่อนเลววววว!!!” ผมก็ได้แต่ตะโกนตามหลังมันไป จนพี่ๆเค้าหันมามอง ผมเลยยิ้มแหะๆก้มหัวขอโทษกลับไปไอ่เพื่อนชั่วมันก็วิ่งหนีหายอย่างเร็ว มึงนะมึงเห็นเมียดีกว่าเพื่อน

ผมโวยวายในใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินไปตามทางที่มันบอก เดินมาซักพักผมผ่านสนามเทนนิส มีสนามบาสกลางแจ้งเมื่อกี้ที่ไอ้เวรแทนพาผมไปคือโรงยิมครับ รวยจังนะคณะมึงเนี่ย และในที่สุดผมก็เห็นสนามฟุตบอลอยู่รำไรมีคนเล่นเต็มเลย ข้างสนามมีต้นไม้มีม้าหินอ่อนด้วย โอเคไปนั่งรอมันตรงนั้นละกันท่าทางจะร่มรื่นเย็นสบาย



 ตุ๊บ!!!


“โอ๊ย!!!” อะไรไม่รู้กระแทกใส่กลางหลังผม ก็ไม่แรงมากเจ็บนิดหน่อยแต่ตกใจมากกว่าผมมองหาสาเหตุ หันซ้ายหันขวาไม่กี่ทีลูกกะตาผมก็ไปกระแทกกับลูกฟุตบอล อ๋อ ที่แท้ลูกฟุตบอลนี่เองสงสัยพวกในสนามจะเตะมาละมั้ง และด้วยความที่ผมเป็นคนดีจัดเลยจะไปเก็บบอลให้


ถ้าไม่มีเสียงนี้ และ คำนี้



“เฮ้ย ไอ้เตี้ย เก็บบอลให้หน่อยดิ๊”



เตี้ย!!!! คำๆนี้ฟินนาเร่สำหรับชีวิตกู มวากกกก

เตะบอลโดนกูกูไม่ว่า เพราะมันคงเป็นอุบัติเหตุกูเข้าใจ แต่เรียกกูว่าเตี้ยกูยอมไม่ด๊ายยยยย

ผมหันไปมองไอ้นั่นกะว่าจะเอาเรื่องเต็มที่ แต่โอ้วววววว ชิบหาย บนโลกใบนี้ยังมีคนหน้าตาดีหล่อโคตรพ่อเท่ห์โคตรแม่ขนาดนี้อีกหรอวะ ความหล่อของไอ้เพื่อนรักสี่ตัวไม่ได้ทำให้ผมชินต่อหน้าตาไอ้เวรนั่นที่กำลังเดินเข้ามาหาเลย สัด สูงมากก็แบ่งให้กูบ้าง เฮ้ย ไม่ได้ๆหลุดประเด็นๆ ถึงมึงหล่อ ถึงมึงเท่ห์ ถึงมึงขาว ถึงมึงสูง กูก็ไม่กลัวเว้ย


“เฮ้ย กูบอกให้เก็บบอลให้ ไม่ได้ยินรึไง เตี้ย” คำก็เตี้ย สองคำก็เตี้ย  เออเตี้ยแล้วไง กูรู้ว่ากูเตี้ย แต่กูไม่ต้องการให้ใครมาย้ำ


“พ่อมึงสิเตี้ย” แค่นั้นแหละไอ้สัดหน้าหล่อก็กระโจนเข้าขย้ำคอเสื้อผมทันที จนขาผมแทบลอยขึ้นจากพื้น


“มึงกวนตีนกูหรอห๊ะ ไอ้เปี๊ยก!!!”


“ เฮ้ยพวกมึง!!! มีเรื่องอะไรกันวะไอ้พีม ไอ้ภูมิ




TBC>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>



.....................................................................



 อ่า  ผ่านไปแล้วคะสำหรับตอนแรก ชอบหรือไม่ชอบก็ติได้เลยคะ^_^ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2013 22:12:42 โดย ทะเลหัวใจ »

ทะเลหัวใจ

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 2
«ตอบ #1 เมื่อ27-08-2010 11:16:32 »

ตอนที่2

"เฮ้ย!!!มีเรื่องอะไรกันวะ ไอ้พีม ไอ้ภูมิ"


ผมหันไปมองไอ้แทนที่ตะโกนแกมวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาเพราะมันเห็นว่าผมกำลังจะมีเรื่อง ใช่ไง ผมก็กำลังจะมีเรื่องชกต่อยไง แต่เมื่อกี้ถ้าผมหูไม่เพี้ยน ผมได้ยินมันเรียกชื่อไอ้เวรนี่ นี่มึงรู้จักกันหรอ


"มึงรู้จักไอ้เตี้ยนี่ด้วยหรอแทน" โอ้เย้ มึงกับกูใจตรงกันมากแต่ใช่ว่ากูจะปลื้ม ตอนนี้วิศวะมุงกำลังให้ความสนใจผมกับมันอย่างล้นหลาม

แม้จะเป็นมวยคนละรุ่น กระดูกคนละเบอร์แต่ผมไม่กลัวเพราะอย่างน้อยก็มีไอ้แทน ถึงเพื่อนไอ้หล่อจะเดินรุมเข้ามาสามสี่คนก็เหอะ ไม่กลัวเว้ยว่าแต่พวกมึงพิจารณาคัดหน้าตาในการคบเพื่อนใช่มั้ยวะแต่ละคนนึกว่ามาจากแคทวอร์ค



"รู้จักดิ มันเป็นเพื่อนสนิทกูมึงปล่อยมันก่อนเหอะภูมิ" หืออออ นักเลงเก่าที่ยกพวกตีกันแทบจะสามเวลาหลังอาหาร กลับไปขอร้องไอ้เหี้ยนั่น แทนที่มึงจะช่วยกูด้วยการต่อยปากมันนะไอ้ควายแทน


แล้วแม่งไอ้นั่น ไอ้…มันชื่ออะไรนะ อ่อ ไอ้นรกภูมิยังเสรือกกำคอเสื้อผมยังกับเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายมือแมร่งก็เหนียวติดทนทานยังกับทากาว มึงไม่เอาเข็มกระสอบมาเย็บมือติดกับคอเสื้อกูเลยละห๊ะ


ผมดิ้นๆแต่ก็ไม่หลุดจากมันซะที  ดิ้นเองเหนื่อยเอง
มันจ้องหน้าไอ้แทนแล้วก็หันกลับมาจ้องหน้าผมแล้วก็หันไปหาไอ้แทน มึงจะดูว่าหน้าใครมีเกลื้อนเยอะกว่ารึไง


"มันด่าพ่อกู"มันหันไปฟ้องไอ้แทน


"มันด่ากูเตี้ย" เอาซี้มึงฟ้องได้กูก็ฟ้องได้


"เอ่อ...." ไอ้แทนทำหน้าราวกับถูกบังคับให้หลับนอนกับกระเทยอินเดีย "คือ...."

"
มึงเป็นเพื่อนกูนะ!!!!" แล้วยังตะโกนพร้อมกันอีกต่างหาก เห? มันเป็นเพื่อนไอ้แทนหรอ เพื่อนฝ่ายไหนทำไมผมไม่รู้จัก

"ภูมิ มึงใจเย็นดิวะ" ใครซักคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆไอ้แทนพูดขึ้น มันเจาะคิ้วด้วย ฮึ๋ย มึงจะเทห์ไปทำถ้วยรึไง ควายยย อิจฉาเว้ย กูอยากสูงชะลูดตูดปอดยอดแฟชั่นแบบนี้บ้างงงงงง


"คนมองกันใหญ่เลยนะเว้ย มึงจะกล้าทำไอ้เปี้ยกนี่ลงหรอวะ" ผมสะบัดคอกลับไปมองไอ้คนที่มันกล้าเรียกผมว่าเปี๊ยก พ่องเอ๊ย เดี๋ยวเปี๊ยกเดี๋ยวเตี้ย พ่อกับแม่กูยังไม่เคยเรียกกูแบบนี้เลยนะพวกมึง


"สัด มึงว่าใครเปี๊ยกวะ ห๊ะ!!!" ผมหันไปจะกระโดดเข้างับคอไอ้หัวทอง แต่ไอ้นรกภูมิปล่อยคอเสื้อผมแล้วเอามือมายันหน้าผากผมไว้ ผมเลยทำได้แค่ยื้อแขนสั้นๆไปหมายจะตีจะต่อย แต่ก็ได้แค่ดิ้นกะแด่วๆเหมือนพวกโจรหน้าโง่ในละครหลังข่าว ผมได้ยินเสียงพวกมันหัวเราะ จะไม่ปรี๊ดแตกเลยถ้าไอ้แทนไม่เป็นไปกับพวกสวะนี่ด้วย


"มึงหัวเราะกูหรอแทน!!" ไอ้แทนรีบปิดปากแล้วโบกไม้โบกมือปัดความผิดสุดตัว แต่สีหน้ามึงมันฟ้อง ไอ้ควาย


"หึหึ เปล่าๆ   ไอ้พีมมันก็บ้าๆบอๆมึงอย่าถือสามันเลยนภูมิ ปล่อยมันเหอะมีอะไรก็ค่อยๆคุยกันดีกว่ามึง" ไอ้อรูปภูมิเบะปากใส่ไอ้แทน แล้วก็ขยุ้มคอเสื้อผมอีกหน โอยยยย มึงเป็นเหี้ยอะไรกับเสื้อกูมากป่ะเนี่ย สาดด ปล่อยกู๊


"ไม่ต้องไปขอร้องมัน" ผมจ้องหน้าท้าทายไอ้นรกภูมิ(เค้าชื่อน้องภูมิคะน้องพีมขา อย่าเปลี่ยนชื่อให้พระเอกพี่บ่อยนักสิคะ)


"ถือว่าเห็นแก่ไอ้แทนกูจะปล่อยมึงไปก็ได้ แต่มึงต้องขอโทษกูก่อน" ถุ๊ย รอไปเหอะรอให้เกลือสินเทาหวานเท่าน้ำตาลมิตรผลก่อนเหอะ กูถึงจะยอมขอโทษมึง


"เฮอะ เรื่องดิ มึงเตะบอลอัดหลังกูแล้วยังจะให้กูขอโทษอีกหรอ ไอ้ปลวก"


แล้วมันก็ก้มหน้าหล่อๆมาพูดใกล้ๆหน้าผม


"หึ ปากดีนิ อย่าคิดว่าเป็นผู้หญิงแล้วกูจะไม่กล้าทำอะไรนะ"OoO



O__O

>O<


 o22

ลูกตาผมแทบจะออกมาเต้นระบำแซมบ้า ไอ้แทนนี่หน้าเหวอไปแล้วครับ และไม่ต้องรอให้ศาลสั่งหรืออัยการส่งฟ้อง ผมก็ตัดสินความผิดของมันด้วยการ

เตะผ่าหมากครับ!!!!!!!


"โอ๊ยยยยย!!!!!!เชี่ยยยยย"


ไอ้เวรนั่นทรุดฮวบลงไปกุมจูโมะโกะพร้อมกับแหกปากร้องลั่นแทบไม่เป็นภาษาหน้ามันเปลี่ยนสีเป็นเฉดๆประหนึ่งใช้เมเบลีนิวยอร์ก ทุกคนดูจะตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด ฟาดหนักซะด้วยสิหน้าเขียวเลย



เพื่อนมันกรูเข้าไปดูอาการ ไม่ต้องดูหรอก รับรองว่าไม่มีทางชูคอขึ้นมาขันได้อีกนานแส๊นนาน ฮ่าฮ่า มันเอาแต่ชี้หน้าผมเหมือนอยากจะลุกมาฆ่าให้ตายคามือ สม สมน้ำหน้าขอให้มึงสิ้นไร้น้ำยา ระบบสืบพันธ์จงสิ้นสุดตลอดกาลมันก็สมควรแล้วกล้าดียังไงมาว่ากูเป็นผู้หญิง เอาตาคนหรือตาปลาบู่ดูวะ สัดเอ๊ย


"มึงดูปากกู  กู -เป็น- ผู้- ชายโว้ยไอ้งั่ง" ผมชี้ปากตัวเองแล้วพูดเน้นย้ำชัดๆทีละคำ พวกมันหน้าซีดเหมือนกับว่าถูกยึดบ้านพร้อมที่ดินแต่รายของไอ้เลวนั่นซีดอยู่แล้ว  อย่าบอกนะว่าไอ้พวกนั้นก็คิดว่าผมเป็นผู้หญิง แม่งเอ๊ย ลูกกระเดือกกูไม่ออกมาเต้นบีบอยทิ่มเรติน่ามึงบ้างรึไง


ผมยืนมองมันนั่งหายใจรวยรินอยู่สองวิ ก่อนจะรีบเดินหนีออกมา ไม่สนใจเสียงอาฆาตของไอ้เลวภูมิ เสียงเรียกให้รอของไอ้แทน อ๊ากกกกกกกก กูอยากฆ่าคน กูอยากฆ่าโค๊นนนนนนนน หงุดหงิดว้อยยยยย




....................................................




จากเหตุการณ์ระทึกขวัญในวันนั้น ก็เป็นเวลาสองวันมาแล้วที่ผมพอจะลืมเรื่องซวยๆที่ฆวยมันสร้างไว้ให้ แต่ในใจลึกๆก็แอบกลัวว่ามันจะมาเอาคืนเหมือนกันครับ แหะๆแต่ว่าคิดแล้วก็โมโหไอ้แทนจริงเชียว มึงนะมึงกระแดะอยากอวดเมียแล้วเรียกผมไปกินข้าวจนทำให้เกิดเรื่อง


แต่จะไปโทษไอ้แทนคนเดียวมันก็คงไม่ถูก ต้องโทษไอ้เวรนั่น แมร่ง พูดมาได้ว่าผมเป็นผู้หญิง ไม่รู้มันโง่หรือบื้อ หรือทั้งบื้อทั้งทื่อทั้งโง่ หลังจากเกิดเรื่องผมก็มารู้ทีหลังว่าไอ้ภูมิมันเป็นเพื่อนซี้ปึ้กของไอ้แทนพวกมันรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยม.ปลาย
ประมาณว่าพ่อแม่ร่วมหุ้นทำทุนด้วยกันลูกก็เลยพลอยรู้จักมักจี๋กันด้วย แต่ไอ้แทนมันบอกว่าที่ทำให้สนิทกันจริงๆเพราะเรื่องผู้หญิง เรื่องชกต่อย แข่งรถ

 
แค่นั้นแหละผมก็เลยผ่านบางอ้อ ไอ้แทน ไอ้เชน ไอ้คิวมันเป็นตัวพ่อก่อตั้งแก๊งเด็กเหี้ยคุมแถวสยามและพวกพวกไอ้ภูมิก็อยู่อีกโรงเรียนนึงซึ่งเป็นอริกับโรงเรียนผม ไอ้แทนบออกว่าไอ้ภูมิคือความเลวของเลว


มันสองคนเคยต่อยกันตัวต่อตัวจนไอ้ภูมิเข้าไอซียูส่วนไอ้แทนต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่เกือบเดือน และเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้ศัตรูคู่แค้นกลายมาเป็นเพื่อนรักนักเลงมาจนถึงทุกวันนี้  อ๋ออออ ที่กูต้องวิ่งรอกเข้าออกโรงพยาบาลตอนม.5ก็เพราะสาเหตุนี้ใช่มั้ย


รู้งี้แม่งปล่อยให้ตายๆไปซะก็ดี ไม่น่าไปปรนิบัติพัดวีมันเล้ย ชิชะได้ข่าวว่าไอ้ภูมิมันจบจากโรงเรียนคุณหนูคุณชายแต่ทำไมทำตัวเหี้ยแบบนี้วะ แต่จะว่าไปโรงเรียนเก่าผมก็ไฮใช่ย่อยนะ แต่อย่าดูแค่เปลือกนอกเลยครับ สถาบันเด่นๆดังๆมีคนเก่งคนดีเยอะก็จริง แต่ที่แห่งนั้นก็มักจะรวบรวบเอาความมืดอีกด้านของสังคมไว้เช่นกัน


ป๊าป


"โอ๊ย เหี้ย กูเจ็บ" ผมหันไปโวยใส่ไอ้เพื่อนตัวดีไม่ใช่ไอ้แทนครับมือหนักแบบนี้ไอ้คิวแน่ๆ มันยักคิ้วกวนตีน ก่อนจะวางกระดานรองเขียนรูปลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นหูกวางข้างๆตึกคณะศิลปกรรม


"ตั้งแต่ไปอ่อยเด็กวิดวะ กลับมาก็เชื่องเลยนะมึง" พอไอ้คิวรู้ว่าผมมีเรื่องมันก็แทบจะเหาะไปยำตีนสดให้ไอ้พวกนั้นแดก แต่พอมันรู้ว่าคู่กรณีผมเป็นใครมันก็แหกตาคมๆของมันให้ขยายใหญ่จนแทบจรดท้ายทอย

แล้วก็เอาแต่ถามซ้ำๆซากๆว่าผมทำยังไงถึงรอดมาได้ ผมบูชาเกจิอาจารย์วัดไหน หรือแอบเล่นของเขมรรึเปล่า อะไรมันจะขนาดนั้นแค่ผมมีเรื่องกับไอ้หล่อนั่นมันมหัสจรรย์ขนาดนั้นเลยรึไงวะ



"สัด ปากหมา กูไปอ่อยใครที่ไหนกัน"

"ไอ้ภูมิไง อ่อยกันท่าไหนวะถึงกับไส้เลื่อนเลย ฮ่าฮ่า"


"แล้วมึงรู้ได้ไงว่ามันเป็นไส้เลื่อน" ผมก็บ้าจี้ไปกับมัน แต่นึกไปแล้วก็ขำนะครับ หน้าหล่อๆแถมอายุยังน้อยแบบมันต้องมาเป็นไส้เลื่อนเหอๆ แรงรักจากฝ่าเท้าผมสินะ


"ฮ่าฮ่า ไอ้แทนมันบอกกูเว้ย นี่ถือเป็นตำนานเลยนะมึ้งที่มีคนกล้าแหย่ไอ้ภูมิ แต่ระวังไว้เหอะไอ้ภูมิมันเป็นปีศาจในคราบเทพบุตร มึงทำมันเจ็บขนาดนั้นมันเอามึงตายแน่พีม"


"กูไม่กลัว ยังไงก็มีพวกมึง"


"หึ กูไม่ช่วยมึงหรอกเพราะกูยังไม่อยากตายก่อนฮุบสมบัติพ่อ มึงรู้มั้ยคนสุดท้ายบนโลกที่กูอยากจะมีเรื่องด้วยก็คือไอ้ภูมิ" ไอ้ฟาย พูดซะกูใจแป้วนี่ขนาดตัวพ่ออย่างไอ้คิวยังขยาดแสดงว่าไอ้ภูมิมันต้องเลวร้ายมากแน่ๆ แว้กกก  :serius2:


เกิดมันอยากแก้แค้นผมขึ้นมาแล้วสั่งให้คนมาดักฆ่าผมจากนั้นก็หั่นศพเป็นชิ้นๆ ผมจะทำไงดี ไม่นะไอ้พีมยังไม่มีลูกมีเมีย ยังไม่อยากตาย คิดแล้วก็ไม่น่าทำซ่าเลยกู แต่ก็ช่วยไม่ได้ตอนนั้นมันโมโหเป็นใครก็ต้องของขึ้นกันทั้งนั้น


แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมก็คงไม่ทำรุนแรงแบบนั้น ผมไม่ชอบมีเรื่องมีราว ชอบชีวิตที่สงบๆ แต่ผมรู้สึกเหมือนมีลางสังหรณ์อะไรบางอย่างบอกว่าต่อจากนี้ไปชีวิตของผมจะไร้ซึ่งความสงบสุข



"อะ อะ อะ กลัวละสิมึงกลัวละซี้ ไม่ต้องกลัวๆ ไอ้ภูมิมันรอบคอบ รับรองว่ามึงตายแบบไร้ร่องรอย" ไอ้คิวพูดเสร็จมันก็หัวเราะชอบใจ

"หมาคิวมึงช่วยกูได้เยอะเลยวะ โอ๊ยเหี้ย ใครแม่งตบหัวกูอีกวะ" ตบเข้าไปตบให้สมองกูไหลเลยนะพวกมึง


"ไงมึงได้ข่าวว่าไปสร้างวีรกรรมกับเจ้าพ่อมาหรอ จองวัดยังวะ" เสียงกวนส้นเท้ายันปลายตีนแบบนี้มีคนเดียวครับ ไอ้เหี้ยเชน ข่าวเร็วเชียวนะ


"รอจองพร้อมมึงแหละ สัด" มันยักไหล่ ยักคิ้วเป็นการทักทายผมกับไอ้คิวก่อนที่มันจะอันเชิญตัวเองนั่งลงข้างๆผม

"ระวังไว้เถอะมึง ไอ้ภูมิไม่เอามึงไว้แน่ หึหึ ใช่มั้ยวะคิว"สรุปว่าพวกมันรู้จักกับไอ้ภูมิทุกคนเลยใช่มั้ยเนี่ย

"จริงที่สุดครับเพื่อนเชนครับ" ไอ้ลูกคู่นี่ก็ทำงานดีจริงๆ ได้ใต้โต๊ะมาเท่าไรล่ะ ไอ้คิวมันยิ้มแป้นแล้น ยักคิ้วกวนตีนผมต่อไป


"โถๆน่าสงสารลูกเมียก็ยังไม่มีเสรือกต้องมาตายเพราะความเตี้ยเป็นเหตุ"

"มึงก็พูดไปไอ้เชนไอ้พีมมันไม่มีหรอกเมียมันจะเอาผัว" โว๊ยยย อยากลุกขึ้นล้มโต๊ะจริงๆติดว่ามันเป็นโต๊ะม้าหินอ่อน แว้กกกกกกกก เพื่อนปากหมาจริงๆเลยพวกมึงเนี่ย หน้าผมต้องฮาแน่เลยพวกมันถึงหัวเราะขนาดนั้น


"พวกมึงเป็นเพื่อนมันหรือเป็นเพื่อนกูกันแน่ ห๊ะ!!!!" กูยิ่งเครียดอยู่ อย่ามาไซโคจะได้มั้ย ไอ้เพื่อนเวรตะไล แล้วแมร่งควายที่ไหนจะเอาผัว สัดเอ๊ย พวกมันหัวเราะงอหงายสลับกับล้อผม ศพอืดๆๆๆๆ ใครก็ได้มาฆ่าไอ้สองตัวนี้ให้ที


"แล้วมึงไม่มีเรียนรึไง ถึงได้ถ่อมาที่นี่" ผมพยายามคุมสติให้มั่นแล้วเบี่ยงประเด็นถามถึงการศึกษาของไอ้เชนก่อนที่อารมณ์ผมจะเสียจนอาจจะเผลองับหัวเพื่อนตัวเองได้  อย่าบอกนะว่ามึงมาจีบสาวศิลปกรรม โอ้ว สเป็คมึงเปลี้ยนไป๋ จากขาว สวย หมวย เอ็กซ์ เป็น เซอร์แล้วหรอเนี่ย


"กูก็มาทุกวันพฤหัสฯ สมองลาจริงๆนะมึง" เออ กูมันโง่ กูมันลา ใครจะไปฉลาดอย่างมึงกันไอ้หมอฟันดะ ผมลืมไปครับว่าไอ้เชนจะมาขลุกอยู่กับพวกผมที่คณะทุกเช้าวันพฤหัสฯ

พอกินข้าวเที่ยงด้วยกันเสร็จมันก็กลับไปเรียน ผมละสงสัยจริงๆว่ามันไม่ยุ่งทำรายงานอ่านหนังสือเหมือนพวกเรียนหมอคนอื่นๆบ้างรึไง เพราะนอกจากมันจะไม่ยุ่ง มันยังมีเวลาว่างอย่างมากมายมหาศาล


"ใช่ๆ  มึงอ่ะ ลาๆๆๆๆๆ" ไอ้คิวก็ยังสติลล้อตีนผมต่อไป ผมเลยเตะขามันที่อยู่ได้โต๊ะไปหนึ่งดอก


"มึงไม่ต้องขำมันเลยไอ้คิวเมื่อวานไปทำเชี่ยไรที่คณะกู อย่า อย่าปฏิเสธเพราะ- กู-เห็น"ผมโคตะระสะใจมากถึงมากที่สุดที่ไอ้เชนหันไปบี้ไอ้คิวแทนการย่ำยีอารมณ์ผม ไอ้คิวเหยียบเบรคอารมณ์จนหัวทิ่ม จากที่ลั่นล้าฮาเฮกลายเป็นหน้าเซ็งๆทันที


ตายแน่มึงไอ้คิว ไอ้เชนมันเป็นลูกครึ่งคนกับหมาครับมันเป็นพวกกัดไม่ปล่อย ถ้าพี่แกอยากรู้อะไรไม่ต้องพยายามปิดครับเพราะจะเสียแรงเปล่า


นั่นเป็นข้อดีของมันแต่เป็นข้อควรระวังของพวกผม


"แม่งกูนึกว่ามึงมีเรียนแลป" ไอ้คิวกำลังพยายามยื้อชีวิตตัวเองครับ ฮ่าฮ่า ฆ่ามันเลยเชน อยากกดดันกูดีนัก ไงล่ะมึงเจอหมาพันธ์แท้ถึงกับจอด


"อย่ามาลีลา พูดมามึงไปทำไร" มันไปทำอะไรน่าสนใจครับ แต่ที่น่าสนกว่าคือใครให้มันเข้าตึกคณะทันตแพทย์ คือว่าสภาพไอ้คิวดูยังไงก็ยาจกอ่ะ ถึงมันจะหล่อเซอร์ตรงสเปคสาวแท้สาวเทียม ด้วยเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์ซีดๆขาดๆบาดใจสาวที่ชอบหนุ่มหล่อมาดเซอร์ แต่พี่ยามคงไม่หวั่นไหวกับมันแน่นอน แต่งตัวผิดระเบียบตั้งแต่หัวจนตีนแบบนี้เข้าคณะทันตะได้เยี่ยงไร

"กูไปกินข้าว"


"โรงอาหารคณะมึงปิดทำการวันหวยออกแหงะ" อืม เมื่อวานวันที่หนึ่งครับเข้าใจประชดมากเพื่อนกู

"กูอยากเปลี่ยนบรรยากาศ"

"สัด ตอแหล แล้วทีกูชวนมึงไปกินที่คณะไอ้แทนทำไมไม่ไป" ผมช่วยไอ้เชนทำการง้างปากเหี้ยครับ อีกอย่างถ้ามันไปกับผมก็คงไม่เกิดเรื่องไอ้ภูมิ


"เออๆบอกก็ได้ กูไปกินข้าวกับน้องมิ้ง"แต่เมื่อวานมันบอกผมว่าไปกินข้าวกับเมีย เมียมันชื่อพี่เจน แล้วมิ้งมาไงวะ


"มิ้ง ? เฮ้ยย มิ้งที่เป็นดาวปีหนึ่งอ่ะนะ" ไอ้เชนทำหน้าหมาอยู่ซักพักก็ร้องอ๋อ ส่วนไอ้คิวก็เผยรอยยิ้มชั่วทำหน้าภูมิอกภูมิใจยังกับว่ามันพิชิตดาวอังคารสำเร็จ ที่แท้มันอมพะนำอยากให้ถามเพราะอยากจะอวดว่ากำลังจีบดาวคณะทันตะอยู่ ควายยยย


"น้องเค้าเป็นดาวซินโดมรึปล่าววะ หรือน้องเค้าเมายาคลูถึงยอมคบมึงหรือมึงเอามีดไปจี้เค้าห๊ะ บอกกูมานะ"

"เชี่ยพีมพูดซะกูเสียหายเลยมึง"

"มึงจีบน้องมิ้งหรอ ทำไมไม่บอกกูวะกูจะได้ช่วย" แต่หน้ามึงฟ้องว่าเสียดายวะเชน


"ช่วยคาบไปแดกเองละสิมึง แต่ซอรี่นะครับเพื่อนครับ กูแดกแล้วเว้ย" ไอ้คิวกอดอกยักคิ้วยิ้มโชว์เหงือกอย่างภูมิอกภูมิใจส่วนไอ้คุณหมอฟันก็ได้แต่ฟึดฟัดๆ


"แดกไร แห้วน่ะหรอ ฮ่าฮ่า "ผมก็เพิ่งรู้ตัววันนี้แหละครับ ว่าตัวเองเป็นพวกชอบซ้ำเติมคน


"มึงปลูกไว้ซดเองเหอะระดับท่านคิวไม่มีแห้วครับเพื่อน พูดแล้วจะหาว่าคุยเสร็จกูตั้งแต่สองวันแรกที่คบกันแล้วเว้ย" แม่เจ้าดาวไถไวไปไหนครับ


อันนี้ไม่ได้เข้าข้างพวกเดียวกันนะครับแต่เรื่องแบบนี้ตบมือข้างเดียวคงไม่เสียวจนได้กัน ผู้หญิงเองก็นะดูเอาไว้เถอะครับต่อหน้ามันอาจบอกรักหลับหลังก็อย่างที่เห็น สันดานผู้ชายอย่างพวกผม มันก็เหี้ยอยู่วันยังค่ำ


"แม่งเร็วชิบหายเห็นหงิมๆติ๋มๆแอบแรงนี่หว่า"

"หึหึ อย่าให้พูดยิ่งเวลาอยู่บนเตียงนะยังกับคนละคน ถึงใจสัดๆ"

"จริงหรอวะ"


"อะแนะๆ หูตั้งเชียวนะมึงไอ้พีม" บทสรุปของประเด็นนี้คือผมกับไอ้เชนกำลังนั่งฟังไอ้เชี่ยคิวบรรยายฉากรัก เหอๆคุณว่าคนฟังกับคนเล่าใครโรคจิตกว่ากัน  ถ้าเวลาพรีเซนต์งานมึงบรรยายได้เห็นภาพขนาดนี้นะเอตัวใหญ่ๆเลยเหอะ แมร่งยังกับนั่งดูในคลิป



"แล้วพี่เจนล่ะ มึงทำแบบนี้พี่เค้าจะไม่เสียใจหรอวะ"

"ก่อนจะคบกันกูก็บอกเจนแล้วว่าสันดานกูเป็นยังไง" อันนี้จริงครับถึงไอ้คิวมันจะเลวยังไงจะเจ้าชู้ขนาดไหนแต่ก่อนที่มันจะคบกับใครมันก็บอกให้รู้หมดว่านิสัยมันเป็นแบบไหน ถ้ารับได้ก็คบทนไม่ไหวก็จบ

แต่ทฤษฎีที่ว่าผู้หญิงชอบคนเลวและทฤษฎีผู้หญิงชอบความท้าทายจะจริงครับ ทุกคนคิดว่าแน่คงเอาพวกมันอยู่ แต่เท่าที่ผ่านมาเหมือนจะมีแต่คนคิดผิด เพราะไอ้คิวมันก็คบๆเลิกๆฟันแล้วทิ้ง ทิ้งทั้งที่ยังไม่ฟัน


ผู้หญิงที่เข้าหามันก็มีหลากหลายแบบ ก็นะรูปหล่อพ่อรวยใครก็คงอยากควงได้ทั้งหน้าได้ทั้งเงินมีแต่ได้กับได้เสียอย่างเดียวคือตัวกับใจ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีผู้หญิงดีๆเข้ามาในชีวิตพวกมันนะครับ คนที่รักพวกมันด้วยใจจริงคิดว่ารักแท้และความดีจะช่วยยืดเวลาให้ แต่เปล่าเลย ก็หัวใจคนเราไม่ได้เอาไว้รักคนดี แต่มีไว้รักคนที่ใช่ต่างหาก

ผมก็ได้แต่หวังว่าซักวันพวกมันจะเจอกับคนที่ใช่จริงๆแล้วหยุดไว้แค่นั้น ซักวันพวกมันก็จะได้เจอคนของตัวเอง



แล้วถ้าวันนั้นมาถึงพวกมึงยังจะยังสนใจเพื่อนอย่างกูรึเปล่าวะ


"แล้วทำไมมึงไม่เลิกๆกันไปจะได้จบ" ไอ้เชนคิดเหมือนผมเด๊ะพี่เจนเป็นคนที่คบกับไอ้คิวได้นานที่สุด ในบรรดาสาวๆทั้งหลายที่มันเคยควง อาจจะเป็นเพราะพี่เจนเป็นคนมีเหตุผลไม่ตามซักตามจิกให้ไอ้คิวมันรำคาญ แต่ดูจากรูปการณ์ในวันนี้ผมว่าพี่เจนคงอยู่ได้อีกไม่นาน


"กูไม่อยากให้เลว กูอยากให้เจนเป็นคนพูดอย่างน้อยจะได้บอกใครได้ว่าเป็นฝ่ายทิ้งกู"  อึหือ แมนสัด แมนโคตร เป็นคนดีจริงจริ๊ง


" ยังกับว่าทำแบบนี้แล้วพี่เค้าจะไม่เสียใจ" ไอ้เชนเหมือนจะเริ่มมีสาระครับ แต่


"อย่ามาทำเป็นพูดดี มึงกับมันก็เลวพอกันแหละ" ผมหันไปกัดไอ้เชนบ้าง มันแหละตัวดีเลยลองบวกลบคูณหารความเจ้าชู้ความกะล่อนความเลวของไอ้คิวซักสามสี่พันครั้งผลลัพธ์จะออกมาเป็นหน้าหล่อๆของไอ้เชนครับ


"อ้าว อะไรๆ กูเลวตรงไหนกูยังไม่มีโซ่ตรวนคล้องคอเว้ย กูมีสิทธิคั่วใครหน้าไหนก็ได้ แล้วมึงก็ควรจะชินได้แล้วไอ้พีมเพราะกูเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิด"  ใช่มึงมันเหี้ยมาแต่กำเนิด หางแดงสองแฉก

"เลิกๆซะบ้างเถอะไอ้สันดานเหี้ยๆเนี่ย พวกมึงหัดเอาอย่างไอ้แทนบ้าง"


"เอาอย่างไอ้แทน เอาพร้อมกันหลายๆคน เช้าคน กลางวันคน เย็นคนน่ะหรอ"


"มันบอกกูว่ามันมีคนที่จริงจังแล้วเว้ย"


"ถุ๊ย" มันสองคนพ่นน้ำลายหยามเหยียดไอ้แทนอย่างพร้อมเพรียงครับ แว้กก เกือบโดนหัวกู


"ไอ้พีมมมม!!!!" ระหว่างนั้นเสียงของบุคคลที่สี่ก็ดังเข้ามา ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ ไอ้แทนคนที่พวกผมกำลังพูดถึงนั่นเอง ผมหันไปกะจะด่ามันซักหน่อยที่เสือกเรียกเสียงดัง กลัวลืมชื่อกูรึไง


แต่ว่าบุคคลที่เดินหน้าโหดตามหลังมันมานั้นทำเอาผมอ้าปากค้าง

OoO





ไอ้ภูมิ!!!





"ไอ้เตี้ย!!!!!"



ผมแทบจะลืมหายใจ ไอ้ภูมิตัวเป็นๆ เดินแบกหน้าหล่อๆเข้ามาในคณะและยังไม่ทันที่สมองของผมจะได้สั่งการใดๆ ไอ้ภูมิก็เดินมาคว้าคอเสื้อผมให้ลุกขึ้น ตกลงมึงจริงจังกับคอเสื้อกูใช่มั้ย ส่วนไอ้แทนรีบไปยืนซ้อนหลังไอ้คิว  ผมหันไปจิกตาอาฆาตใส่ไอ้แทน มันทำหน้าราวกับจะร้องไห้




อย่ามาสำออยไอ้เวรแทน มึงพามันมาใช่มั้ย



"ทำกูไว้แสบมากนะมึง มานี่!!!" ไอ้ภูมิก้มลงกระซิบเสียงรอดไรฟันแบบว่าน้ำเสียงมันชวนเสียวสันหลังมาก แถมมันยังกัดกรามกรอดๆๆ ตายกู ตายแน่ๆ และยังไม่ทันจะเรียกให้ใครช่วยมันก็ลากผมหัวซุกหัวซุน จนขาแทบจะเกี่ยวม้าหินอ่อนล้ม



"เฮ้ย มึงจะพากูไปไหน กูไม่ป๊ายยย ปล่อยกูๆๆๆ" เพื่อนพ้องน้องพี่ในคณะต่างมองไอ้ภูมิเป็นตาเดียวเห็นคนหล่อไม่ได้เลยนะผู้หญิงคณะนี้ มีใครคิดจะช่วยกูบ้างมั้ยเนี่ย อย่าเพิ่งไปเคลิ้มหนังหน้าใสๆของมัน ช่วยกูก๊อน  ส่วนไอ้เพื่อนตัวดีทั้งสามก็สามัคคีชุมนุมซุ่มทำตัวนิ่งเป็นหุ่นขี้ผึ้ง พวกมึงช่วยกูด้วยสิโว๊ยย จะรอให้มันเชือดกูให้ดูต่อหน้ารึง๊ายย


"เฮ้ยภูมิ จะพาเพื่อนกูไปไหนวะ" ดีมากๆไอ้คิว กูรักมึงที่สุด


"กูไม่ฆ่ามันหรอก พวกมึงไม่ต้องห่วงและไม่ต้องยุ่ง" เอ่อนี่ควรจะนับเป็นเรื่องดีใช่มั้ยครับ มันบอกว่าจะไม่ฆ่าผม เออไม่ฆ่ากูก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีแต่จะดีกว่านี้ถ้ามึงจะไม่ทำอะไรกูเลย


"มึงอย่าทำอะไรไอ้พีมมันเลยนะภูมิ มันก็ปากกล้าขาสั้น เอ๊ย ขาสั่นไปงั้นเอง"ไอ้แทนช่วยกล่อมหมาบ้าอีกแรง ไอ้แทนมึงไม่ได้สำเหนียกเลยใช่มั้ยว่ามึงเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือคนร้ายสมควรตายจากโทษสองในสาม


"มึงไม่ต้องมาพูด มึงพามันมาใช่มั้ยไอ้เหี้ยแทนไอ้เพื่อนเลว" มันยกมือไหว้ผมประหลกๆ


"กูขอโทษษษษษ~~~ ก็กูไม่มีทางเลือก " มึงเลยเลือกที่จะฆ่ากู


"มึงไม่ต้องไปโทษคนอื่น มึงเตรียมตัวรับโทษจากกูดีกว่า มานี่!!!" แล้วมันก็กระชากๆๆๆแขนผมให้เดินตาม ผมก็ดิ้นสิครับ


"เฮ้ยพวกมึง ช่วยกูด้วย ไอ้เชนนนนน ช่วยก็ด้วย"


"ไม่เป็นไรหรอกพีม มันบอกว่าไม่ฆ่ามึงก็ไม่ตายแน่นอน" มันตะโกนไล่หลังมา ไอ่เชี่ยเชนมึงเป็นเพื่อนกูรึเปล่าไอ่ฟายยยยยยยยยยย


"สัดกูเจ็บนะเว้ย ปล่อยกู ไอ้เพื่อนเหี้ยพวกมึงทำแบบนี้กับกูไม่ได้นะโว๊ยยยยย " ในที่สุดผมก็ห่างจากพวกเพื่อนๆและคณะออกมาเรื่อยๆ ผมทั้งดิ้น ทั้งแหกปาก ทั้งสลัดไอ้เวรนี่แต่ก็ไม่มีอะไรเป็นผลซักอย่าง โอ๊ะโอผมนึกอะไรดีๆออกหล่ะ
"

มึงๆ กูขอโทษก็ได้ นะๆ ปล่อยกูไปเหอะ"ผมหยุดดิ้นแล้วลองใช้ไม้อ่อนกับมันดู
แต่ว่า




"หึ สายไปวะ กู -ไม่ -รับ"




คำว่าไม่รับของมันทำเอาผมแทบลมจับราวกับว่าชีวิตของผมได้ดับสิ้นลงแล้ว ก่อนที่มันจะยัดผมเข้าไปในเมอร์ซิเดสเบนซ์สีบรอนเงาวับ แล้วขับกระชากออกตัวจนหัวผมแทบโขกคอนโซล




อ๊ากกกกก ใครก็ได้ช่วยไอ้พีมที





TBC>>>>>>>>>>>>>>>>



............................................


แม้ว่าจะสอบในอีกสองวันข้างหน้าแต่อิบ้านี่ก็ยังมีอารมณ์มาอัพฟิคคะ :laugh:


ใครที่จะสอบก็ขอให้โชคดี เอๆๆๆๆๆทุกตัวนะคะ^_^

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2011 20:08:26 โดย ทะเลหัวใจ »

ทะเลหัวใจ

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 3
«ตอบ #2 เมื่อ27-08-2010 11:37:09 »

                                                                   

ตอนที่ 3


"ปล่อยกูลงไอ้เหี้ยมึงหูแตกรึไง บอกว่าให้ปล่อยกูลง จอดรถ จอดๆๆๆจอดสิโว๊ยยยยย"


"โว้ยยย แมร่งเงียบซักทีได้มั้ยกูรำคาญ เดี๋ยวปั๊ดถีบลงรถ" แค่นั้นแหละครับ ผมรีบยกขาขึ้นมากอดบนเบาะแล้วเอามือปิดปากตัวเองไว้แทบจะทันที ทั้งที่เมื่อกี้อยากจะลงแทบตาย

และคาดว่าผมคงจะตายจริงๆถ้ามันจะยันผมลงรถอย่างที่มันพูด เพราะความเร็วของรถตอนนี้ก็คงพอๆกับจรวดลำล่าสุดของรัสเซีย พูดเหมือนเคยนั่งจรวดเลยกู


ถนนบางนาตราดที่โล่งมวาก เหมาะสำหรับให้ตีนไอ้เวรนี่เหยียบไม่มียั้ง ถ้าหน้าปัดมีถึงพันเข็มมันคงชี้ แต่เดี๋ยวก่อน บางนาตราด บระเจ้า!!!!!! นี่มันพาผมมาไกลถึงขนาดนี้เลยหรอวะ หรือมันจะพาผมไปฆ่าแล้วโยนศพลงทะเลให้ปลาดาวตอดกิน

หรือมันจะฆ่าอำพรางแล้วทิ้งศพผมไว้ข้างทาง แอ๊กกก ผมเริ่มหลอนแค่คิดเหงื่อเม็ดเล็กๆก็ผุดมาเกาะซะเต็มหน้า ผมเหลือบมองไอ้คนที่นั่งข้างๆอย่างหวาดๆแล้วก็ต้องลอบกลืนน้ำลายเหนียวๆฝืดๆลงคอ มันหันมาทำหน้าโหดใส่ มึงไม่ต้องทำกูก็กลัวจนฉี่จะแตกแล้ว สัด
 

"นั่งเงียบๆถ้าไม่อยากตาย"มันหันมาสั่งเสียงดุหน้าเหี้ยม

"ถ้ากูเงียบ กูจะไม่ตายใช่มั้ย มึงพูดจริงๆนะ" มันหันมากัดฟันกรอดๆใส่ผม เฮ้ย กูไม่ได้กวนตีนมึงนะเว้ย จริงๆนะผมไม่ได้กวนตีนมันนะ ก็ถ้าผมเงียบแล้วผมรอด อย่าว่าแต่พูดเลยครับแม้แต่เสียงลมหายใจผมก็จะไม่ปล่อยให้ไปสร้างความระคายเคืองต่อกระดูกค้อนของมันเลย

"หึหึ กูก็นึกว่าจะแน่ ที่แท้ก็กลัวตายเหมือนกันนี่หว่า ไอ้เตี้ย"

"ไอ้ สะ..." เกือบแล้วครับ เกือบไปแล้วดีที่ยั้งคิดทัน ไม่งั้นผมก็คงไม่เหลือแม้แต่ชื่อกลับไปให้แม่ได้ดูต่างหน้า มันคงชักปืนมายิงผมทิ้งในวินาทีนี้แน่นอน ไอ้ภูมิมันยิ้มเลวๆ ดูไปเหมือนเป็นการแสยะมุมปากซะมากกว่า

แถมลีลามันดีครับยักคิ้วกวนตีนผมอีกหนึ่งดอก ดูเหมือนว่าการทำให้ผมโกรธจะเป็นสิ่งที่ชีวิตมันถวิลหา อารมณ์มันดูจะสดใสขึ้นมาทันตา แม่รงเอ๊ยอย่าให้กูรอดไปได้นะมึ้ง
 

 
หลังจากที่นั่งรถมาไกลจนรู้สึกได้ว่าก้นเริ่มชา ตอนนี้ก็เข้าสู่เขตจังหวัดสมุทรปราการแล้วครับ แต่อยู่ดีๆมันก็หักเมอร์ซิเดสคันงามเลี้ยวซ้ายลงสู่ถนนเส้นเล็กๆซึ่งแม่งโคตรเปลี่ยว

น่ากลัวมากทางเข้าก็สุดแสนจะวังเวง มีป่าดงพงหญ้าสูงมิดปิดสองข้างถนนนๆ หึหึ คุ้นๆเนอะถ้าใครคิดบรรยากาศที่ผมกำลังเผชิญไม่ออกละก็ ลองนึกถึงรูปที่พาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์นะครับ

ที่มีชาวบ้านมายืนมุง มีตำรวจมาทำแผนและมีรถร่วมกตัญญูช่วยกันยกห่อผ้าสีขาว ถ้าพรุ่งนี้เดินผ่านแผงขายหนังสือพิมพ์ก็ช่วยเหลือบมองด้วยนะครับ เผื่อจะเห็นข่าวฆาตกรรมอำพรางแล้วมีภาพประกอบเป็นหน้าหล่อๆของผมก็ได้
 


"ลงมา" หัวใจผมเต้นตุ่มๆต่อมๆเมื่อไอ้ภูมิจอดรถ มันเปิดประตูเดินลงไปก่อนแล้วก้มลงมาสั่งผม


ผมหันซ้ายหันขวา นอกจากจะไม่เจอใครที่พอจะขอความช่วยเหลือได้ ผมยังมองไม่เห็นทางที่จะรอด ซ้ำหนักเมื่อเรติน่าของผมปะทะกับชายฉกรรค์สองคนที่กำลังเดินออกมาจากโกดังร้าง


โอ้วววว พ่อแก้วแม่แก้ว ป้าทองลุงเพชรลุงพลอยช่วยไอ้พีมด้วย มันจะทำอะไรผม ร่างกายผมไม่ยอมขยับเขยื้อนอวัยวะส่วนใดๆทั้งสิ้น ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยพบเคยเจอเหตุการณ์ระทึกขวัญแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต นี่กูต้องมาตายที่นี่จริงๆหรอวะ มันจะฆ่าผมใช่มั้ย มันจะฆ่าผมทำไม แม่งเอ้ย ถ้ากูตายกูจะมาหลอกมึงคนแรกไอ้ภูมิ



"เฮ้ย กูบอกให้ลงมา หูหนวกรึไง ทีเมื่อกี้ละอยากลงจะเป็นจะตาย ลงมา!!!" มันกระชากเสียงแถมตะคอกด้วย กูไม่ลงได้ป่ะ รถมึงแอร์เย็นดีวะ มึงก็ขับรถนุ๊มนุ่มปาดซ้ายแซงขวา หวิดจะสอยท้ายสิบล้อหลายครั้ง ที่สำคัญไม่เคยหยุดรอสัญญานไฟ กูช้อบชอบ


แต่สุดท้ายผมก็ต้องข่มจิตข่มใจแล้วก้าวลงจากรถ เพราะไอ้ภูมิมันยืนจ้องซะตาขวาง แดดร้อนพิษหมาบ้ามันกำเริบ ด่าออกปากไม่ได้ก็ด่าแม่งในใจนี่แหละ


กระบวณการต่างกันแต่ความพึงพอใจเหมือนกัน ก็ไหนมันบอกว่าถ้าผมนั่งเงียบๆมันจะไม่ทำอะไรผมไงผมก็เงียบตามที่มันบอกแล้วนะ เสียงมดอึ้บกันยังได้ยินเหอะ มึงมันคนไม่รักษาสัญญา ไอ้ฆาตกร (ตกลงเค้าฆ่าแกแล้วเรอะ)
 


"เข้าไป" ไอ้ภูมิผลักหลังผมให้เดินเข้าไปในโกดัง โดยมีลูกสมุนของมันตามมา ในนี้ไม่มืดไม่เหม็นอับอย่างที่คิด มันปล่อยให้ผมมองสำรวจสถานที่ที่จะใช้ในการตาย เฮ้ย ไม่สิๆยังไงผมก็ต้องรอด เพราะถ้ามันฆ่าผม มันต้องถูกตำรวจจับไปยิงเป้าอย่างแน่นอนเพราะมีพยานเห็นเพียบว่ามันลากผมออกมา 


พยานพวกนั้นก็คือเพื่อนเลวๆของผมนี่เอง ฮึ๋ย คิดแล้วแค้นอยากจะเอามีดไปเฉาะหัวไอ้เพื่อนชั่วๆพวกนั้นแต่ตอนนี้ผมกำลังคิดหาทางหนีทีไล่ เหลือบไปมองพี่บึ้กกับพี่เบิ้มสองคนที่ยืนเฝ้าอยู่ตรงประตู ก่อนจะหันกลับมามองไอ้เหี้ยภูมิที่นั่งไขว่ห้างแกว่งมีดในมือเล่น ขอให้มันแกว่งปาดนิ้วตัวเองขาด  สัดเอ๊ย เฮี้ยนได้ใจกูจริงๆ



ผมไม่เคยมองใครแล้วนึกอยากเอาตีนไปเหยียบหน้าอย่างไอ้นี่มาก่อน เรื่องนี้ ถ้าเอามาคิดดูจริงๆมันไม่มีเหตุผลเลย ผมทำร้ายร่างกายมันก็จริง แต่ก็ไม่ได้หนักหนาถึงขั้นต้องมาฆ่ามาแกงกัน หรือมันทำเพื่อความสะใจ คิดจะฆ่าจะทำร้ายใครก็ได้งั้นหรอ


ถ้ามันเห็นชีวิตคนอื่นไร้ค่าขนาดนั้น งั้นผมยอมตาย ผมจะไม่ก้มหัวขอร้องคนอย่างมันเด็ดขาด แมนมากกู แลดูเป็นคนรักศักดิ์ศรี แต่…….ผมแค่ทำเท่ห์ไปงั้นเองครับ กร๊าก เอาจริงๆเลยนะ ตอนนี้มันให้ทำอะไรผมก็ยอม

"
มึงคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้ามาซ่าส์กับกู"  โหยยย ไอ่ปลวกแล้วมึงคิดว่าตัวเองเป็นลูกประธานาธิบดีอเมริการึไงถึงได้ทำเหมือนใครๆต้องสิโรราบให้มึงอ่ะ ผมละคันปากยิกๆอยากสวดมันซักฉาด เก็บกดมาตั้งแต่อยู่บนรถแระ และคาดว่าผมคงต้องเก็บและกดอารมณ์ต่อไป ที่ทำได้จริงๆ คือ เงียบ


"..............."

 

"เฮ้ย !!! ถาม ก็ตอบเด้!!! "



"ก็มึงบอกให้กูเงียบ อนุญาตให้กูพูดแล้วหรอ" กูขอหน่อยเหอะด่าไม่ได้ขอกัดขอกวนก็ยังดี ไม่งั้นไอ้พีมนอนตายตาไม่หลับ ว่าแต่ทำไมผมชอบวกไปหาคำว่าตายอยู่เรื่อยเลยละเนี่ย สงสัยจะว๊อน


"แม่ง อยากลองของใช่มั้ย เฮ้ย มึงสองตัวจับมันไว้ดิ๊" พอไอ้เหี้ยภูมิสั่งลูกน้องผมก็ใส่เกียร์หมาเตรียมโกยเถอะกู แต่ก็ยังช้ากว่าไอ้พี่บึ๊กกับพี่เบิ้มที่เข้ามาล็อกแขนผมคนละข้างผมก็ดิ้นสิครับ แต่สุดท้ายก็ไร้ประโยชน์เหนื่อยเปล่าแถมหอบฟรี


"กูไม่ฆ่ามึงหรอก คนอย่างกูพูดคำไหนคำนั้น"


"เออ !!!ไม่ฆ่าก็ปล่อยกูไปซักที แมร่งหลอนกูอยู่ได้ สนุกนักรึไงกับการทรมานคนอื่นน่ะ"มันเหยียดปากยักไหล่ ดูสบายใจจนน่าถีบ

"กูปล่อยมึงแน่ แต่กูมีข้อแลกเปลี่ยน" ผมหรี่ตามองไอ้ภูมิ ทั้งที่ยังหอบหายใจ เหนื่อยโคตร กูจะตายจริงๆเพราะฆ่าตัวเองนี่แหละ ไม่ดิ้นแม่งแล้วเหนื่อยชิบ


ผมหันไปจิกตาใส่ไอ้ยักษ์ปักลั่นสองตัวที่ทำให้ผมต้องเหนื่อยฟรี ไอ้หล่อเลวนั่นลุกจากบัลลังพิพากษาแล้วมาหยุดยืนหน้าตาดีอยู่ตรงหน้าผม มันเอาโลหะเย็นๆปลายแหลมๆมาแตะแก้มผม ผมเย็นวาบตั้งแต่หัวยันปลายตีนมันยิ้มมุมปากอีกแล้ว โอยยยยย กูเกลียดมึง ไอ้ชั่ว ไอ้เลว ไอ้โหด ดิบ เถื่อน



"ละ แลก แลกแปลี่ยน อะไร"




"มาเป็น "เบ๊" กูสองเดือน"




 เปรี้ยง!!!!!

 o22



 เหมือนเสียงฟ้าผ่าลงกลางกะบาล


T__T


จอ โอ๊ะ บอ อ่านว่า จบ หอ เอ เห ไม้เอก เห่ รวมกันเป็นจบเห่ เป็น Adverb ครับ ทำหน้าที่ขยายคำว่าจบให้ดูบัดซบยิ่งขึ้น ไม่ตายก็เหมือนตาย ไม่ฆ่าก็เหมือนข้า

นั่นแหละครับคือจุดจบของชีวิตไอ้พีม จบลงด้วยการที่ผมต้องไปทำหน้าที่อันใหญ่หลวงเพื่อไถ่ตัวเอง ผมต้องเป็นเบ๊ไอ้ภูมิครับ พูดง่ายๆฟังสบายๆภาษาบ้านๆ ก็คือการไปเป็นคนรับใช้มันนั่นเอง


มันบอกว่าไม่มีอะไรมากแค่คอยทำทุกอย่างตามที่มันสั่งเท่านั้นเอง เท่านั้นเอ๊ง ไม่มีไร๊ สัญญาทาสระหว่างผมกับมันมีระยะเวลาสองเดือนโดยประมาณ คือถ้าโลกร้อนขึ้นหรือมีการชุมนุมสัญญาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความพอใจของมัน เลวดีมั้ยละ


แต่ก็ยังดีที่มันยังเหลือความเป็นคนอยู่บ้าง ที่ยอมทำตามคำขอของผมว่าอย่าให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด โดยเฉพาะไอ้พวกเพื่อนๆ ซึ่งกว่าจะขอร้องอ้อนวอนมันได้ ผมก็เกือบร้องไห้เป็นภาษาเยอรมัน


สรุปคือวันนั้นมันไม่ได้สร้างความเจ็บปวดทางร่างกายให้ผมเลยแม้แต่ปลายก้อย แถมยังพามาส่งถึงป้ายรถเมล์ ย้ำว่า ป้ายรถเมล์ โปรดฟังอีกครั้งหนึ่งว่าไอ้เหี้ยภูมิมันมาส่งผมแค่ป้ายรถเมลล์ ไม่ใช่หน้าบ้านอยากที่หลายๆคนจิ้นกัน


แถมไปส่งผมแถวไหนก็ไม่รู้ ขึ้นรถเมล์ผิดสายตั้งสองครั้ง ผมไม่ได้โง่นะแต่แถวนั้นผมไม่คุ้นจริงๆ กว่าจะหาทางกลับถึงบ้านได้ก็ปาไปเกือบห้าทุ่มและผมจะจำไว้จนวันตายว่ารถเมล์สาย554 มันไปรังสิตไม่ใช่อนุสาวรีย์  สาดดดดดดดดดดดดดดY__Y
 
 
 
 
 ...........................................
 


 
เมื่อวานหนีเสือวันนี้ผมเลยมาป๊ะจรเข้แคระหรือเหี้ย ซึ่งก็คือเพื่อนของผมนั่นเอง ฮ่าฮ่า สายตาของพวกมันจะทะลุละทวงไส้ผมอยู่แล้ว ทั้งที่ตอนแรกผมเป็นฝ่ายฟ้อนเล็บคิดบัญชีพวกมัน

เรื่องเมื่อวานที่พวกมันทั้งสามตัวได้แสดงออก ถึงความเป็นมิตรแท้ให้กระผมได้รู้สึกประทับใจไม่รู้ลืม แต่ตอนนี้พวกมึงจะสแกนกูทำห่าอะไรเนี่ย คนยิ่งโกหกเก่งๆอยู่โกหกทีไรก็ถูกจับได้ทู้กที แม่ม ผมเลยต้องงัดทุกกระบวนท่าขึ้นมายืนยันและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคำพูดของตัวเอง


อันดับแรก จ้องตาเพื่อให้รู้ว่ากูจริงใจ ทั้งที่ความจริงผมกลัวจะตายห่าอยู่แล้ว ถ้าพวกมันรู้ว่าท่านพีมผู้ไม่เคยเกรงฟ้าเกรงดิน ต้องไปเป็นเบ๊ให้ไอ้เหี้ยนั่น มันจะเป็นอะไรที่ดับชีวิตผมมาก ผมยอมตายแต่จะไม่ยอมอาย ถ้าพวกมันรู้พวกมันจะล้อจนผมคลั่งจากนั้นผมก็จะเลือดออกแปดทาง แล้วผมก็จะค่อยๆทรมานท้ายที่สุดผมก็จะเสียศูนย์และหมดสิ้นซึ่งศักดิ์ศรี แว้กกกก

ยอมไม่ได้ๆๆๆ กู -ยอม -ไม่ด๊ายยย  :serius2:



ตอนนี้แค่พวกมันตัวเดียวผมก็ไม่รู้จะรอดมั้ย แล้วนี่แม่งเสือกมาอยู่รวมกันได้ไงวะ ได้ข่าวเรียนกันคนละคณะนี่หว่า ไอ้เชี่ยปันที่ร้อยวันพันทางไม่ค่อยจะเห็นหัวก็เสร่อมานั่งหน้าเอ๋อสอบปากคำผมกับเค้าด้วย ไอ้นักปกครองหน้าม่อเอ๊ย


"กู -ไม่ -เชื่อ" วงประสานเสียงยังไม่พร้อมเพรียงเท่าพวกมันสี่ตัวเลยครับ จนผมเกือบจะส่อพิรุธ มือไม้เริ่มอยู่ไม่นิ่ง เริ่มกรอกตา ถ้าผมอ้าปากพูดคาดว่าจะติดอ่างอย่างแน่นอน


"เป็นไปไม่ได้ไอ้ภูมิจะไม่ทำอะไรมึงได้ไง ไม่ใช่วิสัยของมันอย่างแรวง" แล้วมึงจะมาทำซาวด์เป็นพี่บ่าวชาวใต้ทำไมนิ แล่งต๋ายทำพรือ เชี่ยคิว กูติดเลยเห็นมั้ย


"ช่าย บอกพวกกูมามันทำอะไรมึง" คือตอนแรกก็นั่งถาม นั่งซักดีๆนี่แหละ แต่สงสัยของขึ้นไอ้แทนมันเลยปีนโต๊ะขึ้นมานั่งจ้องหน้าผมใกล้ซะจนขนจมูกมันจะทิ่มขี้ตาผมแล้ว


ตกลงพวกมึงอยากให้ไอ้ภูมิทำอะไรกูใช่มั้ยห๊ะ


"เอ๊าพวกมึงนี่ก็แปลก ก็ถ้ามันทำอะไรกู กูจะได้มานั่งหล่อให้พวกมึงเห็นเป็นบุญตาแบบนี้หรอครับเพื่อนครับ" โทษฐานที่พูดอะไรโดยไม่เจียมหนังหน้า เลยถูกฝ่ามือไอ้เชนไปหนึ่งฉาด อะไรวะ ถึงกูจะหล่อสู้พวกมึงไม่ได้แต่กูก็เข้าข่ายผู้ชายหน้าตาดีนะเว้ย


"กูพูดจริงๆ มันไม่ได้ทำอะไรกูจริงๆ" แค่เกือบๆ เกือบจะฆ่ากูเลย พอได้รับคำยืนยันอันหนักแน่นแต่แสนเบาหวิว?? พวกมันสี่ตัวก็เริ่มมองหน้ากันไปมา เหมือนกำลังปรึกษากันทางจิต ผมเลยพอมีเวลาถอนหายใจที่แอบกลั้นเอาไว้ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้


เหี้ยเอ๊ย เพราะไอ้ภูมิคนเดียว ผมถึงต้องมีชีวิตอย่างหวาดระแวงแบบนี้ ไม่นานพวกมันก็กลับมาสแกนผมอีกครั้ง ด้วยสายตาที่แบบว่า เอ่อ ไม่ค่อยจะสู้ดีและปกติสักเท่าไร ดูจิตๆยังไงชอบกล เวลาปกติพวกมึงก็เหมือนคนโรคจิตยิ่งมาทำ โอยยยกูหลอน แล้วผมจะรอดมั้ยเนี่ย


"มึงแน่ใจนะพีม" ไอ้ปันถามย้ำอีกครั้ง

"เออสิวะ" ไอ้ปันมันยิ้มแปลกๆแล้วหัวเราะเอียงข้างเหมือนพี่ตุ๊กกี้ สาธุขอให้บรรดาแม่ยกมึงมาเห็น ไม่ใช่แค่ไอ้ปันแต่พวกมันทั้งหมดกำลังมองผมแปลกๆ นี่อย่าบอกนะว่าพวกมันเสรือกรู้แล้ว โอ้วววม่ายยยย


"อะ อะ ไรวะ มองกูทำไม"


สาบานได้ถ้าย้อนเวลากลับไปผมจะไม่ถามคำถามนี้


"มึงเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ตัวเองรอด ใช่มั้ย"  ผมอึ้ง ทึ่ง และฟวยยยยยยย พวกมึงคิดได้ยังไง :fire: หน้าผมคงคล้ายภูเขาไฟฟูจิแน่ๆ พวกมันลุกฮือแตกหนีตีนผมที่กำลังไล่หั่นตูด


ไอ้เพื่อนแต่ละตัวหัวเราะจนน้ำหู น้ำตา น้ำลายเล็ด เหี้ยเอ๊ยแกล้งกู สุดท้ายพวกมันก็ยอมเชื่อ แต่ก็มิวายตบหัวแล้วเอาตีนลูบหลังผมด้วยการบอกว่า ถ้าไอ้ภูมิเกิดทำอะไรผมขึ้นมาจริงๆละก็ พวกมันก็จะไม่ไว้หน้าไอ้ภูมิเหมือนกัน


โหยยยยยย กูซึ้ง ประทับใจเหี้ยๆ ไม่พูดตอนกูถูกโยนลงทะเลเลยละ เฮอะ แลดูดีเสมือนว่าห่วงใยกูจริงจริ๊งพวกมึง มันยังมีหน้าไปชื่นชมไอ้ภูมิอีกนะว่าเป็นสุภาพบุรุษมั่กมากเป็นคนซื่อสัตย์พูดคำไหนคำนั้น  กูอยากตีลังกากลับหลังแล้วอ้วกออกทางท้ายทอย !!!!ถ้าคนอย่างมันดี โลกใบนี้ก็ไม่มีอะไรเหลือแล้วล่ะ


เช้าวันนี้ผมเข้าเรียนด้วยสติที่ไม่ค่อยจะเต็มเท่าไร ทั้งง่วง ทั้งเพลีย ก็วิ่งไล่ไอ้เวรตะไลทั้งหลายนั่นแหละ แม่ง คิดได้ไงว่าผมเอาร่างกายเข้าแลก


ผมทึ้งหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด โว้ย!!! คิดแล้วแค้น แค้นก็ต้องดับแค้น ผมหันไปมองไอ้ตัวการแล้วจัดการตบหลังไอ้คิวป๊าปหนักๆ จนอาจารย์หันมามองหน้า ผมเลยยกมือไหว้ขอโทษอาจารย์ ส่วนไอ้คิวที่ถูกฝ่ามืออรหันต์ของผม ก็หันมาใช้สายตาอาฆาต แต่ทำอะไรไม่ได้ ฮ่าฮ่า สะใจ


ผมยักคิ้วใส่มัน รู้ซะมั่งไผเป็นไผ ผมเริ่มจะอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยนึงหลังจากนึกได้ว่าตอนบ่ายไม่มีเรียน เย้ดเข้ ผมว่างผมจะกลับบ้านไปนอน ไม่เอาๆไปนอนคอนโดไอ้คิวดีกว่า ผมอยากไปงีบเอาแรง รู้สึกว่าสองสามวันมานี้ดวงตก ราหูอมชีวิตยังไงไม่รู้


แต่ก่อนที่จะได้เอ่ยปากชวนเพื่อนรักที่กำลังเสกคุณไสยณ์ใส่พี่ปีสาม  ไอ้นี่เผลอไม่ได้จริงๆ เสียงเพลงคิดฮอดที่เป็นเสียงเรียกข้าวของผมก็ดั่งลั่น เวร ลืมปิดเสียง พี่ตูนเป็นไอดอลของผมครับ ถ้าไม่มีพี่ตูนในวันนั้นก็ไม่รู้ว่าไอ้พีมคนนี้จะไปหากางเกงขาลีบหนีบไข่ได้ที่ไหน


ไอ้คิวหันมาทำหน้าสายตาหม่นๆใส่ผมที่ปล่อยให้เอี้ยยศิริพรคิดฮอดนานเกินไปรวมทั้งอาจารย์หันมามองหน้าผมเลย




เบอร์ใครวะ



"ฮัลโหล" ผมก้มลงไปรับโทรศัพท์ได้โต๊ะด้วยเสียงกระซิบยังกล้าที่จะรับ





"กูให้เวลาสิบนาทีมาหากูที่คณะ ถ้าสิบนาทีกูยังไม่เห็นหัว มึงโดน!!!"





เหี้ยภูมิ!!!! แสรดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


 :m31: :m31: :m31:
OoO




Y_Y



 


TBC>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>




.........................................................
 



 ^___^ หายไปนานเพราะตันมากคะ เลยออกมาแบบเบๆ งง มึน งง อย่างที่เห็น ฮ่าฮ่า ตอนหน้าพระนายน่าจะได้ คลุกคลีกันมากขึ้นคะ






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2011 20:22:18 โดย ทะเลหัวใจ »

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 3
«ตอบ #3 เมื่อ27-08-2010 12:24:10 »

สนุกมาก อยากอ่านต่อ
สงสารน้องพีม :laugh:
+1 เป็นกำลังใจนะ writer
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-08-2010 12:25:47 โดย Little Devil »

ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 3
«ตอบ #4 เมื่อ27-08-2010 13:30:08 »

พีมเป็นอะไรที่ให้ความฮาตลอด :jul3: :m20:
พีมคงจะมีลูกมีเมียไม่ได้เหมือนที่เพื่อนว่าจริงด้วย  :laugh:
เจอภูมิโหดซะขนาดนั้น
ว่าแต่ภูมิคิดไรกับพีมปะถึงได้เอาพีมไปเป็นเบ้ :m12:

+1 ให้เป็นรางวัลที่มาลงใหม่ :กอด1:

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 3
«ตอบ #5 เมื่อ27-08-2010 15:14:01 »

นู๋พีม จะรอดมั้ยเนี่ย

 :z1:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 3
«ตอบ #6 เมื่อ27-08-2010 19:37:40 »

เป็นคนรับใช้ :m20: :m20: :m20: :m20:

Verxus

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 3
«ตอบ #7 เมื่อ27-08-2010 21:21:17 »

ฮาสุดตรีนดีจริงๆค่ะ 555
พีมกวนทีนได้โล่
สนุกมากๆเลยค่ะ อ่านไป ยิ้มไป ทำหน้าแปลกๆไป เอิ๊กๆๆ  :really2:
มาต่อไวๆนะคะ

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 3
«ตอบ #8 เมื่อ28-08-2010 04:35:38 »

สนุกค่ะ.
มาฝากตัวด้วยคนค่ะ. :L2: :L2: :L2:

yoshiki

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 3
«ตอบ #9 เมื่อ28-08-2010 06:31:03 »

คืออยากถามว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยไหนกันแน่ครับ.....เพราะเท่าที่ทราบมามหาวิทยาลัยอันดับต้นๆของเมืองไทย อย่าที่ได้เล่าไว้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นที่นั่น ไม่มี คณะ วิศวะ ศิลปกรรม เภสัช นิเทศ ทันตะ....ไม่มีคณะเหล่านี้อยู่ด้วยกันในมหาวิทยาลัยไหนเลย....หรือว่ามีจริงๆๆ เลยทำให้ไม่อิน เพราะนึกตามบริบทในเรื่องไม่ออกครับ.....

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 3
« ตอบ #9 เมื่อ: 28-08-2010 06:31:03 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






yoshiki

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 3
«ตอบ #10 เมื่อ28-08-2010 06:33:51 »

เท่าที่นึกออก.... จุฬาฯ ไม่มีมนุษย์
ธรรมศาสตร์ ไม่มี นิเทศ มีแต่ วารสาร และไม่มี เภสัช
มศว ไม่มี ทันตะ
เกษตร ไม่มี นิเทศ ทันตะ ศิลปกรรม
หรือว่าผมตกหล่น ยังไงก็ขอโทษไว้ด้วยครับ

loginmymind

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 3
«ตอบ #11 เมื่อ28-08-2010 11:56:01 »

ไม่เมนท์หายไปว้า...ไม่เป็นไร...ชอบคร้า....มาต่อไวๆน้า ขอสัก 3-4ตอนได้มะ..มันลุ้น..อิอิ

ออฟไลน์ akera

  • I love him anymore. but he love him.
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 3
«ตอบ #12 เมื่อ28-08-2010 19:20:25 »

อ่านแล้ว สนุกมากมาย    มาต่ออีกนะ

ออฟไลน์ *4_m3*

  • ~เธอคือของขวัญจากฟ้าไกล คือคำตอบของหัวใจ~
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-1
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 3
«ตอบ #13 เมื่อ28-08-2010 20:16:34 »

ติดตามค่ะ :L2:

ออฟไลน์ heefever

  • 영원히 그대만 사랑해
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 3
«ตอบ #14 เมื่อ28-08-2010 20:50:11 »

 :mc4: เรื่องใหม่

หนูพีม ท่าจะรอดยากซะแล้ว  :z2:

ออฟไลน์ different

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 3
«ตอบ #15 เมื่อ28-08-2010 22:20:34 »

อาจจะไม่ใช่เพื่อนก็ไำด้นะคะ 555
เข้าใจความรู้สึกเลยค่ะ เราก็เคยเจอ แบบเค้ามานั่งกินข้าวกินสองคน (แค่กินข้าว อินี่ก็คิดไปได้  ~ แหมก็เค้าหน้าตาดีทั้งคู่เลยอ่ะ ถ้าเป็นแฟนกันจริงก็เลิศเลย 55)
แล้วก็มีเหตุการณ์ไรอีกไม่รู้ที่ทำให้เราคิด แต่จำไมไ่ด้ แฮ่ะ ๆ ก็เลยสะกิดๆ เพื่อน
เดินผ่านหน้าร้าน 3 รอบได้มั้ง จนเค้าเริ่มมอง ๆ อินี่จะผ่านไรหนักหนา คงรู้แหละั ว่าเรามองอยู่
ตื่นเต้น มากมาย ความรู้สึกแบบ
"อ๊ายยย ><"
เอาล่ะ เข้ามาถึงนิยาย  ฮ่า ๆ  
ช๊อบชอบพระเอกเถื่อนดี ชอบบังคับเลยทำให้นายเอกดูไร้ทางสู้ดู หนูชอบบ  แถมนายเอกยังปากดี กวนตรีนอีก
แถมยังสนุก และ ฮามากมาย
รออ่านตอนต่อไปค้า ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-08-2010 22:27:19 โดย different »

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 3
«ตอบ #16 เมื่อ29-08-2010 08:47:50 »

แบบว่าดิบเถื่อน รักแบบเริ่มต้นของเด็ดวิดวะ
แต่ว่าน้องภูมิจะเถื่อนไปไหม อย่าบอกนายจะจีบน้องพี เลยหาเรื่องให้เป็นเบ้ให้ เพราะเห็นพระเอก
หลายรายเด็ดวิดวะ มักใช้มุกนี้จีบนายเอกในบอร์ดนี้อยู่เรื่อย แต่งานนี้มีลุ้นอะ
เพราะร้ายมารักทุกรายไป

ทะเลหัวใจ

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #17 เมื่อ29-08-2010 16:34:06 »

                                                   
 ตอนที่ 4

หลังจากที่ผมรับโทรศัพท์สายมรณะผมก็ช็อกไปสามวินาที ไอ้ภูมิมีเบอร์กูได้ไงฟระ ไอ่ห่านี่นอกจากโหดแล้วมันต้องแอบเล่นของแน่นอน



เมื่อตั้งสติได้สมองผมก็ค่อยๆประมวลผลช้าๆ มันพูดว่าสิบนาที ไม่เห็นหัว โดนแน่ แค่นั้นแหละผมคว้าเป้ประจำกายแล้วทะยานออกสู่ห้วงนรกอเวจี



จนอาจารย์และเพื่อนพ้องน้องพี่ที่ตั้งหน้าตั้งตาใส่อารมณ์กับศิลปะยุคเรอเนซองต้องหันมองเป็นตาเดียว ไอ้คิวเองก็ดูจะตกใจผมได้ยินเสียงมันตะโกนไล่หลัง แต่ผมไม่มีเวลามาตอบคำถามหรือไขข้อสงสัยให้ใครทั้งนั้น  เพราะนรกขุมแรกกำลังรอประหารผมอยู่



“แฮ่ก แฮ่ก มะ แมร่ง เหนื่อย” ผมมาถึงหน้าตึกวิศวะในสภาพที่ลิ้นห้อยเหมือนหมาหอบแดด มือข้างหนึ่งกุมท้องเพราะจุก ส่วนอีกข้างใช้ค้ำเข่า


คุณรู้มั้ยครับว่าตึกศิลปกรรมของผมมันเป็นอะไรที่ห่างไกลชาวบ้านมากจะว่าไปก็เหมือนลูกเมียน้อยอ่ะครับ อยู่หลังอยู่ลึกสุดส่วนวิศวกรรมน่ะเหรอ ชิชะ พวกมันวังหน้า ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าสร้างราศรีให้มหาวิทยาลัย


แล้วคิดดูว่าสถานที่ตั้งของตึกมันไกลขนาดนี้ผมต้องวิ่งมาอ่ะครับพี่น้องครับ ภายในเวลาสิบนาทีซะด้วย เหอๆ พรุ่งนี้กูจะไปสมัครวิ่งมาราทอนทีมชาติ ผมปาดเหงื่อพลางมองหาพิกัดของไอ้ภูมิมันไม่ได้บอกด้วยสิว่าอยู่ส่วนไหนของคณะ แล้วกูจะหามึงเจอมั้ย สาดดด



“มึงจะยืนทำตัวเตี้ยอีกนานมั้ย”


"ไม่ได้ทำโว้ยมันเตี้ยของมันเอง" หือ? กูพูดกับใครฟระ ผมหันขวับไปตามเสียงก็เห็นไอ้ภูมิยืนเก๊กเท่ห์ทำโหดอยู่ข้างหลัง ห่าเอ๊ยกูตกใจหมด นอกจากมันจะเล่นของแล้ว ผมว่ามันต้องแอบฝึกกำลังภายในหายตัวได้ด้วย เมื่อกี้ยังไม่เห็นมีหมาอยู่แถวนี้ซักตัวแต่ตอนนี้มีแล้วหนึ่งตัว หมาภูมิไงครับ ฮ่าฮ่า



“มึงสติไม่เต็มหรอเตี้ย ยิ้มบ้าอะไรคนเดียว” ผมถลึงตาใส่มัน นี่ผมเผลอแสดงความยินดีเวลาได้ด่าไอ้ภูมิออกทางสีหน้าเลยหรอเนี่ย สงสัยจะแค้นแรงแฮะเรา มันน่าแค้นไม่หล่ะ อยู่ๆก็มีใครไม่รู้มาควบคุมชีวิตเรา เป็นคุณคุณจะไม่แค้นหรอ ไอ้ภูมิมันชั่วร้ายอย่างที่ไอ้พวกนั้นบอกจริงๆ

ผมไม่สนใจมัน แต่กำลังชะเง้อมองหาไอ้แทน ก็ไอ้แทนกับไอ้ภูมิอยู่กลุ่มเดียวกัน เกิดมันเสร่อมาด้วยไอ้ที่ผมพยายามโกหกจนสำเร็จก็ต้องเสียเปล่า


“นอกจากจะเตี้ย สติไม่เต็ม มึงยังเป็นโรคหวาดระแวงด้วยหรอ” อยากจะสวนนักว่าที่กูเป็นแบบนี้ก็เพราะมึงแหละ ไอ้โหด

“ไอ้แทนหล่ะ”

“มันก็ไปเรียนดิ”

“แล้วมึงไม่เรียนไง” การที่เราเกลียดใครซักคนมากๆแต่ต้องมายืนคุยดีๆด้วยมันก็เป็นความทรมานอีกรูปแบบหนึ่งนะครับ ถ้าทำได้ผมล่ะอยากกระโดดตบกะโหลกมันซักร้อยครั้ง

“มึงหล่ะ ไม่เรียนรึไง”


“ตอนแรกก็กำลังเรียน แต่เหี้ยที่ไหนไม่รู้โทรเรียกกูมา” เป็นอะไรที่กล้ามากครับ ไอ้ภูมิมองผมตาขวางเลย แอบกลัวมันนิดนึง แต่ที่อาจหาญชาญชัยขนาดนี้เพราะที่นี่มหาลัยมันไม่กล้าทำอะไรผมแน่นอน อิอิ


“เฮ้ย ลุกดิ๊” มันสั่งเด็กปีหนึ่งที่นั่งอยู่สองสามคนให้ลุกเพื่อที่มันจะได้นั่ง บอกได้คำเดียว เลวมาก แต่น้องๆพวกนั้นก็รีบก้มหัวเก็บของลนลานลุกให้มันแทบจะทันที


ที่บอกว่ามันไม่กล้าทำอะไรเป็นความคิดที่ผิดมหันต์เลยครับเพราะตอนนี้คุณชายภูมิก็กำลังเปรมกับเพียวริขุรสทับทิมขวดที่ห้า มันกระเดือกลงไปห้าขวดโดยผมเป็นคนไปซื้อทีละขวด กวนตีนกูดีเหลือเกิน


ซุ้มขายน้ำก็ใช่ว่าจะใกล้ๆ ตอนแรกมันบอกว่าหิวน้ำ เลยใช้ผมไปซื้อผมปฏิเสธได้หรอครับ เบ๊ๆๆๆท่องไว้พีมท่องไว้ ขัดไม่ได้ก็เลยได้แต่ก้มหน้ารับกรรมรับเวร และแอบสาบแช่งมันตลอดทาง ใครมีพริกมีเกลือเอามาบริจาคให้ผมที


รอบแรกผมซื้อน้ำเปล่าคริสตัลมาครับเพราะมันไม่ได้บอกว่าจะแดกน้ำอะไรผมเลยเลือกน้ำเปล่าไว้ก่อน แต่คุณชายภูมิมันบอกไม่ชอบเพราะขวดมันกลม เหี้ยครับ ผมแทบเอาขวดคริสตัลยัดรูจมูกมัน  อะรอบแรกผ่านไป รอบสองผมก็เดินกลับไปซื้อใหม่ มับอกว่าเอาอะไรก็ได้ที่ขวดไม่กลม เหตุผลควายตอแหลอะไรของมึงเนี่ย><


รอบนี้ผมเลยได้โออิชิ โอเคขวดไม่กลมเพราะผมเลือกแบบกล่องเลยได้น้ำชารสฮันนี่เลม่อนมาถวายไอ้ภูมิ น่าจะซื้อธูปมาจุดด้วยเนอะ ฮ่าฮ่า มันมองหน้าผมสลับกับกล่องโออิชิ


“ผู้หญิงคนที่อยู่ข้างกล่องหน้าตากวนตีน กูแดกไม่ลง”


นี่คือคำพูดของมันครับ ทำเอาผมแทบสลบ มึงเอาสมองส่วนไหนคิดไอ่ฟาย :angry2: ผมพ่นลมหายใจด้วยความโมโห พยายามควบคุมสติสัมปชัญญะที่มีอยู่น้อยนิด ไม่ให้พลั้งเผลอต่อยปากคน ผมกระแทกกล่องโออิชิที่มีผู้หญิงผมหยิกๆแปะอยู่ข้างกล่องลงบนโต๊ะ แอบเห็นมันยิ้มเลว มันแกล้งผมชัวร์ (เอ่อ เพิ่งรู้ตัวหรอคะ)


รอบที่สามผมเลยเหมาทุกอย่างที่เป็นขวดเหลี่ยมๆ อามิโน บิอิ้ง เซปเป้ เพียวริขุ กระทิงแดง ถ้าคราวนี้มันไม่แดกผมนี่แหละจะแดกเอง

เฮอะ เดินตากแดดร้อนๆตอนเที่ยงทำเอาผมกระหายน้ำคอแหบคอแห้ง สุดท้ายไอ้ภูมิก็ยอมเสวยเพียวริขุ มันบอกว่าชื่อน่ารักเหมาะกับน่าตามันครับ เออ เข้ากับหน้าตามึงมากกก
-__-


ตอนนี้ผมก็ไม่ได้เดินไปเดินมาให้แดดเลียผิวแล้วครับ แต่ผมกำลัง นวด!!!ให้ไอ้ภูมิ คุณฟังไม่ผิดหรอกครับผมกำลังทำตัวเหมือนไอ้ตัวเข้าไปทุกที แม่ง แค้นครับแค้น


ไหนจะคอยหลบสายตาสงสัยของผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาไหนจะต้องคอยระวังกลัวไอ้แทนมาเจออีก ถึงไอ้ภูมิจะบอกว่าไอ้แทนกับเพื่อนมันคนอื่นๆไปเรียนที่ภาคก็เหอะ เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้หรอกครับระวังภัยไว้ก่อน


ว่าแต่ผมยังไม่เข้าใจเรื่องที่ไอ้ภูมิมันไม่เข้าเรียนแล้วกระแดะเรียกผมมาคอยรองมือรองตีนมันเลย ตกลงมึงขี้เกียจเรียนหรือแค่อยากแกล้งกู


“โอ๊ย เบาๆดิวะ กูให้เอามือนวดไม่ใช่เอาตีนเหยียบ” ผมแอบลงแรงอารมณ์โมโหใส่ไหล่มัน อยากเอามือไปชุบยาพิษแล้วให้พิษซึมเข้าผิวหนังมันจริงๆหรือจะทำเหมือนหนังจีนดีที่แอบเอาปิ่นปักผมเสียยบคอให้มันตายๆไปซะ


“ทำเบาๆมันจะไปถึงเส้นได้ไง มันต้องแรงๆจะได้สะใจ” สะใจกูนี่ไง ตาย ตาย ฮึ่ม

“ซาดิสต์” มึงนั่นแหละซาดิสต์ มันหันมาทำตาดุๆแล้วก็สะบัดๆไหล่ออกจากมือผม ทำเหมือนว่ารังเกียจอ่ะครับ


“พอแล้ว กูหิวข้าว ไปซื้อข้าวมา” มันควักตังแบงค์พันยื่นให้ผม โอยย ไอ้รวยเมื่อตอนซื้อน้ำก็แบงค์พัน ไปห้ารอบก็ห้าแบงค์ ผมรับมาแล้วตั้งหน้าตั้งตาจะเดินไปโรงอาหาร ไปๆมาๆผมนี่แหละจะตายก่อนมัน เหนื่อยตายน่ะครับเคยได้ยินมั้ย


“เดี๋ยว!! กูเปลี่ยนใจแล้วจะไปกินข้างนอก” ดี ไปเลยๆกูจะได้กลับบ้านซะที


“งั้นกูกลับบ้านล่ะ บ๊าบบาย โชคดี” ผมอยากกลับไปนอนคร้าบ

“อะ –ไร- นะ” มันทำหน้าเหมือนผมบอกว่าผมจะข่มขืนป้ามัน



“กูจะกลับบ้านไง”


“กูบอกตอนไหนว่าจะให้มึงกลับ มึงต้องไปกับกู”เวร ผมไม่ไปได้มั้ย อยู่กับมันยังไม่ถึงชั่วโมงประสาทก็จะแดกแล้วอย่าให้ไปร่วมโต๊ะกินข้าวเลย

“กูไม่ไป จะกลับ”


“อยากตายรึไง กล้าขัดคำสั่งกูหรอ มองเหี้ยอะไรกันวะ” มันแหกปากใส่ผม ก่อนจะหันไปด่ากราดคนที่มองมัน ส่วนใหญ่คนมักจะมองไอ้ภูมิด้วยสายตาชื่นชมซึ่งผมแอนตี้มาก(อิจฉา) ถ้าเป็นผู้ชาย(แท้)มองก็ออกแนวชื่นชมผสมเกรงๆ

แต่ถ้าผู้ชาย(ไม่แท้)และผู้หญิงมองก็มองแบบเพ้อฝันเหมือนอยากจะกลืนกินมัน เฮอะ ผมก็อยากถูกมองแบบนี้บ้างนะ แต่ตอนนี้ผมอยากไปให้พ้นๆมันมากกว่า



………………………………
 



สถานที่กินข้าวที่มันพาผมมาคือมาบุญครอง ให้ตายเถอะซาร่ามึงหาที่อื่นไม่ได้แล้วใช่มั้ย กูเบื่อเว้ย และตั้งแต่เดินลงรถมาผมกับมันก็กลายเป็นเป้านิ่ง เอ้ย เป้าสายตาของปุถุชน


จะพูดให้ถูกคือไอ้ภูมิคนเดีนวซะมากกว่า ก็มันเล่นหล่อเท่ห์ซะเว่อร์ไม่เผื่อแผ่กูบ้างเลยนะ เดินกับมันผมกลายเป็นคนแคระไปเลย แต่ก็ชินแล้วหละครับเดินกับพวกไอ้คิวไอ้แทนก็ไม่ต่างกันคนก็มองแบบนี้แหละ แต่อาจจะไม่มากเท่านี้


“มึงเดินหาเต่ารึไง เร็วๆ” ทำไมต้องเสียงดังด้วยวะก็ไม่อยากเดินข้างมึงมีไรมั้ย  เดินใกล้มันแล้วรัศมีผมถูกมันบดบังเดี๋ยวสาวไม่มอง ฮ่าฮ่า

แต่ดูเหมือนว่าไอ้ภูมิมันไม่สนใจเลยว่าตัวเองเด่นแค่ไหน มีคนมองมากเท่าไร พอเห็นมันทำท่าเหมือนเตรียมจะเหวี่ยงผมเลยรีบก้าวไปเดินข้างมัน



ชอบสั่ง เอาแต่ใจ เอาใจยาก



หลังจากทั้งเดินทั้งคิดว่าจะกินอะไรดีสุดท้ายมันก็ตัดสินใจได้ มันพาผมเข้าร้านอาหารอิตาเลียน ร้านนี้ผมเดินผ่านบ่อยมากแต่ไม่เคยเข้าเพราะมันหรูเกินไปกินแล้วกลัวปากพอง ฮ่าฮ่า


“สวัสดีคะร้าน …ยินดีต้อนรับคะ เชิญด้านในเลยคะไม่ทราบว่ากี่ที่คะ” โหยยพี่ แค่ถามลูกค้าไม่ต้องทำตาหวานเชื่อมขนาดนั้นก็ได้มั้ง


“สองครับ” ดูเหมือนไอ้นี่ก็ไม่ได้รับรู้อะไรเล้ยว่าถูกแทะโลมทางสายตา หรืออาจจะรู้แต่มันไม่สนใจ พี่พนักงานคนสวยเดินนำพวกผมไปที่โต๊ะด้านใน พร้อมกับยื่นเมนูให้โดยที่สายตายังไม่ละไปจากหน้าไอ้ภูมิ ฮึฮึ กินมันเลยพี่ ผมจะได้เป็นอิสระซะที


“เอาสปาเก็ตตี้ซอสบร็อคโคลี่ แล้วก็… มึงกินไร” มันก้มมองดูเมนูแปบเดียวก็สั่ง มันถามผม เอ เบ๊มีสิทธิกินข้าวกับเจ้านายด้วยหรอ สงสัยผมจะอินกับบทบาทมากไปใช่มั้ยเนี่ย


“งั้นเอาสปาเก็ตตี้มิโสะหมูหวานอีกที่ครับ”  ผมเหวอไปเลย มันสั่งให้ผมโดยไม่รอฟังคำตอบเลยอ่ะ พี่พนักงานทวนรายการอาหารอีกรอบ


“รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ”


“เป๊ปซี่ครับ”

“กรุณารอสักครู่นะคะ” พี่พนักงานยิ้มหวานมากกว่าปกติส่งท้ายก่อนจะเดินจากไป ไอ้ภูมิกอดอกจ้องผมหน้านิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ผมไม่อยากสนใจมันเลยมองออกไปข้างนอก

มองเด็กน้อยร้องไห้แย่งของเล่นกันยังดีกว่าต้องมองหน้ามัน กูนอยส์ กูเซ็ง ไม่นานเป๊ปซี่เย็นๆสองแก้วก็มาเสิร์ฟผมก้มดูดน้ำในแก้ว อยู่ๆก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกที่ต้องนั่งให้มันจ้องกูไม่ใช่ภาพวาดในแกลลอรี่นะมึง จ้องทำห่านอะไรวะ



“มึงชื่ออะไร” แป๊ปซี่แทบออกรูจมูกครับ จี๊ดขึ้นสมองเลยผมเงยหน้าขึ้นมองมันแบบรังเกียจสุดๆ สั่งอาหารโดยไม่ถามความสมัครใจก็รอบนึงแล้ว นี่มันยังไม่รู้จักชื่อผมอีกงั้นหรอ



มันสมควรมั้ยเนี่ย ฮึ่มๆ :m16:


“พีม”


“ชื่อโหล”


“ชื่อมึงสองโหล” มันยักไหล่


“มึงเป็นเบ๊” ไอ่นี่หน้าตาดีซะเปล่าแต่เหมือนมันจะพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องนะผมว่า มันคิดอะไรก็พูดเลยใช่มั้ยเนี่ย ประโยคน่ะหัดเติมส่วนขยายให้มันบ้าง กูงง


“เออ รู้แล้วไม่ต้องย้ำกูมันเบ๊มึงมันเจ้านาย” จะย้ำทำส้นตีนอะไรวะ แค่นี้ก็จะบ้าอยู่แล้ว


“ต่อไปนี้มึงมีหน้าที่คอยทำตามที่กูสั่ง” แล้วที่กูทำอยู่มันเรียกว่าอะไรล่ะ ไอ้งั่ง “ไม่ต้องแอบด่ากูในใจหน้าที่ใหม่ของมึงคือต้องไปทำความสะอาดคอนโดกู ซักเสื้อผ้า ทำกับข้าว งานบ้านทุกอย่าง”


ผมอ้าปากค้างเป็นรอบที่เท่าไรของวันแล้วก็ไม่รู้ ถ้าผมกระโดดขึ้นโต๊ะไปตีลังกาหลังใส่หน้าไอ้ภูมิจะดังมั้ย


“มันไม่มากไปหน่อยหรอวะ”ผมเริ่มมีน้ำโหครับ ไม่ใช่ว่ารังเกียจงานที่มันให้ทำนะก็แค่มันมากเกินไป ผมรู้ว่าเรื่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะมันแค้น ที่ผมทำภูมิน้อยของมันเสียสมดุล แค่ผมต้องคอยรองรับอารมณ์มันก็น่าจะพอแล้ว อีกอย่างผมก็ผู้ชายจะให้ไปทำกับข้าว ซักผ้า หึ กูทำไม่เป็นเว้ย


“งั้นกูโทรหาไอ้แทน” มันทำหน้าเหนือกว่าจนน่าหมั่นไส้มันถือไพ่ตายนิ ผมลืมบอกอะไรคุณๆไปใช่มั้ยครับ คือวันที่มันลักพาตัวผม(ลักพาตัวหรอ)ไปโกดังร้างอะ มันอัดคลิปไว้แบล็กเมล์ผมด้วย ไม่ต้องตกใจครับไม่ใช่คลิปอย่างว่าแค่มันให้ผมนั่งหลับตาแล้วพูดไม่กี่ประโยค



ผมนายพีระณัฐ เรืองสิริวงศ์ จะรับใช้และเชื่อฟังคุณภูมินทร์  เจริญเกียรติวานิชพ์เป็นเวลาสองเดือน บลาๆๆๆ ห่าเหวอีกมากมายแล้วแต่มันจะนึกออกแล้วบอกให้ผมพูดร้องหมอลำยังมีเลย ฮึ๋ย คิดแล้วแค้น



“เออ!!!ก็ได้ๆ” อยากลุกขึ้นร้องไห้ให้น้ำตาเป็นสายเหล้า ดีที่ว่าพี่พนักงานเอาอาหารมาเสิร์ฟก่อน ผมก็เลยได้แต่ข่มจิตข่มใจ ไม่ดง ไม่แดกแม่งแล้วสปาเก็ตตี้เนี่ย


คุณคิดว่าผมจะได้ทำตามใจอยากมั้ยครับ ไม่มีทางเหอะอะไรที่ผมต้องการไอ้ภูมิจะคอยตามไปสกัดดาวรุ่งทันทีอาหารมื้อนี้เลยเหมือนอาหารมื้อสุดท้ายของนักโทษที่เตรียมตัวไปแดนประหารแต่ว่าที่ผมเจอมันยิ่งกว่าอีกนะ T_T Y_Y :m15:


กินเสร็จท่านชายภูมิก็เกิดแรดอยากจะซื้อของซะงั้น เพราะเพิ่งนึกได้ว่ามะรืนนี้เป็นวันเกิดหลานชายฝาแฝด ผมก็ต้องเดินตามมันต้อยๆ

คนก็ยังให้ความสนใจไอ้ภูมิเช่นเคยครับ มีหนักๆเลยคือน้องผู้หญิงม.ปลายกลุ่มหนึ่งยืนกรี๊ดมันอ่ะ แล้วแบบว่าน้องแมร่งกล้าไง เข้ามาขอถ่ายรูป ไอ้ภูมิมันก็ให้ถ่ายนะแต่หน้าแบบไม่ได้ยิ้มมากมายแต่ก็ไม่ถึงขั้นบึ้งจนน่าเกลียด  ผมเลยได้รู้อะไรใหม่ๆว่า


ไอ้เชี่ยภูมิเป็นคนขี้รำคาญ



ถ่ายรูปเสร็จมันก็เดินลิ่วๆไม่รอผมเลย จนผมต้องรีบพาขาสั้นๆของตัวเองวิ่งตาม มันบอกว่าจะมาซื้อรถบังคับให้หลาน แต่นี่อะไร เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า แอคเซสเซอรี่อื่นๆอีกล้านแปด


มึงจะเหมามาบุญครองใช่มั้ย รู้ครับว่ามึงรวย จะซื้อก็ไม่ได้ว่าแต่ช่วยเมตตากูบ้าง ก็ผมต้องถือให้มันอะครับไอ้ภูมิเดินเข้าร้านนู้น ออกร้านนี้ โดยมีผีถุงช้อปปิ้งอย่างผมคอยวิ่งตามพะรุงะรังมากครับ กูเหนื่อยนะเว้ยสัด



“อ้าวภูมิ มาทำอะไรหรอคะ” เสียงหวานๆดังขึ้นระหว่างที่ไอ้ภูมิยืนเลือกจิวอยู่ ผมเลยหันไปมองก็เห็นสาวสวยในชุดมหาลัยฟิตเปรี๊ยะกระดุมแทบจะหลุดออกมาทิ่มลูกตาไอ้ภูมิแล้วมั้ง เธอไม่ได้ใส่เข็มมหาลัยเดียวกับผม แต่เป็นอีกสถาบันที่ค่อยข้างมีชื่อเหมือนกัน


“มาซื้อของ หมิวละ”


“หมิวมาทานข้าวคะ ไม่ได้เจอภูมิซะนานเลย เป็นไงบ้าง”

“ก็ดี หมิวล่ะ”

“ก็ดีคะแล้วภูมิมากับใครหรอ” หืม? ไม่นะ อุตส่าห์ทำตัวแปลกแยกแล้วแท้ๆ อย่ามายุ่งกับโผ้ม ไอ้ภูมิเงียบไปซักพัก มันจะตอบว่าอะไรวะ เพื่อน คนใช้ คนรู้จัก แล้วถ้าไม่รู้จักจะมาเดินด้วยกันได้หรอผมนี่ก็คิดอะไรเพี้ยนๆเนอะ คึคึ


“หมิวล่ะ มากับใคร”หมิวล่ะ พูดคำอื่นเป็นมั้ยมึง แต่ไหวพริบมันเป็นเลิศครับ ไม่ตอบแต่ถามกลับ แต่ดูจากท่าทางแล้ว สาวสวยคนนี้ก็ไม่ได้อยากจะรู้หรอกว่ามีใครมากับไอ้ภูมิมั้ยเพียงแต่เธอคงอยากจะแน่ใจว่ามันมาคนเดียว จากการคาดคะเนและดูจากความน่าจะเป็นหมิวคนนี้น่าจะเคยเป็นอะไรกับไอ้ภูมิแน่นอนครับ คอนเฟิร์มครับ


หมิวมากับเพื่อนแต่เพิ่งแยกกัน งั้นเราไปเดินด้วยกันมั้ยคะ นานๆทีได้เจอภูมิ” โห เห็นๆอยู่ว่าเพื่อนยืนรออยู่นอกร้านอ่ะ ผมว่าไอ้ภูมิต้องปฏิเสธชัวร์


“ก็ดี ไปสิ”  o_Oแป่ว แว่ว แว่ว คุณ คิด ผิด นะคร้าบบบ ผมก็เอ๋อแดกสิครับผมต้องไปกับมันมั้ยเนี่ย แล้วสภาพผมของเต็มมืออ่ะนะ เดินด้วยคงไม่ไหวแน่ๆ อาจจะไหวแต่ต้องโทรเรียกรถพยาบาลมารอนะ ผมเป็นหอบหื่น เอ้ย หอบหืดครับ แค่นี้ก็จะตายแล้ว


“อ้าว นี่ใครอ่ะคะภูมิ” สาวสวยนามว่าหมิวดูจะตกใจ ที่เห็นผีถุงกระดาษอย่างผมโผล่มายืนข้างๆไอ้ภูมิ คือเมื่อกี้ยืนหลบๆอ่ะครับ แอ๊บดูจิว ดูต่างหูไปเรื่อย


“น้อง” หือ??? อะเกนพลีสสสส น้องหรอ น้องอะไร อะไรคือน้อง กูไปเป็นน้องมึงตั้งแต่เมื่อไร เอาซะกูงง

“น้องรหัสผมน่ะ” มันคงเห็นเธอคนนั้นกับผมคนนี้ทำหน้ามึนๆเลยช่วยขยายความให้ ก็ยังดีที่มันหาสถานะที่ดูโอเคมากกว่าคำว่าเบ๊มาหลอกหมิว เอาวะน้องก็น้อง


“พี่ชื่อหมิวยินดีที่ได้รู้จักนะน้องชื่อไรคะ” ชิบหายแล้วชีวิตไอพีม อยู่ๆก็ถูกคนรุ่นเดียวกันยัดเยียดให้เป็นน้อง ผมใช้หางตาฟาดไปที่ไอ้ภูมิมันยืนยิ้มสะใจอยู่ ไอ้เลว


“เอ่อ ชื่อ พีมครับ” แล้วยัยคนนี้ซื่อหรือโง่กันแน่ที่ดูไม่ออกว่าผมรุ่นราวคราวเดียวกับเธอรึผมหน้าเด็กหว่า ฮ่าฮ่า ใช่ๆผมคงจะหน้าเด็ก^^


จากนั้นหมิวก็ไม่ได้สนใจอะไรผมอีก นอกจากจะบ่นว่าอิจฉาผมที่โชคดีได้เป็นน้องรหัสไอ้ภูมิ หึหึ ผมว่าโชคร้ายมากกว่าถ้าผมได้เป็นน้องรหัสมันจริงๆ ผมคงจะกลั้นใจตายวันหลายๆรอบ


หมิวเดินเคียงคู่กับไอ้ภูมิ เป็นภาพที่สร้างความอิจฉาครหาของมวลประชาทั่วไป คนหล่อคนสวยใครๆก็มองแหละครับ สองคนนั่นเข้าร้านนู้นออกร้านนี้เหมือนที่ไอ้ภูมิเพิ่งทำ ผมก็หอบของวิ่งตามพวกเขาไปเหนื่อยอ่ะ ข้อนิ้วผมแดงไปหมดแล้ว มันสองชั่วโมงแล้วนะ ถ้าจะสวีทกันก็ช่วยปล่อยกูกลับเห้อ


“ไอ้เตี้ย มึงรออยู่นี่นะ กูจะไปส่งหมิว” ไอ้ภูมิเดินมาบอกผมที่นั่งหมดแรง หอบแฮ่กๆ


“ทำไมต้องรอวะ กูก็จะกลับเหมือนกัน” มันทำหน้าเอือมๆ ก็ทำไมต้องให้ผมรอก็ต่างคนต่างกลับดิ


“มึงต้องไปทำความสะอาดห้องกูไง”


“วันเนี้ยะ” มันจะเร็วไปมั้ย ให้กูได้กลับไปพักหายเหนื่อยบ้างเหอะ มันยักไหล่เหมือนกับว่าคำพูดของผมเป็นเพียงลมตดที่ไร้ค่า


“รอ -ตรง - นี้”ย้ำคำสั่งเสร็จมันก็เดินควงไปกับหมิวเลย ปล่อยให้ผมอ้าปากค้างอึ้งกับความอัปปรีย์ของมัน เชี้ย แล้วผมจะทำอะไรได้ละครับ นอกจากนั่งรอตามที่มันบอกแล้วก็เฝ้าของที่กองเป็นภูเขาเลากา





หนึ่งชั่วโมงแล้วที่ผมนั่งมองผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา




สองชั่วโมงผ่านไป ผมย้ายที่นั่งใหม่



สามชั่วโมงผ่านไปผมไปซื้อน้ำกินพร้อมกับหอบของพะรุงพะรังไปด้วยเพราะกลัวว่าของขวัญของหลานไอ้ภูมิจะหาย



สี่ชั่วโมงผ่านไปผมแอบงีบหลับด้วยความเพลีย ทั้งที่มือยังจับถุงทุกใบไว้แน่น


ตอนนี้คนเริ่มเหลือน้อย จนเหลือแต่พนักงานของร้านต่างๆ ผมยกนาฬิกาขึ้นดู




สี่ทุ่ม ผมรอไอ้ภูมิตั้งแต่ทุ่มกว่าๆ จนตอนนี้สี่ทุ่ม ผมรอมันเกือบสี่ชั่วโมง






ผมไม่ใช่คนบ่อน้ำตาตื้น ผมไม่ใช่ผู้ชายขี้แย ผมก็แค่ไม่เข้าใจ ว่าทำไมไอ้ภูมิไม่กลับมา





TBC>>>>>>>>>>>>>>>>>



.................................................


ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นนะคะ ตอนนี้เบลอๆงงๆก็ทนๆหน่อยนะคะ แล้วถ้าอยากให้ปรับปรุงแก้ไขอะไรยังไงบอกได้นะจ๊ะ^__^

 



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2011 08:44:17 โดย ทะเลหัวใจ »

ออฟไลน์ *4_m3*

  • ~เธอคือของขวัญจากฟ้าไกล คือคำตอบของหัวใจ~
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-1
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #18 เมื่อ29-08-2010 17:52:42 »

ไอ้ภูมิ!!!! :m16:
แกล้งให้รอแบบไม่บอกไม่กล่าวงี้มันเกินไปนะ
ใช้ชีวิตเกินร้อยไม่มีลิมิตไปไหม วุ้ย  :fire:


***
นิดนะคะ ทุ่มกว่าๆถึงสี่ทุ่มมันห้าชั่วโมงตรงไหนหว่า  :confuse:
ไม่โกรธเน้อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-08-2010 18:03:15 โดย *4_m3* »

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #19 เมื่อ29-08-2010 19:02:36 »

เอ่อๆๆทำไม่ลงตอนที่สี่ตั้งสามครั้งอ่ะน่าจะลงตอนที่ห้าหรือหกไปเลยดีกว่าจะได้อ่านกันยาวหน่อย :m20: :m20:
หลอกให้รอกันแบบนี้มันเกินไปมั้ยมึงไอ้ภูมิ  คนนะมึงเขาก็มีชีวิตส่วนตัวของเขาเองเหมือนกันถึงจะเป็นเบ้ของมึงตอนนี้ก็ตาม
โรคจิตเหรอมึงได้แกล้งคนแล้วสบายใจ   แล้วมึงนึกใจคนอื่นบ้างเปล่าว่ะ ว่าการรอคอยมันทรมานยิ่งคนแบบมึงคนที่เขาไม่ต้องการที่จะอยู่ด้วยแล้วมันทรมานมากขนาดไหน :m16:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
« ตอบ #19 เมื่อ: 29-08-2010 19:02:36 »





ออฟไลน์ akera

  • I love him anymore. but he love him.
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #20 เมื่อ29-08-2010 19:16:48 »

กำลังเข้มข้นเลย มาต่อเร็วๆนะ เป็นกำลังใจให้จ๊ะ

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #21 เมื่อ29-08-2010 19:27:08 »

สงสารพีม : :sad11: :sad11:
ชอบมากคะ :L2: :L2:

b27072010

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #22 เมื่อ29-08-2010 19:31:55 »

ใจร้ายจริง ๆ แกล้งพีม :beat: :beat: :beat:

KM

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #23 เมื่อ29-08-2010 20:10:15 »

ลงซ้ำป่ะ

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #24 เมื่อ29-08-2010 20:10:55 »

ไร้สาระ

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #25 เมื่อ29-08-2010 20:17:40 »

ภูมิแกล้งพีม


ใจร้ายมาก

ออฟไลน์ panari

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #26 เมื่อ29-08-2010 20:29:31 »

หนูพีมน่าสงสารจัง T^T

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #27 เมื่อ29-08-2010 20:54:40 »

5 ด่วนเลยค่ะ ^^

vvivy

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #28 เมื่อ29-08-2010 21:19:00 »

เพิ่งตามอ่านรอติดตามนะคะ...ชอบๆๆ o13

sky-cafe

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #29 เมื่อ29-08-2010 22:23:30 »

สงสารพีม... ภูมิก็นะคนเหนื่อยจะตายแล้วแทนที่จะให้กลับบ้าน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด