สวัสดีค่า....
วันนี้วันดีนะคะ 11.11.11 มาอัพไอ้คู่นี้ให้อ่านกันค่ะ จริงๆ จะอัพตอน 11:11 แต่เกรงว่าจะไม่ทัน
จริงๆ ตอนนี้มันมาจาก บทสนทนาสั้น ผัวเหี้ยเมียแรดที่ Mercy อัพในเฟสนะคะ เห็นหลายคนถามถึงก็เลยเอามาขยายให้อ่านกันค่ะ
ขอบคุณมากมายนะคะสำหรับทุกๆ คอมเม้นท์ ทั้งในนี้และในเฟสฯ ทุกคนที่มาช่วยกันดัน มาถามไถ่ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
กอดดดดดด
ปล. คำผิดเดี๋ยวกลับมาแก้นะคะ++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 36
ระยะเวลากว่าสามเดือนที่ตัวห่างจากไอ้พาย แต่ไม่เคยมีวันไหนที่รู้สึกอ้างว้างเลยสักวันเดียว… หลังจากคอนเสิร์ตรักบรรลือโลกของผมผ่านไป กระแสข่าวมีทั้งดีและร้าย แฟนคลับพวกเราก็กรี๊ดกร๊าดตัดคลิปช่วงที่โฟนอินไอ้พาย แล้วโพสต์ลง youtube วิวดูกันอย่างแพร่หลาย กลุ่มสาววายที่ชมชอบให้ชายรักกันแต่ไม่ใช่แฟนเพลงพวกเรา ก็หันมาติดตามไปโดยปริยาย ไม่รู้ว่าติดตามเพราะเพลง หรือเพราะความวายของพวกเรา แต่ก็เอาเถอะครับ ผมก็น้อมรับมิตรภาพด้วยใจขอบคุณ
ส่วนพวกที่ตั้งแง่ต่อต้านก็ใช่ว่าจะไม่มี สังคมที่อยู่กันร้อยพ่อพันแม่แบบนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีแต่คนรัก คนเกลียดก็หนักเอาการ มีทั้งตั้งกระทู้ด่าในเว็บไซต์สาธารณะที่มีห้องเกี่ยวกับดนตรี ศิลปะ อยู่หลายกระทู้ หาว่าเราสองคำเป็นรักโปรโมทบ้าง ไม่ก็ว่าไม่เหมาะสมเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อเยาวชน หรือพวกเว็บกีตาร์ เครื่องดนตรี ก็มีพวกร็อคจัดหนัก หัวรุนแรงที่เข้ามาประนามวงพวกผมว่าเป็นวงตุ๊ด ทำให้ร็อคเสื่อมเสีย…
ไม่เข้าใจว่าเกย์เนี่ย เป็นคนดีไม่ได้เหรอครับ เป็นเกย์มันเลวทรามต่ำช้าถึงขนาดเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อสังคมเชียวหรือ… ผมกับไอ้พายคบกัน ผมแทบจะไม่เคยจูงมือมันในที่สาธารณะด้วยซ้ำ ยกเว้นตอนอยู่ต่างประเทศ ถ้าวันไหนผมดูดปากกันกลางเวที หรือถ่ายคลิปตอนเอากันโพสต์ลงอินเตอร์เนท ค่อยมาด่าว่าผมเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแล้วกันนะ…
ส่วนไอ้พวกที่หาว่าทำให้ภาพพจน์ร็อคเสื่อมเสีย กูอยากจะถามพวกมึงสักหน่อยว่า เป็นเหี้ยอะไรกันมากไหม กูเห็นไอ้พวกร็อคเสพยา พวกมึงเทิดทูนบูชากันฉิบหาย แล้วกูแค่มีเมียเป็นผู้ชายด้วยกัน ฟิชเชอร์ริ่งระหว่างร็อคกับป๊อบแค่เนี้ย พวกมึงด่ากูกันทั้งวง ด่าพวกกูไม่ว่า แต่อย่ามาด่าเพลงของพวกกู งานกู กูตั้งใจทำ ทุกๆ ตัวโน้ต ทุกๆ เสียงที่ร้อง ที่เล่น พวกกูไม่ได้สักแต่ว่าทำๆ ไปให้เสร็จๆ เพราะพวกกูไม่ได้มาขายหน้าตา กูรู้ว่ากูไม่ได้หล่อเลิศ แต่ที่พวกกูอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะดนตรี ฉะนั้น อย่ามาดูถูกดนตรีของกู… เซ็งพวกแม่งจริงๆ
ช่วงนี้ผมยังคงปิดเทอมอยู่ และท่าทางจะปิดยาวซะด้วย ตอนแรกคิดว่าน้ำจะท่วมไม่ถึงคอนโด ก็ตุนของอะไรไปตามเรื่อง ไปๆ มาๆ กลายเป็นคนหล่อติดเกาะซะแล้ว ช่วงแรกๆ ก็ยังท่วมแบบออกไปไหนมาไหนได้ ผมกับเพื่อนในวง และเพื่อนร่วมค่ายก็ออกไปแจกของบริจาคช่วยน้ำท่วมกัน ไปๆ มาๆ ถุงยังชีพที่เอาไปบริจาคคนอื่น กลายเป็นต้องเก็บมาเผื่อตัวเองด้วยซะงั้น… น้ำมันท่วมเป็นเมตรจนคอนโดต้องตัดไฟแม้อยู่ชั้น 25 ก็ไม่สามารถดำรงชีพต่อไปได้… แม่ก็โทรมาชวนให้กลับบ้าน แต่ผมมีแผนไปเซอร์ไพร์ซคนไกลครับ
จริงๆ คิดว่าจะไปหามันตั้งแต่ก่อนน้ำท่วมแล้ว ไปแอบทำวีซ่าอะไรไว้เสร็จสรรพ พอได้ฤกษ์งามยามน้องน้ำมาถามหา ก็เลยชิ่งหนีไปซะเลย… อย่าคิดว่าผมจะเก่งกล้าขนาดเดินทางมาฝรั่งเศสได้คนเดียวนะ… แหะๆ มันเป็นโชคดีของคนหล่อที่บังเอิญเซย์กับพี่แชมป์ เค้าก็จะไปเที่ยวยุโรปกันอยู่แล้ว แต่คู่นี้เค้ากะไป อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ผมไปอ้อนวอนอยู่นานขอให้เดสติเนชั่นแรกของทั้งคู่เป็นฝรั่งเศสแทนอังกฤษ เพราะผมจะขอเป็นเห็บเกาะติดไปด้วย
“แล้วมึงแน่ใจได้ยังไง ว่าโพสต์ในเฟสบุคไปอย่างนั้นแล้วพายมันจะบ้าจี้ออกมาหามึงที่นี่” ที่นี่ก็คือริมแม่น้ำแซน หน้าหอไอเฟล… คือเรื่องมันเริ่มจากก่อนผมบินมาที่นี่ผมทำตัวให้ไอ้พายติดต่อไม่ได้ รวมระยะเวลาของการบินมานี่ด้วย ไอ้พายมันติดต่อผมไม่ได้ไปประมาณสามวัน ไอ้พายโทรหาผมไม่ติดเลยไปโวยวายหน้าวอลล์เฟสบุค ผมสั่งพวกเพื่อนเห้ในวงไว้แล้วว่า ถ้าไอ้พายโทรไปถามหาอย่าบอกว่าผมไปไหน ให้บอกว่าคอนโดน้ำท่วม อาจจะโดนตัดน้ำตัดไฟ ไอ้พายเลยแทบกรี๊ดด้วยความเป็นห่วงผมจัด ผมทำนายไว้ได้เลยว่าถ้ามันเจอหน้าผม นอกจากบอกว่าคิดถึงแล้ว มือตีนก็คงถึงเช่นกัน โทษฐานที่ทำให้มันกังวลจนปรี๊ดแตก
“ออกมาอยู่แล้ว เชื่อริวเหอะ เดี๋ยวสักพักริวเปิดโทรศัพท์ปุ๊บมันต้องโทรมาปั๊บแน่นอน” ยังไงไอ้พายก็มา เชื่อผมเถอะ ผมไม่ได้หลงตัวเอง แต่ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับผม ไอ้พายมันไม่เคยปล่อยผ่าน แล้วยิ่งตามตัวผมไม่ได้มาหลายวัน อยู่ดีๆ โผล่มาก็ทิ้งปริศนาให้แบบนี้ ยังไงไอ้พายมันก็ต้องมา เชื่อขนมกินได้เลย
“งั้นก็ฝากสวัสดีพายด้วยนะ กูกับพี่แชมป์ไปหาอะไรกินก่อน แล้วไว้เจอกันที่โรงแรม” หลังจากที่เราไปเช็คอินที่โรงแรมกันแล้ว เซย์กับพี่แชมป์ก็พาผมมาส่งตรงนี้ แล้วก็จากไปสวีทหวานกันสองคน… เท่าที่กะเวลาเอาไว้ ไอ้พายเคยบอกว่าจากที่พักที่มันอยู่เดินเรื่อยๆ ก็มาถึงหอไอเฟลภายใน 15 นาที แต่ผมคิดว่ามันต้องวิ่งมา ฉะนั้นขาสั้นๆ อย่างมัน ผมให้ 12 นาที เดี๋ยวมันต้องมาถึง…
เหลือเวลาอีก 5 นาที ตามที่ผมนับถอยหลังเอาไว้ ผมก็เปิดโทรศัพท์…
นั่นไง!!! ซื้อหวยถูกแดกเรียบ ไม่เหมือนเดาใจไอ้พายถูกตลอด เสียงสายเรียกเข้าเบอร์คุ้นเคย ตั้งไว้เฉพาะมันเป็นพิเศษก็ดังลั่นกลางกรุงปารีสทันที…
“โหล!! ชักช้าขาสั้นนะมึง ถึงยัง” รับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงร่าเริง ไม่ได้สนใจว่าพายุกำลังจะมา น้ำป่ากำลังจะไหลเข้าท่วมหอไอเฟล
“มึงเล่นเหี้ยอะไรของมึงหะ!!! มึงอยู่ไหนกันแน่บอกกูมาเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดผสานเสียงหอบเหนื่อย ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเจ้าตัวดีวิ่งมาตลอดทางแน่ๆ ทำไมกูดูโรคจิตจังวะ เห็นเมียเหนื่อยแล้วเสือกย้ิมแย้ม
“ก็บอกว่าอยู่หน้าหอไอเฟล ตรงริมแม่น้ำเนี่ย แค่นี้นะจ๊ะที่รัก แล้วเจอกัน” ผมรู้สึกสนุกกับเซอร์ไพร์ซ และการเล่นเกมซ่อนหานี้จริงๆ ผมรู้ว่าไอ้พายมันก็คงจะโมโหมากตามประสาคนขี้หงุดหงิดอย่างมันนั่นแหละ แต่แหม สักครั้งในชีวิตขอทำอะไรเวอร์ๆ แบบในหนังบ้างเถอะ…อ่อ แล้วอีกอย่างที่ผมเกิดนึกเพี้ยนอยากใช้เซนส์ของคนรักลองดูก็คือ ผมไม่ได้บอกพิกัดที่แน่นอนให้ไอ้พายรู้ แต่ผมอยากลองดูว่ามันจะหาผมเจอไหม… ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า ต่อให้มีคนเป็นร้อยเป็นพัน แต่เราจะสามารถมองเห็นคนที่เรารักยืนโดดเด่นอยู่ท่ามกลางฝูงชนเหล่านี้แน่นอน
“ไอ้เหี้ยยยยยยยยย…นี่แหนะ!!! มึง…ทำกูตกใจแทบแย่ หัวใจกูจะวายตายห่าอยู่แล้ว มึงเล่นเหี้ยอะไรของมึงเนี่ย ฮึก ฮือออ กูดูข่าว ฮึก ในเนท เห็นบ้านเราน้ำท่วม ต้องตัดไฟ ฮึก แล้วมึงจะอยู่ยังไง ฮึกก โง่ๆ อย่างมึง จะหนีน้ำได้ไหม ฮึก กูแทบคลั่งตาย ฮึกกก เป็นห่วงมึงฉิบหาย… แล้วดูมึงสิ ฮึก… ยิ้มเหี้ยอะไร หะ!!! กูด่า กูทุบ กูหยิกมึงอยู่นะ ฮึกกก ฮืออออ ไอ้บ้าาาา ไอ้เหี้ยยยย ไอ้ริว ไอ้ ฮืออออ”
เชื่อผมหรือยัง ว่ามันต้องจัดเต็มจัดหนัก!!! ทั้งมือทั้งตีนทั้งเห่า เอ๊ย…ทั้งด่ามาหมด แต่ผมไม่ยักร้องโอดโอยเหมือนเคย กลับยิ้มกว้างขึ้นๆ เหมือนคนเป็นบ้า หรือว่ากูมาโซคิสวะเนี่ย… จะไม่ให้ผมยิ้มแก้มแทบระเบิดได้ยังไง ก็ไอ้แรดอินเตอร์ของผมน่ะสิ มันวิ่งมาจากทิศทางไหนไม่ทราบ วิ่งมาถึงก็กระโจนเข้าใส่ กระโดดเกาะหลังกอดผมแน่น แต่ไม่ทันได้หันไปกอดตอบ มันก็ทั้งจิก ทั้งทุบหลัง ทุบไหล่ ยกเข่าขึ้นกระแทกใส่ผม… แล้วดูมัน ทั้งด่าทั้งร้องไห้ สะอึกสะอื้นยกใหญ่ไม่อายฝรั่งมังค่าที่เดินผ่านไปผ่านมา บางคนก็หยุดมองว่าเกิดอะไรขึ้น บางคนเดินผ่านไปแต่ก็มองจนเหลียวหลัง ผมเลยอดหัวเราะออกมาเสียดังไม่ได้
“เป็นเหี้ยอะไรอีก ไอ้บ้า!!!!! หัวเราะเหี้ยอะไร ฮึก… หยุดดดด… กูบอกให้หยุดขำ ฮึก…เอ๊ะ!!! ไอ้ ไอ้เหี้ยนี่” ฮ่าๆๆๆๆๆ โอ๊ยยยย อยากจะลงไปดิ้นๆๆๆ กับพื้น ขำมันอะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แค่เห็นสีหน้ามันแล้วขำสุดๆ หน้าตาน่ารัก เปรอะเกรอะกรังไปด้วยคราบน้ำตา แต่ปากก็ยังขยับด่าไม่หยุด เข็ดเขี้ยวเคี้ยวฟัน ตั้งหน้าตั้งตาทุบผมแบบไม่ยั้ง แต่แววตาที่เห็นดูก็รู้ว่าอยากให้ผมกอดแทบแย่แล้ว
“คิดถึงนะ” ปล่อยให้มันทุบ มันด่าจนมันเริ่มเหนื่อย และค่อยๆ หมดแรง ผมก็จัดการรวบตัวมันเขามากอดแน่นๆ พูดเสียงไม่เบา แต่ชิดริมหูว่า ‘คิดถึง’ …ไอ้พายหยุดมือที่ทุบ คลายกำปั้นออกมาเป็นสองมือที่กอดตอบผมแน่นไม่แพ้กัน… แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่หยุด คือเสียงสะอื้น และน้ำตา
“เสียใจหรือไงที่กูมา ร้องไห้ซะอย่างกับควายตาย…อุก!!! โอ๊ยยย!! ไอ้พายยยยย มึงทุบซะกูช้ำหมดแล้วเนี่ย” ไอ้นี่มันยังไม่สิ้นฤทธิ์ กอดๆ อยู่ก็ยกมือขึ้นมาทุบกลางหลัง บึกใหญ่…
“ควายที่ไหนตาย ผัวกูนี่แหละจะตายคาตีนกู ถ้าไม่หยุดกวนตีนซะที… ไอ้บ้า คนเค้าเป็นห่วงจะตายห่าอยู่แล้ว มึงอย่าเล่นอย่างนี้อีกนะริว จะมาก็บอกว่ามามันจะยากเหี้ยอะไร ต้องมาวางแผนมีลับลมคมใน…” งอนๆ น้ำตาหยุดไหลแล้ว แต่คำด่านี่ยังคงไฟแลบอยู่
“ก็อยากให้เซอร์ไพร์ซเฉยๆ ขอโทษค้าบๆ ต่อไปไม่ทำแล้ว โอ๋ๆๆๆๆ ไม่ดีใจเหรอที่กูมาน่ะ” อ้อนมันซะหน่อย ไม่งั้นเดี๋ยวได้อิ่มตีนมันแน่
“ดีใจสิ… แต่วิธีมึงเนี่ย กูอยากจะเอาไม้ตีให้กบาลแยกเลย…”
“ยังไม่ได้บอกเลย ว่าคิดถึงกูไหม หืมมม!!”
“คิดถึงสิ… คิดถึงมากๆ เลย คิดถึงนะ” ผมยิ้มให้ไอ้พาย ที่ตอนนี้สงบศึกแล้วส่งยิ้มกว้างให้ผม พร้อมคำคิดถึง และปากนุ่มๆ ที่ยื่นขึ้นมาจุ๊บผมถี่ๆ หลายที… ผมยกสองมือขึ้นประคองหน้าเล็กๆ แก้มแดงๆ ที่เกิดจากอากาศเย็นตรงหน้า แล้วก้มลงจูบตอบอย่างจริงจัง แนบแน่น และเนิ่นนาน… ผมชอบต่างประเทศก็ตรงนี้นี่แหละ ไม่มีใครสนใจเรา ไม่มีใครสนใจว่าคนสองคนที่ยืนจูบกันอยู่จะเป็นคนต่างเพศ หรือเพศเดียวกัน…
นี่เป็นอ้อมกอดแรก และจูบแรกในรอบ 3 เดือน ทุกอย่างยังเหมือนเดิม รสสัมผัส และกลิ่นสัมผัสไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีก็แต่ความอุ่นใจ และอิ่มเอมที่มันเพิ่มจนเต็มล้น ไอ้อาการโหวงๆ ในอก มันหายไปจนหมด ไม่เหลือแม้แต่นิดเดียว…
………………………
………………………
“แล้วนี่มึงพักที่ไหน” หลังจากที่ถ่ายทอดความคิดถึงกันเรียบร้อย ไอ้พายก็พาผมมาหาอะไรกินมื้อบ่ายๆ ในละแวกนั้น
“พักที่โนโวเทล เดินไกลฉิบหาย เดินมาตั้งเกือบยี่สิบนาที ดีที่อากาศเย็น” เซย์กับพี่แชมป์มันก็เดินกันชิลล์มาก ชมนกชมไม้มาเรื่อย
“เขาเรียกโนโวแตล โนโวแตล ปารีส เลส์ ซาลล์ (Novotel Paris Les Halles) ใช่ไหมล่ะ อยู่ตรงลูฟร์ แชทเตอเล่ต์” เอิ่ม อยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ ภาษาอังกฤษกูก็โง่พอตัวอยู่แล้ว มาที่นี่แม่งอังกฤษก็ไม่ค่อยพูดกัน ฝรั่งเศสกูแทบไม่รู้จัก พูดช้งเช้ง ชองแชง อะไรกันก็ไม่รู้
“เออ นั่นล่ะมั้ง กูก็เรียกไม่ถูก” ผมตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก แล้วก้มหน้าก้มตาซัดแซนด์วิชตรงหน้าต่อ
“เดี๋ยวนะ… โง่ๆ ภาษาอย่างมึงเนี่ย เอาตัวรอดมาถึงที่นี่ได้ยังไง” แหมมม ดูถูก… แต่เสือกสงสัยถูกเรื่อง - -
“แหะๆ บังเอิญเซย์กะพี่แชมป์เค้าจะมาเที่ยวยุโรปกันอยู่แล้ว ตอนแรกเขาจะไปอังกฤษก่อน แต่กูอ้อนวอนขอให้เค้ามาปารีสก่อน กูจะได้เกาะมาด้วย”
“กูว่าแล้ว แล้วสองคนนั้นล่ะ”
“เขาก็ไปสวีทกันสองคนสิ เราก็มาสวีทกันสองคนนะจ๊ะดาร์ลิ้ง”
“ประสาท” ด่าแล้วแลบลิ้นแก้เขิน ผมเลยอดที่จะยื่นมือไปบีบจมูกมันไปมาอย่างหมั่นเขี้ยวไม่ได้
“คืนนี้มาค้างกับกูได้เปล่า คิดถึง ไม่ได้กอดมึงมาสามเดือนแล้วนะ” ทำน้ำเสียงออดอ้อนซะหน่อย
“คืนนี้ไม่ได้อะ เค้ามีงานเลี้ยงส่งสำหรับนักเรียนทุนแลกเปลี่ยนดูงาน แต่หลังจากคืนนี้ก็ฟรีไทม์แล้ว” ก็ยังดีวะ รออีกแค่คืนเดียว
“แต่ตอนนี้… ว่างนะ ให้เดินไปส่งที่โรงแรมรึเปล่าล่ะ” หึหึหึหึ… นี่แหละไอ้พายของผม ไอ้จะมาเหนียมอาย เคอะเขินไม่เคยมีอยู่ในพจนานุกรมของคุณพายเขาล่ะ
“ปะ กูอิ่มและ” ณ เวลานี้ คือบ่ายสองโมงครึ่ง กว่าจะเดินถึงโรงแรมก็บ่ายสามพอดี ต้องรีบทำเวลา
“แหม เรื่องแบบนี้เร็วเชียวนะมึงน่ะ…” เรื่องแบบนี้เรียกว่าไม่เคยพลาดดีกว่า เรียกว่าเร็วเดี๋ยวชาวบ้านจะหาว่าผมเป็นพวก เสร็จเร็ว หลั่งเร็ว ลบความคิดที่ผมอ่อนไปได้แล้วล่ะครับทุกคน
แล้วไอ้พายก็พาผมเดินกลับที่พัก ขามาโคตรจะเหนื่อยและเมื่อย ขากลับมันก็ยังเหนื่อยอยู่นั่นแหละ แต่มันรู้สึกดีกว่าขามาลิบลับ แค่มีไอ้พายเดินอยู่ข้างๆ อธิบายนู่น ชี้นั่นให้ดู เป็นไกด์พิเศษคอยบรรยายให้ฟังแบบใกล้ชิด แค่นี้ก็ลืมเหนื่อยแล้วล่ะฮะ
เหมือนไม่ต้องมีคำพูดใดๆ ออกมา พอประตูห้องพักของผมปิดลง เราทั้งคู่ก็กระโจนใส่กันแทบจะทันที เนื้อตัวของไอ้พายยังคงนุ่มนิ่มเสมอ ผิวเนียนแม้จะแห้งเล็กน้อยด้วยอากาศที่เย็นและแห้ง ไม่ได้ทำให้ความอยากสัมผัสลดลง…
“อ๊ะ…ริว… อืมมม เข้ามาอีก อ๊ะ… มาเถอะ” ผมที่ค่อยๆ แทรกตัวผ่านไอ้พายอย่างช้าๆ ถูกเร่งเร้าให้เข้าหาเร็วและลึกยิ่งขึ้น
“อะ อืออออ… พาย พาย อืมมมม… คิดถึงมึงที่สุดเลย อะ อ้าาาา” ผมพร่ำบอก ถ่ายทอดทุกความคิดถึงในระหว่างที่เราสองคนสอดประสานจังหวะเป็นหนึ่งเดียว
“ระ ริว อ๊ะ อือออ ริว อ้าาา ริว… คิด อะ!! คิดถึงมึง เหมือนกัน… อ้าาาาาา ริว!!!!!!!!!!!!”
บทรักครั้งแรกในรอบสามเดือน… ยังคงร้อนแรง แฝงความอ่อนหวานอยู่เหมือนเดิม แต่ความโหยหามันมีมากกว่าหลายเท่า ผมกับไอ้พายถ่ายทอดความรู้สึกซึ่งกันและกันซ้ำไปซ้ำมาอย่างไม่รู้จักเหน็ดหนื่อย… เราอยากจะบอกรักกันทั้งคำพูดและร่างกายแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่ก็จำต้องพักไว้ก่อน เพราะไอ้พายมันต้องกลับไปงานเลี้ยง เราก็เลยนัดออกไปเที่ยวกันพรุ่งนี้แทน