(53)
ฮ่ะๆ ฮ่ะๆ ฮ่าๆ
เสียงหัวเราะดังมาจากระเบียงห้องกูเอง ไม่ใช่เสียงใครที่ไหนหรอกว่ะ เมียกูเอง
เดี๋ยวนี้เกือบทุกวันเลยก็ว่าได้ แต่จะว่าไปอาทิตย์นี้ทุกวันเลยมั้ง ที่หยกโทรมาคุยกับมันทุกคืน
วันหยุด จะต้องมีนัดกันออกไปเที่ยว นัดรวมตัวกับเพื่อนสมัยมัธยม
เพื่อนโทรหากัน กูไม่ได้ว่าอะไร กูไม่งี่เง่าขนาดนั้น แต่ทำไมพักหลังๆมัน….
ไม่รู้ว่ะ กูอธิบายความรู้สึกที่เกิดขึ้นไม่ถูก เข้าใจกูมั้ยวะ ไม่เข้าใจก็ช่างมันเถอะ
จะว่า หึง มันก็ไม่ใช่
กูยังคงทำทีเป็นนอนอ่านการ์ตูนบนเตียง ตาแอบลอบมองเมียตัวเองที่กำลังคุยโทรศัพท์อย่างสนุกสนาน
เป็นชั่วโมงแล้วที่ไอ้นัทมันคุยจ้อ
ไอ้นัทมันก็ยังคงเป็นไอ้นัท เดี๋ยวพอมันคุยเสร็จ มันก็จะทำหน้าระรื่นเข้ามาเล่าให้กูฟังว่าเกิดอะไรขึ้น
เฮ้อ
เข้าใจความรู้สึกกูมั้ย มันหน่วงๆ
เฮ้อ
หยกเล่าว่า….
หยกอย่างงั้น
หยกอย่างงี้
หยก
หยก
หยก
แล้วก็หยก
“โว้ยยยยยยยย”กูตะโกนขึ้นมาจนไอ้นัทมันสะดุ้งหยุดเล่า มองกูงงๆว่ากูเป็นอะไร
“โจ มึงเป็นไรวะ โอเคป่าวมึง”นัทมันถามอย่างเป็นห่วง
กูถอนหายใจแล้วส่ายหัว
“นอนเถอะ กูง่วงแล้ว”กูล้มตัวลงนอน ไอ้นัทมันมองกูอย่างสงสัยแต่ไม่กล้าถามอะไร มันพยักหน้าแล้วเดินไปปิดไฟ ก่อนจะมาล้มตัวลงนอนข้างๆกู พอมันนอนลงกูดึงมันเข้ามากอด มันไม่ได้ดิ้นหรือขัดขืน กลับปล่อยให้กูกอดแล้วกอดตอบกู เรานอนนิ่งๆจนเราทั้งคู่หลับไปในที่สุด
ใกล้สอบแล้ว กูเริ่มอ่านหนังสือบ้าง วันนี้เป็นอีกวันที่กูอยู่ห้องอ่านหนังสือ
ที่จริงกูเบื่อๆไม่มีอะไรทำมากกว่าว่ะ ใกล้จบแล้ว จะหยิบหนังสือมานั่งอ่านก็คงไม่เสียหายอะไร
จะว่าไปช่วงนี้กูอยู่ในช่วงอารมณ์สีเทา
แม้ว่ารอบกายกูจะสดใสและร่าเริงขนาดไหน มันไม่อาจทำให้กูรู้สึก กูจะอธิบายยังไงดีวะ
ประมาณว่ากูเฉยเมยต่อทุกอย่างรอบตัว ไม่ยินดียินร้าย
“โจ มึงเป็นอะไร”กูเงยหน้าจากหนังสือเรียนหันไปมองหน้าไอ้นัทอย่างงงๆ
“กูเหรอวะ ไม่เป็นไรนี่หว่า ครวยยังทำงานดีไม่มีอะไรหน้าห่วง มึงถามทำไม”กูอมยิ้มเลิกคิ้วตอบมัน มันหน้างอทำหน้าฮึดฮัด
“ไอ้เหี้ยโจ กูถามจริงจังสัด มึงดูเครียดๆ ไม่ค่อยกวนตีนเหมือนแต่ก่อน”มันว่า กูยิ้มขำส่ายหัวไปมา
“เมียกูท่าจะบ้า ผัวไม่กวนตีนแทนที่จะสบายใจ”กูตอบแต่ตาหันกลับมาที่หนังสือเรียนทำเหมือนกับว่าจะอ่านต่อ แต่จริงๆ ตอนนี้กูคงอ่านไม่รู้เรื่อง ที่ทำเพียงเพื่ออยากยุติบทสนทนา นัทมันคงรู้สึกได้กับความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาของกู
อย่างที่บอกว่า กูอธิบายไม่ได้ว่า ตอนนี้กูรู้สึกยังไง
“โจ….”มันเรียกกูเสียงอ่อนแฝงไว้ด้วยความจริงจัง จนกูต้องผละออกจากหนังสือหันหน้าไปมองเมียผู้เป็นที่รักอีกครั้ง นัทมันคงเป็นห่วงกูจริงๆ สายตาของมัน กูรู้สึกได้
“ครับ”กูนั่งยิ้มหวานเอื้อมมือไปจับมือไอ้นัทที่ยังยืนอยู่ข้างๆโต๊ะอ่านหนังสือของกู
“กูเป็นห่วงมึงนะ มึงมีอะไรมึงต้องบอกกูนะ”นัทมันบอก กระชับมือมันที่กูจับไว้ให้รับรู้ว่ามันห่วง
“กูรักมึง”กูยิ้มแล้วบอกรักมัน มันหน้าเหวอ หน้าเริ่มแดง มันคงปรับอารมณ์ไม่ถูกที่อยู่ๆกูบอกรักมัน ปกติกูไม่ค่อยบอกรักมัน หรอก พูดทำไมบ่อยๆ แค่รู้ในใจว่าเรารู้กันก็พอแล้ว
“อารมณ์ไหนของมึง”มันเริ่มเขิน ถ้ากูทำมันเขินมากกว่านี้มีด่ากลบเกลือน เมียกูเป็นยังไงมันก็ยังคงเป็นแบบนั้น
“มึงแก้ผ้านอนรอที่เตียงเลย เดี๋ยวกูตามไป”กูบอกมันขำๆ
“ไอ้โจ ไอ้หื่น”มันด่ากูไม่พอยังเอามือตบหัวกูจนหน้าเกือบจูบกับโต๊ะ มีเหรอกูจะยอมให้มันทำฝ่ายเดียว
“อ้ากกกกกก เหี้ยโจปล่อยกู” ไอ้นัทมันร้องโวยวาย เพราะกูลุกขึ้นแล้วอุ้มมันไปที่เตียง เห็นตัวเล็กอย่างนั้นไอ้นัทมันแรงควายนะเว้ย
กูทุ่มมันลงเตียง แล้วกระโจนทับตัวมันไว้ ส่วนมันเองพยายามดิ้นหนี กูเริ่มจี้เอวมัน ไอ้นัทมันพยายามดิ้นทั้งหัวเราะ มันคว้าหมอนได้เริ่มเอาหมอนมาทุบกูคืน ตอนนี้มันเอาหมอนไล่ตีกูรอบห้อง กูก็เอาหมอนข้างกันไว้บ้างตีมันคืนบ้าง เราทั้งคู่ต่างหัวเราะ ไม่มีใครยอมใคร เล่นเอาหมอนไล่ตีกันเหมือนเด็กๆ
~อยากเก็บเวลาทุกวินาที ~
เสียงโทรศัพท์ของเมียกูดังขึ้น ทำให้เราทั้งคู่หยุดเล่นโดยอัตโนมัติ
นัทมันเดินมาหยิบโทรศัพท์ตัวเองที่อยู่บนหัวเตียง กูยืนอยู่ใกล้ๆ กูเห็นแล้วล่ะว่าใครโทรมา
- -หยก- -
นัทมันชูโทรศัพท์ขึ้น บอกกูเป็นนัยๆว่ามันจะรับสาย กูยิ้มๆพยักหน้าให้ แล้ววางหมอนข้างเดินกลับไปที่โต๊ะหนังสืออีกครั้ง ทำเหมือนกำลังจะเริ่มอ่านหนังสือเรียนอีกรอบ
กูพยายามเริ่มอ่านหนังสืออีกครั้ง เป็นการพยายามที่อยากลำบากอย่างมากเพราะใจกูมันสาระแนมัวไปจดจ่อกับเสียงหัวเราะคิกคักนอกระเบียงนั่น
กูล่ะสงสัย มีเรื่องเหี้ยอะไรให้โทรมาคุยได้ทุกวี่ทุกวันวะ
ผ่านไปเป็นชั่วโมงกูยังคงอ่านอยู่หน้าเดิมซ้ำๆ กูอ่านไม่รู้เรื่องมัวแต่สาระแน
พรุ่งนี้วันอาทิตย์ชวนไอ้นัทไปดูหนังดีกว่า
นานๆทีกูจะเป็นฝ่ายชวนมันออกไปดูหนังส่วนใหญ่จะเป็นมันชวนเพราะนัทมันชอบดูหนัง ส่วนกูไงก็ได้ไปก็ไป
กูอมยิ้มกับหนังสือหันไปมองคนที่คุยโทรศัพท์อยู่นอกระเบียงแล้วอดยิ้มกว้างไม่ไหว จนต้องรีบหันมาที่โต๊ะหนังสือ พยายามกลบเกลื่อนรอยยิ้มของตัวเองซ่อนไว้กลัวมันเห็น กลัวมันถามแล้วกูจะเขิน เดี๋ยวมันจะหาว่าบ้า
จะว่าไปกูนี่ถ้าจะบ้าจริงๆ ทำยังกับจีบกันใหม่ๆกับเมียแล้วชวนมันไปออกเดทครั้งแรกยังไงยังงั้น
วันนี้เป็นอีกวันที่นัทมันนัดไปเที่ยวกับเพื่อนๆสมัยมัธยมของมัน
กูปล่อยให้มันไปนั่นแหละ ใช่ว่าเป็นแฟนกันแล้วจะต้องตัวติดกันตลอด 24 ชั่วโมง
ที่กูกะว่าจะชวนมันมาดูหนัง สรุปกูยังไม่ทันได้ชวน ไอ้นัทมันคุยโทรศัพท์ก็ทำท่ากระดี้กระด้ามาบอกว่ามีนัดรวมพลเพื่อนๆมันก่อน
ความรู้สึกเหมือนถูกเอาแห้วทั้งสวนยัดปากเลยแม่ง กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เห็นมันหน้าบานขนาดนั้น กูไม่อยากขัดความสุขมัน กูเลยไม่ชวน
กูเดินดูของไปเรื่อยๆฆ่าเวลารอดูหนัง
กูมาดูหนังคนเดียว เมียไม่ว่างนี่หว่า
เหงา
กูกลับมานั่งรอเวลาหน้าโรงหนัง ซื้อป๊อบคอร์นกับโค้กมานั่งกินดูตัวอย่างหนังไปเรื่อยๆ
กูมองไปที่ตู้เกมส์ที่กูกับไอ้นัทมักจะมานั่งเล่นรอหนังฉายกันประจำ มันน่ะเล่นแพ้แล้วพาลกูตลอด นึกถึงมันแล้วกูอดยิ้มไม่ได้
ป่านนี้มันจะทำอะไรอยู่วะ คงกำลังโม้กับเพื่อนๆอยู่ละมั้ง เมียกูมันขี้โม้นี่หว่า
ว่าแล้วขากลับแวะไปซื้อเครปกล้วยไปฝากมันด้วยดีกว่า มาทีไรแม่งต้องแดกทุกที ขนาดบอกให้กูเตือนมันก่อนกลับ ถ้าวันไหนลืม แม่งบ่นยาวสามวันก็ไม่จบ
เสียงประกาศหนังที่กูซื้อตั๋วไว้กำลังจะฉาย ทำให้กูหยุดคิดแล้วเดินเข้าโรงหนังไป
หนังเรื่องนี้สนุกดีวะ ฉากสวย ฉากต่อสู้ออกแบบได้สวย สรุปรวมๆกูไม่ผิดหวังที่ดูหนังเรื่องนี้
ก่อนกลับกูไม่ลืมไปต่อแถวซื้อเครปร้านดังที่ไอ้นัทมันชอบกลับไปฝากมันด้วย
กลับไปรอเมียที่ห้องดีกว่า
กว่ากูจะกลับมาถึงห้องก็ปาไปสองทุ่ม เปิดประตูเข้าห้องมา ห้องมืดบ่งบอกว่าใครอีกคนยังไม่กลับมา กูเอาเครปและข้าวเย็นที่กูซื้อมาไปวางไว้บนโต๊ะ แล้วเดินไปเปิดทีวีทิ้งไว้ ก่อนจะไปอาบน้ำ
กูอาบน้ำเสร็จออกมานั่งดูทีวี ดูไปเรื่อยๆ จนจะห้าทุ่ม เมียกูมันยังไม่กลับอีก
มันเมาป่าววะ
กูยังไม่ทันคิดได้มากกว่านั้น โทรศัพท์กูก็ดังขึ้น เสียงเรียกนี้มีแค่ไอ้นัทคนเดียวเพราะกูตั้งไว้
“ฮัลโล”กูกรอกเสียงตามสายไป
“โจ”เสียงเมียกูดูร่าเริงจนกูเริ่มหมั่นไส้หน่อยๆ
“ว่าไง จะกลับเมื่อไหร่วะ ให้กูไปรับรึป่า”กูถามมัน
“ไม่ๆ กูจะโทรมาบอกว่า วันนี้กูไม่กลับนะ พอดีพวกกูจะแดกเหล้าโต้รุ่งกันว่ะ”
“ที่ไหนวะ ”
“ที่ห้องไอ้บอส แดกหลายคนรำลึกความหลังกันหน่อย”
“เออ ถ้าอยากจะกลับมานอนห้อง โทรบอกกู เดี๋ยวกูไปรับ”
“เฮ้ย ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูโทรหา มึงนอนเลยไม่ต้องรอ”
“ใครรอมึง”ถึงกูรอ กูก็จะบอกว่าไม่รอ หมั่นไส้แม่ง
“สัด”มันด่าไม่จริงจังมีเสียงหัวเราะต่อท้ายแบบขำๆกูด้วย เบื่อเมียรู้ทันว่ะ มันคงรู้แหละว่ากูรอมันอยู่
“เดี๋ยวพรุ่งนี้กูไปรับ บอกที่อยู่เพื่อนมึงมา”
“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวกูให้พวกมันไปส่ง”มันพยายามจะปฏิเสธ แต่กูเริ่มขมวดคิ้วไม่พอใจหน่อยๆ
“นัท กู จะ ไป รับ กูไม่ได้ถามว่าจะให้ไปรับมั้ย แต่กูบอกว่า พรุ่งนี้กูจะไปรับ ดังนั้น มึงบอกที่อยู่เพื่อนมึงมา”กูพยายามอย่างมากที่จะอธิบายอย่างใจเย็น ปกติแม่งเหวี่ยงไปแล้ว
“แต่”มันจะปฏิเสธอีกครั้งแต่กูไม่ยอม
“ทำไมมีเหี้ยอะไรปิดบังกู งั้นมึงกลับมาเดี๋ยวนี้ไม่ต้องแดกรำลึกความหลังแม่งแระ”อารมณ์กูเริ่มกรุ่นหน่อยๆ เสียงเริ่มนิ่งจนขรึม
“โหยมึง ไม่มีอะไร บอกแล้วแม่ง แค่นี้ต้องทำเสียงดุด้วยวะ หอเพลินจิต ข้างมหาลัย”นัทมันทำเสียงอ่อนอ้อนมาทางโทรศัพท์
“เออ กูรู้จัก เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปรับ อย่าให้กูรู้ว่ามีเหี้ยไรแล้วไม่บอกกูล่ะ”กูยังไม่วายขู่มัน แม่งไม่กลับมานอนหอไม่พอยังทำตัวให้กูระแวงอีกสันดาน
“ไม่กล้ามีครับพ่อ”มันพูดทีเล่นทีจริง
“เออ ไปแดกเหล้าไป”กูตัดรำคาญ คุยกันนานกว่านี้เมียกูไม่ได้แดกเหล้าแน่ เพราะกูคงตามไปลากมันกลับหอชัวว์
“คร้าบ”นัทตอบรับขำๆ
กูกดวางสาย แล้วหันไปมองเครปกล้วย ช่างแม่งไม่มีใครแดกกูแดกเองก็ได้วะ
กูเดินไปหยิบเครปมาแดกเอง รสชาติก็งั้นๆ กูไม่เห็นจะรู้สึกว่ามันต่างจากอันละยี่สิบบาทตรงไหน
มีแต่ไอ้นัทแหละแดกแล้วทำหน้าภูมิใจประหนึ่งว่าอร่อยหนักหนา
แดกเสร็จแปรงฟัน แล้วเข้านอน
พรุ่งนี้ไปรับเมีย
เรื่องโดย หวานเย็น
....................................................................