Love Sick เมื่อร่างกายตกเป็นทาสของหัวใจ [-23-] จบแล้วค่ะ!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Love Sick เมื่อร่างกายตกเป็นทาสของหัวใจ [-23-] จบแล้วค่ะ!!  (อ่าน 196267 ครั้ง)

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
Re: Love Sick [-5+6-] 11/10/11
«ตอบ #60 เมื่อ14-10-2011 13:43:28 »

ขอคนน้อง คนเดียว พอ

ไม่อยากเห็นเอมร้องไห้อ่ะ

ออฟไลน์ Theodore

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: Love Sick [-5+6-] 11/10/11
«ตอบ #61 เมื่อ24-10-2011 17:18:46 »

มาต่อด้วยเด้อ

ออฟไลน์ gasia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-5
Re: Love Sick [-5+6-] 11/10/11
«ตอบ #62 เมื่อ24-10-2011 19:59:17 »

ถ้าเปปจะเก็บเธอไว้ทั้งสองคน  เราจะเชียร์จินแทนแล้วนะ ฮึ่ม!

TeuyHom

  • บุคคลทั่วไป
Re: Love Sick [-5+6-] 11/10/11
«ตอบ #63 เมื่อ24-10-2011 22:02:31 »

กำลังสนุกเลยยย

รีบมาต่อตอนต่อไปนะจ้า  อิอิ

ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
Re: Love Sick [-5+6-] 11/10/11
«ตอบ #64 เมื่อ26-10-2011 14:18:26 »

ขอติดตามต่อไปครับ

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
Re: Love Sick [-5+6-] 11/10/11
«ตอบ #65 เมื่อ26-10-2011 15:19:43 »

สู้ๆเน้อ
ท่วมเหมือนกันจ้า

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: Love Sick [-5+6-] 11/10/11
«ตอบ #66 เมื่อ31-10-2011 19:08:02 »

+1เป็นกำลังใจให้น๊า
คนเขียนสู้สู้ :ped149:
ยังงัยก็รอได้จ๊า

ปล.ไม่ปลื้มเปปเปอร์อย่างแรง :m16:

KanomPhing

  • บุคคลทั่วไป
Re: Love Sick [-5+6-] 11/10/11
«ตอบ #67 เมื่อ12-11-2011 21:54:28 »

ชอบจินมากกว่า
พี่เปปไม่ชอบอะ
ทำแบบนี้ได้ไง

ไม่ยอมๆๆๆๆ

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: Love Sick [-5+6-] 11/10/11
«ตอบ #68 เมื่อ12-11-2011 22:18:49 »

สงสารเอม และหนุ่มริมสระไม่ใช่เปปสินะ ท่าทางจะเป็นจิน

แบบนี้เอมจะทำไงอ่ะ

ออฟไลน์ penda

  • ~~^v^~~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: Love Sick [-5+6-] 11/10/11
«ตอบ #69 เมื่อ13-11-2011 23:39:47 »

ที่ริมบึงใต้เงาจันทร์คงเป็นจินซิ่นะไม่ใช่เปป
อันที่จริงแอบเชียร์ให้จินคู่กันมิ้นนะเนี่ย
ไงก็ผักสวนครัวเหมือนกัน  แล้วถ้าคู่กันคงสนุกดี
คงได้ทะเลอะกันมันส์ไปเลย
แต่เหมือนจะไม่ได้ซะแล้วมั้งเนี่ย
ดูจินจะฝังใจกับเอมน่าดูเลย
เลยคิดจะเชียร์สามพีดีไหม
แต่ดูแล้วมันไม่น่าจะเป็นสามพีได้อ่ะ
มันขัดในความรู้สึก  งืออออ
เค้าฝังใจอยากให้จินคู่มิ้นอ่ะ
แล้วให้เปปคู่เอมไป  คู่โหดกะคู่หวาน
ไม่อยากให้เกิดศึกสายเลือดชิงนายเอม
ไม่อยากเจอดราม่า  แต่เหมือนจะเห็นเงามารางๆแล้ว
มารอจ่อคิวถึงหลังม่าน  เตรียมออกโรงแล้วอ่ะ

ยังไงก็ขออย่าดราม่าหนักแล้วกัน มันเศร้าาาาา
รอตอนต่อไปนะ
 :L2: :pig4: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Love Sick [-5+6-] 11/10/11
« ตอบ #69 เมื่อ: 13-11-2011 23:39:47 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Love Sick Service Pack Part 1
«ตอบ #70 เมื่อ14-11-2011 17:13:05 »

Part 1


“พี่จิน! อย่ามาทำนิสัยเอาแต่ใจกับเอมนะ!”

“อ๋อ นี่สรุปว่าพี่กลายเป็นคนเอาแต่ใจไปแล้วใช่มั้ย!”

เสียงทุ่มเถียงที่ดังเล็ดลอดออกมาจากวิลล่าหมายเลข A17 ของรีสอร์ทแบบบูติคริมทะเลอาจทำให้คนที่เดินผ่านไปมาต้องเหลียวมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่เพราะว่าที่นี่คือรีสอร์ทที่มีความเป็นส่วนตัวสูง และแต่ละวิลล่าก็อยู่ห่างกันครึ่งกม.น่าจะได้ จึงไม่ค่อยมีใครผ่านไปผ่านมาเท่าไรนักหรอก

ตัดฉากกลับมาที่ภายในห้องนอนของวิลล่าหลังนี้ดีกว่า... บรรยากาศร้อนระอุ คนสองคนเถียงกันหน้าดำหน้าแดง หารู้ไม่ว่าทั้งคู่ทะเลาะกันในเรื่องเดียวกันก็จริง แต่ประเด็นที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายโมโหเป็นฟืนเป็นไฟนั้นมันคนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิง...

“พี่ว่าอะไรไม่ได้เลยใช่มั้ย งั้นพี่ก็จะไม่ว่าไม่บอกอะไรอีก อยากจะแต่งตัวยังไงก็แต่งไป อยากจะไปไหนกับใครก็ไปเลย!” หากฟังรวมๆแล้วก็ไม่น่าที่จะโกรธเท่าไหร่ แต่ไอ้ไคลแม็กซ์ที่ประโยคสุดท้ายมันกลับทำให้อีกคนเลือดขึ้นหน้าทันที มือเล็กที่กำหมัดแน่นจนขาวซีดถอดเสื้อตัวเองอย่างรวดเร็วจนแทบจะฉีกทิ้ง พอถอดเสร็จก็ปาเสื้อโปโลสีขาวใส่หน้าร่างสูงดังป้าบ
“เออดี งั้นถ้าเอมไม่อยากจะใส่เสื้อเอมก็จะไม่ใส่ และถ้าเอมอยากจะไหนคนเดียว เอมก็จะไปเอง!!” เสียงใสตวาดแว้ดเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็หุนหันพลันแล่นออกไปจากห้องโดยไม่ปล่อยให้จินเจอร์ได้ตั้งตัว
“เอม! ไอ้แสบ กลับมาเลยนะ” จินเจอร์รีบวิ่งตามออกมาแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะเจ้าจิ๋วหายตัวไปไวเหมือนอันตรธานจากตรงนั้นในชั่วพริบตา
“ฮึ่ย!” ร่างสูงทุบกำปั้นเข้ากับผนังข้างตัวเต็มแรง ทั้งโมโหทั้งห่วงคละเคล้ากัน จนสุดท้ายก็ตัดสินใจเดินกลับเข้าห้องแล้วปิดประตูดังโครมใหญ่เหมือนกับจะไม่สนใจเจ้าตัวเล็กอีกเลย


เพราะอะไรคนสองคนที่ขึ้นชื่อว่ารักกันมากจนคนใกล้ตัวและผู้พบเห็นต่างพากันอิจฉาถึงทะเลาะกันรุนแรงแบบนี้? คำถามนี้จะได้รับคำตอบเมื่อมองย้อนกลับไปหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้...


อากาศยามเช้าตรู่ในวันพักผ่อนนี้ช่างสดชื่นและสดใสมากเกินกว่าที่จะเอาแต่นอนซุกอยู่บนเตียง แต่เมื่อหันไปมองคนข้างๆที่ยังหลับอุตุไม่ยอมตื่นก็ต้องถอนใจ เพราะไม่อยากจะปลุกคนที่นอนหลับสบาย สุดท้ายแล้วเจ้าตัวเล็กจึงคว้าเสื้อคอกลมผ้าป่านสีขาวบางมาใส่กับกางเกงขาสั้นอย่างลวกๆแล้วก็ย่องออกจากห้องไปตามลำพัง

ชายหาดสีขาวและน้ำทะเลใสแจ๋วกำลังกวักมือเรียกให้ชะเอมลงไปแหวกว่ายแต่หัววัน ร่างเล็กเลือกหาที่นั่งโล่งๆริมหาดแล้วจ้องมองพระอาทิตย์โผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้า ปากเล็กอ้าน้อยๆเพราะทึ่งกับความงามของธรรมชาติที่หาชมได้ยากในเมืองใหญ่ เพราะเมื่อคืนมาถึงก็สองทุ่มไปแล้ว ทานมื้อเย็นเสร็จก็หลับเป็นตาย เช้านี้เด็กน้อยจึงรีบตื่นเพื่อมาดูสายลมและแสงแดด
“มาคนเดียวเหรอครับ?” น้ำเสียงนุ่มนวลเรียกให้ชะเอมต้องหันกลับไปมอง ใบหน้าที่พอเห็นก็มั่นใจว่าไม่ใช่คนรู้จักแน่ๆทำให้ชะเอมแค่ยิ้มกลับไปเฉยๆ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ต้องไม่มาด้วยเจตนาบริสุทธิ์
“ขอนั่งด้วยได้มั้ย?” แน่ะ เขาไม่สนใจยังจะตื๊อได้อีก ชะเอมลุกยืนแล้วปัดก้น ก่อนจะบอกให้อีกฝ่ายนั่งได้ตามสบาย
“อ้าว ไม่นั่งด้วยกันเหรอครับ” เฮ้ย ชายหนุ่มนิรนามคว้าข้อมือชะเอมไว้ทันควันก่อนที่เจ้าจิ๋วจะเดินหนีไป ชะเอมจิกสายตาไปที่ข้อมือตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“ถ้าไม่รู้จักกันอย่ามาทำสนิทสนมดีกว่านะครับ ผมไม่ชอบพวกตีซี้” 
“และผมก็ไม่ชอบให้ใครมาโดนตัวแฟนผมเหมือนกัน” เสียงทุ้มที่ชะเอมคุ้นเคยดังขึ้นพร้อมกับมือใหญ่ที่คว้าแขนชะเอมกลับทันที ชะเอมหันไปยิ้มให้พี่จินที่ดูท่าว่าคงจะเพิ่งตื่นหมาดๆ หน้าตายังดูมึนเหมือนคนที่พร้อมจะหาเรื่องชาวบ้านได้ทุกเมื่อ
“อ้าว แหม ผมก็แค่อยากจะทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่แค่นั้นแหละ ถ้าไม่อยากรู้จักกันก็ไม่เป็นไร ฮ่าๆ” พอเห็นพี่จินร่างยักษ์ก็ทำเนียนหัวเราะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วรีบเดินไปที่อื่นทันที ชะเอมจึงทำท่าแลบลิ้นไล่หลังแล้วทำหน้าเยาะเย้ยเหมือนเป็นผู้ชนะ

“แล้วนี่ทำไมลุกเดินมาคนเดียวละ หืม?” พี่จินถามเสียงนิ่ง ทำเอาลูกลิงที่ทำหน้าทะเล้นเมื่อกี้ต้องหันมาซุกอกพี่จินและทำเสียงออดอ้อนทันที
“ก็เอมเห็นพี่จินหลับสบาย เลยไม่อยากปลุกนี่ครับ”
“งี่เง่า วันหลังถ้าไปไหนมาไหนคนเดียวโดยไม่บอกพี่นะ จะตีให้ก้นลาย” ดูท่าว่าการออดอ้อนของชะเอมจะได้ผล เพราะมีเพียงการคาดโทษจากพี่จินเท่านั้น ไม่ใช่การถูกดุเหมือนที่มักจะโดนประจำเวลาทำผิด

“นึกถึงไอ้เวรนั่นแล้วยังโมโห รู้งี้น่าจะกระทืบให้จมทราย” พี่จินบ่นพึมพำขณะจูงมือชะเอมให้เข้ามาในบริเวณที่จัดอาหารเช้า
“ไม่เอานะพี่จิน ไปกินข้าวกันเถอะ เอมหิวจัง” ชะเอมดึงพี่จินให้ไปที่ไลน์ของทอด แต่ด้วยเพราะว่าพี่จินเอาแต่เดินเรียบเรื่อยไม่ทันใจ เจ้าตัวเล็กจึงปล่อยมือพี่จินแล้ววิ่งนำไปก่อน

เท่านั้นแหละ เมื่อร่างเล็กนำหน้าพี่จินไป อะไรๆก็ปรากฎสู่สายตาพี่จินมากขึ้น ทั้งเสื้อสีขาวตัวบางแสนบาง แต่นั่นยังไม่น่าโกรธเท่ากางเกงขาสั้นตัวที่เคยสั่งไว้ว่าห้ามใส่ออกมาเดินข้างนอกโดยเด็ดขาด!!
“เอม หยุด!” เสียงเย็นๆอารมณ์ดีแปรเปลี่ยนเป็นเสียงเกรี้ยวกราดตวาดลั่น แขกคนอื่นหันมามองกันด้วยความสงสัย แม้แต่ชะเอมที่กำลังอารมณ์ดีก็หันมามองพี่จินด้วยสายตาไม่เข้าใจ
“อะไรครับพี่จิน?”
ร่างสูงเดินตรงดิ่งไปหาชะเอมแล้วพูดด้วยเสียงต่ำโกรธจัด มือใหญ่บีบข้อมือชะเอม แม้แรงที่บีบจะไม่มากแต่ก็ทำให้ตกใจได้ไม่น้อย จากคนที่อามรมณ์ดีๆในตอนแรกกลายมาเป็นแบบนี้ได้อย่างไร
“แต่งตัวอะไรน่ะ” พี่จินถาม ทำให้ชะเอมต้องก้มมองเสื้อผ้าตัวเองแล้วก็ถึงบางอ้อ
“เอ่อ... คือ... เอมรีบออกมาน่ะครับ คว้าอะไรได้ก็เลยใส่มาเลย” ชะเอมพยายามพูดอย่างนุ่มนวลที่สุด เพราะตัวเองก็ผิดจริงๆที่แต่งตัวไม่เรียบร้อย และที่สำคัญ พี่จินเป็นคนหวงของที่สุด ยิ่งเป็นชะเอม... เขายิ่งหวง ข้อนี้ชะเอมรู้ดี เพราะพี่จินไม่เคยปล่อยให้ชะเอมแต่งตัวไม่เรียบร้อยเลย ถ้าครั้งไหนที่ชะเอมเผลอใส่เสื้อเชิ้ตปลดกระดุมนิดหน่อย หรือใส่กางเกงขาสั้นเกินกำหนด พี่จินเป็นต้องทำตาเขียวปั๊ดประจำ
“รีบ? รีบงั้นเหรอ รีบก็เลยเป็นข้ออ้างให้แต่งตัวไม่เรียบร้อย?” พี่จินยังคงเดินหน้าโมโหเต็มอัตราสูบไม่แคร์สายตาคนรอบข้าง พนักงานในรีสอร์ทก็อึกอักไม่กล้าเข้ามาห้าม เพราะกลัวโดนลูกหลงจากพี่จิน สุดท้ายเอมจึงต้องเป็นฝ่ายโน้มน้าวให้กลับไปคุยกันที่วิลล่า
“พี่จินครับ ไปคุยกันที่ห้องเถอะ ที่นี่คนเยอะ อายเขานะ...”
“เหอะ อาย? อยู่กับพี่แล้วอายคนอื่นใช่มั้ย” โว้ย ชะเอมอยากจะร้องไห้ดังๆ ทำไมเวลาพี่จินโมโหถึงชอบทำตัวส้นตีนแบบนี้ตลอดเลยนะ พูดอะไรก็ผิดไปหมด ความอดทนก็จะหมดตามไปด้วยแล้วนะ!

ไม่ว่าอย่างไรชะเอมก็คิดเพียงแต่ว่ากลับไปที่ห้องก่อนแล้วจะบู๊ให้เต็มที่ จะให้ทะเลาะกันโชว์คนอื่นได้ยังไง ไอ้พี่จินทุเรศ ทำนิสัยเอาแต่ใจที่สุดในโลก!

ปัง!
เสียงปิดประตูดังสนั่นทำให้เอมตวัดสายไปตามองพี่จินตาขวาง ไม่ต่างกับคนปิดประตูที่มองชะเอมตาขวางไม่แพ้กัน
“พี่เป็นอะไรของพี่ ทำไมไม่รู้จักพูดดีๆ ทำไมต้องทำเสียงดังต่อหน้าคนเยอะแยะแบบนั้นด้วย!” ถึงตอนนี้ชะเอมไม่ทนอีกแล้ว ความอดทนของชะเอมนับได้หนึ่งถึงสิบ เมื่อชะเอมนับถึงสิบแล้วพี่จินยังไม่เย็นลง ชะเอมก็จะวีนแตกบ้างละ
“แล้วทำไม เอมอายคนอื่นเขามากรึไง อยู่กับพี่แล้วอายมากนักใช่มั้ย?”
“เอมจะไม่อายเลยนะถ้าพี่จินไม่เสียงดังแบบนั้น ถ้าเราจะทะเลาะกันทำไมไม่ทะเลาะกันแค่สองคน จะต้องป่าวประกาศให้ชาวบ้านเขารู้ทำไม!”
“นั่นมันไม่ใช่ประเด็นเลยนะเอม ตัวเองทำผิดอะไรไว้อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง!” นั่นไง พี่จินของเขา หาเหตุผลอะไรไม่ได้ตอนโมโหหรอก ขี้เหวี่ยงขี้วีนไม่แพ้ผู้หญิงเลยเชียว
“จะบอกว่าเอมผิดที่แต่งตัวไม่ดี เลยทำให้พี่จินต้องเสียงดังใช่มั้ย สรุปแล้วเอมผิดใช่มั้ย!!!” ชะเอมแทบจะกรี๊ด สรุปแล้วเขาเป็นคนผิดงั้นเหรอ?
“เอมไม่ผิดหรอก พี่ผิดเอง” พี่จินพูดเสียงแข็งแล้วหันหน้าหนี สำหรับชะเอมแล้วท่าทางแบบนั้นคือ ‘ทนมองไม่ได้’ การแต่งตัวของเขามันน่าเกลียดขนาดนั้น เลยต้องโมโหเสียงดังให้อายคนอื่นงั้นเหรอ เฮอะ! เหตุผลแบบนี้ชะเอมไม่มีทางรับได้เด็ดขาด ไม่ว่าจะมองยังไง สำหรับเขาแล้วพี่จินก็ผิดที่เสียงดัง ผิดที่โมโหไม่ฟังอะไร ก็ได้ ถ้าอยากจะชนะเขามากนักเขาก็จะยอม
“...เอมขอโทษนะครับพี่จิน ต่อไปนี้เอมจะไม่แต่งตัวแบบนี้อีกแล้ว” สุดท้ายก็ยอม เขายอมเพราะอะไร? เพราะว่ารักถึงได้ยอมไม่ใช่หรอกหรือ...
“ไม่เป็นไรหรอกเอม พี่ไม่ห้ามแล้วแหละ เอมอยากแต่งแบบไหนก็แต่งไปเถอะ มันเป็นตัวของเอมนี่” พี่จินหันมาพูดแล้วก็ยิ้ม ยิ้มเหยียดๆ แบบที่ทำให้ความโมโหของชะเอมพุ่งปรี๊ดจนเกินร้อย จะโมโหจะอะไรยังไงก็ยังพอทนได้ แต่ไอ้การประชดเนี่ยละที่ชะเอมเกลียดจนอยากจะข่วนหน้าพี่จินให้ยับ!


“พี่จิน! อย่ามาทำนิสัยเอาแต่ใจกับเอมนะ!”




*อันนี้ครึ่งแรกนะฮาว์ฟ เดี๋ยวอีกครึ่งจะตามมาพรุ่งนี้
**เพิ่งจะได้เข้าเวบ และได้ตามอ่านหลายๆคห. ก็เลยมาเฉลยด้วยตอนพิเศษและกันว่าใครคู่ใคร 555+ ไม่ดราม่าแน่ค่ะ
แต่คงไม่ถูกใจใครหลายๆคน อิอิ

***ต้องขอโทษด้วยที่หายไปนานมากกกกกกกค่ะ  เพราะว่าช่วงนี้บีเป็นผู้ประสบภัย (ฟังดูดีมะ) และต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว
ประเด็นคือว่าแฟลชไดรฟ์อยู่ที่อพาร์ตเมนท์ที่โดนน้ำท่วมค่ะ ฮาหงายเงิบเลย ตอนนี้เลยเอาตอนพิเศษที่เพิ่งเขียนสดๆมาแก้ขัดก่อน
หากใครอ่านตอนพิเศษแล้วไม่ได้ดั่งใจก็ต้องทนอ่านนะคะ เพราะว่าบีชอบพี่จินมากกกก ไม่เปลี่ยนพระเอกแน่นอน โฮะๆๆ

****สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ  :กอด1:


 

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: Love Sick Service Pack Part.1 14/11/11
«ตอบ #71 เมื่อ14-11-2011 17:29:23 »

 :z13:ดีใจ
จินเจอร์อย่าหึงหวง
มากได้มั๊ยเด๋วเอมไม่รักน๊า

1+เป็นกำลังให้คนเขียน :L2:
เอาเป็ดไปกินแทนมาม่า

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4
Re: Love Sick Service Pack Part.1 14/11/11
«ตอบ #72 เมื่อ14-11-2011 17:57:37 »

เย่   จินเปนพระเอกจริงด้วย


แต่อยากบอกว่า  ค้างงงง   อย่างเเรง


มาต่อเร็วๆๆนะ


+1 

ออฟไลน์ penda

  • ~~^v^~~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: Love Sick Service Pack Part.1 14/11/11
«ตอบ #73 เมื่อ16-11-2011 04:22:22 »

แง่ะ  จินเป็นพระเอกหรอเนี่ย  แอบขัดใจเล็กๆ
แตาไม่เป็นไร  เพราะชอบจินเหมือนกัน
แล้วเปปจะมีคู่ไหมอ่ะ  อยากให้เปปมีคู่นะ
ถึงเปปมันจะดูเห้นแกตัว ที่จะบปลาสองมือ
แต่มันก็ดุเป็นคนดีออกนะ  ชอบตัวละครตัวนี้อ่ะ
ชอบความใจดีและความอ่อนโยนของตัวละครตัวนี้
เลยอยากให้เปปมีคู่นะ  ไม่รู้คเขียนจะว่ายังไงเนอะ
( :m13: ทำตาใสปิ๊งๆอ้อนคนเขียน ไม่รู้ได้ผลเปล่า)

 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: Love Sick Service Pack Part.1 14/11/11
«ตอบ #74 เมื่อ16-11-2011 05:30:48 »

อุกรี๊ดดด พี่จินคือพระเอก  :a5:
ไม่ได้ช็อกเว่อร์ แอบคิดอยู่แล้ว จะว่าไปพระเอกโหดๆ ตาจิกๆนี่เราก็ชอบนะ :o8:
ตอนนี้เลิกเป็นผู้ประสบภัยหรือยังคะ ขอให้น้ำลดเร็วๆนะ :กอด1:

sakurazaka

  • บุคคลทั่วไป
Re: Love Sick Service Pack Part.1 14/11/11
«ตอบ #75 เมื่อ16-11-2011 12:56:37 »

สงสัยพี่เปปเคลียร์ตัวเองเรื่องผู้หญิงไม่ได้ พระเอกเลยตกมาเป็นพี่จินแทนซะงั้น หุหุ

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Love Sick Service Pack Part 2
«ตอบ #76 เมื่อ16-11-2011 17:07:29 »

เหตุการณ์ที่เกิดหลังจากนั้นก็คือเจ้าจิ๋วที่ปาเสื้อใส่หน้าพี่จินดังป้าบก็หนีมานั่งหน้าหงิกริมสระว่ายน้ำ เท้าเล็กแกว่งไกวอยู่ใต้น้ำเหมือนอยากจะเร่งดับอารมณ์ที่ร้อนเป็นไฟ เรื่องขี้โมโหชะเอมก็ไม่น้อยหน้าใคร เพียงแต่ว่าก่อนที่ชะเอมจะโมโหสุดๆนั้น เขามักจะพยายามใจเย็น ยอมได้ก็ยอม
 
แล้วทำไมครั้งนี้ถึงไม่ยอมต่อไป?

ก็เพราะว่าความขี้โมโหของพี่จินนั้นไงล่ะ ที่ทำให้วันนี้ชะเอมยอมไม่ได้ เพราะไม่งั้นก็คงต้องเจอเรื่องแบบนี้ไปตลอด ในเมื่อตัวเองไม่ได้ตั้งใจทำผิด แต่ทั้งที่ขอโทษแล้วก็ยังมาทำประชดใส่อีก

มันน่ามั้ยล่ะ!!!

“อึ๋ย~ หนาวจัง” อากาศที่เริ่มเย็นในเดือนพฤศจิกายนแบบนี้คงไม่เหมาะที่จะมานั่งเปลือยท่อนบนแล้วจุ่มขาลงไปในน้ำแบบนี้เป็นแน่ แต่กว่าที่จะรู้ว่าตัวเองตัดสินใจผิดก็ไม่ทันแล้ว เพราะจะกลับไปเอาเสื้อที่ห้องก็เสียฟอร์ม

ชะเอมเปลี่ยนท่ามาเป็นนั่งกอดเข่าชิดกับอก เพราะความหนาวส่วนหนึ่งกับความเขินเล็กๆ ก็ร้อยวันพันปีไม่เคยจะเปลือยอกนอกสถานที่ ถึงแม้จะเป็น เอ่อ...ผู้ชายก็เถอะนะ
‘...’ นั่งไปนั่งมาก็เริ่มซึม อารมณ์ก็หดหู่ น้ำตาก็เริ่มปริ่มขอบตา ความน้อยใจมันแล่นขึ้นมาในอก ชะเอมเกลียดช่วงเวลาแบบนี้ มันจะดูเหมือนกับว่าเป็นคนที่อ่อนแอ แต่ไม่ว่าพยายามกลั้นน้ำตาแค่ไหนก็กลั้นไม่ไหว และเสียงสะอื้นก็ดังขึ้นมาเป็นเสียงแรก
“ฮึก...” ที่พยายามกลั้นเสียงเพราะรู้ตัวว่าถ้าร้องไห้เมื่อไรก็จะร้องอย่างหนัก ฝ่ามือที่เริ่มเปียกชื้นเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าน้ำตาของความเสียใจนั้นมากแค่ไหน เพราะว่ารักมาก จึงยิ่งเสียใจมากแปรผันตามกันไป...

“!?!” มือใหญ่ที่หิ้วปีกของร่างเล็กให้ลอยหวือขึ้นมาจากพื้นข้างสระน้ำแล้วประคองไว้ในอ้อมกอดทำให้เจ้าตัวรู้สึกตกใจได้ชั่วขณะ แต่แล้วความตกใจก็เปลี่ยนเป็นความโกรธเคือง ชะเอมกำมือแล้วทุบรัวๆที่แผ่นหลังกว้าง แต่เจ้าของร่างสูงก็ไม่ได้ใส่ใจ กลับเอาผ้าขนหนูมาคลุมไหล่เนียนนั้นไว้ให้มิดชิด ริมฝีปากนุ่มระดมจูบปลอบที่หัวอย่างอ่อนโยน
“ไม่เอานะครับ อย่าดึงผ้าออก เดี๋ยวโป๊หมด” เสียงนุ่มเอ็ดเบาๆเมื่อเห็นว่าร่างในอ้อมกอดพยายามจะเขวี้ยงผ้าขนหนูทิ้ง บ่งบอกชัดเจนว่าคงไม่อยากรับความปรารถนาดีอะไรจากเขาทั้งสิ้น   
“ฮึก... พี่จินยุ่งไม่เข้าเรื่อง...”
“ครับๆ พี่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง... แต่ว่าตอนนี้เอมต้องกลับห้องไปล้างหน้าล้างตาก่อนนะ” จินเจอร์พูดเสียงอ่อน น่าแปลกที่ความฉุนเฉียวของพี่จินจะหายไปไวเหลือเกิน สาเหตุก็คงไม่ต้องคาดเดา ความโมโหหมดไปตั้งแต่ตอนที่เจ้าตัวเล็กวิ่งพรวดพราดหนีเขาไปตั้งแต่แรกแล้ว ทั้งห่วง ทั้งหวง  ในใจก็คิดไว้แล้วว่าถ้าตามหาเจอ เจ้าตัวแสบคงไม่ยอมใส่เสื้อแต่โดยดีแน่ๆ เลยกลับเข้าห้องไปคว้าผ้าขนหนูผืนโตมาติดมือไว้ก่อน กะว่าถ้าหาเจอก็จะเอาผ้าห่อแล้วอุ้มกลับห้องเลย

และแล้วเขาก็เจอจริงๆ เด็กจิ๋วที่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นริมสระว่ายน้ำ อากาศก็เย็น ยังมานั่งโป๊อยู่อีก มันน่าตีนัก แต่ก่อนที่จะได้ตี แค่เห็นหลังชะเอมสั่นไหวเบาๆเพราะสะอื้นก็ใจอ่อนยวบ ทั้งสงสารทั้งรู้สึกผิด พอรู้ตัวอีกทีก็อุ้มขึ้นมาเสียแล้ว มิหนำซ้ำยังหอมและจูบไม่หยุด การกระทำของพี่จินก็คงเป็นเหตุผลเดียวกับที่ชะเอมเสียใจนั่นแหละ...

เพราะ ‘รัก’ อีกแล้ว...

“คนดี... ไม่เอานะ อย่าหันหน้าหนีพี่แบบนี้” จินเจอร์พยายามใช้น้ำเสียงให้หวานที่สุด เพื่อหวังว่าจะหยุดท่าทีเย็นชาจากชะเอมได้ ร่างเล็กที่พอล้างหน้าล้างตาเสร็จก็เดินมาทิ้งตัวนอนติดขอบเตียงด้านหนึ่งแล้วตะแคงข้างไม่สนใจใคร

พี่จินเอานิ้วเขี่ยแก้มนุ่ม เขี่ยไปเขี่ยมาก็หมั่นเขี้ยวเลยหอมไปฟอดหนึ่ง แล้วก็นึกได้ว่าถูกโกรธอยู่เพราะเสียงฮึดฮัดจากคนถูกหอมนั่นเอง
“หน้าด้านหน้าทน”เสียงด่าลอยมาตามลม แต่เขาก็ยิ้มออก อย่างน้อยชะเอมก็ยอมพูดด้วย ถึงตอนนี้ก็ต้องเดินหน้าอ้อนและตื๊อต่อไป
“พี่มันหน้าด้าน ง้อเอมอยู่แบบนี้แหละ ทำให้เขาโกรธก็ต้องง้อ พี่ทำตัวงี่เง่าเองนี่ครับ...”
“รู้ตัวก็ดีแล้ว” ชะเอมพูดแล้วก็นิ่ง นิ่งจนพี่จินไปต่อไม่เป็น ได้แต่นอนกอดเอวชะเอมอยู่นิ่งๆ..
“พี่ขอโทษนะครับเอม ต่อไปนี้พี่จะใจเย็นให้มากกว่านี้ เอมอย่าโกรธพี่อีกเลยนะ พี่หวงเอมจริงๆนี่นา ของๆพี่ก็ไม่อยากให้ใครเห็นนะครับ”
“เลยมาโมโหใส่เอม อืม... ดีเนอะ พูดดีๆกันไม่ได้ สงสัยคงเห็นเอมเป็นหมูเป็นหมา ตวาดเอาๆอย่างเดียว”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะเอม อย่าพูดแบบนั้น พี่เนี่ยแหละที่เป็นหมา งี่เง่า ไร้เหตุผล ชอบเอาแต่ใจกับเอมตลอด” พี่จินทำเสียงเศร้า ไม่รู้ตัวว่าดวงตากลมโตแอบเหลือบมองมาเป็นระยะ
 
ความโกรธในใจนั้นมลายหายไปตั้งแต่รู้ตัวว่าถูกอุ้มประคองขึ้นมาแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมเวลาโดนพี่จินกอดหอมแบบนี้ก็มักจะใจอ่อนตลอด เหมือนไม่ได้โกรธมาแต่แรกอย่างนั้นแหละ และยิ่งร่างสูงมาออดอ้อนแบบนี้ มีหรือที่จะทำใจแข็งต่อได้อีก...

“พี่จินรู้แล้วใช่มั้ยว่าตัวเองทำเกินไป”  ชะเอมพูดโดยไม่หันไปมองหน้าหงอยของคนที่ประคองกอดตัวเองจากด้านหลัง
“ครับ พี่รู้...”
“เอมยอมให้พี่ได้ทุกอย่างนะครับ ยกเว้นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล และเอมก็ไม่ชอบเวลาที่เราจะต้องไปทะเลาะกันต่อหน้าคนอื่นด้วย มันเป็นเรื่องของเราสองคน ทำไมจะต้องให้คนอื่นมารับรู้ด้วยละครับ ทำไมเวลามีอะไรเราถึงไม่คุยกันดีๆ” เอมลุกขึ้นมานั่งมองหน้าพี่จินแล้วพูดยาวเป็นชุด ไม่มีเสียงตอบรับจากร่างสูง เพราะตอนนี้รู้แล้วว่าตัวเองนั้นผิดจริง
“เอมไม่อยากให้เราเป็นแบบนี้กันอีก มันเจ็บ...เอมเจ็บ...” เจ้าจิ๋วทำหน้าเศร้าจนพี่จินรู้สึกเจ็บไปด้วย หากว่าถ้าดึงเอมเข้ามากอดในตอนนี้แล้วจะแบ่งเบาความเสียใจมาได้มากขึ้นก็คงดี แต่มันก็เป็นไปไม่ได้...
“พี่จะไม่ทำแบบนี้อีก... พี่ไม่อยากเห็นเอมร้องไห้ เอมเจ็บพี่ก็เจ็บไปด้วยนะ...”
ไม่มีคำพูดใดๆถูกเอ่ยขึ้นมาอีก มีเพียงเสียงหายใจและสัมผัสจากกันและกัน มือเล็กที่กอดตอบพี่จินและลูบแผ่นหลังกว้างอย่างรักใคร่ ชะเอมชอบเวลาที่พี่จินกอด และพี่จินก็ชอบเวลาที่ได้จรดริมฝีปากลงที่แก้มของชะเอม แต่ที่พี่จินชอบมากกว่านั้น...

คือการจับชะเอมกด...

“อ๋า! พี่จิน ไม่เอานะ ยังจะมีอารมณ์ทำแบบนี้อีก!!”

สุดท้ายวันที่สองของการมาเที่ยว ทั้งคู่ก็หมดเวลาไปกับการ ‘พักผ่อน’ ในห้องจนหมดวันเหมือนเดิม...

.จบ.

*** ตอนพิเศษนี้ไม่มีอะไรเลยค่ะ นอกจากไร้สาระล้วนๆ 555+


บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Re: Love Sick Service Pack Part.1 14/11/11
«ตอบ #77 เมื่อ16-11-2011 17:09:19 »

แง่ะ  จินเป็นพระเอกหรอเนี่ย  แอบขัดใจเล็กๆ
แตาไม่เป็นไร  เพราะชอบจินเหมือนกัน
แล้วเปปจะมีคู่ไหมอ่ะ  อยากให้เปปมีคู่นะ
ถึงเปปมันจะดูเห้นแกตัว ที่จะบปลาสองมือ
แต่มันก็ดุเป็นคนดีออกนะ  ชอบตัวละครตัวนี้อ่ะ
ชอบความใจดีและความอ่อนโยนของตัวละครตัวนี้
เลยอยากให้เปปมีคู่นะ  ไม่รู้คเขียนจะว่ายังไงเนอะ
( :m13: ทำตาใสปิ๊งๆอ้อนคนเขียน ไม่รู้ได้ผลเปล่า)

 :L2: :pig4: :L2:

ความคิดดีค่ะ > <b


อุกรี๊ดดด พี่จินคือพระเอก  :a5:
ไม่ได้ช็อกเว่อร์ แอบคิดอยู่แล้ว จะว่าไปพระเอกโหดๆ ตาจิกๆนี่เราก็ชอบนะ :o8:
ตอนนี้เลิกเป็นผู้ประสบภัยหรือยังคะ ขอให้น้ำลดเร็วๆนะ :กอด1:

ยังเลยค่ะ กลับห้องไม่ได้สักทีเนี่ย ขอบคุณที่เป็นห่วงค่า


ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: Love Sick Service Pack Part.2 16/11/11
«ตอบ #78 เมื่อ16-11-2011 19:22:18 »

พี่จินจับน้องกดยังไง อธิบายด่วนๆๆๆๆๆๆ :laugh:
มิน่าเขาถึงว่ายิ่งทะเลาะกัน ยิ่งลูกดก สองคนนี้ก็เข้าข่ายไหมนี่ :jul3:
กอดๆคุณบี เอาใจช่วยเรื่องน้ำท่วมนะคะ สู้ๆค่ะ :L2:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: Love Sick Service Pack Part.2 16/11/11
«ตอบ #79 เมื่อ16-11-2011 20:44:14 »

ชอบพี่จินอ่ะ  อิจฉาชะเอม  อยากมีคนหวง คนห่วง  คนหึงแบบนี้มั่งจัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Love Sick Service Pack Part.2 16/11/11
« ตอบ #79 เมื่อ: 16-11-2011 20:44:14 »





ออฟไลน์ Theodore

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: Love Sick Service Pack Part.2 16/11/11
«ตอบ #80 เมื่อ16-11-2011 21:37:05 »

อยากได้ฉากจับกดคร้าบ ฮี่ๆๆ

sakurazaka

  • บุคคลทั่วไป
Re: Love Sick Service Pack Part.2 16/11/11
«ตอบ #81 เมื่อ16-11-2011 23:10:42 »

แหม ไม่ไร้สาระหรอกค่ะ กลัวว่าจะเพียงแค่ให้เห็นความหวานเล็กๆ น้อยๆ ก่อนที่ตัวหลักจะกลายเป็นมาม่าหรือเปล่าล่ะสิเนี่ย

ปล. ขอให้เลิกเป็นผู้ประสบภัยเร็วๆ นะคะ

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: Love Sick Service Pack Part.2 16/11/11
«ตอบ #82 เมื่อ16-11-2011 23:38:31 »

เชียร์จิน ชอบผู้ชายปากหนัก
ถึงจะปากเสีย น่ากลัว ขี้โมโห แต่คนแบบนี้ไม่ค่อยไขว้เขวไปหาคนอื่น
แอบมั่นใจได้มากกว่า

Mio

  • บุคคลทั่วไป
Re: Love Sick Service Pack Part.2 16/11/11
«ตอบ #83 เมื่อ17-11-2011 00:34:22 »

สามคำให้เปป   สะ ตอ มาก
ให้เอม    ตา สะ หว่าง ( เหอะ)
ให้จิน     บุก เลย ลูก o18

ออฟไลน์ penda

  • ~~^v^~~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: Love Sick Service Pack Part.2 16/11/11
«ตอบ #84 เมื่อ17-11-2011 01:28:44 »

ความคิดดีค่ะ > <b



ถ้าดีคุณบีบีจังก็ช่วยสนองให้คนอ่านด้วยนะค้าาาา
ตอนแรกคิดว่าเปปคู่เอม แล้วจินคู่มิ้น (ตามที่เดาเรื่องตอนแรก)
พอพลิกมาเป็นจินคู่เอม เลยไม่รู้จะให้เปปคู่ใครดีเลย
จะให้คู่มิ้น(เรา)ก็จิ้นไม่ออก เพราะสองคนนี้ไม่ค่อยมีบทคู่กัน
ดังนั้น  จึงต้องขอความกรุณาจากคุณผู้เขียนนะคะ
ให้เปปมีคู่เถอะะะ  คู่กะใครก็แล้วแต่ผู้เขียนเลยค่า

 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ pizza2011

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Re: Love Sick Service Pack Part.2 16/11/11
«ตอบ #85 เมื่อ17-11-2011 12:12:33 »

ว่าเเล้วจินต้องเป็นพระเอก 55+  o13
แอบเสียดายเปป ไม่น่าทำตัวงี้เลย
ป.ล. สงสัยเล็กน้อย ว่าทำไมถึงตั้งชื่อเรื่องว่า love sick  << เป็นเพราะเวลาน้องเอมเขินมากๆจะไม่สบายชิมิ :m21:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: Love Sick Service Pack Part.2 16/11/11
«ตอบ #86 เมื่อ17-11-2011 14:57:41 »

จินง้อได้น่ารักมากกกกก :กอด1:
+1เป็นกำลังให้จ๊า
ปล.รักษาสุขภาพด้วยน๊า :L2:

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
Re: Love Sick Service Pack Part.2 16/11/11
«ตอบ #87 เมื่อ17-11-2011 17:09:26 »

อ่า ดีใจ เชียร์จินเจอร์เหมือนกัน หุๆ

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Re: Love Sick Service Pack Part.2 16/11/11
«ตอบ #88 เมื่อ17-11-2011 17:27:33 »

ว่าเเล้วจินต้องเป็นพระเอก 55+  o13
แอบเสียดายเปป ไม่น่าทำตัวงี้เลย
ป.ล. สงสัยเล็กน้อย ว่าทำไมถึงตั้งชื่อเรื่องว่า love sick  << เป็นเพราะเวลาน้องเอมเขินมากๆจะไม่สบายชิมิ :m21:

ตามนั้นเลยค่ะ ชะเอมตื่นเต้นมากจัดแล้วชอบป่วย :-)


บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Love Sick [-7-]
«ตอบ #89 เมื่อ17-11-2011 17:30:00 »

Love Sick [-7-]


ช่วงนี้งานวาดภาพฉากหลังที่จะใช้ในพิธีจบการศึกษาของพี่ปีสามคืบหน้าไปเยอะมากครับ บางทีอาจเพราะทุกคนกระตือรือร้นกันเป็นพิเศษ พอมีเวลาว่างก็เอาแต่มาช่วยกันทำ จนไม่ถึงอาทิตย์ก็เสร็จไปกว่า 70% แล้ว
“ชะเอม ถ้าจะไปเบิกสีจากอาจารย์น่ะ ช่วยเอาแม่สีขาวมาเผื่อเราด้วยนะ” ซินหันมาบอกก่อนที่ผมจะเดินออกไปจากหอประชุม ผมพยักหน้ารับแล้วท่องเอาไว้ในใจว่าอย่าลืมสีขาวของซินด้วย

‘มีสีขาวของซิน แปรงละเลงสี กระดาษทราย...’ ผมเดินนับนิ้วรายการสิ่งของที่จะขอเบิกระหว่างเดินไปห้องพักครู รู้สึกชีวิตช่วงนี้วุ่นวายพิลึกนะครับ ไหนจะเรียน ทำการบ้านกองเท่าภูเขา มาทำงานนอกเวลา และต้องแบ่งเวลาไปสอดส่องหาพี่เปปเปอร์ด้วย!

พูดถึงพี่เปปเปอร์แล้วผมก็นึกออก หลังจากคืนนั้นเราก็ไม่ได้เจอกันเป็นเรื่องเป็นราวเลยละครับ มีแค่เพียงสวนกันแว่บๆ หรือมองเห็นจากที่ไกลๆเท่านั้นเอง สำหรับคนที่กำลังคบกันเนี่ยมันน้อยไปหรือเปล่าครับ หรือว่าผมจะเรียกร้องมากไปเอง?

“มึงไม่ได้เรียกร้องมากไปหรอก”

ไอ้มิ้นท์บอกกับผมในคืนหนึ่งที่เห็นผมนั่งหน้าเศร้า มันคงเริ่มสังเกตว่าผมมักจะเหม่อลอยบ่อยขึ้นและใช้เวลากับการสเก็ตช์รูปเรื่อยเปื่อยมากกว่าเดิม มันก็คงจะรับรู้ได้ว่าผมเหงา และน้อยใจแค่ไหน
“กูไม่เห็นพี่จินเขาจะยุ่งเหมือนพี่เปปเปอร์เลย เขาก็ยังมาคุมซ้อมได้ทุกวัน นี่นะเอม กูไม่ได้จะพูดให้มึงเครียดนะ แต่กูคิดว่าพี่เปปเปอร์เขาไม่ได้ยุ่งแค่เรื่องเตรียมสอบหรอก เพราะกูรู้มาว่าช่วงนี้มันเป็นช่วงที่เขาจะรอฟังผลสอบกันอย่างเดียว ไอ้เรื่องการสอบน่ะมันจบไปตั้งกะอาทิตย์ก่อนแล้ว” ผมฟังไอ้มิ้นท์พูดแล้วก็อึ้ง ถ้าการสอบจบแล้วทำไมพี่เปปเปอร์ถึงไม่มาเจอกับผมบ้างละ? ผมไม่อยากคิดอะไรไม่ดีเลย แต่ไอ้ความรู้สึกแย่ๆที่มันว้าวุ่นในจิตใจผมนี่สิ
“พี่เปปเปอร์เขาคงมีธุระของเขานะ...” แก้ตัว? ผมรู้สึกเหมือนว่ากำลังช่วยแก้ตัวให้พี่เปปเปอร์แบบน้ำขุ่นๆ
“มีธุระแบบที่บอกมึงไม่ได้เลยเหรอ มึงไม่ได้กำลังคบกับเขาอยู่หรือไง” ไอ้มิ้นท์พูดเสียงเครียด ผมรู้ว่ามันเดือดดาลแทนผม แต่ผมไม่อยากให้ใครมาว่าพี่เปปเปอร์แบบนี้..
“เอาเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะลองไปดักรอเขาที่หอปีสามดูแล้วกัน จะได้ถามด้วยว่าช่วงนี้เขายุ่งเรื่องอะไรอยู่” ผมพูดตัดบทโดยไม่สบตาไอ้มิ้นท์ ผมไม่อยากมองเห็นสายตาของมัน ไม่อยากได้ความสงสารจากใคร... เรื่องมันก็แค่พี่เปปเปอร์ไม่มีเวลาว่าง... ก็แค่นั้น...
...
..
..
.
..
.
ผมตื่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติก่อนที่นาฬิกาจะปลุกเพียงสองนาที พอหันไปมองข้างๆก็เห็นว่าไอ้มิ้นท์ยังคงหลับสนิท หน้าอกที่ขยับขึ้นลงตามจังหวะหายใจยังสม่ำเสมอ ผมทำภาระกิจยามเช้าให้เสียงเงียบที่สุด เพราะกลัวว่าถ้ามันตื่นแล้วมันจะแอบติดสอยห้อยตามผมไปด้วย

ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวและไม่ลืมที่จะคว้ากุญแจจักรยานของไอ้มิ้นท์มาด้วย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินมากนัก จักรยานของไอ้มิ้นท์จอดอยู่ใต้ตึกพอดี พอผมปลดล็อกโซ่ได้ก็ปั่นฉิวออกมาเลย

ช่วงเช้าแบบนี้คนยังไม่ค่อยตื่นกัน ถนนปูอิฐสีแดงภายในพื้นที่ของอาคารหอพักมีหยดน้ำค้างทำให้ดูชื้น อากาศสดชื่นมากๆ ขัดกับสภาพจิตใจของผมที่มันร้อนรุ่มเหมือนกำลังจะทำเรื่องสำคัญบางอย่าง ถ้าหากว่าผมเฉลียวใจสักนิด ผมก็คงจะรู้ได้ว่าปฏิกิริยาทางร่างกายผมก็คือลางบอกเหตุ... เหตุร้ายๆที่มันกำลังจะเกิดขึ้นกับตัวผม...

ภาพที่ผมเห็นมันก็ยังคงเหมือนเดิม ตึกหอพักของปีสามที่กำลังโผล่พ้นจากยอดไม้ขึ้นมาทีละนิด ไม่รู้ว่าเช้าขนาดนี้พี่เปปเปอร์จะตื่นหรือยัง แต่ดูเหมือนว่าสวรรค์จะเข้าข้างผม เพราะเมื่อผมปั่นจักรยานเข้ามาภายในสวนหน้าหอปีสาม ผมก็มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าผู้ชายคนที่นั่งอยู่ตรงม้าหินอ่อนนั่นต้องเป็นพี่เปปเปอร์แน่ๆ

“พี่เปปเปอร์” ผมเลี้ยวจักรยานไปจอดตรงริมถนนข้างสวนแล้วส่งเสียงเรียก พี่เปปเปอร์หันมาเห็นว่าเป็นผมก็ดุเหมือนเขาจะตกใจแว่บหนึ่ง ผมสาบานจริงๆครับว่าผมเห็นพี่เปปเปอร์ตกใจ แต่จะตกใจทำไมนั้นผมก็ไม่รู้ ที่แน่ๆคนเราถ้าเจอแฟนของตัวเองจะไม่ตกใจแน่ละครับ
“ทำไมพี่ต้องทำท่าตกใจตอนที่เห็นเอมด้วยละครับ” ผมปากไวถามออกไปในทันที พี่เปปเปอร์มีสีหน้านิ่งไปนิดหนึ่งแล้วเขาก็ลุกเดินมาที่ผม
“อะไรกันเอม มาถึงก็ถามพี่ฉอดๆเลย” พี่เปปเปอร์ยื่นมามาจับจักรยานไปจอดแล้วเดินมาจูงมือผมให้ไปนั่งด้วย พี่เปปเปอร์ยังอ่อนโยนเหมือนเดิม แต่สิ่งที่มันเปลี่ยนไปคือในใจผมต่างหาก

เพราะผมรู้สึก... ว่ามันมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในน้ำเสียงและจิตใจของพี่เปปเปอร์...

“เปล่าหรอก เอมก็แค่ตั้งใจจะมาหาพี่ เพราะเห็นเขาว่ากันว่ามันหมดช่วงสอบไปแล้ว ก็เลยมาดูว่าพี่เป็นยังไงบ้าง” อีกแล้วครับ พี่เปปเปอร์นิ่งไปเหมือนคนตกใจ แปลกใจ หรือไม่คาดคิดประมาณนั้น
“อ๋อ ช่วงนี้พี่เหนื่อยๆน่ะ สงสัยจะล้าจากการสอบน่ะครับ ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปหาเอมเลย” หล่อครับ... พี่เปปเปอร์ยังหล่อเหมือนเดิม แต่สิ่งที่ผมคิดในใจน่ะเหรอ...
‘ตอแหล พักเหนื่อยเป็นอาทิตย์เลยเหรอ ไม่ใช่ว่ามัวแต่ไปทำอะไรลับหลังกันรึไงถึงได้หายไปเงียบแบบนี้...’
“เอมไม่โกรธพี่นะครับคนดี...” เอมไม่โกรธหรอกครับ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเชื่ออะไรได้อีก...
“แล้วทำไมวันนี้พี่ตื่นเช้าจังเลยครับ” บอกว่าเหนื่อย อยากพักผ่อน แต่ตื่นเช้าตรู่ในวันอาทิตย์แล้วแต่งตัวเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอกนี่นะ...
“พี่อยากมานั่งสูดอากาศยามเช้าบ้างไง อากาศยามเช้าสดชื่นจะตายไป ว่าแต่เอมเถอะ ทำไมซักไซร้พี่ตั้งแต่มาถึงแล้วละ ทำเหมือนว่าพี่เป็นนักโทษเลยนะ” พี่เปปเปอร์ย้อนถามผมกลับด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะนิ่งแล้ว ผมไม่เคยเห็นพี่เปปเปอร์ทำท่าหงุดหงิดมาก่อน และก็ไม่เคยคาดคิดด้วยว่าหวยจะมาออกที่ผม
“พี่ไม่ชอบเลยที่เอมทำท่าเหมือนไม่ไว้ใจพี่”

ผมนิ่ง
พี่เปปเปอร์ก็นิ่ง
สรุปแล้วผมที่ถามโน่นนี่นั่นเป็นคนผิด ส่วนพี่ที่ทำตัวมีพิรุธไม่ผิด? งั้นเหรอ?

“เอมขอโทษนะครับพี่เปปเปอร์” ปากผมพูดออกไปไวกว่าความคิด ผมยิ้มให้พี่เปปเปอร์และทำสีหน้าแบบว่าผมไม่ได้ติดใจอะไรอีกแล้ว
“พี่ไม่ได้โกรธอะไรเอมหรอกครับ”
“งั้นเอมต้องขอตัวกลับห้องก่อนนะครับ อาทิตย์นี้การบ้านเยอะแยะเลย รีบกลับไปทำจะดีกว่า” ผมลุกจากโต๊ะโดยมีพี่เปปเปอร์เดินตามมาส่งที่จักรยาน ผมขึ้นคล่อมและถีบกลับมาที่หอโดยไม่ได้หันกลับไปมองพี่เปปเปอร์อีก ไม่มีการสัมผัสใดใดอย่างที่เคย เพราะตอนนี้แม้แต่เส้นผมก็ไม่อยากให้เขาแตะ ในหัวผมมีแต่คำว่าไม่ไว้ใจ โกหก หลอกลวง เต็มไปหมด ความไม่เชื่อใจเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่เกิดได้ยาก แต่เมื่อลองได้รู้สึกแบบนี้สักครั้ง มันก็จะติดค้างอยู่อีกนานแสนนาน และนั่นละ ที่เป็นสาเหตุให้ผมคิดอะไรบางอย่างได้...

ผมตัดสินใจวกจักรยานกลับแล้วไปแอบซุ่มอยู่ไม่ห่างจากหน้าหอปีสามครับ...


ผมรู้สึกว่าการกระทำของตัวเองมันดูทุเรศยังไงไม่รู้ แต่ผมไม่อยากเป็นคนโง่ที่ทำตัวเหมือนว่าไม่ได้รับรู้อะไรเลย ถ้าหากว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ให้มันเกิดไปเลยดีกว่า

ผมทำเป็นเนียนนั่งอยู่หลังต้นหูกวางต้นใหญ่ แต่สายตาก็ลอบมองพี่เปปเปอร์เป็นระยะ ผมเห็นพี่เขายกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกา ลักษณะเหมือนกำลังรออะไรอยู่ ผมสงสัยว่าถ้าผมไม่เป็นฝ่ายขอตัวออกมาก่อน พี่เขาจะหาทางไล่ผมยังไงนะ...

ระหว่างที่นั่งจับตามองพี่เปปเปอร์ ผมก็ลองคิดเล่นๆว่าถ้าหากสุดท้ายแล้วมีเหตุให้เราต้องเลิกกันจริงๆมันจะเป็นยังไง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเคยมีร่วมกันมันก็จะหายไปด้วยอย่างนั้นใช่ไหม?

รวมถึงจูบนั้นด้วย...


“Pepper!!” เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้ผมหันขวับไปมองทันทีราวกับว่าชื่อที่ถูกเรียกเป็นชื่อของผม เจ้าของเสียงใสที่ผมได้ยินช่างมีน้ำเสียงสมตัวเหลือเกิน ผมไม่ค่อยได้เจอคนสวยขนาดนี้บ่อยนัก แต่เธอคนนี้สวยชนิดที่เรียกว่าหยาดฟ้ามาดินเลยทีเดียว
 
ผมไม่คิดว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ถึงแม้ผมจะสังหรณ์ใจไว้แล้ว แต่การที่ได้เห็นคนที่(ได้ชื่อว่า)เป็นแฟนผมกำลังกอดกับผู้หญิงอีกคนด้วยท่าทางที่สนิทสนมเกินกว่าเพื่อนมันก็ชวนให้อึ้งได้ไม่น้อย ภาพที่ทั้งสองคนกอด จูบแก้ม และลูบผมอย่างอ่อนโยนนั้นทำให้ผมเกือบสติแตก ในใจอยากจะเข้าไปกระชากพี่เปปเปอร์ออกมาแล้วถามว่าทำไมจึงทำแบบนี้ ทว่าความละอายใจและไม่อยากทำตัวเป็นคนบ้าไร้สมองก็ช่วยยับยั้งความหุนหันให้กลายเป็นศูนย์

“รอนานมั้ยคะ”
“ไม่หรอก”

บทสนทนาเพียงสั้นๆของคนทั้งสอง เพียงแค่คำพูดเรียบง่าย แต่ผมก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างภายในน้ำเสียงและจิตใจของคนทั้งสอง สายตาที่พวกเขามองกัน และภาษากายที่แสดงออกมา เพียงแค่นั้นผมก็รู้ได้...

ว่าพวกเขารักกันมากแค่ไหน...

‘เจ็บ...’ ผมกัดปากกลั้นไม่ให้เผลอสะอื้นออกมา รู้สึกไม่อยากจะอยู่ตรงนั้นต่อแม้สักวินาทีเดียว บางบทสนทนาของพวกเขาเป็นภาษาอังกฤษ แต่มันก็ไม่ได้ซับซ้อนเกินกว่าที่ผมจะฟังออก ผมรู้สึกโกรธที่ตัวเองดันฟังออกด้วยซ้ำ ผมไม่ได้อยากจะฟังถ้อยคำอ่อนหวานที่เขาพูดต่อกันเลยสักคำ

‘I miss you more than I can bear...’

ถ้อยคำที่หวานซึ้ง แบบที่พี่เปปเปอร์ไม่เคยใช้กับผม... ในที่สุดผมก็รู้สึกได้ ว่าผมคงเป็นแค่ ‘ทางผ่าน’ สินะ เป็นแค่คนที่มาคั่นเวลาเหงาของพี่ ในขณะที่พี่กำลังรอตัวจริงกลับมาหา

“ฮึก..” 

เจ็บเหลือเกินครับ ผมกำอกเสื้อด้านซ้ายของตัวเองไว้แน่น ร่างกายไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน แต่มันกลับรู้สึกเจ็บเหลือเกิน หัวใจผมมันบีบคั้นมากที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา เหมือนความหวัง ความฝัน และทุกอย่างมันพังลง ผมรวบรวมกำลังคร่อมจักรยานและพยายามจะปั่นกลับไปที่ห้อง หรือที่ไหนก็ได้ให้พ้นจากตรงนี้... ผมไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าพี่เปปเปอร์จะสังเกตเห็นผม ดีเหมือนกัน เขาจะได้รู้ว่าผมก็รู้เรื่องแล้ว จะได้ไม่ต้องมาปิดบังผม และพี่ก็จะได้ไม่ต้องลำบากใจที่จะบอกผมด้วย..

ผมปั่นจักรยานกลับไปตามทางที่ผมมา จังหวะที่ผมกำลังจะผ่านสองคนนั้นผมก็เผลอเหลือบไปมอง มองให้ชัดเต็มสองตา พี่เปปเปอร์ดูตกใจที่เห็นผม แต่ในความตกใจนั้นผมรู้สึกว่ามีความโล่งอกซ่อนอยู่ปะปนกับความเสียใจและรู้สึกผิด ผมยกแขนขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากแก้มแล้วทุกอย่างก็เหมือนเป็นภาพช้า ล้อหน้าจักรยานเหยียบเข้ากับก้อนหินก้อนหนึ่งและแฉลบออก บวกกับที่ผมปล่อยมือจากแฮนด์ข้างหนึ่ง ทำให้ผมไม่สามารถประคองจักรยานไว้ได้ทัน ตัวผมเซไปตามจักรยานที่กำลังล้มลง ภายในเสี้ยววินาทีที่ผมกำลังจะกระแทกกับพื้นอิฐ ผมก็เห็นพี่จินที่เดินออกมาจากหอพักและมองมาที่ผม

โครม!!

“เอม!” ไม่ใช่พี่เปปเปอร์ที่ตะโกนเรียกผม... แต่เป็นพี่จิน... พี่เปปเปอร์และผู้หญิงคนนั้นยืนมองผมอย่างตกใจแต่ก็ไม่ได้ขยับตัว ผมรู้สึกเจ็บแปลบที่แขนและขาข้างที่ไถกับพื้น ผมมองเห็นมือพี่เปปเปอร์แตะต้นแขนของผู้หญิงคนนั้น และเห็นพี่จินวิ่งตรงมาที่ผม เพียงเท่านั้นสมองก็สั่งการร่างกายผมโดยอัตโนมัติ ผมฝืนลุกขึ้นยืนและดึงจักรยานขึ้นมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมกัดฟันปั่นจักรยานไปโดยที่เจ็บแขนเหลือเกิน น้ำตาก็ไหลอาบแก้มไปเป็นทาง ผมปั่น ปั่น และปั่น จนเมื่อถึงหน้าตึกหอพัก ผมก็ทิ้งจักรยานและวิ่งเข้าไปภายในอาคาร ผมไม่ได้ทันสังเกตว่ามีคนอีกคนที่วิ่งตามผมมาอย่างเร็วและมาหยุดพักหายใจหน้าตึก เขาคนนั้นยืนมองอยู่พักหนึ่งแล้วจึงตัดสินใจเดินกลับไป....

แอ๊ด....

ผมเปิดประตูห้องเข้าไปอย่างเงียบเชียบ ช่วงเวลานี้ไอ้มิ้นท์ยังไม่ตื่นหรอกครับ ผมไม่อยากให้มันตกใจที่เห็นสภาพของผม แผลที่แขนของผมมีเลือดไหลซิบ ตรงขาก็เหมือนกัน ผมย่องเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับผ้าขนหนูและอุปกรณ์ทำแผล เงาที่มองตอบกลับมาจากในกระจกดูน่าตกใจ ข้างแก้มมีรอยถลอกบางๆเช่นเดียวกันแต่ไม่มากเท่าที่แขน มิน่าละ ตอนที่น้ำตาไหลผมถึงได้รู้สึกแสบที่แก้มนิดๆ

‘สภาพทุเรศ’

ผมรู้สึกับตัวเองแบบนั้นจริงๆครับ ผมทำแผลให้ตัวเองไปก็สมเพชไป ดูสภาพของผมสิ เหมือนหมาตัวหนึ่ง ถูกทิ้งแล้วยังต้องล้มลุกคลุกคลานกลับมารักษาแผลให้ตัวเอง

ผมกินยาแก้ปวดสองเม็ดและมุดเข้าไปในผ้านวมของตัวเอง เพียงครู่เดียวผมก็ผล็อยหลับไปแล้วก็ฝัน ฝันอะไรไม่รู้มั่วซั่วไปหมด ในฝันผมใส่โรลเลอร์เบลดวิ่งหนีไดโนเสาร์ แล้วก็ไปเจอหน้าผา และผมกำลังจะกระโดดข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง (ทั้งที่หน้าผามันห่างกันตั้งยี่สิบเมตรเนี่ยนะ??) แต่พอผมเห็นว่าอีกฝั่งหน้าผามีพี่จินยืนถือกระบองไฟรออยู่ผมก็เลยจะหันกลับ และพอหันกลับมาก็เจอไอ้มิ้นท์ยืนห่างจากผมแค่เมตรเดียว ในฝันมันตะโกนเรียกชื่อผมเสียงดัง

“ไอ้เอม!!!”

แล้วจู่ๆแผ่นดินก็ไหวอย่างแรง ผมไม่ทันทรงตัวก็เลยเซไปเกือบชิดขอบหน้าผา วินาทีนั้นผมคงไม่ตกหน้าผาแน่ๆถ้าพี่จินที่อยู่อีกฝั่งไม่ฟาดกระบองไฟลงมาจนมีสะเก็ดไฟกระเด็นมาโดนผม ผมเลยสะดุ้งอีกครั้งและพลัดตกหน้าผาไป ไอ้มิ้นท์มีสีหน้าตกใจเอื้อมมือจะคว้าผมไว้แต่ก็ไม่ทัน มันส่งเสียงเรียกผมดังสนั่นอีกครั้ง

“ไอ้เอมมมม!!!”

ผมสะดุ้งเฮือกอีกรอบ แต่คราวนี้ผมลืมตาขึ้นมาและผมว่าอยู่บนเตียงนอนในห้อง มีไอ้มินท์นั่งหน้าเครียดอยู่ข้างๆ ผมปวดแผลขึ้นมาทันที ตัวก็รุมๆเหมือนจะเป็นไข้

แปะ!

ผ้าขนหนูชุบน้ำบิดหมาดๆถูกโปะลงมาที่หน้าผากผม ไอ้มิ้นท์เอื้อมไปหยิบแก้วใส่นมสดมาส่งให้ผมดื่ม แต่ว่าผมยังรู้สึกเวียนหัวคลื่นไส้อยู่มาก ก็เลยไม่อยากกินอะไร
“ไม่ได้ มึงต้องกิน จะได้กินยารอบเย็น” เอ่อ...ยารอบเย็น ไอ้มิ้นท์มันบอกผมแบบนั้น?? ผมจำได้ว่าตอนที่ออกไปมันเพิ่งจะเช้าเองนะ นี่ผมหลับไปจนเย็นเลยเหรอ แถมยังเป็นไข้ต้องให้ไอ้มิ้นท์มาเช็ดตัวอีก...
“อือ...” สุดท้ายผมก็ฝืนดื่มนมจนหมดแก้ว ไม่อยากขัดใจมันครับ มันดูอารมณ์ไม่ดียังไงก็ไม่รู้ พอผมดื่มนมเสร็จ มันก็เอาปรอทวัดไข้มายัดใส่ใต้ลิ้นผมแล้วก็เอาไปดู
“ลดไปเยอะละ พรุ่งนี้คงหาย แต่พักอีกสักวันคงดี”
“ไม่เอาหรอก กูจะไปเรียน งานวาดผนังก็ใกล้จะเสร็จแล้วด้วย” ผมพูดจบไอ้มิ้นท์ก็พยักหน้าบอกว่าแล้วแต่ผม น่าแปลกที่มันไม่ถามอะไรเลย ตัวผมเองก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องนั้น ผมไม่รู้ว่าระหว่างการทำใจให้ยอมรับได้ กับการแกล้งทำเป็นลืม อย่างไหนมันจะดีกว่ากันนะ...



ส่วนที่อัพวันนี้สีน้ำเงินนะคะ
Happy Weekend ทุกคนค่า~~


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-11-2011 17:21:44 โดย บีบีจัง »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด