Love Sick เมื่อร่างกายตกเป็นทาสของหัวใจ [-23-] จบแล้วค่ะ!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Love Sick เมื่อร่างกายตกเป็นทาสของหัวใจ [-23-] จบแล้วค่ะ!!  (อ่าน 196273 ครั้ง)

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
อ่านแล้วปากจะฉีก กลั้นยิ้มไม่อยู่
แล้วก็แอบโรคจิตตามจินเจอร์ไปติดๆ อยากสิงจิน(จะได้เอ็นดูน้องเค้ามั่ง)
โฮว แมวน่ารักมาก อยากเล่นมั่ง

ออฟไลน์ zitronen-tee

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
    • https://www.facebook.com/DaisyLetter
พี่จินกับน้องเอมน่ารักมากเลยค่ะ :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ jing_sng

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 761
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
เข้ามากรี๊ดแมว น้องเอมชอบแมวเหมือนพี่เย้ย
ยิ่งไอ้พันธ์นี้ยิ่งน่ารักน่ากอดที่สุด
งานนี้พี่จินคงมีแมวมารมาคอยเป็นมารขว้างทางรักแทน

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
เอมน่ารักจัง :กอด1:

ออฟไลน์ jaymaza

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ White

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
พี่จินเจ้าเล่ห์อ่ะ

ออฟไลน์ BaII

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
เข้ามากรี๊ดพี่จิน

ออฟไลน์ yang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
พี่จินกับน้องเอมมมมม  อ่าๆๆๆ น่ารักน่ารัก :กอด1:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
หวา ไอ้เราก็นึกว่าจะ...กันซะอีก :haun4:
หมายถึงอาบน้ำด้วยกันอ่านะ :laugh:
แต่เอมก็ชอบแมวเหรอ พี่ก็ชอบแมวมากๆๆๆค่ะ แมวที่บ้านก็ขี้อ้อนมากๆเลย :o8:
แสดงว่าคนหน้าตาดีนี่จะชอบแมวกันใช่ไหมน้องเอม ก๊ากก :m20:
น่ารักๆๆๆ ได้อยู่ด้วยกันแล้วจะมีปัญหาอะไรตามมามั้ยน้า
อย่างน้อยก็เรื่องตองนี่แหละใช่มะ? :เฮ้อ:

pronpailin

  • บุคคลทั่วไป
เอมชอบแมว :o8:
น่ารักอ่ะ แต่อิพี่จิน นี้อย่าเพิ่งรุกฆาตเอม นะ  :oo1:
แล้วเรื่อง ตองละ สงสารตอง อ่ะ หาคู่มาดามใจ ตอน ด่วนเลย  :monkeysad:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ IöLIKE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-6

Mickii

  • บุคคลทั่วไป
พี่จินกับมาแล้ววววว แถมกับมาคราวนี้น่ารักกว่าเดิมโคตรๆๆๆๆ

แล้วตองจะเปงยังงัยต่อไปนะ ดันไปชอบคนที่มีเจ้าของซะแล้ววววววววว


บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Love Sick [-14-]
«ตอบ #222 เมื่อ08-12-2011 20:37:56 »

Love Sick

- 14 -



ผมนอนไม่หลับทั้งคืน...

สายตาก็คอยแต่จะเหลือบมองนาฬิกาบนผนังอยู่เรื่อยเลย ใจก็อยากจะกดโทรศัพท์โทรไปหาใครสักคนที่อาจจะบอกผมได้ว่าเอมไปอยู่ที่ไหน แต่ก็ตัดใจไม่โทร...

เมื่อรอจนเช้าแล้วผมก็ค่อยๆคิดว่าเอมน่าจะไปหาใคร เอมคงไม่ไปหาพวกไอ้กิแน่นอน แล้วผมก็นึกออกว่าเอมเคยพูดเอาไว้ ว่าเอมไปรับจ๊อบกับไอ้พีร์ ไอ้พี่รหัสของเอม...

ผมต้องไปหาไอ้พีร์...


***********************************************************


“มึงมีอะไรวะตอง” ผมบังเอิญเจอไอ้รุ่นพี่ตอนที่มันกำลังจะออกจากห้องมันมาพอดี ผมรู้เลาๆว่าไอ้พีร์อยู่ที่นี่เลยมาดักรอ
“เอมอยู่กับพี่หรือเปล่า” พอผมถามแบบนั้นมันก็ทำหน้างง
“ไอ้เอมไม่ได้กลับห้องหรือไง? ถึงได้ไม่เจอกันน่ะ” อา...ถ้าไอ้พีร์พูดแบบนี้ แปลว่าเอมไม่ได้อยู่กับมัน ผมตัดสินใจเดินกลับ แต่ก็ถูกมันคว้าแขนไว้ก่อน
“เดี๋ยวสิ ถ้าอยากจะไปเจอเอม ก็ไปพร้อมกูมั้ย เนี่ย เดี๋ยวกูต้องไปทำงาน คงได้เจอกับไอ้เอมแหละ” มันเสนอมา ผมก็เลยพยักหน้ารับ... ผมอยากเจอเอม

“มึงเนี่ยจะเงียบไปไหนวะ เงียบเกิ๊น” ก็เหมือนมึงที่พูดมากเกินแหละไอ้พีร์ ขนาดขับรถยังพูดไม่หยุด...
“แน๊ะ! กูว่าอยู่ยังเงียบอีก” ผมสะบัดหน้าหนี รำคาญมันเป็นบ้าเลยว่ะไอ้นี่ คนอะไรเสื๊อกเสือก ยิ่งผมได้ยินเสียงมันหัวเราะหึหึก็ยิ่งหงุดหงิด

หลังจากที่ผมต้องทนรำคาญไอ้พีร์มายี่สิบนาทีก็ถึงที่หมายสักทีครับ ผมกำลังจะได้เจอเอมแล้ว...

“อะ น้ำส้ม” แก้วน้ำส้มถูกยื่นมาตรงหน้าผม หน้าอย่างผมเนี่ยเหมาะกับน้ำส้ม? เฮอะ แต่กินก็ได้วะ ผมดูดน้ำส้มไปอึกหนึ่งก็ได้ยินเสียงรถเข้ามาจอด ผมเงยหน้ามองอัตโนมัติ หวังว่าอาจเป็นเอมก็ได้
“ใครวะ?” แต่เสียงพึมพำด้วยความสงสัยของไอ้พีร์ทำให้ผมหมดความสนใจ รถสีขาวที่ไอ้พีร์ก็ไม่รู้ว่าเป็นของใคร ก็คงไม่ใช่เอมของผมแน่นอน...
“อ้าวเฮ้ย เอม มารถใครวะเนี่ย” ไอ้พีร์มันตะโกนเสียงดังแล้วเดินเข้าไปที่โตโยต้าสีขาวคันนั้น ผมเงยหน้ามอง รูปร่างที่ผมคุ้นเคย ใบหน้าสดใส เอมยังน่ารัก น่ารักเหมือนวันแรกที่ผมเห็น  แต่วันนี้เอมดูพิเศษไปกว่าเดิม มันคืออะไรกันนะ...

เจิดจ้าไงล่ะ...

วันนี้เอมดูเจิดจ้า... ผมสงสัยที่มาของความเจิดจ้าในตัวเอม และเมื่อผมได้เห็นอีกคนที่เดินก้าวลงมาจากรถ ความสงสัยของผมก็กระจ่าง...

“เอม เพื่อนมึงมารอแน่ะ แล้วนี่ใครเนี่ย”
“คนนี้คือพี่จินครับ เป็น... เอ่อ...” เสียงหวานที่ผมชอบฟังเสมอกำลังจะแนะนำไอ้ผู้ชายคนนั้นให้กับไอ้พีร์ ผมรู้โดยอัตโนมัติว่าไอ้หมอนี่... คือคนเดียวกับที่ส่งรูปส้นตีนพวกนั้นมาให้เอม...
“ผมเป็นแฟนของเอม” หึ.. ไอ้หน้าด้าน  คนอย่างมึงไม่คู่ควรจะเป็นเจ้าของเอมหรอก..

ผมพยายามคิดเข้าข้างตัวเองต่างๆนาๆ แต่สีหน้ามีความสุขของเอมทำให้ผมอยากจะเป็นบ้า ทำไม... ทำไมเอมถึงดูมีความสุข ทำไมเอมถึงยิ้ม เอมชอบที่อยู่กับมันเหรอ ไม่จริงหรอก เอมต้องชอบที่ได้อยู่กับผมสิ..

ภาพของเอมเวลาที่อยู่กับผมมันผุดขึ้นมาเป็นฉากเหมือนหนังสั้น เอมที่พูดคุย ยิ้ม และหัวเราะ... แต่ไม่ได้ดูสดใสเหมือนตอนนี้... ตอนที่อยู่ข้างๆมัน...

“แล้วพี่พีร์บอกว่าใครมาหาเอมเหรอครับ”
“อ๋อ ก็ไอ้ตองไง มันนั่งอยู่นั่นน่ะ” ผมเห็นสายตาตกใจของเอมที่มองมาที่ผม ใจผมมันหล่นวูบ สารพัดสิ่งที่ผมคิดเข้าข้างตัวเองมาตลอดมันหายไปกับสายลม เหมือนกับคลื่นที่พัดสูงสุดและก็ยุบตัวมารวมกับผืนน้ำเบื้องล่างในพริบตา ต่อให้ผมคิดเข้าข้างตัวเองแค่ไหน ความจริงที่เห็นอยู่มันก็ชัดเจนยิ่งกว่า...

ต่อให้ไม่มีไอ้หมอนี่... เอมก็เป็นได้แค่เพื่อนสำหรับผม...
และที่ผมเข้าใจยิ่งกว่านั้นก็คือ เอมดูมีความสุขแค่ไหนเวลาที่อยู่ข้างๆมัน...

“ตอง... มีธุระอะไรหรือเปล่า” เอมเดินมาหยุดตรงหน้าผม เสียงเอมดังอยู่ใกล้ผมเหลือเกิน ความมั่นใจและหยิ่งทะนงของผมในตอนแรกยิ่งหดเหลือน้อยลงเมื่อรับรู้ได้ว่าเอมกลัวผม... ผมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตา ...เพราะรู้ว่าตัวเองทำตัวน่าเกลียดแค่ไหนเมื่อคืนนี้..

“ถ้าตองจะมาคุยเรื่องเมื่อคืน เราจะขอให้คิดเสียว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้มั้ย...” ผมมองเห็นแล้ว ตากลมโตที่มีน้ำตาคลอ ผมทำอะไรลงไป... ความเห็นแก่ตัว ความหลงตัวเองของผม... มันทำลายความรู้สึกของเอมไปจนหมด..
“เราขอโทษนะเอม เราขอโทษจริงๆ ” น้ำตาผมหยดผ่านแก้ม รู้สึกโกรธตัวเองเมื่อนึกถึงสิ่งที่ทำลงไป ยิ่งเอมจับมือผมเอาไว้อย่างอ่อนโยนแบบนี้ก็ยิ่งเกลียดตัวเอง...


***********************************************************


“เราไม่โกรธแล้วละตอง...” ผมพูดเสียงอ่อน ความโกรธหายไปหมดเลยจริงๆครับ คนเราจะรู้สึกผิดจริงหรือไม่จริงเนี่ย มันไม่ได้ดูยากหรอกนะ ถ้าคุณไม่ใช่คนโกหกเก่งจริงๆน่ะ และผมก็มั่นใจว่าตองไม่ใช่คนที่โกหกเก่งแน่นอน

ผมอดไม่ได้ที่จะดึงตองให้มากอดเอวผมไว้ ผมรู้สึกได้ถึงน้ำตาชื้นๆที่ตรงท้อง และก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรต่อก็มีมือมาแตะที่ไหล่ผม
“มีอะไรกันหรือเปล่าครับ” อื้อหือ พระเอกมาเสียแล้ว สงสัยงานจะงอกก็คราวนี้ละ..
“ไม่มีอะไรครับพี่จิน เพื่อนเอมแค่มีปัญหานิดหน่อย” ผมรู้สึกได้ถึงแรงบีบแน่นขึ้นตรงเอว แรง... แรงจนเหมือนว่าเล็บจะจิกลงบนผิวเนื้อ หลังของตองสั่นเท่าเพราะสะอื้น ผมมองเห็นสายตาที่พี่พีร์มองมาแล้วก็แอบแปลกใจเล็กๆ มันแปลกๆนา...
“เราไม่เป็นอะไรแล้วละเอม ขอโทษนะ...” พอพี่จินเดินถอยออกไป ตองก็เงยหน้าขึ้นมา ผิวหน้าเนียนแดงช้ำเพราะร้องไห้ สายตาเศร้าของตองทำให้ผมรู้สึกแย่ไปด้วย แต่ผมเชื่อ... เชื่อว่าวันเวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น...
“เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมนะตอง” ผมบีบมือตองเอาไว้และยิ้มให้ ตองลุกยืนขึ้นและเอามือถูหน้าแรงๆ ปลายจมูกโด่งเป็นรอยแดงนิดๆ
“ไปละ ขอให้...มี... ความสุขมากๆนะ” ประโยคสั้นๆแต่ผมรู้ว่ามันพูดออกมายากแค่ไหน ตองเดินไปแล้ว ผมได้แค่ยืนมองตองเดินไป
“เดี๋ยวกูไปส่ง” อะ...พี่พีร์มาอารมณ์ไหวหว่า มาบอกจะไปส่งตอง แต่อุ๊ย ไม่สำเร็จแน่ละ เพราะตองมันเดินลิ่วออกไปไม่รอเลย พี่พีร์หันมาทำท่าคั่นเวลากับผมแล้วรีบวิ่งไปขึ้นรถ ก่อนจะขับตามตองออกไป

“เอม ไม่มีอะไรกันใช่มั้ย” เย้ย! พี่จินมามาดนิ่งซะผมปรับอารมณ์ไม่ทันเลย ทำไมถึงจมูกไวแบบนี้คร้าบบบ
“ก็... นิดหน่อยครับ แต่ไม่มีอะไรแล้วแหละ” ผมพยายามทำท่าออดอ้อนโดยการเข้าไปเกาะเอวพี่จิน ใบหน้าคมยิ้มนิดๆ ผมรู้นะว่าพี่ชอบที่ผมเข้าไปนัวเนีย > <
“ไม่มีก็ไม่มี แต่เอมจำไว้นะครับ ถ้ามีอะไรแล้วไม่บอกพี่ ปล่อยให้พี่รู้ทีหลังเนี่ย เอมจะโดนไม่ใช่น้อย” เสียงอ่อนโยนและท่าทางที่แสนใจดี ขัดกับแววตาอำมหิต พี่จินจูบหน้าผากผมแล้วทิ้งท้ายไว้แบบนั้นก่อนจะเดินหล่อขึ้นรถแล้วขับออกไป...

ผมนั่งเหวอแดกกับท่าทางซาดิสม์ของพี่จินอีกอึดใจ ก่อนจะคิดได้ว่าผมกำลังรับจ๊อบหาเงินกินขนมอยู่ ถ้างานเสร็จไม่ทันกำหนด ไม่แคล้วว่าจะได้ทำงานชดใช้ต่ออีกจนเปิดเทอม


ผมนั่งทำงานไปเพลินๆ ผ่านไปประมาณชั่วโมงนึงพี่พีร์ก็กลับมา ผมกำลังจะอ้าปากถามว่าตกลงได้ไปส่งตองหรือเปล่า พี่พีร์ก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน

“เอม ไอ้เพื่อนมึงคนนี้เนี่ย แม่งโคตรเงียบซะจนพี่ใบ้ตามเลยว่ะ” พี่พีร์พูดแล้วหยิบบุหรี่มาจุดสูบ ควันลอยโขมงจนผมต้องหันหน้าไปสำลักควันทางอื่น
“อ้าวเฮ้ย โทษทีๆ พี่ลืมไปว่ามึงไม่ชอบควันบุหรี่” พี่พีร์ใช้เท้าขยี้บุหรี่ให้ดับแล้วหยิบหมากฝรั่งออกมาเคี้ยวแทน
“ตองก็เป็นคนเงียบมาตั้งแต่แรกแล้วครับพี่พีร์” ผมยิ้ม จับสัมผัสบางอย่างได้... หึหึ เสร็จผมแน่ไอ้พี่พีร์
“พี่ก็พยายามชวนมันคุยนะ แต่มันก็คอยจะหันหน้าหนี แล้วทำเสียงจิ๊จ๊ะว่ะ”
“พี่ก็อย่าไปเซ้าซี้ ตองเขาขี้รำคาญคนพูดมาก” ผมแอบกัดพี่พีร์เสียหนึ่งทีแล้วก็รีบชิ่งไปทำงานต่อ ปล่อยให้เขายืนประมวลผลอยู่ตามลำพังอย่างนั้นแหละ เชื่อเหอะ จนเย็นมันก็คิดไม่ออกหรอกว่าผมหลอกด่า 55+


พอช่วงเที่ยงๆพี่จินก็มารอพาผมไปกินข้าวตามที่บอกไว้ ผมเป็นคนจัดรายการว่าจะพาพี่จินไปเปิบพิสดารที่ไหนดี และก็เตือนตัวเองว่าต้องไม่ลืมซื้อข้าวกลางวันมาเผื่อพี่พีร์ด้วย

ร้านที่ผมพาพี่จินไปกินเป็นร้านข้าวซอยเจ้าประจำ ผมคิดว่าพี่จินน่าจะชอบ แต่ดูเหมือนว่าพี่จินเป็นคนกินง่ายพอสมควรแฮะ เพราะขนาดของที่ไม่เคยกินมาก่อน พี่จินก็ไม่ลังเลที่จะลองชิมดู
“พี่ว่ามันก็อร่อยดีนะครับไอ้ข้าวซอยเนี่ย”
“ดีจังครับที่พี่จินกินง่าย ไม่เหมือนเพื่อนเอมคนนึงที่มันกินย๊ากยาก ชาวบ้านเขากินได้ มีไอ้นี่คนเดียวกินไม่ได้” ผมหมายถึง ’กิ’ น่ะครับ ไอ้หมอนี่มันกินยากจริงๆนะ อะไรที่ไม่เคยกินมาก่อนเนี่ย อยากจะให้มันลองชิมยังยากกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาอีก อย่างข้าวซอยร้านป้าที่พวกผมโปรดปรานกันสุดๆ กว่าไอ้กิมันจะยอมลองชิมก็ปาไปเป็นเทอมแล้วแหละ
“แต่ถ้าเป็นพวกหนอนอะไรนะ ที่เขาขายๆตามรถเข็นอ่ะ พี่ไม่กินนะ รับไม่ได้” พี่จินทำท่าขนลุกประกอบ แหม ผู้ชายตัวเบ้อเริ่มไม่กล้ากินหนอน แต่เอาเถอะเรื่องหนอน เพราะผมก็ไม่กินเหมือนกัน > <

“เดี๋ยวสั่งกลับไปให้พี่พีร์แป๊บนึงนะครับ” จนจะคิดเงินอยู่แล้วผมถึงเพิ่งนึกออกว่ายังไม่ได้สั่งเผื่อพี่พีร์เลย ผมหันไปสั่งอาหารกับน้องเด็กเสิร์ฟ พอหันกลับมาก็เห็นพี่จินทำหน้านิ่ง
“มีอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมพี่ทำหน้าแบบนั้นละ” ผมแปลกใจ ตอนแรกยังยิ้มๆอยู่เลย แล้วทำไมตีหน้ายักษ์ซะงั้น
“เปล่าหรอกครับ ว่าแต่เอมสนิทกับพี่รหัสมากเลยเหรอ” พี่จินยิ้มแต่เสียงไม่ยิ้มอะ แค่นี้ผมก็รู้แล้วว่าพี่จินหมั่นไส้พี่พีร์ชัวร์ จากประสบการณ์ตั้งแต่สมัยที่คบกับพี่เปปเปอร์ เวลาพี่จินเห็นผมคุยอยู่กับพี่เปปเปอร์ก็จะชอบเข้ามากวนตีนใส่ ทำตาขวางๆ ทำท่าหาเรื่องแบบนี้เลยละครับ
“พี่เขานิสัยดีกว่าที่เห็นนะครับ” ผมพยายามจะไม่พูดถึงพี่พีร์ในแง่ดีมากเกินไป ไม่งั้นอาจจะเป็นชนวนก่อให้เกิดการหมั่นไส้มากขึ้น เหอะๆ
“อืม” พี่จินยกน้ำขึ้นมาจิบ ผมมองแบบตุ๊มๆต่อมๆ จะเข้าใจง่ายๆหรือเปล่าว้า “พี่ว่าคืนนี้เราคงต้อง ‘คุย’ กันยาวแล้วแหละ พี่อยากจะรู้เรื่องเพื่อนๆแล้วก็คนรู้จักของเอมให้หมดเลย” แง้! พี่จินไม่เข้าใจอะไรเลยง่ะ


บ่ายทั้งบ่ายวันนั้นผมได้แต่ประสาทแดก เพราะว่าถูกท่าทางใจดีของพี่จินหลอกให้คล้อยตามจนลืมไปแล้วว่าคนๆนี้งี่เง่าไม่แพ้ใครในโลก แถมเวลาโมโหก็บ้าสุดๆ

“เป็นไรวะมึง ถอนหายใจอยู่ได้” พี่พีร์เดินแทะกระดูกไก่มาที่ผม มือหนึ่งพี่แกยังถือชามข้าวซอยอยู่เลย อ๊ะ เฮ้ย พี่พีร์มันแอบกินลูกชิ้นปลาระเบิดผมอ้ะ
“เรื่องหัวใจ” ผมตอบเสียงขุ่น เพราะแกแท้ๆไอ้พี่พีร์ ผมแอบเคืองทั้งที่พี่พีร์มันไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลยนะ
“อะไรวะ แล้วมาทำเสียงงี้ใส่พี่ทำไมเนี่ย” พี่พีร์พูดแล้วพ่นกระดูกไก่ใส่ถุงก๊อบแก๊บ อี๋ หล่อเสียเปล่าทำตัวซกมก
“ก็เพราะพี่แหละแม่ง ทำแฟนผมหึง!”
“แฟนมึง? ใครแฟนมึง? อ๊ะ... อย่าบอกนะว่าไอ้หล่อนั่น!!” ฮึ้ยยยยยย ผมละอยากจะกระชากหัวไอ้พี่พีร์มาตบนัก มันจะโวยวายทำไมเนี้ยยย
“ก็ใช่สิ คนนั้นแหละ คนเดียวกับที่ผมเล่าให้พี่ฟังเมื่อวานอ้ะ”
“อ้าว ไหนมึงบอกว่าอยู่ไกลกันไง ทำไมแค่วันเดียวมันก็มาอยู่ใกล้มึงแบบนี้แล้วอะ”

เมื่อดูท่าว่าเรื่องราวจะบานปลาย ผมจึงตัดสินใจจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง ก่อนที่ไอ้พี่พีร์จะคิดไปเองจนใหญ่โต พอผมเล่าจบ ดวงตาขวางๆของพี่พีร์ก็ดูชั่วขึ้นมาถนัดตามันหัวเราะเสียงต่ำแล้วบีบไหล่ผมแน่น
“มึงบอกว่าแฟนมึงขี้หึงใช่มะ งั้นเดี๋ยวพี่จัดการให้เองนะ”
เฮ้ย ไม่อ๊าวววววววววว~

ผมรู้มาแต่แรกแล้วว่าพี่พีร์หล่อ รวย เท่ห์ กินเหล้าเก่ง สูดนิโคตินเข้าปอดเหมือนหายใจเอาอ๊อกซิเจนธรรมดา ฯลฯ เรื่องชั่วๆของพี่พีร์ผมก็คิดว่ารู้มาหมดแล้ว แต่ไม่นึกเลยว่าเวลาพีพีร์กวนตีนจะมากขนาดนี้...
“อ้าวเอม นั่นแฟนมึงนี่หว่า” พอพูดจบมือใหญ่ของพี่พีร์โอบไหล่ผมไว้แน่น มึงไม่เอาเชือกมามัดกูไว้กับตัวมึงเลยละครับพี่!!
ผมเห็นแต่ไกลว่าพี่จินทำหน้ายังไงเมื่อเห็นพี่พีร์โอบไหล่ผมไว้แบบนี้ โมโห สงสัย แปลกใจ โอ๊ยสารพัดอะครับ วันนี้ไม่ไอ้เอมก็พี่พีร์เนี่ยละไม่ตายดี
“ไปๆ กลับบ้านได้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อ” แอร๊ย! พี่พีร์ลูบหัวผมอ่ะ มันเล่นเนียนมากเลยนะนี่ ผมเลยเอามือผลักพี่พีร์ให้ออกห่าง พี่จินก็กำลังเดินมาใกล้ แต่ไอ้พี่พีร์ก็ไม่ปล่อยผมสักที
‘พี่พีร์แม่ง เล่นอะไรเนี่ย’ ผมกระซิบเสียงขู่ พี่จินมันเดินมาจะถึงแล้วนะเว้ย
‘ก็พี่อยากรู้ว่าแฟนมึงขี้หึงแค่ไหนอะ ดูดิ แม่งเหมือนมีเขี้ยวงอกเลยว่ะ ฮ่าๆ’ โอ๊ย ยังจะหัวเราะอีก กูจะบ้า T T ผมมองหน้าพี่จินแล้วก็รู้สึกแบบที่ไอ้พี่พีร์มันพูดครับ หน้าพี่จินโคตรนิ่ง ตาก็ดุ เหมือนกับจะกัดหัวใครได้แล้วอย่างนั้นแหละ

“มีอะไรหรือเปล่า?” อู๊ยยยย เสียงพี่จินยังกับน้ำแข็งขั้วโลกเหนืออะ ผมจับทิศทางได้ว่าพี่จินมันจ้องไปที่มือไอ้พี่พีร์ที่โอบผมอยู่ ผมแอบใช้เล็บจิกเนื้อพี่พีร์แต่มันก็ไม่รู้สึก นี่มันเนื้อคนหรือหนังควายเนี้ย!

“เปล่าหรอกครับ ก็แค่เอ็นดูน้องมันเฉยๆ พี่น้องกัน เอ็นดูกันไม่ได้เหรอครับ?” พี่พีร์ยักคิ้วใส่แล้วยิ้มแบบที่ผมก็ดูออกว่ามันเสแสร้งสุดๆ ขนาดเป็นผมยังอยากจะตบให้หัวทิ่มเองเลยครับ - -*
“ถ้าเอ็นดูเสร็จแล้วก็ช่วยปล่อยได้มั้ยละครับ นี่ก็เลิกงานแล้วไม่ใช่เหรอ?” บราโว่ พี่จินของผมยังคงใจเย็นอยู่ แต่สีหน้าดูร้อนจัดเลยนะ
“เอ... ผมก็ไม่รู้ว่าผมเอ็นดูเสร็จแล้ว แต่น้องเขาอยากจะเปลี่ยนมาดูเอ็นผมแทนมั้ย... โอ๊ย!” ไม่ต้องตกใจครับ เสียงไอ้พี่พีร์เนี่ยแหละ รู้สึกว่ามันจะเล่นแรงไปแล้วละ ผมก็เลยจัดการใช้ส้นกระทืบเท้าพี่พีร์เต็มรัก นึกสภาพดูนะ ผมโคตรโกรธอะ พูดอะไรซกมกขนาดนี้วะแม่ง
“พี่พีร์นิสัยว่ะ ผมโกรธแล้วนะเนี่ย เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง ไม่ต้องมาคุยด้วยเลย” ผมเตะเจาะยางพี่พีร์แล้วก็รีบวิ่งไปหาพี่จินที่ทำหน้างงปนสะใจเล็กๆ ได้ยินเสียงพี่พีร์ร้องโอดโอยขอโทษมาตามลม แต่ผมไม่สนอะ โกรธแม่ง! ต้องรีบไปให้พ้นจากตรงนี้ก่อนที่ผมจะเดือดจัดจนเอาพู่กันฟาดหัวพี่พีร์!!


“ทำไมไอ้นั่นมันถึงทำแบบนั้น” พี่จินถามผมขึ้นมาเป็นประโยคแรกหลังจากที่ขับรถออกมาจากบริษัทพี่พิงค์ได้ไม่กี่อึดใจ สีหน้าพี่จินดูรีแล็กซ์ขึ้นแล้วละครับ ไม่มีแววอำมหิตเหมือนตอนแรก - -“
“ก็เขากวนตีนน่ะสิครับ... พอเอมบอกว่าพี่เป็นแฟนเอม เขาก็บอกว่าอยากจะรู้ว่าพี่ขี้หึงมากแค่ไหน...” ผมลืมคิดไปว่าพี่จินจะโกรธไหมถ้าผมบอกคนอื่นๆว่าพี่จินเป็นแฟนผม แต่เมื่อพูดออกไปแล้ว ก็คงต้องพูดต่อให้จบอะนะ...
 
“แล้วเอมว่าแฟนของเอมขี้หึงมั้ย” ผมเงยหน้ามองพี่จินเหมือนไม่เชื่อหู พี่จินบอกว่า ‘แฟนของเอม’ หน้าตาก็ดูยิ้มน้อยๆ พี่จินไม่โกรธใช่มั้ย?

“เอม...ว่า...แฟนของเอม...ขี้หึงครับ...” อึ๋ย เขินอ้ะ ถ้าพูดออกไปโดยไม่ได้คิดอะไรยังไม่เขินแบบนี้เลยนะ แต่เนี่ยผมต้องมาพูดเน้นๆ ว่า แฟนของเอม แฟนของเอม...

พี่จินเป็นแฟนของเอมล่ะ >//<

เอี๊ยดดดดดดดดดดด!
“เหวอ!!!!!!!” ผมร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆพี่จินก็เลี้ยวหักศอกเข้าข้างทาง โชคดีที่ว่าเริ่มมืดแล้ว ถนนก็เลยโล่ง หัวใจผมเต้นตึกตักๆ และยิ่งเต้นแรงจนแทบจะทะลุอกเมื่อรู้สึกว่าพี่จินโน้มหน้ามาใกล้ผมเหลือเกิน...
“ตกใจเหรอ... กลัวหรือเปล่า” มืออุ่นของพี่จินแตะเบาๆที่แก้มผม เหตุการณ์ทุกสิ่งทุกอย่างก่อนหน้านี้มันเลือนหายไปหมดเลยครับ ผมมองเห็นผิวของพี่จินอยู่ใกล้แค่คืบ เหมือนว่าจะได้กลิ่นของพี่จินด้วย...
“พี่เป็นคนขี้หึงรู้มั้ย พี่หวง... ของๆพี่ พี่ไม่อยากให้ใครมาแตะต้อง พี่รักของพี่ พี่เฝ้ามองของพี่มาตลอด หากจะมีใครสักคนที่จะมาแตะต้องของๆพี่ได้ คนนั้นก็จะต้องเป็นพี่...เท่านั้น” ริมฝีปากของพี่จินแตะลงมาอย่างแผ่วเบาและค่อยๆแทะเล็มไปอย่างไม่เร่งร้อน ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร ผมก็ยิ่งรู้สึกร้อนจนเหมือนจะละลาย
“อื้อ...” เสียงรสจูบดังท่ามกลางความเงียบ พี่จินผละออกไปแล้วและเปลี่ยนมาหอมแก้มของผมฟอดใหญ่ ผมหลับตาปี๋ ไม่อยากมองหน้าพี่จินเพราะมันเขิน ให้ตายเถอะทำไมผมอ่อนไหวง่ายแบบนี้ > <
“พี่ว่ากลับบ้านดีกว่านะ เดี๋ยวจะได้เล่นหนังสดโชว์ผู้คนบนท้องถนนซะก่อน” ผมเห็นนะว่าพี่จินพูดแล้วยิ้มกริ่ม ฮึ่ม คนลามก!!



ปล.ขอโทษที่ให้รอนานค่ะ เนื่องจากงานเร่ง + ทะเลาะกับคุณแฟน (อันหลังเรื่องใหญ่มาก 555)
ก็เลยทำให้ล่าช้าไปเยอะ แล้วก็อยากจะบอกว่า วันหยุดอีกสามวันนี้ จะหายยาวเลยค่ะ
เพราะว่าจิกลับบ้านนอกที่แสนคิดถึง ขอไปสูดอากาศหนาวๆจั๊กหน่อยค่า
ปล.2 พยายามจะตามบวกคืน แต่อาจบวกได้บ้างไม่ได้บ้าง ต้องขออภัยจริงๆค่ะ
  :call:

กอดทุกคน  :กอด1:




ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
มัวแต่อ่าน สงสัยจะจิ้มคนแต่งไม่ทัน ฮ่าๆๆ

moriku

  • บุคคลทั่วไป
พี่พีร์กวนตีนอย่างแรงอ่ะ5555

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4
จินจ๋าาาาาาาาาา

รักจินๆๆ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ชอบพี่จินตอนหึง ๆ นี่แหละ  อิ อิ อิ ซาดิสต์ว่ะเรา

sakurazaka

  • บุคคลทั่วไป
พี่จินหึงได้น่ารักจัง ว่าแต่เบรกรถอย่างนั้นอันตรายนะเนี่ย

ขอให้เที่ยวให้สนุกนะคะ

ออฟไลน์ yang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1:
เขินมากกกกกกกกกกกกกกกก


แฟนของพี่ !!!

ออฟไลน์ CofFee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
เอิ๊กๆ พีร์กับตอง สงสัยจะมีซัมติงวองก์ซะแล้ว   :-[ :-[ :-[ :-[

จินหื่นจริงๆ   :haun4: :haun4: :haun4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
เขินแทนน้องเอม :-[

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ชอบจัง แฟนของเอม  :impress2:
1+จ๊า

ออฟไลน์ khuan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 353
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
                          :กอด1:

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :impress3:  น่ารักมาก

พี่จินขี้หึง  พี่พีร์ก็กวนตีนๆ   :laugh:

ออฟไลน์ duck-ya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พี่จินหึงน่ารัก
 :-[

ออฟไลน์ penda

  • ~~^v^~~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
พี่จินกลับมาก็น่ารักเชียวเรื่องนี้
ดีใจกับนายเอกด้วยที่หัวใจกลับมาแล้ว
ฮิ้ววววว(เลียนคำตัวเอง เหอๆ)

 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ powvera

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3
"แฟนของเอม"

พูดไปแล้ว   :-[    :-[   :-[


ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
เรื่องของคนอื่นน่ะ รู้ไวเชียวนะ

พอเรื่องของตัวเองล่ะก็ .......... ช้าาาาาาาาาาาาาาาาาา

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
อะคึ อะคึ กลับไปถึงบ้านเนี่ยสงสัยพี่จินต้องรีบชักชวนน้องเอมทำการบ้านทันทีแน่เลย ก็น้องเอมน่ารักขึ้นทุกวันนี่เนอะ
 คู่นี้น่าจะสมกั๊น สมกันนะ พี่พีร์กะน้องตอง คนหนึ่งก็พูดซะ อีกคนก็เงียบซะ อิ อิ

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Love Sick [-15-]
«ตอบ #239 เมื่อ13-12-2011 17:09:13 »

Love Sick

- 15 -


“วานิลลา เด็กดี หิวมั้ยคร้าบบ” เจ้าเหมียวขนฟูวิ่งหางชี้เข้ามาหาเมื่อได้ยินเสียงประตูหน้าบ้าน วานิลลากระโดดเกาะหมับเข้าที่ขากางเกงยีนส์ของผมแล้วก็ใช้เล็บจิกแน่น เอ่อ... นี่เป็นนิสัยเสียของวานิลลาในช่วงนี้น่ะครับ หลังจากวันแรกที่มาอยู่วานิลลาเอาแต่นอนลูกเดียว พอวันที่สองเท่านั้นแหละก็ซนอย่างกับลิง แล้วเวลาเห็นคนใส่กางเกงยีนส์มันก็จะชอบกระโดดเกาะด้วยละครับ ห้ามก็ไม่ฟัง - -* ว่ายากเหมือนใครก็ไม่รู้
“ไหนให้พี่เอมหอมหน่อยสิ” วานิลลาดิ้นดุ๊กดิ๊กตอนที่ผมอุ้มขึ้นมา มันห่วงเล่นน่ะครับ เหอะๆ แต่ผมก็คิดถึงมันทั้งวันเหมือนกันอะ อยากฟัดขนนุ่มๆจะตาย
“เดี๋ยวขนก็เข้าจมูกหรอกครับเอม” พี่จินที่เดินตามเข้ามาทีหลังพูดขึ้น ผมทำแก้มป่องแล้วฟัดเจ้าเหมียวน้อยต่อ
“ต่อให้เอมเป็นภูมิแพ้ เอมก็จะฟัดมันแบบนี้แหละ เชอะ”
“เด็กดื้อ” พี่จินขยี้หัวผมแล้วเดินไปนั่งบนโซฟา ก่อนจะกวักมือเรียกให้ผมไปใกล้ๆ
“มานั่งนี่มา”
ผมเดินไปนั่งข้างพี่จิน วานิลลาก็ยังคงอยู่ในอ้อมกอด เจ้าลูกขนฟูๆเอามือตะปบเสื้อผมอย่างเมามัน น่ารักอ้ะ > <
“วันนี้งานเป็นยังไงบ้าง ไปถึงไหนแล้ว”
“ก็วาดได้อีกเยอะเลยครับ เอมคิดว่าอีกไม่เกินห้าวันก็เสร็จ ถ้ามีงานแบบนี้บ่อยๆก็ดีนะครับ เพราะว่ามันเป็นงานแบบที่เอมถนัด แล้วค่าตอบแทนก็ดีด้วย” คำนวณโน่นนี่นั่นแล้ว เงินที่ได้รับยังเอาไปเก็บไว้เผื่อฉุกเฉินได้อีก หุหุ หวาน~
“พี่ก็ว่าจะพูดเรื่องนี้อยู่... พี่กะว่าจะไม่ให้เอมรับงานแล้วละนะ” ผมหันควับไปมองคนที่พูดเรียบเรื่อยด้วยอารมณ์งุนงง
“แล้วถ้าเอมไม่รับงานพิเศษ จะเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่ายละครับ”
“ก็ไม่ต้องหาเงิน พี่จะดูแลเอมเอง” ปรี๊ดดดดดเลยครับ!
“ได้ยังไง? พี่จินจะมาเลี้ยงเอมยังงั้นเหรอ เอมรู้ว่าพี่จินรวยนะครับ แต่ไม่มีความจำเป็นที่พี่จะต้องเอาเงินของพี่มาให้เอมช่วยใช้ งานพิเศษที่เอมทำมันไม่ได้ลำบากเลย นานๆทีเอมถึงจะรับงาน แถมค่าตอบแทนก็สูง เรื่องค่าเล่าเรียนเอมก็ได้ทุน พี่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้หรอก!” ผมพูดเสียงเหวี่ยง มันหงุดหงิดบอกไม่ถูก แค่ลำพังตอนนี้ผมรับรู้ว่าพี่จินรวย ผมก็รู้สึกแตกต่างราวฟ้ากับเหวอยู่แล้ว พี่จินมีอนาคตสดใสรออยู่ แต่ผมเนี่ยต้องตะเกียกตะกายแทบตายกว่าจะได้สิ่งที่ต้องการ ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ได้อยากจะให้ใครพูดได้ว่าผมรักพี่จินที่เงิน
“เอมใจเย็นๆ พี่ไม่ได้ดูถูก ไม่ได้คิดจะใช้เงินซื้อเอม แต่พี่แค่อยากให้เอมเก็บเงินที่เอมหามาได้ไว้ต่างหาก เอมอยู่กับพี่ พี่ก็ต้องดูแลเอมให้ดีไม่ใช่เหรอ แบบนี้มันก็เหมือนว่าเอมฝากชีวิตไว้กับพี่แล้วนะ” หา? อยู่กับพี่?
“พี่จินหมายความว่ายังไง อยู่กับพี่งั้นเหรอครับ? เอมแค่จะมาอยู่ชั่วคร-” ผมพูดไม่จบนิ้วเรียวยาวก็มาแตะริมฝีปากผมให้หยุดพูด
“ชู่ว์... อย่าพูดว่าจะมาอยู่ชั่วคราวเด็ดขาดนะ เอมหลวมตัวมาที่นี่แล้ว ก็ต้องอยู่ไปตลอดจนกว่าพี่จะคิดย้ายไปที่อื่น ถ้าเอมไม่อยู่กับพี่ เอมก็จะไม่ได้เจอวานิลลานะครับ เพราะพี่ไม่มีทางให้เอมเอาวานิลลาไปอยู่ในห้องแคบๆแน่ แมวน่ะ ต้องอยู่ในที่กว้างเพียงพอกับการวิ่งเล่นนะ และก็อย่าคิดที่จะไปๆมาๆ เพราะพี่บอกแล้ว ถ้ามา ก็ต้องมาถาวร” พอพี่จินพูดจบผมก็อ้าปากค้าง โอ้มายก็อด....
“อ้าปากค้างแบบนี้ทำไมกัน ไม่เรียบร้อยเลย“ พี่จินเอามือบีบคางผมให้หุบปาก ก่อนจะแตะจูบเบาๆ ตัวผมเองก็เหวอไปเรียบร้อย คิดไม่ออกด้วยซ้ำว่าจะทักท้วงว่ายังไง รู้สึกเหมือนตัวเองเดินมาติดหลุมพรางเองง่ะ ไหนจะกับดักน่ารักๆแบบวานิลลา ไหนจะชอบที่ได้อยู่กับพี่จิน ไหนจะไม่อยากกลับไปอยู่ร่วมกับตองสองต่อสอง...

โอย.....

อยากจะบ้า!!

ผมเหลือบมองวานิลลาที่กระโดดแผล็วไปจากตักผมแล้วก็กระโดดวิ่งเล่นไปทั่ว อา...วานิลลาคงไม่เหมาะกับห้องแคบๆจริงๆแหละ แถมยิ่งพอผมหันมามอง... คนที่นั่งวางท่าเป็นองค์ชายข้างผมเนี่ย... ขายาวๆ ใบหน้าหล่อที่ชอบยิ้มมุมปากน้อยๆ มือที่คอยจะมาลวนลามลูบไล้ตัวผม...

“เอมอยู่กับพี่จินก็ได้...”  ผมก้มหน้างุด อายว่ะ รู้สึกเหมือนเป็นเด็กใจแตกเลยแฮะ - -“
“เด็กดี มาให้พี่กอดหน่อยสิ” พี่จินยิ้มอย่างพอใจแล้วก็ดึงตัวผมไปนั่งตัก... อะ...ทะ...ท่านี้... เหมือน...เมื่อคืนนั้น...เลย
“อื๊อ พี่จินปล่อยนะ!” ผมดิ้นสุดฤทธิ์ พี่จินกลับกอดผมไว้แน่นมากขึ้น เสียงหัวเราะในลำคอบ่งบอกว่าพี่จินสนุกสนานมากแค่ไหนที่ทำให้ผมอายได้
“ทำไมละ ไม่ชอบที่ได้อยู่ใกล้พี่เหรอครับ? หืม เจ้าจิ๋ว” อ๋า! อย่ามาเรียกผมว่าจิ๋วนะ > <
“ฮื้อ พี่จินอย่าเอาจมูกมาถูแก้มเอมแบบนี้สิ... อ๊ะ แล้วนั่นอะไรแข็งๆ”
“อยากจับดูมั้ยละครับ หึหึ”
“ไม่อ๊าว ปล่อยนะคนลามก!!”
“ไม่ปล่อย ให้พี่กอดหอมให้หายคิดถึงเถอะ”
“อย่างพี่อ้ะ กอดทั้งวันหอมทั้งคืนก็ไม่พอหรอก ไอ้หื่น!”
“อ้าว ก็รู้นี่นา งั้นเอมจะได้เตรียมใจไว้เลยเพราะว่าพี่จะฟัดเอมไปโดยไม่หยุดพักอีกสามวันเลยละ” ผมระดมทุบๆที่ตัวพี่จิน แต่ก็เหมือนเอากำปั้นไปทุบหินละครับ ไม่สะเทือนเลย ยิ่งเห็นว่าผมทำอะไรไม่ได้ก็ยิ่งย่ามใจเอาปากขบเม้มตามซอกคอ คาง รวมถึงใบหูของผม ไอ้ร่างกายเจ้ากรรมก็ไม่รักดี จะไปโอนอ่อนตามเขาทำไมเนี่ยยยยยยย

“เมี้ยววววว~”

เสียงเล็กๆทำให้การกระทำทุกอย่างหยุดชะงัก ทั้งพี่จินและผมหันไปมองที่มาของเสียงซึ่งกำลังนั่งเอียงคอมองพวกผมอย่างสงสัยประมาณว่า ‘เล่นอะไรกันเหรอฮับ’ เจ้าก้อนขนเดินยักย้ายมาเกาะโซฟาตรงที่ผมถูกจับกดอยู่แล้วยกเท้าหน้ามาเขี่ยๆมือพี่จิน...

อ๊า~~~~~

น่ารักอ้ะวานิลลา~~~~

“พี่จินอะ เห็นมั้ย ทำอะไรอายวานิลลาบ้างสิ” ผมฉวยโอกาสที่พี่จินนั่งอึ้งขยับตัวออกมาจากอ้อมแขน มือทั้งสองของผมช้อนเจ้าตัวจิ๋วมาคลอเคลียที่ข้างแก้ม เหมือนว่าวานิลลาก็คงชอบที่ผมมาเล่นด้วย เพราะมันใช้อุ้งเท้าหน้าตบเบาๆที่แก้มผมกลับเหมือนกัน
“วานิลลาน่ารักที่สุดเลยมั้ยครับ น่ารักที่ซู้ดดดดเลยเนอะ พี่เอมพาวานิลลาไปหาอะไรกินดีกว่าเนอะ” ลูกผมน่ารักที่สุดอะ ขี้เล่นขี้อ้อน วันนี้วานิลลาเป็นเด็กดีช่วยให้พี่เอมหลุดรอดจากอุ้งเท้าพญามาร เพราะฉะนั้นวันนี้พี่เอมจะผสมอาหารเปียกให้กับอาหารเม็ดน้า > <b

“เอ่อ...แล้วพี่ละ...” สุดท้ายคนที่นั่งนิ่งก็รู้สึกตัว และก็เข้าใจเสียทีว่ามารผจญตัวเบิ้มก็คือเจ้าเหมียวขนฟูนั่นเองที่ได้รับการเอ็นดูจากชะเอมยิ่งกว่าตัวเขาเสียอีก
“ฮึ่ม ไอ้แสบวานิลลา” พึมพำแบบหงุดหงิดแล้วก็ตัดใจ วันนี้ไม่สำเร็จก็ยังมีวันหน้า ช้าๆได้พร้าเล่มงามสินะจินเจอร์...

***********************************************************

“อร่อยมั้ยครับวานิลลา” ผมมองเจ้าของเสียงหวานที่พูดจาจ๊ะจ๋ากับไอ้ก้อนขนนั่นด้วยความหมั่นไส้ ทีกับผมนะเอาแต่วิ่งหนี
“พี่จิน ไม่อร่อยเหรอครับ” เจ้าจิ๋วเสียงหวานทำตาเศร้าเมื่อเห็นว่าผมเอาแต่จ้องแมวจนไม่ยอมตักข้าว แกงจืดวุ้นเส้นหมูบะช่อใส่เต้าหู้ไข่ที่ผมรีเควส กับผัดพริกแกงไก่ใส่ยอดมะพร้าวยังส่งควันกรุ่น ผมมัวแต่หึงแมวสินะ ...
“อร่อยสิครับ แต่พี่อยากรอกินพร้อมเอมมากกว่านะ” ช่วยย้ายก้นจากพื้นมานั่งตักพี่แล้วป้อนข้าวพี่แทนการคลอเคลียแมวจะดีมากเลยครับ... เอ่อ... ขอโทษทีที่ผมคิดอะไรโจ่งแจ้งไปหน่อย
“เอมเพิ่งเคยทำครั้งแรก ปกติแค่เจียวไข่กับต้มไข่ ไม่รู้ว่าจะถูกปากพี่จินแค่ไหน แต่ถ้าพี่จินชอบ เอมจะทำทุกวันเลยนะครับ” ผมยิ้มกลับไปให้เจ้าของใบหน้ามุ่งมั่น แกงจืดนั้นแม้ว่ามันจะจืดไปนิด ผัดพริกแกงก็เผ็ดไปหน่อย แต่โดยรวมทำครั้งแรกได้ขนาดนี้ก็สุดยอดแล้วนะครับ ยิ่งเป็นของที่เอมทำให้ ผมว่ามันยิ่งอร่อยเลยแหละ

ไม่นานนักกับข้าวบนโต๊ะก็ถูกจัดการเรียบ ผมเห็นคนทำยิ้มหน้าบานก็มีความสุขไปด้วย ในฐานะที่เอมเป็นคนทำแล้ว ผมก็จะขออาสาล้างจานเอง ปล่อยให้คนกับแมวได้จี๋จ๋ากันต่อไปเถอะครับ
“อ๊ะ วานิลลา อย่าไปกวนปะป๊าสิครับ” หือ? ปะป๊า?
“เฮ้ย!” จู่ๆก็มีบางอย่างที่กระโดดมาเกาะขาผมเต็มรัก แล้วไต่ๆขึ้นมาจนถึงขอบกางเกงยีนส์ ผมก้มมองก็เห็นเจ้าแมวจิกเล็บแน่นบนยีนส์ตัวเก่งของผม อา...รอยเล็บเป็นทางยาวเลย ว่าแต่เมื่อกี้เอมพูดว่าอะไรนะ
“วานิลลา พี่เอมบอกว่าไม่ให้ไปกวนปะป๊าไงครับ” ชัดเลย ผมเป็น ‘ปะป๊า’ ของแมวเหมียวงั้นเหรอ?
“พี่เป็นพ่อแมวเหรอครับ?” พอผมถามแบบนั้นเอมก็ทำตาโต หน้าแดง ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
“..ใช่ครับ พี่จินตัวโต ก็ต้องเป็นปะป๊า..” ผมวางกองจานชามลงบนโต๊ะ ไอ้แมวแสบก็ยังเกาะขาผมอยู่แบบนั้น
“แล้วใครจะเป็นหม่าม้าละ...” ผมเกลี่ยนิ้วที่แก้มใสแดงเรื่อ ยิ่งอายพี่ก็ยิ่งหมั่นเขี้ยวนะเนี่ย...
“มะ...ไม่มีหม่าม้าครับ..”
“งี้เจ้าวานิลลาก็เป็นแมวกำพร้าสิ มีพ่อ แต่ไม่มีแม่...” อืม...ปากเล็กนั่นน่าจูบเสียจริง...
“เอมเป็นหม่าม้าให้วานิลลาไม่ได้เหรอครับ” ผมรุกต่อเมื่อเห็นเจ้าจิ๋วยังเงียบ หึหึ... วานิลลาทำดีมาก Good Job!
“อะ...เอมเป็นผู้ชายนะ”
“ก็ช่างมันสิ วานิลลาก็อยากให้เอมเป็นหม่าม้าใช่มั้ยครับ เหมียวๆ” ผมหิ้วคอเจ้าเหมียวที่เกาะขาผมอยู่ขึ้นมา จับเอาอุ้งเท้ามันเขี่ยๆแก้มเอม ในที่สุดผมก็รู้ละว่าจุดอ่อนเจ้าจิ๋วอยู่ที่ไหน...
“เป็น..เป็นก็ได้ครับ เอมเป็นหม่าม้าก็ได้” หึหึ เอาแมวมาล่อ คิดไม่ผิดจริงๆ...
“แล้วตอนนี้วานิลลาบอกว่าอยากมีน้อง งั้นหม่าม้ากับปะป๊าก็ต้องทำยังไงน้า..” ผมโยนแมวลงพื้น แล้วกระชับเอวของเอมให้มาแนบชิด ใบหน้าหวานเบิกตากว้าง แต่ผมไม่สนละจังหวะนี้ ไม่ต้องตกใจนะครับเอม เดี๋ยวพี่จินปลอบขวัญเอง..

เพียะ!!

“โอ๊ย!”

“ลามก! บ้า! ฉวยโอกาส!”

คงไม่ต้องบอกว่าหรอกนะว่าผมได้ทำน้องให้วานิลลาหรือเปล่า เพราะว่าการที่ผมมายืนล้างจานพร้อมกับรอยแดงห้านิ้วที่ต้นแขนเนี่ยมันคงอธิบายเรื่องได้ทั้งหมดแหละ..

แต่ถึงแม้จะถูกเล่นงานตอบโต้รุนแรง ผมก็ยังคงจินตนาการถึงร่างเปลือยเปล่าเร่าร้อนของเจ้าจิ๋ว โดยไม่รู้ตัวก็เผลอแสยะยิ้มน้อย ๆ ชนิดที่ถ้าเอมได้เห็นคงต้องรีบหนีห่างให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หึหึหึหึหึ

***********************************************************

รุ่งขึ้น

“ฮ้าววว~~”
“หาวแต่เช้า ง่วงอะไรนักหนาวะ” พี่พีร์ทักผมเสียงดัง ผมเห็นหน้าพี่พีรืแล้วก็นึกออกเรื่องเมื่อวาน หน้าผมก็เลยสะบัดหนีพี่พีร์โดยอัตโนมัติ
“อะไรวะ ยังโกรธพี่อยู่อีก โอ๋ หายงอนเถอะน้า” ผมกลั้นหัวเราะเมื่อได้ยินเสียงง้องอน ใครจะไปคิดละครับว่าพี่พีร์สามารถทำท่าปัญญาอ่อนได้ขนาดนี้
“แน่ะ หายโกรธแล้วสิ สงสัยสามีดูแลดีเลยไม่ได้นอนใช่มะ” ป๊าดดด ไอ้พี่พีร์ส้นตีน ผมว่าจะหายโกรธละ ดันกวนตีนผมซ้ำอีก
“ปากแบบพี่เนี่ยมันน่าคุยด้วยมะ” ผมเดินหนีไปหยิบที่คาดผมมาคาด ทำงานดีกว่า
“แหม แค่ล้อเล่นน่า เห็นคนมีความสุขพี่ก็อิจฉาอะนะ”
“พี่พูดยังกับว่าชีวิตพี่เนี่ยทุกข์มากมาย”
“ก็นิดนึงอะ อยากจะจีบคนแต่เขาก็ไม่สน” ผมหูผึ่ง พี่พีร์จะจีบคน? ใครเป็นผู้โชคร้ายกันนะ...
“แล้วพี่จะจีบใครละครับ ผมจะได้ไปบอกคนนั้นให้ระวังตัว” ผมพูดกลั้วหัวเราะ พูดเองก็ขำเองอ่ะ อิอิ
“มึงนี่ กวนตีนจริง... พี่จะไปจีบเพื่อนมึงอะแหละ” พี่พีร์ด่าผมแล้วก็พูดเสียงอุบอิบ เพื่อนผม จะจีบเพื่อนผม หรือว่า?
“มันโคตรเงียบเลยว่ะ ไม่คุยกับพี่เลยอะ พี่ไปเคาะห้องก็แล้ว โทรหาก็แล้ว เฮ้อ...” ไม่น่าเชื่อ แค่วันเดียวพี่พีร์เป็นไปได้ขนาดนี้ ผมพยายามนึกว่าพี่พีร์ถูกใจตองที่ตรงไหน? ความเงียบ สุขุม หน้านิ่ง... จะว่าไปตองมันก็สวยนะ ยังไงดีอะ ผู้ชายหน้าสวยประมาณนั้น แล้วยิ่งเป็นคนนิ่งๆ พูดน้อย ก็ยิ่งดูน่าค้นหาแหะ...
“เอ่อ... พี่ก็คงต้องพยายามเยอะๆแหละนะ” ครับ... ผมคงช่วยอะไรไม่ได้หรอก ในกรณีนี้ผมไม่ควรที่จะสอดมือเข้าไปยุ่งเลยแม้แต่น้อย เพราะอะไรก็คงรู้นะ..
“โห่ มึงนี่ไม่คิดจะช่วยพี่เลยเนอะ เคยเป็นรูมเมทมันแท้ๆ พอผู้ชายมาหาละก็ทิ้งเพื่อนให้อยู่คนเดียว แถมยังไม่คิดจะช่วยพี่อีก” ผมฉุกคิดได้ ไม่ได้โกรธพี่พีร์นะครับที่มันว่าผมติดผู้ชาย แต่ผมนึกได้ว่าตอนนี้ตองต้องอยู่คนเดียว แล้วในสถานการณ์แบบนี้ตองจะรู้สึกแย่แค่ไหนกัน...


พอคิดได้ ผมก็ปลีกตัวออกมาตรงที่เงียบๆและหยิบโทรศัพท์ที่พี่จินให้ผมไว้ติดตัวมาโทรหากิ ผมมีเบอร์กิจดอยู่ในสมุดเล่มเล็กของผม อีกตั้งเกือบสองสัปดาห์กว่าจะเปิดเทอม ให้ตองอยู่คนเดียวต้องเป็นบ้าตายแน่เลย
ตรู๊ดดด ตรู๊ดดด
‘ฮัลโหล ว้อทซับแม้น~~’ โทรศัพท์ดังแค่สองครั้งก็มีคนรับ ยังคงเป็นน้ำเสียงร่าเริงที่ผมจำได้ดี
“กิ นี่เอมเองนะ”
‘เฮ้ย เอมมีมือถือแล้วเหรอ โห เจ๋งว่ะ’
“อืม” ผมยิ้ม นึกออกเลยว่ากิจะทำหน้ายังไงตอนนี้
‘พอได้ยินเสียงเอมก็ชักอยากเปิดเทอมไวๆแล้วดิ อยากไปเที่ยวกับเพื่อนนนนนน’
“เดี๋ยวก็เปิดเทอมแล้ว แต่ว่าก่อนที่จะเปิดเทอมอะ เราอยากให้กิช่วยอะไรหน่อย”
‘หือ? ว่ามาสิ’
“คือช่วงนี้ ตองอยู่คนเดียวที่หอน่ะ...”
‘อ้าว เรานึกว่ามันกลับบ้าน แล้วโทรหาก็ไม่รับนะไอ้เวรนั่นน่ะ ว่าจะเข้าไปหาอยู่เหมือนกัน’
“อือ นั่นละ ที่เราอยากให้กิทำ เราอยากให้กิเข้าไปหาตองหน่อย เราไม่อยากให้ตองอยู่คนเดียว” ผมพูดเสียงเศร้า
‘เอม... มีอะไรกันใช่มั้ย... เอมกับตองน่ะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?’ ผมถอนหายใจเมื่อได้ยินคำถามของกิ ผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหวางตองกับผมให้กิฟัง รวมทั้งเล่าเรื่องพี่จิน และเรื่องที่ผมมาอยู่ที่บ้านพี่จินด้วย

และกิก็ทำให้ผมต้องประหลาดใจเมื่อกิบอกว่ากิพอรู้ความรู้สึกของตองอยู่แล้ว...

‘ก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งหกปีนะเอม แค่มองตาก็รู้แล้ว น่าเสียดายที่ไอ้ตองมันไม่เคยรู้สถานะของตัวเอง หึหึ’
“กิหมายความว่ายังไง?”
‘ก็ไอ้ตองน่ะ แค่มองก็รู้ว่ามันเกิดมาเพื่อเป็นรับ ไม่ใช่รุก หน้าสวยขนาดนั้น ใครเห็นก็อยากจับมันกดทั้งนั้นแหละ ฮ่าๆๆ’ ผมฟังเสียงหัวเราะของกิแล้วก็เหวอไป รุก? รับ? อะไรน่ะ กิคงไม่ได้หมายถึงเรื่องอย่างว่าใช่มั้ย?
‘อ้าว เอม ทำไมเงียบ อะ ฮัลโหล ฮัล-’
ตรู๊ด...........................................

ผมกดวางสายด้วยสีหน้าสับสน...  รุก... รับ... จับกด... หน้าสวยต้องถูกจับกด หน้าหวานต้องโดนกด...

ใครที่มันบัญญัติกฎเกณฑ์บ้าๆบอๆแบบนี้มาวะ!!!

ผมไม่ยอมถูกกดหรอกโว้ยยยยยยย!!

***********************************************************

“เอม ทำไมนั่งนิ่งเป็นรูปปั้นแบบนั้นละครับ พี่อุตส่าห์พาวานิลลามารับเอมด้วยนะเนี่ย” ผมรู้สึกตัวก้มมองก้อนขนฟูๆที่หลับสนิทบนตัก พี่จินหันมามองผมด้วยสายตาเป็นห่วง
“ก็...คิดอะไรเพลินๆครับ พี่จินตั้งใจขับรถเถอะ” ผมตอบสั้นๆแล้วก็ถอนหายใจ แต่ดูท่าว่าคงพลาดไป เพราะพี่จินกลับจอดรถเข้าข้างทาง(อีกแล้ว) และก็หันมาจ้องหน้าผมเต็มตา
“พี่ไม่ชอบเวลาเอมเงียบไปแบบนี้ เอมกำลังคิดอะไร มีอะไรบอกพี่ไม่ได้เลยเหรอครับ” ผมนึกถึงเรื่องที่ผมคิด... แล้วผมก็ร้อนที่ใบหน้าขึ้นมาทันที
“อ้าว แล้วหน้าแดงทำไมเนี่ย” พี่จินเอามือมาแตะหน้าผาก ผมเผลอขยับหนีอัตโนมัติ ในหัวมีแต่เรื่อง จับกด จับกด จับกด เต็มไปหมด!!
“นี่...คงไม่ได้คิดลามกกับพี่ใช่มั้ย...” พี่จินหรี่ตามองผมแล้วแกล้งทำท่าหวาดระแวง อร๊ายยยย อย่ามาดัดจริตใส่ผมนะ!
“บะ...บ้าแล้ว คนอะไรหลงตัวเองชะมัด”
“อะไรกัน แสดงว่าที่พี่คิดว่าเอมรักพี่ ก็กลายเป็นว่าพี่หลงตัวเองเหมือนกันใช่มั้ย” ใบหน้าคมเศร้าสลดจนผมอดใจหายไม่ได้ ผมมองอย่างลังเลแล้วจึงพูดขึ้น
“มะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องรักสักหน่อย.. รักน่ะเอมก็รักนะ ที่บอกว่าพี่จินหลงตัวเองน่ะ ก็เพราะเอาแต่คิดเองเออเองว่าผมอยากจะมีอะไรกับพี่ละสิ...”
“แล้วเอมไม่อยาก ‘มีอะไร’ กับพี่เหรอครับ พี่น่ะ ทั้งรัก ทั้งหลง ทั้งคลั่งไคล้เอมขนาดนี้...” ไวปานสายฟ้า พี่จินชะโงกร่างมาใกล้แล้วกระซิบเสียงหวานปนตัดพ้อ ก่อนจะจูบเบาๆที่เส้นผมอ่อนนุ่มของเจ้าตัวเล็กที่อายม้วนจนหน้าแดงไปแล้ว
“...งือ... ไม่ใช่ว่าไม่อยากครับ...แต่...แต่เอมยังไม่พร้อม... เรื่องอย่างนี้มันต้องใช้เวลานะครับ...” ถึงจะสั่น แต่ก็ไม่ได้ผลักไสเพราะไม่อยากให้พี่จินเกิดน้อยอกน้อยใจขึ้นมาอีกถ้าทำท่าสั่นกลัวจนเกินไป...
“พี่ก็ไม่ได้เร่งรัดอะไรเลยนี่ครับ ถึงยังไง พี่ก็มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ๆเอมแบบนี้ที่สุดแล้ว...” โดยไม่รู้ตัวก็เงยหน้ารับจูบจากพี่จินเสียแล้ว จูบอ่อนหวาน เนิบนาบ เชื่องช้า...
“งือ...” บนรถอีกแล้ว ผมจูบกับพี่จินบนรถอีกแล้ว... ทำไมเรี่ยวแรงมันหายไปหมดแบบนี้นะ อยากจะอยู่แบบนี้ไปนานๆเหลือเกิน...
“พอเถอะคนดี... ถ้ายังจูบแบบนี้นานๆพี่คงต้องฝืนใจเอมแล้วละ” เสียงพี่จินพึมพำลอดไรฟัน.. ฝืนใจเอม? แล้วไงล่ะ... ก็ช่างมันสิครับ... ถ้าเป็นพี่จิน...เอมยอมทุกอย่าง

“ชะเอม!” พี่จินจับไหล่ผมแล้วดึงผมให้ออกห่าง สติสตังทั้งหมดทั้งมวลถูกกระชากวูบกลับมาที่ตัว ผมหน้าแดง เพิ่งคิดได้ว่าตัวเองเป็นอะไรไป ผมคิดอะไรหน้าอายอย่างนั้นได้ยังไงกัน!

“เอ่อ.. เรากลับบ้านกันก่อนเถอะนะ” ผมรู้สึกได้เลยว่าเสียงพี่จินสั่นในขณะที่พูด นับประสาอะไร ผมยังต้องจับเจ้าวานิลลามากอดเรียกสติให้ตัวเองเลย...

“เอม ถึงบ้านแล้วครับ” ประตูรถฝั่งที่ผมนั่งเปิดโดยไม่รู้ตัว ผมชะงักนิดหนึ่งแต่ก็ส่งมือข้างที่ไม่ได้อุ้มวานิลลาให้พี่จิน พี่จินจับมือผมไว้แน่นแล้วปิดประตูรถให้
“วันนี้พี่จินอยากกินอะไรครับ” ผมเงยหน้าถาม
“อืม...อะไรก็ได้นะ”
“ในตู้เย็นมีอะไรบ้างนะ...” ผมคิด มีแครอท หมูสับ หอมใหญ่ มะเขือเทศ... วันนั้นผมเห็นเส้นก๋วยเตี๋ยวด้วยละ
“พี่จินชอบราดหน้ามั้ยครับ”
“ก็กินได้ครับ เอมจะทำเหรอ” ผมพยักหน้า
“ดีเหมือนกัน พี่ไม่ได้กินราดหน้ามานานแล้ว”
“งั้นเอมจะทำราดหน้าหมูสับทรงเครื่องให้ทานนะครับ”
“แล้วเอมทำเป็นหรือเปล่า”
“เอมไม่เคยทำหรอกครับ แต่เคยไปซื้อกิน แค่สับๆ ผัดๆเส้น แล้วก็เอาไปต้มใส่แป้งมันก็ได้แล้วครับ ง่ายๆ” ผมยิ้มร่าเดินนำเข้าไปในครัว โดยไม่ทันได้หันกลับมามองสีหน้าขวัญผวาของพี่จิน และก็คงไม่ได้รู้ด้วยว่าพี่จินคิดอะไรอยู่
‘จะกินได้มั้ยเนี่ย’
....
..
.
.
..
..
.
.



*** ยิ่งแต่งยิ่งรู้สึกว่าพี่จินหื๊นหื่นค่ะ :-[




 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด