เจ็บหนักๆ กับ รักเถื่อนๆ
นิยายเรื่องเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นไม่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับบุคคลใดๆทั้งสิ้น
Intro
ร่างบางที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยอาการสลึมสลือเพราะได้รับการรบกวนเวลานอนจากนาฬิกาปลุกของเช้าวันใหม่ ร่างบางนั่งงงก่อนเล็กน้อยก่อนจะฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าวันนี้
เป็นวันที่เค้าจะต้องไปมหาลัยเป็นวันแรก เมื่อมองนาฬิกาแล้วก็อุทานออกมาอย่างลืมตัว
“เฮ้ยยยยย” อุทานอย่างเสียงดัง
“ตายห่าแล้ว วันแรกก็จะสายแล้วเหรอวะ ตาย ตาย ตาย” ร่างบางรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันทีเพราะตอนนี้ก็เลยเวลาเข้า มหาลัย มาประมาน 10 นาทีแล้ว
( Fear Part )
โอ้ยยยยยยย จะมีอะไรซวยมากกว่านี้อีกไหมครับ มามหาลัยวันแรก ก็สายไป 50 นาทีแล้วดีนะที่ผมเช่าหออยู่หน้า ม. ไม่งั้นมาสายกว่านี้แน่ ผมชื่อ นาย เฟียร์ รัตธิโรดม อายุ 18 ปี ผมเป็นลูกครึ่งฝรั่งเศสครับแต่ไม่รู้ว่า พ่อหรือแม่ เป็นคนฝรั่งเศส ตั้งแต่ผมจำความได้ผมก็อยู่กับยายมาตั้งแต่เล็ก ยายไม่ชอบที่จะพูดเรื่องราวของพ่อกับแม่ผมซักเท่าไรแต่ยายบอกเสมอว่า ผม เหมือนแม่ยังกะถอดหน้าแม่มาเลย หน้าที่หวานเกินผู้หญิงบวกกับความสูงที่มีแค่ 164 เซน!!! หนัก 42 ผมเลยดูเหมือนเด็ก ม.ต้น ไม่เหมือนเด็กมหาลัย ผมไว้ผมลากไทร ที่ยาวเลยต้นคอมานิดนึง ว่าจะไปตัดแต่ไม่มีเวลาจริงๆครับ
เมื่อผมวิ่งมาถึงหอประชุมซึ่งวันนี้เป็นวันปฐมนิเทศวันแรกครับ เมื่อผมย่างก้าวเข้ามาในห้องประชุมทุกสายตาก็มุ่งมาที่ผมทันทีเลยครับ
“ทำไมถึงมาสายยย!!!!!!” รุ่นพี่คนที่พูดไมค์ถามผมใส่ไมค์เลยครับ โฮ้ แค่นี้ก็เป็นเป้าสายตาจะแย่แล้ว
“เอ่อออ คือ ผมขอโทษครับ” พูดไม่ออกครับ เราผิดจริง เหอๆ
“เพื่ออะไร มันไม่มีประโยชน์หรอกนะ ที่จะมาขอโทษ ทำตัวไม่เหมาะสม เดี๋ยวพอเลิกประชุมคุณมาพบผมที่หน้าหอประชุดด้วยนะครับ” พี่คนนั้นพูดท่าทางเสียง ดุ ดุ ผมเลยได้แต่ก้มหน้าเลยครับ ไม่กล้าสบตาใคร อายก็อาย
“เฮ้ย ไอ้วิน มึงพูด ดีดี กับน้องเค้าหน่อยก็ได้ ถึงน้องเค้าจะเป็นทอมแต่ยังไงก็ยังเป็นผู้หญิงนะเว้ยยย” พี่คนหนึ่งพูดขึ้นมาครับ อ้อ ไอ้พี่คนนี้มันชื่อ วิน นี่เอง แหม หน้าตาก็ดีแต่ทำไมพูดจาหมาไม่รับประทานอย่างงี้วะ เอ๊ะ ๆ เดี๋ยวๆๆๆ ทอม หรอ เฮ้ยยยยย กูไม่ไช่ทอม กูเป็นผู้ชายไอ้บ้า ก่อนผมจะได้ท้วงอะไร ไอ้วินมันก็พูดแทรกขึ้นมาครับ
“จะเป็นอะไรก็ชั่ง แต่ตอนนี้ผมขอสั่งไห้คุณ นั่งแถวคณะของคุณได้แล้วครับ” ผมซึ่งไม่พอใจนิดหน่อยต้องจำใจเดินมานั่งต่อแถวคณะคหกรรมที่เลือกเรียนไว้ ผมชอบทำอาหารครับเลยเลือกเรียนวิชานี้ซึ่งผมก็มีพรสวรรค์อยู่ไม่น้อย
ผมนั่งไปได้สักพัก ไอ้พี่วิน มันก็ไห้แยกย้ายกันไปครับ ผมซึ่งนั่งเบื่ออยู่นาน ก็รีบลุกจนลืมคำสั่งมันเลยครับผมกำลังรีบกลับห้องเพราะตอนนี้ง่วงสุดขีดแล้วครับอยากนอนแต่
ยังเดินไม่พ้นประตูห้องประชุมเลยเสียงของรุ่นพี่คนหนึ่งก็ดังขึ้น
“นี่ !!!!! เธอ ทอมคนนั้นน่ะ พี่วินเค้าบอกไห้รอพบก่อนไม่ไช่หรอ นี่คำสั่งไม่มีความหมายเลยไช่ไหม!!!!“ เธอตะโกนไส่ผมอย่างดังเลยครับ
“ขอโทษครับ พอดีผมเบลอๆ เลยลืม ขอโทษจริงๆครับ” ผมยกมือไหว้รอบวงเลยครับเพราะนั่งกันอยู่ 7-8 คนได้ครับ และคู่กรณีผมก็เดินมาพอดีครับ
“ชื่อ อะไร” บอกผมสินี่คือคำถาม สั้น ๆ ห้วน ๆ
“ชื่อ เฟียร์ ครับ” ผมตอบฉะฉานแต่แล้วก็โดนสวนขึ้นทันควันเลยครับ
“ทำไมต้องพูดครับ!!! ถึงจะเป็นทอมแต่ก็ยังเป็นผู้หญิง” เอ่อ เหมือนคุณพี่จะเข้าใจอะไรผมผิดหรือเปล่าครับ
“เอ่อ......คือ” ผมก็อึ้งๆ เลยตอบไม่ถูกเลยครับและก็มีเสียงสอดขึ้น
“นี่น้องไม่น่าเป็นทอมเลย น่ารักมากเลยนะ”
“นั้นสิถ้าเป็นผู้หญิง กู จะจีบตั้งแต่วันนี้เลย”
“น้องคะ เป็นผู้หญิงอ่ะดีแล้ว หน้าน้องไม่เหมาะเป็นทอมเลยนะ”
“ใช่ๆ เห็นด้วยเลยวะ ฮ้าาๆๆๆ”
และก็ตามด้วยเสียงใครมากมายเถียงกันไปแซวกันมาสนุกปาก และแล้วความอดทนของผมก็มาถึงจุดสูงสุดแล้วหล่ะครับ
“โอ้ยยยยยยยยยยยย” ผมหวีดขึ้นสุดเสียงเลยครับ สายตาทุกคู่หันมามองผมเป็นตาเดียวเลยครับ แต่ขอโทษ ณ เวลานี้ ความหน้าด้านเกินพิกัดแล้วครับไม่รู้สึกอายเลย
ซักนิดเดียว
“ฟังซะแล้วขอไห้เข้าใจตรงกัน ผมชื่อ นาย เฟียร์ รัตธิโรดม ชื่อเล่น เฟียร์ เป็นผู้ชายทั้งแท่งไม่ไช่ผู้หญิงและทอม และผมขอบอกพวกคุณอีกอย่างนะ ว่าการพูดก่อนคิดโดยไม่ไตร่ตรองเลย แบบเมื่อสักครู่นี่ เป็นการพูดที่ไม่ต่างจากแล้งที่ลุมทึ่งศพเลยสักนิดเดียว โหวก เหวก โวยวาย ไปได้นั่งกันอยู่แค่เนี่ย!!!” ผมร่ายยาวและตบท้ายด้วยกันหลอกด่าครับพวกรุ่นพี่นั่งตาค้างเลยครับ บางคนหน้าเหวอไปเลย
“นี่ไห้มันน้อยๆ หน่อย ยังไงพวกกูก็รุ่นพี่มึง อย่าปากดีไห้มันมาก!!!” ไอ้วิน(พี่หายเลยครับ) ตะคอกไส่หน้าผม
“หึ...เนี่ยหรอการกระทำของคนมีการศึกษา การศึกษาคงไม่ได้ช่วยยกระดับความคิดอ่านของคนได้ทุกคนสินะครับ” ผมตอบกลับไปอย่างเย็นๆ เวลาผมฟิวส์ ขาดเมื่อไรคำพูดของผมก็เปรียบเสมือนดับนับล้านเล่มที่ทิ่มแทงผู้ฟังเลยครับ ถึงจะไม่หยาบคาย
แต่ถ้าได้ฟังคงเสียวสันหลังกันแทบทุกลาย
ไอ้วิน ยืนกำหมัดแน่น และเตรียมจะวิ่งเข้ามาหาผมแต่เพื่อนเข้าช่วยกันจับไว้
“โถ่ เว้ยยยยย ปล่อยกู!!!! กูจะสั่งสอนมันเองว่ามันกำลังปากดีกับใคร ปล่อยสิวะ”
“เฮ้ย มึง พอ ๆ อย่างมีเรื่องเลยว่ะ พึ่งเปิดมหาลัยวันแรก อย่าพึ่งมีเรื่องเลยใจเย็นก่อน”
พี่ผู้หญิงคนนึงพูดครับ
“...........ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ป่า ที่กำลังหิว เลยนะครับ หึหึ” ผมยิ้มเย็นๆไปหนึ่งที ผมไม่รู้หรอกว่าตัวเองเวลาฟิวส์ขาดน่ากลัวแค่ไหนแต่ตอนนี้ พี่ผู้หญิงบางคนไม่กล้าสบตาผมแล้วครับ เหอๆ
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ คงไม่ว่างที่จะยืนดู สัตว์ป่า!!!! ที่กำลังหิวโดนล่ามเอาไว้ ลาละครับ สวัสดี” ผมยกมือไหว้ทุกคนยกเว้นไอ้วิน และเดินออกมาหน้า ม. เลยครับ ตอนนี้เวลาประมาณ บ่ายโมง เค้าปล่อยตั้งแต่เที่ยง แต่ดันเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง กูล่ะ เซง จริงๆ
ผมกลับถึงห้องเช่าก็ประมาณ บ่างโมงครึ่งเพราะมัวแวะดู ของสดไว้ทำอาหารกินตอนเย็นครับซึ่งผม ชอบมากๆๆๆๆๆ เพราะเวลาผมทำอาหารเหมือนเป็นการปล่อยวางไปในตัวด้วยแหละครับผมก็นั่งเล่นนอนเล่นไปเรื่อยๆ ทำอาหารเย็นเสร็จ ประมาณ หกโมงเย็นและผมก็พักผ่อนทันทีเลยครับ บอกตรงๆ เหนื่อยเลยครับวันนี้ ผมนอนอยู่เตียงก็เคลิ้มแล้วหลับไปเลยครับ