พิมพ์หน้านี้ - ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: dek-zaal3 ที่ 22-09-2013 11:59:16

หัวข้อ: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: dek-zaal3 ที่ 22-09-2013 11:59:16
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   


เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


***=================================================***

สวัสดีค่ะ  :mew1: 

              แห่ะๆ เรื่องเก่ายังไม่จบ เรื่องใหม่มันมาอีกแล้ว... :mew5:

              อารมณ์ตอนนี้คืองานส่วนตัวไม่เดิน ก็เลยขอลงนิยายแก้เครียดหน่อยเถอะ ห้าาาา

              จริงๆแล้วคือโดนคุณนักอ่านหนับหนุนขอเรื่องอื่นมาอ่านมั่ง

              แพทยิ่งเป็นประเภทยุขึ้น ค้นๆเอามาลงเฉยเลย ห้าาาาาา   :hao7:

              ตามไปจิก ดึง ทึ้ง ทัก ทวง กันหลังไมค์ได้ที่นี่เลยนะจ๊ะ อิอิ  >>>>เชิญจิ้มเบาๆ ^^<<<< (https://www.facebook.com/pat.majestic.1)

             :L2:   เลิฟยู จุ๊บๆ  :L2:    :mew1:



ตอนที่ ๑

                    รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่แล่นเข้าไปจอดที่ลานจอดรถของผับชื่อดังแห่งหนึ่งย่านรัชดา เสียงหึ่งๆของเครื่องยนต์ค่อยๆดับไปเมื่อเจ้าของรถวาดขาลงจากตัวเครื่อง มือในถุงมือหนังสีดำยกถอดหมวกกันน็อกออกจากศีรษะ ก่อนจะยกมือข้างเดิมเสยผมที่ชี้โด่เด่ไม่เป็นทรงให้เข้าที่ดังเดิม…

                  สายตาคมกล้ากวาดมองลูกค้าที่เดินเข้าเดินออกหน้าผับผ่านแว่นดำที่ติดกล้องบรรทึกภาพขนาดจิ๋วเอาไว้ที่ขาแว่น นิ้วหนากดเข้าที่ขาแว่นอีกข้างทำทีเป็นจัดแว่นให้เข้าที่เพื่อกดสัญญาณเตือนไปยังต้นสังกัดว่าเขาเริ่มทำการรับสัญญาณภาพเรียบร้อยแล้ว

                 วายุ นายตำรวจหนุ่มยศพันโทค่อยๆสาวเท้าเดินเข้าไปในผับแห่งนั้นช้าๆ พลางสายตาก็กวาดมองไปมาจนทั่วแบบไม่ให้ผิดสังเกต มีหลายคนที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาว่าคงจะเป็นพวกดาราไม่ก็นักร้องนั่งดื่มไม่ก็ยืนเต้นกันอยู่ตรงกลางฟลอร์ พอหันไปทางซ้ายก็เจอลูกชายรัฐมนตรีชื่อดังคนหนึ่งนั่งกระดิกขา โดยมีสาวๆล้อมหน้าล้อมหลังเต็มไปหมด…

“เกินสิบห้ารึยังก็ไม่รู้ เด็กแก่แดดเอ๊ย…” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง

                และทันใดนั้นด้านหลังเขาก็โดนใครบางคนสะกิด…วายุหันกลับไปมองก็เจอบริกรชายคนหนึ่งยืนส่งยิ้มการค้ามาให้เขาอยู่

“ขอโทษครับพี่…ผมเห็นพี่ยืนมองซ้ายมองขวาอยู่นานแล้ว ไม่ทราบว่าพี่เพิ่งมาครั้งแรกหรือว่าหาโต๊ะเพื่อนไม่เจอครับ…” บริกรคนนั้นถามอย่างมีน้ำใจ

“อ๋อ พี่มาครั้งแรกน่ะ…พอดีมีคนแนะนำมา บอกว่าเด็กที่ชื่อหวานน่ะ…เด็ดมาก…พี่เลยอยากจะมาดูหน้าซักหน่อย ถ้าเด็ดจริง…พี่อยากอ๊อฟว่ะ” ชายหนุ่มตอบไปตามข้อมูลที่เตี๊ยมมาจากผู้กำกับ

“หวาน? หวานไหนครับ พอดีร้านเรามีหลายหวานมาก…น้ำหวาน นมหวาน…หรือว่า…”

“คนที่ชื่อผึ้งหวาน…” วายุรีบชิงตอบ บริกรคนนั้นมีท่าทีชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะร้องอ๋อออกมาเสียงดังลั่น

“น้องหวานคนนั้นน่ะเอง…ดาวเด่นของที่นี่เลยนะครับพี่ ถ้าจะอ๊อฟไปคืนนี้คงจะไม่ได้แล้วล่ะครับ เพราะมีคนรอจองคิวเธอยาวเอี๊ยดยันเช้าเลยครับพี่” บริกรหนุ่มตอบ…วายุทำท่าพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆอีกครั้งแล้วเอ่ยคำถามสุดท้ายไม่เซ้าซี้ต่อ

“งั้นพี่ขอดูหน้าหน่อยได้มั้ย…ถ้าไม่สเป็คพี่ก็จะกลับเลย แต่ถ้าสเป็ค…พี่ให้สามเท่าของคนที่จองน้องหวานเป็นคนแรก…จ่ายสด งดเชื่อ…ไม่ต้องรอทวงด้วย”

               วายุออกปากหลอกล่อ เห็นแววตาเป็นรูปตัวเงินวิ่งเต้นในนั้นก็รู้ทันทีว่าคงจะได้ผล…

“เอ่อ…งั้นก็ได้พี่ แค่ชี้ให้ดูหน้าอย่างเดียวนะ ถ้าอยากจะอ๊อฟหรืออะไรแบบนั้นคงต้องคุยกับเจ้าตัวเอง…ช่วงนี้พ่อเยอะ ชอบมาป้วนเปี้ยนบ่อยๆ ทางร้านเลยไม่รับจัดคิวให้แล้วน่ะพี่…”

“เออพี่รู้…นี่ค่าชี้ตัว…” พูดจบปลายนิ้วหนาก็ยื่นธนบัตรสีเทาไปตรงหน้าบริกรคนนั้น…เห็นตาโตเท่าไข่ห่านของเด็กหนุ่มคนนั้นแล้ววายุก็ต้องแอบส่ายหน้าในใจ…พวกเห็นแก่เงิน มีเต็มบ้านเต็มเมืองจริงๆ…

“โห…ขอบคุณครับพี่! ให้ตั้งพัน! งั้นเดี๋ยวนอกจากผมจะบอกพี่ว่าคนไหนคือน้องผึ้งหวานแล้ว…ผม…” พูดแค่นั้นแล้วบริกรหนุ่มก็ขยับมากระซิบที่ข้างหูเขาว่า “เดี๋ยวผมนัดน้องเขาแซงคิวหลังเต้นเสร็จให้ด้วยแล้วกัน…พี่จะได้คุยกับน้องเขาเอง…นั่นไงพี่! คนที่กำลังเดินขึ้นเวทีแล้วไปเต้นเป็นหัวเรือคนนั้นน่ะ…พอครบสามเพลงพี่ไปดักรอน้องเขาที่หลังเวทีเลยนะ ผมจะแอบไปนัดน้องหวานเขาให้…”

                ท่าทีกระตือรือร้นของเด็กหนุ่มบริกรและบริการพิเศษช่วยวายุได้เยอะ…ชายหนุ่มกล่าวขอบใจแล้วหาที่นั่งว่างสั่งเตกีล่ามาดื่มเพื่อฆ่าเวลา…

              ระหว่างที่รอเครื่องดื่มของตัวเองอยู่นั้น จู่ๆไฟในร้านก็ดับพรึ่บ พร้อมกับที่แสงไฟสปอร์ตไลท์ฉายอาบลงมาที่ร่างนวลเนียนขาวผ่องของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งกำลังก้าวเท้าขึ้นไปบนแท่นยกสูงกลางเวที ผมยาวสลวยตัดกับเนื้อหนังขาวๆที่โผล่พ้นออกมานอกร่มผ้าซึ่งเหลือติดกายอยู่เพียงแค่ไม่กี่ชิ้น ใบหน้าหวานซึ้งกับดวงตากลมโตฉายแววเย่อหยิ่งแต่ก็ยั่วยวนอยู่ในคราวเดียวกัน ก้นงามงอนส่ายสะบัดไปมาตามเสียงเพลงพร้อมกับสองเท้าสองมือที่ขยับประสานไปตามท่วงทำนองเพลง แลดูพริ้วไหวราวสายน้ำแต่ก็ร้อนแรงเหมือนเปลวไฟไปพร้อมๆกัน…

“เด็กนั่นเหรอวะสายตำรวจ…เด็กอย่างว่าชัดๆ” แทนที่จะหลงไปกับภาพมายาสวยงามของเด็กที่เต้นยั่วสายตาผู้ชายไปมาอยู่บนเวที ตำรวจหนุ่มกลับนึกบริภาษและโทษพ่อแม่เด็กอยู่ในใจว่าเลี้ยงลูกยังไง…ถึงได้กล้าออกมาเต้นส่ายเอวส่ายก้นให้คนเป็นร้อยดูกันแบบนี้…

                …ให้ตายเถอะ…แล้วนี่เขาจะต้องทนดูแม่เด็กสุดเชี่ยวนั่นเต้นตั้งสามเพลง…เสียเวลาทำมาหากินชะมัด…ผู้การนึกยังไงถึงเอาเด็กแบบนี้มาเป็นสายให้ตำรวจได้ว่ะเนี่ย…

               ใจนึกค่อนขอดเจ้าของเรือนร่างบอบบางบนเวทีไป แต่สายตาก็ไม่ได้ละไปจากคนที่ว่าเลยซักนิด…


------------------------------   - -  -  ---  -         --            -     -         --       -           -
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: dek-zaal3 ที่ 22-09-2013 12:01:23
                  บุหรี่มวนที่สองถูกยกมาจุดสูบ…วายุยืนพิงหลังอยู่กับกำแพงหลังเวทีตรงซอกหลืบหนึ่งที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน…สายตาจ้องแม่สาวงามนับสิบชีวิตที่เดินเปิดเผยอวดเรือนร่างผ่านหน้าไปมา

                  …นี่เลยเข้าเพลงที่ห้าแล้วนะ…ทำไมยังไม่เห็นอีกว่ะ…หรือว่าจะโดนไอ้บริกรนั่นหลอกเอา เชิดเงินไปแต่ไม่ยอมทำงาน…

                  …โง่แล้วไง…คนที่นี่มีใครเป็นคนดีมั่งว่ะ!...

“พี่…ไอ้แม็กบอกว่าพี่อยากเจอหนูเหรอ…”

                 และในตอนที่วายุกำลังจะถอดใจไปตามล่าไอ้บริกรคนนั้นเพื่อเอาเรื่องและเอาเงินคืน…เสียงหวานใสของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นข้างๆ วายุก้มลงมองเด็กสาวผมยาวที่เขาเห็นเต้นยั่วยวนอยู่บนเวทีนั่นเมื่อประมาณยี่สิบนาทีที่แล้วกำลังยืนกอดอกแล้วมองเขา ก่อนจะยักคิ้วให้ข้างหนึ่ง…

                 …ท่าทางตาปรือๆแบบนี้จะแอบเล่นยามาด้วยรึเปล่าว่ะ…

“ว่าไงมีอะไรล่ะ…ถ้าไม่มีอะไรจะพูดหนูก็จะได้กลับไปเปลี่ยนชุดกลับบ้านแล้วนะ…”

                ผู้หญิงอะไรว่ะ…พูดไม่มีหางเสียงเลยซักนิด…ถึงจะแทนตัวเองว่าหนูก็เถอะนะ…

“ฉันมาเอาของ…” วายุตอบสั้นๆ สายตากวาดมองเรือนร่างบอบบางที่ถูกปกปิดไว้แค่สะโพกกับหน้าอก ที่คอมีโชคเกอร์หนังสีดำเข้าคู่กันกับรองเท้าบู้ทหนังส้นสูง…พอดูใกล้ๆแล้วเด็กนี่คงจะมีงานอดิเรกอย่างอื่นเป็นพวกอย่างว่าประเภทซาดิสต์ด้วยรึเปล่าว่ะ…ทั้งโซ่ ทั้งหนัง…ลายพร้อยไปทั้งตัว…

“ของ? ของอะไร” เด็กคนนั้นทำท่าแคะหู ท่าทีไม่มีการสนใจสิ่งที่เขาพูดเลยซักนิด

“อย่ามาเยิ่นเย้อให้เสียเวลา…ไปเอาของมาให้ฉัน เราจะได้ต่างคนต่างกลับ…” วายุสำทับเสียงเบา สายตาระแวดระวังรอบข้างว่าจะไม่มีใครแอบได้ยิน แต่เด็กตรงหน้าก็ยังคงทำสีหน้างงงวยแบบไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเขากำลังพูดเรื่องอะไร

“หนูไม่เข้าใจว่าพี่กำลังพูดเรื่องอะไรอยู่…ถ้าอยากซื้อยาก็ไปที่เจ๊เขาสิ มาบอกอะไรหนูล่ะหนูไม่มีหรอก…” เด็กสาวที่ใช้ชื่อว่าผึ้งหวานทำท่าสางผมตัวเองแล้วก็หันหลังเตรียมเดินหนี วายุจึงต้องรีบคว้าแขนบางเอาไว้แล้วดึงมาปะทะอก ก่อนจะกระซิบเสียงเบายิ่งกว่าเบาให้ได้ยินกันแค่สองคน…

“ฉันอินทรีย์ดำ…ต้องการของที่พยัคฆ์คำรนฝากให้เธอช่วยหา รีบไปเอามาให้ฉัน ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนกับเธอไปมากกว่านี้…” พูดจบวายุก็ปล่อยแขน แอบเห็นอีกฝ่ายนิ่วหน้าเบาๆพลางยกมืออีกข้างมาคลึงบริเวณที่โดนเขาจับ สายตาปรือๆเมื่อครู่ฉายแววขุ่นเคืองใส่เขาพลางเบะปากให้

“ก็แค่เนี่ย…” ได้ยินอีกฝ่ายพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินกลับไปทางที่เป็นห้องแต่งตัว

                  ตำรวจหนุ่มมองตามร่างอรชรของสาวแรกรุ่นที่นวยนาดเข้าห้องแต่งตัวไปแล้วด้วยแววตาครุ่นคิด…ถึงจะทำตัวเละไปหน่อย แต่ท่าทางการทำงานจะค่อนข้างไว้ใจได้แฮะ…ไม่ยอมหลุดเผยไต๋ออกมาซักแอะ…ต้องรอจนเขาพูดโค้ดลับออกมาเสียก่อนถึงจะยอมทำงานให้…ก็ถือว่าไม่เลว…

                  ครู่เดียวเด็กคนนั้นก็เดินกลับออกมาพร้อมกับร่างกายที่มีเสื้อแจ๊กเก็ตสีน้ำเงินคลุมร่างออกมาเรียบร้อย ในมือมีกระเป๋าถือสีดำดิ้นลายลูกปัดสะท้อนแสงระยิบระยับ…เด็กคนนั้นเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาพลางทำทีเป็นหาของในกระเป๋า แต่ในขณะเดียวกันก็ขยิบตาบอกให้เขารู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงนั้นอยู่ในกระเป๋าแจ็กเก็ตด้านข้าง…วายุเข้าใจสิ่งที่เด็กคนนั้นพยายามจะบอก เขาจึงทำทีเป็นยื่นมือไปโอบเอวแล้วดึงร่างอีกคนเข้ามาใกล้ อาศัยจังหวะนั้นดึงแฮนดรีไดรฟ์ที่ซ่อนอยู่ตรงกระดุมแจ็กเก็ตออกมาอย่างเนียนๆ

                  ทว่าในขณะที่วายุกำลังจะผละออกจากร่างอรชร น้ำเสียงเมาอ้อแอ้ของใครบางคนก็ดังขึ้นใกล้ๆ

“เฮ้ยๆ…ไอ้ห่านี่มึงเป็นใคร มายุ่งอะไรกับน้องผึ้งหวานของกูวะ…ห๊ะ? รู้เปล่า กูลูกใคร…กูจองน้องหวานเขาเป็นคิวแรกของวันนี้แล้วนะโว้ย…”

                  น้ำเสียงกร่างและวางก้ามแบบนี้วายุคุ้นเคยนัก นั่นไงเดาผิดเสียที่ไหน ใช่ไอ้ลูกชายนักการเมืองคนนั้นจริงๆด้วย…ไม่รู้รึไงว่าพ่อของมันกำลังจะถูกตำรวจสาวไส้ออกมาได้เร็วๆนี้แล้ว…

“อุ๊ย…ตายจริงคุณนพ หวานก็ลืมบอกคุณไป…พอดีคุณคนนี้เขาขออ๊อฟหวานไปในราคาที่สูงกว่าคุณตั้งสามเท่าแน่ะค่ะ ขอโทษนะคะคืนนี้หวานเลยไปกับคุณไม่ได้เลย…เอาไว้วันหลังนะ แล้วหวานจะไปกับคุณ…” น้ำเสียงหวานสมชื่อเอ่ยบอกคนเมาคนนั้นอย่างมีจริตจก้าน…วายุเหลือบตามองคนพูดที่จู่ๆก็ดึงเขาเข้าไปเอี่ยวด้วยความไม่ค่อยพอใจนัก

“อะไรนะ!! หวานเห็นไอ้หน้าแก่นี่มันดีกว่านพเหรอ…มันให้เท่าไหร่…เดี๋ยวนพไปขอพ่อมาให้มากกว่ามันสิบเท่าเลย…เอิ๊ก…แต่คืนเน้! หวานต้องไปกับผม…”

“ไม่ได้หรอกค่ะคุณนพ…คุณคนนี้เขาจ่ายสดนี่คะ ขอโทษนะ…แต่วันหลังคุณต้องประมูลหวานด้วยราคาที่สูงกว่านี้นะรู้มั้ย ไม่งั้นคุณนพก็จะชวดหวานอีกเป็นครั้งที่สองแบบนี้ไงคะ…น้านะสุดหล่อ…ไว้คราวหน้านะ”

                เด็กสาวที่ชื่อผึ้งหวานเอาปลายนิ้วไปลูบไรคางของไอ้ลูกนักการเมืองที่ชื่อนพนั่นแล้วก็รีบลากแขนเขาออกมาทะลุหลังเวทีไปอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเขาเพิ่งรู้ว่ามันมีทางเข้าออกสำหรับพนักงานอยู่ตรงนี้ด้วย…

“คุณจอดรถไว้ไหน” เด็กคนนั้นถามเขาเสียงห้วนทันทีที่ออกมาจากผับได้

“ลานจอดรถข้างหน้า…” วายุตอบ

“โธ่เอ๊ย…คราวหลังหัดหาที่จอดที่อื่นที่มันมิดชิดกว่านี้หน่อยได้มั้ย…” ถึงจะบ่นเขาออกมาอย่างนั้นแต่ก็ยังลากแขนเขาก้าวฉับๆไปตรงบริเวณลานจอดรถทันที พอไปถึงเด็กคนนั้นก็พุ่งตรงไปที่บิ๊กไบค์ของเขาพลางหยิบหมวกกันน็อคของเขามายื่นให้

“รีบหนีเร็วคุณ…ขืนชักช้าคนของไอ้เด็กหื่นกามนั่นไล่ตามผมทันแน่…ไปเร็ว…”

“ห๊ะ? ผม…” เขาหูฝาด…ฟังผิดไปใช่มั้ยเนี่ย

“อะไรอีกล่ะ เร็วๆสิ! จะรอให้มีเรื่องกับพวกมันก่อนจะเอาหลักฐานไปส่งให้เจ้านายคุณได้อย่างเรียบร้อยรึไง…”

“อะ…เออๆ งั้นก็ขยับไปข้างหลังอีกนิดสิ ฉันนั่งไม่ได้”

                …สงสัยเขาคงจะหูฝาดไปจริงๆ…ผู้หญิงอะไรวะ แทนตัวเองว่าผม…พรุ่งนี้เช้าคงต้องไปให้หมอตรวจสอบสภาพหูให้บ้างแล้วมั้งเนี่ย…

                และแล้วคืนนั้นวายุก็ต้องยอมเอาเด็กสาวแปลกๆนามว่าผึ้งหวานติดรถมาด้วยจนได้…

------------------------------   - -  -  ---  -         --            -     -         --       -           -

to be continue...
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: dek-zaal3 ที่ 22-09-2013 12:15:38
สารบัญนิยาย
(ครั้งแรกในชีวิตที่ทำเอง  :hao6:)

>>>ตอนที่ ๑<<< (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39338.msg2488935#msg2488935)
>>>ตอนที่ ๒<<< (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39338.msg2489861#msg2489861)
>>>ตอนที่ ๓<<< (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39338.msg2517667#msg2517667)
>>>ตอนที่ ๔<<< (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39338.msg2541445#msg2541445)
>>>ตอนที่ ๕<<< (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39338.msg2574469#msg2574469)
>>>ตอนที่ ๖<<< (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39338.90)
>>>ตอนที่ ๗<<< (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39338.90)...NEW!!!...
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: Rosezalen ที่ 22-09-2013 12:24:11
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 22-09-2013 12:48:46
หวานคือผช.แล้วปลอมตัวมา?
หรือยังไงเนี่ย น่าลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: justlove ที่ 22-09-2013 12:56:30
 :z1: :katai2-1:  อยากอ่านต่อแล้ววววว
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: jaewoniie ที่ 22-09-2013 13:01:45
 :o8: :o8:


น้องผึ้งหวานเป็นใครกัน

ได้นายเอกเป็นดาวยั่วสายลับสินะ  อิอิ

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ


 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: lalitalx ที่ 22-09-2013 13:10:05
โอ๊ย น้องหวานนนนน  :hao6:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: sine_saki ที่ 22-09-2013 13:11:15
น้องหวานนี่เป็นตำรวจปลอมตัวมาหรือเปล่านี่
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 22-09-2013 13:21:55
แง๊งงงงงงง น้องผึ้งหวานเป็นผู้ชายยยยยยย
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 22-09-2013 14:22:41
ชักจะยังไงๆซะแว้ววววว


 :hao4: :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 22-09-2013 15:52:09
อุ๊บส์ มาติดตามนะคะ น่าสนใจมากเลยค่ะ :)
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 22-09-2013 15:53:21
สาวดุ้นนนนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 22-09-2013 16:07:40
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

รอค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 22-09-2013 16:33:37
ตามเรื่องใหม่จ้า ชอบจัง คุณตำรวจ กับสายตำรวจ เหรอเนี่ย ยังไม่เคยเจอพระนายแนวนี้ ชอบ ๆ
น้องผึ้งหวาน เป็นนายเอก แสดงว่าเป็นหนุ่มที่ทั้งหน้าตา และรูปร่าง สวยกว่าผู้หญิงสิเนี่ย
คุณพระเอกที่เป็นถึงตำรวจยังดูไม่ออก แถมท่าทางเก่ง กล้า และก็ฉลาดใช้ได้เลย ชอบจัง
รอตอนหน้า คุณพระเอกรู้ความจริงแล้วจะเป็นยังไงน้า อิอิ
แหม่ เห็นชื่อเรื่อง ไม่คิดว่าจะเป็นแนวนี้เลยนะเนี่ย ชอบ ๆ
รอตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณค่ะ  :L2: :3123:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 22-09-2013 16:49:01
กรี๊ดดดด ผึ้งหวาน  ชื่อน่ากินมาก 55555
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 22-09-2013 17:00:35
น่าติดตามสายตำรวจสุดยั่วยวน



รออ่านตอนต่อไปค้าบ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 22-09-2013 17:04:44
โอ้โห น้องผึ้งหวานเป็นผู้ชายรึเนี่ย แสดงว่าสวยกว่าผู้หญิงแน่ๆ ชอบๆๆ ขอบคุณคนเขียนค่ะ :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: zylph_z ที่ 22-09-2013 17:13:19
ยังไงล่ะเนี่ย ผึ้งหวานที่เป็นสายให้คือผู้ชาย??? น่าติดตามมาก รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 22-09-2013 17:19:28
สวยขนาด ตำรวจยังดูไม่ออกแบบนี้
อยากเห็นบ้างจัง
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 22-09-2013 19:28:40
น้องผึ้งหวานเป็นป้อจายย อิอิ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 22-09-2013 21:42:29
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 22-09-2013 21:44:44
ไม่อยากจะใช้คำนี้หรออกนะ น้องผึ้งหวานเป็นสาวดุ้นเหรอเนี่ย!
 :hao7:

คึคึคึ พออ่านเจอ"ผม"แทบพ่นแหนะ ตอนแรกแอบคิดในใครไหนใครนายเอกน้า แล้วน้องผึ้งหวานเป็นใคร
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 23-09-2013 06:53:35
แต่ง หญิง คริๆ


 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: dek-zaal3 ที่ 23-09-2013 08:18:11
ตอนที่ ๒


“เดี๋ยวคุณจอดรถให้ผมลงที่แยกหน้าก็ได้นะ…เดี๋ยวผมนั่งรถเมล์ต่อไปเองได้แล้ว…”

               ระหว่างที่รอติดไฟแดงอยู่จู่ๆเสียงคนที่นั่งกอดเอวเขาอยู่ด้านหลังก็บอกออกมา วายุเหลือบใบหน้าภายใต้หมวกกันน็อคไปมองเล็กน้อยก่อนจะตอบ

“บ้านอยู่ไหน เดี๋ยวไปส่ง…”

“เฮ้ยไม่ต้องพี่…เดี๋ยวกลับเองได้จริงๆ ส่งแค่แยกหน้าก็พอแล้ว…” เด็กคนนั้นตอบกลับ วายุครางในลำคอขัดใจที่เขาดันตัดสินใจรับเด็กดื้อขึ้นรถ

“ถ้าอยากกลับบ้านตัวเองฉันก็จะพาเธอกลับบ้านของฉัน จะเอายังไง…” วายุถาม ถนัดนักล่ะไอ้เรื่องต้อนคนให้จนมุม

“เฮ้ย…! โรคจิตรึเปล่าวะ จะเอากลับไปบ้านเนี่ยนะ…เออ งั้นก็ได้…งั้นไปส่งที่หน้าร้าน Forever Love Wedding Studio หน่อยก็แล้วกัน…” เด็กคนนั้นตอบกลับ และเป็นเวลาเดียวกับที่ไฟเขียวเปิดกระพริบพอดี

“ห๊ะ…อะไรนะ อะไรเวดดิ้งๆนะ…”

“Forever Love!! ได้ยินยัง…เลยแยกหน้าแล้วก็เลี้ยวขวา ตรงไปอีกสามไฟแดงก็เจอแล้ว…” เด็กคนนั้นขยับปากมาใกล้หมวกกันน็อคของเขาแล้วตะโกนแข่งกับเสียงลมเข้ามาจนแสบแก้วหูไปหมด

“โว้ย…ได้ยินแล้ว! ไม่ต้องตะโกนดังขนาดนั้นก็ได้ ไอ้เด็กบ้า…หูหนวกหมด” วายุตะโกนตอบกลับ เด็กคนนั้นเลยกลับไปนั่งเอาหน้าซบหลังเขาหลบลมตามเดิม…      

               วายุแอบตงิดในใจเล็กๆกับสถานที่ที่เด็กคนนั้นจะให้ไปส่ง…Forever Love Wedding Studio ชื่อคุ้นๆแฮะ…ใช่ร้านรับจัดงานแต่งงานร้านใหญ่ที่อยู่ตรงข้ามร้านทองถนนหน้านี้รึเปล่าว่ะ…

               ตำรวจหนุ่มนึกในใจเงียบๆเพราะคุ้นๆชื่อร้านนัก แต่จำไม่ได้ว่าเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน…จนเมื่อขับรถผ่านหน้าร้านทองที่ขึ้นป้ายหราว่า ฮั่ว เซ่ง เฮง แล้วหลังตัวเองโดนตีเปาะแปะ ได้ยินแว่วๆว่ายูเทิร์นๆก็ทำตาม สุดท้ายเขาจึงได้เอาบิ๊กไบค์ของตัวเองมาจอดหน้าร้านรับจัดงานวิวาห์ขนาดหย่อม ที่ขึ้นป้ายหน้าร้านด้วยสีโทนชมพูอมส้มว่า Forever Love…

“เฮ้ยๆไอ้เด็กบ้า…จะมาแอบยกเค้าที่นี่ต่อหน้าตำรวจเหรอ” วายุรีบถอดหมวกกันน็อคเดินตามมาฉุดมือเล็กบางที่กำลังกำพวงกุญแจแล้วทำท่าจะก้มลงไขบานเกล็ดข้างหน้าร้าน…

“อะไรอีกล่ะพี่…ส่งผมเสร็จแล้วก็กลับไปได้แล้ว หรืออยากได้คำขอบคุณ…ขอบคุณมากนะครับคุณตำรวจหย่าย…พอใจยัง” เด็กคนนั้นทำลอยหน้าลอยตายกมือไหว้ขอบคุณเขา ก่อนจะก้มลงไปไขบานเกล็ดออกในแกร๊กเดียว…

              …ไม่ใช่กุญแจผีจริงๆด้วย…

“นี่…บ้านเธอจริงๆเหรอ” ไม่อยากจะเชื่อ…เด็กอย่างว่านี่เป็นลูกสาวร้านรับจัดงานแต่งหรือวะเนี่ย…ลูกสาวเหลวแหลกขนาดนี้ แล้วพ่อแม่จะขนาดไหนวะ

“ไม่ใช่บ้าน…ที่ทำงาน…” เด็กคนนั้นตอบ ก่อนจะยกบานเกล็ดขึ้นแล้วเลื่อนประตูแก้วพาตัวเองเข้าไปด้านใน วายุไม่รอช้ารีบพาตัวเองแทรกตามเข้าไปทันที เพราะยังนึกข้องใจไม่หายกับคำตอบที่ได้ยินนั่น

“ที่ทำงาน? อย่าบอกนะ ว่าเธอทำงานเป็น…เจ้าของร้านแต่งงานนี่!”

“โว้ย…ถามมากจริง ผมเป็นสายให้คุณนะคุณตำรวจ ไม่ใช่ผู้ร้ายเสียเอง…มาสืบเจาะประวัติผมอะไรขนาดนั้นวะ…ถ้าอยากรู้นักก็ตามมาที่ห้องผมเลยมา จะได้ปิดประตูหน้าร้าน แถวนี้ดึกๆชอบมีพวกเด็กแว๊นมาตีกันผมกลัวโดนลูกหลง…”

                เด็กคนนั้นตอบพลางมองวายุที่เคลื่อนตัวเองเข้ามายืนอยู่กลางร้านทั้งมืดๆ…ได้ยินเสียงแกร๊กตรงบานประตูวายุก็รู้ทันทีว่าเด็กคนนั้นล็อกประตูเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซักพักก็รู้สึกได้ว่าตรงแขนเสื้อโดนใครบางคนกระตุกเบาๆให้เขาเดินตามขึ้นบันไดไปชั้นบน อยากจะถามนักว่าทำไมไม่เปิดไฟ แต่ก็เกรงใจเจ้าของบ้าน…ไหนๆเขาก็ให้เดินตามขึ้นมาถึงบนนี้แล้วนี่นะ

                วายุถูกลากแขนให้เดินเข้ามาในห้องๆหนึ่ง ทันทีที่เปิดไฟสิ่งแรกที่เห็นเด่นชัดเป็นสง่าภายในห้องใหม่ที่ตำรวจหนุ่มเห็นก็คือ…จอคอมพิวเตอร์ห้าจอที่วางอยู่บนโต๊ะทรงโค้งตัวหนึ่งใกล้หน้าต่าง…ข้างๆกันก็มีโซฟา ตู้เย็นเล็กและชั้นวางของ ถัดไปด้านตรงข้ามก็เป็นเตียงขนาดหย่อมหนึ่งเตียง ส่วนทางด้านซ้ายมือของเขานี่มีโมบายยาวปิดหน้าประตูบานหนึ่งอยู่ ซึ่งเขาเดาเอาว่าน่าจะเป็นห้องน้ำ…

“นี่ห้องผมเอง…มีอะไรสงสัยอีกมั้ยครับคุณตำรวจ…หรืออยากจะค้นห้องผมก็ได้นะเชิญ จะได้รู้ว่าผมเป็นสายตำรวจมือสะอาด…ไม่มีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรทั้งสิ้น…” เด็กคนนั้นพูดพลางโยนกระเป๋าไปวางกองสุ่มๆอยู่บนเตียง ส่วนตัวเองก็เดินเข้าไปเปิดคอมพิวเตอร์ก่อนจะเดินกลับมาตรงหน้าเขาพลางดึงวิกผมออก…

“เฮ้ย…! วิก…!” วายุอุทาน เด็กคนนั้นใส่วิกหรอกหรือเนี่ย!

“ใช่…วิก ส่วนนี่ก็นมปลอม…ซาลาเปาใส่หมูแดงกับหมูสับไข่เค็ม กินมั้ย…ถ้าไม่รังเกียจว่ามันโดนนมผมมาแล้วอ่ะนะ…”

“นมปลอม! ผม…แทนตัวเองว่าผม! นี่อย่าบอกนะว่าเธอ…เป็นกระเทย!!” ตำรวจหนุ่มอึ้งอ้าปากค้าง เมื่อมองเด็กตรงหน้าหยิบซาลาเปาสองลูกออกมาจากบริเวณเต้านมทั้งสองข้าง ก่อนจะเอามากัดกินเข้าปากอีกต่างหาก…

               ผมซอยสั้น นมไม่มี แถมยังกล้าถอดเสื้อโชว์อวดหุ่นบางๆที่ไม่มีหน้าท้อง และไร้ไขมันส่วนเกินให้รกหูรกตาต่อหน้าเขาด้วย…ไม่จริงน่ะ เป็นกระเทยแท้ที่ตอนแล้วรึเปล่าวะเนี่ย !

“ฮ้า…กระเทยฮ่ะ…พอใจรึยัง! อยากจะได้ยินอะไรจากปากผมอีกมั้ย” เด็กหนุ่มเอ่ยปากประชดเข้าให้ สองมือที่ถือซาลาเปาหันไปคีบเสื้อยืดตัวหลวมโคร่งที่ถอดพาดอยู่บนเตียงตั้งแต่แรกอยู่แล้วขึ้นมาสวม มันดูทุลักทุเลไปนิดจนตำรวจหนุ่มต้องช่วยยื่นมือไปดึงกระบอกแขนเสื้อให้

“…เอาจริงๆสิ นี่เธอเป็นเพศไหนกันแน่…แล้วขายมานานแค่ไหนแล้ว”  คำถามที่คนถามคิดว่ามันธรรมดาถูกถามออกไป แต่มันกลับกระทบใจคนฟังให้ต้องรีบยกหมัดขึ้นมาขู่เสียจนติดแก้มสาก

“ถ้าไม่ติดว่าผมยังไม่ได้เงินค่าจ้างงานนี้นะ ผมจะรีบซัดคุณให้หมอบอยู่ตรงเนี่ย...” เด็กหนุ่มผมซอยสั้นขู่ฟ่อใส่เขาด้วยท่าทางที่ตำรวจหนุ่มรู้สึกว่ามัน...น่ารัก...ดีเหลือเกิน

“เอาสิ ถ้าคิดว่าล้มฉันได้ก็ลองดู...ทำไม หรือว่าเพิ่งเริ่มขายเลยอาย...นี่ ไม่ต้องกังวลไปหรอกน่า ฉันเป็นตำรวจมานาน รู้ดีว่าสายตำรวจน่ะมันมีอาชีพที่หลากหลาย...สาวไซด์ไลน์บางคนยังมาเป็นสายให้ตำรวจเพื่อเป็นอาชีพเสริมเลย แล้วเธอล่ะ ขายตัว...”

“หุบปาก!! แล้วออกไปจากห้องผมเดี๋ยวนี้...ออกไป!!” ซาลาเปาในมือทั้งสองลูกถูกเขวี้ยงออกไปให้จงใจโดนใบหน้ากวนประสาทของนายตำรวจร่างสูงแบบจะจะ แต่อีกฝ่ายกลับไวทายาดหลบกระสุนซาลาเปาของเขาทั้งสองลูกไปได้อย่างสบายๆ

“ฉันไม่ออก...แล้วเธอจะทำไม...” วายุที่เริ่มรู้สึกสนุกกับการไล่แกล้งเด็กแบบนี้ขึ้นมายกมือกอดอกพลางล้มตัวลงนั่งปลายเตียงอย่างสบายใจ

“ก็ถ้าคุณไม่ออกไปนะผมจะ...ผมจะ...ผมจะแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้...!!!” คนตัวเตี้ยกว่ายกมือชี้หน้าตำรวจหนุ่มจอมกวนประสาทที่ยังนั่งประดิกเท้าอยู่ตรงปลายเตียงเขาไม่เลิก แถมพอเขาขู่จบยังมีหน้ามาหัวเราะใส่เขาต่ออีกแน่ะ...เดี๋ยวเถอะจะได้เจอฤทธิ์ รอพ่อถอดปลั๊กก่อนเถอะจะทุ่มด้วยซีพียูราคาหมื่นแปดนี่แหละ...ฮึ้ย!

“อะไร...หัวเราะอะไร!!”

“จะแจ้งตำรวจ? เอาเลย...เชิญเลยครับ คุณมีอะไรอยากจะแจ้งก็แจ้งมา...ผมยินดีรับฟังเรื่องทุกข์ร้อนของคุณทุกเรื่อง...” พูดค้างไว้แค่นั้นแล้ววายุก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก้าวขาเข้าไปหาเด็กตัวเตี้ยอย่างคุกคาม ก่อนจะก้มลงกระซิบที่ใกล้ๆใบหน้าเป็นประโยคสุดท้ายว่า “...ไม่ว่าจะเรื่องหนูหาผัวไม่ได้...หรือว่าอยากลองของแปลกใหม่ก็บอกได้นะ พี่ยินดีช่วย...ฮ่าๆ”

“ไอ้...ไอ้...ไอ้บ้ากาม!! ไอ้...ฮึ้ยย๊า!!” เจ้าของสรรพนาม ‘หนู’ กำมือสั่นริกๆด้วยอารมณ์โกรธ ก่อนจะระบายอารมณ์ที่อัดอั้นนั้นไว้ลงไปบนส้นเท้าที่จงใจเหยียบลงไปแรงๆบนเท้าใหญ่ๆที่อยู่ตรงหน้า

“โอ๊ยยยย” เสียงร้องครางลากยาวด้วยความเจ็บปวดของตำรวจหนุ่มวัยสามสิบห้า ทำเอาคนลงส้นเท้ารู้สึกสะใจเป็นยิ่งนัก...

“ดี! สม!! ...เล่นกับใครไม่เล่น...มาเล่นกับเอื้องผึ้ง ลูกพ่อชาตรีกับแม่เอื้องได้ยังไง...” เด็กหนุ่มมีการปัดมือสองสามทีแล้วตามด้วยปาดจมูก เลียนแบบท่าทางนางเอกประเภทแก่นเซี้ยวในละครหลังข่าวช่วงหกโมงเย็นได้เนียนกริบ...

“ไอ้!! ไอ้เด็กบ้า!! ไอ้เด็กเปรต!!! ถึงกูจะใส่รองเท้าแต่มันก็เจ็บนะโว้ย...!! โอ๊ย...”

“เออ!! ก็ทำให้เจ็บน่ะสิ...คนอะไรพูดไม่รู้เรื่อง เสือกเรื่องชาวบ้านเขาเกินหน้าที่...แถมยังมาบุกรุกห้องคนอื่นเขายามวิกาลอีก...ไอ้ตำรวจบ้า!!!” เอื้องผึ้งขึ้นเสียงตะโกนแข่งกับเสียงร้องโอดโอยของตำรวจหนุ่มตรงหน้าให้ดังขึ้นอีก โดยที่ไม่รู้เลยว่าเสียงร้องจะโกนของตัวเองนั้นดังเข้าหูสมาชิกที่เหลืออีกสี่คนของบริษัท จนต้องรีบแหกขี้ตาตื่นมากลางดึกเพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับน้องนุชสุดท้องของบริษัท
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: dek-zaal3 ที่ 23-09-2013 08:22:08

                เสียงวิ่งตึงตังลงบันไดและเสียงเปิดประตูห้องน้องเล็กของบริษัททำเอาคนสองคนที่ยังเถียงกันหน้าดำหน้าแดงอยู่ภายในห้องต้องหยุดชะงัก ด้วยท่าทีที่ล่อแหลมเสียเหลือเกินเมื่อตอนนี้วายุเอามือข้างหนึ่งไปฉุดกระชากคอเสื้อของไอ้เตี้ยขึ้นมาใกล้ๆ ในขณะที่อีกฝ่ายก็กำลังเอื้อมมือไปที่เป้าคนตัวสูงกว่า หมายตาจะเล่นจุดยุทธศาสตร์ที่ใครคิดว่ามีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่ทำได้กันล่ะ! ไอ้ผึ้งคนนี้แหละจะกำไข่ไอ้ตำรวจหน้าตากวนตีนนี่ให้เป็นหมันเลยคอยดู!!

“ไอ้ผึ้ง!!! / ไอ้ห่าผึ้ง!!!/ น้องผึ้ง!!! / เอื้องผึ้ง!!!” เสียงร้องประสานเสียงของสี่หนุ่มที่ยืนออกันอยู่หน้าประตูมาพร้อมอาการอ้าปากค้าง...

               เอื้องผึ้งเอี้ยวตัวหันไปมองผู้มาใหม่พร้อมศีรษะของตำรวจหนุ่ม ที่เอียงมองหาที่มาของเสียงประสานที่จู่ๆก็ดังขึ้นด้วยความสงสัยเช่นกัน

“เอ่อ...ไอ้ผึ้งพี่ขอโทษ ได้ยินเสียงดังเอะอะก็เลยรีบออกมาดูเฉยๆ...ไม่คิดว่าแกจะกำลัง...” ชายหนุ่มผมยาวประบ่าที่ยืนอยู่คนแรกเอ่ยขึ้น

“ใช่ๆ...ไม่คิดว่าแกกับ...ผู้ชายคนนั้นจะกำลังอะซาบาลาเฮ่กันอยู่ โทษที...งั้นเดี๋ยวฉันไปนอนก่อนแล้ว” หนุ่มตัวสูงผอมที่ยืนถัดมาเอ่ยต่อ เอื้องผึ้งหันไปมองสบตากับหนุ่มตำรวจตรงหน้าแบบไม่ได้นัดหมาย ก่อนที่ต่างฝ่ายต่างรีบกระโจนออกห่างราวแม่เหล็กขั้วเดียวกันที่มันไม่ยอมดูดให้อยู่ใกล้กันอย่างไรอย่างนั้น

“เดี๋ยว!...พี่ฉัตร พี่ซัน...คือมันไม่ใช่...” เอื้องผึ้งยกมือปรามพี่สองคนแรก ที่รู้เลยว่าในสมองคงจะกำลังจินตนาการถึงฉากสุดบรรเจิดอะไรซักอย่างที่คงมีเขาร่วมแสดงอยู่ด้วยแน่ๆ เผลอๆอาจมีอีตาหน้าดุนี่อยู่ด้วยก็ได้...แค่นึกเขาก็เสียวไส้แล้ว

“น้องผึ้ง...วันหลังจะทำอะไรก็ล็อกประตูก่อนสิ” หนุ่มร่างเตี้ยผิวขาวพอกันกับเอื้องผึ้งซึ่งยืนเป็นคนที่สามเอ่ยถัดมา

“พี่รัก ไปกันใหญ่แล้ว...! ”

“หรือว่าผึ้ง...อยากโชว์!!!” ตบท้ายด้วยคำพูดกำกวมของหนุ่มคนที่สี่ เจ้าของฉายาทะลึ่งหน้าหยก ที่คราวนี้ทะลึ่งเสียจนเอื้องผึ้งอยากผูกคอตาย

“สาบานได้พี่เตย...ว่าผึ้งแค่พยายามป้องกันตัวเองจากไอ้หนุ่มโรคจิตที่มันมาปีนเข้าห้องผึ้งเฉยๆอ่ะ!!!” เอื้องผึ้งรีบลนลานกุเรื่องโยนอึไปให้ไอ้คนตัวสูงที่ยืนทำหน้าเอ๋อใส่เขาอยู่ข้างๆเป็นที่เรียบร้อย

               ...สมน้ำหน้า...ที่อยู่ตรงนี้ก็พรรคพวกเขาทั้งนั้น ให้มันรู้ไปสิว่าพวกพี่ๆจะเข้าข้างไอ้หนุ่มแปลกหน้านี่มากกว่าเขา

“เดี๋ยวสิไอ้หนู...ว่าใครเป็นหนุ่มโรคจิตวะ” วายุชักเริ่มยั้วะเพราะจู่ๆก็โดนโยนบทบาทตำแหน่งหนุ่มโรคจิตปีนเข้าห้องกระเทยมาให้แบบไม่มีเตี๊ยม มันน่ารู้สึกภาคภูมิใจมั้ยล่ะ “...นี่ฉันเป็นตำ...”

               พูดได้แค่นั้นร่างสูงใหญ่ก็โดนเด็กแก่แดดตัวเตี้ยกว่าโน้มคอลงมาเอาปิดปาก...แต่ปิดแค่ปากยังไม่พอไอ้หนุ่มหน้ามลนี่ยังช่วยเขาปิดจมูกเข้าให้อีกต่างหาก...

               ...เฮ้ย จะอุดปากกันก็ไม่ว่า...แต่ช่วยลงมาต่ำๆหน่อยได้มั้ยวะ...กูหายใจไม่ออกโว้ย!

“แกนี่มันโรคจิตจริงๆเลยนะ...ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าฉันไม่ชอบผู้ชาย ก็ยังจะส่งจดหมายรักมาให้อยู่นั่นล่ะ ลงไปเลยไป๊! มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลย...ไปไป๊ ชิ่ว...” ไม่ใช่แค่ชิ่วด้วยปาก แต่เอื้องผึ้งยังช่วยสมนาคุณไล่ด้วยมือให้ร่างสูงใหญ่ปีนลงไปที่ขอบหน้าต่างด้านนอกด้วย

              ...นี่แค่ชั้นสอง ตกลงไปอย่างมากก็คงแค่แขนเดาะ...แต่ก็ดีกว่าดันให้ไอ้หมอนี่มันกลับออกไปทางเดิม เดี๋ยวพวกพี่ๆก็รู้หมดว่าจริงๆแล้วไอ้โรคจิตนี่ไม่ได้ปีนเข้าห้องเขามา แต่เป็นเขาที่ไขกุญแจเปิดบ้านให้มันเข้ามาด้วยตัวเองเลยต่างหาก...

“เฮ้ย...เดี๋ยวสิ จะให้กูไต่ตามขอบหน้าต่างเหมือนโจรลงไปแบบนี้ไม่ได้นะโว้ย...” พอร่างสูงใหญ่ออกมายืนอยู่บนขอบหน้าต่างอย่างหมิ่นเหม่เรียบร้อยแล้วเอื้องผึ้งก็เอามือที่อุดปากอุดจมูกอีกฝ่ายออก แต่ดูสิไม่ทันไรก็เริ่มส่งเสียงโวยวายออกมาอีกแล้ว...นี่เขาคิดผิดหรือคิดถูกวะที่ปล่อยให้มันไต่หน้าต่างลงไป น่าจะผลักให้มันลอยลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็วแบบไม่ต้องใช้ลิฟท์เลยมากกว่า...

“แล้วคุณอยากจะกลับเข้ามาในห้องผมแล้ววัดดวงกับปืนพี่ซัน หรืออยากจะกลับลงไปง่ายๆแบบไม่ต้องเหนื่อยวะครับ...” เอื้องผึ้งกัดฟันพูดตอบโต้กับไอ้หน้าดุ ทันเห็นมันพยายามจะต่อปากต่อคำกับเขาอีกไม่ยอมจบซักทีเอื้องผึ้งเลยตัดปัญหา เลื่อนหน้าต่างบานแก้วปิดฉับ ล็อกลงกลอนแล้วดึงม่านเข้ามาชิดกันเป็นอันจบกระบวนการ

               ได้ยินเสียงอะไรก็อกแก็กๆอยู่กับบานแก้วด้านนอกแต่เด็กหนุ่มก็ทำเป็นไม่สนใจ เดินยิ้มแหยๆเข้ามาหาพี่อีกสี่คนที่เดินเรียงหน้ากระดานเข้ามาหาเขาแล้วช่วยกันมองอย่างจับผิด

“อย่าให้รู้นะ...ว่าแอบลักลอบได้เสียกับไอ้หนุ่มนั่นในบริษัทพี่แล้วมาโกหกกันอ่ะ” ฉัตรฟ้า ผู้ก่อตั้งสตูดิโอรับจัดงานแต่งงานแห่งนี้เสยผมยุ่งๆขึ้นไปบนศีรษะ แล้วเอ่ยถามสมาชิกสตูดิโอที่อายุน้อยที่สุดเสียงต่ำ

“พี่ฉัตร...ผึ้งสาบานเลยว่าไม่มีอะไรในก่อไผ่จริงจิ๊ง...” เด็กหนุ่มผิวเนียนยกมือมาโบกเพื่อช่วยในการปฏิเสธข้อกล่าวหา

“ขึ้นเสียงสูง แสดงว่าโกหกนะผึ้ง” สายตาจับผิดคู่ที่สองส่งมาจาก ซันเซ็ต อดีตนายแบบดาวรุ่งที่ร่วงลงมาจากฟ้าเพราะข่าวทำผู้หญิงท้อง...แถมไม่ใช่ท้องธรรมดานะ ท้องลูกแฝดอีกต่างหาก...

“แต่จากการสันนิษฐาน...มันอาจจะไม่มีอะไรอย่างที่ผึ้งว่าก็ได้นะพี่ซัน เพราะข้าวของกระจัดกระจายเหมือนคนเพิ่งกลับมาจากข้างนอก...มากกว่าคนกำลังมีเรื่องปลุกปล้ำกันอยู่ภายในห้อง...” น้ำเสียงจ้องจับผิดของคนที่สามเป็นของ เตยหอม หนุ่มเหนือผิวขาวที่มีพรสวรรค์ทางด้านการทำอาหารทั้งไทยและเทศ โดยเฉพาะอาหารชาววังนี่ยิ่งถนัดเป็นพิเศษ ดวงตากลมๆกวาดมองสภาพห้องคนที่อายุน้อยสุดอย่างสังเกตการณ์

“เอ้อ...พี่ซัน ก็อย่างที่พี่เตยว่านั่นแหละ ผึ้งเพิ่งกลับมาจากข้างนอก พอดีคืนนี้ร้านคาราโอเกะที่ผึ้งไปทำงานมันเกิดเสียอยู่พักใหญ่ ผึ้งเลยโดนขอร้องให้ช่วยซ่อมให้ เสียเวลาไปหลายชั่วโมงเลย” รอยยิ้มแห่ะๆของเจ้าตัวส่งไปอ้อนพี่ๆทั้งสี่ ขอร้องด้วยแววตาว่าเชื่อเถอะนะ ซาลาเปาไส้หมูแดงกับหมูสับไข่เค็มเป็นพยานให้ผึ้งได้!

“พี่ฉัตร พี่ซัน เตย...เชื่อน้องมันเถอะ กลับไปนอนกันได้แล้ว นี่มันตีสามแล้วนะ...ตีห้าพี่ซันต้องตื่นมาแต่งหน้าเจ้าสาวเขาไม่ใช่รึไง...” น้ำเสียงนุ่มนวลของ ดอกรัก ยังคงช่วยคลี่คลายเรื่องต่างๆได้เหมือนเดิม รอยยิ้มหวานๆของดอกรักทำให้เอื้องผึ้งอยากจะเข้าไปกอดพี่ชายคนนี้ แล้วบอกขอบคุณซักล้านทีที่ยอมเข้าข้างเขาบ้าง

“รักไม่ต้องเข้าข้างน้อง...นี่แอบไปทำงานอะไรเสี่ยงๆมาอีกแล้วใช่มั้ยบอกพี่มา” ซันเซ็ตยังไม่หยุดการไต่สวน จำเลยตัวน้อยจึงค่อยๆหดลงเหลือสองขนาดแค่สองนิ้วแล้ว

“ที่พวกพี่ถามกันเนี่ย ก็เพราะเป็นห่วง...เรามีงานมีการทำเป็นหลักเป็นแหล่งแล้วนะ เงินเดือนพี่ก็ให้พอๆกันกับทุกคน แล้วทำไมยังไม่เลิกไปเป็นนักสืบอะไรนั่นอีก...” ฉัตรฟ้าพูดต่อ ส่ายหน้าระอากับความดื้อรั้นของเจ้าตัว เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัยด้วยกัน จนยันเปิดบริษัทร่วมกันได้แล้วก็ยังไม่เลิกนิสัยความดื้อนี้อีก

“ไม่ใช่นักสืบ...เขาเรียกสายตำรวจ” เอื้องผึ้งเถียงเสียงอ่อย

“จะอะไรก็ช่าง...แต่มันก็งานอันตราย พี่ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายนะผึ้งที่ผึ้งจะรับทำงาน ไม่เห็นแก่พวกพี่ก็เห็นแก่พี่สาวแท้ๆของเราอีกสองคนบ้าง วันนี้ยังโทรมาถามเมื่อตอนเย็นเลยว่าผึ้งไปไหน ทำไมไม่รับโทรศัพท์...พี่เอื้องฟ้ากับพี่เอื้องคำเขาเป็นห่วงเรามากนะรู้มั้ย” ซันเซ็ตจี้จุดอ่อน รู้ดีนักล่ะว่าถ้าอ้างใครไม่ได้ให้ยกชื่อพี่สาวฝาแฝดของเจ้าตัวมาอ้าง เพราะชีวิตนี้รุ่นน้องตรงหน้าไม่เหลือใครอีกแล้วนอกจากพี่สาวฝาแฝดสองคนที่อยู่ลำปาง ซึ่งเอื้องผึ้งจะคอยดูแลเป็นอย่างดีเพราะเป็นลูกชายคนเดียวที่ได้มาทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ

“...เอ่อ...จริงเหรอพี่ซัน งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าผึ้งจะโทรกลับไปหาพี่ๆเขาเอง...ผึ้งขอโทษนะพี่ฉัตร สัญญา! ว่างานนี้จะเป็นงานสุดท้ายจริงๆแล้ว...” เด็กหนุ่มยกมือพนมไหว้รุ่นพี่ที่มหาลัยที่ตัวเองรักดังพี่ชายแท้ๆ ทั้งฉัตรฟ้าและซันเซ็ตเอื้อมมือมาลูบหัวเอื้องผึ้งกันคนละทีก่อนจะส่ายหน้าระอากับใบหน้าขี้อ้อนบวกแววตาน่าสงสารนั่น

“ก็เห็นพูดว่างานสุดท้ายมาเป็นรอบที่สี่สิบสามแล้วนะน้องผึ้ง...” เตยหอมยังไม่หยุดแซว

“พอแล้วน่ะ...กลับห้องไปนอนกันเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าฉันกับนายต้องออกไปที่โรงแรมพร้อมกันแต่เช้านะอย่าลืม...” ดอกรักย้ำความจำเพื่อน เตยหอมทำหน้าเหลอพลางพยักหน้าอย่างจำใจเดินกลับ

“เอ้อ...แล้วพรีเซ้นท์เทชั่นงานแต่งของพรุ่งนี้น่ะเสร็จรึยังผึ้ง...ถ้าเสร็จแล้วพรุ่งนี้แปดโมงพี่จะได้เอาซีดีไปที่ห้องจัดเลี้ยงเสียเลย” ก่อนออกจากห้องเตยหอมยังคงรั้งแขนเอาไว้ที่กรอบประตู แล้วเอี้ยวหน้ามาถามเจ้าของห้องที่ยืนอยู่ท่ามกลางไฟสีส้มสลัวๆ

“สะ...เสร็จแล้วครับ เหลือแก้เพลงอีกนิดนึง...รับรอง สวยเช้ง...” เอื้องผึ้งตอบตะกุกตะกัก ยกมือที่มีนิ้วชี้กับนิ้วโป้งแตะกันแล้วกรีดนิ้วที่เหลือออกเป็นรูปพัดไปให้ช่างทำขนมประจำบริษัท เตยหอมพยักหน้ารับรู้แล้วยกนิ้วโป้งกลับมาให้เป็นเชิงว่า ‘ดีมาก!’ ในขณะที่เจ้าของห้องแทบอยากจะนั่งแปะลงไปกับพื้นเสียเดี๋ยวนั้น...

                 ...ซวยแล้วตู...พรีเซ้นท์เทชั่นอะไรที่ว่านั่นเขายังไม่ได้เริ่มทำเลยต่างหาก อ๊าก...เส้นตายพรุ่งนี้แปดโมง! คืนนี้เขาคงไม่ต้องนงไม่ต้องนอนมันแล้วล่ะไอ้เอื้องผึ้งเอ๊ย...

              นี่สินะ...ผลกรรมของการรับทำงานซ้อนน่ะ!!






               ฝ่ายวายุ เขากระโดดลงจากบานเกล็ดหน้าต่างถึงพื้นได้อย่างสวยงาม มือปัดเช็ดเศษฝุ่นกับกระเป๋ากางเกงสีเทาตุ่นๆแบบไม่อินังขังขอบ ดวงตาดุคมกริบเงยมองไปที่ห้องๆหนึ่งที่เขาเพิ่งปีนออกมา...ความรู้สึกในตอนนี้เหมือนเขาเป็นไอ้หนุ่มกลัดมันที่ย่องเข้าห้องสาว แล้วโดนพ่อแม่สาวเจ้าจับได้เลยแฮะ...

                 ...ผึ้งหวาน...เอื้องผึ้ง...ลูกพ่อชาตรีกับแม่เอื้อง...

                 ...เราต้องได้เจอกันอีกแน่!...

                ...แล้วฉันจะเอาคืนเรื่องโจรโรคจิตเสียให้เจ็บแสบเลยคอยดู!...ไอ้เด็กเวรเอ๊ย...

                มือหนาล้วงลงไปในกระเป๋า สัมผัสถึงแฮนดรีไดรฟ์อันจิ๋วเย็นๆที่นอนนิ่งอยู่ที่นั่น ใกล้ๆกันก็เป็นการ์ดพลาสติก ชายหนุ่มหยิบมันออกมาส่องกับแสงไฟ...อ่านหัวข้อการ์ดด้านบนว่า...

               ...ประเทศไทย Kingdom of Thailand... ...ใบอนุญาตขับรถ Driving License...

               ...นายดารินทร์ บุศวรรณ... อายุถ้านับจากวันเกิดปีนี้ก็...24 ปีพอดี

               เฮ้ย!!! หน้าแบบนั้นน่ะนะอายุ 24 !!! วายุต้องเพ่งสายตาลงมองไปที่ใบหน้าอ่อนเยาว์ในรูปถ่ายติดบัตรอีกที รูปนี้แลดูไม่ต่างจากเด็กม.ต้นที่เพิ่งถ่ายรูปทำบัตรประจำตัวประชาชนครั้งแรกในชีวิตเลยซักนิด...สงสัยคงผ่านการศัลยกรรมมาอย่างโชกโชนแล้วแน่ๆ ทั้งตาสองชั้น เหลาคาง เสริมจมูก...นี่คงจะไปฉีดผิวมาอีกอย่างด้วยแน่ๆ...นมยังไม่ได้ทำ...แต่ไอ้ตรงนั้นนี่คงจะตัดทิ้งแล้วสินะ ถึงได้แต๊บไว้เนียนเหลือเกิน...

               คิดมาถึงตรงนี้ความคิดก็หยุดชะงัก...

               ...คิดบ้าอะไรวะไอ้วายุ!!! ทำงานสิโว้ยทำงาน!!!...

              ...ไปนึกจินตนาการตรงนั้นของไอ้เด็กนั่นไปเพื่อ?!...

              เจ้าของรถบิ๊กไบค์คันใหญ่สีดำมะเมื่อมตบหัวตัวเองผ่านหมวกกันน็อคแบบเต็มใบแรงๆ เพื่อเป็นการไล่สติให้คืนกลับเข้าที่ ภาพผิวขาวๆ ตัวหอมๆ ปากมันๆเยิ้มลิปสติกสีชมพูอ่อนนั่นต้องไม่มีวนเวียนให้เขาเห็นตอนขับรถโดยเด็ดขาด...ไม่งั้นมีสิทธิ์เขาได้เสยล้อหน้าเข้ากับเสาไฟฟ้าที่สี่แยกนั่นแน่!!!

------------------------------   - -  -  ---  -         --            -     -         --       -           -


ฮี่ฮี่ เค้าคึกอ่ะตัวเอง ลงตอนสองต่อเลยอ่ะ  :mew4:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 23-09-2013 10:08:21
ดีใจค่ะที่นักเขียนคึก เพราะทำเราติดตั้งแต่ตอนแรกเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 23-09-2013 10:28:02
ดันต้องปีนกลับลงมาซะงั้น


รออ่านต่อครับ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 23-09-2013 10:28:55
อร๊ายยยยยยย

เอื้องผึ้ง :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:


ตั้งใจทำงานน่ะค่ะคุณลูกสาววววว

หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 23-09-2013 11:37:34
เราว่าเราติดเรื่องนี้แล้วแต่แหละ

ชอบผึ้งนะ ห้าวแบบลูกกำนัน อิอิ

รอตอนต่อไป มาไวๆ นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 23-09-2013 12:51:08
กัดกันแบบนี้ลูกดกนะจ๊ะ 5555
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: zylph_z ที่ 23-09-2013 13:47:34
ตีกันตั้งแต่ตอนแรกๆเลยนะ 555+
วายุโดนยัดข้อหาหนุ่มโรคจิตซะงั้น ส่วนเอื้องผึ้งก็โดนเข้าใจว่าเป็นกระเทย(เอ๊ะ! หรือว่าเป็น??) ชักจะสนุกขึ้นมาละ รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 23-09-2013 14:06:16
คึกบ่อยๆนะชอบ คึคึ จะได้อ่านบ่อยๆ ชอบบ 
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 23-09-2013 14:09:41
อะนะ เจ็บแสบสุดๆเลยดิ 555
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: phuncha ที่ 23-09-2013 14:42:30
ติดตามคร้า  :mc4: :mew1:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 23-09-2013 16:37:04
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 23-09-2013 16:48:22
คุณตำรวจจจแบบนี้ก็สบายสิคะ
ไม่โดนข้อหาพรากผู้เยาว์ กร้ากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: lalitalx ที่ 23-09-2013 18:29:53
เอื้องผึ้ง  :-[   มาสไตล์คู่กัด น่าร๊ากกกก ชอบคู่นี้ พี่ๆเต็มบ้านเลยน้า มาช่วยเพิ่มพลังจิ้น 55555  :mew1:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: teatimes ที่ 23-09-2013 18:48:53
อร้ายย  ผึ้งห้าวมาก   ชื่อออกจะหวานแตาแอบห้าวนะเนี่ย

ส่วนพี่วายุนี่  ก็ฮาได้อีก  แค่นี้ก็มองไม่ออกมาเป็นปู้ชาย

ระวังตกบ่วงน้ำผึ้งจนถ้วนตัวไม่ขึ้นนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 23-09-2013 20:31:49
5555 เอื้องผึ้งน่ารัก
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: pachth ที่ 23-09-2013 21:13:57
น่ารักมากเลยเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: anuruk97 ที่ 23-09-2013 23:11:00
หนูผึ้งน้อยทำไมน่ารักจัง  ต้องขอบคุณเขียนนะที่คึกลงเพิ่มให้
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 24-09-2013 03:10:06
 :m20:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 24-09-2013 09:25:05
ติดใจเรื่องนี้ เริ่มเรื่องได้น่าสนใจมาก!!!!!
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 24-09-2013 09:45:10
พี่ตำรวจติดจายยยยย
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 25-09-2013 14:53:51
ผึ้งหวาน :m25:
เอื้องผึ้ง o8
กัดกันแบบนี้รักกันมันหยดติ๋งๆแน่
มีพี่ชายที่น่ารักอีก4คน
คิดว่าน่าจะมีอีกหลายคู่รึป่าว :impress2:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: eye-lifestyle ที่ 13-10-2013 08:59:31
 :hao6: :hao6: :hao6: น่ารักอ่าาาา
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: midnightblue ที่ 13-10-2013 21:39:41
 :serius2:หายไปนานจัง :hao4: อยากอ่านต่อแล้วอ่า  :katai1:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: NannY ที่ 15-10-2013 00:56:20
คุณวายุ ติดใจเข้าซะแล้วสินะคะ หึหึ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 17-10-2013 02:27:02
ผึ้งน่ารัก 55555
รอตอนต่อไปค่ะ
สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 17-10-2013 02:35:56
คุณเจ้แนะนำนะคะ  ว่าเรื่องใหม่ๆ ควรจะลงเยอะๆ เข้าไว้  เพราะคนอ่านจะได้ติดใจ และเรื่องจะได้ไม่ตกไปหน้าหลังๆ

สู้ๆ

อิเจ้
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๒ [23/09/2013] pg.1
เริ่มหัวข้อโดย: QueenPedGabGab ที่ 17-10-2013 11:33:42
รออยู่น้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: dek-zaal3 ที่ 19-10-2013 12:34:19
ตอนที่ ๓




                เอื้องผึ้งเดินอย่างสะโหลสะเหลเข้ามาในตัวห้องจัดเลี้ยงของทางโรงแรม ด้วยเพราะยังไม่ได้นอนเลยตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ แถมวันนี้เขายังต้องนั่งคุมพวกเครื่องเสียงเองทั้งหมดตลอดจนจบงานอีก...ทำให้อาการท่าทางของเขาดูคล้ายซอมบี้ผีศพคืนชีพเข้าไปทุกที แต่ถึงกระนั้นแผนการณ์ที่จะแอบไปงีบหลับก่อนถึงงานเลี้ยงกลางคืนซักยี่สิบสามสิบนาทีก็เป็นอันต้องพับเก็บ เมื่อเห็นร่างสูงโปร่งวิ่งกระหย็องกระแหย็งมาทางเขาด้วยสีหน้าตื่นตูม...

“พี่ผึ้งๆ ไมค์ลอยที่ใช้ในงานเลี้ยงกลางคืนมันเจ๊งไปตัวนึงอ่ะพี่ เอาไงดี...เหลืออีกสองชั่วโมงงานก็จะเริ่มแล้วเนี่ย”

“เฮ้ย แล้วมันมาเสียอะไรตอนนี้วะ...จำได้ว่าก่อนออกจากบริษัทก็เช็คดีแล้วนะเว้ยไอ้โย” เอื้องผึ้งเอาหูฟังที่ครอบหูตัวเองออกก่อนจะเอานิ้วมาคลึงที่หว่างกลางคิ้วตัวเองพลางมองน้องฝึกงานของบริษัทอย่างหนักใจ

“เอ๋า...ผมก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะพี่ จู่ๆมันก็ดับ ผมต่อเข้าวงจรยังไงก็ไม่ได้เรื่องเลย พี่ช่วยดูให้ผมหน่อยสิ เดี๋ยวผมจะเดินไปดูที่หลังเวทีอีกที เผื่อจะมีไมค์สำรองติดมาซักตัว” ไอ้โย หรือนายโยธิน นักศึกษาฝึกงานปีสี่รูปร่างสูงโปร่งยัดไมค์ใส่มือพี่ฝึกงานตัวเอง แล้วเดินลิ่วตัวปลิวหายไปหลังเวทีทันทีดังที่เอ่ยไว้

“อ้าวเฮ้ย! ไอ้...ไอ้โย! พี่ฉัตรให้เอ็งมาช่วยข้านะโว้ย ไม่ใช่ให้ข้ามาช่วยเอ็งแบบนี้...ไมค์เสียเอ็งก็ซ่อมสิวะ ถือว่าเป็นหนึ่งในขั้นตอนการฝึกงานนะโว้ย เฮ้ย...!” เอื้องผึ้งอยากเอาไมค์ในมือเขวี้ยงไกลร้อยเมตรไปให้ไอ้น้องรหัสรับด้วยศีรษะนัก นี่เห็นว่าเขาเป็นทั้งพี่โถและพี่รหัสมันมาก่อนหรอกนะ เลยพอจะยกเว้นไอ้อาการข้ามรุ่นเล็กๆแบบนี้ได้

“ไอ้นี่นี่ ที่ฝึกงานก็ไม่ต้องหา งานก็ดี พี่ที่ทำงานก็น่ารักกันทั้งนั้น...ทำไมมันไม่ทำตัวน่ารักเหมือนเวลาอยู่กับพี่ๆคนอื่นๆเขามั่งวะ ไอ้โย...ไอ้กุ้งแห้ง...อ้าวแล้วไขควงก็ไม่มี จะให้แงะตูดไมค์ด้วยไม้จิ้มฟันหรือไงวะไอ้ขนมปังหน้าหมูไม่ใส่ซอสเอ๊ย...”

“บ่นอะไรเป็นยายแก่ไปได้ เอ้านี่...ไขควง”

“เออ ขอบใจ...ก็จะไม่ให้บ่นมันได้ยังไง...ก็ดูมันเอางานมาโยนใส่พี่มันสิ นี่ผมเป็นพี่เลี้ยงมันนะ ทำไมมันทำแบบนี้กับผมได้...วะ...เอ๊ย ครับ!! คุณ....นาย...!!!”

“จะคุณ หรือจะนายก็เอาซักอย่าง แต่นายยังเป็นเด็ก เรียกฉันว่าคุณดูท่าทางจะเหมาะกว่านะ...”

“คุณ...เอ๊ย นาย...โรคจิต!!! มาที่นี่ได้ไงวะ อย่าบอกนะ ว่าทำตัวเป็นสตอร์กเกอร์ แอบหลอกตามผมมาตั้งแต่เช้าแล้วอ่ะ”

            เอื้องผึ้งมองชายใส่สูทตรงหน้าด้วยอาการนิ่งค้าง ไขควงในมือลงล็อกกับสกรูที่ก้นไมค์เรียบร้อยแล้ว แต่เหมือนคนถือจะลืมนึกไปว่าตัวเองกำลังจะทำอะไรอยู่...ก็ใครใช้ให้ไอ้หมอนี่มันใส่สูท ผูกไทด์ เสยผมไปไว้ข้างหลังนิดหน่อยแล้วจะหล่อโฮกน้ำลายหยดขนาดนี้วะครับ ขนาดเขาเป็นผู้ชาย ยังแอบทึ่งคนตรงหน้าไม่ได้เลย ว่าร่างกายและหุ่นของเขาเหมาะมากที่จะไปเป็นนายแบบชุดสูท เพราะมันเข้ากับรูปร่างสมส่วนกล้ามโตของพ่อเจ้าประคุณเป๊ะ

“ใครจะเสียเวลาทำเรื่องไร้สาระได้ทั้งวันห๊ะไอ้เด็กบ้า”

“เอ๋า...ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ เห็นท่าทางไม่ค่อยน่าไว้ใจ เลยระวังตัวไว้ก่อน”

“ผมเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์นะครับ ไม่ทราบว่าคุณจะกลัวผมไปทำไมมิทราบ...” วายุก้มลงมองคนที่ทำหน้านิ่ว แล้วเดินหนีเขาไปนั่งลงบนลำโพงเครื่องเสียงตัวใหญ่ด้วยความอารมณ์ดี ใครจะนึกว่าการตามเจ้านายมางานเลี้ยงกลางคืนพร้อมสูทผูกไทด์ที่เขาเกลียดแสนเกลียดจะทำให้เขาได้เจอใครอีกคน ที่เมื่อคืนนี้ทำเอาเขานอนไม่หลับ เพราะมีภาพเจ้าหนุ่มพร้อมซาลาเปาสองลูกมาลอยวนไปเวียนมาอยู่เต็มที่นอนไปหมด

“ก็...ก็ตำรวจเดี๋ยวนี้มันเชื่อถือได้มากแค่ไหนล่ะ เห็นที่ไปดักจับหมวกกันน็อคบนท้องถนนนี่ยังกับเหวี่ยงแห เห็นประชาชนตาดำๆอย่างเราเป็นลูกอ๊อดล่ะซี่ ถึงได้จับกันโครมๆ ไม่มีสนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม”

“นี่เธอ...ตำรวจเขาจับก็เพราะเขาต้องการดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยบนท้องถนน พวกผมไม่ได้ไปเดือดร้อนอะไรแทนพวกคุณหรอกครับเวลาคุณตายเพราะหมวกกันน็อคไม่ใส่แล้วโดนรถชนหัวแบะน่ะนะ”

“ไอ้...ไอ้ตำรวจปากเสีย!! แช่งประชาชน...”

“ผมไม่ได้แช่งหรอกผมแค่พูดความจริง...” วายุเอ่ยบอก ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตอนนั้นสีหน้าตัวเองดูกวนอารมณ์อีกฝ่ายมากขนาดไหน ถึงขนาดที่ว่าเอื้องผึ้งแอบหันไปทำลอยหน้าลอยตาล้อเลียนคำพูดของอีกคนก็ลมกับฟ้าด้วยอารมณ์หมั่นไส้

“...จะซ่อมไมค์ใช่มั้ย มา...ฉันช่วย” วายุทำเป็นมองไม่เห็นอาการแลบลิ้นปลิ้นตาของอีกคนเสีย แล้วหันมาดูไมค์กับไขควงในมือบางแทน มือก็แค่นั้น นิ้วมันก็เล็ก จะเอาแรงที่ไหนมาบิดไขควงได้วะ สงสัยว่าจนงานเริ่มไมค์ก็คงจะยังไม่เสร็จหรอก

“ไม่ต้อง...เอามา ซ่อมเองได้...” แต่ทันเสียที่ไหน มือมันยาวผิดกันเยอะ สุดท้ายเอื้องผึ้งเลยได้แต่มองตามร่างสูงใหญ่ที่ทรุดนั่งลงข้างกันบนลำโพง แล้วลงมือซ่อมไมค์แทนเขา

             เด็กหนุ่มแอบเหลือบมองอีกฝ่ายเป็นระยะ ก่อนจะแสร้งถอนหายใจเฮือกๆให้รู้ว่าไม่ได้เต็มใจเลยซักนิดที่มีคนอาสามาทำไมค์ให้แทนตัวเอง เอื้องผึ้งกำลังจะลุกออกไปหาที่งีบซักแป๊บหนึ่งอยู่แล้วเมื่อตอนที่ดอกรักเดินสวนกันเข้ามา ชายหนุ่มนักจัดดอกไม้มองหน้ารุ่นน้องตัวเองที่ทำหน้ามุ่ย พลางเหลือบสายตาไปมองชายหนุ่มร่างสูงที่รีบผุดลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทันทีที่เห็นเขาเดินเข้าไปหา

             ดอกรักส่งยิ้มให้อีกหนึ่งหนุ่มเสียก่อนเพื่อบ่งบอกความเป็นมิตร นึกคุ้นๆหน้าในแว่บแรกที่เห็น แต่พอลองตั้งใจเก็บรายละเอียดดูอีกทีคนความจำดีอย่างเขาเลยนึกออกได้ไม่ยาก...

“อ๋อ...คุณโรคจิตที่ปีนเข้าหาห้องน้องชายผมเมื่อคืนใช่มั้ยครับ ใส่ชุดนี้แล้วดูไม่เหมือนคุณโรคจิตเมื่อคืนเลยนะครับ...” ดอกรักเอ่ยทักก่อนด้วยความใสซื่อ แต่ทว่าอีกสองคนที่ฟังกลับหันหน้ามองกันแล้วเด้งตัวออกห่างกันเองทันที ดอกรักมองอาการนั้นของทั้งสองคนแล้วก็ได้แต่ออกอาการยิ้มๆไม่คิดมากอะไรนัก

“คือ...ผมไม่ใช่โรคจิตนะครับ ผมชื่อวายุ...ทำงานร่วมกับไอ้เด็กบ้า เอ๊ย...น้องผึ้งหวาน ลูกพ่อชาตรีกับแม่เอื้องครับ...”

“อื้อหือ...จำถึงชื่อพ่อชื่อแม่ผมเลยเหรอ” เอื้องผึ้งเอ่ยถามแกมประชด แต่อีกฝ่ายเพียงยกมือกอดอกยักไหล่

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ...คุณตำรวจวายุ” ดอกรักเอ่ยพลางยิ้มให้ วายุมีอาการคิ้วกระตุก ในขณะที่เอื้องผึ้งยักไหล่แล้วแย่งไมค์กลับมาถือเอง

“ผม...ยังไม่ได้บอกเลยว่าผมเป็นตำรวจ แล้วคุณรู้...?”

“ผมรู้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ...ส่วนรู้ได้ยังไงนั่นไม่สำคัญหรอก เพียงแต่ผมมีเรื่องอยากจะเตือนคุณกับผึ้งเสียหน่อย...ว่างานที่พวกคุณสองคนกำลังทำอยู่นี่มันเสี่ยงมาก ยังไงก็ระวังตัวกันหน่อยนะครับ” ดอกรักเอ่ยบอก เอื้องผึ้งหันมาทำตาโตใส่ ส่วนวายุนั้นตีสีหน้างงงวยไปแล้วเรียบร้อย

“หมายความว่ายังไง...คุณเป็น...หมอดู...?” วายุถามกลับ

“ฮ่าๆ...พี่รักเนี่ยนะ เป็นหมอดู!? คิดได้ยังไงน่ะ อ่านนิยายมากไปป่ะคุณ ดูยังไงว่าคนหน้าตาอย่างพี่รักนี่เป็นหมอดูเนี่ยฮะ?” เอื้องผึ้งพูดไปก็ตบไหล่อีกฝ่ายดังป้าบ ก่อนจะหัวเราะออกมาจนตัวงอ

“อ้าว ก็ใครจะไปรู้ พี่คุณเล่นพูดเหมือนพวก...”

“พ่อมดหมอผี?” ต้นรักต่อคำเองด้วยความอารมณ์ดี วายุเอามือมาเกาท้ายทอยเพราะโดนอีกคนรู้ใจต่อคำได้ถูกต้อง “เปล่าครับ ผมไม่ได้เป็นพ่อมด หมอผี หรือว่าหมอดูหรอก แต่ว่าเซนส์ของผมมันก็แม่นนะ”

“ใช่! เซนส์ของพี่รักน่ะแม่นสุดๆ ก็พี่รักน่ะมี...”

“เอ้อ...ว่าแต่ผึ้งเถอะ ไปหาพี่ฉัตรเร็วพี่เขาเรียกหา เห็นว่าเจ้าสาวเขาอยากได้เพลงอะไรเพิ่มก็ไม่รู้ ไปเร็วเดี๋ยวจะเตรียมงานไม่ทัน...” ดอกรักรีบทำการตัดบทพร้อมดึงแขนน้องบริษัทให้เข้ามาใกล้ตัวเอง หันมาส่งสายตาบอกลากับคุณตำรวจหนุ่มเสร็จ แล้วก็จัดการลากแขนหนุ่มน้อยเอื้องผึ้งติดมือออกมาด้วยทันที

               วายุทันได้ยินเสียงบ่นงุ้งงิ้งดังแว่วๆมาประมาณว่า ‘ไปบอกเขาทำไม’ แล้วไอ้เด็กบ้าตัวเตี้ยนั่นก็ตอบกลับไปว่า ‘พูดไปตาทึ่มนั่นมันก็ไม่รู้จักหรอก’

                ...หืม...ว่าเขาเป็นตาทึ่ม ไม่ดูตัวเองเลยนะไอ้เด็กซื่อบื้อ เดี๋ยวเถอะ...รอถึงทีเขาบ้าง จะรอจัดการทบต้นทบดอกให้ระบมเลยคอยดู!   


------------------------------   - -  -  ---  -         --            -     -         --       -           -
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: dek-zaal3 ที่ 19-10-2013 12:37:32

                เสียงขับกล่อมนุ่มๆที่จู่ๆก็ดังขึ้นบนเวทีดึงสายตาของผู้มาร่วมงานแต่งงานให้ไปรวมกันเป็นตาเดียวได้ไม่ยาก ซึ่งนั่นก็รวมทั้งวายุ ที่นั่งอยู่โต๊ะใหญ่สุดกลางห้องจัดเลี้ยง รวมกับท่านผู้กำกับใหญ่แห่งสน.ที่เป็นเจ้านายโดยตรงของเขา และเป็นบิดาของเจ้าสาวในค่ำคืนนี้ด้วย

                น้ำเสียงนุ่มๆหวานๆที่ฟังไม่ออกว่าเป็นของผู้หญิงหรือผู้ชาย สะกดให้คนดูพากันชะเง้อชะแง้มองคนร้องเพลงว่าจริงๆแล้วเป็นเพศใดกันแน่ เพราะเดาเอาแค่เสียงไม่ได้เลย แต่พอยิ่งเห็นหน้าค่าตาคนร้องก็ยิ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันใหญ่ เพราะคนฟังเดากันไปต่างๆนาๆว่าที่ร้องนั่นน่ะเป็นทอมหรือผู้ชายกันแน่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะน้ำเสียงหวานๆและเนื้อเพลงที่กินใจ เลยทำให้เสียงกระซิบกระซาบค่อยๆซาลง จนโดนสะกดด้วยน้ำเสียงหวานๆกันถ้วนหน้า

                โดยเฉพาะนายตำรวจหนุ่มที่ต้องแอบเผลอยกมือมาขยี้ตาแล้วเอามาแคะหูต่อด้วยความอึ้ง ร่างขาวๆนวลๆภายใต้แสงไฟสีส้มทองบนเวที ขับให้คนร้องเพลงแลดูเหมือนสาวทอมแรกรุ่น ยิ่งประกอบกับสไตล์เสื้อผ้าโทนสีฟ้าอ่อนตัดน้ำเงินเข้ม กับผมทรงเกาหลีที่เซตให้ตั้งๆขึ้น ผิดกับตอนก่อนหน้านี้ที่เขาดันไปเจอเด็กหนุ่มกำลังจะซ่อมไมค์ด้วยความบังเอิญราวคนละขั้ว ตอนนั้นเอื้องผึ้งมีใบหน้ามันแผล่บและท่าทางสะโหลสะเหลเหมือนคนไม่ได้นอน แต่ดูตอนนี้สิ พอขึ้นบนเวทีได้ก็เหมือนมีออร่าพวกดารานักร้องจับตามตัว จนถ้าใครไม่รู้จักมาก่อนอาจเข้าใจไปได้ว่าเด็กหนุ่มที่ยืนถือไมค์ร้องเพลงคลอเสียงดนตรีอยู่นั่น คือนักร้องหน้าใหม่ที่เพิ่งเดบิวต์มาจากค่ายไหนซักค่ายหนึ่งแน่นอน

...ดาว...เจ้าเอย ใครเคยฝากคำรำพัน...
...บอกกันอีกครั้ง ได้รึเปล่า...
...แสงจันทร์ทอแสงส่อง เราสองใต้แสงดาว...
...ขอเธอโอบกอดความรักของเรา...ให้นิรันดร์
...
...ฝากดาวให้เป็นพยาน...ขอให้รักเราเป็นนิรันดร์...
...

                เสียงเพลงจบลงไปพร้อมเสียงปรบมือเกรียวกราว และภาพเจ้าสาวที่ยกมือมาปาดน้ำตาด้วยความซาบซึ้งใจบทเพลงที่เพิ่งจบลงไป เอื้องผึ้งยกมือประนมพร้อมก้มหัวขอบคุณเสียงปรบมือที่ดังลั่นห้องโถงจัดงาน รอยยิ้มหวานๆพิมพ์ใจถูกส่งให้ผู้ฟังเป็นสิ่งสุดท้าย ก่อนจะก้าวลงจากเวทีไป

               พิธีกรสาวสวยรีบเข้ามาประจำที่ของตัวเองก่อนจะยกไมค์ขึ้นจ่อที่ปากแล้วเอ่ยเสียงหวานดำเนินพิธีการต่อ

“เสียงเพลงเพราะๆจากนักร้องเสียงหวานของเราก็จบลงไปแล้วนะคะ เป็นเพลงที่มีความหมายดีมากๆ มีข้อความฝากจากผู้จัดงานว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่แต่งขึ้นพิเศษ ที่มอบให้แด่คู่บ่าวสาวในค่ำคืนนี้เพียงคู่เดียวเลยนะคะ...และต่อจากนี้ จะเป็นของขวัญสุดพิเศษจากพี่ชายของเจ้าสาว นาวาอากาศเอกทินภัทร์ ที่จะขึ้นมาขับกล่อมบทเพลงเพื่อมอบให้เป็นของขวัญอีกชิ้นสำหรับน้องสาวคนเดียว ขอเชิญคุณเต้ขึ้นมาบนเวทีเลยค่ะ...”

                สิ้นคำพิธีกร เสียงปรบมือก็ดังขึ้นพร้อมชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามวายุในชุดสูทสีขาวยืนขึ้นโค้งรับเสียงปรบมือ ท่าทางมั่นใจและบุคลิกหน้าตาที่หล่อเหลาอาการ พร้อมยศนำหน้าชื่อที่พิธีกรสาวเพิ่งเอ่ยออกไปเมื่อครู่ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ชะเง้อชะแง้แลมอง และทำสายตาเคลิ้มฝันไปตามๆกัน วายุมองตามลูกชายเจ้านายที่เดินขึ้นเวที แล้วก็สอดส่ายสายตาหาร่างขาวๆที่เมื่อครู่เขายังเห็นยืนอยู่หลังกอช่อดอกไม้ประดับเวทีอยู่เลย ไม่รู้ตอนนี้ออกไปไหนเสียแล้ว ชายหนุ่มกำลังลังเลอยู่พอดีว่าจะลุกขึ้นออกไปเดินตามหาดีรึเปล่าก็พอดีเสียงชายหนุ่มลยเวทีก็ดังขึ้น

“...จะให้ร้องคนเดียวก็คงไม่ไหว ผมอยากขอให้เจ้าของเสียงหวานๆที่เพิ่งขึ้นมาขับกล่อมเพลงบนเวทีเมื่อซักครู่ ได้ขึ้นมาร้องเพลงคู่กับผมอีกซักเพลงดีกว่า เพราะถ้าจะให้มีแต่เสียงใหญ่ๆของผมเพียงคนเดียวก็คงจะไม่เป็นที่น่าอัธยาศัยซักเท่าไหร่...เพราะงั้น เอื้องผึ้ง...ขึ้นมาร้องเพลงกับพี่หน่อยเร็ว” 

                วายุชะงักกึกกับชื่อที่คนบนเวทีเพิ่งเอ่ยออกมา...เอื้องผึ้ง...คงมีไม่กี่คนหรอกที่ใช้ชื่อนี้และอยู่ในงานแต่งงานคืนนี้ด้วย แล้วเอื้องผึ้งคนนั้น มารู้จักกับลูกชายผู้กำกับเจ้านายเขาได้ยังไง...? นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย...สายตำรวจ กับลูกชายผู้กำกับ ไปเกี่ยวข้องกันได้ยังไง...

“ไม่ต้องทำหน้างงไปหรอกวายุ เจอเขาแล้วใช่มั้ยเมื่อคืนน่ะ เด็กคนนั้นชื่อเอื้องผึ้ง รุ่นน้องสมัยเรียนของเจ้าเต้มัน ทำงานเก่ง ไว้ใจได้ ผมเคยให้งานทำหลายครั้งแล้วไม่เคยพลาด...หลังจากนี้คุณกับผึ้งอาจต้องร่วมงานกันบ่อยๆ...เพราะคุณเพิ่งโดดเข้ามารับงานนี้...แล้วผึ้งก็ช่วยสืบข้อมูลของคดีนี้มาหลายครั้งแล้วด้วย คิดว่าข้อมูลเบื้องลึกอื่นๆที่เขามีน่าจะช่วยคุณคลี่คลายคดีนี้ได้ง่ายขึ้น...” ท่านผู้กำกับที่นั่งอยู่ติดกันแอบเอามือป้องปาก แล้วเอ่ยบอกข้อมูลให้ผู้ใต้บังคับบัญชารับทราบ วายุนิ่งฟังแล้วจดจำข้อมูลที่ได้รับรู้เข้าหัวสมอง รู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อยกับสิ่งที่ได้รับรู้ แต่มันก็ช่วยให้เขาปะติดปะต่อข้อมูลของคนที่เขาอยากรู้จักได้ดีขึ้น

                สายตาของคนในงานพุ่งกลับไปที่เวทีอีกครั้ง เมื่อร่างขาวตัวเล็กของคนที่เพิ่งขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีก่อนหน้านี้เดินกลับขึ้นมาอีกครั้ง ท่าทางเดินขาขวิดนิดๆทำเอาคนมองพากันขำออกมาน้อยๆแต่ก็ด้วยความเอ็นดู พอมายืนข้างกันบนเวทีแล้วก็เห็นเอื้องผึ้งแอบเอื้อมมือไปหยิกเอวคนคนตัวสูงกว่า จนนาวาเอกทินภัทร์ต้องแกล้งร้องโอดโอยออกมาต่อหน้าสาธารณชน เสียงหัวเราะดังขึ้นเล็กน้อยกับกริยานั้น แต่สำหรับวายุนั้นขำไม่ออกจริงๆ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจู่ๆถึงรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา ปกติเขาก็ไม่ได้มีอคติหรือไม่ถูกอะไรกับลูกชายเจ้านายหรอกนะ แต่ตอนนี้ทำไมรู้สึกมันขัดหูขัดตาพิกลเวลาเห็นสองคนนั้นหยอกล้อกันหนุงหนิงบนเวที

                 เพลงคู่ไทยเดิมแสนหวานถูกขับกล่อมโดยเสียงร้องของผู้ชายสองคน แต่กลับฟังไม่ขัดหูเลยซักนิด เริ่มคู่ของคุณนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ชั้นผู้น้อยออกมาโชว์ลีลาเต้นรำกันบนฟลอว์หน้าเวที สร้างความสุนทรีย์ให้แก่ผู้มาร่วมงานได้ไม่น้อยจนต้องมีเบิ้ลต่อเพลงที่สองสาม

               แต่ใครจะสนุกก็สนุกไปเถอะ ส่วนเขาสนุกไม่ออก ขอแอบเดินออกไปสูบบุหรี่ระบายอารมณ์อัดอั้นในอุราข้างนอกซักหน่อยดีกว่า...วายุขอตัวกับท่านผู้กำกับโดยอ้างว่าจะออกไปเดินดูความเรียบร้อยข้างนอก แล้วก็เดินออกจากงานไปที่บันไดหนีไฟ ชายหนุ่มทรุดนั่งลงที่บันไดขั้นแรกก่อนจะจุดบุหรี่สูบ

               กลุ่มควันขาวลอยคลุ้งในอากาศ ได้กลิ่นบุหรี่ยี่ห้ออื่นด้วยก็เดาได้ไม่ยาก ว่าคงมีหลายคนอาศัยพื้นที่บริเวณนี้เป็นแหล่งระบายอารมณ์กับเจ้าแท่งสีขาวนี่เหมือนกัน วายุอาศัยนั่งพักตรงขั้นบันได้ซักพักใหญ่ จนเมื่อเจ้าแท่งสีขาวนั้นใกล้หมดมวน เขาก็เตรียมจะเอาไปทิ้ง แต่ทว่าเสียงรองเท้ากระทบขั้นบันไดเป็นจังหวะจากชั้นบนพร้อมทั้งเสียงพูดระหว่างคนสองคนที่กำลังลงบันไดมา ทำให้วายุต้องรีบย่องเบาเข้าหลบอยู่ในช่องมืดๆใต้บันได แล้วเงี่ยหูฟังสิ่งที่คนสองคนนั้นกำลังพูด

“เฮ้ย...กูได้ข่าวมาว่า เสี่ยชูชัยเขาร่วมเงินกับส.ส.อพิเชษฐ์ ซื้อบ้านหลังใหญ่โตแถวปากเกล็ดเอาไว้ว่ะ ข่าวบังหน้าก็ว่าซื้อเอาไว้พักผ่อน แต่จริงๆแล้วเสี่ยแกซื้อเอาไว้เก็บเนื้อสดเว้ย...”

“เฮ้ย เอ็งพูดเบาๆหน่อยสิวะ ตรงนั้นน่ะมีงานแต่งงานลูกสาวตำรวจอยู่นะเว้ย เดี๋ยวเกิดใครมาได้ยินเอ็งพูดเข้าจะซวยเอาเปล่าๆ”

“กูไม่กลัวหรอก ก็กูไม่ได้ทำอะไรผิดนี่หว่า ที่กูรู้ข่าวน่ะก็เป็นเพราะพี่สาวกูอยู่แถวนั้น แล้วตอนนี้เสี่ยเขารับสมัครพวกแม่บ้านกับคนดูแลสวนเข้าไปทำงาน ให้เงินดีมากเลยนะเว้ย ทำงานใช้แรง แต่ได้เงินเท่าพวกนั่งทำงานในออฟฟิศ แต่เขาก็คัดคนกันเข้มงวดเหลือเกิน...พี่สาวกูก็ไปลองดูแล้วนะแต่ไม่ผ่านว่ะ แม่งเสียดาย...กูว่าจะไปลองสมัครเป็นคนทำสวนดู...”

                วายุได้ยินเสียงพูดแค่นั้น เพราะร่างผอมโยกเยกสองคนนั้นเดินลับหายจากประตูบันไดหนีไฟไปแล้ว ชายหนุ่มคิ้วขมวดหมุ่น ไม่คิดว่าตัวเองจะโชคดีมาได้ยินเบาะแสของคดีที่ตัวเองกำลังรับผิดชอบอยู่ด้วยความบังเอิญแบบนี้ ชายหนุ่มทวนสิ่งที่ตัวเองได้ยินซ้ำเบาๆ ก่อนจะรีบเดินออกประตูตามชายสองคนนั้นไปแบบเนียนๆ

 ------------------------------   - -  -  ---  -         --            -     -         --       -           -

                  เอื้องผึ้งทุบแขนทุบขาตัวเองเมื่อขนกล่องใส่อุปกรณ์อิเลกทรอนิคส์ลงวางกับพื้นร้านเป็นกล่องสุดท้าย

“เหนื่อยยยยยยยยยยย!” เสียงหวานบนยาวออกมาขณะที่กำลังทอดร่างนอนยาวไปกับโซฟา

“ก็เหนื่อยกันทั้งหมดนั่นแหละผึ้ง เอ้าน้ำใบเตยของชอบ”

“อื้มมม พี่เตยน่ารักที่สุด!”

“ปากหวานก็แค่เวลาเนี่ย” เตยหอมส่ายหน้าให้น้องเล็กของบริษัทหน่ายๆ ก่อนจะเดินเอาแก้วน้ำสีเขียวตองอ่อนที่แช่เย็นเจี๊ยบจนไอน้ำแข็งมาเกาะให้พี่น้องร่วมบริษัทต่อไป

“เอ้อ วันนี้มีแต่คนชมว่าผึ้งร้องเพลงเพราะนะ สนใจอยากทำงานในวงการบันเทิงมั้ยล่ะ พี่ยังช่วยได้นะ มีผู้จัดการนักร้องที่พี่รู้จักอยู่สอง...”

“พี่ซัน...ผึ้งพูดมาเป็นร้อยรอบแล้วว่าผึ้ง...”

“...ไม่สนใจวงการบันเทิง” สี่คนพูดขึ้นพร้อมกันราวนัดหมายกันไว้

“แต่อย่างน้อยเป็นนักร้องมันก็ดีกว่าไปเป็นไอ้นักสืบ...” ซันเซ็ตเอ่ยต่อ

“เขาเรียกสายตำรวจ...” เอื้องผึ้งรีบแก้ให้ซันเซ็ตทันควัน ก่อนจะลุกขึ้นนั่งดีๆ “พี่ซัน...ผึ้งทำก็เพราะผึ้งอยากทำ อีกอย่างถ้างานไหนมันอันตรายเกินไปผึ้งก็ไม่เสี่ยงหรอก”

“เหรอ...ผึ้งไม่เสี่ยง หรือว่าโดนเต้เขาห้าม” ฉัตรฟ้าเอ่ยดักคออย่างรู้ทัน ซันเซ็ตกับเตยหอมพยักหน้าเห็นด้วยทันทีที่พี่ใหญ่สุดพูดจบ

“พี่ฉัตร...อย่าไปพูดความจริงสิ ผึ้งเขาเขินแย่แล้วเห็นมั้ย...” ดอกรักได้ทีเลยแอบแย็บเบาๆร่วมด้วยอีกหนึ่งดอก

“พี่รัก! นี่พี่ก็เป็นไปอีกคนเหรอ” เอื้องผึ้งหันไปถามพร้อมทำหน้าตาเหลอหรา “พวกพี่ล้อผมกับพี่เต้ตั้งแต่สมัยเรียนจนจบกันมาทำงานขนาดนี้นี่ไม่เบื่อกันบ้างรึไง...ผมน่ะนะ...”

   ...อยากจะเพียงขอ ให้มีแค่ใครคนหนึ่ง...ที่จะไม่ทำให้ช้ำ และไม่ทำให้เร...   ตื๊ด! 

“ฮัลโหลพี่เต้...โทรมาซะดึกเชียว มีอะไรครับ...” เอื้องผึ้งรับสาย

“เอ้า ฮิ้วววววววว” และมีเสียงลูกคู่สี่คนร้องรับไปตามระเบียบ เอื้องผึ้งทนฟังเสียงแซวเสียงล้อจนใบหน้าสุกแดงเถือกแล้วถึงได้รีบเร้นกายหายไปที่บริเวณห้องครัว ก่อนจะยกหูขึ้นจ่อแล้วคุยใหม่

“ขอโทษนะพี่เต้ พี่ก็โทรมาเวลาดีเหลือเกิน...” เอื้องผึ้งเอ่ย

‘เออ ก็ว่าจะโทรมาถามว่าถึงร้านเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย’

“ถึงแล้วครับ เอาของลงเรียบร้อย จะขึ้นไปอาบน้ำนอนแล้วเนี่ย” เด็กหนุ่มเอ่ย พลางเดินเอาแก้วน้ำในมือไปวางที่อ่างซิงค์ล้างจาน แล้วยืนเอาสะโพกพิงอยู่แถวนั้นแล้วคุยต่อ

‘จ้า พอดีพ่อพี่ให้โทรมาถาม ว่าพรุ่งนี้เข้ามาที่สน.หน่อยได้มั้ย ตอนซักเก้าโมง จะได้เข้าประชุมพร้อมพ่อพี่เลย’ ปลายสายเอ่ยบอก

“หืม? มีเรื่องคดีคืบหน้าเหรอครับ” เอื้องผึ้งถามกลับ

‘ใช่ พ่อเขาบอกว่าอยากจะได้เบาะแสเพิ่มเติมจากเราน่ะ ช่วยเข้ามาให้ข้อมูลหน่อยสิ ว่างหรือเปล่า...’

“ว่างครับ! ไม่มีปัญหา ถ้าผึ้งได้ช่วยคนอื่นอีกหลายๆคน ไม่ให้ต้องมาเจอชะตากรรมแบบที่ผึ้งเคยเจอ ผึ้งยินดีทำแน่นอนอยู่แล้วพี่เต้”

‘เออ แต่อย่าหักโหมให้มันมากนัก ได้งานอะไรไปทำก็ต้องบอกพี่ก่อน เข้าใจมั้ย’ ปลายสายทิ้งน้ำเสียงห่วงใย จนเอื้องผึ้งอดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบกับกระบอกโทรศัพท์ของตัวเองอยู่คนเดียว

“คร้าบ...พ่อคุณทูนหัวของบ่าว บ่าวจะรายงานให้ทราบทุกกระบวนความเลยขอรับ” เด็กหนุ่มยอกย้อนกลับด้วยน้ำเสียงร่าเริง ด้วยอาศัยว่าเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันมาตั้งแต่อยู่มัธยมฯ แม้ว่าพอจบม.สามแล้วอีกฝ่ายจะไปต่อโรงเรียนนายร้อย ส่วนเขาก็เรียนโรงเรียนสามัญต่อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพวกเขาก็ยังติดต่อกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเรียนจบแล้วทำงานทำการกันก็ยังไม่เลิกคุย ทุกวันนี้เอื้องผึ้งเลยรู้สึกเหมือนตัวเองเริ่มมีพ่อบังเกิดเกล้ากลายๆก็เพราะผู้ชายคนนี้แหละ

                เด็กหนุ่มยังอยู่คุยเล่นกับนาวาอากาศเอกนามเต้อยู่อีกสองสามประโยค ก่อนจะค่อยวางสายไป และทันทีที่วางสายไปเท่านั้น สี่คนที่ยืนค้ำประตูกันจนแทบแตกเป็นเสี่ยงก็หลุดพรวดเข้ามาในห้องครัวกันเป็นขบวน ก่อนจะส่งเสียงกิ๊วก๊าวหยอกล้อน้องคนเล็กกันอย่างสนุกสนาน จนใกล้เวลาตีสองนั่นแหละทุกคนถึงพากันแยกย้ายอาบน้ำเข้านอนไป

 ------------------------------   - -  -  ---  -         --            -     -         --       -           -

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 19-10-2013 14:19:09
มาให้กำลังใจคนเขียน ชอบเรื่องนี้มากกสนุกดี มาบ่อยๆน๊าาา อย่าหายไปนาน :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 19-10-2013 17:37:47
เจอะกันแปปเดียวเองวายุกับผึ้งเนี่ย
ดูเหมือนพี่ๆจะเชียร์คุณเต้สะด้วย ฮู้ว
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 19-10-2013 17:45:12
วายุกับผึ้งจะไปสมัครงานที่บ้านนั้นป่ะ หรือไง 55555
สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ;)
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 19-10-2013 19:45:14
สนุกมาก

มาต่อไวๆนะ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: AGALIGO ที่ 20-10-2013 14:51:08

มีภารกิจใหม่ต้องปลอมตัวเป็นคนใช้กับคนสวนอีกแล้วสินะ

สนุก---ตื่นเต้นดี---น่าติดตาม

+ เป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: Aleleni ที่ 21-10-2013 09:41:32
พี่วายุ กับ น้องเอื้องผึ้งงงงง กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ดูน่ารักมากกกกก มากกกกกกกกก
จับคู่เป็นคู่หุเลยค่ะ ทำงานร่วมกันแล้ว ฮ่าๆๆๆ
แต่มีพี่เต้เนี่ย พี่วายุเราไม่หมูแล้วนะ คนอื่นก็เชียร์พี่เต้กันหมด แล้วพี่เต้หล่ะ ? คิดอะไรกับน้องผึ้งไหม?
อยากรู้มากๆๆๆ รออ่านตอนต่อไปนะคะ สนุกมากๆ มาต่อเร็วๆนะ >3<
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: Vavaviz ที่ 24-10-2013 23:53:23
น่าสนุกมากเลยค่ะ

รอติดตาม มาต่อเร็วๆนะคะ คึคึ
คิดถึงพี่วายุกะน้องเอื้องผึ้ง~~
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 25-10-2013 00:42:12
ว้าวๆๆๆๆๆๆ    รอติดตาม  :katai4:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 25-10-2013 08:44:12
 :hao7: :hao7:

พี่น้องบ้านนี้น่ารัก 5555
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: Alphas ที่ 26-10-2013 00:11:48
น่าติดตาม สนุกดี
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 27-10-2013 23:07:52
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 28-10-2013 02:23:07
เจอน้องผึ้งแค่ครั้งสองครั้งเองก็ทำท่าหึงเขาแล้วเหรอวายุ :laugh:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๔ [12/11/2013] pg.3
เริ่มหัวข้อโดย: dek-zaal3 ที่ 13-11-2013 07:57:31
ตอนที่ ๔


             เช้าวันต่อมาเวลาเก้าโมงสิบนาที เอื้องผึ้งก็เข้าไปนั่งอยู่ในห้องประชุมของสำนักงานตำรวจเรียบร้อย แต่ที่คาดไม่ถึงก็คือ คนที่กำลังยืนค้ำอยู่ที่หัวโต๊ะ และกำลังเล่าถึงเบาะแสของคดีให้ทราบก็คือ นายตำรวจวายุ จอมโจรโรคจิตที่เจอหน้ากันสองวันติดนั่นเอง

           เอื้องผึ้งแอบทำปากขมุบขมิบล้อเลียนท่าทางยามร่างสูงยืนพูดอยู่หน้าโต๊ะด้วยความมั่นใจ (จนน่าหมั่นไส้ในความคิดตัวเอง) แต่ดูเหมือนคนพูดจะไม่ได้แคร์ท่าทางเขาเลย รู้ว่ามองกันตั้งแต่ตอนเขาเดินเข้ามาแล้ว แต่ท่าทาทางไม่ยี่หระต่อเขาเลยนี่มันก็ทำให้เอื้องผึ้งรู้สึกฉุนเล็กๆอยู่เหมือนกันนะ

“...จากสิ่งที่ผมได้ยินมา ผมคิดว่านี่เป็นโอกาสดีที่เราจะส่งสายสืบเข้าไปในบ้านหลังนั้น ในฐานะของแม่บ้านและคนทำสวนเพื่อหาเบาะแสและหลักฐานเพิ่มเติมให้ได้มากที่สุด...เราจะได้ถอนรากขุดโคนพวกค้ามนุษย์ข้ามชาตินี่ให้ได้เสียที” วายุจบประโยคด้วยแววตาแน่วแน่

“ถ้างั้นเราก็ต้องการสายสืบสองคน ผู้หญิงหนึ่งคนปลอมตัวไปเป็นแม่บ้าน และผู้ชายหนึ่งคนปลอมตัวไปเป็นคนสวนใช่มั้ยครับ...” นายตำรวจร่างบึกผิวคล้ำที่นั่งถัดจากวายุไปทางซ้ายเป็นคนเสนอขึ้น

“แล้วสายสืบทั้งสองคนจะต้องเก่งด้านเทคโนโลยีมากๆด้วย เพราะงานนี้เราจะใช้คนเยอะไม่ได้เด็ดขาด พวกมันระวังตัวแจ ผมกลัวว่าความแตกแล้วเราจะพลาดอีก...” นายตำรวจผิวขาว ร่างผอมโย่งที่นั่งถัดจากตำรวจผิวคล้ำเอ่ยบ้าง

“แล้วตอนนี้...เรามีใครที่พอจะใช้งานได้บ้างรึเปล่า” ผู้กำกับในชุดทำงานเต็มยศซึ่งนั่งถัดจากวายุที่ยืนหัวโต๊ะไปทางขวาเอ่ยขึ้นเป็นการขอข้อมูล

“จ่า...” วายุเอ่ย นายตำรวจที่ยืนคุมเครื่องโปรเจกเตอร์ตะเบ๊ะรับคำเรียก ก่อนจะรีบดึงข้อมูลของสายสืบขึ้นโชว์บนหน้าจอโปรเจกเตอร์สีขาวขนาดใหญ่ ที่ห้อยลงมาจากเพดานด้านหลังวายุอย่างรวดเร็ว

“ตอนนี้ที่ว่างอยู่ มีผู้หญิงแค่สาม ส่วนผู้ชายหก...” วายุพึมพำเบาๆ ก่อนจะอ่านรายละเอียดของแต่ละคนคร่าวๆ “...แต่ไม่มีใครที่เก่งเรื่องคอมพิวเตอร์เลยงั้นเหรอ ทุกคนเก่งแต่เรื่องใช้กำลัง ยิงปืน กับปลอมตัวเนี่ยนะ...”

“แบบนี้ก็ไม่มีใครที่ใช้งานได้เลยสิครับผู้กำกับ” ตำรวจวัยกลางคนที่เริ่มลงพุงนิดๆและนั่งถัดจากท่านผู้กำกับเป็นคนเอ่ยบ้าง แว่นที่คาอยู่ตรงจมูกถูงดึงขึ้นให้ไปตั้งอยู่ตรงที่ของมันให้เรียบร้อย

“...จะจับมาเทรนด์เรื่องเทคโนโลยีตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วด้วย เอายังไงดี...” ตำรวจหนุ่มผิวคล้ำกล่าวขึ้นอีกรอบ เอื้อมมือออกไปหยิบรีโมทเลื่อนดูประวัติของแต่ละคนซ้ำไปมา

“เอ่อ...ถ้าเรื่องคนสวน ให้ผึ้งช่วยมั้ยครับ” จู่ๆในช่วงเวลาที่ทั้งห้องเงียบกริบ เสียงทุ้มหวานๆของเด็กหนุ่มที่นั่งตัวลีบอยู่เกือบปลายสุดโต๊ะก็เอ่ยขึ้นพร้อมมือที่ชูขึ้นไม่พ้นศีรษะ แต่นั่นก็เรียกสายตาทุกคนให้ไปกองรวมกันที่เขาได้ทันที

“หนูผึ้ง!! / ไอ้ผึ้ง!!” นานาจิตตังชื่อเขาที่ทุกคนจะเรียก เอื้องผึ้งยิ้มแหยๆให้กับพวกคุณตำรวจที่ตบมือกันฉาดๆแล้วพยักหน้าเห็นด้วยกันเป็นทิวแถว จะยกเว้นก็แต่คนเดียว หนุ่มร่างสูงในเสื้อแจ็กเก็ตหนังสีดำที่ยืนอยู่หัวโต๊ะค้ำหัวผู้กำกับอยู่นั่นแหละ...จ้องเสียอย่างกับเขากำลังเปิดยัติที่ประชุมใหม่ แล้วเป็นหัวข้อร้ายแรงระดับชาติซึ่งชายหนุ่มจะเป็นตัวตั้งตัวตีเป็นหัวหน้าฝ่ายค้าน เพื่อยับยั้งยัติของเขาไม่ให้ผ่านที่ประชุมเสียอย่างนั้นล่ะ
 
“...คุณมีปัญหาอะไรไม่ทราบครับ ผู้กองวายุ...” นี่ก็อีกเรื่องที่ทำให้เอื้องผึ้งอึ้งเป็นคำรบสอง หลังจากที่เข้ามาในห้องแล้วเห็นนายตำรวจจอมกวนโทสะกำลังยืนสุมหัวอยู่กับพวกตำรวจยศสูงนั่นก็ทีหนึ่งแล้ว เขายังได้รับการแนะนำให้รู้จักอย่างเป็นทางการกับคุณพี่ท่านซึ่งมีศักดิ์เป็นถึงผู้กอง...ร้อยตำรวจเอกวายุ รวิสุต...โดยท่านผู้กำกับสน.อานนท์โดยตรงอีกต่างหาก

“ไม่ทราบว่าก่อนออกจากบ้านทุกครั้งนี่เคยมองตัวเองแก้ผ้าในกระจกบ้างรึเปล่าครับ คุณดารินทร์ บุศวรรณ”

            บอกให้เขาดูตัวเองแก้ผ้า ยังไม่โกรธเท่าโดนเล่นชื่อจริง...!

“คุณ...นี่โรคจิตถึงขนาดไปเจาะชื่อจริงผมมาเลยเหรอ...”

“อ้าวๆ ว่าผมโรคจิตแบบนี้ก็สวยสิครับคุณ...” วายุวางปึกกระดาษในมือลงบนโต๊ะดังปึ้ง เอื้องผึ้งเห็นอีกฝ่ายส่งเสียดังแบบนั้นก็ลุกขึ้นเท้าสะเอวฉับแบบไม่ยอมพอกัน

“ผมสวยอยู่แล้วรู้ตัวครับคุณ...!” เด็กหนุ่มขึ้นเสียงบ้าง

              ตำรวจที่นั่งอยู่ในห้องประชุมเกิดอาการเหวอขึ้นชั่วคราว เมื่อเห็นคนสองคนที่ไม่น่าจะรู้จักกันขึ้นเสียงใส่กันด้วยเรื่องไร้สาระ ส่วนผู้กำกับอานนท์ที่เป็นคนทำให้สองคนนี้รู้จักกันเห็นท่าจะไม่ดีเลยรีบเป็นกรรมการห้ามมวยแยกทั้งสองฝ่ายให้ใจเย็นๆลงเสียก่อน แล้วถือโอกาสแจกแจงงานต่ออย่างใจเย็น

“จะตีกันหรืออะไรผมไม่ว่า แต่ขอให้ออกจากห้องประชุมไปก่อน...มาแตกสามัคคีกันเองแบบนี้แล้วจะได้งานกันมั้ยครับ” ชายสูงประสบการณ์เอานิ้วเคาะโต๊ะสองสามที วายุกับเอื้องผึ้งถึงได้ยอมต่างคนต่างอยู่ แล้วทรุดนั่งลงที่ใครที่มันตามเดิม

           ผู้กำกับอานนท์ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง ยกมือเสยผมที่มีอยู่น้อยนิดบนศีรษะให้เปิดเหม่งขึ้นตามสภาพวัยแบบไม่สนใจรักษาภาพพจน์ หุ่นที่ยังดีของท่านทำให้ทุกคนรู้ว่า ถึงแม้ผมบนศีรษะจะโบกมือลาเกษียณอายุออกไปตามวัย แต่กล้ามแขนและหน้าท้องของท่านก็ยังทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพ พร้อมลงภาคสนามวิ่งตามตำรวจหนุ่มๆออกไปจับโจรได้อย่างคล่องแคล่ว อีกทั้งบุคลิกภาพที่เป็นกันเองกับลูกน้อง เลยทำให้ตำรวจทั้งรุ่นใหม่รุ่นเก่าให้ความเคารพผู้กำกับท่านนี้อยู่ไม่น้อย

           ดวงตาคมติดดุเล็กๆเหลือบมองไปพิจารณาคนที่ถูกเขาเรียกตัวเข้ามาช่วยงาน และอาสาเป็นคนช่วยงานได้อย่างน่าชื่นชม ในสมองคิดไตร่ตรองสถานการณ์เพื่อหาข้อสรุปในการทำภารกิจนี้ให้ออกมาดีที่สุดก่อนจะเอ่ยออกมาว่า

“เอาเป็นว่าตอนนี้ เอื้องผึ้งเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเรา...เรื่องฝีมือคอมพิวเตอร์และพวกเทคโนโลยีนี่ไม่ต้องเป็นห่วงอยู่แล้ว...แต่ผึ้ง ลุงว่างานนี้รูปร่างอย่างผึ้งคงจะปลอมตัวไปเป็นคนสวนไม่ไหวหรอก ทั้งขาวทั้งผอมขนาดนี้...แต่ถ้าเป็นแม่บ้านก็อาจจะพอไหว...”

             ท่านผู้กำกับพูดเองก็ดีดนิ้วดังเปาะเอง สายตาตวัดมองรูปร่างเอื้องผึ้งตั้งแต่ช่วงตัวที่เห็นผ่านโต๊ะและข้างใต้โต๊ะที่พอเดารูปร่างออก แล้วหรี่ตามองอีกคนอย่าครุ่นคิด

“ถ้าให้เจ้าผึ้งมันปลอมตัวเป็นผู้หญิงนี่คงจะเนี๊ยบจนแยกไม่ออกแน่ๆ แต่ว่ามันจะอันตรายเกินไป...เพราะรูปร่างหน้าตาแบบนี้แทนที่จะได้ไปเป็นแม่บ้าน อาจโดนลากไปเป็นเนื้อสดให้พวกมันส่งขายเอาแทนแน่ๆ...” สิ้นคำท่านผู้กำกับ ตำรวจที่นั่งอยู่รายล้อมก็พยักหน้าเห็นด้วยกันเป็นแถว “...ที่สำคัญ เจ้าเต้คงไม่ยอมแน่ๆ ถ้ารู้ว่าฉันใช้งานรุ่นน้องมันให้ไปทำงานเสี่ยงอันตรายแบบนี้...”

             จู่ๆคนที่ยืนค้ำอยู่หัวโต๊ะก็ยืนยืดตัวตรงพร้อมมองไปข้างหน้า ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน จนเอื้องผึ้งเริ่มมองเห็นรัศมีการตำรวจของนายจอมโจรโรคจิตขึ้นมานิดๆ

“ท่านครับ...ถ้างั้นผมขออนุญาต ปลอมตัวเข้าไปเป็นคนสวนเองครับ...ส่วนเอื้องผึ้ง ก็ให้ปลอมตัวไปเป็นแม่บ้านเหมือนอย่างที่ท่านว่า...ส่วนวิธีที่จะทำให้เอื้องผึ้งไม่ตกไปเป็นเป้าให้พวกมันล่อลวงเอาไปขายก็ง่ายๆครับ...แค่ให้เราสองคนปลอมตัวไปเป็นผัวเมีย ที่สำคัญให้เมียผมท้องด้วย...แค่นี้เราก็รอดแล้วครับ...”

             สิ้นคำวายุ นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่สองสามคนมีแววตาราวเพิ่งค้นพบแสงสว่าง ส่วนนายตำรวจชั้นผู้น้อยอีกสี่ห้าคนที่อยู่ในห้องนั้นถึงกับยืนขึ้นปรบมือ มีเอื้องผึ้งผู้โดนโยงเข้าไปเอี่ยวแบบไร้สิทธิ์ไร้เสียงเพียงคนเดียวที่อ้าปากค้าง อึ้งกับแผนการณ์ที่จอมโจรโรคจิตคิดขึ้น

             ...ไม่ทราบว่าคุณใช้ดัชนีหัวแม่เท้าของคุณคิดหรืออย่างไรกันครับนี่!!!...

             ถ้าไม่เกรงใจศีรษะที่เริ่มล้านของท่านผู้กำกับอานนท์นะ เขาคงกระโดดถีบขาคู่ด้วยระยะไกลแต่มั่นใจว่าแม่นยำไปแล้วนะเนี่ย...

“ดะ...ดะเดี๋ยวก่อนครับ ไม่มีท่านไหนคิดจะถามความสมัครใจจากผึ้งก่อนเลยเหรอครับเนี่ย...ผมถูกเรียกให้มาช่วยสืบราชการนะครับ! ไม่ได้ถูกเรียกให้มาเป็นเมียไอ้หมอนี่นะ...!!”

“เอาน่าไอ้ผึ้ง...ถือเสียว่าลุงขอร้อง งานนี้ถ้าเราทำสำเร็จได้เราจะกวาดพวกคนใหญ่คนโตให้ตกเก้าอี้กันได้เป็นแถวเลยนา...บุญใหญ่นะไอ้ผึ้ง...”

“แต่...!” จะค้านก็ไม่ทัน แรงผึ้งงานตัวน้อยๆจะไปสู้กับแรงผึ้งหลวงยกรังได้ยังไง

          ผลสรุปสุดท้ายก่อนออกจากห้องประชุมจึงเป็นวันและเวลาที่เขาจะต้องเริ่มออกทำงานเสียอย่างนั้น

           ระหว่างที่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทั้งสี่ห้านายเดินออกจากห้องประชุมไปหมดแล้ว เอื้องผึ้งก็เดินลงส้นเข้าไปคว้าแขนนายตำรวจใหญ่เจ้าแผนการณ์ที่หาเรื่องมาให้เขาไม่ได้หยุดได้หย่อนให้หันมาเผชิญหน้ากัน พออีกฝ่ายหันมาเด็กหนุ่มก็ซัดคำถามเปรี้ยงเข้าให้

“...คุณต้องการอะไร งานนี้...ผมทำเองคนเดียวได้ ไม่จำเป็นต้องให้คุณมาช่วยวางแผนบ้าๆอะไรแบบนี้หรอก...” ถามออกไปตาขุ่น มือก็หยากหยิกให้อีกฝ่ายเลิกทำสีหน้าอมยิ้มนิดๆแกมเจ้าเล่ห์นั่นเสียที

“บ่นอะไรของคุณ...ฮึ ที่รัก...” คนร่างสูงเอานิ้วมาปาดคางคนเตี้ยกว่าให้เงยหน้าขึ้นมองตัวเอง ก่อนจะยิ้มใส่ตาอีกคนตาหยี

“ทะ...ที่รัก...เหรอ สมองผู้กองนี่...เพี๊ยนไปแล้วเหรอฮะ” เด็กหนุ่มสะบัดหน้าหนี ทันเหลือบเห็นคุณตำรวจสองสามนายที่กำลังเก็บจอโปรเจกเตอร์แต่ยังไม่เรียบร้อยดีหันมองพวกเขาแล้วขำกันเป็นแถว

             ...จะหน้าหนาไปถึงไหนเนี่ยไอ้ตำรวจบ้านี่.!..

“ไม่ได้เพี๊ยน พี่แค่ซ้อมเอาไว้เฉยๆไงจ๊ะ เดี๋ยวอีกหน่อยเราก็ต้องทำลูก...เอ๊ย มีลูกด้วยกันแล้วด้วย ถ้าไม่ซ้อมเอาไว้บ่อยๆเดี๋ยวความแตกแล้วมันจะยุ่งนะ...ที่รัก”

“ไอ้...!!!” เอื้องผึ้งกำมือยกขึ้นเหนือศีรษะ อยากปล่อยหมัดออกไปตรงข้างแก้มสากนั่นแรงๆซักที ถ้าไม่ติดว่านี่ยังอยู่ในสน.แล้วตำรวจก็เดินกันยั้วเยี้ยนะ คงได้มีช้าง(ผึ้ง)กระทืบโรง(พัก)กันมั้งล่ะ!

“อ๊ะๆ อย่านะที่รัก ทำร้ายสามีแบบนี้ผิดกฎหมายครอบครัวนะครับ...อีกอย่าง อย่าขยับแรงนักสิ เดี๋ยวแท้งลูกขึ้นมาแล้วมันจะยุ่งนะคุณ ผมยิ่งไม่มีเวลาทำลูกคนใหม่กับคุณแล้วเสียด้วยสิ...ที่รัก...”

“ที่รัก...ที่รักงั้นเหรอ...ก็ได้ อยากให้เป็นนักก็จะเป็นให้...ที่รักขา...” พร้อมกับที่พูดเข่าของเอื้องผึ้งก็รู้สึกคันขึ้นมายิบๆ เด็กหนุ่มวาดแขนขึ้นโอบรอบคออีกฝ่ายแล้วดึงรั้งลงมาใกล้อย่างกล้าหาญชาญชัย ก่อนจะสวมวิญญาณนักแสดงมือโปรโปรยยิ้มหยดย้อยที่สอยพวกตาแก้หนังเหี่ยวลงพุงให้ยอมคายความลับมาได้นักต่อนักแล้ว ให้มันรู้ไปสิว่าไอ้หมอนี่มันจะไม่ยอมหลงเขาอีกคน

“เขาไม่อยากเรียกตัวเองว่าที่รักเลยอ่ะ...ขอซ้อมเรียกว่า...ผัวขา...เอาไว้ก่อนได้มั้ยคะ ผัวขา...”

              พลั่ก!

“โอ๊ย!!!”

“ผัวขาๆ...ชอบไม่ใช่เหรอฮ๊ะ ไอ้ตำรวจบ้ากาม โรคจิต...!”

“นี่เธอ!!! ไอ้เด็กบ้า!! แทงเข่ามาได้...ลูกชายฉันมีเนื้อมีหนังนะโว้ย ไม่ใช่สากกระเบือ!!!”

“ผัวขา...ไม่เอานะไม่บ่น เมียจ๋าไม่ชอบผัวขี้บ่นนะคะ...ส่วนลูกชายจอมดื้อของผัวขาเนี่ย เดี๋ยวเมียค่อยปลอบใจให้วันหลังนะ...วันนี้เมียต้องขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ เดี๋ยวลูกเราไม่แข็งแรง เมียไปก่อนนะ...” เอื้องผึ้งเอ่ยประโยคข้างต้นด้วยน้ำเสียงลอดไรฟัน ก่อนจะจบท้ายด้วยเสียงหัวเราะเย้ยหยันที่ตั้งใจให้ได้ยินกันแค่สองคน (ทว่าคนอื่นๆที่ยืนอยู่ไม่ไกลกลับได้ยินชัดเต็มสองหูเลยทีเดียว)

             วายุเอามือกุมเป้ายืนตัวงอ บรรดานายตำรวจชั้นประทวนยืนกลั้นขำเจ้านายกันเป็นทิวแถวแต่ไม่มีใครกล้าส่งเสียงออกมาให้นายตำรวจยศใหญ่ต้องเสียหน้ามากไปกว่านี้

“ผู้กองครับ ไปแกล้งหนูผึ้งเขาแบบนั้นเดี๋ยวเขาไม่ช่วยงานเราขึ้นมานี่ จะยุ่งนะครับ...รายนั้นน่ะมือหนึ่งด้านคอมพิวเตอร์เลยนา บางครั้งระบบคอมสน.เราล่มหนูผึ้งก็มาช่วยซ่อมให้เลยนะครับ...แล้วยัง...”

“พอๆจ่า...ไม่ต้องมาพล่ามเรื่องไอ้เด็กบ้านั่นให้ผมฟังอีก นี่จ่าเป็นตำรวจเหมือนผมนะ ทำไมไม่เข้าข้างผมเนี่ย นี่ผมเกือบต้องกลายเป็นหมันก็เพราะเด็กนั่นนะจ่า...”

“เอาน่าผู้กอง ผู้กองก็ไม่น่าไปแกล้งเขาอย่างนั้นก่อนเลยนะครับ”

“ผมไม่ได้แกล้ง ผมแค่ต้องการซ้อมบทก่อนลงสนามจริงก็เท่านั้นเอง”

“แหม่ผู้กอง...แถได้แถไปนะครับ” คนยศจ่าแต่ไม่เกรงอำนาจคนยศผู้กองยังมีการหัวเราะแถมเข้าให้ วายุได้แต่ชี้หน้าคนเป็นจ่าด้วยสายตา ก่อนจะฝากรอยแค้นไปทางประตูที่ร่างขาวๆบางๆเพิ่งเดินหัวเราะออกไปก่อนหน้านี้

“เป็นแค่ผึ้ง แต่คิดจะต่อกรกับราชสีห์งั้นเหรอ หึหึ...คอยดูเถอะ พ่อจะถอนเหล็กไนออกให้หมดทั้งตัวเลยคอยดู” ทิ้งคำอาฆาตเอาไว้แต่ก็ได้ยินอยู่แค่คนเดียวนั่นเอง

------------------------------   - -  -  ---  -         --            -     -         --       -           -
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๔ [12/11/2013] pg.3
เริ่มหัวข้อโดย: dek-zaal3 ที่ 13-11-2013 08:01:39


               เอื้องผึ้งแจ้งเรื่องทุกอย่างและภารกิจใหม่ให้แก่พี่ๆทุกคนทราบ แน่นอนว่าทุกคนมีแต่คำคัดค้าน แต่ก็แค่ในตอนแรกเท่านั้น เพราะสุดท้ายเอื้องผึ้งก็อาศัยลูกดื้อผสมลูกอ้อนเอาชนะคำคัดค้านทั้งหมดมาได้ แต่ก็ไม่วายที่ทุกคนจะเจ้ากี้เจ้าการแสดงความเป็นห่วงจนออกนอกหน้า ทั้งบังคับให้เขาติดเครื่องดักฟังที่ตัวเองแล้วส่งสัญญาณให้พี่ๆทราบตลอดเวลา ทั้งการเตรียมความพร้อมที่ต้องผ่านการเทสต์จากพี่ๆเสียก่อน และยังอื่นๆอีกมากมายที่เอื้องผึ้งเหนื่อยจะสาธยายและจดจำข้อกำหนดทั้งหมด เพื่อให้ผ่านการอนุญาตในการทำภารกิจในครั้งนี้

               เอื้องผึ้งมีเวลาหนึ่งอาทิตย์ก่อนจะเริ่มงานจริง ซึ่งนั่นถือเป็นช่วงหฤโหดยิ่งกว่าการฝึกรด.เสียอีก ซันเซ็ตรับหน้าที่เป็นคนจัดการเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม นมปลอม ท้องปลอมและไฝปลอมให้

             ส่วนเตยหอมเป็นคนช่วยฝึกฝีมือด้านการทำอาหารให้เอื้องผึ้ง เด็กหนุ่มต้องเรียนรู้วิธีการทำอาหารทั้งคาวหวาน อาหารเอเชียและขนมจากต่างประเทศ โชคดีที่เอื้องผึ้งเองพอมีเซนส์ด้านรสอาหารอยู่บ้างเพราะเคยทำอาหารง่ายๆทานเองมาก่อน ด่านนี้เลยไม่ค่อยเป็นอุปสรรคซักเท่าไหร่

             ส่วนเรื่องสำคัญอย่างการทำงานบ้าน จัดดอกไม้ เทคนิคการซักผ้าและอื่นๆที่ตำแหน่งแม่บ้านสมควรเรียนรู้ก็เป็นหน้าที่ของดอกรัก ซึ่งนี่ก็เป็นอีกด่านที่เอื้องผึ้งยอมรับว่ามันหนักหนาเอาการอยู่พอสมควร เพราะรายละเอียดการทำงานบ้านเช่นการซักผ้า เพราะการจำวิธีขจัดคราบต่างๆบนเสื้อผ้านี่ มันช่างหนักหนายิ่งกว่าการท่องจำตารางธาตุเสียอีก

             ส่วนฉัตรฟ้าก็เป็นคนที่คอยตัดสินว่าเอื้องผึ้งผ่านการเตรียมตัวในแต่ละด่านอย่างสมบูรณ์แบบเพอร์เฟคร้อยเปอเซนต์หรือไม่

              นอกจากนี้แล้ว บริษัท Forever Love Wedding Studio ก็ยังได้ต้อนรับแขกแปลกหน้าอีกหนึ่งหนุ่มที่มาร่วมเรียนรู้ภารกิจเตรียมตัวต่างๆกับเอื้องผึ้งด้วย แน่นอนว่าเขาคือร้อยตำรวจเอกวายุ

            ชายหนุ่มถูกแนะนำตัวให้ทุกคนรู้จักอย่างเป็นทางการในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่ได้รับภารกิจ แน่นอนว่าสี่หนุ่มที่เหลือแห่งบริษัทรับจัดงานแต่งมีอาการไม่ไว้วางใจและไม่ค่อยเป็นมิตรกับวายุซักเท่าไหร่ ไม่สิ...ต้องบอกว่าทั้งห้าหนุ่มมากกว่า เพราะเอื้องผึ้งเป็นอีกคนที่ไม่ไว้วางใจและเกลียดขี้หน้าวายุอย่างกับอะไรดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเอื้องผึ้งไม่รู้ว่าวายุไปใช้มนต์มหาเสน่ห์ของสำนักไหนมาพรมใส่พวกพี่ๆของเขา เพราะหลังจากนั้นไม่กี่วัน วายุก็เนียนทำตัวเป็นหนึ่งในสมาชิกของบริษัทเขาไปได้เรียบร้อยโรงเรียนนายตำรวจวายุ พี่ๆทั้งสี่คนมีอาการเปลี่ยนไป ทั้งเข้าข้างและไว้ใจนายวายุขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ วันสุดท้ายก่อนที่เขาจะลงมือเริ่มทำภารกิจ พี่ฉัตรและพี่ซันมีการจัดพิธีอวยชัยให้พร ส่วนเตยหอมและดอกรักก็มีการผูกข้อไม้ข้อมือแถมให้ตะกรุดอย่างดียัดใส่ฝ่ามือเขาและนายตำรวจวายุมาคนละอันอีกต่างหาก นี่ถ้ามีการส่งตัวเข้าหอด้วยก็จะครบสูตรบริบูรณ์งานแต่งเลยทีเดียว...

                 คิดบ้าอะไรของแกวะไอ้ผึ้ง!! นี่มันงานเว้ยงาน...ท่องไว้ๆ ทำงานๆ...ไม่ใช่งานแต่ง...ไม่ใช่ๆ

                เอื้องผึ้งเอามือทุบหัวตัวเองจนเตยหอมที่นั่งรถมาข้างกันหันมองเขาแปลกๆ เด็กหนุ่มหันไปยิ้มแหยๆให้ก่อนจะกลับมานั่งเจี๋ยมเจี้ยมตามเดิม

              วันนี้คือวันที่เขากับนายคุณตำรวจนั่นวางแผนจะเข้าไปสมัครงานที่บ้านนั้นด้วยกัน เขาต้องตื่นมาแต่งหน้าแต่งตัวตั้งแต่เช้า เมื่อคืนก็นอนไม่พอเพราะโดนซันเซ็ตซ้อมทวนขั้นตอนการปลอมตัวจนถึงตีสาม ให้ตายเถอะ! นี่วันเวรกรรมอะไรของเขาเนี่ย...

              ฉัตรฟ้าเป็นคนขับรถพาทุกคนในบริษัทมาส่งเอื้องผึ้งตรงจุดนัดพบที่บริเวณซอยถัดจากบ้านเป้าหมายมาหนึ่งซอย โดยที่ใต้ต้นมะพร้าวตรงข้ามร้านชำ มีร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดมอซอกับกางเกงยีนส์ขาดๆเก่าๆยืนเต๊ะจุ๊ยอยู่ข้างรถบิ๊กไบค์คันที่เอื้องผึ้งเคยซ้อน ดูท่าทางมันช่างขัดกันอย่างน่าสงสัยเป็นที่สุด แต่ดีนะที่คนที่อยู่รายรอบตอนนี้ส่วนใหญ่มีแต่สายตำรวจ ทั้งพ่อค้าขายฝรั่งดอง คนกวาดถนน หรือแม้แต่คนที่นั่งดื่มกาแฟโบราณอยู่ในร้านของชำกึ่งร้านอาหารเช้านั่นก็ใช่

“คุณวายุ มานานแล้วเหรอครับ...” ฉัตรฟ้าที่ลงมาจากรถก่อน เอ่ยปากทักทายชายหนุ่มร่างสูง ซึ่งเขาเริ่มคุ้นเคยเพราะเจอที่บริษัทแทบทุกวันในระยะหลังอย่างสนิทสนม

“ไม่หรอกครับ ผมก็เพิ่งมา...” คนพูดเอ่ยปากตอบฉัตรฟ้า แต่สายตานั้นมองเลยเข้าไปในรถ ซึ่งแน่นอนว่าคู่สนทนาก็จับสังเกตอาการนั้นได้เป็นอย่างดี ก็เลยเอ่ยทักประโยคต่อมาอย่างรู้ใจ

“...ปล่อยให้คุณเมียเขาได้ท้องซักพักหนึ่งเถอะครับ เดี๋ยวท้องเบี้ยวขึ้นมานี่อันตรายนะ...” คนพูดเอ่ยจบก็หลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย วายุหันมองคนพูดแล้วเอามือเกาท้ายทอยแก้เขิน ปกปิดอาการอายที่ถูกรู้ทันว่าเขานั้นกำลังรอคอยการมาของผู้ร่วมภารกิจอย่างใจจดใจจ่อ

“เอ่อ...แล้วอุปกรณ์...” วายุทำเป็นเสเปลี่ยนเรื่อง ถามหาอุปกรณ์ที่เขาต้องถือเอาติดตัวเข้าไปในบ้าน ซึ่งฉัตรฟ้ายังส่งสายตารู้ทันให้เขาอยู่ดีแต่ก็หันไปกวักมือเรียกเตยหอมและดอกรักให้ขนของลงมาให้

            ซึ่งสองหนุ่มต่อมาที่ลงจากรถมีกระเป๋าเป้สีดำเก่าๆพร้อมกระเป๋าเดินทางทำด้วยผ้าสองใบหิ้วติดมือมาให้ แต่ดูเหมือนกระเป๋าเดินทางทั้งสองใบนั้นจะค่อนข้างหนักอยู่พอสมควร วายุเลยเห็นทั้งเตยหอมและดอกรักช่วยกันหิ้วมาด้วยกัน

“เสื้อผ้าแล้วก็อุปกรณ์ปลอมตัวต่างๆอยู่ในกระเป๋าเป้นี้นะครับ ส่วนกระเป๋าสองใบนี้ เป็นอุปกรณ์ต่างๆของเจ้าผึ้งมัน พวกผมเอาพวกผ้าขาวม้าแล้วก็ผ้าถุงคลุมๆข้างนอกเอาไว้ ถ้าเขาค้นแบบผ่านๆรับรองว่าไม่มีทางเห็น...” ฉัตรฟ้าเอ่ยอธิบายระหว่างที่เห็นวายุลองยกถือกระเป๋าทั้งหมดแล้วทำหน้ายุ่ง

“มันมีพวกคอมพิวเตอร์แล้วก็อุปกรณ์กล้องวงจรปิดอะไรพวกนี้ของเขาน่ะครับ พวกผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ของเขานักหรอก ก็ช่วยเขาเท่าที่ทำได้...” เตยหอมอธิบายเพิ่มเติม นัยน์ตาฉายแววกังวลปิดไม่มิด ซึ่งวายุก็รับรู้ถึงความเป็นห่วงของพี่น้องร่วมบริษัทนี้ได้ดีตั้งแต่ที่ได้แอบเข้าไปตีสนิทกับทุกคนเป็นที่เรียบร้อย ชายหนุ่มจึงเอากระเป๋าเป้ขึ้นพาดบ่า หิ้วกระเป๋าเดินทางสองใบไว้ได้ในมือเดียว ก่อนจะส่งยิ้มมั่นใจให้กับทั้งสามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา

“อย่างที่ผมเคยบอกพวกคุณไว้...ไม่ต้องเป็นห่วง ถึงผมกับเขาจะเพิ่งเจอกันได้ไม่นาน แต่รับรองว่าผมจะปกป้องและดูแลเขาอย่างดีที่สุด ทั้งในฐานะตำรวจและเพื่อนมนุษย์ด้วยกันพึงกระทำ”

“มากกว่านั้นก็ไม่มีใครว่าหรอกนะครับ...แต่เอาเถอะ ยังไงก็ฝากเจ้าผึ้งเขาด้วยนะครับ ถึงจะปากไวไปหน่อย แต่ก็เป็นคนดี พวกผมคิดหนักมากนะครับที่ปล่อยให้เขามาทำงานนี้ แต่เพราะผู้กองยอมรับปากว่าจะดูแลให้อย่างดีพวกเราเลยยอมให้มา...แต่อย่างที่บอก เรามีเวลาให้ผึ้งทำงานนี้ได้แค่เดือนเดียว เกินจากนั้นเราจะมารับน้องเรากลับทันทีนะครับ...” ดอกรักกำชับซ้ำอีกครั้ง จนเมื่อได้เห็นวายุพยักหน้ารับคำหนักแน่นจึงค่อยวางใจลงได้บ้าง

              ระหว่างนั้นทั้งสามคนยังมีการฝากฝังเอื้องผึ้งอยู่อีกหลายประโยค จนเมื่อมีเสียงบานประตูรถตู้ที่จอดนิ่งอยู่ดังขึ้น ทุกคู่สายตาจึงจดจ่อไปที่ผู้มาใหม่ซึ่งกำลังลงมาจากรถ

            คนที่ลงมาก่อนเป็นซันเซ็ต ในมือยังถือตลับแป้งและหวีสางผมเอาไว้ ชายหนุ่มลงมายืนที่พื้นเรียบร้อยก็ส่งมือให้คนในรถได้จับเพื่อช่วยประคองตัวเองลงมา ร่างน้อยดูอุ้ยอ้ายขึ้นมานิดๆ เมื่อตอนนี้เจ้าตัวอยู่ในชุดคลุมท้องสีฟ้าหม่น และแน่นอนว่าบริเวณท้องมีกองผ้าที่ซันเซ็ตเย็บให้คล้ายถุงปลอกหมอนเพื่อให้สะดวกในการถอดและใส่เพียงแค่รูดซิปด้านหลังติดอยู่ เขาทำแค่ให้พอดูนูนๆเหมือนคุณแม่ที่มีอายุครรภ์ประมาณสี่ห้าเดือนเท่านั้น ผิวขาวๆของเอื้องผึ้งถูกทาด้วยครีมกันแดดผสมครีมรองพื้นเบอร์ผิด เพื่อให้ได้สีผิวที่คล้ำกว่าความเป็นจริง ที่สำคัญเพื่อให้ความสวยสดงดงามยามแต่งหญิงของเอื้องผึ้งไม่ไปเตะตาคนในบ้านเป้าหมายมากนัก ไฝเม็ดเบ่อเริ่มจึงถูกนำมาติดเพิ่มที่ข้างแก้ม ทำให้เอื้องผึ้งในตอนนี้แลดูเป็นสาวบ้านนอกท่าทางจนๆ เมื่อบวกกับผมยาวจากวิกและการแสดงขั้นเทพที่เจ้าตัวถนัด ก็ทำให้วายุลืมเจ้าผึ้งคนเก่าที่เคยเห็นทั้งตอนแรกที่ปลอมเป็นเด็กโคโยตี้ คนคุมเครื่องเสียงงานแต่งงาน และเจ้าผึ้งที่เคยซ้อมด้วยกันเมื่อสี่ห้าวันก่อนไปเลย

“อึ้งเลยล่ะสิผู้กอง...เอาเมียมาให้ อ่ะ...ประคองดีๆนะเมียท้องอยู่ เดี๋ยวลูกหลุด” ซันเซ็ตยังไม่วายตบท้ายด้วยมุขแซวเอาขำ แต่กระนั้นมุขเขาก็ไม่ขำเท่าใบหน้าคุณตำรวจที่นิ่งอึ้ง มองหน้าเอื้องผึ้งได้แบบเหวอมาก ดวงตาคมหลุบลงสำรวจร่างรุ่นน้องเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วไปจบที่ท้องป่องๆที่เจ้าตัวกำลังยกมือประคองเอาไว้ข้าง ส่วนอีกข้างก็ยกประคองเอวตัวเอง

             ...มันน่าส่งเข้าวงการจริงๆ สวมจิตวิญญาณเสียเหมือนเป๊ะ นี่ขนาดยังไม่ทันได้เริ่มงานเลยนะเนี่ย...

“นี่ไอ้ผัวเฮงซวย...จะยืนมองอีกนานมั้ยเนี่ย ฮ๊ะ...ทำไมยังไม่เข้ามาประคองอีก เกิดหกล้มหกลุกไปจะว่ายังไง...มีผัวผิดนี่คิดจนตัวตายจริงๆเล้ยอีผึ้ง!!”

               ทว่าประโยคแรกที่ออกมาจากปากของคนเจ้าบทบาทกลับทำให้คนรอบข้างสะดุ้งเฮื้อกสุดตัวกันเป็นแถว พ่อเจ้าประคุณเล่นเลียนแบบคำพูดแม่ค้าปากตลาดมาอย่างกับเคยมีประสบการณ์มาก่อน ขนาดคนที่เคยซ้อมรับบทเป็น ‘ผัว’ มาก่อนยังเผลอออกอาการเหวอแตกกับการเล่นเสียสมจริงของเจ้าตัวเลย แล้วแบบนี้มันจะไม่เผลอหลุดพิรุธให้คนเขาจับได้ว่าเป็นสามีภรรยากำมะลอกันหรือ

“เอ่อะ...เอ้อ จ้า...เมียจ๋า ผัวขอโทษนะ เอ้าเดินๆดีสิเดี๋ยวกระเทือนลูกในท้อง ผัวเสกเด็กเข้าไปใหม่ก็ไม่ได้คนเดิมแล้วนะจ๊ะเมียจ๋า โอ๋...” คนพูดรีบกลับเข้าสวมบทบาท ‘ผัว’ ที่ตัวเองต้องรับผิดชอบทันควันเหมือนกัน ชายหนุ่มพูดพลางรีบเดินเข้าไปประคองร่างเอื้องผึ้ง ทำประจบแล้วลูบมือไปมาบนหน้าท้องนูนน้อยๆของเด็กหนุ่มอย่างคนเป็นผัวที่ดีอกดีใจเพราะเมียท้อง

              ตายๆ...ใครจะคิดว่าผู้กองวายุเองก็ใช่ย่อย เล่นเข้าถึงบทบาทเข้าขากับเจ้าผึ้งมันเนียนกริบเสียขนาดนี้ ซันเซ็ตเหลือบมองฉัตรฟ้าและน้องๆ ก็เจอสายตาออกแนวเกือบปลงในแบบเดียวกัน...

“ก็ดีแล้วล่ะ เป็นอย่างนี้จะได้มั่นใจหน่อยว่าสองคนนี้จะเล่นละครตบตาพวกมันได้สนิท” ดอกรักหันไปมองสมาชิกที่เหลือ

            ไม่ต้องร่ำลาพูดพร่ำทำเพลงให้มากความ เอื้องผึ้งหันมามองสบตากับทุกคนแล้วส่งสายตาประมาณว่า...เขาจะเริ่มทำงานแล้วนะ ฝากที่เหลือด้วย...ซึ่งทั้งสี่หนุ่มที่เหลือแห่งบริษัท Forever Love ก็เข้าใจ เลยได้แต่พากันโบกมือลาน้อยๆแล้วเดินกลับเข้าไปประจำที่นั่งในรถเพื่อเตรียมแยกย้ายกลับถิ่นฐาน ทว่ายังไม่ทันที่ฉัตรฟ้าจะได้ถอยรถกลับ ก็มีรถสัญชาติยุโรปสีเทาดำขับเข้ามาจ่อท้าย จนทำให้เขาถอยรถกลับออกไปไม่ได้ พอชะโงกหน้าออกไปตั้งใจจะด่า ก็พบใบหน้าหล่อคมที่ทำให้สาวแท้สาวเทียมหลงกันหัวปักหัวปำโผล่ออกมาจากที่นั่งคนขับ แล้วตามด้วยรูปร่างสูงใหญ่ในชุดลำลองที่ก้าวขาลงมาจากรถด้วยท่าทางเร่งรีบ

“คุณเต้...” ฉัตรฟ้าพึมพำ น้องๆเพื่อนๆอีกสามคนที่นั่งมาด้วยกันเลยจ่อหน้ามามองเจ้าของชื่อกันใหญ่ แต่กระนั้นคนชื่อเต้ผู้มาใหม่กลับเดินผ่านรถของฉัตรฟ้า ตรงแน่วไปที่เอื้องผึ้งซึ่งมีผู้กองวายุประคองอยู่บริเวณเลยต้นมะพร้าวไปหน่อยนั่นแทน ฉัตรฟ้าก็เกาหัวแกรกเพราะไม่คิดมาก่อนว่าจะได้มาเจอรุ่นพี่ของรุ่นน้องตัวเองเอาที่นี่

               ส่วนนาวาอากาศเอกทินภัทร์ซึ่งรีบบึ่งรถออกมาจากบ้านทันทีที่ได้ทราบจากบิดา ว่ารุ่นน้องกำลังจะเริ่มภารกิจใหญ่วันนี้ก็ตรงเข้าไปหาเอื้องผึ้งทันทีแบบไม่มีอาการลังเล การปลอมตัวของเอื้องผึ้งถูกมองออกได้ไม่ยากเพราะเขาจำวิกอันนั้นที่เจ้าตัวใช้ประจำได้ หนุ่มนักบินร่างใหญ่จึงคว้ามือเอื้องผึ้งที่ถูกประคองโดยวายุก่อนหน้านี้มาจับแล้วพร่ำคำพูดราวก๊อกแตกออกมาทันทีไม่มีการทักทาย

“ผึ้ง...พอพี่รู้จากพ่อว่าผึ้งจะเข้าไปบ้านนั้นวันนี้พี่ก็รีบมาเลย ระวังตัวขั้นสูงสุดเลยนะผึ้ง เอาโทรศัพท์ติดตัวเข้าไปรึเปล่า ช่วงนี้พี่พักอยู่ ถ้ามีอะไรรีบโทรบอกพี่ได้ยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยเข้าใจรึเปล่า ห้ามทำอะไรเสี่ยงๆ แล้วก็ห้ามทำอะไรเกินกำลังของตัวเอง แล้วก็ห้าม...”   

“มะ...หม่อมพ่อ หยุดก่อนเถิดขอรับ กระผมจดจำสิ่งที่หม่อมสั่งมาไม่หมดหรอก เอาเป็นว่า...ขอบคุณมากที่มาส่ง แล้วกระผมจะดูแลตัวเองให้อย่างดีที่สุด โอเคมั้ยขอรับ...” น้ำผึ้งยกนิ้วทำมือโอเค แต่ก็ได้แค่แป๊บเดียว เมื่อวายุที่ยืนอยู่ใกล้กันรีบเอามือมาจับมือเขาข้างนั้นไปถือไว้ แล้วดึงคนตัวเล็กกว่าให้มาหลบอยู่ด้านหลังตัวเองแทน

“งานนี้มีผมทำด้วย ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกครับ เพราะยังไงผมก็ต้องดูแลเมียตัวเองอย่างดีที่สุดอยู่แล้ว...” วายุพูดออกมาในแนวก้ำกึ่ง ไม่ว่าคนฟังจะคิดไปอย่างไรเขาก็พอใจทั้งนั้น ไม่ว่าจะหมายถึงเมียในบทบาทละครที่เขากำลังแสดง หรือหมายถึงเมียในบทบาทของชีวิตจริงที่มันยังไม่เป็นจริง

“วายุ ผมรู้ว่าคุณเป็นตำรวจที่เก่ง มีคนอย่างคุณคอยประกบเจ้าผึ้งของผมเอาไว้ผมก็เบาใจ แต่ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลให้รีบติดต่อเจ้าหน้าที่ข้างนอกทันทีเลยนะครับ” นักบินหนุ่มนามทินภัทร์ยังไม่วายออกอาการกังวลอย่างออกนอกหน้า โดยไม่มีทีท่าจะสะดุดใจกับคำว่าเมียที่วายุเพิ่งพูดออกไปเลยซักนิดเดียว

“ครับ...ทีนี้พวกผมไปทำงานได้แล้วนะครับ” วายุรีบเอ่ยตัดบท เห็นอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ของเจ้าผึ้งเข่าหนักนี่แล้วอยากเอาปากเขาไปหุบยิ้มปากเล็กนั่นซะ ทีกับลูกชายผู้กำกับล่ะยิ้มหวานให้ ทีกับเขาล่ะขู่เอาๆอย่างกับตัวเองเป็นเมียปากตลาดของเขาจริงๆ แบบนี้มันน่านัก...น่าสั่งสอนด้วย...ด้วย...

“ครับ...ผึ้ง ดูแลตัวเองดีๆนะ พี่เป็นห่วง...”

              หืม...เป็นห่วงแต่ผึ้ง แล้วเขาที่ก็ทำภารกิจเดียวกันกับเอื้องผึ้งล่ะ ไม่เห็นมีใครมาออกปากว่าเป็นห่วงและให้ดูแลตัวเองบ้างเลย...ไม่ใช่อิจฉาเจ้าผึ้งหรอกนะ ไม่เลยซักนิด นิดเดียวก็ไม่มีจริงๆ...เอ่อ ยอมรับว่ามีนิดหนึ่งก็ได้ แต่ก็แค่นั้นเองนะ...เอ่อ...อันที่จริงเขายอมรับก็ได้ ว่าเขาแค่ไม่พอใจที่มีคนมาให้ความสนใจกับเจ้าผึ้งของเขามากกว่า...ออกนอกหน้ามากไปแล้วไอ้คุณลูกผู้กำกับ

“งั้นผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ...เมีย! ห้ามยิ้มให้ผู้ชายคนอื่นแบบนั้นอีกเข้าใจมั้ย...ผัวหึง...รับทราบ!” อาการเปลี่ยนโหมดกะทันหันของวายุทำเอาเอื้องผึ้งงงงันรับมุขไม่ทัน แต่กระนั้นก็ขัดขืนอะไรไม่ได้เมื่ออีกฝ่ายพูดพลางก็โอบเอวเขาพาเดินพลางเรียบร้อยแล้ว

               เด็กหนุ่มได้แต่ส่งสายอาทรไปที่คนมาส่งรายสุดท้าย ไปจนลับหัวมุมถนนแล้วถึงค่อยได้หันมาสนใจคุณผัวที่แลดูเหมือนจะเล่นได้สมบทบาทจนเกินเหตุไปนิดหนึ่ง...

“นี่คุณ! ทำแบบเมื่อกี๊นี่เสียมารยาทมากเลยนะ เห็นมั้ยว่าผมยังคุยไม่เสร็จ”

“เมีย! ผัวบอกแล้วใช่มั้ยว่าผัวหึง! อย่าทำให้โมโหไปมากกว่านี้ด้วยการสนใจผู้ชายคนอื่นต่อหน้าผัวอีก ไม่งั้นอย่าหาว่าผัวไม่เตือน...”

“ทำไม...ถ้าสนใจแล้วจะทำไม...” เอื้องผึ้งยังมีลอยหน้าลอยตา

“ก็ไม่ทำไม ผัวแค่อาจจะเสกเด็กเข้าท้องเพิ่มไปเป็นเพื่อนกับลูกคนแรก เมียจะได้ไม่ต้องลำบากเบ่งลูกสองครั้ง เอาครั้งเดียวสองคนไปเลยเป็นไง”

“ไอ้!! ไอ้ผัวเฮงซวย...!! ไอ้บ้ากาม !! ไอ้ตัณหาจัด !!...ไอ้โรคจิต...! ไอ้!!!”

“ไอ้...ไอ้อะไร...ด่าผัวออกมาอีกคำเดียว รับรองเมียได้โดนผัวบดปากโชว์แผงผักนี่แน่ เอายังไง...จะหยุดไม่หยุด”

“...ฮื้อ!!!” เอื้องผึ้งส่งเสียงในลำคอออกมาอย่างขัดใจเป็นที่สุด อย่าให้ถึงทีเขาบ้างนะไอ้ตำรวจบ้า! จะเอาให้ระบมแพ้น็อคเขาเลยคอยดู!! 

                    เอื้องผึ้งก็ได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจ...แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการเดินจับท้องแล้วลงส้นตรงไปยังประตูรั้วอัลลอยน์ที่อยู่ห่างไปอีกไม่มากนั้นแทน

------------------------------   - -  -  ---  -         --            -     -         --       -           -

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao6: :hao6: :hao6: :hao5:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: Minnie~Moo ที่ 13-11-2013 10:55:29
กรีีดจนแทบสลบ เห็นน้องผึ้งอัพแล้วดีใจมว๊ากกก  :mc4:

แหมๆ :-[ คุณตำรวจได้ทีเอาใหญ่เลยน๊า ให้ดีทำให้เป็นเมียจริงๆไปเลย :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 13-11-2013 11:53:17
ขอบคุณคนแต่ง ดีใจที่มาต่อให้ อิอิ :o8: :o8:

ตอนนี้แค่ซ้อมๆไว้ก่อนอีกไม่นานคงเป็นจริงใช่ไหมคุณตำรวจ :katai3:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 13-11-2013 13:15:28
ขนาดแค่ซ้อม 555555
ผึ้งสุดยอดจริงๆ
อยากรู้ว่าเข้าไปในบ้านนั้นจะฮาขนาดไหน
รอตอนต่อไปค่ะ  สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: four4 ที่ 13-11-2013 15:03:32
มันส์ แน่ๆงานนี้ ติดตามจ้า 555+
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 13-11-2013 21:06:49
คู่กัด คู่กัน มันส์แน่ๆสองคนนี้ :laugh:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: justlove ที่ 13-11-2013 21:33:53
 :hao5: :hao6: :hao6: :hao6: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai5: :katai5: :ling1: :ling1:


อยากอ่านต่อ เอาใจช่วยคนแต่งนะ อย่าหายไปนาน คิดถึง
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ 4 [12/11/2013] pg.3
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 18-11-2013 12:58:55
เอาแล้ว ๆ ๆ  :hao7:  คู่ผัวเมียกำมะลอ แสบสันทั้งคู่ เก่งทั้งคู่ ไม่มีใครยอมใครเลยจริง ๆ
จากฉะกันไปมา เดี๋ยวต้องไปเป็นที่รักกันเนี่ย จะเป็นยังไงน้า ฮุฮุ  :hao6: แค่คิดก็มันส์ล่ะ
แต่คุณผู้กองวายุ เริ่มหลงเสน่ห์ หนูผึ้งของเรารึเปล่าจ้ะ แหม รีบเสนอตัวเองเป็นคุณสามีเชียว
มีแอบหึงพี่เต้เบา ๆ แบบไม่รู้ตัวนะพี่วายุ แต่พี่เต้แสนดี ก็น่าสงสารจังเลยอ่ะ ใครจะมาดามใจให้พี่เต้บ้างน้อ 
รอความมันส์ตอนต่อไปจ้า ชอบจังเลยอ่ะ  ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 09-12-2013 23:18:41
สนุกมากจ้าา ติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๓ [19/10/2013] pg.2
เริ่มหัวข้อโดย: maxiyorka ที่ 10-12-2013 00:29:38
น่าสนุกจังค่ะ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๕ [12/21/2013] pg.3
เริ่มหัวข้อโดย: dek-zaal3 ที่ 22-12-2013 00:12:54
ตอนที่ ๕


“แล้วท้องโย้อยู่แบบเนี้ยจะทำงานไหวเหรอ...”

“โอ๊ย ไหวจ่ะไหว...ลูกฉันมันแข็งแรงเหมือนพ่อมันนั่นแหละจ่ะ...นี่ก็เพิ่งสามสี่เดือนเอง ฉันยังทำงานไหวสบายมากเลยจ่ะคุณแว๋ว” เอื้องผึ้งจีบปากจีบคอเอ่ยกับสาวใช้นามแว๋ว ผู้ที่กำลังเดินนำเขากับผู้กองวายุไปที่ห้องพัก หลังจากเพิ่งผ่านการสัมภาษณ์งานจากคุณแม่บ้านใหญ่มาอย่างสดๆร้อนๆ

“วุ้ย! มาคงมาคุณอะไร เดี๋ยวฉันก็อายุสั้นกันพอดี...เรียกพี่แว๋วก็ได้ ท่าทางเราน่าจะอายุอ่อนกว่าฉันอยู่นะ เอ้อ...แล้วชื่ออะไรล่ะ ฉันจะได้เรียกถูก” สาวใช้นามแว๋วอยู่ในชุดแม่บ้านสีขาวดำที่เคยเห็นตามทีวี ดูจากวงหน้าแล้วเอื้องผึ้งคะเนว่า แม่บ้านแว๋วคนนี้คงจะเพิ่งอายุได้ยี่สิบต้นๆเท่านั้น แต่ท่าทางแก่งานคล่องแคล่วว่องไวดี นอกจากนี้แล้วเอื้องผึ้งก็ยังไม่เห็นคนที่ท่าทางจะเป็นแม่บ้านคนอื่นอีกนอกจากคุณแม่บ้านใหญ่ ที่เป็นคนสัมภาษณ์เขาเมื่อกี๊นี่เอง

“ฉันชื่อผึ้งจ่ะ จะเรียกอีผึ้ง ไอ้ผึ้งก็แล้วแต่พี่แว๋วจะเรียกเถอะ...ส่วนนี่ผัวฉัน...เรียกไอ้ลมก็ได้จ่ะ” เอื้องผึ้งต่อบทสนทนาอย่างคล่องแคล่ว วายุเหลือบมองคนคล่องการแสดงอย่างพวกมืออาชีพข้างๆตัวแล้วแอบทึ่ง เริ่มนึกสงสัยขึ้นมาจริงจัง ว่าถ้าเล่นละครเก่งขนาดนี้ทำไมเจ้าตัวไม่ไปสอบเข้าคณะนิเทศน์หรืออะไรพวกนั้นแทน(ว่ะ) ทั้งที่ก็น่าจะรู้ตัวเองดีนะว่ามีพรสวรรค์ด้านนี้ติดตัวมาไม่ใช่น้อย

“อ่อ...ผึ้งกับลม เออเรียกง่ายดี...” แม่บ้านสาวนามแว๋วพยักหน้าเออออ ก่อนจะหยุดลงที่หน้าห้องพักคนงานห้องหนึ่งที่มีป้ายสีน้ำเงินแก่ๆเขียนด้วยปากกาเมจิกตัวโย้เย้แต่พออ่านออกว่า ‘ว่าง’ หญิงสาวรูปร่างท้วมนิดๆล้วงหยิบกุญแจจากกระเป๋ากางเกงออกมาไขล็อกแม่กุญแจหน้าห้อง ก่อนจะยื่นพวงกุญแจพวกเล็กอีกพวงที่มีลูกกุญแจห้อยไว้สองดอกกับเอื้องผึ้ง

“เอ้านี่ กุญแจห้อง...เป็นผัวเมียกันก็อยู่ห้องเดียวกันไปแล้วกัน เมียเอ็งก็ท้องอยู่ เอ็งจะได้ดูแลเมียได้ง่ายๆ” แว๋วบอกก่อนจะเอาพวงกุญแจอันใหญ่มาใส่กระเป๋าไว้ตามเดิม

“จ่ะ ขอบใจมากนะจ๊ะพี่แว๋ว” วายุรับพวงกุญแจมาจากเอื้องผึ้งอีกทีก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณพร้อมแจกยิ้มให้บางๆ ทว่าแค่นั้นก็ทำเอาสาวร่างท้วมถึงกับหน้าแดงออกได้เหมือนกัน ถึงในบ้านนี้จะมีบอดี้การ์ดหุ่นล่ำๆแมนๆเดินเข้าเดินออกกันเป็นว่าเล่น แต่ไอ้ที่มายืนส่งยิ้มพร้อมยกมือไหว่หล่อนแบบนี้นี่เพิ่งครั้งแรก ใจสาวเลยหวั่นไหวเป็นธรรมดาแบบช่วยไม่ได้

   ...พ่อจ๋าแม่จ๋า ตั้งแต่เกิดมายี่สิบเอ็ดปี อีแว๋วก็เพิ่งมีผู้ชายหุ่นล่ำๆมายืนส่งยิ้มให้ก็วันนี้แหละ!! เห็นตอนแรกยืนหงิมติ๋มๆไม่ค่อยพูด แต่อย่ามาเผลอยิ้มให้เห็นเชียวนะ แหม่! มันน่าดูชมน้อยเสียเมื่อไหร่ เสียดายที่มีเมียซะแล้ว...เชอะ คนอย่างอีแว๋วถึงจะชอบแค่ไหนก็ไม่ขอเป็นมือที่สามใครอย่างเด็ดขาด

“อะแฮ่ม!” เอื้องผึ้งแสร้งทำเสียงกลั้วคอ เรียกสติของแม่บ้านแว๋วที่ยืนตาลอยมองหน้าผู้กองวายุที่ยืนเกาท้ายทอยอย่างเขินๆ

   แว๋วรีบกระพริบตาปริบๆสองสามทีเพื่อเรียกสติตัวเองกลับคืน โอ๊ยอีแว๋ว เมียมันก็ยืนคุมอยู่ตรงหน้า ไปเคลิ้มใส่ผัวคนอื่นเขาได้ยังไง ไม่ดีนะไม่ดี...ไม่ ไม่

“แต่ว่าเขาหล่อ...เอ้อ! จะว่าไปแล้วนี่ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเอ็งมีประวัติดี เคยทำงานกับเสี่ยบุญชัยมาก่อน คุณป้าแม่บ้านใหญ่เขาไม่รับเข้าทำงานหรอกนะรู้มั้ย” ประโยคแรกขึ้นมาอย่างตงิดๆ แต่ดีที่เจ้าตัววกกลับหาเรื่องอื่นมาบังหน้าแทนได้อย่างทันควัน เอื้องผึ้งเลยมองหน้าคุณแม่บ้านแว๋วแล้วยิ้มไร้เดียงสาให้เหมือนเดิมเหมือนเมื่อครู่นี้แม่บ้านแว๋วไม่ได้หลุดอะไรออกมาเลยสักจิ๊ดเดียว

“อ๋อจ่ะ แต่ว่าพวกฉันก็โดนไล่ออกมาเพราะฉันท้องเนี่ยแหละจ่ะพี่แว๋ว...” เอื้องผึ้งแสดงอาการเสียใจนิดๆแบบมีจริตไม่เกินงามอย่างแนบเนียน สาวเท้าเดินตามสามีเข้ามาในห้อง แล้วเอามือจับเอวค่อยๆทรุดนั่งลงบนเตียงที่อยู่กลางห้องอย่างช้าๆ

“อ้าว...แค่เอ็งท้องนี่ถึงกับต้องไล่ออกกันเลยเหรอ ทำไมเสี่ยบุญชัยมันถึงโหดจังวะ”  แว๋วเดินตามคู่สองสามีภรรยาเข้ามาในห้อง ก่อนจะยืนเท้าเอวมองอย่างสงสัยพลางออกปากชวนเอื้องผึ้งคุยต่อ ซึ่งเอื้องผึ้งก็ยินดีที่จะตอบ เผื่อว่าจะแอบได้ข้อมูลอะไรออกมาบ้างจากการอาการเผลอหลุดของแม่บ้านแว๋วคนนี้

“อันที่จริงเสี่ยเขาก็ไม่ได้โหดขนาดนั้นหรอกจ่ะพี่แว๋ว พวกฉันทำผิดกฎของบ้านนั้นน่ะ ที่นั่นเขาห้ามพวกคนงานเอากันเอง แต่ฉันชอบอีผึ้งมันจนทนไม่ไหว ไปดักปล้ำมันที่คูน้ำหลังบ้านเสี่ยเขา...ใครจะไปรู้ว่าน้ำยาฉันดี ทับทีเดียวก็ติดลูก...ฉันกับผึ้งก็เลยต้องออกมาหางานใหม่ทำเนี่ยแหละจ่ะ” พ่อเจ้าประคุณวายุเอ่ยเล่าแบบคล่องปาก ทำเอาคนร่วมเหตุการณ์โดนปล้ำที่คูน้ำหลังบ้านงงเต็ก เผลออ้าปากค้างไปชั่วขณะ ว่าไอ้ที่เตี๊ยมกันมามันไม่ใช่แบบนี้นี่หว่า...แล้วไอ้คูน้ำหลังบ้านนี่มาจากไหนว่ะ หรือพ่อเจ้าประคุณเธอจะลืมบท! แต่จะให้เอื้องผึ้งกลับไปแก้ไขตอนนี้ก็คงไม่ทัน ต้องเลยตามน้ำอย่างเดียวแล้วล่ะวะไอ้ผึ้ง...

“เอ้อ...จ่ะ ก็อย่างที่ไอ้ผัวเฮงซวยของฉันมันเล่านั่นแหละพี่แว๋ว เพราะมันคนเดียวเลยที่ทำให้ฉันต้องมาตกระกำลำบาก หอบลูกหอบผ่อนมาหางานใหม่ทำเนี่ย ดีนะที่บุญฉันยังมี คุณป้าแม่บ้านเลยเมตตาสงสารยอมให้ฉันกับผัวได้ทำงานที่นี่ด้วยกัน...” เอื้องผึ้งเอาชายแขนเสื้อมาซับน้ำตาที่ไม่มีอยู่จริง เพียงแต่เล่นให้สมบทบาทชีวิตเมียผู้รันทดก็เท่านั้นเอง

“จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไปล่ะ...จริงๆแล้วที่ป้าแม่บ้านเขารับพวกเธอสองคนเข้ามา ก็เพราะพวกเธอมีประสบการณ์ทำงานกับเสี่ยบุญชัยมาก่อนต่างหาก...เคยทำงานกับเสี่ยมา รู้ใช่มั้ยว่าบ้านเสี่ยเขาทำอะไร”

“...ขายยากับอาวุธเถื่อนจ่ะพี่แว๋ว บ้านที่พวกฉันเคยทำงานให้เคยเป็นแหล่งพักของก่อนส่งออกชายแดนของเสี่ยเขา” เอื้องผึ้งแอบแย็บข้อมูลฝั่งตัวเองออกไปหนึ่งดอก ซึ่งก็ดูเหมือนจะได้ผลเพราะแม่บ้านแว๋วทำตาหลุกหลิกมองซ้ายมองขวา ก่อนจะเดินไปปิดประตูแล้วลงล็อกจากข้างในเสร็จสรรพ

“บ้านนี้ก็ทำไม่ต่างจากของเสี่ยบุญชัยเขาหรอก ที่นี่น่ะเป็นแหล่งพักเนื้อสด ก่อนจะส่งออกไปขายเมืองนอกโน่นแน่ะ...นี่ฉันก็บอกไว้ก่อน จะได้ไม่ปากโป้งเที่ยวสงสัยแล้วไปถามใครต่อใครให้โดนไล่ออกไปเหมือนพวกคนใช้ก่อนหน้านี้อีก...” แว๋วเอ่ยเล่าเสียงเบาทั้งที่ก็อยู่กันแค่สามคนในห้องทึบๆพร้อมหน้าต่างแค่บานเดียวเท่านั้น

   วายุและเอื้องผึ้งได้ฟังก็แสดงท่าทางตกใจออกมาอย่างแนบเนียน วายุรีบเข้าไปนั่งข้างภรรยากำมะลอก่อนจะวางมือไปบนหน้าท้องนูนๆของเอื้องผึ้งแล้วเอามืออีกข้างมาโอบเอวเหมือนกอดไว้อย่างหวงแหน

“ถ้าอย่างนั้นก็แย่น่ะสิพี่แว๋ว เมียฉันยิ่งหุ่นดีๆอยู่ด้วย แบบนี้ไม่โดนจ้องเอาไปขายด้วยเรอะ” วายุเอ่ยปากถามน้ำเสียงกังวลปิดไม่มิด แว๋วที่เชื่อการแสดงของสองคนบนเตียงอย่างหมดใจก็ลงไปนั่งข้างเอื้องผึ้งก่อนจะวางมือลงบนไหล่บอบบางของเด็กหนุ่มแล้วแสดงท่าทางเห็นอกเห็นใจออกมา

“ถ้าเมียเอ็งเขาไม่ท้องโย้จนเห็นชัดขนาดนี้กับไม่มีไฝบนหน้าล่ะก็...ฉันก็จะไม่รับประกันเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้นะ ของล็อตที่แล้วมีผู้หญิงท้องอ่อนๆติดมาคน มันพาเอาทำแท้งเสร็จแล้วถึงค่อยส่งไปขายต่อ...ฉันล่ะสงส๊านสงสาร แต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง...หลงมาทำงานกับป้าเขาไปแล้วทั้งตัว จะถอนตัวตอนนี้ก็ไม่ทัน เอาตัวเองก็ไม่รอด...เฮ้อ ฉันก็รู้นะว่ามันบาปที่ยังทำงานให้กับคนพวกนี้ แต่จะให้ทำยังไงได้วะ...” แว๋วเล่าไปถอนหายใจเฮือกๆไป

ส่วนเอื้องผึ้งฟังเรื่องที่เล่าแล้วก็พาให้หดหู่ในใจอยู่ไม่น้อย ก่อนจะเริ่มมีกำลังใจฮึกเหิมขึ้นมาอีกโข เมื่อคิดได้ว่าถ้าเขาทำคดีสำเร็จจะมีผู้หญิงที่รอดออกไปจากนรกขุมนี้ได้อีกหลายสิบคนแน่ๆ

“เอาน่าพี่ ฉันเข้าใจ...ก็ปากก็ท้องของเราเหมือนกันนี่เนอะ ถ้าไม่ทำเราก็อดตาย...เอ้อพี่แว๋ว พี่พูดอย่างนี้แล้วถ้าวันหนึ่งมีตำรวจเข้ามาช่วยผู้หญิงพวกนั้น พี่จะยอมร่วมมือกับพวกตำรวจเขารึเปล่า...” พูดจบเอื้องผึ้งก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาที่ข้างสะโพก เหลือบมองมาทางคนที่นั่งซ้อนหลังก็เห็นตีหน้ายักษ์รออยู่แล้ว...นี่กล้าหาญชาญชัยขนาดทำร้ายเมียสุดที่รักตอนกำลังท้องได้ลงคอเชียวเหรอวะ ไอ้ผัวเฮงซวย...!!! เดี๋ยวนะเดี๋ยว...รอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวเจอฤทธิ์ไอ้ผึ้งแน่!

“วุ้ย! พูดอะไรของเอ็งก็ไม่รู้ไอ้ผึ้ง ฉันจะเอาปัญญาที่ไหนไปช่วยพวกตำรวจเขา ถ้าตำรวจบุกเข้ามาฉันก็ซวยโดนจับไปด้วยอย่างเดียวล่ะ...ไม่เอาละ ฉันรีบไปทำงานอย่างอื่นก่อนแล้วกัน...จำไว้นะพวกเอ็ง ทำงานที่นี่มีกฎอยู่ข้อเดียว คือห้ามเอาเรื่องที่รู้ที่เห็นภายในบ้านนี้ไปพูดนอกบ้านเด็ดขาด...ไม่งั้นพวกเอ็งโดนไล่ออกด้วยลูกปืนแน่ๆ...ฉันเตือนด้วยความหวังดีแล้วนะ...จัดของเสร็จแล้วก็ตามไปที่ครัวด้วยล่ะ จะได้แบ่งงานกัน...” แม่บ้านแว๋วเอ่ยพลางลุกขึ้นยืนปัดขากางเกงเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมคำสั่งแรกที่ทิ้งไว้ให้เอื้องผึ้งกับวายุพยักหน้ารับคำ

   ประตูห้องพักคนงานปิดลงไปได้ไม่ถึงนาทีดี ฝ่ามือเล็กแต่หนักของคนมีท้องกำมะลอก็กำเข้าแล้วปล่อยหมัดฮุกขวาเข้าสันกรามนายตำรวจใหญ่ได้พอดิบพอดีเป๊ะ...ดีที่เขานั้นหนังหน้าหนาพอ และซ้อมระบบกระชับผิวหน้าเตรียมพร้อมรอให้เอื้องผึ้งตบอยู่ตลอดเวลา เผื่อต้องมีฉากดราม่าน้ำตาตกทะเลาะตบตีกันเหมือนพวกผัวเมียใจแตกทั่วไปชอบกระทำกัน แต่ถึงกระนั้นแรงที่อีกฝ่ายประเคนมาก็ไม่ใช่น้อยๆ ทำเอานายตำรวจต้องกุมแก้มร้องโอ๊ยออกมาหน่อยพอเป็นพิธี

“เมีย! ต่อยผัวทำไมเนี่ย!” วายุออกปากถามเสียเข้ม

“ก็มาหยิกเอวเขาทำไมเล่า” เอื้องผึ้งลุกขึ้นยืนกอดอกมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเคืองขุ่นไม่แพ้กัน

“ก็คุณไปเผลอหลุดปากถามเรื่องตำรวจขึ้นมาทำไม เกิดแม่แว๋วอะไรนั่นจับได้ขึ้นมาก็ซวยกันทั้งก๊กหรอก”

“ฮื้อ...ไม่หรอกน่า มือชั้นนี้แล้ว...ว่าแต่...เจ็บมากเลยเหรอคุณหรือแค่สำออย” เอื้องผึ้งพูดพลางพิจารณาท่าทางกุมแก้มตัวเองของอีกฝ่ายแล้วก็นึกสงสัย ว่าเขาก็ยั้งแรงแล้วแท้ๆนา อีกฝ่ายก็ตั้งท่ารับให้เขาต่อยแต่โดยดี จะมาโอดโอยตอนนี้ก็ดูจะตอแหลเกินไปแล้ว

“เจ็บจริงสิคุณ! ผมเตรียมหน้ามาสำหรับโดนตบนะไม่ใช่โดนต่อย...หนังคนนะโว้ยไม่ใช่หนังหมู ไอ้เด็กบ้า...” ท้ายประโยควายุแอบด่าอีกฝ่ายเบาๆให้ตัวเองได้ยินคนเดียว เอื้องผึ้งเงยมองหน้าเขาแบบขอโทษขอโพย ก่อนจะยกมือขึ้นเหนือศีรษะแล้วออกปากเอ่ย

“งั้นผึ้งขอโทษก็ได้...มา ขอแก้ตัว...หันอีกข้างมาผู้กอง เดี๋ยวผึ้งตบให้ใหม่จะได้เจ็บเท่ากัน...”

   ไอ้เด็กผึ้งเอ่ยออกมาตาใส ไอ้เด็กคนนี้มันเป็นเด็กบ้าจริงๆด้วย เบื้องหน้าก็แอบโชว์วงแหวนเทวดาบนหัวกับปีกนางฟ้าน้อยๆที่หลัง แต่ที่ก้นกลับเก็บซ่อนหางปีศาจเอาไว้ได้อย่างมิดชิด

คอยดูนะ...ซักวันพ่อจะล่อดึงทั้งเหล็กไนทั้งหางปีศาจออกมาให้หมดทั้งยวงเลยคอยดู!

แล้วผู้กองวายุก็ได้แต่ตั้งมั่นอยู่ในใจคนเดียวเป็นครั้งที่สอง

------------------------------   - -  -  ---  -         --            -     -         --       -           -

to be continue... 

ปิดเดือนนึงแล้วล่ะที่รักกกก >_< d  :mew1:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๔ [12/21/2013] pg.3 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 22-12-2013 01:37:47
5555 ผัวเมียคู่นี้จะรอดไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๔ [12/21/2013] pg.3 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 22-12-2013 04:04:02
สนุกๆๆ ชอบคุณภรรยา น่ารักน่าถีบดีจริงๆ กวนตรีนมาก
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๔ [12/21/2013] pg.3 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 22-12-2013 12:27:06
แล้วเมื่อไรจะเป็นผัวเมียกันจริงๆล่ะคะ? 5555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๔ [12/21/2013] pg.3 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: eye-lifestyle ที่ 22-12-2013 13:19:23
 :z1:  :hao6:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๔ [12/21/2013] pg.3 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 22-12-2013 13:26:55
ขอตัวไปอ่านก่อนนะ
จองที่ก่อน
5555
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๔ [12/21/2013] pg.3 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: becrazie ที่ 22-12-2013 14:17:21
ลุ้นๆๆๆ ขอให้งานราบรื่น ><
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๔ [12/21/2013] pg.3 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: AGALIGO ที่ 22-12-2013 16:19:42

อย่าเผลอแอ๊บหลุดล่ะทั้งคู่

+ เป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๔ [12/21/2013] pg.3 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: 7th SensE ที่ 22-12-2013 17:31:24
เอาใจช่วยเอื้องผึ้งกับผู้กองวายุค่ะ ชอบอ่ะบทผัวเมีย อิอิ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๔ [12/21/2013] pg.3 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: BaII ที่ 22-12-2013 17:47:16
บทผัวเมียน่ารักมากครับ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๔ [12/21/2013] pg.3 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 22-12-2013 18:45:39
เล่นละครไปมา อีกไม่นานผึ้งไม่สถานะเมียจริงแน่ ๆ

555
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๔ [12/21/2013] pg.3 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 22-12-2013 22:35:54
รับเรื่องใหม่อีกหนึ่ง
สนุก น่าติดตาม
+1
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๔ [12/21/2013] pg.3 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: Vavaviz ที่ 22-12-2013 23:54:00
โอย ฮาาา~

จะไปกันรอดไหมผัวเมียคู่นี้ 5555
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: dek-zaal3 ที่ 23-12-2013 14:40:50
ตอนที่ ๖



   เย็นนั้นเอื้องผึ้งกับวายุยังไม่ได้เริ่มงานอะไร เพราะพอไปถึงที่ครัว ทั้งสองคนก็เพียงได้รับทราบข้อมูลการทำงานของแต่ละคนเท่านั้นว่าต้องทำอะไรบ้างจากแม่บ้านแว๋ว และข้อมูลที่ได้รู้เพิ่มมาอีกสองอย่างสำหรับวันแรกก็คือ ตัวแม่บ้านแว๋วนั้นเป็นหลานของคุณแม่บ้านใหม่ และในบ้านหลังนี้ก็มีคนใช้จริงๆแค่เพียงสามคนเท่านั้น ถ้าไม่นับคุณแม่บ้านใหญ่และวายุที่มาทำงานเป็นคนสวน ก็มีแค่เขากับแม่บ้านแว๋ว และอีกหนึ่งสาวรุ่นคุณป้า ที่ชื่อป้าหมอน ซึ่งเป็นคนดูแลเรื่องอาหารการกินของบ้านนี้ทั้งหมดเท่านั้น

   เนื่องเพราะเอื้องผึ้งปลอมตัวมาเป็นคนท้อง เลยโชคดีไม่ต้องรับงานหนักอย่างงานทำความสะอาด เพราะปกติแว๋วจะเป็นคนรับหน้าที่ทำเองอยู่แล้ว ส่วนเอื้องผึ้งนั้นต้องคอยเป็นลูกมือให้กับคุณป้าหมอน และทำงานจิปาถะอื่นๆตามแต่ที่ใครจะเรียกใช้ อาจจะมีงานพิเศษเพิ่มมาหน่อยตรงที่ว่าเอื้องผึ้งมีความสามารถทำอาหารตะวันตกได้ ซึ่งนั่นเป็นจุดดีเพราะคุณป้าหมอนนั้นถนัดแต่อาหารไทย ทว่าคุณนายเจ้าของบ้านเธอชอบอาหารตะวันตกมากกว่าแต่หล่อนก็ไม่เคยทำได้ถูกปาก ถ้าเอื้องผึ้งทำได้ดีอาจได้รับหน้าที่เป็นแม่ครัวอาหารตะวันตกประจำบ้านไปเลยก็ได้

   ส่วนวายุนั้น ต้องรับหน้าที่ดูแลสวนภายนอกบริเวณบ้านทั้งหมด ชายหนุ่มจะต้องตัดหญ้าอาทิตย์ละวัน หรือแล้วแต่เห็นสมควรว่าส่วนไหนหญ้าควรจะตัด รวมไปถึงการทำงานซ่อมแซมต่างๆที่เกิดขึ้นภายในบ้านด้วย ซึ่งบ้านหลังนี้ยังไม่มีคนใช้ผู้ชายที่มาทำหน้าที่นี้อย่างจริงจัง การที่วายุเอ่ยปากบอกตอนสัมภาษณ์ว่าสามารถซ่อมได้หมดทุกอย่าง จึงทำให้คุณป้าแม่บ้านใหญ่พิจารณาผ่านได้เร็วขึ้น เพราะปกติแล้วเวลาเกิดปัญหาพวกนี้ต้องไหว้วานพวกบอดี้การ์ดหน้าเข้มให้ช่วยซ่อมให้แต่ก็ไม่ค่อยจะได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร ทั้งคุณป้าแม่บ้านใหญ่ แว๋ว และคุณป้าหมอนจึงค่อนข้างพอใจในตัวของเอื้องผึ้งกับวายุไม่น้อยที่ท่าทางจะมีประโยชน์คุ้มเงินเดือนดี

   เมื่อทั้งสองคนได้รับงานและรับประทานอาหารเย็นที่ห้องครัวเรียบร้อยแล้วก็รีบกลับไปที่ห้องของตัวเอง ก่อนปิดประตูห้องวายุก็แอบโชว์หวานขโมยจูบฟอดเข้าที่แก้มนวลเนียนของเอื้องผึ้งไปที ก่อนจะรีบกระซิบบอกว่ามีคนแอบดูอยู่ เอื้องผึ้งจึงลดมือที่จะต่อยนายตำรวจใหญ่ให้ปากแตกลง เหลือแค่ทุบเบาๆไปที่อกแบบจริตจก้านสะท้านอายเท่านั้น แต่ทว่าพอเข้ามาในห้องได้แล้วคุณตำรวจวายุก็ยังไม่ยอมหยุดลวนลาม มือหนายังคงยื่นเข้ามากอดก่ายและซุกไซร้ปลายจมูกไปทั่วข้างแก้มและลำคอ เอื้องผึ้งที่ขนลุกเกรียวไปทั้งตัวจึงรีบยกเท้าหวังจะกระทืบลงบนปลายเท้าคนหื่นขึ้นหน้า ให้ได้รู้ตัวซักทีว่ากำลังจะปล้ำชะนีตัวผู้มีกระปู๋เหมือนกันอยู่รอมร่อแล้ว

“หยุด...! แล้วร้องครางออกมาซะ หรือจะร้องห้ามก็ได้ เร็ว...!” เสียงวายุที่ดังขัดขึ้นช่วยชีวิตปลายเท้าตัวเองเอาไว้ได้อย่างทันท่วงที

“จะบ้ารึไง...เมากระเทียมเจียวหรือคุ...อะ อุ๊บ...” เพราะเอื้องผึ้งไม่ยอมส่งเสียงครางแต่โดยดีนั่นล่ะ ที่ทำให้เขาต้องลงมือโจนจ้วงอุกอาจ เอาปากประกบปิดปากจิ้มลิ้มที่ตั้งท่าจะพูดแจ้วๆไม่ได้หยุดนี่ สายตานายตำรวจไม่ได้เคลิ้มหลับหรือมองไปที่ใบหน้านวลของคนที่ทำตาโตเท่าไข่ห่านในอ้อมแขนเลยซักนิด เงาที่ส่ายไปส่ายมาตรงหน้าประตูทำให้เขารู้ว่าคนที่อยู่นอกห้องยังไม่ไปไหน...

“อึ๊...อื้อ...” เสียงร้องครางประท้วงแผ่วเริ่มหลุดลอดออกมาจากปากสองคู่ที่ประกบปิดกันอยู่ วายุจึงได้ฤกษ์หันสายตากลับมามองคนที่ถูกเขาปล้นจูบไปแบบไม่ทันให้รู้ตัว

“ขอโทษ...แต่พวกมันยังไม่ไปถ้าไม่ได้ยินเสียงหนังสดของพวกเรา ผึ้งช่วยครางให้ดังขึ้นอีกหน่อยได้มั้ย...”

“ไอ้...บ้านี่...อื๊อ...!” เอื้องผึ้งตาโต ยกมือขึ้นทุบปักๆที่กล้ามแขนตรงแผ่นหลังรัวๆ เมื่อริมฝีปากของเขาถูกขโมยไปอีกรอบ...

   ...ไอ้...ไอ้บ้าเอ๊ย! ไอ้ตำรวจเฮงซวย...ไอ้ตำรวจทำร้ายประชาชน...ไอ้...วิปริต! นี่มันจูบแรกของเขานะ...มันทำอย่างนี้ได้ยังไงวะ! ไหนว่าเขาจะไม่ต้องเปลืองตัวมากไปกว่าแค่จับมือแล้วโอบไหล่ไงล่ะ! แล้วนี่มันอะไรกันเนี่ย...ทำไมทำกันแบบนี้ล่ะ...

   เอื้องผึ้งคิดแล้วก็พยายามกลั้นหยดน้ำตาที่มาคลอเตรียมรินลงตรงปลายหางตาเอาไว้อย่างสุดความสามารถ รสจูบจากอีกฝ่ายไม่มีความหวานหรือละมุนละไมใดๆทั้งสิ้น แม้ว่านายตำรวจใหญ่จะทำเพียงรุกรานแต่ภายนอก ไม่จาบจ้วงล้วงลิ้นเข้ามาก็เถอะ...แต่ในความรู้สึกตอนนี้ของเอื้องผึ้งกลับรู้สึกเหมือนโดนหยามเกียรติอย่างรุนแรง ยิ่งอีกฝ่ายไม่สนใจแรงหยิกแรงข่วนที่เขาพยายามทำให้เกิดขึ้นบนหนังหนาๆนี่แล้ว เอื้องผึ้งยิ่งอยากร้องไห้เพราะน้อยใจในความอ่อนแอและสู้ไม่ได้ของตัวเองนัก...

   เป็นชั่วครู่ใหญ่กว่าที่เสียงอู้อี้และแรงบีบรัดที่ปลายคางจะยอมปล่อยให้เอื้องผึ้งเป็นอิสระ ริมฝีปากสีชมพูอมส้มบวมเจ่อเพราะโดนกดอยู่นาน ดวงตากลมโตสวยก็มีหยาดน้ำมาคลอเตรียมหลั่งรินเรียบร้อย นายตำรวจวายุที่เพิ่งละสายตาออกมาจากเงาวูบวาบที่ลอดผ่านใต้ประตูเข้ามามองใบหน้านวลที่อยู่ห่างกันแค่คืบจึงถึงกับอึ้ง

“...ผึ้ง”

   เด็กหนุ่มดันตัวเองออกจากวงแขนหนา จ้องสบนัยตาคมดุที่มองมาที่เขาแบบไม่พยายามตามหาความหมายหรือถ้อยคำที่อีกฝ่ายอยากจะสื่อบอก เด็กหนุ่มยกมือขึ้นมาระดับไหล่อีกฝ่าย แล้วตบลงไปบนซีกแก้มของคนที่มอบจูบแรกให้เขาแบบไม่น่าประทับใจเอาเสียเลย

   วายุไม่ได้หน้าหันไปตามแรงตบ เพราะเหมือนอีกฝ่ายนั้นอ่อนแรงที่จะตบเขาเต็มที คงอยากแค่ทำร้ายอะไรเขาซักอย่างเพื่อระบายความเสียใจในหน่วยตาคู่นั้นออกมาบ้างก็เท่านั้น...

   ...แล้วเมื่อกี๊แกทำบ้าอะไรลงไปว่ะ...

“ผึ้ง...เมื่อกี๊พี่ขอโทษ พี่แค่เห็นว่ามีคนแอบดูเราอยู่พี่ก็เลย...”

“ผมจะไปอาบน้ำก่อน...” เสียงเอื้องผึ้งเอ่ยขัด เด็กหนุ่มหันหน้าหนีนายตำรวจใหญ่ แต่ท่ามกลางความมืดนั้นวายุยังพอมองเห็น...ว่ามันมีน้ำหยดลงมาจากปลายหางตา ก่อนจะถูกฝ่ามือบางปาดออกไปอย่างไม่ไยดี...

   วายุไม่รู้สึกตัวเลยซักนิดว่าอะไรที่สั่งให้เขายื่นมือออกไปคว้าร่างน้อยมาแนบกายอีกครั้ง พุงนุ่มนิ่มถูกเขากดดันจนเอวอีกฝ่ายแทบจะทาบติดไปกับตัวเขา...และคราวนี้เขาก็บรรจงก้มหน้าลงไปใกล้ใบหน้านวลที่ยังมีแววตกใจ แล้วประทับจูบลงไปอีกครั้งอย่างแนบแน่น...

   เอื้องผึ้งตกใจมากในทีแรกที่โดนอีกคนกระชากแขนดึงเขาเข้าไปกอด แล้วก็ยิ่งมือเย็นเมื่ออีกคนก้มหน้าลงมาหาแล้วแนบริมฝีปากเข้าใส่อีกครั้ง...ตอนแรกเขาตั้งใจเอาไว้แล้วว่าถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกเขาจะควักลูกตาหมอนี่ออกมาให้ได้ แต่พอเอาเข้าจริงเขาก็ทำไม่ลง เพราะความรู้สึกที่ส่งผ่านจากร่างกายสูงใหญ่มาให้เขาในเวลานี้มันช่างหวานละมุนเสียเหลือเกิน

   ริมฝีปากอิ่มหนาค่อยๆแทะเล็มไปตามริมฝีปากล่างของอีกฝ่าย ละเลียดชิมความหอมหวานที่ปรุงแต่งจากความบริสุทธิ์ของเด็กอ่อนเดียงสาอย่างเอื้องผึ้ง ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงแรงขยุ้มเสื้อของเขาที่ด้านหลัง มือหนาแข็งแรงจึงสอดช้อนเอวอีกคนเข้ามาแน่นๆ เอาให้เอื้องผึ้งมั่นใจได้ว่าเขาจะไม่ปล่อยให้เรือนร่างบอบบางเข่าอ่อนจนร่วงหล่นลงไปบนพื้นแน่...

   จูบครั้งนี้ที่ได้รับมันช่างต่างจากครั้งแรกโดยสิ้นเชิง มันมีความหวาบหวาม...และเอาใจใส่ ถึงจะดูตะกรุมตะกรามไปนิด แต่ก็เป็นไปเพราะอีกฝ่ายกำลังหลงใหลหรือมัวเมาไปกับรสจูบครั้งนี้กับเขาอยู่ ถามว่าเอื้องผึ้งรู้ได้ยังไงน่ะหรือ...เขาก็ตอบไม่ได้หรอก รู้เพียงแค่ว่าจูบคราวนี้มันมีทั้งความอบอุ่น อ่อนโยนในบางคราว แล้วก็มีคำว่า ‘ขอโทษ’ ที่ส่งมาให้ผ่านการกระทำเป็นบางครั้ง...เอื้องผึ้งยอมรับว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่บนปุยเมฆ มีความหวาดเสียววูบไหวเป็นพักๆเพราะไม่รู้ว่าข้างหน้าที่จะก้าวไปนั้นมันจะทำให้เขาหล่นร่วงตกจากฟ้าลงไปหรือเปล่า ซักพักก็มีความอ่อนละมุนเหมือนสายลมพัดแตะผิวแก้ม เมื่อคนตรงข้ามค่อยๆละเลียดลิ้นตรงไรฟันของเขาราวขออนุญาต ก่อนจะแทรกสอดเข้าไปข้างในเมื่อเอื้องผึ้งทนเสียงเรียกร้องของอีกฝ่ายไม่ไหว ยอมให้ปลายลิ้นใหญ่เข้าไปทำความรู้จักกับตัวตนของเขาให้มากขึ้นกว่าเดิม

   ชายหนุ่มร่างใหญ่กว่ารู้สึกลิงโลด หัวใจพองโตคับอกเมื่อปากเล็กๆอ้าออกเล็กน้อยให้เขาได้เข้าไปสัมผัสภายใน หลังจากที่ดูดดึงเล็มเลียภายนอกเสียจนหายอยาก...ความรู้สึกเหมือนเอื้องผึ้งค่อยๆยอมเปิดรับเขาทีละน้อย...ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเรื่องแค่นี้ถึงทำให้เขาดีใจได้ เหมือนตอนอายุสิบหกที่เขาไปสารภาพรักสาวรุ่นพี่แล้วเจ้าหล่อนตอบตกลงอย่างไรอย่างนั้นเลย...

“...เก่งมากเลยคนดี จำไว้นะครับ...ว่าเมื่อกี๊ คือจูบแรกของผึ้ง...ไม่ใช่ครั้งแรกนั่นที่พี่ฉาบฉวยหยามน้ำใจเรา พี่ไม่ได้ตั้งใจ...พี่ขอโทษนะ...” คำขอโทษอย่างจริงใจมักจะแตกต่างจากการขอโทษแบบขอไปทีเสมอ

เอื้องผึ้งที่ยังมีอาการมึนงงและหอบเหนื่อยเพราะหายใจไม่ทันพยักหน้าให้แบบไม่รู้ตัว เกาะเกี่ยวแขนอีกคนระหว่างที่โดนพาร่างไปนั่งลงที่ริมเตียง วายุคุกเข่าลงตรงหน้าร่างคนท้องปลอมๆ จ้องมองปากจิ้มลิ้มที่เคลือบไปด้วยน้ำลายของเขาจนมันวาวแล้วก็อยากซ้ำลงไปอีกรอบ...ทำไมถึงหวานได้ขนาดนี้นะเจ้าผึ้งของเขา ทำเอาลืมเพศไปเลยว่าเจ้าผึ้งของเขานั้นเป็นตัวผู้...แต่ก็นะ เขาเองก็เพิ่งรู้ตัวแฮะว่าก็ไม่ได้รังเกียจการจูบกับผู้ชายเท่าไหร่ ทว่าพอลองจินตนาการหน้าของเจ้าผึ้งเป็นเพื่อนผู้ชายในที่ทำงานคนอื่นแล้วก็แทบอ้วก สรุปได้ว่าเขาจูบกับผู้ชายได้แค่เจ้าผึ้งคนเดียว...นึกดีใจอยู่ครามครันที่ดูเหมือนว่าเจ้าผึ้งเองก็เพิ่งจะเคยจูบกับผู้ชายคือเขาเป็นคนแรก กับลูกชายผู้กำกับนั่นเดาว่าคงยังไม่มีอะไรเกินเลยกัน ก่อนจะลุกขึ้นยืนหลังจากที่นั่งสังเกตอาการของเอื้องผึ้งอยู่ซักพักแล้วก็แอบฉวยโอกาสหอมแก้มฟอดเข้าไปอีกที แม้ว่าจะมีเศษแป้งและรองพื้นติดปากมานิดหน่อย แต่พอคิดว่ามันเคยติดอยู่บนผิวของเอื้องผึ้งมาก่อนเขาก็สูดกลิ่นเข้าไปพร้อมรอยยิ้ม

“ชื่นใจ...ผึ้ง...นั่งพักอยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ พี่ขอเข้าห้องน้ำก่อนได้มั้ย สัญญาว่าไม่นาน...นะครับคนดี” ฝ่ามือหนาส่งไปลูบศีรษะอีกคนแผ่วเบาก่อนจะหันหลังแล้วรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว เพื่อปกปิดอะไรบางอย่างที่มันโป่งนูนออกมาอย่างไม่น่าให้อภัยที่สุดในชีวิต...

   ...ไอ้ลูกชาย! จะมาสิ้นลายอะไรเอาตอนนี้วะ!...นั่นน่ะผู้ชายนะโว้ย แถมแค่เพราะจูบแกยังมีหน้ามาเด้งอีก...หรือว่าเราจะขาดผู้หญิงนานเกินไปวะ...ไม่น่านะ เพราะวันก่อนตอนไปตรวจที่ผับ โดนผู้หญิงมาสีใกล้ๆแถมเด้งหน้าเด้งนมใส่เขายังไม่อารมณ์ขึ้นแบบนี้เลยนี่หว่า...นี่อย่าบอกนะ ว่าเขาเกิดการค้นพบตัวเองครั้งยิ่งใหญ่...ว่าเขาอาจมีอะไรกับผู้ชายก็ได้ด้วย!!!

   ให้ตายเถอะ! หลักฐานยืนยันถึงการค้นพบครั้งนี้ ก็คือตอนที่กำลังโลกสวยด้วยมือเราอย่างเมามันนั้น นายตำรวจหนุ่มนามวายุ ดันมีแต่ภาพหนุ่มน้อยหน้าหวานปานน้ำผึ้ง ผู้ซึ่งกำลังนั่งหน้าแดงแป๊ดแข่งกับมะเขือเทศราชินีอยู่บนเตียง เป็นเครื่องมือช่วยบัญชาการปลดขีปนาวุธทิ้งลงคอห่านน่ะสิ!!!

------------------------------   - -  -  ---  -         --            -     -         --       -           -

to be continue...

ใกล้จะปีใหม่แล้วน้าา มีแพลนจะไปเที่ยวไหนกันมั่งจ๊ะเพื่อนๆ ^^   :mew1:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 23-12-2013 15:37:58
รีเฟรช 2 ครั้ง หมดแล้วจริงอะ T_T
กำไรสุดๆอะคุณตำรวจ เสร็จภารกิจ น้องผึ้งก็คงเสร็จแกไปด้วยใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: eye-lifestyle ที่ 23-12-2013 17:32:56
 :sad4: :z3: สั้นนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 23-12-2013 17:49:05
จุ๊บกันแล้ววววววว 55555

ผึ้งเอ๊ยยยย ได้สามีจริงแท้แน่นอนนนน
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: 7th SensE ที่ 23-12-2013 18:30:43
น่ารักกกกกกกกกกก  :-[ หวานเอาใจเค้าไปเลยค่ะ อ้ากกกก อยากอ่านต่อออออ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 23-12-2013 18:48:11
 :heaven หวาน มากที่สุด ผึ้งกะพี่ลม1+
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 23-12-2013 20:51:31
อุ้ตะ อยุ่ด้วยกันวันแรกน้องผึ้งก้โดนจับจูบซะละ แล้วต่อไปจะเหลือหรอเนี่ย :laugh:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 23-12-2013 20:54:45
สั้นนะ อยากอ่านต่อ
+1
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 23-12-2013 21:17:43
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: becrazie ที่ 23-12-2013 22:17:40
 :hao6:ถึงสั้นแต่ฟิน

แต่มันก็ยังสั้นยุดี :ling1:

เอาอีกๆ :katai4:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 23-12-2013 22:21:19
แหม พอจุ๊บกัน สรพพนามเปลี่ยนเป็นพี่ที่แสนอ่อนโยนทันที  :laugh:

หวานนเว่อร์อ่ะ 555 :o8:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 23-12-2013 23:05:48
อ๊อย จูบกันแบบหวานๆแล้ว :-[
ดีนะที่อิพี่วายุรู้สึกตัวทันว่าได้ทำผึ้งเสียใจ
ไม่งั้นคงโดนผึ้งเกลียดไปตลอดการทำงานแน่
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 23-12-2013 23:17:55
เอ้ย......วายุไปจูบผึ้งทำไมอ่าอิอิ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 23-12-2013 23:59:12
ผึ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง วายุติดลมบนมากอ่ะ
มาแบบสั้นๆแต่ก็เขินนะคะ xd
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 24-12-2013 04:29:59
คุณผู้กองนี่ใจเร็วนะคะ 555+
เพิ่งเจอกันแปปๆ แต่เดี๋ยวหึง เดี๋ยวมีอารมณ์ กับผึ้งน้องตลอด  :impress2:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 24-12-2013 08:56:19
 :katai3:  คุณพี่วายุขาาาาา   ถึงกับค้นพบตัวตนเลยทีเดียวววว

ส่วนหนุผึ้งนี่ไปไม่เป็นเลยนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 24-12-2013 11:49:23
หวานจริงๆ แม้จะปนๆ ซาดิดหน่อยๆ

ตบจูบ 55555

หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 24-12-2013 12:06:48
555555555555
ผึ้งเนียนมากอ่ะ จริงๆ
มาต่อเร็วๆนะคะ T^T
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 27-12-2013 13:50:21
ชอบบบบบบบบบบบ ชอบเรื่องเรื่องแบบเนนนนนนนนนนนน้ ตื่นเต้นเร้าจายยยยยยยยยย แถมยังมีหื่นิดๆอีกด้วยยยยยยยยยยยย ชอบอะ เอื้องผึ้งน่ารักมวากกกกกกกกกกกกกกก ผู้กองก็หล่อออออออออออ เร้าจายยยยสุดสุดดดดดดด :hao7:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: jamlovenami ที่ 27-12-2013 17:54:04
เอิ่มมมม น้องผึ้ง.... เสร้จพี่เค้าเร็วเกินไปมั้ยลูก (เสียจูบพอเว้ยย พูดวะยังกะเสีย....เลย)  :ruready

แล้วเมื่อจะเริ่มขั้นตอนถัดไปล่ะนี่ จูบแล้ว กอดแล้ว หอมแล้ว ต่อไปก็ต้อง........  :hao3: อะเซบาลาเฮ่เฮ่ ชิมิ

 :hao6:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 27-12-2013 23:24:53
 :m20:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: Vavaviz ที่ 28-12-2013 10:35:21
จูบแล้ว จูบแล้ว !!*^*

เรียบร้อยโรงเรียนวายุมากอ้ะ ! 55555
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 29-12-2013 07:54:15
มาเม้นท์ 5 - 6 สองตอนเลย
.................................................
ตอน 5
น้องผึ้งพี่ลม ผัวเมียคู่นี้ น่ารักจริงเลย น้องผึ้งตีบทแตกกระจุยกระจายจริง ๆ ยอดมาก o13
แหม่ พี่วายุ ขนาดแต่งตัวโทรม ๆ ปิดบังความหล่อแล้ว ยังไม่วายเสน่ห์แรงอีกนะ
พี่ลมกับน้องผึ้ง รับส่งบทกันดีจริง ๆ ถึงจะมีนอกบทไปบ้างแต่น้องผึ้งของเราก็ไม่มีพลาด เก่งมาก
เข้ามาแป๊บเดียว ก็ได้ข้อมูลจากพี่แว๋วเยอะเลย แต่คนพวกนี้นี่โหดจริง ๆ ขนาดคนท้องยังไม่เว้น
พี่แว๋ว น่าจะมีประโยชน์ในการสืบคดีมากเลยนะ ท่าทางเป็นคนดี คงช่วยอะไรได้เยอะเลย
แหม๊ น้องผึ้ง เมียคนนี้มือหนักใช่ย่อย แต่อะไรไม่ฮาเท่า พี่ลม หนังหน้าหนา เตรียมพร้อมรอ ตบตลอดนี่สิ  :laugh:
น้องผึ้ง ปีศาจน้อยตาใส ถึงร้ายแค่ไหน ก็น่ารักยิ่งกว่า พี่วายุคิดจะเอาคืนปีศาจน้อยตัวนี้เหรอ ระวังเหอะนะ
รู้ตัวอีกที จะตกหลุมรักปีศาจผึ้งน้อยตัวนี้จนถอนตัวไม่ทัน คราวหน้ายิ่งกว่าต่อยยังต้องยอมน้องผึ้งก็ได้นะ อิอิ
..........................................................................................
ตอน 6
พี่วายุ ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ เข้าใจหรอกว่าจะเล่นให้สมบทบาท แต่แหม ได้กำไรจากน้องผึ้งซะเต็มที่เลยนะ
หอมแก้มไม่เท่าไหร่ นี้เล่นจูบซะ แหม๊ อยากจะเขินหรอกนะ แต่เล่นนอกบทที่ตกลงกันไว้ ทำน้องผึ้งช็อคไปแล้ว
จูบแรกของน้องผึ้งซะด้วยนะ แต่เป็นจูบที่ไร้ความรู้สึก ไม่มีความอ่อนโยน ไม่แปลกที่น้องผึ้งจะรู้สึกไม่ดีอย่างนี้
พี่วายุ ทำน้องผึ้งร้องไห้ซะแล้ว ชิชิ  แต่วิธีการง้อน้องผึ้งนี่สิ จะเรียกว่ายังไงดีเนี่ย ถูกโกรธก็เพราะจูบ
ง้อน้อง ก็ใช้จูบเหมือนเดิม ต่างกันที่ความรู้สึกที่ส่งไปพร้อมจูบนั้นสินะ จูบคราวนี้ มาจากความรู้สึกที่แท้จริง  :m1:
ทำให้น้องผึ้งรับรู้ได้ แถมเป็นจูบแบบลึกซึ้ง ดูดดื่มซะด้วยอ่ะ คราวนี้แหละ เขินของจริงแล้ว ว้าย :m3:
แล้วยังพูดกับน้องผึ้งซะเพราะ อบอุ่น อ่อนโยนมากเลยพี่วายุ ถึงน้องผึ้งจะยังงง ๆ แต่พี่วายุนี่สิ รีบรู้ตัวไว ๆ เลยนะ
ว่าจริง ๆ แล้วรู้สึกยังไงกับน้องผึ้ง จะได้ไม่ทำให้น้องผึ้งเสียใจโดยไม่ตั้งใจอีก ทีนี้การเล่นเป็นผัวเมียกันของคู่นี้
คงจะยิ่งสมบทสมบาทมากขึ้นอีกโขเลยสิ เพราะคนเล่นเข้าเอาความรู้สึกจริง ๆ ใส่เข้าไปด้วยเนี่ย คิคิ  :z1:
......................................................................................
รอตอนต่อไปจ้า ชอบเรื่องนี้มาก ๆ เลย ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :L1:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: dek-zaal3 ที่ 31-12-2013 13:14:47
ตอนที่ ๗


        รุ่งเช้าเอื้องผึ้งเป็นคนตื่นก่อน พวกเขานอนบนเตียงเดียวกันโดยมีหมอนข้างมากั้น ถึงกระนั้นเอื้องผึ้งก็ยังได้ยินเสียงกรนคร่อกของคนที่นอนอยู่ฝั่งตรงข้ามชัดเจน เพราะปากนั่นแท้ๆเลยเชียวที่ทำให้เอื้องผึ้งนอนไม่ค่อยจะหลับเพราะมัวแต่วาบหวิวอยู่กับเรื่องเมื่อคืน...

        เอื้องผึ้งไปอาบน้ำและแต่งตัวใหม่ ซึ่งมันค่อนข้างใช้เวลาพอสมควร พอกลับเข้ามาที่เตียงเด็กหนุ่มก็เห็นคุณตำรวจใหญ่นั่งนิ่งหัวยุ่งเหยิงอยู่บนเตียง ก่อนจะหาวปากกว้างออกมาพร้อมยื่นสองมือมาทางเขา...

“มีอะไร...” เด็กหนุ่มถามเสียงออกขุ่น

“เมียหาย เลยตื่นเลย...” คำตอบกำกวมจึงได้รับมะเหงกไปทานแทนปาท่องโก๋เสียทีหนึ่ง

“ไปอาบน้ำไปคุณ...เดี๋ยวผมจะแฮคกล้องรอ...” เอื้องผึ้งบอกพร้อมโยนผ้าขนหนูให้ แต่คนโดนไล่ไปอาบน้ำกลับทำหน้างงงวยใส่แล้วมองตามร่างเพรียวที่อุ้ยอ้ายเพราะท้องโตๆไปเปิดตู้เสื้อผ้า ก่อนจะสอดตัวเองเข้าไปนั่งในนั้นได้อย่างพอดี

“เฮ้ย...เข้ามาซุ่มทำเอาไว้เมื่อไหร่เนี่ย...” นายตำรวจหนุ่มอุทานอย่างแปลกใจ ก่อนจะนั่งยองๆลงที่หน้าตู้ มองภายในตู้เสื้อผ้าที่ด้านบนก็มีเสื้อผ้าแขวนไว้ แต่ด้านล่างที่พื้นตู้ กลับมาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอะไรต่อมีอะไรอยู่เต็มไปหมด

“เมื่อคืนไงตอนคุณอาบน้ำ” เด็กหนุ่มตอบ มือก็ระรัวพิมพ์อะไรก็ไม่รู้ลงไปในหน้าต่างดำๆบนหน้าจอคอม วายุประเมินอายุของตัวคอมพิวเตอร์ด้านนอกแล้วคาดว่าไม่น่าจะต่ำกว่าห้าปี แต่ทำไมโปรแกรมบนเครื่องถึงล้ำสมัยและความเร็วของโปรแกรมถึงรันเร็วจี๋แบบนี้เนี่ย

“แล้วนี่กำลังจะทำอะไร...” วายุถาม ยอมรับว่าตัวเองนั่นโง่เทคโนโลยีเอามากๆ ที่ถนัดคือใช้งานเฉพาะเทคโนโลยีที่ตำรวจเขาต้องใช้กัน แต่อะไรแบบนี้นี่เขาบอกเลย...ไม่เคยคิดแม้แต่จะไปยุ่ง

“ก็กำลังเจาะเข้าไปที่ฐานข้อมูลของกล้องวงจรปิดของบ้านนี้ไง งานเสี่ยงไปหน่อย แต่ได้ผลกว่าเราสองคนจะเอากล้องจิ๋วไปติดเอง บ้านแบบนี้นี่นะ กล้องวงจรปิดคงไม่ต่ำกว่าสามสิบตัว ผมจะเจาะออกมาให้คุณดูทุกกล้องเลย...รอแป๊บ” พูดแล้วคนพูดก็แลบลิ้นออกมาคาบไว้ที่ปากน้อยๆ วายุเคยเห็นเด็กหนุ่มทำท่านี้มาก่อนตอนเวลากำลังหมกหมุ่นกับหน้าจอคอมหรืออะไรซักอย่าง...สงสัยคงเป็นท่าประจำ

“โห...ถึงจะอ้างว่าบ้านใหม่ แต่ทำไมถึงใช้ระบบกล้องธรรมดาเงี้ย...อ่ะ ได้แล้วคุณอยากดูมั้ย”

“เฮ้ย...เสร็จแล้วเหรอ ทำไมเร็วจัง” วายุเอ่ย นึกทึ่งกับความสามารถของคนตัวเล็ก มิน่าล่ะ พวกที่หน่วยถึงบอกว่ามีเอื้องผึ้งคนเดียวก็หายห่วง

“อือ...ตอนแรกนึกว่าจะยุ่งยากกว่านี้เสียอีก อ่ะนี่คุณดูนี่นะ...ถ้าคุณกดปุ่มนี้ มันจะโชว์ภาพกล้องที่ติดอยู่ชั้นสองทั้งหมด ส่วนปุ่มนี้คือขยายภาพ อยากเห็นกล้องไหนใหญ่ๆก็กดเลือกเอา ส่วนอันนี้คือปุ่มกดกลับไปที่เดิม...”

   วายุฟังคนที่พล่ามสอนไปเรื่อยๆอย่างรู้สึกเพลิน ใบหน้าขยับเข้าไปหาคนอาบน้ำแล้วใกล้ขึ้นเรื่อยๆแบบไม่รู้ตัว พอเอื้องผึ้งหันมาอีกทีจึงเจอกับใบหน้ารกหนวดอยู่ห่างไปแค่คืบ และในจังหวะที่เด็กหนุ่มกำลังอึ้งงันและงงงวยกับภาพระยะประชิดนั่นเอง วายุก็แอบลอบโจมตีปากหวานไปได้อีกหนึ่งครั้ง

“เฮ้ยนี่!!”

“อ๊ะๆ เอามือลง...ถ้าตบผมไม่ทำแค่จูบจริงๆนะเอ้า”

 “ก็เอาซี่ ถ้าคุณทำผมจะร้องให้คนช่วย”

“ใครมันจะมาช่วย เรื่องของผัวเมียไม่มีใครเขาอยากแส่หรอก” วายุเอ่ยอย่างเป็นต่อ พอใจนักกับใบหน้าแดงก่ำซับสีเลือดอย่างน่ารัก

“คนวิปริต...หน้าไม่อาย จูบมาได้ผู้ชายด้วยกันแท้ๆ” เอื้องผึ้งว่าพลางก็เอามือมาถูปากตัวเองพลาง แต่วายุก็บ่ยั่นตอกกลับแบบนิ่มๆ

“แต่คนที่หน้าแดง เขินอายเพราะโดนคนวิปริตจูบเอาเนี่ย...ต้องเรียกว่ายิ่งกว่าหน้าไม่อายใช่มั้ย”

   จบคำคนโดนหาว่ายิ่งกว่าไม่อายก็ฟาดผั๊วะเข้ามาที่ปากนายตำรวจหนุ่ม วายุที่หลบไม่ทันเลยได้อานิสงส์ปากแตกเป็นเพื่อนเอื้องผึ้งที่ปากบวม

   สรุปว่าเช้าวันนั้นเอื้องผึ้งก็โดนพี่แว๋วมองอย่างล้อเลียน ที่เห็นปากของพวกเขามีอันเป็นไปเหมือนกันทั้งคู่เรียบร้อย



   หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปไวเหมือนโกหก เอื้องผึ้งยังคงทำหน้าที่ดูแลงานจิปาถะเล็กๆน้อยๆควบตำแหน่งคนครัวทำอาหารตะวันตกให้คุณเจ้านายของบ้านไปด้วย ซึ่งเอื้องผึ้งก็ทำได้ดี จนได้รับความไว้วางใจให้เข้าไปเสิร์ฟอาหารในห้องนอนส่วนตัวของบรรดาเหล่าเจ้านายได้ในกรณีที่ถูกเรียกใช้ ซึ่งนั่นก็เป็นโอกาสดีที่เด็กหนุ่มใช้ในการติดตั้งเครื่องอัดเสียงขนาดจิ๋วไว้ในห้องที่ไม่มีกล้องวงจรปิด ซึ่งแน่นอนว่าทุกคำพูดที่ได้ยินและรับรู้นั้นจะถูกเก็บบันทึก และส่งไฟล์กลับไปให้ศูนย์บัญชาการตำรวจตรวจสอบอีกครั้งแบบวันต่อวัน

   ส่วนวายุนั้นใช้โอกาสในการเป็นคนสวนตรวจสอบหาลู่ทางเข้าออกและที่ทางอาคารอื่นๆ พร้อมทั้งห้องลับหรืออะไรพวกนั้นที่จะมีประโยชน์ในการบุกเข้าจับกุมในอนาคต ทว่าจนแล้วจนรอดวายุก็ได้เพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ส่วนข้อมูลเชิงลึกเช่นพวกวัน เวลา สถานที่ในการขนของนั้นวายุก็ยังไม่สามารถหาทางล่วงรู้ได้เสียที

   วันหนึ่งขณะที่เอื้องผึ้งกำลังใช้กรรไกรตัดกิ่งกุหลาบทีปลูกไว้ในสวนเพื่อจะนำไปปักแจกัน ก็มีชายรูปร่างสูงใหญ่ประมาณสี่ห้าคนทำท่าเดินเข้ามาจะลวนลาม เด็กหนุ่มมองเห็นแล้วอยากจะตั๊นหน้าพวกมันนัก แต่ติดที่ว่าตอนนี้ตัวเองต้องแอ๊บเนียนเป็นผู้หญิงแถมท้องอีกต่างหาก เอื้อวผึ้งเลยได้แต่แหกปากเรียกหาความช่วยเหลือจากใครซักคนที่อาจจะผ่านมาก็ได้

“เฮ้ย! พวกมึงจะทำอะไรเมียกู!!! ปล่อยนะเว้ย!!!” จู่ๆเสียงสวรรค์ฟ้าประทานของพ่อเจ้าประคุณทูนหัววายุก็ดังเข้ามาใกล้ เอื้องผึ้งแทบน้ำตาไหลเมื่อได้เห็นสามีแค่ในนามกระโดดเข้ามาขวาง แล้วกระโดดถีบคนที่กำลังจะลวนลามเขาที่แก้มออกไปเสียไกล

“ไอ้หนุ่ม!! มึงคิดว่ามึงแน่มาจากไหนวะ! พวกกูน่ะบอดี้การ์ดของนายท่านใหญ่นะโว้ย...” หนึ่งในสี่ห้าคนที่ไม่โดนลูกถีบของวายุเอ่ยขึ้นพร้อมชี้หน้าคนกระโดดเข้ามาขวาง แต่วายุก็ตีบทแตกกระจุยคว้าร่างเมียที่เอามือกุมท้องร้องโอดโอยมาซ่อนไว้ข้างหลัง เอื้องผึ้งก็รับบทบาทเกาะแขนคนตัวโตกว่าพลางร้อง ‘ผัวจ๋า ช่วยด้วย’ เสียงกระเส่าปนสะอื้น

“มึงเป็นใคร ใหญ่มาจากไหนกูไม่สน...แต่ถ้าใครมาแหยมเมียกู กูไม่เอาไว้แน่...!” วายุประกาศกึกก้อง

   สี่ห้าหนุ่มร่างใหญ่หักนิ้วมือดังกรอบแกรบ แถมเพิ่งอาการเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกันใหญ่พลางพึมพำกันว่า ‘วอนเสียแล้วๆ’ ราวนักร้องประสานเสียง วายุสั่งเอื้องผึ้งให้ถอยไปไกลๆ ก่อนที่ตัวเองจะตั้งถ้ามวยวัดเตรียมพร้อม บอดี้การ์ดร่างใหญ่คนแรกกระโจนพุ่งเข้ามาต่อย วายุหลบพ้นได้อย่างง่ายดายพร้อมรับลูกเตะของคนที่สองไปด้วย คนที่สามยกขาขึ้นกะจะจระเข้ฟาดหางใส่เขา ทว่าวายุก็หลบมันพ้นพร้อมมอบหนุมานถวายแหวนให้ซ้ำอย่างสวยงามตามกระบวนท่าดั้งเดิมเป๊ะๆ คนที่ห้าเมื่อเห็นว่าเพื่อนทั้งสี่คนโดนวายุซัดเสียหมอบ ก็เริ่มนึกหาอาวุธอย่างอื่นเพื่อนำมาประหัตประหารแบบไร้จรรยาบรรณ มันคว้ามีดพกออกมาสบัดปลายเปิด แกว่งไปแกว่งมากะให้ชายหนุ่มที่ร่างสูงใหญ่หุ่นดีตรงหน้าหวาดกลัว ทว่าสายตาวายุกลับไม่มีท่าทางหวาดหวั่นแม้แต่นิด กลับเริ่มเป็นฝ่ายกระโจนเข้าหาเขาแบบไม่กลัวตายอีกต่างหาก

   เอื้องผึ้งมองวายุที่ซัดกับชายหนุ่มห้าคนอย่างไม่กลัวเกรงแล้วก็แสร้งร้องหวีดวี๊ดว้ายออกไปตามเรื่อง ยิ่งพอวายุยื่นแขนไปให้ปลายมีดเฉี่ยวใส่เอาเล็กน้อยเด็กหนุ่มก็ยิ่งกรีดร้องเรียก ‘พี่ลม!!’ ดังลั่น และในขณะที่เด็กหนุ่มกำลังตัดสินใจว่าจะกระโดดเข้าไปร่วมตะลุมบอนด้วยดี หรือจะตะโกนบอกว่าตำรวจมาเหมือนในละครดี ก็มีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด...

   ‘ปัง!’

   พร้อมกับชายหนุ่มในชุดสูทสีดำสนิททั้งชุดคนหนึ่งที่เดินเข้ามาแล้วบอกว่า ‘บอสสั่งให้หยุด!’

   เพียงเท่านั้น กลุ่มนักตะลุมบอนที่กำลังเมามันส์กับการแลกหมัดกันอยู่ถึงกับหยุดชะงัก หนุ่มบอดี้การ์ดทั้งสี่ห้าคนรีบลุกขึ้นยืนตัวตรง ตั้งแถวหน้ากระดานเอามือกุมเป้าก้มหน้าชิดอกแบบสลดๆตามเสต็ป เอื้องผึ้งจึงรีบวิ่งไปหาวายุแล้วประสานมือแข็งแรงเอาไว้แน่น

“มาทะเลาะกันในบ้านแบบนี้คิดว่าบอสจะชอบใจมั้ย” ชายในแว่นดำที่เป็นคนยุติเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทเอ่ยขึ้นมาเสียงเยียบเย็น เอื้องผึ้งมองแล้วท่าทางจะเป็นผู้มีอิทธิพลน่าดู เด็กหนุ่มแอบเอื้อมมือไปขยับกระดุมที่ติดอยู่เหนือบริเวณท้องที่โป่งนูนเพื่อให้จับภาพใบหน้าของผู้มาใหม่ชัดๆ กล้องขนาดจิ๋วที่มีการดัดแปลงเล็กน้อยเพื่อการใช้งานที่สะดวกและได้ประสิทธิภาพสูงสุดคงจะให้ภาพแบบชัดเจน คืนนี้เอื้องผึ้งจะได้เอาไว้ไปสืบดูอีกทีว่าไอ้หมอนี่มันเป็นใคร

“พวกผมขอโทษครับนายน้อย!!” ห้าเสียงตอบกลับพร้อมเพรียงและยืนสลดอยู่ที่เดิมเพียงแค่โดนเสียงดุ ชายในแว่นดำไม่พูดอะไรต่อนอกจากพยับเพยิดหน้าว่าให้ทั้งห้าคนนั้นตามเขากลับขึ้นไปบนตึก

   เอื้องผึ้งพอเห็นว่ากลุ่มคนทั้งหมดเริ่มที่จะกระจายตัวออกไปแล้วจึงรีบเข้าไปประคองท่อนแขนใหญ่ของวายุขึ้นมาดูแผล เด็กหนุ่มช้อนตามองอีกฝ่ายแล้วถามเสียงเบาว่าเจ็บมั้ย แต่คนตัวใหญ่กลับส่ายหน้าให้ก่อนจะยิ้มให้บางเบา และในตอนที่เอื้องผึ้งกำลังจะประคองตัววายุกลับไปที่ห้อง เสียงของผู้ชายใส่แว่นดำที่ถูกเรียกว่า ‘นายน้อย’ ก็ดังขึ้น

“นายด้วย...ทำแผลเสร็จแล้วตามไปพบฉันที่ห้องบอส ฉันคิดว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน...”

------------------------------   - -  -  ---  -         --            -     -         --       -           -

to be continue...

เปลี่ยนวันที่ให้แล้วนะจ๊ะ  :katai2-1:แล้วเจอกันอีกทีปีหน้านะ จุ๊บุ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 31-12-2013 14:29:40
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: atitayalnw ที่ 31-12-2013 14:40:23
อ๊ากกกกกค้างอ่ะ :m31:
ต่อไปนายน้อยนี้จะมีบทป่ะเนี้ย
หวังว่าผึ้งจะรอดปลอดภัย นี้ขนาดมาในคราบคนท้อง
มันยังลวนลามกันได้ พวกแกเป็นคนกันป่าวเนี้ย โอ๊ยพี่วายุจัดการมัน!!!
สุขสันต์วันปีใหม่น่ะค่ะ ขอให้พี่มีความสุข สุขภาพแข็งแรง
แล้วแต่งนิยายดีๆมาให้อ่านเยอะๆน้าาาา  :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 31-12-2013 14:55:16
 :mc4: HAPPY NEW YEAR 2014   :mc4:
+1
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 31-12-2013 15:29:43
ว้าวๆ หรือว่านายน้อยจะให้พี่ลมเป็นการ์ดส่วนตัว
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 31-12-2013 16:16:45
ฝีมือต่อสู้คุณสามีคงไปเข้าตานายน้อยเสียแล้วสิ
บางช่วงสับสนชื่อกับอีกเรื่องหรือปล่าวคนเขียน น่าจะเป็นผึ้งนะ ไม่ใช่บัว

“มาทะเลาะกันในบ้านแบบนี้คิดว่าบอสจะชอบใจมั้ย” ชายในแว่นดำที่เป็นคนยุติเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทเอ่ยขึ้นมาเสียงเยียบเย็น บัวมองแล้วท่าทางจะเป็นผู้มีอิทธิพลน่าดู บัวแอบเอื้อมมือไปขยับกระดุมที่ติดอยู่เหนือบริเวณท้องที่โป่งนูนเพื่อให้จับภาพใบหน้าของผู้มาใหม่ชัดๆ กล้องขนาดจิ๋วที่มีการดัดแปลงเล็กน้อยเพื่อการใช้งานที่สะดวกและได้ประสิทธิภาพสูงสุดคงจะให้ภาพกับบัวแบบชัดเจน คืนนี้บัวจะได้เอาไว้ไปสืบดูอีกทีว่าไอ้หมอนี่มันเป็นใคร
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 31-12-2013 16:33:59
คนแต่งคงจะสับสนเอาบัวมาอยู่ด้วย

เมียข้าใครอย่าแตะ เดี๋ยวโดนตีนพี่ลมขอบอก

หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 31-12-2013 17:46:15
“บัวมองแล้วท่าทางจะเป็นผู้มีอิทธิพลน่าดู บัวแอบเอื้อมมือไปขยับกระดุมที่ติดอยู่เหนือบริเวณท้องที่โป่งนูนเพื่อให้จับภาพใบหน้าของผู้มาใหม่ชัดๆ กล้องขนาดจิ๋วที่มีการดัดแปลงเล็กน้อยเพื่อการใช้งานที่สะดวกและได้ประสิทธิภาพสูงสุดคงจะให้ภาพกับบัวแบบชัดเจน คืนนี้บัวจะได้เอาไว้ไปสืบดูอีกทีว่าไอ้หมอนี่มันเป็นใคร”

บัวไหนคะ55555555555555555555  สับสนเน้อ   :really2:

เข้มข้น นายน้อยนี่ใคร รอๆๆๆ  ควิกลี่ๆ :z10:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 31-12-2013 18:12:20
คนแต่งฟิตมากกกกกอัพบ๊อยบ่อย55555555555 ขอบคุณมากๆค่ะ
อัพบ่อยแน่ๆเลยถึงเอาครูบัวมาเอี่ยว5555555555555

ทำไมคู่ผัวเมียคู่นี้ตีบทแตกจังเลยยยยย
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 31-12-2013 20:59:37
น้องผึ้ง เก๊งเก่งอ่ะ มืออาชีพจริง ๆ แป๊บเดียวแฮคข้อมูลได้ล่ะ ยอดเลย แต่พี่วายุนี่นะ
น้องตั้งอกตั้งใจอธิบาย ยังจะมาฉวยโอกาสกับน้องอีกนะ จุ๊บ ๆ อีกละ :m3: แต่เราชอบล่ะ อิอิ
แหม่ หลงเสน่ห์น้องผึ้งเข้าไปเต็ม ๆ แล้วอ่ะดิ แต่ยังไม่วายปากดีเรื่อยเลยนะ พี่ลมเอ้ย 
แล้วนี่ขนาดน้องผึ้ง ปลอมมาเป็นคนมีสามีแล้ว แถมท้องอยู่ด้วย ยังจะโดนลวนลามอีกนะ
คนพวกนี้แย่จริง ๆ พี่ลมของเรา เลยได้เป็นฮีโร่ช่วยเมียตัวเองซะ อย่างเท่ห์เลย 
ว่าแต่ นายน้อยนี่เป็นใครเนี่ย ถึงจะเข้ามาช่วย แต่ก็ยังไม่น่าไว้ใจ แถมยังไม่ใหญ่สุดนินะ
มี บอส ที่ใหญ่ที่สุดในบ้านใช่มั้ย แต่ว่า เรียกพี่วายุไปพบทำไมเนี่ย หรือว่าจะเริ่มสงสัยแล้ว
รึว่าจะเห็นพี่วายุฝีมือดี จะจับไปเป็นบอดี้การ์ดให้บอสซะอีกคนล่ะมั้งเนี่ย (เดาไปเรื่อย)
รอตอนต่อไปจ้า ขอบคุณคนเขียนค่ะ  :L2:
ปล. มีครูบัวของนายเหมืองสิงห์มารับเชิญในนี้ด้วยเหรอจ้ะเนี่ย 555
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 01-01-2014 01:23:04
มีบัว เต็มเลยค่ะ



เอี้ยงผึ้งท้องโย้ยังไม่วายเสน่ห์แรง แมลงวันตอมให้ควักก จะซวยไหมละคราวนี้
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: dek-zaal3 ที่ 01-01-2014 05:26:45
ฝีมือต่อสู้คุณสามีคงไปเข้าตานายน้อยเสียแล้วสิ
บางช่วงสับสนชื่อกับอีกเรื่องหรือปล่าวคนเขียน น่าจะเป็นผึ้งนะ ไม่ใช่บัว

“มาทะเลาะกันในบ้านแบบนี้คิดว่าบอสจะชอบใจมั้ย” ชายในแว่นดำที่เป็นคนยุติเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทเอ่ยขึ้นมาเสียงเยียบเย็น บัวมองแล้วท่าทางจะเป็นผู้มีอิทธิพลน่าดู บัวแอบเอื้อมมือไปขยับกระดุมที่ติดอยู่เหนือบริเวณท้องที่โป่งนูนเพื่อให้จับภาพใบหน้าของผู้มาใหม่ชัดๆ กล้องขนาดจิ๋วที่มีการดัดแปลงเล็กน้อยเพื่อการใช้งานที่สะดวกและได้ประสิทธิภาพสูงสุดคงจะให้ภาพกับบัวแบบชัดเจน คืนนี้บัวจะได้เอาไว้ไปสืบดูอีกทีว่าไอ้หมอนี่มันเป็นใคร

โอ๊ะ !!! จริงๆด้วย ยำน้องบัวกันซะเละเลย ห้าาาา อย่าถือคนเป็นหวัดอย่าว่าคนท้องเสียเลยนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณมากนะคะ ^_^ สวัสดีปีใหม่ด้วยค่าาา
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 01-01-2014 05:35:48
งานจะงอกรึเปล่าเนี่ยย
อีนายน้อยนี่จะมาไม้ไหน ไม่ใช่เดี๋ยวแม่งมาชอบผึ้งอีกก
เจ็บเลย
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: 7th SensE ที่ 01-01-2014 10:53:50
มารอค่ะ เอาใจช่วยทั้งสองคนให้ทำภาระกิจสำเร็จ ว่าแต่โดนเรียกไปทำไมหว่า
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 01-01-2014 11:45:52
สวัสดีปีใหม่ค่าาาาา มีความสุข เฮง ๆ รวย ๆ กันทุกคนเลย

ว่ากันเรื่องนิยาย นู๋ผึ้งของเจ้ โดนขโมยจุ๊บอีกแย้ววววว

55555
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 01-01-2014 15:28:55
เข้ามารอติดตามน้องเอื้องผึ้ง (ชื่อหวานมากๆ) กะ พี่วายุด้วยคนจ้า
น้องผึ้งน่ารักจัง ดูซิพอเริ่มภารกิจปั๊บก็โดนพี่วายุขโมยจูบแรกไปซะแล้ว
แล้วอาการห่วงเมียเนี่ย พี่วายุสมบทบาทมาก ๆ ดูแล้วน่าจะเข้าวงการบันเทิงทั้งคู่เลยก็ดีนะ
ส่วนตอนนี้ท่าทางฝีมือพี่วายุจะเข้าตานายน้อยซะละมั่ง รอ รอ เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนจ้า  :pig4: :L2:
ปล. สวัสดีปีใหม่ค๊า ขอให้ผู้เขียนมีความสุขมาก ๆ นะคะ 
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: hongzaa ที่ 07-01-2014 00:22:47
ชอบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: Vavaviz ที่ 07-01-2014 10:18:46
ขนาดท้องยังมีคนลวนลาม....

ผึ้งเอ้ยยย -3-
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 13-01-2014 21:57:32
อ๊ากกกก ค้างงงง
ไอ้บอสมันจะคุยอะไรกะคุณผู้กองเนี้ย
น้องผึ้งก็แสดงได้สมบทบาทมาก 555
บ้านหลังนี้ชั่วตั้งแต่เจ้านายจนถึงลูกน้องเลยนะ
แม้แต่คนท้องมันก็เอา :m16:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 13-01-2014 22:43:57
อ่าว โดนเรียกซะแล้ว
สงสัยเห็นฝีมือดีละมั้ง 55555
ขนาดผึ้งท้องยังจะโดนลวนลาม
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 24-01-2014 03:32:43
 :oni3: จงมาๆๆ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 24-01-2014 05:59:17
พี่ลมโชว์ฝีมือซะ เมียข้าใครอย่าแตะสิน่ะ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 24-01-2014 16:43:10
 :กอด1: เดาว่าชอบฝีมือลมแหงมๆ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: hongzaa ที่ 26-03-2014 17:30:09
นอกจากรอครูบัว
เค้าก็รอน้องผึ้งเหมือนกันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: armlporsch ที่ 27-04-2014 18:17:28
รู้สึกว่าพี่ลมเล่นบทผัวเมียกับน้องผึ้งเนียนเหมือนจริงเลย
แถมตอนนี้พี่ลมเองเหมือนจะเริ่มหวั่นไหวซะแล้ว
พอได้ชิมปากจิ้มลิ้มของน้องผึ้งก็ติดอกติดใจกับรสหอมหวานนั่น
อย่าลืมนะพี่ลมมันเป็นงานนะ  ท่องเอาไว้
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: Minnie~Moo ที่ 06-08-2014 11:57:53
หายไปนานแล้วน๊าาาาาา  :sad4: :sad4:

เค้ายังรอน้องผึ้งอยู่นะจ๊ะ  :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 25-08-2014 15:27:46
โอ๊ย!ชอบๆ

มาอัพต่อนะจะรออออออออออ

 :hao7:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: dek-zaal3 ที่ 18-02-2015 21:18:20
มาอัพกันเหนียว เดี๋ยวกระทู้โดนหิ้ววว  อิอิ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 13-06-2018 14:07:10
 :o12: แง้ ทำไมเพิ่งมาเจอ มาจิ้มไว้ค่ะ

คุณผู้แต่งสนใจจะมาแต่งต่อหรือยังคะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๑ [22/09/2013]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 14-06-2018 17:20:39
กรี๊ดๆๆ ชอบ :impress2:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๔ [12/11/2013] pg.3
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 14-06-2018 17:51:54
 :laugh: ฮาอ่ะ ชอบๆ แต่ว่านะเป็นห่วงผึ้งจัง ต่อให้มีวายุไปด้วยก็เถอะ
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๖ [12/23/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 14-06-2018 18:10:39
ว้ายตายแล้ว เขิลลล  :hao7: :impress2:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 14-06-2018 18:16:53
แง้ ค้างงงง จะไม่มาต่อจริงๆหรอคะ ฮือ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 13-11-2018 15:53:45
คิดถึงนะคะ  :monkeysad: