Crime and Love Scene Investigation
๘๖. Accountable for
“หมอว่า มันไม่น่าจะผิดไปจากที่หมอคาดเอาไว้นะ เคสนี้” ด็อคเตอร์ดรุณีพูดขึ้น โดยมีชนธัญมองตามสายตาของด็อคเตอร์สาวไปยังผู้ชายสองคนที่นั่งอยู่ด้วยกัน โดยที่คนหนึ่งกำลังกรอกเอกสารยินยอมการเก็บผลการตรวจดีเอ็นเอ เพื่อทำการยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ว่าตัวเองไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับเด็กที่ยังไม่ลืมตามาดูโลก
“ฟังดูแล้ว เหมือนกับเขาเป็นผู้ชายที่ใจร้ายเลยนะครับ” ชนธัญหันมาสบตากับด็อคดุ โดยที่ด็อคเตอร์สาวถอนหายใจแรง ๆ ออกมา “ใช่เลยนะหมอว่า” ด็อคดุตอบอีกฝ่ายไป “ถ้าเราไม่ได้ฟังเรื่องทั้งหมด ไม่ได้รู้ความเป็นมาเป็นไป ว่าเรื่องจริง ๆ แล้ว มันเป็นยังไงกันแน่” ชนธัญได้ยินแบบนั้น ก็พอจะทำความเข้าใจได้ในทันที
“มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ แต่ก็เข้าใจได้” ชนธัญมองไปที่คิรินที่ยื่นเอกสารที่เซ็นรับรองทั้งหมดให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้ทำการเก็บตัวอย่างที่ใช้ในการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีซอโซ่นั่งอยู่ด้วย เพราะคิรินยืนยันกับทุกคนว่า ซอโซ่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเรื่องที่เขาตัดสินใจหย่าขาดกับอารียา
“คุณคิรินเขายื่นต่อศาลขอผลการตรวจชันสูตรศพของเต้ เด็กหนุ่มที่เสียชีวิต ทั้งเรื่องสาเหตุการเสียชีวิต รวมถึงเรื่องที่ตรวจพบรอยแปลกปลอมที่ข้อพับแขน” ด็อคเตอร์ดรุณีอธิบายถึงขั้นตอนที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ “หมอคาดเอาไว้แล้วล่ะ ว่ารอยเจาะสอดท่อพลาสติกที่แขนของเต้ ถูกใช้เพื่อบิดเบือนผลตรวจตั้งแต่แรก ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต” ชนธัญมองดูคิรินสวมกอดซอโซ่จนแน่น
“รอยเจาะสอดท่อเป็นรอยเก่า ที่เต้เพิ่งใส่ท่อกลับเข้าไปที่เดิมก่อนที่จะเสียชีวิต คาดว่าจะเป็นวันเดียวกัน ท่อนั้นก็คงใช้วิธีการเติมเลือดของคนอื่นที่ไม่ใช่ของเต้ ฉีดเข้าไปก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่จากแล็บเอกชนแห่งนั้น เจาะเลือดไปตรวจ และก็คงไม่พ้น เป็นเจ้าหน้าที่ที่ยอมจำนนต่อเงินก้อนมหาศาลที่ถูกเอามาล่อต่อล่อใจ ผลแล็บที่ตรวจก่อนหน้านี้ทั้งที่ตรวจยืนยันแล้ว จึงออกมาบอกว่า เต้ไม่ใช่พ่อที่แท้จริงอย่างที่คุณคิรินสงสัย” ชนธัญนึกไปถึงหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์ ที่ผู้เป็นพ่อและตัวเธอ ตัดสินใจทำอะไรแบบนั้นลงไป
“สารวัตรัฐนนท์สั่งการให้หน่วยสืบสวน นำกำลังไปคุมตัวเจ้าหน้าที่แล็บคนนั้นแล้ว อีกไม่นานคงได้เรื่อง” ด็อคเตอร์ดุพูดยังไม่ขาดคำ ชนธัญก็เห็นสารวัตรหนุ่มหล่อ เดินเข้ามา ก่อนจะพยักหน้าให้ชนธัญและด็อคเตอร์ดรุณีรับทราบว่า ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้ว่าเจ้าหน้าที่แล็บจะยังคงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาก็ตาม
“แล้วคุณอารียาจะเป็นยังไงต่อไปครับหมอ” ชนธัญถามด็อคเตอร์สาวออกไป ทางฝ่ายแพทย์สาวเลิกคิ้วทั้งสองข้างขึ้น ก่อนจะผ่อนลมหายใจหนัก ๆ ออกมาอีกครั้ง “ตอนนี้ทำได้แค่เก็บตัวอย่างภายนอกร่างกาย เช่นเส้นผม น้ำลาย ได้เท่านั้น ส่วนตัวอย่างเลือดคงต้องรอให้เธอคลอดเด็กออกมาเสียก่อน เพื่อป้องกันอันตรายทั้งตัวแม่และเด็ก” ด็อคเตอร์ดุอธิบายรายละเอียด
“แล้วตัวเด็กเอง ก็คงต้องรอคำสั่งศาล ว่าจะสามารถเริ่มกระบวนการตรวจได้เมื่อไหร่ กว่าจะรู้ผลกันจริง ๆ ก็คงจะเป็นปี ๆ แต่ถ้าจะถามเรื่องหลังจากคลอดแล้ว เด็กจะเป็นยังไง ก็คงต้องให้อยู่กับทางญาติของผู้เป็นแม่ แต่นั่นคงจะหลังจากที่เด็กหย่านมแล้ว สภาพหลังคลอดจนถึงวันนั้นในเรือนจำคงไม่น่าดูเท่าไรนัก” จากหลักฐานทางนิติเวชที่ทางอารียาหาข้อแก้ต่างมาหักล้างไม่ได้ เธอจึงถูกควบคุมตัวเอาไว้สืบสวนก่อน โดยที่ทางบิดาของเธอ ก็กำลังวิ่งเต้นกับหน่วยงานใหญ่ ๆ วุ่นวายไปหมด แต่กับกรณีนี้ที่เป็นข่าวสะเทือนขวัญไปทั่วประเทศ อะไร ๆ ก็คงไม่ง่ายดังใจนัก
“เต้เองก็ต้องได้รับความยุติธรรมเช่นกัน ไม่ว่าเขาจะช่วยทางครอบครัวของคุณอารียาเรื่องการตรวจเลือดไปด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่เขาเป็นถือผู้เสียหายคนหนึ่งเช่นกัน ที่ต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้” เมื่อด็อคดุพูดจบ ก็มีเสียงของคิรินดังถามขึ้นมา “จะเป็นไปได้มั้ยครับ ถ้าผมกับโซ่จะขอเข้าไปคุยกับอารียาสักครู่” สารวัตรรัฐนนท์เดินเข้ามาสมทบพอดีกับที่ได้ยินคำถามของคิริน
“เราไม่สามารถให้พวกคุณคุยกันตามลำพังได้นะครับ อีกอย่าง ผมไม่อยากให้เกิดการปะทะคารมหรือด่าทอกัน เพราะตอนนี้มันมีคดีความที่เกี่ยวพันต่อเนื่องกันอยู่” สารวัตรรัฐนนท์บอกไปตามจริง รวมถึงพูดปรามเหตุการณ์เอาไว้ก่อน ว่าทุกคนจะต้องไม่ใช้อารมณ์ทุ่มเถียงกัน ไม่ว่าจะเรื่องอะไร “ผมรับรองครับ ว่าจะไม่มีอะไรแบบนั้นเกิดขึ้นแน่นอน” คิรินพูดรับรองกับสารวัตรหนุ่มหล่อ ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“ถ้าจะเข้ามาเพื่อซ้ำเติมกันล่ะก็ อย่าเสียเวลาดีกว่า ฉันไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น” ทันทีที่อารียาเห็นว่าเป็นใครที่เดินเข้ามาในห้องสืบสวนสอบสวน เธอก็เอ่ยออกไปในทันที ยิ่งเห็นว่าคิรินไม่ได้เข้ามาเพียงลำพังด้วยแล้ว หญิงสาวรีบเบือนหน้าไปอีกทาง เมื่อซอโซ่ตามคิรินมานั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามโต๊ะ โดยที่มีสารวัตรรัฐนนท์เดินเงียบ ๆ ไปยืนอยู่มุมห้อง คอยสังเกตการณ์
“ผมไม่ได้จะเข้ามาพูดจาซ้ำเติมอะไรคุณหรอกนะ อารียา” เจ้าของชื่อพ่นลมหายใจออกมาอย่างขุ่นเคือง “ที่พากันจูงมือมากันทั้งคู่แบบนี้เนี่ยนะ ถ้าไม่ใช่จะมาเยาะเย้ยว่าฉันเป็นฝ่ายแพ้ แล้วมันจะหมายความเป็นอย่างอื่นอะไรไปได้” น้ำเสียงของอารียายังไม่สามารถระงับทั้งความโกรธ ความเสียใจลงได้ จากที่เคยเรียกตัวเองอย่างน่ารักว่ารียา มาตอนนี้ มันเหลือแต่สรรพนามที่แสดงความเหินห่าง แปลกหน้าต่อกันเท่านั้น
“เราก็แพ้กันทั้งหมดนี่แหละ ผมก็ไม่เห็นว่าใครจะมีความสุขกันสักคน ทั้งตัวคุณ ตัวผม หรือแม้แต่โซ่เอง” ซอโซ่มองไปที่อารียาด้วยสายตาที่แสดงความห่วงใยออกไป ว่าเขาเองก็มาหาด้วยความเป็นมิตรที่ตั้งเอาไว้ในใจ “สมใจคุณสองคนแล้ว จะพูดอะไรก็ได้แล้วนี่” อารียาพูดด้วยน้ำเสียงที่เจ็บช้ำ ที่ต้องทนกล้ำกลืนมันลงไป
“มันผิดที่ผมเอง ผมไม่ควรตอบตกลงแต่งงานกับคุณตั้งแต่แรก” คิรินพูดอย่างคนที่รู้สึกตัว ว่าเขาเองได้ทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง “ผมอยากขอโทษคุณด้วยเช่นกัน ถ้าวันนั้นผมจะยืนกรานตามเรื่องที่ผมเล่าให้คุณฟัง ว่าซอโซ่เป็นใคร แล้วทำไมผมถึงได้ตามหาเขา แม้ว่าคุณจะคิดว่าทั้งหมดมันเป็นข้ออ้างที่จะไม่ยอมแต่งงานกับคุณก็ตาม” คิรินพรั่งพรูคำพูดที่อยู่ในใจออกมา
“ผมควรจะหนักแน่นกับความรู้สึกของตัวเอง และไม่ควรทำให้คุณต้องมีชีวิตที่แย่แบบนี้ ต่อให้คุณจะไม่เชื่อเรื่องที่ผมเล่าเกี่ยวกับซอโซ่ก็ตาม” อารียาปากคอสั่นไปด้วยอารมณ์หลากหลาย เมื่อได้ยินคิรินพูดแบบนั้น “ผมขอโทษคุณจากใจ” อารียามองหน้าสามีของเธออย่างโหยหา แต่ในเวลานี้ เธอเองไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวเขาอีกต่อไป เธอรู้แล้วว่า คิรินดำเนินการฟ้องศาลเพื่อหย่าขาดจากเธอ
“ฉันมันเลวมากในสายตาของคุณสินะคะ คิริน” คำถามของอารียา ทำให้คิรินขยับตัวหันหน้าไปมองทางสารวัตรรัฐนนท์ ที่กระแอมเตือนว่า สารวัตรหนุ่มได้ให้เวลาคิรินและซอโซ่มากพอแล้ว และไม่อยากให้เกิดการทุ่มเถียงอะไรกันอีก “ที่ผมกับซอโซ่มาหาคุณ ผมอยากจะช่วยเรื่องของลูกคุณ ถ้าคุณไม่รังเกียจ ผมกับซอโซ่ยินดีรับเลี้ยงแกเอง ผมรับรองว่า แกจะดีรับการดูแลอย่างดีที่สุด แกจะไม่ลำบาก และคุณเองก็จะไม่ลำบากตอนอยู่ในนั้น” อารียามองสลับไปที่คิรินที ซอโซ่ที น้ำตาของเธอไหลลงอาบสองแก้ม
“ทีตอนแรก แกทำไมถึงไม่ยอมรับเด็กในท้องของลูกสาวฉันล่ะฮึ ทีอย่างนี้จะมาทำดีเอาหน้า จะเอาหลานของฉันไปเลี้ยงดูกับไอ้กะเทยคู่ขา แบบนี้มันหยามน้ำหน้ากันชัด ๆ” ทันทีที่พ่อของอารียาเจอหน้าคิรินกับซอโซ่ เมื่อคนทั้งคู่กำลังจะขับรถออกจากหน่วยสืบสวนสอบสวนพิเศษ ก็ตรงเข้าพูดจาฉะทั้งสองคนอย่างไม่ไว้หน้า
“ก็ก่อนหน้านี้ ลูกสาวคุณพ่อหลอกผมเรื่องผลการตรวจดีเอ็นเอ คุณพ่อคิดว่าผมควรจะทำยังไง ไม่ใช่คุณพ่อเองหรือครับที่พาลูกสาวตัวเองทำเอาต่อมิอะไร ที่เป็นผลทำให้ชีวิตเข้ารกเข้าพง จนเรื่องมันบานปลายเลยเถิดมาถึงตอนนี้ จนมีคนต้องตาย เพียงเพราะการอยากเอาชนะกัน ด้วยวิธีที่ผิด ๆ ด้วยความคิดที่ไม่สนว่าใครจะต้องเดือดร้อนยังไง” คิรินพูดด้วยความนิ่งทั้งท่าทางที่แสดงออก และความมั่นคงทางอารมณ์
“ถ้าคุณพ่อคิดว่าจะยังไม่หยุด และยังจะดันทุรังไปต่อกันแบบนี้ เราคงจะต้องสู้กันสักตั้ง แต่มันมีวิธีที่ดีกว่า ที่จะไม่ต้องเจ็บปวดกันไปมากกว่านี้ และเป็นทางออกที่ดีสำหรับทุกคน ลูกสาวคุณพ่อกำลังต้องการความช่วยเหลืออยู่นะครับ คดีฆ่าคนตายนะครับ แถมยังจะคดีปลอมแปลงเอกสาร บังคับขู่เข็ญให้คนอื่นทำความผิดอีก คุณพ่อใช้เวลานี้เอาไปคิดให้ดี ทางทนายผมจะส่งเอกสารมาให้อารียาเซ็นยินยอมในอีกหนึ่งสัปดาห์ ผมมีเรื่องจะพูดแค่นี้ครับ” คิรินพูดจบก็พาซอโซ่ขับรถออกไปจากตรงนั้นในทันที โดยไม่สนใจว่า พ่อของอารียาจะหัวฟัดหัวเหวี่ยงต่อไปแค่ไหน
อารียานั่งร้องไห้เงียบ ๆ อยู่ตามลำพัง หลังจากที่พ่อของเธอเพิ่งเดินมาโวยวายใส่เธอ ถึงความคิดไม่เข้าท่าที่หญิงสาวมี เธอนั่งลูบท้องที่โตจนใกล้ถึงวันกำหนดคลอด เธอกำลังหวาดกลัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดกับเธอขึ้นต่อไป คำว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ แวะเข้ามาทักทายเธอในห้วงความคิดอยู่บ่อยครั้ง น้ำตาของเธอในวันนี้ มีแค่เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ช่วยปาดมันทิ้ง
***********************************************
คำแปลเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ โดย KADUMPA
ไม่ผิดใช่ไหม - มาลีวัลย์ เจมิน่า
https://www.youtube.com/watch?v=mgAm4eyLjXEผิดไหม กับการที่ฉันจะรักใคร
Is it bad? That I am so in love with someone
รักใคร จนสุดชีวิตอย่างนี้
Love him so much, wholeheartedly
ทั้งที่รู้ว่าสายไป
Though it’s too late
ใจยังมั่นในรัก ยังภักดี
My heart is faithful, and loyal
และไม่เคยจะเสียใจ
I never regret it
เมื่อไม่ได้เป็นคนคนเดียว
I am not the one and only
ที่ในใจเธอ
In your heart
คนโชคดีที่สุดคนนั้น
The luckiest person there is
ก็อยากจะเป็นเพียงคนหนึ่ง
I wish I would be just one
ที่รักแต่เธอ ที่มีเพียงเธอ
That loves you, always have you
ไม่ผิดใช่ไหม
It isn’t wrong, is it?
โปรดรู้ว่าใจดวงนี้จะรักเธอ
Please know, that this heart belongs to you
รักเธอ จนชั่วดินฟ้าสลาย
Love you until the end of time
รักทั้งรู้ว่าสายไป
Still love you though it’s late
ใจยังไม่หวั่นไหว ยังรักเธอ
Nothing can change my mind, I’m in love with you
ไม่ว่าเธอจะรักใคร
Doesn’t matter who you do love
เมื่อไม่ได้เป็นคนคนเดียว
I am not the one and only
ที่ในใจเธอ
In your heart
คนโชคดีที่สุดคนนั้น
The luckiest person there is
ก็อยากจะเป็นเพียงคนหนึ่ง
I wish I would be just one
ที่รักแต่เธอ ที่มีเพียงเธอ
That loves you, always have you
ไม่ผิดใช่ไหม
It isn’t wrong, is it?
กับการที่ใครสักคนหนึ่ง
For someone who wants to
จะมีใจรักเพียงแต่เธอ
Love you and will be only you
จากนี้และตลอดไป
From now and forever
เมื่อไม่ได้เป็นคนคนเดียว
I am not the one and only
ที่ในใจเธอ
In your heart
คนโชคดีที่สุดคนนั้น
The luckiest person there is
ก็อยากจะเป็นเพียงคนหนึ่ง
I wish I would be just one
ที่รักแต่เธอ ที่มีเพียงเธอ
That loves you, always have you
รักเธอ
Love you
ไม่ผิดใช่ไหม
Isn’t it guilty?