กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9 10
41
พูดคุยทั่วไป / พวงหรีดปทุมธานี
« กระทู้ล่าสุด โดย สไตล์หรีด เมื่อ 13-04-2024 23:48:45  »
พวงหรีดปทุมธานีควรเลือกร้านขายพวงหรีดที่มีความหลากหลายของดอกไม้และรูปแบบการจัดพวงหรีด เพื่อให้สามารถเลือกแบบที่ถูกใจและเหมาะสมกับงบประมาณที่มี ทั้งนี้ ราคาพวงหรีดที่สูงกว่า อาจมาพร้อมกับคุณภาพของดอกไม้ที่ดีกว่า มีความสดใหม่ พวงหรีดปทุมธานีและจัดเรียงอย่างประณีต แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกแบบที่มีราคาแพงที่สุดเสมอไป ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและไม่ควรเป็นการสร้างภาระให้กับตัวเองจนเกินไป

อีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเมื่อเลือกใช้บริการจากร้านขายพวงหรีด คือ การสื่อสารและการให้บริการของทางร้าน ร้านที่ดีควรมีพนักงานที่พร้อมให้คำแนะนำและตอบข้อซักถามได้อย่างชัดเจน สามารถปรับเปลี่ยนและจัดทำพวงหรีดได้ตามความต้องการพิเศษของลูกค้า รวมถึงมีความรับผิดชอบหากเกิดข้อผิดพลาดหรือความไม่พอใจในบริการ

การเลือกซื้อพวงหรีดจากร้านขายพวงหรีดอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มีความสำคัญในการสื่อสารความรู้สึกของเราไปยังผู้รับ ดังนั้น จึงควรใส่ใจและพิถีพิถันในการเลือกร้านที่มีคุณภาพและบริการที่ดี เพื่อให้การมอบพวงหรีดในโอกาสต่างๆ เป็นไปอย่างเหมาะสมและสมบูรณ์แบบที่สุด
42
พูดคุยทั่วไป / ร้านพวงหรีด
« กระทู้ล่าสุด โดย สไตล์หรีด เมื่อ 13-04-2024 23:46:18  »
ร้านพวงหรีดพวงหรีดจากร้านขายพวงหรีด สิ่งแรกที่ควรพิจารณาคือ ความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงของร้าน โดยอาจสอบถามจากคนรู้จักที่เคยใช้บริการ หรือหาข้อมูลรีวิวจากลูกค้าในอินเทอร์เน็ต ร้านขายพวงหรีดที่ดีควรมีประสบการณ์ในการจัดทำพวงหรีดมาอย่างยาวนาน มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบและตกแต่งพวงหรีดให้สวยงามและเหมาะสมกับโอกาส รวมถึงมีบริการจัดส่งที่ตรงต่อเวลา

นอกจากนี้ ควรเลือกร้านขายพวงหรีดที่มีความหลากหลายของดอกไม้และรูปแบบการจัดพวงหรีด ร้านพวงหรีด เพื่อให้สามารถเลือกแบบที่ถูกใจและเหมาะสมกับงบประมาณที่มี ทั้งนี้ ราคาพวงหรีดที่สูงกว่า อาจมาพร้อมกับคุณภาพของดอกไม้ที่ดีกว่า มีความสดใหม่ และจัดเรียงอย่างประณีต แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกแบบที่มีราคาแพงที่สุดเสมอไป ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและไม่ควรเป็นการสร้างภาระให้กับตัวเองจนเกินไป
43
พูดคุยทั่วไป / พวงหรีด
« กระทู้ล่าสุด โดย สไตล์หรีด เมื่อ 13-04-2024 23:45:53  »
พวงหรีด เลือกซื้ออย่างไรให้เหมาะสมและได้ประโยชน์สูงสุด

ในปัจจุบัน การส่งพวงหรีดเพื่อแสดงความอาลัยหรือให้กำลังใจแก่ผู้ที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักนั้น ได้กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่แพร่หลายในสังคมไทย ซึ่งการเลือกซื้อพวงหรีดจากร้านขายพวงหรีดที่มีคุณภาพและบริการที่ดี จะช่วยให้การแสดงความรู้สึกของเราเป็นไปอย่างเหมาะสมและได้ประโยชน์สูงสุด

เมื่อต้องการเลือกซื้อพวงหรีดจากร้านขายพวงหรีด สิ่งแรกที่ควรพิจารณาคือ ความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงของร้าน โดยอาจสอบถามจากคนรู้จักที่เคยใช้บริการ หรือหาข้อมูลรีวิวจากลูกค้าในอินเทอร์เน็ต ร้านขายพวงหรีดที่ดีควรมีประสบการณ์ในการจัดทำพวงหรีดมาอย่างยาวนาน มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบและตกแต่งพวงหรีดให้สวยงามและเหมาะสมกับโอกาส รวมถึงมีบริการจัดส่งที่ตรงต่อเวลา

นอกจากนี้ ควรเลือกร้านขายพวงหรีดที่มีความหลากหลายของดอกไม้และรูปแบบการจัดพวงหรีด เพื่อให้สามารถเลือกแบบที่ถูกใจและเหมาะสมกับงบประมาณที่มี ทั้งนี้ ราคาพวงหรีดที่สูงกว่า อาจมาพร้อมกับคุณภาพของดอกไม้ที่ดีกว่า มีความสดใหม่ และจัดเรียงอย่างประณีต แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกแบบที่มีราคาแพงที่สุดเสมอไป ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและไม่ควรเป็นการสร้างภาระให้กับตัวเองจนเกินไป

อีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเมื่อเลือกใช้บริการจากร้านขายพวงหรีด คือ การสื่อสารและการให้บริการของทางร้าน ร้านที่ดีควรมีพนักงานที่พร้อมให้คำแนะนำและตอบข้อซักถามได้อย่างชัดเจน สามารถปรับเปลี่ยนและจัดทำพวงหรีดได้ตามความต้องการพิเศษของลูกค้า รวมถึงมีความรับผิดชอบหากเกิดข้อผิดพลาดหรือความไม่พอใจในบริการ

การเลือกซื้อพวงหรีดจากร้านขายพวงหรีดอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มีความสำคัญในการสื่อสารความรู้สึกของเราไปยังผู้รับ ดังนั้น จึงควรใส่ใจและพิถีพิถันในการเลือกร้านที่มีคุณภาพและบริการที่ดี เพื่อให้การมอบพวงหรีดในโอกาสต่างๆ เป็นไปอย่างเหมาะสมและสมบูรณ์แบบที่สุด
44
EP.7 พัฒน์พยายามตามหาแม่ของเขา

            Part’ s พัฒน์ ผมนั่งรถมากับพี่ตุ๊มาที่โรงแรม พี่ตุ๊บอกว่าเขาเรียกประชุมเนื่องจากมีเรื่องด่วน แต่พี่ตุ๊ไม่ได้บอกว่ามีเรื่องอะไร ผมนั่งเงียบๆ โดยที่พี่ตุ๊ก็นั่งอ่านเอกสารในแทบเล็ตแบรนด์ดังของเขา ถือไว้มือหนึ่งแต่อีกมือยังจับมือผมเอาไว้และบีบเป็นระยะๆ พี่ตุ๊คงสัมผัสได้ว่าผมกังวลเรื่องที่จะไปทำบุญวันเกิดให้ขวัญ

             “พี่พงษ์ รอผมก่อนนะครับเพื่อว่าผมจะให้พัฒน์กลับก่อนเพราะว่าพัฒน์เขามีสอนนะครับ” พี่ตุ๊บอกพี่สมพงษ์ คนขับรถและการ์ดประจำตัวของพี่ตุ๊ พี่ตุ๊หันมาพยักหน้ากับผมให้ผมก้าวเท้าลงจากรถก่อน พี่ตุ๊ก็ลงตามมา โรงแรมหรูระดับ 7 ดาว พี่ตุ๊เดินลงมาก่อนจะจัดแต่งเสื้อสูทให้เข้าที่ ผมน่ะสวมเสื้อเชิ้ตพอดีตัวและเนกไทเป็นประจำอยู่แล้วแต่ถ้าออกงานจะพกเสื้อสูทมาด้วยสวมทับเอาไว้

               “คุณตุ๊สวัสดีค่ะ” คุณวีระญา เลขาและคนสนิทของพี่ตุ๊ เธอเป็นคนเก่ง เรียนต่างประเทศและเธอคือคนที่ได้ทุนเรียนดีจากพ่อภาคย์ตั้งแต่มัธยมจนไปเรียนต่างประเทศ

               “สวัสดีค่ะคุณพัฒน์ “วีระญาทักทายผม

               “สวัสดีครับคุณวี” ผมทักทายกลับเป็นปกติ

               “น้องๆ ที่คุณตุ๊เชิญมา รอพบคุณตุ๊ที่ห้องรับรองเรียบร้อยแล้วค่ะ เชิญด้านในได้เลยค่ะ” คุณวีบอกพี่ตุ๊ ผมหันไปมองพี่ตุ๊ว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า พี่ตุ๊ทำนิ้วคาดปาก ประมาณว่าอย่าพึ่งให้ผมถามอะไร ผมเดินเข้าไปด้านในกับพี่ตุ๊ พนักงานทุกคนให้การต้อนรับดีทุกคน

                “คุณตุ๊ค่ะ มาพอดีเลยค่ะ ดิฉันว่าจะโทรหาอยู่พอดีค่ะ” จู่ๆ ผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินสับเท้าเข้ามาหาพี่ตุ๊ เครื่องแบบที่บ่งบอกว่าเป็นพนักงานของโรงแรม ผมเดาได้ว่าน่าจะตำแหน่งหัวหน้างาน พี่ตุ๊เข้าไปคุยกับเขาก่อนจะพยักหน้ากับผมว่าขอเวลาสักครู่ ผู้หญิงคนนั้นหันมาส่งยิ้มให้ผมและทั้งคู่ก็เดินไปหามุมพูดคุยกันเรื่องงาน

               “คุณพัฒน์ รับอะไรดีคะเป็นของว่าง วีจะได้ให้น้องจัดไปให้ที่ห้องรับรองค่ะ” คุณวีถามผม

               “เออ ผมไม่ซีเรียสครับ ผมทานได้หมด” ผมตอบ

               “น้ำผลไม้เหมือนทุกครั้งนะคะและคุ้กกี้ เค้กรสส้มนะคะ อันนี้คุณตุ๊สั่งเอาไว้ก่อนแล้วค่ะ ทางไลน์ เอาไว้ให้คุณพัฒน์นะคะ” คุณวีบอกผม ผมยิ้ม พี่ตุ๊รู้ว่าผมชอบอะไรบ้าง

              “ของคุณตุ๊เป็นลองแบล็คนะคะ ไม่ใส่นมนะคะและของหวานเหมือนกันค่ะ” คุณวีพูด ผมพยักหน้าว่าถูกต้อง

              “วีขอตัวสักครู่นะคะ เดี๋ยววีกลับมาค่ะ” คุณวีบอกผม ผมพยักหน้า ผมเห็นพี่ตุ๊คุยงานอยู่ ในห้องด้านหลังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธุ์ จังหวะนั้นผมหันไปเห็นพนักงานต้อนรับ ผมจำได้ว่าเธอค่อนข้างสนิทกับคุณน้ำตาลและเธอก็ได้ฝากงานให้ด้วย เธอมองผมเหยียดแต่ผมรู้สึกว่าเพื่อนเธอกำลังถ่ายรูปผมอยู่

                “ตามนี้เลยนะคะคุณตุ๊ ถ้าติดขัดอะไร พี่จะโทรหาอีกทีนะคะ แต่พี่คิดว่าไม่น่าจะติดขัดอะไรคะ ขอบคุณนะคะ” ผมหันมาเจอพี่ตุ๊ออกมาจากห้องนั้นแล้วก่อนจะแยกกับพนักงานออฟฟิศคนนั้น พี่ตุ๊เดินมาหาผม

               “คุณวีไปสั่งของว่างนะครับพี่ตุ๊” ผมบอกพี่ตุ๊

               “เค้กส้มกับน้ำผลไม้” พี่ตุ๊พูด ผมพยักหน้า

                “พี่รู้ว่าเราชอบ” พี่ตุ๊พูด

                “ไปครับ น้องๆ รออยู่แล้วและนี่พี่กลับไปพร้อมพัฒน์เลยน่ะ ตอนแรกว่าจะคุยปัญหาภายในแต่ว่าคุณศิริกานต์เธอแจ้งว่าทุกอย่างน่าจะจัดการได้แล้ว ไม่ต้องห่วง” พี่ตุ๊พูด ผมทำหน้าสงสัยตรงที่ว่าน้องๆ รออยู่นี่แหละ พี่ตุ๊ดันผมให้เดินไปข้างหน้า ทุกการกระทำมันอยู่ในสายตาของสองคนนั้นตลอด ผมเดินไปตามที่พี่ตุ๊บอกผม ผมตรงไปยังยังห้องที่ถูกจัดเอาไว้ พี่ตุ๊เปิดประตูเข้าไป ผมก็พบว่ามีคนรออยู่สี่ห้าคน

               “สวัสดีครับ ขอโทษนะครับที่ให้รอ พอดีผมมีคุยกับเจ้าหน้าที่ออฟฟิศนะครับ” พี่ตุ๊พูดทักททายทุกคนที่อยู่ในห้อง พี่ตุ๊หันมามองหน้าผม

              “ก่อนอื่น ผมขอแนะนำ นี่ครูพัฒน์ครับ ครูพัฒน์ เป็นรองผู้อำนวยการและเป็นที่มีอำนาจในการตัดสินแทนผมทุกกรณี” พี่ตุ๊พูด ผมหันมามองหน้าพี่ตุ๊ทันที พี่ตุ๊ยิ้มให้ผม

               “สวัสดีครับครูพัฒน์”

              “สวัสดีค่ะครูพัฒน์” ทุกคนทักทายพร้อมกัน

               “พักที่นี้กันใช่ไหมครับเมื่อคืน” พี่ตุ๊ถามก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ให้ผมนั่งแม้ว่าตาจะไม่ได้แต่ก็เลื่อนให้ผมได้ถูก ผมนั่งลงข้างๆ กับพี่ตุ๊

                “ครับ พวกผมเดินทางออกมาตอนบ่ายครับ ทันทีที่ได้รับหนังสือแจ้งครับ”

                 “ขอบคุณนะครับ ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ไม่ต้องกังวลนะครับ ทุกคนจะได้ย้ายกลับทันทีที่ทุกอย่างเข้าที่” พี่ตุ๊พูด นั้นแปลว่าทุกคนมาจากบริษัทใหญ่แน่นอน พี่ตุ๊หันมามองผมนั่นแหละว่าให้ผมพร้อมจดที่พี่ตุ๊จะพูด ผมแอบค้อนเล็กน้อย ให้มาในฐานะเลขาส่วนตัวด้วยเหรอผมก็จดทุกบันทึกทุกอย่าง ถึงได้รู้ว่าพี่ตุณให้คนที่เคยทำงานธุรการของโรงเรียนสาขาใหญ่

                “คุณประภากร จะมาเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการที่โรงเรียน” พี่ตุณพูด มีคนมาทำหน้าที่ธุรการหนึ่งคนที่โรงเรียน ผมได้ยินตรงนี้ผมหันมามองพี่ตุ๊ แล้วสองคนนั้นละ ที่พ่อคุณน้ำตาลฝากให้ทำงาน

               “จะมาเพิ่มอีกแต่ตอนให้คุณประภากรทำไป พอเข้ามาอีกสองคน คุณประภากรจะเป็นคนเทรนงานคนใหม่เอง” พี่ตุ๊หันมาพูดกับผม ผมพยักหน้าเบาๆ

               “คุณเอกชัยกับคุณมยุรี จะมาทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ที่โรงแรม “ผมสะบัดหน้าไปมองพี่ตุ๊อีกที รับเพิ่มเหรอ หวังว่าคงจะไม่ใช่

                “เพื่อจะได้มาแทนสองคนที่น้ำตาลฝากไว้เหมือนกันครับแต่พี่รอให้ได้หลักฐานที่แน่ใจในการปลดซะก่อนและพี่จะเรียกผู้ถือหุ้นมารับทราบรวมไปถึงคุณวันชัยและคุณน้ำตาล” พี่ตุ๊หันมากระซิบกับผม ผมว่างานนี้เธอเม้งผมแน่นอน และคนอื่นก็มาทำตำแหน่งงานอื่นๆ ในโรงแรม ผมเหลือบมองเวลา ผมต้องกลับไปที่โรงเรียนแล้วเพราะว่าผมมีสอน

                “ถ้าอย่างนั้นตามนี้เลยนะครับ เจอกันวันจันทร์ วันเริ่มงานเลยนะครับ ขอบคุณครับที่มาในวันนี้ “พี่ตุ๊พูดปิดการประชุม

                 “คุณประภากร ผมรบกวนประสานงานกับครูพัฒน์นะครับ ครูพัฒน์จะเป็นคนอธิบายงานให้คุณทราบเพราะว่าคนเก่าเขาไม่รู้งานอะไรเลย ผมว่า เขาสอนคุณไม่ได้แน่นอนครับ” พี่ตุ๊พูด คุณประภากร พยักหน้าพร้อมกับหันมายิ้มให้ผมและพวกผมก็ทานของว่างกัน

                 “พี่ตุ๊ครับ ผมต้องกลับไปที่โรงเรียนแล้วอ่ะครับ” ผมบอกพี่ตุ๊

                 “ได้ซิ พี่ไปส่งก่อน ส่วนพี่จะไปประชุมที่ศาลากลางจังหวัด พี่ได้รับอิเมลมา เรื่องการปราบปรามยาเสพติดตั้งแต่ก่อนจะมาที่นี้แล้ว “พี่ตุ๊พูด

                  “พี่ว่าเรื่องนี้ เราต้องมีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้องแล้วแหละพัฒน์เพราะว่าคนที่เรากำลังจะสู้อยู่ เขาก็มีแบ็คดีและแบ็คของเขาก็ ไม่ใช่อื่น เป็นคนต่อต้านองค์กรของเรา ดังนั้นเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับองค์กรเราเช่นกัน” พี่ตุ๊พูด นี้พี่ตุ๊รู้ทุกอย่าง ถ้าอย่างนั้นคุณวันชัยก็กำลังคิดไม่ซื่อกับพ่อภาคย์อย่างนั้นเหรอ ทั้งที่พ่อภาคย์ช่วยเหลือเขามาตลอด ผมแอบส่ายหัวเล็กน้อย คนไม่รู้จักบุญคุณ
                 
                  “งั้นพัฒน์ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ” ผมบอกพี่ตุ๊ ก่อนจะขอตัวออกไปทำธุระด้านนอก ผมเข้าไปในห้องน้ำสำหรับพนักงาน ผมไม่ไปใช้ปะปนกับแขก จะอยู่ไปด้านในหน่อยแต่ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากที่แขกใช้เท่าไหร่ แค่แยกโซนกันแค่นั้น ขณะที่ผมกำลังจะเดินผ่านห้องน้ำผู้หญิงที่อยู่ก่อนห้องน้ำชาย ผมก็ได้ยินเสียงคนคุยกันเสียงดังรอดออกมาจากตรงอ่างล้างมือในห้องน้ำหญิง

                 “ใช่ค่ะคุณน้ำตาล อย่างที่ส่งไปให้ดูเลยค่ะ เมื่อก่อนไม่มานะคะ ตอนนี้มาตามติดเลยค่ะ เมื่อก่อนมาหาพ่อแต่ตอนนี้ มากับลูก สงสัย ได้ทั้งพ่อและลูกชายเขาเลยค่ะ คงอยากเลื่อนขั้นค่ะคุณน้ำตาล จากเมียพ่อเป็นเมียลูก แหม เขาไม่เหมาะเหมือนคุณน้ำตาลหรอกค่ะ สวยและยังจบจากนอกขนาดนี้ ดีกรีดีกว่าเยอะค่ะ บร้าๆ”

                       ผมนี่ถึงกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ นี่เขาคิดกับผมแบบนี้เลยเหรอ ทำไมจิตใจถึงได้ต่ำมากและการที่เรียกคุณน้ำตาล ผมเดาได้เลยว่าเป็นใคร ประชาสัมพันธ์ที่เป็นขี้ข้าให้คุณน้ำตาลเพราะว่าเธอหางานให้ทำ เลยตอบแทนโดยการเม้าส์ผมเพื่อเอาใจนายว่างั้นแต่ว่าผมเองเป็นคนไม่ชอบต่อปากต่อคำด้วย ผมจึงรีบเดินจ้ำอ้าวไปเข้าห้องน้ำและรีบทำธุระส่วนตัวจะได้รีบกลับไปโรงเรียนดีกว่า ระหว่างที่ผมเดินออกมา ผมก็เห็นคุณวีรญากำลังยืนกอดอกโดยมีสองสาวที่นินทาผมอยู่ ยืนก้มหน้าก้มตาอยู่

                   “เธอควรจะรู้จักเกรงใจเพื่อนร่วมงานบ้าง ไม่ใช่แอบมาเม้าส์กันปล่อยเพื่อนทำงานอยู่คนเดียว ไม่อย่างนั้น เขาจะจ้างเธอมาทำไม จริงไหมและนี่ อยากเลื่อนขั้นเหมือนกันใช่ไหม” คุณวีรญาพูดก่อนจะหันมายิ้มให้ผม

                   “เลื่อนจากคนที่มีงานทำเป็นคนไม่มีงานทำแทน นั้นคือคนตกงาน เธออยากได้อย่างนั้นเหรอ เพราะคนที่จ้างเธอคือคุณตุ๊กับคุณพัฒน์ ไม่ใช่ คุณน้ำตาล เธอแค่ฝาก เข้าใจผิดนะเธอสองคนน่ะ” คุณวีรญาพูด สองคนนั้นหน้าจื่อนไปทันทีแต่ผมดูแล้วเขาไม่สำนักอะไรเท่าไหร่หรอก

                    “กลับไปทำงานได้แล้วและทำหน้าที่ตัวเองให้ดี ไม่ต้องเที่ยวมาส่องชีวิตใคร ชีวิตเธอนี่ที่ควรจะส่องดูว่าดีพอหรือยัง โอเคน่ะ ไปได้แล้ว” คุณวีรญาพูดและสองคนนั้นก็รีบเดินกลับออกไปทันที คุณวีรญาหันมามองผม

                   “คุณตุ๊ให้วีจับตาดูสองคนนี้ว่ามีพฤติกรรมอะไรกับคุณพัฒน์บ้าง คุณตุ๊ก็พอจะได้ยินมาจากพนักงานของเราหลายคนแต่เขายุ่งไม่ได้เพราะว่าคุณน้ำตาลเธอคิดว่าเธอใหญ่ ใครยุ่งกับเด็กเธอไม่ได้” คุณวีรญาพูด

                   “แต่ไม่ใช่กับคุณตุ๊ค่ะ คุณตุ๊แค่รอหลักฐานค่ะ” คุณวีรญาบอกผม

                    “ใจจริงผมก็ไม่อยากใจร้ายแบบนั้นนะครับคุณวีเพราะว่าตอนนี้ งานหายากมากนะครับ” ผมพูด

                   “ใช่ค่ะ งานหายาก คนอยากทำงานเยอะนะคะ ดังนั้น คนนั้นที่ถ่วงให้เราไม่ประสบผลสำเร็จ วีว่าก็ไม่ควรเอาไว้นะคะ สองคนนี้ ดีแต่รายงานนาย เอาใจนายตัวเอง นางไม่เคยรู้เลยว่า นายตัวเองถือหุ้นน้อยกว่าคุณพัฒน์ซะอีก น่าขำนะคะ” คุณวีรญาพูด ผมเดินออกคุยออกมาพร้อมกับคุณวีรญา พี่ตุ๊ยืนรออยู่แล้ว พี่ตุ๊ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ด้วย คุณวีรญาก็พยักหน้าให้ผมก่อนจะแยกตัวออกไปเพื่อทำหน้าที่ของเธอ ผมเข้ามายืนไม่ใกล้ไม่ไกลจากพี่ตุ๊

                    (ได้ครับอา ผมคิดว่าเราต้องหาข้อมูลทุกอย่างแบบเงียบๆ ผมทราบครับ ครับอา เออ ผมยังไม่ได้คุณกับไอ้อ้น ครับอา รอให้อ้นมันว่างก่อนแล้ว ครับ ครับ สวัสดีครับ)  พี่ตุ๊คุยกับอาภีมปภพแน่นอน ได้ยินชื่อพี่อ้นแบบนี้ มันจะมีหวังที่พี่อ้นกับพี่ตุ๊จะกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกใช่ไหม ผมอยากให้เป็นแบบนั้น รูปภาพถ่ายตอนที่พี่ชายคนโตของแต่ล่ะบ้านดูแลน้องๆ ของตัวเองและพี่ๆ ก็สนิทกัน ผมเข้ามาทีหลังแต่ผมสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของคำว่าเพื่อนที่โตมาด้วยกันเพราะว่าผมโตมาแค่คนเดียวแต่พอได้เข้ามาอยู่บ้านพ่อภาคย์ ผมรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

                “พี่คุยกับอาภีมน่ะ เกี่ยวกับแก้งค้ายาข้ามประเทศ คุณวันชัยน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย” พี่ตุ๊ พูดผมพยักหน้าเบาๆ

                “พี่บอกให้คนไปทำความสะอาดโรงยิมให้แอ้แล้ว วันนี้เด็กจะมาลองเรียนวันกแรกแต่น่าจะไม่เยอะ” พี่ตุ๊บอกผม ผมพยักหน้า พี่ตุ๊ยังหันมามองหน้าผม

                 “เป็นไงบ้าง สองสาวนั้นนินทาอะไรพัฒน์อีก” พี่ตุ๊ถามผมยิ้มๆ

               “พี่ตุ๊ทราบเหรอครับ” ผมถามพี่ตุ๊

                “ทราบครับ ดังนั้นพี่จึงแบ่งหุ้นของพี่เพิ่มให้พัฒน์ เพื่อจะได้เหนือกว่าคุณน้ำตาลและนั้นพัฒน์ก็มีอำนวจมากกว่าพอจะตัดสินใจว่าจะ เก็บเธอไว้ไหมหรือจะหาคนทำงานใหม่ที่ดีกว่า” พี่ตุ๊พูด ผมมองพี่ตุ๊ นี่โกหกผมอีกแล้วที่ว่าพ่อเป็นคนให้ผมแต่จริงๆ พี่ตุ๊นั้นเอง

               “พี่ขอโทษที่บอกเขาแบบนั้นแต่นี้ก็เป็นคำแนะนำจากพ่ออีกทีน่ะ” พี่ตุ๊พูด

               “พ่อเหนื่อยแล้ว พ่ออยากวางมือแล้ว ดังนั้นทุกอย่าง เราต้องช่วยกันพัฒน์ “พี่ตุ๊พูด ผมพยักหน้า ผมน่ะช่วยอยู่แล้วเพราะว่านี่คือการตอบแทนบุญคุณคนที่ทำให้ผมได้มีชีวิตที่ดีและดูแลผมแทนพ่อแม่จริงๆ ของผม ผมเองไม่เคยโกรธแม่ผมเลยแต่ว่าผมเองก็ตามหาเขาไม่เจอ

               “พัฒน์…พี่ถามจริงๆ ที่พัฒน์เลือกมาที่นี้เพราะว่าบ้านแม่ของพัฒน์อยู่ที่นี้ใช่ไหม” พี่ตุ๊ถามผม ผมหันไปมองพี่ตุ๊ ผมพยักหน้าเบาๆ

               “ผมได้ไปดูแล้ว เขาย้ายไปนานแล้ว ตั้งแต่ที่พ่อภาคย์รับผมเป็นลูกบุญธรรม” ผมพูด

              “แต่ว่าแม่ผมเขาหายไปไหน ผมก็ไม่ทราบ ไม่มีใครรู้เพราะว่าแม่ไม่ใช่คนที่นี้ตั้งแต่แรกแค่ย้ายตามพ่อมา ผมทราบแค่นั้นจากพ่อภาคย์อีกที” ผมพูดเบาๆ

               “เอาน่ะ พี่จะให้คนช่วยสืบให้” พี่ตุ๊พูด

               “ทีหลังบอกพี่ซิ อยากได้อะไร อยากทำอะไร พี่จะได้ช่วย อย่าแอบคิดคนเดียวอีกน่ะ เข้าใจไหม” พี่ตุ๊พูด

                 “เพราะว่า…” พี่ตุ๊พูด ผมเงยหน้ามองหน้าพี่ตุ๊

                  “คุณตุ๊ครับ รถของคุณตุ๊มารอรับคุณตุ๊ที่ด้านหน้าแล้วครับ” จู่ๆ พนักงานของโรงแรมก็เข้ามาบอกว่ารถพี่ตุ๊อยู่ด้านหน้าแล้ว พี่ตุ๊หันไปพยักหน้าก่อนจะดันผมให้เดินไปข้างหน้าก่อน ผมก้าวเท้าขึ้นรถไปก่อน พี่ตุ๊กำลังคุยกับพี่สมพงษ์อยู่ ผมนั่งมองผู้ชายคนนี้ พี่ชายคนโตของบ้านและเป็นพี่ชายที่แสนดีของผม แม้จะเป็นมากกว่าพี่ชายแต่ผมก็ไม่กล้าเปิดเผยสถานะที่แท้จริงๆ ผมกลัวจะทำให้ซีอีโอ หน้าใหม่ไฟแรงต้องมาตกเพราะว่าผม ผมคู่ควรแล้วจริงๆ เหรอ สิ่งที่ผมคิด
45
 สนุกสุดๆ ตัวจุ้นกับเขียวหวานมันน่าร๊ากกกกก

  :hao7:
46
พูดคุยทั่วไป / พวงหรีดปทุมธานี
« กระทู้ล่าสุด โดย สไตล์หรีด เมื่อ 12-04-2024 22:15:43  »
พวงหรีดปทุมธานีหากคุณกำลังมองหาพวงหรีดที่สวยงามและมีคุณภาพสูงสุดสำหรับงานศพของคนที่คุณรัก ให้ความสำคัญกับการเลือกพวงหรีดจากมืออาชีพที่มีชื่อเสียงและเชี่ยวชาญ เพราะเมื่อเลือกใช้บริการจากมืออาชีพคุณจะได้รับผลงานที่สวยงามและไม่มีที่ติ

ในปัจจุบันมีการผลิตพวงหรีดอย่างมวลมากจึงทำให้การเลือกซื้อกลายเป็นเรื่องยากลำบาก พวงหรีดปทุมธานี แต่ถ้าคุณใช้คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับพวงหรีดมืออาชีพ เช่น "พวงหรีดมืออาชีพ รีวิว" หรือ "พวงหรีดมืออาชีพ เชียงใหม่" คุณจะสามารถค้นหาบริการที่มีคุณภาพและเชี่ยวชาญได้ง่ายขึ้น
47
พูดคุยทั่วไป / พวงหรีด
« กระทู้ล่าสุด โดย สไตล์หรีด เมื่อ 12-04-2024 22:11:13  »
พวงหรีดในปัจจุบันมีการผลิตพวงหรีดอย่างมวลมากจึงทำให้การเลือกซื้อกลายเป็นเรื่องยากลำบาก แต่ถ้าคุณใช้คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับพวงหรีดมืออาชีพ เช่น "พวงหรีดมืออาชีพ รีวิว" หรือ "พวงหรีดมืออาชีพ เชียงใหม่" คุณจะสามารถค้นหาบริการที่มีคุณภาพและเชี่ยวชาญได้ง่ายขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสีของดอกไม้ หรือการจัดวางต้นไม้ให้สวยงาม พวงหรีด มืออาชีพจะช่วยให้การตกแต่งพวงหรีดของคุณกลายเป็นสรรพสวยที่น่าตื่นเต้น เพราะมืออาชีพเชี่ยวชาญในการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง และการสร้างงานศพที่สวยงามจนทำให้คุณและคนในครอบครัวได้รับความอบอุ่นและนุ่มนวลในช่วงเวลาที่ทำให้เราเสียใจ
48
พูดคุยทั่วไป / ร้านพวงหรีด
« กระทู้ล่าสุด โดย สไตล์หรีด เมื่อ 12-04-2024 22:09:12  »
ร้านพวงหรีดหากคุณกำลังมองหาพวงหรีดที่สวยงามและมีคุณภาพสูงสุดสำหรับงานศพของคนที่คุณรัก ให้ความสำคัญกับการเลือกพวงหรีดจากมืออาชีพที่มีชื่อเสียงและเชี่ยวชาญ เพราะเมื่อเลือกใช้บริการจากมืออาชีพคุณจะได้รับผลงานที่สวยงามและไม่มีที่ติ

ในปัจจุบันมีการผลิตพวงหรีดอย่างมวลมากจึงทำให้การเลือกซื้อกลายเป็นเรื่องยากลำบาก แต่ถ้าคุณใช้คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับพวงหรีดมืออาชีพ เช่น "พวงหรีดมืออาชีพ รีวิว" หรือ "พวงหรีดมืออาชีพ เชียงใหม่" คุณจะสามารถค้นหาบริการที่มีคุณภาพและเชี่ยวชาญได้ง่ายขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสีของดอกไม้ หรือการจัดวางต้นไม้ให้สวยงาม มืออาชีพจะช่วยให้การตกแต่งพวงหรีดของคุณกลายเป็นสรรพสวยที่น่าตื่นเต้น เพราะมืออาชีพเชี่ยวชาญในการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง ร้านพวงหรีด และการสร้างงานศพที่สวยงามจนทำให้คุณและคนในครอบครัวได้รับความอบอุ่นและนุ่มนวลในช่วงเวลาที่ทำให้เราเสียใจ

อย่าลืมเลือกพวงหรีดจากมืออาชีพเพื่อให้คนที่คุณรักได้รับเกียรติและความเสมอภาคในช่วงเวลาสำคัญ รับรองว่าคุณจะพบกับความพึงพอใจและความพร้อมจากเพื่อนรักของคุณในการเยียมถ่ายเทออกันนะคะ!
49
EP.13 ยังไม่ทันคลอดเลยลูกโซ่แผลงฤทธิ์

        Part’ s กันต์ธีย์ ผมนอนมองสายน้ำเกลือที่ห้อยอยู่ที่เสา สุดท้ายผมก็ต้องมานอนให้น้ำเกลือจนได้เพราะอาการอ่อนเพลียของผม ไม่รู้ว่าตอนที่แม่ตั้งท้องผมนั้น แม่จะเป็นหนักแบบนี้ไหม แพ้ท้องหนักแบบนี้ไหมน่ะ แต่ผมนี้ทรมานมากที่สุด ผมเอามือลูบท้องน้อยของผม ยี่สิบสัปดาห์แล้วน่ะ อดทนอีกหน่อยนะครับลูกโซ่

       “คนอะไรก็ไม่รู้หล่อและใจดีด้วยอ่ะ แต่ว่าเขาบอกว่าจะย้ายแล้วอ่ะ ย้ายไปไหนวะกูจะให้ขุ่นแม่ย้ายตามไป กูจะได้เจอพี่เขาอีก” มะนาวพูดถึงใครสักคน เขาบอกว่าเขาเป็นคนอุ้มผมและขับรถพาผมมาส่งโรงพยาบาลของหมอภีมปภพแทน ผมค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง ผมอ่อนเพลียมาก เพื่อนๆ ของผมหันมาเห็นผมก็พากันเดินมาที่เตียงนอนคนไข้ทันที

        “บีม ทานอะไรหน่อยไหมแก นี่ฉันซื้อของโปรดแกมาให้น่ะ” ผมหันไปมองของโปรดของผม นั้นคือบะหมี่ ผมค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง ผมมองบะหมี่เกี๊ยวหมูแดง ที่ผมชอบมากแต่ว่าตอนนี้ผมเห็นเหมือนเป็นอะไรสักอย่างที่พาจะทำให้ผมรู้สึกคลื้นไส้อาเจียน

        “เฮ้ย! บีม นี้ของโปรดมึงน่ะ” มะนาวรีบหยิบชามบะหมี่ออกไปทันที เพราะว่าผมใช้มือปัดไปมากลิ่นกระเทียมมันทำให้ผมคลื่นไส้มากขึ้นไปอีก จนกระทั่ง ผมหันไปเห็นกล่องอาหารซีพีเข้า

        “พาสต้าไหมมึง แต่ปกติมึงบอกไม่ชอบทานน่ะ มึงชอบบะหมี่มากกว่า “ใบชาพูดแต่ผมพยักหน้าตอนนี้ท้องร้องมากเลย และใบชา เพื่อนผมคนนี้ มาจากทางเหนือ และสอบติดที่นี้ได้และมาอยู่หอกับพี่ชาย ที่ทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพ พอใบชาเปิดกล่องออกมา มันน่ามแปลกที่ผมไม่รู้สึก ผอืดผอมเลยสักนิด ผมค่อยๆ ใช่ช้อนตักมาคำเล็กมากๆ ก่อนจะเปิดริมฝีปากเล็กๆ ของผม ชิมรสชาติก่อนและได้ผล ผมทานได้เฉยเลย

       “เฮ้ย! ปกติมึงไม่กินพาสต้าน่ะไอ้บีม” ฟิล์มมันรู้ดี เลยหันมาทำสีหน้าแปลกใจ ผมก็นั่งทานได้ปกติ

       “เคยได้ยินป่ะว่า คนท้องน่ะมักจะชอบทานอะไรที่แปลกแหวกแนวไปจากเดิมน่ะ เหมือนแม่ฉันนี่ตอนท้องฉันน่ะ แม่อยากกินมะนาวมาก หันมะนาวคลุกพริกกลัวกินเลยน่ะ ซึ่งปกติแม่ฉันไม่ชอบของเปรี้ยวเลย”

       “แม่มึงเลยให้ชื่อมะนาวว่างั้น”

       “โชคดีน่ะที่แม่มึงไม่ได้ชอบกินมะขวิดล่ะ"ใบชามันพูด สองคนนี้ขยันแขวะกันเองจริงๆ

       “ทำไมล่ะ” มะนาวถามกลับ

      “จะได้ตั้งชื่อแกว่ามะขวิดแทนมะนาวไง” เป็กซ์พูดแซว และนี้ก็ทำให้ผมยิ้มออกมาได้เล็ก ความสุขที่มีเพื่อนนั่งอยู่ด้วย

       “มะนาวดีใจน่ะที่บีมยิ้มได้ อย่าเครียดน่ะขุ่นแม่ของมะนาว สงสารหลานตัวน้อยๆ “มะนาวพูดพร้อมกับกุมมือผมเอาไว้

       “เออ บีม มึงไปหาเจ้าหน้าที่ธุรการมาเหรอวะ เรื่องเรียนมึงอ่ะ เขาว่าไงบ้างวะ ที่มึงมาๆ หายๆ แบนี้” ฟิล์มถามผม

       “คือกูส่งใบรับรองแพทย์ไปให้เขาน่ะ เขาก็โทรมาหากูอ่ะกูขาดเยอะน่ะ แต่เขาก็บอกว่าอาจารย์กันตภณทำเรื่องขอกูไว้ กูเกรงใจเขาว่ะ เขาจะมาเสียเพราะกูเปล่าๆ” ผมพูด ผมรู้สึกผิดมาก

       “กูเลยบอกเขาว่าจะขอดรอปแล้วกัน เอาไว้มีโอกาสค่อยกลับมาเรียนใหม่” ผมพูดแต่ถ้าคลอดแล้วผมเองยังไม่รู้เลยจะมีโอกาสนั้นไหม เพราะว่าถ้าน้องตลอดมา ลูกก็ต้องเลี้ยงเองจะหาเวลาไปเรียนได้ไหม ไม่รู้เลย

        “มึงรู้ป่ะใบรับรองแพทย์นั้นน่ะ มันบอกว่ามึงท้องและแม่งเอาไปพูดกันและเพื่อนต่างห้องต่างคณะก็พากันมาถามพวกกูกันหมดเลยว่ะ” เป็กซ์พูด ผมหันไปมองเพื่อนๆ ของผม ทุกคนพยักหน้าพร้อมกันว่าจริง

        “ไอ้ฟิล์มมันก็ด่าส่วนไปเยอะแล้ววันนี้น่ะ ศัตรูบานเลยมึงไอ้ฟิล์มงานนี้ “เป็กซ์พูด ผมหันไปมองฟิล์ม ผมส่ายหัวไม่อยากให้ฟิล์มมีเรื่องเลย จะจบอยู่แล้ว

       “ก็มันเสือกเรื่องของมึงอ่ะและไม่ใช่ถามเพราะว่าเห็นใจน่ะ ถามแล้วพากันหัวเราะขำๆ ทั้งที่ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาหัวเราะกันเลยน่ะมึง” ฟิล์มพูด

       “กูควรจะดรอปหรือว่ากูควรจะลาออกดีว่ะ กูทำอาจารย์เขาเสียไปด้วย” ผมพูดเบาๆ ก่อนจะก้มลงมองพุงน้อยของผม เอามือลูบ

        “บีม มึงจะจบแล้วน่ะอีกไม่กี่ตัวเอง ทนหน่อยดิ” เป็กซ์พูด

       “น่ะบีมจะได้จบพร้อมกัน นี้กูเรียนรอมคงเลยน่ะ เทอมที่แล้วกูลงน้อยเพราะว่าอยากจบพร้อมมึงอ่ะ” ใบชาพูด ผมหันมามองเพื่อนๆ ของผม ผมยิ้มออกมาได้อีกครั้ง อย่างน้อยผมก็รู้ว่าเพื่อนคือสิ่งที่ดีที่สุดของผมในตอนนี้ ทุกคนเข้ามากอดผมกันหมด

        “อุ้ยย” ผมสะดุ้งทันที

       “บีม แกเจ็บท้องเหรอ “มะนาวถามผมเสียงหลงทันที

       “เจ็บอะไรล่ะ อายุครรภ์ไอ้บีมมันเพิ่งจะยี่สิบสัปดาห์เอง เขาต้องสี่สิบสัปดาห์โน่น ง้าวนะมึงน่ะ” ใบชาพูด

        “น้องดิ้นน่ะ “ผมพูดและก้มลงมอง ท้องไม่ใหญ่แต่หมอภีมบอกว่าน้องน้ำหนักตาเกณฑ์ทุกอย่างแถมแข็งแรงมากด้วย สังเกตจากการเริ่มถีบพุงผมเล่น

       “เตะเก่งเนอะ ส่งไปเรียนเตะฟุตบอลเลยไหมบีม” มะนาวพูด

       “รีบเสนอเชียวน่ะมึงมะนาว” ใบชาพูด

       “อามะนาวจะได้หาเรื่องไปนั่งดูนักเตะด้วยและดูแลหลานโซ่สุดหล่อของอามะนาวไปด้วย ฟินเชียว” มะนาวพูดปนหัวเราะ

        “อุ้ยย” ผมสะดุ้งอีกที ก่อนจะใช้มือลูบเบาๆ ผมสัมผัสได้ถึงสิ่งที่นูนๆ ไม่รู้ว่าก้นหรือเปล่าน่ะ แต่น่าจะก้นแหละเพราะถ้าเป็นหัวนี้แสดงว่าน้องกลับตัวพร้อมจะออกมาดูโลกแล้ว แต่ผมน่ะยังไงก็ไม่ได้คลอดธรรมชาติเหมือนผู้หญิงทั่วไปแน่ๆ ใช่ซิ ถ้าจะให้คลอดแบบนั้น น้องจะออกมาทางไหนกันล่ะ และจู่ๆ ประตูห้องพักที่ผมมาพักอยู่ก็ถูกเปิดออก อาจารย์กันตภณ เข้ามาพร้อมกับพี่หมอภีมปภพ ผมหันไปมองเพื่อนๆ ของผม

        “กูโทรบอกอาจารย์เองว่ามึงเข้าโรงพยาบาล อาจารย์เขาเป็นห่วงมึงมากนะบีม” ฟิล์มบอกผม ผมหันไปมองหน้ามัน ไม่อยากให้รบกวนอาจารย์ทุกเรื่อง ตอนนี้อาจารย์กันตภณเดินเข้ามาหาผมแล้ว

        “สวัสดีครับอาจารย์ “ “สวัสดีค่ะอาจารย์” เพื่อนๆ ของผมยกมือไหว้อาจารย์กันตภณ

        “ไงบีม ดูสีหน้าเราดีขึ้นน่ะ ดีขึ้นกว่าตอนที่เพื่อนๆ พาเรามาตอนแรกซะอีก พี่นี้ตกใจมากเลยน่ะ” พี่หมอภีมปภพพูด

         “พวกหนูก็ตกใจค่ะพี่หมอ ทำอะไรกันไม่ถูกเลย หน้ามันซี้ดมาก เหมือนมันคือแวมไพร์ทเลยค่ะพี่หมอ” มะนาวพูด ผมนี้อยากหาอะไรปาใส่มันจริงๆ เลย

        “แล้วมาโรงพยาบาลกันยังไงล่ะ” อาจารย์กันตภณถาม ผมเองก็ไม่รู้ว่ามายังไงแต่ตอนที่หมดสติไป ผมยังพอมีสติบ้างไม่มีบ้าง ผมรู้ว่ามีคนอุ้มผมวิ่ง ผมรับรู้ได้แต่ไม่เห็นคนที่อุ้มผม

        “พอดีผมไปเจอพี่รูปหล่อเครื่องแบบตำรวจนะครับ ผมเลยบอกพี่เขา พี่เขาก็วิ่งไปอุ้มไอ้บีมและยังขับรถมาส่งอีก ใจดีมากครับอาจารย์ งานก็ดี จนอยากตามพี่เขาไปเลย” ใบชาพูด ผมหันไปมองหน้า พวกฟิล์มและเป็กซ์มันมองใส่ทันที อาจารย์กันตภณพยักหน้า

         “อาเจียนเยอะจนเป็นลมเลยเหรอบีม” อาจารย์กันตภณถามผม

         “แต่นี้ก็ดีขึ้นแล้วน่ะ” พี่หมอภีมปภพพูด ผมพยักหน้าว่าใช่

        “ดีขึ้นเพราะว่ามันได้กินพาสต้าไปหมดกล่องเลยครับพี่หมอ มันเลยดีขึ้นนะครับ” เป็กซ์รีบหันไปรายงานพี่หมอภีมปภพทันที

         “แม้ชอบอาหารไฮโซซะด้วยน่ะหลานพวกผมน่ะครับพี่หมอ ข้าวธรรมดาไม่ยอมกิน” ใบชาพูดเสริมอีกคน

         “เหมือนหลานชายพี่กันเขาเลยเขาชอบกินแต่พาสต้า” พี่หมอภีมพูดถึงหลานชายอากันตภณ

         “ตอนนั้นที่นายพาไปรอรับกลับที่ไปเรียนพิเศษไง และมันเที่ยงแล้ว กันบอกจะไปหาอะไรทานก่อน และหลานชายตัวดีของเจ็กกันไม่ยอมจะกินแต่พาสต้าให้ได้ ต้องไปตระเวนหากันน่ะ ตอนนั้นหลายชายนายเพิ่งจะสิบห้าสิบหกได้ จำได้ป่ะ เดินหากันจนผ่านไปหลายชั่วโมงเลย หิวตาลายเลยอ่ะ “พี่หมอภีมปภพหันมาพูดกับอาจารย์กันตภณ ผมก็นึกว่าอาจารย์กันตภณชอบซะอีก เพราะว่าอาจารย์เขาทำพาสต้าวันนั้นอร่อยมาก

         “ทุกวันนี้มันก็ยังกินแต่พาสต้าน่ะ เฮียเกริกเนี๊ยะ! บ่นทุกวันเพราะว่าอยากให้ทานอาหารไทยปกติ เหมือนคนอื่นๆ ทานในบ้านน่ะ” อาจารย์กันตภณพูดขึ้นก่อนจะเดินมาหาผม

         “และนี่กูนี่แหละต้องเป็นคนทำให้ทานเอง ป๊ากับม๊าบ่นกูเลย” อาจารย์กันตภณขอกพี่หมอภีม

          “เอาไว้พี่ทำมาให้ทานอีกแล้วกันบีมน่ะเพราะว่าทำให้วันก่อนเห็นทานหมดเกลี้ยงเลยนิ” อาจารย์กันตภณพูดกับผม ผมยิ้มๆ ให้ พี่หมอภีมปภพทำสีหน้าแปลกใจ

          “นี้ทำให้ทานด้วยเหรอ” หมอภีมถามขึ้น ก่อนจะหันไปมองหน้าอาจารย์กันตภณ

         “ทำซิ ทำเองด้วย” อาจารย์กันตภณพูด พี่หมอภีมพยักหน้า

          “อาจารย์กันตภณนี้ เก่งมาเรื่องพาสต้าน่ะ ทำอร่อยมากเลย พี่นี่ฟันธงเลย” หมอภีมพูด ผมพยักหน้าว่าจริงๆ

         “ไม่เป็นไรครับผมเกรงใจพี่กันช่วงนี้งานพี่กันน่าจะเยอะเพราะว่าต้องส่งผลสอบแล้วมั้งครับ” ผมพูด

         “ตอนมาถึงได้สั่งเจาะเลือดเอาไว้ ธาตุเหล็กยังต่ำอยู่น่ะ พรุ่งนี้ก่อนจะกลับ พี่จะให้เขาเติมธาตุเหล็กให้ก่อนน่ะบีม ใช้เวลาแค่สามสิบนาทีเท่านั้นบีมและบีมก็กลับบ้านได้เลย กลับไปก็พักสักสองสามวันน่ะ อย่าพึ่งไปเรียนเลยน่ะ “พี่หมอภีมพูดกับผม ผมก็พยักหน้าเบาๆ อาจารย์กันตภณ หันมามองผม เขาใช่ฝ่ามือลูบหัวผมเบาๆ ผมดูจากสายตาเหมือนกับว่าอาจารย์มีเรื่องมาเลย

         “งั้นขอพี่หมอไปดูคนไข้ห้องอื่นก่อนนะครับ เพราะว่าเดี๋ยวคนไข้คนอื่นๆ ของพี่หมอ จะน้อยใจเอาและห้องนี้คงมีคนรอทำหน้าที่แทนหมอแล้วแหละ “พี่หมอภีมพูด ผมพยักหน้า

          “งั้นพวกเราขอลงไปหาอะไรทานกันก่อนนะครับอาจารย์ คือไม่อยากเป็น กขคง เอกอารสอวอ” มะนาวพูด

         “นั้นมันแป้นพิมพ์ดีด!!!” เพื่อนๆ ของผม

         “ถ้าพูดธรรมดาจะขำกันเหรอ คิกๆ” มะนาวพูดและหัวเราะด้วย แต่ก็จริงนะ มีคนยืนแอบขำแต่ก็กลัวภาพคุณหมอหลุด แต่ก็แอบขำ จนอาจารย์กันตภณหันไปมองนั่นแหละ

         “พี่หมอไปก่อนนะครับ” พี่หมอภีมปภพพูดและเดินออกไปจากห้องพักของผม

         “จ้าแม่ตลกบริโภค “ใบชาพูดแซวมะนาว

        “รีบลงไปเดี๋ยวไม่ได้บริโภค มึงจะตลกไม่ออกเพราะว่าร้องหิว หิว หิว” ใบชาพูด

        “และอีแบบนี้มักได้บริโภคตัวตลกซะก่อนไม่ใช่บริโภคพระเอก” เป็กซ์พูด ทำให้มะนาวหันไปค้อนใส่ทันทีและทุกคนก็พากันเดินออกจากห้องคนไข้ไป เหลือไว้แค่ผมกับอาจารย์กันตภณ ผมเงยหน้ามองหน้าอาจารย์ สีหน้าอาจารย์ดูกังวลแปลกๆ

       “มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับอาจารย์ “ผมถามอาจารย์กันตภณ

       “เออ ไม่มีครับ” อาจารย์กันตภณตอบผมแต่ว่าสีหน้าน่ะเห็นได้ชัดว่ามี

        “บอกผมเถอะครับ และผมเดาว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ทุกคนในคณะรู้แล้วว่าทำไมผมถึงได้ไปเรียนบ้างไม่ไปเรียนบ้าง เพราะว่าผมท้อง ใช่ไหมครับ” ผมพูดก่อนจะหันมามองอาจารย์กันตภพ

        “ที่จริงพี่ยื่นเสนอคณะกรรมการให้เราได้เข้ารับเลือกรับปริญญาบัตรเกียรตินิยมอันดับสองน่ะ พี่ยังคงยืนยันคำเดิมว่าบีมสมควรจะได้มัน เพราะว่าเราเรียนเก่งมากและเราตั้งใจมาตลอด” อาจารย์กันตภณพูด ผมเงยหน้ามองหน้าอาจารย์

        “แต่ตอนนี้ พี่ขอโทษที่พี่…” อาจารย์พูดเหมือนจะไม่กล้าบอกผมยังไงก็ไม่รู้

         “ไม่เป็นไรพี่กันและมันไม่ใช่ความผิดของพี่กันเลย” ผมพูด

         “พี่ต้องบอกให้เขายกเลิกเพราะว่าบีมจะได้ไม่โดนเขาทำร้ายจิตใจมากไปกว่านี้” อาจารย์กันตภณพูด ผมบอกว่าไม่เป็นแต่ว่าน้ำใสๆ มันก็ไหลรินออกมาเฉยเลย ก็ผมยายามตั้งใจเรียนมาตลอด

         “หมับ” อาจารย์เขากอดผมพร้อมกับลูบหัวผมเบาๆ เพื่อปลอบโยน

         “พี่ได้คุยกับอาจารย์ที่ดูแลกฎระเบียบน่ะ เขาบอกว่า นักศึกษาที่ตั้งครรภ์ เขาอนุโลมให้ไปเข้าเรียนได้น่ะสำหรับคนที่อยู่ปีท้ายๆ พี่จึงบอกให้เรากลับไปเรียนให้จบ พี่อยากเห็นเราเรียนจบพร้อมเพื่อนๆ “อาจารย์กันตภณบอกผม เขาอยากให้ผมเรียนจบพร้อมเพื่อนๆ ของผม

         “พี่ว่าผมควรจะกลับไปเรียนไหมครับตอนนี้ ผมรู้สึกแย่” ผมพูด อาจารย์กันตภมองผม

         “อธิการบดีโทรมาบอกพี่ว่า เราไปยื่นเรื่องขอดรอปเอาไว้และนี่จะเป็นเหตุที่เขาให้พี่ตัดชื่อเราออกไปจากการคัดเลือกบีม” อาจารย์กันตภณบอกผม

         “ว่าถ้ามันทำให้ใครหลายคนไม่พอใจและคนที่เดือดร้อนคือพี่ ผมไม่เอาก็ได้ครับ ผมอยู่ได้ถ้าไม่มีสิ่งนั้น ผมว่ามันก็ไม่ได้ช่วยอะไรผมได้หรอก ถ้าผมจบไปสมัครงานและไม่มีเส้นมีสาย งานดีดีเงินดีดีก็หายากอยู่ดี” ผมพูดกับอาจารย์กันตภณ

         “แต่พี่ไม่อยากให้เราดรอป พี่อยากให้เราไปเรียนเถอะจะได้จบพร้อมกับเพื่อนๆ และพอจบน้องก็คลอดพอดี “อาจารย์กันตภณบอกผม ตอนนี้อายุครรภ์ของผมยี่สิบสัปดาห์ ก็อีกประมาณสิบแปดสัปดาห์ ผมก็คลอดน้องแล้วแต่กว่าจะคลอดผมต้องเดินผ่านทุกสายตาที่มองมาที่ผม ผมจะทนได้หรือไม่ ผมเองก็รู้ว่าอนาคตไม่ใช่แค่ของผมแล้วมันรวมไปถึงอนาคตเจ้าลูกโซ่ของผมด้วย อย่างน้อยวุฒิปริญญาตรีก็น่าจะพอหางานทำเลี้ยงลูกได้ ผมพยักหน้ากับอาจารย์กันตภณว่าผมจะเรียนต่อให้จบ

         “พรุ่งนี้พี่จะทำเรื่องระงับการดรอปของเราไว้ก่อน ส่วนบางวิชาที่เราขาด จะให้พี่ไปช่วยคุยให้ก็ได้น่ะพี่ยินดี “อาจารย์กันตภณบอกกับผม

        “ผมไม่รู้จะขอบคุณพี่ยังไงได้เพียงพอกับสิ่งที่พี่ทำให้ผม “ผมพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองอาจารย์กันตภณ อาจารย์เขาก็มองผมเช่นกัน

        “แค่มอบสิ่งนี้" อาจารย์กันตภณชี้ไปที่ตรงอกด้านซ้ายของผม         " ให้พี่ดูแลแทนได้ไหมครับ การที่พี่ทำให้เราทุกอย่างแบบนี้ นั้นแปลว่าพี่คนนี้พร้อมจะดูแลบีมและบีมน้อยๆ อย่างดี” อาจารย์กันตภณพูด ผมก็มองอาจารย์ และจู่ๆ อาจารย์เขาก็ก้มลงและหอมที่หน้าผากผมเบาๆ ผมนี้หลับตาปรี๋เลย

        "อึก อึก อึก" และผมกลับต้องดันอาจารย์กันตภณออกจากตัวผมทันที เพราะว่า ผมกับรู้สึกคลื่นไส้อาเจียนขึ้นมาหน้าตาเฉย จนอาจารย์กันตภณต้องดมเสื้อผ้าตัวเอง

        "ผมขอโทษครับพี่กัน ผมขอถาดใส่สำหรับอาเจียนหน่อยครับ" ผมพูดและอาจารย์กันตภณก็ส่งถาดที่ลักษณะคลายเม็ดถัวมาให้ผม ผมก็ก้มหน้าก้มตาอาเจียน ผมนี้อายอาจารย์เขาที่สุดและพอผมหยุดอาเจียน อาจาย์กันตภพก็เดินเข้ามาใกล้ผมอีก คราวนี้ผมก็ผอืดผอมอีกครั้ง จนอาจารย์เขาต้องออกไปยืนถอยไปห่างผมนั่นแหละผมถึงได้หยุด

        "สงสัยน้ำหอมพี่แน่ๆ เลยบีม “อาจารย์กันตภณพูดพร้อมกับทำหน้าอย่างคนที่รู้สึกผิด

          "ผมขอโทษนะครับพี่กัน" ผมพูดเบาๆ และอาจารย์เขาก็ต้องถอยไปนั่งไกลๆ จากผมหน่อย ผมก้มลงเอามือลูบท้องน้อย มองลูกชาย นี้ร้ายไปนะแกล้งมี้แบบนี้ได้ยังไง ผมแอบต่อว่าลูกโซ่ในใจ (ที่ผมแทนว่ามี้ มาจากมามี้ คือว่าผมไม่กล้าให้ลูกเรียกว่าแม่เต็มปาก ผมกลัวว่าเขาจะถูกมองไม่ดี ถ้าเขาโตขึ้นและอาจจะโดนเพื่อนล้อเอาอีกว่าแม่เป็นผู้ชาย)

          “งั้นพี่นั่งห่างออกมาหน่อยแล้วกัน พี่จะรอจนกว่าเพื่อนของบีมจะมาน่ะ” อาจารย์กันตภพอบอกผม ผมรู้สึกผิดจริงๆ อาจารย์ก็นั่งเป็นเพื่อนผมจนเพื่อนๆ ของผมกลับมา พอทุกคนเข้ามาในห้องได้ก็มองผมกับอาจารย์ที่นั่งกันอยู่คนละมุมเลย

         “อาจารย์ค่ะ ทำไมนั่งห่างเหินกับไอ้บีมจังเลยละคะ” มะนาวถามอาจารย์กันตภณ

         “นั้นซิครับอาจารย์ นี้เพื่อนผมทำอาจารย์ไม่กล้าเข้าใกล้เลยเหรอครับ” ไอ้เป็กซ์มันถามอาจารย์ กันตภณ

         “ไม่ใช่ครับแต่พี่ไม่อยากทำให้บีมแพ้ท้องหนักขึ้นกว่าเดิมน่ะ พี่เลยคิดว่านั่งห่างๆ ตรงนี้ก็ได้” อาจารย์กันตภณพูด ทุกคนหันมามองหน้าผมกันหมด

        “บีมลูกมึงเลือกพ่อกูเข้าใจแต่พ่อประเสริฐแสนดีแบบอาจารย์กันตภณขนาดนี้ ทำไมลูกมึงไม่เลือกเขาเข้าไปว่ะ” ไอ้ฟิล์มมันกระซิบกับผม ผมเงยหน้ามองหน้ามัน

     “ก็ลูกกูยังอยู่ในท้องกูนี่ แล้วกูจะไปสอนยังไง ต้องรอออกมาก่อนนั่นแหละถึงจะสอนได้ ว่าพ่อแบบไหนที่ลูกกูควรจะมี” ผมพูดกระซิบกับบีม

         “แล้วทำไมอาจารย์กันเขาเข้าใกล้มึงไม่ได้อ่ะบีม” ใบชากระซิบถามผม

         “ไม่รู้ว่ะ “ผมพูด “มันเกิดอาการคลื่นไส้ทุกครั้งเลยไง “ผมพูดกับเพื่อนๆ ของผม เห็นอาจารย์เขากำลังตรวจงานผ่านไอแพตเครื่งจิ่วของเขาอยู่

         "เฮ้ยพี่หมอภีมปภพกลับมา” มะนาวพูด พี่หมอเดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะมองอาจารย์กันตภณ

         “พี่หมอภีมมา มึงลองดูน่ะถ้าพี่หมอภีมเข้าใกล้มึงได้แสดงว่าลูกมึงอ่ะ ไม่อยากเป็นลูกอาจารย์กันวะ” “ใบชาบอกผม ผมหันไปมองพี่หมอภีมกับอาจารย์กัน ผมหันมามองเพื่อนๆ แต่ล่ะคนพยักหน้าพร้อมกัน

           “พี่หมอภีมครับ ไอ้บีมนะครับ มันรู้สึกไม่ค่อยดีที่ท้องมันะครับ” พี่หมอภีมหันมองหน้าผม เขาเดินเข้ามาหาผมทันที

           “มันบอกว่าปวดท้องนะคะ ไม่รู้เจ็บท้องหรือเปล่า” มะนาวพูด พี่เข้ามาหาผมเดินเข้ามายืนชิดติดขอบเตียง พี่หมอเขาก้มลงเพื่อจะคลำท้องผม ก้มลงมาใกล้ชิด ผมหันไปมองพื่อนที่พยักหน้ากับผม ผมก็ยื่นจมูกไป ผมสูดลมหายใจเข้า ดูซิว่าผมจะออกอาการเหมือนตอนอาจารย์กันตภณไหม พี่หมอภีมหันมาพอดี คงเห็นผมทำจมูกฟุตฟิต เลยยืดตัวขึ้นและก็หันมาดมเสื้อคุณหมอเอง

           “พี่มีกลิ่นแปลกๆ เหรอบีม เสื้อพี่เหม็นเหรอ” พี่หมอภีมถาม นั้นไง งานเข้าเลยผม พี่เขาก็ดมหากลิ่นตัวเองใหญ่

           “ไม่มีครับพี่หมอ” ผมพูดและทำท่าเขินด้วย

           “แล้ว?” พี่หมอภีมถามผมและหันไปมองเพื่อนๆ ของผมทุกคน

            “คือพวกผมอยากให้บีมมันพิสูจน์นะครับ ว่าถ้าพี่หมอเข้าใกล้มันจะออกอาการแพ้เหมือนตอนอาจารย์กันตภณไหมนะครับ” ไอ้ฟิล์มพูด

            “อ้อ!” พี่หมอภีมร้องอ้อทันทีและหันไปมองพี่กันตภณแทน

            “สงสัย พี่กันเขาได้สิทธิ์ที่ เขาเรียกว่าอาการเหม็นสามี ได้กลิ่นสามีไม่ได้ แพ้คลื่นไส้อาเจียน “พี่หมอภีมพูด พวกผมร้องอ้อทันที ผมเงยหน้ามองพี่หมอภีม แต่อาจารย์กันตภณเขาไม่ใช่สามีผมนะเอาจริงๆ

           “มีด้วยเหรออาการแบบนี้” อาจารย์กันตภณถามพี่หมอภีม

           “มีซิ มีคนไข้หลายคนเป็นแบบนี้น่ะ ทีมีอาการเหม็นแฟน เหม็นสามี แต่พอคลอดก็หายไปเอง” พี่หมอภีมพูด พวกผมพยักหน้าพร้อมๆ กัน นี่คงทำให้อาจารย์กันตภณคลายกังวลเรื่องของผมไปได้มาก อาจารย์เขาก็อยู่พักหนึ่งก่อนจะขอตัวกลับเพราะว่าต้องไปดูแลม๊าของพี่เขา ผมก็ว่าดีน่ะพรุ่งนี้วันหยุดเพื่อนว่าอาจารย์เขาอยากพาม๊าไปพักผ่อนที่ไหนบ้าง

TBC….

50
EP.12 อาจารย์กันตภณ พยายามปกป้องบีม

      Part’ s อาจารย์กันตภณ ผมเพิ่งจะออกจากห้องที่ผมทำหน้าที่อาจารย์สอนวิชาเศรษฐศาสตร์จุลภาคให้กับนักศึกษาคณะบริหารและการจัดาร ผมยอมรับว่าผมเก่งด้านนี้และนี่ผมถึงได้เลือกเรียนสาขานี้โดยตรง เป็นวิชาที่ยากมาก ยากทั้งเรื่องเรียนและเลือกการสอบและนักเรียนนักศึกษาหลายคนแทบจะไม่อยากเรียนเลยจริงๆ แต่นี่คือวิชาบังคับของหลายสาขา ผมเดินมายังห้องพักคณะอาจารย์เพราะว่าชั่วโมงสอนของผมหมดแล้ว ผมตั้งใจว่าจะไปหาบีม แปลกน่ะช่วงนี้ บีมเจอหน้าผมเป็นต้องออกอาการแพ้ท้องทันที แพ้ท้องแบบชนิดที่ต้องวิ่งไปอาเจียน มันเลยทำให้ผมอยู่คุยกับเขาได้ไม่นาน

      “อาจารย์กันค่ะ” ผมค่อยๆหันไปมองคนที่เรียกชื่อผม อาจารย์เปรมสินีย์ เหมือนสนิทสนมแต่การกระทำนี้บอกได้ว่า เหลี่ยมทุกดอกจริงๆ เธอยิ้มให้ผม รอยยิ้มที่แปลได้ยากมากว่าตอนนี้เธอเป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่

      “สวัสดีครับดอกเตอร์” แต่ผมก็ต้องทักทายเธอตามมารยาท เธอบอกว่าเธอจบดอกเตอร์แล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา ผมเลยต้องเรียกเธอว่าดอกเตอร์เหมือนผมเช่นกัน

       “แม้เรียกอาจารย์เหมือนเดิมเถอะค่ะ ว่าแต่ช่วงนี้ไม่เจออาจารย์เลยนะคะ เลิกสอนก็รีบกลับ มีอะไรหรือเปล่าคะ” ดอกเตอร์เปรมสินี เธอพูดกับผม

       “ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ ผมสอนเสร็จก็รีบกลับบ้านครับ ผมต้องไปดูแล….” ผมพูด อาจารย์เปรมสินีมองหน้าผม

      “ม๊าของผมน่ะ ท่านอายุเยอะแล้ว” ผมพูด

      “ตกลงเด็กของอาจารย์นี้เขา มาเรียนสามวันดีสีวันหาย ตามสุขภาพเหรอคะ สามวันดีสี่วันไข้นะคะ “ดอกเตอร์เปรมสินีถามผม

      “ก็น้องเขาตั้งครรภ์และมันก็ต้องมีวันที่รู้สึกไม่ค่อยสบาย เขาเรียกว่าแพ้ท้องนะครับ” ผมพูด

        “มันเข้าใจยากหน่อยนะครับอาจารย์ ถ้าไม่เคยตั้งครรภ์มาก่อน เลยไม่มีทางเข้าใจหัวอกคนที่กำลังจะเป็นแม่นะครับ” ผมพูด เธอมองหน้าผมทันที

       “ผมเองก็ไม่เคยนะครับ ผมยังเข้าใจความรู้สึกของเขาเลยนะครับ” ผมพูดยิ้มๆ กับอาจารย์ เธอมองหน้าผม ผมสังเกตเห็นมือที่กำกระดาษอะไรสักอย่างที่เธอถือมาด้วยแน่นมาก แต่ว่ามือถือผมสั่นซะก่อน ผมเลยหยิบมือถือขึ้นมาดู เป็นเบอร์ของฟิล์ม ผมรีบกดรับทันที ผมเดินหลบไปหาที่คุยไกลจากอาจารย์เปรมสินีสักหน่อย

       //ว่าไงฟิล์ม// ผมถามฟิล์ม

      // อาจารย์กันตภณครับ ตอนนี้ไอ้บีมมันอยู่โรงพยาบาลครับ มันอาเจียนจนเป็นลมนะครับ นี้ผมได้พี่ที่อยู่ที่คอนโดเขาขับรถพามาส่งที่โรงพยาบาลพี่หมอภีมและตอนนี้พี่หมอภีมเขาก็ให้แอทมิทครับอาจารย์” ฟิล์มบอกผม

      // อาจารย์จะไปหาบีมที่โรงพยาบาลตอนนี้เลยฟิล์ม//ผมบอกฟิล์ม ผมรีบกดวางสาย ตอนนี้ตกใจมา ผมต้องรีบเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกง สายตาของดอกเตอร์เปรมสินีที่ยืนมองผมอยู่

      “มีเรื่องด่วนเหรอคะอาจารย์” เธอถามผมทันที ที่เห็นว่าผมกำลังเตรียมตัวออกไป

      “ครับ ผมต้องรีบไปน่ะครับ ขอตัวนะครับ” ผมบอกเธอก่อนจะหันหลังออกเดินออก

       “ปุ๋มได้ยินนักศึกษาเขาพูดกัน มาว่า บีมเขาอาจจะไม่ได้ท้องกับอาจารย์นะคะ และใครเป็นพ่อก็ยังไม่รู้เลย น่าเห็นใจนะคะ” ผมกำลังจะหันหลังเดินออกไปอยู่แล้วเชียว ผมจำใจต้องหันกลับมา คนที่พูดว่าน่าเห็นใจแต่สายตาของเขาไม่ใช่ตามที่พูดเลยสักนิด

       “จะเป็นเพราะว่าเขาเป็นผู้ชายหรือเปล่าคะแต่ดันมาท้องได้เหมือนผู้หญิงแบบนี้ คนทำเลยไม่อยากรับผิดชอบแต่กลายเป็นอาจารย์กันแทน ที่อยากรับทั้งที่ไม่ใช่นะคะ” อาจารย์เปรมสินีพูด ผมไม่รู่ว่าทำไมเขาคิดว่าเด็กนั้นไม่มีทางเป็นลูกผมไปได้ ดูเธอมั่นใจสิ่งที่เธอพูดออกมากเหมือนเธอรู้ว่าผมไม่สามารถมีได้จริงๆ แต่เรื่องนี้มีแค่ป๊า ม๊า เฮียและเจ๊ของผม และอดีตภรรยาผมเท่านั้นที่ทราบ

        “ผมขอไม่พูดดีกว่านะครับ อย่างน้อยก็เห็นแกเด็กเถอะครับอาจารย์ ต่อให้เขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เราเป็นครูเป็นอาจารย์สิ่งไหนปกป้องเขาได้ เราควรจะทำนะครับ ไม่ใช่ซ้ำเติมเขาครับ” ผมพูด อาจารย์เปรมสินีแค่ปรายตามองผม

        “อาจารย์คงยังไม่ทราบอีกเรื่องนะคะ พอดีปุ๋มเพิ่งจะได้รับคำสั่งให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินใจเรื่องการรับปริญญาบัตร เกียรตินิยม บุ๋มเห็นอาจารย์ยังคงเสนอชื่อเด็กคนนี้อีกครั้ง อาจารย์มีอะไรพิเศษกับเด็กไหมคะ” ผมหันมามองหน้าเธอ นี้เธอเลื่อนขั้นไปเป็นคณะกรรมการตั้งแต่เมื่อไหร่ มันก้าวกระโดดเร็วเกินไปน่ะผมว่า

        “และทุกอย่างที่ถูกนำมาตัดสิน มันมาจากความสามารถของเด็กหรือว่ามาจากความพิศวาสส่วนตัวกันแน่คะ อาจารย์” ผมหันไปมองหน้าอาจารย์เปรมสินีเธอยืนมองผม มุมปากเธอแสยะยิ้มให้ผม

        “ไม่มีครับ ผมไม่มีคะแนนพิศวาสอะไรทั้งนั้น ทุกอย่างเขาทำเอง ไม่ว่าจะรายงาน หรือว่างานต่างๆ ที่ผมสั่งและอาจารย์คนอื่นๆ คะแนนเก็บเขาก็ได้เพราะว่าเขามีงานส่งอาจารย์ทุกคนครบหมด และคะแนนพวกนี้มาจากคะแนนรวมทุกวิชาด้วยนะครับครับ” ผมหันมาตอบตรงหน้าเธอ มุมปากสวยๆ นั้นกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มอีกครั้ง

         “แต่ว่าภาคที่แล้ว อาจารย์ไปขอร้องอาจารย์ท่านอื่นๆ ให้เขาได้สอบ ทั้งที่เขาขาดบ่อยนะคะ” อาจารย์เปรมสินีพูดขึ้น เธอยืนกอดอกมองหน้าผม

         “ดังนั้นอาจารย์คงไม่โกรธนะคะถ้าปุ้มจะขอคัดค้านให้นายกันต์ธีร์ได้รับเกียรตินิยมอันดับสอง เพราะว่าเหตุผลมากมายที่ปุ้มทราบมาสำหรับเด็กคนนี้ อย่าให้ปุ้มต้องงัดออกมาเลยน่ะ อายเขาเปล่าๆ” ปุ้มพูด ผมหันไปมองหน้าเธอ ผมค่อยข้างตกใจ ไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากคนที่ลูกศิษย์เรียกเธอว่าอาจารย์แบบนี้

        “ปุ้มว่าอาจารย์ไปทำเรื่องยกเลิกดีกว่านะคะ เด็กจะยังไม่เสียมากไปกว่านี้” ปุ้มพูด ผมพ่นลมหายใจออกมาทันที ตอนนี้สายตาผมประสานกับสายตาของเธอ

        “แค่เขามาคลุกอยู่กับอาจารย์และดันมา… ท้องอีก…เป็นปุ้มคงไม่กล้าเดินเข้ามาหรอกค่ะ “อาจารย์เปรมสินีพูด

        “ผมอยากทราบว่าเด็กไปทำอะไรให้คุณ” ผมถามอาจารย์เปรมสินี จังหวะนั้นประตูถูกเปิดเข้ามาพอดีเพื่อขัดจังหวะผมสองคน

        “อุ้ย! ขอโทษนะคะ พอดีแพรวาไม่รู้ว่าอาจารย์มีแขกนะคะ” แพรวา เปิดประตูเข้ามา คงไม่แปลกเพราะว่าแพรวาเรียนการบัญชีกับอาจารย์เปรมสินี เธอมองผมกับอาจารย์เปรมสินีสลับกันไปมา

       “ผมขอตัวนะครับอาจารย์ ผมรีบครับ “ผมพูดตัดบทก่อนจะเดินออก ผมหันมาปิดประตูที่แพรวาเปิดค้างเอาไว้

       “อาจารย์ค่ะ ตกลงแพรวาได้เข้ารอบคัดเลือกเกียรตินิยมอันดับสองจริงๆใช่ไหมคะอาจารย์” เธอถามอาจารย์เปรมสินี ด้วยน้ำเสียงที่ดีใจมาก แต่ผมรู้สึกแทนบีมเลย ที่เขาควรจะได้เพราะว่าเขาตั้งใจแต่ดันไปให้คนที่ใช่เงินซื้อทุกอย่างแบบแพรวา ผมก็เดินปิดประตูลง บางครั้งการที่เป็นคนเถรตรงก็ไม่ได้จะช่วยให้ได้โอกาสดีดีกับใครเขาสักเท่าไหร่ นี้ผมคิดถูกแล้วใช่ไหมที่เลือกมาเป็นอาจารย์สอนในมหาลัย มากกว่าไปนั่งทำหน้าที่ผู้อำนวยการโรงเรียนของพ่อผมเองแต่นี่ผมยกให้พี่ชายไปหมดแล้วเพื่อให้หลานๆ ของผมได้ดูแล

       “ปีก” ผมรีบกุญแจรีโมทรถยนต์มากดปลดล๊อกรถเก๋งคันหรูของผมทันที

       “เจ๊กกันค่ะ” เสียงเล็กๆ ผมไม่ได้ยินบ่อยแต่ก็จำได้ดี แพรวานั้นเอง เธอวิ่งมาหาผม

       “ว่าไงแพรวา” ผมหันหน้ามาถามเธอ

       “แพรวาว่าจะถามเจ๊คกันตั้งแต่บนห้องแล้วค่ะ แต่เห็นเจ๊กกันกับดอกเตอร์เปรมสินีย์คุยกันด้วยสีหน้าที่ตึงเครียดนะคะ “แพรวาพูดขึ้น

       “มีอะไรจะถามเจ๊กล่ะแพรวา” ผมถามแพรวา

       “เจ๊กกันได้คุยกับพี่เธียรไหมคะ แพรวาโทรหาเมื่อวันทั้งวัน และวันนี้ก็โทรแต่พี่เธียรไม่ยอมรับสายของแพรวาเลยค่ะ” ผมหันมามอง

       “เธียรมันติดเรียนหรือเปล่าแพรวาเพราะว่าเฮียของเจ๊ก ป๊าของเธียรเขา ยื่นคำขาดแล้วว่าต้องเรียนให้จบได้แล้ว” ผมพูดกับแพรวา

       “กลางคืนก็เรียนเหรอคะ แต่ถ้าบอกติดเรียนแพรวาว่ามันไม่น่าเชื่อสำหรับพี่เธียรสักเท่าไหร่นะคะ” แพรวาพูด ผมก็ยิ้มอ่อนๆ ให้เธอ

       “เจ๊กก็ได้คุยกับเธียรเมื่อวันก่อน เธียรเขาโทรมาบอกเจ็คว่า เฮียเกริกล๊อกไม่ให้เขาใช้บัตรกดเงินได้น่ะ” ผมพูดกับแพรวา

        “เหรอคะ” แพรวาถามผมเสียงอ่อยๆ

        “แพรวา เจ๊ครีบน่ะจะไปทำธุระ เราก็ลองโทรหาเขาอีกทีแล้วกันน่ะ เจ็กไปล่ะ “ผมหันมาพูดกับแพรวาก่อนจะเดินไปขึ้นรถอีกฝั่งด้านคนขับรถ

       “เจ๊กกันค่ะ “แพรวาเรียกผมไว้อีกครั้งหนึ่ง ผมหันหน้ามามองเธอว่ามีอะไรอีกอย่างนั้นหรือ

       “คือ บังเอิญว่าแพรวาได้ยินที่อาจารย์พูดกันนะคะว่า มีนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ สาขาเอกภาษาอังกฤษ ท้องเหรอคะ “แพรวาถามผม ผมหันมามองแพรวา ผมเองก็ยังไม่ได้พูดกับเธอเลยว่าอย่าเอาเรื่องแบบนี้ไปพูดเพราะว่ามันไม่สมควรอย่างยิ่ง

       “แถมเด็กคนนี้ยังชอบมาหาเจ๊กกันที่ห้องพักอาจารย์ มาช่วยงานเจ๊กกันบ่อยๆ ด้วยค่ะ อันนี้เขาพูดกันมานะคะ” แพรวาพูด ผมหันไปมองหน้าเธอ

      “แพรวาก็ไม่ได้อยากสนใจหรอกค่ะ แค่ได้ยินเขาพูดกันมาด้วยค่ะ และหวังว่าเด็กในท้องคนนั้นจะไม่ใช่ลูกของเจ๊กกันนะคะ” แพรวาพูด ผมหันมามองหน้าเธอ ผมเองก็ไม่อยากจะพูดอะไรมากในตอนนี้เพราะคนที่เสียหายคือบีม

       “เจ๊กคิดว่าเราควรจะมาโฟกัสที่ความรู้สึกเขามากกว่าที่จะมาคิดว่าที่เขาพูดกันมันจริงหรือไม่จริงๆ ต่อให้เราไปพูดเป็นเรื่องจริงก็ตามแต่ถ้าเราทำร้ายจิตใครสักคนไปแล้ว มันยากจะทำให้กลับคืนนะแพรวา” ผมบอกแพรวา

       “และการที่เอาเรื่องคนอื่นไปพูด จะเหตุผลอะไรก็ตาม ก็ไม่สมควรอย่างยิ่งแพรวา อาม่าเขาไม่ชอบเรื่องนี้ ให้ใครสักคนพูดให้คนอื่นดูแย่ เราควรจะเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างนะแพรวา” ผมหันไปบอกเธอ เธอมองหน้าผมนิ่งที่ผมยกเอาม๊าของผมมา แพรวารู้ว่าเธียรวิชญ์รักอาม่าเขามากแต่ว่าม๊าผมกับแพรวานี่เรียกได้ว่าไม้เบื่อไม้เมากันเลย เธอยืนกำมัดแน่น

        “เจ๊กรีบจริงๆ เจ๊กไปก่อนนะแพรวา” ผมพูดและรีบชิ้งตัดบทขอตัวทันที ผมเองก็อยากให้เด็กคนนั้นน่ะเป็นลูกผมซะด้วยซ้ำ ผมเปิดประตูรถเข้าไปนั่ง ผมเห็นแพรวาหันไปคุยกับเพื่อนๆ ของเธอ ที่ยืนรอเธออยู่ห่าง ๆ ในบางครั้งเธอเหมือนคนที่ พูดโดยไม่คิดหน้าคิดหลังเกินไป และความเห็นอกเห็นใจไม่มีเลยด้วยซ้ำ ผมพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะออกรถไปทันที พอผมขับรถออกมาได้สักพัก ก็มีสายโทรเข้ามาหาผม ผมกดรับสายผ่านบรูทูธทันที

        //สวัสดีครับ ผมรองศาสตราจารย์กันตภณครับ//

        //สวัสดีครับคุณกัน ผมอธิการบดีนะครับ//

       //ครับท่าน มีอะไรให้ผมช่วยครับ พอดีผมกำลังจะ…//

       //กำลังจะไปหาลูกศิษย์อาจารย์เหรอครับ// ผมไม่แปลกใจว่าทำไมท่านอธิการบดีถึงได้ทราบ ผมคิดว่าอาจารย์เปรมสินีคงไปรายงานซิน่ะ

       //ครับ ผมกำลังจะไปเยี่ยมลูกศิษย์ของผม เขาป่วย เขาต้องการให้ใครสักคนช่วยเขา ผมเป็นอาจารย์ ผมก็ยื่นมือเข้าไปช่วย มันถูกต้องอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ อธิการบดีครับ// ผมพูด

        //ผมไม่ได้จะโทรมาด้วยเรื่องนี้หรอกนะครับคุณกัน ผมพึ่งได้รับเอกสารจากเด็กของคุณกัน เขาขอดรอปการเรียน ดังนั้น เรื่องที่อาจารย์ขอเอาไว้ว่าให้ชื่อเขายังอยู่ในการคัดเลือกเกียรตินิยมคงต้องถอนออกไปได้เลยนะครับ กฎระเบียบต้องไม่ดรอปการเรียนนะครับ// อธิการบดีพูด ผมนิ่งไปในทันที บีมทำเรื่องดรอปเหรอ ก็เราคุยกันแล้วนิว่ามาเรียนได้เพราะว่าแค่เทอมเดียวเอง

       //ว่าไงครับคุณกัน// อธิการบดีถามผม

       //ผมเคยบอกคุณแล้วว่า อย่าเอาตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีของคุณมาแลกกับเด็กแบบนี้ คุณน่ะเก่งมากนะครับ ผมเสียดาย// อธิการบดีบอกผม ผมพ่นลมหายใจออกมาทันที

       //ผมขอระงับชื่อเขาเอาไว้ก่อน ผมโทรมาแจ้งคุณกันเพียงแค่นี้ จะให้คนอื่นแจ้ง เขาก็เกรงว่าคุณกันจะคิดว่าพวกเขากลั่นแกล้งเด็กของคุณเอง // อธิการบดีพูด

     //ครับท่าน ผมจะเข้าไปจัดการเรื่องนี้เอง ขอบคุณนะครับท่าน// ผมตอบไป ผมเสียดายและเสียใจ แต่ว่ามันคงเป็นทุกที่ซิน่ะระบบใต้โต๊ะ ที่ทำให้เพิ่มโอกาสในทุกช่องทาง อธิการบดีก็วางสายจากผมไปทันที มือผมจับพวงมาลัยรถเอาไว้แน่นเลย

       TBC...
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9 10
สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด