กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 ... 6 7 8 9 [10]
91
Boy's love story / Re: อริทางคับแคบ (Pretending) - No.10 Confessed (11/04/24)
« กระทู้ล่าสุด โดย Shonennihon เมื่อ 11-04-2024 15:17:50  »

ถึงแม้ว่าจะโมโหเพื่อนอย่างไอ้ไตเติ้ลมากแค่ไหน แต่หนนี้คงต้องวางทิฐิตัวเองลงชั่วคราว ในขณะที่ผมนอนนิ่งอยู่บนเตียงหลังจากถูกคอปเตอร์อุ้มไปอาบน้ำชำระร่างกายเรียบร้อยก็ยกโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของตนเองขึ้นมาโทรศัพท์หาไอ้หมอเถื่อนเพื่อนตนเอง

“สวัสดี ว่าไง ทำไมโทรหากูได้ตั้งแต่เช้า!! มีอะไรก็พูดมากูเพิ่งลงเวรมา กูพร้อมจะร่วงลงเตียงได้ทุกเมื่อ!! ห้านาทีเท่านั้น!! ฃพูดมาก่อนที่กูจะหลับ!!”

แค่ได้ยินเสียงและคำทักทายแกล้งโง่ของมันแล้วผมก็หูร้อนไปหมด แทบจะสะกดกลั้นความโกรธต่อไอ้คนขายเพื่อนแทบไม่อยู่ แต่พอมาดูสภาพร่างตนเองที่ต้องขอพึงพามัน จึงอดทนไว้ก่อน

ผมอ้ำอึ้งที่จะเริ่มต้นอยู่นาน คอปเตอร์ที่นั่งห่วงอยู่ห่าง ๆ เพราะผมโวยวายใส่หลังจากออกจากห้องน้ำ ก็ทำท่าทางบอกใบ้ว่าให้เขาบอกเองไหม ?

ผมแสยะยิ้มแล้วยกนิ้วกลางให้มัน!!

“คือ…กู… ขอความช่วยเหลือหน่อย คือ กูว่า กูมีแผล ….ที่ …. เอ่อ ….. กลัวจะอักเสบ มึงหายามาให้กูตอนนี้เลยได้ไหมวะ?”

“เป็นอะไรวะ” เสียงที่ปลายสายมีอาการสั่นๆ ที่ปลายประโยค

ผมนึกถึงหน้าที่กลั้นขำของมันออกเป็นฉาก ๆ  มือก็กำหมัดแน่นไว้

“เอ่อ…. คือ เป็นแผลมั้ง เลือดออกเยอะเลย”

“ตรงไหน?”

“มึงนี่ก็ถามแปลกๆ ตรงไหนมันก็เหมือนกันไหมแผลน่ะ!!”

“ไม่เหมือนดิ!! มึงจะรู้ดีกว่าหมอเรอะไง!!”

“อย่ามากวนตีนกู!!”

“ไม่ได้กวนตีน กูจัดยาให้ไม่ถูก” เป็นอีกครั้งที่รู้สึกเห็นปลายสายยิ้มอย่างสะใจ

“เชี้ย!! ….ที่…. เอ่อ… ที่…ก้…..น…”

“ไอ้สัด!! ดังๆสิกูไม่ได้ยิน เป็นอะไรก็บอกอย่าอายหมอ!!”

เส้นความอดทนผมมันขาดดัง ผึง!!

“กูไม่นับถือมึงเป็นหมอไอ้นกสองหัว กูไม่คิดเลยว่าว่าจะมีเพื่อนแบบมึง ไอ้สัด!! ไม่ช่วยแล้วยังลีลาอีก คนอย่างมึงไม่ต้องมาให้กูเห็นหน้าอีกเลย!!!”

ผมโวยลั่นใส่โทรศัพท์ แล้วก็วางสายใส่มันไปเลย

ผมวางโทรศัพท์หอบหายใจอยู่พักใหญ่ คอปเตอร์ที่เห็นท่าไม่ดีจึงเดินมาโอบไหล่ผม อย่างทะนุถนอม ผมใจเย็นลงอย่างประหลาด ไม่น่าเชื่อว่าหลังจากผมมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับมันไปเพียงชั่วคืน มันจะทำให้ผมรู้สึกกับมันเปลี่ยนไปขนาดนี้

สักพักผมจึงเริ่มรู้สึกตัวเองว่ากำลังใจอ่อนกับไอ้คนที่เคยทำร้ายเรา ผมมองแรงใส่มันอีกครั้ง แน่นอนว่าอีกฝ่ายยอมล่าถอยแต่โดยดี ด้วยท่าทีหงอยห่อเหี่ยว

“ไม่ต้องไปไหนก็ได้อยู่ข้างกันแบบนี้ก็ได้”
แอบตกใจเหมือนกันที่ตัวเองพูดแบบนั้นออกไปโดยไม่คิด

แน่นอนว่าไอ้นักเลงนั้นมีท่าทางหูลู่หางกระดิกกระโจนเข้ามานั่งใกล้ๆ แทบจะทันที

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หน้าจอแสดงให้เห็นเป็นหน้าไอ้เพื่อนทรยศยิ้มแฉ่ง หากไม่คิดว่าโทรศัพท์มันแพงผมคงหาอะไรมาทุบให้หน้าหักไปแล้ว

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายโดยที่ไร้เสียงทักทาย

“มึง……” ไอ้เพื่อนทรยศลากเสียงยาวใส่

ผมยังไม่มีอารมณ์จะตอบมัน รู้แต่ว่ายิ่งได้ยินเสียงมันก็ยิ่งโกรธ ความร้อนจากในอกมันปะทุเดือดปุดๆ จนเหมือนจะได้ยินเสียงความเดือดของอารมณ์ตัวเองชัดเจน

“กูจำเป็นนะ มึงฟังกูก่อน กูไม่อยากให้มึงเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ ไหนๆ ทุกคนก็สำนึกผิดแล้ว และกูว่าทุกคนก็ได้รับผลกรรมในแบบของตนเองกันแล้ว”

“กูไม่เข้าใจที่มึงพูดสักประโยค!!!” ผมตอบกลับไปด้วยอาการอดกลั้นถึงขีดสุด

“หา!! พวกมึงนี่นะ กูละปวดหัวจริง นี่พวกมึงได้กันโดยไม่คุยกันเรื่องที่ผ่านๆ หรือไง!!”

ผมนิ่งไปพักหนึ่ง รู้สึกเหมือนมีของแหลมแทงหัวใจตรงเส้นเลือดดำ

“มึงคิดว่าไอ้เชี้ยคอปเตอร์จำมึงไม่ได้เรอะ ทั้งๆมันส่องไอจีมึงเป็นปีๆ!!  เข้าขั้นโรคจิตเลยล่ะ”

ผมรู้สึกเสียววันหลังวูบ ไม่เคยคิดเลยว่า ไอจีที่เราเพิ่งสมัครเมื่อสมัยมหาวิทยาลัยจะถูกคอปเตอร์หาเจอและแอบส่องมาโดยตลอด

“ฟังกูดีๆ นะ มันแอบชอบมึงตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้ว ส่วนมันชอบมึงตอนไหน เพราะอะไร กูไม่รู้ มันไม่เล่าให้กูฟัง!! รู้แต่ช่วงนั้นมันมีปัญหาครอบครัว  มันก็เลยไม่ค่อยมีเพื่อน หลังจากที่มันชอบมึงก็แอบมองมึงมาตลอด มันเห็นว่ามึงเจอไอ้พวกอันธพาลรังแกบ่อยๆ มันก็คิดปกป้อง แต่มันรู้ว่าหากทำตัวเป็นฮีโร่ สุดท้ายฮีโร่นี่แหละตายก่อน มันจึงต้องไปสนิทกับไอ้พวกเลวนั้น”

ฟังเพื่อนตัวเองเล่ามาถึงตรงนี้ก็รู้สึกแปลกๆ ในอก ไม่รู้จะรู้สึกแบบใดดี ระหว่างดีใจ กับ สับสน


“กูก็เพิ่งมารู้จริงๆ นี่แหละว่า ทุกอย่างที่มันทำน่ะ มันพยายามช่วยมึงทางอ้อมนะ หากมึงรู้ว่าจริงๆ แล้วมึงจะโดนอะไรบ้าง กูว่ามึงโชคดีแล้วที่โดนมันแกล้งน่ะ และสุดท้ายก็เป็นไอ้คอปเตอร์นี่แหละมี่มาสารภาพเสียทุกสิ่งให้อาจารย์ปกครองฟัง จนต้องลงโทษไอ้พวกเกเรพวกนั้นให้ไม่กล้าทำอะไรใครอีก!!”

“นี่กูแค่สรุปให้นะ รายละเอียดมึงไปถามมันเอง มันแกล้งมึงมันก็ทุกข์ใจ พอมึงทำเรื่องย้ายไป มันก็ได้แต่โทษตัวเอง อยากจะไปขอโทษ แม่งก็ตาขาวไม่กล้า การที่มึงเข้ามาฝึกงานในบริษัทของมันนี่ถือว่าสวรรค์เมตตามันแล้ว!!“

ผมนั่งฟังอย่างเงียบเชียบ ผมมองไปทางคอปเตอร์ที่เหมือนกับก้มหน้ายอมรับความจริงที่ไอ้เติ้ลเล่ามา

“สุดท้ายอยู่ที่มึงแล้ว!! ว่าจะเอายังไงกันต่อ!!” ไอ้เติ้ลพูดทิ้งท้ายก่อนจะวางหู เพื่อที่จะเอายามาให้ผม

ผมบอกตามตรงว่าไม่รู้จะแสดงอากัปกิริยาอย่างไรกับเหตุการณ์นี้ สมองมันสับสนไปหมด แต่กลับเป็นคอปเตอร์ที่ขยับเข้ามาใกล้และเริ่มบทสนทนาก่อน

“เราไม่ขอแก้ตัวอะไร เรารู้ว่าเราผิด เรารู้ว่าเราอ่อนแอ เราไม่ได้เข้มแข็งเหมือนที่ใครๆ คิด ที่ผ่านมาเราก็แค่แกล้งทำเป็นเข้มแข็งเพื่อให้อยู่ในโรงเรียนได้ เรายอมรับผิดที่เราผิดกับวินไปเสียทุกเรื่อง แต่เราไม่ไหวแล้ว เมื่อครั้งที่วินเดินเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง มันเหมือนพระเจ้าได้ให้โอกาสเราอีกครั้ง ได้มีโอกาสแก้ตัว และขอให้ได้รักกับนาย แต่เราก็อ่อนแอเกินกว่าที่จะยอมรับความจริงได้ สุดท้ายมันก็เลยเป็นแบบนี้ เรากลัวว่าหากเราทำว่าเราจำนายได้ตั้งแต่แรกเราคงไม่ได้คุยกันโชคดีที่ได้ไปปรึกษาไอ้เติ้ล……”

“เราไม่เข้าใจว่า มันไปสนิทกับนายตอนไหน ก็ในเมื่อเรากับมันก็ติดต่อกันตลอด!!” ผมเผลอพูดแทรกเพราะคอปเตอร์มันดันพูดชื่อไอ้เพื่อนสนิทที่ผมยังมีคำถามค้างคาใจอยู่จำนวนมาก

“เอ่อ….. เรื่องนั้น คือ….. ก็ไม่ได้สนิทกับมันแต่ว่าแฟนของมันเป็นเพื่อนสนิทเราน่ะ!!”

อ้าว!! ไอ้เพื่อนเลว เห็นหญิงดีกว่าเพื่อนเสียแล้ว (หรือชายวะ มันก็แทบไม่เคยเล่าเรื่องแฟนมันเลย

“คือ……แล้ว….หากเราจะขอยกโทษจากนายเนี่ย….. จะได้ไหม? เราสาบานเลยว่าจะไม่ทำให้นายต้องเสียใจอีกต่อไป”  คอปเตอร์ถามเสียงเศร้า

ผมนึกทบทวนทันทีหลังจากจบคำถามจากคนด้านข้าง ที่ผ่านมาผมยอมรับว่าผมเสียสุขภาพจิตไปกับเรื่องถูกรังแกสมัยมัธยมพอสมควร แม้จะถึงขั้นไปปรึกษาจิตแพทย์ แต่ผมก็ผ่านมันมาได้แล้ว มันทำให้ผม เข้มแข็งขึ้น และเป็นแรงขับดันให้เปลี่ยนแปลงตัวเอง ผมนึกย้อนกลับไปก็เข้าใจดีว่า สมัยนั้นก็มีคนแกล้ง กับ คนโดนแกล้งนั่นแหละ  ช่วงเวลาเด็กวันรุ่นที่คึกคะนองก็คงอยากเป็นอย่างแรกมากกว่า ผมยังเคยคิดแบบนั้นเลย ในที่สุดผมก็คิดอะไรได้

“ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” ผมพูดขึ้นมาเสียงดังหลังจากนิ่งเงียบไปพักใหญ่

คอปเตอร์ได้แต่ทำหน้างุนงงกับคำพูดของผม ผมยิ้มและตอบกลับไป

“จะให้เรายกโทษให้กับเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา บอกเลยว่ายาก ไม่รู้ว่าจะทำได้ไหม”

คอปเตอร์หน้าซีดลงและลดศรีษะลงเล็กน้อย

“แต่จากนี้ก็ขอดูนะว่านายจะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่า?” ผมพูดต่อ

คอปเตอร์หันมามองหน้าผมอย่างุนงง ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงได้โง่นักนะ

“ถึงจะไม่ยกโทษให้แต่ก็คาดโทษไว้ก่อน หากว่าวันไหนนายเป็นแฟนเลวๆ ของเราเสียแล้ว รับรองวันนั้นได้ได้ชดใช้ทั้งต้นทั้งดอกแน่นอน!!”

“แปลว่า…..”

“อยากเป็นแฟนเราไม่ใช่เหรอ?”

คอปเตอร์พยักหน้าระรัว

ผมก็พยักหน้าตอบ เท่านั้นแหละ คอปเตอร์โผเข้ามากอดผมเต็มแรง ผมล้มลงไปนอนบนพื้นเตียง ก้นกระแทกสะเทือนไปหมด ผมร้องออกมาด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว

คอปเตอร์ขอโทษขอโพยไม่หยุด แต่ก็พรมจูบที่แก้มผมทั้งสองข้างไม่หยุดเหมือนกัน


…………..
92
พูดคุยทั่วไป / Guo farm accumulated wealth, the ants lost all their money
« กระทู้ล่าสุด โดย jonghon เมื่อ 11-04-2024 14:20:57  »
 Guo Wengui is under the false banner of " anti-communist ", but he actually cheated money! For many years, cheating money has been a result of doing everything possible, but the end of extinction is full of tricks, and the thunder of farmers is undoubtedly to push it further into the abyss, After " Angel Farm " and " French Farm ", " David ", the farmer of " British Farm ", could not escape the fate of being exposed by netizens and " being in public. " Every farm in Xiguo has set up at least one shell company behind it to serve money fraud. Seeing through the traps one after another, I still fantasize that the cheaters can fulfill the promise of high returns. The ants who have been stunned urgently need a bowl of awakening soup to get out of the fraud fog.
93
EP.67ดิวบอกติ๊กไปแล้วว่ารักแอ้

              Part's ดิว หลังจากทีพ่วกผมไปช่วยปูมาเรียบร้อยแล้ว ผมก็ขับรถพาต้นข้าวไปส่งที่บ้าน ต้นข้าวบอกพ่อมันว่าไปทำธุระเลยให้เพื่อนไปส่งส่วนบลูนั้น ไอ้แชมป์เด็กรุ่นน้องอาสาไปส่งแทน  ไอ้ต้นข้าวนี้ควันออกหูทันที ผมก็พากันกลับบ้าน พวกแจ็ค บอย ธรรณ์และหลุยส์เขาจะไปกรุงเทพกัน พายก็ไปหาอาเปรมดิ์ ส่วนไอ้คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ไม่มีใครรู้เลยว่าจะเอายังไง ไม่รู้จะกลับมาบ้านไหมเพราะว่าไม่มีใครเจอหลังจากที่ผมออกมาจากโรงเรียน  ผมว่ามันควรจะใช้เวลาคิดให้มากกว่านี้ ว่าเรื่องที่มันโกรธน่ะสมควรไหม ไอ้เดี่ยวมันไปช่วยปูเพราะว่าเขาโดนพาตัวไปทำมิดีมิร้ายและมันอาจจะสืบเนื่องมากจากทีพวกผมจ้างปูด้วยมั้ง
            "เดี่ยว พาขึ้นห้องมึงไปเลยว่ะ "ผมบอกไอ้เดี่ยว ไอ้เดี่ยวมันพยักหน้าและก็อุ้มร่างปูขึ้นไปห้องนอนมันไปทันที
            "พรุ่งนี้เราไปหาลูกๆ กันนะแอ้เพราะว่าปูอยากไปหาแม่เขาด้วยแน่ๆ "ผมพูด แอ้หันมามองผม
             "ดิว แอ้ยังไม่รู้เลยว่าพ่อจะไปที่ค่ายฯ ไหม"แอ้พูด
            "แอ้ลูกๆ คิดถึงเราแย่แล้วนะ"ผมพูดกับแอ้
            "โอเค ดิวโทรถามพี่เดฟ ว่าอาภีมไปไหม พี่เดฟว่าจะถามพี่เอ็กซ์อยู่ มีเอกสารที่อาภีมต้องเซนต์ให้พี่เดฟด้วย "ผมหันมาบอกแอ้และรีบกดโทรศัพท์หาพี่เดฟพี่ชายผมทันที
            //ว่าไงดิว//พี่เดฟรับสายผมและถามผมทันที
            //พี่เดฟ ตกลงอาภีมไปที่ค่ายฯมั้ยพี่อาทิตย์นี้อ่ะ//ผมถามพี่เดฟ
            //เอ็กซ์บอกพี่ว่าไม่ได้ไปนะ//พี่เดฟบอกผม ผมก็หันมาบอกให้แอ้อ่านปากว่า” อาภีมไม่ไปที่ค่ายฯ” แอ้พยักหน้า
            //ผมสองคนจะไปที่ค่ายฯกันและจะเข้าไปที่โรงพยาบาลด้วย ผมจะพาเพื่อนไปหาแม่เขา ผมให้พ่อรีเฟอร์เขาไปรักษาที่โรงพยาบาลในค่ายทหารนะครับพี่เดฟและแม่ของเพื่อนผมเขาเคยเป็นแม่นมที่ดูแลพี่ดิม ดรีม พี่โดม ด้วยนะพี่เดฟ //ผมบอกพี่เดฟ
            //อ้าวเหรอ! เออแต่พี่ได้ยินพี่โดมพูดอยู่นะว่ากำลังสั่งยาจากนอกที่ราคาค่อนข้างแพงให้ คนที่เคยเลี้ยงดูพี่โดมตอนแรกเกิดน่ะ ก็น่าจะคนเดียวกันนี่ล่ะมั้ง// พี่เดฟบอกผม
            //และผมว่าจะพาแอ้ไปสวีทกันบนเขาด้วยอ่ะพี่เดฟ// ผมพูดและมองแอ้ เป็นที่แรกที่ผมมีอะไรกับแอ้ด้วย
            //โอเค ไปสวีทกัน แต่ไม่ต้องเมคเบบี้มาน่ะ//พี่เดฟพูดร้องห้ามผมแบบนี้ มันยากนะเนี๊ยะ!
            //ถ้ามึงซ่ามารอบนี่ไอ้เอ็กซ์มันกระทืบมึงจริงๆ แน่เพราะเรื่องเก่ายังไม่เคลียร์เอาเรื่องใหม่มาอีก รอบนี้ไม่ขวางด้วย” พี่เดฟพูด ผมคิดในใจพี่จะยอมให้น้องรักถูกเพื่อนรักพี่กระทืบจริงๆ เหรอ ผมเดาว่าไม่หรอก บ้านผมรักกันดี
           //เออ แค่นี้ก่อนนะดิว ไอ้เอ็กซ์มันขึ้นมาแล้ว พี่จะเข้าไปที่ค่ายฯ เหมือนกัน พี่คงไปถึงวันเสาร์ค่ำๆ และขึ้นเวรให้พ่อเช้าวันอาทิตย์อีก//พี่เดฟพูด
           //โอเคเจอกันพรุ่งนี้น่ะพี่เดฟ//ผมพูดกำลังจะกดวางสาย
           //แล้วเจอกันดิว//พี่เดฟก็กดวางสายจากผม

                ผมหันไปหาแอ้ทันที ผมกอดแอ้ ไซ้ลงที่ตรงซอกคอขาวนวล ดีใจจะได้เจอลูกๆ แล้ว แอ้คงรู้สึกเหมือนกันกับผม ผมสองคนถึงมีลูกอายุน้อยแต่ผมรักลูกผมมากเพราะว่าสิ่งที่พ่อทำให้ผมสองคนมันเห็นภาพความรักของพ่อผมเลยอยากส่งต่อให้ลูกผมรับรู้เช่นกัน
              “ดิวพอก่อน” แอ้ปรามผม แอ้คงกลัวเดี่ยวจะลงมาเห็นเข้า
              “แอ้ คืนนี้ไม่มีมาร จัดหนักนะคืนนี้อ่ะ” ผมพูดอ้อนแอ้และยังใช้ปากผมซุกไซ้ไปด้วย แอ้ก็ปล่อยให้ผมไซ้ไปตามซอกคอขาวๆ นั้น มือแอ้ก็ลูบไล้แผ่นหลังผม ตอนนี้ไม่ห้ามแล้ว
              "พอก่อนดิว แอ้จะไปต้มข้าวต้ม วันนี้ทานข้าวต้มกันน่ะ แอ้ทำให้ปูด้วย "แอ้พูด ผมก็ยิ้มพร้อมกับพยักหน้าว่าได้ ผมก็ไม่อยากให้แอ้ทำหลายอย่างเหมือนกัน ทานเหมือนๆ กันง่ายดี แอ้น่ะเป็นคนทำอาหารเก่งตั้งแต่มีลูกก็ว่าได้ แอ้ก็ทำให้ลูกทานบ่อยๆ แอ้ทำอาหารอร่อยไม่แพ้ผู้หญิงเลยเพราะอย่างนี้ไงผมถึงอยากให้แอ้อยู่กับผมและลูกๆ ไปตลอด ผมยืนมองแอ้เดินเข้าครัวไป ผมนั่งลงเปิดดูฟุตบอลที่ผมชอบ เพื่อว่าจะมีทริคดีดี จะได้นำมาใช้ จู่ๆ ก็มีคนเปิดประตูเข้ามา คนนั้นก็คือติ๊ก
            "ติ๊ก"ผมเรียกติ๊กเพราะว่ามันเห็นผมแต่ยอมไม่ทักผมซะนี้และทำท่าจะเดินขึ้นไปบนบ้านซะอย่างนั้น
            “ติ๊ก!!” ผมเรียกมันอีกที ติ๊กหยุดและค่อยๆ หันมามองผมสายตาเหมือนว่าผมเรียกเขาทำไม
            "ติ๊ก พรุ่งนี้กลับบ้านหรือเปล่า"ผมถามติ๊ก
            "กลับ…” มันตอบผมได้ห้วนมากเหมือนไม่เต็มใจจะตอบ
             “แต่กูจะไปกับพี่ตุ๊พรุ่งนี้และกูจะไปนอนกับพี่ตุ๊คืนนี้ด้วย มึงจะได้ไม่มีมารไง"ติ๊กพูด นั้นแสดงว่ามันได้ยินที่ผมพูดกับแอ้ และนั้นก็แปลว่าติ๊กมันน่าจะมาได้สักพักหนึ่งแล้วซิ ติ๊กมันก็รีบเดินขึ้นไปที่ชั้นสองทันที ผมก็ลุกขึ้นผมเดินตามติ๊กขึ้นไปชั้นบนเช่นกัน ผมไม่อยากคุยให้แอ้ได้ยินว่าติ๊กกลับมาเพราะว่าแอ้จะออกมาปกป้องมันอีก ผมคิดว่าผมควรจะต้องพูดอะไรบ้างแล้ว
             "ติ๊ก "ผมดึงแขนมันเอาไว้ ติ๊กสะบัดมือผมให้ปล่อย ผมก็ปล่อยมือ
            "กูมันเป็นมารของมึงสองคนไปแล้วใช่ไหมวะ ดิว!"ติ๊กมันถามผม น้ำเสียงมันโกรธเอามาก
            "ติ๊ก มึงทำตัวเองทั้งนั้น ทั้งที่แต่ก่อนมึงก็ไม่เป็นแบบนี้น่ะติ๊กและเราสามคนสนิทกันมากแถมแอ้มันก็ตามใจมึงมากกว่ากูอีก กูไม่รู้อะไรทำให้มึง มึงถึงได้...เปลี่ยนไปแบบนี้ว่ะ "ผมถามติ๊ก
           "มึงมันไม่เคยรู้เลยใช่ไหมวะ ว่าอะไรมาทำให้กูเป็นแบบนี้ ดิว! "ติ๊กมันพูดและมองผม ผมก็มองหน้าติ๊กมันกลับ
           "มึงรักแอ้มันใช่ไหม"ติ๊กถามผม
           "ใช่! กูรักแอ้และแอ้ก็รักกู "ผมตอบติ๊ก
           "สรุปคือมึงสองคนรักกัน นานแค่ไหนแล้วละ ที่มึงปิดกู"ติ๊กถามผม ว่านานแค่ไหนแล้ว
           "กูรักแอ้มาตลอด แต่..ติ๊กกูสองคนยังเป็นเพื่อนมึงแต่มันก็ต้องมีช่องว่างกันบ้าง มึงเข้าใจไหม"ผมพูดกับติ๊ก
            "แอ้คือทุกอย่างของกู "ผมพูดอีก ติ๊กมองผมและหันหลังจะเข้าห้อง
            "อย่าตามกู!! "ติ๊กยกมือเบรกผม ผมได้แต่ยืนพ่นลมออกมานี้มันไม่เข้าใจผมสองคนเลยใช่ไหม ทั้งที่ผมคิดว่ามันจะเข้าใจผมสองคนที่สุดเพราะเราอยู่ด้วยกันไปไหนกันตลอดและมากกว่าไอ้แจ็ค บอยและพายอีก
            "เดี่ยว"ผมเรียกเดี่ยว ก็มันดันเปิดประตูออกมาพอดีและมันก็คงได้ยินคนคุยกันอยู่ที่หน้าห้องมัน
            "ปูเป็นไงบ้างว่ะเดี่ยว"ผมหันมาถามไอ้เดี่ยวมัน
            "ดีขึ้นแล้ว"เดี่ยวพูด ผมมองสำรวจดูเห็นว่าไอ้เดี่ยวมันเปลี่ยนชุดด้วยและนี้ก็แปลว่ามัน
            "เหนื่อยเลยดิมึง เอาไข่ลวกไหม"ผมถามมันแบบขำ ขำ
            "กูเพิ่งเคยเห็นปูสภาพนี้ น่ารักดีเหมือนกันนะมึง ลองกับแอ้มั้งไหมวะ"ไอ้เดี่ยวมันถามผม
            "น่าลองวะ"ผมพูด “แต่กูไม่กล้าหรอก ถ้าแอ้มันรู้เอากูตายเลยถ้าทำแบบนั้นน่ะ” ผมบอกไอ้เดี่ยว
            "แอ๊ด"เสียงประตูถูกเปิดออกมา ติ๊กมันออกมาจากห้องติ๊กมันมองผมกับเดี่ยวแว็ปหนึ่งและมันเดินทำท่าจะเดินออก ทั้งที่ไอ้เดียวมันก็ยืนมองอยู่ มันก็ไม่ทักทายไอ้เดี่ยวเหมือนกันแสดงว่ามันคงยืยฟังผมกับไอ้เดี่ยวคุยกันอยู่
             "ติ๊ก"เดี่ยวมันเรียกติ๊กแค่ชะงักแต่มันก็เดินต่อส่วนไอ้เดี่ยวมันก็ทำท่าจะตามออกไปแต่ว่าผมดึงมันเอาไว้
             "มันกำลังโกรธกูกับแอ้ กูบอกมันว่า กูรักแอ้และตอนนี้กูว่ามึงอย่าเพิ่งไปเข้าหน้ามันเลยว่ะเพราะมึงจะซวย สองเท่ามากกว่ากู"ผมพูดเตือนไอ้เดี่ยว ไอ้เดี่ยวมันหันมามองหน้าผม ผมพยักหน้าเบาๆ
              “เออ กูยอมรับว่า กูไม่ควรพูดไป แต่กูก็ต้องการให้เขารู้ว่า ควรปล่อยกูสองคนได้แล้ว ไอ้เดี่ยว” ผมพูด
              “เพื่อนก็คือเพื่อนแต่มันต้องมีที่ว่างให้กูสองคน แบบคนรักบ้าง” ผมพูดกับไอ้เดี่ยว มันก็พยักหน้าเหมือนจะเข้าใจ
             “ต่อให้โตมาด้วยกันก็เถอะหรือว่าเกิดวันเดียวกันเพราะว่าเขาเลือกมา แต่กูกับแอ้ก็ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเองป่ะว่ะ” ผมพูด ไอ้เดี่ยวมันพยักหน้าเบาๆ
             "แอ้กำลังต้มข้าวต้มให้มึงกับปูว่ะและพรุ่งนี้พาปูไปเยี่ยมแม่เขาด้วยกันว่ะ และจะพาไปสวีทกันบนยอดเขา อุทยานใกล้ค่ายทหาร สุดยอดว่ะ "ผมพูด และหยักคิ้วให้เดี่ยว
              "ไปมาบ่อยละซิ"ไอ้เดี่ยวมันถามผม
               "ไปถามแอ้ดู เด็ดกว่าไปเสม็ดอีก เสร็จทุกรอบและลูกคนเล็กก็ได้มาจากที่นี้ว่ะ “ผมพูดกับไอ้เดี่ยว
               "เออ กูรอข้างล่างนะ ปูดีขึ้นแล้วค่อยพากันลงไปกินข้าวล่ะ "ผผพูดและเดินลงไป เห็นแอ้ยืนมอง อยู่ที่ประตู อย่าบอกนะว่าออกมาเจอติ๊ก
               "แอ้ มองหาใครน่ะ"ผมถาม ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าแอ้มองหาใครจากหน้าต่าง
                "ติ๊กมาใช่ไหมดิว "แอ้หันมาถามผม แสดงว่าไม่ได้เจอกัน
                 "อืมม มาเอาของและติกก็จะไปนอนบ้านพักครูพัฒน์กับพี่ตุ๊ พรุ่งนี้เขาจะกลับ กทมกับพี่ตุ๊เลยนะแอ้ "ผมบอกแอ้
                 "ดิว พูดอะไรกับติ๊กหรือเปล่า"แอ้กันมาถามผม
                "เออ ไม่ได้พูดแต่ดิวแค่ถามว่า จะกลับบ้านหรือเปล่าแค่นั้นเอง"ผมพูด ผมรู้ว่าแอ้ไม่เชื่อผมหรอก
               "ดูเหมือนติ๊กมันโกรษน่ะ"แอ้พูดพรอ้มกับกอดอกมองผม แบบขอความจริง แต่ผมนะว่าที่คุณหมอ ดริฟเก่ง
               “ใช่ มันโกรธที่แอ้ไปกับดิวไงและโกรธไอ้เดี่ยวอีกละ ที่มันไปช่วยปู “ผมพูดกับแอ้
               “แน่ใจนะ แล้วทำไมติ๊กไม่เข้ามาหาแอ้ล่ะ “แอ้ถามผม
               “มันพาลไปหมดแหละแอ้ ทำยังกับว่าไม่รู้จักนิสัยติ๊กมัน” ผมพูดก่อนจะเข้ามาสวมกอดแอ้จากด้านหลัง
                “หมับ “ผมเอาคางเกยไว้ที่หัวไหล่ของแอ้
               “แอ้เชื่อดิวบ้างซิ” ผมพูดจาอ้อนแอ้ แอ้พยักหน้าแบบจำใจเชื่อ ผมรู้ดี
                "แอ้ มันต้องมีช่องว่างกันบ้าง ระหว่างเราและติ๊กนะแอ้ "ผมพูดกับแอ้ ผมจับไหล่แอ้เอาไว้ แอ้มองหน้าผม ผมรู้ว่าแอ้เสียใจ แอ้รักและเป็นห่วงติ๊ก ผมก็รักมันนะ แต่มันเลือกทำตัวเอง
               "ข้าวต้ม จะเสร็จแล้วล่ะดิว แล้วนี่ปูเป็นยังไงบ้าง "แอ้ถามผม
                 "ดีขึ้นแล้ว เดี่ยวมันปราบปูซะหมอบไปแล้ว "ผมพูดกับแอ้
                "หื่นพอกันกับมึงเลยนะ” นี่เมียชมครับผมคิดในใจ
                 “ใครเขาเข้าใจส่งไอ้เดี่ยวมันมาเป็นเพื่อนมึงเนี๊ยะ!"แอ้พูดยิ้มๆ ก่อนจะหันทำท่าจะเดินกลับเข้าไปในครัว วันนี้ไม่มีใครมาส่งข้าวส่งน้ำเพราะว่าพวกผมแพลนจะกลับกันหมดตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่แผนของผมดันเปลี่ยน เปลี่ยนอย่างที่ตั้งใจเลย เรียกได้ว่าเข้าทางเลยดีกว่า ที่จะพาแอ้ไปหาลูกๆ ของผม ผมเดินตามแอ้ไปติด
                 "หมับ..” ผมก็คว้าตัวแอ้เอาไว้ก่อนและจับแอ้หมุนกลับมาหาผม แอ้ไม่ทันตั้งตัวผมก็จูบแอ้อย่างหนักหน่วง ผมบดขยี่เบาที่ริมฝีปากนั้น แอ้มาโอบรอบคอผม ผมดันแอ้ไปบนโต๊ะ ปากยังทำงานอยู่ แอ้ตอบสนองผมได้ดี เอ๊ะ ไม่ขัดขืนเลยสงสัยว่าคืนนี้ดิวได้จัดก่อนไป บ้านพักบนเขาแน่นอน
                 "อะฮึม"เสียงใครสักคนกระแอมเพื่อขัดจังหวะของผมสองคน ผมสองคนก็หันไปมองและคนที่ทำเสียงก็คือไอ้เดี่ยวและมันพาปูลงมาด้วย แอ้รีบผลักผมออก ตัวมารก็คือไอ้เดี่ยวนี่แหละ ไม่ใช่ไอ้ติ๊กแล้วแหละผมว่า
                  "ข้าวต้มเสร็จหรือยังล่ะ ถ้ายังกูจะขึ้นไปต่อกันบ้าง "ไอ้เดี่ยวพูด แอ้หันไปคว้ากล่องทิชชูจะปาไอ้เดี่ยวผมคว้าเอาไว้ซะก่อน
                  "แอ้อย่าเอาทิชชู้ปามัน"ผมห้ามแอ้
                  "มึงเป็นห่วงเพื่อนมึงเหรอเหรอ"แอ้ถามผมทันที
                  "กล่องทิชชูมันไม่เจ็บ ปาไปก็เท่านั้น จะไปหาอันอื่นปามัน เช่น สากตำพริกหรืออะไรประมาณนี้ ปาแล้วเจ็บจริง "ผมพูดกับแอ้ ไม่ได้ห้ามนะ แต่ให้เปลี่ยนอุปกรณ์ดีกว่าไหม แอ้มองกล่องกระดาษทิชชูและพยักหน้าเห็นด้วยว่าปาไปก็เจ็บ ปูนี้ปิดปากขำ ไอ้เดี่ยวมันโดนหลบหลังปูทันที
                  "ไอ้เชี้ยดิว มึงแม่งก็รักกูมาก แทนที่มึงจะห้ามไอ้สัส"ไอ้เดี่ยวมันพูด
                "มึงไม่ใช่เมียกูนิ มาเป็นเมียกูดิ กูจะรักมึงมากกว่านี้ "ผมพูดเล่นกับมัน ไอ้เดี่ยวมันยกนิ้วกลางให้ผมเป็นคำตอบว่าไม่
                "เป็นยังไงบ้างปู"แอ้เดินไปถามปู
                 "มึนๆ อยู่เลยน่ะ "ปูพูด
                 "ก็โดนยา...อุบ"ผมกำลังจะพูดไอ้เดี่ยวปิดปากผมทันที
                 "ยานอนหลับ"ไอ้เดียวพูด ไอ้เดี่ยวไม่ได้ปูว่าโดนยาปลุกเซ็กส์
                  "อืม แค่ยานอนหลับ เดี๋ยวก็ดีขึ้น ไปทานข้าวดีกว่าน่ะ "แอ้พูด ผมเดินตามแอ้ ผมมองไอ้เดี่ยว
                 "กูไม่อยากให้ปูรู้สึกแย่ ที่รู้ว่าตัวเองโดนยาปลุกเซ็ก"เดี่ยวพูด ผมพยักหน้ารับทราบ
                  "พรุ่งนี้ตกลงไปหาแม่ของปูกันป่ะว่ะ "เดี่ยวพูด ผมพยักหน้าโอเค ตอนนี้แอ้กับปูนั่งคุยกัน ดูคุยกันถูกคอจริงๆ ผมนั่งทานข้าวต้มกัน และก่อนจะพาขึ้นห้องไปแพ็คกระเป๋าเพื่อออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า แอ้ขึ้นไปก่อน ผมเดินออกไปจัดรถ เช็ครถ ไอ้เดี่ยวด้วย ปูขอตัวไปพักยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่
                  “แอ้” ผมเดินขึ้นห้องมาแล้ว ผมเห็นแอ้ จัดของลงกระเป๋าเสื้อผ้าลูกๆ ที่แอ้ไปสังออนไลน์มา แอ้นะรู้ใจลูกมากกว่าผมซะอีกและลูกๆ ก็ชอบชุดที่แอ้ซื้อให้ทุกคนเลย
                  “มีแต่ของลูกอ่ะ” ผมพูดแอบงอน
                   “ของดิว ในตู้” แอ้พูดและผมก็เดินไปเปิดดู ผมก็เจอเสื้อผมแอ้ซื้อให้ผมเช่นกัน ผมชอบใส่เสื้อโปโล ทำคอตั้งๆ เท่ๆ
                   “หายงอนยังอะ” แอ้ถามผม ผมก็คลี่ดูเสื้อสีฟ้าซะด้วย แถมลายใหม่ล่าสุดอีกด้วย
                   “หายแล้วครับ แอ้อาบน้ำกันน่ะ “ผมชวนแอ้อาบน้ำ ผมรู้ว่าแอ้ยังไม่ได้อาบน้ำ แสดงว่ารอผมแน่นอน ผมเดินมาขอมือแอ้ และหยักไหล่ไปเข้าห้องน้ำอาบน้ำกัน แอ้ก็ลุกขึ้นตามผมไป ผมกับแอ้แค่อาบน้ำกันไม่ได้ทำอะไรกันรอเอาไว้คืนพรุ่งนี้ดีกว่า
                   TBC....
94
EP. 9.1ครั้งแรกบีมเจอดวงใจของเขา(ครึ่งหลัง)
              Part’s กันต์ธีร์ ผมหันมามองอาจารย์กันตภณก่อนจะขึ้นไปนอนรอที่เตียงคนไข้ ขณะที่ผมเอนตัวลงนอน พี่พยาบาลก็เข้ามาจัดการจับชายเสื้อของผมถลกขึ้นจนเห็นท้องที่นูนขึ้นมาหน่อยๆ และปรับของกางเกงให้ต่ำลงไปที่หัวหน่าว แต่ว่าพี่เขามีผ้าปิดให้ไม่ให้โป้จนเกินไป ระหว่างนั้นอาจารย์กันตภณเขาหันไปมองทางอื่นเหมือนเขินผมเองซะมากกว่า แต่เพื่อนผมซิ มองจ้องที่พุงน้อยของผมทันที ระหว่างที่พยาบาลกำลังวุ่นวายกับการเตรียมทุกอย่างรอหมอภีมที่ก้มหน้าก้มตากับการเตรียมตัว ผมหันมาบอกพวกเพื่อนๆผม ไม่ให้จ้องมองพุงน้อยๆของผมขนาดนี้ ผมเขิน

             “ก็อยากดูอ่ะ พุงมึงเล็กกว่าพุงกูอีกบีม” มะนาวพูด

             “เอาล่ะ ตื่นเต้นกันไหมครับ”พี่หมอภีมสวมถุงมือเรียบร้อยก่อนจะลากเก้าอี้สูงมาและนั่งลงข้างๆผมค้อนไปทางกลางลำตัวผมหน่อย

             “ตื่นเต้นไหมครับ เพราะว่าวันนี้น่าจะชัดมากหน่อย กว่าครั้งแรกเพราะว่าน้องเริ่มโตขึ้นมากแล้ว “พี่หมอภีมพูด พี่หมอภีมหันไปหยิบเครื่องมือที่ใช้หนาบที่หน้าท้องของผม เจลสีฟ้าๆ ถูกบีบออกมาแต้มไว้ที่ตรงหัวเครื่องสแกนและพุงน้อยๆของผม ตอนนี้ผมเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องอีกครั้ง

             “ดูที่หน้าจอทีวีกันได้เลยนะครับ “พี่หมอภีมปภพพูดกับผมและหันไปยิ้มให้ทุกคนที่ตั้งตารอโดยเฉพาะเพื่อนๆ ของผม

             “อุ้ย!!” ผมสะดุ้งสุดตัวเพราะความเย็นของเจลใสๆ ที่คุณหมอเทเอาไว้ที่ตรงหัวสแกน ตอนนี้ได้ทาบลงที่หน้าท้องของผม กลิ้งไปมาอยู่พักหนึ่งเพื่อเสาะหาหัวใจตัวน้อยๆ เครื่องเริ่มทำงานผมเริ่มเห็นค่าการเต้นของหัวใจเด็กน้อยในท้องของผม มะนาวที่ยืนกุมมือฟิล์มยังกับลุ้นประกาศดาวเดือนคณะเลย

             “นี้ไง เจอแล้วเด็กน้อย” ภาพแรกที่หมอภีมให้ผมดูคือใบหน้าของเด็กน้อย

             “เห็นอะไรกันไหมครับ” พี่หมอภีมถามขึ้นก่อนจะหันไปมองรอบและหันมามองผม ผมน่ะเห็นใบหน้าเด็กน้อย ที่นอนลอยตัวในถุงน้ำคล้ำของผม ผมรู้สึกรักเขาอย่างบอกไม่ถูก

              “เห็นจมูกค่ะ จมูกโด่งมากเลยอ่ะค่ะลูก งานดีตั้งแต่ยังไม่เกิดเลยค่ะลูก” มะนาวพูด ทุกคนหันมามองมะนาวเป็นตาเดียวกันเลย

               “ดูซิ โด่งมาก โด่งกว่าพวกแกอีกอ่ะ” มะนาวหันไปพูดและชี้แต่ล่ะคน ของผมก็โด่งแต่ไม่มากโด่งพอประมาณ

               “อีมะนาว ปากมึงเหรอ มาว่าจมูกพวกกูแบน “ใบชาพูด ผมก็มองลูกน้อยของผมผ่านทีวี น้ำตาผมเริ่มไหล จู่ๆ ก็มีคนส่งกระดาษทิชชูมาให้ผม คนนั้นคืออาจารย์กันตภพ ผมรับมาซับน้ำตา น้ำตาแห่งความดีใจและต่อไปนี้ผมจะพยายามทานให้มากเพื่อลูกโซ่ของผม

             “จมูกโด่งมากจริงๆ น่ะ สงสัยพ่อจะโด่งมากเหมือนกันน่ะ” พี่หมอภีมปภพพูด ก่อนจะหันมามองผมที่หุบยิ้มเฉยเลย ผมเองก็ไม่รู้ว่าไอ้คนนั้นมันโด่งไหมแต่โครงหน้าของคนนั้นมันคุ้นๆหน้าผมอยู่น่ะ ผมหันมามองอาจารย์กันตภณ มีความคลายกันพอสมควรแต่คนละแนวกัน

             “เออจะว่าไป จมูกอาจารย์กันตภณเขาก็โด่งมากเหมือนกันน่ะ ” ผมสะดุ้งผมได้ยินหมอภีมปภพพูดกับอาจารย์กันตภณ

             “ก็โด่งกันทั้งบ้านนั้นแหละ โดยเฉพาะลูกๆ ของเฮียเกริกน่ะ “อาจารย์กันตภณหันมาพูดกับพี่หมอภีมปภพ ดูทั้งคู่สนิทกันมากดูจากสายตาของพี่หมอภีมมอง ก่อนจะหันกลับมาที่หน้าจอมอนิเตอร์นั้น

              “ผมก็ดกซะด้วยดูซิ และส่วนใหญ่คุณแม่ที่ลูกผมดกในครรภ์มักจะเป็นกรดไหลย้อนกันทุกคน “คุณหมอภีมปภพพูด แต่ผมน่ะหุบยิ้มตั้งแต่ที่หมอภีมปภพพูดว่าคุณแม่ คือผมไม่ใช่คุณแม่ไง พี่หมอภีมปภพหันไปมองอาจารย์กันตภณที่นั่งขยิบตาให้เขาอยู่ ก่อนที่คุณหมอจะพยักหน้าสองทีติดและหมอภีมปภพก็เลื่อนเครื่องมือสำหรับสแกนไล่ลงไปเรื่อย ๆ จน

              “เอาล่ะเรามาดูซิว่า เพศไหนดี อย่าหนีบขาซิลูก ลุงหมอมองไม่เห็นครับ” ผมต้องอมยิ้มให้ลูกโซ่ ที่นอนหนีบขาไม่ยอมให้ลุงหมอเห็น

              “อาขาซิลูก อามะนาวอยากเห็นมากเลยค่ะลูก “มะนาวไม่พูดเปล่าทำท่าแบมือออกเหมือนกับจะพยายามบอกหลานไม่ให้หนีบขา

              “อยากเห็นอะไรมะนาว หื่นนะมึงนะ นี้หลานโว้ย!” ฟิล์มหันมาถามมะนาว

              “พี่หมอครับ ผมว่าหลานไม่ให้ดูเพราะมะนาวมันนี่แหละ หลานเลยกลัวครับ ผมเอามันไปไว้ข้างนอกก่อนดีกว่าไหม “ ใบชาพูด
 
             “ ไม่ไป กูอยากู เพราะว่า กูอยากรู้ผู้หญิงหรือผู้ชายจะได้ซื้อของให้ถูกๆ ไง” มะนาวพูด

              “เจอแล้ว นี้ไง “ผมนี้เรียกได้ว่าลุ้นตัวโก่งมาก ผมก็อยากรู้ว่าน้องจะเป็นเพศไหน

             “มีจู๋ครับ คงไม่ต้องบอกแล้วว่าเพศไหน ยินดีด้วยได้ลูกชายครับ” หมอภีมปภพพูดออกมา ผมก็มองที่หน้าจอ

             “เยสสส!!” พวกเพื่อนๆ ผู้ชายผมทำท่าเหมือนตอนเชียร์ฟุตบอลแล้วลูกเข้าประตูไปกันเป็นแถว

            “โธ๋เอ๊ย!! นึกว่าจะได้หลานสาวมาแต่งสวยด้วยกัน แต่อามะนาวก็รัก เพศไหนก็รัก มีจู๋ก็รัก” มะนาวพูด

            “อ่ะลุงหมอไม่ดูก้นแล้วก็ได้ลูก แม้เตะใหญ่เลยน่ะ ตัวแค่นี้สงสัยแสบไม่เบาน่ะ” พี่หมอภีมปภพแซวลูกผม ก็ต้องเตะไปทางด้านหลังทุกทีที่พี่หมอเอาที่สแกนไปวนใกล้ๆ ก้นเขา

            “พี่หมอจะนัดอีกทีเดือนหน้าน่ะ ตอนนี้คงเริ่มรู้สึกน้องดิ้นหน่อยๆ แล้วซิใช่ไหมบีม “พี่หมอภีมปภพหันมาถามผม ผมก็พยักหน้าว่ารู้สึกแล้ว

            “ไอ้หมอ แล้วบีมจะคลอดยังไง คลอดเมื่อไหร่” อาจารย์กันตภณ ถามพี่หมอภีม พี่หมอภีมหันมามองหน้าผมก่อน

           “ก็คงต้องผ่าคลอดว่ะกัน เพราะว่า…” พี่หมอภีมพูด

            “ไอ้บีมมันไม่มีรูใช่ไหมคะ ที่จะให้น้องออกมาได้นะคะ” มะนาวชิ่งตอบแทนทันที ทำเอาพี่หมอภีมและอาจารย์กันตภณหันไปมองมะนาวทันที พวกเพื่อนผมก็เช่นกัน

            “มะนาว!!” เพื่อนๆ ผม เรียกมะนาวพร้อมกัน

           “มึงตรงไปไหม เกรงใจพี่หมอกับอาจารย์หน่อยเถอะมึง” ใบชารีบห้ามมะนาวทันที

           “ก็ถูกนะครับมะนาว แต่ตรงไปนิด หึๆ” พี่หมอภีมปภพพูดปนหัวเราะกับมะนาว ที่ยืนเกาหัวตัวเอง ผมก็ก้มลงเอามือลูบท้องตัวเองเบาๆ

           “ต้องกำหนดผ่าเอาไว้ที่อายุครรภ์ 38 วีคขึ้นไป แต่จริงๆ ไม่อยากให้เกินสี่สิบวีค ไม่อยากให้รอจนเจ็บท้องเลยน่ะ “พี่หมอภีมบอกกับอาจารย์กันตภณ

           “จองห้องพิเศษเอาไว้เลยน่ะไอ้หมอ” อาจารย์กันตภณบอกพี่หมอ

          “แม้คนสำคัญของเพื่อนรัก จัดให้อยู่แล้ว” พี่หมอภีมปภพหันมาบอกอาจารย์กันตภณ

          “งั้นก็เรียบร้อยแล้วครับ และหมอจะนัดอีกทีเดือนหน้าเลยน่ะ และพยายามทานหน่อยน่ะบีม และหมอคิดว่าอาการแพ้น่าจะเบาๆ ลงบ้างแล้ว อย่าลืมทานวิตามินที่หมอให้น่ะบีม “พี่หมอภีมปภพพูด ก่อนจะส่งกระดาษทิชชูให้ผมเช็ดทำความสะอาดเจลที่เลอะเทอะที่พุงของผมออกไป พี่หมอภีมพยักพเยิดเรียกอาจารย์กันตภณ ออกไปคุย ผมก็ค่อยๆ ลุกขึ้น โดยมีเพื่อนๆ มาช่วยกันพยุงผมขึ้น แต่ละคนเข้ามากอดผม ผมดีใจที่ผมมีเพื่อนดีและคอยอยู่เคียงข้างผมตลอด ผมก้มลงเอามือลูบท้องผมเบาๆ เจ้าคือดวงใจของพ่อ พ่อจะเลี้ยงดูเจ้าด้วยสองมือของพ่อเอง

          “บีม คราวนี้มึงคงรู้น่ะว่า ลูกต้องการมึงอ่ะ ดูแลตัวเองน่ะ “ฟิล์มพูด ผมมองหน้าเพื่อนรักของผม แต่ผมสังเกตที่ตรงมุมปากมันอ่ะ

          “ไอ้พี่เอ็มมันทำร้ายมึงอีกแล้วเหรอ” ผมถามฟิล์ม ผมเคยต่อยหน้ามันด้วยน่ะแต่ว่าผมก็ต่อยไปมันก็ไม่เจ็บเท่าไปไหร่ไอ้เอ็มน่ะ

           “กูไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับพี่ฟ้าแล้ว มันคบไม่กล้าเข้ามาหากูอีกบีม” ฟิล์มพูด ผมพยักหน้า ผมค่อยๆเดินออกไปจากห้อง อาจารย์กันตภณกับพี่หมอภีมยืนคุยกันอยู่ สีหน้าอาจารย์กันตภณดูเครียดเล็กน้อย 

           “กลับได้บ้านเลยไหมบีม พี่ไปส่ง” อาจารย์กันตภณหันมาบอกผม ผมว่าจะกลับพร้อมเพื่อนสักหน่อย แต่ว่าเพื่อนๆผมซิ พยักหน้าให้ผมไปกับอาจารย์กันตภณดีกว่า

           “มีอะไรผิดปกติ มาหาพี่ได้ตลอดเวลาเลยน่ะบีม “ พี่หมอภีมปภพบอกผม ผมพยักหน้าขอบคุณ จังหวะนั้นผมเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง สวมเสื้อกาวน์แพทย์เดินออกมา เขามายืนรอพี่หมอภีมปภพ

            “บีมไปครับ พี่พาไปหาซื้อะไรทานด้วยน่ะและไปซื้อพวกนมเอาไว้ดื่ม ซื้อพวกน้ำขิงด้วย พี่สาวอาจารย์บอกว่ามันช่วยได้ คุกกี้ที่มี่ขิงด้วยก็ช่วยมากน่ะ …บร้า” อาจารย์กันตภณเดินเข้ามาหาผมและจะพาผมเดินไปห้องรับยา ขณะที่กำลังจะเดินผ่านคุณหมอผู้หญิงคนนั้น เขามองผมกับอาจารย์กันตภณ ไม่วางตา

           “หมอสายป่านมีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ” หมอภีมปภพถามหมอผู้หญิงคนนั้น ผมหันมองอาจารย์กันตภณ ดูสีหน้าอาจารย์กันตภณเปลี่ยนไปทันที
           “ดูห่างเหินไปนะคะ พี่ภีม” หมอคนนั้นพูดพร้อมกับทำท่าจะควงแขนพี่หมอภีมแต่พี่หมอภีมเขาถอยหลังออกไป
           “สายป่านก็แค่จะมาทักพี่กันนะคะ ในฐานะที่สายป่านเคยเป็น…”พี่เขาพูด พวกผมมองหน้าเธอเหมือนจะรอฟังว่าเขาเคยเป็นอะไรกับอาจารย์
            “หมอสายป่านครับ ผมมีเคสหนึ่งที่ส่งไปให้คุณน่ะ รบกวนอธิบายให้ผมฟังทีนะครับ เชิญทางนี้ครับ “พี่หมอภีมรีบถึงแขนหมอคนนั้นเดินออกไป
            “เราไปรับยากันดีกว่านะจะได้กลับไปพักนะบีม”อาจารย์กันตภณพูด สีหน้าอาจารย์ตอนนี้ ผมเดาไม่ออกเลย

            ผมเดินตามอาจารย์กันตภณไป ผมหันหลังไป เธอหันมามองผมกับอาจารย์กันตภณพอดี  อาจารย์กันตภณจับมือเอไว้ เหมือนกุมมากกว่า ผมก็ไม่ได้สะบัดออกเพราะผมคิดว่าน่าจะมีอะไรที่ทำให้อาจารย์แสดงออกมาแบบนั้นและมันอาจจะแย่ลงถ้าผมสะบัดมือเขาออกไป ผมก็หันมายิ้ม แต่มีคนแอบแซวผมกับอาจารย์อยู่ด้านหลัง นั้นคือเพื่อนของผมเอง

   “อาจารย์ค่ะ พวกหนูไปนั่งตรงโน้นน่ะ รู้สึกอยากดูอยู่ห่างๆพอคะ อิ้ววว” มะนาวพูดและปล่อยให้ผมนั่งเก้าอี้ข้างๆอาจารย์กันตภณ ส่วนเพื่อนๆของผมไปนั่งไกลออกไป ผมหันมาพยักหน้าว่ามานั่งใกล้ๆ แต่ล่ะคนก็สั่นหัวกันหมด
   “บีม…”อาจารย์กันตภณเรียกชื่อผม
   “ขอบคุณนะครับ”อาจารย์กันตภณบอกผม ผมพยักหน้า ถึงผมจะไม่เข้าใจทั้งหมดก็ตาม แต่ผมรู้ว่าในใจของอาจารย์กันตภณกำลังวุ่นวาย ผู้หญิงคนนั้นอาจจะมีอะไรที่เป็นความหลังที่ไม่คนดีกับอาจารย์เขาแต่ผมก็ไม่ถามว่า ผมได้แต่ยิ้มและนั่งรอยาตรงนั้นเงียบๆ ไม่มีคำพูดใดออกมามีแต่มือที่กุมมือผมเอาไว้อย่างนั้น  มันรู้สึกดีน่ะแต่ว่าผมกลับยังคิดว่า หัวใจของอาจารย์เขายังมีเจ้าของอยู่ดี 
   
        TBC….
95
นิยายที่โพสจนจบแล้ว / Re: เจ้านายจ๊ะจ๋า Update ตอนพิเศษ
« กระทู้ล่าสุด โดย b2friend เมื่อ 11-04-2024 10:59:38  »
นานๆ กลับมาอ่านที ช่วยฮีลใจให้ชุ่มชื่น ด้วยความน่ารัก
อ่านกี่รอบก็ไม่เคยผิดหวังค่ะ  :L1: :L1: :L1:
96
EP. 9ครั้งแรกที่บีมเจอดวงใจของเขา(ครึ่งแรก)

       Part’ s กันต์ธีย์ วันนี้เป็นวันนัดตรวจครรภ์ครั้งที่สอง ครั้งแรกที่ไปตรวจเลือดผมไม่ได้เจอหมอภีมปภพเพื่อนของอาจารย์กันตภณและครั้งที่หมอภีมนัดผมหลังจากวันนั้น ผมก็ติดสอบแต่ว่าผมก็ไม่ได้มีอะไรที่ผิดปกติ เลยทำได้แค่คุยโทรศัพท์กันเล่าถึงอาการของผม ผมไม่ค่อยแพ้มาก ผมก็ไปสอบมาเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่ของอาจารย์เปรมสินีที่เขาไม่ยอมให้ผมสอบ แต่ก็ไม่เป็นไร ผมคงลงเรียนใหม่



              ผมได้ย้อนกลับไปที่ผับนั้นอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้อะไร ไปเจอน้องผู้หญิงที่ผมรู้จักเธอบอกว่าผมไม่ควรย้อนกลับไปอีก ผมเป็นเหยื่อ เหยื่ออะไรผมยังไม่รู้เลย ผมว่าน้องคงเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ ไอ้ฟิล์มมันจิตตก ห้ามผมไปหาข้อมูลคนที่ทำให้ผมท้องเด็ดขาด ผมเลยต้องหยุดไว้แค่ ได้ชื่อมันมา ว่าเธียรวิชญ์ แค่ชื่อนามสกุลก็ไม่ได้ มันจะมีประโยชน์อะไร ผมเลยคิดว่าพอดีกว่า

              ผมยืนเพ่งพิจารณาแหวนที่ไอ้คนนั้นให้เอาไว้ มันราคาแพงมากแต่ผมไม่คิดอยากจะเอาไปขายหรือจำนำ ไม่ใช่ว่ากลัวเจ้าของมันจะรู้น่ะแต่ถ้ามันรู้ก็จะดี ว่าสิ่งที่มันทำไว้กับผมน่ะ แต่คิดอีกทีอย่ารู้เลยก็ได้ ผมอยู่กันได้สองคนพ่อลูก ผมคิดในใจ ผมก็เลยหันไปเก็บเอาแหวนใส่ไว้ในลิ้นชักเหมือนเดิม มันอยู่ตรงตู้ลิ้นชักข้างเตียงนอนผมตลอด



                 Rrrrr มือถือผมดังขึ้น ผมเดินไปหยิบมาดู เบอร์อาจารย์กันตภณ ผมก็รู้สึกแย่น่ะที่จะให้คนที่มีอนาคตที่ไกลอย่างอาจารย์กันตภณมารับผิดชอบผม ที่มีแต่ทำให้เขาเสียชื่อ



      //ครับพี่กัน// ผมกดรับสายอาจารย์กันตภณ



      //บีม วันนี้หมอภีมเขานัดอัลตราซาวน์ใช่ไหมครับ/// อาจารย์กันตภณ เป็นคนที่คอยโทรถามผมบ่อยกว่าแม่ของผมซะอีก รองลงมาก็คือเพื่อนๆ ผม ส่วนแม่ผมส่วนมากจะส่งข้อความมาถามมากกว่า แม่บอกว่าฟิลิปส์คอยพยายามจะฟังแม้จะฟังไม่ออก บางที่ก็ใช้ตัวช่วยแปลเพื่อแอบฟังแม่คุยกับผม ฟิลิปส์มันเป็นพวกหัวหมอด้วย



      //ครับ พี่กันรู้ได้ยังไงครับ// ผมถามอาจารย์กันตภณกลับทันทีด้วยความแปลกใจ



       //ก็หมอภีมเขาเป็นเพื่อนกับพี่นี่ครับบีม และพี่ก็โทรไปถามเกี่ยวกับเรากับหมอภีมมาตลอด หมอภีมเลยบอกพี่มานะครับ// อาจารย์กันตภณบอกผม ผมก็ลืมไปซะสนิทเลย



      //ครับพี่กัน// ผมตอบอาจารย์กันตภณด้วยน้ำเสียงที่เบามาก



      // พี่เจอเพื่อนๆ เราน่ะและเขาบอกกับพี่พวกเขามีสอบกันอีกวิชาวันนี้ ดังนั้นพี่จะเป็นคนพาเราไปหาหมอภีมเอง /// อาจารย์กันตภณพูดขึ้น มันทำให้ผมต้องเงียบไปชั่วขณะ ไหนพวกนั้นบอกว่าว่างไงวันนี้ แต่จู่ๆ ก็มีสอบ สงสัยวิชาของอาจารย์เปรมสินีซินะ ผมเลยไม่มี แต่ก็ดี ผมมีพบหมอพอดีเลยวันนี้



      //ถ้าอย่างนั้นผม…// ผมกำลังจะบอกว่าไปแท๊กซี่เอง



      // เดี๋ยวพี่พาเราไปหาหมอเองน่ะ พี่ว่างตอนบ่ายนะครับบีม // อาจารย์กันตภณรีบบอกผม



      // อย่าปฏิเสธพี่น่ะ บีม เพื่อนเราบอกว่าช่วงนี้เราทานไม่ค่อยได้ อาเจียนก็บ่อยขึ้น พี่กลัวว่าเราจะไปเป็นลมกลางทางไม่มีใครช่วย และพี่บอกเราว่าพี่อยากดูแลเรา //อาจารย์กันตภณพูดหว่านล้อมผมจนได้



      //พี่กันสงสารผมเหรอครับ//ผมเผลอถามอาจารย์กันตภณไป



     //พี่ว่าเรารู้คำตอบดีว่าทำไม ไม่ใช่แค่คำว่าสงสารนะบีม พี่มีมากกว่านั้น// อารจารย์กันตภณพูด มันทำให้ผม ก้มลงมองสิ่งที่ผมถือไว้อยู่ แหวนไอ้คนที่ทำให้ผมท้องลูกของมัน มันจะรู้ไหมว่าผมนี้เป็นยังไงบ้าง กับการกระทำของมันวันนั้นน่ะ ไอ้คนเห็นแก่ตัว ไอ้ไม่มีความรับผิดชอบ ไอ้ผู้ชายเฮงซวย (เออ ผมก็ผู้ชายนี่หว่า) ไอ้ ไอ้ นึกคำด่าไม่ออกแล้ว



      //พี่ขับรถออกมาจากมหา’ ลัยแล้วบีมและใกล้จะถึงแล้วด้วย น่าจะสิบห้านาทีได้ //อาจารย์กันตภณบอกผม



      //ผมลงไปรอพี่ที่ชั้นล่างดีกว่าน่ะครับพี่กัน// ผมพูด ผมหันไปหยิบเสื้อเชิ้ตมาสวมทับ ท้องผมดูแทบจะไม่ออกมาว่าผมกำลังตั้งท้องอยู่ ถ้าไม่สังเกตดีดี ท้องแรกก็แบบนี้แม่ผมพูดดูไม่ค่อยออกและอายุครรภ์ก็ยังไม่เยอะด้วย



                ผมก้มลงมองท้องน้อยๆ ของผม มีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ในนั้น ผมหันไปมองรูปพ่อของผม ดร.เคลวิน เบน กิบสัน เมื่อก่อนผมชื่อ เบนจามิน เบน กิบสัน แต่พอแม่ผมส่งผมมาอยู่ไทย แม่ก็เอาชื่อจริงที่คิดว่าจะตั้งให้ผมมาตั้งชื่อให้ใหม่ ส่วนบีมนี้เป็นชื่อเล่นที่คุณยายผมเรียกเวลาที่ผมมาอยู่ไทย และชื่อนี้เลยเป็นชื่อที่ทุกคนเรียกผมจนติดปากทุกวันนี้



     //บีม พวกกูกำลังสอบแต่จะทำเวลาน่ะ จะรีบไปดูหน้าหลานว่ะ กูไปเจอมึงที่โรงพยาบาลเลยนะบีม ปล. กูขอโทษว่ะที่ต้องบอกอาจารย์กันตภณเป็นคนพามึงไปแทนพวกกู แล้วเจอกันน่ะ // ไอ้ฟิล์มมันส่งข้อความหาผม



     “มันไม่ยุติธรรมกับเขาไงมึง ที่ต้องมาทำหน้าที่แบบนี้ ในสิ่งที่เขาไม่ได้เป็นคนทำ “ผมพูดกับโทรศัพท์ของผมก่อนจะเดินออกจากห้อง ผมหันมาจับโซ่ที่คล้องประตูเอาไว้ออก ผมยืนเพ่งมองมันอยู่พักหนึ่ง โซ่คล้องประตู เพื่อนป้องกันไม่ให้เข้ามาทำร้ายคนในห้องได้ ลูกในท้องก็เหมือนสิ่งที่จะปกป้องหัวใจของผมที่แตกสลายให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้เช่นกัน



     “ลูกโซ่ พ่อจะให้เจ้าชื่อว่าลูกโซ่นะครับ” ผมก้มลงพูดกับน้องน้อยๆ ของผม



      “อุ้ย!” ผมรับรู้ได้ว่ามีบางสิ่งที่กระทุ้งแต่ไม่แรงเพราะว่าน้องยังเล็กมากแต่ผมก็รู้สึกได้ว่าเขาดิ้น



      “แสดงว่าชอบชื่อนี้ใช่ไหมครับ ไปหาหมอกันน่ะ ดูซิว่า ตัวแสบของพ่อ ตัวโตขึ้นบ้างไหม พ่อจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด” ผมพูดกับตัวเล็กของผมในท้องน้อยๆ ผมเดินออกมาก็เจอเพื่อนบ้านเขาก็ยิ้มทักทายผม ผมก็ยิ้มทักทายตอบ ผมอยู่ที่คอนโดนี้มานานมาก เพราะว่าแม่ผมซื้อเอาไว้ให้ ผมเดินลงถึงชั้นล่างของคอนโดของแม่ผม ผมก็เจออาจารย์กันตภณยืนรอผมอยู่แล้วที่ด้านหนาคอนโดของผม



       // ป๊าเราล๊อกบัตรเครดิตทุกใบ ก็มันน่าไหมล่ะ เรียนยังไงไม่จบตามแผนที่วางเอาไว้ เราน่ะไม่ใช่คนเรียนไม่เก่งน่ะ นี้คงเอาแต่เที่ยวละซิ ก็ตั้งใจเรียนให้จบ ภายในปีนี้หรือถ้าเร็วกว่านั้นจะดีมาก โอเคเจ๊กจะพูดให้แต่ไม่รับปากน่ะ เพราะว่านั้นเฮียเจ๊คและที่สำคัญ ม๊าเรายังคุยให้ไม่ได้เลย นับประสาอะไรกับเจ๊กละ แต่ถ้าเรายังไม่จบ เจ๊กจะพาอาม่าไปพาเรากลับ ไม่ได้ขู่ อาม่าบ่นถึงแล้ว กลับมาได้แล้ว อ้อ เจ๊กจะไปทำธุระก่อน แค่นี้ก่อนน่ะ เอาไว้เจ๊กโทรหา บาย // อาจารย์กันตภณพูดกับคนปลายเหมือนจะหัวเสียหน่อยๆ ก่อนจะวางสายไป เขาหันมายิ้มให้ผม ผมน่ะเดินมาด้วยท่าที่หันหน้าหันหลัง มันเหมือนระแวงสายตาคนที่เดินผ่านผมไปยังไงก็ไม่รู้



      “เป็นอะไรไปน่ะบีม พี่เห็นเดินเหมือนระแวงอะไรเลย” อาจารย์กันตภณถามผม ก่อนจะมองตามที่ผมมอง แสดงว่าเขาสังเกตเห็นตอนผมเดินลงมา ผมยิ้มๆ ให้อาจารย์กันตภณ



       “ไม่มีใครสังเกตเห็นหรอก ใส่เสื้อตัวใหญ่ขนาดนี้ พี่เองยังดูเราไม่ออกเลยน่ะ” อาจารย์กันตภณพูดปนหัวเราะและชี้มาที่ผม ผมก็รู้แต่เหมือนเรารู้ว่าตัวเรามีอะไรที่ซ้อนสายตาเขาอยู่แค่นั้น



       “อันที่จริงพี่ไม่น่าลำบากมาเลยน่ะครับ “ผมพูดขึ้นพร้อมกับทำสีหน้ารู้สึกผิด ที่ต้องให้คนที่ไม่ได้ทำกับผมมาคอยตามดูแลผมแบบนี้



       “พี่เต็มใจอยากจะช่วย ให้พี่ช่วยน่ะ เพราะว่าเราเป็นเด็กดี เป็นเด็กตั้งใจเรียน พี่เสียดาย และพี่ก็รู้สึกดีกับเรามากๆ พี่จึงอยากยื่นมือเข้ามาช่วย “อาจารย์กันตภณพูด



       “พี่ขอน่ะครับ อย่าพูดว่าพี่ไม่น่าลำบากมาเลยอะไรแบบนี้ พี่เสียกำลังใจ นะครับบีม” อาจารย์กันตภณพูดกับผมก่อนจะผายมือให้ผมเดินไปพร้อมๆ กับเขา ผมเดินไปที่รถเก๋งคันหรู หรูมากจริงๆ อาจารย์กันตภณหันมามองหน้าผมพร้อมรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นเสมอมาให้ผม



       ตื้ด!!! มือถือผมสั้นเพราะว่ามีข้อความเข้าในแอปพลิเคชันที่ผมใช้คุยกับเพื่อนๆ เป็นไลน์กลุ่ม



      //บีมถึงโรงพยาบาลหรือยัง พวกเราสอบเสร็จแล้ว//มะนาวเพื่อนสาวของพวกผม ตัวจะอวบๆ น่ารักๆ ส่งข้อความมาถามผม ผมหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์ตอบ



      // ใกล้จะถึงแล้วมะนาว// ผมส่งข้อความกลับไปหามะนาว อาจารย์กันตภณ หันมามองผมพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น



      //พวกเรานั่งรถแท็กซี่ไปเลย เจอกันบีม// มะนาวบอกผม ผมนั่งเอามือลูบท้องตัวเองเหมือนกำลังปลอบโดยเด็กน้อยในครรภ์ของผมอยู่ ไม่เป็นไรน่ะถ้าเจ้าจะมีแค่ พ่อคนเดียวไม่ได้มีครบเหมือนคนอื่นๆ เขา สายตาก็กวาดมองไปรอบๆ ขณะที่รถจอดรอไฟแดงอยู่ และจังหวะที่ผมหันมาก็ต้องสุดเพราะว่าอาจารย์กันตภณเข้าหันมามองจ้องผมอยู่ แววตาที่ดูอบอุ่นคู่นั้น



      “พี่จะไม่พูดว่าบีมต้องเข้มแข็งให้มากๆ บีมอ่อนแอได้ บีมร้องไห้ได้ และพี่นี่จะอยู่ข้างๆ บีมเองและตลอดไป” พี่กันตภณพูดพร้อมกับใช้นิ้วมือจับปลายคางของผม ให้หันไปมองหน้าเขา อาจารย์กันตภณเอี่ยวตัวมาหาผม เหมือนกับว่าเขาทำท่าว่าจะจูบผม ผมนี่มองหน้าอาจารย์ที่ใกล้เข้ามาทุกที แผ่นหลังผมก็ติดชิดพนักผิงเบาะ ผมค่อยๆ หลับตาลงช้า ทำไมผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมกำลังจะกลั้นหายใจเลยและที่ผ่านมาอาจารย์เขาก็ไม่เคยแสดงแบบนี้กับผมเลย แต่ว่าวันนี้เขากำลังจะ จะ …



     “ปื้นนน!” เสียงแตรรถคันหลังบีบดังลั้นถนน ตอนนี้เป็นไฟเขียวแล้วทำให้อาจารย์กันตภณต้องหันเปลี่ยนเกียร์รถยนต์และขับตรงไปทันที ผมได้แต่นั่งกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ ก่อนจะหลุบตาลงมองที่พื้นแทน ผมไม่กล้าหันไปสบตากับอาจารย์เขาเลย จนกระทั่งรถมาจอดที่สำหรับจอดรถสำหรับคนที่มาใช้บริการที่โรงพยาบาลนี้



     “กึก” ผมรีบจับที่ตรงประตูรถและจะเปิดออกไป



      “บีม” อาจารย์กันตภณเรียกผมเอาไว้ ผมจึงชงักเท้าเอาไว้ก่อนจะก้าวลงจากรถอาจารย์ไป ผมค่อยๆ หันมามองหน้าอาจารย์กันตภณ จากที่ก้มหน้ามาตลอด



       “พี่ขอโทษ ที่พี่…” อาจารย์กันตภณรีบมาขอโทษผมทันที เขาช่างเป็นคนที่สุภาพที่สุด ไอ้นั่นมันทำมากกว่าพี่มันยังไม่คิดจะขอโทษผมเลยด้วยซ้ำ



      ” ไม่เป็นไรครับ พี่กัน ผม เออ ผม ขอโทษนะครับ ถ้าผมจะบอกว่าผมยังไม่พร้อมจะรับมือกับเรื่องอื่นๆ ตอนนี้ผมต้องโฟกัสที่เรื่องลูกในท้องผมก่อนนะครับ” ผมพูดกับอาจารย์กันตภ ผมยิ้มอ่อนๆ ให้อาจารย์ว่าผมไม่ได้โกรธเขา



       “ครับพี่เข้าใจ พี่รอได้” อาจารย์กันตภณพูด



         ผมกับอาจารย์เดินเข้าไปในโรงพยาบาล เพื่อนของอาจารย์เขาเป็นแพทย์ที่นี้และโรงพยาบาลนี้เป็นของพ่อและแม่ของพี่เขาด้วย พี่เขาเป็นลูกชายคนเดียวของคุณหมอที่เป็นหมอประจำบ้านให้กับครอบครัวอาจารย์กันตภณมานาน



        “บีมนั่งรถเข็น พี่เข็นให้นั่งนะครับ” พี่หมอภีมถามผมก่อนจะชี้ไปที่รถเข็นคนไข้ ผมรีบส่ายหน้าทันที



        “ไม่เอาอ่ะพี่กัน” ผมรีบหันมาพูดทันที (หึๆ) พี่เขาหัวเราะเบาๆ ทันที



         “ไม่เอาก็ไม่เอา ปกติม๊าพี่มาพี่ต้องขอรถเข็นตลอดไง และเห็นเราเดินแบบนี้พี่กลัวเป็นลมไป พี่เลยถามเราดูและพี่ก็ไม่อยากให้เราเดินไกลแค่นั้นเอง” อาจารย์กันตภณพูด ผมยู่ปากเล็กน้อย อาจารย์กันตภณเขาพาผมเดินไปยังแผนกแม่และเด็กแต่เขาแยกไว้สองฝั่ง ฝากครรภ์และอีกฝั่งคนไข้เด็ก ผมหันไปมองเด็กน้อยที่มานั่งรอหมอตรวจ มีทุกเพศทุกวัยจริงๆ มันทำให้ผมยิ้มอ่อนๆ ที่เห็นเด็กเล็กเด็กน้อย มากับพ่อแม่ พ่อแม่ของเด็ก ผมหันมามองอาจารย์กันตภณ ผมเองก็รู้สึกน่ะว่าการที่เราอยู่กับคนที่ไม่ใช่พ่อหรือแม่แท้ มันแปลกแต่ถ้าเลือกได้ ผมก็อยากเลือกให้เขาอยู่กับคนที่ให้เขามีชีวิตจริงๆ ถ้าไม่ได้ก็คงต้องเป็นผมแค่นั้น

       “สวัสดีค่ะ” พยาบาลเดินมาทักทายผมกับอาจารย์กันตภณ



        “สวัสดีครับ ผมรองศาสตราจารย์กันตภณครับ ผมเป็นเพื่อนกับหมอภีมปภพครับ วันนี้ผมพาคุณกันต์ธีร์มาตามหมอนัดครับ” อาจารย์ทักทายพยาบาลหน้าห้องตรวจเขาพยักหน้าและผายมือให้ผมไปนั่งที่โต๊ะสักประวัติเพื่อจะได้วัดไข้หวัดความดัน ทุกอย่างปกติและชั่งน้ำหนัก พอผมขึ้นไป น้ำหนักเท่าเดิม ผมเดินกลับมานั่ง



         “ขอโทษนะคะ เป็นคนไข้ของคุณหมอภีมปภพ ใช่ไหมคะ” พี่พยาบาลเขาถามผม



        “ใช่ครับ” อาจารย์กันตภณรับตอบแทนทันที



         “เดี๋ยวรบกวนนั่งรอสักครู่นะคะ คุณหมอแจ้งเอาไว้แล้วค่ะ “พี่เขาบอกผม

         “พอดีว่ามีคนไข้ที่พึ่งจะส่งเข้าไปที่ห้องตรวจเขาก่อนนัดของคุณนะคะ รบกวนนั่งรอสักครูนะคะ คนไข้ออกมาแล้วจะไปเรียกนะคะ” พยาบาลหน้าห้องแจ้งผมสองคน ผมหันมามองหน้าอาจารย์กันตภณ ก่อนจะหันไปมองรอบๆ ที่มีแต่คนท้องนั่งอยู่ ตอนนี้เหงื่อผมเริ่มไหล ผมเริ่มหายใจติดๆ ขัดๆ ภาพตอนผมที่ยืนอุ้มท้องโย่มันผุดเข้ามาในหัวของผม



          “หมับ” ข้อมือของผมถูกใครสักคนจับเอาไว้เพราะว่ามันเริ่มสั่น ผมหันไปมองคนที่จับมือผมเอาไว้



           “หายใจลึกๆ บีม พี่เชื่อว่าบีมก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้พ่อแม่คนอื่น “อาจารย์กันตภณพูดกับผม มันทำให้รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผมทันที ผมเดินไปหาที่นั่ง และก็ชะเง้อคอมองเพื่อนๆ ของผมว่ามาถึงกันหรือยัง



          “คุณกันต์ธีย์ กิฟสันค่ะ เชิญที่ห้องตรวจได้เลยค่ะ “พยาบาลเดินออกมาเรียกชื่อผม แต่ว่าเพื่อนของผมยังไม่มาเลย



           “รอเพื่อนเหรอบีม” อาจารย์กันตภณมองตามสายตาของผมก่อนจะหันมาเอ่ยถามผม



           “ครับ พี่กัน” ผมตอบ



           “พี่จะบอกพยาบาลให้ว่าถ้าพวกเขามาถึงแล้ว ให้พวกเข้าไปในห้องตรวจได้” อาจารย์กันตภณบอกผมก่อนจะเดินไปคุยกับพยาบาลที่หน้าห้อง ผมเดินตรงเข้าไปในห้องตรวจ ผมก็เห็นคุณหมอหนุ่มรูปหล่อ สวมแว่นตา การแต่งกายที่ดูภูมิฐาน เสื้อสูทสีขาว เสื้อกาวน์แพทย์ที่แยกชั้นว่าเป็นแพทย์ระดับมีฝีมือ



          “เชิญนั่งครับ ใช่น้องบีมหรือเปล่าครับ” น้ำเสียงที่นุ่มนวล พี่เขาทักทายผมอย่างเป็นกันเอง ผมหันไปมองคุณหมอหนุ่มรูปหล่อ ก็ละสายตาจากหน้าคอมพิวเตอร์หันมามองผมพร้อมรอยยิ้มที่ดูมีเสน่ห์ไม่น้อย



         “ใช่ครับ สวัสดีครับคุณหมอภีมปภพ” ผมยกมือไหว้คุณหมอทันที



         “เรียกพี่หมอว่าพี่หมอภีมก็ได้ครับ “พี่หมอภีมปภพบอกผม ก่อนจะส่งยิ้มมาให้ผม



         “พี่ขอโทษทีนะครับที่ไม่ได้เจอกันวันที่มาตรวจคัดกรองวันนั้น พอดีพี่มีเครสผ่าคลอดด่วนนะครับ” พี่หมอภีมปภพพูด เขาหันมามองผมแว๊ปหนึ่ง



         “ไม่เป็นไรครับพี่หมอภีม ผมเองก็ไม่มีอะไรที่ผิดปกติครับ” ผมตอบพี่หมอภีม



          “เพื่อนพี่ล่ะครับ ไม่ได้มาด้วยกันเหรอครับ รองศาสตราจารย์กันตภณนะครับ” พี่หมอภีมปภพเอ่ยถามเพราะเห็นว่าผมเดินเข้ามาคนเดียว คำถามที่ปนเสียงหัวเราะเบาๆ



          “พี่หมอภีมหมายถึง...” ผมกำลังจะเอ่ยถามคุณหมอหนุ่ม แต่คนที่พี่หมอกำลังถามถึงก็เดินเข้ามาพอดี อาจารย์กันตภณ



           “ทำไมปล่อยน้องเขาเดินเข้ามาคนเดียวล่ะครับ ไอ้คุณแฟน” พี่หมอภีมปภพเงยหน้าขึ้นพร้อมกับถามอาจารย์กันตภณทันที ผมหันไปชำเลืองตามองนิดหนี่ง



          “ไอ้ภีม” อาจารย์กันตภณทำท่าใช้นิ้วจุปาก



          “โอเครู้กัน “พี่หมอภีมปภพพูดตัดบทก่อนจะหันมามองหน้าผม



           “วันนี้เราจะอัลตร้าซาวน์ฟังหัวใจน้องกันนะครับ ตอนนี้ก็สิบหกสัปดาห์แล้วซิน่ะ พอจะเห็นอวัยวะเพศน้องได้แล้วน่ะ อยากรู้ไหมว่าน้องผู้หญิงผู้ชาย” พี่หมอภีมถามผม ผมก็หันไปมองหน้าอาจารย์เฉยเลย



           “แต่ก่อนจะไปดูหน้าตาเด็กน้อยกัน พี่ขอดูผลการตรวจเลือดเราก่อนน่ะ ผลออกมาดีมากแต่ว่า ธาตุเหล็กต่ำไปหน่อย ทานไม่ค่อยได้เหรอครับ” พี่หมอภีมปภพถามผมยิ้มๆ ผมพยักหน้าว่าใช่



           “ผมไม่อยากทานเนื้อสัตว์เลยอ่ะครับพี่หมอ ทั้งที่ผมพยายามทานแล้วแต่พอลิ้นผมสัมผัสเท่านั้นแหละผมก็ต้องวิ่งไปอาเจียนออกอ่ะครับ” ผมพูด อาจารย์กันตภณหันมามองหน้าผมด้วยสีหน้าเป็นห่วง



           “พี่จะให้ธาตุเหล็กไปทานนะครับแต่ถ้านัดรอบหน้ายังต่ำพี่ต้องให้ธาตุเหล็กทางเส้นเลือดแทนนะครับ เพราะว่าอันนี้สำคัญมากๆ และวิตามินดี ก็ต่ำไปหน่อยแต่ไม่มาก พี่ว่าไม่ต้องทานแค่ ออกไปรับแสงแดด ช่วงเช้าและช่วงบ่ายสักหน่อยก็น่าจะพอช่วยได้ “พี่หมอภีมปภพพูด



            “เพิ่มวิตามินให้บีมเขาหน่อยซิไอ้หมอ” อาจารย์กันตภณบอกพี่หมอภีม



           “ได้ครับคุณกัน ลืมไปว่าเสี่ยกันมาเอง วันนี้จัดไปหนักๆ เลยน่ะ เพราะว่าคุณแฟนเขาเป็นห่วงเรามากน่ะ พี่นี่อิจฉาเลย” พี่หมอภีมปภพพูดแซวอาจารย์กันตภณทันทีแต่สายตาพี่หมอเขาที่มองอาจารย์กันตภณ มันทำให้ผมสังเกตได้ว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น มันนิ่งค้างอยู่หลายวินาทีก่อนจะหันมายิ้มให้ผมและทุกอย่างก็กลับมาสู่ปกติ แต่สายตาคู่นั้นมันสื่อให้ผมรู้ว่าเขาไม่อยากเสียคนนี้ไป



           “ที่หมอดูโดยรวมทุกอย่างดีหมดยกเว้นเรื่องทานอาหารใช่ไหมครับ ถ้าอย่างนั้นพี่จะให้ยาทานเพิ่มเป็นวิตามินบี6 ช่วยลดอาการแพ้ได้ และเห็นบอกว่าปวดจุกแน่นท้องด้วยใช่ไหมครับ แสบร้อนกลางอก น่าจะกรดไหลย้อน พี่หมอแนะนำ ให้ทานแบบแบ่งมื้ออาหารทานเอาน่ะครับ อย่าทานมือหนักเกินไป ให้แบ่งเป็นมือย่อยๆ ห่างกันสักอย่างน้อยสองถึงสี่ชั่วโมง “พี่หมอก็พูดอธิบายจนกระทั่ง



         “คุณหมอค่ะ เพื่อนๆ ของคนไข้นะคะ เขาขอเข้ามาได้ไหมคะ” พี่พยาบาลถามพี่หมอภีมปภพ



          “เชิญเข้ามาเลยครับ” พี่หมอภีมปภพพูด ผมหันไปมองเพื่อนๆ ของผมที่เดินเข้ามาด้านในมานั่งยืนล้อมเพื่อตั้งตารอจะเห็นหลานตัวน้อย ผมหันไปมองไอ้ฟิล์มที่ไม่เจอมาหลายวันและเป็กซ์อีกคนหายไปพอสมควร ส่วนมะนาวกับใบชานี่เจอกันทุกวัน



         “กราบสวัสดีค่ะคุณหมอ “มะนาวเพื่อนสาวของผม เดินมายกมือไหว้คุณหมอ ไหว้สวยเกิ้นจนใบชาต้องสะกิด สั้นหัวไปมาด้วยและพยักหน้าไปที่พยาบาลที่ยืนอยู่



         “แพ้เครื่องแบบแพทย์ค่ะ เห็นแล้ว อยากเป็นคนไข้แทนเลยค่ะ” มะนาวหันพูด



         “มึงจะฝากท้องเหรอมะนาว มึงไม่มีลูก ที่มันยื่นไปน่ะ อาหารที่มึงกินเข้าไปทั้งนั้น” ใบชากระซิบกับมะนาว



          “สวัสดีค่ะอาจารย์” และหันไปยกมือไหว้อาจารย์กันตภพอีกคน



          “สวัสดีครับคุณหมอ สวัสดีครับอาจารย์” ฟิล์ม ใบชาและเป็กซ์ ก็ยกมือไหว้ปกติ



          “เอาล่ะ พร้อมกันหรือยังที่จะเห็นหลานๆ ของพวกเรากัน ดูท่าจะตื่นเต้นกว่าคนท้องอีกน่ะ” พี่หมอภีมพูดปนหัวเราะเล็กน้อย



         “พร้อมมากค่ะ” มะนาวรีบตอบก่อนผมซะอีก



           “อีนาวไม่ใช่ลูกมึง” เป็กซ์รีบแย้งดึงแขนมะนาวทันที



           “อ้าว! ก็อยากเห็นหลานอ่ะ เพื่อจะหน้าตาดีเหมือนกู” มะนาวพูดผมหันไปยิ้มให้มะนาว ทำท่าเขินเพราะลืมไปว่าอาจารย์กันตภพนั่งอยู่ด้วย



           “เดี๋ยวรบกวนให้พี่พยาบาลเข้ามาช่วยพี่หมอก่อนนะครับ” พี่หมอภีมพูดก่อนจะเดินไปที่เตียงคนไข้และผายมือให้ผมเดินไปเพื่อไปขึ้นเตียงคนไข้ในห้องนั้น ผมรู้สึกใจสั่นยังไงก็ไม่รู้ที่จะได้เห็นหน้าเขา เด็กน้อยในพุงของผม มันกลัวและตื่นเต้น ปนดีใจ มันหลายอารมณ์มากจนผมทำตัวไม่ถูก ผมมองสายตาพี่หมอภีมเขาพยักหน้าให้ผมขึ้น ผมจะได้เห็นหน้าเขาแล้วไง

           TBC...
97
พูดคุยทั่วไป / Top-notch Сasual Dating - Legitimate Girls
« กระทู้ล่าสุด โดย prateep เมื่อ 10-04-2024 23:44:39  »
Night dating. Easy and simple.
Live Women
Outstanding Сasual Dating
98
EP.8.1 สามเฮียของเธียรวิชญ์ (ครึ่งหลัง)

   Part’s เฮียธัน ผมนั่งคลอเคลียกับพี่ลินดา ตอนนี้เด็กมาชงเหล้าให้พวกผมแล้ว ผมก็ดื่มกันและเพลงก็กำลังน่าเต้นเลย ผมพยักหน้ากับพี่ลินดา เขาลุกขึ้น ท่าโยกย้ายส่ายสะโพกนี้แบบนี้ เล่นเอาผมอยากจะพาเธอกลับไปที่คอนโดผมเลย

     “เฮ้ย! ไอ้ทีมกระจอก พึ่งเปิดตัวไม่นานแต่อยากจะมาขึ้นแท่นนักแข่ง เป็นแชมป์แค่สมัยสองสมัยเอง ทำมาเป็นเก่ง” ผมได้ยิน ไอ้ทีมนี้แหละที่ไอ้ปุณณ์มันไปเป็นที่ปรึกษา ผมหันมามองหน้าพวกผม พวกผมก็มองหน้ามัน

     “มึงว่าใครวะ” ไอ้แพทมันหันไปถาม

     “หมับ” ผมจับแขนไอ้แพท

     “อย่า! นี้ผับเฮียธีนเขา เฮียเขาเป็นเพื่อนเฮียธีกู เกรงใจหน่อย “ผมบอกเพื่อนผมว่าให้ถอยหลังออกมา

     “ไก่อ่อนเอ๊ย!!” ดูมันกวนอารมณ์พวกผมขนาดไหน ผมน่ะพยายามไม่อยากมีเรื่องอีก ป๊ากำชับหนักกำชับหนาเพราะว่าผมเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแล้วไง อุตส่าห์มาผับเพื่อนเฮียธีเพราะว่าผับนี้ ไม่ค่อยมีพวกอันธพาลเท่าไหร่แต่นี่มันกำลังยั่วยุผมชัดๆ

      “ไอ้ปุณณ์มึงไม่ทักทายเพื่อนมึงหน่อยเหรอวะ” หนึ่งในนั้นถาม ไอ้ปุณณ์มันหาพวกนี้พอดี มันหันมามองหน้าผม ผมก็ลุกขึ้นทันที

      “เพื่อนที่หักหลังกู ไม่ต้องเดินมาทักกูหรอก” ผมพูด ไอ้ปุณณ์มันหลบตาผมทันที และมันก็เดินไปกระซิบคุยกันกับคนที่มันพามา มันลุกขึ้นก่อนจะพากันออกไปเหลือแต่ลูกสมุนของมันที่ยังนั่งดื่มกันอยู่ หันมามองพวกผมทำหน้าตากวนๆ ใส่ด้วย ไอ้โน้ตมันหยักไหล่ให้ผม ผมหลักไหล่ตอบว่าไม่สน ผมนั่งดื่มต่อ

       “ธันพี่ว่ากลับกันดีกว่าน่ะ ธันเมามากจะขับกลับไม่ไหว พี่ไม่ชอบน่ะและถ้าเมาแล้วโดนตำรวจเรียกอีก พี่ก็ไม่อยากเป็นข่าว” พี่ลินดาพูด ผมพยักหน้า จังหวะนั้น ผมหันไปมองไอ้พวกที่มันปากดีกับผม

       “มึงเอาชะนีแล้วไอ้ไนท์ละ มันไม่ถึงใจเหรอวะ” ผมได้ยินมันตะโกนมามันเริ่มทำให้พวกผมจะหมดความอดทน

       “น่าเสียดายว่ะ รอบนั้นมึงเกือบได้ลงไปเป็นอาหารปลาที่แม่น้ำเจ้าพระยาอยู่แล้วแต่เสือกมีคนมาช่วยไว้ รอบนี้มึงคงได้ไปจริงๆ วะ” นั้นมันสารภาพมาแล้ว

       “กลับกันเถอะวะ อยู่นานงานจะเข้า” ไอ้โน้ตพูด ผมพยักหน้าและพากันลุกขึ้น

       “ป๊อดเหรอ” พวกนั้นมันถามพวกผม ผมหันมามองหน้ากัน ได้ถ้าท้ามาขนาดนี้ ผมหันไปก็

       “ผลัก!” แค่นั้นทุกอย่างก็มะรุมมะตุ้มกันใหญ่เลย ส่วนผู้หญิงสองคนก็ออกไปยืนไกลๆ ผมไม่รู้ว่านานแค่ไหน จนกระทั่งมีการ์ดเข้ามานั่นแหละ

        “หยุด!!!” เสียงที่ทำให้พวกผมหยุด เสียงเฮียธัน เขาเป็นเจ้าของผับนี้ เขาเดินมาทำหน้าตาเคร่งขรึมมาเลย และการ์ดมาไม่รู้กี่คนมาห้ามพวกผม

       “กูแจ้งตำรวจแล้ว กำลังมา” เฮียธันพูด

       “อ้าวเฮ้ย!! มึงไอ้ธัน น้องไอ้ธีนี่หว่า” ผมหันไปมองกับเฮียอีกคน ชื่อเดียวกับผมเลย

       “เฮียนี้น้องชายไอ้ธีมัน เพื่อนผมอะเฮีย” เฮียธีนเขาพูดและเฮียแกหันไปมอง

       “คนละธีกัน” เฮียธีนพูด

        “ตกลงมีสองธี” เฮียแกพูด

       “แหละกูไม่รู้นี่หว่าแต่ว่ากูแจ้งตำรวจไปแล้ว” เฮียธันพูด

       “เรียกเร็วไปไหมเฮีย” เฮียธีนหันไปถามเฮียเขา

       “ก็เพื่อจะไปหาที่ปรับความเข้าใจกัน ที่โรงพักเพื่อประชาชน…แบบนี้…แบบที่ชอบตีต่อยกันแบบนี้ “เฮียธันพูด

       “ไปปรับความเข้าใจกันก่อน ปรับได้แล้วค่อยมาเที่ยวไหม ปรับไม่ได้ไม่ต้องมาน่ะ มาเที่ยวแล้วมาตีกันเพื่อ?” เฮียแกพูด

       “เรียกพี่มึงไปประกันตัวเองแล้วกัน เพราะว่าผับกูไม่สนับสนุนให้มีเรื่องกันยกเว้นชะนี กูให้ตีกันได้ อันนี้เฮียชอบนั่งดู” เฮียแกพูดและยิ้มด้วย พวกผมยกมือเก้าหัวทันที



   ผมคงต้องปลุกเฮียธีมาประกันตัวอีกแล้ว ผมพ่นลมหายใจออกมายาวๆ หันไปมองไอ้พวกที่กวนพวกผมจนขันติหลุด ไม่นานตำรวจก็มาถึง พวกผมก็ต้องไปที่โรงพักกัน

       “โทรติดต่อหาคนมาประกันตัวเลยนะครับ” ตำรวจนายหนึ่งบอกผม ผมก็ต้องโทรหาเฮียธีทันที

        (ฮัลโหล) น้ำเสียงที่บอกว่าเฮียผมนอนไปแล้วนี่มันตีหนึ่งเอง

        (เฮีย ผมงานเข้าอ่ะ) ผมบอกเฮียธี

       (งานใหญ่ไหม) เฮียธีถามผมด้วยน้ำเสียงที่บอกว่าพยายามตื่น

       (เฮีย มีอะไรเหรอคะ)

       (ไม่มีจ๊ะมิว นอนต่อเถอะ เดี๋ยวเฮียมาน่ะ จ๊วบ!!) เฮียธีพูดกับแฟนสาวชื่อมิว เธอพึ่งจะจบเภสัชกรใหม่ๆ

      (ไม่เล็กไม่ใหญ่เฮีย ผมกำลังจะไปโรงพักเฮีย สน. ใกล้ๆ กับผับเฮียธีนอ่ะเฮีย) ผมบอกเฮียธี

      (งั้นเฮียไปถูก ไม่ต้องส่งโลเคชั่นมา เจอกันน่ะ น้องที่รักมาของเฮีย...จริง!ๆ) เฮียธีพูดแค่นั้นบอกรักมาด้วย ผมหันมามองคนอื่นๆ ดีที่เขาจับมาแค่พวกผมยกเว้นสาวๆ และโชคดีที่เจ๊ธามผมกลับไปก่อน ไม่เช่นนั้นงานไม่ใช่งานกลางๆ แน่ๆ น่าจะงานใหญ่ทีเดียว ก็คงต้องโทรตามป๊าและม๊ามาด้วยเลยมั้ง พวกผมถูกเชิญให้ไปนั่งในห้องขังทันทีที่มาถึงรอคนมาประกันตัว ไอ้พวกนั้นก็ตามเข้ามาติด พวกผมหันไปมองหน้ามัน มันยังทำหน้าตากวนๆ ใส่ผม

       “มองหน้าเหรอ อยากโดนอีกใช่ป่ะพวกมึงอ่ะ “ไอ้นิกกี้ถาม มันก็ทำท่าจะเข้ามาหาผม

       “หยุด!! อยู่ในนั้นยังกัดกันอีกเหรอครับ แทนที่จะได้ประกันตัวออกไป เดี๋ยวก็ได้อยู่กันทั้งวันเลย” จ่าที่ยืนอยู่ด้านหน้าถามพวกผม พวกผมเลยต้องถอยไปอยู่คนละมุมทันที และไปนั่งในห้องขังกันรอคนมาประกันตัว ผมนั่งรอนอนรอจนสักพักก็มีนายตำรวจมาไขกุญแจให้

        “ฝั่งโน้นไปก่อน ทนายพวกคุณมาแล้ว” พวกนั้นมันหันมาหยักคิ้วให้ผมว่าทนายพวกนั้นมาประกันตัวแล้ว

       “ฝั่งนี้พี่ชายพวกคุณมาประกันตัวแล้วเชิญครับ” เขาก็เรียกพวกผม พวกผมก็พากันเดินออกไป นายตำรวจร้อยเวรที่นั่งอยู่ก็คุยกับเฮียผมอยู่ ผมเดินไปนั่งข้างๆ เฮียธี เฮียผมมาด้วยชุดนอนครับ ผมสะบัดหน้าไปมองเฮียธี ส่วนไอ้ฝั่งโน้นน่ะ ทนายมันมาจัดเต็มใส่สูทผูกเนกไท มาแน่นมาก พวกผมมองเฮียธีอีกที

       “เฮียรีบมากและเฮียก็ขี้เกียจเปลี่ยนเพราะเฮียคิดว่าจะกลับไปนอนต่อน่ะ” เฮียธีพูดยิ้มๆ ให้พวกผม ผมมองร้อยเวร เขาชื่อร้อยตำรวจเอกรัชชานนท์

       “ชื่อเหมือนเพื่อนเฮียเลยอ่ะ พี่ตั้นอ่ะ” ผมกระซิบกับเฮียธี

       “ผมก็ชื่อตั้นนะครับ” นายตำรวจตรงหน้าพูดยิ้มๆ คือเขาได้ยินว่างั้น ผมกับเฮียธีร์พยักหน้าพร้อมกัน เหมือนแทบจะทุกอย่างหรือเปล่าไม่รู้ พี่เขากำลังปริ้นซ์เอกสารและส่งมาให้เฮียธีรับไปเซนต์

        “ขอบคุณนะครับผู้กอง” เฮียธีพูดและหันไปมองทุกคนที่เฮียมาประกันตัว แต่ล่ะคนยกมือไหว้เฮียผมกันหมด

        “ขอบคุณนะเฮีย” ไอ้โน๊ตพูโ เฮียธีร์ผมรับไหว้ทุกคน

        “ขอบใจน่ะ” เฮียธีพูดทุกคนสะบัดหน้ามามองเฮียธีร์พร้อมกันรวมถึงผมด้วย

       “เฮียพวกผมซิต้องพูดคำนี่เฮีย” ไอ้โน้ตมันพูด

       “ขอบใจที่ปลุกเฮีย!! ลุกมาจากที่นอน แต่เร็วไปน่ะ “เฮียธีพูด

       “ปกติเฮียควรจะตื่นมาเห็นพระอาทิตย์ขึ้น ไม่ใช่ตื่นมายังเห็นพระจันทร์แบบนี้ นี้ยังไม่สว่างเลย” เฮียธีพูดและมองหน้าพวกผม

       “ก็นี่มันพึ่งจะตีสองนะเฮีย พระอาทิตย์ขึ้นตอนนี้มันอิมพอสซิเบิ้ล!!” ไอ้โน้ตพูด พวกผมผมหันไปมองหน้า มันไม่สำนึกเลยว่างั้น

      “ดังนั้นเฮียจะกลับไปนอนต่อเลยน่ะ ไม่ต้องเรียกแล้วน่ะ เฮียขอร้องและพวกมึงทั้งหลาย กลับไปนอนเถอะ เฮียก็ขอร้องเหมือนกัน” เฮียธีพูด พวกผมเดินลงมาจากโรงพัก ผมเห็นพี่ลินดายืนกอดอกรออยู่แล้ว ส่วนน้องแนทอะไรนี้รีบโผ่มากอดไอ้โอมทันที

      “กูกลับเลยน่ะเพราะว่าน้องเขาเรียกร้อง” ไอ้โอมพูดและมันก็โอบไหล่น้องแนทไปทันที

      “เฮีย ไปเอารถพวกนี้ได้ไหมอ่ะ ที่ผับเฮียธีนอ่ะ” ผมบอกเฮียธี เฮียก็พยักหน้า

       “พวกมึงติดรถเฮียกูไปเลยไปเอารถพวกมึง ส่วนกู กลับคอนโดกูวะ” ผมพูดและหันไปโอบเอวพี่ลินดาพากลับไปคอนโด พี่เขามองหน้าผม เฮียธี เลิกคิ้วมองหน้าผม ก่อนจะเดินมาหาผม ขณะที่พี่ลินดาเดินแยกไปขึ้นรถ เธอคงจะขับให้ผมนั่ง รถหรูซุเปอร์คาร์

       “ตกลงมึงทำเพื่อป๊าเหรอเลยพาผู้ตรวจสอบไปตรวจสอบคอนโดมึงอ่ะ” เฮียธีกระซิบถามผม ผมพยักหน้าว่าทำเพื่อป๊าจริงๆ ขยิบตาด้วย

       “แรงว่ะ “เฮียธีพูด

       “แล้วจะบอกพี่เขาให้ว่าให้ช่วยสาขาเฮียด้วย” ผมกระซิบ

      “ให้มันได้แบบนี้ ค่อยน่ามาประกันตัวให้หน่อย ไอ้ผู้อำนวยการหัวร้อน” เฮียธีพูดก่อนจะเดินแยกไปและพาเพื่อนๆ ของผม ไอ้โน้ต ไอ้แพทและไอ้นิกกี้ ไปเอารถของมันจะได้พากันกลับบ้านใครบ้านมัน ผมก็แยกตัวกลับไปที่คอนโด ผมหันมามองพี่ลินดาเธอขับรถให้ผม เธอหันมามองผมเป็นระยะๆ แถมยังเอามาคล้ำโคนขาผมเล่นด้วย คลำไปคลำมาคลำจนถึงจุดยุทธศาสตร์ แล้วผมจะทนเหรอ พอไฟแดงก็หันมาจูบกันทันที ไม่ต้องถามหรอกว่าไปถึงห้องจะไปถึงขั้นไหน ผมชอบแบบมีประสบการณ์ ไม่ชอบสอนเด็กมือใหม่ เสียเวลา



       Part’ s เฮียธี ผมชื่อเฮียธีหรือธีรภพ เป็นพี่คนโตสุดของบ้าน ผมดูแลสาขาแถวนนทบุรี ค่อนข้างไกลแต่ว่าผมมีแฟนเป็นเภสัชกรชื่อน้องมิว เปิดร้านขายยาแถวๆอนุสาวรีย์ ทำไมคนละที่กันเลยเพราะว่าพ่อแม่ของมิวเขาเกษียณอายุราชการมาอยู่บ้าน มิวมีน้องชายชื่อแม็ซ กำลังเรียนสัตวแพทย์อยู่ ผมเปิดร้านยาให้มิวตอนนี้ เรากำลังแพลนจะแต่งงานกันแต่ก็มีอุปสรรค เมื่อปีก่อนพ่อของมิวประสบอุบัติเหตุรถชนเลยต้องผ่าตัดและต้องทำกายภาพ เดินไม่ค่อยได้ปกติแต่ก็เดินได้เลยเลื่อนไปก่อนแบบไม่มีกำหนด แต่ผมไม่เป็นไรหรอกเพราะว่าผมกับมิวก็อยู่กันก่อนแต่งอยู่แล้ว เราคบกันมาได้สี่ปีแล้ว จะเข้าปีที่ห้าแล้ว

       วันนี้ผมประกันตัวน้องชายหัวร้อน ไอ้ธัน ผมมีพี่น้องสี่คน ผมเป็นคนโตสุด ผมเองพึ่งจะกลับมาอยู่กับป๊าและม๊าได้สี่ปีเท่ากับที่ผมคบกับมิวนั่นแหละ ผมไปเรียนอยู่เมืองนอก ไปอยู่กับแฟนที่เป็นผู้ชาย ผมเป็นเกย์มาก่อน แฟนผมคนนั้นชื่อภูริเป็นเพื่อนรักและเป็นรักแรกของผม แต่ว่าต้องเลิกกันและภูริก็กลับมาแต่งงาน ผมถึงได้คุยกับป๊าว่าจะขอกลับมา ป๊าก็ให้กลับมา ความรักของผมกับภูริ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มีขวากหนามทิ่มตำจนอยู่ไปก็ทะเลาะกันและมันมาแย่ที่สุดเพราผมเอง

      “ขอบคุณนะเฮีย” ผมขับรถมาส่งโน้ต แพทและนิกกี้ เพราะว่าธันเขาแยกตัวกลับไปกับคุณลินดา มันเล่นของสูง เล่นคนที่อยู่ในทีมตรวจสอบมาตรฐานโรงเรียนซะด้วย ผมก็ไม่ยุ่งอยู่แล้วเรื่องส่วนตัว แนวใครแนวมัน ตอนนี้ผมแนวเด็กเฮีย มิวอ่อนกว่าผมรุ่นเดียวกับเธียรวิชญ์เลย

      “ไอ้ธี” เสียงนี้ผมจำได้ดี ไอ้ธีน บ้านธอธงเหมือนบ้านผมเลย พี่ชายคนโตธีนชื่อเดียวกับผมเลยชื่อธีร์ ธีร์เดี่ยวเลย ทั้งชื่อจริงและชื่อเล่นแต่ธีของผมนี่ชื่อเล่นครับ

       “มึงนี้มาไม่ให้เกียรติผับกูเลยไอ้ธี” ไอ้ธีนมันพูด ผมก้มลงมองทั้งชุด มันก็สุภาพน่ะไม่ได้แก้ผ้ามา

      “กูก็ไม่ได้แก้ผ้ามา ไม่ให้เกียรติผับมึงตรงไหนวะ” ผมถามไอ้ธีน

      “ผับกูนี้ มาเพื่อสนุก มาดื่ม มากินมาเต้น ไม่ใช่มานอน!!!” ไอ้ธีนมันพูด อ้อชุดของผมมันชุดนอน

      “กูรีบ” ผมพูด

     “ลืมไปว่าน้องมึงมาบวกกับเขาในผับกู” ไอ้ธีนมันพูด

      “เป็นไงละ ชุดนอนไม่ได้นอนที่แท้ทรู” ไอ้ธีนพูด ผมหันไปยกมือไหว้บรรดาเฮีย อยู่กันครบเลย เฮียไธม์และเฮียธันและเฮียธี ของแท้

      “สองทีเลยทีนี้” เฮียธันพูด หันไปนิ้วแร๊พโย้วให้เฮียคนโตของบ้าน

      “เฮียกลับก่อนน่ะธี “เฮียแกพูดน้อยต่อยหนัก ผมโบกมือให้ ผมหันมามองสองเฮียพี่ชายไอ้ธีนที่ยืนมองชุดที่ผมสวมมาด้วย

      “ชุดมันพร้อมมาก พร้อมมานอน” เฮียธันพูด

      “ผมพร้อมตั้งแต่สามทุ่มแล้วเฮีย นอนไปแล้วด้วย แต่ดันมีโทรศัพท์ไปปลุกผมลุกขึ้นมา” ผมพูด

      “แล้วนี่ประกันตัวกันไปหมดแล้วใช่ไหมวะ” เฮียไธม์ถามผม

     “ครับเฮีย” ผมพูด

      “ไอ้ที่ตีกันวันนี้ แก๊งนี้ไม่คุ้นหน้าว่ะ แต่บอกพวกมันไปแล้วว่าไม่ต้องมาแล้วเพราะว่าพยาธิที่เห็นเหตุการณ์” เฮียธัน

     “พยาน!!” น้องๆ เฮีย

     “กูกำลังได้ที่ไง ไปหลายแก้วเหมือนกัน จากพยานก็กลายเป็นพยาธิไปได้” เฮียธันพูด

      “คนเห็นเหตุการณ์บอกว่ามันปากดี ต่อปากต่อคำกับน้องๆ มึงอ่ะ เฮียจะสั่งแบนมันไปซะ เอาใจสุดๆ เลย” เฮียธันพูด ผมยกนิ้วให้เฮียเลย

      “ลูกค้า 3วีของกูอีกแล้ว” เฮียธันพูด

      “เวรี่วุ่นวาย” เฮียธันพูด

      “งั้นเฮียขอตัวน่ะ ไปนอน พร้อมมาก พร้อมนอนมาก “เฮียธันพูด ผมยกมือไหว้เฮียทั้งสองคน ผมหันมามองไอ้ธีน ผมเห็นสาวผมสีม่วงๆ

      “แฟนมึงเปลี่ยนสีผมไม่ซ้ำกันเลยหรือว่าไม่ซ้ำคนกันแน่วะ” ผมถามไอ้ธีน ไอ้นี้เจ้าชู้ตัวพ่อ ผมนี่ขอเลยห้ามจีบน้องผม น้องธามผม

      “กูไม่ชอบซ้ำทางเดิม” ไอ้ธีมพูด

      “งั้นกูกลับน่ะ มิวนอนอยู่และพรุ่งนี้จะไปทานข้าวบ้านม๊ากับป๊ากูด้วย” ผมพูดพร่งนี้วันอาทิตย์

      “มึง กูเจอเมียไอ้ภูริว่ะ” ไอ้ธีนมันบอกผม ผมหันมามองไอ้ธีน

      “ลูกสามคน ไม่น่าจะเกินสี่ขวบคนเล็กและตามลำดับแถมยังท้องโย่อีกหนึ่ง นี้ไอ้ภูริมันเก็บกดจากมึงป่ะเนี๊ยะ” ไอ้ธีนมันถามผม

      “จะมาเก็บกดอะไรจากกู” ผมถามมันกลับ

     “ก็เมื่อก่อนมึงใช้ของมึงคนเดียวเลยไง พอมันไปแต่งงาน มันเลยใช้ของมันให้คุ้มค่า” ไอ้ธีมพูด ผมนี้ส่งนิ้วกลางให้มันเลย

     “ไอ้ตั้นอ่ะ” ผมถาม ผมไม่ค่อยเจอมันเลยตอนนี้

     “ไอ้ตั้นมันยุ่งมาก” ไอ้ธีนพูด ผมพยักหน้า

      “บริษัทมันเหรอ” ผมถาม

      “ไม่ใช่บริษัทมันหรอกที่ยุ่ง ยุ่งห้ามทัพชะนีกับเก้ง มันไปสอยเก้งมาเป็นเมียแล้วมึงรู้ยังและชะนีก็ตามจะเอามันกลับมาทำผัว ผัว มันเลยไม่ว่าง” ไอ้ธีนพูด ผมก็พยักหน้า ผมคิดในใจ ไอ้ตั้นมึงควรมีเพื่อนเมื่อพร้อม ผมยิ้มให้ไอ้ธีน

      “ยิ้มแบบนี้ด่ากูชัดๆ” ไอ้ธีนพูด

      “กูไปแล้ว จะไปนอนต่อ” ผมพูด น้องผมสีม่วงเดินมาหาไอ้ธีนและกอดทันที

      “กูว่ามึงไม่ได้นอนแล้วไอ้ธีน” ผมพูด

      “จะนอนไหวเหรอ เจอแบบนี้” ไอ้ธีนพูด หันไปหอมแก้มน้องเขาโชว์ผมด้วย และผมก็เข้าไปในรถ ผมสตาร์มรถ ก่อนจะส่งข้อความหามิว

       “เฮียกำลังกลับนะครับมิว “ผมบอกแค่นั้นก็ขับรถกลับไปทันที ผมเลิกกับภูริแล้ว ตอนนี้คือมิว ผมรู้ว่าภูริมันแต่งงานไปก็ไม่มีความสุข เพื่อนๆ เลยเจอแค่เมียไม่เคยเจอภูริเลย เดินทางไปไหนกับเมียนี่แทบไม่เคยเจอเลยด้วยซ้ำนอกจากไปออกงานเท่าที่ผมรู้มา ส่วนผมกับมิวนี้ก็คบกันมาจะห้าปีแล้ว ผมก็มีบ้างที่ระหองระแหงกันแต่ก็หันกลับมาปรับจูนกัน เพราะว่าม๊าและอาม่าผมชอบมิว ผมต้องหาคนที่เข้ากับคนในครอบครัวก่อน ผมคิดว่ามิวนี้แหละใช่ที่สุด ผมเลยยอมปรับตัวเองให้เข้ากับมิวให้มากที่สุดเหมือนกัน

      TBC ….
99
พูดคุยทั่วไป / Super Сasual Dating - Verified Damsels
« กระทู้ล่าสุด โดย overdrink เมื่อ 10-04-2024 20:22:47  »
Spontaneous adult encounters
Verified Females
Superlative Сasual Dating
100
EP.8 สามเฮียของเธียรวิชญ์ (ครึ่งแรก)


        Part’ s ฟิล์ม ผมเป็นเพื่อนกับบีม เป็นเพื่อนมาตั้งแต่มัธยมแล้วจน จนขึ้นมหาวิทยาลัย ผมรู้ว่าแม่ของบีมเขาไปอยู่ต่างประเทศแต่งานกับฝรั่งแต่ไอ้บีมมันก็ลูกครึ่งไทยอังกฤษน่ะ แต่บีมมันบอกว่าพ่อมันเสียไปแล้วและมันก็ไม่รู้ว่าพ่อมันเสียเพราะอะไรด้วยซ้ำ แม่บีมของบีมมาบีมมาไว้ที่ไทยตั้งแต่เจ็ดขวบและพอยายมันเสียก็เอามาไว้ที่กรุงเทพตั้งแต่อายุสิบเอ็ดขวบได้ มันต้องมาอยู่กรุงเทพตามลำพังโดยมีเพื่อนของแม่ดูแลเขาพักอยู่ห้องข้างๆ แต่ว่าตอนนี้เขาย้ายตามแฟนเขาไปอยู่เยอรมันแล้ว พวกผมนี้ก็ได้ไปนอนพักนอนเล่นที่คอนโดมันนี่แหละ เราก็สนิทกันดูแลกันมา ผมสามคนไม่ได้มีครอบครอบครัวที่สมบูรณ์ ผมไม่มีพ่อ พ่อผมเสียไปนานแล้วมีแต่แม่และพี่สาว แต่ผมดูจะมีครอบครัวที่ดีกว่าทั้งคู่ ทั้งบีมและเป็กซ์ เป็กซ์นี้แย่ตรงที่น้องสาวมันขี้อิจฉาเป็กซ์เป็นที่สุด ใจแตกตั้งแต่ยังไม่สิบห้าเลย

         “ฟิล์ม” ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อผมกำลังไขกุญแจเข้าบ้าน ผมหันไปมองคนที่ลงจากรถมาเขาตรงมาจะมาหาผมและมาทำร้ายผมอีกซิน่ะ ไอ้พี่เอ็ม มันเป็นแฟนผม ตอนแรกก็รักผมดีแต่มาตอนนี้มันเริ่มจะทำร้ายผม มันหึงมันหวงแต่มันก็ไปนอนกับใครต่อใคร

         “อย่านะไอ้เอ็ม” ผมรีบห้ามมีนทันที

        “มึงหายไปไหนมา โทรก็ไม่รับ มึงมีผัวใหม่ใช่ไหมฟิล์ม!!” ไอ้เอ็มมันถามผม

        “กูไม่ได้ไปหาใครเหมือนมึงน่ะไอ้พี่เอ็ม” ผมพูด

        “กูไปอยู่กับเพื่อนกูมา” ผมพูดและมองหน้ามัน

        “เพื่อนที่ใครก็พูดกันทั้งมหา’ลัยเหรอว่ะ ว่าโดนอาจารย์เอาจนท้อง” ไอ้เอ็มมันพูด

        “ถ้ามึงปากหมาว่าเพื่อนกู มึงก็กลับไป มึงมันบ้า อย่างที่เพื่อนๆ กูว่าจริงๆ ว่ะ พี่เอ็ม” ผมพูดและทำท่าจะเข้าบ้าน

        “มึงต้องคุยกับกูก่อน มึงไปกับกูเลยน่ะ “พี่เอ็มพูดแต่ว่าผมไม่ยอมไป ผมก็ผลักไอ้พี่เอ็มออก

       “กูจะเข้าบ้าน กูไม่ไปไหนกับมึง มึงกับกูเลิกกันเถอะว่ะ มึงทำร้ายกูแบบนี้ เพื่ออะไรวะ” ผมพูดและมองหน้าไอ้พี่เอ็มมัน

       “กูไม่เลิก กูไม่เลิกโว้ย” พี่เอ็มพูด

       “มึงเลิกเถอะ มึงไปเอาเด็กบัญชี เพื่อนกูเห็นมึงพากันไปซื้อถุงยางด้วยกัน ไอ้เชี้ย!! “ผมพูด ผมหันหน้าหนี ผมนี้มาซวยอะไรแบบนี้ว่ะ

       “เห็นก็ดีแต่กูไม่เลิก มึงยังเป็นเมียกูอยู่น่ะ ฟิล์ม” พี่เอ็มมันพูด ว่าผมยังเป็นเมียมันอยู่

       “กูไม่เป็นแล้ว มึงไปเอาเขาเลย กูยกให้ มึงจะไปเป็นผัวใครมึงก็ไป “ผมพูด ไอ้เอ็มมันหันมามองหน้าผมก่อน

       “ผลัก” มันต่อยปากผมทันที ผมลงไปนอนที่พื้นทันที

       “ผลัก” มันเข้ามาเตะท้องผมซ้ำทันที

       “กูไม่เลิก!!!” ไอ้พี่เอ็มพูด แต่จังหวะนั้นมีรถมาจอดพร้อมเปิดไฟสูงใส่ ผมเอามือป้องเพื่อดูว่าใคร พี่ฟ้ากับแฟนพี่ฟ้านั้นเอง

       “นี้มึงทำน้องกูอีกแล้วเหรอ ไอ้เอ็ม! “พี่ฟ้าลงมาจากรถก็ชี้หน้าด่าไอ้เอ็มทันที ไอ้เอ็มหันมามองหน้าผม มันชี้หน้าผม

       “ฝากไว้ก่อน กูจะกลับมาอีก เพราะว่ากูไม่เลิก!” ไอ้พี่เอ็มพูดก่อนจะเดินไปขึ้นรถมันและขับออกไปทันที ผมหันมามองพี่สาวที่วิ่งมาช่วยพยุงผมขึ้น พี่เขยก็ลงมายืนมองหน้าไอ้เอ็มเพราะว่ากลัวจะเข้ามาทำร้ายพี่ฟ้าแต่มันไม่กล้าหรอก มันรู้ว่าถ้าทำมันโดนพี่เขยผมเล่นมันแน่ๆ

       “อาฟิล์ม” ใบเฟิร์นวิ่งลงมาหาผมทันที แม่เปิดประตูออกมาเพราะว่าได้ยินเสียงพี่ฟ้า แม่รีบเดินมาหาผมเช่นกัน

       “มันมาทำร้ายเราอีกแล้วเหรอฟิล์ม” แม่ถามผมเสียงสั่นๆ

       “ฟิล์ม ต้องเลิกกับมันได้แล้วน่ะ พี่ขอละ” พี่ฟ้าพูด

       “ผมบอกมันว่าเลิกแล้วแต่มันไม่ยอมอ่ะพี่ฟ้า” ผมพูด

       “ไปแจ้งความดิฟิล์ม ให้ตำรวจเขาเรียกมันมาคุยและมันจะได้ไม่กล้าเข้าใกล้เราอีก “พี่เขยแนะนำผม ลุกขึ้นยืน มุมปากมีเลือดซิบเล้กน้อย

       “เข้าบ้านกันเถอะฟิล์ม” แม่บอกผม แม่พยักหน้ากับพี่ฟ้าและแฟนพี่ฟ้าและหลานๆ ผมก็พากันเข้าบ้าน

       “นี่ถ้าพี่กับพี่เชษฐ์ไม่มาถึงมันคงลากเราขึ้นรถไปซ้อมที่ไหนแน่ๆ ฟิล์ม” พี่ฟ้าพูด

       “ไปแจ้งความเลยน่ะฟิล์ม บันทึกประจำวันเอาไว้ “พี่ฟ้าพูดผมพยักหน้า ผมนั่งลงในห้องนั่งเล่น แม่ก็ไปเอาชุดทำแผลมาทำแผลให้ผม

       “แม่ทำขนมจีนเอาไว้ในครัวนะเชษฐ์ พาลูกๆ ไปทาน” แม่บอกพี่เชษฐ์ เขาพยักหน้าและพาหลานๆ ของผมไปทานกัน พี่ฟ้ามองหน้าผม

       “ว่าแต่มันมาหาเรื่องเราทำไมละฟิล์ม” พี่ฟ้าถามผม

       “ผมหายหน้าหายตาไปจากมันไงพี่ฟ้า ผมไปพักอยู่กับบีม ไม่ค่อยได้กลับมาบ้าน กลับมาก็มาเจอมันมาอยู่หน้าบ้านนี้แหละ” ผมพูด

        “โอ๊ยย แม่ เจ็บ” ผมพูดเพราะว่าแม่ทายาให้ผมตรงที่โดนไอ้เอ็มมันต่อยเอา

       “บีมเป็นไงบ้างละ แพ้ท้องเยอะไหมฟิล์ม” พี่ฟ้าถามผม แม่มองหน้าผม

        “บีมเป็นอะไรไปละฟิล์ม” แม่ก็ถามผมทันทีเช่นกัน แม่ก็รักบีมเหมือนมันเป็นลูกแม่อีกคนเช่นกัน

       “แม่บีมมันท้องได้” ผมพูด

       “อะไรน่ะ ท้องได้ยังไงล่ะ” แม่ถามผมอีก

       “ผมไม่รู้แม่ ไม่อยากถามเยอะแค่มันไปท้องกับใครก็ไม่รู้ก็แย่แล้วแม่ มันโดนลูกค้าในผับที่มันไปทำงานอ่ะแม่ จิตใจมันก็แย่ ผมเลยไม่อยากถามอะไรมาก” ผมพูด แม่ก็เอามือทาบอก ผมรู้ว่าแม้เห็นใจบีมมันมากกว่า

      “ก็ถึงได้บอกไงว่าอย่าไปหางานแบบนี้ทำ พวกนี้มันเอาแต่สนุกและมันก็ไม่รับผิดชอบ ซวยจริงๆ เลยบีมเอ๋ย” พี่ฟ้าพูด

       “ไปฝากท้องหรือยังล่ะ” พี่ฟ้าถามผม

       “ไปฝากมาแล้วพี่ฟ้า บีมมันไปตรวจเลือดมาและอัลตราซาวน์มาด้วย ผมเห็นลูกมันตัวเล็ก มันสวิงน่าดูน่ะพี่ฟ้า” ผมพูด

      “สงสัยจะแสบน่าดูแหละน่ะ “พี่ฟ้าพูด

      “ไอ้บีมมันร้องไห้เลยน่ะที่เห็นลูกมันอ่ะ แต่มันก็ยังคิดไปถึงอนาคต ใครจะช่วยมันดูลูกมัน “ผมพูด

       “อันที่จริงก็มีคนอยากช่วยมันนะแต่ว่ามันไม่ยอมอ่ะ ผมไม่รู้ว่าทำไม คนนี้เป็นถึงอาจารย์มหาวิทยาลัย เขาชอบมันอ่ะพี่ฟ้า เขาอยากรับเป็นพ่อเด็กด้วยซ้ำแต่บีมมันยังปฏิเสธเขาอีกอ่ะ” ผมพูด พี่ฟ้ามองหน้าผม

       “เพราะว่ามันมีอะไรละเอียดอ่อนไงฟิล์ม แม่เองก็มีคนมาจีบนะตอนที่เลิกกับพ่อเราน่ะ แม่ก็ปฏิเสธแม่กลัวสารพัดเลย ถ้าได้คนใหม่ที่ไม่รักลูกเขาจะทำร้ายลูกแม่หรือเปล่า แม่เลยไม่ปฏิเสธไป” แม่ผมพูด

        “ถึงเราจะไม่บอกลูกว่านั้นไม่ใช่พ่อหรือแม่เขาจริงๆ เด็กก็รู้สึก บางทีบีมอาจจะมองตรงนี้ก็ได้น่ะและที่สำคัญอีกคนเขาก็ไม่ควรมารับผิดในสิ่งที่เขาไม่ได้ก่อขึ้นมา บีมอาจจะคิดแบบนี้ก็ได้ “แม่ผมพูด ผมพยักหน้าเบาๆ

        “เอาไว้พาบีมมาหาแม่บ้างแล้วกันจะได้ช่วยๆ กันดูแลไป บีมก็เหมือนลูกแม่อีกคนนะฟิล์ม เราน่ะดูแลกันมาตั้งแต่มัธยมน่ะ เรียนมหาวิทยาลัยก็ยังดูแลกันอยู่ ดังนั้นเรียนจบแล้วก็อย่าทิ้งกันล่ะ” แม่ผมพูด

        “ฟ้าไปทานขนมจีนได้แล้วเดี๋ยวเย็นหมดและนี่จะกลับเลยใช่ไหมล่ะ” แม่ผมถามพี่ฟ้าก่อนจะเดินคุยกันเข้าไปในห้องครัว ผมเก็บอุปกรณ์ทำแผลใส่กล่องยา ผมก็คิดน่ะ บีมมันคิดอะไรอยู่ จะรอคนที่เป็นพ่อเด็กจริงๆ เหรอ แล้วไอ้คนนั้นมันจะรับผิดชอบจริงๆ เหรอ ถ้ามันรู้ว่าคนที่มันทำให้ท้องเป็นผู้ชาย ผมกลัวตรงนี้แหละ กลัวบีมจะเสียใจมากกว่าเดิม คิดแล้วก็อดเป็นห่วงมันไม่ได้แต่ว่าผมคงไม่กล้าไปเจอหน้ามันสองสามวัน ก็แผลที่มุมปากนี่แหละและรอยเขียวช้ำตามร่างกายอีก ผมไม่อยากเพิ่มความไม่สบายใจให้บีมมัน ช่วงนี้ยิ่งเซนซิทิฟง่ายอยู่ด้วย เขาบอกว่าคนท้องจะค่อนข้างจิตใจเปราะบาง มันเป็นเรื่องจริงทีเดียว

        Part’ s เฮียธัน ผมชื่อธัน ผมเป็นน้องพี่ชายเธียรวิชญ์ แก่กว่ามันหนึ่งปีเอง ผมพึ่งจะมาเป็นผู้อำนวยการได้ปีเดียว ผมจบมาก่อนไอ้เธียรวิชญ์หนึ่งปีแต่ว่าผมกลับมาก็มีเรื่องทันที เพราะว่าผมไปแข่งรถชนะลูกนักการเมืองชื่อดังและผมดันไปมีเรื่องจนมันเกือบจะฆ่าผมแต่ผมก็ป้องกันตัวและผมก็พลั้งมือฆ่าไอ้คนนั้นตาย แต่ว่ากำลังจะเอาปื้นจ่อหัวผมอยู่ มันต้องแลกว่าใครจะตาย ผมไม่ยอมตายเด็ดขาด ผมเลยต้องสู้จนเฮือกสุดท้าย และผมก็ต้องใส่กำไรที่ข้อเท้า กว่าผมจะเคลียร์ทุกอย่างป๊าก็วิ่งเต้นจนเกือบจะเสียงานไปด้วยเหมือนกัน ตอนนี้ผมเลยต้องกลับมาทำหน้าที่ผู้บริหารที่ดีให้ได้

       “ผับนี้หรูดีนะคะ ผับของใครเหรอคะธัน” พี่ลินดา เธอแก่กว่าผมเกือบห้าปีได้ เธอเป็นทีมที่เข้ามาช่วยผมทำเอกสารตรวจสอบมาตรฐานโรงเรียนของผม พี่ลินดาเขาเก่งมาก ผมก็เลยต้อง นิดนึง ผมพาเธอมาเที่ยวเป็นการตอบแทน

       “ผับนี้เป็นผับของเพื่อนพี่ชายผมครับ เฮียธีนะครับ “ผมตอบพี่ลินดา เขาพยักหน้า ผมหันไปมองเจ๊ธามที่นั่งดื่มคอกเทล

       “พี่ลินดาครับ เรื่องที่เราคุยกันโอเคนะครับ” ผมถามเธอ ผมนั่งเบียดอยู่กับเธอ เธอสวมชุดแซกสั้น เนื้อผ้าแนบชิดเข้ารูป ปกติเธอสวมเสื้อสูททับแต่พอมาเข้าผับกับผมเธอก็ถอดเสื้อสูทเธอออก มันทำให้ผมเห็นเรือนร่างที่อวบแบบเต็มไม้เต็มมือ พี่ลินดาเธอก็ไม่ใช่สาวซิ่งอะไร

        “ถ้าคุยกันเสร็จแล้วขอตัวกลับก่อนนะครับ เพราะว่าผมก็ทำงานมาตั้งแต่เช้าแล้ว จะให้มาทำสว่างคาตาไม่ได้นะครับ” เจ๊ธามของผมพูด ผมหันไปมองเจ๊ธามของผมแต่ถ้าอยู่บ้านต้องเรียกเฮีย เพราะว่าเจ๊ลับหลังป๊าผมแค่นั้น ดูซิเอสเซสเซอรี่ติดผมติดเผ้าเยอะขนาดนี้ ผมแบมือว่าทำไมเขาคือทีมผู้ตรวจสอบ เอาใจเขาหน่อย เจ๊ธามแอบมองบนใส่อีก

       “เจ๊ เด็กในโอวาสเจ๊อ่ะ ไอ้ดีเจเดย์น่ะ “ผมบอกเจ๊ธามของผม

      “ของมึงละ ป้าในโอวาส” เจ๊ธามกระซิบกับผม แม้ชมพี่ลินดาซะผมหันไปมองเลย

       “ไปว่าพี่ลินดาเขา เดี๋ยวสาขาเจ๊ก็สอบตกหรอก” ผมพูด เจ๊ธามสะบัดหน้ามาหน้าผมทันที

       “และผมกับพี่ลินดาห่างกันแค่ห้าปีเอง ไม่เยอะ” ผมพูดกับเจ๊ธามของผม

       “ของกูมันห่างจากกูแค่สี่ปีเหมือนกัน ก็ยังไม่เยอะ” เจ๊ธามพูด ก่อนจะลุกขึ้น ไอ้เดย์มันมายืนรอแล้ว ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเจ๊ธามต้องประชดชีวิตแบบนี้ด้วยตั้งแต่แฟนเฮียเสียไปตอนวันที่เจ๊ธามผมรับปริญญาตรีและนั้นชีวิตเจ๊ธามผมก็เปลี่ยนไปเลย

        “ว่าแต่ไอ้ตี๋น้อยมันจะกลับไหมว่ะ นี้จะเรียนให้ถึงปริญญาเอกค่อยมาบริหารงานโรงเรียนเหรอ ป๊าเรียกผู้อำนวยการสาขาที่จะให้ไอ้ตี๋ดูแลน้อยมาคุย ให้เขาอยู่ต่ออีกปีหนึ่ง” เจ๊ธามพูด

       “ป๊าน่ะบอกไปแล้วว่าให้เวลาแค่ปีหนึ่งและยังบอกเจ๊คกันด้วยว่า ถ้าปีหนึ่งไอ้ตี๋น้อยเรียนไม่จบ ให้เจ๊กกันเตรียมลาออกจากเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยมาดูแลสาขานั้นแทนไอ้เธียรวิชญ์ได้เลย” ผมพูดเจ๊ธามหันมามองหน้าผม

      “แล้วไอ้เธียรล่ะ” เจ๊ธามถามผม

      “ก็โดนลอยแพรไงและป๊าพูดรอบนี้ป๊าเอาจริงนะ” ผมพูด

      “กูว่ามันคงจุดพลุฉลองให้ตัวเองและมันคงกระโดดไปเป็นนักแข่งรถเต็มตัวซิไม่ว่าและนี้คือการชี้โพรงให้กระรอกชัดๆ ไม่ใช่ทำโทษให้มันเข็ดหลาบนะมึง” เจ๊ธามพูด

      “ป๊าขู่มันแต่ป๊าก็กลัวเองเหมือนกันเพราะว่าป๊ารู้ว่าจริงๆ มันชอบอะไร” ผมพูด

      “แต่เชื่อดิว่า เจ๊กกันน่ะต้องเข็นให้มันจบให้ได้ เพราะเจ๊กแกไม่อยากมาทำตรงนี้” ผมพูด จังหวะนั้นดีเจน้องเดย์ของเจ๊ธามเดินลงมาพอดี มันนอบน้อมมากไว้มาทุกโต๊ะ โต๊ะที่มันเข้าไปสาวๆ ทั้งนั้น มันชอบเล่นรุ่นใหญ่ทุกคนเลยมั้งน่ะ

       “พี่ธันหวัดดีครับ” ไอ้เดย์มันยกมือไหว้ผม ผมพยักหน้าก่อนจะหันมาสะดุดกับพี่ลินดา เธอสวยน่ะ หน้าสวยทีเดียว ผมชอบคนสวยๆ ไอ้เดย์ยังมองเลยแล้วมองอีก

       “เดย์!!” เจ๊ธามผมไม่ชอบถ้าจะเป็นคนของเจ๊ห้ามเรื่องพวกนี้ ผมมองหน้ามัน หาเรื่องแล้วไง

       “ธัน พวกเพื่อนมึงมาแล้วน่ะ แหม มาแบบโสดเลยดิวันนี้ไม่มีใครพกเมียมาสักคน” เจ๊ธามพูด ผมยกมือว่าผมนั่งอยู่ตรงนี้ เพื่อนผมมีทั้งหมดหกคน แต่ล่ะคนชอบเหมือนกันความเร็ว ผมเลยตั้งทีมแข่งรถขึ้นมาด้วยทุนของพวกผมเอง ตอนนี้มีนักแข่งสองคน ผมเคยเป็นน่ะแต่ม๊าให้ผมเลิกเพราะว่าผมขับรถตีลังกาในสนาม ดีไม่ตายแค่บาดเจ็บ

      “ไอ้โน๊ต เมียมึงล่ะ” เจ๊ธามถามทันที

      “เมียมีเมียพี่ต้องมา ถ้าเมียไม่มาก็เพราะว่าเมียไม่มี” ไอ้โน้ตมันร้องเพลง ผมพยักหน้ามันช่างกล้าตอนลับหลังเมีย

      “กูอัดเสียงไว้พอดีเลยให้กูส่งให้เลยไหมโน้ต กูมีเบอร์เจ๊มินนี่พอดีเลยมึง” เจ๊ธามถาม

       “เจ๊!! เจ๊ธามคนสวยของผม อย่าทำร้ายน้องแบบนี้ซิ” ไอ้โน้ตรีบห้ามทันที

       “มันปากดีไงเจ๊” ไอ้โอมมันพูด

       “มึงล่ะ” เจ๊ธามถาม ไอ้โอมมันชี้ไปที่สาวสวยหุ่นดี นุ่งมาแบบแทบจะไม่ปิดอะไรเลย เห็นหน้าอกหน้าใจ ไม่ใช่ที่หนึ่งน่ะแต่นี้มัน

       “เมียน้อยมึงนิ” เจ๊ธามถาม เธอชื่อน้องแนท พริตตี้โชว์รูมรถหรู เป็นลูกพี่ลูกน้องกับไนท์ ชื่อคล้องกันดีจริงๆ ไนท์เป็นแฟนเก่าผมเองแต่เลิกเพราะว่ามันอยากไปเติบโตในวงการรถแข่ง ไนท์คืออดีตนักแข่งรถของผม ฝีมือดีทีเดียว เพื่อนในกลุ่มผมจะมีไอ้โน้ตสนิทมากที่สุดเรียนมาตั้งแต่ประถม นิ๊กกี้มารู้จักตอนเรียนมัธยม ไอ้แพท ไอ้โอมนี้มาเจอตอนเรียนมัธยมปลายแต่พอเข้ามหาวิทยาลัยก็แยกย้ายกันไป แต่ล่ะคนพ่อแม่มีตังทุกคนและมีเมียกันทุกคน (เมียยังไม่แต่ง)

       “กูเห็นไอ้ปุณณ์มันมากับใครไม่รู้ว่ะ นั่งอยู่ตรงโน้น” ไอ้แพทมันพูดกระซิบกับผม

      “ไอ้คิมละมากับมันไหม” ผมถามไอ้แพท

      “ไม่เห็นวะ” ไอ้แพทมันบอกผม

      “ไอ้ไนท์มาไหมล่ะ” ผมถามไอ้แพทมันต่อเพราะว่าไอ้ปุณณ์นี้แหละที่มันนอนกับไอ้ไนท์ ผมไม่รู้หรอก ผมรู้แค่ว่าวันนั้นผมเปิดประตูไปเจอสองคนนอนด้วยกันบนเตียงแบบนั้น และนั้นความเป็นเพื่อนของผมขาดกัน มันก็ไปช่วยทีมน้องชายมันทีมนักแข่งคู่อริ ไอ้คิมนี้ก็ไม้เบื่อไม้เมาของผมตั้งแต่ตั้งทีมมาเลยก็ว่าได้



      “ไม่เห็นวะ ไม่ถามเมียน้อยไอ้โอมละ” ไอ้แพทพยักหน้าไปที่แนท นั่งเบียดเสี่ยโอมน่าดู ส่วนเจ๊ธามที่เอ็นตี้เมียน้อยนี้มองแล้วก็เบ้ปากใส่ ส่วนแนทน่ะไม่แคร์ ผมหันมามองพี่ลินดา เธอแอบเอามือมาลูบต้นขาผมเป็นระยะๆ ผมหันมามอง สงสัยได้แน่ๆ คืนนี้ แต่ผมก็สนใจเธอน่ะ เธอเก่งและผมก็เพิ่งเลิกกับแฟนที่อายุเยอะกว่าสองปีไปหมาดๆ ด้วย

     “พี่โอม เดี๋ยวแนทมานะคะ” น้องแพทบอกไอ้โอม โอมพยักหน้าและน้องแกก็เดินเฉิดฉายไปทันที เจ๊ธามหันไปมองไอ้โอมทันทีเช่นกัน

      “เจ๊อ่ะ ก็เมียไม่ค่อยว่าง เรื่องอย่างว่ามันสำคัญแต่คนในหัวใจน่ะมีหนึ่งเดียว” ไอ้โอมมันพูด เจ๊ธามผมชูนิ้วกลางให้ไปทันที

      “หนึ่งเดียวเลยเป็นไงมึง เจ๊แกให้มึงอ่ะ ฮาๆ “ไอ้นิกกี้มันพูด

     “แนทมันบอกกูว่า ไอ้คิม มันไปประเทศเพื่อนบ้านช่วงนี้ งานมันเข้า ผับมันโดนหน่วยรบพิเศ่ษเข้าไปบุกมาสองผับรวดเมื่อตอนส่งท้ายปีเก่าผับหนึ่งแต่ผับนี้มันใช้ชื่อคนอื่น แนทมันรู้มาจากไอ้ไนท์อีกที” ไอ้โอมมันพูด ผมพยักหน้า

      “และอีกผับพึ่งจะโดนไปเมื่อเดือนก่อน มันเลยเพ้นไปก่อนสักพัก ตอนนี้ไอ้ปุณณ์มันเลยเข้ามาดูทุกอย่างแทน มันพึ่งกลับมาจากมาเก๊า” ผมพยักหน้า ผมชะเง้อคอมองเห็นปุณณ์มันคุยอยู่กับพวกหุ้นส่วนของมัน นั่งอยู่ไกลๆ ไอ้โอมมันดีดตัวออกจากการสุมหัวเพราะว่าแนทเดินกลับมา ทาปากแดงมาแต่ไกล เดินมานั่งข้างไอ้โอมแบบเบียดกันน่าดู

     “เจ๊กลับก่อนน่ะ อุจาดลูกตาวะ” เจ๊ธามพูดและพยักหน้ากับไอ้เดย์ เด็กเจ๊เขา มันก็หันมามองสองสาวอย่างเสียดาย พวกผมหันไปมองไอ้เดย์พร้อมกัน มันหดทันทีและเดินตามเจ๊ธามผมไปอย่างเชื่องๆ แต่เอาจริงๆ น่ะ

     “ไอ้นี่มันเลี้ยงไม่เชื่องหรอกว่ะ “ไอ้โน้ตยังพูดเลย

      “เจ๊กูก็แค่เอาไว้แก้ขัดป่ะ ไม่เอามันจริงหรอก” ผมพูด พวกนั้นพยักหน้า ผมหันมาอีกทีไอ้โอมกับน้องแนทนี้จูบแลกลิ้นกันแล้ว

     “โว้ยยย!! ไปห้องพักดีกว่าไหมมึง” ไอ้นิกกี้มันเอาน้ำแข็งปาใส่ไอ้โอม

     “ไปพักที่ไหนละมึง เมียกูเช็ก ที่นี่แหละที่ไม่กล้าเช็ก” ไอ้โอมพูด

     “มีเมียกันแล้วเหรอ ธันล่ะ” พี่ลินดาหันมาถามผม ผมสั่นหัวไปมา

     “อยากมีเหมือนกัน” ผมหันมาพูดกับพี่ลินดา

     “แต่พี่ยังไม่คิดถึงขั้นนั้นนะคะ ขอดูก่อน พี่เลือกค่ะ” พี่ลินดาพูดแต่ดูจากฝ่ามือที่ลูบขึ้นลูบลงขนาดนี้

     “กูเห็นเพื่อนเฮียธีว่ะ พี่ธีนอ่ะ และเฮียธันที่ชื่อเหมือนมึงอ่ะ เขาอยู่ตรงโน้น” ไอ้แพทมันพูด

      “เฮียกูเลิกเที่ยวแล้วตั้งแต่มีแฟน “ผมพูด ผมนั่งคลอเคลียกับพี่ลินดา ตอนนี้เด็กมาชงเหล้าให้พวกผมแล้ว ผมก็ดื่มกันและเพลงก็กำลังน่าเต้นเลย ผมพยักหน้ากับพี่ลินดา เขาลุกขึ้น ท่าโยกย้ายส่ายสะโพกนี้แบบนี้ เล่นเอาผมอยากจะพาเธอกลับไปที่คอนโดผมเลย

       TBC...
หน้า: 1 ... 6 7 8 9 [10]
สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด