สวัสดีครับ เผลอนิดเดียว ปล่อยกระทู้ผมตกไปหน้าสองเลย ใจร้ายจัง....

เอาตอนที่ 27 มาฝากครับ
.............................................................
ตอนที่ 27 เที่ยว “ผาเทิบ”หลังจากที่เราอาบน้ำเสร็จ... ไอ้ชลมันก็บอกให้ผมแต่งตัว มันจะพาไปเที่ยว...
“ไปไงวะ ชล”
ไอ้ชลอมยิ้มนิดๆ ไม่ตอบ พอเราแต่งตัวลงมา มันก็เดินไปที่กระต๊อบไม้ไผ่ขัดแตะหลังคามุงจากหลังเล็กๆ ที่ปลูกติดกับรั้วทางนึง ขนาดไม่ใหญ่นัก เหมือนกับห้องเก็บของมากกว่า... มันหายเข้าไปครู่เดียวประตูก็เปิดออก แล้วไอ้ชลก็จูงมอเตอร์ไซค์วิบาก ขนาด 125 ซีๆ ออกมาจากกระต๊อบ...
“ของใครวะ” ผมตาเป็นประกาย ถามมัน
“ของพี่ทัพน่ะ...” มันบอก ก่อนจะถามผม “มึงขี่เป็นไม๊...”
ผมพยักหน้าหงึกๆ “เป็นดิ... กูก็เด็กต่างจังหวัดนะโว้ย กูมีใบขับขี่ด้วย...” ผมบอกมัน
ไอ้ชลหัวเราะๆ ก่อนจะตอบหน้าตาเฉย “ดี... งั้นมึงขี่”
“อ้าว ไอ้เวร...” ผมหัวเราะด่ามันเบาๆ เดินไปจูงแทนมัน... พอออกมาพ้นประตูรั้วหน้าบ้าน ผมก็เอาแว่นกันแดด Ray Ban ที่อุตสาห์เก็บตังค์ซื้อมาอันนึง ขึ้นมาใส่ ก่อนจะก้าวขึ้นคล่อมพาหนะในวันนี้... อยู่ต่างจังหวัด ที่บ้านผมก็ขี่มอเตอร์ไซค์เหมือนกัน เพียงแต่เป็นแบบธรรมดา ไม่ใช่มอเตอร์ไซค์สำหรับทางวิบาก คันสูงแบบนี้ ผมสตาร์ทเครื่องบิดคันเร่งเบาๆ โดยที่ยังไม่ได้ใส่เกียร์ เสียงเครื่องดังกระหึ่มเร้าใจดีแท้
ไอ้ชลมันขึ้นคล่อมซ้อนหลังผม ใส่แว่นกันแดดเหมือนผม หน้ามันขาวพอใส่แว่นกันแดดสีเขียวๆ แล้วดูหล่อเข้มบึกบึนไม่เบา เพียงแต่... ปากแดงๆ ของมัน น่าจูบชะมัด...(แฮ่ม...)
“ไปไหนวะ” ผมเอียงหน้าหันไปถามมัน
“ผาเทิบ” มันตอบผม แล้วอธิบายเส้นทางให้ผม พอเข้าใจดีแล้ว ผมก็บีบคลัช เข้าเกียร์ แล้วปล่อยคลัช... บิดคันเร่ง เท่านั้นเอง เจ้ามอเตอร์ไซค์วิบากคันนั้นก็พุ่งทะยานออกจากที่ราวกับลูกธนู (ผมเข้าใจวัยรุ่นสมัยนี้เลยครับ เวลาขึ้นคล่อมมอเตอรไซค์ ลืมตัวทุกคน เพียงแต่ผมยังไม่เคยเอาออกมาแข่งกันบนถนนหลวงแบบทุกวันนี้อ่ะครับ)
ไอ้ชลกอดเอวผมแน่น เอาคางเกยที่ไหล่ อธิบายเส้นทางที่เราผ่านไปแข่งกับแรงลมที่ปะทะหน้ามันอยู่ไม่ขาด...
มันให้ผมขับย้อนลงมาที่มุกดาหาร ระยะทางจากอำเภอธาตุพนม ที่ป้ามันอยู่ห่างจากมุกดาหารไม่ไกล สองข้างทางเป็นทุ่งนา สลับกับป่าละเมาะรกร้าง (สมัยนั้น)
ไม่นานเราก็มาถึงตัวจังหวัดมุกดาหาร ตอนนั้นมุกดาหารเพิ่งแยกตัวออกมาออกมาจากจังหวัดนครพนม (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ได้ไม่กี่ปี ตัวอำเภอเมืองจึงยังไม่ค่อยมีอะไรเท่าไรนัก ไอ้ชลมันบอกให้ผมขับรถไปจอดที่สถานที่ราชการ ที่นึง
“มึงรอกูอยู่นี่แป๊บนะ...” มันบอกผมก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในตัวตึก ไม่นานมันก็ออกมา ยิ้มให้ผม “เรียบร้อย ไปกันได้”
“มึงมาทำอะไรที่นี่วะ...” ผมถามมัน แต่มันไม่ตอบ ได้แต่บอกว่า “เหอะน่ะ...” เหลือบดูนาฬิกาข้อมือแทน “เที่ยงแล้ว...ไปกินข้าวกันดีกว่านะ” มันชวนผม
ผมไม่เซ้าซี้ ไม่บอกก็ไม่บอก... ขับรถวนออกไปที่ตัวอำเภอ แวะที่ร้านอาหารตามสั่ง เจ้านึง... จัดการกันเรียบร้อย เราก็ออกเดินทางกันต่อ...
มันบอกให้ผมขับรถออกไปทางอำเภอดอนตาล ประมาณสิบกว่ากิโล ก่อนจะเลี้ยวขวา ผมเห็นป้ายที่ปากทางบอกว่า
“อุทยานแห่งชาติ ผาเทิบ 2 กม.”
จนมาถึงจุดหมายปลายทาง คือทางเข้าอุทยานแห่งชาติผาเทิบ ที่มันบอกผมตั้งแต่อยู่ที่บ้านแล้ว จอดรถ ก่อนจะเข้าไปติดต่อ ไม่นานเราก็เดินเข้าอุทยานไป...
“ผาเทิบ” คือกลุ่มหินที่ผ่านการกัดเซาะจากธรรมชาติวางซ้อนๆ กัน เป็นเพิง เทิบ ตามภาษาท้องถิ่น ทำให้เกิดเป็นจินตนาการภาพต่างๆ มากมาย... เราเดินลัดเลาะดูหินก้อนโน้น ก้อนนี้ สลับกับป่าเบญจพรรณที่ขึ้นอยู่ทั่วไป ไอ้ชลมันอธิบายให้ผมฟังคร่าวๆ ว่าหินแต่ละก้อนชาวบ้านเค้าจินตนาการเป็นอะไรบ้าง บางอย่างก็เหมือน แต่บางอย่างผมก็ยังงงๆ ว่า เค้าเห็นเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไง (วะ) หุ หุ
เราเดินดูกันอย่างเพลิดเพลิน เนื่องจากเป็นวันธรรมดา และยังไม่ถึงวันออกพรรษา ทำให้ไม่มีคนมาเที่ยว กลายเป็นว่ามีเราสองคนที่เดินดูสถานที่ธรรมชาติอยู่เท่านั้น... มันพาผมเดินมาถึงถ้ำแห่งหนึ่ง ที่ผนังถ้ำ มีรอยรูปวาดโบรานสีแดง
“เค้าเรียกว่า “ถ้ำฝ่ามือแดง” รูปวาดกับรอยฝ่ามือน่ะ เค้าบอกว่ามีอายุมากกว่า ห้าพันปีเลยนะ ดิน” มันบอกผม ซึ่งผมก็เพิ่งอ่านเจอในหนังสืออะไรสักอย่างมาไม่นาน พอมาเห็นของจริงก็ค่อนข้างตื่นตาไม่น้อย
(หมายเหตุ: รายละเอียดเกี่ยวกับการไปเที่ยวอุทธยานแห่งชาติ ผาเทิบ หาดูได้จากเว็ปไซด์ของ ททท หรือลองเสริชดูในกูเกิลก็ได้ครับ หรือ
www.weekendguidethai.com นะครับ)
ออกมาจากถ้ำ ระหว่างทางเดินกลับ ผมเอามือกอดคอไอ้ชล รั้งให้มันเข้ามาชิด กระซิบที่หู “ขอบใจนะ ชล”
“เรื่องอะไร” มันหันมาถาม ทำท่างงๆ
“ขอบใจที่พากูมาเที่ยวที่แบบนี้... กูเคยอ่านเจอแต่ในหนังสือ ไม่นึกว่าจะได้เห็นของจริง และกูก็ไม่ได้นึกว่า... มึงจะพากูมาเที่ยวที่แบบนี้” ผมบอกมันตามตรง “กูคิดว่า... อย่างมากก็เหมือนกับไปเที่ยวบ้านเพื่อนต่างจังหวัดทั่วๆ ไป”
ไอ้ชลหัวเราะ... “ทำไม มึงคิดว่ากูจะพามึงมานอนเฉยๆ เหรอ”
“ไม่เฉยหรอก... เพราะเวลากูนอนกับมึง... มึงไม่เคยนอนเฉยๆ สักที” ผมพูดล้อมันหน้าตาย...
“ไอ้ลามก...” ไอ้ชลพูดอุบอิบในลำคอ... แต่เอามือข้างที่แนบกับตัวผม ยื่นออกมาตะปบเป้ากางเกงยีนส์ที่ผมใส่อยู่ บีบกระตุ้นเบาๆ...
“หึ หึ... ว่ากูลามก... แต่มึงลวนลามกูเลยนะ... อูย.ย.ย.ซซี๊ดดซซ” คำสุดท้ายผมอดสูดปากครางออกมาไม่ได้ ทำตัวโก่ง...เพราะไอ้ชลมันเล่นกำลำท่อนของผมที่ตื่นขึ้นมาเพราะถูกมันกระตุ้นไว้เต็มมือ บีบแน่นๆ ก่อนจะรูดขึ้นรูดลงสองสามหน...
“จับนิดจับหน่อย แข็งขึ้นมาเลยนะมึง...” มันหันมาทำตาค้อน หน้าเป็นสีชมพู...
เราเดินออกมาถึงทางออก ที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้ (โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ) ผมขี่รถออกมาโดยมีไอ้ชลซ้อนท้ายเหมือนเดิม... แต่ที่ไม่เหมือนคือ จากขามาที่มันแค่กอดเอวผมเฉยๆ แต่ขากลับนี่สิ มือมันล้วงเข้าไปในขอบกางเกงยีนส์ของผม สะกิดเขี่ยที่หัวบานๆ ของไอ้ดินน้อยเล่นไปตลอดทาง...
พอเลยอำเภอเมืองมุกดาหารออกมา ระหว่างทางกลับไปที่อำเภอพระธาตุพนม บ้านป้ามัน...ไอ้ชลมันยิ่งเหิมเกริม... ปลดหัวเข็มขัด กับกระดุมกางเกงยีนส์ยี่ห้อดังของผมออก สอดมือลงไปดึงเอาไอ้ดินน้อยออกมาชมโลกภายนอกอีกต่างหาก
“ไอ้ชล... เดี๋ยวคนเห็น” ผมบอกมันเสียงสั่น...
“ใครจะมาเห็น ไม่มีรถสักคัน” มันบอก เพราะถนนค่อนข้างโล่ง (เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนโน้น) และบ้านเรือนชาวบ้านก็ปลูกห่างจากถนนพอสมควร (ถึงอยู่ใกล้ก็ไม่เห็นหรอกครับเพราะ ถังน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์วิบาก สูงพอควร บังเป้ากางเกงของผมไว้ ประกอบกับเสื้อยืดที่ผมใส่ค่อนข้างยาวลงไปคลุมที่เกิดเหตุพอดี...)
ผมจนด้วยเหตุผลประกอบกับเพลินด้วยแหละครับ บวกกับความตื่นเต้นกับการกระทำของไอ้ชลในสถานที่อย่างนั้นผมเลยปล่อยเลยตามเลย (เรื่องอย่างนี้... พอกันแหละครับ... ผมกับไอ้ชล)
พอมันเห็นผมไม่ว่า... คราวนี้ไอ้ชลก็เลยได้ใจ... จากมือเดียวในตอนแรก กลายเป็นทั้งสองมือของมันมารุมอยู่ที่ไอ้ดินน้อยที่แทบจะเรียกได้ว่า ออกมาอยู่ข้างนอกทั้งท่อน บางทีมันเห็นไม่มีบ้านคนอยู่แถวนั้นมันถึงกับตลบเอาชายเสื้อของผมออกให้ไอ้ดินน้อยออกมาชื่นชมธรรมชาติสองข้างทางไปกับเราด้วยซะเลย... ถ้าผมไม่ขี่มอเตอร์ไซค์ ผมว่ามันคงล้วงออกมาทั้งพวงละครับ ทั้งKทั้งไข่...
ผมขี่รถไป สูดปากไป... เพราะมือไอ้ชลที่เล่นกับลำท่อนของผมอย่างชำนาญการ... ทั้งลูบ บีบ เคล้น ชัก นวด คลึง...สารพัดที่มันจะทำ จนหัวไอ้ดินน้อยเต็มไปด้วยน้ำเงี่ยนที่หลั่งออกมาจนเปียกเยิ้ม
ไอ้ชลเอง มันก็ไม่ใช่ว่าจะดีไปกว่าผมสักเท่าไร... จากเดิมที่มันเล่นกับไอ้ดินน้อยอย่างเดียว มันเอาริมฝีปากมาเม้มที่ปลายติ่งหูของผม... บอกถึงอารมณ์ของมันที่ปั่นป่วนขึ้นมาเหมือนกัน หุ หุ มีไอ้ชลน้อยที่แข็งดันหลังของผมอยู่เป็นพยาน...
“ดิน เดี๋ยวเลยศาลาริมทางโน้นไปหน่อย ซ้ายมือมันจะมีทางเล็กๆ...”
มันชี้ให้ดู ศาลาริมทางที่เห็นอยู่ไม่ไกล พอไปถึงผมก็เห็นทางที่มันบอก จึงชะลอรถ เลี้ยวเข้าไป... จะว่าเป็นทางรถก็คงไม่ใช่หรอกครับ คงเป็นทางดินที่ชาวบ้านเค้าใช้เดินกัน แต่ไม่บ่อยนัก เลยค่อนข้างขรุขระ โชคดีที่เป็นมอเตอร์ไซค์วิบาก สำหรับทางประเภทนี้อยู่แล้วเลยไม่ลำบากอะไรนัก
จากถนนใหญ่ประมานกิโลเมตร เราก็มาถึงลานต้นหญ้าโล่งๆ ประมาณห้าเมตร มีไม้พุ่มสูงประมาณ สองสามเมตรขึ้นทึบเป็นฉากธรรมชาติ บังสายตาจากบุคคลภายนอกเป็นอย่างดี... ผมจอดมอเตอร์ไซค์
ไอ้ชลมันลงไปก่อน ผมเอาขาตั้งลง เรียบร้อย พอหันหน้ามา...ไอ้ชลมันรออยู่แล้ว คุกเข่าตรงหน้าผม หัวเข็มขัดและกระดุมกางเกงยีนส์ถูกปลดเอาไว้แล้วตั้งแต่ขี่รถ... ไอ้ชลมันจับขอบกางเกงยีนส์กับกางเกงในของผม ดึงลงพร้อมกัน พรืดเดียวลงไปถึงเข่า...ไอ้ดินน้อยเด้งออกมาเกือบชนหน้ามัน...
ไอ้ชลโอบสะโพกของผมดึงหาตัวมัน พร้อมกับฝังหน้าลงมาระหว่างโคนลำกับพวงใข่ จูบฟอดๆ อย่างกระหายหื่น... “อาว์ซซซ ดิน... อาว์ซซซ” แล้วไอ้ดินน้อยก็ถูกมันอมหายเข้าไปในปากทีเดียวค่อนลำ...
“อูยซซซ ชล... มึงเบาๆ ก็ได้ กูไม่หนีไปไหนหรอก... ซี๊ด.ซ.ซ.ซ” ผมบอกมัน ก่อนจะสูดปาก เพราะไอ้ชลมันไม่สนใจกับคำพูดของผม โก่งคอกดเข้ามา พร้อมกับรั้งสะโพกของผมดึงสวน จนKขนาดเจ็ดนิ้วของผมหายเข้าไปในปากมัน...ไม่เหลือไว้ข้างนอกสักกระเบียด...
ผมยืนถ่างขาให้มันดูดอมKฝังมุก ของโปรดของมันตามสบาย เอามือจับที่หัวมัน ลูบไล้ไปมา... ดูเหมือนไอ้ชลมันจะหลงใหล ลำท่อนฝังมุกกับพวงไข่ของผมเป็นพิเศษ ไม่มีตรงไหนที่จะรอดพ้นจากริมฝีปากของมันไปได้ ผมเห็นมันทั้งอม เลีย ดูด เม้มอย่างหิวกระหาย ทั้งที่มันก็เพิ่งจะทำอย่างเดียวกันมาเมื่อเช้าตอนอาบน้ำ...
ไอ้ชลหลับตาพริ้มขณะKผมคาอยู่ในปากมันทั้งลำ... มือข้างนึงยังดึงรั้งสะโพกของผมไว้ อีกมือนึงลูบไล้ขึ้นมาที่ลอนหน้าท้องของผม ซึ่งเป็นสิ่งที่มันชอบในร่างกายผม รองจากดุ้นKฝังมุกที่มันอมอยู่
ผมเห็นมันทำท่ารำคาญ ชายเสื้อยืดที่คอยจะตกลงมาขวางมือของมันตอนลูบไล้ลอนกล้ามเนื้อหน้าท้องของผม ก็เลยบิดตัว ถอดเสื้อออกวางพาดไว้กับเบาะมอเตอร์ไซค์
ไอ้ชลเหลือบตามองผมนิดนึง ประกายตาขอบคุณ ท่อนKของผมยังไม่หลุดออกมาจากปากมัน... พอปล่อยจากท่อนฝังมุก ไข่สองใบของผมก็มีอันต้องเข้าไปอยู่ในปากมันแทน สลับไปมาตลอด
พักใหญ่ ไอ้ชลก็เอามือข้างนึงลงไปปลดเข็มขัดกบตะขอกางเกงของตัวเอง ได้ยินแต่เสียงซิปรูดลงเพราะหัวมันบังอยู่ ผมเห็นมันทำท่ายุกยิกกับตัวเอง พร้อมกับรูดคอเข้าออกกับท่อนลำของผมเป็นจังหวะ
จนกระทั่งผมเห็นมันเร่งมือเร็วขึ้น... พร้อมกับจังหวะการรูดคอเข้าออกกับKผมเร่งเร็วขึ้นตามไปด้วย
“อูยซซซ ชล... มึงสุดยอด...ซซี๊ด.ด.ด” ผมครางสูดปากด้วยความเสียว เกร็งกล้ามเนื้อจนขึ้นเป็นลอนชัดเจน สองมือจับหัวมันดึงเข้าดันออกผสานกับการกระเด้า ส่งท่อนลำKยาวเจ็ดนิ้วขนาดซองบุหรี่แตก เข้าไปในปากมันทั้งดุ้น...
ไอ้ชลเร่งจังหวะเร็วขึ้น ไม่นานนัก มันก็เกร็งตัวหลับตาปี๋ดึงรั้งสะโพกของผมเข้ามาจนลำKผมเข้าไปอยู่ในปากมันทั้งลำ... “อุ๊ปซ.ซ. อื๊อม.ม.ม”
ตอนน้ำแตก ไอ้ชลเกร็งลำคอ บีบรัดส่วนปลายบานของท่อนลำที่อยู่ที่คอมันเป็นจังหวะค่อนข้างแรง ทำเอาผมเสียวจี๊ดเกร็งตัวแข็ง มือกดหัวไอ้ชลแน่น ตัวกระตุก ครางออกมาอย่างสุดเสียว “อ๊าซซ ชล กูแตกแล้ว... อูยซซซี๊ด...” ท่อนKของผมกระตุกงึกๆ อยู่ในปากไอ้ชล น้ำเงี่ยนอุ่นๆ พุ่งกระฉูดเข้าไปในคอของมันอย่างสุดกลั้น...
มันกระฉูดหลั่งพรั่งออกมาเป็นระลอกๆ แต่ไอ้ชลก็ไม่ปล่อยให้เล็ดลอดออกมาได้สักหยด... แม้กระทั่งอาการกระตุกของผมหยุดไปแล้ว แต่มันก็ยังเกร็งคอจนเห็นเป็นเส้น... ดูดๆ จนน้ำเงี่ยนของผมที่ค้างอยู่ในลำกล้องไหลออกมาเข้าคอมันไปจนหมด...
“ซี๊ด.ซ.ซ.ซ อูย... ชล... มึงเห็นกูเป็นแม่วัวเหรอวะ... ใจคอมึงจะดูดกูให้หมดเลยหรือไง... ซี๊ดซ.ซ.ซ.ซ” คำสุดท้ายผมครางยาว เพราะไอ้ชลมันยิ่งแกล้งผมโดยการกดที่โคนจนKผม “ถอก” ออกมาจนสุด แล้วใช้ปากดูดที่ส่วนหัวบานแรงๆ อีกสี่ห้าครั้งส่งท้ายจนผมต้องเกร็งจนตัวโก่ง...ก่อนจะปล่อยKผมออกมาเป็นอิสระ...ผมมองเห็นหัวบานของKผม เถลือกถลนแดงก่ำ...
ผมมองหน้ามัน พูดยิ้มๆ... “เดี๋ยวหัวKกูหลุดเข้าปากมึงไปทำไงวะ”
มันหัวเราะชอบใจ ลุกขึ้นมากอดผม... ไม่ตอบที่ผมถามแต่กลับถามผมต่อ... “มึงไม่ชอบเหรอ... กูดูดให้มึงแบบนี้อ่ะ”
“ชอบ...” ผมกอดตอบ บอกมันตรงๆ “ไม่เคยมีใครดูดKกูได้ถึงใจเท่ามึงเลย... ทั้งเสียวทั้งสะใจ”
ไอ้ชลทำหน้าอายๆ จับท่อนKผมที่ยังแข็งผงาด ผงกงึกๆ ถอกเล่นอีกสองสามที จนผมต้องโก่งตัวหนี... “พอก่อนมึง... เดี๋ยวกลับไม่ถึงบ้านกันพอดี”
แล้วเราก็แต่งตัวกัน ขับรถออกมาจากที่นั้น กลับถึงบ้านป้ามันที่อำเภอพระธาตุ ร่วมหกโมงเย็น...
...................................................................
ตอนนี้มาในแนวนำเที่ยวนิดนึงนะครับ แต่แอบมีหื่นอ่ะ หุ หุ

เจอกันใหม่ตอนหน้าครับ.....
ดิน