ตอนที่16.
เรื่องวุ่นๆ กับวันวุ่นๆของผมกับไอ้เด็กขนมตัวแสบนั้น ตอนแรกเรียกมันไอ้ตัวเล็กอยู่ดีๆก็ต้องเปลี่ยนเป็นไอ้ตัวแสบแล้วตอนนี้ เพราะว่ากวนดีซะเหลือเกิน แล้วไอ้ความตั้งใจ พร้อมกับความกล้ามากมายมหาศาลนี่มันเอามาจากไหนกัน ทุกทีเห็นขี้อาย อายแทบมุดดินหนีขนาดนั้นแท้ๆ
แล้วอีกอย่างตอนนี้เนี้ยจะเอาไงต่อไปละเนี้ย ห้ามก็ไม่ฟัง แถมยังตื้อไม่ยอมอย่างกับเด็กอีกต่างหาก เออ ก็มันเด็กนี่หว่า ลืมๆ
กรรมไรของกรูฟ่ะเนี้ยให้เด็กมาตามตื้อเนี้ย..
“เฮ้ย ไอ้ทาย..”
“ไร..”
“ใครว่ะ.. น่ารักนี่หว่า เด็กใหม่มึงหรอไม่ยักรู้ว่าเดี๋ยวนี้มึงเล่นเด็กชายด้วย..”สิ้นเสียงไอ้เหี้ยกร
“ฮ่าๆๆ....”มันก็พากันหัวเราะแซวผมใหญ่
“แต่ก่อนชวนไปเล่นด้วยกัน เค้าก็ไม่เอานะเค้าชอบเล่นกับผู้หญิง.. แต่เดี๋ยวนี้สงสัยไม่อยากเล่นตีหอยแระสงสัยอยากตีก้นมากกว่าวะ”และสิ้นเสียงไอ้เหี้ยกรอีกครั้ง
“ฮ่าๆๆๆ......กร๊ากก”เออ เอากันให้มันนะพวกมึง
“พ่อมึงมีเมียน้อยหรอ ..ขำกันอยู่ได้”ผมด่ามัน ขนมมาหาผมได้สามครั้งแล้ว โดยไม่ได้มีเค้าโครงเดิมเลยว่าเคยเป็นคนขี้อาย เวรกรรม
“อ่าว ไอ้สาด แค่นี้ทำเคือง”เสียงไอ้เหี้ยเรย์ก็เอากับเค้าอีกคน ผมเดินไปหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดหน้า ก็ต้องพบกับพี่มอสที่ยืนมองยิ้มๆ
“ไรพี่”ผมถามห้วนๆ
“ขนมชอบมึงใช่ไหม”พี่มอสถามแล้วเดินมานั่งอยู่ตรงเก้าอี้ข้างสนาม ผมชะงักเล็กน้อย
“ไร.. พี่สนใจ”ผมพูดเป็นเชิงถาม
“ก็ธรรมนองนั้น.. ที่จริงตกหลุมพรางความน่ารักมากกว่าวะ.”พี่มอสพูด เสือผู้หญิงอย่างพี่มอสดูจะน่ากลัวกว่าผมซะด้วยซ้ำ ได้ทั้งหญิง ได้ทั้งชาย.. แม่ง เอาหมด แถมเจ้าเล่ห์นะที่หนึ่ง จีบหญิงหรือแม้ว่าชายมานักต่อนักมีชั้นเชิง จีบติดเกือบหมด ไม่รู้เพราะว่าหน้าตาของพี่แกหรือว่าเป็นเพราะว่าเจ้าชู้ประตูดินกันแน่
“ไรพี่ ผมว่าน้องเค้าก็อยู่เฉยๆ ความเจ้าชู้ของพี่มากกว่ามั้งที่ไปชอบน้องเค้า”ผมแซวกลับ
“หึ..ปากดีนะมึง”
“แต่คนนี้ไม่เหมือนคนอื่นวะ.. อยากจะรู้จักน้า ว่าตอนอย่างน้าน จะทำหน้าตายังไง”เสียงพี่มอสทำเอาผมขนลุกเลยครับ จะหื่นไปไหนวะเนี้ย ผมว่าผมบ้ากามแล้วนะครับ แต่ไอ้พี่มอสเนี้ยออกแนวบ้ากามได้กับทุกคน เฮ้อ อนาตจิต
“ตกลงชอบน้องเค้าตรงไหนกันแน่”ผมแซวกลับ พี่มอสยิ้มๆ
“กรูถามตรงประเด็นเลยดีกว่า”พี่มอสทิ้งระยะนิดหน่อยแล้วมองหน้าผม
“ว่ามา”ผมหันไปเลิกคิ้วให้เป็นเชิงถาม
“มึงชอบขนมรึเปล่า”พี่มอสถาม
“ฮึ..”ผมส่ายหัวแทบจะทันที
“ก็ดี.. งั้นกรูขอ..”พี่มอสพูดแล้วยิ้มให้ผม ก่อนที่จะหันไปยิ้มให้คนบนอัศจรรย์
“ผมอะได้อยู่แล้ว แต่พี่ก็จีบน้องเค้าให้ติดแล้วกัน. เพราะดูแล้วน้องเค้าก็สายตามีระดับเหมือนกันนะเนี้ย ไม่งั้นไม่มาตกหลุมรักคนอย่างผมหรอก”ผมพูดขำๆ
“ถุ้ย.. หล่อกว่ากรูนิดเดียวทำคุย”พี่มอสยิ้มให้ แล้วเดินหนีผมไปเฉย ผมได้แต่ส่ายหัวหน่อยๆ แล้วหันกลับไปมองไอ้คนบนอัศจรรย์อีกครั้ง ไอ้คนบนนั้นก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเค้าเลย.. เฮ้ออ
“พี่ทายจะหนีขนมไปไหนอะ” เวร ดูมันพูด..เหมือนเจ้าหนี้ทวงเงินลูกหนี้เลยวุ้ย
“ไปรับพลอย”ผมบอกไปตามตรง
“งั้นขนมไปด้วย” เฮ้ย ไอ้เด็กบ้านี่
“ขนม..”ผมกำลังจะพูดอะไรก็ออกไป แต่ก็ต้องถอนหายใจให้กับหน้าระรื่นที่ทำท่ากวนๆแบบไม่สนนั่น
"ฮืมมมม...”โมโหนะเนี้ยมีคนมาขัดใจ แต่ แม่ง ไม่ใช่คนชอบโวยวายด้วยถ้าไม่จำเป็น
ดู ดู.. ยังยิ้มหน้าระรื่นได้อีก
“ขนมมีทางเลือกให้พี่ทายสองทางนะ เอาป่ะ”ผมจ้องหน้าอย่างโมโหนิดๆแระ
“อืม....”ผมพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้
“หนึ่ง. พี่ทายไปรับพี่พลอยได้ แต่ขนมไปด้วย..”
“สอง. พี่ทายไม่ต้องไปหาพี่พลอย แต่ต้องไปกินข้าวเย็นกับขนมแทน”มันพูดเสร็จแล้วยักคิ้ว กวน กวน กวนส้นตีน..
“..................ไม่ตลก”ผมพูดนิ่งๆ หน้าไอ้ตัวเล็กเสียไปนิดหน่อย แต่มันดันกลับมายิ้มได้เหมือนเดิมเพียงไม่กี่วิ
“อยากทำอะไรก็ตามใจ.. พี่ไม่เลือกทั้งนั้นแหละ..”ผมพูดจบก็เดินออกมาจากตรงนั้นทันที
“พี่ทายยยยยยยยยยยยย”มันเรียกนี่เสียงก้องไปทั่วบันไดโรงยิมเลยครับ
ผมก็เดินลงไปสนใจคำเรียกของไอ้เด็กนั้น
ตุบ ตุบ ตุบ
“รีบเดินไปตามควายรึไงฮะ” ไม่สนใจ.. ดูมันสิครับเหมือนจะปากไม่ร้ายนะไม่รู้ที่พูดเนี้ยคิดรึยัง
“นี่พี่ทาย..” เรียกไป ไม่สนใจ..
“เฮอะ.. พี่เงียบนี่อย่าถือว่าเอาชนะขนมได้นะ.. ยังไงขนมก็จะไปด้วย”
“ขนม”ไอ้เด็กนั้นดูชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นผมหันไปตะคอก
“กะ ก็ขนมจะจีบพี่ทายนี่.. ในเมื่อขนมจะจีบแล้วถ้าขนมไม่ทำแบบนี้แล้วขนมจะเอาเวลาไหนไปจีบพี่ทายเล่า” โอ้ยยย ประสาท ไม่ใช่มันประสาทคนเดียว กรูจะเป็นโรคประสาทไปด้วย นี่ตกลงมันจีบเราเนี้ยที่มันมาทำกล้าๆเนี้ย แล้วมาพูดด้วยหน้าตาเหมือนสำนึกผิดนี่มันอะไรกันวะ ตกลงนี่มันแกล้งทำหรือว่ามันซื่อจริงๆวะเนี้ย
“.......................” ไอ้ที่เงียบนี่ไม่ใช่อะไรนะครับ งงอยู่ว่าจะเอาไงกับไอ้คนข้างหน้าดี
“เฮ้ออออ .”นั่นแหละ คิดไม่ออกครับ ถอนหายใจแทนแล้วกัน
“เฮ้ย ไอ้ทาย”ผมและไอ้ตัวเล็กหันไปตามเสียงเรียก
“ไร..”ผมถามไอ้กร ที่เดินมากับไอ้เรย์และไอ้ชาย
“มึงรีบเดินออกมาทำไมวะ.”ไอ้กรถาม
“กรูจะไปรับพลอย”ผมบอก
“เออ.. แล้ว”ไอ้กรทำเสียงแบบสงสัยนิดหน่อย พร้อมทำสายตากรุ่มกริ่มไปที่ขนม ก็มันได้ทั้งหญิงทั้งชายก็ไม่แปลกหรอกครับที่เจอของน่ารักๆมันจะออกลายเป็นธรรมดา
“มีไรรีบๆพูดมากรูยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่”ผมพูดอย่างหัวเสีย
“เปล่าๆ คืนนี้มึงว่างเปล่าพอดี.. พวกกรูจะไปคันจิหน่อยวะ”ไอ้กรมันพูดบอก คันจินี่เป็นผับของพ่อผมเองแหละครับ แต่ว่าพ่อให้ผมกับไอ้ทักดูแล คือรองจากพ่อต้องเป็นผมอะไรประมาณนี้
“เออ ก็ไปดิ”ผมบอกมัน
“เปล่าๆ คือ..เอาเปล่าคืนนี้พอดีไอ้ชายมันได้เด็กมาวะ” อืม พอจะเข้าใจว่ามันหมายความว่ายังไง
“..................”ผมเงียบ ที่จริงสงสารไอ้ตัวเล็กที่ยืนฟังอยู่ด้วย หน้าแดงแป้ดเชียว
“มึงแต่คนนี้เนี้ยถ้ามึงได้ยินชื่อกรูว่ามึงไม่พลาดแน่ หึหึ”ไอ้กรมันทำหน้ายักคิ้วให้ผม
“แล้วแต่มึง. กรูไงก็ได้”ผมบอกส่งๆ ยังไม่ค่อยมีอารมณ์เท่าไหร่
“เอองั้นเจอกันสามทุ่มเดี๋ยวกรูไป จองโต๊ะให้กรูด้วยนะเว้ย”ไอ้กรบอกส่งท้าย
“เออ.”
“แล้วนี่...”ดูครับมันยังไม่เลิกสอดรู้สอดเห็น
ปิ๊ป!
ผมกดกุญแจรถ
“ขอตัวนะฮะ”อยู่ดีๆไอ้ตัวเล็กมันก็ก้มหัวอย่างกับคนญี่ปุ่น แล้ววิ่งขึ้นไปนั่งบนรถผมเฉยเลยครับ
“โอ้ยยยย”ผมได้แต่ลูบหัวตัวเองอย่างอารมณ์เสีย เปล่งเสียงออกมาในลำคออย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
“หึหึ...”ไอ้ชายหัวเราะ
“เย็..แม่ง กรูอารมณ์เสีย วันนี้กรูเปิด”ผมบอกพวกมัน
“อ่าว.. เฮ้ยๆ..ไรวะ ไอ้เชี้ยทาย”เสียงไอ้กรกับไอ้เรย์โวยวาย ผมไม่สนใจเดินขึ้นไปด้านคนขับทันที
ปรื้ดดดดดดดดด!!
เสียงถอยรถที่ล้อรถดันกับเสียงกรวดของพื้นถนน
ปรื้นนนนนนนนนนนนนนน!!
ต่างคนต่างเงียบมาได้สักพัก
“พี่ทายรีบหรอฮะ”ไอ้คนข้างๆถาม
มันเหมือนจะเป็นคำถามกวนๆไปแล้วสำหรับผมตอนนี้
“..........................” ผมไม่ตอบ เงียบดีกว่า คือไม่ใช่อะไรหรอกนะครับ คือจะว่ายังไงดีละกับไอ้เด็กคนนี้ เคยมองว่ามันเป็นน้อง แล้วก็เป็นหลานของเพื่อนพ่อด้วย มันเหมือนกับให้เกียรติที่จะไม่เสียมารยาทไปแล้ว อีกอย่างเห็นแล้วก็ทำไม่ลง ที่จริงผมก็เป็นคนอารมณ์ร้อนในระดับหนึ่งนะครับ แต่ผมค่อนข้างระงับอารมณ์ตัวเองได้ แล้วจะไม่ค่อยที่จะโวยวายหรืออารมณ์เสียบ่อยๆแค่นั้นเอง และไอ้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้เริ่มปวดหัวนิดหน่อย เพราะว่าเหมือนกับควบคุมสถานการณ์ไม่ค่อยได้ อีกอย่างมันไม่เคยเกิดขึ้นกับผมด้วย ส่วนมากไอ้ที่มาจีบนะมันไม่ได้มารูปแบบนี้ แล้วก็ไม่เคยมีคนที่ใสๆซื่อๆด้วย แต่ไอ้นี่จากใสๆซื่อๆ มันจะเหมือนกวนส้นตีนขึ้นไปทุกทีแระ
“พี่ทายโกรธขนมหรอ”อีกฝ่ายถามเสียงเบาแทบไม่ได้ยิน
“จอดให้ขนมลงก็ได้นะฮะ ขนมไม่ไปแล้วก็ได้”อีกฝ่ายบอก
เอี้ยดดดดดดดดดดดด!!
“อะ.. ลงไปซะ”ผมบอกเมื่อรถจอดสนิท อีกฝ่ายเงียบ นั่งนิ่งตัวเกรง ผมได้แต่ระบายอารมณ์ที่นิ้วตัวเองที่เคาะกับพวงมาลัยรถอยู่
แกร๊ก
ตึก
ตับ!
ไอ้ตัวเล็กปิดประตูเดินลงจากรถไป
“เฮ้อออ” ที่จริงไม่ได้อยากทำแบบนี้หรอกนะ แต่ไม่รู้จะทำยังไงจริงๆให้มันถูก ที่จริงแค่บอกเป็นคำพูดว่าไม่ได้ชอบอย่างเดียวมันก็คงไม่ได้หรอก มันคงไม่พอ
ผมนั่งนึกอะไรในสมองอยู่ได้ไม่ถึงห้านาที
ก๊อกๆ
ผมหันไปมองที่กระจกรถ
เวร..
ผมเดินลงจากรถไปเมื่อพบคนที่เป็นคนสำคัญของไอ้ตัวเล็กนั้นซะแล้ว
“มึงมีอะไรรึเปล่า”พี่เพลงถาม หน้านี่เป็นยักษ์ไปแล้วครับตอนนี้
“เปล่าพี่..”ผมบอก
“แล้วมึงกับขนมมาอยู่นี่ได้ไง” แล้วพี่มาเจอผมกับไอ้ขนมได้ไงเล่า บังเอิญเวอร์
“ก็.....”ผมกำลังจะเอ่ยปากพูด ถึงแม้ไม่รู้จะพูดแก้ตัวอะไรดีอะนะ
“พอดีขนมขอติดรถมาด้วยนะฮะ.. แล้วขนมก็ขอพี่ทายลงตรงนี้”ไอ้ตัวเล็กเดินมาบอก หน้าก็ยังคงสีหน้าเฉยๆ
“แล้วทำไมไม่ไปหาพี่.. ไปรบกวนมันทำไม”พี่เพลงพูดหน้าโหดไปทางไอ้เด็กนั้น
“..................”อีกฝ่ายเงียบ
“ไปขึ้นรถไป”พี่เพลงไล่ไอ้ตัวเล็ก ไอ้ตัวเล็กก็ก้มหน้างุด แล้วเดินขึ้นรถไปทันที
“น้องกรูมันยังเด็ก.. มันทำอะไรก็คงกำลังสับสนในตัวเองอยู่.. มึงก็อย่าไปสนใจ”อยู่ดีๆพี่เพลงก็พูดขึ้น สายตาของพี่เพลงมองมาที่ผมอย่างจริงจังกับคำพูดของตัวเอง
“ถ้ามึงไม่สน อย่ามาเล่นๆกับน้องกรู..ถ้ากรูรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นแม้สักนิดที่ทำให้น้องกรูเจ็บ.. มึงโดน”พี่เพลงพูดจบก็เดินไปขึ้นรถทันที ปล่อยให้ผมเป็นไอ้อึ้งที่กำลังยืนงง
“หึ... หาเรื่องมาให้แล้วไง ไอ้ตัวเล็กเอ้ย”ผมบ่นกับตัวเอง แล้วพิงรถอย่างเข่าอ่อน
บอกได้คำเดียวว่าตั้งแต่เกิดจนโตมา นับคนได้เลยที่กลัว หนึ่งแม่ สองพ่อ สามคุณตา สี่อาจารย์สอนมวย ห้าอาจารย์สอนยิงปืน หกอาจารย์ที่เป็นอาจารย์ของพ่อที่สอนศิลปะป้องกันตัว
ตั้งแต่อยู่วงการนี้มา เจอคนเยอะมากหน้าหลายตา ที่ๆผมอยู่มันถือว่าเป็นที่อโคจรเลยเพราะมีแต่สิ่งมั่วสุมทำให้มัวเมาในอบายมุข ครอบครัวของผมพยายามถึงที่สุดที่ทำการค้าแบบนี้ การคุมสิ่งมัวเมาแบบนี้ทำยังไงให้ไม่ยุ่งกับสิ่งผิดกฎหมายให้มากที่สุด ตั้งแต่รุ่นคุณตาพ่อผมเคยเล่าว่าตอนนั้นยิ่งกว่านี้อีก แล้วเราก็ลดระดับลงมาเรื่อยๆ พ่อเคยบอกว่าแค่เป็นสิ่งมัวเมาให้คนอื่นเค้าก็บาปพออยู่แล้ว ดังนั้นก็ควรทำอะไรให้มันถูกกฎหมาย ผมพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าถึงครอบครัวของผมจะมีผับ และเป็นมาเฟียคุมอยู่หลายย่าน หลายบ่อน ออกเงินกู้ต่างๆ แต่ก่อนสั่งฆ่าสั่งเก็บเป็นว่าเล่น แต่ว่าแค่ผับและบาร์ดังๆที่มีก็ทำให้กินได้ไม่อดไปตลอดชาติแล้ว พ่อเลยปลูกฝังให้มีอะไรที่พอดีไม่เกินตัวมาตลอด มีแค่ไหนให้พอแค่นั้น ถ้าอยากก้าวหน้าให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องด้วยลำแข้งของตัวเอง
อย่างที่บอกว่าผมเจอคนมาเยอะ ที่แบบนี้ไม่เคยเจอคนดีเลยด้วยซ้ำ คนดีแทบนับคนได้ เพราะว่าสถานที่มันมั่ว มันชั่ว สิ่งที่ได้พบเจอก็ต้องมีแต่ความมัวเมาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะลูกมาเฟียขาใหญ่ถิ่นอื่น ลูกนักการเมือง ลูกท่านคนนู้ ลูกท่านคนนี้ ผมล้วนแล้วต้องรู้จักหมด ใครใหญ่กว่าใคร ใครรวยกว่าใครก็ว่ากันไป แต่มันขึ้นอยู่ที่ความเก๋าเจ๋งมากกว่า พ่อเคยบอกว่าแค่มองตาก็รู้แล้วว่าใครกล้าหรือไม่กล้า เทคนิคนี้ผมเคยใช้มาแล้ว และก็ได้ผลซะด้วย ลองมาเกือบหมด
สายตาของพี่เพลงเมื่อกี้บอกได้คำเดียวว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา ที่จริงผมรู้มาตั้งนานแล้ว คนที่กล้าแบบกล้าจริงๆ กับกล้าแบบเก๋ามันค่อนข้างแตกต่างกัน พี่เพลงเป็นเหมือนรุ่นพี่ที่ผมนับถืออีกคนหนึ่ง และน้องๆเพื่อนๆหลายๆคนก็นับถือพี่แกเหมือนกัน ไม่ใช่แค่ความเก่ง และมีความสามารถหลายต่อหลายด้านแต่พี่เพลงเป็นคนวางตัวดีมาก ดูได้จากพี่อาลีฟทั้งๆที่เป็นถึงลูกมาเฟีย พ่อพี่อาลีฟทั้งส่งออกเหล้า แรงงานบ่อนไปต่างประเทศ อาวุธปืนและหลายๆอย่างที่ถือได้ว่าเป็นพ่อค้ารายใหญ่ ขาใหญ่สำหรับวงการมาเฟียพอสมควร แต่พี่อาลีฟก็เหมือนเป็นมือขวาพี่เพลงก็ว่าได้ ผมสังเกตหลายต่อหลายครั้งแล้วว่าทุกครั้งที่ขอความคิดเห็นหรือว่าต้องตัดสินใจอะไรบางอย่างต้องรอจากพี่เพลงเป็นตัวหลักพอสมควร แค่นี้ก็มองออกแล้วว่าใครที่มีบารมีมากกว่ากัน ผมว่าบารมีมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรวยกว่าหรือว่าน่ากลัวกว่า แต่มันอยู่ที่ใครทำให้คนเกรงและนับถือมากกว่ากันเท่านั้นแหละ และ ทั้งๆที่พี่เพลงก็รู้ว่าพ่อผมเป็นใคร แต่พี่เค้าไม่คิดจะแยแสสักนิด คิดแล้วก็ท้าทายดีเหมือนกัน เพราะร้อยทั้งร้อยก็รู้ว่าพ่อผมเป็นใครแทบจะไม่กล้าหยามเลยสักนิดเดียว และผมกับพี่เพลงไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันเลย เพิ่งมีครั้งนี้แหละที่ได้ยินคำขู่ออกมาจากปากพี่แก มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกกลัวจนหัวหดหรอกนะ แต่มันรู้สึกว่าคนที่มาขู่เราคราวนี้รู้สึกว่ามันดูท้าทายและสมเหตุสมผลที่เรารู้สึกว่าถ้าเกิดมีเรื่องกันขึ้นมาจริงๆมันดูจะสมน้ำสมเนื้อกันดี
ตื้ดๆ ๆ..
“ว่าไงครับ”
“วันนี้ไม่มารับพลอยหรอ รอนานแล้วนะ”พลอยกรอกเสียงมาอย่างงอนๆนิดๆ
“ไปสิครับ.. กำลังจะถึงแล้ว รอแป๊บนะครับ”ผมบอก วันนี้ผมต้องไปรับพลอยที่สถาบันเรียนเต้นนะครับ
“อืมๆ.. เร็วๆนะ.”เสียงใสๆนั่นเปลี่ยนเสียงอย่างร่าเริงแล้ววางไป
หึ อย่างนี้สิถึงจะเหมาะสมกับเรา..
สวย หุ่นดี ฉลาด กล้า และดูเซ็กซี่. ผู้หญิงอย่างนี้ ร้อยทั้งร้อยผู้ชายคนไหนก็อยากได้ทั้งนั้น
....................>>>><<<<.....................