~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH  (อ่าน 91248 ครั้ง)

nune

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 10
«ตอบ #60 เมื่อ13-07-2009 20:57:56 »

พี่ต้นจะทำให้นนนี่หายกลัวผีรึป่าว ?? ว่าแต่แม่แก้วสงสัยจะเป็นสาววายรุ่นบุกเบิกแน่ๆ อดทนขนาดนี้  :m20:

LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 10
«ตอบ #61 เมื่อ13-07-2009 22:12:30 »

ตอน 11

สิ่งที่เขาเคยเชื่อมาตลอดว่าเป็นความจริง แท้จริงคือความลวง....เพราะความนึกสนุกของไอ้คนที่แกล้งนนท์มาตั้งแต่เด็ก สมแล้วแหละที่เขาฝากแผลไว้ที่ร่างพี่ต้นมากมายหลายจุด ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกัน คนร่างหนั่นที่กระชากหน้ากากผีออกรีบวิ่งตามไป สองคนวิ่งไล่ลงบันไดจนเขาเกือบมาประชิดนนท์ได้ แต่เพราะเท้าที่เปียกอยู่เลยทำให้ร่างสูงเซถลาล้มลงไปกองที่พื้นก่อนที่นนท์จะล้มลงไปทับร่างของอีกฝ่าย


“ โอ๊ย”

“ พี่” นนท์ร้องอย่างตกใจไม่นึกว่าเขาจะล้มลงมาอย่างนี้.. ต้นใช้มือทั้งสองดันตัวนนท์ขึ้น ก่อนจะมาดันตัวเองดูบ้าง..ความรู้สึกปวดแล่นไปทั้งร่างแม้จะตกมาเพียงไม่กี่ขั้น แต่ก็สร้างความเจ็บปวดให้ไม่น้อย
คนหน้าหวานเข้ามาพยุงอีกฝ่ายให้ยืนขึ้นแต่เพราะเท้าที่ลื่นไหลลงมาเกิดพลิกเลยทำให้ชายหนุ่มยืนไม่ได้


“ เป็นไงบ้าง” นนท์ถามเสียงอ่อนตอนนี้ ไม่มีใจจะงอนเขาแล้วล่ะ

“ เจ็บสิถามได้” เขาตอบเสียงขุ่น มันเจ็บจริงๆ ทั้งร่าง ทั้งเท้าเจ็บไปหมด..นนท์รวบแรงที่มีพยุงร่างของเขาไปวางไว้ที่เก้าอี้โซฟาตัวยาวใกล้ๆ เพื่อจะได้ดูว่าบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า


“ เจ็บมากเหรอ” นนท์ถามเสียงอ่อน พร้อมทั้งก้มลงจับข้อเท้าของชายหนุ่มเบาๆ แต่เพียงแค่แตะเขาก็รู้สึกเจ็บไปทั้งขา

“ โอ๊ย..”


“ พี่รอตรงนี้นะเดี๋ยวนนท์ไปเอายามือให้” ว่าแล้วก็วิ่งแจ้นขึ้นไปเอายาที่ห้องของตน คราวนี้ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น อาการของเขาสำคัญที่สุด นนท์ไม่รู้เลยว่าเรื่องของพี่ต้นสามารถทำให้เขาลืมแทบทุกอย่าง ลืมทุกความหวาดหวั่น ลืมทุกความกลัว.. เขาเดินลงมาจากห้องพร้อมยาทาและยาแก้ปวด แล้วเดินไปใกล้.

.
“ พี่กินยาไปก่อนนะ เดี๋ยวนนท์จะทายาอีกหลอดให้” เขายื่นกระปุกยาแก้ปวดพร้อมทั้งแก้วน้ำให้ชายหนุ่มหน้าคม จากนั้นก็ลุกขึ้นมานั่งบนโซฟาข้างๆต้น... นนท์เอื้อมแตะขาของอีกฝ่ายเบาๆ..ก่อนจะพามันมาวางไว้บนหน้าตัก..ง่ายต่อการทายา

“ ทำอะไรคุณหนู พี่ทาเองได้”


“ ไม่เป็นไรหรอก..” นนท์ส่ายหน้า พร้อมทั้งยังยืนยันในสิ่งที่คิด..เขาบีบยาทาบรรเท้าความเจ็บปวดลงบนหลังเท้าของต้นเบาๆจากนั้นก็ค่อยๆคลึงมันไปอย่างเบามือที่สุด


“ หายโกรธพี่แล้วเหรอ” คนแกล้งเป็นพี่ตัดสินใจถามออกมา


“ ช่างมันเถอะ” นนท์บอกปัดไม่อยากคิดมาก จะว่าไปเพราะเขาเองนี่แหละ ไร้สติจนได้เรื่องกลัวจนไม่แยกแยะความจริงความเท็จ กลัวไปเพราะใจมันสั่งให้กลัว


“ นนท์บอกแล้วว่าสักวันพี่ต้องรักนนท์ คอยดูสินนท์ต้องทำได้ถึงแม้ตอนนี้มันจะยังไม่ชัดเจน แต่นนท์รู้สึกว่าตัวเองนี่แย่จริงๆ” ระหว่างที่ทายาไป คนหน้าสวยเจ้าเส่นห์ก็พร่ำพูดไป ทำให้ต้นที่หลับตาปี๋เพราะความเจ็บที่บังเกิดต้องเปิดตาขึ้นมองพยาบาทจำเป็นอย่างสนใจ


“ แย่เรื่องอะไร”


“ ก็นนท์น่ะสิตอนแรกว่าจะทำให้พี่ชอบแล้วนนท์จะหักอกพี่เล่น แต่ตอนนี้เห็นทีนนท์จะทำไม่ได้แล้ว” พูดไปใบหน้าก็เริ่มแดงก่ำเพราะเลือดที่สูบฉีดมากมาย


“ ทำไมล่ะ” ต้นถามเสียงอ่อน


“ เพราะนนท์คิดว่า ...นนท์เผลอชอบพี่เข้าแล้วจริงๆนะสิ” นนท์ยอมเผยความรู้สึกให้เขารับรู้เอาเถอะถึงยังไงสักวันเขาก็ต้องรู้ อาจเพราะลมที่แรงจนใจสั่นไหว หรือจะเพราะฟ้าที่สั่นคลอนจนต้องหักเห..ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แต่มันก็ทำให้นนท์กล้าจะเปิดปาก.


“ ..นายนี่นะ เป็นฝ่ายบอกรักพี่ก่อนได้ยังไง..” ชายหนุ่มอึ้งไปในทีแรกที่ได้ยิน แต่ก็ยังวางมาดรอเวลาผ่านไปเพียงครู่ เขาแย้งไปด้วยเสียงไม่จริงจัง ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลงเยอะ


“ โธ่ก็ไม่รู้สิ..อยู่ๆนนท์ก็อยากพูดออกมา” นนท์ส่ายหน้าเล็กน้อย แต่กลับปรากฏรอยยิ้มเปื้อนอยู่เต็ม..เขามีความสุขที่ได้อยู่ใกล้กับพี่ต้น ..ถึงแม้จะเจอความเย็นชา แต่อย่างน้อยพี่ต้นก็ทำอะไรหลายๆอย่างให้นนท์ต้องชะงักมอง...ดวงตาที่ว่างเปล่ายามอยู่ต่อหน้าคนอื่น แต่เวลานี้กลับปรากฏความเอ็นดูอย่างมากมาย มากจนนนท์เองยังรับรู้..


ตอนกลับขึ้นห้องชายหนุ่มตัวเล็กก็เข้ามาพยุงคนตัวใหญ่.. เลยโดนอีกฝ่ายแกล้งเทน้ำหนักกดลงบนหัวบ่า แต่นนท์ก็กลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบกลับมา ..ทุ่มเทแรงช่วยพาต้นกลับจนถึงห้องอย่างสำเร็จ ..



“ สี่ทุ่มแล้วเหรอนี่” นนท์เอ่ยอย่างตกใจไม่นึกว่าเวลาจะผ่านไปเร็วขนาดนี้ ก่อนหน้านี้เขายังรู้สึกอยู่เลยว่าเวลามันเดินช้าแสนช้า


“ ช่วยหยิบคอมพิวเตอร์ที่โต๊ะให้พี่หน่อยสิ” ชายหนุ่มขอความช่วยเหลือเพราะไม่สะดวกจะเดินลงจากเตียงไปหยิบ นนท์หันมามองเล็กน้อยก่อนจะเดินไปเอามาให้ตามประสงค์แล้วทิ้งตัวลงข้างๆเขา


“ พรุ่งนี้ก็น่าจะหายแล้ว” ชายหนุ่มหน้าสวยในชุดนอนสีฟ้า..เอ่ยขึ้นถึงอาการของคนข้างกาย
ดวงตาคู่เรียวเหลือบเห็นบางอย่างบนหน้าของพี่ชายวรโชติ.. มองมันอย่างเอะใจ


“ หน้าพี่ไปโดนอะไรมานี่” เขาขยับเข้าใกล้..วางมือเรียวบนหน้าคมเล็กน้อย..ต้นสะดุ้งเบาๆแต่ไม่ได้ปัดป่ายออก หันมองดวงตาคู่ใสที่กำลังจับจ้องหน้าของเขาในขณะนี้.. มันเป็นรอยแดงเหมือนถูก..


“ จำไม่ได้เหรอ อย่าทำเป็นความจำสั้นไปหน่อยเลยคุณหนู” เขาปรายตาแสร้งค่อนขอดนนท์เล็กน้อยจากนั้นจึงได้จับมือที่ประคองหน้าเขาไว้..มาทาบทับรอยแดงนั้น


“ เป็นไงจำได้หรือยัง..”

“ ก็ใครใช้ให้พี่แกล้งมาหลอกผีนนท์นี่ รู้ก็รู้ว่าคนเขากลัวจับใจยังจะแกล้งได้ลงคอ ช่างเถอะถือว่าเป็นตบในสัญญาไปล่ะกัน ยังไงนนท์ก็ได้กำไรอยู่แล้วได้ตบไปตั้งหลายที..”


“ พูดเหมือนอยากตบพี่อีกงั้นแหละ ..เอาจะตบก็ตบเลยดีกว่าพี่ไม่อยากมีรอยแดงอีกครั้ง แค่พรุ่งนี้ต้องออกไปข้างนอกก็อายแทบแย่แล้วขืนวันหลังมีอีก พี่คงมองหน้าใครไม่ติดแน่” เขาบอกอย่างเหนื่อยๆ รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นเด็กอีกครั้งยามเข้าใกล้คนเจ้าเสน่ห์


“ นนท์ไม่ตบแล้วพอใจยัง..นนท์ไม่ได้ใจร้ายสักหน่อยนะ..ไว้พรุ่งนี้นนท์ช่วยแก้ให้ก็ได้รับรองพี่ออกจากบ้านได้แน่..” นนท์บอกเบาๆ..แต่มือของเขายังวางทาบบนใบหน้าที่ห่างไม่ถึงคืบ..


“ อืม..”


“ นนท์นอนดีกว่า..” นนท์ยิ้มให้เล็กน้อย ละมือกลับมาแล้วไถลตัวลงนอนลงข้างๆอีกฝ่ายที่กำลังเพ่งมองเจ้าโน้ตบุ๊คขนาดกะทัดรัด ..

“ พี่ยุ่งมากเหรอ..” อยู่ๆเขาก็ถาม..


“ ก็ใช่ได้..นอนเถอะ อย่ากวนพี่ล่ะ” ต้นบอกเบาๆ สายตายังจับจ้อง..ปล่อยให้นนท์ได้หลับลงอย่างอุ่นใจ ..แค่มีต้นใกล้ๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรนนท์ก็ไม่หวาดหวั่น..ขอแค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว

..
‘ ราตรีสวัสดิ์นะพี่ต้น..วันนี้พี่น่ารักมากเลยรู้ตัวหรือเปล่า’


‘หลับแล้วเหรอนี่เจ้าตัวยุ่ง ..ทำพี่สับสนในอารมณ์จริงๆเลยนะ..’


LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 11
«ตอบ #62 เมื่อ13-07-2009 22:30:07 »

สองความคิดที่ต่างไม่ได้พูดออกมา เก็บกักอยู่ภายใต้ความคิดของเจ้าของก็เพียงเท่านั้น ..มันเพียงพอแล้วสำหรับก้าวแรกที่ก้าวมาไกลเกือบโยชน์หมื่น..มันไกลกว่าที่คาด ..จากชะตาที่ห่างไกล จะคนไม่รู้จัก แต่กลับมาใกล้ชิด..



เช้าวันถัดมาก็เหมือนวันก่อนๆ เขาตื่นเร็วกว่านนท์อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยอีกฝ่ายถึงได้ตื่น นนท์ลุกขึ้นยืดเส้นสายเพื่อคลายความงัวเงียให้หมดไป


“ วันนี้พี่ต้องไปทำงานอีกเหรอ วันอาทิตย์นะ” นนท์เอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะเห็นเขากำลังแต่งตัวอยู่หน้ากระจก.. ดูเหมือนนนท์จะตื่นสายกว่าปกติ ในใจก็นึกสงสัยจริงๆว่าเขาทำงานสำนักพิมพ์หรือทำงานบริษัทกันแน่ นับวันเขายิ่งเหมือนนักธุรกิจเข้าไปทุกที


“ อืมวันนี้พี่มีลูกค้า” ชายหนุ่มตอบพลางมองดูหน้าตัวเองในกระจก พยายามปรับไทที่ผูกให้เข้าที่.. ดวงตาก็เหลือบเห็นรอยแดงที่ปรากฏจางๆเมื่อคืนแทนที่จะหาย แต่มันกลับยิ่งชัดเจนขึ้นจนเขาเริ่มลำบากใจ

“ พี่หายเจ็บขาแล้วเหรอ..”


“ ก็ยังเสียวแปลบๆ แต่ก็ไม่เท่าไหร่หรอก..” ต้นหันมามองคนเพิ่งตื่นที่ยื่นอยู่ใกล้ๆ.. มือก็ขยับไทไป จนสุดท้าย อีกฝ่ายก็ทนไม่ได้ยื่นมือเข้าช่วย


“ นนท์ทำให้..” สั้น ง่าย รวดเร็ว..มือเรียววางลงแทนที่ก่อนจะจับไทที่เบี้ยวซ้ายให้เข้าที่..ต้นเหลือบมองคนใกล้ตัวอย่างประหลาด ไม่เคยใกล้ใครมากเท่านี้มากก่อน อบอุ่น ประหลาด...



“ เดี๋ยวนนท์ไปหาอะไรให้พี่ทานก่อนนะ..” เสร็จแล้วก็เอ่ยบอก ..เดินหายออกจากห้องพี่ชายคนโตไป เพื่อทำอาหารให้อีกฝ่ายได้ทาน ..ต้นเดินตามลงไปอย่างแปลกใจในท่าทีของนนท์..ทั้งที่เขาแกล้งนนท์ไว้มาก แต่กลับไม่ปรากฏความโกรธหลงเหลือในแววตาคู่นั้นเลย..



“ ไหนบอกว่าจะแก้ปัญหาให้พี่ แต่นี่พี่ยังไม่เห็นนายจะทำอะไรเลยนะ” ขณะที่รอนนท์ทำอาหารอยู่ ก็เอ่ยทวงสัญญาที่นนท์ให้ไว้.. ชายหนุ่มข้างกายหยุดตะหลิวเล็กน้อย ..ก่อนจะเหยาะซอสปรุงรสลงไป..


“ รับรองนนท์ไม่ทำให้พี่เสียหน้าหรอกนะ..ใครจะให้หน้าพี่ออกไปทั้งอย่างนี้ล่ะ..” นนท์กล่าว พร้อมทั้งยกมือข้างหนึ่งมาจิ้มแก้มของคนตัวสูงกว่าเบาๆ..แล้วกลับไปผัดข้าวในกะทะต่อ..ต้นมองอย่างงงๆ..ในสิ่งที่นนท์ทำ อ่อนโยน ง่ายดาย ..ไม่มากพิธี แต่กลับสะท้านลึกในความรู้สึก..หรือภูเขาน้ำแข็งที่ยากต่อสิ่งใดจะลามลน ..ต้องพ่ายแพ้ให้กับความน่าสดใสของคนตรงหน้า..


หลังมืออาหารผ่านไป..นนท์ก็จัดการละเลงหน้าพี่ชายของบ้านด้วยรองพื้นบางๆ.จากนั้นก็โป๊ะแป้งบัฟอีกระลอก รอยทีเกิดถูกลบไปอย่างน่ามหัศจรรย์ต้นจ้องมองตัวเองในกระจกอย่างไม่เชื่อสายตา..นนท์นี่นะ..รู้ไปหมดเลยเหรอยังไง

“ นายมีของพวกนี้ด้วยเหรอ..”



“ ใครบอกนนท์ไปแอบจิ๊กมาจากห้องกิ่งต่างหาก” นนท์ยิ้มให้เก็บข้าวของลงกระเป๋าของเพื่อนสาวจากนั้นก็เดินออกมาส่งอีกคนที่รถ..



“ พี่ไปนะ..” ต้นบอกเบาๆ..ไม่ค่อยชินกับการกระทำของตัวเองสักเท่าไหร่ แต่ในใจก็บอกให้เขาพูดออกมา นนท์ยิ้มให้ด้วยความอ่อนโยน..ก่อนจะปล่อยให้ต้นออกรถไปทำงาน ..



ระหว่างทางคนหน้าคมก็คิดเรื่องราวต่างๆไปเรื่อย..นึกย้อนในทุกสิ่งที่เคยเกิดขึ้นระหว่างเขากับนนท์..มันก็น่าแปลก..นับวันเขายิ่งเข้าใกล้อีกคนอย่างไม่สามารถหักห้าม ..มันจะมาจากส่วนไหน ..ทำไมนนท์ถึงได้เป็นเช่นนี้ล่ะ..


สัญญาที่หมายมาด แต่กลับถูกลบล้างเพราะแผนแกล้งของเขา..นนท์ไม่ถือสา แถมยังปล่อยให้ผ่านไป..ต้นคิดมาถึงตอนนี้ก็เผลอยยิ้มกับตัวเองอย่างไม่รู้สาเหตุ..

‘หรือนายจะชนะพนันพี่อีกข้อเข้าแล้ว..’ ต้นพึมพำกับตัวเองเบาๆ..พนันที่ว่าคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก.. นนท์จะทำให้พี่หลงรัก.. หรือตอนนี้หลุมรักที่นนท์ขุดไว้จะดักพี่หน้ายุ่งได้สำเร็จแล้วล่ะ..หนทางข้างหน้าอีกยาวไกลไม่มีนิยามไหนตอบได้ดี เท่าเวลา ..


....

หลังจากสองคืนของแผนการผ่านไป สองแม่ลูกคนสวยก็ยอมกลับบ้านเสียที.. ทันทีที่เท้าเหยียบชายคาบ้าน คำถามระรัวก็ออกจากปากนนท์มากมาย ..ท่าทางของทั้งสองไม่เหมือนคนไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัดเลยสักนิด ..


“ น้าแก้ว ..กิ่งงงงงง..” เสียงทักทายดังขึ้น ทำให้สองแม่ลูกอดจะสะดุ้งไม่ได้..



“ จ้ะ..”


“ น้าแก้วบอกนนท์ว่าจะกลับตอนดึกๆของวันศุกร์ไม่ใช่เหรอครับ แล้วทำไมถึงกลับกันมาป่านนี้ละ” นนท์เอ่ยทักอย่างสงสัย ดวงตาจ้องมองสองแม่ลูกอย่างจับผิด ..


“ ก็วันนั้นฝนมันตกหนัก จะกลับมาก็ไม่ได้แถมเมื่อวานฝนยังไม่หยุดรถของเรายางแตกจะเปลี่ยนก็ไม่ได้เลยต้องค้างบ้านอาน้องพิงต่ออีกคืน” คำเท็จถูกบอกออกมาอย่างรวดเร็ว

“ ดูสมบูรณ์ สมจริงสมจังแต่ไม่น่าเชื่อ” นนท์มองอย่างไม่เชื่อคำ ..อะไรจะประจวบเหมาะเคราะห์ซ้ำเสียขนาดนั้น .. นนท์นั่นไม่ได้โง่เหมือนเมื่อก่อน ...เฮ้ย ..ไม่ได้คิดอ่านช้าเหมือนเมื่อก่อน ..จนกิ่งที่ยืนอยู่ใกล้มารดาต้องรีบเสริมกำลังขัดตาทัพอย่างด่วน ก่อนจะพ่ายแพ้..

“ จริงๆอย่างที่แม่ว่านั้นแหละ ฉันนี่เหนื่อยแทบขาดใจเลยต้องเข็นรถที่ยางแตกกลางฝน จะบ้าตาย” หญิงสาวใส่ฉากรันทดให้กับคำโกหกอีก พร้อมทั้งใช้น้ำเสียงอิดโรยประกอบกันให้น่าเชื่อถือ

“ ก็ได้ครั้งนี้นนท์จะยอมเชื่อนะ แต่ถ้าครั้งต่อไปทิ้งนนท์ให้อยู่บ้านคนเดียวอีกนนท์ไม่ยอมจริงๆด้วย” คำซักไซ้ที่หมดไป ทำให้คุณต้นและลูกสาวถึงกับหายใจได้คล่องขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า



“ น้าแก้วกับกิ่งเพิ่งกลับมาคงเหนื่อยแย่ นนท์ทำอาหารไว้แล้วยังไงก็ทานกันหน่อยนะเดี๋ยวนนท์ไปหยิบจานมาให้” ชายหนุ่มไม่อยากจะคาดคั้นต่อ รู้กันดีว่าสองแม่ลูกเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ยากเสียยิ่งกว่ายากที่จะเปิดปาก สุดท้ายเลยเลิกล้มเดินเข้าไปในครัวแทน .



“ โธ่นึกว่าจะเสร็จเสียแล้ว” คุณแก้วลอบกระซิบกับลูกสาวคนเล็กเมื่อเห็นนนท์ลับเข้าไปในครัว.

.
“ ก็นั้นสิคะ หนูบอกแม่ตั้งหลายครั้งแล้วว่าเดี๋ยวนี้นนท์มันช่างสังเกตสังกา แถมยังฉลาดทันคนมากกว่าเดิมหลายเท่าจะโกหกอะไรต้องเตรียมไว้ให้ดี”


“ ก็นั่นสิ แต่อย่างนี้ถึงจะเหมาะกับการเป็นสะใภ้บ้านเราไม่ใช่เหรอ” นางเชื่อมโยงไปอีกเรื่องเข้าจนได้ สะใภ้ ช่างเรียกได้เต็มปากเต็มคำจริงๆ ..สะใภ้หน้าสวย..


“ กำลังนินทานนท์อยู่หรือเปล่า” เสียงที่พรวดดังขึ้นมากลางวง ทำให้สองแม่ลูกที่กำลังกระซิบกระซาบถึงกับผงะ หายใจแทบไม่ทั่วท้อง ..


“ เปล้า..” นางปฏิเสธเสียงสูงก่อนจะเดินไปนั่งลงตรงที่ประจำ ..มีกิ่งไปนั่งใกล้ๆ ..นนท์วางจานกับโถข้าวไว้ข้างๆทั้งสองแล้วเดินกลับเข้าไปหยิบอาหารที่เหลือออกมา..


“ ตกใจหมด แกล้งอำกันอย่างนี้มีหวังวันไหนเราต้องเผลอบอกความลับเข้าให้สักวัน” คุณแก้วมองซ้ายมองขวาก่อนจะพูดออกมา


“ ค่ะแม่” สองคนยิ้มให้กันอย่างตื่นเต้น แผนการจับนนท์เป็นลูกสะใภ้ยังคงปฏิบัติการต่อไป.. วันเวลาเดินทางอีกระลอก


changasa@hotmail.com

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 11
«ตอบ #63 เมื่อ13-07-2009 22:46:20 »

 :z13: จิ้มซ้าเลยยยยยยยยยยย

งิงิ แม่ลูกคู่นี้ น่าเอาไปอยู่ฝ่ายวางแผนของชาติเลยนะเนี่ย แต่ละแผน สุดๆเลย งิงิ

ออฟไลน์ menano

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-0
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 11
«ตอบ #64 เมื่อ13-07-2009 22:50:05 »

555555555555555555555

สองแม่ลูกก็ยังคงวางแผนต่อ

แต่ถ้าไม่ได้สองแม่ลูก

อะไร ๆ มันก็คงไม่คืบหน้าเท่านี้หรอกเนอะ

 :o8:

ออฟไลน์ ปี้ปี้ปี้~PalmY

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +273/-1
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 11
«ตอบ #65 เมื่อ13-07-2009 22:53:16 »

อ๊าาากก รักกัน รักกัน หึหึ

แล้วสองแม่ลูกเนี่ยแบบว่ายังคงคอนเซ็ปได้ดี แม้ช่วงหลังนนท์จะตามทันบ้างก็ตาม
แถได้แถไป แต่พักหลังเหมือนจะแถไม่เนียลละ  :really2:

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 11
«ตอบ #66 เมื่อ13-07-2009 22:56:44 »

พี่ต้นกับนนท์น่ารักจัง

ออฟไลน์ Chatcha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 11
«ตอบ #67 เมื่อ13-07-2009 23:27:08 »

ชอบ 2 แม่ลูกนี้จิงๆเลย

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 11
«ตอบ #68 เมื่อ14-07-2009 22:01:24 »

นนท์บอกไปแล้ว
เมื่อไหร่พี่ต้นจะบอกมั่งละคร๊าา

LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 11
«ตอบ #69 เมื่อ14-07-2009 22:52:10 »

changasa@hotmai  จิ้มเค้าทำม้ายยยมันเจ็บรู้ป่ะ แต่ชอบบบบบบบบบบบบ55555

menano  ถูกต้องแล้วคร้าบบบ ถ้าไม่ได้สองคนแม่ลูก น้องนนท์ต้องแย่แน่ๆ

pppp2023  55555ลองดูตามตัวสองแม่ลูกดูซิ แถซะจนเลือดซิบเลย

MaYa~Boy  ยังมีกุ๊กกิ๊กน่ารักอีกเยอะค่ะ

chatcha  แหม แหม ชอบแต่สองแม่ลูกหรอค่ะ ว้า..พระเอก นายเอก ตกกระป๋องซะแล้ว

lizzii  เฮ้อ...ถ้าจะรอให้พี่ต้นพูด คงจะอีกนาน...หรือเปล่า 55555


ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม เดี๋ยวจะลงตอนต่อไปให้นะค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 11
« ตอบ #69 เมื่อ: 14-07-2009 22:52:10 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 12
«ตอบ #70 เมื่อ14-07-2009 23:22:58 »

ตอน 12 



..วันนี้เป็นวันสุดท้ายของวันทำงาน พี่ต้นจะกลับมายังบ้านวรโชติ ไม่รู้สินนท์รู้สึกมีความสุขมากอย่างบอกไม่ถูก การได้รอคอยคนเย็นชา ..เพราะยิ่งนานมากขึ้นเท่าไหร่หัวใจก็ยิ่งอยากใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นเท่านั้น ..


“ นี่ก็เย็นมากแล้วนะทำไมพี่ต้นยังไม่กลับมาอีก จะกลับช้าก็ไม่คิดจะโทรฯมาบอกแม่บ้างเลย ปล่อยให้รออย่างนี้ไม่ไหวเลยจริงๆ ไอ้ลูกคนนี้ ” ประมุขของบ้านชักร้อนใจเมื่อไม่เห็นเงาของลูกชายคนโตกลับมาที่บ้าน ปกติเวลานี้อีกคนจะมาถึงบ้านแล้ว ..


“ งานของพี่อาจจะยังไม่เสร็จมั้งคะแม่” กิ่งบอกไปเพื่อให้นางคลายกังวล หรือเพราะปัญหาที่รุมเร้าในตอนนี้เลยทำให้ชายหนุ่มกลับบ้านช้า


“ ใช่สิเรื่องยอดขายไม่กระเตื้องคงสร้างปัญหาให้พี่ต้นไม่น้อย” ด้วยเพราะเข้าใจว่าคนคิ้วเรียวยังอยู่ในครัว..กิ่งเลยเผลอหลุดพูดออกมา ทั้งที่ตกลงกันแล้วว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับนนท์ให้ต้องเป็นกังวล แต่สุดท้ายชะตาของพาให้เขาเข้ามาได้ยินมันจนได้ ..

“ ที่สำนักพิมพ์มีปัญหาเหรอครับน้าแก้ว ทำไมไม่มีใครบอกนัทเลยล่ะ..” ชายหนุ่มที่เดินถือถามอาหารออกมาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ดวงตาคู่วาวปรากฏรอยกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“ คือ..” ประมุขของบ้านสะดุ้งเล็กน้อย ..


“ บอกนนท์มาเถอะนะ ถ้ามีปัญหาก็น่าจะให้นนท์ได้รู้บ้างสิอย่าปิดเลยนะน้าแก้ว ปิดไปก็ไม่ช่วยให้เรื่องราวดีขึ้นหรอกนะ” นนท์วางถาดลงกลางโต๊ะ ยืนยันหนักแน่นในเรื่องราว เขาอยากจะรับรู้ปัญหาบ้างไม่ใช่ปิดบังกันอย่างนี้..


“ คือ ...” เมื่อเห็นท่าทีจริงจังของนนท์...ประมุขวัยกลางคนจึงยอมเล่าเหตุการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นกับสำนักพิมพ์ให้เขาฟัง โดยเลี่ยงเรื่องเจ้าของแหล่งเงินทุนที่เสนอความช่วยเหลือ เพราะยังไม่อยากให้นนท์ได้ระแคะระคาย เรื่องฟ้องล้มละลายของบริษัทที่อเมริกา


“ ครับ” เขาพยักหน้ารับรู้ในสิ่งที่เกิด..ความไม่สบายใจปรากฏในห้วงความคิด หลังมืออาหารนนท์ก็ขอตัวขึ้นไปบนห้องของตน นั่งร่างข้อมูลต่างๆหวังว่าจะช่วยเหลืออีกคนได้บ้าง ตำราเล่มแล้วเล่มเล่าที่เขาได้เรียนในตลอดเวลาสองสามปีถูกปลุกขึ้นมาใช้จนหมด.. แต่แล้วความง่วงงุนและเมื่อยล้าก็แทรกซึมเข้าแทนที่ ร่างบางหลับใหลคาโต๊ะอย่างไม่รู้ตัว ..

กว่าที่เขาจะตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เกือบตีสอง ..แนวคิดที่ร่างไว้บนโต๊ะถูกเขาหยิบขึ้นมาอ่านอีกครั้ง แต่ดวงตาก็ยังคงพร่าเพราะความง่วง คนหน้าเรียวเลยตัดสินใจเดินออกไปหากาแฟมาดื่มแก้ง่วงสักหน่อย
แต่ระหว่างทางที่เดินออกไปก็เหลือบเห็นแสงไฟ ซึ่งลอดผ่านช่องใต้ประตูห้องของพี่ต้นเช่นครั้งก่อน


“ ก๊อกๆ” มือบางเคาะลงบนบานประตูสองสามทีเพื่อขอเข้าไป เจ้าของห้องที่กำลังนั่งทำงานอยู่เดินละมาเปิดห้องด้วยความสงสัยว่าใครกัน ..ดึกป่านนี้แล้วยังไม่นอนอีก


“ ยังไม่นอนอีกเหรอ” พี่ต้นของนนท์เอ่ยทักทายเมื่อประตูเปิดออก..จากนั้นก็เดินกลับไปนั่งเอนกับเตียงนอนต่อ..ชายหนุ่มยื่นมือไปหยิบเจ้าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้คเครื่องสีดำขึ้นมาวางบนหน้าตักแล้วกดทำงานต่อ..นนท์มองดูภาพนั้นอย่างเหนื่อยใจ...มือเรียวหันไปดันประตูให้ปิดลง แล้วเดินไปนั่งใกล้ๆอีกฝ่ายบนเตียงหลังเดิม..



“ นนท์ได้ยินน้าแก้วกับกิ่งบอกว่าตอนนี้บริษัทกำลังมีปัญหา..” คนหน้าสวยที่หยุดอยู่ใกล้ๆ เอียงคอมองคนหน้าเคร่งเล็กน้อย พร้อมทั้งเอ่ยหยั่งเชิงความคิดของอีกฝ่าย


“ อืม” คนหนั่นหนาพยักหน้าเล็กน้อย แต่สายตายังคงจับจ้องอยู่บนจอแอลซีดีด้านหน้า ..

“ พี่ให้นนท์ช่วยไหม”


“ ช่วยอะไรล่ะ ช่วยทำให้ยุ่งหรือยังไงคุณหนู พี่ว่านายกลับไปนอนดีกว่าเถอะดูหน้าตาสิแทบมองดูไม่ได้” ชายหนุ่มเผยรอยเยาะไปหนึ่งที ก็หน้านนท์ตอนนี้มันยับยู่ยี่ ยังมีรอยดินสอคาดอยู่ที่ข้างแก้มอยู่เลย เพราะตอนที่นั่งร่างแผนงานอยู่เกิดหลับไปคาโต๊ะ หน้าของเขาเลยมีรอยนั้นมาประดับ


“ พี่ต้น..” ได้ยินคำกล่าวทีเล่นของอีกคน นนท์ถึงกับแก้มป่อง อุตส่าห์หวังดีจะมาช่วย แต่ทำไมถึงได้ทำอย่างนี้ล่ะ ไอ้คนเย็นชาไม่มีหัวใจ..

“ เป็นอะไร มานั่งงอนพี่อยู่ทำไม..ถ้าง่วงก็ไปนอนไป” ท่าทีปั้นปึ่งเล็กๆ ทำให้เสือยิ้มยากถึงกับเปรยขันออกมา นานแล้วสินะที่เขาไม่ได้ผ่อนคลายเช่นนี้..

“ ขอยืมคอมพิวเตอร์หน่อยสิ” นนท์ย่นจมูกโด่งเข้าใส่คนตาโตไปหนึ่งที ก่อนจะเอ่ยปาก


“...” เขาลังเล แต่ก็ยอมส่งให้อีกรับไป นิ้วเรียววางลงบนแพดลาก..ค่อยๆปิดหน้าต่างเว็บไซต์ต่างๆที่เขาเปิดทิ้งไว้ลงไปเรื่อย..ๆ แต่แล้วนิ้วเรียวก็ไปสะดุดเอาที่หน้าต่างเว็บหนึ่ง


“ นี่แน่ใจนะว่าบริษัทกำลังมีปัญหา พี่ยังมีกะจิตกะใจมาดูเว็บพวกนี้ด้วยเหรอ ไอ้คนลามก” นนท์หันมองอีกคนที่นั่งจ้องเขาอยู่ด้วยสายตาแสร้งชัง...ถ้าเป็นเมื่อก่อนหากเห็นอะไรอย่างนี้นนท์คงวิ่งไปไกลแล้วล่ะ แต่เวลานี้พ่อเด็กขี้เหร่ได้แปลงร่างเป็น เจ้าชายรูปงามแล้ว..


“ โธ่ พี่เป็นผู้ชายนี่ยิ่งเครียดๆก็ต้องหาอะไรผ่อนคลายหน่อย” เขาเอนหลังลงพิงขอบเตียงอย่างสบายใจ ตอบอีกคนหน้าตาย


“ ลามกสิไม่ว่า”

“ ผู้ชายที่ไหนเขาก็ดูกัน ถ้าพี่ไม่ดูสิไม่ว่าน่าแปลกเหรอ อย่าบอกว่านายไม่เคยดู..” ชายหนุ่มไม่ยอมแพ้ยังเถียงนนท์เช่นเดิม

“ เคยแต่นนท์ไม่ค่อยหรอก..มันแปลกๆ..ไม่พูดดีกว่า” ชีวิตเด็กแน้วแนวมาดคุณหนูของนนท์ที่ผ่านมา ยังมีอะไรอีกเยอะที่ไม่เคยได้สัมผัส ..

“ เครื่องพริ๊นต์อยู่ไหนครับ” คนตัวบางกว่าเปลี่ยนเรื่อง.โดยไวขืนยังเถียงกันต่อไปยาวกว่านี้แน่นอน

“ ที่โต๊ะทำงานนั้นไง” ชายหนุ่มชี้ไปยังที่ตั้ง จากนั้นอีกฝ่ายจึงกดเชื่อมสัญญาณบลูทูธเข้ากับเครื่องพริ้นต์กดสั่งพิมพ์งานออกไป..

นนท์ค่อนข้างมั่นใจในวิธีที่เขาร่างขึ้น .. เขาอยากให้ทุกอย่างผ่านไป เหตุผลสำคัญคืออยากให้พี่ต้นเลิกทำหน้าเครียดคิ้วผูกกันอย่างที่เป็นอยู่..


คนเสื้อฟ้าเดินไปหยิบกระดาษสองสามแผ่นที่สั่งพิมพ์ออกมา แล้วเดินกลับมานั่งใกล้ๆต้น มือเรียววางแผ่นกระดาษทั้งสี่ลงบนเตียง โดยเรียงลำดับ...

“ นนท์ถามหน่อยสิ..ถ้าพี่เป็นคนอ่านหนังสือพี่จะซื้อเล่มไหน..ไม่เข้าข้างตัวเองนะ..” ชายหนุ่มรีบบอกดักไว้ก่อน อยากให้ต้นได้ลองเลือกสิ่งที่เขากำลังเสนอ..

“ อาจจะเป็นหนึ่งในนี้ หน้าปกมันก็เหมือนๆกัน” ชายหนุ่มตอบไปตามที่เห็น

“ นั่นสิแล้วทำไมพี่ไม่นึกถึงจุดนี้บ้างล่ะ” ว่าที่นักการตลาดเริ่มขานไขข้อสงสัยของพี่ต้นให้หมดไป .บางเรื่องแค่รู้จักเปลี่ยนมุมมองก็จะเห็นเส้นชัยรออยู่.. ตลอดช่วงเย็นที่ผ่านมานนท์นั่งดูนิตยสารเก่าๆของสำนักพิมพ์ รวมไปถึงหนังสือของค่ายอื่นๆ จนพบข้อสังเกตนี้


“ แต่ your house my home อยู่คู่แผงหนังสือมากว่าสิบปีแล้วนะ ถ้าพี่เป็นคนซื้อเปอร์เซ็นต์ในการเลือกเล่มนี้ก็มีสูง” เจ้าของสำนักพิมพ์เริ่มหาข้อดี


“ ถูกต้องแต่พี่ก็อย่าลืมสิ ว่ายังมีค่ายอื่นๆเหมือนกันนะ เอาง่ายๆเลยนะเหมือนพี่เห็นกล่องกระดาษอยู่สี่ใบที่มีสีต่างกัน โอกาสที่คนจะเลือกสีที่ชอบก็มีมาก แต่ใครจะรู้ล่ะว่าสีที่คนนั้นชอบจะเป็นกล่องของเราหรือเปล่า คนชอบสีไหนก็จะเลือกสีนั้นถ้าในสี่กล่องนี้ไม่มีสีที่เขาชอบเขาก็จะไม่เลือกเลย”


“ เอาง่ายๆดีกว่าพี่ไม่เข้าใจ” ต้นเบิกตาเล็กน้อยมองอย่างไม่ค่อยเข้าใจ..


“ ถ้าพี่หาดอกไม้มาใส่ในกล่อง พี่คิดว่าคนเห็นเขาจะเลือกไหมล่ะ” นนท์อธิบายหลักการที่เขาคิดพร้อมเสนอภาพประกอบให้มองดูเป็นรูปเป็นร่างง่ายขึ้น

“ ก็ต้องเลือกสิแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด”


“ แม้ไม่ใช่ทั้งหมดแต่นนท์ว่าโอกาสก็จะมีมากกว่าตอนไม่มีดอกไม้ ครึ่งต่อครึ่งพี่เห็นด้วยไหม” นักศึกษาการตลาดเริ่มใช้ความรู้ที่เรียนมาให้เป็นประโยชน์ นับว่าเรียนมาไม่เสียเปล่าสามารถเอามาใช้ได้ในสถานการณ์จริง

“ ก็จริงอย่างนายว่าแต่ หนังสือของเราเป็นแนวตกแต่งบ้านต่อให้หาบ้านที่ทรงแปลกประหลาด
แต่ก็ใช่จะโดนตาคนซื้อสักหน่อย” เขายังคำนึงถึงหลักความเป็นจริง

“ แล้วใครให้พี่ไปลงปกบ้านล่ะ” นนท์จ้องอีกฝ่ายตาใส..คอที่เอียงน้อยๆทำให้เขาดูน่ารักขึ้นจนทำให้อีกฝ่ายใจกระตุก..


“ แล้วจะให้ทำยังไง” ต้นพยายามรวมสมาธิของตัวเองกลับมา..ขมวดคิ้วหนาอย่างสงสัย.. เพราะยังมองไม่เห็นทางอยู่ดีว่านิตยสารแนวนี้จะฉีกออกจากกรอบเดิมๆได้อย่างไร

คนหน้าหวานเอื้อมมือมารวบกระดาษทั้งหมดมาไว้ในมือ..แล้วขยับไปนั่งใกล้ๆอีกคนที่ยังสงสัยอยู่..

“ ว่าไงล่ะ” ชายหนุ่มหันมองคนนั่งใกล้ ในใจตอนนี้กำลังสงสัยอย่างมาก ว่านนท์จะมีวิธีอะไรมาทำให้นิตยสารมียอดขายเพิ่มขึ้น

“ พี่ชอบดาราคนไหนเหรอ”

“ นี่คุณหนูพี่กำลังเครียดอยู่นะมาชวนคุยเรื่องไร้สาระได้ยังไง ไว้ค่อยคุยกันวันหลังล่ะกัน ตกลงมีทางออกยังไงกันแน่” เขาชักสีหน้าอย่างเหลืออด เครียดๆอยู่แต่กลับมาชวนคุยเรื่องดาราคนโปรด

“ ตอบนนท์มาก่อนสิ” คนร่างโปร่งยืนยันจะเอาคำตอบ

“ ทอมแฮงค์”

“ ว้าวดาราออสการ์เสียด้วย รสนิยมดีไม่น้อย นนท์เคยดูเรื่องที่เขาไปติดเกาะสนุกดีนะเล่นได้สมจริงมาก ผมเผ้านี่รุงรังจริงๆ” เสียงหัวเราะสดใสดังขึ้นเมื่อได้ยินชื่อดาราคนโปรดของพี่ต้น ..

“ คุณหนู” เสียงของเขาลอดไรฟันออกมาพร้อมจะขย้ำนนท์ในอีกไม่ช้า นนท์นี่ช่างยียวนกวนอารมณ์ได้มากมาย


“ เอาเถอะนนท์ไม่เล่นแล้วก็ได้ ดูสิทำหน้าเป็นยักษ์เชียว..” คนหน้าสวยจำต้องยอมแพ้ พลางยกมือไปดึงมุมปากของอีกคนเบาๆ..ต้นมองกลับมาแต่ก็ไม่ได้ปัดป่ายมือนั้นออก ..เพียงไม่นานคนหน้าสวยก็หันกลับไปสนใจกับจอคอมพิวเตอร์.


“ พี่ลองคิดดูสิว่าทำไมปกนิตยสารสี่ฉบับที่นนท์ให้ดูถึงเหมือนกันขนาดนี้ ใครเป็นคนบอกเหรอว่าหนังสือตกแต่งบ้านต้องมีแต่โซฟาสระว่ายน้ำหรือมุมสวยของบ้าน ทำไมไม่รู้จักเอาดอกไม้มาดึงดูดบ้างล่ะ” แนวคิดที่เริ่มต้นจากนักการตลาดเสนอขึ้น ...ด้วยความเป็นนักขาย ไม่ใช่นักพิมพ์..เลยทำให้นนท์เลือกจะกล้าใช้แนวคิดที่แปลกไปลงไป..ต้นมองอีกฝ่ายอย่างคิดตามใบหน้าไม่ได้ห่างไกลสักเท่าไหร่..


“ พี่ลองคิดสิสมมติพ่อทอมแฮงค์มาลงปกเป็นนายแบบ โดยไปถ่ายมุมสวยในบ้านของเขา พี่ว่าแฟนหนังของทอมแฮงค์จะซื้อหนังสือเล่มนี้ไหม” นนท์พูดขึ้นพลางหันมามองอีกฝ่ายที่นั่งใกล้..โดยไม่รู้ตัวเลยว่าร่างของทั้งสองแทบชิดกัน...ทันทีที่หันก็สัมผัสเอากับร่างแกร่งที่นั่งอยู่..แรงต้านที่เกิดทำให้ร่างของนนท์ต้องเซไปข้างหลังโดยมีต้นล้มลงมาทาบทับ... ( กรี๊ด...)



LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 11
«ตอบ #71 เมื่อ14-07-2009 23:40:52 »

สองสายตาสบกัน..ใกล้ ..กลิ่นหอม ความรู้สึก ทุกอย่างเป็นจริงจนแยกไม่ออกจากร่างกาย...
แล้วเป็นนนท์ที่ได้สติขึ้นก่อน..

“ พี่ต้น..”

“ อะไรเหรอ..” อีกคนยังคงไม่รู้ตัวว่ากำลังทับอีกฝ่ายอยู่..ใกล้..

“ นนท์หนัก..” สิ้นเสียงของคนด้านล่างต้นก็รีบผละออกอย่างได้สติ...ร่างบางเลยลุกขึ้นกลับมานั่งอย่างเดิม สองคนเลี่ยงจะพูดในสิ่งที่เกิดขึ้น...แต่ก็นั่นแหละเวลานี้สองกายได้ใกล้กันมากขึ้นกว่าเดิมอีกระดับ ..กลิ่มหอม สัมผัส และความอบอุ่น..

“ พี่ยังไม่ตอบนนท์เลยว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ” นนท์เลือกจะกลับเข้าไปสู่ประเด็นที่ค้างเอาไว้ พยายามไม่มองอีกคนที่นั่งใกล้ๆ ..

“ ก็น่าจะซื้อ”

“ ถือว่าถูก ทำไมไม่มีคนคิดจะเอาดารามาลงปกบ้างล่ะพี่รู้ไหมว่าทำไม....” เจ้าของทฤษฎีใหม่หยั่งเชิงความคิดเจ้าของสำนักพิมพ์หนุ่ม

“ ค่าตัว”

“ นนท์ได้ยินมาว่าการวางแผนการตลาดครั้งใหม่ต้องใช้เงินถึงห้าล้าน พี่ลองเชื่อนนท์สักครั้งไหม
นนท์คิดว่าเราใช้เงินไม่ถึงล้านด้วยซ้ำกับการลองปกใหม่ แม้ค่าตัวดาราจะแพงไปนิดแต่ก็แค่แสนสองแสน หากเรามีสตูดิโอเอง หรือติดต่อบ้านสวยๆก็ไม่มีปัญหา จะแพงหน่อยก็ค่าไฟค่ากล้อง แต่รวมๆกันหนึ่งวันก็ราวๆห้าแสน ลองทำอะไรใหม่ๆดูอาจจะดีก็ได้นะ” คนร่างเล็กกำลังผลักดันความคิดของตัวเองสู่สายตาแวดวงหนังสือ ความคิดที่ยากจะพบเจอในแผงหนังสือแต่งบ้านปัจจุบัน

“ แต่..”

“ พี่ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินเลย ในช่วงนี้นนท์ว่าลงดาราที่กำลังมีผลงานหนังหรือละครดูสิ สกู๊ปในเราอาจมีบทสัมภาษณ์เขาด้วย

นนท์เชื่อว่าอย่างน้อยคนก็ต้องสนใจ ไม่ใช่ถามเรื่องบ้านของเขาอย่างเดียวแต่ต้องถามไปเรื่องอื่นๆเช่นผลงานที่มีอยู่ เรื่องใหม่ๆในชีวิตเขาอย่างนี้คนก็จะอยากอ่านอยากซื้อมากขึ้น และรับรองต้องได้ ads.เพิ่มขึ้นด้วย” นนท์เสนอหลักการตามความคิด


ในฐานะคนอ่านหนังสือดาราบ่อยๆ เขาเองก็อยากรู้เรื่องของดาราคนโปรด หนังสือแนวใหม่น่าจะเจาะกลุ่มตลาดได้ง่าย

“ เหรอ”


“ พี่ก็รู้ดีว่าพวก ads.หนัง ละครมันเงินเยอะขนาดไหน การที่เราเอานักแสดงมาลงก็เท่ากับช่วยโปรโมตหนังของเขาไปอีกทาง ช่วงนี้อยู่ในช่วงขาลงน้ำต้องพึ่งเรือเสือต้องพึ่งป่า”


“ ........” เขาครุ่นคิดตามไป


“ นนท์รู้ว่าพี่อาจกำลังหนักใจ ว่าการทำอย่างนี้เหมือนเป็นการหลอกขายให้กับคนซื้อมากกว่าจะวัดกันที่คุณภาพ แต่ตอนนี้ใครๆก็ต้องเอาตัวรอดไม่ใช่เหรอ แม้ตอนแรกมันอาจจะไม่ถูกนักแต่ถ้าพี่ลองคิดว่ามันเป็นการเปิดตลาดล่ะ เราอาจได้แฟนนักอ่านกลุ่มใหม่เพิ่มขึ้นนะ พี่ว่าไง” ความกังวลที่ต้นมี ..นึกเหรอว่านนท์จะอ่านไม่ออก ชายหนุ่มหันมองอีกฝ่ายอย่างเลี่ยงไม่ได้พยายามย้ำความมั่นใจให้อีกคน

“ อืมก็ได้พี่จะลองเชื่อดูสักครั้ง”


“ งั้นลองออกแบบปกเลยไหม นนท์อยากเห็นแล้วว่าทอมแฮงค์มาปรากฏอยู่บนปก your house my home แล้วจะไปยังไง คนต้องอยากอ่านมาขึ้นแน่” นนท์ยิ้มกว้างอย่างดีใจ ในที่สุดพี่ต้นก็ยอมทำตามที่เขาเสนอ.. เขาอยากให้พี่ต้นเลิกเครียดเสียที.. ในใจก็แอบลุ้นคนข้างๆอย่างมาก..ต้นเอื้อมมือไปเปิดโปรแกรมออกแบบ พร้อมทั้งเซิร์ซหาภาพของดาราคนโปรดมาประกอบกัน ..


‘ ความคิดของนายไม่เลวจริงๆ ใครจะเชื่อล่ะ ว่าคนสมองขี้เลื่อยในวันก่อนจะกลายเป็นคนแสนฉลาดเจ้าความคิดเจ้าแผนการขนาดนี้ เห็นทีพี่คงมองข้ามนายไปไม่ได้แล้ว’ เขาลอบคิดในใจออกจะชื่นชมในตัวอีกฝ่ายไม่น้อย มือแกร่งทำงานของตนไปเรื่อยๆจนเวลาล่วงเลย...

“ นี่พี่ทำเสร็จแล้ว” พี่ต้นบอกเสียงใส .ดูจะมีความสุขไม่น้อย ในที่สุดการออกแบบปกก็สำเร็จออกมาตามที่เขาคิด... เมื่อไม่มีเสียงใดตอบกลับมาทำให้เขาต้องหันไปมองคนข้างกาย


“ หลับแล้วเหรอนี่..” ต้นยิ้มให้กับคนน่ารักที่นอนนำหน้าเขาไปก่อนแล้ว มือใหญ่อดจะเอื้อมไปปัดไรผมที่ปรกหน้าคนหลับตาไม่ได้ แถมมันยังไล้ไปบนแก้มนวลอย่างแผ่วเบา


‘ เห็นทีพี่ได้แพ้พนันอีกข้อหนึ่งเข้าแล้ว วันนี้นายทำให้พี่หวั่นไหวได้มากจริงๆ’ ชายหนุ่มยอมรับกับใจของตัวเอง คำประกาศก้องของนนท์กำลังเดินทางไปสู่เส้นชัย เขากำลังกลายเป็นผู้แพ้ แต่นั่นจะสำคัญอะไรการแพ้ต้องยอมจากใจส่วนในของก้นบึ้งถึงจะเรียกได้ว่าผู้ชนะ กำชัยอย่างสมภาคภูมิ

***
เช้าวันถัดมาเจ้าของห้องก็รีบออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว...


“ พี่ต้นออกไปทำงานแล้วเหรอคะ พี่เขานี่ขยันจริงๆเลยนะวันเสาร์เป็นวันหยุด แต่เขาก็อุตส่าห์จัดเป็นวันทำงาน กิ่งเห็นแล้วทึ่งจริงๆ” กิ่งที่เพิ่งล้างหน้าล้างตาเสร็จเดินลงมาทักทายมารดาที่จัดจานอยู่ที่โต๊ะอาหาร พลางเอ่ยถึงพี่ชายจอมขยันของเจ้าหล่อน ..

“ ว่าแต่เราเถอะวันนี้ว่างไหมแม่จะชวนไปข้างนอกสักหน่อย”

“ ว่างสิคะช่วงนี้ยังไม่สอบกลางภาคกิ่งไปได้อยู่แล้ว แต่หวังว่าคงไม่ได้ไปนั่งถ้ำมองคนอื่นเหมือนอาทิตย์ที่แล้วนะ” เธอบอกกันไว้ก่อนเพราะเบื่อเหลือเกินกับการลุกๆนั่งๆเฝ้ามองอะไรที่มองไม่เห็น

“ จ้ะ” นางรับคำเสียงสูง

“ ว่าแต่นนท์ล่ะคะ หนูเดินไปหาเขาที่ห้องก็ไม่เจอที่นอนก็พับเก็บเรียบร้อยแล้ว” กิ่งรับคำพลางเอ่ยถามถึงเพื่อนสนิทว่าที่พี่สะใภ้ ..

“ ไม่เห็นนี่ แม่นึกว่ายังหลับอยู่เสียอีก..” มารดาปฏิเสธไปอย่างราบเรียบ แต่เพียงชั่วขณะสัมผัสบางอย่างของสองแม่ลูกก็แผ่รังสี สองตาหันมองอย่างช่างใจ ก่อนที่คนร่างเพรียวจากลากแขนมารดาขึ้นกลับไปบนชั้นสองของบ้าน ...

“ จะพาแม่ไปไหนน้องกิ่ง แม่ยังจัดจานไม่เสร็จเลยนะ” นางทักท้วงเพราะอยู่ๆกิ่งก็เข้ามาจับแขนแล้วลากขึ้นข้างบน

“ ไปหาว่าที่สะใภ้แม่ไง” เธอกระซิบเสียงแผ่ว แต่เพียงเท่านั้นคุณแก้วก็กระจ่างใจใช่สิขืนว่าที่สะใภ้หายไปนางคงยอมไม่ได้แน่นอน


“ นั่นมันห้องพี่เรานี่จะไปทำไมเหรอ” นางถามอย่างแปลกใจที่ลูกสาวคนเล็กพาตรงไปยังห้องนอนส่วนตัวของต้น


“ กิ่งแค่สงสัย” กิ่งบิดประตูเข้าไปใจเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ มารดาเริ่มจะมาลุ้นในช่วงจะเปิดประตูห้องนี่แหละ


“ นั่น” และแล้วก็จริงอย่างที่คนขี้สงสัยคิด ว่าที่พี่สะใภ้นอนอยู่ในห้องพี่ต้นจริงๆด้วย แถมยังขึ้นไปนอนบนเตียงของเขาเสียด้วย


“ชักสนุกแล้วสิคะแม่ระวังนะค่อยๆเข้าไป” กิ่งยิ้มกว้างให้มารดา เหมือนสิ่งที่รอคอยสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว แค่เห็นเท่านี้เจ้าของแผนการลวงโลกตัวการใหญ่ก็สุขใจอย่างบอกไม่ถูก ว่าที่สะใภ้นอนห้องเดียวกับลูกชายคนโตเมื่อคืนนี้ คิดแล้วก็จักกะจี้


“ เอ๊ะนี่อะไรคะ หนังสือของเรามีปกอย่างนี้ด้วยเหรอ” กิ่งสะดุดเข้ากับบางอย่างที่วางไว้บนโต๊ะ..สายตาของหล่อนจับจ้องพร้อมทั้งหยิบแผ่นกระดาษที่วางไว้ขึ้นมาดู ถึงกับเลิกคิ้วสงสัยยกใหญ่เพราะไม่คุ้นว่าสำนักพิมพ์ของครอบครัวจะลงปกดาราด้วย


“ เอามาให้แม่ดูสิ” มารดาที่ยืนอยู่ข้างๆยื่นมือไปรับแบบปกมาดูบ้าง ก็ถึงกับแปลกใจในรูปแบบปกที่น่าสนใจกว่าเดิมมาก กิ่งที่ยืนดูมารดาฉงนกับปกใหม่ก็เหลือบเห็นบางอย่างที่เขียนไว้ด้านหลังปกนั้น


“ แม่ลองพลิกกระดาษดูเร็ว กิ่งเห็นเหมือนมีตัวหนังสืออยู่ข้างหลัง” เจ้าหล่อนรีบร้องบอกอย่างสนใจ อยากรู้นักว่าข้อความด้านหลังเขียนว่าอย่างไร


“ ขอบใจมากคุณหนู แล้วพี่จะลองเสนอความคิดนี้ที่กองประชุมบก.ดูนะ ไว้ถ้าเป็นจริงแล้วพี่จะซื้อของมาฝากแล้วกัน ว่าแต่เมื่อคืนนายนอนดิ้นเกินไปแล้วนะทำพี่แทบตกเตียง ..........พี่ต้น”

คุณต้อมอ่านข้อความนั้นออกมาแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง แต่เพราะจำได้ว่ามันเป็นลายมือลูกชายคนโต เลยต้องเชื่อในที่สุด เห็นดังนั้นก็ดีใจกันยกใหญ่ แสดงว่าเมื่อคืนนนท์นอนอยู่ในห้องนี้จริงๆ


“ ไม่เสียแรงที่กิ่งยอมไปนั่งหลังขดหลังแข็งที่บ้านน้าเดือน ใครจะนึกล่ะว่าสองคนนี้จะแอบกุ๊กกิ๊กกันด้วย” แม่ลูกสาวพลอยคิดไปไกลเกินกว่าความเป็นจริงที่มีอยู่


“ ใช่แล้วแต่เรื่องอย่างนี้โบราณเขาบอกว่าอย่ากระโตกกระตากเดี๋ยวไก่จะตื่น เราต้องเงียบไว้ก่อนรอดูท่าทีสองคนนี้ไปก่อน” จอมวางแผนขั้นปรมาจารย์คิดต่อได้อย่างแยบยล

“ เรารีบออกไปก่อนดีกว่า ” มารดาฉุกคิดขึ้นได้ ก็รีบเกี่ยวแขนลูกสาวออกไปจากห้องทันที ขืนแสดงให้รู้ว่าทั้งสองเห็นชายหนุ่มนอนหลับในห้องของลูกชายคนโต นนท์คงไม่ยอมเข้าใกล้พี่ต้นอีกแน่



ออฟไลน์ ปี้ปี้ปี้~PalmY

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +273/-1
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 12
«ตอบ #72 เมื่อ15-07-2009 00:29:53 »

โอ้วววว โดนใจใช่เลยตอนนี้ หุหุ
พี่ต้นเอ่ยยยย  :z1: แต่เรื่องหนังสือก้มีความจริงอยู่นอกจากคนที่สนใจเรื่องนั้นแล้ว
แต่มีคนสนใจดาราขึ้นอีกละ มันก็มีซื้อมากขึ้น พวกแฟนคลับก็ซื้อเพิ่มในส่วนของแฟนคลับ
นั้นแหละใช่เลย  :z2:

ออฟไลน์ menano

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-0
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 12
«ตอบ #73 เมื่อ15-07-2009 01:47:00 »

ก้าวหน้าไปอีกขึ้นแล้วเนอะ

ทีนี้พี่ต้นได้แพ้พนันหลุดลุ่ยแน่นอน

น้องนนนี่ชนะชัวร์แบบนี้น่ะ

55555555555555

สองแม่ลูกก็ติดตามผลทุกระยะเลยนะเนี่ย


pay-it-forward

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 12
«ตอบ #74 เมื่อ15-07-2009 09:40:55 »

สองแม่ลูกนี่ได้ใจสุดๆเลย
ชอบจังเลย "ว่าที่สะใภ้"
 :L2:

ออฟไลน์ Chatcha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 12
«ตอบ #75 เมื่อ15-07-2009 12:12:03 »

เราว่าเราเป็นแฟนคลับสองแม่ลูกนี้ดีกว่า

ชอบอะ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 12
«ตอบ #76 เมื่อ15-07-2009 19:56:17 »

ตอนหน้าขอหว๊าน หวาน ได้ป่ะ หุหุ

tapee14

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 12
«ตอบ #77 เมื่อ15-07-2009 20:30:55 »

น่ารักจังอยากมีแม่สามีแบบนี้บ้างจังอะ ชอบมากเลยมาลงต่อเรื่อย ๆ นะค่ะ เป็นกำลังใจให้

 :L1:     :L1:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 12
«ตอบ #78 เมื่อ15-07-2009 20:45:59 »

 :z2: :z2: เต้นฉลองล่วงหน้า  :z2: :z2:

LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 12
«ตอบ #79 เมื่อ15-07-2009 21:23:01 »

pppp2020  โดนใจจริงหรอ แสดงว่าชอบน้ำตาลละซิ หุ หุ

menano  พี่ต้นนะแพ้อยู่แล้ว แต่จะเก็กหน้าหน้าขรึมได้อีกนานแค่ไหน จะแสดงออกมาเมื่อไหร่ต้องติดตามค่ะ

pay-it-forward  เค้าก้อชอบแม่ลูกคู่นี้เหมือนกัน น่ารัก

lizzii  ความหวานน่ารักๆยังมาอีกเรื่อยๆ แต่ตอนไหนต้องติดตามค่ะ

tapee14  ว่าที่คุณแม่ดีเด่นเลยนะเนี๊ย

THIP  ฉลองอะไรหรอ เร็วไปม้ายยย 55555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 12
« ตอบ #79 เมื่อ: 15-07-2009 21:23:01 »





LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 13
«ตอบ #80 เมื่อ15-07-2009 22:01:21 »

ตอน 13



การประชุมกองบรรณาธิการของนิตยสาร your house my home เปิดฉากขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียดของสมาชิกทุกคน เพราะต่างรู้ดีว่าปัญหาเรื่องยอดขายเป็นปัญหาใหญ่ที่อาจส่งผลกระทบต่อการอยู่รอดของบริษัท และถ้าบริษัทเดือดร้อนพนักงานอีกครึ่งร้อยก็ต้องประสบกับความลำบากด้วยเช่นกัน


“ ไม่ทราบว่าที่นัดกองประชุมด่วน มีเรื่องอะไรสำคัญหรือเปล่าคะคุณต้น” ผู้จัดการสาวฝ่ายโฆษณาเปิดประเด็นเพื่อให้ชายหนุ่มได้เสนอความคิดใหม่


“ ผมมีแนวทางใหม่ในการทำหนังสือปักษ์ต่อไป”



“ แต่ปักษ์ต่อไป เราปิดต้นฉบับไปแล้วนี่ครับคุณต้น” หนึ่งในกองบรรณาธิกาเอ่ยแย้งเมื่อได้ยินคำเสนอจากปากของเขา



“ ปิดไปแล้วก็จริงแต่เนื่องจากยอดขายที่ต่ำลงจนน่าใจหาย เราเลยต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตั้งแต่ปักษ์หน้าเป็นต้นไป นี่คือตัวอย่างปกใหม่ของนิตยสาร your house my home” เขากดเปิดเครื่องฉายภาพ แสงสว่างจากเครื่องเริ่มทำงานและปรากฏภาพแบบปกใหม่ที่แผ่นผ้าใบข้างๆกระดานสีขาว



“ เอ๊ะนี่” สายตาทุกคู่จับจ้องอยู่ที่แบบปกซึ่งไม่คุ้นตาเอาเสียเลย เพราะคราวนี้มีการตัดต่อภาพดารานักแสดงมาเป็นส่วนประกอบหนึ่งของปก เพื่อเรียกแรงดึงดูดจากผู้พบเห็น



“ พวกคุณว่าไงกับไอเดียชิ้นนี้ ผมว่ามันค่อนข้างจะใช้ได้ผลเลยทีเดียวเหมือนลูกกวาดล่อตาล่อใจเด็ก” เขาเริ่มอธิบายต่อเพื่อไม่ให้ขาดตอน


“ แต่มันค่อนข้างจะ..” คุณประชาผู้อาวุโสที่สุดมีท่าทางไม่ค่อยจะเห็นด้วย แต่ก็ไม่กล้าจะคัดค้านออกไปตรงๆ



“ การลงทุนค่อนข้างสูงเรื่องนี้ผมเข้าใจดี แต่ถ้าแลกกับยอดขายที่เพิ่มขึ้นผมก็ว่ามันคุ้มนะ อีกอย่างผมจะเปิดสกู๊ปใหม่สักหน้าสองหน้าเพื่อสัมภาษณ์คนที่มาลงปก โดยการสัมภาษณ์ไม่ได้พูดคุยแค่เรื่องบ้านหรือมุมสวยๆที่ดาราเหล่านั้นชอบแต่เพียงอย่างเดียว เราจะทำให้เป็นแนวที่คนชื่นชอบดาราตามอ่านได้ด้วย แม้แรกๆอาจจะดูเป็นการหลอกขายแต่ถ้าคิดในแง่เป็นการลองเปิดตลาด เปิดรับลูกค้ากลุ่มใหม่ๆผมว่ามันก็น่าจะได้ผล เมื่อเขาเหล่านั้นได้ลองอ่านนิตยสารของเราอาจชื่นชอบในสไตล์การนำเสนอในคอลัมน์อื่นๆก็ได้” เขาหยิบยกคำพูดของคนเจ้าหลักการที่กล่อมเขาจนอยู่หมัดมาอ้าง



“ ไอเดียนี้ไม่เลวเลยนะครับ น่าจะทำได้ดีอีกด้วย อีกอย่างมันก็เหมือนเป็นการลองเดินในเส้นทางใหม่ๆไม่จำเป็นต้องยึดติดกับกรอบเดิม เหมือนหนังสือที่มีอยู่ในท้องตลาดตอนนี้” เสียงสนับสนุนเสียงแรกดังขึ้น ตามต่อด้วยคำสนับสนุนอีกมากมาย ทุกคนต่างทึ่งในความสามารถของเขาโดยไม่รู้เลยว่าคนที่คิดแผนการตลาดใหม่คือใครคนที่เขาเคยมองว่าไร้สาระแสนปัญญานิ่ม ..



“ ถ้าอย่างนั้นก็เป็นอันว่าสรุปความคิดนี้นะครับ เดี๋ยวฝ่ายจัดพิมพ์ ออกแบบ และสกู๊ปรอพบผมก่อนนะ ส่วนคนอื่นๆเชิญได้ตามอัธยาศัยครับ” ไฟในตัวเริ่มลุกโชนโชติช่วงอีกครั้ง ปัญหาในตอนนี้ถูกขจัดออกไปได้ง่ายดาย ง่ายจนเขาไม่เคยนึกมาก่อนว่ามันจะออกไปเร็วอย่างนี้ ต้องขอบคุณคนหน้าหวานจริงๆ




วันเวลาผ่านไปสักระยะ มันเป็นช่วงการเดินทางมาเยี่ยมลูกชายคนเดียวของเศรษฐีนีแสนเจ้าเล่ห์ การกลับมาครั้งนี้นำความสุขมาสู่คนเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างมาก ครึ่งปีแล้วสินะที่ไม่ได้เจอมารดา คราวก่อนที่กลับมาเยี่ยมก็มาอยู่แค่สองวันยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะหายคิดถึง มารดาก็ต้องกลับไปจัดการธุระต่อที่สหรัฐอเมริกา



“ นี่แม่กลับมาจะอยู่สักกี่วันครับ อย่าบอกนนท์นะว่าอยู่แค่สองวันอีก” ลูกชายคนเก่งอดจะค่อนขอดไม่ได้ แต่มารดาที่ยังคงตะลึงในการเปลี่ยนไปของลูกชาย จึงไม่ได้ตั้งใจฟังสิ่งที่เขาถาม ..จนเมื่อมือเรียววางไปจับบ่าบางทั้งสองแล้วแสร้งเขย่าแกล้งมารดา ..หญิงวัยกลางคนจึงได้สติ..


“ อะไรนะ เมื่อกี้ลูกถามอะไรแม่เหรอ”


“ นนท์ถามว่าแม่กลับมาเมืองไทยคราวนี้ แม่กะจะอยู่สักกี่วัน” ชายหนุ่มทวนเสียงยานคาง แกล้งเย้ามารดาที่ทำหน้าเหรอ...

“ อ๋อสองวันจ้ะ”


“ อะไรนะ นนท์เพิ่งสังหรณ์ใจไปเมื่อครู่นี่เอง ทำไมแม่ถึงต้องรีบกลับอย่างนั้นล่ะอยู่กับนนท์อีกสักสามสี่วันไม่ได้เหรอครับ” ชายหนุ่มถึงกับผงะในคำตอบของคนเป็นแม่.. เร็วเกินไปหรือเปล่า เป็นไปอย่างที่สังหรณ์ไว้ทุกประการ ..



“ งานทางโน้นยังไม่เรียบร้อยสักเท่าไหร่ บริษัทเราเพิ่งตั้งตัวได้ใหม่รากฐานยังไม่แข็งแรงการที่แม่ทิ้งมาอย่างนี้ก็ถือว่าเป็นผู้บริหารที่ไม่ดีเลย เพราะห่วงลูกแม่เลยยอมกลับมาเยี่ยม” นางให้เหตุผลปนเท็จ




“ นี่ที่บริษัทยังไม่เรียบร้อยอีกเหรอ เอาเถอะครับนนท์จะยอมให้...ถึงยังไงเราก็สู้อุตส่าห์ทำให้บริษัทฟื้นคืนกลับมาได้ นนท์ไม่ยอมเอาตัวเองเป็นใหญ่จนทำให้ส่วนรวมต้องเสียหายหรอก” ความคิดที่ออกมาจากปากของลูกชายสุดที่รักทำให้คุณนันอดปลื้มปิติไม่ได้ พ่อน้องสติชหัวฟูของนางโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจริงๆแถมยังหล่อเหลายังกับพระเอกหนังเกาหลี... น่าหลงใหลตามคำชวนเชื่อของคุณแก้วทุกประการ



“ แล้วน้องกิ่งกับน้าแก้วไม่อยู่บ้านเหรอ” นางเหลียวซ้ายแลขวาก็ไม่เห็นเงาของใครสักคนเลยถามออกมาอย่างสงสัย ในความเป็นจริงคุณอก้วต้องอยู่ติดบ้านเพื่อรอคุยเรื่องลูกชายของทั้งสองถึงจะถูกต้อง แต่นี่ไม่เห็น หรือคุณแก้วจะมีแผนการอะไรแอบซ่อนไว้อีกหรือเปล่านะ



“ แม่เป็นอะไรไป ยิ้มเหมือนตัวร้ายในหนังเลยนะ” นนท์ที่นั่งจ้องมอง อดจะเอ่ยทักในท่าทีผิดปกติของมารดาไม่ได้.. ออสการ์มาเอง



“ เปล่าหรอกจ้ะ อย่างแม่ต้องเรียกว่านางเอก อย่าเรียกว่าตัวร้ายอีกนะไม่เหมาะสม ๆ อย่างแม่ต้องนางเอก” นางเอาจริตเข้ากลบเกลื่อน และมันก็สามารถเรียกเสียงหัวเราะจากลูกชายตรงหน้าได้ไม่น้อย แถมความคาใจของนนท์ก็ลบหายไปพร้อมเสียงหัวเราะนั้นด้วย


“ เดี๋ยวแม่ขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ คืนนี้แม่ต้องนอนกับนนท์ที่นี่นะ อย่าไปนอนเลยที่โรงแรมเลย
นานๆแม่จะกลับมาสักทีนนท์อยากนอนคุยให้หายคิดถึง” เขาเข้าอ้อนมารดา พลางยกมือขึ้นคล้องแขนนุ่มเข้ามากอดอย่างสุดรัก..


“ จ้ะ”


“ แม่รีบอาบน้ำแล้วลงมานะ เดี๋ยวนนท์จะทำอาหารให้ทานรับรองแม่ต้องไม่เชื่อแน่ว่าลูกชายของแม่ทำอาหารเป็นด้วย” เขารีบอวดเหมือนเด็กๆ


“ จ้ะ ไว้แม่จะรีบลงมา” นางรับคำแล้วลากกระเป๋าเดินทางใบขนาดกลาง ขึ้นไปชั้นสองของบ้านอย่างคุ้นชิน ครั้งก่อนนางก็มานอนกับลูกชายหนึ่งคืนเลยจำเส้นทางได้แม่นยำ ฝ่ายนนท์ก็เดินเข้าไปในครัวเลือกหาวัตถุดิบภายในตู้เย็นเพื่อนำไปทำอาหาร


บัดนี้มันกลายเป็นหน้าที่หลักของเขาไปเสียแล้ว ทุกวันสุดสัปดาห์นนท์ต้องได้เข้าครัวเองเพราะเป็นวันว่างแถมยังได้ช่วยแบ่งเบาภาระเล็กๆน้อยๆคุณแก้วได้อีกแรง



“ นี่หล่อนอยู่ไหนกันหา ฉันมาถึงชั่วโมงนึงแล้วนะยังไม่เห็นใครสักคนนอกจากลูกชายของฉัน” คุณนันกรอกเสียงอย่างแผ่วเบา เพราะเกรงว่าลูกชายหน้าสวยจะได้ยินเข้า


“ ตอนนี้ฉันออกมาซื้อของนิดหน่อยอีกสักพักก็กลับบ้านแล้ว อย่าบอกนะว่าที่โทรฯมาเพราะคิดว่าฉันหลบมาเตรียมแผนอะไร” นางเดาใจเพื่อนสนิทได้ถูก


“ เปล่าสักหน่อย ฉันไม่ใช่พวกเจ้าแผนการอย่างหล่อนนี่”


“ ไม่ใช่เจ้าแผนการเหรอ แล้วใครล่ะย่ะที่โกหกลูกตัวเองว่าที่บ้านกำลังจะล้มละลาย ไม่รู้เลยนะว่าไอ้นกตัวไหนมันบอก” คุณแก้วอดจะแสร้งประชดไม่ได้ แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับพี่ต้นที่กำลังเข็นรถเข็นมาทางมารดาเกิดได้ยินเข้าพอดี ชายหนุ่มหลบที่มุมผลไม้เพื่อฟังต่อ


“ โธ่ก็ตอนนั้นเหตุการณ์มันบังคับนี่”


“ ช่างเถอะ อย่าให้ลูกชายเธอรู้เป็นพอ การที่เขาเข้ามาในบ้านของฉันใช่จะไม่ดีสักหน่อย ที่บ้านเรามีชีวิตชีวามากขึ้นตั้งแต่นนท์เข้ามาอยู่”



“ พี่ต้นทำอะไรอยู่คะ” มือบางของกิ่งตบลงบนบ่าพี่ชายที่แอบฟังการสนทนาของมารดากับเพื่อนสนิทเบาๆ.. ชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย แต่พยายามตีหน้าสนิทไม่กระโตกกระตาก.. แต่เพราะเสียงทักทายของลูกสาวคนเล็ก คุณแก้วเลยรู้ตัว และระวังมากขึ้น นางรีบปิดการสนทนานั้นอย่างเร็วที่สุด



“ ไว้ฉันจะกลับไปเม้าท์กับเธอที่บ้านนะ ตอนนี้ไม่สะดวกแล้ว” นางรีบบอกรวดเร็ว ปลายประโยคลดโทนลงเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ลูกชายได้ยิน



“ เอาพี่ต้น น้องกิ่งมานานแล้วเหรอจ้ะ เป็นไงที่แม่ให้ไปหยิบขนมไหว้พระจันทร์ไปหยิบหรือยัง” นางเอ่ยกลบเกลื่อนนี่แหละนะ แม้ใจจะสั่นตุ๊มๆต่อมๆแต่ก็ยังแกล้งใจดีสู้เสือทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เห็นทีนางคงได้รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมเป็นปีที่สองแน่นอน


“ นี่ค่ะแม่ แต่มันไม่มีไส้ถั่วนะกิ่งเลยเอาไส้ไข่เค็มมาแทน จะว่าไปบ้านเราไม่ใช่คนจีนสักหน่อยแต่เราก็ทานขนมไหว้พระจันทร์กันทุกปีเลยนะ”



“ เพราะคุณพ่อของลูกเขาชอบทานไงล่ะ แม่ก็เลยต้องทานเป็นเพื่อนตลอด ไหว้พระจันทร์ทุกครั้งพลอยนึกถึงเขาไปด้วย” ภาพวันวานยังฝังตรึง สดใสสวยงามและมีแต่วันดีๆทั้งนั้น



“ ค่ะแม่ กิ่งว่าเรารีบกลับกันดีกว่านะเดี๋ยวนนนี่ของแม่จะคอยนาน” หญิงสาวก้าวเข้ามาดึงมือมารดา ..ดึงนางให้หลุดจากความทรงจำที่อาจทำให้นางสะเทือนใจ แม้ทุกอย่างจะสวยงามน่าจดจำ แต่ทุกครั้งที่ระลึกความเศร้าช่วงที่คุณชายชาติเสียไปก็เข้ามาเกาะกินใจนางได้ชะงักงัน



“ จ้ะ”นางสลัดความคิดยอมเดินตามลูกสาวไป


ฝ่ายพี่ต้นยังคงครุ่นคิดถึงเรื่องที่ได้ยินเมื่อครู่ เขาอยากพูดมันออกไป แต่ใจหนึ่งก็สั่งให้เขาเก็บมันไว้ในส่วนที่ลึกที่สุด เพราะถ้าเขาเผยความจริงให้นนท์รู้ ความร่าเริงสดใสของบ้านคงขาดหายไปอย่างแน่นอน นนท์คงไม่มีเหตุผลที่ต้องอยู่บ้านเขาต่อและเขาก็จะไม่ได้เจออีกฝ่ายอีก ...โธ่ ...พ่อคนไร้อารมณ์คงยังไม่รู้ตัวหรอกว่าใจเขาเองก็แอบให้ความสนใจนนท์เข้าแล้ว




ออฟไลน์ ปี้ปี้ปี้~PalmY

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +273/-1
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 12
«ตอบ #81 เมื่อ15-07-2009 22:43:10 »

อ๊ากกกกกกกกก โดนใจ 2 แม่ ตีกัน  :z1:

LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 12
«ตอบ #82 เมื่อ15-07-2009 22:54:14 »

“ ไม่รู้ว่าวันนี้นนท์ของแม่จะทำอะไรให้กินกันอีกนะ แม่ว่าไหมช่วงสองเดือนมานี่เขาทำอาหารอร่อยขึ้นมาก มากจนบางทีแพงเผลอคิดว่า...” ท้ายคำก็ไม่กล้าพูดออกมา


“ ทำไมเหรอ เป็นอะไรไปหรือเปล่าลูกคนนี่อยู่ๆก็เกิดอาการใบ้กิน จะพูดอะไรก็พูดต่อสิจ๊ะ อย่าอ้ำๆอึ้งๆอย่างนี้ แม่ไม่ปลื้มนะหนู ..” นางเอ่ยทักอย่างสงสัยเพราะคำที่เหมือนจะพูดต่อ ถูกเธอกลืนเข้าไปจนนางต้องทักท้วงเพื่อฟังเนื้อความต่อ



“ คิดว่าแม่เป็นคนทำ จริงๆนะช่วงหลังมานี่แพงแอบคิดจริงๆว่าเขาทำเทียบแม่ได้เลย แม่คงไม่ว่ากิ่งนะที่ไปชมว่านนท์ทำอาหารอร่อยกว่าแม่”


“ โธ่ เรื่องแค่นี้เองคิดอะไรมาก แม่จะบอกว่าแม่เองก็คิดเหมือนอย่างที่ลูกว่าเหมือนกันนั่นแหละ ช่วงนี้สงสัยหัวใจจะสูบฉีดดีทุกอย่างเลยทำออกมาอร่อย” ...



“ กิ่งเห็นด้วยนะ” สองแม่ลูกกระซิบกระซาบหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างสนุกสนาน วันนี้ได้คุณนันขารั่วจอมวางแผนมาร่วมวงอีกคน มีหวังวันนี้ไม่มีอันหลับอันนอนกันแน่


“ พี่ต้นเป็นอะไรไปคะทำไมไม่ตามมาล่ะ” สองแม่ลูกที่เดินไปได้สักระยะ ก็รู้สึกโหวงๆเหมือนเดินกันแค่สองคน หญิงสาวเลยหันไปมองและพบว่าพี่ชายยังคงยืนนิ่งไม่ตามเธอมา



“ อ๋อ” เขารีบเข็นรถตามไปทันที ..จนมาสมทบ



***
สามแม่ลูกกลับมาบ้านก่อนที่คุณนันจะลงมาจากชั้นบน ต่างคนต่างช่วยกันถือข้าวของที่ซื้อมาจากห้างสรรพสินค้าเมื่อครู่ คุณแก้ววางของทุกอย่างรวมกันไว้ที่โต๊ะใกล้ๆห้องครัว จากนั้นจึงได้เข้าไปช่วยว่าที่ลูกสะใภ้หน้าสวยหยิบจานและช้อนออกมาเตรียมที่โต๊ะอาหาร



“ น้องกิ่งไปเอาโถข้าวมาหน่อยสิ” นางที่กำลังจัดโต๊ะสั่งขึ้น



“ ค่ะแม่” หญิงสาวรับคำอย่างว่าง่าย ตรงดิ่งเข้าไปในครัว ซึ่งตอนนี้พ่อครัวประจำวันสุดสัปดาห์กำลังทำอาหารอยู่อย่างคล่องแคล่ว


“ กลับมาแล้วเหรอกิ่ง” แม่ครัวเอ่ยทักทาย



“กลับมาแล้วสิป๋า ..ว่าแต่ตอนนี้แกกำลังทำอะไรอยู่เหรอ หอมมากเลยแถมหน้าตาน่าทานมากๆ สงสัยพี่ต้นคงได้...” คำที่จะพูดต่อถูกเสียงกระแอมของชายหนุ่มตัวสูงขัดขึ้น



“ จะนินทาอะไรพี่อีกน้องกิ่ง แม่ให้เรามาเอาโถข้าวไม่ใช่เหรอเข้ามาตั้งนานสองนานแล้วยังไม่ออกไปอีก” เขาเอ็ดเข้าให้ แม่น้องสาวเลยแสร้งงอนเล็กน้อยคว้าโถข้าวไปได้ก็เดินสะบัดออกไปนอกครัวทันที ชายหนุ่มเข้ามายืนแทนที่น้องสาวมองดูว่าอีกฝ่ายทำอาหารอะไรบ้าง



“ ยืนยิ้มอะไร” ระหว่างที่เอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำตาล ก็เหลือบเห็นเขายืนมองนนท์อยู่ด้วยรอยยิ้มขันๆ เลยทักขึ้นอย่างสงสัย นนท์เองก็ไม่ซุ่มซ่ามหรือทำอะไรน่าขายหน้านี่..


“เปล่าหรอก” เขาบอกปัดแต่ยังไม่หยุดยิ้ม คนตัวบางกว่าไม่ใคร่จะสนใจใส่น้ำตาลลงในจานผัดจากนั้นก็หรี่ไฟลงผัดต่ออีกสักพัก



“ พี่ช่วยหยิบจานให้นนท์หน่อยสิ” เมื่อทุกอย่างใกล้เสร็จสิ้น ..พ่อครัวหน้าสวยก็เอ่ยขอความช่วยเหลือเพราะเขายืนอยู่ใกล้กว่า ชายหนุ่มหันหลังไปหยิบมาส่งให้แล้วมองท่าทางคล่องแคล่วนั้นต่อ



ทางข้างนอกครัวคุณนันก็ลงมาจากชั้นบนแล้ว สองเพื่อนสนิทโผเข้ากอดเป็นการทักทายกัน นางยิ้มรับให้กันและกัน

“ นี่เธอยังไม่เปลี่ยนทรงผมอีกเหรอแก้ว แค่มีคนทักว่าหน้าเด็กลงนี่ตัดทรงนี้มาตลอดเลยสินะ” นางกล่าวอย่างรู้ทัน คนถูกแซวได้แต่นั่งยิ้มอย่างมีความสุขก็ผมทรงนี้ นำความภูมิใจมาสู่นางจริงๆนี่ ใครเห็นก็ต้องทัก ใครเห็นก็ต้องชม


“ ว่าแต่เธอเถอะมาคราวนี้จะกลับมากี่วันล่ะ”


“ สองวัน ฉันต้องไปประชุมผู้ถือหุ้นที่สิงคโปร์ต่อน่ะสิ เครือข่ายของเราได้เปิดเจรจาครั้งใหม่กับบริษัทในสิงคโปร์ฉันเลยได้โอกาสแวบมาเยี่ยมนนท์ที่นี่แหละ” คุณนันบอกเหตุผลแท้จริง


“ เบาๆหน่อยสิขืนนนนี่ของฉันรู้ว่ามีการร่วมทุนครั้งใหม่ คิดเหรอว่าเขาจะเชื่อว่าบริษัทมีปัญหา” คนขี้ระแวงระวังตัวทุกฝีก้าว ซึ่งมันก็น่าจะมีผลดีกับทุกฝ่ายเพราะนางยังเข้าใจว่าพี่ต้นไม่ได้ยินสิ่งที่นางหลุดพูดออกไป เลยวางใจไปได้เปราะหนึ่ง

“ จริงอย่างที่เธอว่านะ ว่าแต่ลูกชายวฉันอยู่ไหนล่ะนี่”



“ อยู่ในครัวน่ะ กำลังทำอาหารอยู่จะเข้าไปดูไหมล่ะ ฉันกำลังจะเข้าไปหยิบแก้วน้ำพอดีเลย” นางเอ่ยชวนซึ่งคุณนันก็รับปากเดินเข้าไปด้วยอย่างเต็มใจ



ระหว่างที่กำลังหยิบอาหารที่ตักใส่จานเรียบร้อยแล้วลงถาด ดวงตาคู่เรียวก็เหลือบเห็นที่เสื้อของคนตัวสูงมีสิ่งผิดปกติไป มือนุ่มเอื้อมมือไปแตะเพียงน้อยก่อนจะถามขึ้น



“ กระดุมของพี่หลุดนี่ ใส่ไปได้ยังไง วันนี้ก็ไปทำงานด้วยคนเขาไม่มองกันเหรอ” นนท์ทักตาใส..เพราะไม่อยากเชื่อว่าคนที่มักจะสมบูรณ์แบบทุกกระเบียดอย่างเขา จะละเลยเรื่องอย่างนี้ไปได้

“ วันนี้ยุ่งๆพี่เลยไม่ได้ดูช่างเถอะไว้พี่ว่างๆค่อยเย็บเอง”



“ ไว้ทานข้าวเสร็จพี่วางไว้นะ เดี๋ยวนนท์เย็บให้แค่นี้เอง สงสัยจะทำงานหนักมากจริงๆถึงได้ไม่สนใจอย่างนี้” คนหน้าสวยยิ้มให้เสนอความช่วยเหลือ



“ อืมช่วงนี้งานมันหนักจริงๆ เพราะปกใหม่เปลี่ยนไปแล้วได้สามฉบับตอนนี้กำลังรอผลรายงานยอดขายในรอบสองเดือน ไว้ถ้ามียอดขายเพิ่มขึ้นพี่จะซื้อของมาฝากแล้วกัน” ชายหนุ่มเอ่ยถึงสิ่งที่เขาเขียนรับปากนนท์ไว้หลังปก ในวันที่นักการตลาดหนุ่มหล่อยื่นข้อเสนอในการเปลี่ยนแปลงแนวทางของนิตยสาร



“ เหรอ ...แต่พี่อย่าเพิ่งซื้อล่ะให้นนท์คิดก่อนว่าอยากได้อะไรแล้วจะบอก”


“ มั่นใจจังเลยนะ ถ้ายอดไม่เข้าเป้าพี่จะมาเรียกเก็บกับนายแทน” เขาเอื้อมไปยกถาดอาหารแล้วเดินออกไปจากห้องครัวเป็นการหยุดบทสนทนา สองเพื่อนสนิทที่ยืนดูเหตุการณ์ต่างต้องรีบถอยกรูดทำเหมือนเพิ่งเดินมา


“ เอ้าพี่ต้นแล้วน้องนนท์ล่ะ” คุณนันเอ่ยทักโดยใช้คำแทนตัวเขา เช่นเดียวกับที่มารดาของต้นเรียก ชายหนุ่มที่ถือถาดอยู่ก้มศีรษะลงเล็กน้อย



“ สวัสดีครับน้านัน นนท์เขายังอยู่ในครัวอีก ผมไปที่โต๊ะอาหารก่อนนะ” ชายหนุ่มบอกเสร็จสรรพ ต่อหน้านนท์เขาไม่เคยเรียกชื่ออีกฝ่ายเลยสักครั้ง แต่ลับหลังก็เรียกได้สนิทใจ คุณนันและคุณแก้วรอดูจนแน่ใจว่าพี่ต้นเดินออกไปแล้วจริงๆ จึงได้หันมาซุบซิบกันต่อ..


“ เป็นไงล่ะ เชื่อฉันหรือยังฉันบอกแล้วว่ามีลุ้นมากขึ้นกว่าเดิมเป็นหลายเท่านะ” คุณแก้วพูดจาคิกคักแย้มยิ้มอย่างปรีดิ์เปรม ความหวังใกล้จะบรรลุผลแล้ว


“ แต่ฉันว่ายังไม่เหมือนคู่รักกัน เหมือนพี่น้องกันมากกว่า” หญิงที่สูงกว่าขัดขึ้น เพราะนางยังสัมผัสไม่ได้ถึงความรักที่แสดงออกมา อาจเพราะความใกล้ชิดที่ต้องเจอกันบ่อยครั้งเลยกลายเป็นความผูกพัน แต่คุณแก้วกลับไม่เห็นด้วยและตีแขนเพื่อนวัยเดียวกันเบาๆ


“ หล่อนนี่ มันเป็นสัญญาณที่ดีนะ ยังไงนนท์ก็ต้องอยู่บ้านนี่ไปอีกตั้งปีกว่า เวลาที่เหลือฉันมั่นใจว่าต้องพัฒนาความสัมพันธ์ไปอย่างก้าวกระโดด” นางมั่นใจย้ำความคิดนั้นอีกครั้ง มือนุ่มเอื้อมจับมือของเพื่อนสนิทไว้แน่น ..ยังไงต้องได้นนท์มาเป็นสะใภ้บ้านวรโชติแน่นอน นางมั่นใจ..


“ เธอคิดอย่างนั้นเหรอ เอาเถอะเอาไงเอากันอุตส่าห์สู้มาตั้งหลายยกแล้ว จะรอฟังผลที่ประกาศช้าหน่อยก็นับว่าคุ้ม ถ้าผลนั้นมันสร้างความสุขให้คนฟัง” คำของนางเศรษฐีนี ย่อมแสดงให้เห็นว่านางเองก็เตรียมใจกึ่งหนึ่งเผื่อไว้ เพราะสิ่งที่หวังอาจไม่ปรากฏเป็นรูปธรรมจับต้องได้ อาจไม่มีวันเดินทางมาถึง .


.
“ อย่าตัดทอนความเชื่อมั่นของตัวเองอย่างนั้นสิยัยนัน เชื่อฉันนะพี่ต้นเขาเป็นลูกฉัน ฉันเชื่อว่าเขาเองก็สนนนี่เหมือนกัน” นางมอบความเชื่อมั่น



“ อืม” ให้กาลเวลาเป็นเครื่องยืนยันคำของคุณแก้วก็แล้วกัน ผลสุดท้ายจะออกหัวหรือก้อยก็ไม่มีใครรู้ แต่หากผลออกมาไม่ตรงใจอาจทำให้ใครหลายคนต้องเศร้า โดยเฉพาะคนที่มีความเชื่อมั่นแรงกล้าอย่างประมุขบ้านวรโชติ...


“ เอ้าแม่ น้าแก้วมายืนทำอะไรกันตรงนี้ครับ ไม่ออกไปทานอาหารกันเหรอ นี่นนท์ก็ทำเสร็จแล้ว ไปทานกันดีกว่านะ” เสียงของชายหนุ่ม ..หนึ่งในหมากที่ถูกวางลงในแผนการทำลายความสับสนของสองเพื่อนสนิทลงไปได้ฉับพลัน ..



“ ไปกันสิจ๊ะ เดี๋ยวน้าไปหยิบแก้วน้ำในครัวก่อน นนท์กับแม่ไปที่โต๊ะได้เลย” คุณแก้วเอ่ยปากขอตัวไปหยิบแก้วน้ำภายในครัวก่อนเดินไปสมทบที่โต๊ะอาหาร


“ ครับ..ไปกันแม่ดูสิวันนี้นนท์ทำผัดคะน้าหมูกรอบของชอบของแม่ให้ด้วย แม่ต้องทานมากๆนะไม่ต้องกลัวจะทานไม่ได้หรอก ตอนนี้นนท์ได้รับการการันตีจากน้าแก้วแล้ว ต่อให้เรียนไม่จบก็ไม่ต้องกลัวอด เพราะยังไงก็มีวิชาทำอาหารติดตัวอยู่” ลูกชายหน้าใสรีบอวดพร้อมทั้งบอกให้มารดาดูอาหารที่เขาถืออยู่ ภายในใจคุณนันปลามปลื้มจนบรรยายออกมาได้ รู้สึกภูมิใจในตัวคนข้างกายอย่างมาก..

“ แม่จะทานเยอะๆเลย ทานให้หมดทุกอย่างที่ลูกทำ”



ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 13
«ตอบ #83 เมื่อ15-07-2009 23:57:38 »

พี่ต้นรู้ซะงั้นอ่ะ

nune

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 13
«ตอบ #84 เมื่อ16-07-2009 01:58:51 »

ยาวจุใจเลยค่ะ  สองตอนหลังนี้น่ารักอ่ะ   o13
พี่ต้นรู้แล้วจะทำไงต่อนะเนี่ย

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 13
«ตอบ #85 เมื่อ16-07-2009 19:38:42 »

 :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 13
«ตอบ #86 เมื่อ16-07-2009 20:09:22 »

พี่ต้นรู้แบบนี้แล้วจะทำไงต่อน่ะ ๆๆ
บอกรักนนท์ไปเลยยยยย หุหุ
 :L2: :L2:

LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 13
«ตอบ #87 เมื่อ16-07-2009 21:39:10 »

ตอน 14

ม่านหมอกแห่งราตรีเดินทางมาเพียงครู่ ร่างของนนท์ก็มาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของพี่ต้น.. มือเรียววางลงเคาะตรงบานประตู..

“ นนท์เอง...นนท์เข้าไปนะ” คนร่างบางในชุดนอนสีฟ้าอ่อนส่งเสียงให้เจ้าของห้องรับรู้.. ต้นที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยอนุญาตให้อีกฝ่ายก้าวเข้ามาในอาณาเขตของเขา


“ ไหนเสื้อล่ะนนท์มาเอาเสื้อ เออใช่สิน้าแก้วบอกว่าช่วงนี้เห็นพี่ยุ่งๆ เลยจะช่วยซักผ้าให้ เดี๋ยวนนท์เอาตะกร้าผ้าไปเลยนะ พี่ทำงานไปไม่ต้องห่วง” คนหน้าสวยบอกเสร็จสรรพ ก็เดินตรงไปหยิบตะกร้าเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว ปกติถ้าอยู่บ้านเขาก็จะกองไว้ซักทีเดียวในวันว่าง ส่วนถ้าอยู่คอนโดมิเนียมก็ส่งซักรีดตรงร้านใต้คอนโดฯ


“ อืม” ชายหนุ่มพยักหน้าดวงตายังจ้องหน้าจอไม่คลาย งานช่วงนี้รุมเร้าเขามากจริงๆ เพราะการเปลี่ยนแผนการตลาดใหม่เรื่องปก จึงทำให้เขาค่อนข้างวาดความหวังกับมันไว้มาก ผลกำลังจะรายงานมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และผลที่รายงานจะเป็นตัวตัดสินทิศทางของบริษัทต่อไปในอนาคต หากแผนการเปลี่ยนปกใช้ได้ผลก็จะวางโครงสร้างเพื่อพัฒนาต่อยอดความคิดให้ก้าวไกลกว่าเดิม เหมือนที่นนท์เคยบอกเมื่อวันก่อนนั่นแหละ เขาหวนคิดถึงวันนั้น


‘ ถ้าสมมติว่าปัญหาในตอนนี้แก้ได้แล้วจริงๆ พี่ก็อย่าชะล่าใจล่ะนะ’


‘ ทำไมเหรอ ไหนนายมั่นใจกับวิธีนี้มากไม่ใช่หรือไร หรือกลัวว่ามันจะไม่ได้ผลเลยบอกให้พี่เตรียมตัวรับปัญหาใหม่’ เขาบอกอย่างไม่เข้าใจ


‘ ใครว่าล่ะ เพราะนนท์มั่นใจต่างหากล่ะ นนท์เลยอยากบอกให้พี่เตรียมรับสถานการณ์ต่อไป รับรองว่าภายในครึ่งปีต้องมีนิตยสารอื่นปรับเปลี่ยนและเอาแนวความคิดของเราไปใช้ ก็เหมือนกับนิตยสารในสมัยก่อนๆนั่นแหละ เพราะเราไม่ระวังเลยทำให้คู่แข่งเพิ่มขึ้นมาราวกับดอกเห็ด แถมยอดขายจะดิ่งลงอีก การลงปกดารามาช่วยประกอบ นนท์ว่าคงใช้ได้ไม่นานอย่างมากก็ยื้อได้แค่หนึ่งปี จากนั้นเราต้องปรับเปลี่ยนอีกครั้งเพื่อให้เข้ายุค และต้องปรับไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหารูปแบบที่เหมาะกับยุคฝืดเคืองเช่นนี้..’


‘ ยังไงล่ะพี่ยังไม่เห็นทางเลย แค่นี้เราก็เดินมาไกลจากแบบเดิมค่อนข้างมากแล้วนะ ’


‘ นนท์ไม่ได้บอกให้เปลี่ยนไปอย่างนั้นสักหน่อย มันก็ต้องคงตัวตนของ your house my home ไว้เช่นเดิมนั้นแหละ แต่ลูกเล่นของปกอาจเปลี่ยนไปอีก จากที่เอาดารามาถ่ายคู่กับบ้านอย่างเดียว ก็อาจเอาดารานั้นมาใส่ชุดเหมือนถ่ายแฟชั่นออกแนวศิลปะหน่อย นนท์มั่นใจว่ายังไงใครก็ตามเราไม่ทันแน่ๆ คนเราต้องก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ น้าแก้วเคยบอกนนท์ว่าคนทำนิตยสารจะย่ำอยู่กับที่ไม่ได้ แต่การจะก้าวออกไปข้างหน้าก็อย่าก้าวเสียจนไกลเกินความสามารถ เพราะมันอาจทำให้สะดุดได้ง่ายๆ ต้องค่อยๆก้าวไปทีละก้าว เหมือนตอนนี้เราก้าวมาจากกรอบเดิมไปหนึ่งก้าวแล้ว ต่อไปเราก็ก้าวไปอีกอย่างที่นนท์บอก’ หลักการความคิดของคนคิ้วเรียวใช้ได้เลยทีเดียว มีหลักเหตุหลักผลประกอบกันจนทำให้เขาคิดคล้อยลอยตามไป


‘ ไว้รอผลที่จะออกมาก่อน แล้วพี่ค่อยคิดนะรอให้เราใช้แผนปกใหม่ไปสักครึ่งปีจากนั้นพี่จะลองเข้าที่ประชุมกองบรรณาธิกาดู ’


‘ ครับแล้วนนท์จะคอยดูโฉมใหม่ของนิตยสารอีกครั้งนะ นนท์เชื่อว่าพี่ต้องทำให้your house my home ก้าวไปได้ไกลอย่างที่วาดไว้แน่นอน ถึงตอนนั้นอย่าลืมแบ่งโบนัสให้นนท์ด้วยล่ะ ช่วงนี้นนท์เป็นคุณหนูตกอับเสียด้วย ’ คนหน้าสวยเย้าทีเล่นอยากให้ชายหนุ่มได้คลายความหนักอึ้งภายในใจ



“ ทำอะไรอยู่นนท์” มารดาที่เพิ่งอาบน้ำไปอีกรอบ เพราะความร้อนของอากาศเมืองไทยเดินกลับเข้ามาในห้องอย่างสงสัยที่เห็นลูกชายกำลังขะมักเขม้นทำงานบางอย่างอยู่


“ นนท์กำลังเย็บกระดุมเสื้ออยู่” คนหน้าหวานเงยหน้าเล็กน้อยตอบมารดา แล้วหันไปสอยเข็มขึ้นลงอย่างชำนาญ นางไม่อยากเชื่อเพราะแต่ก่อนแค่ฝนเข็มให้ลงรูยังต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง ภาพที่คล่องแคล่วรวดเร็วทำให้นางอดชื่นใจไม่น้อย

“ ยิ้มอะไรครับแม่”


“ เปล่าหรอก เดี๋ยวนี้นนท์ของแม่เปลี่ยนไปมากจริงๆ ทำอาหารก็อร่อย งานบ้านงานเรือนก็ดี แถมยังหล่อน่ารักขึ้นมากจนแม่จำไม่ได้ ไหนจะเรื่องผลการเรียนอีกล่ะดีขึ้นจนไม่อยากเชื่อว่า ลูกคนเก่าจหัวทึบจนแทบจะเรียกได้ว่าในสมองกลวงว่าง” คำกระทบกระเทียบแม้จะเอ่ยถึงชายหนุ่มหัวฟูในอดีต แต่นนท์ก็อดกระดากไม่ได้เพราะมันก็คือเขานั่นแหละ

“ แม่ก็พูดจนนนท์เสียเลยนะ”

“ ลูกชอบพี่ต้นเขาเหรอ” นางเอ่ยถามหยั่งเชิง นนท์ได้แต่ก้มหน้าทำงานในมือของตนต่อไม่กล้าจะพูดออกไปในความรู้สึกแท้จริงที่มีต่อเขา


“ ตอบแม่มาเถอะไม่ต้องเขิน แค่เห็นลูกนั่งเย็บกระดุมเสื้อให้เขา แถมยังยิ้มแย้มมีความสุขแม่ก็ดูออกแล้วว่าลูกชอบเขา แม่ก็แค่อยากจะย้ำความรู้สึกของตัวเองเท่านั้น”


“...” นนท์ข่มใจตัวเองเล็กน้อย ก่อนพยักหน้ายอมรับความจริง



“ แต่ก็นั้นแหละ ต่อให้นนท์ชอบเขาแต่มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ นนท์รู้สึกเหมือนตัวเองไขว่คว้าอยู่แค่ฝ่ายเดียวเท่านั้น อย่างดีเขาก็พูดคุยกับนนท์มากขึ้น แต่ความรู้สึกนนท์คิดว่าเขาคงเห็นนนท์ไม่ต่างจากน้องกิ่งหรอก”


นนท์เองก็ใช่ว่าจะมองไม่ออก.. เขาระบายความอัดอั้นออกมาเสียงแผ่ว ไม่ได้โกรธหรือเสียใจแต่มันดูราบๆนิ่งๆคล้ายกับชายหนุ่มหน้านิ่งเข้าไปทุกวัน นนท์ติดพฤติกรรมที่แสนจะไม่ชอบมาจนได้



“ โธ่ อย่าท้อสิลูกถ้าชอบเขาทำไมไม่ลองสู้อีกล่ะ ผลประกาศอาจไม่ใช่ลูกที่รับรางวัล แต่อย่างน้อยมันก็น่าจะดีกว่าถ้าลูกได้ลงแข่งขัน” มารดามอบกำลังใจให้นนท์อีกแรง กลายเป็นสามเสียงที่ช่วยเชียร์ให้เขาพิชิตใจพี่ต้น


“ แต่นนท์รู้สึกเหมือนนนท์เป็นฝ่ายจีบเขาก่อนยังไงยังงั้นแหละ”


“ โธ่อย่าคิดมากเลย น้าแก้วบอกแม่ว่าพี่ต้นเขาไม่เคยคุยกับคนอื่นมากเท่าลูก แถมยังเลิกวางท่าพูดคุยล้อเล่นกับลูกมากกว่าคนไหนเลยนะ” มารดาให้กำลังใจต่อ


“ ก็อย่างที่นนท์บอกเขาคงเห็นนนท์เป็นแค่น้องชายนั่นแหละ นนท์ไม่อยากคิดหรอก แม่บอกว่าเขาพูดได้มากขึ้น ล้อเล่นมากขึ้นแล้วเหรอ ถ้าเทียบกับคนอื่นเขาคงอยู่ห่างไกลคำว่าคนธรรมดามาก”



“ แล้วใครให้นนท์เอาพี่เขาไปเทียบกับคนอื่นล่ะ ทำไมไม่เทียบกับตัวพี่เขาเอง จากเมื่อก่อนที่ชอบวางหน้าตาย วางหน้าไม่พอใจใส่ลูกเดี๋ยวนี้เขาก็หายแล้วไม่ใช่เหรอ” นางหยิบยกตัวอย่างจากที่ฟังคุณแก้วเล่ามาอีกทอด เพราะไม่อยากให้ลูกชายร่างอ่อนต้องถอดใจยอมแพ้

“ จริงสิ ทำไมนนท์ต้องเอาเขาไปเทียบกับคนอื่นด้วย นนท์ควรเทียบกับตัวเขาเองสิ จริงอย่างที่แม่ว่าถ้าเทียบกับเมื่อก่อน เขาดีกับนนท์ขึ้นมาก ใช่แล้วๆ” รอยยิ้มกว้างๆปรากฏจากพ่อสติชหน้าหวาน การจะวัดพฤติกรรมของใครสักคน บางทีการเอาไปเทียบกับคนอื่นอาจทำไม่ได้ คนเราไม่ได้เหมือนกันเสียหมด ..จะวัดก็ควรเริ่มจากตัวเขาเอง..หาใช่เทียบกับสิ่งอื่น


“ ต้องอย่างนี้สินนท์อย่าคิดบั่นทอนกำลังใจ เพราะใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ปลุกเราให้สู้ ต่อให้ล้มสักกี่ครั้งแม้ร่างกายจะบอกว่าไปต่อไม่ไหว แต่เชื่อไหมว่าถ้าใจเราสู้เราก็จะชนะได้เหมือนอย่างที่บ้านเราเผชิญมาไงล่ะ ต้องล้มจนไม่เหลืออะไร แต่ตอนนี้เราก็ค่อยๆยืนขึ้นได้อีกครั้ง” นางยกเอาความเท็จมาช่วยเสริมอีกแรง แม้จะไม่ใช่ความจริงแต่มันก็ดูเป็นรูปธรรมที่สุด


ออฟไลน์ Chatcha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 13
«ตอบ #88 เมื่อ16-07-2009 21:45:47 »

สามทหารเสือช่วยกันหนุนน้องนนท์ใหญ่เลยนะ

LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ~PeRHaPS LoVe~ by MIRARATH ตอนที่ 13
«ตอบ #89 เมื่อ16-07-2009 21:55:25 »

การมาเยี่ยมเยียนลูกชายสุดที่รักของคุณนันจบสิ้นลง พร้อมทั้งความเศร้าที่เข้ามาเคลือบเร้นในใจน้องสติช.อีกครั้ง เขารู้สึกไม่ต่างจากครั้งก่อนๆที่ต้องจากมารดา แต่เพราะนนท์บอกเองว่าเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาจึงควบคุมอารมณ์ได้มากขึ้นและไม่ร้องไห้เสียใจอีกแล้ว นนท์สัญญาไว้แล้วว่าจะเข้มแข็ง เขาต้องทำให้ได้ ยิ่งมารดาอยู่ห่างไกลจะได้วางใจและทำงานโดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง


“ เป็นอะไรไปคุณหนู” ชายหนุ่มที่เพิ่งกลับจากทำงานกล่าวทักทาย ปกติคงจะยากเสียหรอกที่เขาจะทำอย่างนี้กับคนอื่น นนท์เป็นคนแรกที่ได้รับเกียรตินี้



“ กลับมาแล้วเหรอ วันนี้นนท์ทำไข่พะโล้ให้พี่ทานด้วยนะ ..นนท์สงสัยตั้งนานแล้วว่าพี่ชอบไข่พะโล้ แต่ทำไมไม่ชอบหมูพะโล้ละ” คนหน้าสวยไล่ความหม่นมองในดวงตาออกไป.แสร้งยิ้มและเปลี่ยนเรื่องพูดอย่างว่องไว..


“ ..ไม่รู้สิ รังเกียจมั้ง..เอานี่” ต้นตอบเหมือนไม่ถูกชะตากับคำว่า ‘หมู’ สักเท่าไหร่ ..ตอนท้ายประโยคก็เอ่ยหนึ่งคำที่ทำให้นนท์ต้องงง และยิ่งงงเข้าไปใหญ่เมื่อมือแกร่งส่งบางสิ่งมาอย่างมาตรงหน้าของนนท์ .. มือบางยื่นออกไปกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กกว่ากลางฝ่ามืออย่างสงสัย..นนท์ค่อยๆประคองสิ่งของภายในขึ้นมาอย่างถนอม


“ ว้าวสวยจังเลย” นนท์จ้องอมงสร้อยเงินที่ขดตัวอยู่ภายในกล่องที่ถืออย่างพึงใจ .ว่าแต่เขาเอามันมาให้นนท์ทำไมล่ะหรือสิ่งที่ต้นกำลังจะบอก..คือ..



“ พี่ซื้อสร้อยให้นนท์ทำไมกัน หรือว่ายอดขายเพิ่มขึ้นใช่ไหม พี่กำลังจะบอกว่าแนวคิดของนนท์ได้ผลใช่ไหมรีบบอกมาสิ” นนท์ลุ้นเสียงใสเอื้อมไปดึงมืออีกฝ่ายมาจับอย่างสุดลุ้น..



“ ใช่ ได้ผลดีมาก ดีจนไม่อยากเชื่อยอดขายเราไต่ระดับขึ้นได้ถึงสิบสองเปอร์เซนต์และดูแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอีก” เขานั่งลงพร้อมทั้งยื่นแฟ้มแจ้งยอดขายให้นนท์ดู มือเรียวรีบรับไปอ่านอย่างตื่นเต้น


“ ทำไมไม่ใส่ล่ะ นายชอบสติชไม่ใช่เหรอตอนขากลับ พี่เกิดไปเดินแถวๆสีลมมาก็เลยเหลือบเห็นสร้อยจี้คริสตัลสติชเลยซื้อมาฝาก” สงสัยเขาจะติดเชื้อโกหกมาจากมารดาเข้าแล้ว เขานะเหรอขับรถผ่านไปสีลม จริงๆจงใจไปต่างหากแถมสร้อยนี่ใช่จะมีขายทั่วไป เขาแอบไปสั่งทำมาให้นนท์โดยเฉพาะต่างหาก



“ ครับ” นนท์รับคำพร้อมทั้งใช้มือกวาดผมที่ยาวระคอออกเล็กน้อย ค่อยๆเอาสร้อยคาดไว้จากนั้นก็คลำหาตะขอเพื่อใส่ห่วงยึดสร้อยไว้


“ เป็นไงบ้าง สวยมากเลยนะขอบคุณมาก”



“ สวยดี พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ พรุ่งนี้วันเสาร์พี่ต้องไปประชุมเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการขายครั้งต่อไป” เขาละสายตาจากนนท์แล้วลุกขึ้นเดินออกไปอย่างเขินๆ ไม่รู้สิ..นานมากแล้วที่เขาไม่ได้ทำอะไรอย่างนี้ให้ใคร อยู่ๆภายในก็เรียกร้องให้เขาทำ.. ฝ่ายนนท์ก็หันไปสนใจสร้อยคอที่เพิ่งได้มาพักใหญ๋ก่อนจะขึ้นไปข้างบน..


ก่อนจะนอนคนหน้าสวยก็แวะเอาเสื้อที่เอามาเย็บกระดุมให้เมื่ออาทิตย์ก่อนมาส่ง พร้อมทั้งนำเสื้อผ้าที่ทั้งซักทั้งรีดมาให้เขาอีกด้วย


“ เสื้อนี้นนท์เย็บกระดุมให้แล้ว แล้วนี่น้าแก้วฝากนนท์มาให้เพราะเห็นว่าช่วงนี้พี่ทำงานหนักน้าเขาเลยทั้งซักทั้งรีดมาให้เรียบร้อยเลย” เขายื่นเสื้อผ้าที่ถือมาให้ต้น


“ขอบใจ”



“นนท์ไปนอนก่อนนะ พี่เองก็อย่าหักโหมให้มากล่ะยังไงทุกปัญหาก็มีทางแก้อยู่แล้ว สู้เขาล่ะ” ร่างบางโปรยยิ้มให้กำลังใจ อย่างมากก็ทำให้เขาได้เท่านี้แค่ทำให้เขาสุขใจก็น่าจะเพียงพอในระดับหนึ่งแล้ว


“ อืม”



“...” นนท์เดินกลับไปที่ห้องนอนของตนอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก ในความคิดก็รำพันความรู้สึกนานาด้วยใจที่ไม่เป็นสุข


‘ คนบ้าขอบใจบ้าบออะไรนี้ คนเขาอุตส่าห์ทำดีให้ยังมาวางหน้าตายไม่รับรู้อีก คนอย่างพี่นะค่อยดูสิสักวันนนท์จะเลิกสนใจคอยดูนะคอยดู ’



“ เป็นอะไรไปหรือเปล่านนนี่ น้าเห็นเดินใจลอยมาตั้งนานแล้วนะหรือว่าทะเลาะอะไรกับพี่เขาอีกหรือ” คุณแก้วที่เดินตามหลังว่าที่สะใภ้มาตั้งแต่ออกจากห้องพี่ต้น ปลุกชายหนุ่มให้ตื่นจากห้วงคิด นนท์เลยหันไปยิ้มกลบเกลื่อน



“ เปล่าหรอกครับ นนท์แค่เพลียๆแถมช่วงนี้ก็ใกล้จะสอบปลายภาคเทอมแรกแล้ว นนท์คิดว่าต้องขยันมากกว่าเดิมเสียแล้ว ไม่อย่างนั้นเกรดตกได้ขายหน้าอีก” นนท์ยกเรื่องเรียนมาอ้าง



“ เหรอ น้าว่าไม่ต้องห่วงหรอกนนท์ทำได้อยู่แล้ว การเรียนมันก็เป็นแค่ปัจจัยหนึ่งในชีวิตคนบางคนความรู้ท่วมหัวท่วมตัวแต่สุดท้ายก็ล้มเหลวมามากต่อมาก ควรเอาอะไรที่พอเหมาะพอดีกับเราถึงจะสมควร มนุษย์ที่สมบูรณ์พร้อมไปทุกอย่างใช่จะเป็นมนุษย์ที่มีความสุขนะ” นางวางมือที่ผ่านร้อนหนาวลงบนบ่าของนนท์เบาๆ อยากให้รู้ว่าถึงนนท์จะไม่ใช่ผู้ชายที่เพียบพร้อม แต่นางก็ยินดีที่จะรับเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านวรโชติหลังนี้..ส่วนหนึ่งในนามสกุล ว่าที่ลูกสะใภ้..


“ ครับนนท์จะจำไว้นะ แต่นนท์ก็คิดว่าก็ควรจะทำทุกอย่างให้ดีทั้งหมดนั้นแหละ เราจะได้ไม่เสียใจกับอดีตที่ผ่านมาไงล่ะ นนท์ไม่อยากให้ตัวเองเหลวไหลสมองทึบเหมือนเมื่อก่อน ตอนนั้นนนท์เข้าใจว่าเพราะนนท์ไม่เก่งจริงๆเลยไม่พยายาม แต่พอได้ลองดูเข้าแล้วถึงรู้ว่าทั้งหมดเป็นเพียงความคิดของนนท์เท่านั้น”

“ ดีมากจ้ะ ต้องอย่างนี้สินอนเถอะ เดี๋ยวน้าก็ไปนอนแล้ว”

“ ราตรีสวัสดิ์ครับ” เขาจับมือของคุณแก้วเล็กน้อย เดินไปส่งที่หน้าประตูห้อง แววตาอาทรของนางมีไว้เพื่อทอแก่ทุกคนที่นางรัก และดวงตาคู่นี้ก็พร้อมทอเพื่อนนนี่ด้วยเช่นกัน

“ ขอบคุณนะครับ” นนท์กล่าวเสียงแผ่วเมื่อร่างของนางลับตาไป ..


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด