[เรื่องเล่า] :+: กว่าจะรู้ว่ารัก :+: ภาค1
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องเล่า] :+: กว่าจะรู้ว่ารัก :+: ภาค1  (อ่าน 110688 ครั้ง)

ออฟไลน์ รอยยิ้มอาบยาพิษ

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
เกริ่นนำ
ปลายปี พ.ศ.2549
"คิดถึงเธอ...คนที่ดีที่สุด...
ถึงแม้ได้พูด ในวันที่มันสาย
ยังคงรักเธอ...เธอได้ยินฉันไหม...
อยู่แห่งไหน หัวใจมีแต่เธอ
...ได้ยินไหม...คิดถึงเธอ..."


เพลง เขียนถึงคนบนฟ้า จบลงไปอีก1รอบแล้ว ผมฟังเพลงนี้หลายต่อหลายครั้ง
แต่แทนที่ผมจะนึกถึงเพื่อนที่ส่งCDแผ่นนี้มาให้ ผมกลับนึกไปถึง เพื่อนที่แสนดี อีกคนหนึ่ง
เพื่อนที่กว่าผมจะรู้ว่าเค้าเป็นคนที่แสนดีซักแค่ไหน
ก็ไม่มีคนที่แสนดีคนนั้นอีกแล้ว มาถึงตอนนี้ ผมจะทำอะไรได้มากไปกว่า
เขียนถึงเค้า "เขียนถึงคนบนฟ้า"
เพลงที่ผมจะมอบให้เค้า ให้เค้าคนเดียวตลอดไป
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-02-2007 17:38:07 โดย :+:So Much In Love:+: »

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #1 เมื่อ30-01-2007 16:13:15 »

หุหุ ต่อเลยค่ะ รออ่านอยู่  :yeb:

ออฟไลน์ รอยยิ้มอาบยาพิษ

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
Re: :+: กว่าจะรู้ว่ารัก :+: ภาค1
«ตอบ #2 เมื่อ30-01-2007 17:03:04 »

ตอนที่1
ปี พ.ศ.2542 มหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยบริการบางนา วันเปิดเทอม

“เฮ้ย....นิว แกมาถึงนานรึยังวะ"
เพื่อนของผมรีบตะโกนทัก ทันทีที่ผมเดินออกมาจากร้านขายหนังสือหน้ามหาวิทยาลัย
"เออ...ก็นานจนได้หนังสือมาเพียบแล้ว"
ผมยื่นถุงหนังสือในมือชูให้เพื่อนดู แล้วรีบชวนไปทานข้าวกันที่โรงอาหาร
"ในคณะนิติของเราเนี่ย มีเพื่อนมาเรียนเยอะเหมือนกันเนาะ"
เพื่อนผมก็ชวนคุยแก้เก้อในฐานะที่มันมาช้ากว่าเวลานัดมาก
"เยอะเตี่ยแกสิไอ้ภูมิ ทั้งกลุ่มก็มีแค่แกกะเราเนี่ยที่มาลงเรียนนิติ"
ผมก็ตะโกนปาวๆใส่เพื่อนที่ชื่อ ภูมิ เป็นการเบรกมัน
"ก็คนอื่นมันอยากเรียนคณะอื่นนี่หว่า มัวแต่ยอกย้อน ก็ไหนบอกว่าหิวไง เดินบ่นอยู่ได้"
ภูมิพูดแล้วลากให้ผมเดินเร็วขึ้น


ในโรงอาหาร มหาวิทยาลัยรามคำแหง บางนา
หลังจากผมวางกระเป๋าและถุงหนังสือลงที่โต๊ะแล้วก็ฝากให้ ภูมิ ช่วยเฝ้าของไว้ก่อน ผมก็เดินไปซื้อข้าวกับน้ำดื่ม
ที่หน้าร้านขายข้าวแกง ผมกำลังยืนรอช้อนส้อม ที่แม่ค้าเค้าบอกว่ากำลังล้างอยู่ ผมก็ตักน้ำปลาราดข้าวรอพลางๆ

"โทษครับ ขอช้อนหน่อยครับ"  เสียงผู้ชายคนนึงดังขึ้นข้างๆตัวผม
ผมก็คิดในใจว่า 'บ้าเปล่าวะ! แม่ค้าเพิ่งบอกให้รอตะกี้'
"รอก่อนๆ ยังล้างไม่เสร็จเลย ไปเอาร้านอื่นก่อนไป"  แม่ค้าทำเสียงรำคาญใส่ เฮ้อ...ไปเอาที่ร้านอื่นก็ได้

ผมก็เลยเดินออกจากร้านที่ซื้อข้าวเมื่อครู่ ไปหาช้อนส้อมร้านอื่น แต่คิดดูอีกทีไปซื้อน้ำผลไม้ปั่นก่อนดีกว่า
แล้วผมก็เดินไปที่โต๊ะป่านนี้ ภูมิ ก็คงหิวแย่แล้วเหมือนกัน เพราะต้องรอผมที่เสียเวลารอช้อนส้อมอยู่หน้าร้าน
ขายข้าวแกงตั้งนาน กลับมาถึงที่โต๊ะปรากฏว่า ภูมิ กะลังนั่งมองจานข้าวอยู่ ด้วยสีหน้าเซ็งๆ ผมก็ขอโทษขอโพย
ที่ให้มันรอช้า คงหิวแย่เลยเนาะ ที่ไหนได้ มันบอกว่ามันไม่ได้รอผมหรอก แต่มันเซ็งที่ไปซื้อข้าวแล้วโดนตัดหน้า
มีคนหยิบช้อนส้อมไปก่อนมันทั้งที่นายนั่นก็ไม่ได้ซื้อข้าวที่ร้านเดียวกับเพื่อนผมซักหน่อย ผมก็เลยบอกว่าผมก็ไม่มี
ช้อนส้อมเหมือนกัน งั้นผมไปซื้อน้ำให้ละกัน ให้ภูมินั่งรอแป๊บนึงแล้วผมจะไปเอาช้อนส้อมมาให้ด้วย
แต่ภูมิก็เหมือนสำนึกได้ว่ามันเป็นฝ่ายมาช้าเอง มันเลยลุกไปซื้อเอง แล้วก็บอกว่าจะเอาช้อนส้อมมาเผื่อ
ภูมิ ลุกไปซื้อน้ำได้แป๊บเดียวผมก็เห็นนายทึ่มที่ไปขอช้อนส้อมแม่ค้าเมื่อตะกี้เดินมาพร้อมกับถือจานข้าว
และแก้วน้ำของเค้ามาด้วย เอ...นายนั่นมีช้อนส้อมนี่นา แสดงว่าเค้าล้างเสร็จแล้วล่ะสิ รู้งี้ผมรอดีกว่า

"อ่ะ...เราเอามาให้ ยังไม่มีช้อนส้อมใช่ป่ะ"
ผมหันไปตามเสียงที่เรียกอยู่ข้างๆตัว หลังจากที่กำลังหันไปอีกทางมองหาภูมิ
"เอ้า! นายเองเหรอ นี่ยืนรอจนแม่ค้าใจอ่อนให้ช้อนมาเลยรึไง"
ผมถามนายนั่น...นายทึ่มคนเดิมที่เดินมาทางนี้ตะกี้นั่นล่ะ
"เปล่า เราไปเอามาจากร้านอื่น นี่เหลือแค่2คู่เท่านั้นนะ เลยหยิบมาเผื่อคิดว่านายคงยังไม่มีช้อนส้อม"
เค้าพูดแล้วยื่นให้ ตอนนั้นผมก็อดคิดไม่ได้ว่า รึจะเป็นนายทึ่มคนนี้ที่ ภูมิ เล่าว่าเป็นคนตัดหน้าแย่งช้อนส้อมไปก่อน
"ขอบคุณ นี่เพื่อนเราก็กำลังไปเอามาให้เหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรมี2อันดีกว่าไม่มีเลย 555"
ผมยิ้มและรับช้อนส้อมเอาไว้ คิดอยู่เหมือนกันว่าการมีเพื่อนใหม่ก็คงจะดีเหมือนกันแฮะ
"เราไปก่อนนะ เออ...เรียนคณะอะไรล่ะ"
นายทึ่ม ถามผมแต่สายตามองไปอีกทางหนึ่งเพื่อหาโต๊ะนั่งกินข้าวซึ่งเริ่มเต็มแล้ว
"นิติฯ แล้วนายล่ะ"
ผมถามพอเป็นพิธี แต่แทนที่นายทึ่มจะตอบผมซะก่อน กลับเดินตัวปลิวออกไปเฉยเลย ไร้มารยาทชะมัด
เพื่อนผมกลับมาที่โต๊ะ อีกครั้งพร้อมกับช้อนส้อมและเอามาเผื่อผมด้วย แต่เมื่อเห็นว่าผมมีช้อนส้อมอยู่แล้ว
ก็แซวว่าไปฉกของใครมาได้ล่ะ ผมก็บอกว่าไม่รู้ใครเหมือนกันแต่ซื้อข้าวร้านเดียวกัน เดินผ่านมาก็เลยแวะเอามาให้
ภูมิ ก็เฉยๆก้มหน้าก้มตาตักข้าวใส่ปาก ผมก็รีบกินเหมือนกันเพราะจะถึงเวลาเรียนวิชาแรกของวันเปิดเทอมแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2007 16:13:00 โดย :+:So Much In Love:+: »

No_ProMises

  • บุคคลทั่วไป
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #3 เมื่อ30-01-2007 17:12:27 »

มาต่อเร๊วๆ นะค๊าบบบ

น่าหนุกเนอะๆๆ เอิ้กๆๆๆ

luvdisc

  • บุคคลทั่วไป
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #4 เมื่อ30-01-2007 17:51:00 »

มาต่อเร็ว ๆ นะให้ว่อง ๆ เอามาลงเยอะ ๆ ไม่งั้นเอ็งตาย

ออฟไลน์ รอยยิ้มอาบยาพิษ

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
Re: :+: กว่าจะรู้ว่ารัก :+: ภาค1
«ตอบ #5 เมื่อ30-01-2007 18:08:09 »

ตอนที่2
ที่ห้องเรียนวิชาแรก TH101มหาวิทยาลัยรามคำแหง บางนา

ผม กับ ภูมิ เดินเข้ามาจับจองที่นั่งซึ่งเป็นวิชาพื้นฐานของหลายคณะ ซึ่งก็จะมีเพื่อนเก่าๆสมัยมัธยมที่พากันมาเรียน
ต่อรามด้วยกัน แต่แยกย้ายกันไปเรียนคณะต่างๆ เช่น มนุษยศาสตร์ รัฐศาสตร์ ก็มาเจอกันที่ห้องเรียนในวิชาแรก
ของวันเปิดเทอมด้วย เพื่อนที่มาถึงห้องเรียนก่อนก็จองที่นั่งไว้ให้แล้ว ซึ่งตลอดชั่วโมงแรกที่เรียนนั้น ผมและเพื่อนๆ
ก็นั่งหัวเราะกันไปทั้งคาบ คงเพราะการสอนที่สนุกและ อาจเป็นเพราะว่า กลุ่มของเราเป็นกลุ่มที่มีคนเยอะด้วยมั้ง

ก่อนที่จะเลิกเรียนอาจารย์บอกให้ห้องของเราส่งรายชื่อมาให้อาจารย์ด้วย เพราะคราวหน้าจะได้เช็คดูว่าจะมี
นักศึกษาคนเดิมๆมาเข้าเรียนหรือเปล่า อาจารย์บอกว่า วันแรกๆก็มาเรียนเยอะแบบนี้แหล่ะ แต่พอชั่วโมงต่อไป
ก็เริ่มหายหน้ากันไปแล้ว อาจารย์ส่งกระดาษ A4 มาให้ผม เดินไปขอรายชื่อเพื่อนๆในห้อง ให้เขียนชื่อ-นามสกุล
รหัสนักศึกษา คณะ สาขา ลงไป ผมก็เขียนแล้วยื่นให้เพื่อนที่นั่งถัดไปจากผมแต่อาจารย์ก็บอกว่า
"ครูให้เดินไปขอค่ะ ไม่ใช่ส่งต่อเป็นจดหมายลูกโซ่"  แป่ว!!
เพื่อนๆหัวเราะกันครืนเลย แต่นั่นก็ทำให้ผมกลายเป็นที่รู้จักของเพื่อนๆร่วมห้องเรียนตั้งแต่วันแรก

"ชื่อ นรัตถกร เหรอ"
คนที่ก้มหน้าก้มตาเขียนอยู่ ถามขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
"รู้ได้ไง"
ผมงงจริงๆนะ ก็เลยถามไปอย่างนั้น มาคิดทีหลังสู้บอกว่าไม่ใช่จะดีกว่า ตอบแบบนี้เท่ากับยอมรับชื่อตัวเองน่ะสิ
"ก็เห็นเป็นชื่อแรก เมื่อกี้อาจารย์ให้นายเขียนก่อนนี่นา ก็เดาดูไง"
นายทึ่ม...นายทึ่มจริงๆด้วย เค้าตอบขณะยื่นกระดาษให้

ผมไม่ได้ต่อปากต่อคำอะไรกะนายทึ่มนั่น เพราะอาจารย์กำลังรอรายชื่ออยู่ และนายทึ่ม ก็เป็นคนสุดท้ายแล้ว
ที่ต้องลงชื่อ ผมรีบเดินกลับมาด้านหน้าห้อง ยื่นกระดาษรายชื่อให้อาจารย์ ก่อนที่ตัวผมเองจะนั่งลงแล้วรอฟัง
อาจารย์ขานชื่อทบทวนซ้ำ อาจารย์บอกว่าจะเรียกชื่อ แล้วให้ยกมือ ซึ่งก็ไล่รายชื่อไปเรื่อยๆ ผมก็นึกว่าจะเอาคืน
ให้ได้เลย อยากมาอวดเก่งเดาชื่อผม ผมก็รอสิ ว่าคนสุดท้ายที่ถูกเรียกน่ะ ชื่ออะไร ก็ไล่รายชื่อไป แต่ประทานโทษ!
วันนั้นทั้งห้องนั่งเรียนกัน40คน ผมรอจนง่วง ระหว่างเรียกชื่อ อาจารย์ก็ชวนเพื่อนๆคุยไปด้วย เช่น ถามภูมิลำเนา
โรงเรียนเก่า ผมก็เลยแทบจะไม่ทันได้ตั้งตัวว่าตอนนี้อาจารย์เรียกชื่อคนที่เท่าไหร่แล้ว
จนกระทั่งได้ยินเสียงอาจารย์ บอกว่า "ครบแล้วนะคะ หวังว่าครั้งหน้าจะเจอพวกคุณอีก"
อ้าว...แล้วนายทึ่มนั่นชื่ออะไรล่ะเนี่ย? ผมได้สติก็ช้าไปแล้วเพราะอาจารย์และเพื่อนๆก็พากันออกจากห้องไปแล้ว
รวมทั้งนายทึ่มจอมสอดรู้สอดเห็นนั่นด้วย เจ็บใจนัก ปล่อยให้มารู้เรื่องของเราตั้ง2อย่างแล้ว
แต่ผมสิยังไม่รู้จักนายนั่นเลย คนอะไรน่ะ มาถามว่าเราอยู่คณะอะไร มาอวดเก่งเดาชื่อเรา
เฮ้อ...ช่างเหอะ คราวหน้าอาจไม่เจอกันแล้วก็ได้อย่าสนใจเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2007 16:14:11 โดย :+:So Much In Love:+: »

No_ProMises

  • บุคคลทั่วไป
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #6 เมื่อ30-01-2007 18:31:21 »

มาลงตอนต่อไปเร๊วๆ นะค๊าบบบ

เอิ้กๆๆ

ลงทีล่ะนิดมันจะขาดจ๊ายยย เอิ้กๆๆๆ

มาลงไวๆ นะคับนิว ^^

helmet

  • บุคคลทั่วไป
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #7 เมื่อ30-01-2007 19:13:14 »

ผมจะลองไปอ่านดูนะครับ พี่นิว

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #8 เมื่อ30-01-2007 19:34:58 »

หุหุ แค่เริ่มเรื่องสนุกซะแล้ว  :kikkik:  :kikkik:
รออ่านอยู่นา  :yeb:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #9 เมื่อ30-01-2007 19:58:59 »

เห็นว่าจะมาต่ออีกมะช่ายเหรอ  ไม่รอละ  เม้นต์เลยแล้วกัน อิอิ  :angellaugh2:

นายทึ่มนั่นกับนิวเริ่มสนใจกันแล้วละสิ  รออ่านต่อนะ  :yeb:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
« ตอบ #9 เมื่อ: 30-01-2007 19:58:59 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






abcd

  • บุคคลทั่วไป
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #10 เมื่อ31-01-2007 03:02:44 »

นายทึ่มหรอออ  :laugh:  เข้าใจตั้งชื่อให้นะ แต่คงจาทึ่มไม่จริงเพราะว่าแอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องของนิวตั้งฉองอย่างแย้วอ่ะ  :interest:



อาวเพลง"เขียนถึงคนบนฟ้า"มาลงประกอบเรื่องด้วยจิ จาได้สื่อถึงอารมณ์ของตัวเรื่องยิ่งๆขึ้น

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #11 เมื่อ31-01-2007 03:14:02 »

ตามอ่านด้วยคนครับ
ว่าแต่ชื่อเรื่องเขียนถึงคนบนฟ้า นี่คงไม่มีการลาจากเกิดขึ้นนะครับ
ง่ะ กลัวทำใจไม่ได้
 :yeb:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #12 เมื่อ31-01-2007 08:55:54 »



ชื่อเหมือนเพื่อนเจ้สมัยประถมเลย

"ไอ่ทึ่ม" เจ้เรียกมันเพราะมันชอบเดินทำหน้าทึ่มๆ ตามเจ้ไปนั้นไปนี่

แต่มันก็หล่อนะ  หล่อแบบทึ่มๆ

และเจ้ก้รักมันด้วย  รักแบบเพื่อนอะ  รักในความทึ่มของมัน

กะว่าเรื่องหน้าเจ้จะให้มันเป็นพระเอกเสียหน่อย

คุณน้องมาปาดหน้าเค้กเอาชื่อทึ่มไปใช้แระ

งั้นเอาหัวใจทึ่มมาให้เจ้แทนะเคอะ อิอิ  :haun6:

ออฟไลน์ รอยยิ้มอาบยาพิษ

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
Re: :+: กว่าจะรู้ว่ารัก :+: ภาค1
«ตอบ #13 เมื่อ31-01-2007 12:02:04 »

ตอนที่3
เปิดเทอมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดเทอม ดังนั้นการเรียนของผมจึงเต็มตลอดทั้งวัน หลังจากวิชาแรกจบลง ผมกับเพื่อน
ทั้งกลุ่มก็ยกขบวนกันไปที่อาคารชั้นเดียวซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่ง ก็ต้องเดินลัดเลาะจากตึกเดิมไปที่ตึกเรียนในวิชาที่2
ซึ่งพวกเรากำลังจะไปเข้าเรียนวิชา EN101 เพื่อนของผมส่วนใหญ่เก่งภาษากัน
เนื่องจากพวกเราจบมาจากโรงเรียนชายล้วนที่มีหลักสูตร  "ศิลป์-ฝรั่งเศส"  แต่ก็ใช่ว่าเราจะเก่งกันทั้งกลุ่ม
เพื่อนคนที่ไม่เก่งก็เลยบอกว่าขอไปนั่งหลังห้อง กลัวว่าถ้าเสนอหน้าให้อาจารย์เห็น จะเป็นที่โปรดปรานและ
อาจจะถูกเรียกทดสอบภาษาอังกฤษเบื้องต้นก็เป็นได้ แต่เสียงส่วนใหญ่ก็ยังเลือกที่นั่งด้านหน้าอยู่ดี

เพื่อนของผมคนที่เสนอความเห็นว่าอยากเป็นเด็กหลังห้องสำหรับวิชานี้ ก็เลยมาบอกผมซึ่งค่อนข้างใจง่าย
เอ๊ย!ไม่ใช่ครับ ซึ่งเป็นคนใจอ่อนกับเพื่อนกับฝูงว่าให้ไปนั่งเป็นเพื่อนมันหน่อย ผมก็เห็นว่าท่าทางเพื่อนคนอื่น
คงไม่ยอมย้ายมานั่งกับมันด้วยแน่ๆ ผมก็เลยตามใจเพื่อน(อีกแล้ว) แต่ผมก็บอกว่านั่งแค่แถวกลางๆก็พอนะ
คือว่าผมสายตาสั้นแล้วตอนนั้นก็ยังใส่คอนแทคเลนส์ไม่เป็นด้วย ก็เดินเป็นเด็กเรียนแว่นหนากันไป
(จริงๆแล้วสายตาสั้นเพราะดูละครไม่ใช่อ่านหนังสือหรอกนะ)

อาจารย์เข้าสอนเร็วและพูดเร็วมากๆ เพื่อนผมออกแนวตั้งตัวไม่ติด ตอนที่อาจารย์ให้ลุกขึ้นแนะนำตัวกัน
เป็นภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้นเมื่ออาจารย์เห็นท่าทีเอ๋อๆของเพื่อนผม ก็เลยบอกให้ผ่านไปก่อน แล้วให้ผม
ซึ่งนั่งถัดมาลุกขึ้นแนะนำตัว ผมก็แนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ (อย่างง่ายและอย่างย่อที่สุด555)
อาจารย์ถามว่าเรียนคณะอะไร ผมก็ตอบว่าไปว่าเรียนคณะนิติศาสตร์ครับ อาจารย์เลยแนะนำผมว่า
น่าจะลงวิชาภาษาฝรั่งเศสมากกว่าภาษาอังกฤษนะเพราะว่าวิชาฝรั่งเศสแยกเพศวัตถุ สิ่งของ เป็นชาย-หญิง
ซึ่งเป็นภาษาสากลทางกฎหมายด้วย ผมก็เลยบอกว่าเคยเรียนมาแล้วตอนสมัยม.ปลายอาจารย์เลยให้พูดให้ฟัง

"Je m'apple narattakorn"  นั่นคือประโยคตัวอย่างของผม
และเมื่อผมพูดจบอาจารย์ถามว่า "แค่นี้เหรอลูก 3ปีแค่นี้ใช่มั้ย งั้นเรียนภาษาอังกฤษต่อไป"
เพื่อนก็ฮาสิครับ ตอนนั้นใจผมคิดว่าไอ้คนที่มันเก่งๆ อาจารย์ก็ดันไม่ไปถามเรื่องฝรั่งเศสไม่ให้มันพูด
ผมน่ะแค่จบมาได้ก็นับเป็นวาสนาแล้วครับพี่น้องครับแต่ถึงยังงั้นผมก็ไม่ได้รู้สึกอายหรือเคืองหรอกนะ
ก็ยังรู้สึกขำไปด้วยเพราะอาจารย์เป็นคนสนุกสนาน สอนแบบไม่เครียดและประชดแบบน่ารักๆไม่ได้ว่ารุนแรง
จนกระทั่งอาจารย์บอกให้คนต่อไปลุกขึ้นแนะนำตัว ก็ได้ยินเสียงถามอาจารย์กลับมาว่า

"ภาษาอังกฤษหรือฝรั่งเศสครับอาจารย์"  ผมหันไปดูเพราะรู้สึกหมั่นไส้
...หึหึหึ... นายทึ่มคนเดิม มันจะจองล้างจองผลาญผมไปถึงไหนกันเนี่ย แทนที่จะนั่งแถวเดียวกันก็ไม่นั่งหรอก
(ผมจะได้รู้ว่ามีนายทึ่มสะกดรอยตาม) นู่น....ครับ นั่งอยู่แถวหลังของผม แต่ถัดจากผมซึ่งเป็นโต๊ะเลคเชอร์ตัว
สุดท้าย พอเค้าเห็นผมหันไปมองก็หันมายิ้มให้ ผมว่าเค้ายิ้มแบบสุภาพนะแต่ก็อดหมั่นไส้ไม่ได้อยู่ดี

"ภาษอังกฤษเถอะค่ะ ภาษาฝรั่งเศสคุณเก็บไปพูดกับเพื่อนแค่2คนก็แล้วกัน"
เพื่อนทั้งห้องก็ฮาอีก สมน้ำหน้า อยากทำเป็นอวดเก่งดีนัก
หลังจากนั้น...นายทึ่มก็แนะนำตัวให้อาจารย์ได้รู้จักเป็นภาษอังกฤษ ผมว่าผมได้ยินเค้าพูดช้าและชัดว่า
"I'm Tayavat"  ใช่แล้ว...นายทึ่ม นายทยาวัติ ผมรีบจำไว้ทันทีเลยล่ะ ถือว่าหายกัน รู้เขารู้เรารบร้อยชนะร้อย
หลังจากทานข้าวเที่ยงกับเพื่อนๆแล้ว เพื่อนของผมที่อยู่คณะอื่นบอกว่าจะไม่เข้าเรียนวิชาคาบบ่าย
ก็เลยนัดแนะกันว่าตอนบ่ายจะไม่เข้าเรียน จะไปเดินสยาม ทำให้แต่ละคนรีบทานข้าวกันอย่างรวดเร็ว
เพราะกว่าจะออกจากบางนาเดินทางไปถึงสยามก็ใช้เวลานานมากอยู่แล้ว แต่ผมไม่ไปกับเพื่อน
เพราะนัดกับผู้หญิงอีก2คนเป็นเพื่อนต่างโรงเรียนเป็นว่าจะกลับพร้อมกันตอนเลิกเรียน
เนื่องจากเรากลับไปทางลาดพร้าวเหมือนกันทั้ง3คน ดังนั้น วิชาในคาบบ่ายผมต้องนั่งเรียนอยู่คนเดียว
เพราะไอ้ภูมิเพื่อนที่เรียนคณะเดียวกันก็โดดไปเดินสยามด้วย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2007 16:14:56 โดย :+:So Much In Love:+: »

luvdisc

  • บุคคลทั่วไป
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #14 เมื่อ31-01-2007 12:17:03 »

แหม.....พ่อแง่แม่งอนกันสุดริด สมกะที่เป็นลูกสาวกำนันแก่นเซี้ยวจริง ๆ หึหึหึ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #15 เมื่อ31-01-2007 12:41:49 »

หุหุ รู้จักชื่อแล้ว  :kikkik:

No_ProMises

  • บุคคลทั่วไป
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #16 เมื่อ31-01-2007 12:54:51 »

นายทยาวัติ นี่เอง เอิ้กๆๆ

หนุกแน่ๆ มาต่อไวๆ นะค๊าบบ


abcd

  • บุคคลทั่วไป
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #17 เมื่อ31-01-2007 12:59:07 »

 :laugh:  จำชื่อไว้ให้ขึ้นใจเรยนะจ๊ะนิว  :kikkik:

ออฟไลน์ รอยยิ้มอาบยาพิษ

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
Re: :+: กว่าจะรู้ว่ารัก :+: ภาค1
«ตอบ #18 เมื่อ31-01-2007 13:59:21 »

ตอนที่4
เพื่อนใหม่ คือ นายทึ่ม

เนื่องจากเพื่อนๆกลับไปกันหมดแล้ว และเพื่อนผู้หญิงอีก2คนก็ยังเรียนอยู่ ผมก็เลยไม่มีเพื่อนอยู่ด้วยซักคน
เริ่มเหงาๆเหมือนกันนะ ยังคิดอยู่เลยว่าดีนะเนี่ยที่ตอนอยู่ในแก๊ง พวกผมไม่ไปกวนประสาทใครเค้าเข้า ไม่อย่างนั้น
ตอนอยู่เดี่ยวๆอาจโดนเขม่นก็ได้ จะว่าไปก็คิดถึงนายทึ่มนั่นเหมือนกัน ดูท่าทางจะไม่มีคนคบแฮะ ไม่รู้ว่าไม่มีเพื่อน
มาเรียนด้วย หรือเปล่า แต่เค้าก็คงเหงาๆเหมือนผมตอนที่เพื่อนทิ้งไปเดินสยามกันหมดแบบเวลานี้ก็เป็นได้
ผมเดินไปนั่งอ่านหนังสือที่ซื้อมาจากร้านหน้ามหหาวิทยาลัยเมื่อเช้านี้ ผมเริ่มเปิดอ่านไปได้ซักพักหนึ่ง
ก็มีคนมานั่งฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ ผมเงยหน้าจากหนังสือ เลื่อนแว่นตาให้กระชับนิดหน่อย ก็เห็นถนัดเลยว่าเป็น
นายทึ่ม.... อืม... นาย ทยาวัติ ตัวจองล้างจองผลาญผมตั้งแต่เช้านี่เอง

"ขอโทษครับ ขอยืมปากกาหน่อย"
นายทยาวัติ ยิ้มให้หลังจากขอยืมปากกาจากผม
"มาเรียนทำไมไม่พกปากกาล่ะ"
ผมต่อว่าแล้วยื่นปากกาให้
จากนั้นก็พูดต่อไปหลังจากนึกได้ว่าเค้าก็มีปากกานี่นา  "แล้วที่เขียนเมื่อเช้าล่ะหายเหรอ"
"อืม...ทำหายตอนไปกินข้าว เหน็บไว้ที่กระเป๋าเสื้อไม่รู้หล่นตอนไหน"
นายทยาวัติ อธิบายซะยืดยาวแล้วคืนปากกาให้ผม
"เอ้า...คืนมาตอนนี้จะเอาปากกาที่ไหนใช้ล่ะ"
ผมถามเพราะสงสัย หรือว่าจะโดดเรียนเหมือนเพื่อนผมซะล่ะมั้ง
"ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวเราจะเดินไปซื้อก่อนเข้าเรียน"
เค้าตอบแล้วยิ้มสุภาพ(อีกแล้ว) แต่อยากบอกเค้าว่า ไม่ได้เป็นห่วงโว้ย สงสัยตะหากเล่านายทึ่ม
"ไม่ต้องหรอก เอาไปใช้ก็ได้ เราพกมาเยอะ"
ทำเป็นโชว์powรวยซื้อใหม่ เหอ เหอ เหอ ผมก็โชว์powน้ำใจให้เห็นๆกันไป

"ขอบคุณครับ"
พูดจบแล้วก็เปิดกระเป๋าแล้วเอาปากกาใส่ลงไป ท่าทางรีบเก็บน่าดู
สงสัยไม่อยากเสียตังซื้อใหม่ล่ะสิ ไอ้งกเอ้ย....
"เรียนคณะอะไรเหรอ"
ผมเป็นฝ่ายถามมั่ง เพราะเค้ารู้จักผมหลายเรื่องแล้วแต่ผมยังไม่รู้จักอะไรเลยนอกจากชื่อของนายทึ่ม
"นิติศาสตร์เหมือนนิว"
สิ้นเสียงตอบ ผมก็ชะงักไปเลย 1.มันเรียนคณะเดียวกับผมเหรอเนี่ย 2.มันรู้ชื่อเล่นผมได้ยังไง
แต่เค้าก็คงดูสีหน้าที่สงสัยๆของผมออกมั้งเลยพูดต่อไปว่า...
"ชื่อนิวใช่ป่ะครับ เราเห็นเพื่อนคนอื่นเรียก เราขอเรียกแบบนี้นะ ดูสนิทกันดีอ่ะ"
"เอ้อ... เราชื่อเทคนะ แล้วเพื่อนที่มาเป็นกลุ่มล่ะไปไหนหมดแล้ว" นายทึ่มรีบแนะนำตัวอีกที
"ไปสยาม"  ผมตอบไปแค่นั้น
และเริ่มคิดว่า นายเนี่ยท่าทางจะไม่ได้ทึ่มเหมือนที่คิดไว้ซะแล้วสิ ช่างสู่รู้ไปซะทุกเรื่อง
"ทำไมมีเพื่อนเร็วจัง หรือว่าให้ปากกาเค้าคนละอันล่ะ"
เทค ถามผมอย่างต่อเนื่องแล้วก็ยิ้ม แต่คราวนี้มันยิ้มกวนผมว่าผมเห็นสีหน้า กวนประสาทนั้นนะ
"เปล่า เพื่อนตั้งแต่มัธยมน่ะ เอนท์ไม่ติดยกชั้นเลย ก็เลยมาเรียนที่นี่ไง" ผมก็ตอบไปงั้นๆ
"เก่งฝรั่งเศส ไม่น่าจะเอนท์ไม่ติดนะ"
โอ้ว......สาบาน ผมสาบานได้ว่าแววตาและสีหน้าของ นายเทค มันกวนประสาทจริงๆครับท่านผู้อ่าน
"อ๋อ...ที่เราพูดตะกี้น่ะเหรอ ก็พูดได้แค่นั้นไง 3ปีได้แค่นั้น เก่งมั้ยล่ะ"
ผมตอบประชดไปซะเลย
"ขอโทษครับ เราพูดเล่น โกรธรึเปล่า"
เอ้า....เปลี่ยนอารมณ์เร็วชะมัดเลย ตอนนี้สีหน้ามันสลดๆชอบกลแฮะ
"เปล่าๆ เราไม่ใช่คนที่โกรธใครง่ายๆหรอก ก็แค่ประชดน่ะ ไปเรียนกันเหอะ อีก5นาทีเอง"
ผมอธิบายแล้วก็ลุกขึ้นเดินนำไปที่ห้องเรียน โดยมีนายเทค เดินตามติดและนั่งที่โต๊ะข้างๆผม
ตลอดชั่วโมงเค้าก็ไม่วุ่นวายอะไรอีก ผมก็ยังงงว่านี่ถือว่าผมมีเพื่อนใหม่แล้วใช่มั้ย?

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2007 16:15:54 โดย :+:So Much In Love:+: »

inimeg

  • บุคคลทั่วไป
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #19 เมื่อ31-01-2007 14:58:36 »

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด

มาต่อเรวๆ จ้า...
น้องต๊อบรออยู่....

ซื้ด...............

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
« ตอบ #19 เมื่อ: 31-01-2007 14:58:36 »





No_ProMises

  • บุคคลทั่วไป
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #20 เมื่อ31-01-2007 16:23:50 »

Oh !!

เริ่มรู้จัก เริ่มคุยกันมากขึ้นแล้วววว

เอิ้กๆๆๆ มาต่อไวๆ นะค๊าบบ รออยุ่ๆๆ อิอิ

ออฟไลน์ รอยยิ้มอาบยาพิษ

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
Re: :+: กว่าจะรู้ว่ารัก :+: ภาค1
«ตอบ #21 เมื่อ31-01-2007 16:56:51 »

ตอนที่5
1เทอมผ่านไป กับ การมีเพื่อนใหม่ และกลุ่มเพื่อนที่ใหญ่ขึ้น

นับตั้งแต่ที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่ที่ชื่อว่า เทค ผมก็ได้รู้ว่าการเปิดโอกาสที่จะมีเพื่อนใหม่นั้น นับว่าเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยเลย
โดยเฉพาะการเรียนที่รามคำแหง เพราะว่า การที่เราไม่มีเพื่อนไว้เยอะๆ ก็ทำให้เราสามารถมาเรียนได้ทุกวัน
ด้วยความสนุกสนาน มีเพื่อนคุยตอนพักเที่ยง มีเพื่อนเดินทางกลับพร้อมกัน แล้วการมีเพื่อนที่มักจะทำตัวเป็นภาระ
ให้เราอย่างต่อเนื่อง เช่น นายเทค ด้วยแล้วบางครั้งก็มีประโยชน์เหมือนกันนะเนี่ย โดยเฉพาะช่วงใกล้สอบของผม
เพราะถ้าจะว่ากันไป การที่ต้องคอยติวคอยสอนให้เทคในวิชาที่เทคยังไม่เข้าใจมากนักก็เป็นการทบทวนความรู้
ของตัวผมเองด้วย ขอบใจว่ะเพื่อน
มาถึงวันนี้พวกเราเหล่า Freshy ผ่านการใช้ชีวิตนักศึกษามาแล้ว1เทอม ก็เป็นเวลามากพอที่เทคจะสนิทสนม
กับเพื่อนๆของผมทั้งเพื่อนจากโรงเรียนชายล้วนและเพื่อนผู้หญิงจากต่างโรงเรียนที่ค่อยๆมาสนิทกันมากขึ้นๆ
ในช่วง 2-3สัปดาห์แรก ของการใช้ชีวิตนักศึกษาปี1ของพวกเราทั้งหลาย

1เทอมที่ผ่านมา ทุกครั้งที่ผมเข้าเรียนจะเจอ เทค มานั่งเรียนอยู่ด้วยเสมอๆ ช่วงแรกๆที่เพื่อนในกลุ่มของผม
มานั่งอยู่ด้วย เทค จะถอยไปนั่งข้างหลังแล้วเวลาก็ผ่านไปจาก 1วัน เป็น1เดือน ถึง1เทอม
จากการที่มีนักศึกษามานั่งเรียนกันอย่างคับคั่งเต็มห้อง อย่างวันเปิดเทอมวันแรกก็กลายเป็นแทบจะนับคนได้เลยทีเดียว
กรณีเด็กหาย(แต่ไม่ต้องแจ้งความเพราะมันตั้งใจโดดเรียนหายตัวไปเอง)แบบนี้ ระบาดมาถึงเพื่อนๆกลุ่มผมด้วย
เริ่มหายไปทีละคนสองคน เพื่อนๆมักให้เหตุผลว่า วิชาพื้นฐานไม่ยากมากนักแล้วอีกอย่างต้องมาเรียนไกล
ก็เลยจะซื้อ Sheet สรุป และแนวข้อสอบ จากหน้ารามฯมาทำเองที่บ้าน(ซึ่งมันก็จริงแหล่ะ)
แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ผมยังคงมานั่งเรียนอย่างสม่ำเสมอ อาจเพราะอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์คนเดียวก็เหงาๆ
อย่างน้อยมาเรียนก็ยังได้เจอเพื่อนบ้างซึ่งเพื่อนที่ผมเจออย่างสม่ำเสมอ ก็คือ นายเทค นายทึ่มคนเดิมที่ยังคงมา
นั่งเรียนเป็นเพื่อนผมตั้งแต่วันแรก จนถึงวันที่เพื่อนคนอื่นถอดใจหายหน้าไปกันหมด
มาจนถึงตอนนี้ผมไม่เห็นว่า เทค เป็นนายทึ่มอีกต่อไปแล้ว แต่ผมเห็นเค้าเป็นเพื่อนของผม หลายครั้งเค้าก็ดูแลผม
เช่น ช่วยถือของ ซื้อข้าวซื้อน้ำให้ตอนมื้อเที่ยง รวมทั้งช่วงที่ผมป่วยเทคก็ยังพาไปหาหมอด้วย
หลายครั้งผมก็ตอบแทนน้ำใจของเค้า ด้วยการช่วยติวให้บางวิชา หรือบางทีก็ไปดูหนังเป็นเพื่อนเค้าบ้าง
การได้เจอกันบ่อยๆผมได้ก็รู้จักเค้ามากขึ้น และนั่นก็ทำให้ผมได้รู้ว่า เทค มีแง่มุมอะไรหลายอย่างที่ผมเพิ่งจะรู้
และผมเชื่อว่า เทค ได้เปิดเผยตัวตนของเค้าให้ผมได้รู้มากกว่าเพื่อนคนอื่นๆเลยทีเดียว
ผมแน่ใจว่า เทค จะเป็นเพื่อนที่ดีมากสำหรับผมและยิ่งรู้จักกันนานวันขึ้นผมยิ่งแน่ใจว่าความสัมพันธ์ของเรา
จะเป็นเพื่อนกันไปตลอด แต่ความแน่ใจในเรื่องนี้กลับผิดไปจากความจริง ที่มันค่อยๆก่อตัวขึ้นในใจของเทค
และ กำลังจะมีผลต่อความสัมพันธ์ในความเป็นเพื่อนของเราทั้งสองคน ในเวลานับจากนี้ไม่นานเลย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2007 16:17:37 โดย :+:So Much In Love:+: »

abcd

  • บุคคลทั่วไป
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #22 เมื่อ31-01-2007 17:01:29 »

 :impress:   ลุ้นๆๆความสัมพันธ์จากเพื่อนจาแปรเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นได้ไง ถ้าไม่ใช่.....  :kikkik:

No_ProMises

  • บุคคลทั่วไป
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #23 เมื่อ31-01-2007 17:33:45 »

 :monkeysad: :monkeysad:

จะซึ้งยางอ่ะ :monkeysad2: :monkeysad2:

ความพันธ์จากเพื่อน ก็เริ่มก่อ ตัวเปน  :myeye: :myeye:

 

อะไรจะเกิดก้ต้องเกิด..^^

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-01-2007 18:06:07 โดย ↔ N[othinG] ↔ »

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #24 เมื่อ31-01-2007 20:21:24 »

สรุปแล้ว ตอนแรกนิวคิดว่าเทคเป็นเพื่อน แต่เทคคิดกับนิวมากกว่าเพื่อนละซี  :kikkik:  :kikkik:



ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #25 เมื่อ01-02-2007 08:03:51 »

น่ารักที่สุดเลย คนอะไรนี่ แต่แปลกกับโดนบางคนเขม่น
หรือจะกลายเป็นว่า ถ้าโดนผู้ชายเขม่น แปลว่าเขารักมากๆ
 :monkeylaugh2:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #26 เมื่อ01-02-2007 09:59:42 »


เข้ามาอ่านเรื่องนี้เพราะมีคนชื่อทึ่ม

ปล. แนะนำไรหน่อยจิ

ช่วยแทรกบทสนทนานิดๆ ได้มะเคอะ

ถึงคุณจะเน้นการเดินเรื่องด้วยคำบรรยาย ตามแบบคุณโสภี พรรณราย หรือว่าโสภาคสุวรรณ นะ  เจ้จำไม่ได้แระ

แต่สองคนนี้จะต่างกันตรงที่ คนหนึ่งเดินเรื่องด้วยคำบรรยายเป็นส่วนมาก  บทพูดเป็นส่วนน้อย 

อีกคนบทบรรยายเป็นส่วนน้อยแต่เดินเรื่องโดยการให้ตัวละครพูดกันเป็นส่วนมาก

แต่ทั้งสองคนก็...จะพุดว่าไงดีอะ  ใช้ส่วนน้อยมาปนเพื่อเบรคอารมณ์ไม่ให้ส่วนใหญ่มันดูมากจนเกินไป

ไม่รู้ว่าเจ้รู้สึกไปคนเดียวหรือเปล่านะ 

เพราะตัวเองยังทำของตัวเองได้ไม่ดีเลย  แต่ดันเสอะมาเจือกเรื่องของชาวบ้าน

โทษทีถ้าข้อความของเจ้มันกวนใจ อิอิ  ว่าแล้วก็นอนเขี่ยติ่งรออ่านต่อไป  ต่อด่วนเลยนะเคอะ

ไม่รู้ทำไมช่วงนี้นักเขียนหลายคน(รวมถึงนักโพส์ตด้วย)ขี้เกียจกันจัง  คนอ่านอย่างเจ้ เหงาและหงี่นะเคอะคุณขา  :pigha2:

ออฟไลน์ รอยยิ้มอาบยาพิษ

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #27 เมื่อ01-02-2007 12:51:00 »

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับเจ้ (ขอเรียกเจ้ก็แล้วกันครับ)

เข้าใจในคำแนะนำที่มีให้ครับ

เพราะผมก็เป็นคนชอบอ่านนิยายเหมือนกัน

และเคยอ่านงานของนักเขียนทั้ง2ท่านที่เจ้บอกมา

แล้วผมจะพยายามแก้ไขการเล่าเรื่องให้สมดุลย์กว่าเดิมครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2007 13:16:03 โดย :+:So Much In Love:+: »

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #28 เมื่อ01-02-2007 13:38:55 »

ความรู้สึกที่มันค่อยๆก่อตัวขึ้นในใจของเทค และ ส่งผลต่อความสัมพันธ์ในความเป็นเพื่อนของทั้งคู่ 
มันคืออะไรกันนะ....... ในเวลาไม่นานเลย................. หวังว่าจะเป็นเพื่อนใจนะจ๊ะ ..........   :haun5:

ที่เจ้ว่ามันก็มีส่วนนะ  แต่เราว่าน้องนิว (ใช่ปะ) ก็เขียนได้ค่อนข้างดีแล้วนะคะ  ช่วงแรก ๆ ก็มีบทสนทนาที่ไม่น่าเบื่อจนเกินไป  เพียงแต่บทบรรยายที่ต่อท้ายบทสนทนาอาจจะเยิ่นเย้อไปนิดนึง  แต่โดยรวมก็ดีแล้วคะ  อาจจะเพราะว่าแบ่งวรรคตอนด้วยแหละเราว่าที่มันทำให้ดูงง   ที่ตอนหลังเจ้บอกให้ใส่บทสนทนาลงไป  เราว่าน้องนิวกำลังบรรยายถึงความรู้สึกที่กลุ่มเพื่อนจะแยกจากกันไป ไม่มารวมกลุ่มกันเหมือนเคย  เราอ่านแล้วก็รู้สึกดีนะคะ  ซึ้งดีออกอะ 

อิอิ  เจือกด้วยคนนะ  รออ่านต่อน้า  สู้สู้   :try2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: เขียนถึงคนบนฟ้า
«ตอบ #29 เมื่อ01-02-2007 14:31:17 »

เพื่อนสนิทททททททททททททททททททททททททททททททททททท

 :serius2: :serius2: :serius2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด