(เรื่องสั้น)เรื่องสั้น ๒๔ ชั่วโมง : มิใช่ไม่รักกัน วันที่ 11 ส.ค 57 (หน้า3)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้น)เรื่องสั้น ๒๔ ชั่วโมง : มิใช่ไม่รักกัน วันที่ 11 ส.ค 57 (หน้า3)  (อ่าน 24475 ครั้ง)

ออฟไลน์ pure_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1

2 ปีผ่านไปกลับมาอ่านอีกครั้ง ในวันที่ฝนพรำๆ

ก็ยังอยากขอบคุณอีกเหมือนเดิม เพราะยังละมุน ละไม 

อ่านแล้วมีความสุข 


ออฟไลน์ kamikame

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ นะฮ๊าฟฟฟฟ  o13

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
เรื่องสั้น ๒๔ ชั่วโมง
เรื่อง: มิใช่ไม่รักกัน (ต่อจาก เรื่อง : ใช่ว่าไม่รักกัน P.1 ของกระทู้นี้)

๐๐๐๐๐๐

เริ่มมืดลงแล้ว...คริษฐ์คิด เมื่อมองท้องฟ้าผ่านกระจกหน้ารถยนต์ที่จอดนิ่งอยู่บนถนนในชั่วโมงเร่งด่วนเช่นนี้  ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนพลางขยับคลายเนคไทและกระดุมเสื้อให้สบายขึ้น  หลายเดือนมานี้เขาเหนื่อยเหลือเกิน  เหนื่อยใจกับสภาพแวดล้อม เหนื่อยใจกับคนรอบกายที่มีมากมายแต่ไม่มีใครเลยที่จะเข้าใจหรือเห็นใจเขาจริงสักคน ราวกับคนเหล่านั้นฟั่นเฟือนกันไปหมด....หรือบางที อาจจะเป็นตัวเขาเสียเองที่เสียสติ

   คริษฐ์รู้สึกตัวว่ากำลังหลงทาง หลงทางในเขาวงกตของความสัมพันธ์ที่ตัวเองเป็นคนทำเงื่อนปมขึ้นโดยไม่รู้ทางแก้ และปล่อยให้พันรัดเข้าที่รอบคอแน่นขึ้นทุกที  ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือของตนขึ้นจากเบาะข้างกาย เมื่อเขาพลิกมือวางโทรศัพท์ลงบนอีกมือหนึ่ง จึงได้เห็นแหวนเงินที่นิ้วนางข้างขวาที่ตนสวมไว้  แหวนที่นิทเชทำให้ด้วยความตั้งใจในทุกรายละเอียด แหวนทีมีเพียงชิ้นเดียวในโลกเพื่อสื่อตรงความรักของใครอีกคนหนึ่งถึงเขา....ทว่ามันเป็นเรื่องที่ผ่านไปนานแล้วแม้จะยังรู้สึกราวกับเกิดขึ้นเมื่อวาน

   คริษฐ์เริ่มใช้ชีวิตอย่างคนบ้างาน เพราะงานเป็นอย่างเดียวที่ทำให้เขาดับความว้าวุ่นของหัวใจตัวเองได้  เขาจึงทุ่มเทกับมันจนก้าวหน้าเกินกว่าที่คาดหวัง ใช้งานเป็นเกราะซ่อนตัวจากข่าวคราวใดๆจากเมืองไทยที่ไม่อยากรับรู้ ด้วยปรารถนาว่าการไม่รับสารใดจะช่วยให้เขาตัดใจจากนิทเชได้เร็วขึ้นอีกนิด ให้ตัวตนที่เสียศูนย์ของเขาหายลับไปเสียที
  เมื่อถึงที่พักชายหนุ่มเริ่มเช็คสายที่ไม่ได้รับ ไฟกระพริบสีแดงที่เครื่องโทรศัพท์วูบวาวราวกับจะส่งสัญญาณเตือนถึงข่าวร้ายจากแดนไกลกำลังเคาะประตูเรียกหาเขาอยู่แล้ว

“ไอ้คริษฐ์ กูไม่แน่ใจว่าจะบอกมึงดีไหม.....”เสียงเพื่อนสนิทที่อยู่ไกลถึงอีกซีกโลกพูดด้วยน้ำเสียงหนักใจ  คริษฐ์รอฟังเงียบๆ
“นิทเชรถคว่ำ อาการสาหัส กูรู้ข่าวเมื่อเย็นนี้เอง....”คริษฐ์รู้สึกชาวาบ ประสาทสัมผัสทั้งหมดราวถูกเคลือบคลุม คล้ายกับทะเลสาบถูกผืนหมอกทึบคลุมทับ 

คริษฐ์พยายามติดต่อเพื่อนที่เมืองไทย แต่ด้วยเวลาที่ห่างกันร่วมสิบชั่วโมงจึงไม่ได้ความคืบหน้าใด  ชายหนุ่มเดินกลับไปกลับมาอยู่ในห้อง กระวนกระวาย ว้าวุ่น ฟุ้งซ่าน โอดครวญ บางคราวก็นึกโทษตนเองทื่ไม่อยู่กับนิทเชในเวลาแบบนี้  แต่แล้วกลับเกิดคำถามอื่นขึ้นกับตนเองอีกเช่นกัน ‘อยู่กับนิทเชในสถานะอะไร?’ 

เพื่อนหรือ? ครั้งสุดท้ายที่เป็นเพื่อนกันเมื่อไหร่หนอ..สิบปีที่แล้วเห็นจะได้

คนรักเก่าหรือ? แล้วถ้านิทเชพบใครใหม่แล้ว เขายังจะสนใจเราอีกทำไม?   คริษฐ์คิดด้วยความว้าวุ่น เขานั่งลงที่ปลายเตียงของตัวเอง ทอดมองเหล่าภาพใหญ่น้อยที่ตั้งไว้ที่โต๊ะหัวเตียงแล้วสะดุดเข้ากับรูปในกรอบไม้เรียบๆที่ดูไม่มีอะไรโดดเด่น 

มือแข็งแรงเอื้อมไปคว้ากรอบรูปขึ้นมอง  ภาพตัวเขาเองที่กำลังก้มลงผูกเชือกรองเท้าพร้อมกับดวงตาราวกับคนกำลังครุ่นคิดพร้อมรอยย่นจางๆบนหน้าผาก  คริษฐ์แกะรูปออกจากกรอบ ไล้มือแผ่วเบาลงรูปนั้นด้วยเพราะคิดถึงคนที่ถ่ายรูปใบนี้ ก่อนจะพลิกดูด้านหลัง คำห้าคำที่เขียนด้วยลายมือคุ้นตาทำให้คริษฐ์ยิ้มจางกับตัวเอง  ‘ใช่ว่าไม่รักกัน’   เขาจ้องมองตัวอักษรนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลายอันตีรวนพลางคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆอย่างเงียบงัน




‘คริษฐ์ชอบเราตรงไหนกัน?’ นิทเชในความทรงจำถามด้วยดวงตาคู่โตจับจ้องอย่างเฝ้ารอคำตอบ ในวันที่เขารวบรวมความกล้าเข้าไปบอกรัก

‘เชน่ารักดี  เป็นคนมองโลกในแง่ดี ใครอยู่ใกล้ก็สบายใจ’

‘ทั้งที่เราหน้าจืดๆเหมือนเต้าหู้ขาวอย่างนี้นะหรือ?’ เจ้าตัวพูดพลางหัวเราะ

‘เต้าหู้ขาวใช่ว่าไม่อร่อยนิ  จริงไหม?’ ดวงหน้าขาวๆนั้นซับสีเรื่อตัดกับสีขาวสะอาดของชุดนักศึกษาที่อีกฝ่ายสวมใส่ ความใฝ่หาในความรักของชายหนุ่มทำให้นิชเชกลายเป็นคนที่น่ารักน่ามองที่สุดใต้ดวงตะวันนี้!

   คริษฐ์ไม่เคยวาดฝัน ว่าอายุขัยความรักของตนจะยืนยาว เขารู้เพียงว่านิทเชยังเป็นที่รักเสมอ  ยิ่งนานวันเข้าความผูกพัน กลับพันผูกให้คนสองคนยึดติดเหนียวแน่นต่อกัน  พันธนาการความรักอันแน่นหนาบีบบังตัวตนของทั้งคริษฐ์และนิทเชให้จางหาย สร้างรอยปริร้าวเล็กๆขึ้นบนความสัมพันธ์และพวกเขาแสร้งเป็นมองไม่เห็นมาหลายปี เก็บกักความอึดอัดเอาไว้กับอกจนสุดท้ายความรักจึงต้องจบ...ทั้งที่ยังรัก     คริษฐ์ยังจำรอยยิ้มสดใสของนิทเชได้  จำสีหน้าและแววตาของอีกฝ่ายในยามที่ทำสิ่งที่รัก  จำสัมผัสผิวเนื้อและกลิ่นเฉพาะตัวของอีกฝ่ายได้แม่นยำนัก  ชายหนุ่มหลับตาลง...ขบคิด  และตัดสินใจ


๐๐๐๐

   นิทเชจำได้ว่าตนเองตื่นขึ้นพร้อมกับแสงสว่างเจิดจ้า  สองตามองเห็นแต่เพียงฝ้าเพดานขาวสะอาดราวกับโลกทั้งใบมีเพียงสีขาวและดำ  ได้ยินเสียงอุทานด้วยความตระหนกและเสียงฝีเท้าเร่งร้อน  ไม่กี่อึดใจต่อมานิทเชก็ได้ยินเสียงเรียกที่ทำได้แต่เพียงเบือนสายตาอันเลื่อนลอยไปมองโดยไม่อาจตอบคำใดๆได้เนื่องจากความเจ็บร้าวทั้งร่างกายบีบรัดสำเนียง  เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้งก็พบคนกลุ่มหนึ่งทอดสายตามองมายังเขาด้วยสายตาเป็นห่วงระคนโล่งอก  นิทเชเพียงแต่มองตอบเงียบๆ ก่อนจะแลเลยไปมองหาบางอย่างจากคนกลุ่มนั้น....ทว่าไม่เจอ

   ร่วมอาทิตย์ถัดมานิทเชก็ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ อาจเพราะนิทเชยังต้องชดใช้กรรมอีกมากมายเขาจึงยังมีเวลาบนโลกใบนี้ต่อไปราวกับปาฏิหาริย์  ขณะนี้จึงมีสภาพทรมานด้วยดวงหน้าบวมช้ำ เนื้อตัวเป็นจ้ำช้ำม่วงไปทั่วพร้อมกับกระดูกมือขวาที่แตกแทบละเอียด ชั่วขณะที่คิดว่าตายแน่แล้วใบหน้าของบุคคลอันเป็นที่รักจำนวนหนึ่งก็สว่างวาบในห้วงคิด...หนึ่งนั้นคือคนที่ซื้อกล้องตัวโปรดให้ไว้เมื่อหลายปีก่อน นับเป็นโชคดีของนิทเชที่กล้องตัวนี้ปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน นอนนิ่งในกระเป๋าให้เขาลูบคลำเล่นอยู่อย่างนี้ในขณะที่รถทั้งคันแทบกลายสภาพเป็นเศษเหล็กหลังอุบัติเหตุ    มือข้างดีลูบคลำกล้องในกระเป๋าเล่นเบาๆ  ไล้สัมผัสเป็นตามผิวขรุขระของตัวกล้องอย่างถนอมยิ่ง แม้อายุใช้งานของมันจะนานมากแล้วก็ตาม

‘มันแพง!’ นิทเชยังจำเสียงอุทานของตัวเองได้

‘แต่เชชอบมันไม่ใช่หรอ  ผมรู้ว่าเชมาลูบๆคลำๆมันหลายทีแล้ว’ นิทเชยังจำได้ว่าอีกคนพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอย่างไร สำเนียงนั้นยังชัดเจนราวกับกระซิบอยู่ข้างหู

‘เชจะเก็บเงินซื้อเอง  อีกไม่กี่เดือนก็ได้แล้ว’ คนฟังคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้คนทำหน้างอ

‘ถือเสียว่าเป็นของขวัญวันครบรอบปีที่สี่  ให้ผมได้คืนอะไรกลับให้เชบ้าง....ได้ไหม?’  นิทเชคิดแล้วก็อดยิ้มกับตัวเองไม่ได้  ทุกครั้งที่คริษฐ์ทำสายตาอ้อนวอน ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะขัดขืนได้

   แล้วในตอนนี้นิทเชเหลืออะไรบ้าง?....เจ้าตัวพยายามคิดหาคำตอบให้ตัวเอง งานของนิทเชหยุดชะงักเพราะบาดเจ็บจนทำงานไม่สะดวกนักและหากโชคร้าย มือข้างถนัดนี้อาจใช้ได้ไม่เหมือนเดิม นิทเชอาจมีเพื่อนฝูงรายล้อมรอบกาย แต่จะมีใครบ้างเข้าใจเขาอย่างที่ใครคนหนึ่งเคยเข้าใจ  แต่น่าเสียดาย.....ความรักทำให้ทั้งคู่ต่างสายตามืดบอด  ลบเลือนตัวตนของกันและกันอย่างช้าๆ  จนสุดท้ายต้องจากกันทั้งที่ยังรัก  ทำให้คริษฐ์ที่นิทเชรู้จักหายลับไปอย่างน่าใจหาย   

  นิทเชตักอาหารค่ำของตนเข้าปากอย่างทุลักทุเลด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด  พลางทอดสายตาเห็นแมวหลงสภาพผอมโซตัวหนึ่งที่ลักลอบเข้ามาในบ้านเขา เมื่อเห็นสภาพน่าเวทนานั้นแล้วก็ใจอ่อนแบ่งอาหารให้ทั้งที่รู้...แมวจร ประเดี๋ยวก็จากไป



   นิทเชเงี่ยหูฟังเสียงรอบกายเมื่อทั้งบ้านเงียบสงบ ได้ยินเพียงเสียงน้ำที่หยดจากก๊อกกระทบลงบนจานเซรามิก  เสียงใบไม้เสียดสีกันในยามที่สายลมอ่อนเบาของฤดูฝนพัดผ่าน  นิทเชกำลังใช้ความคิดอยู่หน้าอ่างล้างจานว่าจะจัดการกับจานชามที่มีคราบติดแน่นด้วยมือข้างเดียวได้อย่างไร    นิทเชสะดุ้งสุดตัวเมื่อมือคู่หนึ่งยื่นเข้ามารับหน้าที่ต่อจากเขา มือแข็งแรงนั้น ขัดล้างจานใบนั้นเบาๆ โดยไม่มีเสียงใดดังไปกว่าเสียงของน้ำ  เพียงไม่นาน...จานใบนั้นก็กลับไปสะอาดดังเก่า ราวกับไม่เคยถูกใช้งานใดๆ 

“กลับมาทำไม?”  นิทเชถามขึ้นเมื่อคนทั้งสองได้สบตากันอีกครั้งชวนให่ระลึกถคงคืนวันเก่าก่อน

“กลับมาหานิทเช”คริษฐ์มองกลับมาด้วยสายตาราวกับคนป่วยผู้เป็นโรคทางวิญญาณ ขณะที่มือแข็งแรงนั้นคล้ายจะแตะลงบนรอยบอบช้ำที่ใบหน้า ทว่าไม่มีแม้สักปลายนิ้วสัมผัส

“เชอยู่ได้”

“ผมรู้” น้ำเสียงทุ้มนุ่มนวลนั้นตอบรับเพียงแผ่วเบาแล้วนิ่งเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่อไป

“ผมรู้ว่าเชอยู่ได้.....แต่ผมอยู่ไม่ได้” นิทเชมองตามชายร่างสูงใหญ่ค่อยค้อมกายลงอุ้มเจ้าแมวจรที่เอาไว้ โดยไม่นึกรักเกียจเนื้อตัวสกปรกของมัน

“ผมขอโทษ....สำหรับเรื่องที่ผ่านมา” นิทเชรับฟังด้วยรอยยิ้มจางในหน้า ก่อนจะเอ่ยกระเซ้า

“สงสัยว่าเวลา...คงทำให้เราเป็นคนแข็งกระด้างขึ้นกว่าก่อน”

“ก็อาจจะใช่ โดยเฉพาะเวลาที่ห่างกันของเรา” คริษฐ์พูดแล้วจึงคลี่ยิ้มเศร้า 

   ทั้งคู่เงียบไปนานรอบกายพลันเงียบสงัด  มีเพียงเสียงใบไม้ที่ถูกลมพัด คราวนี้ไม่ใช่เป็นเพียงสายลมอ่อนๆ ทว่าบางคราวกรรโชกพัดบางคราวแผ่วผ่าน 

“งานที่ทำสนุกไหม?” คริษฐ์เลือกที่จะทำลายความเงียบลงก่อน

“สนุก! บางทีวันนี้ถ่ายรูปกรุงเทพ  พรุ่งนี้ถ่ายรูปงานวัด  มะรืนไปถ่ายรูปที่ชายแดนไม่ก็เข้าป่าเป็นเดือนๆ!” ประกายตาของนิดเชจุดรอยยิ้มเอ็นดูน้อยๆให้ชายหนุ่ม

“ผมก็สนุก! วันนี้ทำผิด  พรุ่งนี้ทำผิด มะรืนนี้ก็ยังผิด  ทำตัวผิดๆมาเป็นปีๆ!” คนกล่าวแย้มรอยยิ้มพราย รอยยิ้มที่หัวใจนิทเชโหยหามาแสนนาน  จนเขาลืมสิ้นถึงอดีตหรือแม้แต่ตัวตน

 อีกครั้งที่คนทั้งคู่เงียบงัน เพียงแต่ทอดสายตามองเงาของตนเองและอีกฝ่ายโดยไร้ซึ่งคำพูดใดๆ ด้วยเพราะความรู้สึกในหัวใจดวงนี้ซับซ้อนเกินกว่าจะหาคำใดบรรยายออกมาได้  ทำได้เพียงปล่อยให้เงาของทั้งสองคนที่ตามติดเจ้าตัวไปทุกหนแห่งบอกเล่าบางอย่างแก่กันโดยไร้สุ้มเสียง  เงาร่างสูงใหญ่ที่ทอดยาวกว่าเงาอีกเงาหนึ่งนั้นเอื้อมมือมาคว้ามือข้างดีของอีกเงากอบกุมไว้เงียบๆ  สัมผัสของมือนั้นให้ความรู้สึกเย็นชื้น เพียงแค่มือสัมผัส...ร่างของนิทเชกลับสั่นสะท้าน 

“ความผิดที่ผมทำไว้ คิดว่าคนอื่นจะยกโทษให้หรือเปล่า?” เงาของนิทเชกำลังส่ายหน้าเบาๆ

“แล้วความผิดของผม เชจะยกโทษให้หรือเปล่า?”   นิทเชไม่ได้ตอบ  เพียงแต่ทอดมองเงาของมือสองข้างที่กลับมากอบกุมกันไว้อีกครั้งก่อนที่เขาจะบีบกระชับเบาๆ  ปล่อยให้เงาของคนสองคนสื่อสารกันในความเงียบต่อไป




   คริษฐ์กำลังคิดว่าวันเวลาได้พิพากษาแล้วว่าเขามีความผิด ผิดที่ตัดสินใจผิดพลาด ผิดที่ไม่อาจทานทนความเหงาลดละความกระหายในเนื้ออุ่นกลิ่นอายของความสัมพันธ์ทางกายได้ และผิดที่ไม่อาจตัดใจรักใครได้มากกว่าเจ้าของเงาเล็กๆนี้ ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดราวกับจะรวบรวมความกล้า  นับแต่นี้ความผิดใดๆที่เขาได้ก่อไว้ เขายินดีจะรับผลของมันอย่างเต็มใจ ขอเพียงสิ่งเดียว...อย่าให้มีสิ่งใดพรากเอาคนที่เป็นดั่งเนื้อหัวใจของเขาไป

“แล้วตกลง คริษฐ์ชอบเชตรงไหน?”  คนถูกถามหัวเราะกับคำถามนั้น ทั้งที่คนรอฟังไม่เห็นขัน

“ เต้าหู้ขาวสำหรับผม อร่อยเสมอแหล่ะ” นิทเชหัวเราะก่อนจะว่า

“ลอกข้อสอบเก่านี่นา” มือที่กอบกุมกันไว้หลวมๆถ่ายเทความอบอุ่นอ่อนโยนสู่หัวใจอีกฝ่ายดังเก่าก่อน อาจเพราะอายุขัยความรักของคนทั้งคู่ยังไม่สิ้น นิทเชยังนึกสงสัย ว่าอายุขัยความรักของตนเองนั้นจะดำรงอยู่อีกนานเท่าใด  ทว่าคริษฐ์กลับมั่นใจนักว่าคราวนี้ ความรักจะอยู่กับตนตราบจนสิ้นลมหายใจ

“ผมกำลังคิดว่า จะย้ายกลับมาประจำสาขาเดิม” ชายหนุ่มเปรยขึ้นแผ่วเบา

“งานก็ก้าวหน้าดีไม่ใช่หรือ?”

“ใช่ ก้าวหน้าดีมากเชียวล่ะ แต่ผมเลือกแล้วว่าจะอยู่ที่นี่” นิทเชมองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย ดวงตาคู่นั้นบ่งบอกถึงการตัดสินใจอย่างแน่นหนัก
“แต่เชไม่ออกจากงานง่ายๆหรอกนะ” น่าแปลก...นิทเชที่เคยเอาแต่โอนอ่อนผ่อนตามกลับยืนกรานหนักแน่นเช่นกัน เพราะนิทเชรู้ ขอบเขตของการรักตนเองก่อนใครๆนั้น ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายที่มุ่งหวังจะทำร้ายใคร  แท้จริงแล้วก็เพื่อตนเองทั้งนั้น

“เอาไว้เชอยากได้คนช่วยหิ้วกระเป๋ากล้องเมื่อไหร่  คริษฐ์ว่างเสมอ  ดีไหม?”

“แหม ค่อยคุยกันง่ายหน่อย” ทั้งคู่หัวเราะเมื่อนิทเชทำเสียงโล่งใจ

   นิทเชมองดวงหน้าคมสันที่มีเค้าอิดโรยนั้นไล่เลยไปจนถึงริมฝีปากหยักสวยที่เคยทั้งยกยิ้มหรือแม้แต่กล่าววาจาเชือดเฉือ มองลึกเข้าไปในดวงตาที่อ่อนล้าที่ฉายประกายหลากหลาย  รัก หลงใหล เหนื่อยอ่อน หรือแม้แต่ ‘เป็นสุข’  นิทเชหลับตาลงเมื่อริมฝีปากของตนสัมผัสได้ถึงความอุ่นชื้น พร้อมกับที่รับรู้ว่าร่างกายกำลังสั่นสะท้านอยู่ในอ้อมแขนใครอีกคน 

   เวลาร่วมปีที่ผ่านพ้นไปอย่างยากลำบากนั้น ได้พิสูจน์แล้วว่าทุกการกระทำทั้งที่สร้างรอยสุขหรือฝากรอยทุกข์  ล้วนแล้วแต่มาจากสาเหตุเดียว

‘มิใช่ไม่รักกัน’





จบ



ค้นโฟลเดอร์นิยายเก่าๆที่เคยเขียนไว้เมื่อ 3 ปี(หรือ 4?)ก่อน เจอะเรื่องนี้ว่ายังไม่ได้ลงในทู้รวมเรื่องสั้น เลยเอามาเกา เอร้ย เกลาใหม่นะคะ

ขอบคุณทุกท่านที่เเวะมาอ่าน ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ดีจังที่คู่นี้กลับมาเป็นเหมือนเดิม

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ดีแล้วที่กลับมาอยู่ด้วยกัน

ออฟไลน์ lahlunla

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ซึ้ง สนุกทุกเรื่องเลยค่ะ  ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องราวที่อบอุ่นอย่างนี้  :mew1:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ pp_song

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
น่ารักทุกเรื่องเลยอ่า ซึ้งๆหวานๆ

ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
จุกในอกทุกเรื่องเลย
ต้องถอนใจแรงๆ

ออฟไลน์ natt lUcky

  • อะโย่ อะเย่
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
อ่านจบแล้ว ทั้งน่ารัก และบางเรื่องเศร้ามาก น้ำตาไหล ซื้งด้วย มีทุกอย่างจริงๆ ค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :o12: แวะกลับมาอ่านใหม่อีกรอบเจอว่าอัพต่อดีใจมากที่คู่นี้กลับมาอยู่ด้วยกัน
แล้วจะรออ่านเรื่องอื่นๆต่อน๊า ^^

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
หวาน~ อ่านกี่ครั้งก็ยังคงหวานละมุน

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
ชอบทุกเรื่องครับ สำหรับผมอ่านแล้วรู้สึกเหงา ๆ เศร้า ๆ งัยชอบกล

ขอบคุณครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด