มาต่อบทที่ 4 ครับ พิมพ์ได้ช้ามากครับเพราะกำลังแก้วิดยานิพนไปด้วย ตอนนี้แก้เสร็จแล้ว รออาจารย์ตรวจงานก็คงจะมีเวลาพิมพ์ที่เขียนๆ ไว้ล่ะครับ ไว้กลับจากต่างจังหวัดจะมาโพสต่อนะครับ หรือถ้าไปต่างจังหวัดแล้วหาเน็ตเล่นได้ก็จะโพสให้อ่านกันครับ
รับรองว่าตอนจบเรื่องนี้กระจ่างแจ้งแดงแจ๋ชัดเจนแจ๋วแหววไม่เหลืออะไรให้ต้องจินตนาการอย่างแน่นอนที่สุดเลยทีเดียวเชียว
ป.ล. เรื่องนี้เป็นนิยายจินตนาการล้วนๆ ไม่ได้อ้างอิงจากชีวิตหรือบุคลิกลักษณะนิสัยของผู้ใดทั้งสิ้น ตัวละครทุกตัวในเรื่องสร้างขึ้นมาหมด
ต่อ บทที่ 4
...อ๋อ มาแน่ นั่นมันเป็นแผนของเขาอยู่แล้ว ตามที่ตกลงกับเพื่อนคู่หู วันนี้เป็นวันของเขาที่จะได้ใช้เวลากับผู้พันวรุฒม์ พรุ่งนี้เป็นวันของภีรวัส เขาจึงว่างไม่มีอะไรทำ ที่ยอมเข้ามาในห้องตรวจก็เพราะอยากทำความรู้จักกับคนหล่อ เผื่อชวนออกไปเที่ยวด้วยกันในวันที่เขาว่างเว้นจากเกมหัวใจที่กำลังแข่งกับภีรวัสอยู่ จะได้ไม่นั่งเหงาอยู่คนเดียว...
พันโทวรุฒม์จอดรถลงหน้าบ้านพักของอิศรากับภีรวัส บ่ายนี้เขาชวนทั้งสองหนุ่มไปเที่ยวทุ่งดอกบัวตอง อิศรากับภีรวัสดูตื่นเต้นมากเพราะไม่เคยเห็น แต่เมื่อตกลงเวลาแน่นอน อิศรากลับบอกให้ภีรวัสไปคนเดียว
วรุฒม์รู้สึกแปลกใจ ทุกครั้งที่เจอกัน เขามักจะเห็นสองหนุ่มอยู่ด้วยกันเสมอ แต่เมื่อเขาเข้าไปหา คนใดคนหนึ่งจะแยกตัวออกไปเงียบๆ ไม่อิศราก็ภีรวัส
“คุณอิศราไปไหนครับ" วรุฒน์ถามภีรวัส
“นอนหลับอยู่ครับ" ภีรวัสตอบยิ้มๆ ขณะที่ก้มลงผูกเชือกรองเท้า
“คุณอิศราน่าจะไปด้วย รับรองว่าต้องได้ภาพสวยๆ"
“ผมก็ชวน แต่ว่าอิศเกิดง่วงนอนขึ้นมาเฉยๆ สงสัยเมื่อคืนนอนน้อย" ภีรวัสให้เหตุผล
“ถ้ายังงั้น คืนนี้ฝากคุณภีรวัสเตือนคุณอิศราให้นอนเยอะๆ พรุ่งนี้วันเสาร์ผมจะพาไปเที่ยวน้ำตก เห็นบอกว่าอยากเล่นน้ำตกไม่ใช่หรือครับ"
“รบกวนผู้พันจังเลย" ภีรวัสทำหน้าเกรงใจ
“รบกวนที่ไหนกัน วันหยุดผมก็ออกเที่ยวเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ไปแล้วจะเสียดายนะครับ น้ำตกสวยมาก ไม่ค่อยมีใครรู้จัก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยังไม่ได้ประชาสัมพันธ์ด้วยซ้ำ คุณอิศราไม่ควรพลาด ฝีมือถ่ายภาพเก่งๆ ต้องได้ภาพสวยๆ" วรุฒม์ย้ำเรื่องถ่ายภาพอีกครั้ง
“ถ้ายังงั้นคืนนี้ผมจะกำชับให้อิศรานอนให้เต็มอิ่ม" ภีรวัสพยักหน้า
วรุมฒ์อมยิ้มแล้วผายมือเชิญภีรวัสให้ไปขึ้นรถ นายทหารออกรถช้าๆ แล้วชวนภีรวัสคุยถึงเรื่องการวิจัย และจบลงด้วยการถามคำถามที่เขาสงสัย
“หรือว่าคุณอิศรารู้สึกประดักประเดิดที่อยู่ด้วยกันทั้งสามคน"
“เปล่า เปล่านะครับ ไม่มีอะไร" ภีรวัสรีบปฏิเสธ
“ผมก็ถามไปยังงั้น ไม่มีอะไรเหมือนกันครับ เพียงแต่แปลกใจที่เวลาเจอกัน ไม่คุณก็คุณอิศรามักจะปลีกตัวออกไป" วรุฒม์พูดตรงๆ
ภีรวัสอมยิ้ม ไม่รู้จะตอบผู้พันวรุฒม์ว่าอย่างไรดี ในใจก็คิดว่าเมื่อกลับไปถึงบ้านเห็นทีจะต้องคุยกับอิศราเสียแล้ว
ทันทีที่ภีรวัสกลับมาถึงที่พักก็รีบวิ่งขึ้นบันไดมาคุยกับอิศราเรื่องวรุฒม์
"ผู้พันวรุฒม์ฉลาดกว่าที่คาด แค่ไม่กี่วันเขาก็สงสัย ถ้าเป็นแบบนี้ ไม่นานคงความแตก" ภีรวัสแสดงความเห็น
อิศรานั่งลงบนเก้าอี้ ตามองไปยังความมืดข้างนอกบ้าน แล้วพูดว่า "เราต้องเปลี่ยนแผน ทำเหมือนที่ตกลงกันตอนแรก จีบพร้อมกันซะเลย ใครดีใครได้ คนชนะเอาผู้พันไป"
"จะดีหรืออิศ"
"กลัวละสิท่า ยอมแพ้ตอนนี้เลยก็ได้นะคุณผีลาวัด" อิศรายิ้มเยาะ
"ไม่มีทาง คนอย่างภีรวัสหรือจะกลัวคุณอิฐศาลา" ภีรวัสรีบสวน
สองหนุ่มยืนประจันหน้า ตามองตาอย่างไม่ยอมกัน
"กำหนดเวลาเลยไหมละ มีเวลาหนึ่งเดือน ต้องทำให้ผู้พันวรุฒม์บอกรักให้ได้" ภีรวัสท้า
"ได้เลยภีร์" อิศรารับคำท้า "เกมนี้ถือว่าเป็นสุดยอดการแข่งขันตั้งแต่เรารู้จักกันมา ว่าแต่ว่าไม่มีรางวัลเดิมพันหรือไง"
"เทรดมิลหนึ่งเครื่อง" ภีรวัสเสนอของที่ตัวเองอยากได้เพราะลู่่วิ่งสายพานที่บ้านเริ่มเก่าแล้ว
"ไอ้บ้า เล่นกันเป็นแสนเลยหรือวะ" อิศราโวยวาย "เอาแค่เลี้ยงดินเนอร์ที่ร้านแพงที่สุดในกรุงเทพฯ ไม่ก็ตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวเกาะสมุยซักในไม่ได้หรือ"
"กลัวแพ้ละสิ" ภีรวัสยิ้มเยาะอิศราบ้าง
"No street ไม่มีทาง คนอย่างอิศราไม่เคยหวั่น เอางั้นก็ได้ ใครแพ้ ซื้อเทรดมิลให้คนชนะ เอายี่ห้ออะไรดีว๊า" อิศรารับคำท้าแล้วเอียงคอทำท่าคิด
"Nautilus นำเข้าจากอเมริกา" ภีรวัสยิ้ม ทำตาฝันเฟื่อง
"เอาลักกี้เฟลมก็พอแล้ว" อิศรากระแทกเสีียงแดกดัน "จะลงทุนกันมากไปหรือเปล่าเนี่ย"
"ไม่มากไปหรอก อย่าลืมนะ คนนี้ถือว่าเป็นเหยื่อประเภทกระดูกชิ้นโตที่สุด"
"ฉันไม่ชอบแทะกระดูก ฉันชอบเอ็น" อิศราขยิบตาแล้วหัวเราะชอบใจ "เอายี่ห้อที่เขาขายตามห้างเซ็นทรัลเถอะ ที่พูดนี่ไม่ใช่กลัวแกหรอกนะ และไม่ได้กลัวแพ้ด้วย แต่สนับสนุนรัฐบาล ไทยช่วยเศรษฐกิจไทย"
"ได้" ภีรวัสพยักหน้า เริ่มจะรู้สึกเสียดายเงิน ไม่ว่าจะเป็นเงินตัวเองหรือเงินเพื่อน "กลับไปกรุงเทพฯ ต้องรีบเคลียร์พื้นที่ห้องนั่งเล่นรอเทรดมิลล์เครื่องใหม่ซะแล้ว"
ภีรวัสหัวเราะ ทำหน้ามั่นใจเต็มที่จึงโดนเพื่อนชกเข้าที่ต้นแขน
"อย่ามั่นใจมากนัก จำไม่ได้หรือว่าสถิติอิศราดีกว่าพีรวัส" อิศราเตือนความจำ
"อ๋อ แน่ล่ะ แกใช้วิธิสกปรกมอมเหล้าเป้าหมายด้วยนี่หว่า"
"แกไม่ได้ห้ามไม่ให้ใช้อุปกรณ์ประกอบการแข่งขันนี่นา บอกแล้วไง ใครดีใครได้" อิศรายักคิ้ว ก่อนจะหัวเราะเสียงดังลั่น
"แต่คราวนี้สถิติจะต้องเปลี่ยนแปลง" ภีรวัสประกาศพร้อมชูมือขึ้น "เราจะต้องเป็นผู้คว้าชัยในโอลิมปิกส์แม่สะเรียงเกมส์"
"อย่าฝัน" อิศราท้วง ดึงมือเพื่อนลง
เสียงหัวเราะของสองหนุ่มดังประสานกัน ตามด้วยเสียงพูดทับถมอีกฝ่ายดังแทรกขึ้นมาเป็นระยะ เกมสนุกของภีรวัสกับอิศรากำลังเข้าสู่ช่วงเข้มข้น
...เกมสนุกรอบใหม่ที่มีโอกาสพลิกผันแบบเดาตอนจบไม่ได้
อิศราอ้าปากค้างเมื่อเห็นรถของพันโทวรุฒม์จอดลงหน้าบ้านแต่ะคนที่ก้าวลงมาจากรถก่อนคือพันตรีนายแพทย์วิษณุ
"อาการดีขึ้นหรือยังครับ ทานยาตามแพทย์สั่งหรือเปล่า" วิษณุยิ้มกว้าง เดินเข้ามาใกล้อิศราแล้วชะงักไปชั่วครู่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองบนระเบียงแล้วเห็นร่างของชายหนุ่มอีกคนเดินออกมาจากประตูบ้าน
"เพื่อนผมขอไปด้วย คุณอิศรากับคุณภีรวัสคงไม่รังเกียจ" วรุฒม์เดินตามมาหยุดยื่นอยู่ข้างวิษณุ แหงนหน้ามองภีรวัสที่กำลังเดินลงบันได
เมื่อภีรวัสลงมาถึงพื้น วรุฒม์แนะนำทั้งหมดให้รู้จักกัน ภีรวัสแอบหันไปทำตาขวางใส่อิศราเมื่อรู้ว่าวิษณุกับอิศรารู้จักกันมาก่อนแล้ว
"ทำไมไม่เล่าให้ฟัง" ภีรวัสแอบกระซิบข้างหูเพื่อนขณะเดินไปขึ้นรถ
"แกไม่ถามนี่หว่า" อิศรายักไหล่ ตอบเสียงเบาแล้วรีบเดินนำหน้าเพื่อไปให้ถึงรถก่อน แต่เมื่อไปถึง วิษณุเปิดประตูด้านหลังแล้วเชิญอิศราขึ้นนั่งคู่กับตัวเอง ภีรวัสยิ้มชอบใจ ปรายตามองเพื่อนพร้อมส่งรอยยิ้มเยาะให้ ก่อนจะขึ้นนั่งคู่คนขับ
...คราวนี้อิศราลำบากหน่อยล่ะ เพราะเขาสังเกตเห็นว่าวิษณุแสดงท่าทางสนใจอิศราอย่างเปิดเผย เพราะฉะนั้นจึงทำให้อิศราจีบวรุฒม์ไม่สะดวก...