เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"  (อ่าน 168433 ครั้ง)

ออฟไลน์ tianqin

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
.........

         จู่ๆเขาตื่นขึ้นมาราวกับถูกเปิดสวิตส์  ร่างกายยังปวดระบมไปหมด  และยังมีความมึนงงหลงเหลืออยู่  เด็กหนุ่มมองไปรอบๆห้องที่ค่อนข้างสลัวและสะดุดอยู่ที่ข้างตัว  เมื่อพิจารณาดูจึงรู้ว่าเป็นเส้นผมหยักหนาของเท็ด   
         ‘ทำไมเท็ดมานอนอยู่ตรงนี้ แล้วที่นี่มันที่ไหน…โรงพยาบาล…จริงสิโรงพยาบาล…เราถูกลักพาตัวแล้ว…ไม่…เรา…ฆ่าคน…เรา….เราฆ่าคน…พระเจ้า…เราเป็นคนฆ่ามัน…เท็ดรู้หรือเปล่า…ถ้ารู้เขาต้องรังเกียจเราแน่…ไม่นะ…ไม่เอา…เราจะไม่ยอมเสียเท็ดไป…ไม่!…’
         “…ฮึก…”   เด็กหนุ่มหลุดเสียงสะอื้นออกมาเบาๆ  ร่างที่ฟุบอยู่สะดุ้งเฮือกแล้วผุดลุกขึ้นนั่ง  ก่อนจะชะโงกเข้ามาใกล้ 
         “กาย…เป็นอะไรไป…น้องเจ็บตรงไหนพี่จะเรียกหมอให้นะ?”
         “ไม่ๆเท็ด…เท็ด…กอดผมหน่อย…กอดผมที”
เท็ดประคองร่างบางขึ้นมากอดไว้กับอก  เด็กหนุ่มซุกหน้าแน่นน้ำตาร้อนๆเปียกอกกว้างจนชุ่ม
         “กาย…อย่าร้องไห้สิ…กาย”
         “เท็ดเกลียดผมไหม…ผมไม่ได้ตั้งใจ…ผมไม่ได้ตั้งใจ…ผมจะติดคุกไหม…ผม…ผมขอโทษ”
         “กายเป็นอะไรไป…บอกพี่สิน้องเป็นอะไร?”
         “ผม…ผมฆ่าคน….ผมฆ่าคนตายเท็ด…ผมไม่ได้ตั้งใจ…”
         “หมายความว่าน้องเป็นคนฆ่าซูมานงั้นเหรอ?”
         “ผม…ไม่ได้ตั้งใจ…มันจะข่มขืนผม…พอผมหนีมันก็ยิงผม…แล้วผมเจอมีด…ผม…ผมจะถูกประหารไหม…เท็ด…พี่เกลียดผมหรือเปล่า…พี่อย่าเกลียดผมเลยนะ…ผมขอโทษ”
         ชายหนุ่มกัดกรามแน่นด้วยความแค้น  อยากให้ซูมานฟื้นขึ้นมาแล้วแล่เนื้อมันทีละชิ้นให้สาสมกับที่มันทำ  อ้อมแขนแข็งแรงโอบร่างน้อยแน่นขึ้น  อยากลบเอาความทุกข์ทรมานออกไปให้หมดไม่อยากให้กายจำช่วงเลวร้ายนี้ได้เลยแม้แต่น้อย
         “พี่รักกาย…พี่ไม่มีวันเกลียดกาย…อย่าร้องไห้…มันไม่ใช่ความผิดของน้องนะ…สถานการณ์อย่างนั้นเป็นพี่พี่ก็ต้องทำแบบกาย…พี่ดีใจเสียอีกที่กายเก่ง สามารถช่วยตัวเองได้ดีขนาดนั้น…กาย…อย่าร้องไห้คนดี…ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยพี่สัญญา…จะไม่ใครแตะกายได้อีกแล้ว”
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากอก  มือข้างที่มีสายน้ำเกลือยกขึ้นลูบไล้ใบหน้าเขาแผ่วเบา  ปากแดงสั่นระริกน้ำตายังไหลลงมาเป็นทาง
         “ผม…ผมคิดว่าจะไม่ได้กลับมาหาพี่อีกแล้ว”   
         “ทำไมถึงคิดแบบนั้น?”
         “ผมคิดว่าจะไม่มีโอกาสเจอพี่อีก…ผมคิดว่าคงต้องตายอยู่คนเดียวเสียแล้ว”
         “ไม่…ไม่มีทาง พี่ขอโทษที่คุ้มครองกายไม่ได้…พี่ขอโทษ”  ชายหนุ่มเสียงสั่นคว้ามือเล็กมาจุมพิตซ้ำไปมาด้วยความเสียใจ
         “อย่าขอโทษสิครับ…มันไม่ใช่ความผิดของพี่…ผมหาเรื่องเอง…ถ้าผมไม่ไปโรงพยาบาลผมก็ไม่ต้องเจอพวกมัน…อย่าโทษตัวเองเลย”
         “แต่พี่เคยสัญญาว่าพี่จะดูแลกาย…พี่เคยสัญญาว่าจะปกป้องน้อง…แต่ก็ทำไม่ได้…น้องต้องเจ็บตัวอีกแล้ว…พี่เสียใจ”    ชายหนุ่มกอดร่างในอ้อมแขนแน่นขึ้น  เด็กหนุ่มซุกหน้ากับอกกว้างแต่น้ำร้อนๆที่หยดลงบนต้นคอทำให้เขาตัวสั่น   
เด็กหนุ่มค่อยๆดันตัวออก เมื่อเงยขึ้นก็เห็นชายหนุ่มจ้องมองมาทั้งน้ำตา แม้ปราศ จากเสียงสะอื้น  แต่ความคับแค้นขมขื่นฉายออกมาจากดวงตาทั้งคู่ 
         “ผมไม่อยากได้ยินพี่ขอโทษ…แค่ผมได้เจอพี่อีกครั้ง…มันก็ดีที่สุดแล้ว…อย่าโทษตัวเองอีกเลยนะครับ…ผม…ไม่อยากเห็นพี่เสียใจเพราะผม…ผมรู้สึกไม่ดีเลยที่ทำให้พี่เป็นอย่างนี้”
         “กาย…พี่สัญญา…ต่อไปนี้พี่จะไม่ห่างกายอีก…พี่จะไม่ให้กายคลาดสายตาอีกแล้ว…พี่ต้องปกป้องกายให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น…พี่จะไม่ปล่อยให้กายต้องเจอเรื่องร้ายๆคนเดียวอีกแล้ว…พี่สัญญานะกาย…พี่สัญญา”  เด็กหนุ่มพยักหน้า  เขาร้องไห้อยู่นานจึงค่อยสงบลง  เท็ดเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยนก่อนจะรินน้ำให้ดื่ม  เด็กหนุ่มยึดมือใหญ่ไว้เมื่อสังเกตเห็นรอยแผลและรอยเขียวช้ำทั้งหลังมือและที่ฝ่ามือ
         “พี่โดนอะไรครับ?”
         “ก็ตอนชุลมุนกันนั้นแหละ…กายดีขึ้นแล้วใช่ไหม…งั้นทานอะไรหน่อยนะ…หิวไหม”  ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนเรื่อง
         “แสบท้องจังครับ”
         “เดี๋ยวนะพี่จะสั่งซุบมาให้”
ชายหนุ่มโทรไปสั่งอาหาร  ครู่เดียวซุบอุ่นๆก็ถูกจัดมาให้พร้อมกับอาหารค่ำชุดใหญ่  ที่มีจดหมายขู่แนบมาว่าถ้าคนเฝ้าไข้ไม่กินจะสั่งห้ามเยี่ยม  เท็ดหัวเราะแล้วลงมือจัดการกับอาหารมื้อแรกนับแต่เกิดเรื่อง
         “พี่ตามผมเจอได้ยังไง?”  เด็กหนุ่มถามขณะที่เท็ดประคองให้นอนลงหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ
         “พวกมันขโมยเรือของรีสอร์ทหนี  เจฟฟรี่เลยตามได้เพราะเรือมีเรดาห์  พวกมันพากายไปที่เกาะร้างพี่กับเจฟตามด้วยเฮลิคอปเตอร์  ความจริงพี่ก็ตามไปติดๆนะมาคลาดกันตอนขึ้นเขา  แต่ก็ตามกายไปทันที่หนองน้ำนั่นแหละ”
         “คนที่ตามผมไป…เป็นพี่…งั้นแผลพวกนี้…ผมใช่ไหมที่ทำ...ผมทำให้พี่เจ็บใช่ไหมเท็ด?”  เท็ดใจหายเมื่อรู้ว่าพลั้งปากไป
         “เอ่อ…มะ…ไม่ใช่นะ…คือ…”
         “ผมขอโทษ…ผมเสียใจ…ผมไม่รู้ว่าเป็นพี่ผมขอโทษ…ฮือ…เท็ดขอโทษ….ผมเสียใจที่ทำให้พี่เจ็บ…ผม…ผม…เท็ด…ฮือ” เด็กหนุ่มเบิกตากว้าง  น้ำตาไหลพรูลงมา  ก่อนจะสะอื้นจนตัวงอด้วยความเสียใจที่เขาทำร้ายชายหนุ่ม
         “กาย…อย่าร้องไห้…กาย”
         “ผมขอโทษ…ฮือ…ขอโทษ”
         “น้องไม่ได้ตั้งใจ…พี่รู้…”
         “ทั้งๆที่พี่ตามไปช่วย….แต่ผมกลับทำให้พี่เจ็บ…ผมขอโทษ”
         “กายอย่าร้องไห้อีกเลยนะ…พี่ขอร้อง…พี่ไม่อยากเห็นกายร้องไห้อีกแล้ว…”
         “ขอโทษครับ…ขอโทษ”
         “กาย….ฟังพี่นะ…พี่ดีใจที่สุดที่ได้กายคืนมา…เรื่องอื่นมันไม่สำคัญเลย…เราได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว…และพี่สัญญาว่าจะดูแลกายให้ดีที่สุด…จะไม่มีวันที่เรื่องร้ายๆจะเกิดกับกายอีก…พี่สัญญา” เด็กหนุ่มคลายสะอื้นค่อยๆแตะที่รอยช้ำ
         “เจ็บมากไหมครับ?” 
         “ไม่หรอกแค่นี้เอง…สมัยพี่เล่นกีฬาพี่เจ็บยิ่งกว่านี้อีก”   มือบางเหนี่ยวใบหน้าครามลงมาหา  ปากอิ่มแตะบนรอยช้ำแผ่วเบา
         “กาย…”  เท็ดครางเสียงแผ่วเมื่อลิ้นนุ่มเลียที่รอยช้ำบริเวณมุมปากและบนโหนกแก้มให้  เด็กหนุ่มประคองหน้าเท็ดไว้  แต่เมื่อสบตากันจู่ๆก็มีภาพเด็กชายตัวผอมสูงกำลังก้มลงเป่าที่รอยแดงบนมือเล็กผอมซีดของเขา
         ‘ฟู่ๆ…หายแล้วแค่นี้เอง  กายของพี่เก่งที่สุด…ไม่เจ็บแล้วนะ’ 
         ‘เจ็บอ่ะ…ยังเจ็บอยู่เท็ดต้องให้ผมขี่คอด้วยล่ะ’
         ‘ก็ได้…แต่กายต้องสัญญาว่าจะไม่เล่นไฟอีกตกลงไหม?’
         ‘สัญญาฮับ’  ภาพซ้อนทับหายวับไป  เด็กหนุ่มตัวสั่นมือทั้งสองกุมแก้มสากไว้แน่น  จ้องมองตาคมอย่างตื่นตะลึงกับสิ่งที่เพิ่งจำได้ ประตูในความฝันเปิดซ้อนเข้ามาเป็นระรอก 
         ‘กาย…เราคือกายงั้นเหรอ?…เราคือกาย…’ 
 แต่ดูเหมือนเท็ดจะอยู่ในอารมณ์อื่น ตาคมหม่นลงด้วยความปราถนา  ชายหนุ่มเอียงหน้าไปจุมพิตที่มือนิ่มทั้งสองข้างก่อนจะเลื่อนลงมาประกบริมฝีปากกับปากอิ่ม ตอนแรกเพียงแค่การสัมผัสแผ่วๆแล้วค่อยๆเน้นหนักขึ้น  ลิ้นร้อนสอดเข้าไปในปากนุ่ม  มือเลื่อนมาประคองหน้านวลไม่ให้ถอยหนี  เด็กหนุ่มตัวสั่นหัวใจเต้นระทึก  ลมหายใจเหมือนถูกสูบออกจากร่าง  ในท้องราวกับมีกระแสไฟแล่นผ่านเผลอขยับเบียดอกกว้างแนบชิดยิ่งขึ้น  ร่างของทั้งคู่เอนแนบลงกับเตียงช้าๆมือร้อนลูบไล้จากเส้นผมนุ่มละเอียดระเรื่อยลงมาตามลำคอและแผ่นหลัง  แขนเรียวโอบรัดรอบลำคอเขาแน่น  ไฟปราถนากระพือโหมขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ 
         “เท็ด…”  เด็กหนุ่มหลุดเสียงครางแผ่วเมื่อปากร้อนเผยอออก  ตาคมเป็นประกายวาววาม  ไล้เลียบนริมฝีปากนุ่มอย่างหยอกเย้า  ฟันคมขบเม้มริมฝีปากล่างเบาๆแล้วค่อยเบียดจุมพิตลงมาอีกครั้ง  กายสะอื้นแผ่วเนื้อตัวร้อนผ่าว  รสสัมผัสฉุดคร่าสติสัมปชัญญะสุดท้ายออกจากร่าง  ในสมองว่างเปล่าขาวโพลนรับรู้เพียงปลายลิ้นร้อนที่กวาดไล้เขาขึ้นสูงแล้วดิ่งวูบลงมา  ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชายหนุ่มถอนปากออกตอนไหน  ตราบจนเห็นดวงตาวาววามจับจ้องเขานิ่งนาน  สติที่กลับมาอย่างฉับพลันทำให้เขาหน้าร้อนซู่  ไม่อาจทนสบตาชายหนุ่มได้อีก  เด็กหนุ่มซุกหน้าลงกับอกกว้างแทนการเผชิญหน้าได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วเบา  ตัวเขายังสั่นระริกหัวใจเต้นระรัวราวกับจะหลุดออกมานอกอก  ความตื่นเต้นที่เกิดจากความทรงจำที่กลับมาอย่างกระทันหันและความในใจที่เปิดเผยออกมา  หลังจากที่เขาเฝ้ารอมาตลอด  เท็ดจูบเขา!ไม่น่าเชื่อว่าเท็ดจะทำอย่างนี้ได้  แน่นอนว่ามันไม่ใช่การจูบราตรีสวัสดิ์เหมือนที่ผ่านมาหรือการจุมพิตปลอบประโลมยามเขาหวาดกลัว   มันแตกต่างจากทุกครั้ง  มันเหมือนกับจูบดื่มด่ำในความฝัน  แต่คราวนี้เขาไม่ได้ฝัน  เท็ดจูบเขาจริงๆ ทั้งที่ดูชายหนุ่มระมัดระวังยามที่ใกล้ชิดกันตลอดมา  แต่วันนี้…….
         “เท็ด…พี่…”
         “พี่รักกาย”  กายนิ่งอึ้งไปครู่ใหญ่ก่อนจะหลุดเสียงกระซิบแผ่วๆ
         “ผมก็รักพี่”  ชายหนุ่มชะงักก้มลงมองหน้าที่ซุกอยู่ที่อกอย่างตื่นเต้น
         “กายเข้าใจความหมายของพี่หรือเปล่า…พี่รักกาย…ไม่ใช่แบบพี่น้องนะ…เข้าใจหรือเปล่า?”
         “ขะ…เข้าใจครับ”
         “แล้ว…กายก็รักพี่แบบเดียวกัน?”
         “อื้อ…เท็ดอ่ะ…ไม่รู้แล้ว”  กายตอบเสียงสะบัดแต่กลับซุกหน้ากับอกเขาแน่นยิ่งขึ้น  เท็ดรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งตัว  ได้ยินเสียงหัวใจของคนในอ้อมแขนเต้นระทึกไม่แพ้กัน  ค่อยๆช้อนหน้านวลขึ้น  เด็กหนุ่มตัวสั่นแต่ปากอิ่มเผยอรอรับลิ้นร้อนที่แทรกเข้าไปชิมความหวานในปาก  ลมหายใจของทั้งคู่หอบกระชั้น  ทั้งตื่นเต้นและวาบหวามราวกับกำลังร่วมรักทั้งที่ยังไม่ได้แตะต้องกันมากไม่กว่าการจูบเท่านั้น
         “กาย…กาย…พี่รักกาย…กาย” ชายหนุ่มครางเสียงสั่น  เฝ้าวนเวียนจุมพิตทั่วหน้านวลอย่างลุ่มหลง  ทั้งคู่ต่างตกอยู่ในห้วงอารมณ์จนไม่ได้ยินเสียงประตูเปิด   

 จีนส์ผงะถอยกรูดจนเกือบล้ม  ก่อนจะหันหลังวิ่งออกมาราวกับคนบ้า  ไม่!…ทำไมกลายเป็นอย่างนี้  ทั้งๆที่คิดว่าจะได้เห็นกายเจ็บแบบที่เขาเคยเจ็บ  ได้เห็นเท็ดบ้าคลั่งด้วยความแค้นเหมือนที่เขาเคยเป็น  และได้เห็นคนทั้งคู่เลิกร้างกัน  แต่กลับตรงกันข้าม  เท็ดกับกายกอดจูบกันเหมือนกับจะกำลังร่วมรักกันด้วยซ้ำ
         ‘แพศยา…ทุเรศ…แกไม่น่าจะรอดกลับมา…ทำไมแกไม่ตายไปเสีย…ทำไม!’ 
         “อ๊าาาาาาา!!!!!!  ฉันเกลียดแก!!!เกลียดแกที่สุด  ทำไมเท็ด!   ทำไม!!….พี่ไม่เคยรักผม…ไม่เคยเลย…ไม่มีใครรักผมเลย…ทำไม…ฮือ…ทำไม๊!!”
         จีนส์กรีดร้องออกมาสุดเสียงแล้วกระโดดลงไปในทะเล  ร่างสูงที่วิ่งตามมากระโจนตามลงไปคว้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว  จีนส์กรีดร้องและก่นด่าอยู่ตลอดเวลา  แต่ด้วยรูปร่างที่ต่างกันสุดขั้วทำให้เด็กหนุ่มถูกหิ้วกลับไปในโรงพยาบาล  พยาบาลสาวปราดเข้ามาหาขณะที่เจฟฟรี่ล๊อคร่างบางไว้ไม่ให้ดิ้น  เพียงครู่เดียวอาการทุรนทุรายก็ลดลงและเงียบสงบในที่สุดด้วยฤทธิ์ยา  เจฟฟรี่ช้อนร่างเปียกโชก  ขึ้นมาอุ้มแล้วพากลับไปยังห้องพัก โชคของจีนส์ยังดีที่ชายหนุ่มสั่งให้คนจับตาดูความเคลื่อน ไหวของเด็กหนุ่มอยู่ตลอดเวลาทำให้สามารถช่วยไว้ได้ทัน  เพราะกลางดึกอย่างนี้โอกาสที่จะมีคนเห็นจีนส์โดดลงไปในน้ำคงแทบไม่มี
         
         พยาบาลสาวที่เข้ามาจะวัดไข้รีบถอยออกมาแทบไม่ทันแล้วออกมายืนหน้าตาตื่นอยู่ข้างนอกจนหัวหน้าเดินผ่านมาเจอ 
         “เธอมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้…วัดไข้เสร็จแล้วเหรอ?”
         “หัวหน้าคะ…ในห้องน่ะ…เข้าไม่ได้ค่ะ”  พยาบาลสาวกระซิบกระซาบท่าทางมีเลศนัย
         “ทำไม?”
         “ก็…คุณพอลลิ่ง…เอ่อ…อยู่บนเตียงกับคนไข้นะสิคะ”
         “แล้วไง?”
         “ก็แหม…ถ้าเข้าไปเกิดเขากำลัง…แฮ่ม!จะทำไงละคะ?”
         “มันไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องสนใจ…หน้าที่เธอคือเข้าไปดูแลคนไข้…นี่คงเข้าไปโดยไม่เคาะประตูอีกละสิ”
         “ก็…ขอโทษค่ะ”
         “กลับไปทำหน้าที่เธอให้เรียบร้อย”
         “แต่ว่า…”
         “เลือกเอาว่าจะทำงานให้เรียบร้อยหรือจะให้ฉันเขียนรายงานเธอ”
         “ขอโทษค่ะ..จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ”
พยาบาลสาวสูดลมหายใจลึกพร้อมกับเคาะประตูเบาๆก่อนจะเข้าไป  แต่ร่างสูงยังคงนอนอยู่บนเตียงเธอจึงเปิดไฟดวงเล็กซึ่งแสงสว่างไม่มากนัก  เท็ดสะดุ้งเพิ่งรู้สึกว่ามีคนเข้ามาในห้อง  ชายหนุ่มพึมพำขอโทษแล้วรีบลงจากเตียงเพื่อให้พยาบาลเข้ามาดูน้ำเกลือและเลือดให้กาย
         ‘โธ่เอ๊ย!นึกว่าจะมีฉากเด็ดที่แท้ก็แค่นอนเป็นเพื่อนเฉยๆเหรอเนี่ย…เซ็งเป็นบ้าอุตสาห์ลุ้นแทบตาย’
      
         นอกหน้าต่างหม่นมัวด้วยหมอกยามเช้า แต่หัวใจของกายกลับกระ-
จ่างใสและอบอุ่นด้วยความสุขเมื่อลืมตาขึ้นมาก็ได้สบกับตาคมที่จับจ้องอยู่ก่อนแล้ว
         “อรุณสวัสดิ์  กำลังคิดว่าจะต้องจูบปลุกหรือเปล่า”
         “ผมไม่ใช่เจ้าหญิงนิทราสักหน่อย”  เด็กหนุ่มบ่นอุบอิ่บอย่างเขินๆ
         “นั่นสิ…แต่อยากจูบเฉยๆจะได้ไหม?”
         “……”  กายอ้าปากค้างแล้วหุบฉับหน้าแดงระเรื่อ  ไม่อยากจะเชื่อว่าเท็ดจะพูดจาแบบนี้เป็น  ตาคมแพรวพราวและดูเจ้าเล่ห์
         “ไม่ตอบถือว่าอนุญาต…อรุณสวัสดิ์จ้ะ  ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ…หรือว่า…ฮะฮะฮะ”
         “เท็ดบ้า…หยุดหัวเราะนะ!…หยุดสิ…บ้าๆๆ” เด็กหนุ่มหน้าแดงซ่านด้วยความอาย  เพราะคิดว่าชายหนุ่มจะจูบแบบเมื่อคืนจึงเผลอเผยอปากรอ  แต่เท็ดเพียงแต่จุมพิตเบาๆที่หน้าผากเหมือนทุกครั้งเท่านั้น  ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจ  ปล่อยให้ร่างบางทุบเขาด้วยความอาย  กายดึงผ้าขึ้นมาคลุมศรีษะจนมิดเพราะไม่กล้าสู้หน้า  ขณะที่เท็ดยังหัวเราะไม่หยุด  ทำให้ชายสองคนที่กำลังจะเข้ามาในห้องหยุดชะงักและเหลียวสบตากันอย่างยินดี  ก็อกๆๆ…. 
         “เชิญครับ”
         “อรุณสวัสดิ์ครับคุณเท็ด…คุณกายเป็นอย่างไรบ้างครับ…สีหน้าดูดีมาก…ปวดแผลไหมครับ?”
         “นิดหน่อยครับ…”
         “อืม…ถ้าเป็นอย่างนี้อีกไม่กี่วันก็กลับบ้านได้แล้ว”
         “ดีจัง…ผมอยากกลับเร็วๆ…ผมไม่ค่อยถูกโรคกับโรงพยาบาลสักเท่าไหร่…ถึงมันจะดูเหมือนโรงแรมห้าดาวมากกว่าโรงพยาบาลก็เถอะครับ”กายคุยจ้อยๆโดยไม่ได้สังเกตเห็นสายตาของเจฟ
         “กายคุยกับคุณหมอก่อนนะ”
         “ครับ”
         “มีอะไรเจฟ?”  ชายหนุ่มถามทันที่ปิดประตูสนิท
         “คุณจีนส์โดดทะเลเมื่อคืน”
         “อะไรนะ!!…แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่า?”
         “ไม่ครับ  ผมให้คนจับตาดูไว้ตลอดเลยช่วยไว้ทัน”
         “เด็กบ้า!ชอบทำเรื่องบ้าๆอยู่เรื่อยแค่นี้ยังวุ่นวายไม่พอหรือไงก็ไม่รู้”  เท็ดถอนใจเฮือกยกมือขึ้นเสยผมอย่างหงุดหงิด
         “เมื่อคืนคุณจีนส์แอบมาที่ห้องนี้…”
         “มาห้องนี้…ทำไมผมไม่เห็นล่ะ…หรือว่า…”
         “ผมเห็นวิ่งกระเซอะกระเซิงออกไปเลยรีบตาม…คุณจีนส์โดดน้ำที่ท่าเรือหน้าโรงพยาบาลนี่เองครับ”
         “เฮ้อ!…ทำไมเป็นอย่างนี้นะ….ขอบคุณนะเจฟ…คุณช่วยผมไว้ตั้งหลายเรื่อง…ขอบคุณมากๆ”
         “ไม่เป็นไรครับ…แค่นี้ยังไม่ได้ครึ่งที่คุณเคยช่วยน้องผมและช่วยคุณริชกับคุณราเชลด้วยซ้ำ”
         “บ้าน่า…เรื่องริชกับราเชลน่ะถึงผมไม่ช่วยคุณก็ต้องทำให้เขาดีกันได้อยู่แล้ว…ส่วนเรื่องน้องคุณเป็นใครก็ต้องทำแบบผมทั้งนั้น”
         “ไม่มีใครกล้าเสียงตายขนาดนั้นหรอกครับ…ทั้งๆที่ทุกคนหมดหวังแต่คุณกลับลุยเข้าไปเอาเธอออกมาจนตัวเองเจ็บแทบตาย”
         “เอาเป็นว่า…เราต่างคนต่างช่วยกันตกลงไหม…คุณเคยสัญญาแล้วนี่  ว่าเราเป็นจะเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องกัน…จำได้ไหม…เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ถือว่าพี่น้องช่วยเหลือกันดีไหมครับ?”
         “ครับผม”
         “แล้วแจ็คเป็นไงบ้างครับ?”
         “เมื่อคืนรู้สึกตัวดีแล้วครับ  สายๆหมอคงให้ย้ายมาห้องพิเศษได้”
         “ผมไม่ได้ไปดูเขาเลย…แย่จริง”
         “คุณจะแยกร่างไปหรือไงครับ…ทั้งคุณกายทั้งแจ็คจะไปดูแลพร้อมกันได้ยังไง อีกอย่างแจ็คก็อยู่ในความดูแลของหมอไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว  แต่คุณกายน่ะไม่ใช่แค่บาดเจ็บทางกายนะครับ  เจอเรื่องแบบนี้คงขวัญหายอีกนาน”
         “ผมอยากขุดมันขึ้นมาสับเป็นชิ้นๆ…”  เท็ดกัดกรามแน่นตาเป็นประกายกร้าว
         “ตกลงว่าเป็นฝีมือ…?”
         “ครับ…ผมก็นึกไม่ถึงว่ากายจะกล้า”
         “ผมดีใจที่คุณกายกล้า…ไม่อย่างนั้นเรื่องคงเลวร้ายกว่านี้”  เท็ดหันไปมองหน้าห้องกายด้วยความเสียใจ
         “แต่มันทำให้กายเจ็บปวด…ผมรู้ว่ากายกลัวแค่ไหนที่ต้องฆ่าคนตาย…ทำไมนะเจฟ…ผมช่วยใครๆได้…แต่ผมกลับช่วยคนที่ผมรักไม่ได้เลยสักครั้ง…ผมมันทุเรศ…ห่วยแตก”
         “คุณเท็ด…คุณไม่ใช่พระเจ้านะครับ…คุณจะควบคุมทุกอย่างในโลกนี้ได้ยังไง…อย่าโทษตัวเองเลยครับ  ตอนนี้คุณกายกำลังอ่อนแอถ้าคุณไม่เข้มแข็งคุณกายจะพลอยแย่ไปด้วย” 
         “ขอบคุณเจฟที่เตือนสติผม”  ชายหนุ่มสลัดศรีษะแรงๆเพื่อลดความเครียดก่อนจะถอนใจเฮือกใหญ่  เจฟตบที่ไหล่เบาๆ
         “เราเข้าไปข้างในกันเถอะครับ  เดี๋ยวคุณกายจะสงสัย”
               
......


คงจะไม่มีเรื่องเลวร้ายกว่านี้อีกนะ แค่นี้กายก็ช้ำพอแล้ว
ขอบคุณคะ แล้วเจอกันใหม่คะ :pig4:

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ความรักความเอาใจใส่จึงจะช่วยกายได้ เท็ดต้องพยายาม

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
 :monkeysad: :monkeysad: กายจำได้แล้วดีจังเลย


ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
โอ้...มาตามอาดรวดเดียวตั้งกะเมื่อคืน
ทำไมถึงพลาดเรื่องนี้ไปได้หว่า
ดีใจที่ได้อ่านนะคับ
เขียนดีอ่ะ
...
 o13

hene2526

  • บุคคลทั่วไป
ใครก็ได้ช่วยปลุกคุณน้องจีนส์ขึ้นมาตบให้หายมึนสักที่สิ รู้สึกจะเข้าใจอะไรยากและก็ร้ายขึ้นทุกวันเลยนะ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ดีใจจัง กาย ดีขึ้นแล้ว แถมไม่โดนทำไรด้วย   :mc4:
แต่ จีนส์ นี่สิกลับน่าเป็นห่วงแทน

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
ดีใจด้วยที่กายมีอาการดีขึ้น แต่จีนส์นี่สิน่าเป็นห่วง

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
กายจำได้แล้ว ดีใจจัง
เข้าใจกันไประดับหนึ่งแล้วด้วย
แต่ก็สงสารจีนส์เหมือนกันนะ ไม่ยอมรับความจริงเสียที
บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ลุ้นๆๆๆ วันนี้มามั้ยเอ่ย  :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ tianqin

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
คิดถึงกายกันแล้วใช่ไหม มาอ่านต่อกันเลยคะ
..............

         หลังจากกายเข้ารับการรักษาได้2สัปดาห์หมอก็อนุญาตให้กลับบ้านได้  เท็ดเฝ้าประคบประหงมดูแลไม่ห่าง  เวลามีเรื่องสำคัญที่บริษัทก็ได้ริชกับราเชลเข้าไปดูแลให้  แต่ส่วนใหญ่จินนี่จะจัดการได้เรียบร้อย  จีนส์เฝ้ามองคนทั้งสองอย่างขมขื่นและเจ็บปวด  ไม่มีแม้แต่หางตาที่เท็ดจะเหลือบแลมายังเขา  ชายหนุ่มแทบจะไม่ปล่อยกายลงพื้นด้วยซ้ำ  ไปไหนก็อุ้มก็กอดกันตลอดเวลาเด็กหนุ่มร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหล…แค้นแสนแค้นแต่ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากทนดูภาพบาดตาอยู่อย่างนี้
         “ทำไมมาอยู่ตรงนี้ละครับ…ผมว่าคุณควรเข้าบ้านก่อนที่จะหนาวตายนะ แล้วเหล้านี่ก็ไม่ใช่ของที่เด็กควรดื่มด้วย” เจฟดึงขวดเหล้าออกจากมือเล็ก  จีนส์พยายามขัดขืนแต่ไม่สำเร็จ  ตาโตหวานเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ เหลือบมองเจฟ อย่างยั่วยวน
         “เจฟ…นอนกับผมไหม?”
         “ไม่ครับ”  คำตอบสวนทันควันทำให้จีนส์งง  ก่อนจะเจ็บจี๊ดด้วยความผิดหวัง
         “ทำไม…ฉันไม่ดีตรงไหน…ฉันน่ารังเกียจนักหรือไงใครๆถึงปฏิเสธฉันกันหมด”  เด็กหนุ่มกรีดเสียงโหยหวนแต่เจฟยังยิ้มนิดๆอย่างใจเย็น
         “ผมไม่นอนกับคุณเพราะผมไม่ชอบเด็ก...ผมชอบคนที่พอฟัดพอเหวี่ยงกันมากกว่า”
         “ตาแก่! งั้นฉันไปหาคนอื่นก็ได้”  จีนส์ทำเสียงหยัน  พยายามจะยันตัวลุกขึ้นแต่ไม่สำเร็จ
         “อย่าประชดด้วยวิธีนี้เพราะสุดท้ายคนที่เจ็บก็คือคุณ”
         “อย่ามาแส่…นายไม่ใช่พ่อฉัน…ขนาดพ่อฉันยังไม่เคยห้ามฉันเลย”
         “คุณก็เลยเจ็บปวดที่ไม่มีใครห้ามสินะ?”
         “อย่ามาทำรู้ดีหน่อยเลย”
         “คุณจีนส์ผมขอเตือนอะไรไว้อย่าง…อย่าหาเรื่องอีกเลยแค่นี้คุณก็เจ็บมากแล้ว”
         “แล้วใครล่ะที่ทำให้ฉันเป็นอย่างนี้…เพราะเท็ดคนเดียว…เท็ดทำร้ายฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่เขาไม่เคยสำนึกเลย…ดูสิเขามีความสุข…แต่ฉันทุกข์  ทุกข์จนจะบ้าอยู่แล้ว”  จีนส์ตวาดแหวน้ำตาร่วงพรูลงมาทันที
         “คุณก็รู้ว่ามันไม่จริง” 
         “เรื่องจริงต่างหาก…ฉันรักเขา…ฉันต้องเจ็บตัวก็เพราะเท็ด…แต่เขาไม่สนเลย…อยากรู้นักว่าถ้าฉันตายไปต่อหน้าเขาจะเสียใจไหม” 
         “อย่าโทษคนอื่นสิครับ”
         “โทษเหรอ? อย่ามาเข้าข้างกันหน่อยเลย แน่ละสินายมันก็หมารับใช้ริชนี่ ขี้ข้าที่แสนดี พวกคนดีจอมปลอม!  ชอบเล่นเป็นคนดีแต่จริงๆแล้วก็สารเลวที่สุด เขาหลอกให้ฉันรักแล้วก็สลัดทิ้ง พอได้กายกลับมาเขาก็ทิ้งฉัน  นั่นก็เลวพอกัน…ความจริงกายไม่ควรจะรอด...ไม่ควรกลับมา...ถ้าไม่มีกายป่านนี้เท็ดกับฉันก็มีความสุขด้วยกันแล้ว แต่พอกายมาทุกอย่างก็พังหมด! ฉันไม่เหลืออะไรเลยก็เพราะมัน
…ทำไมคนเลวๆอย่างนี้ถึงรอดมาได้ พระเจ้าไม่มีจริง!ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่ต้องเจ็บปวดอย่างนี้หรอก จริงสินะถ้าไม่มีแก ไอ้กาย!ฉันจะฆ่าแก คอยดูนะ ฉันจะทำให้แกไม่มีความสุข ฉันจะทำให้แกเจ็บยิ่งกว่าที่ฉันเจ็บเป็นร้อยเป็นพันเท่า พวกแกทุกคนระวังตัวไว้เถอะ ฉันจะให้พ่อจ้างนักฆ่ามาฆ่าพวกแก ฮือ! แม่ครับ…ช่วยด้วย… ช่วยผมด้วย พวกมันรังแกผม…พวกมันรุมทำร้ายผม…ช่วยด้วย…ฮือ…” จีนส์นอนเกลือกกลิ้งไปมาด้วยความเมา  เจฟส่ายหน้าอย่างเวทนา  ร่างสูงหนาก้าวเข้ามายืนเคียงข้างเจฟ  สายตาที่มองจีนส์ทั้งสงสารและห่วงใย
         “เฮ้อ! เมาจนขาดสติ…พาไปนอนหน่อย…ระวังล่ะ!อย่าให้ออกมาโดดทะเลกลางดึกได้อีกนะ”
         “ครับผม”ชายผิวคล้ำช้อนร่างบอบบางขึ้นอุ้มราวกับอุ้มเด็กพากลับไปยังบ้านพักอย่างรวดเร็ว
ความเย็นของน้ำช่วยให้สติสัมปชัญญะค่อยกลับคืนมา  จีนส์รู้สึกเย็นวาบเมื่อเสื้อถูกถอดออกไป  หน้าดำๆที่ลอยเด่นทำให้เขาผวาอย่างตกใจ
         “นายเป็นใคร? ปล่อยนะ! อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!”  เด็กหนุ่มปัดมือที่จับแขนเขาออก
         “เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยนอนนะครับ เสื้อคุณเลอะมาก เมื่อครู่นี้คุณอาเจียนรด”
         “ไม่เอา อ๋อ!นายจะลวนลามฉันละสิ อยากนอนกับฉันก็บอกมาตรงๆสิ”  จีนส์ทำเสียงหยัน  แต่หน้าดำๆนั้นยังคงสงบนิ่งไม่มีวี่แววว่าจะโกรธ  เมื่อได้พิจารณาจึงได้เห็นถึงความคมคาย สีผิวที่ออกแดงไม่ดำสนิทแบบนิโกร  เด็กหนุ่มหมั่นไส้หน้าเรียบเฉยนั้นขึ้นมาทันควัน  เท้าขาวพาดไปบนเป้ากางเกงทหารสีเข้มมือเล็กแหวกสาบเสื้อคลุมออกอย่างจงใจ
         “สวมเสื้อเสียเถอะครับ…คุณจีนส์อย่าทำอย่างนี้”  หางเสียงเรียบเปลี่ยนเป็นปรามเมื่อร่างบางพริ้วลงมาบนตัก  แขนเรียวโอบรัดรอบคอเขาอย่างยั่วยวน
         “ปากแข็ง…นายอยากนอนกับฉันใช่ไหม…ฉันรู้น่า…มาสิ…กอดฉันหน่อย…ฉันเหงา…ฉันไม่มีใครเลย”  หางเสียงว้าเหว่จนคนฟังรู้สึก  มือที่เตรียมผลักไสเลื่อนขึ้นโอบรัดอย่างนุ่มนวล  จีนส์ซบหน้าลงบนแผ่นอกกว้าง  ได้ยินเสียงกระซิบแผ่วข้างหู
         “พรุ่งนี้คุณจะเสียใจที่ทำอย่างนี้”
         “ไม่!ฉันไม่มีวันเสียใจ…เท็ดต่างหากที่ต้องเสียใจ….มาเถอะ…กอดฉันสิ…กอดฉันแน่นๆ…อือ” เด็กหนุ่มครางแผ่วเมื่อฟันคมขบเม้มที่ติ่งหูแล้วไล้ไปหาซอกคอขาว  ร่างบางเบียดรับทุกสัมผัสอย่างเร่าร้อน
         “เท็ด…เท็ด…กอดผมอีก…เท็ด…อาาาา…ซี๊ด…เท็ด…แรงอีก…เท็ด…อือ…อ๊าาาา”  เสียงใสหวีดระงม  ร่างบางบิดเร่าด้วยความทรมาน  ทุกสัมผัสที่ปรนเปรอให้ทั้งเชียวชาญและนุ่มนวลอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัส  จีนส์ผลอยหลับไปอย่างอิ่มเอม  รอยยิ้มยังปรากฎบนปากอิ่ม  แม้เมื่อร่างสูงจะถอยออกก็ผวาตามอย่างตกใจจนชายหนุ่มไม่สามารถทิ้งไปได้
       
          ม่านที่ไม่ได้ปิดทำให้แสงยามเช้าลอดเข้ามาส่องตา  เปลือกตากว้างขยับยุกยิกอย่างรำคาญ  ก่อนจะลืมขึ้นเจอกับแผ่นอกกว้างในเสื้อยืดสีขาว  จีนส์ลูบไล้อย่างยินดีก่อนจะเลื่อนตัวขึ้นจะจูบ  แต่เมื่อเห็นใบหน้าของคนที่ตนกอดได้ถนัด  ก็ถึงกับผวาลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจ 
         “เท็ด…อะ…กะ…แกเป็นใคร!ทำไมเข้ามาอยู่ในห้องฉัน…หรือว่า…ไม่!ไม่จริง!” จีนส์หน้าซีด เมื่อพบว่าทั่วร่างเปลือยของตนมีรอยจ่ำสีแดงเต็มไปหมด
         “เมื่อคืนคุณเมามาก”  ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่ง  ใบหน้าคมเรียบเฉย
         “แกก็เลยฉวยโอกาส! เลวที่สุด! ออกไปนะ…ออกไป๊!”  จีนส์ร้องกรี๊ดปราดเข้าทุบตีและผลักไส
         “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ชายหนุ่มยึดมือเล็กไว้
         “สงบสติอารมณ์แล้วหัดฟังคนอื่นเสียบ้าง…เมื่อคืนผมไม่ได้ล่วงเกินคุณมากไปกว่าการใช้มือกับปากเข้าใจไหม…แล้วไอ้รอยบนตัวคุณน่ะคุณเป็นคนขอให้ผมทำ”
         “หมายความว่า…”  จีนส์หยุดดิ้นสีหน้าดีขึ้นทันที
         “ผมแค่ช่วยกอดไม่ให้คุณเหงาเท่านั้น…ผมแค่เป็นตัวแทนคนที่คุณคิดถึง”
         “ฉะ…ฉันไม่ได้เหงา…พูดบ้าอะไร?”  เด็กหนุ่มปฏิเสธอึกอัก
         “แต่คุณเรียกหาเขาทั้งคืน…หรือว่าจำไม่ได้ผมจะทบทวนให้ฟัง”
         “หยุดนะ! ไปให้พ้น…เดี๋ยว!!เอ่อ…อย่าให้ใครรู้นะว่านายนอนที่นี่”  ประโยคหลังทอดอ่อนเหมือนจะขอร้องมากกว่าสั่งอย่างที่เคยเป็น
         “ผมไม่พูดหรอก…แต่คนอื่นจะพูดหรือเปล่าผมไม่รู้  เพราะเมื่อคืนเสียงคุณดังมาก”
         “บ้า!ทุเรศที่สุด”  จีนส์โวยหน้าแดง  ชายหนุ่มกอดอกมองร่างเปลือยบนเตียงด้วยท่าทางพิจารณา
         “จะว่าผมแส่ก็ได้แต่ผมอยากถามอะไรคุณสักอย่าง…คุณจะต้องตื่นขึ้นมาร้องไห้อีกกี่ครั้งถึงจะเลิกประชดบ้าๆแบบนี้  คนอื่นเขาก็แค่สมเพชคุณเท่านั้น…แต่คุณสิเสียทุกอย่าง…ทำไมคุณไม่หาคนของคุณให้เจอล่ะ”
         “แล้วนายล่ะ?”  จีนส์ทำเสียงพาลๆ
         “ผมเจอแล้ว…แล้วผมก็รักของผมมากด้วย…ผมอยากให้คุณรู้ว่ารสชาติของรักที่แท้จริงนะ  ว่ามันหอมหวานขนาดไหน…อย่าเสียเวลาอยู่กับความฝันอีกเลยเพราะพอตื่นคุณก็ไม่เหลืออะไร”
         “งั้นเหรอ? คนของเราเหรอ…นายชื่ออะไร? อ้าว!ไปไหนแล้วล่ะ…ช่างเถอะ…ขอบใจนะ”  จีนส์มัวแต่ครุ่นคิดจนไม่ได้สังเกตว่าชายหนุ่มออกไปตอนไหน  แต่เมื่อไม่เห็นใครจึงกล้าขอบใจเบาๆโดยไม่รู้ว่าคนฟังยืนยิ้มอยู่หลังประตู

....

ออฟไลน์ tianqin

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
.......
         กายควานมือไปรอบๆแต่ไม่เจอร่างหนาที่ให้ความอบอุ่นมาทั้งคืน  เด็กหนุ่มพลิกตัวขึ้นมองนาฬิกาอย่างแปลกใจ  เพิ่งจะหกโมง  เท็ดจะรีบร้อนตื่นไปไหนหรือว่าวันนี้มีประชุม  กายคว้าเสื้อคลุมมาสวมแล้วออกมาตามหาเท็ดข้างนอก  เสียงพูดคุยผสมกับเสียงร้องไห้ดังลอดมาจากสวนหน้าบ้าน  เด็กหนุ่มชะงักเมื่อสังเกตเห็นคนที่กำลังสนทนากับเท็ด  ร่างสูงยืนนิ่งขณะที่ร่างบางโผเข้าไปกอด  กายเจ็บจี๊ดในอก  รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัวด้วยความหึงหวง  วูบแรกรู้สึกเพียงอยากจะวิ่งเข้ากระชากร่างบางๆนั้นออกมาต่อยให้สาแก่ใจ  แต่สำนึกถัดมากลับทำให้ต้องหยุดชะงักอยู่แค่นั้น  หากเขาลงไปทำอย่างนั้นคนที่เจ็บปวดอาจเป็นเท็ดเพราะเท็ดคงเสียใจที่เขาทำเหมือนไม่เชื่อใจ  ที่ผ่านมาเขาเองก็รู้ว่าเท็ดพยายามแค่ไหนที่จะแสดงให้เห็นถึงความรักความซื่อสัตย์ที่มีให้  แต่นั่นแหละสิ่งที่ทำให้ยังหวั่นไหวมากที่สุดก็คือสัมพันธภาพของเขาและเท็ด  ที่ไม่คืบหน้าไปกว่าตอนอยู่โรงพยาบาลสักนิด  เท็ดยังคงนอนกอดเขาไว้จนเช้าแต่ไม่เคยมีอะไรมากไปกว่าจูบ  กายเบือนหน้าหนีภาพบาดตากลับเข้าห้องตั้งใจจะอาบน้ำ  มือที่ปลดเสื้อคลุมชะงักเมื่อร่างกายซีกซ้ายปรากฏขึ้นบนกระจก  นิ้วสั่นระริกค่อยๆลูบไปมาบนรอยหยักนูนของแผลเป็นก่อนจะสวมเสื้อไว้อย่างเดิม  แล้วออกไปยืนรับลมเย็นเฉียบที่ระเบียงด้านหลัง  จะแปลกอะไรถ้าเท็ดจะเลือกจีนส์ในเมื่อตัวเขาเองมีสภาพที่น่ารังเกียจขนาดนี้  หากเท็ดได้เห็น…คงกอดไม่ลงแน่ๆ  เด็กหนุ่มยืนคิดว้าวุ้นจนเห็นจีนส์เดินร้องไห้กลับบ้านพักไป  ท่าทางเหมือนคนหัวใจสลายนั้นทำให้กายสะท้าน  รู้สึกเหมือนเห็นเงาสะท้อนของตัวเองจากจีนส์ 
อ้อมแขนแข็งแรงโอบตัวเขาเข้าไปหา   “ทำไมออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะ…ไม่หนาวเหรอ?” 
         “ไม่ครับ  เอ่อ…”  แม้จะเอนซบกับอกอุ่น  แต่ใจยังกระวนกระวายกับภาพของเท็ดกับจีนส์
         “มีอะไร?” เท็ดจูบชิดขมับและกระซิบถามเบาๆ  แม้จะพอเดาได้แต่ก็ยังอยากได้ยินจากปากกายมากกว่า
         “จีนส์เขา…เอ่อ…เปล่าครับไม่มีอะไร”
         “ถามสิกายแล้วพี่จะเล่าให้ฟังทุกอย่าง”เท็ดหมุนร่างเพรียวกลับมาเผชิญหน้า  กายส่ายหน้าแต่ดวงตาดูหมองๆ
         “อย่าเลยครับ…บางที…ผมก็ไม่ควรแทรกเข้าไประหว่างพี่กับจีนส์”
         “ทำไมล่ะ…กายไม่อยากรู้เหรอว่าพี่คุยอะไรกับจีนส์?”  ข้อนิ้วยาวเกลี่ยแก้มนวลเบาๆ  กายกดมือเท็ดให้แน่บชิดกับแก้มมากขึ้นเพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง  แต่สายตายังจับเพียงระดับอกไม่กล้าเงยขึ้นสบตา
         “จีนส์เขาคงอยากให้เป็นเรื่องระหว่างพี่กับเขามากกว่า” 
         “กายเปลี่ยนไปนะ”
         “ดีหรือแย่ครับ?” กายเงยหน้าขึ้นมาสบตา
         “เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น…แล้วก็น่ารักขึ้นด้วย”
         มือเล็กเลื่อนขึ้นกอดรอบคอแล้วซุกหน้าอยู่กับอกกว้าง  เท็ดสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงความร้อนบริเวณหน้าอก  ร่างในอ้อมแขนสั่นสะท้านและมีเสียงสะอื้นลอดออกมา
         “กาย!เป็นอะไรไป?”
         “เท็ด…ผมไม่ได้เป็นผู้ใหญ่เลยสักนิด…ตอนแรกผมทั้งหึงทั้งหวงกลัวพี่จะเลือกจีนส์…แต่ตอนที่จีนส์กลับไปผมเห็นเขาร้องไห้  ผมถึงได้คิดว่า…ถ้าวันนี้คนที่เท็ดเลือกเป็นจีนส์  แล้ว….คนที่ต้องไปก็คงจะเป็นผม…เท็ดผมกลัว…กลัวพี่จะไม่รักผม…กลัวว่าพี่จะเจอคนที่ดีกว่าแล้ว…แล้ว…เท็ด…อย่าทิ้งผมเลยนะ…ผมรักพี่…ถ้าไม่มีพี่ผมก็ไม่รู้อยู่ไปทำไม?”
         “ทำไมกายคิดแบบนี้…พี่รักกายนะ…รักมาก  รักมาตลอดและไม่เคยมีใครเลย…กายเชื่อใจพี่เถอะนะ” ชายหนุ่มพยายามจะช้อนหน้านวลขึ้นมา แต่กายเบียงหนีและซุกอยู่กับอกเขาแน่น  เสียงสะอื้นแรงยิ่งขึ้นน้ำตาเปียกเสื้อที่เขาสวมจนชื้น 
         “ผมรู้เท็ดผมรู้…ผม…ผมมันบ้าไปเอง  ที่เอาแต่ระแวงพี่  แต่…ผม…ผมกลัว”
         กายพูดกระท่อนกระแท่นด้วยความทรมานใจ  เท็ดช้อนหน้าที่เปื้อนน้ำตาขึ้นมาจนได้  ความเจ็บปวดและหวาดกลัวของกายฉายชัดออกมาทั้งสีหน้าและแววตา  แววตาที่สะท้อนภาพเดียวกันกับเขาในวันที่คิดว่าจะต้องสูญเสียกายไป   
         “พี่รักกาย  พี่จะพิสูจน์ให้กายได้รู้ว่าพี่รักกายแค่ไหน…อยู่ที่กายแล้วล่ะว่าจะให้โอกาสพี่ไหม?”  เท็ดเช็ดน้ำตาออกให้อย่างนุ่มนวล 
          “พิสูจน์?!!?…จะพิสูจน์ยังไงครับ” 
          “แบบนี้ไง…”
         “เท็ด!!…อื้อ…อย่าครับ!” เด็กหนุ่มหัวเราะคิกดิ้นหนีเมื่อถูกดูดเม้มบริเวณใบหูกับซอกคอ  แต่เท็ดจุมพิตซ้ำอย่างเย้าหยอกมือก็โอบรัดร่างเล็กไว้จนดิ้นไม่หลุด  กายร้องห้ามไปดิ้นไปจนหอบฮัก  แม้จะดันคางบุ๋มไว้แน่นแต่เท็ดก็ยังก้มต่ำลงมาเรื่อยๆ  ความตั้งใจเย้าแหย่ในตอนแรกเปลี่ยนไป  สัมผัสแนบชิดกระตุ้นให้ความ ปรารถนาที่แฝงอยู่เงียบๆปะทุขึ้นโดยไม่ตั้งตัว 
         “เท็ด….”  กายหลุดเสียงครางหวิวออกมา  ยังไม่ทันจะขยับหนีปากร้อนก็ปิดแนบลงมาอย่างรวดเร็ว  กายเกร็งร่างอย่างตกใจในตอนแรกแล้วจึงค่อยผ่อนลง  เพราะสัมผัสจู่โจมนั้นไม่ได้รุนแรง  หากแต่นุ่มนวลและหวานหวามอย่างประหลาด  ลิ้นร้อนกอดเกี่ยวจนสติกระเจิดกระเจิง  เด็กหนุ่มทำได้เพียงกอดร่างหนาไว้ยามที่ถูกอุ้มกลับเขามาในห้อง  แม้เท้าจะสัมผัสพื้นแล้วแต่ขากลับอ่อนเปลี้ยไร้เรียวแรงทรงตัว  หากไม่มีอ้อมแขนของเท็ดโอบรัดไว้เขาคงทรุดลงไปกองกับพื้นแล้ว  มือที่ลูบผ่านลงมาบีบคลึงสะโพก ร้อนผ่าวจนทะลุผ่านเนื้อผ้า  กายหลุดเสียงครางอย่างเผลอตัวแต่เสียงก็ถูกดูดกลืนกลับเข้าไปในปากของเท็ด   
         “กาย…พี่รักกาย…”  ชายหนุ่มถอนปากออกและกระซิบกับหูนิ่มเบาๆ  กายหน้าแดงซ่านแต่ดวงตายังหลับพริ้ม  สัมผัสของมือและปากร้อนปลุกเร้าจนตื่นเตลิด 
         “เท็ด…อื้อ…เท็ด…ผม…”  ปากร้อนประกบแนบแน่นอีกครั้ง  ประโยคที่จะ
พูดถูกกลืนหายไป  มือข้างที่ลูบไล้อยู่บนสะโพกกำลังเลื้อยมาที่ต้นขา  สาบเสื้อคลุมถูกแหวกออก มือร้อนสอดเข้าไปแตะที่เอวบาง  กายสะดุ้งความหวานหวามหายวับเหลือเพียงความตื่นตระหนก  เด็กหนุ่มพยายามจะเบี่ยงกายหนีแต่สายเกินไป  นิ้วยาวสัมผัสเข้ากับผิวปูดโปนขรุขระบริเวณเอวเล็กได้ถนัด  ชายหนุ่มชะงักถอนปากออกก้มลงจะดูรอยที่มือสัมผัส  แต่กายกลับผลักไสเขาออกห่าง
         “อย่า!ไม่นะ! อย่าดู…ฮึก…”  กายดันอกกว้างสุดแขน  แล้วสะอื้นจนตัวงอ   เท็ดเอื้อมมือไปหา  แต่เด็กหนุ่มเบี่ยงหนีมือกำสาบเสื้อคลุมไว้แน่น  ความกลัวท่วม-ท้นจนเขาสั่นไปหมดทั้งตัว 
         “ทำไมล่ะกาย?”
         “…ไม่เอา…มัน…น่าเกลียด…”
         “กาย…พี่รักกายนะ…รักทุกอย่างของกาย”
          “ไม่…ถ้า…เห็นมัน…เท็ด…เท็ดจะรังเกียจ…ผมทนไม่ได้…” เท็ดพยายามเอื้อมมือไปหา แต่กายถอยหนีและปัดมือเขาออกห่าง  น้ำตาไหลพรากอย่างทรมานใจ 
         “พี่รักกาย…พี่ไม่เคยรังเกียจ…พี่อยากเห็นให้พี่ดูนะกาย…”
         “ไม่!…ไม่เอา…อย่าดู”  กายผงะเมื่อถอยไปชนกับเตียง  เด็กหนุ่มพยายามจะวิ่งหนีแต่เท็ดรวบตัวเขามากอดไว้แน่น 
         “ได้โปรด…ถ้ากายไม่ให้พี่ดู…กายก็ยังระแวงพี่อยู่ตลอด…กายไม่รู้ตัวเลยใช่ไหม…เวลาพี่กอด  กายจะสะดุ้ง  จะถอยหนีพี่ทุกครั้ง… พี่สงสัยมาตลอดว่าเพราะอะไร…เพิ่งแน่ใจวันนี้เองว่าเพราะแผลเป็นนั่น…กายให้พี่ดูเถอะ…แผลแค่นี้ไม่ทำให้พี่เปลี่ยนใจหรอก”
         “…แต่…”
         “หรือว่ากายไม่เชื่อว่าพี่รักกาย…ถ้าพี่เป็นแผลแบบนี้กายก็จะรังเกียจพี่  ไม่ยอมให้พี่เข้าใกล้หรือไง…ให้พี่ดูนะ…ได้โปรด…ที่รัก”
         กายกัดปากแน่นแต่ยอมคลายมือที่ยึดเสื้อออก  เท็ดค่อยๆเลื่อนสาบเสื้อคลุมออกช้าๆ  กายเบือนหน้าหนีเมื่อเสื้อคลุมเลื่อนหล่นลงที่พื้น  แต่ชายหนุ่มกลับดึงคางเล็กกลับมาเด็กหนุ่มจำต้องสบตาด้วย สายตาที่ทอดมองมาเต็มเปี่ยมด้วยความรักอ่อนโยน  เท็ดจุมพิตเบาๆที่แผลเป็นและน้ำตาบนแก้มนวลแล้วค่อยไล่ลงมาตามซอกคอ  ทรวงอก  รอยแผลที่สีข้างยาวลงมาที่เอว  บางส่วนของแผลมีขอบกางเกงชั้นในปิดไว้ชายหนุ่มจึงถอดออก    กายสะดุ้งแต่ไม่ขยับหนี  ร่างบางเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น  โดยเฉพาะด้านซ้าย  แผลที่ใหญ่ที่สุดอยู่บริเวณสะโพก  มีขนาดเกือบฝ่ามือ  บางส่วนมีรอยบุ๋มลึกลงไป  เท็ดคุกเข่าลงตรงหน้า  มือของเขาสั่น  ในอกอัดแน่นราวกับจะระเบิดออก  กระบอกตาร้อนจนแสบแต่ไม่มีน้ำตา ชายหนุ่มจุมพิตซ้ำๆบนรอยแผลอย่างแผ่วเบาแล้วแนบใบหน้าลงบนรอยกระสุนที่ต้นขาที่เพิ่งเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้ม
         “เจ็บมากไหม…ตรงนี้ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า…ตอนนั้น…คง…เจ็บมากสินะ?…” 
         “เท็ด…ฮือ…เท็ด….” เด็กหนุ่มสะอื้นก้มลงกอดศรีษะเขาไว้ ทุกครั้งที่ปากบางสัมผัส  รอยแผลจะร้อนและเจ็บราวกับจะปริแยกออกทั้งที่บาดแผลเหล่านี้หายมานานหลายปีแล้ว  ชายหนุ่มช้อนร่างบางไปวางลงบนเตียง  ปากร้อนจูบไล้ไปที่รอยแผลทุกที่  กายตัวสั่น...ร่างกายเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้งเมื่อสัมผัสปลอบประโลมเริ่มเปลี่ยนไป  ร่างบางผวาเมื่อฟันคมงับบนยอดอกเบาๆแล้วดูดเม้มหนักขึ้น 
         “อือ…” เด็กหนุ่มแอ่นหลังขึ้นโดยไม่รู้ตัว  ปากร้อนดูดเม้มลงมาหาหน้าท้องเนียนแน่นแล้วลากผ่านลงมายังซอกขาขาว  มือเล็กสอดเข้าไปในผมหยักหนา  เท็ดเลื่อนตัวขึ้นไปทาบทับร่างเพรียวอีกครั้ง  ชายหนุ่มลูบไล้หน้าเนียนด้วยข้อนิ้วเบาๆ  กายลืมตาขึ้น  ไฟปราถนาเริงแรงอยู่ในดวงตาของทั้งคู่ เด็กหนุ่มเหนี่ยวใบหน้าเท็ด ลงมาหาช้าๆ  ปากของทั้งคู่สัมผัสกันอย่างเร่าร้อน  ปลายลิ้นกอดเกี่ยวกันอย่างไม่มีใครยอมแพ้ ต่างดูดดื่มความหวานจากกันราวกับกลัวจะถูกใครยื้อแย่งไป เท็ดบดสะโพกของเขาลงบนสะโพกเล็ก  ยีนส์เนื้อบางไม่สามารถกั้นความร้อนของเขาได้  กายแอ่นสะโพกขึ้นเบียดรับ  มือลูบไล้บนหน้าท้องแน่นแข็งอย่างเผลอตัว  เท็ดหลุดเสียงครางแผ่ว  ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าออกอย่างร้อนรนจนกระดุมเสื้อหลายเม็ดขาด  ร่างสูงแน่นด้วยมัดกล้ามเบียดแนบชิดลงบนร่างเพรียว  ความเสียวซ่านแปลบปลาบแล่นผ่านผิวจนทั้งคู่เผลอครางออกมาเบาๆ   
         “กาย…กาย…พี่รอวันนี้มาตลอด…กาย”
ปากที่ผนึกเข้าหากันบดเบียดเร่งเร้า ต่างโลมลูบกันและกันไปทั่ว  เนื้อตัวเสียดสีก่อให้เกิดไอร้อนแผ่ขยาย จากหน้าท้องลุกลามไปทั้งตัว เท็ดดูดหนักๆบนยอดสีสด ขณะที่นิ้วยาวสอดเข้าไปในหลืบแคบตวัดไปมายังจุดอ่อนไหวภายใน 
         “อุ๊ก….อือ…ทะ…เท็ด…”  นิ้วที่สอดลึกขยับเป็นจังหวะจนสะโพกเล็กขยับตาม  กายหอบสะท้าน  มือบีบเกร็งที่ไหล่แข็งเมื่อจำนวนนิ้วเพิ่มเป็นสองและสาม
         “เท็ด….เท็ด…อ๊ะ…”   สะโพกเล็กเกร็งสะท้านเมื่อปากร้อนครอบครองเขาไว้รวดเดียวหมด  ลิ้นสากตวัดรัดและถูไถบนยอด  ขณะที่มืออีกข้างบีบรัดส่วนฐานเป็นจังหวะ  เท็ดเลื่อนริมฝีปากเข้าออก  สายตาก็เหลือบมองหน้านวลที่แดงสร้านด้วยแรงอารมณ์จากฝีมือการปลุกเร้าของเขา  กายผวาขึ้นมาทั้งตัวมือทั้งสองยึดไหล่แข็งไว้แน่น  ยิ่งได้เห็นปากร้อนดูดกลืนเขาลึกแรงเท่าไหร่  ก็ยิ่งเสียวซ่านมากขึ้นเท่านั้น  เด็กหนุ่มร้องเสียงหลงจิกปลายเท้ากับที่นอนแน่นขณะที่สะโพกก็ยกลอยขึ้น  เมื่อความร้อนในร่างกายถึงขีดสุด 
         “อ๊าาาา…ฮ้า…ฮ้า…แฮ่ก…เท็ด…”เด็กหนุ่มน้ำตาซึมขณะที่จ้องมองดูเท็ดกลืนกินหยาดอารมณ์ของตัวเองเขาไปจนหมดร่างบางผวาเมื่อนิ้วยาวถอดถอนออก  เท็ดลุกขึ้นนั่งและดึงร่างอ่อนระทวยมานั่งบนตัก  เด็กหนุ่มตวัดแขนคล้องรอบคอเขาและซุกหน้ากับอก  ลมหายใจหอบกระชั้นค่อยๆผ่อนลง  ชายหนุ่มลูบไล้หลังเนียนที่เปียกชุ่มด้วยเหงื่อ  ปากก็ดูดเม้มที่ใบหูและซอกคอ
          “ให้พี่รักกายนะ”  เด็กหนุ่มไม่ตอบแต่สะโพกเล็กที่บดวนบนแก่นกายของเท็ดเบาๆเป็นคำตอบรับได้ดีกว่า  ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบเจลจากหัวเตียงมาชะโลมลงบนนิ้ว  ค่อยๆสอดนิ้วกลางทั้งสองเข้าไปข้างใน ขณะที่มือก็บีบขย้ำก้นแน่นเป็นจังหวะ 
         “…เท็ด…อา…ไม่…ไม่ไหวแล้ว…” กายร้องครางอู้อี้อยู่กับอกไม่ยอมเงยหน้า  ชายหนุ่มเองก็หมดความอดทนเช่นกัน  เขาถอนนิ้วออก  ค่อยๆแทรกกายเข้าไปในซอกหลืบแคบช้าๆ  ช่องทางที่ร้างราจากการสัมผัสมานานทำให้ปรับตัวไม่ทัน 
เด็กหนุ่มรู้สึกราวกับจะฉีกขาด ปากอิ่มเม้มแน่นพิงศีรษะลงบนอกกว้างพยายามผ่อนคลายเพื่อรองรับชายหนุ่มไว้  สายตาจับจ้องดูร่างของเท็ดที่ผนึกเข้ามาช้าๆจนประสานกันได้สนิท 
         “ฮ้าาาา!….เท็ด…เท็ด”  กายหอบหายใจหลังจากกลั้นมานาน  ความคับแน่นร้อนผ่าวที่แทรกอยู่ภายในทำให้กายรู้สึกเหมือนเขากับเท็ดเป็นหนึ่งเดียว  เด็กหนุ่มน้ำตาไหลด้วยความเต็มตื้น
         “กาย…ที่รัก”   ชายหนุ่มก้มกระซิบแล้วจูบซับน้ำตาออกจากแก้มนวล  แต่สะโพกยังแช่นิ่งไว้รอให้กายคลายอาการเกร็งลง  ความร้อนระอุบีบรัดทำให้เท็ดต้องกัดกรามแน่น มือและปากเริ่มปลุกเร้าร่างบางอย่างนุ่มนวล กายหอบฮักเมื่อชาย-หนุ่มค่อยๆประคองสะโพกเล็กขยับยกขึ้นลงช้าๆเพื่อปรับให้คุ้นเคยก่อน แล้วจึงค่อยจังหวะให้เร็วขึ้นทีละนิด 
         “เท็ด…อื้อ…เท็ด…”
เด็กหนุ่มครางกระเส่าสัมผัสเสียดสีก่อให้เกิดความเสียวซ่านแล่นปลาบทั่วท้อง  เสียงหวานใสกระตุ้นอารมณ์ให้ร้อนยิ่งขึ้น    ชายหนุ่มกดแก่นกายนุ่มให้แน่บกับหน้าท้องของเขาปลายนิ้วขยี้บนส่วนยอดเบาๆเรียกครางจากปากอิ่มให้หวีดดังยิ่งขึ้น   เล็บสั้นจิกแผ่นหลังกว้างเป็นแนวยาว  สะโพกเล็กขยับรับจังหวะได้สอดคล้อง หน้านวลสะบัดไปมาอย่างทรมาน  ร่างในอ้อมแขนเอนไปด้านหลังทำให้ยอดอกสีแดงลอยเด่นชายหนุ่มก้มลงดูดยอดเม็ดเล็กหนักๆ  ช่องทางแคบบีบรัดเขาหนักหน่วง  ยิ่งเขากัดเม้มก็ยิ่งตอดรัดเป็นจังหวะ
         “กาย…อา…กาย”
  เท็ดกระซิบเรียกเด็กหนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่า  ขยับสะโพกสวนขึ้นขณะที่กดสะโพกเล็กลงมาหา  เสียงหอบหายใจกับเสียงครางของทั้งสองกระชั้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ  ร่างกายขยับรับกันรัวเร็ว  ความต้องการเร่งเร้าให้ต่างตะเกียกตะกายขึ้นไปให้ถึงจุดสูงสุด  ความร้อนจากกายทั้งคู่เร่งให้เหงื่อหยาดอาบร่างจนเปียกชุ่ม 
         “เท็ด…อ๊าา…ไม่…ไม่ไหวแล้ว…ช่วยผมด้วย…อ๊าาาา” กายหวีดร้องสุดเสียง  ร่างกายบีบรัดเท็ดอย่างรุนแรงก่อนจะแอ่นเกร็งแล้วปลดปล่อยความร้อนออกมาเปรอะเปื้อนหน้าท้องของเท็ดและตัวเอง   เท็ดหอบฮักเพราะฝืนเอาไว้ไม่ยอมให้ตนเองถึงขีดสุด  เขาต้องการยืดเวลาแห่งความสุขนี้ให้ยาวออกไป  ชายหนุ่มค่อยๆผ่อนความเร็วลงแล้วประคองร่างอ่อนปวกเปียกลงบนเตียง  เท็ดหยิบเสื้อเชิ้ตของเขาที่ถอดทิ้งไว้มาซับเหงื่อและคราบเปรอะเปื้อนออกจากร่างบาง  ขณะที่สะโพกก็ยังคงเบียดเข้าหาเป็นจังหวะช้าๆ  กายพยายามลืมตาหนักอึ้งขึ้นมอง  แม้ร่างกายจะอ่อนเปลี้ยแทบไม่มีแรงขยับ  แต่สัมผัสเสียดสีเนิบช้ายังก่อให้เกิดความเสียววูบวาบเป็นจังหวะ ใบหน้าคมหม่นมัวด้วยความปราถนา ตาคมจับจ้องราวกับจะกลืนเขาไว้ในอกเด็กหนุ่มยิ้มหวานลิ้นเล็กไล้เลียบนปากแห้งของตัวเองอย่างยั่วยวน  ได้ยินเสียงเท็ดครางเบาๆ  ก่อนที่ปากร้อนจะแนบประกบลงมา   
         กายหอบฮักกว่าเท็ดจะยอมถอนปากออก  ชายหนุ่มก้มลงดูดที่ยอดอกสีสดแรงๆ  เรียกเสียงครางกระเส่าพร้อมทั้งแรงบีบรัดจากเบื้องล่าง  เท็ดฝืนตัวเองไว้ไม่ไหว  ชายหนุ่มช้อนขาเรียวขึ้นพาดไหล่  ขณะที่สะโพกก็โหมกระหน่ำเข้าหาสะโพกเล็กแรงขึ้น  กายสะเทือนไปทั้งตัว  มือจิกเกร็งบนสะโพกแข็งรับรู้ถึงกล้ามเนื้อตึงแน่นที่กำลังขยับลึกเข้ามาในกายได้ทุกจังหวะ  เสียงครางปนเสียงปะทะของเรือน-ร่างดังประสานกันระรัว 
         “…เท็ด…อ๊าาา…”
         “กาย…กาย….”
         ร่างสูงจะเกร็งกระตุก  หยาดรักร้อนๆฉีดพล่านเข้าในหลืบแคบ  สะโพกหนากระแทกเข้าหาอีกสองสามครั้งเพื่อปลดปล่อยทุกหยาดหยดในร่าง  กายหวีดร้องสุดเสียงเมื่อถึงจุดสูงสุดอีกครั้ง  เท็ดพลิกร่างบางขึ้นข้างบนโดยที่ยังคงอยู่ในตัวของเด็กหนุ่ม  ลมหายใจของทั้งคู่หอบกระชั้นแล้วค่อยๆผ่อนลงในที่สุด 
         เท็ดประคองแก้มเนียนขึ้นมาจูบเบาๆ  แต่กายไม่รับรู้แล้วเพราะหลับไหลไปด้วยความอ่อนเพลีย  ชายหนุ่มค่อยๆวางกายลงบนเตียง  แม้จะไม่รู้ตัวหากแต่เมื่อเขาถอนกายออก  เด็กหนุ่มก็ยังครางฮือ  หยาดรักเปรอะเปื้อนลงบนที่นอนมีเลือดปนมาเล็กน้อย  ชายหนุ่มรีบไปหยิบผ้าขนหนูกับน้ำอุ่นมาเช็ดทำความสะอาดให้แต่ไม่เห็นบาดแผลภายนอก ทั่วร่างบางมีรอยจ่ำสีแดงเล็กๆ กระจายอยู่เต็มไปหมด  เท็ดรู้สึกอยากเขกหัวตัวเอง ทั้งที่เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะค่อยๆทะนุถนอม  แต่ก็เผลอฝากร่องรอยไว้จนได้    มือเล็กๆเลื่อนออกมาควานไปรอบๆ  ชายหนุ่มคว้ามาจูบเบาๆได้ยินเสียงถอนใจแล้วก็เห็นรอยยิ้มนิดๆที่มุมปาก  กายกำลังทำให้เขานึกถึงยามที่กายเป็นทารก  เขาชอบรอยยิ้มในยามหลับแบบนี้ที่สุด  แม่เคยบอกกับเขาว่ามันเป็นธรรมชาติของเด็กทารกไม่ใช่ว่าน้องตั้งใจจะยิ้ม  แต่ตอนนี้เขาแน่ใจว่าน้องยิ้มเพราะน้องมีความสุข  ชายหนุ่มดึงมือเล็กมาแนบแก้มสลับกับจูบเบาๆบนหลังมือ  ก่อนจะตัดใจห่มผ้าให้แล้วกลับไปอาบน้ำเพื่อชำระคราบไคลและอาศัยความเย็นช่วยบรรเทาความรุ่มร้อนที่เริ่มจะก่อตัวขึ้นใหม่
         ชายหนุ่มกลับมาเบียดแทรกเข้าไปในผ้าห่ม  ตั้งใจจะหลับไปพร้อมกัน   แต่ความสุขที่เพิ่งผ่านพ้นกลับทำให้เขาตื่นตัวเกินกว่าจะหลับลง  เท็ดท้าวแขนคล่อมร่างบางไว้  จุมพิตตั้งแต่ผมนิ่ม หน้าผาก ระเรื่อยลงมาจนจรดหลังเท้าอูมสะอาด  รอยแผลเป็นขนาดใหญ่บนร่างขาวเนียนทำให้เขารู้สึกขมในปาก  ในวันที่เกิดอุบัติเหตุเขาไม่อาจรู้ได้ว่ากายเจ็บปวดขนาดไหน  แต่ร่องรอยที่เห็นก็มากพอที่จะคร่าชีวิตกายได้แล้ว  เท็ดกระพริบตาเมื่อเห็นหยดน้ำบนอกของกาย  เขาเพิ่งรู้สึกตัวว่ากำลัง…..ร้องไห้…  “กาย…พี่ขอโทษ”

          สัมผัสอบอุ่นที่เคยเบียดชิดหายไป  กายถอนใจยาวเมื่อควานหาไม่เจอ  เด็กหนุ่มค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างยากเย็น ร่างกายปวดระบมไปหมดทั้งตัว   เมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าในห้องค่อนข้างสลัวม่านยังถูกปิดไว้ทุกด้าน  กายตั้งใจจะลุกขึ้นแต่พอขยับก็ต้องสะดุ้งเพราะเจ็บแปลบ ‘อะไร?…ทำไม?…เมื่อคืน…’ เด็กหนุ่มหน้าแดงซ่านเมื่อนึกเรื่องเมื่อเช้าออก  เพิ่งเข้าใจว่าเหตุใดร่างกายถึงปวดระบมไปหมด กายเหลียวมองหาคนที่ทำให้เขาเจ็บไปทั้งตัวแต่ก็ไม่เห็น เด็กหนุ่มจึงพยายามลุกขึ้นเพื่อเข้าห้องน้ำ
         “อูย…” จู่ๆประตูก็เปิดเข้ามา ร่างสูงเดินลิ่วเข้ามาวางถาดลงบนโต๊ะข้างเตียง  แล้วช้อนตัวเขาขึ้นอุ้มอย่างนุ่มนวล  กายหน้าร้อนผ่าวไม่กล้าสบตาได้แต่ปล่อยให้เท็ดพาเข้าไปในห้องน้ำ  ชายหนุ่มนั่งลงบนขอบอ่างเปิดน้ำร้อนเพิ่มให้เต็มอ่าง เด็ก-หนุ่มก้มหน้างุดพยายามปิดเนื้อตัวให้พ้นสายตาคมให้มากที่สุด  เท็ดทดสอบความร้อนของน้ำก่อนจะค่อยๆหย่อนร่างในอ้อมแขนลงไป  น้ำที่ค่อนข้างร้อนทำให้กายสะดุ้งแต่ก็พยายามปรับตัวเพราะรู้ดีว่าความร้อนจะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย  ชายหนุ่มอาบน้ำให้ราวกับกายเป็นเด็กเล็กๆ  ซึ่งเด็กหนุ่มก็ไม่ได้ขัดขืน  จนกระทั่งเท็ดพากลับมาเช็ดตัวและสวมเสื้อคลุมให้กายก็ยังไม่กล้าเงยขึ้นสบตา
         “โกรธที่พี่ทำให้กายเจ็บหรือว่าอาย…” เสียงทุ้มกระซิบแผ่วๆข้างหูทำให้ขนลุกซู่  กายหน้าแดงมากกว่าเดิมพยายามเบี่ยงตัวหนีแต่เท็ดก็ช้อนหน้านวลขึ้นมามองจนได้  เด็กหนุ่มรีบหลับตาเพราะทนประกายวิบวับในตาคมไม่ไหวได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วๆก่อนที่ปากร้อนจะทาบลงมาจูบดูดดื่ม 
         “ทานซุบสักนิดนะ…หรือว่าอยากกินอะไร?”
         “ซุบนี่แหละครับ…อร่อยที่สุด  ผมชอบ”
         “กายยังไม่ตอบพี่เลยว่าโกรธ…” ชายหนุ่มยังไม่ทันถามจบมือเล็กก็เลื่อนมาปิดปากเขาแน่น  กายหน้าแดงปากสั่น  ท่าทางเขินอายนั้นทำให้ชายหนุ่มนึกสนุกอยากแกล้งขึ้นมา  ลิ้นร้อนแลบออกมาเลียที่อุ้งมือนิ่ม  กายสะดุ้งชักมือหนีทันควัน
         “ที่แท้ก็เขิน กาย…พี่รักกายนะ รักมาตลอดไม่เคยเปลี่ยนมีแต่ยิ่งรักมากขึ้น”ชายหนุ่มก้มกระซิบที่ริมหูแถมยังเป่าลมร้อนๆเข้าไปเล่นเอาเด็กหนุ่มขนลุก
         “ผมก็รักพี่”  กายตอบเสียงเบาหน้าแดงซ่าน  ตาโตหวานระยับด้วยความสุข  เท็ดช้อนร่างบางขึ้นมานั่งซ้อนบนตักแล้วป้อนซุบไปบ้างบางครั้งก็ป้อนจูบให้แทน  กว่าซุบถ้วยนั้นจะหมดกายก็ปากแดงช้ำ  เนื้อตัวร้อนผ่าว  ชายหนุ่มจึงป้อนอาหารพิเศษด้วยมือและปากจนกายหวีดระงม  ยังดีที่เท็ดเห็นว่ากายยังบอบช้ำอยู่มากจึงไม่รุกรานไปมากกว่านั้น  ไม่อย่างนั้นกายอาจจะต้องกลับไปรักษาตัวใหม่เพราะไข้ขึ้นก็เป็นได้
...........

 :jul1:

แล้วพบกันคะ :pig4:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

hene2526

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
 :3123:oh..น่ารักมากคู่นี้ แต่จีนส์ล่ะจะลงเอยยังไง

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
กายเข้าใจเท็ด มั่นใจเท็ดแล้วสินะ
เหลือแต่จีนส์ผู้น่าสงสาร
แล้วหนุ่มคนนั้นคือใครกันเนี่ย
บวก 1 แต้ัม รออ่านต่อนะคะ

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
รีดเลือด วู้ฮู้วววว  :m25:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
กายดูไม่เร่าร้อนเหมือนเดิม แต่กลับดูใสและน่ารักแบบเด็กๆ มากขึ้น

ผิดกับเท็ดที่ดูเชี่ยวมากขึ้นเยอะเลย  :z1:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ดันจ้า รอตอนใหม่  :z2: :z2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
 o13  สุดยอดมากกกกกกกกกกก


อ่านรวดเดียวเลย


+1  จัดไปค่ะ



ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4

ออฟไลน์ tianqin

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
ขอบคุณทุกคอมเมนท์นะคะ อ่านต่อกันเลยคะ
.....
เสียงเครื่องบินทำให้เท้าที่กำลังก้าวออกจากห้องน้ำชะงักเล็กน้อย
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นวิ่งไปที่หน้าต่างเมื่อมองไม่เห็นคนที่ควรจะนอนอยู่บนเตียง  กายตัวสั่นตาจับจ้องเครื่องบินเล็กที่ลับหายไปอย่างเสียใจ  เท็ดไม่บอกสักคำว่าจะออกไปไหน  แม้จะพยายามเข้าใจว่าอาจจะมีเรื่องเร่งด่วนแต่การที่เท็ดไปโดยไม่บอก  ก็ทำอดน้อยใจไม่ได้  กายแต่งตัวโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสื้อที่หยิบมาใส่สีอะไร  เด็กหนุ่มเดินใจลอยออกไปยังโต๊ะอาหาร  ตั้งใจจะสั่งให้เก็บโต๊ะเพราะไม่อยากกินอะไรเลย  แต่พอเดินผ่านห้องนอนของเท็ดก็เหลือบเห็นร่างสูงนั่งทำงานอยู่ในห้อง
         “อ้าว! ผมเห็นเครื่องบินออกไปก็คิดว่าเท็ดไปบริษัทเสียอีก”  กายอุทานอย่างแปลกใจ  ก้าวเข้าไปในห้อง 
         “นี่คงกำลังน้อยใจว่าพี่ไปไหนโดยไม่บอกละสิ”  เท็ดอมยิ้มเมื่อเห็นแก้มนวลแดงซ่านเมื่อถูกจี้ใจดำ
         “เปล่าครับไม่ใช่อย่างนั้น…ความจริง…ก็…เสียใจนิดหน่อย”
         “นิดหน่อยแล้วทำไมตาแดงๆอย่างนี้ล่ะ…มานี่เลย…”  เท็ดคว้าเอวบางชูขึ้นหมุนไปรอบๆราวกับกายเป็นเด็กเล็กๆ
         “เท็ด!….ไม่เอา…อย่านะ….นี่ผมเวียนหัวแล้ว…เท็ดดดด…อื้อ!…”  เสียงโวยวายเงี่ยบกริบเมื่อปากร้อนประกบปิดเนิ่นนานกว่าจะยอมถอนออก
         เด็กหนุ่มหอบฮัก  แก้มแดงปลั่งทั้งเขินทั้งเหนื่อย  ปากอิ่มแดงจนช้ำเพราะรสจูบเนิ่นนานเมื่อครู่  แขนทั้งสองข้างยังคล้องอยู่บนบ่ากว้าง  เท็ดหัวเราะกอดรัดร่างน้อยแน่นขึ้นอีกจนกายต้องดิ้นหนีแรงๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นชายหนุ่มจึงผละไปรับแต่สายตายังคอยมองมาที่กายแบบคาดโทษนิดๆ  กายอมยิ้มแกล้งทำหน้าเชิญชวนแต่ถอยไปอยู่หน้าประตูเพื่อจะได้หนีทัน
         “ว่าไงคุณแฮมิลตัน…แน่นอนสบายดี  สบายมากๆที่นี่อากาศดีจริงๆ  ทรายขาว  ทะเลสวย  แล้วก็อยู่กับคนที่รัก…..หึๆๆเอาน่าแค่นี้ทำเป็นโมโหไปได้  ว่าแต่มีเรื่องอะไรถึงลุกขึ้นมาโทรหาฉันแต่เช้าแบบนี้…ไม่นี่  ทำไม….ใช่ให้แจ็คไปส่งเมื่อครู่นี้…อ้าว!แล้วจะทำไงล่ะ…ตกลง…ขอบใจมากที่จัดการให้…เดี๋ยวนะ  กาย…ราเชลเขาอยากคุยด้วยน่ะ”  เท็ดส่งโทรศัพท์ให้  แต่คว้าเอวบางเข้าไปกอด  จูบไซ้ไปตามซอกคอและแก้มนุ่ม
         “ขอบคุณครับอื้อ…เท็ด…อย่านะผมจะรับโทรศัพท์”  กายรีบปิดกระบอกโทรศัพท์ไว้  พยายามจะถอยออกห่างแต่เท็ดกลับแกล้งกอดแน่นขึ้น 
         “ก็รับไปสิ…ไม่เกี่ยวกับพี่สักหน่อย…” ชายหนุ่มกระซิบเบาๆข้างหู
         “เท็ดดด…อย่า…เท็ดจ๋า…คนดี๊คนดี…ปล่อยผมก่อนนะ…นะ…”
         “ตกลงเดี๋ยวค่อยเอาคืน…”  เท็ดหัวเราะหึๆใส่หูแล้วยอมถอยออกไป
         “ขอบคุณครับ…สวัสดีครับราเชล….สบายดีแล้วครับ  แผลก็หายแล้วแต่ยังมีเจ็บๆบ้างนิดหน่อย  ราเชลละครับสบายดีหรือเปล่า….ครับ…ครับ….ขอบคุณมากครับ”  กายโทรศัพท์ไปก็เหลือบมองคนตัวโตที่แกล้งเดินข่มขวัญอยู่ข้างๆไปด้วย
         “เสร็จแล้วใช่ไหม…งั้นมานี่”  เท็ดตวัดรัดเอวบางเข้าไปกอดและระดมจูบเป็นการใหญ่
         “อย่า…คิก…ไม่เอา…เท็ด….พอแล้ว…ผมหิวแล้ว…”  กายร้องเสียงหลงเมื่อ
รู้สึกว่ามือร้อนรุกรานเข้าไปในเสื้อ
         “พอดีเลยพี่ก็หิวเหมือนกัน…”
         “บ้า…ไม่ใช่หิวแบบนั้น…เท็ดจ๋าผมไส้จะขาดแล้ว…นะ…น้าาา…ไปทานอาหารเช้ากันก่อน”  กายดันอกกว้างออกห่างสีหน้าอ้อนวอนสุดชีวิต
         “เฮ้อ…ก็อ้อนอย่างนี้แล้วใครจะไปใจแข็งได้ลงคอ…ก็ได้แต่ต้องมัดจำก่อน…เร็ว…”  ชายหนุ่มแตะที่แก้มตัวเองเบาๆ  กายมองอย่างเขินๆแต่ก็ยอมชะเง้อขึ้นแตะปากกับแก้มสากเบาๆ  แต่เท็ดกลับหันริมฝีปากมารับแทน
         ”อื้อ……..”
         “เท็ด…อะ…อย่า…เท็ด…อือ…เท็ด”กายครางกระเส่าเมื่อมือร้อนซุกซนไปทั่ว  นิ้วยาวคลึงเคล้าที่ทรวงอกก่อนจะลูบผ่านลงมายังหน้าท้องแบนราบ  กายพยายามดิ้นหนีแต่ลิ้นร้อนในปากก็เบนความสนใจไปจนได้  กระดุมเสื้อและกางเกงยีนส์หลุดออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้  แต่กว่ากายจะรู้ตัวก็เมื่อยอดอกถูกดูดเม้มด้วยฟันคมๆจนเสียวซ่าน  เด็กหนุ่มครางฮือเผลอแอ่นอกขึ้นโดยอัตโนมัติ  มือกำผมหยักหนาแน่นขึ้นเมื่อปลายนิ้วยาวกำลังรุกรานเบื้องล่างอย่างหนักหน่วงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง  กายเอนราบไปบนโต๊ะทำงานที่เอกสารต่างๆถูกเจ้าของโต๊ะกวาดทิ้งไปอย่างไม่ใยดี  ปากร้อนเลื่อนกลับขึ้นมาแลกจูบ  แต่มือยังคงปลุกเร้าไม่ยอมหยุด  กายหอบหายใจความร้อนในร่างกายสูงขึ้นจนควบคุมไว้ไม่ไหว  ความเสียวซ่านแผ่ไปทั่วร่าง  จู่ๆเท็ดก็ถอนจูบลุกขึ้นติดกระดุมเสื้อและจัดกางเกงให้จนเรียบร้อย  เด็กหนุ่มหอบฮักจ้องมองการกระทำนั้นอย่างงุนงง 
         “เอาละไปทานอาหารเช้ากันดีกว่า…กายหิวแล้วนี่”
         “เท็ด…บ้า…ใจร้าย…แกล้งกันชัดๆ…”  กายบ่นอุบอิบ  รีบผุดลุกขึ้นนั่งแต่เมื่อกางเกงสัมผัสจึงรู้สึกเสียววาบจนต้องงอตัวลง
         “อะไรกัน…กายบอกพี่เองนะว่าหิว…ไปน่าป่านนี้เขาตั้งโต๊ะคอยแล้ว”  เท็ดทำหน้าตาเฉยหมุนตัวจะออกจากห้อง
         “เท็ด…แล้ว…ล่ะ…?”กายรีบยึดแขนเสื้อเท็ดไว้  หน้านวลแดงกล่ำท่าทางอึดอัดขัดเขิน  เท็ดทำหน้าซื่อหันมาลากข้อมือเด็กหนุ่มให้เดินตามไป
         “เอ้า!…รีบไปกันเถอะ  เดี๋ยวกายหิวจนเป็นลมพี่จะแย่”
         “เท็ดน่ะ! ไปคนเดียวเลย”  กายทุบบนแผ่นหลังกว้างแรงๆ ก่อนจะสะบัดมือวิ่งหนี
         “อ้าวๆ!…จะไปไหน…มานี่”  เท็ดคว้าเอวบางไว้ทันควันเพราะเตรียมพร้อมอยู่แล้ว  เด็กหนุ่มดิ้นฮึดฮัด  หน้าแดงกล่ำอย่างโกรธปนอาย  อ้อมแขนแข็งแรงโอบรัดร่างเพรียวแนบอก  ชายหนุ่มช้อนหน้านวลขึ้นมามองอย่างขันๆ 
         “จะไปไหน…หืม!…บอกมาซะดีๆ”
         “เรื่องของผม”กายสะบัดหน้าหนีอย่างแสนงอน  แต่ความจริงทนสบตาวิบวับนั้นไม่ไหวมากกว่า
         “พี่ไม่ให้ไป” เท็ดก้มลงกัดเบาๆที่ติ่งหู  กายขนลุกรีบดันหน้าชายหนุ่มออกห่าง
         “เท็ด!”   
         “ครับผม…หึๆๆจะไปห้องน้ำเหรอ…ใช่ไหม?”  ตาคมพราวระยับอย่างรู้ทัน  กายก้มหน้างุดเพื่อซ่อนหน้าร้อนผ่าวพยายามดิ้นหนี
         “บ้า…เท็ด…ปล่อยผมสิ”
         “งั้นพี่พาไปดีกว่า…แต่อย่าไปห้องน้ำเลยเนอะ”  ชายหนุ่มช้อนร่างเพรียวขึ้นมากอด  กายซุกหน้าแดงก่ำกับอกตอบรับเสียงเบาอย่างเขินอาย
         “…ก็…แล้วแต่พี่สิ”
         “อาหารเช้าเลื่อนไปก่อนสินะ”
         “…อื้อ…”
         “แล้วห้องกายหรือห้องพี่ดี?”  เท็ดยังคงแกล้งยั่วต่อ
         “เท็ด!…ปล่อยนะ!…ไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละ…ปล่อยผมสิ!”
         “โอ๋ๆๆ…แค่นี้ก็น้อยใจแล้ว…พี่ล้อเล่นน่า…ห้องนี้ดีกว่านะ…”  หางเสียงเปลี่ยนเป็นกระซิบแผ่วๆข้างหูนิ่ม
         “….”  กายโอบรัดรอบคอแข็งแรงแน่นขึ้นปากร้อนเบียดประกบลงมา  เท็ดพาร่างบางไปที่เตียงอย่างเร่งร้อน

         “แจ็คเหรอ…เป็นไงบ้าง? ขอบใจนายมาก…อืม! คืนนี้มากินมื้อค่ำที่นี่นะ”  ชายหนุ่มวางโทรศัพท์ลงกับแป้น  แต่เมื่อหันกลับมาก็เห็นร่างเกือบเปลือยบนเตียงขยับตัวอย่างง่วงงุน
         “ใครโทรมาครับ?”
         “ตื่นแล้วเหรอ…พี่ให้เขาตั้งโต๊ะนะ…หิวไหม?”
         “หิวจนแสบท้องหมดแล้ว…โอย!นี่เที่ยงแล้วเหรอเนี่ย…”  กายอุทานอย่างตกใจเมื่อเหลือบไปเห็นนาฬิกาหัวเตียง
         “ก็ใครน้าที่ไม่ยอมลงไปกินมื้อเช้ากับพี่…แถมยังให้พี่กิน…อุ๊บ!…”  เท็ดแกล้งทำเป็นจุกอย่างล้อเลียนทั้งๆที่กายแค่ปาหมอนเข้าใส่  กายหน้าแดงยกหมอนอีกใบขึ้นขู่
         “อย่าพูดนะ…ก็เพราะใครล่ะ…แกล้งกันชัดๆเลย…อย่ามายิ้มนะ”
         “แน่ะยิ้มก็ไม่ได้…เผด็จการจริงๆ”
         “เผด็จการแล้วจะทำไม?”
         “ก็…ยิ่งรักเข้าไปใหญ่นะสิ”
         “บ๊อง!…ไม่คุยด้วยแล้ว…อะ…อูย”  กายพรวดพราดลุกขึ้นแต่กลับต้องงอตัวลงเพราะเจ็บแปลบ
         “เป็นไงบ้าง…เจ็บมากเลยเหรอ…พี่ให้เขาตั้งโต๊ะบนนี้ดีกว่านะหรือจะให้ยกมาในห้องดี”
         “ไม่เอานะ…ขายหน้าตายเลยถ้าคนเขารู้ว่า…ไม่เอาช่วยพาผมไปห้องน้ำก่อน”  กายค่อยๆย่องเข้าห้องน้ำโดยอาศัยเกาะแขนเท็ดเป็นหลัก
         “ขอโทษนะ…คืนนี้พี่จะระวังให้มากกว่านี้”  เท็ดทำเสียงขรึมๆแต่ตาวาววับอย่างเจ้าเลห์
         “มะ…ไม่มีคืนนี้เด็ดขาด!…เจ็บจะแย่ยังจะมาคืนนี้อีก…ไม่มีทาง”  กายหยุดเดินเงยขึ้นมองเท็ดตาโต  หน้าแดงจัด
         “เจ็บมากเลยเหรอ…ขอโทษนะที่พี่ไม่ระวังให้ดี”
         “ใช่เจ็บมากๆ…เพราะฉะนั้นไม่มีคืนนี้เด็ดขาด…ถ้าเป็นคืนพรุ่งนี้ก็ว่าไปอย่าง”  ประโยคหลังเบาจนแทบกระซิบแต่เท็ดกลับได้ยินชัดแจ๋ว  ชายหนุ่มหัวเราะก้องช้อนร่างที่กำลังกระย่องกระแย่งเข้าห้องน้ำมาอุ้มจนตัวลอย
          
         “เมื่อครู่นี้ใครโทรมาเหรอครับ”  กายถามประโยคที่ยังคาใจอีกครั้ง-
หลังจากมื้อเช้าตอนบ่ายโมงผ่านไป
         “แจ็คน่ะ” เท็ดตอบพร้อมกับส่งองุ่นพวงใหญ่ให้ 
         “อ้าว! ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วเหรอครับ?”  กายขยับตัวแบ่งที่ให้เท็ดนอนลงบนเก้าอี้นอนหน้าระเบียงด้วยกัน
         “ความจริงหมอขอดูอาการอีกสองวันแต่แจ็คเขาขอออกก่อน”  ชายหนุ่มตอบพร้อมกับอุ้มร่างบางขึ้นมานอนซ้อนบนอก
         “ทำไมละครับ?”
         “เขาอยากไปส่งจีนส์ด้วยตัวเอง”
         “ส่ง…ส่งไปไหนครับ?”กายอุทานพลิกตัวกลับมานอนคว่ำบนอกชายหนุ่ม  เท็ดเกลี่ยปอยผมออกไปเหน็บข้างหูให้
         “จีนส์เขากลับไปแล้วล่ะ…คงไปหาป้าแมรี่ที่สิงคโปร์”
         “พี่…ไล่เขาหรือครับ?”
         “ถ้าพี่ทำอย่างนั้นกายจะว่าไง” เท็ดจ้องเข้าไปในตาโต  กายสบตาแล้วตอบตามที่ใจคิด
         “ผมไม่คิดว่าพี่จะทำได้…ถ้าทำจริงๆผมคงไม่สบายใจ…มันโหดร้ายกับเขาเกินไป…พี่คงไม่ได้ทำใช่ไหม?”
         “เปล่าหรอก…วันที่เขามาหาพี่คุยกับจีนส์อย่างเปิดอก…ไม่อยากให้มีอะไรค้างคาอีก…แล้วเขาก็เลือกที่จะไป…ความจริงก็เหมือนไล่กันทางอ้อมนะว่าไหม…กายรู้สึกแย่หรือเปล่าที่พี่ทำอย่างนี้?”
         “หากเป็นความสมัครใจของเขาผมก็ไม่รู้สึกแย่อะไร…จะว่าไปผมก็…แอบดีใจด้วยซ้ำที่ผมจะไม่ต้องคอยระแวงเขาอีก”
         “ดีจัง…ที่กายหึง”
         “ก็…มันน่าหึงไหมละครับ?”  กายถามเสียงอุบอิบหลบตาคม
         “ไม่เอาน่าพี่รักกายคนเดียวนะ  ไม่เชื่อเหรอ…พี่พิสูจน์ให้ดูก็ได้”  หางเสียงกระซิบแผ่วๆอย่างเจ้าเล่ห์
         “อ๊ะ!..อย่าครับ  ห้ามพิสูจน์เด็ดขาด…ผมยังเจ็บอยู่เลย”
         “หึๆ พี่แค่จะหาพยานมายืนยันแค่นั้นเอง แล้ว…เกี่ยวอะไรกับที่กายเจ็บล่ะ?”
         “เท็ดอ่ะ!…ไม่คุยด้วยแล้ว” เท็ดหัวเราะเสียงดังเหนี่ยวร่างที่ดิ้นขลุกขลักเอาไว้ไม่ให้ลุกหนี 
         “มาพี่พากลับห้อง…หรือจะไปเดินเล่นกันดี?”
         “เดินเล่นอะไรครับหนาวขนาดนี้”
         “มีที่ที่อบอุ่นแล้วก็สวยมากๆ  อยากไปไหม?”
         “ไปสิครับอยู่แต่ในห้องมาตั้งนานแล้ว…ว่าแต่เท็ดไม่ทำงานเหรอครับ?”
         “ค่อยกลับมาทำ…พี่ก็เกเรเป็นเหมือนกันนะ”
         “ครับผม…เท็ดครับ”
         ”หืม”
         “ขอบคุณครับ”
         “ขอบคุณ?…เรื่องอะไร”
         “ขอบคุณที่พี่รักผม ขอบคุณที่พี่ทำให้ผมมีความสุข”กายโน้มใบหน้าคมคายลงมาจนแทบชิด ตาโตเป็นประกายระยับด้วยความสุข
         “ทำไมต้องขอบคุณ…เห็นกายมีความสุขพี่ยิ่งมีความสุขมากกว่ากายอีกนะ”
         “…พี่พูดอย่างนี้ผมก็แย่สิ…ผมยิ่งรักพี่เข้าไปใหญ่” 
         “ดีสิ…พี่จะพูดแบบนี้ทุกวันให้กายรักพี่จนถอนตัวไม่ขึ้นเลย”
         “แค่นี้ก็ถอนตัวไม่ได้แล้ว”
         “พี่จะพูดจนกว่ากายจะขาดพี่ไม่ได้เหมือนที่พี่ขาดกายแล้วเหมือนขาดอากาศหายใจไงล่ะ”
         “อี๋!….เลี่ยนแล้วครับ…สำนวนเชยมากๆ”
         “น่า…ออกมาจากใจนะ”
         “ไม่เอาแล้วครับผมอยากไปเที่ยวแล้ว” 
         “ก็ได้…จ่ายค่านำเที่ยวก่อนเร็วๆ” ชายหนุ่มจิ้มที่แก้มตัวเองเหมือนเคยแต่กายกลับส่ายหน้าพยายามจะดันตัวลุกขึ้นแต่เท็ดโอบไว้
         “ไม่เอาเดี๋ยวเลยไม่ได้เที่ยวกันพอดี”
         “ไม่น่าแค่จูบอย่างเดียวพี่สัญญา”
         “ก็ได้…อื้อ…พอแล้วครับ…ไหนว่าจูบเดียว”  กายรีบดันคางบุ๋มออกห่างเมื่อรู้สึกว่าจูบขอบคุณชักจะเลยเถิดไปไกล
         “ตกลง…ไว้กลับมาค่อยคิดต้นทบดอก”
         “คิก…ตกลงครับไปเร็ว”
         “ขอรับเจ้านาย”


            
         เท็ดเดินเช็ดผมเข้ามาในห้องนอน  กายแกล้งนั่งอ่านหนังสือเฉยราวกับกำลังเพลิดเพลิน  แต่หูคอยจับความเคลื่อนไหวของชายหนุ่มอยู่ตลอด   ที่นอนข้างๆยุบลงตามน้ำหนักตัวของชายหนุ่ม  ไฟกลางห้องถูกปิดลงเหลือแต่โคมไฟที่กายอ่านหนังสืออยู่เท่านั้น
         “พี่ชักง่วงแล้วสิ”
         “ก็นอนไปก่อนสิครับ…ผมอยากอ่านหนังสือก่อน”  กายยังนั่งพิงพนักเตียงเฉยแกล้งอ่านหนังสือต่ออย่างตั้งใจ  แม้จะแปลกใจที่เท็ดไม่ออดอ้อนต่อ  จู่ๆหนังสือก็ถูกดึงออก  อ้อมแขนร้อนผ่าวโอบรัดเข้ามาหาพร้อมกับปากร้อนที่บดเบียดเร่าร้อน  กายหลับตาปล่อยกายและใจให้เพริดไปกับสัมผัส  จู่ๆภาพซ้อนทับก็ปรากฏขึ้นมาเป็นเงามัวๆครั้นพอเด็กหนุ่มลืมตาก็หายไป  กายตัวแข็งเบิกตากว้าง  เท็ดชะงักเมื่อรู้สึกถึงความผิดปกตินั้น
         “มีอะไร…หรือว่าพี่ทำให้กายเจ็บ?”
         “เปล่าครับ”  เด็กหนุ่มรีบตอบพร้อมทั้งเป็นฝ่ายเบียดปากอิ่มเข้าหา  บทรักรุ่มร้อนเริ่มบรรเลงต่อ  ภาพซ้อนทับก็ค่อยปรากฏขึ้นอีก  ใบหน้าคมคายแต่อ่อนเยาว์แทรกเข้ามาแทน  ดวงตาที่จับจ้องมาดูลุ่มหลงและหม่นมัวด้วยความปรารถนา  สัมผัสรุ่มร้อนที่ซ้อนทับเข้ามาเป็นระรอกทำให้กายครางกระเส่า ไม่แน่ใจว่าตอนไหนจริงตอนไหนเป็นความทรงจำในอดีต  เด็กหนุ่มงอตัวลงเมื่อทนความเสียวซ่านจากการปลุกเร้าของปากร้อนไม่ไหว  มือเล็กจิกกำผมหยักหนาแน่นขณะที่สะโพกก็ขยับสวนขึ้นอย่างลืมตัว 
         “เท็ด….ฮ๊าาาา!”  เด็กหนุ่มกรีดร้องขณะที่ปลดปล่อยความร้อนในเข้าไปในปากของเท็ด  ชายหนุ่มกลืนกินไว้จนหมด  แต่เมื่อเท็ดเงยหน้าขึ้นภาพซ้อนทับก็กลับมาอีก  กายช้อนหน้าคมขึ้นมาจูบไม่สนใจอีกต่อไปว่าจะเป็นภาพอดีตหรือปัจจุบันเพราะไม่ว่าเมื่อไหร่นี่ก็คือเท็ด  คนที่เขารักสุดหัวใจเช่นเดิม  เด็กหนุ่มถูกพายุอารมณ์พัดโหมจนไหวสะเทือนไปทั้งตัว  ฉากรักในอดีตและปัจจุบันซ้อนทับเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ตราบจนสุดสายป่านของอารมณ์ร่างบางจึงเกร็งทั้งตัวแล้วปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง  ในขณะที่ความรุ่มร้อนก็ฉีดพล่านเข้ามาในกายเขาเช่นกัน  ความเสียวซ่านแล่นผ่านไปจนถึงปลายประสาททั่วตัว  ร่างกายอ่อนเปลี้ยไม่มีแม้แรงขยับนิ้ว  หัวใจเต้นระรัว  ลมหายใจยังหอบกระชั้น  เท็ดยังคงพลิกตัวเขาขึ้นมานอนบนอกและเหมือนทุกครั้งชายหนุ่มยังไม่ยอมถอนตัวออกไป  ความร้อนผ่าวยังแทรกอยู่ในกายของเขาเช่นเดิม  กายอมยิ้มไม่ว่ากี่ปีเท็ดก็ยังชอบทำแบบนี้  เด็กหนุ่มรู้สึกหึงนิดๆเมื่อสัมผัสได้ว่าบทรักของเท็ดเชี่ยวชาญและเร่าร้อนกว่าในอดีต  แต่นั่นแหละมันไม่ใช่ความผิดของเท็ดที่จะมีเซ็กส์กับคนอื่นเพราะทุกคนต่างคิดว่าเขาตายไปแล้ว  กายขมวดคิ้วเมื่อพยายามนึกถึงรายละเอียดเรื่องอื่นๆแต่นึกไม่ออก
         “พี่เท็ด…”  กายนอนหนุนแขนของเท็ด  มือเล็กลูบเล่นอยู่บนอกกว้าง  ศีรษะซุกซบอยู่กับซอกคอแข็งแรง
         “หืม”
         “ผมอยากกลับบ้าน”  มือใหญ่ลูบไล้ไปมาบนหลังชื้นเหงื่อชะงัก  เท็ดพลิกขึ้นท้าวแขนคล่อมร่างบางไว้ จ้องมองหน้านวลอย่างกังวล
         “มีอะไรหรือเปล่า…หรือว่ากายเบื่อที่นี่แล้ว?…เราไปที่อื่นก็ได้นะ”
         “ไม่มีวันที่ผมจะเบื่อที่นี่หรอกครับ…เพราะที่นี่เป็นจุดเริ่มชีวิตใหม่ของผมเลย” กายลูบบนรอยขมวดที่หัวคิ้วหนาให้คลายออก
         “แล้ว…ทำไม?”
         “ผมไม่อยากหนีความจริงอีกต่อไปแล้ว…ผมอยากกลับบ้าน…บางทีคราวนี้ผมอาจจะจำอะไรได้บ้าง”
         “ถ้าเป็นอย่างนั้นพ่อกับแม่คงดีใจมาก”
         “ตั้งแต่เรามาอยู่ที่นี่พี่โทรหาพ่อกับแม่ทุกคืนเลยใช่ไหมครับ?”
         “กายรู้เหรอ?”
         “ครับ…ผมเองก็คิดถึงพวกท่าน  แต่…ผมกลัวที่จะเผชิญหน้ากัน…ผมกลัว…กลัวจะทำให้ท่านเสียใจอีก”
         “พี่ดีใจที่กายกล้าเผชิญหน้ากับความจริง…ถ้ากายจำได้กายจะรู้ว่าพ่อกับแม่รักน้องมากแค่ไหน”
         “งั้นเรากลับกันพรุ่งนี้เลยนะครับ”
         “ตกลง”  เด็กหนุ่มยิ้มกว้างโน้มหน้าคมลงมาจุมพิตเบาๆ  ก่อนจะหลับไปด้วยกัน
...........

ออฟไลน์ tianqin

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
         เชฟโรเลตแล่นปราดไปบนถนนค่อนข้างลื่นเนื่องจากหิมะที่กำลังตกหนัก  ยังดีที่ใส่โซ่ล้อเอาไว้แล้ว  แต่ทัศนะวิสัยยังค่อนข้างแย่เนื่องจากท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆฝนทำให้ต้องเปิดไฟหน้าให้รถที่สวนมาเห็น  เท็ดเหลือบมองคนข้างๆบ่อยๆด้วยความเป็นห่วง  แม้กายจะตื่นเต้นกับการได้กลับบ้านแต่อาการหวาดกลัวการนั่งรถแคบๆก็ยังมีให้เห็น
         “สภาพอากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่” เท็ดชวนคุยเพื่อเบี่ยงเบนความวิตกกังวล
         “แล้วจะทำยังไงดีครับ…หรือว่าต้องรอพรุ่งนี้”
         “ไม่เป็นไรน่า…พี่จะพากายกลับบ้านให้ได้วันนี้เลย” 
กายพยักหน้าขยับเข้าไปอิงแก้มกับไหล่หนา  เท็ดเหลือบมองอย่างเอ็นดู
         “หนาวไหม?”
         “ไม่หรอกครับแต่ตื่นเต้นจัง…เท็ดครับดูเหมือนหิมะจะตกหนักขึ้นนะครับ”  ชายหนุ่มเร่งที่ปัดน้ำฝนให้ทำงานเร็วขึ้น 
         “นั่นสิ…สงสัยคงต้องพักรถที่โรงแรมข้างหน้าก่อน  รอให้อากาศดีกว่านี้หน่อยแล้วค่อยไปต่อ”
         “เสียดายจังผมอยากเจอพ่อกับแม่เร็วๆคงต้อง…ระวัง!!!…เท็ด!!!”  กวางตัวใหญ่กระโจนเข้ามาในถนนแล้ววิ่งตัดหน้ารถไป  เท็ดหมุนพวงมาลัยหลบจนรถหมุนเกือบ 360 องศาแล้วจึงหยุดลง  ชายหนุ่มพ่นลมจากปากเบาๆอย่างโล่งอก               
         “เกือบไป…กายเป็นอะไรหรือเปล่า…กาย!!…กายเป็นอะไร…น้องเจ็บตรงไหนบอกพี่สิกายเจ็บตรงไหน?” เท็ดใจหายวาบเมื่อเห็นอาการของคนนั่งข้างๆ   กายตาเบิกกว้าง  มือเท้าเกร็งหน้าซีดจนขาว  ปากก็พร่ำพูดพึมพัมไม่ได้ใจความ
         “เท็ด…ช่วย…ด้วย…เท็ด…ฮือ…เท็ด….เท็ด…อย่าทิ้งผม…ช่วยด้วย”
         “กาย!…น้องเป็นอะไร…หัวกระแทกเหรอ…กายนี่พี่อยู่นี่…พี่อยู่กับน้องนะ…กาย!!”  เท็ดเขย่าร่างในอ้อมแขนแต่กายไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึก  ชายหนุ่มจึงตบที่แก้มเบาๆ  กายกระพริบตาแล้วมองหน้าเขาอยู่ครู่ใหญ่  แล้วน้ำตาก็ไหลพราก 
         “เท็ด…เราตายแล้วเหรอ…เราตายแล้วเหรอเท็ด?” 
         “ชู่วววว…กายพี่อยู่นี่…อย่ากลัวเราปลอดภัยแล้ว…”
         “เท็ด…ฮือ!…เท็ด”
         “อย่ากลัว…พี่อยู่กับน้องเห็นไหม…เราปลอดภัยกาย  เราปลอดภัย…”  ชายหนุ่มกอดร่างสั่นเทาแน่นและโยกตัวไปมาเบาๆเพื่อปลอบประโลม  อาการสั่นสะท้านค่อยๆลดลง เหลือเพียงเสียงสะอื้นแผ่วๆ
         “เป็นไงดีขึ้นไหม?…พี่จะพากายไปพักที่โรงแรมข้างหน้านะ…อีกไม่ไกลแล้ว” แสงไฟจากอาคารที่อยู่ไม่ห่างออกไปมากนักทำให้คลายความกังวลไปได้  กายกระพริบตาถี่ๆเหมือนจะรู้สึกตัวแล้วแต่ยังคงกอดเท็ดไว้แน่น  แต่เมื่อชายหนุ่มสตาร์ทรถ  กายก็หวีดร้องขึ้นมาและพยายามจะเปิดประตูออกไป
         “ไม่…ไม่เอา…อย่าขับรถ…ไม่เอา…ผมกลัวผมไม่นั่งรถแล้ว…ฮือ…ผมกลัว” 
         “กาย…กาย….ชู่ววว…ไม่ขับแล้ว…พี่ไม่ขับแล้ว…เห็นไหม….”  เท็ดรวบตัวกายกลับมากอดไว้แน่น  ชายหนุ่มรีบดับเครื่องแล้วดึงกุญแจมาใส่กระเป๋า
         “ตกลง…ไม่นั่งรถก็ได้…พี่จะพากายไปที่โรงแรมข้างหน้านั่นเห็นไหมอยู่ตรงนั้นเอง…มาเถอะไปหาที่พักกันนะ”  เท็ดรีบสวมเสื้อคลุมให้กายอีกชั้นแล้วจึงประคองกายให้ขึ้นขี่หลัง  เด็กหนุ่มกอดคอเขาแน่น  ตัวยังสั่นและเสียงหัวใจยังเต้นระรัว 
         “เท็ดผมกลัว…ฮือเท็ดอย่าทิ้งผมนะอย่าทิ้ง”
         “พี่ไม่ทิ้งกายหรอก…ไปที่โรงแรมกันก่อนนะ” 
         ชายหนุ่มแบกร่างบางฝ่าหิมะไปจนถึงโรงแรม  ตลอดทางเด็กหนุ่มร้องครางเบาๆและมีท่าทางกระสับกระส่าย  พนักงานรีบเข้ามาช่วยประคองกายลงแต่เท็ดปฏิเสธ เพียงแต่ขอให้ทางโรงแรมส่งพนักงานไปเอารถมาให้เท่านั้น  ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีเพราะไม่มีใครไม่รู้จักหนุ่มนักธุรกิจชื่อดังอย่างเท็ด พอลลิ่ง  ทันทีที่ร่างสูงลับตาไปในลิฟต์  เหล่าพนักงานต้อนรับสาวก็พากันจับกลุ่มเม้าท์ถึงอาการประคับประคองของเท็ดกับเด็กหนุ่มหน้าสวยที่พามาด้วย  แต่แล้วก็พากันถอนหายใจเฮือกอย่างโล่งอก  เมื่อพนักงานที่ขึ้นไปส่งชายหนุ่มบนห้องกลับลงมาพร้อมทั้งรายละเอียดที่ว่า  เด็กหนุ่มที่เท็ด  พอลลิ่งพามาพักเป็นน้องชาย
         
         เปลือกตากว้างขยับอยู่นานจึงลืมตาขึ้นมาช้าๆ  เท็ดลูบผมออกจากแก้มเนียนให้อย่างเบามือแต่ยังคงท้าวแขนคล่อมตัวกายไว้  กายยังตาลอยคว้างอยู่นานกว่าจะจำเขาได้  เด็กหนุ่มสะอื้นเบาๆแล้วกอดรอบคอเท็ดแน่น 
         “เป็นไงบ้าง…หายตกใจหรือยัง?”  เท็ดดึงมือนิ่มมาจูบเบาๆและแนบไว้ที่แก้ม  กายถอนสะอื้นแล้วขยับเข้าซุกกับอกกว้าง
         “ผมเหนื่อยจัง…ผมเหนื่อย…เท็ดอย่าไปไหนนะ…อย่าทิ้งผม” 
         “นอนเสียคนดี…เหนื่อยก็นอนหลับเสียนะ…พี่จะอยู่กับกายตลอดเวลาเลย” เท็ดก้มลงจุมพิตที่หน้าผากชื้นเหงื่อเนินนานราวกับจะถ่ายทอดความอบอุ่นให้  กายถอนหายใจยาวและผลอยหลับไปอีกครั้ง
         “เท็ด!!!!….”  กายหวีดร้องขึ้นสุดเสียง  อ้อมแขนที่กอดไว้หลวมๆจึงขยับแน่นขึ้น  เท็ดจูบซับน้ำตาให้และกระซิบปลอบโยนเบาๆ
         “กายฝันร้ายเท่านั้นเอง…พี่อยู่นี่แล้ว…เห็นไหม?”  กายจ้องมองชายหนุ่มอยู่นานจนแน่ใจว่าเท็ดยังอยู่ด้วย  ความหวาดกลัวจึงค่อยลดลง  เด็กหนุ่มกอดรัดเท็ดแน่นขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าเท็ดยังอยู่ด้วยจริงๆ
         “เท็ด…อย่าไปไหนนะ”
         “ไม่หรอกพี่ไม่ไปไหน…นอนต่อนะยังไม่สว่างเลย”  กายขดตัวเข้าไปในอ้อมแขนเท็ดอีกครั้งคราวนี้เด็กหนุ่มหลับสนิท ไม่แม้แต่จะฝัน
            
         แสงสว่างยามเช้าที่ส่องเข้ามาเนื่องจากม่านไม่ได้ปิดทำให้คนที่หลับสบายมาทั้งคืนตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น  สิ่งแรกที่เห็นคือดวงตาคมปลาบที่ทอดมองมาอย่างห่วงใย
         “กาย…เป็นไงบ้างลุกไหวไหม?”  กายส่งยิ้มหวานให้  แต่เมื่อสังเกตเห็นห้องที่พักก็มีท่าทางแปลกใจ 
         “ที่นี่…”
         “โรงแรมน่ะ…เมื่อวานกายช็อคแล็วก็กลัวมากเราเลยต้องมาพักที่นี่ไง…จำได้ไหม?”
         “ผมช็อค???…ทำไมละครับ”  กายลุกขึ้นมานั่งจ้องหน้าเท็ดอย่างงงๆ
         “เมื่อวานเรากำลังจะกลับบ้าน…ระหว่างทางมีกวางวิ่งตัดหน้ารถจนต้องเบรคกระทันหัน…รถก็เลยเสียหลักนิดหน่อย  แต่เราก็ปลอดภัยนะ”  กายลำดับเหตุการณ์ตามและก็จำได้ทั้งหมด  เด็กหนุ่มขยับเข้าไปกอดเอวเท็ดและซุกหน้ากับอกอุ่น
         “…ครับ…นึกออกแล้ว…แย่จังผมเลยทำให้พี่ลำบากอีกแล้ว…ขอโทษครับ” 
         “พี่ไม่ลำบากสักนิด กายต่างหากเป็นไงบ้าง…ดีขึ้นแล้วหรือยัง?” เท็ดประคองหน้านวลขึ้นจูบเบาๆ
         “ไม่เป็นอะไรแล้วครับ…เรากลับบ้านกันเถอะ”
         “แต่คงต้องรออีกหน่อยนะ”
         “ทำไมละครับ?”
         “พี่จะให้ทางโรงแรมเช่ารถตู้มาให้ก่อน”
         “แล้วรถเราละครับ?” 
         “ก็กายกลัวที่จะนั่งรถคันเล็กๆไม่ใช่เหรอ  พี่จะเช่ารถตู้ให้จะได้ไม่น่ากลัวไง”
         “ผมคิดว่าผมทนได้…ผมเชื่อใจพี่…เราเดินทางกันต่อเถอะครับ”
         “แน่ใจนะ”  เท็ดลูบผมนิ่มเบาๆ  กายยิ้มให้อย่างเชื่อมั่น
         “ครับ”
             
         เพราะหิมะที่ตกหนาทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างล่าช้า  แต่ในที่สุดเวลาแห่งการรอคอยสิ้นสุดลง  กายเบิกตากว้างขึ้นเมื่อรถเลี้ยวเข้าสู่ตัวตัวบ้าน  บ้านที่ยังคงเหมือนเมื่อ7ปีที่แล้ว  สภาพที่ได้รับการดูแลอย่างดีจนแทบจะไม่แตกต่างไปจากเดิม  นอกจากต้นไม้รอบบ้านที่โตขึ้น  กับโรงเรือนหลายหลังที่มองเห็นอยู่ไกลๆ ความทรงจำในสมองเหมือนจิ๊กซอว์ที่ถูกต่อจนเสร็จสมบูรณ์  ไม่มีเงามืดมัวในสมองอีกต่อไป  กายตัวสั่น  ความดีใจ เต็มตื้น  หลั่งไหลเข้ามาจนแทบหมดสติ
         “กาย…เป็นอะไรหรือเปล่า”  เท็ดจ้องมองท่าทางของกายอย่างกังวล  กายกระพริบตาถี่ๆ  สูดลมหายใจลึกยาวเพื่อตั้งสติ ก่อนจะหันมายิ้ม 
         “ไม่ครับ…ผมรู้สึกว่า…ผม…ได้กลับบ้าน” น้ำตาคลออยู่ในดวงตาคู่สวยค่อยๆไหลรินลงมา  มันเป็นน้ำตาแห่งความปิติ
         “กาย!…น้อง…”  เท็ดครางแผ่วอยู่ในลำคอ  ความยินดีแผ่ซ่านขึ้นมาจนตั้งตัวไม่ทัน  กายชะโงกเข้ามาจุมพิตที่แก้มสากแล้วลงไปจากรถ  ดาน่าวิ่งลิ่วออกมาจากบ้านด้วยความดีใจ
         “เท็ด!…กาย!…มากันแล้วเหรอลูก  เมื่อคืนแม่ห่วงแทบแย่…กาย!…”  ดาน่าอุทานอย่างแปลกใจเมื่อถูกสวมกอดแน่นหนา
         “แม่ครับ…ผมคิดถึงแม่…คิดถึงที่สุด!”  กายเสียงสั่น  ดาน่าเองก็พาลจะร้องไห้ไปด้วยทั้งๆที่ยังจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก
         “แม่ก็คิดถึงกาย…เข้าข้างในกันเถอะหิมะเริ่มตกอีกแล้ว” 
ดาน่าโอบเอวบางเข้าบ้านไปด้วยกัน  เท็ดก้าวตามเข้าไปเป็นคนสุดท้าย  แดนนี่ชะเง้อชะแง้มาจากรถเข็นท่าทางตื่นเต้น  กายเข้าไปคุกเข่าใกล้ๆรถเข็น 
         “พ่อครับ…เป็นไงบ้าง?”
         “ดีขึ้นลูก…กาย…ลูกสบายดีไหม?”  มือสั่นที่เอื้อมมาหาชะงักค้างไม่กล้าแตะเพราะเกรงว่าจะทำให้กายกลัวเหมือนครั้งก่อน  กายเจ็บปวดที่ต้องเห็นความทุกข์ของบิดาที่เกิดเพราะเขา  เด็กหนุ่มร้องไห้โฮโผเข้าไปกอดร่างผอมบนรถเข็นแน่น
         “ขอโทษครับพ่อ!…ขอโทษ!” แดนนี่หน้าซีด  ตกใจกับปฏิกิริยาของกาย
         “กาย!…ลูกร้องไห้ทำไม…?”
         “ขอโทษครับ…เพราะผมพ่อถึงต้องเป็นอย่างนี้…แล้วผมยังทำให้พ่อเสียใจซ้ำอีก…ผมขอโทษ”  กายเงยขึ้นยิ้มทั้งน้ำตา  สายตาที่มองแดนนี่เปี่ยมด้วยความรักและเสียใจต่อสิ่งที่ผ่านมา
         “กายนี่ลูก…?”
         “ผมจำได้หมดแล้วครับ!…ผมจำทุกอย่างได้หมดแล้ว”  กายตอบเสียงสั่น 
         “พระเจ้า!…กาย…โอ!…กายของพ่อ…พ่อคิดถึงลูก…พ่อขอโทษที่ทำให้ลูกทุกข์…ลูกรัก!” แดนนี่กอดรัดร่างโปร่งเข้าไปกอดแน่น   น้ำตาไหลพรากด้วยความดีใจ  ดาน่าร้องไห้โฮวิ่งเข้าไปกอดกายด้วยอีกคน  เท็ดยืนมองพ่อแม่และกายด้วยความเต็มตื้น  ไม่มีที่ว่างที่จะให้เขาแทรกเข้าไปในตอนนี้  ชายหนุ่มค่อยๆถอยออกห่างตั้งใจจะออกไปรอข้างนอก  แต่แดนนี่หันกลับมาเห็นเสียก่อน  จึงกวักมือเรียก  ดาน่าหันกลับมายิ้มกว้างและกางแขนอีกข้างออก  เท็ดก้าวเข้าไปหา  กายกอดพ่อและแม่ไว้คนละข้างเช่นเดียวกับเท็ด  ทั้งสี่ต่างหัวเราะให้กันทั้งน้ำตา 
         
         กายเงยขึ้นยิ้มเมื่อเท็ดก้าวออกมาจากห้องน้ำ  คืนนี้กายแอบย่องมานอนกับเท็ดแทนที่จะนอนที่ห้องเดิม
         “กายจำได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”  เท็ดใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมที่ยังชื้นให้กายเบาๆ  เด็กหนุ่มหันกลับมาสวมกอดและซุกหน้ากับอกกว้าง 
         “ผมเริ่มจำได้บ้างตั้งแต่ตอนที่อยู่โรงพยาบาลที่เกาะ…แต่ผมไม่แน่ใจเพราะมันเลือนๆไม่ชัดนัก…จำได้แค่บางเรื่อง…ขอโทษนะครับที่ไม่ได้บอกให้พี่รู้ตั้งแต่แรก”  กายเงยขึ้นยิ้มประจบ  เท็ดบีบปลายจมูกแหลมเบาๆอย่างหยอกเย้า
         “ไม่เป็นไร  พี่ดีใจมากนะที่กายจำทุกอย่างได้”
         “ที่จำได้ส่วนใหญ่คงเพราะอุบัติเหตุเมื่อวาน  พอมาเห็นบ้านเราผมถึงจำทุกอย่างได้หมด”
         “ตอนนั้นกายกลัวมาก”เท็ดกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา
         “ครับ…ผมเห็นตอนที่ผมตกเหวซ้อนเข้ามา…รู้สึกเหมือนตัวเองย้อนกลับไปตอนเกิดอุบัติเหตุ…คิดว่าตัวเองกำลังจะตายและพี่กำลังจะทิ้งผมไป…รู้สึกแม้กระทั่งความเจ็บปวดในตอนนั้น…ทั้งหนาวทั้งกลัว…มันมืด..มืดมากเลย…แต่พอผมรู้สึกตัวอีกครั้งกลับมีพี่อยู่ข้างๆ…ผมถึงได้รู้ว่าผมแค่เห็นอดีตเท่านั้น…เท็ด!!พี่ร้องไห้ทำไม…เท็ดผมขอโทษ…ผมจะไม่พูดเรื่องนี้อีก…อย่าร้องไห้เลยครับ”
         “พี่ขอโทษ…ถ้าวันนั้นพี่ไม่คิดถึงแต่ตัวเองเรื่องทุกอย่างก็คงไม่เป็นแบบนี้…พี่ขอโทษ” เท็ดกระซิบเสียงพร่า  อ้อมแขนโอบรัดกายแน่นหนา  ความรู้สึกผิดและเสียใจพลุ่งพล่านจนข่มไว้ไม่ได้  กายเช็ดน้ำตาให้อย่างนุ่มนวลแต่กลับเป็นฝ่ายร้องไห้แทน  เพราะวันนี้ดาน่าได้เล่าเรื่องราวมากมายระหว่างที่เขาหายไปให้ฟัง  โดยเฉพาะเรื่องของเท็ด  แม้จะรู้ว่าเท็ดรักเขามาก แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะมากมายขนาดนั้น   
         “พี่ชดใช้ในสิ่งที่พี่ไม่ได้ทำมา 7 ปีแล้ว  อย่าขอโทษอีกเลยครับ…ถ้าจะผิดเราคงผิดด้วยกันทุกคน   แต่ตอนนี้เราได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง…เรากลับมาเป็นครอบครัวกันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว…ผมมีความสุขที่สุด”  กายเหนี่ยวใบหน้าคร้ามลงมาหา  เท็ดแนบริมฝีปากกับปากอิ่มด้วยความรู้สึกหลากหลายที่อัดแน่นอยู่ในอก  ทั้งคู่ต่างเล่าเรื่องราวในช่วงเวลา7ปีที่ต้องจากกันสลับกับการแลกจูบจนรุ่งสาง
         
         กายเดินจูงมือเท็ดเข้ามาที่โต๊ะอาหารอย่างเขินๆเมื่อเห็นสายตาของพ่อกับแม่  แดนนี่เป็นฝ่ายเอ่ยแซว แถมยังสนับสนุนจนกายงง  ดาน่าจึงอธิบายให้รู้ว่าแดนนี่เป็นคนสุดโต่งแบบนี้เอง  บทจะไม่ชอบก็ต่อต้านจนพังกันไปข้าง  แต่บทจะรับได้ก็เชียร์จนออกนอกหน้า 
         หลังจากอาหารเช้าแดนนี่เรียกกายและเท็ดไปคุยต่อที่ห้องนั่งเล่น   กายกับเท็ดนั่งบนพรมวางศรีษะไว้บนตักของแดนนี่คนละด้าน
         “พ่อรักลูก…เพราะทิฐิพ่อเกือบต้องเสียลูกไปทั้งสองคน  ตอนนี้พ่อได้ลูกคืนมาแล้ว”มือที่ลูบผมลูกทั้งสองสั่น แดนนี่รีบเช็ดน้ำตาก่อนที่จะหยดลงบนศรีษะลูกๆ  ดาน่าเข้ามาโอบกอดแดนนี่ข้างหลังแต่แดนนี่ดึงแขนภรรยามานั่งเคียงข้าง  กายแทรกเข้าไประหว่างพ่อกับแม่ขณะที่เท็ดยังคงนั่งอยู่ที่เดิม 
         “ถ้าจะหาคนผิดแม่ว่าเราคงผิดด้วยกันทุกคน  เพราะต่างก็ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลเรื่องราวมันถึงได้บานปลายอย่างนี้…แต่ตอนนี้เราได้กลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้งแล้วนี่…ปล่อยให้อดีตเป็นบทเรียนไว้เตือนใจแล้วเราเริ่มต้นกันใหม่ดีไหมลูก…”  เท็ดกับกายหันมาสบตากันก่อนจะเงยขึ้นยิ้มให้พ่อกับแม่
         
         “ผมจะเข้ารับการผ่าตัด…” กายเอ่ยขึ้นมาลอยๆ  เท็ดก้มลงมองหน้า
ที่ซุกกับอกอย่างแปลกใจ
         “กาย!?!” 
         “พี่เคยบอกผมว่าหมอจะทำให้ผมเป็นปกติได้”  กายสบตาด้วยท่าทางมั่นใจ  เท็ดยิ้มกว้างอย่างยินดี
         “หมอยืนยันว่ากายมีโอกาสกลับเป็นปกติแน่นอน”
         “งั้นนัดหมอได้เลยครับ…ผมพร้อม”  เท็ดหัวเราะเบาๆอย่างดีใจ  ทั้งที่ความทรงจำของกายหายเป็นปกติมาหลายเดือนแล้วแต่กลับไม่ยอมเข้ารับการผ่าตัดสะโพก ไม่มีใครรู้ว่าเพราะอะไร  แต่กายรู้ดีว่าเหตุผลที่เขาไม่ยอมผ่าตัดเกิดจากความกลัว หากการผ่าตัดล้มเหลวเขาก็จะกลายเป็นคนพิการไปจริงๆ แต่ถ้าทนแบบนี้ไปเรื่อยๆก็ยังหลอกตัวเองไปได้วันๆว่ายังมีหวังที่จะหายเป็นปกติ  แต่ทุกครั้งที่เห็นสายตาเจ็บปวดของเท็ดที่มองมาเวลาที่เขาเดินเขยก  กายเองก็พลอยเจ็บไปด้วย     
         กายขดตัวเข้ามาในอ้อมแขนของเท็ดมากขึ้น  นิ้วเล็กวนไล้บนอกกว้างเล่นอยู่นานจึงค่อยเอ่ยถึงสิ่งที่ยังค้างคาในใจ
         “…ถ้าผมหาย…เรากลับไปที่รีสอร์ทของริชกันอีกนะครับ”
         “ตกลง…พี่ก็อยากพากายไปพักผ่อนที่นั่นเหมือนกัน” กายพลิกขึ้นมาเกยคางบนอกเท็ด
         “พี่ว่าพ่อกับแม่จะไปกับเราไหม?”
         “พี่ว่ายาก  ตอนนี้พ่อกำลังสนุกกับการเป็นอาสาสมัครที่สถานบำบัด  แม่ก็ธุรกิจกำลังรุ่งเห็นเปรยๆกับพี่ว่าจะขยายสาขาอีกร้าน”
         “ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าแม่จะกลายเป็นนักธุรกิจไปได้  แถมยังเก่งมากด้วย”
         “พี่ดีใจที่พ่อกับแม่มีความสุขเสียที  ที่ผ่านมาพี่รู้สึกมาตลอดว่าพี่เป็นต้นเหตุให้พวกท่านเป็นทุกข์”
         “เท็ด…”  กายครางเสียงแผ่วอย่างสะเทือนใจ
         “พี่รู้กายว่าทุกคนไม่คิดอย่างนั้น…แต่ในใจลึกๆพี่รู้สึกแบบนั้นมาตลอด  แต่วันนี้พี่มีความสุขมากที่ทุกอย่างมันลงตัวด้วยดี”
         “ผมก็ดีใจที่มีวันนี้…พี่เข้มแข็งจัง 7ปีเชียวนะครับที่พี่ต้องแบกรับทุกอย่างไว้หมด  พี่ทนได้ไง?”
         “พี่อยู่ได้ด้วยความหวัง หวังว่าสักวันพี่จะได้กายกลับมาแล้วพี่ก็ได้จริงๆ  พระเจ้าย่อมไม่ทอดทิ้งเราหากเราทำแต่ความดี”
         “ผมรักพี่”
         “พี่ก็รักกาย…รักมาก…มากขึ้นทุกวัน”กายอมยิ้มเจ้าเล่ห์  เลื่อนตัวขึ้นมานอนบนเท็ดทั้งตัว
         “หวานซะขนาดนี้…งั้นผมต้องให้รางวัลสิ…”  กายเป็นฝ่ายจูบรุกเร้าแล้วถอยหนียั่วให้ติดตาม  เท็ดกดสะโพกเล็กให้เบียดชิดมากขึ้นขณะที่ปากก็ติดตามไขว่คว้าปากอิ่มไว้ไม่ให้ห่างไป  กายหัวเราะคิกคักอย่างยั่วยวนก่อนจะกลายเป็นเสียงครางหวานในที่สุด
            
จบจ้า
.............

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาโดยตลอดนะคะ

และจะนำตอนพิเศษมาลงในเร็วๆนี้คะ :pig4:

Sakana2yunjae

  • บุคคลทั่วไป
 :L2: :L2:

เย้มาอ่านทันตอนจบพี่ดี ขอบคุณมากๆๆคะ

แต่งเรื่องราวแบบนี้ได้ดีจิงๆๆ

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1


 :pig4:


แล้วจะรอตอนพิเศษนะค่ะ


ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
ในที่สุดก็มาถึงตอนสุดท้ายแล้ว ขอบคุณนะครับที่นำเรื่องดีๆที่ให้ได้อ่านครับ รอตอนพิเศษครับ

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
happy ending ซะที

งุงิ

ไงจะรอตอนพิเศษนะครับ

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจจังที่จบแบบมีความสุข สดชื่นทั้งครอบครัว
ลงตัวทั้งกายและเท็ด แถมพ่อแดนนี่ก็รับได้อย่างดี
แม่ดาน่าก็มีความสุขไปด้วย
ขอบคุณทั้งคนแต่งและคนโพสต์สำหรับเรื่องสนุกๆนี้นะคะ
บวก 1 แต้ม และรอคอยตอนพิเศษค่ะ  :L2:


ออฟไลน์ CHOKUN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
อ่านจนจบแล้ว อยากบอกว่า รอตอนพิเศษนะ :L2: :L2: :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด