เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"  (อ่าน 167965 ครั้ง)

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
กาย เก่งมากไปฝึกมาจากไหนเนี่ย :m25:
แบบนี้เท็ดไม่กระอักตายคาอกเหรอ  :laugh:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ดันๆ รอตอนหื่น  :z1: :z1:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
วันนี้มามั้ยค่ะ มาเหอะ มาเหอะ คิดถึง เท็ด กะ กาย  :m25:

ออฟไลน์ tianqin

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
ขอบคุณที่มารอนะคะ
 เผอิญมีการงงในต้นฉบับที่ส่งมาให้นิดหน่อย กลัวไม่ต่อเนื่องหรือกระโดดข้ามไป ขอเวลาถามคุณใบปอก่อนนะ พรุ่งนี้คงจะมาลงต่อให้ได้คะ

รออีกวันนะ :really2:


namtaan

  • บุคคลทั่วไป
^
^
ขอบคุณที่มาส่งข่าวค่ะ
รออ่านต่อนะคะ ^^

ออฟไลน์ RAKDEK_KA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1798
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
อืมๆๆ เรื่องนี้เหมือนเคยอ่าน รู้สึกว่าสนุกดีอ่ะ หืนๆๆ ดี :o8: :o8:
แต่ก็จะมะค่อยได้แล้ว แบบว่า นาน มากอ่ะเรืงนี้  :z3:

ออฟไลน์ tianqin

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
ขออภัยที่มาข้าไป 1 วันนะคะ
มาอ่านกันต่อเลยคะ

................
         ริชชะเง้อมองประตูทางเข้าโรงเรียนอย่างหงุดหงิด กายขาดเรียนมา 3วันแล้ว ทางบ้านโทรมาแจ้งโรงเรียนว่าป่วย ทำให้ริชอดกังวลใจไม่ได้ แม้การผ่าตัดจะได้ผลดีแต่สภาพร่างกายของกายก็อาจจะยังไม่แข็งแรงนัก
         รถจิ๊ปกลางเก่ากลางใหม่คันหนึ่งเลี้ยวเข้ามาจอด กายก้าวลงมาแล้วชะโงกเข้าไปคุยกับคนขับก่อนที่รถคันนั้นจะถอยออกไป ริชขมวดคิ้วแปลกใจที่เห็นกายยืนมองรถคันนั้นจนลับตาจึงเดินเข้ามา
         “กาย”
         “อ้าว!…ริช มายืนคอยใครล่ะวันนี้?” ริชขมวดคิ้ว มองหน้านวลที่ดูเปล่งปลั่งอย่างแปลกใจ ก็ไหนว่าป่วยแล้วทำไมดูสดชื่นขนาดนี้เลยล่ะ
         “มาคอยนายนั่นแหละ เห็นเพื่อนห้องนายบอกว่านายป่วย แล้ว…ดูนายก็สดชื่นดีนี่นา”
         “ก็หายแล้วนี่” ริชยังคงนิ่วหน้าจ้องกายราวกับจะจับพิรุธ กายอมยิ้มเดินนำเข้าไปที่ตึกเรียน

         “กาย…ตอนเย็นไปแม็คฯกัน” ริชโผล่เเข้ามาในห้อง กายยังก้มหน้าก้มตาเขียนอยู่อย่างเดิม บนโต๊ะมีสมุดหลายเล่มเรียงกันเป็นระเบียบ
         “ทำอะไรน่ะ?” ริชท้าวลงบนโต๊ะ ก้มมองงานแล้วมองหน้ากายอย่างงงๆ
         “งานส่วนที่ขาดเรียนไป 3 วัน”
         “อ้าว! ก็เอาไปทำที่บ้านสิ”
         “ไม่ได้”
         “ทำไมล่ะ?” กายถอนใจเฮือกเงยหน้าขึ้นมองริชอย่างรำคาญ
         “ก็ฉันอยากทำให้เสร็จตอนนี้เลย เลิกเรียนจะรีบกลับบ้าน”
         “แล้วนี่นายไม่ไปกินมื้อเที่ยงหรือ?”
         “ไม่ล่ะฉันฝากเพื่อนซื้อขนมปังแล้ว”ริชทรุดลงนั่งข้างๆ กายรีบเร่งจนน่าแปลกใจ
         “เอ้า!ถ้าว่างนักก็ช่วยทำหน่อยสิ” กายหันมาหยิบสมุดเล่มบนส่งให้ ริชขมวดคิ้วแปลกใจที่กายให้ช่วยทำงาน เพราะเขาเคยอาสาช่วยหลายครั้งแต่กายก็ไม่เคยยอมให้ทำให้สักครั้ง แต่ริชก็รับสมุดมาช่วยทำเงียบๆ
         “เฮ้อ!เสร็จซะที ขอบใจนายมากริช นี่ถ้านายไม่ช่วยกว่าจะเสร็จคงกลับบ้านช้าแหงๆ”
         “ดูเหมือนนายอยากกลับบ้านเร็วเป็นพิเศษนะวันนี้?”
         “ไม่ใช่แค่วันนี้หรอกน่า ฉันก็รีบกลับเหมือนทุกวันแหละ” กายหัวเราะเสียงใส ดวงตาแพรวพราว ริชจับจ้องอย่างประหลาดใจ นี่เขาคงไม่ได้คิดไปเองสินะที่รู้สึกเหมือนกายจะดู..สวยขึ้น…เซ็กส์ซี่มากขึ้น…หรือว่า!
         “กาย!นายเสร็จเท็ดแล้วเหรอ?”กายสะดุ้งหันมามองริชอย่างประหลาดใจ แต่แก้มแดงซ่านนั้นก็เป็นคำตอบได้ดีพอแล้ว
         “โธ่!…ฉันรึอุตสาห์เฝ้านายมาตั้งนาน ลงทุนย้ายตามนายมาอยู่โรงเรียนบ้านนอกขนาดนี้ แต่นายกลับมาเสร็จเท็ดงั้นเหรออุ๊บ!” กายกระโดดปิดปากริชแทบไม่ทันเป็นจังหวะที่เพื่อนโผล่เข้ามาพอดี บิลลี่ชะงักเมื่อเห็นท่าทางสนิทสนมของคนทั้งสอง
         “เอ่อ!…กาย นี่ขนมปังที่ฝากซื้อ”
         “ขอบใจมากบิล”กายรีบปล่อยปากริชรีบมารับขนม บิลลี่เหลือบมองริชอย่างแปลกใจนิดๆ เห็นท่าทางยะโสนั้นก็อดหมั่นไส้ไม่ได้
         “กาย ระวังตัวไว้หน่อยก็ดี หมอนี่ชื่อเสียงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเกรด12เขาลือกันว่าไม่ใช่แต่ผู้หญิงนะ…เห็นว่าผู้ชายก็ฟาดด่ะ..”บิลลี่กระซิบเบาๆ กายพยักหน้ายิ้มหวานละลายหัวใจให้ บิลลี่หน้าแดง ท่าทางเงอะงะขัดเขิน
         “เอ่อ!…เราไปนะ”กายอมยิ้มมองบิลลี่ไปจนลับตาเมื่อหันกลับมาก็เห็นริชยืนกอดอกหน้าบึ้งอยู่ที่เดิม
         “นายนี่หว่านเสน่ห์ไปทั่วเลยนะกาย!”
         “พูดยังกับนายหึงฉันงั้นแหละ” กายเดินมานั่งที่เดิมแกะขนมปังออกมาบิเป็น 2 ซีก
         “กินไหม?”
         “ไม่เอา!” ริชผุดลุกขึ้นเดินไปหยุดยืนมองนอกหน้าต่าง กายกินขนมปังอย่างสบายอารมณ์
         “นายยังไม่ได้ตอบฉันเลยว่านายกับเท็ดน่ะ…?”
         “ใช่”
         “มิน่าละ แสดงว่าที่นายขาดเรียนนี่เป็นเพราะหมอนั่นทำให้นายแย่ละสิ”กาย อมยิ้มเฉย
         “ไม่น่าเชื่อแฮะ…ท่าทางก็ดูจืดๆ ไม่น่าจะร้อนแรงได้ขนาดนั้น” กายหน้าแดง คันปากยิบๆ อยากจะพูดให้หมดเปลือกว่าเท็ดน่ะร้ายขนาดไหน ทั้ง ๆ ที่มั่นใจว่าเขาน่ะร้ายพอตัวถึงได้กล้ายั่วเท็ด คิดว่าจะคุมสถานการณ์ได้ แต่กายเพิ่งเข้าใจว่าทฤษฎีที่เขามีมันเทียบกันไม่ได้กับประสบการณ์ของเท็ด เท็ดเป็นฝ่ายควบคุมทุกอย่าง ส่วนกายได้แต่ดิ้นเร่าๆทุกครั้งที่ถูกแตะต้อง ตั่งแต่คืนวันศุกร์จนเมื่อวานกายแทบไม่ได้ลงจากเตียงด้วยซ้ำ ยังดีนะที่ริชกับเท็ดน่ะพวกขั้วเดียวกันไม่งั้นกายคงนอนไม่หลับเพราะกลัวว่า 2 คนนี้ ถ้าเจอกันเข้ามีหวัง….
         “นายอย่าทำตาอย่างนั้นได้ไม๊กาย ฉันขนลุกว่ะ” ริชทำท่าขนลุกขนพองเอาจริงๆ กายหัวเราะคิก ขำความคิดพิเรนของตัวเอง
         “นายล่ะ…เรื่องราเชลไปถึงไหนแล้ว?” ริชยักไหล่ท่าทางหงุดหงิด
         “เข้าถึงตัวที่ไหนล่ะ ตอนนี้ที่บ้านเขาส่งคนมารับมาส่งแทบทุกวัน ในโรงเรียนก็มีไอ้เด็กชมรมมวยคอยตาม แถมยังมีแฝดจอมจุ้นนั่นคอยประกบอีกเซ็งชะมัด” กายอมยิ้มดูท่า3วันที่ผ่านมาริชคงหงุดหงิดไม่น้อย เพราะเป็นรายแรกที่อยากได้แล้วไม่ได้ดังใจ   สงสัยเขาคงต้องช่วยอีกแรงละมั้ง
         “เย็นนี้มีประชุมหัวหน้าชมรมเกรด8-10ราเชลเขาเป็นตัวแทนชมรมศิลปะ ฉันคงได้คุยกับเขา” ริชหน้าชื่นขึ้นมาทันตา
         “พอดีวันนี้ฉันว่าง…ฉันมาคอยนายที่ชมรมนะ”
         “อ้าว! วันนี้นายมีซ้อมยูโดไม่ใช่เหรอ?”
         “ไม่เป็นไรโดดได้…อ้าว!ใกล้เวลาเรียนแล้วฉันไปก่อนละ” ริชทำท่าจะออกเดินแต่กลับหันมาคว้าเอวกายแล้วชะโงกหน้ามาหาอย่างรวดเร็ว กายยกมือขึ้นปิดปากริชได้ทันก่อนจะสัมผัสแค่นิดเดียว พร้อมกับบิดตัวออกจากอกกว้าง
         “โธ่กาย!…ทำไมนายหวงตัวกับฉันนัก  แค่จูบเท่านั้นเอง”
         “เสียใจริช…ฉันไม่อยากให้ใครแตะฉันอีก….นายเข้าใจนะ” ริชถอนใจเฮือก ก็เล่นทำตาแบบนี้จะไม่เข้าใจได้ไง ริชยอมผละไปแต่โดยดี วิ่งตัดกลับที่ตึกเรียนฝั่งตรงข้าม
             
         “ครับ…หวังว่าทุกชมรมคงรีบดำเนินการให้เสร็จก่อนสัปดาห์หน้านะครับ ขอบคุณมากครับ” ประธานกล่าวขอบคุณเป็นการปิดประชุม ตัวแทนจากทุกชมรมเก็บของทะยอยออกจากห้อง
         “ราเชล…ผมมีเรื่องจะปรึกษานิดหน่อยอยู่ก่อนได้ไหม?”
         “ครับ” ราเชลรับคำเบาๆ
         “พวกเราอยู่เป็นเพื่อนราเชลได้ไหมครับ?” สองเพื่อนสนิทราเชลถามพร้อมเพรียงกันราวกับนัด กายยิ้มหวานเล่นเอา 2 หนุ่มหน้าแดงเขินแทบจะมุดไปอยู่ใต้โต๊ะ
         “ผมมีเรื่องจะปรึกษาราเชลหลายเรื่องเลย พอเสร็จธุระแล้วจะโทรให้รถที่บ้านเขามารับนะครับ ไม่ต้องรอก็ได้”
         “ครับ” กายยิ้มขัน2หนุ่มที่ชอบทำอะไรพร้อมกันสมกับที่เป็นคู่แฝด กายรอจนนักเรียนออกจากห้องประชุมไปหมดจึงหันมาหาราเชล
         “ไปที่ชมรมผมแล้วกันนะครับ”
         “ครับ”ราเชลรับคำเดินตามต้อยๆ กายออกจากห้องประชุมชะงักกึกเมื่อเกือบชนกับคนที่พรวดพราดเข้ามา
         “ขอโทษครับคุณพอลลิ่ง เอ่อ…ผมคิดว่าราเชลอยู่คนเดียว” กายยิ้มหวานละลายหัวใจเหมือนเคย ปีเตอร์ยืนตะลึงจ้องหน้าเนียนอย่างลืมตัว หน้าร้อนผ่าวเมื่อนึกได้ว่าตั้งใจจะมารับราเชล แต่พอเจอรอยยิ้มของกายก็อดจะใจสั่นไม่ได้
         “วันนี้ผมขอยืมตัวราเชลสักวันนะครับ…มีเรื่องจะปรึกษานิดหน่อยเกี่ยวกับงานนิทรรศการสัปดาห์หน้า ไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ?”
         “ครับได้ครับ เอ่อ…”ปีเตอร์รับคำอย่างลืมตัว แต่พอนึกขึ้นได้กายก็พาราเชลเดินไปไกลแล้ว ปีเตอร์เกาหัวแกรกแต่กายดูไม่น่าจะอันตรายกับราเชล  ปีเตอร์ตัดสินใจกลับไปชมรมตัวเอง
         “เชิญครับ” กายเปิดประตูเข้าไปข้างใน ราเชลเดินตามต้อยๆเหมือนเดิม เพราะรู้สึกประหม่ายำเกรงทุกครั้งที่ต้องใกล้ชิดกับคนที่ดูมั่นใจในตัวเองเหมือน‘กาย พอลลิ่ง’กายดูมีเสน่ห์ น่าทึ่ง โดดเด่น ใครๆก็พากันหลงไหลจนราเชลรู้สึกอิจฉา ที่สำคัญกายเป็นคนเดียวที่ริช แฮมิลตัน ยอมลงให้ทุกอย่าง ข่าวลือหนาหูว่าริชย้ายมาเรียนที่นี่เพราะตามกายมา
         “…ราเชล…แน่ะใจลอยเชียวครับ” ราเชลสะดุ้งหน้าแดง เขินที่มัวแต่คิดเพลินจนไม่ได้ยินที่กายพูด
         “เอ่อ…คุณพอลลิ่ง มีเรื่องอะไรจะคุยเหรอครับ?”
         “อย่าเรียกนามสกุลเลย เราก็ห่างกันแค่ปีเดียว เรียกกายเฉยๆแล้วกันครับ”
         “ครับ” ราเชลรับคำเขินๆ กายอมยิ้มจ้องมองท่าทางเขินอายนั้นอย่างแปลกใจ ราเชลดูขี้อายมากกว่าที่เขาคิด ดูเด็กกว่าเขามากทั้งที่ก็อายุ13แล้ว เด็กอายุ13ที่กายรู้จักไม่มีใครเหมือนราเชลสักคน
         “อีก3สัปดาห์จะถึงงานฉลองครบรอบ30ปีของโรงเรียน กรรมการที่จะมาช่วยงานฝ่ายกิจกรรมมีไม่พอ ทราบมาว่าชมรมศิลปะงดจัดกิจกรรมใช่ไหมครับ?”
         “ครับสมาชิกปีนี้มีแค่7คน ตอนนี้ก็ป่วยไป2 ที่เหลือก็มีผลงานไม่มากนัก เลยไม่จัดกิจกรรมอะไรครับ”
         “ผมอยากขอให้ราเชลมาช่วยส่วนกลางจะได้ไหมครับ?”
         “ได้ครับ แต่ผมวาดรูปเป็นอย่างเดียวจะช่วยอะไรได้”
         “นั่นแหละครับที่สำคัญ เรามีงานที่จะต้องใช้ป้าย ใช้ตัวหนังสือกับภาพประกอบเยอะเลย แต่หาคนช่วยไม่ค่อยได้ ราเชลพอจะช่วยส่วนนี้ได้รึเปล่าครับ?”
         “ครับถ้าเป็นเรื่องพวกนี้ผมพอจะทำได้”
         “ขอบคุณมากครับ ผมจะเอารายชื่อคนที่จะมาช่วย…” ประตูห้องถูกเปิดพรวดเข้ามา
         “เฮ้!กาย…อ้าว!ยังคุยธุระอยู่เหรอ?” ร่างสูงเกือบเต็มประตูชะงัก ตาคมจับจ้องราเชลเขม็ง ราเชลหน้าแดงก่ำรีบก้มหน้า
         “หวัดดีราเชล”
         “เอ่อ…สะ..สวัสดีครับ” ราเชลยังคงก้มหน้างุดเหมือนเดิม ริชเดินมาทรุดลงนั่งข้างกายหงุดหงิดที่ราเชลไม่ยอมเงยขึ้นสบตา กายหันมาเลิกคิ้วนิดๆ เป็นเชิงถาม ริชส่ายหน้าไม่รู้จะทำยังไง ริชจ้องหน้าราเชลนิ่งนาน ตาคมเป็นประกายเจ้าเล่ห์
         “กาย…พอเสร็จธุระแล้วเราไปดูหนังกันนะ พอดีหนังเรื่องใหม่เข้าวันนี้ด้วยสิ …นะครับ”  ริชทำเสียงหวานออดอ้อน กายมองริชงงๆแต่พอเหลียวกลับมาทาง
ราเชลก็ชะงัก ราเชลรีบก้มหน้างุดเหมือนเดิมแต่แววตาที่กายเห็นเพียงแว่บเดียวทำให้กายประหลาดใจ มันมีทั้งความอิจฉาริษยาและเศร้าสร้อย กายหันมาขยิบตาให้สัญญาณ ริชรีบเดินออกจากห้องไม่มองราเชลสักนิด กายเขยิบเข้าใกล้ราเชลมากขึ้น
         “ถึงไหนแล้วอ้อ!รายชื่อ…ราเชล!เป็นอะไรไปครับ?” ราเชลเช็ดน้ำตาง่วน ปากสั่นระริก หน้าซีดเซียวเห็นได้ชัด
         “ปะ..ปล่าวครับ…คือ ผมปวดหัวนิดหน่อย”
         “อ้าว!งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับรายละเอียดเดี๋ยวผมจะส่งไปให้ทีหลัง”
ราเชลสะพายกระเป๋าเดินตามหลังกายออกมา ริชยังรออยู่หน้าห้อง
         “ริชไปส่งราเชลหน่อยนะเห็นว่าปวดหัว”
         “ไม่ต้องครับ พวกคุณมี…เอ่อ..นัดกันไม่ใช่หรือครับ ผมกลับเองได้”
         “แต่นี่ก็เย็นมากแล้ว ยังไม่ได้โทรบอกให้ที่บ้านมารับเลย ให้ริชไปส่งแหละดีแล้ว”
         “แต่ว่า..”
         “กายอย่าไปบังคับเขาเลย เขาคงไม่อยากไปกับคนชื่อเสียงไม่ดีแบบฉันนักหรอก”
         “เปล่านะครับไม่ใช่อย่างนั้น” ราเชลรีบปฎิเสธท่าทางเดือดร้อนนั้นทำให้กายนึกหมั่นไส้ริชที่ยังยืนเก๊กหน้าขรึม
         “ผมไม่ได้คิดแบบนั้นเลยครับ…แต่ผมเกรงใจ..คือ..”
         “ถ้างั้นให้ริชไปส่งนะครับ” กายรีบรวบรัด
         “แล้วเรื่องนัด…”
         “ไม่เป็นไรครับ อ้าว!พี่ผมมารับพอดีไปนะครับราเชล ไปนะริชพรุ่งนี้เจอกัน”
ริชโบกมือให้ กายรีบวิ่งไปที่รถ เท็ดลงมาเปิดประตูคอยอยู่แล้วพอกายขึ้นไปนั่งเรียบร้อยมือใหญ่ก็เอื้อมมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้อย่างนุ่มนวล กายยิ้มหวานปลื้มกับสายตาที่จ้องมองอย่างรักใคร่อ่อนโยน
         “คิดถึงเท็ดจัง” กายกระซิบเบาๆ เท็ดยิ้มกว้าง ตาคมเป็นประกายวาววาม
         “พี่ก็คิดถึง ถ้าทำได้พี่ไม่อยากให้กายห่างไปไหนด้วยซ้ำ” มือใหญ่ยังอ้อยอิ่งอยู่แถวเอวบาง
         “กลับบ้านเถอะครับ” เท็ดยอมถอยแต่โดยดีปิดประตูแล้วกลับมาขึ้นฝั่งคนขับ ขณะที่รถเคลื่อนออกมา กายอดชะโงกดู2คนข้างหลังไม่ได้ เห็นราเชลเดินตามริช มาที่รถสปอร์ตคันหรู กายพิงตัวกับเบาะถอนใจยาว
         “มีอะไรไม่สบายใจหรือกาย?”
         “ฮะ…ไม่รู้ว่าผมทำถูกหรือเปล่าที่ช่วยเพื่อน” เท็ดขมวดคิ้ว
         “ช่วยเพื่อน…ช่วยอะไร?”
         “เพื่อนผมเขาชอบรุ่นน้องอยู่คนหนึ่ง ผมเลยช่วยให้เขาได้ใกล้ชิดกัน แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นการทำร้ายรุ่นน้องหรือเปล่า เพราะเขาดูไร้เดียงสามากๆ เลย” เท็ดหัวเราะหึๆ
         “เหมือนกาย”
         “ไม่เหมือนหรอกครับ” เท็ดเอื้อมมือมาดึงมือเล็กขึ้นจูบเบาๆ ตายังจ้องมองที่ถนน
         “กาย…ถ้าคิดแล้วไม่สบายใจก็อย่าคิดเลย…พี่ว่าคงไม่มีอะไรเลวร้ายหรอก”
         “ครับ” เท็ดปล่อยมือกายมาจับพวงมาลัยทั้ง2มือ กายขยายสายเข็มขัดนิรภัยออกกว้าง ขยับเข้ามาซบบนไหล่แข็งแรง เท็ดเอื้อมไปเปิดเทปเสียงเพลงรักแผ่วพริ้ว บรรยากาศในรถอบอวลด้วยความรักความเข้าใจ
         
         กลิ่นจัสมินหอมฟุ้งทั่วห้องตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบเข้าไป กายเหลียวมามองคนข้างหลังที่ยืนยิ้มกว้าง เท็ดดันประตูปิดขณะที่กายโถมเข้ากอด แขนแข็งแรงรัดร่างเล็กให้แนบกระชับขณะที่ปากบดเบียดเข้าหากันอย่างรวดเร็ว
         “อืม…เท็ด …ผมคิดถึงพี่ทั้งวัน” กายพึมพำอู้อี้ ปากยังคงพัวพันดูดดื่ม เท็ดปลดเสื้อผ้าออกจากตัวเขาและกายอย่างรวดเร็ว ปากยังคงแนบประกบกันไม่ห่างนอกจากตอนที่ถอดเสื้อออก กว่าจะเดินไปถึงห้องนอนเสื้อผ้าก็ถูกถอดโยนเกลื่อนตลอดทาง เท็ดดันประตูห้องนอนปิดพร้อมๆกับยกร่างเปล่าเปลือยขึ้นถูไถบดเบียด ผิวเปลือยที่สัมผัสกันร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ ขาเล็กเกี่ยวกระหวัดรอบเอวแข็งแขนโอบรอบคอแน่น เท็ดเลื่อนมือมาช้อนสะโพกกายกดให้ถูไถกับแก่นกายร้อนผ่าว ก่อนจะดันร่างเล็กลงบนเตียง กายขยับขาออกกว้างเมื่อเท็ดเบียดลงมาหาก็ตวัดขารัดรอบร่างหนาไว้แน่น เท็ดลูบไล้บนอกตึงเคล้นคลึงหนักหน่วง กายขยับร่างเบาๆลูบไล้ทั่วแผ่นหลังกว้างแล้วเลื่อนลงไปลูบบนสะโพกแกร่ง เพลิดเพลินกับกล้ามเนื้อแข็งใต้ฝ่ามือ เท็ดปล่อยปากนุ่มช้ำเป็นอิสระ เลื่อนปากเลาะเล็มบนลำคอขาวแผ่วเบาไม่กล้าให้ทิ้งร่องรอยแดงไว้ ก่อนจะก้มลงกัดเม้มยอดอกเล็กเบาแล้วหนักขึ้นเรื่อยๆ กายหอบสะท้านแอ่นอกขึ้นหาปากร้อนอย่างลืมตัว เท็ดเลื่อนมือลงกอบกุมแก่นกายของเด็กหนุ่ม ขยับเป็นจังหวะเนิบช้าแล้วเร่งขึ้นเรื่อยๆ
         “อือ…เท็ด..” กายกระซิบเสียงแผ่ว เท็ดเลื่อนมือจากแก่นกาย นิ้วร้อนสอดเข้าหาหลืบแคบช้าๆ แรงตอดรัดรอบนิ้วทำให้เสียวท้องน้อยวูบ มืออีกข้างเอื้อมไปหยิบกระปุกครีมจากหัวเตียง เจลลื่นถูกชะโลมจนชุ่มก่อนจะสอดเข้าไปในซอกแคบใหม่
         “อา..เท็ด..อื้อ..” กายเริ่มครวญครางสะโพกเริ่มขยับไปตามจังหวะของนิ้วยาวที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ เท็ดจูบไล่ลงหาหน้าท้องเนียน และครอบครองแก่นกายร้อนผ่าวไว้ กายเกร็งสะท้าน มือจิกกำผ้าปูที่นอนแน่น เท็ดเร่งจังหวะการทำงานของของนิ้วและปาก เสียงกายครางกระเส่า จู่ๆเท็ดก็ถอนปากออก นิ้วยาวยังคงสอดแทรกแต่ผ่อนจังหวะให้ช้าลง กายลืมตาขึ้นมองอย่างงุนงง ดวงตาโตยังคลอด้วยน้ำตา อารมณ์ที่ถูกเร้าจนเกือบถึงขีดสุดชะงักค้าง
         “เท็ด…ทำไมล่ะ…อื้อ” กายอุทานอย่างหงุดหงิดเมื่อนิ้วยาวถูกถอนออก เท็ดเท้ามือ คล่อมร่างบางไว้หน้าคมยิ้มละไม แต่ดวงตาเจ้าเล่ห์
         “กาย…รักพี่รึเปล่า?”
         “บ้า!…เท็ดบ้า!”กายอุทานอย่างขัดใจ โกรธจนต้องดึงหมอนมาปิดหน้า ร่างกายร้อนผ่าวทุรนทุรายต้องการปลดปล่อย เสียงเท็ดหัวเราะหึๆยิ่งทำให้โมโหมากขึ้น กายเหวี่ยงหมอนทิ้งผุดลุกขึ้นทุบอกกว้างอย่างโกรธจัด
         “เท็ดบ้า!…บ้า!…ฮือ! ผมโกรธแล้วนะ”
         “กายโธ่!…พี่ล้อเล่นน่า” เท็ดหัวเราะคว้ากายเข้ามากอด กายร้องไห้อย่างหงุดหงิดน้อยใจที่ถูกแกล้งเล่น เท็ดช้อนหน้านวลขึ้นจูบเบาๆทั่วหน้าก่อนจะแนบปากเข้าหาปากอิ่ม แต่กายเบี่ยงหน้าหนีเม้มปากแน่นพยายามปลดมือใหญ่ออก  เท็ดกระชับมือที่กุมแก้มนวลไว้มั่น ลิ้นร้อนลูบไล้ปากอิ่มเบาๆ ดันกายลงนอนก่อนจะเลื่อนมืออีกข้างลงไปกอบกุมแก่นกายขยับเป็นจังหวะหนักๆ
         “อื้อ..”กายเผลอครางด้วยความเสียวซ่าน ลิ้นร้อนสอดเข้าหาอย่างรวดเร็วเมื่อปากอิ่มเผยอ กายใช้ลิ้นดันลิ้นร้อนออกแต่เท็ดกลับกอดเกี่ยวพัวพัน เป็นสงครามลิ้นที่ยิ่งสู้ก็ยิ่งร้อน เท็ดแทรกเข้าเบียดชิดเมื่อกายเผลอขยับขาออกกว้าง นิ้วยาวสอดเข้าซอกแคบเร่งเร้าถี่เร็ว ได้ยินเสียงกายครางกระเส่าจึงค่อยถอนนิ้วออก
         “อื้อ…อูย!”กายอุทานอย่างขัดใจก่อนจะสะท้านเฮือกเมื่อแก่นกายร้อนผ่าวแข็งแรงสอดเข้ามาแทน ทั้งที่มีเจลช่วยหล่อลื่นแต่ก็ทั้งเจ็บทั้งอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก กายพยายามผ่อนคลายกางขาออกให้กว้างที่สุดเพื่อเปิดทางให้ร่างร้อนสอดเข้ามาได้มากขึ้น เท็ดขยับสะโพกช้าๆจนแนบสนิท โน้มลงจูบปากอิ่มหนักหน่วง ช่องทางแคบบีบรัดร้อนผ่าว เด็กหนุ่มช้อนหลังบางขึ้นเลื่อนปากลงหายอดอก  กัดเม้มจนเกิดรอยแดงเป็นจ้ำมืออีกข้างโลมลูบแก่นกายนุ่มเป็นจังหวะ
         “เท็ด…อื้อ…ผม..” เท็ดรู้ว่ากายพร้อมแล้วจึงละมือจากแก่นกายมาช้อนสะโพกบางขึ้นขยับเบาๆ แขนเรียวโอบรัดบ่ากว้างแน่นจังหวะการแทรกสอดเริ่มเร่งขึ้นแรงขึ้น กายสะท้านไปตามแรงกระแทก
         “ซี๊ด…เท็ด…อาาาา” กายครางระงมจิกเล็บบนบ่ากว้างขาเรียวตวัดรัดรอบเอวเท็ดเกร็งแน่น
         “เท็ด!…เร็วเข้า…ผมไม่ไหวแล้ว…อื้อ” กายร้องกระเส่าน้ำตาไหลพราก ความซ่านเสียวกระจายไปทั่วร่าง หน้าท้องเนียนเกร็งเขม็ง ร่างกายบิดเร่าก่อนจะปลดปล่อยออกมา เท็ดกัดฟันแน่นแรงบีบรัดรุนแรงทำให้ความอดทนขาดผึง มือใหญ่กระชากสะโพกเล็กเข้าหาหนักหน่วงเสียงกายหวีดร้องครั้งแล้วครั้งเล่า ประสาทที่ตึงเขม็งขาดออก ร่างกายเกร็งสะท้านปลดปล่อยเข้าไปในร่างเล็กจนหมด ก่อนจะฟุบลงกอดรัดกายเอาไว้แน่น
         เท็ดโอบร่างบนอกแน่น ลมหายใจเริ่มผ่อนช้าลง เนื้อตัวยังร้อนผ่าว เหงื่อเปียกชุ่มทั้งเขาและกาย
         “อาบน้ำกันนะ” เขากระซิบเบาๆเห็นกายยังซุกหน้านิ่ง จึงเลื่อนลงจากเตียง มือยังประคองสะโพกไม่ให้แยกออก เสียงกายอุทานเบาเมื่อถูกอุ้มเข้าห้องน้ำทั้งที่ยังประสานกันแน่น เท็ดเปิดน้ำลงในอ่าง ขณะรอน้ำเต็ม ปากก็แทะเล็มไปทั่วแก้มและซอกคอขาว
         “เท็ดบ้า!…ชอบทำแบบนี้เรื่อย” กายต่อว่าอุบอิบหน้าแดงซ่าน
         “ทำอะไร?” เท็ดกระซิบเสียงแผ่ว ปากยังซุกไซ้ไม่หยุดจนกายต้องดันคางบุ๋มออกห่าง
         “ก็ชอบอุ้มผมไปโน่นมานี่ทั้งที่…เอ่อ…เท็ดก็รู้นี่” กายอึกอักหน้าแดงมากขึ้น 
         เท็ดยิ้มพราย ท่าทางขัดเขินของกายน่ารัก จนต้องจูบแก้มนวลแรง ๆ ก่อนจะพิงหน้าผากกับหน้าผากของกาย จมูกโด่งปัดเคลียจมูกเล็กเล่น
         “ทำไมล่ะ…กายไม่ชอบเหรอ?”
         “ก็มัน…ฮื่อ!” กายถอนใจเฮือก หน้าแดงยิ่งกว่าเดิม พูดไม่ออก
         “กายจ๋า…พี่อยากกลืนกายเข้าไปทั้งตัวด้วยซ้ำ อยากรัก อยากกอด อยากอยู่ในตัวกายแบบนี้ตลอดไป”
         “ฮึ…พูดเชยๆอย่างนี้ก็เป็นด้วย” กายซุกหน้าลงกับซอกคอ แก้มร้อนผ่าว หัวใจเต้นระรัวอิ่มเอิบ  เท็ดเปิดน้ำแล้วเลื่อนตัวลงไปในอ่าง ลูบไล้ครีมอาบน้ำทั่วร่างเล็ก ฟองน้ำถูกเบาๆไปทั่วก่อนจะส่งให้กายขัดตัวให้เขาบ้าง  กายขัดตัวให้เท็ดอย่างยากเย็น เพราะร่างสูงเริ่มขยับสะโพกเข้าออกเป็นจังหวะ  แรงเสียดสีเสียวซ่านจนต้องกัดปากไว้
         “เท็ด…จะให้…ผม…ฮื้อ!…เดี๋ยวเท็ด…ผม…ถูตัวให้พี่ไม่ไหวแล้ว”กายเสียงสั่นเนื้อตัวเริ่มร้อนผ่าวเมื่อจังหวะการแทรกสอดเร่งขึ้นจนต้องปล่อยฟองน้ำมายึดบ่ากว้าง ประคองตัวรับจังหวะการเคลื่อนไหว
         เท็ดกัดบนยอดอกเบาๆมือกดสะโพกเล็กลงมาหนักขึ้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ เสียงครางประสานกันลั่นห้องน้ำ ความคับแน่นร้อนผ่าวที่แทรกเข้ามาถี่กระชั้นฉุดความเสียวซ่านขึ้นสูงลิ่วจนทนไม่ไหวอีกต่อไป กายกรีดร้องสุดเสียง ร่างกายเกร็งบีบรัดเป็นจังหวะหนักหน่วง เสียงเท็ดครางลั่นก่อนที่ไอรักร้อนๆ จะพุ่งเข้าในซอกหลืบจนหมด
         เท็ดจูบปากอิ่มดูดดื่ม ประคองสะโพกเล็กขึ้นช้าๆจนร่างกายแยกจากกัน กายถอนใจยาวซบหน้าลงบนบ่ากว้าง ปล่อยให้เท็ดช้อนขึ้นมานั่งซ้อนบนขอบอ่าง เท็ดสอดมือด้านหน้าดึงขาเรียวให้เปิดกว้าง นิ้วชี้และนิ้วนางแหวกช่องทางแคบ ขณะที่นิ้วกลางสอดเข้ามาภายในช้า ๆ มืออีกข้างฉีดน้ำจากสายยางเข้าไปในภายใน กายกัดปากแน่นเหนี่ยวไหล่แข็งด้านหลังไว้ สะโพกเกร็งยกลอยขึ้น เท็ดควานนิ้วไปทั่วช่องทางแคบเพื่อล้างให้สะอาด แรงบีบรัดรอบนิ้วบอกให้รู้ว่ากายเริ่มทนไม่ไหว นิ้วยาวจึงขยับเข้าออกเร็วขึ้น กายพิงศรีษะกับอกกว้าง ใบหน้าสะบัดไปมา จิกนิ้วที่บ่าเท็ดอย่างแรง
         “อะ…อื้อ!…” จำนวนนิ้วที่เพิ่มขึ้นยิ่งทำให้เสียวซ่านมากขึ้น ขาเรียวขยับออกกว้าง ขณะที่สะโพกขยับขึ้นลงรับกับจังหวะการสอดนิ้ว สายน้ำและนิ้วยาวกระตุ้นจนกายถึงขีดสุดอีกครั้ง   เท็ดทำความสะอาดให้แล้วห่อตัวกายด้วยผ้าขนหนูเนื้อนุ่มแล้วจึงอุ้มกายกลับมาวางบนเตียง กายผลอยหลับไปอย่างอ่อนเพลีย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเท็ดกลับมานอนด้วยตอนไหน
            
         เท็ดเปิดกล่องรับจดหมายออกดู ข้างในมีจดหมายเกือบ10ฉบับ เพราะเขาไม่ได้มาตรวจดูหลายวันแล้ว เด็กหนุ่มเดินเข้าบ้านพลางพลิกดูหน้าซองไปทีละซองจนถึงซองสุดท้าย เท้าที่กำลังจะก้าวชะงักกึกเมื่อเห็นตราประทับบนซอง เท็ดรีบกลับเข้าห้องแกะจดหมายออกอ่าน คำตอบรับของมหาวิทยาลัย ทำให้เขาต้องทิ้งตัวลงอย่างอ่อนแรง
         ‘ทำไมไม่มาให้เร็วกว่านี้ ตอนที่เรายังอยากไปจากที่นี่  แต่ตอนนี้…เฮ้อ!’ เด็กหนุ่มถอนใจยาว ยกจดหมายขึ้นดูราวกับจะเพ่งให้ทะลุ ทุนปริญญาโทพิเศษทุนนี้ นอกจากเรียนฟรีและค่าใช้จ่ายทั้งหมดฟรีแล้วยังมีงานจากบริษัทยักษ์ใหญ่รองรับทันทีที่จบ เขาจะถูกส่งไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกเพื่อเป็นตัวแทนตรวจข่ายงานการตลาดจากบริษัทแม่สู่บริษัทสาขา เขาเคยอยากได้ทุนนี้เพื่อหนีความรู้สึกที่เขามีต่อกายและเพื่ออนาคตของเขาเอง แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป กายเป็นของเขาแล้ว ความสัมพันธ์อันแนบแน่นที่ไม่ใช่แค่ทางกายเท่านั้น หากแต่หัวใจที่เปิดเผยต่อกันจนหมดสิ้นต่างหากที่ยึดเขาไว้แน่นเหนียว เขารู้ว่ากายรักเขา อาจจะมีทั้งความรักและความหลงเพราะกายยังเด็ก แต่สำหรับเขาแล้วไม่ใช่แค่ความหลงใหลแน่นอน เท็ดรู้ดีว่าเขากำลังทำอะไร สำหรับเด็กหนุ่มอายุ19ที่ต้องเผชิญกับสถาน-การณ์ที่ต้องคิด ต้องทำด้วยตัวเองมาตลอด ทำให้เขารู้จักตัวเองมากกว่าคนวัยเดียวกัน นอกจากเรื่องเซ็กส์ซึ่งเขาไม่ค่อยจะสนใจเรียนรู้นัก เพราะหัวใจผูกติดอยู่กับกายตลอดมา
         ‘เอาน่า ไว้ค่อยตอบปฏิเสธก็แล้วกัน เฮ้อ!โปรเฟสเซอร์ด่าหูชาแน่ แกอุตส่าห์ลุ้นตัวโก่ง’ เท็ดยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูรีบยัดจดหมายเข้าลิ้นชักโต๊ะ เพราะได้เวลาไปรับกาย พรุ่งนี้พ่อแม่จะกลับแล้ว เขาและกายเหลือเวลาใกล้ชิดกันไม่ถึง20ชั่วโมงด้วยซ้ำ

ออฟไลน์ tianqin

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
         “เท็ด…อื้อ..เท็ด ผมเหนื่อย” กายครางเบาๆเมื่อรู้สึกว่าเท็ดเริ่มเล้าโลมเขาใหม่อีกครั้ง ตั้งแต่กลับจากโรงเรียนจนป่านนี้เท็ดยังไม่ถอนตัวออกจากตัวเขาด้วยซ้ำ กายเหลือบมองนาฬิกา เกือบทุ่มหนึ่งแล้วเขายังไม่ได้กินอะไรเลย  4ชั่วโมงที่เกมรักเร่าร้อนดำเนินมาไม่หยุด ตั้งแต่หน้าประตูจนถึงห้องนอน
         “เท็ด..ผมเหนื่อย หิวด้วย” กายรีบยึดมือที่เริ่มปลุกเร้าแก่นกายเขาแน่น เท็ดชะงักเงยขึ้นสบตา เปลวไฟยังไหวระริกในตาคมแต่เท็ดกลับยอมถอนกายออกโดยดี แม้จะอ่อนโยนแค่ไหนกายก็อดสะดุ้งไม่ได้ หยาดรักไหลเลอะต้นขาและที่นอนเต็มไปหมด กายซุกหน้าลงกับบ่ากว้างเมื่อเท็ดอุ้มเขาไปวางลงในอ่างอาบน้ำ
         “ผมอาบเอง พี่ไปเตรียมอาหารเถอะ…นะ” กายรีบอ้อนขืนให้เท็ดอยู่มีหวังไม่ได้กินอะไรแน่ เท็ดอมยิ้มชะโงกมาจูบแก้มเนียนแรงๆ ก่อนจะผละออกไปเตรียมมื้อค่ำ
         กายถอนใจยาวพิงศีรษะกับขอบอ่าง ปล่อยให้น้ำอุ่นจัดผ่อนคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ คืนนี้เท็ดดูแปลกๆ คนที่อ่อนโยนนุ่มนวลบทจะรุนแรงขึ้นมาก็เล่นเอาเขาแทบขาดใจ แม้จะไม่ได้รุนแรงถึงขั้นซาดิสต์แต่ก็ร้อนจนเขารับไม่ไหว กายสะดุ้งเผลอขยับตัวทีไรเป็นเจ็บแปลบทุกที แล้วคืนนี้เขาจะรับมือเท็ดไหวหรือ  ท่าทางเท็ดคงไม่ให้เขานอนง่าย ๆ แน่
         “นี่ใจคอจะหลับในอ่างเลยเหรอ…งั้นก็ไม่หิวแล้วสิ” กายผวาลุกขึ้นแต่ก็ต้องงอตัวลงไปใหม่เพราะเจ็บ เท็ดหัวเราะอุ้มร่างน้อยขึ้นจากน้ำ
         “เท็ด!เช็ดตัวก่อนเถอะ เดี๋ยวที่นอนเปียก”
         “ไม่เป็นไรเราไม่ใช้เตียงอยู่แล้ว” กายอ้าปากค้าง  หมายความว่าไงไม่ใช้เตียง หรือว่าเท็ดจะใช้ห้องรับแขกอีก  เท็ดคว้าผ้าห่มมาห่อตัวกายไว้แทนผ้าขนหนูแล้วอุ้มกายออกจากห้องนอน
         “เราจะไปไหน?” เท็ดไม่ยอมตอบ เขาพากายเดินลัดสนามหญ้าหน้าบ้านลงไปตามทางเดินแคบๆ กายเหลียวมองข้างทางสลับกับมองหน้าคนอุ้ม เท็ดจะพาเขาลงไปที่ลำธารทำไมป่านนี้? กายได้คำตอบเมื่อมาถึงลานกว้างริมลำธาร เต็นท์ขนาดใหญ่ถูกกางไว้เรียบร้อยแล้ว แสงจันทร์สว่างส่องให้เห็นฟืนกองใหญ่ข้างเต็นท์  เท็ดวางกายลงบนผ้านวมข้างใน หันไปหยิบอุปกรณ์และตะกร้าเดินออกไป ครู่เดียวแสงสว่างจากกองไฟก็ลอดเข้ามาพร้อมๆกับที่เขาลอดเข้ามาอีกครั้ง กายแก้มร้อนผ่าวเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าครั้งแรกที่เขาลองยั่วเท็ดก็คือที่นี่
         เท็ดรวบกายเข้าไปกอดไว้ ก้มลงกระซิบเบาข้างหู“กายรู้ไหม พี่อยากทำอย่างนี้ตั้งแต่วันที่เรามาเล่นน้ำด้วยกัน”พูดจบก็สาธิตเรื่องที่อยากทำจนกายครางกระเส่า ปากร้อนดูดเม้มไปทั่วทั้งตัวจนแทบไม่มีส่วนไหนที่ไม่ถูกสัมผัส
         “อ้าาาา..” กายร้องเสียงดังเมื่อนิ้วยาวแหวกทางให้ลิ้นร้อน สอดเข้าในทางแคบเป็นจังหวะ เท็ดสอดลิ้นเข้าไปจนลึกแล้วแช่ทิ้งไว้ ฟันคมขบบนขอบนอกเบาๆ กายสะดุ้งเฮือก ทางแคบบีบรัดลิ้นเขาแรงมาก สะโพกเล็กขยับเหมือนจะถอยหนีจนเท็ดต้องตรึงไว้ ควานลิ้นในโพรงร้อนแน่นไปทั่ว เสียงกายหวีดระงมก้นกลมเกร็งแล้วขยับเป็นจังหวะเดียวกับที่บีบรัดรอบลิ้นของเท็ด ก่อนที่หยาดรักร้อนผ่าวฉีดซ่านออกมาเลอะทั่วหน้าท้องเนียน บางส่วนกระเด็นมาโดนใบหน้าของเท็ด เด็กหนุ่มไล้เลียความเปรอะเปื้อนบนหน้าท้องรวมถึงแก่นกายนิ่ม มือสั่นระริกดันหน้าเขาออก
         “เท็ด…อย่า”เสียงสั่นเครือปนมากับเสียงหอบ เท็ดเงยขึ้นสบตา น้ำตาใสรินลงมาจากตาคู่งาม
         “กายร้องไห้ทำไม” เท็ดเลื่อนตัวขึ้นมาท้าวแขนคล่อมร่างบาง กายประคองหน้าเท็ดไว้เลียสิ่งที่เปรอะเปื้อนออกไป น้ำตายังไหลไม่หยุด
         “เท็ดอย่าทำแบบนี้อีกนะ”
         “ทำไมล่ะ…ก็พี่รักกาย รักทุกอย่างของกาย ไม่เคยรังเกียจอะไรในตัวกายเลยนะ” กายสะท้านความสุขเอ่อท้นจนเหมือนจะทะลักออกมาจากตัว หัวใจพองโตเต้นระรัว ขณะที่คอหอยตีบตันเกินกว่าจะพูดอะไรออกมาได้
         “พี่รักกาย…พี่อยู่โดยไม่มีกายไม่ได้ อยู่กับพี่…เป็นของพี่ตลอดไปนะ” เท็ด
กระซิบเบาๆจูบซับน้ำตาไปทั่วแก้มเนียน
         กายกอดรอบคอเขาแน่นตัวสั่นระริก “เท็ด..ผมมีค่าขนาดนั้นเชียวเหรอ?”
         “ใช่!กายมีค่ามาก มากที่สุด! กายเป็นทุกอย่างในชีวิตพี่นะ  เป็นอนาคต เป็นความหวัง เป็นหลักชัยในชีวิตพี่ด้วย…อย่าหัวเราะสิ รู้น่าว่าพูดอะไรเฉิ่มๆอีกแล้ว”
         “เท็ด อย่าพูดกับใครแบบนี้นะ”
         “มันฟังดูแย่มากเลยเหรอ?” เท็ดหน้าเสียผงกศีรษะขึ้นมาสบตากาย 
         ตาโตหวานระยับอ่อนโยน “ใครบอก มันฟังดูดีจนผมกลัวว่าจะมีคู่แข่งเพิ่มอีกเยอะต่างหาก แค่นี้ผมก็ตามหึงไม่ทันแล้ว”
         เท็ดหัวเราะก้องกอดรัดร่างในอ้อมแขนแรงๆ เสียงท้องร้อง‘จ๊อก’ทำให้เขาชะงัก กายหน้าแดงซุกหน้าลงกับอกกว้างอย่างขัดเขิน
         “ผมหิวจนกินวัวได้ทั้งตัวแล้ว” เท็ดคว้าผ้าห่มมาห่อกายไว้อีกครั้ง อากาศนอกเต็นท์เย็นฉ่ำ กายซุกอกกว้างนิ่งปล่อยให้เท็ดอุ้มออกมานั่งข้างนอก เสื่อทอมือจากบาหลีปูไว้ข้างกองไฟ กลิ่นไก่ย่างหอมกรุ่นทำให้ท้องร้องดังยิ่งขึ้น เท็ดทรุดลงนั่งบนเสื่อหยิบอาหารจากจานโน้นจานนี้มาป้อนคนในอ้อมแขน กายเองก็ป้อนเท็ดตอบ บางทีก็แย่งอาหารจากปากของกันและกันป้อนไปมาจนตัวชักร้อนๆ กายอมยิ้มเมื่อรู้สึกว่าส่วนที่เขานั่งทับอยู่ร้อนและขยับถูไถก้นเบาๆ แม้เท็ดจะสวมยีนส์แต่ก็ไม่ได้หนาอะไรนัก ตัวกายเองก็ไม่ได้สวมเสื้อผ้ามีแค่ผ้าห่มพันตัวไว้เท่านั้น กายดึงไก่ออกจากมือเท็ด เลียนิ้วเปื้อนก่อนคลี่ออกแล้วดูดทีละนิ้ว เท็ดมองปากอิ่มที่ดูดนิ้วเขาจนถึงโคนแล้วรูดขึ้นลงทีละนิ้ว ท้องน้อยเขาเกร็งวูบ รู้สึกอยากให้กายทำแบบนี้แต่ไม่ใช่ที่มือ!
         เท็ดดึงหน้านวลขึ้นปากบดเข้าหากันแลกลิ้นกันดุเดือด ชายหนุ่มดึงมือเล็กมาวางบนกางเกงยีนส์ ความร้อนระอุข้างใต้ขยับราวกับมีชีวิตเมื่อกายลูบเบา ๆ
         “เท็ด…พี่อยากให้ผม…”ไม่มีคำตอบแต่ดวงตาวาววับนั้นก็เป็นบทสรุปได้แล้ว กายเม้มปาก ปลดกระดุมแล้วรูดยีนส์ออกไป ทันทีที่เป็นอิสระแก่นกายของเท็ดก็ผงาดออกมาท้าทายสายตา กายหน้าแดงรู้สึกเขิน แม้จะมีอะไรกันมาหลายครั้งแต่ทุกครั้งที่ต้องทำแบบนี้ก็อดจะอายไม่ได้ มือเล็กสั่นน้อยๆขณะที่เอื้อมไปประคองเท็ดไว้ เท็ดร้อนและแห้งผาก กายเลียปากนิดหนึ่งก่อนจะกอบกุมเท็ดแล้วเริ่มขยับแผ่วเบา
         “อา…” กายเงยขึ้นมอง เท็ดหลับตาใบหน้าแดงซ่าน ดูเท็ดปรารถนาและอ่อนแอ กายไม่เคยเห็นเท็ดเป็นแบบนี้ ยิ่งมือเขาขยับเท่าไหร่ปฏิกริยาตอบสนองก็ยิ่งน่าดูเท่านั้น เท็ดเริ่มหายใจหนักๆคิ้วเข้มขมวดมุ่น กายรู้สึกสนุกปนจั๊กจี้ถ้าเขาทำให้เท็ดแบบที่เท็ดเคยทำให้เขาจะเป็นยังไงนะ กายก้มลงมองส่วนที่อยู่ในมือ ขนาดของมันทำให้เขาเผลอกลืนน้ำลายแต่เท็ดยังทำให้เขาได้นี่นา กายเลื่อนมือลงขณะที่ปากครอบครองส่วนยอดของเท็ดไว้
         “อ๊ะ..กาย…ซี๊ด..”หน้าท้องเท็ดกระตุก มือแทรกเข้ามาประคองศีรษะของกายไว้ สิ่งที่อยู่ในปากดูจะขยายออกไปอีก กายเลื่อนปากออก อ้าปากกว้างกว่าเดิมเพื่อครอบครองให้หมด กายค่อยๆกลืนเข้าไปเรื่อยๆทั้งร้อนและคับจนเขาแทบหายใจไม่ออก แต่อาการสั่นระริกของเท็ดก็ทำให้กายพอใจเกินกว่าที่จะหยุด กายกลืนเท็ดเข้าไปจนรู้สึกว่าเข้าไปไม่ได้แล้ว แต่ก็ยังครอบครองไม่สุดอยู่ดี กายแช่ปากนิ่งไม่รู้จะทำไงต่อ
         “กาย…ทำแบบที่กายทำกับนิ้วพี่ไง” เสียงเท็ดพร่า กายเม้มปากขณะที่รูดปากขึ้น
         “ซี๊ด…กาย..กาย” เสียงเท็ดครางระรัว กายกดปากขึ้นลงขณะที่มือประคองส่วนโคนไว้และบีบคลึงเบาๆแบบที่เท็ดเคยทำ  กายนิ่วหน้าเมื่อรู้สึกว่าเขาไม่ได้ขยับคนเดียวแล้ว สะโพกของเท็ดสวนขึ้นมาทุกครั้งจนบางครั้งก็รู้สึกว่ามันลึกมากขึ้น กายสะดุ้งเมื่อช่องทางแคบถูกรุกรานบ้าง นิ้วยาวสอดเข้าออกเป็นจังหวะเดียวกับปากเขา ขณะที่ส่วนหน้าก็ถูกมือใหญ่อีกข้างขยับด้วยเช่นกัน ฟันคมขบเบาบนแผ่นหลังเนียน จังหวะของคนทั้งสองประสานกันและเร่งเร้าขึ้นเรื่อย ๆ
         “กะ…กาย…หยุดก่อน..พอเถอะ” เท็ดเหนี่ยวกายขึ้นจูบ กายโอบรอบคอขณะสะโพกก็ถูกยกสูงแล้วกดลงไปบนแก่นกายของเท็ด ความฉ่ำเยิ้มของน้ำลายและหยาดอารมณ์บางส่วนทำให้การสอดแทรกไม่ติดขัด กายจิกเล็บแน่นเมื่อเท็ดดันรวดเดียวสุด ความคับแน่นทำให้ต้องผ่อนคลายกล้ามเนื้อเพื่อรองรับสิ่งที่จะเกิด
         “กาย…พร้อมนะ”กายพยักหน้า เท็ดยกกายขึ้นจนเกือบสุดแล้วดึงลง น้ำหนักตัวทำกายรู้สึกจุก
         “เท็ด…ไม่ไหว..เจ็บ..อ๊ะ..” เท็ดนอนหงายโดยมีกายซบอยู่บนอก
         “กาย…ท้าวแขนบนอกพี่สิ…แล้ว..ขยับเอง  นั่นแหละ..อา…ดีมาก”  กายท้าวมือบนอกกว้างขณะที่สะโพกขยับขึ้นลง ความรู้สึกเหมือนได้ควบคุมอีกฝ่ายไว้ทำให้เขารู้สึกสนุก แรงเสียดสีเสียวซ่านจนต้องหวีดร้องเบาๆ กายเริ่มควบคุมตัวเองไม่ไหว ยิ่งอีกฝ่ายแสดงความทรมานมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเร่งขึ้นเท่านั้น
         “เท็ด..เท็ด…อ้า…เท็ด!” กายกรีดร้องเรียกเท็ดระงมเมื่อความเสียวกระสันถึงขีดสุด ปลดปล่อยหยาดรักบนอกและท้องของเท็ดแล้วล้มลงบนอกกว้าง เท็ดดึงกายลงนอนขณะเขาผลักดันเข้าหาต่อเนื่อง กายแยกขาออกกว้าง จิกเล็บจนสะโพกแข็งรับรู้จังหวะการเกร็งของกล้ามเนื้อขณะที่ผลักดันเข้ามาในตัว ส่วนที่เสียดสีกันทั้งร้อนและเสียวมากขึ้นเรื่อยๆ จนต้องเกร็งรับโดยไม่รู้ตัว เท็ดกัดฟันแน่นยิ่งกายเกร็งก็ยิ่งบีบรัดแรงขึ้น เด็กหนุ่มกระแทกสะโพกสุดแรง เสียงเนื้อกระทบกันระรัว เขากระชากเอวบางเข้ามาหนักหน่วง ขณะดันตัวเข้าไปลึกขึ้นแรงขึ้นจนถึงขีดสุด รอบแก่นกายเขาบีบรัดรุนแรง เสียงกายกรีดร้องสุดเสียงเช่นเดียวกับ   อารมณ์เขาระเบิดออกเป็นชิ้นๆ เลือดในกายเดือดพล่านวิ่งไปทุกปลายประสาท เขายังกระแทกสะโพกเข้าหาความคับแน่นที่บีบรัด ปลดปล่อยหยาดรักทั้งหมดเข้าสู่ตัวกาย ไอรักพลุ่งจากภายในเอ่อล้นออกมาภายนอก เท็ดฟุบลงกอดกายไว้แต่ก็นึกได้ว่าตัวเขาคงหนักเกินไปจึงพลิกตัวอีกฝ่ายขึ้นไว้บนอกแทน…
         กายสะดุ้งตื่นเมื่อรู้สึกหนาว “อย่าเท็ด…ผมหนาว” ผ้าเย็นๆยังคงถูกเช็ดไปทั่วทั้งตัว
         “เดี๋ยวนะกาย ต้องเช็ดตัวก่อน มันเปื้อนน่ะ” เสียงเท็ดตอบมาแว่วๆ กายถอนใจยอมให้อีกฝ่ายเช็ดตัวเขาจนสะอาด ผ้านวมอุ่นคลี่ออกคลุมเขาไว้เมื่อเท็ดเช็ดตัวเสร็จ
         “เท็ดมานอนด้วยสิ”
         “เดี๋ยวกาย อีกนิดนะ” กายนิ่วหน้าเมื่อรู้ว่ามีบางอย่างแทรกเข้ามาในร่างกาย ขนาดที่ไม่มากนักทำให้ระคายเคือง ของเหลวเย็นๆพลุ่งเข้ามาในร่างกายหลายครั้งก่อนที่ผ้านุ่มๆจะซับให้เขาจนแห้งสบายแล้วเท็ดก็กลับมานอนข้างๆ กายซุกตัวในอ้อมแขนอบอุ่น หลับไหลอย่างวางใจและแสนสุข…

         การส่งออกม้าได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี แดนนี่และดาน่ากลับมาถึงบ้านด้วยรอยยิ้ม งานเลี้ยงฉลองเล็กๆ ในครอบครัวถูกจัดขึ้นที่ฟาร์ม แขกคนเดียวของครอบครัวคือป้าแมรี่พี่สาวของแดนนี่ เท็ดไปรับป้ามาตั้งแต่เช้า เสียงหัวเราะเสียงพูดคุยดังแซดไปหมดราวกับมีงานใหญ่ ทั้งที่มีคนแค่ 5 คนเท่านั้น  ดีว่าฟาร์มแต่ละแห่งตั้งอยู่ห่างกันมาก ไม่งั้นคงถูกเพื่อนบ้านว่าเอาแน่ๆ ยิ่งดึกเสียงก็ยิ่งดังเพราะต่างคนต่างเมา โดยเฉพาะกาย เป็นครั้งแรกที่แดนนี่ยอมให้กายกินไวท์ด้วย เพราะเป็นโอกาสพิเศษ กายหัวเราะคิกคักแก้มแดงปลั่งซบอยู่กับไหล่ของ
แดนนี่ แต่สายตาคอยชำเลืองมองเท็ดอยู่ตลอดเวลา ดาน่าเหลือบมองเท็ด
เด็กหนุ่มดูเงียบกว่าเดิม ปกติเท็ดก็ค่อนข้างเคร่งขรึมอยู่แล้วแต่กลับมาคราวนี้ดูเท็ดเหมือนมีอะไรในใจ
         “กาย…กาย ลุกขึ้นลูก ไป..ขึ้นไปนอนได้แล้ว” แดนนี่ดันไหล่กายให้ลุกขึ้น กายโผไปกอดคอเท็ดไว้ มืออีกข้างที่ถือแก้วง่อนแง่น
         “ม่ายอาว…พรุ่งนี้ม่ายมี..อึ๊ก…เรียน…ซ๊ากหน่อย..ผมจาชาหลอง…ฉลองให้พ่อ…เย้!ชน” เท็ดคว้าแก้วจากมือกายไว้ได้ก่อนหล่นแตก แดนนี่หัวเราะชอบใจหันไปชนแก้วกับป้าแมรี่แล้วดึงดาน่ามาหอมแรงๆ กายหัวเราะคิกๆพิงเอกเท็ดจ้องมองพ่อกับแม่หยอกเย้ากัน
         “โอ้ย!…หวานกันอีกแล้ว อิจฉาจริงจิ๊ง”
         “เท็ดเอากายไปนอนเถอะ  ไอ้ตัวแสบไปนอนได้แล้ว!เมาจนนั่งไม่อยู่ เฮ้อ!คออ่อนชะมัดเลย สมัยพ่อ14-15นะไวท์แค่นี้ไม่สะเทือนหรอก”
         “แดนนี่!!” เสียงแมรี่กับดาน่าแหวพร้อมกัน แดนนี่คอหดนึกขึ้นมาได้
         “สอนอะไรลูกน่ะ แค่ยอมให้กายกินไวท์นี่ก็มากพอแล้วนะ” ดาน่าตาขุ่น
         “ใช่ๆดาน่า เห็นทีเธอต้องอบรมสามีใหม่ซะแล้ว มัวแต่สอนเรื่องกินเหล้ากินเบียร์ มันต้องสอนให้จีบสาวต่างหากเล่า”
         “พี่แมรี่!!” แมรี่หัวเราะคิกขณะที่แดนนี่กับดาน่าหันมาสบตากัน เท็ดอมยิ้มค่อยๆอุ้มร่างปวกเปียกของกายขึ้นไปชั้นบนโดยมีสายตาครุ่นคิดของดาน่ามองตาม
         “เท็ดดดด….”
         “นอนซะเด็กดี”
         “ไม่อาว…เท็ดจ๋า..นอนด้วยกันนะ” กายดึงเสื้อเท็ดไว้ไม่ยอมปล่อย
         “ไม่ได้หรอกกาย พี่ต้องลงไปดูพ่อกับป้า คืนนี้คงเมากลิ้งแน่…กายนอนซะนะ”
         “ไม่เอา..เท็ดอย่าไป” กายเหนี่ยวคอเสื้อเท็ดลงมากอดแล้วจูบปากบางเบาๆ
         “กาย อย่าทำอย่างนี้ พ่อกับแม่อยู่นะ” เท็ดปลดแขนที่โอบรอบคอเขาออก กายบ่นงึมงัมแล้วซุกหลับต่อ เท็ดคลี่ผ้าออกห่มให้ก่อนจะกลับลงมาข้างล่าง
         แดนนี่และแมรี่ฉลองกันจนต้องหิ้วไปนอนทั้งคู่ เท็ดกลับมาช่วยดาน่าเก็บจานชามไปล้างและทำความสะอาดบ้าน แม้ดาน่าจะห้ามปรามก็ไม่ฟัง ดาน่าลอบมองลูกชายคนโต เธอคงไม่ได้คิดไปเองที่รู้สึกว่าเท็ดเปลี่ยนไป ดูเป็นผู้ใหญ่ในเวลาชั่วไม่กี่วัน
         “เท็ด”
         “ครับแม่” เท็ดเหลียวมามอง มือยังคงเช็ดจานกองใหญ่ง่วน
         “ลูกมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
         “เปล่านี่ครับ..ทำไมครับ?”
         “แม่รู้สึกเหมือนเท็ดมีอะไรในใจ  ดูลูกเป็นผู้ใหญ่ขึ้นในเวลาแค่ 2 อาทิตย์”
เท็ดก้มมองจานในมืออยู่นาน “แม่ครับ ระหว่างความฝันของแม่กับความฝันของคนที่แม่รัก แม่จะเลือกทำสิ่งไหนให้เป็นจริงก่อนครับ”
          “แม่เลือกฝันของคนที่แม่รักสิลูก แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าสิ่งไหนจะเป็นจริงได้มากกว่าด้วยนะจ้ะ”
         เท็ดยังก้มหน้าอย่างเดิม แต่ปากบางเม้มแน่น ดาน่าเดินเข้าไปยืนตรงหน้า วางมือบนไหล่หนา เงยขึ้นมองหน้าลูกชาย
        “เท็ด…แม่รักเท็ดนะลูก  รักมาก ถ้าเท็ดมีปัญหาอะไรก็บอกแม่ได้เสมอนะจ้ะ”
         “ขอบคุณครับแม่”
....................

 :pig4:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
 :haun4: :haun4: เรื่องนี้กะยั่วกันตลอดเรื่องเลยเรอะ  :haun4: :haun4:

hene2526

  • บุคคลทั่วไป
สรุปว่าเลือกทางไหนหล่ะเนี้ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






namtaan

  • บุคคลทั่วไป
 :m25:
เท็ดจะตัดสินใจยังไงดี
สิ่งไหนจะเป็นจริงได้มากกว่า
ยังไงพ่อแม่คงไม่ขัดขวางเรื่องระหว่างกายกับเท็ดแน่ๆเลย
ขอบคุณมากนะคะ บวก 1 แต้มค่ะ


ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ เรื่องนี้เรียกเลือดจริงๆ :m25:
คราวนี้ก็มาลุ้นต่อว่ากายหายไปไหนแน่ :z10:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
คู่นี้ ทำเอาหมดแรง  :m25:  :m25:
พ่อแม่กลับมาแล้ว แบบนี้ก็หมดโอกาสอยู่กันแค่ 2 ต่อ 2 แล้วดิ
มาต่อเร็วๆ นะ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
วันนี้มาหรือเปล่าค่ะ  คิดถึงๆๆ  :z10:

ออฟไลน์ tianqin

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์นะคะ และคะแนน+
ถ้าสามารถกด + ได้เมื่อไหร่จะกด+ให้แทนคำขอบคุณคะ

ไปอ่านต่อเลย
..........

ดาน่าถอดเสื้อคลุมออกแขวน ความร้อนจากเตาผิงทำให้ห้องอุ่นสบาย บ้านเงียบกริบทั้งที่เท็ดและกายน่าจะอยู่บ้าน ดาน่าเดินไปที่ห้องนอนของเท็ดเคาะประตูเบา ๆ
         “เท็ดอยู่ในห้องหรือเปล่าลูก แม่เข้าไปนะ” ดาน่าเปิดประตูเข้าไป ห้องถูกจัด
ไว้เรียบร้อย ไม่มีใครอยู่ในห้อง ดาน่าขมวดคิ้วก่อนจะปิดประตูห้องลงตามเดิม นึกขึ้นมาได้ว่าช็อคโกแลตของกายอาจจะละลาย เพราะห้องอุ่นกว่าข้างนอกจึงรีบเอาออกจากถุง ตอนแรกตั้งใจว่าเอาใส่ตู้เย็น แต่นึกได้ว่ากายอยู่บ้านจึงเอาขึ้นไปให้บนห้อง
         มือที่ยกจะเคาะชะงักค้าง ประตูห้องปิดไม่สนิททำให้เสียงลอดออกมาให้ได้ยินชัดเจน
         “เท็ด..อา…เท็ด…ซี๊ด…เท็ด…เร็ว” เสียงกายครางกระเส่า เสียงหอบหายใจ เสียงลั่นเอี๊ยดของเตียงดังถี่รัว
         “เท็ด ผมรักพี่…ผมรักพี่..อ๊าาาา”
         “พี่ก็รักกาย..อาาาา” ดาน่ายืนนิ่งขึง ทั้งที่ทำใจไว้แล้ว แต่เมื่อมาเจอสถาน-การณ์จริงเข้าก็อดเจ็บแปลบไม่ได้ ลูกรักทั้งสองของเธอกำลังร่วมรักกัน ดาน่าหลับตานิ่ง ค่อยๆดันประตูปิดให้สนิท คอแห้งผาก กระบอกตาร้อนผ่าว ทั้งๆที่รู้มาตลอดแต่ก็แทบทนไม่ได้ นี่ถ้าแดนนี่รู้เข้าเขาคงช็อคและคงยอมรับไม่ได้ ดาน่าเดินกลับลงมาทรุดลงนั่งที่ห้องรับแขก ห้องอบอุ่นแต่หัวใจของเธอหนาวสะท้าน หากแดนนี่รู้จะเกิดอะไรขึ้น
         ‘โอ…ลูกรักของแม่ แม่จะทำยังไงดี แม่จะปกป้องลูกของแม่ได้ยังไง  หากเท็ดกับกายถูกแยกจากกัน กายจะเจ็บปวดสักแค่ไหน…กาย…กายของแม่  นี่แม่จะทำยังไงดี’ ดาน่าซบหน้ากับฝ่ามือ และอยู่ในท่านั้นเนิ่นนาน
         เสียงเครื่องยนต์แว่วมาทำให้ใจหายวูบ เธอจำได้แม่นยำว่าเป็นเสียงรถของสามี ดาน่าเดินเข้าไปในครัว แกล้งวางจานชามเสียงดัง
         “กาย…ตื่นรึยังลูก  แม่กลับมาแล้วนะ..กาย”
         “ครับ”เสียงกายขานรับแว่วๆ ดาน่าถอนใจเฮือกรินกาแฟลงในแก้วก่อนจะถือออกมานั่งที่เดิม
         เสียงรถเข้ามาจอดในโรงรถพร้อมกับที่กายวิ่งลิ่วลงมาจากชั้นบน
         “แม่”กายโถมเข้ากอด กลิ่นสบู่ผสมกลิ่นแป้งหอมกรุ่นเหมือนทุกครั้ง ดาน่าอยากให้กายไร้เดียงสาเหมือนเดิมแต่เธอก็รู้ว่าไม่มีวันเป็นเช่นนั้นได้อีกแล้ว เป็นความผิดของเธอเองตั้งแต่ต้น กายยิ้มหวาน ดวงตาวาววาม ความสุขเอ่อท้นออกมาจนสัมผัสได้ เสียงย่ำลงบันไดทำให้ดาน่าเงยขึ้นมอง เท็ดเดินลงมาช้าๆใบหน้าคมเรียบเฉยแต่ดวงตาหลุบต่ำไม่ยอมสบตา เท็ดคงกลัวเธอจับพิรุธได้
แดนนี่เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับสายลมเย็นเฉียบ อีกไม่กี่สัปดาห์หิมะคงตก
         “คุณพ่อ!” กายอุทานยินดีวิ่งไปโถมเข้ากอด เสียงแดนนี่หัวเราะชอบใจดังก้อง
         “พ่อครับของฝากผมล่ะ”
         “เอ้อ!..ใจคอจะไม่ให้พ่อพักก่อนรึไง รีบทวงจัง”
         “โธ่!พ่อครับ  ผมรออยู่นานแล้วนี่นา กว่าพ่อจะซื้อให้อ่ะ”
         “เอ้า!…เอาไป ของเท็ดก็มีนะลูก”
         “ขอบคุณครับ” เท็ดไม่ยอมสบตาใคร เดินไปเปิดเพลงแล้วนั่งอยู่ที่โซฟามุมห้องเงียบ ๆ
         กายรื้อกล่องเกมออกมาดู ก่อนจะหอบหิ้วไปวางบนตักเท็ดแล้วนั่งลงที่พรม พิงศีรษะกับขายาว มือก็ชี้ชวนให้เท็ดดูเกมในมือ เท็ดลูบผมนุ่มเบาๆก้มลงซักถามท่าทีอ่อนโยนทะนุถนอมทำให้ดาน่าน้ำตาคลอ ถึงอย่างไรก็วางใจได้ว่ากายจะมีผู้ปกป้องคุ้มครองที่ดีที่สุดเมื่อออกจากอกพ่อแม่
         แดนนี่ชะงักเมื่อหันมาเห็นอาการเหม่อลอยของภรรยา เหลียวไปมองกายกับเท็ดก่อนหันจะมายิ้ม ดึงดาน่ามากอดไว้แน่น
         “ห่วงกายอีกล่ะสิ  ไม่เป็นไรแล้วน่าหมอก็รับรองว่ากายหายดีแล้ว” ดาน่าฝืนยิ้มพยักหน้ารับสามี ไม่กล้าเหลียวไปมองลูกๆอีกเพราะกลัวแดนนี่จะเห็นพิรุธ
แดนนี่เข้าไปร่วมวงกับลูกๆ ห้องนี้ใช้เป็นห้องรับแขกและห้องนั่งเล่นในตัว
         “ไม่เอาอ่ะขี้โกงนี่นา เล่นรุมทีเดียว2คนเลย  เท็ดผมโกรธแล้วนะพี่เข้าข้างพ่อได้ไง ต้องมาอยู่ฝั่งผมดิ ไม่เอา ผมไม่แพ้นะ” กายโวยวายเมื่อเท็ดกับแดนนี่รวมหัวกันเล่นทำให้กายแพ้ในเกมนั้น เสียงเท็ดกับแดนนี่หัวเราะประสานกันดังลั่น
         ดาน่าหลับตา ครอบครัวแสนสุขของเธออาจพังทลายลงสักวัน เธอได้แต่ภาวนาให้วันนั้นอยู่อีกไกลแสนไกลหรือไม่เกิดขึ้นเลย ขอเพียงเท็ดเรียนจบและกายบรรลุนิติภาวะ ถึงตอนนั้นลูกรักของเธอก็จะสามารถตัดสินชีวิตของตัวเองได้ตามทางที่เขาปรารถนา ขออย่าให้เกิดอะไรขึ้นในตอนนี้เลย ดาน่าสงบสติอารมณ์อยู่นานจนแน่ใจว่าจะไม่มีพิรุธให้ใครเห็นถึงเข้าไปร่วมสนุกกับแดนนี่และลูกๆ เสียงกายหัวเราะดังลั่นที่สามารถเอาชนะหมากล้อมของเท็ดและแดนนี่ได้เพราะดาน่าเป็นแชมป์หมากล้อมมาตลอด เมื่อมีกองหนุนดีมีหรือจะพลาด
         “ใครแพ้ต้องล้างจาน1อาทิตย์!” กายประกาศิต เท็ดกับแดนนี่เหลียวมองตากันหน้าแหย งานนี้ต้องล้างจานทั้งอาทิตย์แน่
      
         แดนนี่ถือเค้กอย่างระมัดระวัง ทางเดินจับด้วยหิมะลื่นปราด  
เพราะดาน่ามือเจ็บ ปีนี้เค้กฉลองวันเกิดของกายจึงต้องสั่งจากทางร้าน โชคดีที่ตรงกับช่วงคริสมาสต์ เลยถือโอกาสฉลอง2งานพร้อมกันทีเดียว
         เมื่อเช้าดาน่ารถเสียเขาจึงต้องไปเอาเค้กเอง แล้วทิ้งรถไว้ให้ดาน่าใช้ ส่วนเขากลับแท็กซี่ รถของเท็ดจอดอยู่ในโรงรถทำให้แดนนี่โล่งอกที่รู้ว่ากายไม่ได้อยู่บ้านคนเดียว เขาและดาน่าเฝ้าระวังอาการของกายมาตลอดแม้หมอจะยืนยันว่ากายปลอดภัยแล้วก็ตาม แดนนี่เข้าทางหลังบ้านเพราะไม่อยากให้กายเห็นเค้กก่อน เสียงกายหัวเราะคิกคักดังมาจากห้องนั่งเล่น แดนนี่ตั้งใจว่าจะผ่านห้องนั่งเล่นขึ้นชั้นบนเลย แต่เมื่อเดินผ่าน ภาพที่เห็นก็ทำให้เขาถึงกับตะลึง  เท็ดนอนอยู่บนโซฟา มีกายนั่งคร่อมอยู่บนอก ปากของทั้งสองพัวพันกันดูดดื่มขณะที่มือของเท็ดลูบไล้บนอกเปลือยของกาย
         “นี่มันบ้าอะไรกัน!!” เสียงตวาดของแดนนี่ทำให้เด็กหนุ่มทั้งสองสะดุ้งเฮือก เท็ดผุดลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจขณะที่กายเลื่อนลงมากองอยู่บนตัก ทั้งสองหน้าซีดขาว แดนนี่ปราดเข้าไปกระชากกายเหวี่ยงออกแล้วต่อยเท็ดแบบไม่นับ
          “อย่าพ่อ!…อย่าทำเท็ด…อย่า!” กายหวีดร้องตื่นตระหนก ขณะที่เท็ดปล่อยให้แดนนี่เตะต่อยจนเลือดอาบไปทั้งหน้า กายโถมเข้าไปผลักสุดแรงจนแดนนี่เซถลา เมื่อหันกลับมาก็เห็นกายกอดเท็ดแน่น เขาโกรธจนหน้ามืด กระชากผมนิ่มขึ้นมาก่อนจะตบฉาด ใบหน้าเล็กสะบัดไปตามแรงตบ เท็ดผวาลุกขึ้นคว้ามือแดนนี่ไว้ พร้อมกับดึงกายออกไปไว้ด้านหลัง
         “อย่าพ่อ!…อย่าตีกาย”
         “แกยังมีหน้ามาเรียกฉันว่าพ่ออีกเรอะ ไอ้สารเลว! ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะกล้าทำกับฉันอย่างนี้…ฉันจะฆ่าแก!”
         “อย่า!…พ่ออย่า” กายพยายามจะเข้าขวาง แต่เท็ดกระชากเขาออกเมื่อพายุหมัดและเท้าประเคนเข้าใส่ กายสะบัดหลุดแทรกเข้าไปในระหว่างเท็ดและแดนนี่ เป็นจังหวะที่แดนนี่ต่อยลงมาเต็มแรง ร่างเล็กหมุนคว้างก่อนจะล้มลงในอ้อมแขนของเท็ด
         “กาย!!” เท็ดอุทานอย่างตื่นตระหนก แดนนี่ตะลึงชั่วครู่ก่อนจะก้มลงกระชากกายขึ้นมากอดไว้แน่น ดวงตาที่มองเท็ดเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ชิงชัง และเจ็บปวด ใบหน้าแตกยับเลือดอาบนั้นไม่ได้ทำให้เขาลดโทสะลงเลย กลับทำให้ความโกรธท่วมท้นจนอยากฆ่าให้ตายคามือ  
         เสียงเปิดประตูและกรีดร้องอย่างตื่นตระหนกของดาน่าทำให้ทั้งสองหันไปมอง ดาน่าถลาเข้ามากอดเท็ดไว้ เลือดจากบาดแผลหลายแห่งยังไหลไม่หยุด
         “เท็ด!…โธ่ลูก!…แดนนี่ ทำไมทำกับลูกอย่างนี้?” ดาน่าเงยหน้ามองสามี ดวงตาของแดนนี่บ่งบอกถึงความเกลียดชัง เกรี้ยวกราด แต่ร่างเล็กอ่อนพับในอ้อมแขนทำให้เธอตกใจมากกว่า  “กาย…ลูก!” ดาน่าโผเข้ากอดกายไว้แน่น แดนนี่ปล่อยให้ภรรยาดึงกายออกไป แต่พอเห็นเท็ดเอื้อมมือไปหากาย เขาก็กระชากแขนเท็ดออก
         “อย่าเอามือสกปรกมาแตะลูกฉัน! ออกไปให้พ้นจากบ้านนี้ แล้วไม่ต้องมาเหยียบที่นี่อีก ไอ้วิปริต ไอ้เนรคุณ ออกไป๊!!”  
         เท็ดยันตัวลุกขึ้น เจ็บแปลบไปทั่วร่างกาย แต่ไม่ได้ครึ่งของความเจ็บปวดที่ใจ สายตาเกลียดชังขยะแขยงของแดนนี่ทำให้เขาเจ็บยิ่งกว่าถูกเตะต่อย  แดนนี่หันไปดึงร่างบอบบางของกายอุ้มลิ่วขึ้นชั้นบน เท็ดกลับเข้าห้องเก็บเสื้อผ้าเท่าที่เห็นใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว ภาพถ่ายครอบครัวและภาพของเขากับกายถูกวางลงในกระเป๋าอย่างบรรจง เขาเหลียวมองรอบห้องอีกครั้ง ใจหายเมื่อคิดว่าจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว
         “เท็ด” ดาน่ายืนอยู่หน้าประตูน้ำตานองหน้า เท็ดยืนนิ่งพูดไม่ออก เสียใจที่ทำให้แม่เจ็บปวด ดาน่าเดินเข้ามาจนชิดดึงเท็ดเข้าไปกอด อ้อมแขนของแม่ยังคงอบอุ่นและหอมกรุ่นเหมือนเมื่อ14ปีที่แล้ว เขากัดฟันตาร้อนผ่าวแต่ไม่มีน้ำตา
         “ไปหาแมรี่นะลูก ไว้พ่อหายโกรธแล้วแม่จะโทรหาลูก”
         “แม่ครับ ผมขอโทษ  ผมผิดเองครับแม่…ผม…”
         “หยุดเถอะลูก เท็ดไม่ผิดหรอก ไปซะก่อนนะลูกนะ แล้วแม่จะโทรไปหาตอนที่พ่อเขาสงบแล้วนะ”
         “แม่ครับ ฝากกายด้วยนะครับ  บอกเขาด้วยว่าผมรักเขามากและขอโทษที่ทำให้เขาเจ็บตัว”
         “โธ่เท็ด!…แม่จะบอกกายเหมือนที่ลูกพูดทุกคำ ไปเถอะลูก” ดาน่าจูบแก้มที่แตกช้ำไปด้วยเลือดเบาๆ เท็ดคลายอ้อมแขนออก เงยหน้ามองห้องของกายก่อนจะก้าวออกไปจากบ้าน
         “แล้วพี่จะกลับมา…รอพี่นะกาย” เท็ดส่งใจขึ้นไปให้คนข้างบนขณะที่ขับรถออกจากบ้าน  ……              
         “กาย…เป็นไงบ้าง เจ็บรึเปล่าลูก?”
         “แม่!…แม่ฮะ!” กายน้ำตาไหลเมื่อลืมตาขึ้นมาเห็นดาน่า เขาขยับเข้าไปกอดเอวผู้เป็นแม่แน่น  “แม่ครับ เท็ดเป็นยังไงบ้าง…เท็ดเจ็บมากไหม?”
         ดาน่าลูบน้ำตาออกจากแก้มเนียน หน้าอีกซีกยังบวมเป่งและเริ่มเขียวช้ำ ในชีวิตเธอไม่เคยตีลูกสักแปะแต่แดนนี่ทำให้กายเจ็บขนาดนี้
         “แม่ครับ!..เท็ดเป็นอะไรรึเปล่า?”กายเสียงสั่นตัวสั่นอย่างตื่นตระหนก เมื่อคิดว่าแดนนี่อาจทำร้ายเท็ดจนบาดเจ็บสาหัส
         “ไม่ลูก เท็ดไม่เจ็บมากหรอก อย่าลืมนะจ๊ะว่าเท็ดน่ะเป็นนักกีฬา แค่นี้ไม่เป็นอะไรหรอกลูก”
         “แล้วทำไมเท็ดไม่มาหาผม…หรือว่า…พ่อไม่ให้เข้ามา”
         “เท็ดไปอยู่ที่อพาท์เม้นท์แล้วลูก รอให้พ่อใจเย็นๆ กว่านี้ แล้วเราค่อยคุยกัน”
         “แม่ครับ..เราผิดมากใช่ไหมที่รักกัน ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง”
         ดาน่าถอนใจยาวลูบผมนุ่มบนตัก“กาย…ความรักน่ะไม่มีคำว่าถูกหรือผิดหรอกลูก  แม่เชื่อว่าสักวัน พ่อเขาต้องเข้าใจในลูกทั้งสอง ขอแต่ลูกมั่นคงต่อกันก็พอจ๊ะ”
         กายมีสีหน้าดีขึ้น“ป่านนี้เท็ดจะเป็นยังไม่รู้”กายพึมพำเบาๆดาน่าฝืนยิ้มค่อยๆวางศีรษะเล็กลงบนหมอนคลี่ผ้าออกห่มให้ จูบที่แก้มแล้วจึงออกไปจากห้อง

         “โปรเฟสเซอร์ครับ ผมคิดว่าผมจะรับทุน”  มอริสหัวเราะดังลั่น ย้ายร่างอ้วนกลมขึ้นจากเก้าอี้มาตบไหล่ศิษย์คนโปรดดังป๊าบ!! ดีใจที่เขาประวิงเวลาไว้ไม่ยอมตอบปฏิเสธทุนให้เท็ด ในบรรดาศิษย์ที่เขาสอนมาเท็ดเก่งที่สุด จะมีนักวิจัยการตลาดกี่คนที่สามารถทำให้มหาวิทยาลัยเล็กๆมีชื่อเสียงขึ้นมาได้ เพราะรางวัลชนะเลิศจากงานวิจัย3ปีซ้อน แถมเท็ดยังจบก่อนเพื่อนๆอีกเกือบปี ทุนแสนหินนี้จึงได้มาอย่างไม่น่าเชื่อ
         “ฉันจะตอบรับไปวันนี้เลย จะตอบไปที่สำนักงานใหญ่เลยเชียวล่ะไม่ผ่านมหาวิทยาลัยแล้ว ชักช้าน่าเบื่อ”
         เท็ดยิ้มเนือยๆ เขาตัดสินใจรับทุนเพื่ออนาคตของเขาและกาย นี่เป็นทางเดียวที่จะทำให้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น เขาคงต้องแอบไปบอกกายที่โรงเรียน เกือบเดือนแล้วที่เขาออกมาจากบ้านแต่ไม่มีการติดต่อจากดาน่าและกายเลย เท็ดคิดว่าพ่อคงสั่งห้ามไม่ให้ทั้งสองติดต่อกับเขา

         กายถอนใจอย่างหงุดหงิด เกือบเดือนแล้วที่เขาไม่ได้ออกจากห้องนี้เลย แดนนี่ล็อคกุญแจขังไว้แถมยังไม่ยอมให้เขาใช้โทรศัพท์ด้วย แม่บอกว่าแดนนี่แจ้งทางโรงเรียนว่าเขาอาการไม่ค่อยดีขอหยุดยาว แม้ริชมาเยี่ยมก็ไม่ได้ขึ้นมา
แดนนี่กับกายก็ไม่พูดกันเลยตั้งแต่วันนั้น

         เท็ดถอนใจเฮือกเมื่อเห็นประตูโรงเรียนปิดอีกครั้ง 5วันแล้วที่เขามาดักเจอกาย แต่ก็ไม่มีวี่แววว่ากายจะมา เท็ดตัดสินใจเขียนจดหมายถึงกาย แล้วเอาไปฝากป้าแมรี่ให้ส่งให้กายด้วย เขาอยากเจอกายอีกสักครั้งก่อนไปเรียนต่อ  แต่ป้าก็กลับมาพร้อมความผิดหวัง เพราะแดนนี่ไม่ยอมให้ป้าเข้าไปหากายในห้องด้วยซ้ำ เท็ดนอนก่ายหน้าผาก พรุ่งนี้เขาต้องไปแล้วแต่เขายังไม่ได้บอกอะไรกายเลยสักอย่าง เขาอยากให้กายรู้ว่าเขารับทุนนี้เพื่อสร้างอนาคตของทั้งคู่ เท็ดพลิกตัวกระสับกระส่ายนอนไม่หลับทั้งคืน

         เสียงไขประตูทำให้กายรีบผุดลุกขึ้น แต่ผู้ที่เข้ามากลับไม่ใช่ดาน่า กายเบือนหน้าหนีเม้มปากแน่น แดนนี่กัดกรามกรอด ทั้งที่กายเป็นคนผิดแต่กลับมาทำท่ายะโสใส่เขา แดนนี่โยนหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นบนเตียง
         “ดูซะสิ! คิดถึงมันนักไม่ใช่เหรอ? จะบอกอะไรให้ มันน่ะตามไปเรียนกับแฟนมันแล้ว”
         กายเหลือบมองหนังสือพิมพ์แล้วทำท่าจะเดินหนี แต่ภาพคุ้นตาทำให้ต้องคว้ามาอ่าน เท็ดถ่ายภาพขณะรับโล่ห์จากนายกเทศมนตรีข้างๆมีสาวสวยผม บลอนส์ ข้างภาพมีข้อความถึงการรับทุนของนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเล็กๆ ที่สามารถคว้าทุนจากบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ เนื่องจากผลงานชนะเลิศการวิจัยการตลาดระดับนิสิตนักศึกษาจากทั่วโลก ผู้รับทุนจะได้ไปเรียนปริญญาโทที่บอสตัน 2 ปี และจะได้เดินทางไปทั่วโลก เพื่อเป็นตัวแทนของบริษัท ข้อความตอนท้ายแซวถึงความสนิทสนมของนักศึกษาผู้รับทุนกับลูกสาวนายกเทศมนตรี ซึ่งฝ่ายหญิงย้ายตามไปเรียนที่บอสตันด้วยทุนส่วนตัว
         “มะ…ไม่จริง!…ทำไมเท็ดไม่บอกผม?” กายครางเสียงแผ่ว กระดาษแผ่นหนึ่งถูกร่อนมาตกข้างเท้า
         “มันไม่บอกเพราะมันไม่คิดจะจริงจังกับแกน่ะสิ ดูซะสิมันได้ทุนตั้งแต่เมื่อ3 เดือนที่แล้ว มันบอกแกรึเปล่า?… ไม่สินะ เลิกละเมอเพ้อหามันได้แล้วไอ้รักวิปริตผิดเพศนี่น่ะ ผู้ชายมันจะสู้ผู้หญิงจริงๆได้ไง ก็แค่ของเล่นใกล้ตัวเท่านั้น”
         “หยุดนะ! ออกไป…ไป๊!!” กายกรีดร้องโหยหวน…ตัวสั่นระริก…หน้าซีดขาวเหมือนกระดาษ แดนนี่ชะงักเพิ่งรู้สึกว่าเขาพูดแรงเกิน ความโมโหทำให้เขาทำร้ายลูกมากไปแล้ว แดนนี่ยอมถอยออกมาจากห้อง  กายหยิบหนังสือพิมพ์กับจดหมายขึ้นมาดูอีกครั้งก่อนจะฉีกเป็นชิ้น ๆ
‘ทำไมเท็ดถึงไม่บอกเราเรื่องทุน? ไม่แม้จะเอ่ยถึงว่าขอทุนด้วยซ้ำ ทำไม?..ทำไม?…หรือสิ่งที่พ่อพูดจะเป็นเรื่องจริง ไม่!!…ไม่เชื่อ!! เท็ดรักเราและเราก็รักเท็ด เราไม่เชื่อว่าเท็ดจะเห็นเราเป็นแค่ของเล่น’ กายขดตัวลงบนเตียง น้ำตาไหลพราก คิดจนปวดหัวไปหมด ไม่…เขาต้องถามจากปากเท็ดเท่านั้น ความจริงต้องไม่ใช่แบบนี้  กายผุดลุกขึ้น ได้ยินเสียงดาน่ากับแดนนี่ทะเลาะกัน เขาดึงคัตเตอร์มากรีดผ้าปูที่นอนเป็นชิ้นๆแล้วผูกต่อกันปีนออกมาทางหน้าต่าง เขาจำได้ว่ากุญแจรถอยู่ในห้องทำงานของแดนนี่ กายงัดหน้าต่างบานที่รู้ว่ากลอนเสียเข้าไปในห้อง คว้ากุญแจรถของดาน่า แล้วก็เปลี่ยนใจ หากแดนนี่คิดตามมาคงไม่ใช่เรื่องยากเพราะรถของพ่อใหม่และเร็วกว่ารถแม่ กายจึงคว้ากุญแจรถของพ่อและแม่ออกมาพร้อมกัน ทั้งพ่อและแม่คงต้องวิ่งหารถสักพักกว่าจะตามเขาทัน เพราะรถของดาน่าไม่มีกุญแจสำรอง
         เสียงสตาร์ทรถทำให้แดนนี่และดาน่าชะงัก ต่างวิ่งไปชะโงกดูที่หน้าต่างอย่างตกใจ รถโฟลวิลล์คันใหญ่ของแดนนี่ถูกขับออกไปอย่างรวดเร็ว
         รอบตัวกายมืดลงอย่างรวดเร็ว หิมะตกหนักอีกครั้ง ที่ปัดน้ำฝนทำงานหนักขึ้น เขาเร่งความเร็วขึ้นไปอีก รถส่ายไปมาเพราะความลื่นของถนน หัวใจของกายร้อนเร่าเจ็บปวดเหมือนหายใจไม่ออก โทรศัพท์ในรถดังขึ้น กายหยิบขึ้นมาเห็นเบอร์ก็กดรับสาย แมรี่…ใช่! แมรี่น่าจะรู้ว่าเท็ดอยู่ที่ไหน
         “ป้าครับ”
         “กาย!…เป็นไงบ้างลูก พ่อเขายอมให้ออกจากห้องแล้วเหรอ?”
         “ป้าครับ! ป้ารู้ไหมเท็ดจะไปบอสตันเมื่อไหร่?”
         “เห็นว่าคืนนี้ตอน 2 ทุ่ม ทำไมหรือลูก?”
         “โอ!พระเจ้า!2ทุ่ม…”
         “กาย!  กาย!”
         กายปิดโทรศัพท์ นี่เกือบ2ทุ่มแล้ว เขามีเวลาแค่20นาทีเท่านั้น จากที่นี่ไปสนามบินคงไม่ทันแน่ๆ แต่ที่พักของเท็ดใกล้สนามบินนิดเดียว บางทีเท็ดอาจยังอยู่ในห้อง กายรีบคว้าโทรศัพท์กดหาเท็ด เสียงแบตดังเตือนแล้วดับวูบไป
   “ปัดโธ่โว้ย!ไอ้โทรศัพท์บ้า…โทรศัพท์…ต้องโทรศัพท์หาเท็ดก่อน”  กายเลี้ยวเข้าไปจอดแทบจะชนกับตู้โทรศัพท์สาธารณะ อากาศเย็นเฉียบนอกรถไม่ได้ทำให้ร่างบางที่สวมเพียงชุดนอนรู้สึกรู้สม เขาหยอดเหรียญมือสั่นระริก
         “เท็ด…เท็ด…รับสิ..โธ่!”  เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น 1 ครั้งก่อนจะตัดเป็นเสียงจากเครื่องตอบรับ
         “เท็ดครับ…ตอนนี้ผมไม่อยู่  กรุณาฝากข้อความและเบอร์โทรกลับไว้นะครับ”
         “เท็ด…เท็ด…อย่าทิ้งผมไป…พี่บอกว่าพี่รักผมไม่ใช่เหรอ…เท็ด…เรารักกันไม่ใช่รึไง…เท็ด..ได้โปรด…อย่าทิ้งผม…ผมจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีพี่…เท็ด…ฮือ…”  กายทรุดลงคุกเข่ากับพื้น เสียงสัญญาณตัดไปแล้ว อากาศเย็นเฉียบเหมือนกับหัวใจที่หนาวยะเยือก
         ‘ไม่ๆเราจะไม่มีวันยอมให้เท็ดไป เท็ดพี่รอผมนะ’ กายผุดลุกขึ้นวิ่งไปที่รถ สตาร์ทแล้วเหยียบคันเร่งจนมิด รถพุ่งออกจากข้างทางอย่างรวดเร็ว เป็นจังหวะเดียวกันที่รถอีกคันที่ขับตามมาเพิ่งพ้นจากโค้ง ความเร็วของรถบวกกับถนนที่ลื่น ทำให้ไม่สามารถเบรคได้ รถ6ล้อบรรทุกของกระแทกบริเวณท้ายรถโฟลวิลล์จนพุ่งเข้าหาราวเหล็กข้างทาง  กายหมุนพวงมาลัยสุดแรงทำให้รถหมุนคว้างแล้วกระแทกกับราวเหล็กอย่างจังจนราวหักออก กายพุ่งปะทะกระจกหน้ากระเด็นออกมา ทั้งรถและตัวเขาพุ่งลงสู่พื้นเบื้องล่าง เขาเจ็บแปลบไปทั้งศีรษะ รู้ว่ากำลังตกจากที่สูง ภาพเท็ดรับทุนผุดวาบขึ้นมา
         ‘เท็ด…พี่ทิ้งผม..’ แล้วทุกอย่างก็ดับวูบไป…
            
.............
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-10-2009 22:20:52 โดย tianqin »

ออฟไลน์ tianqin

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
........
         เท็ดก้มลงมองตั๋วเครื่องบินในมือ อีกไม่ถึง10นาทีเขาจะต้องไปจากที่นี่ ทั้งที่มั่นใจว่าวิธีนี้จะช่วยให้สถานการณ์ของครอบครัวดีขึ้น แต่หัวใจก็ยังเร่าร้อนทุรนทุราย เขายังไม่ได้บอกกายสักคำว่าจะไป  กายจะโกรธเขาไหม จะเข้าใจหรือเปล่าว่าเขาทำทุกอย่างเพื่ออนาคตของกายและเขา
         “…เท็ด…” เท็ดสะดุ้ง เหลียวขวับไปข้างหลังแต่ไม่เห็นใคร ทั้งๆที่เขาแน่ใจว่าได้ยินเสียงกายเรียก แม้จะแผ่วเบาและเจือเสียงสะอื้นก็ตาม เด็กหนุ่มเหลียวไปมองรอบสนามบิน หรือว่ากายตามเขามา เท็ดเดินลิ่วไปที่ทางออกเพราะคิดว่าพ่ออาจตามมาเอาตัวกายกลับไป แต่มองจนทั่วก็ไม่เห็น วันนี้คนค่อนข้างจะบางตา น่าจะหากันเจอง่าย ๆ
         “เท็ด!…เท็ด!” เท็ดหันขวับไปหาอย่างยินดี แต่ก็ต้องหุบยิ้มฉับพลันเมื่อเห็นคนที่เรียก
         “เท็ด! เร็วเข้า เร็ว!” เท็ดยืนมองริชอย่างหงุดหงิด ถึงจะเจอกันไม่กี่ครั้งแต่เขาก็เกลียดลูกเศรษฐีขี้เบ่งคนนี้ที่สุด  ริชหน้าซีดขาวท่าทางลุกรี้ลุกลนตรงเข้ามาฉุดมือเขา
         “นายเป็นบ้าอะไร…นี่!ปล่อย!!..จะลากฉันไปไหน?”
         ริชไม่ยอมพูดพยายามจะลากมือเท็ดให้วิ่งตาม  เท็ดกระชากแขนออกขยับจะด่า แต่อีกฝ่ายหันมาตวาดอย่างโกรธจัด
         “โธ่เว้ย!!…ชักช้าอยูได้  เร็ว ๆ สิวะ!”
         “ทำไมฉันจะต้องฟังนาย ฉันกำลังจะขึ้นเครื่อง”
         “ไม่ให้ไปโว้ย!” ริชกระชากคอเสื้อ  เท็ดปัดมืออีกฝ่ายออกทันควัน
         “ก็ลองห้ามดูสิ ใหญ่นักเรอะ ไอ้ตระกูลแฮมิลตัลเนี่ยหา!”
         “เออ..ไม่ไปก็อย่าไป..ดี…ถ้ากายเป็นอะไรไปก็อย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกัน”
         “อะ..อะไร..พูดบ้าอะไร!…กายเป็นอะไร!!?” เท็ดเป็นฝ่ายกระชากคอเสื้อริชซะเอง
         “แม่นายโทรมาบอกว่ากายขับรถพ่อออกจากบ้านจะมาหานาย”
         “อะไรนะ! ไม่!…กาย…เมื่อไหร่…แม่โทรมาเมื่อไหร่!?”
         “สักพักแล้วพอรู้ฉันก็รีบมาห้ามนายขึ้นเครื่องก่อนนี่แหละ นั่นจะวิ่งไปไหน?”
         “ไปหากาย”
         “ไปกับฉัน  ฉันเอารถมา”เท็ดวิ่งตามริชลิ่ว หัวใจร้อนราวกับไฟจี้
         “กาย…เด็กบ้า บ้าระห่ำอย่างนี้ได้ยังไง เจอก่อนเถอะจะหวดให้นั่งไม่ลงเลย”
         ริชสตาร์ทรถแล้วขับปราดออกจากสนามบินจู่ๆก็เบรกกึก
         “ทำไม!?” เท็ดตะคอกอย่างหงุดหงิด
         “เออน่า…เฉย ๆ เถอะ” ริชกดโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว ครู่หนึ่งก็มีเสียงรับสาย
         “คุณอาเหรอครับ ริชครับ…คุณอา ผมมีเรื่องขอให้ช่วยหน่อย ผมถูกจิ๊กรถครับ..ทะเบียน xxx คิดว่าน่าจะใช้เส้นทาง X มาสนามบินครับ คุณอาช่วยให้ตำรวจสกัดไว้ด้วยนะครับ…อ้อ!อย่าใช้กำลังนะครับ เพื่อนผมเองสงสัยจะเมาน่ะครับ ขอบคุณครับคุณอา” ริชหันมายักคิ้วให้แล้วขับรถต่อ  เท็ดหมั่นไส้ปนโล่งใจ เป็นครั้งแรกที่เขาไม่ชังน้ำหน้าที่อีกฝ่ายที่ใช้อิทธิพลจัดการเรื่องนี้ให้ ขณะที่เลี้ยวรถเข้าสู่ถนนออกนอกเมือง เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ริชหยิบแฮนด์ฟรีขึ้นมาใส่หู
         “ริชครับ..คุณอาเหรอครับ…ว่าไงนะครับ! ที่ไหน?.. ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้”
เท็ดใจหายวาบเมื่อเห็นริชหน้าซีดขาว มือสั่นขณะที่ความเร็วของรถถูกเร่งขึ้นไปอีก
         “อะไรริช..มีอะไร!?”
         “อาบอกว่าเจอรถแล้ว”
         “ที่ไหน!…แล้วกายเป็นไงบ้าง?”
         “โค้งข้างหน้านี้…เกิดอุบัติเหตุ..รถตกเหว” ริชเสียงแห้ง พูดตะกุกตะกัก
         “หา! ไม่จริง…โกหก!..ไม่!…โอ!กาย…กาย!” เท็ดเย็นวาบไปหมดทั้งตัว ทันทีที่เลี้ยวเข้าโค้งก็เห็นไฟของรถตำรวจวูบวาบ เขากระโดดลงจากรถตั้งแต่ยังจอดไม่สนิท วิ่งเข้าไปบริเวณที่รถตำรวจล้อมไว้ เห็นราวเหล็กกั้นถนนหักออกเป็นช่อง
แดนนี่ยืนอยู่ตรงราวที่หัก ส่วนดาน่าคุกเข่ากับพื้นถนน เท็ดถลาเข้าไปบริเวณราวกั้น ชะโงกลงไปมองข้างล่าง รอยไฟไหม้เป็นทางจนถึงข้างล่าง คลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าหารถซึ่งโผล่แค่บริเวณท้ายขึ้นมาไม่มากนัก แผ่นป้ายทะเบียนตกค้างอยู่ริมหน้าผาต่ำลงไปประมาณ 2 เมตร
         “ไม่!…กาย!…โอพระเจ้า!…ไม่!…ไม่จริง!..กาย!…ก๊าย!!” เท็ดร้องโหยหวน ตำรวจ4คนพุ่งเข้ารวบตัวเขาไว้เมื่อเห็นเขาทำท่าจะโดดลงไป แต่พละกำลังมหาศาลบวกกับอาการคลุ้มคลั่งทำให้ไม่สามารถยึดร่างสูงไว้ได้ ริชโดดเข้าล๊อคคอเท็ดไว้แน่น แม้ขนาดรูปร่างจะไล่เลี่ยกัน แต่กลับยึดไว้ไม่อยู่
         “ปล่อย!! กาย!…พี่จะไปช่วย!..กาย!”
         “โอ้ย!..เท็ด! หยุดนะ!..โธ่เว้ย!..นี่!!” ริชต่อยเข้าที่ปลายคางสุดแรง เท็ดหน้าสะบัดทรุดลงไปกอง ตำรวจที่ถูกสะบัดกระเด็นตรงเข้ามาช่วยกันลากเขาไปที่รถตำรวจ แล้วล๊อคกุญแจมือติดไว้กับประตูรถเผื่อเท็ดฟื้นแล้วคลั่งอีกจะได้จับทัน
         ดาน่าลุกขึ้นยืน น้ำตายังไหลพรากขณะเดินเข้าไปหาสามี โอบกอดร่างหนาไว้แน่น
         “ดาน่า..ผมขอโทษ…เพราะผม…ผมทำร้ายลูก..”
         ดาน่าร้องกรี๊ดเมื่อแดนนี่ทรุดลงกองกับพื้น ริชวิ่งเข้าไปประคอง ขณะที่บุรุษพยาบาล 2 คนรีบวิ่งเข้ามา แดนนี่ถูกหามไปขึ้นรถพยาบาลโดยมีภรรยาตามไปอยู่ใกล้ๆ
         “ปั๊มหัวใจเร็ว คนไข้ช็อค” ดาน่ายกมืออุดปากน้ำตาไหลพราก แดนนี่หน้าเขียวหยุดหายใจดื้อๆ บุรุษพยาบาลต้องช่วยกันปั๊มหัวใจจึงกลับมาหายใจอีกครั้ง ดาน่าหันมาหาริช
         “ริช ฝากกายด้วย”
         “ครับ” ริชรับคำทั้งที่รู้ว่าหมดหวัง ดาน่าหันไปมองรถตำรวจที่เท็ดถูกลากไปไว้ก่อนจะขึ้นรถพยาบาลไปกับสามี

         เท็ดยืนนิ่งตาแดงกล่ำ ร่างกายหนักอึ้งขณะที่สมองว่างเปล่า ตาจับอยู่ที่คณะเจ้าหน้าที่3คนที่ปีนกลับขึ้นมาหลังจากที่พยายามจะลงไปให้ถึงซากรถ คลื่นลูกใหญ่ที่กระแทกเข้าหาฝั่งปิดทางที่จะเข้าไปถึง ซากรถที่เหลือจากแรงระเบิดยังเห็นได้บางส่วน ไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ๆ จะเหลือรอดได้ในเกลียวคลื่นอันรุนแรงนั้น
         “เท็ดกลับเถอะ” เท็ดส่ายหน้าขยับไปใกล้ขอบผา “เท็ด..นายคงไม่…เอ่อ…”
         “ไม่หรอก  ฉันไม่ทำแบบนั้นแน่ ฉันจะรอกาย…”
          ริชส่ายหน้าถอนใจเฮือก เพราะทุกคนเอาแต่ช็อค เอาแต่เศร้าโศก เขาเลยกลายเป็นคนเดียวที่มีสติที่ดีที่สุด แดนนี่เส้นเลือดฝอยในสมองแตกเพิ่งฟื้นเมื่อเช้านี้ หลังจากสลบไป3วัน แต่ก็ยังอ่อนแอมากดาน่าต้องคอยดูแลใกล้ชิด ริชจึงมาช่วยเรื่องกู้ซากรถ คณะเจ้าหน้าที่พยายามจะดึงรถขึ้นมาให้ได้ ความหวังที่จะเหลือผู้รอดชีวิตไม่ถึง0.1% ริชตัดสินใจเรียกหน่วยกู้ภัยพิเศษซึ่งมีฝีมือเยี่ยมมาช่วยก็ล้มเหลวมาหลายครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ยอมแพ้
         “เท็ด..กลับบ้านเถอะ ฉันจะไปส่ง” เท็ดส่ายหน้าทรุดลงนั่งพิงศีรษะกับราวกั้น ไม่สนใจว่าหิมะจะเกาะจนเสื้อเปียกชื้น สายตาจับจ้องอยู่ที่ซากรถ
         “นายกลับเถอะริช ขอบคุณมากที่ช่วยพวกเราทุกอย่าง”
         “ไม่เห็นต้องขอบคุณเลย กายเป็นเพื่อนฉันนะ”
เท็ดพยักหน้าโดยไม่หันกลับมา “กลับเถอะ  โชคดีนะ”  
         ริชขยับจะพูดแต่ก็นิ่งเสีย ตอนนี้พูดอะไรไปเท็ดก็คงไม่รับรู้ ที่ผ่านมาริชรู้จักเท็ดผ่านคำบอกเล่าของกาย ‘กาย…นายอยู่ที่ไหนนะ นายกำลังจะฆ่าคนที่นายรักให้เขาตายทั้งเป็นนะกาย!’ ริชถอนใจเฮือก กระบอกตาร้อนผ่าว กล้ำกลืนความเจ็บปวดไว้ กลับไปขึ้นรถขับออกไป

         เท็ดยังคงนั่งนิ่ง สายตาจับอยู่กับซากรถ ตะวันค่อยๆลดต่ำลง แสงสุดท้ายสาดส่องทั่วบริเวณเป็นสีแดงราวกับอาบด้วยเลือด
         “กาย..ทำไมไม่รอพี่ล่ะกาย..ทำไมไม่รอ?…” เท็ดกดศีรษะให้แนบกับราวกั้นมากขึ้น น้ำตาไหลเป็นทางโดยไม่มีเสียงสะอื้น เขาอยู่ในท่านั้นเนิ่นนาน ไม่หิว ไม่กระหาย ความรู้สึกทางกายเหมือนจะหมดไปเฉยๆ
         แสงไฟจากหน้ารถส่องสว่าง รถคันเล็กจอดลงใกล้ๆดาน่าก้าวลงมา แล้วอ้อมแขนอบอุ่นก็โอบรอบไหล่ ดึงศีรษะเท็ดให้ซบลงบนอก
         “เท็ด…กลับบ้านเรานะลูก” เท็ดหลับตานิ่ง ก่อนจะถอนใจยาว
         “ขอผมอยู่ที่นี่สักพักเถอะครับแม่ ผมอยากอยู่เป็นเพื่อนกาย”
         “เท็ด..แม่เสียกายไปคนหนึ่งแล้ว ถ้าแม่เสียเท็ดไปอีกแม่คงหัวใจสลาย อย่าทำร้ายแม่เลยนะลูก”  เท็ดกอดร่างผอมบางแน่น  
         “ขอโทษครับแม่  ขอผมกลับไปเอาของที่ห้องก่อนนะครับแล้วผมจะกลับมาหาแม่”
         “จ๊ะ” ดาน่าสอดแขนรอบเอว ดึงเท็ดกลับไปขึ้นรถ

         เท็ดเปิดประตูเข้าไปในห้อง อ่อนล้าจนไม่อยากทำอะไร ร่างสูงทรุดลงนั่งข้างเตียง ฟุบหน้าลง ร่างกายหนักอึ้งเหมือนถ่วงด้วยตะกั่ว
         “…กาย…” เท็ดเรียกเสียงแผ่ว ไม่อยากเชื่อว่ากายจะไปจากเขาแล้ว ไม่มีคำอำลา ไม่มีแม้แต่ศพ ความรู้สึกยังเจ็บปวดเกินกว่าจะกลับไปที่ฟาร์มตอนนี้ ดาน่าจึงพาเขากลับมาที่อพาร์ทเม้นท์  เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เท็ดนั่งเฉยจนเสียงจากเครื่องตอบรับจบลง
         “เท็ด..แม่นะจ๊ะ พรุ่งนี้แม่จะไปรับตอน10โมงนะลูก พักซะนะจ๊ะ แม่รักลูกจ้ะ” เท็ดนั่งนิ่งไม่อาจขยับเขยื้อนร่างกาย ปล่อยความคิดล่องลอยไปไกล…
         แสงสว่างลอดเข้ามาตรงรอยแยกของผ้าม่าน เท็ดยังคงฟุบอยู่ที่เดิม เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก สิ้นสัญญาณตอบรับก็ได้ยินเสียงห้าวๆดังขึ้น
         “เท็ด ฉันรู้ว่านายอยู่…มีข่าวดีนะ เรากู้ซากรถขึ้นมาได้แล้ว”
         เท็ดรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาพูด
         “ว่าไงนะ! เอารถขึ้นมาได้แล้วเหรอ แล้วกายล่ะ เจอกายไหม?”
         “..ไม่มี..”
         “หมายความว่ากายไม่ได้ติดลงไปกับรถ  กายยังไม่ตายใช่ไหมริช!?”
เสียงริชถอนใจเฮือกมาตามสาย “ฉันอยากให้นายมาดูเองมากกว่า”
         “ตกลง เดี๋ยวเจอกัน” เท็ดวิ่งเข้าไปอาบน้ำ ความหวังที่กายอาจยังไม่ตายเรืองรองขึ้นอีกครั้ง เขากดฟังข้อความจากเครื่องตอบรับขณะหยิบรองเท้ามาสวม
         ‘คุณมี…3ข้อความ….เท็ดแม่นะลูก…น้องออกไปตามเท็ดนะจ๊ะ เอารถพ่อไป ดึงน้องไว้ก่อนนะลูก…ติ๊ดดด…เท็ด…เท็ด…อย่าทิ้งผมไป…พี่บอกว่าพี่รักผมไม่ใช่เหรอ…เท็ด…เรารักกันไม่ใช่หรือไง…เท็ด…ได้โปรด…อย่าทิ้งผม…ผมจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีพี่…เท็ด…ฮือ….’ เท็ดสะดุ้งสุดตัว วิ่งกลับมาที่เครื่องตอบรับ กดฟังข้อความซ้ำแล้วเล่า เสียงสะอื้นบาดลึกเข้าไปในหัวใจ
         “กาย!กาย!…พี่ไม่ได้ทิ้งกาย…พระเจ้า!นี่เราทำอะไรลงไป โอ!กาย…พี่ทำร้ายกายใช่ไหม?เพราะพี่ กายถึงต้องตาย…กาย…โธ่!กาย” เท็ดฟุบหน้าลงกับพื้น หัวใจแหลกสลาย เสียงร้องไห้ เสียงต่อว่าของกายดังสะท้อนกลับไปกลับมาในหัว เท็ด กอดโทรศัพท์ไว้แน่นน้ำตาไหลริน เสียงของกายบอกถึงความผิดหวัง เจ็บปวด  สิ้นหวัง หากเขาไม่รับทุน กายคงยังไม่ตาย เพราะเขาคิดแต่อนาคตไม่คิดถึงความรู้สึกของกาย เขาเป็นคนฆ่าคนที่เขารักอย่างเลือดเย็น เขาทำร้ายพ่อ ทำร้ายแม่ ทำร้ายกาย แม้แต่ชีวิตของกายก็จบลงเพราะเขา เท็ดนอนขดตัวอยู่กับพื้น โลกทั้งใบของเขาแตกสลาย….
................

 :o12:



 :pig4:แล้วเจอกันคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-10-2009 22:21:22 โดย tianqin »

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ถึงจะพอรู้มาจากเรื่องถนนสายหัวใจว่า เท็ด กับ กาย ต้องจากกันไปหลายปี
แต่พอมาอ่านแบบนี้แล้ว เศร้าอะ น่าสงสารชะมัด คู่นี้ระทมมาก  :monkeysad:  :m15:

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้ทำให้รู้รายละเอียดอุบัติเหตุของกาย
แต่คู่นี้ต้องจากกันนานมาก น่าสงสารจริงๆ
บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
บีบหัวใจมากเลยตอนกายหายไปตัวไป  o13 o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
 o9  วันนี้ก็ยังไม่มา  :z3:

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2

ออฟไลน์ tianqin

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
ขอบคุณทุกคอมเมนท์นะคะ เรื่องนี่สงสารกาย สงสารเท็ด T_T

ตามต่อเลยคะ
..................

เสียงกริ่งประตูดังระรัว เท็ดกลับนอนเฉย สมองมีแต่ภาพและเสียงกายวนเวียนไปมาไม่ได้ยินไม่รับรู้สิ่งใดๆอีก ริชตัดสินใจงัดประตูเข้าไป ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นร่างสูงนอนอยู่ที่พื้น เขาวิ่งเข้าไปหา ตอนแรกคิดว่าเท็ดเป็นลมเพราะไม่กินไม่นอนมาหลายวัน แต่เมื่อเห็นอาการตาลอยคว้าง กอดโทรศัพท์แน่น ปากก็พึมพำบางอย่างเบาๆ เขาก็สรุปได้อย่างเดียวคือ ‘สติแตก’ ริชเขย่าอีกฝ่ายแรง ๆ
         “เท็ด! เท็ด! เฮ้ย!” เท็ดยังคงนอนนิ่ง ริชชะโงกเข้าไปใกล้จนได้ยินเสียงพึมพำนั้นชัดขึ้น
         “กาย…พี่ขอโทษ…กาย….กาย…”
         หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ริชตัดสินใจกระชากเท็ดขึ้นนั่งตบฉาดไปบนหน้าแรงๆ   เท็ดกระพริบตาดวงตาเลื่อนลอยเริ่มมีแววจำได้วูบหนึ่ง แล้วก็เลื่อนลอยเหมือนเดิมริชจึงซัดเข้าปลายคางอีกหมัดอีกฝ่ายคอพับไปทันที เขาลากร่างสูงใหญ่ขึ้นบนเตียง เขาพยายามดึงโทรศัพท์ออกเพื่อโทรตามหมอ แต่เท็ดกอดไว้แน่นทั้งที่หมดสติ ริชหอบแฮ่กกว่าจะงัดโทรศัพท์ออกมาได้
         ‘บางอย่างในเทปนี่อาจเป็นสาเหตุให้เท็ดเป็นอย่างนี้’ ริชย้อนเทปกลับ เปิดฟังแล้วถึงกับสะท้านเมื่อได้ยินเสียงกาย เขากัดปากแน่นน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว เสียงของกายบ่งบอกถึงความเจ็บปวดและทรมานใจ ริชรู้สึกแน่นหน้าอก ความทุกข์ทรมานของกายแทรกเข้ามาทุกอณู ริชย้อนเทปกลับแล้วดึงออกจากเครื่องมาใส่ซองแล้วสอดเข้าไปใต้หมอนของเท็ด มิน่าเล่าเท็ดถึงสติแตกขนาดเขายังสั่นไปหมด ร่างสูงยังนอนนิ่งความทุกข์ทรมานปรากฎทั่วใบหน้าแม้ยามไร้สติสัมปชัญญะ





เท็ดทิ้งตัวลงบนพนักเก้าอี้อย่างหงุดหงิด โยนสัญญาจากบริษัทคู่ค้าลงบนโต๊ะ หากตอนนั้นแดนนี่ไม่หมดหนทางจริงๆสัญญาบ้าๆที่แสนเอาเปรียบนี้คงไม่เกิดขึ้น เพียงเพื่อหาเงินมาผ่าตัดกาย แดนนี่ยอมทำสัญญาทาส 15ปีมานี้ม้าพันธุ์ดีตัวงามถูกจิกไปดื้อๆหน้าตาเฉยโดยสัญญาฉบับนี้บังคับไว้
         “คุณจินนี่ ติดต่อทนายให้ผมพรุ่งนี้ด้วย”
         “ค่ะท่าน เมื่อครู่ร้านจัสมินโทรมาบอกว่าดอกไม้รุ่นใหม่จากประเทศไทยเพิ่งมาถึงค่ะ”
         “อ้าวเหรอ!…บ่ายนี้ผมมีนัดอีกหรือเปล่า?”
         “มีงานเลี้ยงคุณเจสสิกาตอน 1 ทุ่มค่ะ”
         “คุณเอาดอกไม้กับกล่องของขวัญไปให้ด้วยแล้วกัน บอกว่าผมติดธุระ บ่ายนี้ผมคงไม่เข้าแล้วนะ”
         “ค่ะท่าน” จินนี่ บูฮอล์ มองตามชายหนุ่มด้วยความชื่นชมแกมอิจฉานิดๆ ชื่นชมในความรักที่เท็ดมีให้‘คนรัก’ของเขาและอดอิจฉาเล็กๆไม่ได้กับผู้ที่ได้ครอบครองหัวใจของชายหนุ่ม เท็ดไปเลือกดอกไม้ให้คนรักด้วยตัวเองทุกครั้ง แต่จินนี่ก็ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนั้นสักที  เมื่อแรกที่ได้รู้จักเท็ด พอลลิ่งเข้าไปกู้เงินที่บริษัท ขณะนั้นเธอเป็นเลขาฝ่ายสินเชื่อของบริษัทไฟแนนซ์ยักษ์ใหญ่ จินนี่ลาออกแล้วมาขอทำงานกับเท็ดทันที สร้างความตื่นตะลึงปนงงงันจากเพื่อนร่วมงาน แต่จินนี่รู้ว่าเซนส์ของเธอดีพอที่จะมองเห็นอนาคตอันรุ่งโรจน์จากเด็กหนุ่มอายุ21คนนั้น 5ปีเต็มที่จินนี่ทำหน้าที่เลขาและที่ปรึกษาแก่เท็ดมาโดยตลอด เธอเป็นเลขาที่ทรงประสิทธิภาพ ความพยายามของเท็ดและเธอจึงบังเกิดบริษัท‘กายคอปเปอร์เรชั่น’ขึ้นมา กลายเป็นบริษัทเพาะพันธุ์และส่งออกม้าขนาดใหญ่มีออร์เดอร์จากทั่วโลก แต่ชีวิตส่วนตัวของเท็ดกลับเงียบกริบ และไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องของครอบครัวเขามากนัก เพราะทุกคนอยู่ที่ฟาร์มซึ่งห่างจากบริษัทคนละเมือง …ติ๊ด… “มีอะไรจ๊ะ?”
         “มิสบูฮอล์คะ คุณแฮมิลตันขอสายท่านค่ะ”
         “ต่อเข้ามาเลยจ๊ะ…สวัสดีค่ะคุณริช  จินนี่ค่ะ”
         “สวัสดีครับคุณเลขาคนสวย…‘ท่าน’ขี้เต๊ะของคุณอยู่รึเปล่า?”
         “แหม…คุณริชโทรมาช้าไปนิดเดียวค่ะ‘ท่าน’ของดิฉันเพิ่งออกไปเมื่อครู่นี้เอง”
         “ว้า! ว่าจะชวนไปเที่ยวกันหน่อย คุณจินนี่สนใจจะไปด้วยกันไหมครับ?”
         “คิก…จินนี่ขอผ่านค่ะ  กลัวสายตาพิฆาตของคุณราเชล”
         “โธ่!…ไม่หรอกครับมาเถอะ  ถ้างานนี้ขาดคุณจินนี่การล่องเรือทริปนี้ก็หมดสนุกพอดี”  จินนี่อมยิ้ม ถึงจะรู้ว่าแค่ลมปากของหนุ่มเจ้าชู้ก็อดปลื้มไม่ได้อยู่ดี
         “ไม่ล่ะค่ะ จินนี่ไปไม่ได้จริงๆ ช่วงนี้ใกล้ปิดงบแล้วต้องเคลียร์งานให้เสร็จ”
         “ถ้าเกิดเบื่อบริษัทเล็กๆนั่นจะมาเป็นเลขาส่วนตัวให้ผมก็ได้นะครับ”
         “ขอคิดดูก่อนนะคะว่าจะคุ้มกับที่จะถูกคุณราเชลเชือดรึเปล่า พรุ่งนี้จะเรียนให้ท่านทราบนะคะว่าคุณริชโทรมา”
         “รีบวางเชียวนะ  งั้นสวัสดีครับ”

         “สวัสดีครับ…อ้าว!คุณเท็ดเชิญด้านนี้เลยครับ นี่ครับจัสมินที่เพิ่งส่งมาใหม่”
เท็ดก้มลงพิจารณาใกล้ ๆ “เอ?…ดอกแบบนี้ผมเพิ่งเคยเห็น”
         “ครับ แบบนี้เขาเรียก‘มลิลา’ครับ ส่วนแบบที่คุณเท็ดเคยเห็นเขาเรียก‘มะลิซ้อน’แบบนั้นจะทนทานกว่า ปลูกง่ายกว่า แล้วก็เป็นที่นิยมเพราะเหี่ยวช้ากว่า แต่ มลิลาจะบอบบางกว่ามาก เลี้ยงยากกว่า แต่กลิ่นจะหอมหวานกว่ามะลิซ้อนครับ”
เท็ดแตะปลายนิ้วบนกลีบบอบบาง  ‘เหมือนกาย…บอบบางแต่หอมหวาน’
         “ผมอยากได้แบบนี้ ถ้าผมจะเอาไปปลูกต้องทำยังไงบ้าง?”
         “อ๋อ!ครับ ผมเตรียมข้อมูลไว้ให้แล้ว คิดว่าคุณคงอยากได้แน่ๆ คราวที่แล้วผมได้มา10กระถาง ดอกร่วงหมด พอมาอยู่ที่นี่ก็ไม่ออกดอกเลยไม่ได้ให้คุณดู  นี่ครับข้อมูล เดี๋ยวผมจะขนไปส่งให้นะครับ”
         “แล้วคุณจัดเข้าช่อไว้บ้างหรือเปล่า?”
         “เดี๋ยวจะจัดให้ครับ เพราะกลีบมันบาง ต้องจัดใหม่ ๆ”
         เท็ดออกจากร้านดอกไม้พร้อมมะลิช่อใหญ่ กลิ่นหอมหวานกระจายทั่วรถ เหมือนค่ำคืนที่แสนหวานจะย้อนกลับมาใหม่ ภาพความทรงจำอันงดงามไหลย้อนกลับชัดเจนราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
         “กาย…จัสมินที่น้องชอบไง หอมใช่ไหม?…ที่ร้านเขาเรียก‘มลิลา’ดูสิกายมันบอบบางเหมือนกายเลย พี่ว่าจะเลี้ยงให้แข็งแรงแล้วจะเอาไปปลูกที่บ้านของเรา…กายรู้ไหม ตอนนี้พ่อนั่งรถเข็นได้แล้วนะ ช่วยตัวเองได้มากจนหายจากโรคซึมเศร้าแล้ว แม่ก็กลายเป็นเศรษฐีนีย่อยๆไปแล้วล่ะเพราะเป็นตัวแทนซื้อเพชรขายเพชรให้เพื่อน เห็นว่าจะหุ้นกับเพื่อนเปิดร้าน ส่วนริชกับราเชลก็เหมือนเดิม หึงกันไปหึงกันมา ยิ่งราเชลมาช่วยงานที่บริษัทริชยิ่งขี้หึงยิ่งกว่าเดิมเพราะมีหนุ่มมาเหล่ราเชลเยอะ สมน้ำหน้าเมื่อก่อนอยากเจ้าชู้ดีนัก ตอนนี้กลายเป็นเสือเขี้ยวหักแล้ว…กายรำคาญพี่หรือยัง…พี่คิดถึงกาย..คิดถึงเหลือเกิน…” เท็ดพิงศีรษะกับราวเหล็กกั้นถนน ความเสียหายจากอุบัติเหตุเมื่อ7ปีก่อน ถูกซ่อมแซมจนไม่เหลือร่องรอยใดๆ แต่สำหรับเขาแล้ว ไม่มีอะไรซ่อมแซมหัวใจที่แหลกสลายได้ วันเวลาช่วยให้เขาตั้งสติได้แต่ไม่ได้ช่วยให้ความเจ็บปวดบรรเทาลง ชายหนุ่มทอดสายตาไป‘ที่นั่น’ ‘ตรงนั้น’เป็นจุดที่ซากรถเคยค้างอยู่ เท็ดนั่งอยู่ตรงนั้นจนพระอาทิตย์ลับไปจากขอบฟ้า อากาศเย็นลงอย่างรวดเร็ว อีกไม่กี่เดือนหิมะจะตก เขาถอนใจก่อนจะกลับไปขึ้นรถขับไปที่ฟาร์ม คืนนี้ป้าแมรี่จะพาลูกชายมาเที่ยว เขาต้องไปรับหน้า‘ญาติ’คนใหม่…
               
         จีนส์แอบเบ้ปากเมื่อได้เห็น‘บ้าน’ในฟาร์มขนาดใหญ่แห่งนี้ นี่นะหรือบ้านของเจ้าของบริษัทกายคอปเปอเรชั่น บ้านหลังเล็กๆแม้จะถูกดูแลอย่างดีแต่ก็ไม่เห็นน่าสนใจ เขาเดือดโมโหนึกอยากจะชวนแม่กลับถ้าไม่ติดว่าเขาเป็นคนขอให้แมรี่พามาที่นี่เอง  ภายในบ้านตกแต่งเรียบๆบรรยากาศอบอุ่น แม้เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นจะดูเรียบง่าย แต่คนที่โตมากับความหรูหราอย่างจีนส์มีหรือจะดูไม่ออกว่าเป็นของสั่งทำพิเศษขึ้นทุกชิ้น
         “แมรี่…ดีใจที่พี่มานะจ๊ะ…เอ๊ะ!” ร่างโปร่งบางของผู้ที่ก้าวเข้ามาทักทายแมรี่ชะงักค้างเมื่อหันมาเห็นจีนส์ ดวงตาเบิกกว้างหน้าซีดขาว“กาย!”
         “ดาน่า…นี่จีนส์ลูกชายพี่ไงจ๊ะ เขาอยู่กับพ่อที่ซานฟรานฯเพิ่งกลับมาถึงเมื่อวานนี้ ตอนพี่เห็นเขาพี่ก็ตกใจ เขาเหมือนกายมากเลยนะ”
         “ค่ะ…เหมือน..เหมือนมากเลย…ชื่อจีนส์หรือจ๊ะ ขอแม่…เอ่อ..น้ากอดหน่อยนะลูก”
         จีนส์แอบเบ้ปากอย่างอัดอัด นี่ถ้าเปลี่ยนเป็นชายหนุ่มกล้ามใหญ่จะปล่อยให้กอดจนขาดใจเชียว
         ดาน่าน้ำตารินหัวใจที่เคยคิดว่าเข้มแข็งแล้วกลับเจ็บปวดเหมือนจะทนไม่ไหวอีกครั้ง เด็กคนนี้เหมือนกายเหลือเกิน‘กาย…กายของแม่’
แมรี่โอบไหล่น้องสะใภ้มากอดเบาๆ เสียงรถเข็นดังขึ้นพร้อมกับเสียงทักทายแจ่มใส
         “ทำอะไรกันอยู่ รอตั้งนานแล้วนะ พี่แมรี่แอบนินทาอะไรผมอีกล่ะสิ อ้าว!
ดาน่า ร้องไห้ทำไม?”
         ดาน่ารีบเข้าไปคุกเข่าข้างรถเข็นสามี“แดนนี่คะ พี่แมรี่พาลูกมาด้วย…ดูสิคะ”
แดนนี่เพิ่งเห็นเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ยืนอยู่ข้างหลังพี่สาว เขาตะลึงตาเบิกกว้าง เลือดในกายเย็นเฉียบ “กาย!…โอ!…กายลูกพ่อ!”
         “แดนนี่คะไม่ใช่ค่ะใจเย็นๆ นั่น‘จีนส์’ลูกพี่แมรี่ไม่ใช่กายของเรา”แดนนี่ยังตัวสั่น หน้าที่ซีดขาวเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ สายตาจับจ้องอยู่กับร่างผอมบางที่ก้าวเข้ามายืนใกล้ ๆ
         “สวัสดีครับอาแดนนี่ผมชื่อจีนส์ครับ” แดนนี่รวบร่างผอมบางเข้าไปกอด
กลิ่นน้ำหอมโชยกรุ่นแปลกจมูก เด็กคนนี้เหมือนกายเหลือเกินต่างกันที่สีผมเข้มกว่าและนัยน์ตาเป็นสีฟ้าเข้มแต่ตาของกายเป็นสีเขียว
         “เอาละจ๊ะ ไปทานของว่างกันดีกว่านะ อีกสักครู่เท็ดคงมาถึง พี่เขาคงดีใจที่ได้เห็นจีนส์”
         จีนส์รู้สึกหงุดหงิด เขาไม่ชอบเป็นตัวแทนของใคร ดูเหมือนเขาจะหน้าเหมือนลูกชายของอาที่ชื่อกาย คงเหมือนมากจนใครๆถึงทำท่าตะลึงกันไปหมด เขายกนาฬิกาขึ้นดูอย่างเบื่อหน่ายที่จะต้องมานั่งคอย นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องทำตัวเป็นเด็กดีในสายตาแม่แล้วล่ะก็  เขาจะลุกออกจากบ้านนี้ไปร่อนในที่ที่อยากไปให้สมอยาก
เมืองเล็กๆนี้ไม่น่าสนใจอย่างที่เขาคิด ก่อนหน้านี้เขาหวังว่าจะได้เห็นหนุ่มหล่อควบม้าไปทั่วไร่ ไม่ใช่โรงเรือนเรียงเป็นแถว แถมยังมีแต่คนแก่คร่ำครึนั่งรำลึกถึงอดีตแบบนี้…แกร็ก!…
         “ขอโทษครับ ผมช้าไปหน่อย”เสียงทุ้มมีอำนาจนั้นทำให้จีนส์ลอบชำเลืองมองแล้วหันขวับไปเต็มตัว ใบหน้าคมคายนั้นสะดุดตา เรือนร่างสูงตระหง่านมองเห็นกล้ามเนื้อแน่นดันเสื้อเชิ๊ตออกมาอย่างชัดเจน  ชายหนุ่มผู้มาใหม่ตรงเข้าไปกอดทักทายแมรี่ด้วยท่าทางอ่อนโยน
“เท็ดดูนั่นสิลูก ลูกป้าแมรี่ไง” แดนนี่แนะนำอย่างตื่นเต้น
เท็ดหันไปมองตามแล้วชะงักค้าง ดวงตาเบิกกว้าง “กาย!”
จีนส์ยิ้มหวานที่สุดเท่าที่จะยิ้มได้ทั้งที่ในใจขุ่นมัวที่ถูกเรียกว่า‘กาย’เด็กหนุ่มก้าวเข้าไปหยุดยืนตรงหน้าแล้วยื่นมือให้ “ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
เท็ดกระพริบตาเหมือนเพิ่งรู้สึกตัว เขายื่นมือจับมือเรียวบีบเบาๆ“ยินดีที่ได้รู้จักจีนส์” เท็ดผ่อนลมหายใจช้าๆวูบแรกที่เห็นเขารู้สึกมึนเหมือนถูกทุบที่ศีรษะ คิดว่ากายมายืนอยู่ตรงหน้า แต่เมื่อได้พิจารณาใกล้ๆเขาถึงรู้ว่านี่ไม่ใช่กายของเขา แต่เป็นเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าละม้ายกับกายมากทีเดียว ใบหน้าคมคายกลับไปเย็นชาดังเดิม จีนส์ยิ้มให้แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่สนใจ เท็ดหันกลับไปสนใจคนบนรถเข็นแทน“พ่อเป็นไงบ้างครับ เห็นแม่บอกว่าเมื่อวานหมอมีข่าวดี”
“ฮื่อ..หมอบอกว่าพ่อทำกายภาพได้ผล ถ้าเป็นอย่างนี้อาจจะเดินได้อีก”
“จริงหรือครับ พรุ่งนี้ผมจะไปคุยรายละเอียดกับหมออีกที เผื่อจะมีอะไรที่เราจะต้องเตรียม”แดนนี่ตบบ่ากว้างเบาๆ เท็ดรักและห่วงใยเขาเสมอ ชายหนุ่มยอมทิ้งอนาคตสดใสหันมาบริหารงานในฟาร์มแทน แก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากเขาและสามารถพัฒนาฟาร์มเล็กๆจนกลายเป็นฟาร์มเพาะพันธุ์ม้าขนาดใหญ่ แล้วกลายเป็นบริษัทโดยมีริชเป็นหุ้นส่วน เขาไม่เคยคิดว่าคนอายุแค่26จะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารได้
เท็ดโอบเอวดาน่าพากันเข้าไปยังห้องครัว อาหารถูกจัดเตรียมไว้อย่างสวยงาม เขาเลื่อนเก้าอี้ให้มารดาและป้าจากนั้นก็เข้ามาช่วยขยับรถเข็นของแดนนี่ให้เข้าที่ก่อนจะกลับไปนั่งที่ แดนนี่สังเกตเห็นสายตาของจีนส์จ้องมองเท็ดตลอดเวลา ท่าทางจีนส์จะสนใจเท็ดมากราวกับหญิงสาวสนใจชายหนุ่ม ถ้าเป็นแบบนั้นจริงครั้งนี้เขาจะช่วยให้เท็ดและจีนส์สมหวัง อย่างน้อยก็เป็นการไถ่โทษที่เคยทำไว้กับเท็ดและกาย
         จีนส์ชวนเท็ดพูดคุยตลอดเวลาพยายามเก็บข้อมูลให้มากที่สุด ยิ่งเห็นเท็ดไม่ค่อยสนใจเขาเท่าที่ควรก็ยิ่งอยากเอาชนะ เมื่อกลับถึงบ้านเขาลองเลียบเคียงถามข้อมูลของเท็ดจากแม่และก็ได้รู้ว่ากายไม่ได้เป็นน้อง แต่เป็นคนรักของเท็ดด้วย ข้อมูลนี้ทำให้จีนส์เนื้อเต้น มิน่าเล่าเท็ดถึงได้ตะลึงเมื่อเห็นเขา อย่างนี้โอกาสที่เขาจะได้ใกล้ชิดสนิทสนมจนถึงเนื้อถึงตัวก็คงไม่ยากนัก เด็กหนุ่มยิ้มอย่างหมายมาด ผู้ชายแบบเท็ดเขาจะไม่ปล่อยให้หลุดมือง่ายๆแน่  อยากรู้นักว่ารามอสจะทำหน้ายังไงถ้าได้เห็นเท็ด จีนส์ทิ้งตัวลงนอน ภาพที่คาดว่าจะได้เห็นรามอสจ้องมองเขาและเท็ดด้วยความริษยานั้นทำให้เขาหัวเราะดังๆอย่างสมใจ คืนนี้จึงเป็นคืนที่แสนสุขของเขา

..................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-10-2009 13:54:03 โดย tianqin »

ออฟไลน์ tianqin

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
         กลิ่นจัสมินหอมตลบ เท็ดเหลียวไปรอบๆอย่างตื่นเต้น รอบกายเขามีแต่สีเขียวและขาวของจัสมินที่แข่งกันออกดอกเต็มทุ่งกว้าง
         “เท็ด…ทางนี้ๆ”ชายหนุ่มหันไปมองเห็นกายโบกมือหยอยๆอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาวิ่งไปหากายโถมเข้ากอด เท็ดรัดร่างบอบบางแน่นก้มลงจูบแก้มเนียนแรงๆ กายหัวเราะคิกคักดิ้นหนีแต่เขาไม่ปล่อยง่ายๆ เท็ดรัดร่างเล็กแนบกระชับเบียดริมฝีปากเข้าหาหนักหน่วง เสียงกายประท้วงอู้อี้ก่อนจะอ่อนระทวยลงในอ้อมแขน เท็ดจูบระเรื่อยไปตามซอกคอขาว ร่างของกายเปลือยเปล่า ผิวผ่องเนียนสวยหอมเหมือนดอกจัสมิน เขากอดจูบฟอนเฟ้นทั่วร่างงามอย่างเร่าร้อน เสียงกายหอบกระเส่า
         “เท็ด…เร็วๆ” เท็ดขยับแทรกเข้าหา เสียงกายหวีดร้องอย่างเจ็บปวดจนเขาสะดุ้ง ใบหน้านวลสะบัดไปมาน้ำตาไหลพราก
         “โอ้ย!…เท็ด พี่ใจร้าย…ผมเจ็บ…พี่ทำผมเจ็บ” เท็ดสั่นไปหมดพยายามจะคว้ากายมากอด แต่เด็กหนุ่มดิ้นหนีห่างไปอย่างรวดเร็ว
         “เท็ดใจร้าย…พี่ทำผมเจ็บ  ผมไม่อยู่กับพี่แล้ว!”
         “กาย…พี่ขอโทษ..อย่าไปเลย กลับมาหาพี่ กายอย่าไป!”เท็ดพยายามวิ่งตาม แต่แขนขาเขาหนักอึ้งแทบเคลื่อนไหวไม่ได้
         กายวิ่งไปหยุดชะงักที่ริมหน้าผา ราวเหล็กหักเป็นช่องขนาดใหญ่ เด็กหนุ่มหันกลับมาน้ำตาไหลอาบแก้ม “เท็ดใจร้าย!…พี่ทิ้งผม!…พี่ทำผมเจ็บ!”
         “เปล่ากาย…พี่ไม่ได้ทิ้งกายนะ พี่รักกาย…อย่าไป!กาย!”
         “พี่โกหก!…พี่ไม่รักผมแล้ว  พี่ทิ้งผม!  ผมเจ็บ..ฮือ…เจ็บตรงนี้” กายยกมือขึ้นชี้ที่อก  เท็ดขยับเข้าไปจนใกล้แต่พอเขาเอื้อมมือไปหาร่างเล็กก็หล่นวูบลงไป
         “กาย!!” เท็ดตะโกนสุดเสียงผวาลุกขึ้นนั่ง เหงื่อเปียกท่วม รอบตัวเขามืดสนิท
ชายหนุ่มพยายามควานหาร่างเล็กในความมืดจนมือไปสะดุดกับสวิตซ์ไฟหัวเตียง แสงไฟสว่างพรึบขึ้น เขาเหลียวมองรอบ ๆ อย่างตกใจ
         “กาย!  กาย! หายไปไหนกาย!!”
         เท็ดชะงักเมื่อตั้งสติได้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ‘ฝันอีกแล้วสินะ’ เท็ดคู้ตัวลงบนเตียง คอแห้งผาก น้ำตาซึม หัวใจยังคงเต้นระรัว ร่างกายเกร็งสะท้าน
         “…กาย…โอ!กาย…พี่คิดถึงกายเหลือเกิน” เกือบ7ปีแล้วที่เขายังคงฝันร้าย ฝันที่ขึ้นต้นด้วยความสุขและจบลงด้วยการจากลา เขาวิ่งตามไขว่คว้าแล้วกายก็ตกไปตรงหน้าผานั้นทุกครั้ง เสียงต่อว่ายังก้องอยู่ในหู ไม่เคยที่จะหลับสนิท 3ปีแรกที่สูญเสียกายเขาต้องปรึกษาจิตแพทย์ตลอด ยานอนหลับชนิดแล้วชนิดเล่าที่แพทย์เปลี่ยนให้เขาใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เขาติด จนเท็ดต้องเลิกรักษาพราะรู้ตัวดีว่าไม่มีประโยชน์ เขาผุดลุกขึ้นไปเปิดตู้ หยิบเสื้อเชิ๊ตตัวที่กายเคยใส่ในคืนนั้นออกมากอดไว้แนบอกแล้วจึงหลับไปอย่างอ่อนล้า

         “ท่านคะ เอ่อ..มีแขกมารอพบท่านค่ะ บอกว่าเป็นญาติ” จินนี่มายืนรอหน้าห้องทำหน้าลำบากใจ เท็ดขมวดคิ้วพยักหน้ารับรู้ก่อนเปิดประตูเข้าไปข้างใน ร่างผอมบางยืนเอามือไพล่หลังอยู่ริมผนังกระจก จ้องมองแม่น้ำข้างล่าง
         “อ๋อ!..น้องผมเองจินนี่ คุณไปทำงานเถอะ”
         จีนส์หันกลับมายิ้มหยันเชิดหน้าใส่เลขาของเท็ดก่อนจะหันมายิ้มหวานเอาใจ ชายหนุ่มมองท่าทางราวกับเด็กเอาแต่ใจนั้นอย่างขบขัน
         “มีอะไรรึเปล่าจีนส์ ถึงมาหาพี่ที่นี่”
         “แหม!..ก็พี่หายไปเลย ที่ฟาร์มก็ไม่กลับ ผมก็ต้องมาหาพี่น่ะสิ คุณอาทั้งสองท่านคิดถึงพี่ บ่นถึงพี่ทุกวัน อยากให้พี่กลับบ้านบ้าง”
เท็ดขมวดคิ้ว พ่อกับแม่รู้ดีว่าเขางานยุ่งแค่ไหน แล้วเขาก็เพิ่งกลับมาได้2วันทำไมท่านต้องบ่นให้จีนส์ฟัง นอกจากเด็กหนุ่มจะกุเรื่องขึ้นมา แต่คงไม่เป็นอย่างนั้น จีนส์ไม่น่าจะเป็นเด็กขี้โกหก ท่านอาจเหงาแล้วบ่นให้เด็กหนุ่มฟังก็ได้
         “งานพี่ยุ่งน่ะ จีนส์ล่ะสบายดีหรือเปล่า คุณป้าเป็นไงบ้าง?”
         “แม่ก็เหมือนเดิม แต่ผมสิแย่..”
         “ทำไม?”เท็ดเดินไปทรุดนั่งที่เก้าอี้ แทนที่จีนส์จะนั่งที่โซฟากลับเดินมายืนชิดเก้าอี้เขาแทน
         “ก็ผมเบื่อ…คือ…ผมอยากทำงาน แต่แม่ไม่ยอมให้ผมไปทำงานพิเศษ ผมเลยจะมาขอพี่ฝึกงานที่นี่…นะฮะ” จีนส์ทำเสียงออดอ้อน กอดแขนเขาแน่น เท็ดประหลาดใจนิด ๆ ที่แมรี่ไม่ยอมให้ลูกทำงาน แต่รูปร่างบอบบางขนาดนี้ก็คงทำงานอะไรไม่ไหว อีกอย่างแมรี่ก็ไม่มีโอกาสเลี้ยงลูกเลยตั้งแต่เกิด เพิ่งจะได้ลูกกลับมาตอนโตคงอยากดูแลใกล้ชิด
         “เอาสิ…ถ้าจีนส์อยากทำงานก็มาฝึกงานที่นี่ก็ได้ เดี๋ยวพี่จะให้คุณจินนี่จัดการให้”
         “ขอบคุณฮะ  เท็ดใจดีที่สุด” จีนส์ชะโงกเข้ามาหอมแก้มเท็ดรวดเร็ว เบียดเนื้อตัวแนบแน่นขึ้น
         เท็ดมองท่าทางออดอ้อนนั้นอย่างเอ็นดู ถึงจะรู้สึกขัดตากับท่าทางอ่อนหวานมากไปของจีนส์ แต่ก็คิดว่าอีกฝ่ายยังเด็กคงพยายามประจบเอาใจเขาเพื่อทำงานเท่านั้น เท็ดให้จินนี่จัดเตรียมงานให้จีนส์มาทำในวันรุ่งขึ้นตามความต้องการของเด็กหนุ่ม

         จินนี่ถอนใจอย่างอึดอัด ถึงร่วมงานกันมาแค่3วัน แต่เธอก็พอจะเดาจุดประสงค์ของเด็กหนุ่มได้แล้ว จีนส์ไม่ได้คิดจะฝึกงานสักนิดเขาหยิบหย่งรักสบายและสำรวยเกินกว่าจะทำงานได้ งานทุกชิ้นที่มอบหมายให้สุดท้ายจินนี่ก็ต้องเอากลับมาทำเอง แถมยังต้องวุ่นวายคอยรับใช้อีกฝ่ายอีกหลายอย่าง
         “ไม่สบายหรือเปล่าจินนี่?”จินนี่สะดุ้งไม่รู้ตัวว่าเท็ดมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ สายตาที่มองเธอห่วงใยและอ่อนโยน เพราะมีเจ้านายแบบนี้เธอถึงกัดฟันทนเด็กปากร้ายเอาแต่ใจคนนั้นโดยไม่ปริปากบอก เนื่องจากไม่อยากให้เจ้านายไม่สบายใจในปัญหาจุกจิกนอกจากเครียดเรื่องงานแล้ว ก็ไม่อยากให้ต้องเครียดเรื่องไร้สาระ
         “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เมื่อคืนเล่นเนตดึกไปหน่อย”
         เท็ดยิ้มขัน “เหนื่อยก็พักก่อนได้นะ วันนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วนี่ กลับไปพักดีกว่า”
         “แต่ว่า..”
         “ไปเถอะ ผมดูแลเอง วันนี้ขอควบ2ตำแหน่งเลยแล้วกัน”
         “ค่ะ…ถ้า..”
         “คุณจินนี่! ผมสั่งชาไป 10 นาทีแล้วนะ เมื่อไหร่จะได้ซะที พวกสาวแก่นี่ชักช้าน่ารำคาญ” เสียงแทรกจากอินเตอร์โฟนดังขึ้นมา จินนี่หน้าเสียแต่เท็ดขมวดคิ้ว เขาเหลือบมองเลขาสาวเป็นเชิงถาม จินนี่ยิ้มแหยพยักหน้าตอบ ไม่จำเป็นต้องพูดเขาก็เดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับจินนี่
ชายหนุ่มแตะไหล่บางเบาๆ“ไปพักเถอะ ขอโทษด้วยที่ผมเอาภาระมาโยนให้คุณ”
“ไม่เป็นไรค่ะ งั้นดิฉันกลับก่อนแล้วกันค่ะ..เจ้านายอย่าเครียดนะคะ”
“ครับ เจอกันพรุ่งนี้”
         จินนี่เก็บแฟ้มใส่ตู้แล้วคว้ากระเป๋าออกไป เท็ดนั่งลงที่โต๊ะ หยิบแฟ้มหนังสือสัญญาขึ้นมาตรวจดูแล้วพิมพ์
         “จินนี่! หูแตกรึไง! บอกให้ยกชามา ไม่ได้ยินเรอะ!” เท็ดกดปิดสัญญาณแล้วพิมพ์งานต่อ ประตูห้องเขาเปิดออกทันที
         “กล้าดียังไงกด…เท็ด!”จีนส์หน้าซีดเมื่อเห็นคนที่นั่งพิมพ์งานไม่ใช่จินนี่  สายตาคมปลาบเย็นชาและตำหนิ
         “คุณจินนี่ไม่สบายเธอกลับไปนานแล้ว ถ้ามีอะไรให้รับใช้ก็บอกผมแทนได้”
จีนส์ปากสั่น น้ำเสียงเย็นชานั้นทำให้เขาพูดไม่ออก“เท็ด…มานานแล้วหรือครับ?”
         “นานแล้ว”จีนส์หน้าซีดยิ่งกว่าเดิม หมายความว่าเท็ดรู้ตัวจริงของเขาแล้วสิ เขากัดปากแน่นหาทางออก

         “ถ้าเธอไม่อยากทำงานก็บอก พี่ไม่ได้บังคับเธอนะจีนส์ แต่อย่ามาล่วงเกินคุณจินนี่อย่างนี้อีก คุณจินนี่น่ะร่วมงานกับพี่มานาน พี่ไม่อยากให้เธอระคายใจกับเรื่องไร้สาระ”
         “ขอ…ขอโทษครับ…ผมขอโทษ” เด็กหนุ่มทำหน้าเหมือนจะร้องไห้วิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว เท็ดรีบตามไปยึดร่างบางได้ทันตรงหน้าลิฟต์
         “โอเค!…พี่คงว่าเธอแรงไป วันนี้กลับบ้านเถอะแล้วถ้าอยากมาหาพี่ก็มา แต่เธอคงไม่เหมาะกับงานแบบนี้ เอาเป็นว่าถ้าอยากทำงานแบบไหนก็บอกแล้วกันพี่จะหาให้”
         “ขอบคุณฮะ ฝากขอโทษคุณจินนี่ด้วยที่ผมทำกิริยาเลวๆใส่เธอ” เด็กหนุ่มปั้นหน้าสำนึกผิด
         “อย่าพูดอย่างนั้นสิ เอาเถอะพี่จะบอกให้  ไป…กลับบ้านได้แล้ว”
         “พี่ไปส่งผมหน่อยสิ…นะ” จีนส์เริ่มออดอ้อน
         เท็ดถอนใจแต่ก็ยอมไปส่ง เพราะถึงยังไงอีกฝ่ายก็เป็นลูกของป้าแมรี่ คนสำคัญอีกคนในชีวิตเขา จีนส์ลอบยิ้มสมใจกอดแขนแข็งแรงแน่น เดินเชิดหน้าออกจากบริษัทไปขึ้นรถกับเท็ด

............................

แปลกไหมถ้าคนโพสจะบอกว่าชอบจีนส์ 55555+

ขอบคุณคะ  :pig4:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หน้าคล้ายแต่นิสัยคงร้ายกว่าเยอะ  o18

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
แต่คนอ่านหมั่นไส้จีนส์แฮะ หุหุ
แล้วอีกเมื่อไรกายกับเท็ดจะได้กลับมาเจอกันหละเนี่ย
ต้องจากกันกี่ปีนะ จำไม่ได้แล้ว
บวก 1 แต้มค่ะ ขอบคุณมากนะคะ


ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
นั่นสิครับเท็ดจะได้เจอกับกายอีกหรือเปล่า

hene2526

  • บุคคลทั่วไป
เชื่อว่าเด็กคนนี้คงมีมุมน่ารักอยู่แน่นอน แต่ใจจริงไม่อยากให้ใครเอาใครมาทดแทนกัน มันน่าสงสารนะ โดยเฉพาะคนที่ถูกนำมาเป็นตัวแทน

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
จีนส์ แค่ี่คล้าย แต่อย่างไงก็ไม่ใช่ กาย อยู่ดี    o16
แบบนี้ท่าทางคงเป็นตัวป่วนในชีวิตเท็ดไปอีกนาน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด