"คำว่ารักฯ Part II รักแท้แม้เวลามิอาจพราก by Yo เองครับ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: "คำว่ารักฯ Part II รักแท้แม้เวลามิอาจพราก by Yo เองครับ  (อ่าน 82735 ครั้ง)

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
ดูท่าจะลุ้นไม่ขึ้นแฮะ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
สงสารโยจังเลย :เศร้า1:

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งเห็นว่ามีภาคสองด้วย ตาพูห์ไม่ยอมบอกเลย  (นี่โทษซะเลย) เหอๆๆ :kikkik:

ดีใจที่ทั้งคู้กลับมาคืนดีกันได้ แต่ก็ดูมีเรื่องราวอุปสรรครออยู่อีกเยอะ :monkeysad2:

นี่ม๊าบูมดูท่าจะไม่ปลื้มเอามากๆเลย สงสารโยจัง ตอนนั้นคงอึดอัดน่าดู :11111:

เมื่อไหร่บูมจะงั้นแผนการออกมานะ เร็วๆซิคร๊าบบเห็นใจแฟนตัวเองหน่อย :ฮึ่มม:

ขอให้โชคดีนะคร้าบบ :call:


ปล. มาลงต่อไวๆนะคร้าบบ :โหลๆ:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
..........โดนม๊าบูมว่าไป 1 ยก....  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

....................เอาไงต่อดีจ้ะโยจ๋า...... :110011: :เชิป2:

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
ท่าทางจะศึกหนักนะเนี่ย

โยสู้สู้

 :yeb:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 5/2"

    “ถ้าวันหลังกะอีแค่เรื่องแค่นี้ อย่ามารบกวนเวลาของม๊าอีกนะเข้าใจไหม” ม๊าของบูมเหล่มาทางผมนิดหน่อยแล้วพูดขึ้นมา “ม๊าไม่ชอบคนกลับกลอก ต่อหน้าอีกอย่างลับหลังอีกอย่าง ยิ่งคนไม่รักษาสัญญายิ่งไม่ชอบเข้าไปใหญ่ จริงไหม” ม๊าแกล้งหันมาพูดกับผมจนผมหน้าชาไปเลย...........

    “ครับ..............” ผมพูดได้แค่นั้นเอง อึดอัดมาก ๆ

    “บูมก็ไม่ชอบ ดีนะที่โยไม่ได้เป็นคนแบบนั้น จริงไหมโย” เฮ้อ ค่อยยังช่วยที่บูมขี่ม้าขาวมาช่วยได้ทันเวลา แต่ม๊าของบูมก็แสดงท่าทางไม่ค่อยพอใจเช่นกันที่ลูกชายตัวเองเข้าข้างอีกฝ่ายหนึ่ง

    “ม๊าก็ลืมถามไปว่าครอบครัวเราทำงานอะไร ม๊าไม่เห็นเราต้องไปช่วยงานที่บ้านเลยนี่ ถึงได้มาเที่ยวตาม ตาบูมแบบนี้” ม๊าพูดเรียบ ๆ แต่ใจความนี่เหยียดแบบบาดลึกสุด ๆ

    “เอ่อ............คือ” ผมกำลังอึกอัก ๆ จะตอบแต่บูมก็รีบชิงพูดขึ้นมาก่อน

    “ผมว่า ม๊าก็น่าจะรู้จักครอบครัวของโยนะครับ ”บูมพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ จนผมเริ่มงง

    “ม๊าจะไปรู้จักครอบครัวของเค้าได้ไงล่ะ เอ้อ เด็กคนนี้ ขนาดโย ม๊าเพิ่งจะเจอแค่ไม่กี่ครั้งเอง” ม๊ารีบตอบปฏิเสธ

    “รู้จักสิครับ ก็โยเค้าเป็นหลานของ ..... (ชื่อป้าผม).....เจ้าของรีสอร์ทที่เชียงรายอ่ะครับ ส่วนพ่อกับแม่โยก็เปิดบริษัท.....อ่ะครับ ” บูมพูดแทนผมจนม๊าหันขวับมาทางลูกชาย

    “ม๊าถามโย....เราไม่ต้องมาช่วยพูด แล้วยังไงเนี่ย ทางบ้านก็มีหน้ามีตาพอสมควร ทำไมถึงไม่ไปช่วยงานที่บ้าน มาเที่ยวตามตื้อตาบูมอยู่ได้” ม๊าพูดเสียงเรียบแต่บาดเป็นแผลลึกมาก ๆ

    “.............................”ผมอึ้งตอบไม่ถูก (ผมไม่ได้ตามตื้อนะครับ)

    “โยไม่เคยตามตื้อบูมเลยนะครับ บูมต่างหากที่เป็นคนไปขอคืนดีกับเค้าเอง ม๊าก็น่าจะรู้ดีว่า ที่แล้ว ๆ มาบูมเป็นยังไง รู้สึกยังไง เสียใจขนาดไหนบ้าง ตอนที่เลิกกับโย”บูมพูดด้วยสีหน้าเศร้า

    “ม๊าเข้าใจว่าบูมรู้สึกยังไง แต่นี่บูมอาจจะกำลังหลงก็ได้นะ เลยเป็นแบบนี้ อย่าพูดมากเลยดีกว่า ม๊าพูดคำเดียวเลยนะ ว่าให้แยกจากกันซะ” ม๊าพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด

    “บูมไม่เลิก ม๊าจะพูดยังไงก็ได้ จะสั่งให้บูมทำอะไรก็ได้ แต่บูมขอเรื่องนี้เรื่องเดียว เพราะบูมไม่มีทางทำได้ และจะไม่มีวันทำด้วย ม๊าไม่ต้องไปบีบบังคับอะไรโยเค้าอีก เพราะที่แล้ว ๆ มา เราสองคนเจ็บปวดมาพอแล้ว ม๊าเข้าใจไหมครับว่าเราเจ็บกันมาพอแล้ว”บูมเริ่มขึ้นเสียง จนผมต้องรีบห้ามไว้

    “บูมใจเย็น ๆ เบา ๆ หน่อยก็ได้ เราว่าเรากลับก่อนดีกว่านะ เราไม่อยากให้บูมกับม๊าทะเลาะกันเพราะเรา”ผมพยายามเลี่ยงไม่ให้แม่ลูกปะทะอารมณ์กัน เพราะต่างฝ่ายก็ดูเหมือนจะใจร้อนพอ ๆกัน

    “ไม่ต้อง...เราต้องพูดกันให้รู้เรื่อง”ม๊าพูดหันมาสั่งผม

    “ใช่....โย วันนี้เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง” บูมหันมาพูดกับผมเช่นกัน

    “ตกลงจะเอายังไง จะเลิกหรือไม่เลิก บูมรู้ไหมว่าสังคมภายนอกเค้าจะคิดยังไงถ้ารู้ว่าแกเป็นแบบนี้ ม๊าไม่ว่าอะไรหรอกนะ ม๊ารับได้ แต่คนอื่นล่ะเค้าจะรับได้หรือเปล่า คิดดูนะว่าสังคมบ้านเรายังเปิดกว้างไม่พอหรอกนะที่จะไปรับกับเรื่องแบบนี้ ม๊าอยากให้เราคิดดูดี ๆ โยก็เหมือนกัน เราเองหน้าตาในสังคมอีกหน่อยก็ต้องมี ม๊าผ่านมาแล้ว ม๊ารู้ดีว่ามันเป็นยังไง คิดดูดี ๆ” ม๊าพยายามอธิบายเหตุผล

    “บูมไม่สนใจหรอกว่าคนภายนอกจะคิดยังไง ม๊าอยากให้บูมไม่มีความสุขตลอดชีวิตหรือไง ถึงแม้ว่าเราอาจจะได้รับสิ่งไม่ดี หรือ ได้ยินคนนินทาเราในทางที่ไม่ดีจากภายนอก แต่พอเรากลับถึงบ้าน เราได้เจอคนที่เรารัก ได้อยู่กับคนที่เรารัก และรักเรา มันก็พอแล้วไม่ใช่หรอ แต่ในทางกลับกัน ม๊าลองคิดดู ถ้าพอเรากลับถึงบ้าน เรากลับต้องมานั่งเหงา อยู่คนเดียวเพราะมัวแต่แคร์สังคมภายนอก ทำให้ไม่ได้อยู่กับคนที่เรารัก บูมรู้ดีว่าการอยู่อย่างโดดเดี่ยวมันเป็นยังไง ม๊ารู้ไหม ตอนที่ม๊ากับป๊าทำแต่งานบูมรู้สึกยังไง เหงาแค่ไหน ตอนนี้บูมได้เจอคนที่มาช่วยเติมส่วนที่ขาดของบูมแล้ว บูมจะไม่มีทางปล่อยเค้าไปเด็ดขาด ขอร้องเถอะครับม๊า อย่าแยกเราสองคนเลย บูมขอร้อง” บูมพูดทั้งน้ำตา จนผมน้ำตาซึมเลย

    “เฮ้อออ.....ในเมื่อม๊าพูดมาขนาดนี้แล้วบูมยังไม่เชื่อ ม๊าก็จะไปว่าอะไรได้อีก แล้วแต่บูมก็แล้วกัน แล้วหวังว่า เราจะรักลูกม๊าจริงๆ นะ ม๊าจะไม่ห้ามพวกแกแล้วเรื่องที่จะคบกัน แต่ขอให้อยู่ในกรอบนะ อย่าทำอะไรประเจิดประเจ้อมากนัก แม้ว่าแกจะไม่แคร์สังคม แต่สักวันแกจะรู้และเข้าใจในสิ่งที่ม๊ากำลังพูด” ม๊าพูดส่ายหน้าช้า ๆ

    “ครับม๊า ขอบคุณครับ.....”ผมรับคำม๊า

    “ขอบคุณครับม๊า....บูมดีใจที่สุดเลยที่เกิดมาเป็นลูกของม๊า....ต่อไปนี้ บูมสัญญาว่าจะไม่ทำตัวเกเรอีกแล้ว” บูมยิ้มทั้งน้ำตา

    “ก็ลองเรา เกเรสิ ม๊าจะให้โยช่วยม๊าจัดการ เอาให้หนักเลยทีนี้”ม๊าพูดยิ้ม ๆ

    “ได้ไงอ่ะครับ....”บูมพูดพลางหันหน้ามาทางผม

    “ครับม๊า ผมจะช่วยเป็นหูเป็นตาแทนให้ครับ จะไม่ให้บูมไปทำตัวเหลวไหลที่ไหนเลยครับ”ผมพูดยิ้มๆ

    “โห.......อะไรกันเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะคู่นี้ อย่างงี้บูมก็เป็นหมาหัวเน่าอ่ะดิ” บูมพูดงอน ๆ

    “หรือว่า จะให้ม๊าทะเลาะกับโยอีก เอาไงลูกคนนี้” ม๊าหยอกบูม

    “ไม่เอาแล้วครับ” บูมรีบปฏิเสธ จนผมกับม๊าอดที่จะขำไม่ได้

    ตอนนี้ผมรู้สึกโล่งอกที่ม๊าของบูมยอมรับในสิ่งที่เราสองคนพยายามสื่อออกไป แต่ก็อีกนั่นแหละเรื่องที่ม๊าของบูมพูดและเป็นห่วงมันก็ยังคงเป็นสิ่งที่เราสองคนต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งตัวผมเองก็กังวลเรื่องนี้เช่นกัน เพราะเราสองคนต่างก็ต้องดำรงอยู่ในสังคมนี้ไปอีกยาวนาน

    หลังจากที่ม๊าของบูมขอตัวไปทำธุระต่อแล้ว ผมกับบูมก็ยังคงนั่งทานอาหารอยู่บนโต๊ะอาหาร

    “สรุปว่า ที่บูมว่ามีวิธีเด็ดนี่คือ ให้เรามาเสี่ยงเองใช่ไหมเนี่ย เฮ้ออออออออออ” ผมละกลุ้มทำไมผมต้องมาเสี่ยงด้วยเนี่ย

    “เอาน่า นี่ก็สำเร็จแล้วไง นะ นะ นะ เราละดีใจที่สุดเลย เพราะจะได้ไม่มีใครมาขวางเราสองคนอีก แล้วเมื่อกี้เห็นไหมว่าม๊าของเราเริ่มเอ็นดูโยแล้วนะ” บูมยิ้มอย่างโล่งอก

    “จริง ๆ ก็ดีน่ะสิ เราก็หวังให้เป็นแบบนั้นเหมือนกัน”

    “จริง ๆ ไม่เชื่อเราหรอ..........”ใครจะไปเชื่อ ไหนว่ามีแผนเด็ด ดีนะที่ม๊าเข้าใจ

    “ใครจะไปเชื่อ เราก็นึกว่าจะมีแผนอะไร ที่ไหนได้” ผมพูดแขวะ

    “เอาน่า....เออ วันนี้โยอยู่ค้างบ้านเรานะ ไม่ต้องกลับหรอก มันดึกแล้ว นะ นะ นะ” บูมชวนเพราะเห็นว่ามันดึกแล้ว

    “ไม่ได้หรอก เพราะที่บ้านเราไม่มีคนอยู่ แม่เรากว่าจะกลับก็ประมาณวันอาทิตย์แน่ะ” ผมอดห่วงบ้านไม่ได้

    “เราว่าเราห่วงโยมากกว่า อยู่บ้านคนเดียว ยิ่งซุ่มซ่ามอยู่ ขนาดหยิบยายังหยิบผิดเลย ไม่รู้ล่ะ เราจะพาโยกลับไปเก็บของที่บ้านมาค้างบ้านเราจนกว่าแม่ของโยจะกลับ แต่ถ้าโยห่วงบ้าน เดี๋ยวพวกเราสลับไปค้างบ้านโยบ้างก็ได้ จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย” บูมเสนอ

    “ตามใจ..........”ผมรับคำเพราะไม่รู้จะเถียงยังไงเพราะเป็นเรื่องจริงอ่ะครับ ได้แต่ทำตามคำบัญชา

    ระหว่างทางที่บูมพาผมกลับมาเอาเสื้อผ้าที่บ้าน บูมโทรไปขออนุญาตกับม๊าเรื่องที่จะให้ผมมาค้างที่บ้านโดยอธิบายเหตุผลให้ฟังซึ่งม๊าก็ไม่ได้ว่าอะไร และยังฝากให้บูมดูแลผมให้ดีด้วย

    “เห็นไหมเราบอกแล้ว ว่าเราอยู่ทั้งคน ไม่ต้องห่วง อย่างงั้น คืนนี้โยจะให้อะไรเราเป็นของขวัญ” บูมได้ทีรีบทวงถาม

    “รางวัลอะไร..........”ผมแกล้งถาม แต่จริง ๆ อ่ะ แค่พูดออกมาก็รู้แล้วว่าต้องการอะไร

    “ก็............” บูมยิ้มอย่างมีเลศนัย

    “ไม่เอาหรอก ถึงเราจะไปค้างที่บ้านบูม แต่ม๊าก็ไม่ได้อนุญาตให้เราอยู่ห้องเดียวกันนะ” ผมรีบชิงออกตัวก่อนเลย

    “ม๊าไม่เห็นต้องมาบอกเลย เราบอกเองก็ได้... แล้วทำไมโยจะต้องไปค้างที่ห้องอื่นด้วยล่ะ ห้องแฟนตัวเองก็มี ทีเราไปค้างบ้านของโย เรายังนอนห้องของโยได้เลย นะ นะ นะ เรายิ่งเป็นโรคขี้เหงาด้วยอ่ะ นะ นะ.......”บูมอ้อน

    “เหงาที่ไหน เราไม่เห็นจะเป็นเลย” ผมแกล้งยั่วบูมเล่น

    “นะ นะ นะ เราเหงาจริง ๆ เหงาไปทั้งตัวเลย ไม่เชื่อลองจับดูดิ”บูมดึงมือผมไปแตะที่ตัวเค้า (อย่าคิดมากนะครับ ที่ตัวจริง ๆ)

    “ไม่เอาหรอก....เร็ว ๆ ช่วยกันเก็บของจะได้เสร็จเร็ว ๆ ถ้าไม่ช่วยงั้นบูมไปรอข้างล่างก็ได้ไป” ผมรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่อะไร ๆ มันจะพาไปจนไม่ได้เก็บของซะ

    “ไม่เอา จะนั่งดูโยอยู่นี่แหละ”แน่ะขี้เกียจอีก

    “โห....คนเรา ไม่ช่วยกันแล้วอย่างงี้หรอ” ผมพูดงอน ๆ

    “ก็โย ไม่ยอมให้รางวัลเราอ่ะ”บูมยังคงทวงรางวัลต่อ

    “ตามใจ เก็บเองก็ได้......” ผมเลยแกล้งทำเป็นไม่สนใจ จนบูมทนไม่ไหว

    “อ่ะ ๆ ๆ ช่วยเก็บก็ได้ ไม่ต้องเอาอะไรไปเยอะนะ เพราะเดี๋ยวตอนนอนก็ไม่ได้ใส่อะไรละ 555” ทำไมบูมลามกอย่างนี้นะ

    “คิดแต่เรื่องแบบนี้ได้ทั้งวัน....” ผมได้แต่ส่ายหน้า

    “ก็คิดกับโยคนเดียวแหละ”

    “เฮ้ออออออออออออออออ”

    หลังจากผ่านพ้นวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปได้ ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับบูมรวมไปถึงครอบครัวของบูมก็ดีขึ้นอย่างมาก ม๊ากับป๊าของบูมก็ไม่ได้ว่าอะไรเรื่องระหว่างผมกับบูม เพียงแต่บอกว่าจะให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความสัมพันธ์ของเราสองคน แถมม๊ายังเอ็นดูผมเป็นพิเศษ ตามใจมากกว่าบูมซะอีก จนผมลืมเรื่องเก่า ๆ ไปหมดเลย เพราะขนาดม๊าไม่ค่อยจะมีเวลาว่าง ยังอุตส่าห์เรียกบูมพาผมไปทานข้าวด้วยเสมอ ๆ จนจะกลายเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว ซึ่งบางครั้งบูมยังอดงอนไม่ได้ว่าทำไมม๊าเอาใจผมมากกว่าเค้าซะอีก อิอิ

    ..................................................

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
.........................................................

และแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างผมกับบูมและครอบครัวบูมจะไม่มีปัญหาอะไร แต่กลับมีสิ่งหนึ่งที่ผมต้องมานั่งกลุ้มใจแทน...นั่นก็คือเรื่องข่าวคราวความสัมพันธ์ระหว่างผมกับบูมที่มหาวิทยาลัย เพราะดันมีคนนอกรู้แล้วเอาไปพูด แถมยังเอาไปนินทาใส่สีตีไข่ซะไม่มีชิ้นดี (อย่างที่ม๊าบูมเคยบอกเป๊ะเลย)....สำหรับผมเองไม่ค่อยจะเท่าไหร่ เพราะผมเองไม่ได้ดังอะไรมากมาย แต่บูมนี่สิ กลายเป็น talk of the town ไปเลย เพราะบูมค่อนข้างจะมีชื่อพอสมควร และมีคนมาจีบค่อนข้างเยอะ ทำให้เวลาเราเดินไปไหนด้วยกัน ผมต้องพยายามเดินออกห่าง ๆ กับบูม และระวังตัวตลอดเวลา แต่บูมกลับไม่เป็นเช่นนั้น เค้าไม่สนใจสายตาคนอื่นแถมเวลาผมเดินออกห่างก็จะคอยมาฉุดผมไปเดินใกล้ ๆ หรือเดินจูงมือผมไปซะดื้อ ๆ อย่างงั้น จนตอนนี้ข่าวของผมกับบูมดังมาก ๆ ที่คณะ

    “บูม เราว่า เวลาเราเดินไปไหนด้วยกันต้องระวังตัวกันหน่อยนะ เพราะข่าวเราดังมากเลยนะตอนนี้ เรากลัวบูมจะเสียชื่ออ่ะ” ผมพูดกับบูมขณะทานอาหารเย็นที่ร้านแห่งหนึ่งด้วยความเป็นห่วง

    “ดังก็ดีสิ เราไม่สนใจเรื่องเสียชื่อเสียงหรือเปล่าหรอก เพราะมันไม่มีความหมาย ดีซะอีกพอมีข่าวของเราจะได้ไม่มีคนมาจีบโยไง คนที่มาจีบเราก็จะได้หายไปด้วย หวงนะรู้ไหม” บูมพูดอย่างไม่สนใจ (ผมดีใจนิดๆ ที่ได้ยินแบบนี้)

    “เอาจริง ๆ ดิ เราอ่ะ ไม่มีใครมาจีบแล้วตอนนี้ แต่บูมอ่ะ ไม่อายสายตาของคนอื่นหรอ เวลาเราเดินไปไหนด้วยกันมีแต่คนมองแล้วก็ซุบซิบกัน” ผมพูดอย่างเป็นห่วง

    “อายทำไม ก็เราเป็นแฟนกันจริง ๆ นิ ว่าแต่ไม่มีใครมายุ่งกับโยแล้วแน่นะ ดีนะที่ตอนนี้ปอนด์เป็นแฟนกับโบไปแล้วไม่งั้นน่าดู ชอบมาจีบคนมีแฟนแล้วอยู่นั่นแหละ” บูมพูดแบบไม่ค่อยสบอารมณ์นิด ๆ

    “เฮ้ออออ.....ไม่มีแล้ว คนมาจีบก็มีแฟนไปหมดแล้วไง เราไม่มีใครเอาแล้ว”

    “ใช่....ดูดิ หัวเริ่มเน่าแล้ว 555”

    “ไม่ให้กำลังใจกันเลย แถมยังมาทับถมอีก หึ.......ว่าแต่บูมไม่สนใจแน่นะ เรื่องข่าวลืออ่ะ” ผมยังคงถามย้ำอีกครั้ง

    “เราบอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ต้องไปใส่ใจคนอื่น เข้าใจไหม ต่อไปนี้เวลาคนอื่นมอง เราจะกอดโยโชว์ให้พวกนั้นเห็นเลย จะได้ไม่ต้องเอาไปนินทาอีก ให้พวกนั้นรู้ไปเลยว่าเราเป็นแฟนกัน จะได้จบเรื่องสักที หรือจะให้ประกาศออกไมค์เลยป่าว” บูมพูดจริงจัง

    “เฮ้อออออออ.........” ผมได้แต่ถอนหายใจ

    “เออ....วันนั้น พีท โทรมาคุยกับเราด้วย โทรมาหลายครั้งแล้วล่ะ พูดทำนองจะมาจีบ ๆ เราอ่ะ สงสัยรู้ข่าวเรากับโยเข้าเลยโทรมาจีบเรา 555” บูมพูดติดตลก

    “ แล้วบูมก็เลยคุยกับเค้าหรอ...กี่ครั้งแล้วเนี่ย..” ผมถามเสียงดุ

    “เปล่า ๆ ๆ เราคุยแค่แป๊ปเดียวเอง เราก็รีบวางสายเลย ใครจะกล้าล่ะ แฟนโหดขนาดนี้” บูมรีบปฏิเสธ

    “ใครโหด พูดดี ๆ นะ”

    “เปล่าครับ....ไม่โหดเลย” บูมพูดหน้าจ๋อย ๆ

    “แต่เราว่า ต่อไปคงมีคนโทรมาจีบบูมเยอะขึ้นนะ เพราะอาจจะรู้เรื่องเราด้วยมั้ง เฮ้ออออ....ปกติก็เยอะอยู่แล้วนิ....เราละเบื่อ” ผมพูดเซ็ง ๆ

    “เราน่ะสิที่ต้องเบื่อ เอางี้ ต่อไปนี้เราฝากมือถือเราไว้กับโยดีกว่า ดีป่ะ จะได้ไม่มีคนโทรมาหาเราไง เราให้โยเป็นคนรับสายแล้วจัดการเลย” บูมเสนอ

    “ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก...แต่อย่าให้รู้นะว่าเล่นด้วยกับเค้าอ่ะ หึ ไม่งั้นน่าดู” ผมพูดด้วยน้ำเสียงและแววตาที่น่ากลัว

    “ถ้าไม่อยากให้ใครโทรมาหาเรา ก็ไปค้างบ้านเราบ่อย ๆ ดิ หรือ ไม่งั้นก็ให้เราไปค้างที่บ้านโยก็ได้นะ จะได้คอยกันไง” นั่นเข้าแผนอีกแล้ว

    “ไม่ได้หรอก แค่นี้ข่าวพวกเราก็ดังอยู่แล้ว ถ้ายิ่งรู้ว่าพวกเราไปค้างที่บ้านของอีกฝ่ายบ่อย ๆ มีหวัง......” ผมละหวาดหวั่นกับข่าวลือจริง ๆ

    “เฮ้อออ บอกกี่ครั้งแล้ว ไม่จำสักที ว่าไม่ต้องแคร์คนอื่น ดูดิม๊ากับป๊าเราก็รักโย แม่กับพ่อโยก็รักเรา แล้วเราจะไปแคร์คนอื่นทำไม หรือว่าโยไม่ได้รักเราถึงไปใส่ใจกับเสียงคนอื่น” บูมเริ่มไม่ค่อยพอใจ

    “เปล่า แต่ว่า.........” ผมปฏิเสธ

    “เปล่านี่หมายความว่ายังไงอ่ะ รักหรือเปล่า” บูมพยายามคาดคั้น

    “อืมมมม........” ผมตอบเสียงอ่อย

    “อืมมม อะไรไม่เข้าใจ”บูมแกล้งพูดเสียงเข้ม

    “นี่บูมแกล้งกันหรอ ทำไมต้องให้พูดออกมาด้วยล่ะ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนิด ๆ (ก็คนมันเขินอ่ะ)

    “ก็เราไม่ค่อยได้ยินโยพูดว่ารักเราเลยอ่ะ” บูมพูดอ้อน ๆ

    “ก็ที่แสดงอยู่นี่ไม่เข้าใจหรอไงอ่ะ”

    “ไม่เข้าใจ ตกลงว่ายังไงรักเราหรือเปล่าครับ”บูมแกล้งทำไร้เดียงสาเป็นเด็ก ๆ

    “อ่ะ ก็ได้ รักครับ” ผมพูดเขิน ๆ

    “แต่เราไม่ได้รักโยนะ” บูมพูดหน้าตาเฉย แถมทิ้งระยะเวลาสักแป๊ปนึง

    “ว่าไงนะ” ผมถามย้ำอีกครั้ง

    “ก็เราทั้งรักทั้งหลง โยมาก ๆ ต่างหาก อยากอยู่กับโยทั้งวันเลย” บูมพูดยิ้ม ๆ

    “แล้วใครห้ามล่ะ อยากอยู่ก็มาอยู่ดิ” เฮ้ย หลุดปาก.....

    “จริง ๆ นะ พูดแล้วห้ามคืนคำ ไม่งั้นไม่รักนะ เดี๋ยววันนี้เราไปค้างบ้านโยนะ นะ นะ ช่วงนี้ไม่รู้เป็นไง เหงาจังอยากนอนกอดโยอ่ะ”ได้ทีเลยนะ

    “กอด เฉย ๆ นะ” ผมเลยเอาคืนมั่ง อิอิ

    “กอดเฉย ๆ ก็ได้ แต่ถ้ามีอะไรขึ้นมาโยรับผิดชอบนะ” นั่นว่าแล้ว......

    “พอเลย ๆ จ่ายตังค์เหอะ จะได้รีบไป”

    “โห.......รอไม่ไหวเลยหรอ อ่ะไปรีบไปกันเถอะ เดี๋ยวจะช้า” นั่นลามกอีกละ

    “พอเลย ๆ”ผมพูดอย่างเอือมระอา

    หลังจากที่เราเช็คบิลเรียบร้อยแล้วกำลังจะเดินไปขึ้นรถตรงที่จอดรถ เสียงมือถือของบูมก็ดังขึ้น พอบูมเห็นเบอร์โทรเข้ามา ก็รีบส่งมือถือมาให้ผมทันที

    .............นี่มันเบอร์มือถือ อาร์ท นี่...........

    จบตอนที่ 5/2 แล้วครับ ช่วงนี้อาจจะมาอัพให้ไม่บ่อยนักนะครับ แต่ยังไงก็จะพยายามมาให้มากที่สุดนะครับ ส่วนเพื่อน ๆ ที่เล่น Msn ถ้าไม่เจอกันก็อย่าว่ากันนะครับ ขอเคลียร์งานแป๊ปนึงนะครับ

************************************

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
..........รู้สึกว่าคู่นี้หวานจนเริ่มเลี่ยนแล้วอ่ะ.......... :oak: :oak:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ฮึ่ม  :o อาร์ทโทรมา มีอะไรรึเปล่า  :angry2:

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุดม๊าก็ปลื้มจนได้ ดีใจจังเยยย :give2:


ว่าแต่นั้นเจ้าอาร์ท โทรมาไมอีกว่ะ  :angry2:


ปล.. บูมน่รักดีนิ ดูแลโยดี แถมมีแอบหื่นเล็กๆ ช้อบชอบ 555+ :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
บูม ก็หวานซะมดขึ้นเลย  :-[

เอ๊ะ ... แล้วอาร์ทโทรมาทำไมเนี่ย  :angry2:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
จะมีอุปสรรคอะไรอีกมั้ยเนี่ย :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 6/1"

    .............นี่มันเบอร์มือถือ อาร์ท นี่...........


    ทันทีที่ผมเห็นเบอร์ของอาร์ท ผมก็รู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมาทันที ตั้งแต่เรื่องของม๊าบูมละ เฮ้อ.......

    “สวัสดีครับ พอดีตอนนี้บูมไม่อยู่ มีอะไรฝากไว้หรือเปล่าครับ”ผมพูดอย่างสุภาพเพราะไม่คิดจะต่อล้อต่อเถียงอะไรด้วย

    “...........................”อาร์ทเงียบ

    “ฮัลโหล ....”

    “นั่นใครน่ะ.............”อาร์ทถามอย่างไม่แน่ใจ

    “ผมโย เพื่อนของบูมครับ” ผมพูดอย่างสุภาพ

    “แกเองหรอ เก่งนิ ขนาดม๊าของบูมยังยอมหลีกทางให้เลย ไม่ธรรมดานะ เห็นเงียบ ๆ อย่างงี้ ร้ายนะ ... แต่แกจำเอาไว้เลยนะว่าฉันไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ หรอก คอยดู นี่มันเพิ่งจะเริ่มต้นเอง แล้วเราจะได้เห็นกัน”อาร์ทพูดอย่างอาฆาตและวางสายไปทันที

    “เค้าว่ายังไงบ้างโย เห็นโยอึ้ง ๆ ไป”บูมถามหลังจากสังเกตเห็นสีหน้าของผม

    “ไม่มีอะไรหรอก นิดหน่อยเอง อย่าไปสนใจเลย กลับกันเหอะ”ผมพยายามพูดเพื่อไม่ให้บูมรู้สึกกังวล

    หลังจากวันที่อาร์ทโทรมาหาบูมในครั้งนั้น หลายวันมานี้ผมรู้สึกเหมือนมีโทรศัพท์ลึกลับ คอยโทรมาแกล้งที่บ้านผมอยู่เสมอ ๆ คือ มันเหมือนจะมีคนโทรศัพท์มาหา แต่พอดังสักระยะ สัก 3-4 ครั้งก็จะหายไป เป็นอย่างนี้ประจำทุกวัน วันละเป็นสิบ ๆ ครั้ง โดยเฉพาะตอนกลางคืน จะยิ่งโทรมาบ่อยมากๆ ขนาดตีสองตีสามก็ยังโทรมา ทำให้บ้านผมป่วนกันไปทั้งบ้าน ไม่ว่าจะเป็น แม่ของผม พ่อของผม หรือแม้กระทั่งตัวผมเอง ต้องคอยเดินมารับสาย บางครั้งนอนอยู่ก็ต้องตื่นมารับสาย เพราะเราไม่รู้ว่าใครจะมีธุระสำคัญหรือเปล่าที่โทรมา แต่พอเดินมาถึงก็มักจะเงียบหายไป จนตอนนี้ครอบครัวผมรู้สึกรำคาญมาก ๆ เพราะต้องคอยเดินมารับบ่อย ๆ ถึงขนาดที่บางครั้งผมต้องลงทุนมานั่งดักรอตรงโทรศัพท์ พอเสียงโทรศัพท์ดังปุ๊ปผมก็จะรีบรับสายทันที แต่พอรับแล้วเค้าก็ตัดสายทิ้งไป หรือบางครั้งก็มีเสียงหัวเราะดังออกมา แต่ผมจำไม่ได้หรอกครับว่าเป็นเสียงของใคร เพราะว่าเสียงมันก้อง ๆ ยังไงพิกล

    “โย.....แม่ว่าแจ้งไปที่องค์การโทรศัพท์เลยดีไหมลูก แม่รำคาญมาก ๆ เลย ใครกันนะเล่นอะไรพิเรนท์ ๆ แบบนี้ จับได้ละน่าดู” แม่ผมพูดตอนทานอาหารเย็นวันหนึ่งหลังจากที่ไอ้โทรศัพท์โรคจิตมันมาป่วนได้สักเกือบอาทิตย์ได้แล้ว

    “ผมเคยถามไปแล้วครับ แต่เค้าบอกว่าเค้าตรวจสอบไม่ได้ เพราะมันอาจจะเป็นเพราะเป็นพวกที่ใช้ PCT หรืออะไรพวกนี้โทรเข้ามาอ่ะครับแม่” ผมตอบ

    “แล้วเราจะจัดการกับไอ้โรคจิตคนนี้ได้ยังไงล่ะ พ่อละเบื่อ กลางค่ำกลางคืนก็ชอบโทรมารังควาญ ไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันพอดี จะว่าเราไปสร้างศัตรูที่ไหน ก็ไม่มีนี่ แล้วเราล่ะมีบ้างไหมตาโย” พ่อผมถามด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย

    “ไม่มีนิครับ.........”ผมพยายามคิดว่าเป็นใครกันแน่ แต่จะว่าเป็นอาร์ทที่พูดอาฆาตไว้ก็ไม่น่าจะใช่เพราะเค้าไม่รู้จักเบอร์โทรศัพท์บ้านผมนี่

    “งั้นเอาอย่างนี้ เดี๋ยวแม่จะไปเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่เลยดีกว่าจะได้ตัดปัญหา” แม่ผมเสนอความคิด

    “ไม่ได้หรอกแม่ มันวุ่นวาย ต้องโทรแจ้งคนนู้นคนนี้อีกตั้งกี่คนว่าเราเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ มันยุ่งยาก”พ่อผมค้าน

    “แล้วจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปหรอพ่อ”แม่ผมถามกลับไป

    “อืม......ก็คงจะต้องเป็นอย่างงั้นแหละ พ่อว่าสักพักก็คงจะเลิกโทรไปเอง รอดูอีกสักอาทิตย์สองอาทิตย์ละกันนะ”พ่อผมพูดด้วยความรู้สึกเหนื่อยหน่าย

    หลังจากวันนั้นมา ตลอดทั้งอาทิตย์ก็ยังคงมีโทรศัพท์โรคจิตโทรเข้ามาป่วนที่บ้านผมเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คือ ผมเริ่มรู้เป้าหมายของไอ้โรคจิตนี่แล้วว่ามันจะเล่นงานผมอย่างแน่นอนเพราะมีโทรศัพท์ที่ไม่โชว์เบอร์ นั่นก็คือพวก PCT ทั้งหลาย โทรเข้ามาที่มือถือผมเช่นกัน แต่พอผมรับสายก็รีบกดวางหู หรือไม่ก็เป็นเสียงหัวเราะของคนๆ เดิม จนผมเริ่มจะทนไม่ไหวกับไอ้โรคจิตคนนี้แล้ว จนผมต้องไประบายกับเพื่อน ๆ บ้าง กับบูมบ้าง แต่ก็ยังไม่มีใครที่สามารถช่วยผมได้จริง ๆ สักที หมดปัญญากันไปหมด

    “บูม เราทนไม่ไหวแล้วนะ มันจะเล่นสงคราม จิตวิทยากับเราหรือยังไงก็ไม่รู้ โทรมากวนอยู่ได้ ดูดิเมื่อคืนมันโทรมาตอนตีสาม คิดแล้วโมโห คนกำลังนอนสบาย ๆ อยู่ หาวววว.....”ผมพูดพร้อม ๆ กับหาวออกมาอย่างคนที่เพลียเพราะอดนอน

    “เราก็ไม่รู้จะช่วยยังไงดีอ่ะ เพราะมันไม่โชว์เบอร์นิ ถ้าเรารู้ว่ามันเป็นใครนะ มันเจ็บแน่”บูมพูดอย่างอาฆาต และแสดงท่าทีห่วงใยผมมาก ๆ

    “เราว่า ไอ้พวกนี้ต้องเป็น บูมแฟนคลับแน่เลย ไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมไม่โทรไปหาบูมนะ โทรมาแกล้งเราทำไม เราไปทำอะไรให้ก็ไม่รู้ หาวววว....” ผมพูดแซวบูมพร้อมกับหาวอีกรอบ

    “เราว่าไม่ละมั้ง เป็นคนที่โยไปหักอกเค้าหรือเปล่า........”บูมถามกลับ

    “ใครล่ะ แต่ละคนมีแฟนกันไปหมดแล้วนิ ใครจะมาแค้นเราอีกล่ะ มีแต่พวกคนทีแอบชอบบูมนั่นแหละที่น่าสงสัย เราบอกแล้วว่าอย่าทำอะไรประเจิดประเจ้อ”

    “โหหหห เป็นแฟนกัน จับมือกันก็ไม่ได้ เดินใกล้กันก็ยังไม่ได้ แล้วจะเป็นแฟนกันไปทำไมล่ะ จริงไหม” บูมบ่น ๆ

    “ไม่ใช่อย่างงั้น หาววววววว......” ผมหาวเพราะง่วงนอนมาก ๆ

    “งั้นวันนี้โยก็ไปค้างที่บ้านเราดิ เดี๋ยวถ้ามีโทรศัพท์โรคจิตมาเราจะช่วยรับให้เอง”บูมเสนอความคิด

    “ก็ดีเหมือนกัน เราไม่ไหวแล้ว เป็นแบบนี้มาเกือบอาทิตย์แล้วนะเนี่ยที่โทรเข้ามาที่เครื่องเราน่ะ”ผมพูดพร้อมกับเอาหัวอิงไปที่แขนของบูมเพื่อพักสายตานิดหน่อย (ตอนนี้ผมมานั่งคุยกับบูมที่ด้านหลังตึก และนั่งม้านั่งเดียวกัน เพราะไม่ค่อยมีคนเดินผ่านไปผ่านมา)

    “นั่นแน่ แอบมาจู๋จี๋กันตรงนี้นี่เอง โย.... ได้ข่าวว่าโดนโรคจิตโทรหาหรอ”ไอ้โบตะโกนทักทายหลังจากหายหน้าหายตาไปขลุกอยู่ที่คณะแฟนใหม่มัน (ปอนด์) ได้หลายอาทิตย์แล้ว

    “เออ....สิ ใครจะมีความสุขเหมือนแกล่ะ โบ.....แล้วแฟนแกเป็นยังไงบ้าง หมายถึงแฟนใหม่น่ะ 555 ตั้งแต่เรื่องน้องกอล์ฟ แกเลยได้ที เสียบต่อเลยนะ”ผมแซวเพื่อนซี้

    “เราก็อยากจะเป็นเจ้าของฟาร์มหอยมั่งดิ รวยดี.....พูดเล่น ก็คนมันเห็นใจกันไง ถูกทิ้งด้วยกันทั้งคู่.....”ไอ้โบแกล้งทำหน้าเศร้า

    “ใครกันแน่ที่ทิ้ง.....อย่ามาโม้เลย....วางแผนเขมือบ ปอนด์ ละสิไม่ว่า มอมเหล้าเค้าไปกี่ขวดวะ”ผมพูดขำ ๆ

    “ครึ่งโหล......ไม่ใช่ ทำไมแกพูดอย่างนี้อ่ะโย....บูมวันหลังดูแลแฟนบ้างนะ ปล่อยให้มาพูดจาซี้ซั่ว อยู่ได้”ไอ้โบได้ทีรีบฟ้องเลยนะ

    “555…แต่เราก็เห็นด้วยกับโยนะ ได้ข่าวว่าโบสวีทกับปอนด์ซะจน น้องกอล์ฟอะไรนั่นตามมาด่าที่ห้องสมุดเลยหรอ”บูมถาม (เรื่องไอ้โบมันอีกยาวไว้จะเล่าเป็น ตอนพิเศษนะครับ)

    “เชื่อเลย สองคนเหมือนกันไม่มีผิด.....เข้ากันอย่างกับผีเน่ากับโลงผุ....เฮ้อออ.....เออ โยถ้ามีอะไรให้ช่วยบอกนะ”ไอ้โบแขวะ

    “ขอบใจ.....แกช่วยสืบหาไอ้โรคจิตให้ทีดิ เราละอยากจะลากมันมาอัดสักสองสามทีให้หายแค้น”ผมพูดอย่างอาฆาต

    “ใครจะไปสืบได้ล่ะ เออ.....ไว้จะพยายามแล้วกันนะ ไปละ เดี๋ยวมีนัดต่อ”ไอ้โบเอ่ยลา

    “แล้วแกอย่ามัวไปขลุกอยู่ที่คณะนั้นบ่อยนัก ไอ้ออฟกับไอ้กายชักจะโมโหแล้วนะ ได้แฟนแล้วลืมเพื่อนนี่หว่า”ผมพูดเพราะพักหลังไอ้โบมันไปขลุกอยู่แต่ที่คณะของปอนด์ตลอดเลย

    “เออ น่า ช่วงข้าวใหม่ปลามัน ก็แบบนี้ ทีพวกแกยังมานั่งอี๋อ๋อกันที่นี่ได้เลย...555 ล้อเล่น ไปละ”ไอ้โบพูดยิ้ม ๆ แล้วเดินจากไป

    “แล้วอย่าลืม ไปหาไอ้ออฟกับไอ้กายบ้างนะ มันถามหา.......”ผมตะโกนไล่หลังไอ้โบ

    หลังจากที่ผมเลิกเรียนในวันนั้นแล้ว ระหว่างทางที่บูมกับผมขับรถกลับมาที่บ้านบูม ผมนั่งหลับมาตลอดทางเพราะผมรู้สึกเพลียมาก ๆ แต่บางครั้งก็ต้องตกใจสะดุ้งตื่นเพราะเมื่อมีเสียงโทรศัพท์ของไอ้โรคจิตดังขึ้นมา ซึ่งจะเป็นไอ้โรคจิตที่ไหนได้ ก็ไอ้โรคจิตคนเดิมที่มันคอยตามราวีผมอยู่นี่แหละ........

    “มึงเป็นใครวะ มาแกล้งเค้าอยู่ได้ แน่จริงมาตัว ๆ เลยดีกว่า บ้าหรือเปล่า” บูมพูดกับไอ้โรคจิตขณะจอดรถติดไฟแดงอยู่ (ส่วนผมก็นั่งพักผ่อนหลับตาเพราะรู้สึกเพลีย ปล่อยพี่บูมเค้าจัดการดีกว่า)

    “...............ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า...........”เสียงหัวเราะของไอ้โรคจิตดังขึ้น (หลังจากที่ผมให้พวกเพื่อน ๆ ผมฟังเสียงมัน พวกเพื่อน ๆผมต่างก็ลงความเห็นกันว่า มันน่าจะใช้พวกเครื่องแปลงเสียงมาใช้แน่ ๆ เพราะออฟบอกว่า เพื่อนของแฟนออฟเคยใช้ไอ้เครื่องลักษณะนี้โทรมาแกล้งออฟครั้งนึง ซึ่งที่ได้มันจะคล้าย ๆ กัน)

    “ตกลงมึงจะเอายังไง อย่าให้จับได้นะ โดนแน่”ชายหนุ่มพูดอย่างมีอารมณ์แล้ววางสายไป

    “มันหัวเราะอย่างเดียวใช่ป่ะ บูม”ผมถามขณะหลับตา

    “อืมมม........หัวเราะอย่างเดียว ขนาดเราฟังเรายังโมโหเลย.....เรา....เราขอโทษนะโย เพราะเราแท้ ๆ เลย” บูมพูดเสียงเศร้า

    “ไม่ใช่เพราะบูมหรอก....ช่างมันเถอะ เดี๋ยวสักพักมันก็หยุดไปเองนั่นแหละ”ผมลืมตามาพูดกับบูมยิ้ม ๆ

    คืนนั้นผมกับบูมพยายามโทรไปขอความช่วยเหลือที่call center ของมือถือผม ว่าถ้ามีคนโทรมาให้ช่วยดูด้วยว่าโทรมาจากไหน แต่ทาง call center ก็ช่วยอะไรไม่ได้มากเพราะว่ามันต้องใช่หลักฐานอะไรมากมาย ผมเลยยกเลิกความคิดนั้นไป

    ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด.......เสียงโทรศัพท์มือถือผมดังอีกแล้ว (ไอ้บ้า จะไม่ให้พักเลยหรือไง......ผมคิดแต่ก็ยังไม่ได้ดูเบอร์ที่โทรเข้ามา)

    “โยจะรับไหม” บูมถามหลังจากได้ยินเสียงมือถือผม

    “รับก็รับ...........” ผมตัดสินใจ เพราะเริ่มรำคาญมาก ๆแล้ว

    “ฮัลโหล.....................”ผมพูดขณะรับสาย

    “........................................”เงียบ

    “ใครอ่ะ จะบ้าหรอไง โทรมาอยู่ได้”ผมพูดอย่างเหลืออด

    “โย............................................”เสียงใครคนนึงดังขึ้นมาหลังจากที่มันเงียบมานาน

    จบตอนที่ 6/1 แล้วครับ

*********************************************************************

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ใครนะที่แกล้งโย :pigangry2:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
.
..............กระเทยอาร์ทแน่เลย......... :13223: :13223:

...........................ฆ่ามานนนนนนนนนนนนนนนน........ :pigangry2: :pigangry2: :pigangry2:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
ใครแกล้งหว่า จับมันไปเจี๋ยนเลยดีมั้ยเนี่ย :ฮึ่มม:

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
พวกโทรกวนประสาทนี่มันบ้าจริงๆ น่ารำคาญมั่กๆๆ ๆ :pigangry2:
 :13223: :seng2ped:

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
 :o  ใครแกล้งโย


ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 6/2"

    “โย............................................”เสียงใครคนนึงดังขึ้นมาหลังจากที่เงียบมานาน

    “ใครอ่ะ ไม่ค่อยได้ยินเลย”ผมถามอีกครั้งเพราะได้ยินไม่ค่อยถนัดนัก

    “เราปอนด์เอง อารมณ์เสียอยู่หรอ เราโทรมารบกวนหรือเปล่า”ปอนด์ถามด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด

    “อ้าวปอนด์หรอ เราก็นึกว่าไอ้โรคจิต ขอโทษนะ”ผมรีบปรับโทนเสียง

    “โห....แค่นี้ก็จำกันไม่ได้ เสียใจนะรู้ไหม”ปอนด์พูดงอน ๆ

    “พอเลย ๆ เดี๋ยวไอ้โบรู้เข้ามีหวัง หูเรายานไปสามวันสามคืนแน่”ผมแซวปอนด์ขำ ๆ แต่พอหันมาเจอบูมที่ตอนนี้กำลังจ้องมาทางผมด้วยสายตาที่ไม่ค่อยจะพอใจเลยสลดลงนิดหน่อย

    “ช่างเค้าดิ ปกติเค้าก็รู้นิว่าเราโทรหาโยเป็นประจำอยู่แล้ว” อ้าวแล้วกันปอนด์นี่ยังไงกันนะ

    “มันไม่เหมือนกัน เพราะแต่ก่อนปอนด์กับโบยังไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วนะ”ผมพยายามอธิบายเสียงค่อย ๆ กลัวบูมได้ยิน...........เฮ้อออ เข้าห้องน้ำไปซะละ โล่งอก

    “เป็นแฟนกันแล้วยังไง เราไม่สนใจหรอกนะ เราจะโทรหาโยเหมือนเมื่อก่อนใครจะว่ายังไงเราไม่สนใจหรอก” ปอนด์ยังคงดื้อต่อไป

    “แต่ใครที่ปอนด์ว่า มันเพื่อนสนิทเรานะ โบกับเราสนิทกันมาก และสนิทกันมานาน เราจะไม่ยอมทะเลาะกับโบเพราะเรื่องแค่นี้หรอก” ผมพูดเสียงเครียด

    “เราขอโทษ....เรารู้ว่าเราพลาดไปแล้ว...นี่เรากับโยจะไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนก่อนได้เลยใช่ไหม” ปอนด์พูดเสียงเศร้าลง

    “เราไม่อยากจะทำร้ายจิตใจปอนด์หรอกนะ แต่เราต้องพูดเพื่อที่จะให้อะไร ๆ มันจบลงสักที เพราะเรื่องระหว่างเรามันไม่เคยเริ่มเลยต่างหาก เราอาจจะพูดแรงไปนิดนึง เราขอโทษ แต่เราต้องทำเพื่อโบ และเพื่อ ตัวปอนด์เอง เราว่าโบกับปอนด์น่าจะไปกันได้ด้วยดีนะ”ผมต้องแสดงความชัดเจนเพราะแค่เรื่องไอ้โรคจิตผมก็จะแย่แล้วนี่ยังจะมาหาเรื่องให้ผมทะเลาะกับโบอีก ผมคงต้องตายแน่ ๆ

    “เราเข้าใจแล้ว...เราจะพยายามโทรมาหาโยให้น้อยลงนะ แต่เราคงจะเลิกโทรมาหาโยไม่ได้หรอก ก็เหมือนกับความรู้สึกเรานั่นแหละที่ไม่มีวันตัดโยออกไปได้” ปอนด์พยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่นไปมากกว่าเดิม

    “สักวันโบมันจะเข้ามาแทนที่เราเองแหละ เพราะโบเป็นคนดีมาก ๆ เลยนะปอนด์เรากล้ายืนยันได้ สักวันปอนด์จะได้เห็นและจะรักโบมากกว่าตอนนี้ เราเชื่อแบบนั้น”ผมยืนยันหนักแน่น

    “ครับ เราจะพยายามนะ....เราไม่กวนเวลาของโยแล้ว แค่นี้นะครับ บายครับ”ปอนด์พูดพร้อมกับวางสายลงไป

    “ครับ บายครับ”ผมวางสายและถอนหายใจนิด ๆ

    “นั่นแน่ พูดดีมาก ไม่คิดว่าแฟนตัวเองจะพูดดีอย่างงี้ มาให้รางวัลทีนึง”บูมเปิดประตูห้องน้ำออกมาแล้วทำท่าจะเข้ามากอดผม

    “โห............แอบฟังกันแบบนี้เลยนะ ร้ายนะเนี่ย ถ้าเราแอบมีใครไม่แย่หรอ” ผมส่ายหน้าช้า ๆ กับพฤติกรรมชายหนุ่มข้าง ๆ ตัว

    “อ้าว ก็ถ้าไม่ทำแบบนี้ เราจะรู้ได้ยังไงล่ะครับว่าแฟนผมน่ารักขนาดไหน แอบซ่อนใครเอาไว้หรือเปล่าก็ไม่รู้”บูมเอื้อมมือมากอดผมเบา ๆ

    “พอเลย ๆ เราไม่ใช่เหมือนใครบางคนนะที่ชอบแอบไปคุยกับคนอื่น”ผมแอบแขวะบูมนิด ๆ

    “เราไม่ได้คุยกับใครเลยนะ จริง ๆ พอเค้าโทรมาเราก็รีบวางสายเลย จริง ๆ” บูมทำท่าสาบาน

    “อย่าให้รู้ละกัน” ทันทีที่ผมพูดจบ เสียงมือถือผมก็ดังขึ้น......แต่คราวนี้แน่นอนเลยครับ ไอ้โรคจิตแน่ ๆ เพราะไม่มีเบอร์โชว์

    “ใครโทรมาอีกอ่ะโย เสน่ห์แรงจริง ๆ เลยนะ”บูมพูดแซวผมอย่างงอน ๆ

    “ใครกันแน่ อ่ะนี่ ไอ้โรคจิตไง รับไปเลย”ผมโยนโทรศัพท์มือถือให้บูม

    “ฮัลโหล..............”บูมกดรับสาย

    “...........................................”ไม่มีเสียงตอบรับครับคราวนี้ แล้วมันก็กดวางสายไป

    “เป็นไงมันหัวเราะอีกหรือเปล่า”ผมถามบูมหลังจากเห็นชายหนุ่มวางสายไป

    “เปล่า ไม่มีเสียงอะไรเลย....มันไม่มีทางจับมันได้เลยหรอไงนะ เครียด”บูมพูดอย่างโมโห

    “เราน่าจะเครียดมากกว่านะ ก็มันเล่นโทรมาหาแต่เรา”ผมบ่น ๆ

    “นั่นแหละ โยเครียด เราก็เครียดด้วยไง”บูมพูดอ้อน ๆ เพื่อทำให้ผมอารมณ์ดีขึ้น

    “เราว่า ถ้าจะให้เริ่ม น่าจะเริ่มจาก คนที่รู้เบอร์โทรศัพท์ทั้งเบอร์บ้านและเบอร์มือถือของเราก่อนเลยดีกว่า แล้วเอามาวิเคราะห์ดูอีกทีว่าน่าจะเป็นใคร จากนั้นค่อยตามแอบดูทีละคน”ผมเริ่มแยกแยะหาต้นตอของปัญหา

    “เราก็ว่าน่าจะเป็นอย่างงั้นแหละ หัวแหลมจริง ๆ แฟนเรา มาให้รางวัลทีนึง”บูมดึงตัวผมเข้าไปหอม

    “พอเลย ๆ นิด ๆ หน่อย ๆ นี่ไม่เคยพลาดเลยนะ”ผมแซวบูมยิ้ม ๆ

    “งั้นไม่ทำแค่นิดหน่อยละ”บูมดันตัวผมให้ล้มลงบนเตียง

    “เดี๋ยวดิ เรายังไม่ได้ข้อสรุปเลย”ผมพยายามบ่ายเบี่ยงเพราะยังหาสาเหตุไม่ได้เลย เฮ้ออออ

    “ก็ได้ ๆ มาเร็ว ๆ รีบ ๆ สรุปเลยนะ”

    “งั้นบูมไปอาบน้ำก่อนนะเดี๋ยวเราละ ลิสต์รายชื่อออกมาก่อน”ผมไล่ให้ชายหนุ่มไปอาบน้ำ

    “ก็ได้งั้นเดี๋ยวเรามานะ”บูมพูดและลุกเดินเข้าไปอาบน้ำ

    จากนั้นผมก็รีบโทรไปเรียก ออฟ กาย และ ไอ้โบมาที่บ้านบูมเพื่อจะได้มาช่วยกันวิเคราะห์ รวมถึงแพทด้วย เพราะแพทน่าจะมีไอเดียอะไรดี ๆ แน่เลย อีกอย่างผมต้องการจะแกล้งบูมด้วย ชอบลามกอยู่เรื่อย ๆ ต้องโดนดัดหลังบ้าง คนยิ่งกำลังเครียด ๆ อยู่

    หลังจากบูมอาบน้ำออกมา ผมก็แกล้งทำเป็นฟอร์มขีด ๆ เขียน ๆ ไปเรื่อยเพื่อถ่วงเวลาที่พวกเพื่อน ๆ ผมจะมา

    “ได้กี่คนแล้วคร๊าบบบบบ เสร็จหรือยังอ่ะ ง่วงนอนแล้วนะ” บูมพูดเสียงหวานมาก ๆ พร้อม ๆ กับแววตากรุ้มกริ่มเต็มที่

    “ยังอีกแป๊ปนึงก็เสร็จแล้วล่ะ รอแป๊ปนึงนะ”ผมพยายามถ่วงเวลาต่อไป

    หลังจากนั้นสักพักนึง แพทก็มาถึงบ้านของบูม และทันทีที่แพทมาถึง คนงานที่บ้านบูมก็ขึ้นมาบอกว่า

    “คุณบูมคะ คุณแพทมาหาน่ะค่ะ”คนงานคนนึงเคาะประตูเรียก

    “แพทหรอ มาทำไมเอาป่านนี้นะ” บูมทำท่างง ๆ แล้วหันมายิ้มกับผมอย่างรู้ทัน

    “ร้ายจริง ๆ เลยนะ มิน่าแกล้งถ่วงเวลา เดี๋ยวเหอะ”บูมตรงเข้ามาล็อคตัวผมจนผมต้องดิ้นสู้

    “คุณบูมคะ จะให้บอกคุณแพทว่ายังไงคะ”คนงานตะโกนถามมาอีกครั้ง

    “เดี๋ยวผมลงไปครับ”บูมตะโกนตอบไปพร้อมกับหอมแก้มผมแรง ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว ซึ่งผมได้แต่หัวเราะที่ดัดหลังบูมสำเร็จ

    หลังจากที่พวกเราสองคนเดินลงไปหาแพท และทักทายแพทสักครู่นึงเพื่อน ๆ ของผมก็มาถึง ไล่จาก ออฟซึ่งนั่งรถมาพร้อมกับกาย และ ไอ้โบที่นั่งแท็กซี่มา เพราะตอนนี้มันย้ายไปอยู่คนเดียวที่คอนโดย่านลาดพร้าวแล้ว

    “สรุปนี่มากันหมดหรือยังอ่ะ ขาดใครอีกไหม”บูมกระซิบข้างหูผมหลังจากเดินออกมารับไอ้โบ

    “หมดแล้ว.....ทำไมหรอ”ผมแกล้งถามบูมยิ้ม ๆ

    “เปล่า....แต่ถึงจะดึกยังไง เราก็ไม่สนใจหรอก รอถึงเช้าก็รอไหว สบายมากวันนี้เราฟิตอย่างแรง....เพราะพรุ่งนี้ไม่มีเรียน”บูมพูดยิ้ม ๆ แล้วเดินจากไป

    “โหหหหหหหหหหห”ผมได้แต่ร้องตามแต่ชายหนุ่มก็ไม่สนใจแล้วเดินจากไปยิ้ม ๆ

    หลังจากที่พวกเรามาชุมนุมกันครบแล้ว ผมก็เริ่มลำดับเหตุการณ์ณ์ต่าง ๆ ให้ทุกคนฟังอย่างละเอียด รวมถึงเรื่องที่ผมคิดไว้ว่าถ้าจะหาไอ้โรคจิต ต้องหาคนที่รู้เบอร์โทรทั้งบ้านผมและ มือถือผมให้ได้ ซึ่งระหว่างที่ผมกำลังคุยอยู่ก็มีไอ้โทรศัพท์โรคจิตโทรมาก่อกวน เป็นสิบ ๆ ครั้งจนทุกคนก็รู้สึกรำคาญและเห็นใจผมมาก ๆ

    “เราว่า คนที่มีเบอร์มือถือของโยอ่ะ เยอะมากเลยนะ แต่เบอร์บ้านเราว่าน่าจะมีไม่กี่คน”แพทเสนอความคิดซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย

    “ปกติโยก็ให้เบอร์คนอื่นเค้าเยอะไปหมดนิ แล้วจะไปนับยังไงล่ะเนี่ย”ไอ้กายทำไมพูดอย่างกับเราเป็นคนใจง่ายอย่างงั้นล่ะ

    “นิ ๆ ๆ เราไม่ได้ให้ใครทั่วไปหมดอย่างนั้น พูดไปได้กาย”ผมเหล่ไอ้กาย เพราะบูมเริ่มมองผมแปลก ๆ แล้ว

    “ไม่ใช่แบบนั้น เราหมายถึงว่า คนรู้เบอร์มือถือของโย เยอะมากนะที่คณะ” เออ พูดอย่างงี้ค่อยยังชั่วหน่อยกาย ไม่งั้นคืนนี้เราต้องโดนหนักแน่ ๆ

    “อืม.....เราว่า น่าจะเริ่มจากคนที่รู้จักแต่เบอร์โทรที่บ้านของโยก่อนดีกว่านะ เพราะโยเล่าให้เราฟังว่าเค้าโทรไปก่อกวนที่บ้านตั้งหลายวันก่อนที่จะโทรไปที่มือถือนิ เราว่านี่น่าจะเป็นเบาะแสอย่างนึงนะ”แพทเสนอความเห็น (ฉลาด มาก ๆ แพท ดีใจจริง ๆ ที่ชวนแพทมา)

    “เฮ้ย ๆ ๆ ไอ้โบ แกจำได้ไหมวะว่า แบงค์ มันมาขอเบอร์โทรโยกับพวกเราตอนเดินไปห้องสมุดน่ะ”ออฟหันไปถามไอ้โบที่กำลังคิด

    “เออ ใช่ ๆ ๆ วันนั้นไง เราว่าน่าจะเป็นไอ้แบงค์แน่ ๆ เลยเพราะมันมาถามหาเบอร์โทรของโย เราจำได้ออฟ”ไอ้โบรีบสนับสนุน

    “แล้วพวกแกให้เบอร์อะไรเค้าไปล่ะ”ไอ้กายถาม

    “ให้เบอร์มือถือไปน่ะสิ ถามได้ ใครจะไปให้เบอร์บ้านล่ะ”โบบอก

    “แล้วมันจะใช่ที่ไหนล่ะ มันโทรมาเบอร์บ้านก่อนนะ”ผมขัดขึ้น

    “เออ...จริง เราก็ลืมคิดไป”โบพูด

    “หรือว่าเป็น แอน แต่แอนคงจะไม่ใช่หรอก เพราะเค้าก็ถามเบอร์ทุกคนนั่นแหละ แล้วเค้าก็ไม่น่าจะเป็นคนแบบนั้น เพราะปกติแอนจะเป็นคนที่เปิดเผยตลอด”ออฟพูดพร้อมกับสรุปถึงสาวร้อนแรงประจำคณะ

    “อั๋น......อั๋น แน่เลย วันนั้นเราเห็นเค้าทำท่าลับ ๆ ล่อ ๆ ตอนบูมกับโยเดินจับมือกัน แถมอั๋นก็มีเบอร์โทรที่บ้านของโยด้วย เพราะเคยทำ assignment ส่ง ไอ้โหดตอนปีหนึ่งอ่ะ ที่ไปทำที่บ้านโยไง” กายเสนอ

    “อืม....ก็น่าสนใจนะ แต่อั๋นไม่ได้ชอบผู้ชายนิ แต่ไม่แน่นะ อาจจะชอบก็ได้แต่พวกเราไม่รู้”แพทพูด

    “งั้นตกลงตามนี้ อั๋นเป็นเป้าหมายที่หนึ่ง”บูมสรุป

    “แต่พีทก็น่าสงสัยนะ เห็นโทรมาจีบบูมด้วย แล้ววันนั้นเราก็ดันไปบอกเบอร์ที่บ้านเราให้พีทไป เพราะเค้าจะเอาไปลงในหนังสือรุ่น” ผมเสนอเพราะรู้สึกตะหงิด ๆ

    “อาร์ทล่ะ อาร์ทด้วยดีไหม เพราะเราว่าเค้าก็น่าสงสัยนะ แต่เค้าไม่มีเบอร์โยนี่”แพทเสนอรายชื่อ

    “ถ้าอย่างงั้นเอาอย่างนี้นะ เรื่องอาร์ท เราให้แพทจัดการตามสืบเลยนะ ส่วน อั๋น คงจะต้องเป็น กายนะ เพราะเห็นกายคุยกับอั๋นบ่อยนิ แล้ว พีทเราว่าให้ โบกับออฟดีกว่านะ เพราะเรากับโยจะออกตัวลำบาก เดี๋ยวไก่ตื่น”บูมพยายามสรุปเรื่อง

    “เราก็ว่าแบบนั้นแหละ ยิ่งบูมกับโยไปถามอะไรพวกนี้มาก ๆ ก็เหมือนแหวกหญ้าให้ไอ้โรคจิตมันรู้ตัว”ออฟสนับสนุน

    “งั้นตกลงตามนี้นะ เริ่มแผนการณ์ วันจันทร์หน้าได้เลยนะ เอาละ แยกย้ายกันได้แล้ว เพราะนี่ก็ดึกมากแล้วนะ ดูดิ สี่ทุ่มกว่าแล้วนะ เดี๋ยวแพท เราจะให้คนงานขับไปส่งนะ”บูมพยายามทำท่าจะไล่พวกเพื่อน ๆ ผมให้รีบ ๆกลับอย่างเดียวเลย จนทุกคนอมยิ้มอย่างรู้ทัน

    “เราขอค้างที่นี่ได้ไหม มันดึกแล้ว”ออฟแกล้งแหย่บูม จนบูมหน้าเสีย

    “ใช่ ๆ ๆ ดึกมากแล้ว เราขับรถกลับไม่ไหวหรอก เนอะ โบเนอะ อีกอย่างบ้านไอ้โบก็อยู่คนละทางกับบ้านเรากับออฟเลย”กายสนับสนุนยิ้ม ๆ

    “เฮ้ย แต่เราต้องรีบกลับนะ เดี๋ยวจะรีบโทรไปหาปอนด์” ไอ้โบไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยจนโดนไอ้ออฟหยิก

    “555 อย่าไปแกล้งเค้าเลย ไปกันเถอะ ดูสิ บูมจะร้องไห้อยู่แล้ว”แพทพูดช่วยบูมยิ้ม ๆ

    “เราก็แค่แหย่หน่อยเดี๋ยวเอง ทำเป็นหน้าเสียไปได้ โยแกก็อย่าไปแกล้งบูมมากนักเลย ดูดิ ดูหน้าเค้าดิ”ออฟแซวจนบูมอายหน้าแดงเลย

    “ได้ไงล่ะ ค้างด้วยกันแหละ”ผมพยายามขอความช่วยเหลือเพราะตอนนี้สายตาบูมที่มองผมน่ากลัวมาก

    “ไม่เอาหรอก ไม่อยากเป็น กขค abc…เราไปแล้วนะ” กายพูดแล้วทำท่าจะเดินออกไป

    “งั้นพวกเราไปแล้วนะ”ทุกคนเอ่ยลา ส่วนบูมก็เดินไปสั่งให้คนงานขับรถไปส่งแพทกับโบเพราะคอนโดของโบอยู่คนละทางกับออฟกับกาย

    หลังจากที่ส่งทุกคนเรียบร้อยแล้ว ผมก็รีบวิ่งขึ้นห้องไปเข้าห้องน้ำเพื่อถ่วงเวลา ในขณะที่บูมค่อย ๆ ย่างก้าวขึ้นมาอย่างช้า ๆ

    ผมแอบหลบอยู่ในห้องน้ำได้สักครู่ใหญ่ เพื่อแกล้งถ่วงเวลานาน ๆ เผื่อบางทีบูมอาจจะขี้เกียจคอยและนอนหลับไป ผมจึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออกมา และผมก็ได้หายใจอย่างโล่งอกที่ชายหนุ่มนอนอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว เฮ้อ....ค่อยยังชั่ว ผมเดินมาสำรวจดูชายหนุ่มที่กำลังหลับปุ๋ยตรงหน้าอย่างขำ ๆ และเดินอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อล้มตัวลงนอน........

    “เฮ้ยไอ้โรคจิต แน่จริงมาเจอกันตัว ๆ เลยดีกว่า อย่ามาลอบกัดแบบนี้”ผมตะโกนใส่มือถือหลังจากได้ยินเสียงมือถือผมดังขึ้น

    “555 ได้....กูอยู่หน้าบ้านนี่แหละ แน่จริงลงมาเลย” ไอ้โรคจิตท้า

    “ได้ อย่าเพิ่งไปไหนนะเดี๋ยวเจอดีแน่”ผมไม่รอให้มันหนีไปรีบลุกจากเตียงไปแล้วเดินลงไปหาไอ้โรคจิตที่ยืนจังก้าอยู่ที่หน้าบ้าน

    “ว่าไง ไอ้โย มึงอยากลองดีใช่ไหม ถึงกล้ามาแย่งคนที่กูชอบไป”ไอ้โรคจิตในความมืดตะโกนใส่ผม

    “แล้วจะทำไม แน่จริงเข้ามาเลยดีกว่า ตัว ๆ กูไม่กลัวมึงหรอก” ผมเริ่มโมโหและตั้งท่าเตรียมรอแล้ว

    “ได้ เดี๋ยวรู้.....”ไอ้โรคจิตเดินเข้ามาหาผม แต่ผมยังคงมองเห็นเค้าไม่ถนัดนัก

    “…………………เฮ้ย มึงจะทำอะไรกู ปล่อยกูนะ มึงจะบ้าหรือไงวะ” ผมร้องอย่างตกใจเมื่อไอ้โรคจิตมันเดินมาผลักผมลงล้ม

    “.................มึงจะทำอะไร อย่า อย่า อย่า................”ผมร้องอย่างหวาดกลัวเมื่อไอ้โรคจิตเริ่มที่จะปลดกางเกงผมลงมาอย่างรวดเร็ว และกำลังจะ....................


    จบตอนที่ 6/2 ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ

********************************************************************************

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
 :o  ค้างอ่ะ

 :serius2: :serius2: :serius2:

มาลงต่อเร็วๆ นะค้าบบบบบบ  :dont2: :dont2:

 :impress: :impress: :impress:

ปล. ใครก็ได้ ช่วยปลุกบูมที โยแย่แล้ววววว  :โหลๆ: :โหลๆ: :โหลๆ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






gobgab

  • บุคคลทั่วไป

..........เล่นเป็นคนโรคจิตแล้วก็..... :110011: :เชิป2:

.....................เจอกันบนเตียง........... :laugh5: :laugh5: :laugh5:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
 :o   ประจันหน้ากันแล้วอ่ะ

ว่าแต่คงไม่ใช่กำลังฝันไปหรอกนะ แล้วคนที่จะถอดกางเกงก็คือบูม :laugh3:

Tantalum

  • บุคคลทั่วไป

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
เอ อ่านไปงง ไป พูดเสียงดังขนาดนั้น บูทหลับอยู่น่าจะได้ยินนะ


เอ...หรือว่าเล่นไปไอ้โรคจิตกันเปลี่ยนบรรยากาศอย่างถุงบอกเหรอ   :haun4:อิอิ

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 6/3"

    “.................มึงจะทำอะไร อย่า อย่า อย่า................”ผมร้องอย่างหวาดกลัวเมื่อไอ้โรคจิตเริ่มที่จะปลดกางเกงผมลงมาอย่างรวดเร็ว และกำลังจะ....................

    ผมพยายามรวบรวมกำลังที่มีอยู่ผลักไอ้โรคจิตจนหงายหลังลงไป จากนั้นผมก็รีบลุกขึ้นมา กะว่าจะไปตะบันหน้า ไอ้.................อ้าว อะไรกันเนี่ย ทำไมอยู่ดี ๆ ผมกลับมาอยู่ที่ห้องนอนของบูมได้ละเนี่ย เฮ้ย....แล้วทำไมบูมถึงลงไปกองกับพื้นอย่างงั้นล่ะ แล้วไหงทำไมเรายังอยู่บนเตียงอยู่วะ....ผมมองซ้าย มองขวา พลางคิด ...เราฝันไปหรอกหรอเนี่ย....เฮ้ออออออออออออออออออออ

    “โย ทำไมถึงนอนดิ้นแบบนี้ล่ะ ดูดิ...เรากำลังนอนสบาย ๆ อยู่เลย ผลักเราล่วงลงมากองกับพื้นเลย....”บูมเกาหัวลุกขึ้นจากพื้นแล้วกำลังจะก้าวขึ้นมาบนเตียงนอน (ท่าทางมีพิรุธนิดหน่อย)

    “เอ่อ....พอดีเราฝันถึงไอ้โรคจิตอ่ะ เราเลย...........”ผมหยุดคำพูดลงแค่นั้นเพราะสิ่งที่ผมสังเกตุเห็นก็คือ………

    “เราว่าเราไม่ได้ฝันอย่างเดียวละมั้ง.......”ผมเหล่ตามองบูมอย่างรู้ทัน

    “.............................”ชายหนุ่มเงียบ แถมทำท่าเหมือนกับไม่รู้ไม่ชี้

    “เราว่านะ แถวนี้ก็มีคนโรคจิตเหมือนกันนะ คนกำลังนอนอยู่ดี ๆ ชอบมาทำมิดีมิร้ายเค้าอยู่เรื่อย นี่บูมมานี่เลย” ผมดึงตัวบูมที่กำลังจะลุกหนี

    “เปล่านะ เราไม่ได้ทำอะไรเลย”บูมหัวเราะปฏิเสธ (จะปฏิเสธได้ยังไง ก็ในเมื่อกางเกงผมมันกองลงไปข้างล่างแล้ว)

    “เปล่าอะไร หลักฐานก็เห็น ๆ กันอยู่.....เราว่าคนที่แกล้งสร้างสถานการณ์ทั้งหมดนี่บูมหรือเปล่านะเนี่ย ชักจะไม่ค่อยแน่ใจละ” ผมพูดแซวบูมเล่นขำๆ

    “เฮ้อออ อุตส่าห์วางแผนซะดิบดี ดูดิ๊....มานี่เลยมา ในเมื่อรู้ตัวแล้ว ก็ไม่ต้องแอบกันแล้ว เอาแบบจริง ๆ เห็น ๆ กันไปเลย แบบนี้น่ะแหละดี....”บูมรีบกระโจนขึ้นนั่งบนตัวผม

    “เฮ้ย....จะทำอะไรอ่ะบูม....หนักนะ....ดูดิ๊เดี๋ยวนี้บาสก็ไม่ค่อยไปเล่น พุงงี้ยื่นเลย ตัวก็หนัก”ผมพูดทีเล่นทีจริง เพราะตอนนี้หุ่นของบูมไม่ค่อยจะฟิตเหมือนสมัยก่อนตอนไปเชียงรายเลย

    “คร๊าบบบ ทราบแล้วครับ แต่อย่างอื่นเราฟิตนะ”ชายหนุ่มโน้มตัวลงมากระซิบที่หูผมอย่างแผ่วเบา

    “........................”ผมตอนนี้หน้าแดงอย่างเดียวเลยอ่ะ

    “แล้ววันหลังจะไปฟิตเนสกับโยบ่อย ๆ นะ แต่ตอนนี้มันฟิตเต็มที่แล้วอ่ะ นะ.....” บูมหยุดพูดอยู่แค่นั้น แล้วก็...

    .................C…………E………….N…………S…………O………….R…………….


    เช้านี้......เอ แต่ก็สายแล้วเหมือนกันนะ ...... เราสองคนลงมาจากห้องนอนและกำลังจะออกไปดูหนังข้างนอกบ้าน แต่ป้าเล็ก ก็เดินตรงเข้ามาบอกว่า ม๊าของบูม นัดทานข้าวเย็นที่ร้าน xxx ให้บูมชวนผมไปทานด้วย ซึ่งจริง ๆ แล้วปกติ ทุกวันอาทิตย์ตอนเย็นจะเป็นช่วงเวลาที่ม๊าและป๊าของบูมจะนัดบูมไปทานข้าวเสมอ ๆ เพราะโดยปกติแล้วครอบครัวนี้แทบจะไม่ได้ทานข้าวด้วยกันเลย.....

    “เดี๋ยวเราต้องโทรไปบอกแม่กับพ่อเราเรื่องนัดทานข้าวกับม๊าบูมก่อนนะ ไม่รู้แม่เราจะว่าหรือเปล่า เพราะเมื่อคืนเราก็หนีมานอนที่นี่”ผมรู้สึกกังวลใจเพราะปกติวันอาทิตย์ตอนเย็นผมจะต้องให้เวลากับที่บ้านเป็นประจำ

    “อืมมม....ก็ชวนแม่กับพ่อของโยไปนั่งทานด้วยกันสิ ดีออกครอบครัวเราจะได้รู้จักกันไว้ไง เดี๋ยวเราจะโทรไปบอกม๊าของเราเอง” บูมเสนอไอเดียซึ่งจริง ๆ แล้วผมก็ไม่ค่อยจะเห็นด้วยสักเท่าไหร่เพราะถ้าเกิดเข้ากันไม่ได้ขึ้นมาจะทำยังไงกันดีละเนี่ย

    “จะดีหรอ.........”ผมลังเล

    “ดีสิ ตกลงตามนี้แหละ โยก็โทรไปชวนแม่กับพ่อมานะ เราจะโทรไปบอก ม๊ากับป๊าเราเอง” บูมรีบสรุป (คิดอะไรง่าย ๆ จริง ๆ เลยนะ)

    หลังจากนั้นผมกับบูมก็แยกกันโทรไปหาครอบครัวของตัวเอง ซึ่งแม่กับพ่อผมก็ยินดีที่จะมาทานข้าวด้วยอยู่แล้ว ยิ่งรู้ว่าเป็นครอบครัวของบูมด้วยแล้ว แม่ผมยิ่งรู้สึกดีเข้าไปกันใหญ่เพราะแม่ผมเค้าประทับใจบูมตั้งแต่เค้ามาช่วยชีวิตผมไว้แล้วล่ะ....ส่วนม๊ากับป๊าของบูมก็ไม่ว่าอะไรเช่นกัน.....

    การนัดทานข้าวในครั้งนี้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวผมกับครอบครัวของบูมกระชับขึ้นมาในอีกก้าวนึง เพราะดูแล้วแม่ของผมจะเข้ากันได้ดีกับม๊าของบูมซะด้วย (แม่ของผมยังไม่รู้เรื่องระหว่างผมกับบูมนะครับ คิดว่าแค่เป็นเพื่อนธรรมดา เพราะแม่ผมเป็นคนค่อนข้างหัวสมัยเก่านิดหน่อย) ส่วนพ่อของผมกับป๊าของบูมก็คุยกันแต่เรื่องกีฬาสุดโปรดของพวกผู้ใหญ่นั่นแหละ แถมยังนัดกันไปออกรอบกันอีกต่างหาก ซึ่งผมกับบูมต่างก็มองหน้ากันเหมือนจะรับรู้เรื่องความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นของครอบครัวเรา จนกระทั่งมื้อแห่งความสุขปนความอึดอัด(ของผม)จบลง ผมกับบูมก็แยกย้ายกันกลับบ้าน........

    “แม่ว่าครอบครัวของบูมก็น่ารักดีนะ มิน่าบูมถึงได้น่ารักแบบนี้ ทำไมเราไม่เป็นอย่างเค้าบ้างล่ะลูก”แม่ผมหันกลับมาว่าผมระหว่างนั่งรถกลับบ้าน

    “คุยกับเค้าได้แค่แป๊ปเดียวเอง แม่ก็ว่าเค้าดีกว่าลูกตัวเองละ...แม่ไม่รู้หรอก บูมอ่ะร้ายจะตาย”ผมพูดด้วยน้ำเสียงงอนนิด ๆ

    “พ่อก็ว่าบูมนิสัยดีนะ เราน่ะอย่าเอาแต่ใจมากนักเลย แล้วนี่เรียนก็ใกล้จะจบแล้ว ตกลงเราจะไปทำงานที่รีสอร์ทของป้าอ้อหรือเปล่า หรือว่าอยากทำงานที่บ้านของเรา” พ่อผมเอ่ยถามขึ้นมา

    “ไม่เอาหรอกครับ ผมไม่ค่อยชอบทำรีสอร์ท อีกอย่างปล่อยให้พี่วิทย์ทำไปก็ดีแล้ว”ผมตอบปฏิเสธ

    “เออ พูดถึงตาวิทย์ นี่วันที่แม่ขึ้นไปหาป้าเราที่เชียงให่น่ะ แม่เจอตาวิทย์ด้วยนะ แต่ดูทำไมตาวิทย์โทรมลงไปเยอะเลยนะ ไม่ค่อยสดใสเหมือนเมื่อก่อนเลย พอเจอหน้าแม่ปุ๊ปก็ถามถึงโยเลยนะลูก แม่ว่าโยโทรไปคุยกับพี่เค้าบ้างก็ดีนะ เค้าอุตส่าห์เป็นห่วงเรา คอยดูแลเราด้วยไม่ใช่หรอ” แม่ผมเตือน
    “ครับแม่ แล้วผมจะโทรไปครับ”ผมรับคำ ในใจก็รู้สึกเป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่วิทย์กันนะ เพราะผมได้ข่าวมาจากพี่น้อตว่าพี่วิทย์มีคนมาจีบแล้วนี่นา

    “เดี๋ยว ปลายเดือนนี้พ่อจะไปญี่ปุ่นกับแม่ โยจะเอาอะไรหรือเปล่า” พ่อผมถามขึ้นมา

    “ไปญี่ปุ่นกันสองคนอีกละ ทิ้งผมให้อยู่คนเดียวทุกทีเลย......ล้อเล่นครับ ไม่เอาอะไรหรอกครับ ไม่รู้จะเอาอะไรดี” ผมตอบ

    “ลูกก็ชวนเพื่อนมาอยู่เป็นเพื่อนสิ โบหรือ กายก็ได้ อืมมม....บูมก็ได้นะ จะได้มีเพื่อนไงจ๊ะ” แม่ผมเสนอ

    “ครับ ๆ ๆ แล้วผมจะลองชวนดู....เออ แม่ครับ โทรศัพท์ที่บ้านยังมีพวกก่อกวนอีกเหรอเปล่าอ่ะครับ”

    “ไม่ค่อยมีแล้วนะจ๊ะ แม่ว่าคงจะเป็นพวกกวนเมืองมากกว่า นี่ก็ไม่ค่อยจะโทรมาก่อกวนแล้ว ดีนะที่ไม่ตัดสินใจเปลี่ยนเบอร์ทิ้งไป” แม่ยิ้มอย่างโล่งอก

    “อ๋อ...ครับ”

    หลังจากที่พวกเรากลับถึงบ้านแล้ว ผมก็ขอตัวแยกขึ้นไปบนห้องเพื่ออาบน้ำ ทันทีที่ผมถึงห้องน้ำผมก็เปิดมือถือที่ปิดอยู่ไว้ แต่ยังไม่ทันที่จะผละจากเจ้ามือถือนี่เลย ไอ้โรคจิตก็โทรเข้ามากวนอีกละ (แสนรู้จริงนะ)

    “ฮัลโหล ไม่ว่าง คนกำลังจะอาบน้ำ แค่นี้นะ” ผมพูดพลางจะกดตัดสายทิ้ง

    “กูขอเตือนให้มึงเลิกยุ่งกับบูมได้แล้ว ไม่อย่างงั้นมึงจะไม่มีความสุขไปทั้งชาติ……คอยดู………”ไอ้โรคจิตมันพูดขึ้นมา แต่ทำไมเสียงมันแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้ครับ เพราะผมไม่เคยได้ยินเสียงของคน ๆ นี้เลยอ่ะ ท่าทางต้องเป็นเครื่องแปลงเสียงแน่ ๆ เลย เพราะว่าเสียงมันก้องแปลก ๆ อ่ะ ผมคิดในใจ แล้วส่ายหัวเดินเข้าห้องน้ำไป

    หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จ กำลังคิดจะโทรหาพี่วิทย์สักหน่อย เพราะผมได้ยินเรื่องที่แม่บอกมาแล้ว อดรู้สึกใจหายไม่ได้ แต่ยังไม่ทันจะได้โทรไปเลย ขาประจำก็โทรมาซะก่อนแล้ว


    “ว่าไงครับ คิดถึงหรอ ห่างกันได้แป๊ปเดียวเอง”ผมพูดหลังจากรับสาย

    “นี่ม๊าเองนะ พอดีมือถือม๊าแบตหมดเลยยืมของตาบูมโทรมา พอดีม๊าลืมว่าจะถามอะไรแม่เราอยู่พอดีเลย เดี๋ยวม๊าขอสายแม่เราหน่อยนะ”ม๊าพูดน้ำเสียงเหมือนอมยิ้ม แต่ผมสิ หน้าแตกเลยอ่ะ

    “ครับม๊า เดี๋ยวแป๊ปนึงนะครับ” ผมพูดพร้อมกับเดินลงไปข้างล่างเพื่อเอาโทรศัพท์มือถือให้แม่ผมที่ตอนนี้กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ ส่วนผมก็เดินเลี่ยงออกมาใช้โทรศัพท์บ้านโทรไปหาพี่วิทย์แทน

    “สวัสดีครับพี่วิทย์ ผมโยเองนะครับ”ผมพูดเมื่ออีกฝ่ายรับสาย

    “โยไหนคะ อ้อ......โย....เอ่อ ....วิทย์ไปซื้อของเดี๋ยวมา แล้วจะให้เค้าโทรกลับนะคะ”เสียงหญิงสาวคนนึงดังขึ้นซึ่งเป็นเสียงที่ผมไม่คุ้นเคย

    “ครับ ขอบคุณครับ”ผมพูดและวางสายลงไป

    หลังจากที่ผมวางสายลงไป ผมก็เดินไปดูว่าแม่ของผมวางสายลงไปแล้วหรือยัง แต่ผลที่ได้ก็คือ ยังครับ และยังมีทีท่าว่าน่าจะยังอีกนานเหมือนกัน ผมแทบจะไม่น่าเชื่อเลยว่า แม่ผมกับม๊าของบูมจะเข้ากันได้ดีมาก ๆ ขนาดนี้ แถมยังคุยกันถูกคอชนิดที่เรียกว่า ถ้าไม่รู้มาก่อนก็คงจะนึกว่าเค้าสองคนสนิทกันมานานมาก ๆแล้ว เพราะเห็นคุยกันได้คุยกันดี ผมเลยต้องจำทนเดินเซ็ง ๆ ขึ้นห้องไป

    ผมเดินมาเปิดคอมและเช็คเมล์ เพราะช่วงนี้ผมแทบจะไม่ค่อยได้เล่นเนตเลยอ่ะ และทันทีที่ผมเข้าเนต icq (ช่วงนั้น MSN ยังไม่มีนะครับ) ก็มีเสียงเรียกเข้ามาทันที

    BooM: ม๊าเรายังไม่ยอมวางโทรศัพท์เลยอ่ะ
    Yo: รู้แล้วล่ะ
    BooM: คิดถึงจัง
    Yo: เมื่อกี้เพิ่งแยกกันเนี่ยนะ
    BooM: ตั้งหลายชั่วโมงแล้วนะ แล้วนี่มาเล่นเนตหาคนคุยหรือเปล่าเนี่ย
    Yo: อืมใช่แล้ว....555
    BooM: ใคร บอกมานะว่าแอบคุยกับใคร
    Yo: จะใครซะอีกล่ะ………
    BooM: ................offline

    หลังจากนั้นยังไม่ถึงห้านาทีเลย แม่ผมก็เอามือถือขึ้นมาคืน แล้วบอกว่า บูมมีธุระสำคัญจะคุยด้วย ส่วนแม่ผมน่ะเหรอ ไปใช้โทรศัพท์บ้านแทน (เห็นมะ ยังไม่ยอมเลิกคุยกันเลย)

    “ฮัล..............” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบเลยเสียงชายหนุ่มก็ดังขึ้นมาทันที

    “เมื่อกี้บอกว่าแอบคุยอยู่กับใครนะ บอกมาเลย” บูมรีบถามอย่างร้อนรน

    “ก็จะใครซะอีกล่ะ บูมไม่ใช่หรอที่เรียกเราเข้ามา แล้วจะให้เราคุยกับใครที่ไหนอีกล่ะ แล้วที่โทรมาเพราะเรื่องแค่นี้อ่ะนะ”ผมถามอย่าง งง ๆ

    “555 ล้อเล่นน่า แค่ถามเล่น ๆ เอง เราก็รู้อยู่แล้ว”บูมพูดแก้เก้อ

    “รู้จริงหรอ เราไม่ค่อยจะแน่ใจเท่าไหร่เลย......แล้วที่โทรมาเพราะแค่จะถามเรื่องนี้อ่ะนะ....”ผมพูดอย่างรู้ทัน

    “โห......แล้วไม่มีเรื่องอะไรเราโทรมาไม่ได้หรอ ก็โยอ่ะไม่ค่อยโทรหาเราเลยนะ”บูมพูดด้วยน้ำเสียงงอนนิด ๆ

    “โทร เราก็โทรไปหาบ่อยจะตาย แต่ส่วนใหญ่โทรไปไม่ทันบูมสักที” ผมแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ อิอิ

    “หึ แล้วมาแกล้งบอกเราว่า ความรักเราไม่เคยส่งไปถึงบูมเลยนะ ที่ไหนได้ พอได้เราแล้วก็ทิ้งๆ ขว้างๆ”บูมพูดเสียงเล็กเสียงน้อย จนผมอดขำไม่ได้

    “555 อ้าวก็ได้แล้วนิ....อ่ะ.มาเราโอ๋ ก็ได้ ว่าแต่ทำไมบูมขี้น้อยใจแบบนี้นะ” ผมพูดไปหัวเราะไปเพราะชอบที่บูมทำตัวแบบเด็ก ๆ

    “จริง ๆ นะ เราซีเรียสนะเนี่ย”บูมปรับเสียงให้เข้มขึ้นนิดนึง

    “อ่ะก็ได้ ต่อไปนี้เราจะโทรไปหาบูมบ่อย ๆเลยดีไหม”

    “ให้มันจริงเหอะ....เออ แล้วไอ้โรคจิตยังโทรมาอีกหรือเปล่า เป็นห่วงโยจังเลยอ่ะ อยากไปอยู่ใกล้ ๆ โยจะได้ปลอดภัย” บูมพูดซึ้งจนผมรู้สึกปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูก

    “เมื่อกี้มันก็โทรมา แถมยังขู่เราอีกด้วยว่าให้เลิกยุ่งกับบูม แต่เราว่าเค้าน่าจะใช้เครื่องแปลงเสียงนะ เพราะเสียงมันก้อง ๆ แปลก ๆ อ่ะ” ผมพูดในสิ่งที่ผมคาดเดา

    “อืมมม....ยังไงโยก็ระวังตัวหน่อยแล้วกันนะ มีอะไรก็โทรเรียกเราได้เลย ถ้าจะออกไปไหนเดี๋ยวเราไปรับ ไม่อยากให้โยไปไหนคนเดียว เดี๋ยวจะอันตราย นี่เป็นคำสั่งนะ ซีเรียสมากด้วย” บูมทำเสียงเข้ม

    “ได้ครับ แล้วทำไมบูมไม่มาอยู่ซะที่นี่เลยล่ะ เราจะได้ไม่ต้องโทรไป แล้วจะได้ปลอดภัยด้วย”ผมแกล้งแหย่เล่น ๆ

    “เราเอาจริงนะ เดี๋ยวไปขออนุญาต ม๊าก่อน” บูมพูดจริงจัง

    “เฮ้ย.....ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก เราว่าไม่น่าจะมีอะไรหรอกนะ”ผมพยายามพูดปลอบทั้งตัวเองและก็บูมด้วย

    “แต่เราเป็นห่วงจริง ๆ นะ อย่าประมาทแล้วกัน เราจะไปอาบน้ำแล้ว เดี๋ยวโทรมาใหม่นะ”

    “ครับ จะคอยนะ........”

    “ว่าแต่ว่า ไม่เห็นมีใครอาสามาช่วยถูหลังเราเลยอ่ะ.......อยากมีคนมาอาบน้ำให้จัง”บูมพูดกรุ้มกริ่ม

    “โห.....ยังจะคิดแบบนี้อีก ไปอาบน้ำเถอะไป”

    “โหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห อะไรวะคนเรา ทำไมไม่เห็นใจกันบ้างเลย ทีเรายังเป็นห่วงเป็นใยเค้าขนาดนี้ แต่ทีเราเค้าไม่เห็นจะเป็นห่วงเลย กะแค่มาช่วยถูหลังเราหน่อยก็ไม่ได้ อาภัพจริง ๆ รักคนที่เค้าไม่รักเรา” บูมบ่น

    “555 เอาไว้วันหลังแล้วกันนะ จะให้หายตัวไปหรือไงตอนนี้ เดี๋ยวจะไปช่วยถูให้ เอาให้ถลอกเลย 555”

    “จริง ๆ นะ ว่าแต่อย่าถูแรงมากนะ เดี๋ยวถลอกแล้วใช้ไม่ได้ขึ้นมาอดไม่รู้ด้วยนะ” บูมพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงอาการลามกนิดหน่อย

    “555 รีบไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวก็ไม่ต้องอาบกันพอดี” ผมพูดพร้อมกับแอบขำบูมนิด ๆ

    “ครับได้ครับ บายนะครับ รักโยนะ” บูมรีบพูดและวางหูไป.....(โหจะวางยังมีหยอดอีก)

    หลังจากที่ผมวางสายจากบูมได้สักพักนึง เสียงมือถือผมก็ดังขึ้น (จริง ๆ แล้วไอ้โรคจิตก็โทรมานะครับแต่ผมไม่ได้รับ) ผมเลยกดรับสายเพราะนี่เป็นเบอร์พี่วิทย์โชว์ขึ้นมา……….

    จบตอนที่ 6/3 แล้วครับ

****************************************************************************************

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

.............เมื่อไหร่ไอ้โรตจิตจะปรากฏตัวเนี่ย..... :pandalaugh: :pandalaugh:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
น่านจิ อยากรู้เหมือนกัน  :pandalaugh: :pandalaugh:

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
รอดูหน้าไอ้โรคจิต ยังไม่โพล่อีก  :pigangry2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 6/4"

    หลังจากที่ผมวางสายจากบูมได้สักพักนึง เสียงมือถือผมก็ดังขึ้น (จริง ๆ แล้วไอ้โรคจิตก็โทรมานะครับแต่ผมไม่ได้รับ) ผมเลยกดรับสายเพราะนี่เป็นเบอร์พี่วิทย์โชว์ขึ้นมา……….

    “สวัสดีครับพี่วิทย์หายไปนานเลยนะครับ” ผมเอ่ยทัก

    “สวัสดีครับน้องโย สบายดีหรือเปล่าครับ เมื่อกี้น้องโยโทรมาหาพี่หรือเปล่าครับ” พี่วิทย์ทักทายด้วยน้ำเสียงแปร่ง ๆ

    “ใช่ครับพี่ พี่วิทย์เป็นอะไรหรือเปล่าครับพี่ ทำไมทำน้ำเสียงแปลก ๆ” ผมถามอย่างจับอาการได้

    “เดี๋ยวพี่เดินไปหามุมดี ๆ ก่อนแล้วค่อยคุยกัน รอแป๊ปนึงนะครับน้องโย” พี่วิทย์พูดและเงียบหายไปสักครู่

    “ครับ………………”

    “ทางสะดวกแล้ว”พี่วิทย์พูดขึ้นมาหลังจากเงียบหายไป

    “ผู้หญิงเมื่อกี้ตอนที่ผมโทรไป นี่แฟนใหม่พี่วิทย์หรอครับ”ผมแกล้งแซวพี่วิทย์เล่น ๆ

    “ใครบอกละครับน้องโย ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่พ่อพี่จะบังคับให้พี่แต่งงานด้วย” พี่วิทย์พูดจนผมตกใจนิด ๆ

    “อะไรนะครับ มันน่าจะหมดสมัยคลุมถุงชนแล้วนะครับพี่วิทย์”ผมพูดอย่างตกใจ

    “ก็ใช่น่ะสิครับน้องโย พี่กินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวันแล้วเนี่ย เพราะแจน(ผู้หญิงคนนั้น)ดันเกิดมาชอบพี่น่ะสิ นี่ตามติดพี่อย่างกับตังเมเลย พี่จะขยับตัวไปไหนก็ลำบาก ขนาดพี่ไปทำงานที่รีสอร์ทยังตามไปประกบเลย”พี่วิทย์ระบายด้วยความอึดอัด

    “แล้วพี่ไม่ได้ชอบเค้าหรอครับ” ผมถาม

    “พี่ว่าน้องโยก็น่าจะรู้นะครับ ว่าพี่ชอบใคร...........”พี่วิทย์พูดเสียงเศร้าและหยุดเว้นคำตอบเอาไว้.....

    “เอ่อ แล้วพี่วิทย์จะทำยังไงต่อไปอ่ะครับ” ผมถามแก้เก้อ

    “พี่ก็ยังไม่รู้เลยอ่ะครับ แต่พี่ว่าพี่จะหนีไปพักผ่อนที่กรุงเทพสักพักนึง ตอนนี้พี่รู้สึกเบื่อมาก ๆ เลยอ่ะ นี่ขนาดพี่พูดแบบนี้เค้ายังจะตามพี่ไปกรุงเทพฯด้วยเลยนะเนี่ย คิดดูดิครับ ท่าทางคราวนี้เห็นทีพี่คงจะต้องเสร็จแน่ ๆ เลยอ่ะครับน้องโย”พี่วิทย์พูดน้ำเสียงเซ็งสุด ๆ

    “พี่วิทย์มีอะไรจะให้ผมช่วยก็บอกนะครับ” ผมพูดด้วยความเห็นใจ

    “ช่วยมาเป็นแฟนพี่แทนได้ป่ะครับ 555…… ล้อเล่นน่า เออ...แล้วบูมเป็นยังไงบ้าง วันนั้นเค้าโทรมาหาพี่เรื่องของเราน่ะ พี่ก็ไม่รู้จะโกหกต่อไปยังไงดี เลยบอกความจริงเค้าไป เพราะอีกอย่างเค้าก็สืบรู้มาหมดทุกเรื่องแล้วด้วย ต้องขอโทษด้วยนะครับน้องโย ” พี่วิทย์พูดด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิดนิด ๆ

    “ไม่เป็นไรครับ บูมตอนนี้ก็โอเคครับ เรากลับมาเหมือนเดิมแล้ว ว่าแต่ว่าพี่วิทย์จะเอาแฟนพี่ลงมากรุงเทพฯด้วยหรอครับ” ผมถามด้วยความสงสัย

    “เค้าไม่ได้เป็นแฟนพี่นะครับน้องโย....คนที่จะเป็นแฟนพี่มีได้แค่คนเดียวเท่านั้น.......” พี่วิทย์พูดด้วยเสียงที่ค่อนข้างเศร้า

    “ผมว่าพี่วิทย์อย่ารอผมเลยนะ ผมว่าพี่วิทย์น่าจะเปิดใจรับคนอื่นบ้าง เพราะถ้าพี่วิทย์รอผม มันไม่รู้ว่ามันจะเป็นไปได้แค่ไหน ฉะนั้นอย่ารอเลยนะครับ” ผมพยายามพูดเพื่อให้พี่วิทย์ตัดใจ

    “อืม....พี่ว่าเราคุยเรื่องนี้กันรู้เรื่องแล้วนะครับน้องโย....อย่าห้ามพี่เลยนะ เอาเป็นว่า ถ้าแจนเค้าลงไปกรุงเทพฯด้วย พี่จะพาไปหาเรานะ”

    “พามาหาผมทำไมครับพี่” ผมถามด้วยความตกใจนิด ๆ

    “ก็พาไปดูคนที่พี่ชอบไง....พี่เคยบอกเค้าเรื่องของโยไปทีนึงแล้ว และเค้าก็อยากเห็นหน้าน้องโยด้วย” เอาละสิพี่วิทย์ทำกันได้

    “โห.....พี่วิทย์นะพี่วิทย์ ไปบอกเค้าทำไม” ผมบ่น

    “อ้าวทำไมล่ะ ก็มันเรื่องจริงนิ” พี่วิทย์พูดติดตลก

    “เฮ้อออออ............” ผมได้แต่ถอนหายใจ

    “เอาเป็นว่าถ้าพี่เคลียร์งานลงตัวแล้ว พี่คงจะลงไปหานะครับ คิดว่าน่าจะเป็นช่วง Low season นะครับ คงจะอีกไม่นานแล้วล่ะ”

    “ครับพี่.........”

    “งั้นพี่ไปทำธุระต่อแล้วนะ นั่นเค้ามาตามหาพี่อีกละ พี่ละเบื่อจริง ๆ เลย.......คิดถึงนะครับน้องโย บายครับ” พี่วิทย์เอ่ยลา แล้ววางสายไป

    “ครับ บายครับ”


    หลังจากที่ผมวางสายลงไป ไม่นานนักข้อความจากพี่วิทย์ ก็ส่งมาหาผม .....

    อย่าห้ามพี่เลยนะ พี่จะรอ รอวันที่เป็นของเราจริง ๆ รักและคอยน้องได้เสมอ/พี่วิทย์....

    ผมอ่านข้อความด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกว่ามันน่าจะดีใจหรือเสียใจดี เพราะการที่มีใครรักเราอย่างจริงจังและจริงใจ จริง ๆ สักคนในสังคมแบบนี้ มันหาค่อนข้างยากมาก แต่ผมกลับได้มันมา แม้ว่าผมจะไม่สามารถเก็บความรักนั้นเอาไว้ได้ก็ตาม แต่ผมก็รู้สึกสุขใจที่อย่างน้อยในชีวิตนึง ผมก็มีคนที่รักผมจริง ๆ


    หลังจากนั้นไม่นาน บูมก็โทรมา คาดว่าน่าจะอาบน้ำเสร็จแล้ว.......เราคุยกันได้สักพักก็วางสายไป เพราะเดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะต้อง ไปตามสืบหา ไล่ล่าตัวไอ้โรคจิตกันต่อ......

    เช้านี้ พวกเรานัดกันที่ห้องสมุด โดยผมกับบูมมาถึงก่อนใคร ๆ เพราะเช้านี้ บูมอ่ะไม่รู้คิดยังไง มาปลุกผมแต่เช้าเพื่อชวนไปกินโจ๊กที่หน้าหมู่บ้านของเค้า แถมยังบอกอีกว่าโจ๊กเจ้านี้อร่อยมาก ๆ (ผมกินไป รสชาติก็ธรรมดา แถมไม่มีที่นั่งอีกต่างหาก สรุปว่าต้องเอาชามไปนั่งกินกันในรถ บรรยากาศก็นะแสนจะโรแมนติกมาก ๆ หึหึ ไปแย่งเด็กประถมกินอีก เฮ้ออออ....) ผมกับบูมเลยมาถึงห้องสมุดก่อนใครเพื่อน......

    “โจ๊ก อร่อยป่ะ.......”บูมถามยิ้ม ๆ ขณะที่เรานั่งรอพวกเพื่อน ๆ ผมที่ห้องสมุด

    “ก็ดีอ่ะ แต่เราว่ามันอาจจะเช้าไปสักหน่อยนะ เราเลยไม่ค่อยจะหิวเท่าไหร่ (จะว่าไม่อร่อยก็ไม่ได้ อุตส่าห์ไปรับ วกไป วนมา ตั้งหลายรอบ)” ผมพูดเพื่อรักษาน้ำใจชายหนุ่ม

    “วันหลังเราจะรับไปกินอีกนะ เราชอบอ่ะ ยิ่งได้นั่งกินกับโยในรถ เรายิ่งชอบ” เฮ้อออ รสนิยมแปลกนะ ชอบกินในรถ.....

    “เราว่าซื้อมากินก็ได้นะ จะได้ไม่ต้องไปแย่งเด็ก ๆ ตอนเช้า ๆ เดี๋ยวพวกน้องเค้าไปโรงเรียนไม่ทัน” ผมพยายามเลี่ยง

    “อืมมมม.....งั้นเดี๋ยวจะหิ้วไปฝากทุกวันเลยนะ ดีป่ะ” บูมเสนอ

    “ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก เราว่าบูมมากินข้าวบ้านเราก็ได้นะตอนเช้าน่ะ ส่วนใหญ่แม่เราจะทำไว้ให้ตลอดแหละ” ผมเอ่ยปากชวนเพราะคิดถึงรสชาติของโจ๊กที่จะต้องกินทุกวัน.....(เหลวซะไม่มี)

    “นั่นไงว่าแล้ว......555.....อนุญาต แล้วนะ เราจะไปกินด้วยทุกวันเลยนะ” เอ๊ะ มันยังไงกันละเนี่ย พูดแปลก ๆ

    “อ๋อออออออ....ที่พาไปกินโจ๊กเจ้านี้เพราะต้องการแบบนี้อ่ะดิ มิน่าเห็นตอนกินถึงอมยิ้มตลอด หลอกกันดีนักใช่ไหม” ผมไม่รอช้า ตรงเข้าไปทำร้าย อาตี๋หนุ่มทันที

    “โอ๊ย ๆ ๆ ๆ ไม่กล้าแล้วครับ โยอ่ะ เบา ๆ หน่อยดิ เดี๋ยวบรรณารักษ์ก็เดินมาหรอก” บูมพูด พลางลูบที่เอวอย่างเร็ว

    “สม บอกให้ไปฟิตเนสก็ไม่ไป ดูดิพุงย้อยลงมาเลย เอาแต่กิน” ผมแอบแซวบูม

    “ครับบบ เดี๋ยวจะไปเล่นครับ ว่าแต่มีใครอยากไปเล่นเป็นเพื่อนหรือเปล่า เล่นคนเดียวที่บ้านมันเหงาอ่ะ” บูมเอ่ยชวนพร้อมเหล่มาทางผม

    “ก็ได้ ๆ งั้นเดียวตอนเย็น ๆ จะไปเล่นเป็นเพื่อน” ผมอดที่จะตอบรับไม่ได้ (ก็ดูทำหน้าสิ)

    “ว่าไงจ๊ะ คู่นี้คุยอะไรกันกระหนุงกระหนิงเชียว” แพทเดินเข้ามาทักทาย

    “เออ....แพท ม๊าเราชวนไปทานข้าว ชวนที่บ้านไปด้วยนะ เห็นว่าจะนัดรวมญาติหรือยังไงเนี่ย” บูมเอ่ยทักหญิงสาวทันทีที่มาถึง

    “เรารู้แล้วล่ะ ว่าแต่บูมจะพาโยไปด้วยใช่ไหมล่ะ เรารู้หรอกน่า”แพทพูดอย่างรู้ทันความคิดของชายหนุ่ม

    “555….รู้ทันอย่างนี้ก็แย่อ่ะดิ” บูมหัวเราะ

    “อะไรนะชวนเราไปงานรวมญาติเนี่ยอ่ะนะ เราไม่ไปดีกว่า เราไม่รู้จักใครเลย” ผมพูดขัดขึ้นมา

    “ทำไมจะไม่รู้จัก ก็นี่ไงแฟนตัวเองอยู่ทั้งคน แล้วนี่ แพทก็รู้จัก ห้ามปฏิเสธนะ ไม่งั้น......”บูมพูดเสียงเข้มพลางทำสีหน้าโหด ๆ

    “จะทำอะไร...............”ผมว่ากลับไป

    “จะให้บอกตรงนี้เลยหรือเปล่า.........”บูมทำท่าลามกจนผมต้องยอม ส่วนแพทเอาแต่ขำท่าเดียว(ไม่มาช่วยกันมั่ง)

    หลังจากนั้นเราสามคนก็คุยกันได้สักพัก ไอ้เจ้าพวกเพื่อนตัวดีของผมก็มาถึง (ผิดเวลาตลอด)

    “โอ้โห แต่ละคน มาตรงเวลาเป๊ะเลยนะ...นัดกันเก้าโมงเช้า นี่แค่สิบโมงเอง แต่ไม่เป็นไรหรอก เราว่านาฬิกาเรามันเดินเร็วไปเอง ขอโทษด้วยเพื่อน ๆ ว่าแต่ของบูมกับแพทนี่กี่โมงแล้วล่ะ” ผมแกล้งแซวพวกเพื่อน ๆ ผมที่กระหืดกระหอบเดินเข้ามา

    “เออ....ได้ทีนะ แล้วอย่าพลาดมั่งแล้วกัน ถ้าแน่จริงอย่าให้บูมไปรับดิ ลองมาเองก็สายเหมือนกันแหละ” ไอ้โบต่อล้อต่อเถียง

    “ใช่ ๆ ๆ ปกตินัดแก เคยตรงเวลาที่ไหน จำได้ไหม นัดกันสี่โมงเช้า จะมาสี่โมงเย็น ดีนะให้ไอ้กายโทรไปตาม”ไอ้ออฟสนับสนุน

    “ใช่ ๆ ๆ แล้วมาทำพูด”ไอ้กายสันทับอีกคน (เละเลยเรา รู้งี้เงียบ ๆ ไปก็ดี)

    “เออ น่าๆ...ก็ตอนนั้นมันฟังผิดนิ..ว่าแต่ ตกลงแผนเราจะว่ายังไง”ผมรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่จะโดนขีปนาวุธติดเรดาห์มาถล่ม

    “รีบเปลี่ยนเรื่องเลยนะ สันหลังน่ะ หวะ ไปถึงไหนแล้ว” ไอ้โบยังคงกัดไม่ปล่อย (หึเปลี่ยนแฟนแล้วได้ที่ข่มเลยนะ )

    “เออ........แล้วตกลงว่าไง”ผมเหล่ตาไปมองไอ้โบนิดนึงเป็นเชิงปราม และถามความเห็นทุกคนต่อไป

    สรุปว่า พวกเราวันนี้จะเริ่มดูพฤติกรรมจากอั๋นก่อน ซึ่งไอ้กายก็คงจะเข้าไปคุยและหาเรื่องชวนอั๋นไปเที่ยว ส่วนผมกับบูมจะรอดูที่มือถือว่าไอ้โรคจิตจะโทรมาหรือเปล่า เพราะถ้ามันโทรมาระหว่างที่กายอยู่ด้วยก็แสดงว่าอั๋นไม่ใช่ไอ้โรคจิต.....

    หลังจากเราได้ข้อสรุปกันแล้ว กายก็แยกตัวออกไปปฏิบัติภารกิจ...

    “แกคิดว่าอั๋นจะใช่แน่เหรอ ปกติไม่เห็นเค้าจะเคยมาสนใจบูม หรือเดินเข้ามาคุยด้วยเลยนะ”ออฟถาม

    “เราก็ว่า ไม่นะ แต่มันก็ไม่เสียหายไม่ใช่เหรอที่จะลองดู” ผมตอบกลับไปซึ่งทุกคนก็พยักหน้ารับ

    หลังจากเลิกเรียนในตอนเย็นแล้ว กายก็ชวนอั๋นไปเล่นสนุกเกอร์ (กีฬาโปรดเค้าล่ะ) ซึ่งพวกผมก็ค่อนข้างมั่นใจแล้วว่า อั๋นคงจะไม่ใช่แน่ เพราะเวลาคนแทงสนุกจะไม่มีเวลามานั่งโทรมาป่วนชาวบ้านเหมือนไอ้โรคจิตหรอก (ระหว่างที่กายกับอั๋นแทงสนุกกันอยู่ ไอ้โรคจิตมันก็โทรเข้ามาตลอด) ทำให้ตัวเลือกตกลงไปหนึ่งแล้ว ยังคงเหลืออีกสอง สรุปว่าวันนี้แผนการจบลงไปด้วยดี หนึ่งขั้น.....


    เย็นวันนั้น เสียงมือถือของบูมดังขึ้น ขณะที่ผมกับบูมกำลังทานข้าวเย็นกันที่บ้านของบูม (วันนี้ต้องมาเล่นฟิตเนสเป็นเพื่อนบูมอ่ะ)

    “บูมได้เรื่องแล้ว วันนี้เราเห็นอาร์ทมี PCT ด้วยนะ”เสียงแพทดังขึ้นด้วยความตื่นเต้น

    “ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ พูดนะแพท”บูมพยายามบอกให้หญิงสาวปรับอารมณ์

    “โยก็อยู่ใช่ไหม รอเราอยู่ที่บ้านนะเดี๋ยวเราไปหา”แพทรีบพูดและวางสายไป......


    จบตอนที่ 6/4 ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะครับ

************************************************************************

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ อาร์ทผู้ต้องสงสัยหมายเลข 1  :angry2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด