ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา + ปรึกษาปัญหาสุขภาพ (กระทู้กลายพันธ์)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา + ปรึกษาปัญหาสุขภาพ (กระทู้กลายพันธ์)  (อ่าน 429222 ครั้ง)

Pietro

  • บุคคลทั่วไป
กระทู้นี้เิกิดจากกระทู้แนะนำตัวของคนเหงาๆคนหนึ่ง ผู้มาพร้อมทฤษฎีความรักที่ไม่เหมือนใคร ต่อมามีคนเข้ามาให้กำลังใจ เข้ามาพูดคุยมากขึ้น จนกลายเป็นกระทู้ที่มีคนเข้ามาอ่านกว่า 1000 ครั้ง ถ้าคุณเป็นคนที่เคยเหงาหรือเป็นคนที่เคยมีความรัก กระทู้นี้ยินดีต้อนรับครับ รีบางส่วนเหมือนเป็นการพูดคุยระหว่างคนสี่คน ซึ่งก็คือเจ้าของกระทู้และเพื่อนๆทั้งสาม แต่ไม่ได้จำกัดนะครับ ที่จริงอยากให้มีคนเข้ามาพูดคุยมากกว่านี้ ไม่รู้ว่าคนอื่นจะกลัวที่จะรีหรือเปล่า รีนะคับ ผมกับเพื่อนๆคอยอยู่

รัก

เด็กเหงา  
  o17
______________________________________________________________________________________________________
ได้ยินเรื่องเซ็งเป็ดมานาน ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ แต่เพราะความที่เป็นคอหนังตัวจริงเลย ได้อ่านเรื่องย่อของหนังเรื่องเซ็งเป็ด เท่านั้นแหละครับ google หามาอ่านทันที วันนั้นอยู่เวรด้วย ก็ดูคนไข้ไป ว่างๆก็อ่านไป เกือบจะไม่ได้นอน หยุดอ่านไม่ได้ ตอนแรกรู้สึกเหมือนชีวิตตัวเองเลยครับ เคยมีผู้ชายมาจีบ มาขอเบอร์ แต่ตรูไม่ได้เป็นเกย์นะเฟ้ย ก็บอกปฏิเสธไปอย่างสุภาพ เค้าโทรมาร้องไห้ฟูมฟายกับเราด้วย แต่ปัจจุบันก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ แม้ว่าจะไม่ค่อยได้เจอ ได้คุยกันเท่าไหร่

อ่านเรื่องเซ็งเป็ดแล้วรู้สึก เศร้า เหงา อาจเป็นเพราะปกติก็เป็นคนเหงาๆ เศร้าๆอยู่แล้ว

คนชอบอ่านแล้วถามว่า เป็ดกับนัทเป็นเกย์หรือปล่าว สำหรับผมอ่านแล้วรู้สึกว่า มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเกย์ไม่เกย์เท่าไรนัก การที่เราจะรักใครสักคน มันไม่จำเป็นหรอกว่าคนๆนั้นจะเป็นใคร ผมตีความเรื่องความรักของอ้อย เหมือนที่ผมเคยตีความ ความรักของมิว ในเรื่องรักแห่งสยาม

มิว รักคน 2 คน คนแรกคืออาม่า (ไม่แน่ใจว่าทำไมมิวต้องมาอยู่กับอาม่า หนังไม่ได้อธิบายตรงนี้ มิวอาจเป็นลูกกำพร้า หรือพ่อแม่เลิกกัน หรือพ่อแม่อยู่ต่างจังหวัดแล้วส่งให้มาเรียนในกรุงเทพฯอยู่กับอาม่า) คนที่ 2 คือโต้ง ตอนโต้งต้องย้ายบ้าน มิวเสียคนที่รักไป 1 คน ตอนอาม่าตาย มิวไม่เหลือใครให้รักอีก มิวเลยปิดใจตัวเอง ไม่ยอมรักใคร เพราะว่าไม่อยากที่จะเสียใจเื่มื่อสูญเสียคนที่รักไปอีก เมื่อโต้งกลับมา มิวจึงเปิดใจตัวเองอีกครั้ง

ทำไมโต้งต้องจูบมิว ผมว่ามันเกี่ยวกับการแสดงความรัก โต้งรักมิว และโต้งยังเด็กแต่ไม่รู้จะแสดงออกยังไง เลยแสดงออกเหมือนที่เคยทำกับแฟน (อันนี้คิดเอาเอง) โดยการจูบ

ดังนั้นตามทฤษฎีของผม มิว และ โต้ง ไม่ได้เป็นเกย์ครับ ก็แค่คนเหงาๆ 2 คน ตอนจบที่โต้งพูดว่า "เราคงคบกันเป็นแฟนไม่ได้
แต่ไม่ได้หมายความว่า เราไม่ได้รักมิวนะ" จึงเป็นบทสรุปที่ดีสำหรับความรักของคนทั้งสอง

สำหรับ เรื่อง เซ็งเป็ด อ้อย (เหมือนมิว) ปิดใจที่จะรักใครมานานแล้ว ตั้งแต่เสียแม่ไป และไม่เคยคิดที่จสนใจใคร ไม่เคยคิดที่จะรักใครอีก แล้วเป็ดก็เข้ามา ด้วยความที่เป็ดเป็นคนที่เอาใจใส่เพื่อน ดูแลเพื่อน ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของเพื่อน เป็ดจึงสามารถแง้มประตู แล้วเข้าไปนั่งอยู่ในห้องหัวใจของอ้อยได้ กว่าอ้อยจะรู้ตัว ก็รักเป็ดเข้าไปแล้ว แล้วอ้อยจะแสดงความรักยังไง เมื่ออ้อยไม่เคยรักใครนอกจากแม่ อ้อยเลยดูแลเป็ด เอาใจใส่ เข้าไปคลอเคลีย (เข้าใจว่าคน ไม่ใช่แมว แต่ว่าประมาณอารมณ์ เด็กอ้อนเม่ อ่ะครับ)

ดัง นั้นตามทฤษฎีของผม เป็ด และ อ้อย ไม่ได้เป็นเกย์ครับ แค่คนเหงาๆ 2 คน แต่เรื่องของเป็ดกับอ้อยยังไม่จบเพียงเท่านี้ ดังนั้นเราจึงยังต้องติดตามกันต่อไป

อ่านทฤษฎีความรักของผมแล้ว รู้สึกอย่างไรกันบ้างครับ ขอ comment ด้วยครับ ผมอาจจะไม่ใช่แฟนคลับตัวเอ้ ยังคงเป็นลูกเป็ดตัวน้อยๆอยู่ ถ้าการตีความด้านบนทำให้ใครขุ่นข้องหมองใจอย่างไร ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงมาเข้าแฟนคลับ ผมไม่ได้หวังว่าจะได้คุยกับคุณเป็ด(นัท) ผมก็อาจเป็นแค่คนเหงาๆคนนึงที่อยากระบายความในใจให้ใครๆได้ยิน และมันคงจะดีมากเลยครับที่ได้ยินเสียงตอบกลับ

เป็ดเหงา
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-11-2009 20:31:36 โดย Pietro »

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เป็ดเหงา
«ตอบ #1 เมื่อ04-11-2009 00:21:06 »

ยินดีต้อนรับครับ

น่าจะเป็นอย่างที่บอก หลากหลายหนทางเลือกเดิน

แต่อย่าลืมว่าสิ่งที่เริ่มต้น มันก็มาจากความรักความผูกพันที่ดีๆ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เป็ดเหงา
«ตอบ #2 เมื่อ04-11-2009 01:08:30 »


ยินดีต้อนรับเข้า "บ้านเรา" คะ

จุบุจุบุ

เจ้สอง  :กอด1:

Pietro

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เป็ดเหงา
«ตอบ #3 เมื่อ04-11-2009 01:46:16 »

ขอบคุณสำหรับ comment ครับ

ผมเพิ่งได้อ่านแค่ กรูไม่ช่ายเกย์...จะจีบทำม้ายยยยยยยยยยยยยยย ตอนนี้กำลังอ่าน ลาก่อนที่รัก...ไดอารี่ อยู่
มีคำๆนึงที่ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าโดนใจมาก คือ คุณนัทเเขียนไว้่ว่า เลือกเป็นสจ๊วต เพราะเป็นงานที่เจอคนมากมายโดยที่ไม่ต้องผูกพันกับใคร เพราะกลัวที่จะผูกพันกับใคร เพราะกลัวว่าเมื่อผูกพันมากๆ คนๆนั้นจะจากไป

ผมเป็นคนๆหนึ่งที่มีโอกาศเดินทางและไปอาศัยอยู่หลายๆที่ มันเหนื่อยครับ กับการที่จะสร้างความผูกพันกันใคร โดยท้ายที่สุดแล้วเราจะเป็นคนจากมา บางครั้ง ทั้งๆที่เราเป็นคนทิ้งเค้ามา แต่เราเองกลับรู้สึกเหมือนตัวเองถูกทอดทิ้ง ตอนที่ผมเรียนม.ปลาย ผมย้ายที่เรียนก่อนที่จะจบม.6 เศร้ามากเลยครับ คิดถึงเพื่อน หลังจากนั้นได้มีโอกาสกลับไปเยี่ยมอีกครั้งหนึ่ง แต่ความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิมแล้ว ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เป็นผมที่เปลี่ยนไป หรือเป็นที่เพื่อน สิ่งเดียวที่มั่นใจ คือ เราจะไม่ได้กลับไปเป็นเหมือนเิดิม ถึงแ้ม้ว่าเราจะเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม คุยเล่นกันเหมือนเดิม แต่ความรู้สึกนั้นมันไม่เหมือนเดิมแล้ว เพื่อนบางคนที่เคยสนิทกันมากก็เลิกคุยกันไป มันรู้สึกเหมือนบางสิ่งบางอย่างมันขาดหายไปในชีวิตครับ

หลายครั้งที่คิดถึงเพื่อนเก่าๆ แล้วรู้สึกว่า เค้าจะยังจำเราได้ไหม เค้าเคยคิดถึงเราเหมือนที่เราคิดถึงเค้าไหม อีเมล์ที่เคยส่งไป ทำไมไม่มีคนตอบกลับมา จากวัน เป็นสัปดาห์ เป็นเดือน เป็นปี จากคนที่เคยสนิทกันมากขนาด คิดแทนกันได้ ยอมรับผิดในเรื่องที่ไม่ได้ทำ เพื่อที่เพื่อนจะได้ไม่มีปัญหา ไม่มีอีกแล้ว ต่อไปเราต่างก็เป็นคนแปลกหน้า ถ้าเค้าเดินสวนเราในถนน เค้าจะยังจำเราได้ไหม

ผมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมชอบจมอยู่กับอดีต กับเรื่องที่เราไม่สามารถที่จะแก้ไขมันได้ หรืออาจเป็นเพราะตอนนี้ไม่ค่อยมีความสุขกับชีวิต เลยพยายามขุดคุ้ยความทรงจำที่ดีในอดีต แล้วเอามันมาเตือนใจว่าอย่างน้อยเราก็เคยมีเวลาที่มีความสุข แต่ยิ่งขุดยิ่งคุ้ย มันก็ยิ่งทำให้เศร้า

ขอโทษด้วยนะครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากำลังเขียนเรื่องอะไร อาจจะไร้สาระไปบ้าง ออกแนวพล่ามเกี่ยวกับตัวเองไปบ้าง รู้แต่ว่า ตั้งแต่อ่าน กรูไม่ช่ายเกย์...จะจีบทำม้ายยยยยยยยยยยยยยย และฟังเพลง When I'm Feeling Blue แล้วมันเข้าสู่โหมด เหงา เศร้า ยังไม่สามารถออกจากโหมดนี้ได้ ถ้าใครมีไอเดียอะไรดีๆ ที่จะช่วยผมได้ ช่ายแนะนำด้วยครับ

ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เป็ดเหงา
«ตอบ #4 เมื่อ04-11-2009 09:21:43 »

ขอบอกไว้ก่อนว่าผมช่วยอะไรคุณไม่ได้***************






เพราะตอนนี้ผมเองก็ไม่ต่างไปจากคุณ



การได้ไปนั่งดูชีวิตตัวเองที่โลดแล่นอยู่บนแผ่นฟิล์มเบื้องหน้านั้น


ใครว่าน่าภูมิใจ............


ตรงกันข้ามกลับเป็นการตอกย้ำความเอี้ยของตัวเอง ความรู้สึกผิดที่พยายามลืม

หลังจากดูจบ ผมก็ไม่เป็นตัวของตัวเองจนบัดนี้



ไม่น่าเลย  อุตส่าห์จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้  อุตส่าห์จะลืมๆชื่อเซ็งเป็ด แต่กลับทำบ่ได้


เฮ้ออออ    ยิ่งหนี เหมือนยิ่งวิ่งเข้าหา.......เซ็งเป็ด o22

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เป็ดเหงา
«ตอบ #5 เมื่อ04-11-2009 14:33:12 »

ก็คิดไปดิว่ามันความทรงจำดีๆความทรงจำหนึ่ง
มันคงไม่ได้มีกฏเกณฑ์ หนทางที่ดีที่สุดสำหรับใครคนหนึ่ง
หนทางนี้ก็เป็นหนทางที่ดีหนทางหนึ่ง จริงไหม

ว่าเราก็ยังมีความสุขดีกับชีวิตนี่น่า
ลองมองไปยังคนที่เขาทุกข์กว่าเรา
แล้วหันกลับมามองตัวเอง มีึความสุขกับสิ่งที่มีสิเป็ด

เหงาๆเพื่อนรอบๆตัวก็ยังอยู่นะ ว่างก็แวะไปทักทายพระอ้อยได้
อย่างไงท่านก็เพื่อนเรา ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปไหน

จริงไหม โยมเพื่อน อิอิ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เป็ดเหงา
«ตอบ #6 เมื่อ04-11-2009 15:50:48 »

อย่างน้อยมันก็ทำไห้เรารู้สึกประทับใจไปกับมัน ซึ่งในช่วงชีวตหนึ่ง

มันจะเจอซักกี่ครั้ง กันน่ะ

อิอิ


อ่่านไห้ครบทุกเล่มน่ะ ครับบ

 :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:

Pietro

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เป็ดเหงา
«ตอบ #7 เมื่อ04-11-2009 21:50:30 »

กลับมาอีกครั้ง คราวนี้จะไม่พูดเรื่องเศร้าๆ เหงาๆอีกต่อไป เราจะมาเข้าทฤษฎีเรื่องความรักกันแบบจริงๆจังๆสักที

ความรักคืออะไร?

ผมถามคำถามตัวเองหลังจากที่เพื่อนผมถูกกิ๊กทิ้ง

ย้อนไปเมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อน หลังจากที่นัดกันไปกินข้าว เพื่อนผมเล่าให้ฟังว่ามันโดนกิ๊กทิ้ง (ก่อนหน้านั้นมันโทรมาบ่นหลายครั้ง)
“ไอ้สาด เมิงจะฟูมฟายอะไรฟะ กิ๊กแค่คนเดียว” ผมด่าเพื่อน
“แต่คนนี้กรูรักเจงนะเมิง กรูไม่เคยจริงจังกับใครเท่าคนนี้เลย” มันบอก
“แล้วแฟนเมิงล่ะ” ผมถาม
“กรูก็รัก แต่กรูไม่ได้คิดว่าเป็นคนที่ใช่ คนนี้ใช่จริงๆ กูหวังว่าจะแต่งงานด้วย (อ้าวแมร่ง คิดจิงจังกับกิ๊ก แต่ไม่คิดจิงจังกับแฟน เชี่ยแล้วมั้ยเมิง) ตั้งแต่เกิดมากรูไม่เคยโดนผู้หญิงทิ้งเลยว่ะ กรูเคยแต่ทิ้งเค้า หรือไม่ก็ทำให้เค้าทนความซกมกของกรูไม่ไหว แล้วเลิกกันไปเอง”
ขอเท้าความนิดนึง เพื่อนผมมันเป็นคนหน้าตาดี มีเงิน เคยถ่ายแบบลงนิตยสารวัยรุ่นฉบับหนึ่ง (สมัยที่มันยังเป็นวัยรุ่นอ่ะนะ) เวลามันมีแฟน ส่วนมากจะเป็นผู้หญิงที่อายุมากกว่า เข้ามาจีบมันก่อน เวลาทะเลาะกันมันไม่เคยง้อแฟน ส่วนมากแฟนมันจะมาง้อ เวลามันเบื่อใครมันจะเริ่มทำตัวซกมก ไม่อาบน้ำบ้าง ให้แฟนเลี้ยงข้าวบ้าน ให้แฟนขับรถให้มันบ้าง จนผู้หญิงเค้าทนไม่ไหวแล้วขอเลิกกับมันเอง แผนสูงมั้ยละมัน ขนาดผมยังทนมันเวลามันซกมกไม่ได้ แล้วผู้หญิงที่ไหนเค้าจะไปทนได้ เลวจริงๆ (เผาเพื่อนแล้วมั้นกรู)

“แล้วเมิงจะฟูมฟายหาเตี่ยอะไร กรูเบื่อ นี่ทนฟังมาหลายวันแล้ว นี่เมิงโทรมายังไม่พออีกเรอะ กรูชวนมากินข้าว อย่าทำให้อารมณ์เสียได้มะ” ผมด่ามัน
“เมิงไม่เข้าใจหรอก เมิงไม่เคยมีแฟน เมิงไม่เคยมีความรัก” ผมโดนมันตอกกลับ

ผมรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าเลยครับ ผมโกรธมันมากแต่ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับมัน ผมปล่อยให้มันฟูมฟายต่อไป แล้วคิดถึงที่มันด่า ใช่ ผมไม่เคยมีแฟน จริงอยู่ที่ผมไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตน  อย่างมากก็มีคนมาสนใจหรือไปไปสนใจใคร จีบเล่นๆ แล้วก็เบื่อๆกันไป
[ไม่ใช่ว่าผมไม่จริงจังกับใคร แต่ผมมีปัญหากับตัวเอง ผมคิดอยู่เสมอว่าตัวเองไม่ดีพอ ไม่ใช่ว่าผมจะหน้าตาไม่ดีอะไร(นั่น ชมตัวเองซะงั้น) ก็แบบ หน้าตาพอไปวัดไปวาได้ (ไม่ใช่แบบไปถึงแล้วขึ้นเมรุเผาได้เลยนะ) ผมเป็นลูกคนกลาง ตั้งแต่แม่มีน้องผม รู้สึกเสมอเหมือนโดนทอดทิ้ง เพราะแม่มักเอาใจใส่น้องมากกว่า ใช่ว่าลูกคนกลางจะมีปัญหาทุกคนนะครับ มันก็แค่อาการน้อยใจเล็กๆ ที่เก็บสะสมมานานจนเรารู้สึกแล้วว่าตัวเราไม่ดีพอ ไม่มีอะไรดี ไม่มีอะไรที่คนอื่นควรจะมาสนใจ ว่าไปนั่น]
นอกเรื่องมามากแล้ว เข้าเรื่องเลยดีกว่า
ความรักคืออะไร
หลายคนมักบอกว่า ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม ขอบคุณมาก ผมว่ามันก็สวยหมดแหละ ไม่ว่าจะเป็น นางสาวไทย พริตตี้งานมอร์เตอร์โชว์ หรือว่า โคโยตี้แถวรัชดา หุหุหุ (ออกแนวหื่นกามเล็กน้อย)

บางคนบอกว่าความรัก คือ ความเข้าใจ ขอบคุณอีกเช่นกัน เมิง ช่วยอธิบายให้กรูเข้าใจมากกว่านี้ไม่ได้เหรอ ก็กรูม่ายเข้าจาย หรือเมิงไม่ได้รักกรู  (ออกแนวกวนทีน เล็กน้อย)

บางคนบอกว่า ความรักคือการเอื้ออาทร ฟังดูดีจังว่ะ แต่หมายความว่าไงเหรอ

สำหรับผม ความรัก ไม่สามารถที่จะหาคำจำกัดความได้ แต่เป็นสิ่งที่สื่อออกมาทางน้ำเสียง ท่าทาง การแสดงออก
ถ้าอยู่ๆมีใครมากบอกว่า กรูรักเมิง สำหรับผมแล้ว มันแทบจะไม่มีความหมายอะไรเลย คำพูดเพียงปากเปล่า ใครๆก็พูดกันได้ ถ้าเป็นภาษาปะกิดคงเรียกว่า empty word หรือ คำที่ไร้ความหมายน่ะครับ
มันเป็นคำที่ใครใช้กันบ่อยมาก จนบางครั้ง ค่าของมันดูเหมือนจะลดน้อยลงไปทุกที เหมือนที่มีใครเคบพูดไว้ “พูดนะง่าย ทำน่ะยาก”

สำหรับผมสิ่งต่อไปนี้คือการสื่อความรัก
มีโจ๊กมาแขวนที่หน้าประตูห้องเวลาเราบอกว่าไม่สบายแล้วบอกว่าออกไปกินข้าวไม่ได้ (สำหรับคุณนัท อาจจะเป็นน้ำเต้าหู้ถุงนั้น)
มีคนโทรมาถามว่า กินข้าวหรือยัง ในเวลาที่ทำงานยุ่ง
เวลานั่งทำงานจนดึกดื่นแล้วมี message จาก MSN messenger ถามมาว่าเป็นยังไงบ้าง ยุ่งเหรอ ทำไมยังไม่นอนอีก
เวลากลับบ้านแล้วอาหารเย็นเป็นอาหารที่ผมชอบกินทั้งหมด โดยไม่ได้โทรมาถามก่อนว่าอยากกินอะไร
เวลาเราเสียใจ ร้องไห้ มีคนมานั่งเคียงข้างคอยรับฟัง ไม่ถามคำถามเราว่าร้องทำไม ไม่พยายามจะบอกว่าเดี๋ยวก็รู้สึกดีขึ้น ที่ผ่านไปแล้วให้ผ่านไป ไม่พยายามจะเข้าใจความรู้สึกเรา
เวลามีคนที่สามารถบอกได้ว่าเราอารมณ์ไม่ดีโดยที่ไม่ต้องถาม
เวลามีคนที่สามารถทำให้เราหัวเราะได้ แม้ว่าเรากำลังเซ็งกับเรื่องต่างๆ
เวลามีคนที่กร่นด่าเราเวลาเราทำตัวงี่เง่า
เวลามีคนที่เตือนสติเราเวลาเราพูดอะไรไม่คิด

ใช่ครับ สำหรับผมแล้ว ความรักมันมีหลายรูปแบบเกินกว่าที่จะสรรหาคำๆนึงมาจำกัดความได้
จำเป็นมั้ยที่ผมไม่เคยมีแฟน แล้วผมจะไม่เคยรักใคร ผมว่าไม่จำเป็นครับ เหมือนที่คุณเป็ดเคยบอก “รักแม่ รักน้อง รักแฟน รักเพื่อน รักหมา รักแมว มันก็รักเหมือนกันแหละ”

รักมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับว่า เราจะสื่อมันออกมายังไง บางคนสื่อออกมาเป็นคำพูด บางคนสื่อออกมาเป็นท่าทาง บางคนพยายามที่จะไม่สื่อมันออกมา พยายามปิดกั้นตัวเอง แต่เชื่อผมเถอะครับ ทุกคนมีความรัก ไม่ว่ามันจะเป็นรักแบบไหน
จะสื่อออกมายังไง มันก็ยังเป็นความรัก

หลังนั่งคิดอยู่นาน ผมหันไปบอกเพื่อนผมว่า “ทำมัยกรูจะไม่เคยรักใคร ก็กรูรักเมิงงาย ไอ้สาด” เพื่อนผมอึ้งไปเลย มันคงคิดว่า ซวยแล้ว เพื่อน...กูรักมึงว่ะ แล้วไงเนี่ย ผมเห็นมันงง ผมเลยบอกมันไปว่า “ไอ้เห้ กรูอุตส่าห์บอกว่ารักเมิง มองหน้าหาป้ะเหรอ ถ้ากรูม่ายรักเมิง  กรูจะมานั่งฟังเมิงพล่ามหาเตี่ยอะไร” พอพูดจบ มันทำหน้าประมาณถึงบางอ้อ (ไอ้สาดกรูน่ะ ไม่คิดจะเล่นเพื่อนหรอกนะ เมิงอ่ะหล่อตายเลย คิดว่ากรูจะหลงคารมเมิงอ่ะเด่ะ ตอนนั้นในใจคิดอย่างงี้) หลังจากนั้นก็กินข้าวกันต่อพร้อมฟังมันพล่ามต่อไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นั่นคงเป็นทฤษฎีความรักในแบบฉบับของผม แล้วคุณล่ะครับคิดว่าความรักคืออะไร

จาก เด็กเหงา (ตอนแรก ใช้ชื่อเป็ดเหงา แล้วรู้สึกว่าเอาชื่อคุณเป็ดไปใช้ ดังนั้นตั้งแต่นี้ไปจะใช้ชื่อ เด็กเหงา แทนครับ จริงๆก็ไม่เด็กแล้ว แต่คิดชื่ออื่นไม่ออก จะเป็น หมาเหงา แมวเหงา วัวเหงา ควายเหงา มันดูไม่น่ารักอ่ะ เอาเด็กเหงานี่เหละ ดีแล้ว)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-11-2009 00:18:37 โดย Pietro »

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เป็ดเหงา
«ตอบ #8 เมื่อ05-11-2009 08:20:46 »

 :m20: :m20: :m20:
ผมเป็นเพื่อน คงอึ้งไปสักหลายวิ

คริคริ

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เป็ดเหงา
«ตอบ #9 เมื่อ05-11-2009 10:43:22 »

 :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ทฤษฎีความรัก จาก เป็ดเหงา
« ตอบ #9 เมื่อ: 05-11-2009 10:43:22 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Pietro

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เป็ดเหงา
«ตอบ #10 เมื่อ06-11-2009 23:41:36 »

นั่งฟัง When I'm Feeling Blue ซ้ำไปซ้ำมา ทั้งใน iPod ทั้งใน Comp. แถมยังมานั่งฟังตอนขับรถ จนเพื่อนๆถามว่าเป็นอะไร ตอบได้อย่างเดียวว่า...เซ็งเป็ด

ตอนนี้เหมือนคนบ้า นั่งฟังเพลงซ้ำๆ พยายามจะจำทุกถ้อยคำของบทเพลง แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ก็จำไม่ได้ หรือจะเหมือนท่อนนึงของเพลงที่ว่า "...เกินกว่ารับไว้/ยังอ่อนแอ เหมือนเก่า ทุกวัน ทุกคืน/คิดถึงเธออยู่มากมายไม่เคยลบเลือน" หรือว่ามันเหงา เศร้า เกินกว่าที่สมองจะจดจำ ทุกๆคำ คอยบาดใจเราซ้ำๆ ต้องคอยบอกตัวเองว่า จะไปเศร้าทำไม เรื่องของตัวเองก็ไม่ใช่ เราไม่เคยเจ็บขนาดนั้น เราไม่เคยยอมให้ตัวเองต้องเจ็บขนาดนั้น

บ้าไปแล้วครับท่าน นั่งม่อยเป็นหมาหงอย จนใครๆก็นึกว่าเราอกหัก แล้วต่างก็ถามว่า เมิง/แก/เธอ/นาย ไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ เราก็ได้แต่หัวเราะแหะๆ บอกว่าปล่อยให้เราบ้าบอไปเถอะ อย่ามาสนใจเลย

ในขณะที่ตัวเราเหงา เศร้า แล้วรู้สึกว่าไม่มีใคร กลับมีใครต่อใครมาสนใจเรา แค่นี้เราก็ได้รู้แล้วว่า เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ ยังมีเพื่อน มีพ่อ มีแม่ มีน้อง มีใครอีกหลายๆต่อหลายคน ที่ยังอยู่เคียงข้างเรา เราเพียงแต่มัวหมกมุ่นอยู่กับเรื่องของตัวเอง โดยที่ไม่สนใจคนรอบข้าง

ต่อไปนี้ผมจะใส่ใจคนข้างกายให้มากขึ้น

ขอขอบคุณเซ็งเป็ด ที่ทำให้ผมเศร้า และย้ำเตือนให้ผมรู้ว่า โลกนี้ยังมีรัก...

เด็กเหงา

Sakana2yunjae

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา
«ตอบ #11 เมื่อ07-11-2009 22:07:09 »

เข้ามาฟังแล้วรู้สึกเลยว่าความรักมีหลายรูปแบบจิงๆๆ

เหงใจและเศร้าด้วยคน ถึงจะช่วยไม่ได้ แต่ยางไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ Tao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-4
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา
«ตอบ #12 เมื่อ08-11-2009 13:14:16 »

ขอเป็นกำลังใจให้คนเหงาทุกคนนะครับ


ถึงพี่เจ้าของกระทู้นะครับ ดีใจนะครับที่พี่ตัดสินใจเปิดกระทู้ทำให้ คนหลายๆ คนที่ยังไม่กล้าที่กำลังมีความเหงาได้เข้ามาแวะฟังและแบ่งปันความคิดเห็น โดยส่วนตัวแล้วแต่ก่อนพอผมเหงาก็จะหาอะไรทำให้ตัวเองไม่มีเวลาว่าง แต่พอถึงจุดหนึ่งก็ถึงทางตันที่ทำให้เหงาหนักกว่าเดิมอีก จนกระทั่งเข้าเล้าเป็ดโดยบังเอิญ

และผมก็ได้อ่านเรื่องของคุณเป็ดและพระอ้อยเช่นเดียวกันครับ พี่เป็ดได้นำพาทุกคนๆ เข้าไปสู่เหตุการณ์ต่างๆ มากมาย ได้ทำให้ผมตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก ได้โอบอุ้มตัวผมไว้จากความเดียวดายเมื่อนึงถึงพี่อ้อย ได้ผลักดันให้ผมกล้าที่จะเป็นในสิ่งที่ตัวผมเป็น ทำให้ผมรู้จักสัมผัสว่าอะไรที่ควรจะเรียกว่าความรักอันบริสุทธิ์


ผ่านมาหลายวันแล้วคงไม่เหงาแล้วนะครับ  เหงาได้ก็ต้องไม่เหงาได้นะครับ







ขอกอดให้แน่นๆ ทีนึงนะครับจะได้ไม่เหงา

นพ









Phot

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา
«ตอบ #13 เมื่อ08-11-2009 13:54:50 »

......เข้ามาอ่าน...แล้ว...ดีใจแทนน้อง ๆ ที่ในปัจจุบันมีที่ให้บอกความรู้สึก...ให้ระบาย...ผิดกับเมื่อก่อน ๆ มาก..เมื่อก่อน.ใครเหงา  เศร้า  อกหัก...ไม่มีเว็บบอร์ดให้เขียนระบายความรู้สึก...อย่างดีก็บอกเล่ากับเพื่อน ๆ ที่มันก็ไม่อยากฟังเท่าไหร่   .... คุยกับหมา...แมว...ปลาทองในอ่าง...แม้กระทั่งต้นไม้และดอกไม้ในแจกัน
.......อารมณ์เหงาเป็นอารมณ์พื้นฐานหนึ่งของคนทุกวัย....อาการรุนแรงมากน้อยแล้วแต่บุคคล....อารมณ์นี้จะคลายได้เมื่อมีอารมณ์อื่น ...หรือได้รับได้เจอกับใครที่ทำให้เราเกิดความพึงพอใจ...หากได้รับหรือเจอใครที่ไม่ก่อให้เกิดความพึงใจ....หรือความพึงใจในคน ๆ นั้นเปลี่ยนไป.....ความเหงาก็จะเข้ามาแทนที่ในใจทันที......บางคนถึงแม้จะมีแฟน..มีกิีกมากมาย..มีเงินทอง...แต่เขาก็ยังเหงาอยู่...........
.......ทฤษฎีความรัก....การเลือกคบใครเป็นคนพิเศษ (ไม่ได้หมายถึงคบเป็นแฟนอย่างเดียว)....มันเหมือนการซื้อหวย...จะใต้ดิน..บนดิน...หรือสลากกาชาติก็เหอะ.....มันมีรางวัลเป็นลำดับลดหลั่นกัน...แต่ที่แน่ ๆ คนที่ซื้อ..มีความหวังกับสิ่งที่ได้ตัดสินใจทำ.....ทุกคนที่ซื้อไม่ทราบว่าตัวเองจะถูกรางวัลหรือไม่...และรางวัลที่ได้มากน้อยแค่ไหน.....แน่นอนย่อมมีคนผิดหวัง...และก็มากด้วย......"  ทุกคนมีสิทธิ์รัก แต่ไม่ใช่ทุกคนจะได้รักไว้ครอบครอง "....(จากเรื่องเซ็งเป็ด)

ออฟไลน์ Tao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-4
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา
«ตอบ #14 เมื่อ08-11-2009 15:48:21 »



ก่อนอื่น ขอจิ้มพี่ phot ก่อน  :z13:  :z13:  โทษฐานคุยกะหมาแมวและกระถางต้นไม้ได้ด้วย   อิอิ



เสียดายที่จำนวนโพสผมยังไม่ได้เกณท์ ไม่งั้นจะ +1 งามๆ เพิ่มคะแนนจิตพิสัย  :กอด1:  :กอด1:



ไว้เดี๋ยวมาคุยกันใหม่นะครับ แต่ก่อนที่จะพบกันใหม่ผมขอกอดทีนะครับ เป็นขวัญถุง



  :กอด1: :L2:




Pietro

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา
«ตอบ #15 เมื่อ08-11-2009 16:23:12 »

ในที่สุดก็ได้หนังสือทั้ง 5 เล่มมาไว้ในครอบครอง กว่าจะได้ครบเนี่ย เหนื่อยไม่ใช่เล่น

เพิ่้งขับรถกลับมาจากตจว. เกือบ 200 โล เลยเลยไปเซ็นทรัล แม่ก็โทรตามยิกเลย ว่าเมื่อไหร่จะกลับ เด๋วจะออกไปกินข้าวนอกบ้านกัน หลังจากนั้น เป็นปฏิบัติการโทรยิก ทุก 5-10 นาทีจะมีเสียงตามสายว่า อยู่ไหนแล้ว จะออกจากเซ็นทรัลหรือยัง สงสัยแม่จะหิว โทรถี่เกินพิกัด ขอโต้ดค้าบแม่ ก้อผมอยากได้หนังสือนี่

ตอนแรกไป SE-ED ได้ "เซ็งเป็ด" ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 มา
ตอนไปถามพนักงานว่ามีมั้ย พนักงานบอกว่า น่าจะยังมี วันก่อนยังเห็นอยู่ แล้วก็ไปหยิบมาให้ 1 เล่ม เยินสุดๆ เหมือนผ่านการอ่านมาหลายครั้ง เลยถามไปว่ามีเล่มใหม่ไหม เค้าเลยพาไปเลือกที่ชั้น ปรากฎว่า มีเหลือแค่สองเล่ม อีกเล่มเยินกว่าอีก กรู่วาแล้วว่าทำไมมานหยิบเล่มเยินมาให้กรู ปกติผมจะพิถีพิถันในการเลือกหนังสือมาก หน้าปกห้ามยับ สันห้ามฉีก
แต่ครั้งนี้ คิดว่าซื้อเลยละกัน เพราะถ้าเสียเวลาเดินไปร้านอื่นแล้วไม่มี กลับมาอาจจะโดนสุนัขคาบไปบริโภคแล้วก็เป็นได้ (เป็นปรากฏการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองมาแล้ว มากกว่า 1 ครั้ง) นอกจาก "เซ็งเป็ด" แล้ว ยังได้ "เมื่อผมเป็นผี" และ "เพราะ..รัก" มาอีก 2 เล่ม หลังจากจ่ายตังค์เสร็จก็มานั่งนับ เอ๊ะ  :serius2: มันยังไม่ครบนี่หว่า หายไปไหนเล่มนึงฟะ (เรื่อง "ลาก่อนที่รัก...diary ถึงเซ็งเป็ด" นั้น ได้มาก่อนหน้านี้แล้ว ประมาณว่าซื้อทันทีหลังอ่าน กรูทู้ "กรูไม่ช่ายเกย์...จะจีบทำม้ายยยยยยยยยยยยยยย" จบ)

เดินกลับเข้าไปถามเค้าก็บอกว่าตอนนี้ "Lost & Found รักแท้อยู่ที่ไหน" หมด เราก็เดินคอตกออกจากร้าน แล้วตะเกียกตะกายขึ้นบันไดเลื่อน (หุหุหุ พูดซะ ดูลำบาก) ไปอีกชั้นหนึ่งเพื่อไปร้าน B2S เดินหาตั้งนานก็หาไม่เจอ เลยไปถามพนักงาน พนักงานกดดูในคอมพ์ แกร็กๆๆๆๆ เราก็สังเกตว่า โห ใช้ inventory หน้าจอเหมือน MS-DOS เลย โบราณโคตร ปรากฏว่ายังมีเหลือคับ ดีใจมั่กๆ แทบจะตีปีก (แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าตรูม่ายช่ายนก) ก็เดินตามพนักงานไปที่ชั้น พนักงานก้มๆเงยๆอยู่พักหนึ่งก่อนจะดึงหนังสือออกมายื่นใ้ห้ พร้อมทั้งบอกว่า "หน้าปกยับไปนิดนะคะ พอดีหนังสือมันค่อยข้างเก่า" (สงสัยพนักงานจะจำได้กับความจู้จี้กับการเลือกหนังสือของเรา B2S สาขานี้ยิ่งมาเดินบ่อยๆอยู่) เราก็ยิ้มให้แล้วตอบกลับไปว่า "ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากนะครับ" พร้อมยิ้มให้หนึ่งที สไตล์พระเอกหนัง (คิดไปเองทั้งนั้น 555)

ในที่สุดก็ได้มาครบทุกเล่มแล้ว จะพยายามอ่านให้จบภายในเร็ววันนี้ครับ

หลังจากพล่ามมาเยอะ เข้าประเด็นเลยดีกว่า

ขอบคุณสำหรบทุก reply นะครับ

โดยเฉพาะน้องนพ gobngo มีการขอกอดเราด้วย เขินมั่กๆ   :o8: อ่ะ กอดตอบทีนึงก็ได้
ตอนนี้ไม่ค่อยเหงาแล้วครับ กลับมาอยู่บ้าน มีคุณแม่คอยเอาใจ ถามตลอดว่าจะกินอะไรไหม ดูทีวีด้วยกันไหม สงสัยที่ผมเหงาๆบ่อยๆเนี่ย น่าจะได้ ยีนส์เหงา (สารพันธุกรรม ม่ายช่ายกางเกง) มาจากแม่แน่ๆเลย ท่าทางแม่จะขี้เหงาน่าดู ชอบให้อยู่ด้วย

พี่ Phot คับ ผมว่า การเลือกคบใครเป็นคนพิเศษ มันเหมือนกับการเลือกหนังสือมากกว่าครับ หนังสือที่น่าซื้อทุกเล่มหน้าปกสวยงาม แต่เราจะยังไม่รู้ว่าหนังสือเล่มนั้น ดีหรือไม่ดี สนุกหรือไม่สนุก จนกว่าเราจะได้อ่านมัน หนังสือบางเล่มอาจจะมีหน้าปกไม่ดึงดูดตา จืดชืด แต่บางครั้ง เนื่อเรื่องข้างในมันสนุกสนาน ลึกซึ้ง กินใจเรามากกว่า หนังสือที่มีหน้าปกสวยงามอีก

ทฤษฎีความรัก ... เพื่อนเหมือนหนังสือ อย่าตัดสินที่หน้าปก ควรอ่านก่อนที่จะเลือกคบด้วย

ปล.ตอนนี้ "เมื่อผมเป็นผี" ไปอยู่กับแม่เรียบร้อยแล้ว แม่คงเห็นว่าผมนั่งอ่านไม่ยอมวาง พออ่านจบปุ๊บ แม่ยึดเลย แม่อ่านไปได้ซักพัก ถามว่า เซ็งเป็ด เนี่ยเขียนหนังสือหลายเล่มเหรอ เขียนดีนะเนี่ย (อาจเป็นเพราะแม่ชอบอ่านหนังสือธรรมะ แล้ว "เมื่อผมเป็นผี" มีเกี่ยวกับเรื่องกรรม ก็เลยเข้าทางแม่) มีเล่มอื่นอีกไหม ตอนนี้เอบคิดว่า ถ้าตรูเอา "เซ็งเป็ด" ให้แม่อ่าน แล้วตรูจะถูกด่ากรือเปล่า

ออฟไลน์ Tao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-4
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา
«ตอบ #16 เมื่อ08-11-2009 16:53:05 »

ขอโทษนะพี่โทษฐานละลาบละล้วง

พี่ลองถามคุณแม่ได้ปะครับถ้าเค้าอ่านจบแล้ว ว่าถ้าเค้าร้องไห้จะร้องให้กับเหตุการณ์ไหนมากที่สุดครับ

คืออยากรู้จริงๆ นะครับ ว่ามุมมองจากคุณแม่ที่เป็นผู้หญิงอะครับ



ตอนที่ผมชอบที่สุดตอนที่พี่อ้อยร้องไห้ที่ข้างถนนครับ ตอนที่พี่เป็ดวนรถกลับรับวันที่ดูคอนเสิร์ท



ขอบคุณล่วงหน้าครับ ถ้าสำเร็จก็จะขอกอดยู ครับ  แล้วต่อด้วยกอดวีในโพสต่อไปนะครับ กอดวีแปลว่า เรากอดกันนะครับ 5555+++


 :กอด1:



Pietro

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา
«ตอบ #17 เมื่อ08-11-2009 17:37:17 »

ยังไม่ได้เอา "เซ็งเป็ด" ให้คุณแม่อ่านอ่ะครับ ไม่กล้า กลัวโดนด่า รอให้ท่านอ่าน "เมื่อผมเป็นผี" จบก่อน กะว่า ถ้าถามถึงเซ็งเป็ดอีก จะเอาให้อ่าน

ตอนที่พี่อ่านก็ไม่ได้ร้องไห้นะ แบบว่าที่จริงแอบร้องไห้ในใจ
ตอนที่อ่านแล้วรู้สึกเศร้าที่สุด น่าจะเป็นตอนเดียวกัน
แต่ตอนที่อ่านประโยคนี้ "เมิงทิ้งกรู เหมือนที่พ่อทิ้งกรูที่วัด" อ่านแล้วมันเจ็บแปลบไปทั้งหัวใจ

ต้องไปก่อนนะ เด๋วกลับมาคุยต่อ พ่อแม่เร่งแล้ว จะออกไปดูคอนเสิร์ตกัน

Sakana2yunjae

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา
«ตอบ #18 เมื่อ08-11-2009 18:56:05 »

หว่าพี่ pietro ได้หนังสือครบแล้วชิมิคะ

ติ๊กยางหาเรื่องเมือผมเป็นผีไม่เจอเลยอ่ะคะ แถวบ้านหมดทั้งนั้นเลย

สงสัยต้องไปซื้อที่สยามแล่วแน่ๆๆเลยอ่าๆๆ

Phot

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา
«ตอบ #19 เมื่อ09-11-2009 00:33:22 »

น้องเด็กเหงาครับ....
........ถ้าได้อ่านได ฯ เด็กขี้ยาแล้ว...อยากให้อ่านบทสุดท้ายของเล่ม...เพราะรัก......พี่ชอบตอนที่พระท่านไม่ยอมฉันอาหาร..ท่านฉันนิดเดียวเพื่อให้คุณเป็ดจะได้กินเยอะ ๆ......(จากข้อความในหนังสือ)....." ท่านไม่ฉันเลยเหรอ"  ผมถาม "กินไปเถอะ" แล้วท่านก็ลุกเดินจากไป..ในถาดเต็มไปด้วยอาหารที่ชาวบ้านถวาย ไข่พะโล้หนึ่งฟองกับหมูสามชั้นท่านไม่แตะเลย ปลาทอดก็แค่แหว่งไปนิดหน่อย แกงหน่อไม้ที่มีแต่ไก่ ผมตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก พระอ้อย กับ ไอ้อ้อย ถึงอย่างไงก็คือคนคนเดียวกันนั่นแหละ แล้วผมก็ยิ้มออกมา............

........ใครอ่านแล้วจะรู้สึกหรือไม่  ผมไม่ทราบ   แต่สำหรับผมมันตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก..อ่านซ้ำแล้ว ซ้ำอีกหลายรอบ...........ซาบซึ้งจนน้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัว

         ทฤษฎีความรัก.........ความรักที่บริสุทธิ์...หากเกิดกับใครแล้ว..ไม่ว่าคนนั้นจะอยู่ใน เพศใด ภาวะใดก็ตาม...มันแสดงออกมาให้กับคนที่เขารักได้อย่างบริสุทธ์และงดงามเสมอ.......

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา
« ตอบ #19 เมื่อ: 09-11-2009 00:33:22 »





ออฟไลน์ Tao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-4
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา
«ตอบ #20 เมื่อ09-11-2009 12:04:20 »

เมื่อกี๊อ่านอีกรอบ ชอบตอนที่พี่คุยกับเพื่อนอะครับ ......เพื่อนกูรักมึง....  อิอิ นี่ถ้าเค้าได้อ่านเซ้งเป็ดด้วยแล้วพี่ไปเนียน กูรักมึงนี่ คงฮาน่าดู  :laugh:

ข้อนข้างเกรียน ไม่แน่ใจว่าเกรียนนี่ประมาณว่าซ่าๆ กวนๆ รึเปล่าครับ


ดูคอนเสิร์ทแล้วไม่เหงาแล้ว เปลี่ยนจากเด็กเหงาเป็นเด็กเกรียน แล้วกันนะครับ



กอดเด็กเกรียน เอิกๆๆๆๆ   :z2: :z2:

Sakana2yunjae

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา
«ตอบ #21 เมื่อ09-11-2009 21:38:17 »

ชอบเหมือนกันคะ คุณ phot อ่านแล้วประทับใจดี

คิดเหมือนที่พี่เป็ดคิดเลยคะว่า อย่างไรพี่อ้อยหรือพระอ้อยไม่ว่าอยู่สถานะใด

ก็ยังเป็นคนเดิม อ่านแล้วรู้สึกดีจิงๆๆ ความรัก ความเป็นห่วงยางเหมือนเดิมทุกอย่าเลยคะ

Pietro

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา
«ตอบ #22 เมื่อ09-11-2009 23:57:38 »

ที่จริงวันนี้ตั้งใจจะตอบทั้งพี่ Phot น้องนพ และน้องติ๊ก แต่มาตจว. แล้วก็ไม่ได้เอา comp. มา จะพิมพ์ตอบด้วย iPhone มันจะเป็นการทรมานสังขารตัวเองไปนิด เอาเป็นว่าเข้ามาทักทายละกัน จะได้ไม่เหงากันถ้วนหน้า

เด็กเหงา

Pietro

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา
«ตอบ #23 เมื่อ10-11-2009 10:11:14 »

พี่ Phot คับ ผมอ่านบทสุดท้ายของเล่ม...เพราะรักแล้วคับ ชอบตอนนั้นเหมือนกัน ตอนอ่านรู้สึกเหมืิอน มีก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่คอ (สงสัยจะเป็นไข่พะโล้ฟองนั้น) มันตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก ชอบเกือบ ทุกเล่มที่คุณนัทเขียน ตอนนี้อ่าน เพราะ...รัก อยู่  (โดยแอบขี้โกงอ่านบทสุดท้ายก่อน) ตอนนี้เหลือ Lost & Found ความรักอยู่ที่ไหน  ที่ยังไม่ได้อ่าน

เห็นด้วยกับพี่ที่บอกว่า "ทฤษฎีความรัก.........ความรักที่บริสุทธิ์...หากเกิดกับใครแล้ว..ไม่ว่าคน นั้นจะอยู่ใน เพศใด ภาวะใดก็ตาม...มันแสดงออกมาให้กับคนที่เขารักได้อย่างบริสุทธ์และงดงามเสมอ ......."
 
วันนี้มีธุระ จะไปแถวสยาม กะว่าถ้าว่างจะแอบไปดูเซ็งเป็ดคนเดียว ถ้ามีใครว่าง จะไปดูด้วยก็ได้ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะไปกี่
โมง น่าจะเป็นรอบบ่ายสอง
 
เมื่อคืนก่อน พาคุณพ่อคุณแม่ไปดูคอนเสิร์ต "คิดถึง..ครูแจ๋ว – สง่า อารัมภีร” โบราณมั่กๆ แค่เพลงก็เก่าพอแล้ว เนี่ยนักร้องรุ่นเดอะ อายุรวมกันอาจเกินพัน คิดอยู่ว่าถ้าร้องๆอยู่แล้วหัวใจวายขึ้นมา ตรูจะต้องวิ่งขึ้นไปปั้มหัวใจไหม เพลงเพราะดีครับ เพลงเก่าๆ ความรู้สึกเก่า บางเพลงดังตั้งแต่ผมยังไม่เป็นวุ้นเลย แม่แอบกระซิบว่า อาจยังไม่ตายเลยด้วยซ้ำ หมายถึงชีวิตในชาติก่อนอ่ะนะ (คิดเอาเองละกัน เพลงดังปี 2504 ผมเกิดปี 2526)

น้องนพคับ มากอดกันบ่อยๆ แบบนี้เด๋วคนอื่นเข้าใจผิด พี่ก็ขายไม่ออกพอดีสิคับ ได้ reply กวนๆ น่ารักๆ ของน้อง ช่วยให้หายเหงาขึ้นเยอะเลย

แอบไปหาความหมาย ของคำว่า เกรียน มา จาก wikipedia

เกรียน เป็นศัพท์สแลงแทนบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ก่อกวน ไร้เหตุผล หรือคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของสังคมอินเทอร์เน็ต บุคคลกลุ่มนี้จะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลหรือการวิเคราะห์ไตร่ตรอง นอกจากนี้ยังอาจหมายถึงบุคคลที่ชอบแสดงตัวว่ามีความรู้ ทั้งที่ในความเป็นจริงไม่มีความรู้ดังกล่าวเลย หรือมีเพียงผิวเผินเท่านั้น

อ่านแล้ว เหมือนโดนด่ายังงัยไม่รู้ แต่ถ้ามีเวลาลองไปอ่านใน ไร้สาระนุกรม (http://th.uncyclopedia.info/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99)
ได้ความหมายของคำว่าเกรียนในเชิงลึก เช่น ร้อยละ 70 ของเด็กผู้ชายใส่แว่นท่าทางเด็กเรียนส่วนใหญ่มักจะทำตัวเกรียนในเกมออนไลน์
 
ไปดีกว่าเด๋วไปธุระไม่ทัน

เด็กเหงา

Sakana2yunjae

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา
«ตอบ #24 เมื่อ10-11-2009 10:36:59 »

แอบไปดูหนังคนเดียวระวังเหงานะคะพี่ อิอิ

วันนี้มาเปิดเวปหาความหมายเลยหรอคะ พูดกันตั้งนานเพิ่งทราบวันนี้เองอ่าๆๆ

ขอบคุณนะคะพี่ แล้วเราจะเข้าข่ายก็เข้าไม่เนี้ย 55+

ขอให้ดูหนังให้สนุกนะคะ อย่าลืมเอาผ้าเช็ดหน้าไปซับน้ำตาด้วยนะคะ (ล้อเล่นคะพี่)

ออฟไลน์ Tao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-4
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา
«ตอบ #25 เมื่อ10-11-2009 13:45:39 »

พี่ Phot คับ ผมอ่านบทสุดท้ายของเล่ม...เพราะรักแล้วคับ ชอบตอนนั้นเหมือนกัน ตอนอ่านรู้สึกเหมืิอน มีก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่คอ (สงสัยจะเป็นไข่พะโล้ฟองนั้น) มันตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก ชอบเกือบ ทุกเล่มที่คุณนัทเขียน ตอนนี้อ่าน เพราะ...รัก อยู่  (โดยแอบขี้โกงอ่านบทสุดท้ายก่อน) ตอนนี้เหลือ Lost & Found ความรักอยู่ที่ไหน  ที่ยังไม่ได้อ่าน

เห็นด้วยกับพี่ที่บอกว่า "ทฤษฎีความรัก.........ความรักที่บริสุทธิ์...หากเกิดกับใครแล้ว..ไม่ว่าคน นั้นจะอยู่ใน เพศใด ภาวะใดก็ตาม...มันแสดงออกมาให้กับคนที่เขารักได้อย่างบริสุทธ์และงดงามเสมอ ......."
 
วันนี้มีธุระ จะไปแถวสยาม กะว่าถ้าว่างจะแอบไปดูเซ็งเป็ดคนเดียว ถ้ามีใครว่าง จะไปดูด้วยก็ได้ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะไปกี่
โมง น่าจะเป็นรอบบ่ายสอง
 
เมื่อคืนก่อน พาคุณพ่อคุณแม่ไปดูคอนเสิร์ต "คิดถึง..ครูแจ๋ว – สง่า อารัมภีร” โบราณมั่กๆ แค่เพลงก็เก่าพอแล้ว เนี่ยนักร้องรุ่นเดอะ อายุรวมกันอาจเกินพัน คิดอยู่ว่าถ้าร้องๆอยู่แล้วหัวใจวายขึ้นมา ตรูจะต้องวิ่งขึ้นไปปั้มหัวใจไหม เพลงเพราะดีครับ เพลงเก่าๆ ความรู้สึกเก่า บางเพลงดังตั้งแต่ผมยังไม่เป็นวุ้นเลย แม่แอบกระซิบว่า อาจยังไม่ตายเลยด้วยซ้ำ หมายถึงชีวิตในชาติก่อนอ่ะนะ (คิดเอาเองละกัน เพลงดังปี 2504 ผมเกิดปี 2526)

น้องนพคับ มากอดกันบ่อยๆ แบบนี้เด๋วคนอื่นเข้าใจผิด พี่ก็ขายไม่ออกพอดีสิคับ ได้ reply กวนๆ น่ารักๆ ของน้อง ช่วยให้หายเหงาขึ้นเยอะเลย

แอบไปหาความหมาย ของคำว่า เกรียน มา จาก wikipedia

เกรียน เป็นศัพท์สแลงแทนบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ก่อกวน ไร้เหตุผล หรือคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของสังคมอินเทอร์เน็ต บุคคลกลุ่มนี้จะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลหรือการวิเคราะห์ไตร่ตรอง นอกจากนี้ยังอาจหมายถึงบุคคลที่ชอบแสดงตัวว่ามีความรู้ ทั้งที่ในความเป็นจริงไม่มีความรู้ดังกล่าวเลย หรือมีเพียงผิวเผินเท่านั้น

อ่านแล้ว เหมือนโดนด่ายังงัยไม่รู้ แต่ถ้ามีเวลาลองไปอ่านใน ไร้สาระนุกรม (http://th.uncyclopedia.info/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99)
ได้ความหมายของคำว่าเกรียนในเชิงลึก เช่น ร้อยละ 70 ของเด็กผู้ชายใส่แว่นท่าทางเด็กเรียนส่วนใหญ่มักจะทำตัวเกรียนในเกมออนไลน์
 
ไปดีกว่าเด๋วไปธุระไม่ทัน

เด็กเหงา


เห็นด้วยกับพี่ phot อีกคนครับ ฟังแล้วอยากมีความรัก ขอบคุณพี่ phot

ออฟไลน์ Tao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-4
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา
«ตอบ #26 เมื่อ10-11-2009 14:09:05 »

 :fire: :fire:

ยังพิมพ์ไม่เสร็จเลย อิก้อยมือซ้ายมันดันไปโดนปุ่มโพสซะนี่ ขอโทษครับเปลืองรีพลาย


ขอบคุณพี่ phot อีกทีครับ กับแง่คิดดีๆ ครับ


พี่เด็กเหงา อ่านตอนไปดูคอนเสิร์ทแล้วก็น่าชื่นใจนะครับได้ไปสัมผัสบรรยากาศต้นฉบับความเป็นอมตะบนเวทีพร้อมๆ กับคนที่รักพี่ที่สุดในโลก  :L1: :L1: แอบขำตอนที่จะต้องขึ้นไปปั๊มหัวใจบนเวที นี่ขนาดไปพักผ่อนนะเนี่ย ดีใจแทนคนไข้ของคุณพี่ทุกคนๆ ครับ ได้หมอที่เป็นหมอทั้งกายใจแบบนี้ คงหายวันหายคืน   :กอด1: :กอด1:


ใครเข้าใจผิดไม่เป็นไรครับ ขอให้เราเข้าใจถูกก็พอ  :pighaun: :pighaun: .................. ว่าเราเป็นเพื่อนกัน 55555++++  เด๋วรอให้สนิทก่อนแล้วจะบอกว่า ..เพื่อนกูรักมึง..   555 ยังได้อีกๆ  :m20: :m20:



ขอบคุณครับสำหรับนิยาม อ่านแล้วขนลุกซู่ๆๆๆ  เหี้ยแล้ว โคตรตรง กรูเองนี่หว่า เอ๊ะหรือพี่เด็กเหงาด้วย ก็ดีครับจะได้มาเกรียนกันเป็นบางเวลา

เดี๋ยวผมไปบอกเพื่อนๆ ในบอร์ดทั่วไปดีกว่า ว่าใครมันเกรียนบ้าง หุุุๆๆๆๆๆๆ




เกรียนๆ




ออฟไลน์ Tao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-4
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา
«ตอบ #27 เมื่อ10-11-2009 14:12:44 »

แอบไปดูหนังคนเดียวระวังเหงานะคะพี่ อิอิ

วันนี้มาเปิดเวปหาความหมายเลยหรอคะ พูดกันตั้งนานเพิ่งทราบวันนี้เองอ่าๆๆ

ขอบคุณนะคะพี่ แล้วเราจะเข้าข่ายก็เข้าไม่เนี้ย 55+

ขอให้ดูหนังให้สนุกนะคะ อย่าลืมเอาผ้าเช็ดหน้าไปซับน้ำตาด้วยนะคะ (ล้อเล่นคะพี่)


จริงด้วยครับผมก็พูดมาตั้งนาน เกรียนนู่น เกรียนนี่ ก็คลุมเคลืออยู่ แต่ก็ใช้ไปแบบเกรียนๆ อิอิๆๆ

Phot

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา
«ตอบ #28 เมื่อ10-11-2009 16:00:42 »

น้องเด็กเหงา...ถ้าดูหนังแล้ว..ไปร่วมแสดงความเห็นในกระทู้ที่พี่ตั้งด้วยนะครับ.....ขอบคุณล่วงหน้า

..........หนังสือของคุณนัท (คุณเป็ด) ผมซื้ออ่านแล้วทุกเล่มแต่เก็บไว้เล่มเดียวคือ ไดอารี่...ลาก่อนที่รัก..โดยถ่ายบทสุดท้ายจากเล่มเพราะรักกับพริ้นกระทู้ของคุณเป็ด....ที่เล่าเรื่องที่พระโทรมาให้กำลังใจ..เย็บติดไว้ท้ายเล่ม...ส่วนเซ็งเป็ดนั้นเก็บที่พิมพ์ออกจากกระทู้พันทิพย์แล้วเอาไปเข้าเล่ม.(มันได้อารมณ์ดีกว่า)...ส่วนเล่มอื่น ๆ อ่านแล้วก็ส่งมอบต่อไปให้กับคนอื่น ๆ...ซึ่งตามปกติก็จะทำอย่างนี้กับหนังสือเรื่องอื่น ๆ ซื้อมาอ่านแล้วสัก 2-3 รอบ...แล้วส่งต่อให้คนอื่นอ่านต่อ..บางทีก็วางทิ้งไว้ในห้องพักหรือลอบบี้ของโรงแรมที่ไปพัก..(ทำงานที่ต้องเดินทางบ่อย)....ที่เก็บไว้แสดงว่าชอบจริง ๆ และจะเอาออกมาอ่านบ่อย ๆ...โดยเฉพาะไดอารี่เด็กขี้ยา ถือว่าเอาติดตัวไว้เลยเวลาเดินทางไปไหน ๆ เหมือนหนังสือสวดมนต์...เมื่อรู้สึกเหนื่อย ๆ หรือเครียด ๆ จะหยิบจากกระเป๋าออกมาอ่าน....อ่านแล้วมันเหมือนกระตุ้นให้เกิดพลังใจที่จะ..ทำอะไร ๆ ได้ต่อไป

.........ทฤษฎีความรัก....เรื่องราวของคนที่มีความรักที่บริสุทธิ์...มันสร้างความชุ่มชื่นหัวใจให้กับคนอื่น ๆ ที่ได้รับรู้...และสร้างพลังใจ..ให้หันกลับมาเห็นด้านดี ๆ ของชีวิต..ได้อย่างน่าอ้ศจรรย์.....................

Pietro

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทฤษฎีความรัก จาก เด็กเหงา
«ตอบ #29 เมื่อ10-11-2009 19:58:57 »

ไปดูหนังมาแล้ว บอกได้ว่า...เซ็งเป็ดมั่กๆ ใครอยากรู้ว่ารู้สึกอย่างไรกับหนัง ให้ไปอ่านในกระทู้ ไปดูมาแล้วครับเซ็งเป็ด ของพี Phot นะครับ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=12088.20

วันนี้ทำไปธุระ ธุระเสร็จก็เฉียดๆ 14.15 น. กระโดดขึ้นแท็กซี่ (ทั้งๆที่เอารถมา ซะงั้น) แล้วบอกว่าให้ไปสยาม ถ้าให้ดีจอดแถวโรงหนังลิโด้ เค้าก็บอกว่า "ได้เลยน้อง ถ้ารถไม่ติดนะ" ลงจากรถปุ๊บรีบวิ่งขึ้นไปชั้น 2 ตอนซื้อตั๋วถามพนักงานว่า หนังเริ่มฉายหรือยัง ถ้าซื้อตั๋วตอนนี้ทันหรืเปล่า (ตอนนั้น 14.25 น.) เค้าบอกว่าคงฉายแล้ว ก็ยังทู่ซี้ถามต่อไปว่า ฉายไปนานหรือยัง เค้า่ก็ว่าซักพักแล้ว เราก็สองจิตสองใจ ว่าจะดูรอบนี้ดี หรือว่าจะดูรอบหน้า แต่ไม่อยากไปเดินแกร่วก่อนหนังฉาย ในใจก็คิดเอาก็เอาวะ ดูตอนแรกไม่ทัน ค่อยมาถามคนในบอร์ฺดก็ได้ แล้วตอนเดินไปถึงโรง ก็ยังถามคนเก็บตั๋ว (จะเรียกเด็กก็คงไม่ได้ เพราะผมรู้สึกว่าเห้นหน้าลุงแกมาตั้งแต่ตอนผมอยู่ม.ปลาย) ว่าหนังฉายหรือยัง เค้าบอกว่ายัง เราก็รีบ เกือบจะไม่ได้ให้เค้าฉีกตั๋วก่อนเข้าโรง เข้าไปในโรงก็มองไม่เห็น จะรีบวิ่งไปก็กลัวตกบันไดลงไปบาดเจ็บซะก่อนที่จะได้ดูหนัง เฮ้อ กว่าจะได้ดูก็ลำบากแทบแย่

เรื่องระหว่างดูก็ไปอ่านกันในกระทู้ข้างบน อ้อ ลืมเขียนไปว่าอาเจ้ที่นั่งหลังผม คุยกะคนที่มาด้วย (ไม่รู้ว่าลูกหรือผัวหรือเพื่อน) เกือบตลอดเรื่อง ตอนเราขำ ก็ประมาณว่าขำที่เราขำกับมุขสะแด๋วๆ ก็คนมันเส้นตื้นนี่หว่า จะให้ทำไง

ดูจบก็ไปเดินแกร่วที่พารากอน แวะไปร้านหนังสือเด็กไปดูหนังสือเซ็งเป็ด บ้าจี้ เพราะว่าวันก่อน อ่านเจอในบอร์ดว่ามีคนไปเจอว่ามีเซ็งเป็ดเต็มชั้นหนังสือ เดินวนไปวนมา ก็เจอ แต่เอ๊ะ มันพิมพ์ครั้งที่ 1 นี่หว่า ถ้ามีใครอยากได้หนังสือ แวะไปที่ Kinokuniya สาขา Paragon ได้นะครับ มีทั้ง เซ็งเป็ด เพราะ...รัก ลาก่อนที่รัก และเมื่อผมเป็นผี ไปเดินห้างหรูแต่ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือมา พอดีช่วงนี้ประหยัด

ทฤษฎีความรัก...ถ้ารักตัวเอง...ไม่ควรใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น 55555

รู้สึกว่าพักหลัง จะเอาทฤษฏีความรักมาเล่นมั่วซั่ว ที่จริงก็ไม่ใช่อะไรหรอก หลังๆเห็นพี่ Phot เขียนแล้วรู้ว่า ตัวเองเขียนสู้ไม่ได้ เลยเริ่มเขียนเล่น

น้องนพคับ กรูรักเมิง 5555555   :jul3: เกรียนมะ
เพิ่งได้อ่าน "มาอยู่เล้าเค้าตั้งนาน ยังไม่รู้จักลูกเป็ดตัวอื่นเลย" ที่นพเขียน ตกลงกรูกับเมิง ใครแก่กว่ากันฟะ นอกจากเกรียนแล้วยังเนียนด้วยนะเนี่ย

ขอบคุณน้องติ๊กที่เข้ามารีบ่อยๆ

เด็กเหงารักทุกคนนะครับ จุบุจุบุ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2009 20:28:33 โดย Pietro »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด