สวัสดีงามๆค่ะ คนอ่านทุกท่านนนนนน
คำบัญชาจากเบื้องบนสั่งให้มาทำหน้าที่โดยว่อง เพราะอู้ไปนาน

เอาตอนใหม่มาฝาก
เพิ่มดีกรีความกึ่มให้ได้ที่กว่าเดิม เห่อๆ
อ่านให้สนุกนะคร้าบบบบบบบบ(หรือจะเครียด

)

.............................................................................
Imprison 32: ใกล้..แต่เอื้อมไม่ถึง
ผมเดินออกมาจากห้องขังที่ตัวเองอยู่ มือถือขันน้ำสบู่และของที่ใช้ในการทำความสะอาดร่างกาย เดินไปตามทางเดินที่เคยไปประจำ ตามหลังนักโทษรายอื่นที่เดินนำอยู่ก่อนหน้า..พยายาม..เดินไปเหมือนทุกๆวัน ทำทุกอย่างเหมือนที่เคยทำ และพยายามทำให้เป็นปกติ...
...แต่ภาพตรงหน้ากลับพร่ามัวขึ้นทุกที...ทุกที...
สมองมึนงง..หัวใจปวดร้าวเจ็บและอึดอัดจนคิดอะไรไม่ออก..
...ทางที่ต้องเลือกทั้งสองทาง ไม่มีทางไหนดีกับผม”จริงๆ"เลยซักทาง
ไม่ว่าจะทำเพื่อตัวเองอยู่รอด หรือหนีไปตายเอาดาบหน้าก็ไม่ใช่ความคิดที่ผมต้องการทั้งนั้น มันอาจจะเป็นความคิดที่ฉลาด..หากจะเลือกทางแรกหรือทางที่สอง..สำหรับบางคน สำหรับคนฉลาดๆแต่กับผม..แต่กับคนโง่อย่างผม ผมเลือกไม่ได้สักทาง..
...ไม่อยากให้คำตอบ แต่ผมรู้..รู้..ว่าจะต้องตอบออกไป...
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเลือกทางไหน..ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี...
แล้วจะทำยังไง..ผมจะทำยังไง..
....ผมเม้มปากแน่น คิดถึงคนที่บอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้ฟัง..คิดถึงคนที่ทำเหมือนชีวิตผมเป็นของเล่น..มีความสุขมากไหมกับการที่เห็นผมทรมาร มีความสุขใช่ไหม ที่เห็นผมต้องทุรนทุรายเจียนตาย..
ทำไม..ทำไมต้องบีบคั้นกันขนาดนี้...
ปึก !!!!
คงเพราะใจลอยเกินไปเลยเดินไปชนคนอื่น ผมงอตัว รู้สึกเจ็บแปลบตรงใบหน้าโดยเฉาะดั้งจมูก แถมคนตรงหน้าก็ตัวใหญ่เป็นตึกจนผมแทบก้นจ้ำเบ้า..
หมับ..
“ เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ...” ผมเงยหน้ามองคนพูด..เมื่อได้ยินน้ำเสียงคุ้นหู..สายตาเลือนพร่าจับจ้องไปเบื้องหน้ามองเห็นร่างของคนที่ผมคุ้นตาด้วยสายตารางเลือนด้วยหยดน้ำตา..ใบหน้านั้นชะงักเล็กน้อย..ก่อนจะดึงแขนผมไปทางอื่นไม่ให้หลีกทางนักโทษคนอื่นๆที่เดินตามหลัง..
“.............”
ก็เหมือนเดิม ไม่มีคำถาม ไม่มีเสียงปลอบ ไม่มีอะไรสักอย่างสำหรับคนตรงหน้า พี่โตก็คงรู้ดีว่าผมเป็นแบบนี้เพราะเรื่องไหน เขาก็คงรู้ดีว่าเพราะอะไร ดังนั้นไอ้คำปลอบอะไรนั่นก็ไม่จำเป็น..
..เขาก็น่าจะรู้ดี..ว่าที่ผมเป็นแบบนี้..ส่วนหนึ่งมันเพราะใคร..
แต่ถึงจะรู้แบบนั้น..
“.......... “..บางครั้ง..บางที...ผมก็อยากได้ยินเสสียงปลอบโยนของผู้ชายคนนี้บ้าง..
“..แล้วจะเอาไง...” น้ำเสียงถามเรียบเรื่อย..และสายตาที่มองไปทางอื่น..ไม่ยอมสบตา..
..ผมมองท่าทีนั้น...แล้วยิ้มออกมา..เป็นรอยยิ้มที่ฝืดและบิดเบี้ยวเกินจะทน....
“..ผมมีสิทธิ์เลือกด้วยเหรอ?..” ถามไปก็ยิ่งเจ็บใจตัวเอง..
“...ก็ให้มึงเลือกไง...” เลิกคิ้ว...ถามออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยจนน่าโมโห..ใบหน้าเย็นชาไม่ใส่ใจนั่นทำให้ผมนึกโมโหนัก นึกแค้นเคืองคนตรงหน้าที่มาทำกับผมแบบนี้..เพราะเขาไม่ใช่เหรอ? ส่วนหนึ่งก็เพราะเขานี่..ไอ้พี่โตบ้าที่ทำให้ผมต้องเจอเรื่องแบบนี้...
“..ให้เลือกว่าจะไปอยู่ในนรกแบบไหนงั้นเหรอ !!! “ ผมตะโกนลั่น น้ำตาไหลพร่างพรูอย่างอัดอั้น มองใบหน้าของคนตัวสูงใหญ่ที่ชาเฉยอย่างเจ็บปวด “..ทำไม...ทำไมต้องทำแบบนี้..ทำกับผมแบบนี้ทำไม..มีความสุขมากใช่ไหม..สนุกมากใช่ไหมที่เห็นคนอื่นเขาทุกข์ใจ..ชอบใช่ไหมที่เห็นผมต้องตกนรกทั้งเป็น !!! “
“..ตั้งสติหน่อย..” น้ำเสียงนั่นจะตกใจหรือเป็นห่วงผมไม่รู้..ไม่ได้สนใจ แค่คำพูดที่ออกมาจากปากคนๆนี้..คนที่ไม่ได้เจอเหมือนผม ไม่ได้อยู่สถานะเดียวกับผม..ก็ทำให้ผมโมโหหงุดหงิดแทบคลั่ง..
..ก็ใช่สิ ไม่ได้มาเจออย่างผม ไม่ต้องมาฆ่าใคร ไม่ต้องมาทำร้ายใครนี่..
..ตัวเองมีอำนาจ ยืนสั่งชาวบ้านเขาก็พอ นี่คงยืนรอดูผมทุรนทุรายอย่างมีความสุขใช่ไหม?
“..ไม่ต้องมาพูด ไม่ได้เจอแบบเดียวกับผมก็ดีสิ..ได้แต่ยืนสั่งคนอื่นจะเข้าใจความรู้สึกของผมเหรอ?..” น้ำตาท่วมไปหมดแล้ว ไหลพรากๆน่าอายเป็นบ้า แต่ผมไม่คิดจะสนใจอีกแล้ว ยิ่งเห็นหน้า ยิ่งมองเห็นหน้าไอ้พี่โตก็ยิ่งเกลียด..ยิ่งโกรธจนอยากจะหายไปจากโลกนี้ซะ “...นี่คงจะรอดูเต็มที่เลยละสิ..ก็เกลียดผมมานานแล้วนี่..ผมมันโง่..มันงี่เง่า.. เออ!!!..มันโง่มาตั้งแต่ยอมเดินตามชาวบ้านเขาต้อยๆตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาแล้ว โง่ที่เชื่อคนอย่างคุณ..ทั้งๆที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันเลยแท้ๆ !! “
“..นี่!!! “
“..เกลียด..ผมเกลียดพี่..เกลียดคนอย่างคุณที่สุดในโลก..ทำไมต้องเป็นผม..ทำไมต้องทำร้ายผม...ไม่สงสารผมบ้างเหรอ?...ไม่คิดจะสงสารผมซักนิดรึไง?...” ผมร้องไห้โวยวายออกมาอย่างสุดจะกลั้น ในหัวมันร้องบอกซ้ำๆว่าไม่มีทางเลือก ไม่มีทางออก..
..น้ำตาไหลพราก..สะอึกสะอื้นจนตัวโยน..ได้แต่มองหน้าคนตรงหน้าอย่างเจ็บปวด..
..ทำไม...ทำไมไม่สงสารผมบ้าง..
“............” ไม่มีเสียงพูดออกมาจากปากคนๆนั้น..มีแต่นัยน์ตาที่หรี่เล็กลง..และใบหน้านิ่ว..แสดงสีหน้าแหลกประหลาดที่ผมไม่เคยเห็น...เหมือน..เจ็บ..จากอะไรสักอย่าง..
...มองแล้วอยากจะหัวเราะตัวเอง..คิดไปได้ยังไงว่าเจ็บ..คิดไปได้ยังไงว่าไอ้พี่โตคนนั้นจะเจ็บ..แล้วอีกเสี้ยวหนึ่งของความคิด..ก็ยังสงสัย..ว่าเพราะใคร..เพราะอะไรอีก..
..แต่ผมแน่ใจ..ว่าเขาไม่ได้เจ็บ..ไม่ได้ปวดร้าวเพราะผม..เพราะผมที่ร้องไห้ทรมาร..ไม่ใช่แน่ๆ..
...มีแต่สมเพช คนอ่อนแออย่างผมล่ะไม่ว่า...
“....”.ผมหลับตาลงอย่างปวดร้าว..ขอบตาร้อนผ่าวกลั้นเสียงสะอื้นที่หลุดจากลำคออย่างยากลำบาก..เพราะถึงจะโกรธจนขาดสติ..เสียใจจนคลุ้มคลั่งแค่ไหน..ก็ไม่อยากเป็นแบบนั้น..ไม่อยากทำร้าย..
...และทันทีที่นึกถึงช่วงเวลานั้น..ภาพร่างของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อ..ในสภาพเลือดท่วมกายก็ผุดขึ้นมาทันควัน...
..กลิ่นคาวเลือดที่เหมือนอวลอยู่ในจมูก..เหมือนมันยังอยู่ตรงนี้..เลือดที่เคยเปื้อนมือ..มันยังไม่หายไป..และล้างไม่ออก..ล้างไม่หมดซักที..
...เลือดที่ไหลนองจากร่างที่แน่นิ่ง..กับเศษไม้..เศษซากของสิ่งที่รัก..ทำให้ผมเพิ่งรู้..ว่าได้ทำลายความฝันและชีวิตตนเองให้พังลงไปกับตา..และทำมันลงไป...ด้วยมือ..ของตัวเอง..
...นัยน์ตาปิดลงช้าๆขณะที่หยดน้ำร้อนๆไหลอาบแก้ม..ผมหลับตา ไม่อยากมองเห็นมือของตัวเอง..ที่มันเปื้อนเลือด..เปื้อน..จนล้างไม่ออก...
เปื้อนไปด้วยสีแดงฉานที่น่ารังเกียจ..
..เพียงแค่นึกถึงช่วงเวลานั้น..
ไม่เอา...ไม่อยากเป็นอีกแล้ว...
หมับ...
แรงดึงที่แขนแรงๆพอให้เจ็บ..ทำให้ผมสะดุ้งออกมาจากภวังค์ความคิดของตัวเอง แต่หัวใจที่สั่นไหวด้วยความหวาดกลัวไม่ได้หยุดลงเลย..
นัยน์ตาผมมองไปยังคงที่อยู่ตรงหน้า ไม่ว่าใคร...ไม่สนแล้วว่าจะเป็นใคร เพราะตอนนี้ในอกมันทวีความเจ็บปวดจนทนไม่ไหว เจ็บจนแทบบ้าตาย..
“..ฮึก....ฮือ....” ผมร้องไห้ออกมาดังลั่น..ร้องออกมาสุดเสียงกอดคนตรงหน้าไว้แล้วซบหน้าลงกับอกหนาๆนั่น ร้องระบายความอัดอั้นออกมาให้พอใจ..ทั้งที่ผมบอกตัวเองว่าจะไม่เสียใจแม้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น บอกตัวเองว่าจะไม่ร้องไห้ แต่..มันทนไม่ไหว..
...ไม่ไหวแล้ว..
ในหัวมันเอาแต่คิด..เอาแต่ถาม..
มันเฝ้าย้ำถามว่าทำไม..ทำไมต้องเป็นผม..
ทำไมต้องเกิดขึ้นกับผม ทำไมต้องเลือก ทำไมต้องถูกบังคับ ทำไมต้องเจ็บปวด..ทรมาร..
...แต่คำพูดของแม่ที่เคยพร่ำสอนก็ดังขึ้นมาตอบคำถามนั้นทันที..
...มันเป็นเวรกรรม...
ผมหลับตาลงอีกครั้ง ขอบตาร้อนผ่าวยังมีน้ำตาหลั่งไหลออกมาไม่หยุด..
ในหัวเฝ้าถามตัวเองอีกครั้ง..ถามกับคำตอบของแม่ในความคิด.....เวรกรรม...แล้วผมล่ะ....
...แล้วผมที่ต้องพบเจอกับมัน...จะทำยังไง...
.....................................
มองเห็นไอ้โง่คนหนึ่งกำลังร้องไห้..เขาเห็นแบบนั้น...
โตยืนนิ่ง..ปล่อยให้เจ้าเด็กน้อยที่ยังประสาในสายตาเขาโอบกอดเอาไว้แน่น..
สายตามองทอดต่ำลง มองเห็นเด็กคนนี้สั่นไปทั้งตัว พร้อมกับปล่อยเสียงโฮดังลั่นร้องไห้สะอึกสะอื้นกับอกของเขา หลังจากที่เขาไปดึงแขนเจ้าคนนี้ให้ลูกขึ้น เมื่อเห็นท่าทีผิดสังเกต สีหน้าซีดเผือกและร่างที่สั่นระริกไปทั้งตัว..
...และดวงตาว่างเปล่า..ไม่ได้สะท้อนสิ่งใด เหมือนจมอยู่กับบางสิ่งบางอย่าง..มันดูน่าห่วง..เกินกว่าจะปล่อยผ่าน..
..และยังมือที่กำเข้าหากันแน่น..จนเส้นเลือดปูดโปน..มันหมายความว่าอย่างไร?..
นั่นทำให้เขาตัดสินใจคว้าแขนของมันไว้ บีบแน่นๆเหมือนจะเรียกสติ หวังให้มันหันมาโวยวายใส่แบบคนบ้าเมื่อกี้..เพราะคิดว่ามันคงดีกว่า..ดีกว่าจะ...ทำท่าทางที่เขาไม่รู้จัก..และไม่รู้จะทำยังไง..แบบนั้น..
โตถอนหายใจเบาๆ..เมื่อเห็นว่าเจ้าเด็กคนนี้คงยังไม่เลิกงอแงง่ายๆ..เวลาแบบนี้..เขาควรทำอะไรล่ะ..ปลอบ..?
ก้มมองท่าทางสะอึกสะอื้นน่าสงสาร เหมือนกับเด็กน้อยไร้ที่พึ่งและกำลังเจ็บปวดแสนสาหัส..มองแล้วหัวใจมันปวดหนึบแปลกๆ..แต่เขาก็ถอนใจ..แล้วมองผ่านมันไปเสีย ครุ่นคิดถึงสิ่งที่เจ้าคนนี้ต้องทำ และคิดถึงสิ่งที่ตัวเองต้องจัดการไปพร้อมๆกัน..
...โตถอนใจเงียบๆ..และหยุดมือที่จะยกขึ้นลูบหัวลูบหลังร่างที่สั่นไปทั้งตัวไว้แค่นั้น.. มองเจ้าเด็กน้อยที่กำลังเจ็บปวดแสนสาหัส..และก้มมองมือตัวเอง..
...เพราะความจริง ก็คือเขาลงมือทำร้ายเด็กคนนี้ไปด้วยส่วนหนึ่ง..
....แล้วจะมีสิทธิ์ไปปลอบมันไหม?..
ในเมื่อเป็นความจริงส่วนหนึ่งที่ปฎิเสธไม่ได้ และเขาก็ไม่คิดปัดทิ้ง คือเขาเป็นคนที่ทำร้ายเด็กคนนี้..ด้วยมือของตัวเอง..
..ด้วยมือนี้เหมือนกัน ด้วยการกระทำที่ผ่านมา..และบางที..อาจจะมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ..
ในเมื่อเป็นแบบนั้น...ถ้าอยากให้มันเข้มแข็งและเติบโตขึ้น..
...ถ้าอยากให้มันเป็น และทำตามที่หวัง...
...ก็ไม่ควรจะสนใจ..
สมองบอกให้แกะมือมันออกแล้วเดินหนี..แต่ร่างกายมันไม่ยอมทำตาม..โตยกมือซ้ายที่กำลังจะลูบหัวคนตรงหน้าขึ้นพาดลงบนหน้าผากตัวเอง มือขวากำแน่น..แนบอยู่ข้างกาย..
..เขาขมวดคิ้วมุ่น..เม้มปากอย่างครุ่นคิด..
เคยมีคนเจออะไรที่หนักหนากว่านี้ ด้วยน้ำมือของเขามาแล้ว มีคนมาร้องไห้เสียใจต่อหน้ามากมายหลายคน..แต่เขาก็ไม่เคยสนใจ..ไม่คิดจะลังเลที่จะทำตาม”คำสั่ง”ที่ได้รับ..
..ไม่เคยมีครั้งไหน..ที่ต้องมานึกเสียใจลึกๆ..และลังเล..กับ..เหยื่อ..แค่คนเดียวในเกมส์ของเจ้านาย..
ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องสนใจ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องใส่ใจ เพราะพวกมันอ่อนแอ เพราะพวกมันโง่..เลยตกเป็นเหยื่อ..
พวกมันไม่ฉลาด ไม่กล้าได้กล้าเสียพอที่จะยืนหยัดขึ้นมายืนด้วยตนเอง ก็เลยต้องตกอยู่ในฐานะ เหยื่อ..
....แล้วทำไม..?...
“..เกลียด..ผมเกลียดพี่..เกลียดคนอย่างคุณที่สุดในโลก..ทำไมต้องเป็นผม..ทำไมต้องทำร้ายผม...ไม่สงสารผมบ้างเหรอ?...ไม่คิดจะสงสารผมซักนิดรึไง?...”
น้ำเสียงที่เจ็บปวด..และแววตารวดร้าวที่มองมายังชัดเจน..
..สงสาร..?..
คำถามของเจ้าเด็กที่กำลังร้องไห้ซบอกอยู่ตรงหน้ายังติดหู..
....โตก้มมองร่างที่กอดเขาแล้วร้องไห้ลั่นอีกครั้ง ภาพที่เห็นทำให้หัวใจที่แข็งกร้าวก็พลันอ่อนยวบลงอย่างไม่รู้ตัว.. ยิ่งเห็นมันร้องไห้เท่าไหร่ ยิ่งเห็นมันทุกข์ใจแค่ไหน ท่าทีที่แสดงออกมาก็ยิ่งย้ำ..ยิ่งถามให้คิด..
..ไม่คิดจะสงสาร...จริงๆหรือ...
ครั้งนี้เขาถามตัวเองแบบนั้น...
เพราะความสงสารเป็นที่มาของความใจอ่อนและความผิดพลาด..งานแต่ละอย่างที่เขาทำเกี่ยวพันกับชีวิตคน ต้องถือคติ “ถ้าไม่ทำมัน มันก็ทำเรา ถ้าไม่จัดการมัน มันก็จัดการเรา” เพราะฉะนั้น ความใจอ่อนสำหรับเขามันไม่จำเป็น..
แต่พอเห็นร่างของเด็กหนุ่มตรงหน้าที่กอดเขาไว้แน่น และร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความเจ็บปวด..ด้วยความทุกข์ที่เขาเป็นส่วนหนึ่ง ที่สร้างมันขึ้นมา..
..มันก็อดจะ..ถามตัวเองไม่ได้...
...แต่...
โตถอนใจแรงๆ..ด้วยความกลัดกลุ้ม..
ถึงสงสาร ก็ช่วยอะไรไม่ได้..ถึงคิดไป..ก็ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว..
เพราะทางของมันเขาไม่ได้เป็นคนกำหนด และทางของเขาเอง ก็กำหนดไม่ได้..
ทุกอย่างมันอยู่ในกำมือของ”ป๋า” เพียงคนเดียวเท่านั้น..
คิดเท่าไหร่ก็ได้แต่สมเพชตัวเอง แถมยังมีแต่ความลังเล สับสน ไม่เข้าใจ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย โตถอนใจฟึดฟัดเขาไม่ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้ ก้มมองเจ้าคนตรงหน้าที่ยังร้องไห้ไม่หยุด ความหงุดหงิดก็ทำให้เขาตัดสินใจจะแงะมันออกซักที..
..เพราะถ้าไม่ทำแบบนั้น ก็คงไม่เว้นจะต้องใจอ่อนและต้องถูกตำหนิอีก...
ยกมือขึ้น..ตัดสินใจจะแงะมันออก..แต่กลับง้างค้างไว้อยู่แบบนั้น..สมองสั่งให้ทำ แต่ร่างกายกลับไม่ขยับ..
มันชะงักกับเสียงเล็กๆน่ารำคาญในหัว..
...กระทั่งรู้สึกเย็นวูบตรงช่วงลำตัว..เขาก้มลงไปดู..เห็นเจ้าคนนั้นละมืออกจากเอวเขา..ใบหน้าแดงก่ำเปื้อนน้ำหูน้ำตาค่อยๆเงยขึ้นมา..
..เจ้าตัวชะงักไปกับมือที่กำลังง้างขึ้นของเขา..ชักสีหน้าเหยแล้วเดินกึ่งวิ่งหน้าเบี้ยวออกไป..
โตนิ่ง..อ้าปากค้าง..นึกโมโหตัวเองเป็นครั้งแรก ที่ง้างมือไว้แล้วไม่ยอมทำอะไรเลย..
..ลังเล มันไม่ใช่นิสัยของเขา..
และการลังเลแบบนี้..มันทำให้เขาโมโหตัวเองชอบกล..
..ทั้งที่อยู่ใกล้แค่นี้..จะเอมมือไปคว้าไว้ หรือจะผลักไสก็ได้ทั้งนั้น..
...แต่ไม่ทำ..
โตถอนใจแรงๆ..ก้มลงหยิบแปรงสีฟันและผ้าเช็ดตัวของไอ้เด็กโง่ที่ทำให้เขาว้าวุ่นหงุดหงิด ป่านนี้มันคงไปนั่งร้องไห้ขี้มูกโป่ง..และลืมไปแล้วว่าทิ้งอะไรไว้..
โตเดินตามทางที่คาดว่าเจ้าตัวจะไป..ถอนใจให้ใส่ตัวเองเป็นระยะ..
...เพราะไม่ยอมเอื้อมมือไป..ต่อให้ใกล้แค่ไหน..ก็ไม่ถึง..
.......Oh bad Guy!! รักร้ายๆของผู้ชายในคุก.......
ผมเดินกึ่งวิ่งมาจากทางเดินแคบๆ โซเซกลับเข้าไปในห้องขัง ที่ตอนนี้ว่างเปล่าเพราะไม่มีคนอยู่ ยกแขนขึ้นปาดน้ำตาตัวเองที่ยังไหลเป็นสาย..
..สะอื้นออกมาเบาๆอย่างหยุดไม่ได้แล้วผมก็รีบอุดปากไว้..
หลังจากร้องไห้ซบอกพี่โตจนพอใจ ผมนึกว่าจะโดนดีอีกซักรอบ..แต่ก็เปล่า มีเพียงมือที่ง้างขึ้นและสีหน้าหงุดหงิด แต่แค่นั้นก็เกินพอแล้ว พอที่ผมจะรู้ว่าเขาไม่พอใจ..
..ไม่พอใจที่มาร้องไห้แตะต้องตัวเขาอีก..
ผมเม้มปากแน่น ถลาไปอีกมุมของเรือนจำ ที่ใกล้ๆห้องน้ำ แม้จะเหม็น แต่ก็ไม่สนใจ ผมแหวกข้าวของเครื่องใช้ที่กองๆสุมกันอยู่ แล้วมองไปที่ผนังปูน..มองชอล์คสีขาวที่ขีดบอกวันที่
..ผมก้มนับช้าๆด้วยนัยน์ตาแดงก่ำเปื้อนน้ำตาและร่างกายที่สั่นระริกไม่หาย..
..สองเดือน..กับอีกสามวัน...
...ผมก้มหน้าต่ำ..สะอื้นไห้ออกมาอีกรอบ..
เดินโซเซกลับไปที่นอนตัวเอง..ก้มลงคว้าหาผ้าห่มที่แม่เย็บให้ คว้ามากอดแน่น..
...อีกสามอาทิตย์..กว่าที่ผมจะพบแม่..
แต่ตอนนี้ ผมอยากเจอแม่เหลือเกิน..
อยากจะร้องไห้บนตักไม่ ซบอกเหมือนเด็กๆและให้แม่ลูบหัวช้าๆปลุกปลอบเบาๆ..อยากให้แม่บอกว่าไม่เป็นไร อยากให้แม่บอกว่าเข้มแข็ง..อยากได้ยินเสียง..อยากอยู่ใกล้ๆ
ผมน้ำตาร่วง ยามคิดถึงเวลานั้น..
กลิ่นหอมสะอาดของผ้าห่มเหมือนกลิ่นของแม่ มันไม่ได้มีกลิ่นสาบอับๆเหมือนผ้าห่มของคนที่นี่..แต่ถึงมี ผมก็ไม่สนใจ..ในเมื่อมันเป็นของแม่ มันก็คือกลิ่นของแม่ และมีแม่..อยู่ข้างกายผมเสมอ..
..เหมือนมีแม่อยู่ใกล้ๆ..
เหมือนมีแม่คอยโอบกอดและให้กำลังใจอยู่ตลอกเวลา..
และถ้าแม่อยู่ตรงนี้..บางที แม่อาจจะบอกผมได้..ว่าควรทำยังไง..
..แม่คงจะบอกได้ ว่าผมต้องเลือกทางไหน และจะบอกให้ผมเลือกทางที่ดีที่สุดเสมอ...
..เพราะแม่ คือคนเดียวในโลกนี้..ที่หวังดีกับผม และรักผมมากกว่าตัวเอง..
..ผมกอดผ้าห่มผืนโตไว้แนบอก..ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น..ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาเป็นสาย..
..แต่ตอนนี้ไม่มีแม่...
ไม่มีใครอยู่กับผม..ไม่มีใครอยู่ข้างๆผม..ไม่มีใครสามารถช่วยผมได้อีกแล้ว..
.....ผมจะทำยังไง...?..
.......Oh bad Guy!! รักร้ายๆของผู้ชายในคุก.......
ปวดหัวแหะ//ใครแช่งไรท์เตอร์ สารภาพมาซะดีๆ
แฟนคลับเนมอย่าเพิ่งยำอิชั้น และแฟนขับ(?)พี่โตก็อย่าทำร้ายไรท์เตอร์ด้วยเช่นกัน..
..เห็นมั้ยว่าพี่โตก้เริ่มเอะใจบ้างละน่า มันเป็นเรื่องของความผูกพันค่ะ อยู่กิน(?)กันมาตั้งสองเดือน จะไม่มีเยื่อใยต่อกันก็เกินปายยยย แม้การอยู่กินที่ว่า คือการกินหมัดและซ่งติงเป็นอาหารว่างก็เถิด..
..ส่วนเนม...เฮ้อ... คิดไม่ออกว่าจะเลือกทางไหนใช่มั้ย..คิดไม่ออกเหมือนกันเลยเนอะ //ตบบ่านายเอกหาพวก ห้าๆ..(แต่ไอ้คิดไม่ออกนี่มันอะไร??? )
...อัพก่อนจะเริ่มเรียนซัมเมอร์ในวันอาทิตย์ เรียนตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น.. อร้ากกกกก เป็นศพแน่..
ปอลิง ..ชื่อตอนอ้างอิงจากการ์ตูนนารุโตะเมียไอ้เกะ ตอนสี่ร้อยกว่าๆ..กับเรื่องราวที่เหมือนตามสะมีกลับบ้าน(ขอบ่นหน่อย) นี่มัน Shonen i แบบที่อาจารย์แกว่าจริงๆ..
