แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*  (อ่าน 240566 ครั้ง)

jammy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #90 เมื่อ14-03-2007 13:31:11 »

ซึ้งงงง  :impress:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #91 เมื่อ14-03-2007 13:35:32 »

...........เห้นมะว่าต้นน้ำเป็นห่วงขนาดไหน.............. :impress3: :impress3:

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #92 เมื่อ14-03-2007 17:44:41 »

ร่วมซึ้งด้วยคนค่ะ   :impress:


ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #93 เมื่อ14-03-2007 19:00:38 »

ซึ่งจัง ทำไมต้นน้ำดีจังเลย :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #94 เมื่อ14-03-2007 19:31:43 »

หุหุ ซึ้งด้วยคน  :-[

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #95 เมื่อ15-03-2007 10:20:43 »

ต้นน้ำอ่ะน่ารักจังเลยคับ  ขอให้คู่นี้ลงเอยกันเรวๆนะคับ :call:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #96 เมื่อ15-03-2007 11:46:32 »



ใครเอาร่มมากางให้อะ  :give2:

kYos

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #97 เมื่อ15-03-2007 12:37:21 »

 :impress:  ต้นน้ำช่างเป็นคนดีอะไรอย่างนี้  :impress3:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #98 เมื่อ15-03-2007 13:36:25 »

5 : คนที่รักเรา คนที่เรารัก

“ช่างมันเถอะ” วันชนะสะบัดเรื่องเก่าๆออกจากหัว ในเมื่อความจริงเขาก็รู้แล้ว นักขัตก็ต้องซ้อมบาสเพราะว่าอีกไม่กี่วันก็จะแข่งแล้ว

“วิน ไปกินมาม่าต้มยำกันที่นิเทศฯไหม?” แจนถามขึ้น เธอคือเพื่อนอีกคนหนึ่งในเอกพันธุศาสตร์ เสียงเรียกช่วยให้ลืมเรื่องที่ยังคาใจอยู่ไปได้แทบจะทันที “เดี๋ยวก้อยกับอาร์ทก็จะไปด้วย”

วันชนะพยักหน้ารับ ยิ่งใกล้กีฬามหาวิทยาลัยเข้าไปทุกวันก็ยิ่งใกล้สอบกลางภาคมากขึ้นเท่านั้น เพราะถ้าการซ้อมเชียร์สิ้นสุดลงเมื่อไรหนึ่งสัปดาห์จากนั้นก็คือการแข่งขันและหลังจากนั้นอีกหนึ่งสัปดาห์ก็คือการสอบ ช่วงตรงนี้สำคัญมากต้องเตรียมตัวเป็นอย่างดี หากพลาดพลั้งทุ่มเทให้กับกิจกรรมมากเกินไปก็อาจสอบตกได้ยังผลให้ต้องระงับการเรียนแล้วค่อยไปเรียนซ้ำอีกทีในภาคเรียนต่อไปที่เปิดสอน

มาม่าต้มยำร้านที่คณะนิเทศศาสตร์เป็นที่ลือชื่อมากยิ่งพอมาถึงยิ่งตกใจกับแถวที่ยาวเหยียด แต่ด้วยแรงอยากลองชิมสักครั้งของเด็กวิทยาฯกลุ่มนี้จึงอดทนยืนต่อคิว ราวยี่สิบนาทีจึงได้มานั่งพร้อมหน้าพร้อมรับประทาน เพื่อนในเอกเดียวกันมีเพียงยี่สิบสองคนต่างจากภาควิชาอื่นๆซึ่งจะมีเยอะถึงหลักร้อย เพราะว่าพันธุศาสตร์นั้นคะแนนถือว่าสูงลิบลิ่วและจำกัดบุคคลเข้าศึกษาเพราะบุคลากรจำเพาะด้านยังไม่เพียงพอต่อการสอนคนจำนวนมาก

อาร์ท แจน และก้อยกำลังนั่งทานมื้อกลางวันกับวันชนะอยู่ที่ม้านั่งข้างๆทางเดินไปยังด้านหน้าของตึกคณะนิเทศศาสตร์ การสนทนาเป็นไปอย่างออกรส แล้วใครคนหนึ่งก็เดินผ่านมามาใกล้

“อ้าว แอบมากินอยู่ที่นี่เองหรือ?” เจ้าของเสียงเดินมาจับที่ไหล่ของแจน
“หลิน!” แจนเรียกคนที่มายืนอยู่หน้าโต๊ะ น้ำเสียงตกใจเล็กน้อยแล้วก็เป็นกลับเป็นปกติในเวลาอันสั้นปกติ คนที่มาสมทบเป็นสาวสวย รูปร่างสูงโปร่ง ทรวดทรงได้รูป ใบหน้าเกลี้ยงเกลาสดใส เธอไว้ผมยาวเกือบถึงเอว หลินเป็นผู้หญิงสวย เรียกได้ว่าสวยมาก และเธอยังมีหัวสมองอันฉลาดที่สามารถเข้ามาเรียนพันธุศาสตร์ได้

“นั่งด้วยกันสิหลิน” วันชนะเอ่ยปากชวน แต่อีกฝ่ายกลับเหลียวมองหาใครสักคนก่อนจะนั่งลงที่ว่างด้านหน้า
“ขอบใจจ้ะ แต่หลินคงอยู่ได้ไม่นานนะ หลินนัดเพื่อนเอาไว้ที่โรงอาหารกลางน่ะ” หญิงสาวสวยพูดขึ้น รอยยิ้มนั้นถ้าเป็นผู้ชายแท้ๆคงจะติดตรึงใจไปนาน

วันชนะยิ้มตอบแล้วสังเกตปฏิกิริยาของใครคนหนึ่งที่ร่วมโต๊ะด้วย แจนเงียบไป ก้อยยังจ้อตามปกติ อาร์ททำตาเคลิ้มๆจนวันชนะนึกขำไม่ได้ อาร์ทก็คงเป็นผู้ชายปกติที่มักจะเก้อเขินเวลาอยู่ใกล้ผู้หญิงสวยๆ

แต่ที่น่าสนใจคือแจนต่างหาก

ข่าวลือคงเป็นความจริง ที่ว่าแจนกับหลินขัดใจกันเพราะผู้ชาย!

วันชนะได้ยินข่าวนี้มาจากเพื่อนในเอกคนหนึ่งในตอนพลบค่ำของวันหนึ่ง เมื่อการสนทนาเริ่มจะหมด เพื่อนคนนั้นก็เผลอหลุดออกมาว่า แจนกับหลินเป็นเพื่อนสนิทมาจากโรงเรียนเดียวกันมาเรียนต่อด้านเดียวกันอีก แต่แล้ววันดีคืนดีแจนก็เกิดไปชอบผู้ชายคนหนึ่ง แต่ว่าชายผู้นั้นกลับสนใจหลินเสียมากกว่า

วันชนะเองก็พอจะดูออกว่าแจนเป็นรองหลินอยู่มากทั้งรูปร่าง หน้าตาและการเรียน ได้ข่าวว่าตอนอยู่โรงเรียนเก่าทั้งสองคนขับเคี่ยวกันมาตลอดแต่หลินก็เป็นที่หนึ่งเสมอ

นี่แหล่ะนะ ความรักไม่เข้าใครออกใครจริง ไม่มีเหตุผลว่าทำไมต้องเป็นคนนี้ คนที่เรารักกับคนที่รักเรานั้นแตกต่างกัน ครั้นจะบังคับใจกันก็ไม่ได้ หากทำได้ก็คงไม่มีความสุขนักหรอก นั่นคงไม่ใช่รักที่แท้จริง


“อื้ม จริงด้วยหลินรู้หรือยังที่ว่าทางคณะฯจะส่งหลินเข้าประกวดดาวมหาวิทยาลัย?” ก้อยพูดขึ้นก่อนจะม้วนเส้นมาม่าเข้าปาก
“จริงดิ” อาร์ทพูดบ้าง “หลินต้องได้เป็นดาวมหาวิทยาลัยแน่นอน เชื่อเราสิ” คนพูดยิ้มตาหยี เพราะมีชั้นเดียวเหมือนที่คนจีนส่วนใหญ่เป็น

“ขอบใจจ้ะอาร์ท รู้แล้วล่ะ พี่เค้าเพิ่งบอกเมื่อกี้นี้เอง แต่ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกจ้ะคณะอื่นก็มีคนสวยเยอะแยะไปหมด” คนพูดถ่อมตัว

หญิงสาวหันชะเง้อมองไปทางนอกโต๊ะอยู่บ่อยๆ แล้วสักพักหนึ่งก็ขอตัว “หลินไปก่อนนะพวกเรา เพื่อนหลินเดินไปทางนู้นแล้วล่ะ”
เธอลุกขึ้นแล้วโบกมือให้ทุกคนที่ยังนั่งอยู่ “เจอกันคาบแคลคูลัสพรุ่งนี้นะจ้ะ” แล้วก็รีบหอบหนังสือวิ่งออกไป

ทุกคนที่โต๊ะมองตาม วันชนะเห็นเพียงหลังของเพื่อนคนนั้นของหลินไกลๆ รู้สึกคุ้นแต่ก็ไม่ติดใจอะไรมากไปกว่านั้น วันชนะแอบสังเกตแจน เธอไม่หันไปมองเลย ยิ่งเห็นวันชนะยิ่งเกิดอาการหวิวๆเพราะเกิดเปรียบเทียบกับตัวเอง นักขัตที่เคยเจอกันทุกวันดูเหมือนจะห่างออกไปทุกที

...


“วิน วิน”

เสียงเรียกเหมือนลอยมาจากที่ไกลๆ วันชนะค่อยๆลืมตาภาพพร่ามัวเป็นแจ่มชัด แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อสติกลับคืนมา มองไปหน้าห้องเห็นอาจารย์มองลอดแว่นตามาที่เขา สายตาออกตำหนิลูกศิษย์บวกกับทำเครื่องหมายกากบาทไว้บนหน้าเขา แล้วจึงหันไปเก็บตำราที่เอามาสอนให้รวมเป็นกองเดียวกัน

วันชนะไหว้อาจารย์อย่างขลาดๆ เป็นการขอโทษที่นอนหลับในคาบเรียนยิ่งเขานั่งแถวหน้าสุดด้วย
“ไอ้ก้อยทำไมแกไม่ปลุกฉันว่ะ” วันชนะโบ้ยไปให้เพื่อน

“อ้าว! แก ไอ้วิน แกหลับเองจะมาโทษฉันได้ไง เดี๋ยวเหอะ ฉันตั้งใจเรียนของฉัน” เพื่อนสาวเถียง แต่ตาปรือเต็มที่
“เออ หลังกินข้าวเที่ยงทีไรง่วงทุกทีเลย” วันชนะบ่น นึกโทษอาหารกลางวัน

“ฉันก็เหมือนกันแหล่ะ เพียงแต่ฉันนั่งหลับ ยังเรียกว่าสุภาพ แต่แกน่ะ นอนเลย” ก้อยปิดปากหาว
“เกลียดเคมีว่ะ” วันชนะยังบ่น

อาจารย์เดินออกห้องไปแล้ว ประตูห้องเล็กเชอร์ขนาดจุคนได้สามร้อยคนถูกเปิดค้างไว้ เสียงนิสิตพูดคุยเซ็งแซ่ อาร์ทกับแจนบอกลากลับบ้านไปก่อน เหลือแต่วันชนะกับก้อยที่เดินอ้อยอิ่งออกจากห้องเป็นคนท้ายสุด

“กลับกันเถอะ” วันชนะชวน “ก้อยไปทางไหน?”
“ก้อยกลับประตูหลัง ไปด้วยกันได้ วินอยู่หอนี่” เพื่อนสาวของวันชนะชวนกลับด้วยกันเพราะว่าประตูด้านหลังมหาวิทยาลัยอยู่ใกล้กับหอพักของวันชนะ


โรงยิมตั้งอยู่ระหว่างทางกลับด้วย วันชนะกับเพื่อนหญิงเดินอยู่ริมทาง หญิงสาวขยับแว่นตาตัวเองเล็กน้อยพร้อมกับเพ่งไปที่ประตูโรงยิมที่เปิดค้างไว้ เสียงตึงตังของลูกบาสเกตบอลกระทบพื้นยางดังมาถึงตรงที่ทั้งสองคนยืนอยู่

“นั่นหลินนี่” ก้อยชี้มือ วันชนะยังทันเห็นเพื่อนหญิงอีกคนที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งดาวมหาวิทยาลัยปีนี้เดินเข้าไปในโรงยิม “พอดีเลยวันก่อนยืมหนังสือหลินมา เมื่อตอนเที่ยงก็ลืมคืน” ว่าแล้วก้อยก็สาวเท้าตรงไปยังโรงยิม วันชนะจึงต้องตามไปด้วย

“หลินๆ” ก้อยตะโกนเรียกตั้งแต่เท้ายังก้าวไม่พ้นประตู เธอเดินตรงเข้าไปหาหลินอย่างไม่รู้ตัวว่าเป็นการเสียมารยาทน้อยๆ เพราะว่าหญิงสาวสวยนั้นกำลังคุยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง แม้ว่าจะมีคนอยู่ด้วยเกือบสิบคนในโรงยิมแต่คนทั้งคู่ก็เหมือนจะสร้างโลกส่วนตัวขึ้นมาตรงนั้น
วันชนะออกอาการตกใจถึงกับชะงักเมื่อเมื่อชายหนุ่มคู่สนทนาของเพื่อนร่วมภาควิชาละสายตาจากเธอมองมาทางก้อยและเขาที่เดินเข้าไปหา

“อ้าว ก้อย วิน มาได้ไง” หลินทักอย่างแปลกใจ ใบหน้าสดใสประดับด้วยรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา
“ไม่มีอะไร พอดีก้อยเห็นหลินเดินเข้ามาก็เลยจะเอาหนังสือที่ยืมไปเมื่อวันก่อนมาคืนเท่านั้นเองจ้ะ” ก้อยจดจ้องอยู่กับเพื่อนหญิงร่วมภาควิชา กว่าจะรู้ตัวว่ามีคนอื่นอยู่ด้วยก็ยิ้มแหยๆ

หลินเห็นเพื่อนเก้อเลยแนะนำผู้ชายคนนั้นให้รู้จัก “ก้อย วิน นี่ตั้มจ้ะ” ผู้พูดแก้มแดงระเรื่อ เธอหันไปทางผู้ชายตัวสูงคนนั้นแล้วพูด “ตั้ม นี่เพื่อนหลินที่เอกจ้ะ คนนี้ก้อย แล้วก็วิน”

“อุ้ย! สวัสดีค่ะเพื่อนของหลิน หล่อจังนะคะ” ก้อยพูดไปก็ออกอาการม้วนตัวไปมา

“สวัสดีครับ ก้อย ...” หนุ่มร่างสูง คิ้วเข้มคนนั้นหันมาทางวิน เขากำลังจะพูดชื่อวินออกมา แต่ว่าวันชนะชิงพูดสวัสดีก่อน เขาจึงเงียบไป แล้วคนทั้งสี่ก็เงียบไป หลินกับนักขัตยืนอยู่ฝั่งหนึ่งหลังเส้นสีขาวที่ถูกทำไว้บนพื้นแสดงอาณาเขตของสนาม วันชนะรู้สึกเหมือนกับว่าเส้นนั้นจะกั้นแบ่งชายหนุ่มตรงหน้าออกไปจากชีวิตเขาเสียแล้ว

หลินยังคงออกอาการหน้าแดงก่ำเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เพื่อนในภาควิชาได้รู้จักกับเพื่อนชายของเธอ ก้อยออกอาการเขินตามประสาหญิงสาวเจอคนหล่อแต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าชื่นชมคนที่เธอคิดว่าเป็นแฟนของเพื่อน วันชนะก้มหน้ามองพื้น หากเขาสังเกตดูนักขัตบ้างก็คงจะยากที่จะเดาว่าเขาคิดอะไรอยู่เพราะใบหน้านั้นแสดงอารมณ์ปกติ

ฮึ ฮึ! วันชนะหัวเราะเยอะตัวเองในใจ นี่แหล่ะคือโลกของความจริง ที่ผ่านมาเขาคิดไปเองคนเดียว
วันชนะเป็นผู้ชายก็ต้องชอบผู้หญิงเป็นธรรมดา เราสิ! ตัวประหลาด

“แหะ แหะ งั้นเราไปก่อนนะ” ก้อยพูดลาทำลายความเงียบ “ไว้เจอกันคาบแคลคูลัสพรุ่งนี้นะ” พูดจบเธอหันมาแตะที่แขนวันชนะเป็นการบอกว่าออกไปกันเถอะ แฟนเขาจะคุยกัน

วันชนะหันกลับทั้งยังก้มหน้า เหมือนจะซ่อนแววตาเศร้าสร้อยเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น

เดินพ้นออกมาก้อยก็โพล่งออกมาราวกับถูกปลดปล่อยจากความอึดอัด

“แก..” เธอลากเสียง “หล่อมากเลย ฉันจะละลาย”
หากแต่มีเพียงคำว่า “อืม หล่อ” เท่านั้นที่วันชนะตอบกลับมา

“แกรู้เรื่องไหมเนี่ย ฉันได้ยินมา นายตั้มคนนี้น่ะตามไปจีบหลินถึงคณะเราเลยนะ ตั้งแต่สัปดาห์แรกเลย เห็นเขาเล่ากันว่าลงทุนไปนั่งซ้อมเชียร์ด้วยเลยนะ โรแมนติกว่ะแก ถ้าฉันเป็นหลินก็ใจอ่อนเหมือนกัน หน้าตาก็ราวกับเทพบุตรมาโปรด โอ้วว...” ก้อยเป็นคนตลกจึงพูดทำนองตลกเป็นปกติ “แต่ว่า...” เธอเปลี่ยนเป็นเสียงเรียบ “สงสารแจนนะ แจนเขาชอบนายตั้มคนนี้เหมือนกัน ไม่รู้ทำอีท่าไหน ไปรู้จักกันได้ไง และก็เพิ่งเห็นกับตาตัวเองนี่แหล่ะว่าสองคนนั้นนะ ...ลงเอยกัน” เธอเปลี่ยนสีหน้าเหมือนกับนักข่าวที่ได้ข่าวเด็ด


ทั้งสองเดินมาถึงที่ประตูด้านหลังมหาวิทยาลัย

“ไปส่งไหม?” วันชนะถาม

“ไม่เป็นไรจ้ะ พ่อก้อยจอดรถรออยู่แล้ว” เธอชี้มือไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่ “ว่าแต่แกอย่าไปพูดเชียวนะแก มันไม่ดีให้เจ้าตัวเขาพูดเองดีกว่า” เธอพูดทำนองเตือนวันชนะว่า อย่าเม้าท์เพื่อน
“เออ ระวังตัวเองไว้ก่อนเถอะ รูดซิบปากให้สนิทล่ะ” วันชนะล้อ หากว่าทำหน้าฝืนๆ

เพื่อนหญิงขึ้นรถไปแล้ว เหลือแต่วันชนะเดินสวนทางกับนิสิตคนอื่นๆที่กำลังเดินทางกลับ ตะวันโพล้เพล้ช่างเพิ่มความเหงาเข้าจับขั้วหัวใจ

ความจริงอีกข้อหนึ่ง ที่ว่านักขัตอยู่วิศวฯแต่ทำไมวันนั้นถึงไปซ้อมเชียร์ที่คณะของเขาก็ได้กระจ่างแล้ว
ปลีกตัวจากถนนสายหลัก วันชนะเดินตัดเขายังถนนสายเล็ก ข้างทางปลูกต้นชบาเรียงเป็นแถวไปตลอดเส้นทาง มองดูชบาสีคล้ำในยามตะวันใกล้ลับหุบกลีบดูคล้ายมันเหี่ยวเฉา


เหมือนใจของวันชนะในเวลานี้ หุบเอาความสดใส และอารมณ์ชื่นบานทั้งหมดเอาไว้ คงเหลือเพียงความเศร้าเอาไว้ฉาบฉายทางแววตา


.......................................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2007 11:35:02 โดย หมูพูห์ »

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #99 เมื่อ15-03-2007 13:37:44 »

เสียงกลองดังกระหึ่มแข่งกันราวกับว่าถ้าฝ่ายไหนเบากว่าไปเพียงนิดก็จะแพ้กระนั้น

วันชนะนั่งอยู่บนอัฒจรรย์กลมกลืนไปกับผู้คนมากมาย ด้านหน้าเป็นสนามฟุตบอลกว้าง พิธีเปิดงานกีฬาภายในมหาวิทยาลัยได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อสองชั่วโมงก่อน ขบวนป้ายและนักกีฬาของแต่ละคณะเดินผ่านหน้ากองเชียร์แล้วไปรวมอยู่ที่กลางสนาม อธิการบดีกล่าวเปิดงาน จากนั้นจึงมีการแนะนำตัวผู้ลงสมัครดาวและเดือนมหาวิทยาลัยที่จะจัดขึ้นเย็นนี้ เสียงกรีดร้องชื่นชมดังขึ้นเป็นระยะเมื่อตัวแทนของแต่ละคณะขึ้นกล่าวแนะนำตัว

เสียงกรีดร้องชื่นชมเหมือนจะดังกว่าทุกคนที่ผ่านมาเมื่อตัวแทนประกวดดาวจากคณะวิทยาศาสตร์ขึ้นกล่าว วันชนะชื่นชมเธอเหมือนกัน หลินสวยจริงๆ แม้ไม่มีการแข่งขันระหว่างเธอกับเขา วันชนะก็ยอมศิโรราบตั้งแต่ยังไม่ขึ้นสังเวียน คิดได้แค่นั้นก็ส่ายหน้าว่าจะแข่งกันได้อย่างไร เพราะไม่มีเหตุต้องแข่ง ต้องเปรียบเทียบ ทั้งเขาและเธอไม่มีอะไรให้แข่งขันกันเสียหน่อย เสียงโห่ร้องดังขึ้นอีก คราวนี้เป็นเสียงของผู้หญิง ตัวแทนประกวดเดือนจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ขึ้นกล่าวแนะนำตัวบอกว่าชื่อ นักขัต เทพรักษ์

วันชนะมองชายหนุ่มตัวสูงคนนั้นอย่างคุ้นเคย รอยยิ้มที่คุ้นเคย วันชนะเผยรอยยิ้มออกมา ไม่ได้ยิ้มให้เขาคนนั้น เป็นยิ้มให้กับตัวเอง คล้ายจะปลอบใจที่โหวงหวิว

จากสายเลื่อนเป็นเที่ยงและบ่าย อากาศเริ่มร้อนอบอ้าวแม้จะอยู่ใต้เงาหลังคาอัฒจรรย์ ข้างนอกคงจะร้อนกว่ามากเพราะแดดค่อนข้างจัด แต่นักกีฬาที่กำลังวิ่งไล่ลูกบอลอยู่ในสนามคงไม่คำนึงถึงสักเท่าไร ต่างก็เข้าโรมรันเพื่อที่จะแย่งลูกบอลและยิงประตูเพิ่มคะแนนให้ฝ่ายตน เหงื่อชุ่มโชก กระเด็นเป็นหยดสะท้อนแสงแดดเป็นประกาย

เสียงกลองดังกระหึ่มขึ้นเมื่อลูกบอลถูกเลี้ยงเข้าไปใกล้ประตู ด้านหน้ากองเชียร์เพียบพร้อมไปด้วยเหล่าเชียร์ลีดเดอร์ที่แต่งชุดสวยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแต่ละคณะ ต่างคณะต่างร่ายรำท่าเชียร์ได้สวยงามพร้อมเพรียงไม่แพ้กัน ดูตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก สิ่งที่วันชนะรู้สึกก็คือรอบข้างเขาทุกคนล้วนเป็นใจหนึ่งอันเดียวกันทั้งนักกีฬาและกองเชียร์ เพื่อนๆล้วนมีเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม สิ่งนี้คงเป็นผลมาจากการที่รุ่นพี่ได้เคี่ยวเข็ญฝึกซ้อมให้เกิดความสามัคคีและระเบียบวินัย จากที่วันชนะไม่เคยชอบการซ้อมเชียร์และการรับน้องเลย วันนี้เขาได้เห็นแล้วว่าคุณค่าของกิจกรรมเหล่านั้นเป็นอย่างไร รุ่นพี่ที่เคยทำหน้ายักษ์ตะเบงเสียงด่าดุ วันนี้พวกเขาต่างไป รอยยิ้มที่ไร้สิ่งใดอื่นเคลือบแฝง
จวบจนบ่ายสี่โมงกีฬาที่ต้องแข่งตามกำหนดการก็หมดลง กองเชียร์ทยอยกันกลับ รวมทั้งเพื่อนๆในภาควิชาของเขาด้วย ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าขอตัวกลับเพราะเพลียเหลือเกินจนไปต่อที่ไหนไม่ได้

นอกจากหอพักแล้ววันชนะก็ไม่มีที่จะไปไหนอีก อยากอาบน้ำแล้วก็ขอนอนพักแล้วจึงค่อยตื่นมาอ่านหนังสือเตรียมสอบ
ป้ายตัวเลขหน้าห้องยังคงปกติ วันชนะไขกุญแจเขาห้องตัวเองอย่างคุ้นเคย ทำเป็นปกติทุกอย่าง หากแต่ในใจเหมือนมีไฟสุมเมื่อมองเห็นเลข 610 ของห้องข้างๆ

อาบน้ำแล้วก็สดชื่นขึ้น วันชนะหงายหลังลงบนเตียงทั้งที่ผมยังไม่เปียกหมาดๆ เจ็บใจตัวเองที่คิดถึงแต่ใบหน้าของคนๆนั้น ทั้งรูปร่าง รอยยิ้มที่จดจำได้ชัดนั้น พยายามข่มตาหลับแต่ใจกลับพะวงถึง ทั้งที่เขาไม่ได้เจอหน้ากันมาตั้งแต่วันก่อนที่ในโรงยิมกับหลินและก้อย

เสียงโห่ร้องดังกระหึ่มจากกองเชียร์ข้างสนามในโรงยิม ลูกบาสเกตบอลสีน้ำตาลคล้ำถูกโยนไปมาบางครั้งกระดอนพื้นตังตึงและหนักแน่น นักกีฬาบาสเกตบอลตัวสูงทุกคน สองฝ่ายต่างใช้ไหวพริบหลอกล่อและแย่งบอลในมือของอีกฝ่ายอย่างเข้มข้น

วันชนะเดินเข้าในในโรงยิม สายตามองหาใครคนนั้น หาได้ไม่ยาก นักขัตกำลังแข่งอยู่ในสนามและดูเด่นกว่าทุกคน ได้เห็นเพียงแค่นั้นความรู้สึกอิ่มเอิบก็เติมเต็ม หากแต่ไม่เห็นอีกคนหนึ่งวันชนะคงจะคงจะซึมซับความรู้สึกได้ยาวนานกว่านี้ ที่ม้านั่งยาวข้างสนามวันชนะเห็นหลินนั่งอยู่ตรงนั้น พลันความรู้สึกเจ็บจี๊ดแล่นเข้าในอก ยิ่งได้ยินคนข้างๆบอกล่อต่อกระซิบกันว่านักบาสฯคนนั้นกับผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงนั้นเป็นตัวเต็งเดือนและดาวมหาวิทยาลัยปีนี้ บอกอีกว่าสมกันดั่งกิ่งทองใบหยก


ไม่อยากฟัง! ปวดใจ ทำไมเขาถึงไม่พ้นจากความรู้สึกนี้เสียที วันชนะบ่ายหน้ากลับไม่อยากรับรู้อะไรเกี่ยวกับคนที่ชื่อนักขัตอีกต่อไปแล้ว น้ำตารื้นจะไหลเสียให้ได้ วันชนะหันตัวกลับหลังอย่างทันที

ก้าวเท้าจะวิ่งหนีไปให้ไกลแต่กลับชนเข้ากับคนที่มาดูการแข่งขันด้วย จึงพลาดท่าเซเสียหลักแต่ว่าคนที่ถูกชนกลับดึงตัวเขาเอาไว้ได้ ไม่เพียงแต่ยั้งร่างเอาไว้ได้หากแต่เขาออกแรงดึงจนวันชนะเข้าไปอยู่ในอ้อมแขน

พี่นัท!

วันชนะทำท่าตกใจเมื่อเห็นใบหน้าของคนนั้นชดเจน หน้าตาคมเข้มแบบคนไทยหากแต่ตาชั้นเดียวและคิ้วเส้นเล็กบางบอกว่าเขามีเชื้อสายจีน

“ขอโทษครับพี่ วินรีบกลับน่ะครับ” วันชนะทรงตัวเองออกจากวงแขนอีกฝ่าย
“เหรอ อืม พี่ก็กำลังจะไปหาอะไรกินอยู่พอดี ไปด้วยกันไหม? แล้วเดี๋ยวค่อยกลับมาดูประกวดดาวเดือนมหาลัยกัน” อีกฝ่ายชวน
เสียงลูกบาสกระทบพื้นยางดังตึงตังและรองเท้าเบียดพื้นดังเอี๊ยดอ๊าดหยุดลงเมื่อเสียงนกหวีดเป่าดัง ดึงความสนใจให้หันไปครู่หนึ่ง วันชนะบอกรุ่นพี่ว่า “ได้สิครับพี่ วินก็ว่างๆอยู่พอดี”

ทั้งคู่เดินหันหลังให้คนมากมาย วันชนะหันหลังให้นักขัตกับหลิน เพียงแค่เห็นว่านักขัตรับผ้าจากหลินมาซับเหงื่อ เพียงแค่นั้นก็กัดกินใจเขาเหลือทน





.........................................................................


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2007 11:36:53 โดย หมูพูห์ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
« ตอบ #99 เมื่อ: 15-03-2007 13:37:44 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #100 เมื่อ15-03-2007 13:55:53 »

เริ่มเข้าโหมดเศร้าแล้วเหรอค่ะ

สงสารนิจัง
 :monkeysad:

wee

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #101 เมื่อ15-03-2007 17:59:20 »

แค่มีนาย....แต่นาย ไม่มีเรา....เศร้า   :monkeycry4:
นายต้นน้ำ น่ะ นายต้นน้ำ นึกว่าหล่อหรืองัยอ่ะ  :โหลๆ:
 :13223: :13223: :13223:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #102 เมื่อ15-03-2007 19:45:23 »

 :เฮ้อ: สำหรับนิแล้ว แค่มีนาย(ต้นน้ำ) คงจะเพียงพอแล้ว
แต่สำหรับต้นน้ำล่ะ  :impress:

FlukeHub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #103 เมื่อ15-03-2007 22:24:28 »

เหอๆๆ  เรื่องนี้จะจบเศร้ามั๊ยเนี่ย

เริ่มๆก้อชักไม่เข้าท่าแล้ว

นิจะสมหวังป่าวเนี่ย

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #104 เมื่อ15-03-2007 23:25:26 »

เริ่มไม่นาน ก็เศร้าซะแระ :เฮ้อ:

 :monkeysad2:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #105 เมื่อ15-03-2007 23:38:15 »

เศร้าอีกแล้ว  :dont2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #106 เมื่อ16-03-2007 10:44:33 »

นักขัตจับลูกบาสในมือส่งไปมาด้วยความเร็วพอเห็นช่องโหว่ของฝ่ายตรงข้ามจึงกระโดดตัวลอยส่งลูกในมือพุ่งไปยังห่วงบนแป้น แล้วเสียงนกหวีดก็เป่าดังเป็นสัญญาณพัก

นักขัตรับผ้าจากหลินมาซับเหงื่อ สายตามองไปทางใกล้ประตู เมื่อกี้เขาเห็นวันชนะยืนอยู่ตรงนั้นนี่ ไปไหนเสียแล้ว กะว่าจะเข้าไปหาเสียหน่อย พักหลังนี้รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้พบกันสักเท่าไร กะว่าแข่งเสร็จจะชวนไปทานมื้อเย็นด้วย

ที่คิดแบบนั้นได้เพราะว่านักขัตลืมไปเสียสนิทว่าเขาต้องขึ้นประกวดเดือนคณะ เพราะว่านักขัตไม่ได้ใส่ใจเรื่องแบบนี้เท่าไรนัก ลึกๆแล้วไม่ชอบ เพราะเหมือนต้องขึ้นเวทีประกวดนางงาม แต่พอเห็นหน้าหลินก็ฉุกคิดได้ เรื่องที่จะชวนวันชนะไปทานข้าวและการมาของเขาจึงหายไป

สาวสวยกับหนุ่มหล่อเป็นเป้าสายตาของคนแทบจะทั้งโรงยิม ทุกคู่สายตาตัดสินได้ว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกัน และก็เป็นจริงดังนั้นเสียด้วย
นักขัตชอบหลิน เขาอุตส่าห์ไปเข้าร่วมซ้อมเชียร์ด้วยตั้งแต่สัปดาห์แรกหนำซ้ำยังเป็นของคณะอื่นอีก เพียงแค่เห็นหลินเดินผ่านหน้าเขาไปเท่านั้น ชายหนุ่มไม่รู้ว่ามีคนอื่นอีกที่ชอบเขาอยู่ พอดีกับที่เพื่อนคนหนึ่งในคณะวิศวกรรมของเขารู้จักกับแจน เขาจึงมองเห็นโอกาสใกล้ชิดกับหลิน นักขัตไม่รู้ว่าการที่เขาชอบหลินจะทำร้ายใครสักคนทางอ้อม ทั้งแจนและวันชนะ

วันชนะ ในความคิดของนักขัตเขาเป็นเพื่อน เรียกว่าสนิทเลยก็ได้ รับรู้ได้ถึงมิตรภาพที่เพื่อนคนนี้มีให้เขาและบางอย่างที่นักขัตเองก็อธิบายไม่ถูก อาจเพราะท่าทางของวันชนะที่ดูจะเรียบร้อยๆกระมังที่ทำให้นักขัตอยากจะพูดคุยอยากอยู่ใกล้ด้วย เพียงเท่านั้นจริงๆ


เพียงเท่านั้นจริงๆ


พักหลังนี้นักขัตเองก็รู้สึกว่าวันชนะค่อยๆห่างออกไปเหมือนกัน ทั้งที่อยู่ห้องติดกันกลับไม่พบหน้ากันเลย ครั้นพอตนกลับจากซ้อมก็ดึกมากแล้วไม่กล้าเข้าไปนั่งเล่นในห้องของวันชนะอย่างเคย ก็ได้แต่ถามๆจากวุฒิเอาว่าเพื่อนเขาคนนี้ยังสบายดีอยู่หรือ เอาเถอะผ่านกีฬาไปได้ก็คงกลับมาเจอกันได้เหมือนเดิม


...


ตอนแรกวันชนะคิดว่าณัฐวัฒน์จะพาไปทานอาหารเพียงใกล้ๆบริเวณมหาวิทยาลัย แต่พอออกมาถึงประตูรุ่นพี่เขาก็เรียกแท็กซี่เสียแล้ว
“ไม่ไกลหรอกวิน ร้านนี้อร่อยจริงๆอยากให้วินได้ไปกินด้วยกัน” ณัฐวัฒน์พูด

วันชนะจะพูดอะไรได้อีกนอกจากจะเออออตามไป
“แล้วเรื่องเรียนเป็นยังไงบ้าง” รุ่นพี่เปลี่ยนเรื่อง

ร้านที่เขาพามาเป็นกึ่งร้านอาหารกึ่งบาร์ มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขายด้วย เพราะนอกจากกับข้าวปกติแล้วรุ่นพี่ยังสั่งเบียร์มาด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่วันชนะดื่มมันเข้าไปเพราะเสียงคะยั้นคะยอจากณัฐวัฒน์

“ฮ่า ฮ่า เป็นไงบ้างวิน” ณัฐวัฒน์หัวเราะชอบใจ
วันชนะกลั้นใจดื่มพยายามกลืนอย่างยากเย็น พอหมดแก้วแรกแก้วที่สองก็ตั้งอยู่ตรงหน้าแล้ว
กับข้าวแทบจะไม่พร่องแต่ท้องเต็มไปด้วยเบียร์ แต่ถึงอย่างนั้นตรงหน้าก็ยังมีแก้วใหม่มาเริ่อยพร้อมการคะยั้นคะยอ
“พี่นัท วินไม่ไหวแล้วพี่ มึนไปหมดแล้ว” วันชนะพูดด้วยหน้าที่แดงก่ำ
“ฮ่า ฮ่า ได้ ได้ กินข้าวแล้วกัน” เสียงของอีกฝ่ายยังคงเป็นปกติ

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด เพราะข้างนอกร้านมืดแล้ว “พี่..นัท.ท..ไม่ไป...ด..ดูประกวด..เดือนน..ดา..ว..” วันชนะพยายามพูดอย่างยากเย็น เหมือนยิ่งเมามากขึ้น คงเพราะแอลกอฮอล์ออกฤทธิ์เรื่อยๆ “กี่..โม..”

“สามทุ่มกว่าแล้ววิน คงไปไม่ทันแล้วล่ะ กินต่อแล้วกัน”

“กลับ..เถอะ” วันชนะบองความประสงค์ผ่านเสียงสั่นๆ ปากเหมือนจะหนักขึ้นๆ เช่นเดียวกับเปลือกตา


แสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปปรากฏอย่างต่อเนื่อง บนเวทีกลางแจ้งข้างๆสนามฟุตบอลที่ถูกทำขึ้นเป็นการชั่วคราวเพื่องานประกวดดาวและเดือนของมหาวิทยาลัย เวลาสองทุ่มครึ่งบรรยากาศเย็นสบายเพราะด้านหลังเวทีเป็นทิวสนพัดตามแรงลมอ่อนๆตลอดเวลา ดวงดาวสุกใสกระจ่างทั่วฟ้าและจันทร์เสี้ยวหนึ่งชวนให้เป็นคืนที่น่าจดจำ

เสียงปรบมือชื่นชมจากคนดูด้านล่างและจากตัวแทนประกวดจากคณะต่างดังขึ้นให้กับสองคนที่อยู่ตรงกลางเวที
“เป็นไปตามคาด เดือนจากวิศวฯ ดาวจากวิทยาศาสตร์ สมกันจริงๆ”

“แจนๆ หลินสวยจังเลยเนอะ อาร์ทว่าแล้วไหมล่ะ” คนพูดดีใจออกนอกหน้าราวกับตัวเองได้รับตำแหน่งเสียเอง แต่พอหันหาเพื่อนที่มาด้วยกันก็กลับไม่อยู่เสียแล้ว

ด้านหลังเวทีหลังจากที่งานเสร็จสิ้นลง ตัวแทนคณะต่างๆต่างก็กล่าวแสดงความยินดีกับคนทั้งสองจนครบคนและทยอยแยกย้ายกันไป แต่ผู้ได้รับรางวัลทั้งสองยังคงยืนรออยู่ รอเพื่อนและรุ่นพี่มารับไปทานอาหารเย็นด้วยกัน

ไม่นานนักกลุ่มคนเกือบสิบคนก็มาถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“ร้านแบบนี้จะดีเหรอคะพี่” หลินพูดเมื่อเห็นว่าข้างในร้านมีผู้ใหญ่หลายคนอยู่ในสภาพมึนเมา
“นั่นสิ พี่ก็ไม่แน่ใจ แต่เพื่อนพี่บอกว่ารออยู่ร้านนี้นะ” รุ่นพี่คนหนึ่งบอก
นักขัตมองผ่านกระจกมัวๆเข้าไปในร้านเห็นหลังใครคนหนึ่งดูคุ้นตา เหมือนวันชนะ แต่ก็ไม่ได้สานต่อความคิดเพราะว่าอาจจะเป็นคนอื่นก็ได้

“หิวหรือยังตั้ม มีอะไรหรือเปล่าเห็นทำหน้าเครียดๆ” หญิงสาวผู้ได้รับตำแหน่งดาวมหาวิทยาลัยถาม
“นิดหน่อยน่ะ” นักขัตตอบ “ไม่มีอะไรหรอก ตั้มคิดถึงการแข่งวันพรุ่งนี้น่ะ รอบสุดท้ายแล้ว”
“โหย ดูก็รู้ว่าทีมของตั้มน่ะเก่งอยู่แล้ว แต่หลินไม่เชียร์หรอกนะ หลินเชียร์คณะของหลิน” หญิงสาวหัวเราะน้อยๆ
“นี่แน่ะ” นักขัตเขกที่ศีรษะดาวมหาวิทยาลัยเบาๆ

“ดาวกะเดือน ร้านนู้นจ้ะ” รุ่นพี่คนเดิมชี้ไปยังฝั่งตรงข้ามถนนซึ่งเป็นร้านอาหารธรรมดา “เพื่อนพี่โทรมาละ อยู่ร้านนั้นจ้ะ”
แล้วคนทั้งกลุ่มก็เดินข้ามถนนไป นักขัตยังหันกลับมามอง เห็นชายคนที่เหมือนวันชนะฟุบไปแล้ว หากว่าอีกคนที่มาด้วยกันไม่คุ้นหน้านักแต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ได้เมาไปด้วย

...

วันชนะยันตัวลุกขึ้นอย่างยากลำบาก แต่ว่าทรงตัวได้โงนเงน มือจึงวาดออกหาที่ยึด
“จะไปไหนวิน” ณัฐวัฒน์รีบเข้าไปพยุง
“ห..ห้อง..น้า..ม” วันชนะพยายามเพื่อจะพูดให้เป็นคำ
“เดี๋ยวพี่พาไป” คนพูดพยายามประคองร่างของวันชนะเดินออกไปข้างนอกร้าน เพราะห้องน้ำจะแยกออกไปต่างหาก “พี่ไม่น่าให้วินทานเบียร์เลย ไม่รู้ว่าวินจะเมาได้ขนาดนี้”


...


“ตั้มขอตัวไปห้องน้ำหน่อยนะครับ” ว่าแล้วเดือนมหาวิทยาลัยก็ลุกจากโต๊ะเดินไปหลังร้าน ห้องน้ำของร้านมีเพียงหนึ่งห้องแต่ว่ามีคนใช้อยู่ นักขัตจึงยืนรออยู่ด้านหน้า

“อ้าวพี่ จะเข้าห้องน้ำเหรอคะ” พนักงานของร้านคนหนึ่งเดินมาพบเข้า “ไปเข้าร้านตรงข้ามก็ได้ค่ะ”
นักขัตยืนรออีกพักหนึ่งเห็นว่าคนข้างในยังไม่มีท่าทีจะเสร็จภารกิจจึงเดินข้ามถนนไปยังห้องน้ำร้านที่อยู่อีกฝั่งถนน


นั่งอยู่ในห้องน้ำได้สักหนึ่งนาที เสียงประตูใหญ่หน้าห้องน้ำเปิดออกพร้อมกับเสียงคนเมาและเสียงเท้าลากมากับพื้น
และเสียง กริ้ก เบาๆ คล้ายเสียงล็อคลูกบิดประตู!

นักขัตยังทำธุระของตัวเองปกติ แต่แล้วบทสนทนาของคนที่อยู่ข้างนอกนั้นทำให้เขาแทบจะไม่ขยับตัว
“พะ พี่นัท จะ...จะ ทำ...อะไร?” เสียงหนึ่งพูดขึ้น ชัดเจนว่าเขาเมา

“ไม่เป็นไรน่า นิดหน่อยเอง ไม่สึกหรอหรอก” เสียงอีกคนพูดขึ้น เต็มไปด้วยสติสัมปชัญญะ “อดใจไม่ไหวแล้ว น่าเอาเหลือเกิน”
................................................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2007 11:40:47 โดย หมูพูห์ »

jammy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #107 เมื่อ16-03-2007 11:24:15 »

โอยจะเกิดไรขึ้นกับนิบ้างเนี่ยสงสารจัง :serius2:

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #108 เมื่อ16-03-2007 11:50:13 »

ต้นน้ำ ช่วยนิด่วน :angry2:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #109 เมื่อ16-03-2007 14:38:08 »

 :o

ซะงั้นอ่ะ กำลังกะจะเชียร์นัทเลยเชียว :ฮึ่มม:

ต้นน้ำช่วยด่วนเรย :angry2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
« ตอบ #109 เมื่อ: 16-03-2007 14:38:08 »





gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #110 เมื่อ16-03-2007 14:58:56 »


...............วีรบุรุษขี่ม้าขาวมาแล้ว.......... :laugh5: :laugh5:

........................ช่วยนิหั้ยได้นะ.... :110011: :เชิป2:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #111 เมื่อ16-03-2007 15:43:22 »

ต้นน้ำจะช่วยนิได้มั้ยนะ :เฮ้อ:

kYos

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #112 เมื่อ16-03-2007 17:36:13 »

 :o  ม่ายน้าาาา จะทำอะไรนิ
ต้นน้ำ ช่วยด่วนเลย  :serius2:

FlukeHub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #113 เมื่อ16-03-2007 21:15:44 »

อ๊ากกกก+++  ไม่ได้แล้วต้นพังประตูไปช่วยนิเร็ว

ไอ้พี่นัทเนี่ย  เป็นรุ่นพี่แท้ๆ  แย่ๆๆๆ

ต่อครับ  ด่วนเลย  ลุ้นจะแย่แล้ว

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #114 เมื่อ17-03-2007 00:11:10 »

ลุยเลยต้นน้ำ  :laugh5:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #115 เมื่อ17-03-2007 01:18:01 »

 :o ม่ายน๊า.....นิ อย่าไปยอมมานนนนนนะ ต้นน้ำรีบตามมาช่วยนิเร๊ววว  :13223:

ออฟไลน์ LonelyBoiZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #116 เมื่อ17-03-2007 01:55:01 »

ต้นน้าม สู้ๆๆนะคับ

นิติสู้ๆๆๆนะคับบบ  :yeb:   :yeb:  :yeb:  :yeb:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #117 เมื่อ17-03-2007 10:06:51 »

“พะ พี่นัท จะ...จะ ทำ...อะไร?” เสียงหนึ่งพูดขึ้น ชัดเจนว่าเขาเมา
“ไม่เป็นไรน่า นิดหน่อยเอง ไม่สึกหรอหรอก” เสียงอีกคนพูดขึ้น เต็มไปด้วยสติสัมปชัญญะ “อดใจไม่ไหวแล้ว น่าเอาเหลือเกิน”
เสียงฝีเท้ากระทบพื้นคล้ายจะฉายภาพความทุรนทุรายของคนหนึ่งข้างนอกนั้นขึ้นในมโนของนักขัต แต่ก็ยังไม่กล้าแสดงตัวเอง กลัวจะเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น

“ไม่...” เสียงสั่นนั้นดังแผ่วเบา ตรงข้ามกับเจ้าของที่ตั้งใจตะโกนออกมาสุดเสียง
เสียงต่างๆที่เกิดข้างนอกนั้นเหมือนจะฉายภาพให้คนที่แฝงตัวอยู่ในห้องหนึ่งในนั้นได้รับรู้ด้วย เสียงการต่อสู้เล็กๆ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะแพ้ไป ฝ่ายที่เมามาย

“ข่มขืน?” นักขัตนึกในใจ ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาก็พร้อมจะออกไปช่วย “แต่ว่านี่มันห้องน้ำชาย แล้วเสียงของสองคนนั้นก็ผู้ชายทั้งคู่” แต่ว่าเสียงหนึ่งนั้นคุ้นหู

“ไม่...”

เสียงสั่นเครือพูดแผ่วเบา แต่ก็พอให้นักขัตได้ยิน คล้ายร้องไห้

“ตั้ม...ช่วย...ด้วย”

เสียงแผ่วเบา เหมือนศรพุ่งแรงจากที่อื่นตรงเข้าสู่โสต ภาพคนที่นักขัตเห็นในร้านเมื่อกี้แล่นเข้ามาทันที

“เฮ้ย!”

เสียงหนึ่งดังขึ้น ณัฐวัฒน์หันหลังขวับ ตกใจเพราะไม่คิดว่าจะมีคนอื่นอยู่ด้วย
ยิ่งได้เห็นภาพตรงหน้ายิ่งทำให้คิ้วเข้มยาวคู่นั้นขมวดเข้าหากันด้วยความโกรธ “มึงจะทำอะไรเพื่อนกู” นักขัตฟาดเท้าออกไปอย่างแรง
ณัฐวัฒน์ที่ยังนั่งยองๆอยู่บนร่างของวันชนะยังไม่ทันได้เตรียมตัวก็หงายหลังไปอีกทาง นักขัตตรงเข้าไปลากตัวคนที่มึนเพราะลูกเตะเมื่อกี้ออกไปจากร่างของวันชนะที่นอนแผ่หลาอยู่บนพื้น


“วิน วิน” นักขัตใช้มือสั่นหน้าของวันชนะเบาๆเรียกสติ สังเกตตามลำคอและหน้าอกมีรอยจ้ำแดงๆหลายที่ เสื้อผ้าหลุดลุ่ย กระดุมหลุดหาย เข็มขัดโดนปลดออกเลยไปถึงซิบที่ถูกรูดออกเหลือแต่ชั้นในที่ยังอยู่ดี

นักขัตเข้าใจแจ่มชัดขึ้นกว่าเดิมว่าเกิดอะไรขึ้น เขารีบรูดซิบกางเกงของวันชนะขึ้นจัดแจงให้วันชนะอยู่ในสภาพเรียบร้อยขึ้นเท่าที่จะทำได้ แล้วพยุงร่างที่บอบช้ำนั้นค่อยๆลุกขึ้น

หันมองอีกคนที่ก่อเรืองยังมึนกับที่โดนเมื่อครู่พยายามทรงกายลุกขึ้น นักขัตให้วันชนะยันกายเอาไว้ ก่อนที่เขาจะโร่เข้าไปหา กำหมัดเอาไว้ แต่พอเงื้อมือ คนข้างหลังก็รีบโซเซมาห้ามเอาไว้ วันชนะจับมือที่แกร่งกำลังกำหมัดนั้น

“อย่า...พอ..” พูดได้เท่านั้นร่างบอบช้ำก็ล้มตัวเข้าหานักขัต สติขาดหายไป

“วิน...วิน” นักขัตเรียกหวังจะให้วันชนะได้สติขึ้นมา แต่คนในอ้อมกอดเขาไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย จึงรีบเปิดประตูออกไป
ไม่มีใครสังเกตเห็นนักขัตอุ้มวันชนะวิ่งออกมาเพราะคนส่วนใหญ่อยู่ในร้าน นักขัตอุ้มวันชนะมาถึงถนน เขาใจร้อนเกินกว่าจะเข้าไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆในร้าน อีกอย่างเขาไม่อยากให้ใครเห็นวันชนะในสภาพนี้

แท็กซี่คันหนึ่งผ่านมา
“ไปโรงพยาบาลครับพี่ อะไรก็ได้ที่ใกล้ที่สุด” นักขัตบอกอย่างรวดเร็ว
ตลอดทางนักขัตใจร้อนมากทั้งที่รถก็วิ่งเร็วเต็มที่ เขาเร่งคนขับตลอดเวลา พลางหันไปหาวันชนะที่นอนสลบสไลอยู่ในอ้อมแขน
สิ่งหนึ่งผุดขึ้นในใจ นักขัตไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร เขาเอื้อมมือไปลูบที่ใบหน้าของวันชนะ ที่ผม ขยับเสื้อที่อ้าออกให้กระชับเข้าที่ ยังมองเห็นคราบน้ำตาเกาะอยู่ที่แก้ม


เป็นห่วงคนๆนี้เหลือเกิน


ตาอิดโรยคู่นั้นค่อยๆเปิดขึ้น ภาพของใครบางคนที่สำคัญมากต่อวันชนะอยู่ที่ตรงหน้านั้นรางเลือนในตอนแรก แล้วค่อยๆแจ่มชัดขึ้น
วันชนะยิ้มน้อยๆบนใบหน้าอิดโรย อาการปวดหัวตุบๆเริ่มเบาลงเมื่อเทียบกับเมื่อกี้
“ตั้ม...เราจะไปไหนกัน?”
“โรงพยาบาล อดทนไว้นะวิน อีกนิดเดียว” นักขัตกระชับวงแขนขึ้นอีก
“ไม่เอา...กลับเถอะ ไม่ไป” วันชนะอ้อนวอน “วินไม่เป็นอะไรแล้ว”
นักขัตมองหน้าวันชนะ เขาตามให้สิ่งที่วันชนะขอ “พี่ครับกลับไปที่...ละกันครับ เพื่อนผมไม่เป็นอะไรแล้ว”
แล้ววันชนะก็หลับไป


“ฮัลโหล ไอ้วุฒิเหรอ ช่วยไรกูหน่อย” นักขัตพูดผ่านโทรศัพท์มือถือ

“เออ มีไรว่ามา” อีกฝ่ายตอบ

“มึงลงมาหากูหน่อย ดูด้วยว่าพี่ต้อมอยู่ข้างล่างไหม” นักขัตขอความช่วยเหลือจากรูมเมทของวันชนะและเป็นเพื่อนร่วมคณะของเขา เพราะเกรงว่าหากพาวันชนะเข้าไปในสภาพนี้คงไม่ดีแน่ ทั้งยังกลิ่นบุหรี่และเบียร์อีก

“อ๋อ มึงขึ้นมาได้เลยพี่ต้อมเมาหลับไปแต่หัววันแล้ว” เสียงวุฒิพูดมาตามสาย
นักขัตกดวางสายแล้วรีบอุ้มวันชนะวิ่งเข้าไปในตึกอย่างรวดเร็ว เขาไม่อยากให้ใครเห็นวันชนะในสภาพนี้ แต่วุฒิคงจะไม่เป็นไร มองบันไดค่อนข้างชัน ทั้งที่ปกติเขาไม่เคยสังเกตเลย นักขัตสูดลมหายใจยาวก่อนจะอุ้มร่างนั้นวิ่งอย่างเร็วเพื่อขึ้นไปชั้นหก เพราะร่างกายที่ผ่านการเล่นกีฬามาจึงทำให้นักขัตพอจะอุ้มวันชนะที่หนักห้าสิบแปดกิโลกรัมขึ้นมาได้ แต่ก็ถือว่าเสียพลังงานไปเยอะทีเดียว
โชคดีที่ส่วนใหญ่อยู่แต่ในห้องจึงไม่มีใครสังเกต

“ไอ้วุฒิ เปิดประตูเร็ว” นักขัตเคาะประตูเบาๆตรงข้ามกับน้ำเสียงรีบร้อนเพราะกลัวคนอื่นออกมาดู ทันทีที่ประตูแง้ม คนอยู่ข้างในก็สะดุ้งเพราะนักขัตรีบอุ้มวันชนะพรวดพราดเข้าไป


“เลวจริงๆ ไอ้คนนั้นมันเป็นใครว่ะ?” วุฒิถามนักขัต ส่งผ้าที่เปียกน้ำหมาดๆให้
“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่มึงอย่าพูดเรื่องนี้กับวินอีกนะ กูกลัวว่าวินจะคิดมาก” นักขัตรับผ้ามาเช็ดหน้า เนื้อตัวให้วันชนะ
“สงสารวินว่ะ ช่วงหลังๆนี้ยิ่งดูหงอยๆอยู่ ไม่รู้เป็นอะไร” วุฒิพูด แต่คนฟังไม่รู้ตัวว่าที่วันชนะหงอยไปนั้นเป็นเพราะเขา
“อ่ะ กุญแจ” นักขัตส่งกุญแจให้วุฒิ คนรับไปยังทำหน้างง “ห้องกูไง คืนนี้กูจะนอนเตียงมึง จะอยู่ดูวิน”
“เว่อร์ไปมึง กูดูเองก็ได้ วินก็เพื่อนกู” วุฒิพูดแล้วเงียบไปอึดใจหนึ่ง “เออ มึงเองก็ไปอาบน้ำก่อนเถอะ เดี๋ยวค่อยมา”
นักขัตยิ้มขอบใจ หันไปมองวันชนะนอนกอดหมอนข้างเสียแน่น น้ำตายังซึมออกมาเปื้อนที่แก้มโดยที่เขาไม่รู้ตัว


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2007 11:45:43 โดย หมูพูห์ »

wee

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #118 เมื่อ17-03-2007 12:19:37 »

ชอบเรื่องนี้จัง  :โหลๆ:  ขออ่านแบบเยอะๆได้ป่ะ   :loveu:
นายต้นน้ำ  กำลัง  รักซึมลึก กะนายนิติแล๊ว..... :yeb:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #119 เมื่อ17-03-2007 15:04:32 »

รักกำลังก่อตัวอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ ต้นน้ำโดยที่เจ้าตัวยังไม่เอะใจ :give2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด