ชายหนุ่มรีบหยิบมันขึ้นมาเปิดดูทันที
ภายในโบชัวร์เป็นแผนผังแสดงทุกโซนของสวนสนุก ตัวอักษรละเอียดเล็กเขียนแทรกไว้แทบทุกที่ ว่าแต่ละจุดนั้นจะสามารถเล่นสนุกได้อย่างไร กับอุปกรณ์ทั้งหลายที่หอบมาเต็มกระเป๋า
แล้วมันจะน่าน้อยใจไหม ที่เขาไม่ได้สนใจเหลียวแลเลย
ชายหนุ่มเริ่มเข้าใจคานาเมะมากขึ้น
เขาค่อย ๆ ไล่สายตาตามแผนผังนั้น คิดตามไปเรื่อย ๆ ว่าถ้าเป็นคานาเมะ จะไปที่ใด
จากแผนผังมีการลากเส้นราวเกมเขาวงกต ตามทางเดินทอดยาวไปยังเส้นชัย
และสุดท้าย…เป้าหมายที่สำคัญที่สุด ยังคงเป็นโซนนั้น
โซนพิเศษสำหรับคู่รัก!
ต้องใช่ที่นี่แน่!
อิทสึกิรีบศึกษาแผนผังรวดเร็ว ก่อนจะวิ่งไปยังสถานที่นั้นทันที
………………………………………………
บริเวณโซนพิเศษสำหรับคู่รัก ไฮไลท์ของคืนคริสต์มาสอีฟปีนี้ ประกอบด้วยอาคารโดมสูงทรงกลมหลังคาเป็นกระจกใส และต้นคริสต์มาสประดับไฟต้นใหญ่ด้านข้าง ซึ่งตอนนี้จะยังไม่เปิดไฟจนกว่าจะถึงเที่ยงคืน
ทางเข้าด้านหน้าจะเริ่มเปิดตอนหกโมงเย็น ซึ่งในตอนนี้ถึงเวลาเปิดเนิ่นนานแล้ว คู่รักหลายคู่ผ่านประตูเข้าไป ด้วยการใช้สร้อยสุดพิเศษประกบคู่...ให้หัวใจที่แยกออกเป็นสองซีก รวมเข้าเป็นหัวใจเพียงดวงเดียว แล้วโชว์ให้พนักงานเห็น เมื่อไฟสีแดงติด จะสามารถผ่านเข้าไปได้
หลายคู่เดินจูงมือ โอบกอดแอบอิงกันเข้าไป อากาศเริ่มเย็นลงเช่นในยามนี้ ไออุ่นจากกันและกันย่อมดีที่สุด คานาเมะรู้ได้เป็นอย่างดี
ยิ่งเห็นสีหน้าแต่ละคนแล้ว ยิ่งบอกได้ชัด ว่ามีความสุขนัก
ดูมีความสุขจนน่าอิจฉาจริง ๆ
ในมุมหนึ่งของซอกลับตาคน ที่ค่อนข้างมืด ด้านข้างโดม ราชินีหนุ่มขดตัวซุกอยู่เดียวดายทั้งน้ำตา เขาต้องอยู่ลำพังอีกแล้ว ในบรรยากาศสุดสวีทที่ผู้คนรอบข้างล้วนแล้วแต่มีความสุข ...ยกเว้นตัวเขาเอง ท่ามกลางอากาศที่หนาวจับใจ
ทั้ง ๆ ที่คิดว่าเจอคนที่ใช่ มีคนจะให้ความอบอุ่นแล้วแท้ ๆ
ดวงตาคู่งามเหม่อมองคู่รักคู่แล้วคู่เล่าเดินผ่านไป อากาศเย็นลงทุกที ร่างบางขยับห่อตัวมากกว่าเดิม พลางก้มหน้าซบลงบนเข่าที่กอดอยู่ ซึ่งเริ่มเปียกชื้นด้วยน้ำตา
มือเล็ก ๆ ของใครคนหนึ่ง แตะไหล่สั่นสะท้านนั้น ทำให้คนถูกสัมผัสเผลอเงยหน้าขึ้นอย่างยินดี
หากภาพที่เห็นเบื้องหน้า กลับเป็นเด็กน้อยเสียนี่ หน้าสวยเศร้าลงถนัดตาเมื่อเห็นว่าไม่ใช่คนที่เขาอยากให้เป็น
เด็กคนนี้อีกแล้ว...เด็กที่หลงกับผู้ปกครอง และเขากับอิทสึกิต้องคอยดูแลอยู่จนครึ่งค่อนวัน
ดูแลจนไม่เป็นอันได้สนุกกันเองตามแผนการเลย
ตามมาได้ยังไงกันนะ?
ร่างเล็กเอียงหน้ามองใบหน้าสวยแกมเศร้านั้นอย่างแปลกใจ เด็กน้อยยังพูดไม่ได้เลยนอกจากคำว่า ‘ปาป๊า’ ท่าทางคงถูกพ่อเลี้ยงมาเพียงคนเดียว ดวงตาใสแจ๋วเอนเอียงตามคอป้อม จ้องมองจริงจังอย่างคล้ายอยากจะถาม
มือเรียวลูบผมนุ่มบอบบางนั้นเบา ๆ อย่างไม่รู้จะทำอะไรที่ดีไปกว่านี้ นึกโกรธอยู่หรอกที่ถูกแย่งความสำคัญไป แต่ก็รู้ดีว่าไปลงกับเด็กมันก็เท่านั้น แม้ว่ากับเด็กแล้ว เขาไม่เคยจะถูกกันเลยก็ตาม
เด็กเป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจยากและต้องดูแล ชาตินี้ทั้งชาติคนอย่างเขาก็คงไม่มีปัญญาดูแลได้หรอก เพราะเขาไม่เหมือนอิทสึกิ
แต่เด็กคนนี้ ตามเขามาทำไมกัน?
คานาเมะอุ้มเด็กชายขึ้นมาบนตัก ซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมตามอย่างว่าง่าย แขนเรียวจึงโอบกอดไว้ ร่างเล็ก ๆ ที่ค่อนข้างเย็นบ่งบอกได้ว่า คงแอบยืนดูเขาอยู่สักพักแล้ว จึงได้ตัดสินใจเข้ามาหา
มาเพื่อปลอบใจเขางั้นหรือ?
“หนาวรึเปล่า?” คานาเมะพึมพำกับเด็กน้อย แต่คล้ายพูดกับตัวเองมากกว่า
“พ่อของเธอไปไหนกันนะ ทำไมถึงได้ปล่อยไว้แบบนี้” หวนคิดถึงความฝันหลายคืนก่อนนั้นเสียได้ …อดีตของเขาที่อยากจะลืม…
“คงไม่ได้ถูกทิ้งหรอกนะ” มือของเขาสั่นน้อย ๆ เมื่อคิดถึงเช่นนั้น
การเล่นซ่อนหาที่ไม่มีคนหา ได้แต่เฝ้ารออยู่อย่างนั้น
ทั้งหิวและหนาว แต่ไม่มีใครเลย
ยามออกมาอีกครั้ง ก็เหลือแต่ความว่างเปล่า
พ่อกับแม่…ทิ้งเขาไปเสียแล้ว
ดวงตาคู่งามเริ่มมีน้ำตาคลอ
อิทจังบ้า….บ้าที่สุดเลย
ทำให้ต้องคิดถึงเรื่องบ้า ๆ อีกแล้ว
ไม่เคยมีใครสนใจตามหาเขา
ไม่เคยมี…
อย่างดีก็แค่ยืนรอเท่านั้น รอให้เขาออกมาเอง ถ้าเขาไม่ออกมา ทุกคนก็แค่จากไป มันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว
‘เดี๋ยวก็ออกมาเองนั่นแหละ เสียเวลา’ ทุกคนมักพูดเช่นนี้
ทำไมล่ะ แค่ตามหาให้เจอ มันก็เท่านั้นเองไม่ใช่หรือ
เขารอคำ ๆ นั้นมานานแล้ว คำที่คน ๆ หนึ่งจะพูดกับเขา ยามค้นหาเขาเจอ
คำ ๆ นั้น…
ร่างบอบบางถอนหายใจยาว พูดกับเด็กน้อยในอ้อมกอดด้วยรอยยิ้มทั้งน้ำตา คล้ายปลอบใจตัวเอง แม้ภายในจะเจ็บแปลบ ความเหงามันทรมานยากจะทนทานทุกครั้ง แล้วเขาก็ต้องทนกับมันเพียงลำพังตลอดมา
จนกระทั่งได้เจออิทสึกิ
“เฮ้อ….อย่างน้อยเธอก็ตามฉันเจอล่ะนะ ถึงเธอจะพูดได้แค่คำว่า ‘ปาป๊า’ ก็เถอะ” น้ำเสียงเริ่มสั่นครือ “อิทจังคงไม่ตามหาหรอก เขาคงรอ…ให้ชั้นกลับไปหามากกว่า กลับไปง้อ ไปขอคืนดี ก็ทุกอย่างเป็นความผิดของชั้นนี่นะ”
ใช่…เขาผิด แต่ว่า…
“แต่ถ้าเขาไม่มา…ชั้นจะไม่กลับไปแล้ว” เสียงนั้นเริ่มเบาหวิว ถึงจะใจหาย แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวของตัวเอง
กลัว…ที่จะถูกทิ้ง
และก่อนจะโดนแบบนั้น เขาจะต้อง
ใช่สิ…ก็เหมือนกับทุกครั้ง คือทิ้งไปก่อน ที่จะโดนทิ้ง
แม้จะไม่อยากเลย…
“อิทจังบ้า ทำไมไม่มาตามหานะ”
รอยยิ้มเริ่มยิ้มไม่ออกแล้ว ใบหน้าใสเย็นแทบชาแข็ง ไหล่บางที่สั่นสะท้าน เสียงร่ำไห้แผ่วเบาสะอึกสะอื้น มือน้อย ๆ จับแก้มเย็นคล้ายอยากปลอบประโลม อ้อมกอดจึงกระชับกว่าเก่า อย่างน้อยเด็กคนนี้ก็อบอุ่น
แต่มันไม่เพียงพอ…
ไออุ่นที่เขาต้องการ…มันมากกว่านี้
หาฉันสิ…หาให้เจอ
เสียงในใจเรียกร้องแบบนั้น เสียงจากก้นบึ้งของหัวใจ
ความเย็นจากอากาศเริ่มแทรกซึมเข้ามา ตอกย้ำถึงความเหงาและเปล่าเปลี่ยว ยิ่งหนาว ยิ่งทรมาน ปีก่อนในวันที่เจอกับอิทสึกิเป็นครั้งแรก มันก็เป็นแบบนี้ ถึงจะระบายด้วยการโวยวาย อาละวาด มันก็เท่านั้น
ปีนี้…เขาคงจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว เพราะรู้ดี มันเปล่าประโยชน์…
เขาคงจะเรียกร้องความสนใจมากเกินไป
ใครจะทนคนขาดความอบอุ่นอย่างรุนแรงแบบเขาได้ แถมยังเอาแต่ใจตัวเองขนาดนี้
ตั้งแต่คบมา…มันไม่เคยมี
แม้กระทั่งอิทจัง ก็เหมือนกันงั้นหรือ
น้ำตาไหลรินอาบแก้ม หยาดหยดลงสู่พื้น น้ำตาอุ่น ๆ ที่ไม่นานก็เย็นจนแข็งไป
อากาศหนาวจนหายใจออกเป็นควัน มันแสบไปหมด ใช่สิ เพราะมันแสบ เขาถึงได้ร้องไห้
เขาต้องไม่อ่อนแออีก ความอ่อนแอไม่เคยช่วยอะไรได้เลย
ปุยหิมะสีขาวเริ่มโปรยปรายจากท้องฟ้า… หิมะแรกของปี ในวันก่อนคริสต์มาส …ไวท์คริสต์มาสที่แสนโรแมนติก สร้อยคอรูปหัวใจซีกเดียวคล้ายตอกย้ำ หากมีไม่ครบคู่ จะไม่สามารถเข้าไปได้
…โซนพิเศษของคู่รัก เป้าหมายสุดสวีทในค่ำคืนนี้…
หัวใจซีกเดียวที่เหลืออยู่ เหมือนใจของเขาที่ถูกกรีดทำลายในยามนี้
ถึงเข้าได้ก็เท่านั้น ถ้าไม่มีอิทสึกิ เขาจะมีความสุขได้อย่างไรกัน
ทำได้แต่เพียงขดตัวหนาวสั่นอยู่ภายนอก ไม่มีใครช่วยให้ความอบอุ่นเหมือนที่วาดหวังเอาไว้เลย
“หนาวจัง...”
ดวงตาคู่งามพริ้มลง อยากหลับใหลไปชั่วนิรันดร์ไม่ต้องลืมตาขึ้นมาอีก
ไม่ต้องการที่จะลืมตาขึ้น เพียงเพื่อมองเห็นแต่ความว่างเปล่าอีกต่อไป
หาฉันสิ…หาให้เจอ ได้โปรดเถอะ
หาให้เจอ…
“ฉันเจอนายแล้ว!” เสียงดังแกมตื่นเต้นตะโกนลั่น จนร่างที่ขดตัวอยู่แทบสะดุ้ง ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาเงยขึ้นมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง หัวใจที่เย็นเยียบเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน คำพูดประโยคนั้น…คำพูดที่รอคอยมาแสนนาน
“อิทจัง!”
ร่างสูงโผเข้ากอดก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรเสียอีก คานาเมะมองชะงักค้างอย่างงุนงง
“นายปลอดภัยใช่มั้ย…? นายไม่เป็นอะไรนะ? ฉันขอโทษ…อย่าหนีฉันไปอีกเลย ฉันผิดเองที่ละความสำคัญจากนายไป” อิทสึกิพูดเร็วปรื๋อ อ้อมกอดที่อบอุ่นของเขาสั่นน้อย ๆ แววตาร้อนรนสำรวจทั่วร่างคนรัก จวบจนแน่ใจว่าทุกอย่างยังปกติดี เขาจึงถอนใจยาวอย่างโล่งอก มือแข็งแรงกอดอีกฝ่ายไว้แน่นไม่ยอมปล่อยอย่างหวงแหน
ดวงตาคู่สวยเอ่อคลอด้วยน้ำตาอีกครั้ง พร้อมกับส่ายหน้า “ชั้นไม่เป็นไรหรอก แค่นายหาชั้นจนเจอ ก็พอแล้วล่ะ ยังไง…ครั้งนี้ ชั้นก็ผิดเหมือนกัน”
ร่างเล็ก ๆ ดิ้นขลุกขลักอยู่ระหว่างคนสองคน ทำให้ทั้งสองต้องผละออกจากกัน แต่คราวนี้ดวงตาที่สบกันกลับสร้างรอยยิ้ม
อิทสึกิพึ่งจะเห็นเด็กน้อย ว่านั่งอยู่บนตักของคานาเมะ แว้บแรกที่เขาเข้ามา ดวงตาเขามองเพียงคน ๆ เดียวเท่านั้น จนไม่เห็นกระทั่งว่ามีเด็กอยู่ด้วย
แต่ชายหนุ่มไม่สนใจ ร่างสูงที่คุกเข่าอยู่โน้มใบหน้าลงใกล้ริมฝีปากนุ่มของอีกฝ่าย ก่อนจะจูบอย่างโหยหา เป็นคานาเมะเองที่ดันตัวชายหนุ่มออกอย่างเขิน ๆ
“ต่อหน้าเด็กนะอิทจัง”
“ฉันไม่สนแล้ว นายคิดเหรอว่าเป็นแค่นายคนเดียวที่ต้องการ…ฉันก็ต้องการนายเหมือนกัน”
ร่างบอบบางเอนตัวเข้าหา จูบแผ่วเบาที่ข้างแก้มพลางกระซิบ “ชั้นรู้แล้วล่ะ แต่ว่า…นายก็ไม่ควรทำต่อหน้าเด็กอยู่ดีไม่ใช่เหรอ”
“นายดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนะเนี่ย” ชายหนุ่มแซวพลางอมยิ้ม ริมฝีปากที่เริ่มเข้าหากันใกล้ขึ้นทุกที โดยมีดวงตากลมโตมองตาแป๋วดูอยู่ แต่ไม่มีใครยอมหยุด
ทว่าทั้งสองก็ต้องสะดุ้งอีกครั้ง เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
อิทสึกิสบตาราชินีหนุ่มเชิงขออนุญาต คานาเมะลอบยิ้มพลางพยักหน้า เขาจึงผละออกมารับโทรศัพท์
เสียงตามสายร้อนรนและดูเป็นห่วงมากมาย คนที่โทรมาคือพ่อของเด็กนั่นเอง
และหลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ได้พาเด็กน้อย ไปหาพ่อที่แท้จริงเสียที
ภาพเด็กน้อยที่โผเข้าหาพ่อ ทำให้คานาเมะน้ำตาซึม เขารู้สึกยินดีไปด้วย ที่อย่างน้อย เด็กคนนี้ก็ยังมีคนรอรับกลับไป ซึคิยะที่ยืนอยู่ด้านข้างยิ้มให้เชิงทักทาย เขาเองเป็นคนตามหาพ่อของเด็กจนเจอ
ก่อนเด็กน้อยจะจากไปพร้อมกับพ่อของเขา ร่างเล็กกลับวิ่งมาหาคนทั้งคู่อีกครั้ง ทั้งสองกอดรับแทบจะพร้อมกัน กระทั่งคานาเมะเอง ก็เริ่มรู้สึกรักเด็กคนนี้ขึ้นมาแล้ว แม้จะไม่สามารถสื่อสารกันด้วยคำพูด แต่ท่าทางที่สื่อออกมา ก็ทำให้เขาซาบซึ้งใจไม่น้อย เขารู้ดีว่าเด็กน้อยเป็นห่วงเขา ถึงได้ตามมาอยู่เป็นเพื่อน
เป็นเด็กที่น่ารักจริง ๆ
รอยยิ้มสดใสเยาว์วัยดูบริสุทธิ์นัก
“ปาป๊า…มา…มาม้า” ริมฝีปากนุ่มหอมแก้มอิทสึกิ กับคานาเมะ คนละที เสียงเรียกนั้นทำเอาทั้งคู่ปลื้มจนยิ้มไม่หุบ ในที่สุด..ก็พูดอีกคำได้แล้ว ในสายตาอ่อนเยาว์นั้น คงเห็นคานาเมะเป็นแม่แน่ ๆ
ราชินีหนุ่มนิ่งอึ้งไปอย่างพูดไม่ออก ทั้ง ๆ ที่เขาเองแท้ ๆ ที่อิจฉากระทั่งเด็ก ทั้งโวยวายอาละวาดสารพัด เด็กคนนี้กลับเห็นเขาเป็นแม่… รอยยิ้มอ่อนโยนตอบกลับพร้อมมือที่ลูบผมเบา ๆ ทำให้ร่างเล็กหัวเราะพลางโผเข้ากอดทั้งสองคนแนบแน่นอีกครั้ง ก่อนจะผละออกมา โบกมือบ๊ายบายจนลับตาไปพร้อมผู้เป็นพ่อ คานาเมะจึงได้เอ่ยขึ้นลอย ๆ ว่า
“เราน่าจะหาเด็กสักคนมาเลี้ยงบ้างนะอิทจัง”
อิทสึกิอมยิ้ม หันมาหา พลางถาม “แน่ใจหรือ ว่านายจะอดใจไม่ทำได้ตอนเลี้ยงเด็กน่ะ”
รอยยิ้มกลับมาเป็นราชินีมั่นคนเดิมแล้ว เมื่อตอบไปว่า “ถ้าเป็นลูกของพวกเรา ก็ต้องหื่นเหมือนพวกเราสิ กะอีแค่ถ้ำมองพวกเราสนุกกัน มันเรื่องธรรมดาอยู่แล้วนิ”
“คานาเมะ!” ชายหนุ่มอดดุไม่ได้ หากอีกฝ่ายกลับหัวเราะขบขัน รู้ได้ว่าพูดเล่น
อิทสึกิกอดร่างบอบบางนั้นไว้แนบอกอย่างอ่อนโยน “ไว้เมื่อพวกเราพร้อม ค่อยหาเด็กน่ารักแบบนั้นซักคนมาเลี้ยงก็ได้ แต่ว่านะ..ตอนนี้ ฉันอยากกอดนาย แบบไม่มีเด็กมาคอยจ้องมากกว่า ทำเด็กเสียคนมันบาปนา”
“ก็กอดสิ นายอย่าลืมนะอิทจัง ว่านายใส่อะไรไว้ในตัวชั้นน่ะ ชั้นตอนนี้น่ะ กดนายได้สามวันสามคืนแน่ ๆ”
“นายอยากกดก็กดสิ แต่ก่อนอื่น เราเข้าไปในโซนคู่รักกันก่อนดีมั้ย”
“นายยังไม่ขอบคุณซึคิจังเลยนะ ดูซิ กวนเขากระทั่งวันสำคัญ” คานาเมะแย้ง
“อา..จริงสิ” ชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปหา เขานึกถูกชะตากับพ่อหนุ่มใส่แว่นคนนี้มานานแล้ว เพราะเจอกันทีไรดูเหมือนเขาจะสร้างปัญหาให้ซึคิยะแทบทุกครั้ง ชายร่างเล็กยิ้มให้ ดวงตาใต้แว่นดูน่ารักไม่น้อย แม้แว่นหนาเตอะจะบดบังมันไปเยอะ แต่สำหรับอิทสึกิ เขาไม่มองใครนอกจากคานาเมะอยู่แล้ว จึงไม่ได้สนใจมากนัก นอกจากกล่าวคำขอบคุณ พร้อมน้อมรับคำเตือนอีกชุดใหญ่ ช่างสมกับเป็นเพื่อนแสนดีของคานาเมะจริง ๆ
ราวล่วงรู้ว่าคู่หูสุดสวีทยังหวานกันไม่พอ ชายหนุ่มร่างเล็กจึงขอตัวกลับก่อน เขายังมีงานต้องทำ และไม่คิดจะเดทในวันคริสต์มาสเช่นนี้เท่าใดนัก จึงล่ำลาแล้วจากมา
หัวใจสองซีกที่แยกจาก ถูกประกบเข้าหากันอีกครั้ง ราวหัวใจของคนทั้งสองในยามนี้
ที่ในที่สุด...ก็หากันจนเจอ
ดวงไฟสีแดงสดสว่างวาบ เมื่อผ่านเข้าไปในโซนคู่รัก คนทั้งคู่เอนซบพิงกันอย่างอบอุ่น ก้าวเดินโดยไม่ได้ใส่ใจต่อสายตาผู้ใด หวานจนคนคุมทางเข้าแอบอิจฉาเลยทีเดียว
โดมกว้างปรับให้ค่อนข้างมืด ด้านล่างส่วนทางเดินมีวัตถุเรืองแสงขนาดเล็กติดเป็นระยะราวกับในโรงหนัง ทำให้ไม่เดินสะดุด พื้นที่กว้างภายในทำด้วยวัสดุนุ่มยืดหยุ่นสามารถนั่งนอนได้ตามสะดวก ผนังด้านข้างมีไฟสลัวนวลตาดูอบอุ่นเป็นช่วง ๆ กับภายในที่เปิดฮีตเตอร์ ช่วยให้อากาศภายใน ไม่ร้อนและหนาวจนเกินไป
เพดานสูงที่ทำด้วยกระจกใส ทำให้เห็นดวงดาวมากมายบนท้องฟ้า และไฮไลท์สำคัญ ต้นคริสต์มาสขนาดยักษ์ด้านข้าง ที่จะจุดไฟตอนเที่ยงคืน สำหรับให้คู่รักอธิษฐานให้ความรักยืนยาวมั่นคง
บรรยากาศช่างเป็นใจนัก ซุ้มด้านข้างมีผ้าห่มผืนใหญ่ลายการ์ตูนน่ารักของทางสวนสนุกวางจำหน่าย คล้ายบ่งบอกเป็นนัย ว่าถ้าจะทำอะไรใต้ผ้าผืนนั้น จะไม่มีใครสนใจ
ก็คนที่เข้ามามีแต่คู่รัก ใครจะมองคนอื่นนอกจากคนรักของตัวเอง
คนทั้งสองซุกตัวใต้ผ้าห่มผืนเดียว พื้นนุ่มนิ่มราวเตียงชั้นดีขนาดนี้ มีหรือจะยอมนอนกันเฉย ๆ แต่นั่นต้องรอไว้ก่อน เพราะค่ำคืนที่วิ่งวุ่น ทำให้เวลาหวานยามเที่ยงคืน ซึ่งเริ่มใกล้เข้ามาทุกทีมาถึงจนได้
ร่างบอบบางเอนกายแอบอิงหาไออุ่น เสียงนุ่มกระซิบสุขสันต์วันคริสต์มาส วันเดทครั้งแรก แล้วก็ยังเป็นวัน…พบกันเป็นครั้งแรก เมื่อปีก่อน ช่างเป็นวันแห่งความทรงจำเสียจริง
และในวันนี้ ก็เป็นอีกวัน ที่จะเป็นวันแห่งความทรงจำเช่นกัน
“ชั้นมีของขวัญจะให้นายด้วยนะ” คานาเมะพึมพำเสียงเบา ด้วยไม่อยากรบกวนคู่รักคู่อื่น ๆ
“ฉันก็มีเหมือนกัน เรามาแลกกันเปิดดีมั้ย” อิทสึกิต่อยิ้ม ๆ
“เอางั้นก็ได้ แต่ของขวัญของชั้น นายต้องใช้เลยนะ”
“ถ้างั้นของฉัน นายก็ต้องใช้เหมือนกัน” ชายหนุ่มต่อรอง
ทั้งคู่มองหน้ากันแล้วอมยิ้ม “เราใช้ด้วยกันเลยก็แล้วกัน ท่าทางพื้นนี่คงแข็งแรงพอ นายระวังเสียงหน่อยคงพอไหว” อิทสึกิสรุปง่าย ๆ
“แหม ชั้นรู้ดีหรอกน่า เอานิ้วนายมาคาบไว้แทนก็ได้ เผลอ ๆ จะงับให้ซะเลย”
“ถ้าแค่นิ้วอยากงับก็งับไป แต่เจ้าหนูของฉันห้ามเด็ดขาดเชียวนะ” ชายหนุ่มรีบปราม
คนฟังแย้มยิ้มเจ้าเล่ห์ ตอบกลับว่า “ไม่งับหรอกน่า ถ้ามันหมดสภาพก่อนวันที่สาม ชั้นก็อารมณ์ค้างพอดีสิ”
“นี่นายจะทำสามวันสามคืนจริง ๆ เหรอเนี่ย” คนถามเริ่มเหงื่อตกอีกครั้ง
“นายคิดว่าชั้นพูดเล่นหรือไง คืนนี้ที่นี่ ส่วนอีกสองคืน ที่บ้าน ลงบัญชีไว้ด้วยล่ะ” ราชินีหนุ่มกำชับ ทาสอย่างอิทสึกิจึงทำได้แค่รับคำ
“ตามแต่บัญชาราชินีขอรับ แต่อย่าลืมใช้ของขวัญด้วยล่ะ”
อีกไม่กี่นาทีจะเที่ยงคืน นาฬิกาเรือนโตประดับไฟในโดมกว้างสว่างวูบ และเริ่มนับถอยหลัง ค่ำคืนคริสต์มาสสุดสวีทกำลังมาเยือน ดวงไฟมากมายหลากหลายสีสันบนต้นคริสต์มาสต้นสูงใหญ่ถูกจุดขึ้นทีละน้อย ระยิบระยับงามตา เมื่อมองขึ้นจากหลังคาโดมใส รับกับดวงดาวนับพันบนท้องฟ้า ทั้งคู่หลับตาพร้อมกันแล้วอธิษฐานร่วมกัน
ครู่ใหญ่หลังอธิษฐานจบ ทั้งคู่ก็หันมาสบตากันอีกครั้ง ไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำใด ๆ เพราะทุกอย่างบ่งบอกผ่านดวงตาหมดสิ้นแล้ว
ไม่จำเป็นต้องถาม ว่าขออะไร ด้วยรู้ความปรารถนาในใจของกันและกันเป็นอย่างดี
...เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป...
นั่นคือคำอธิษฐานของทั้งคู่
ความรักที่เริ่มจากความเข้าใจ ย่อมอยู่ยืนนาน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
...ในผู้คนนับร้อยนับพัน...
ในที่สุด เราสองก็หากันจนเจอ
…มีแต่เธอเท่านั้น ที่ใช่
เป็นคนเดียวที่รักและเข้าใจ…
เป็นคนที่เกิดมา
…เพื่อกันและกัน…
http://www.youtube.com/watch?v=WrQx_Rk3rREสิ่งที่ฉันหวัง สิ่งที่ฉันคอย
อาจดูเหมือนเลื่อนลอย เกือบจะฝันไป
มองหาคน ๆ หนึ่ง ที่ไม่รู้เป็นใคร
และไม่รู้เมื่อไหร่ จะพบคนผู้นั้น
ส่วนชีวิตฉัน บอกเลยว่ามี
เจอะคนที่แสนดี อยู่ทุก ๆ วัน
เพียงแค่ไม่มีใคร ที่จะฝันตรงกัน
แต่ว่าฉันมั่นใจ จะพบในไม่ช้า
อาจบางทีในเมืองกว้างใหญ่
หมอกและควันช่วยกันพรางตา
มีขอบรั้วขอบกำแพงสร้างมา
ตึกระฟ้าคอยบังเราอยู่
แต่เราก็หากันจนเจอ
มันนานแค่ไหนที่คอยเธอมา
รู้สึกไหมว่าชีวิตคุ้มค่า
เมื่อมีใครสักคนข้างกาย
เกิดมาเพื่อหาใครคนหนึ่ง
เป็นคนที่ฟ้าสร้างมาตรงใจ
เราต่างรู้โลกมันแสนกว้างใหญ่
แต่มันคงไม่ยากเกินไป
ที่ฉันจะพบเธอ
อาจมีสักครั้งที่เราสองคน
ผ่านทางที่วกวน อยู่ใกล้ ๆ กัน
ใบไม้เพียงใบหนึ่ง หล่นตอนที่เดินผ่าน
ฉันคงจะมองมัน เมื่อเธอเดินผ่านมา
อาจบางทีในเมืองกว้างใหญ่
หมอกและควันช่วยกันพรางตา
มีขอบรั้วขอบกำแพงสร้างมา
ตึกระฟ้าคอยบังเราอยู่
แต่เราก็หากันจนเจอ
มันนานแค่ไหนที่คอยเธอมา
รู้สึกไหมว่าชีวิตคุ้มค่า
เมื่อมีใครสักคนข้างกาย
เกิดมาเพื่อหาใครคนหนึ่ง
เป็นคนที่ฟ้าสร้างมาตรงใจ
เราต่างรู้โลกมันแสนกว้างใหญ่
แต่มันคงไม่ยากเกินไป
ที่ฉันจะพบเธอCredit: หากันจนเจอ - กบ ทรงสิทธิ์ & กบ เสาวนิตย์
เนื้อเพลง: หากันจนเจอ; อัลบั้ม: Mars & Venus
..........................................
TBC (มีสวีทแบบเต็ม ๆ ก่อนจบตอน คราวหน้าค่ะ
)