<เรื่องสั้น และ นิยาย> เด็กฝึกงาน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <เรื่องสั้น และ นิยาย> เด็กฝึกงาน  (อ่าน 147555 ครั้ง)

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #120 เมื่อ12-04-2010 17:48:50 »

คุณศิลาจะฟิตไปไหนเนี่ย.....น้องพีอาจช้ำในตายได้ หุหุ

หลังจากความสุขผ่านไป เหมือนมีเค้าความทุกข์ตามมาติดๆเลย (คงไม่เป็นอย่างนั้นนะ)

รออ่านต่อจ้า o13

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #121 เมื่อ12-04-2010 22:46:58 »

ใจเย็นค่ะคุงพี่หยก น้องพีช้ำกันพอดี นะ  :z1:

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #122 เมื่อ12-04-2010 23:01:36 »

 :m25: o13

ash

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #123 เมื่อ14-04-2010 12:28:07 »

สนุกมากเลยค่ะ
พึ่งมาอ่าน ไม่น่าพลาดเลยเรื่องนี้
รออ่านแบบพิเศษต่อไป :L1:

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #124 เมื่อ16-04-2010 14:53:25 »

ภาคต่อ ตอนที่ 3
“คุณแจ๊คคะ โทรศัพท์จากเมืองไทยค่ะ” แม่บ้านวัยกลางคนถือโทรศัพท์ไร้สายมาให้ชายหนุ่มที่นั่งจิบไวน์อยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่น
“ขอบคุณ” เขาตอบรับแม่บ้านและกรอกเสียงลงไป “ฮัลโหล”
“ฮัลโหล พี่แจ๊คเหรอครับ...” เสียงออดอ้อนจากปลายสาย คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากชิกิ หนุ่มน้อยคู่ขาของเขานั้นเอง
“ครับ ว่าไงเบ่บี๊...” เขามักแทนฝ่ายตรงข้ามว่าอย่างนั้น
“ป่าปี๊...ไปฮ่องกงทำไมไม่ชวนเค้าไปด้วย” ปลายสายกระเง้ากระงอด
“อ่อ ไปแค่สองวันเองนะ” เขาพูดเรียบ ๆ เพราะปกติแล้วเขาก็ไม่เคยพาใครเข้าบ้านอยู่แล้ว ไม่ว่าจะสนิทชิดเชื้อหรือถูกใจแค่ไหนก็ตาม
“เหรอ งั้น กลับเมืองไทยเมื่อไหร่อย่าลืมโทรหาเค้านะ”
“อืม จ้ะ”
“แล้วอยู่ฮ่องกงเนี่ยะ เจอใครน่ารัก ๆ มั่งไหม” ปลายสายถามมา
“ก็...” พลกฤษณ์เว้นวรรค แต่ก็พูดออกไปว่า “ไม่มีหรอก เจอแต่คนอ้วน ๆ หน่ะ ท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ด้วย”  เขาตอบไปด้วยนึกถึงคนที่เพิ่งเจอเมื่อตอนกลางวัน
“เหรอ คนฮ่องกงนี่น่าอิจฉาเนอะ คงจะมีอะไรอร่อย ๆ เลยกินจนอ้วน”
“ฮ่ะ ๆๆๆๆ”
“คิดถึงป่ะปี๊นะ” ปลายสายออดอ้อน
“ค๊าบบ คิดถึงเบ่บี๊เช่นกัน” แล้วเขาก็วางสายไป
 ชิกิเป็นหนุ่มน้อยลูกครึ่งญี่ปุ่นที่เขากำลังคบหาอยู่ แต่ก็แน่นอนล่ะ ไม่ได้มีแค่หนุ่มน้อยคนนี้คนเดียว และชิกิเองก็ไม่ได้มีเขาแค่คนเดียวเช่นกัน
  เหมือนทั้งสองมองความสัมพันธ์แบบนี้เป็นเหมือนอาหาร ที่แต่ละคนที่คบหาอยู่นั้นเหมือนเป็นอาหารหลากรส แต่ตัวเองนั้น ย่อมมีอาหารที่เป็นจานโปรดก็แน่นอนว่าก็ต้องพึงพอใจมากเป็นพิเศษ
แต่จะให้กินซ้ำ ๆ กันทุกวันก็เบื่อกันพอดี มันก็ต้องเปลี่ยนไปกินอย่างอื่นบ้าง ชีวิตจะได้มีสีสัน
ก็อย่างนี้หล่ะ ชีวิตและความสัมพันธ์ที่ไม่มีพันธะของ “ผู้ชายที่เลือกได้”
  เขาขยับแก้วไวน์แล้วกรุ่นคิดถึงศิลา ที่เขาเพิ่งพบว่าเพื่อนเขาคนนี้ก็มีรสนิยมแบบเขาเหมือนกัน เขาไม่เคยนึกมาก่อนว่า ผู้ชายที่ดูจริงจังและเคร่งครัดไปซะทุกเรื่องอย่างศิลา อยู่ดี ๆ จะเปลี่ยนมาชอบผู้ชายไปได้  แถมเป็นเด็กหนุ่มอายุน้อยกว่าอีกด้วย
เขาคิดว่า “ไอ้หยกต้องกับน้องคนนั้นต้องแอบคบกันแน่ ๆ เพราะดูจากแววตาของมันแล้วเหมือนมันจะระแวงเราชอบกล...หรือมันกลัวเราไปยุ่งกับเด็กมันวะ หึหึ”
“แต่น้องคนนี้ก็ดูท่าทางหวงตัวใช่น้อย” เขานึกถึงตอนที่พีร์เชิดใส่เขาอย่างไม่สนใจ เพราะปกติแล้ว ไม่ว่าใครก็แล้วแต่มักจะเล่นหูเล่นตากับเขา หรือไม่ก็มีท่าทีตอบรับ ซึ่งต่างเด็กหนุ่มที่แสดงออกว่าไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย
แต่เด็กหนุ่มเองก็ไม่ใช่สเปคเขาเช่นกัน พลกฤษณ์ชอบแบบที่อายุน้อยกว่าก็จริง แต่เขามักจะสนใจแต่พวกผิวขาวใส ร่างบอบบาง และหน้าตาหวานใส แต่กับคนรักของเพื่อนนี้ช่างตรงกันข้ามกันเกือบทุกอย่าง ยกเว้นหน้าตาจิ้มลิ้มและแววตาสดใสคู่นั้น
 พลกฤษณ์คิดว่าเรื่องนี้คงไม่มีใครในครอบครัวศิลารู้แน่ และยิ่งเจ้าตัวมีภรรยาเป็นตัวเป็นตนอยู่ที่บ้าน พร้อมลูกอีกสองคน ไหนจะพ่อแม่ที่แสนจะเคร่งครัดของทั้งคู่อีก
    เขานึกหัวเราะ เมื่อนึกถึงพ่อแม่ของเขาเอง ที่ตอนนี้ออกไปเล่นกีฬากับเพื่อนฝูงอย่างสนุกสนานข้างนอก เขารับรองได้ว่าพ่อแม่ของศิลาคงไม่มีวันทำอย่างพ่อแม่เขาได้แน่ ๆ เพราะพ่อแม่เขาไม่เคยถือสาและรังเกียจเรื่องรสนิยมของเขาเลยแม้แต่น้อย แถมยังแซวเล่นกันเป็นเรื่องปกติของครอบครัว เขานึกถึงพ่อแม่ของศิลาที่แสนจะเคร่งครัดกับลูกชายคนนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว และศิลาก็เป็นเด็กดีของพ่อแม่มาตลอดเสียด้วย จนกระทั่งวันนี้ เขาแน่ใจว่า สิ่งที่ศิลากำลังทำและเป็นอยู่ คงจะต้องเจออุปสรรคมากมายในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน
“โชคดีว่ะ หยก” เขารำพึงออกมาและยกแก้วไวน์กับอากาศ ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว เขาก็ได้แต่เอาใจช่วยเพื่อน กับการเผชิญปัญหาครั้งใหญ่ในชีวิต

“สวัสดีค่า เพื่อนสาว” ปกรณ์กดรับโทรศัพท์เมื่อเห็นว่าเป็นสายของนลพรรณ เพื่อนรักของตน
“หวัดดีจ้ะ นี่ทำอะไรอยู่เนี่ยะ”
“เพิ่งออกจากฟิสเนสค่ะ แค่คุยได้นะคะ เมาท์มามีอะไรยะ”
“ก็...ชั้น ทะเลากับหยกอ่ะ”
“ทะเลาะกันเหรอ...เรื่องอะไร” ปลายสายเริ่มสนใจ “อย่าบอกนะว่าเรื่องเกี่ยวกับนังหนูนั่น”
“จะว่าใช่ก็ใช่นะ”
“มีอะไรกันเหรอยะ เล่ามาสิ สามีเธอเหวี่ยงอะไรมากมายไหมฮะ”
“ก็คือว่า หยกโกรธมากเมื่อรู้ว่าชั้นนัดเจอน้องพี”
“ได้ไงยะ เค้าก็น่าจะรู้ว่าแกเป็นคนดีศรีอยุธยา” เพื่อนสาวเว้นวรรค “อีกอย่าง เค้าก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าแกกับน้องพีเคยเจอกันแล้ว”
“คือ ชั้นนัดกับน้องพีอีกครั้งนึงหน่ะ แต่ว่าครั้งนี้ชั้นนัดตาพจมาด้วย”
“ว๊ายยยย น้องพจไปด้วยยย”  ปกรณ์สาวแตกอย่างเก็บไม่อยู่ “ทำไมยะ ทำไมเอาสามีของชั้นไปด้วย”
“น้อย ๆ หน่อยนังเป้” นลพรรณส่ายหน้า “ก็ชั้นอยากให้พวกเค้าได้รู้จักกัน” เธอเว้นวรรค “น้องพีแกน่ารักดีนะ ชั้นก็ชอบน้องเค้าเหมือนกัน ชั้นเลยอยากให้พจรู้จักไง เผื่อน้องเค้าจะไว้ใจชั้นมากขึ้น”
“เหรอ...”
“อีกอย่างนะ ชั้นอยากรู้ว่าตาพจชอบผู้ชายหรือเปล่า” เขากล่าวเบา ๆ
“ว๊ายยย ไม่ต้องไปเจอนังหนูตาแป๋วนั่นหรอกค่ะ เจอชั้นก็พอ”
“บ้าเหรอ กระเทยล็อตไวเล่อร์อย่างแกเนี่ยนะ” นลพรรณว่าเค้าให้
“แหมปากร้ายนะคะนังคนนี้”  แล้วก็ถามต่อ “ทำไมยะ ถ้าน้องแกเป็นเกย์ก็คือ ก็ต้องชอบนังหนูนั่นมั่งหล่ะ ใช่ไหม”
“ก็คงงั้น”
“ต๊ายยย แผนสูงนะคะ” ปกรณ์สะใจ “ถ้าน้องแกเป็นเกย์และชอบน้องพี แกก็ให้น้องพจแย่งน้องพีออกมาจากคุณหยกขาได้ ใช่มะ”
“บ้าเหรอ ชั้นไม่ได้คิดแบบนั้น”
“ชั้นไม่เชื่อ”
“ไม่เชื่อก็ตามใจแก ชั้นพูดได้แค่นี้จริง ๆ”
“ถ้างั้น ทำไมแกไม่หาวิธีอื่นมาพิสูจน์ล่ะ และอีกอย่างทำไมเพิ่งมาสงสัยอะไรเอาตอนนี้หะ”
“ก็น้องชั้นไม่เคยสนใจใครเลยหนิ วัน ๆ ชั้นไม่เห็นเค้าทำอะไรเลยนอกจากเรียน ไปตลาดหุ้น และก็กลับบ้าน”
“เหรอ เค้าไม่ได้บอกแกหรือเปล่า”
“เหอะ ชั้นกับน้องคุยกันทุกเรื่องนะ จำตอนเราอยู่มหาลัยได้ไหม ที่ชั้นเราเรื่องตาพจอกหักมาบอกแกอ่ะ”
“อืม จำได้ ๆ”
“น้องชั้นเล่าให้ฟังทุกเรื่องจริง ๆ นะแก ตอนนี้ก็เถอะ แต่ไม่เห็นเมาท์เรื่องสนใจใครเลย”
“อืมนะ แล้วนึกคึกยังไงถึงอยากให้เจอกับน้องพีล่ะคะ”
“ไม่รู้สิ น้องเค้าดูน่ารักดีนะ ชั้นก็เลยอยากรู้จักเค้ามากขึ้น อีกอย่างให้พจไปด้วย ก็ให้ชั้นแน่ใจไงว่า เค้าน่ารักจริง ๆ หรือเปล่า”
“เหรอ....ค่ะ เชื่อก็ได้ค่ะ” เขาพูดต่อ “แล้วว่าแต่ “คุณหยกขาของหล่อน ๆ หน่ะ เหวี่ยงอะไรมั่งคะ”
“หยกหาว่าชั้นจะจับคู่ให้ตาพจ”
“ค่ะ เป็นใครใครก็คิด”
“เหรอ ทำไมอ่ะ”
“ก็แหม น้องแก ก็ไม่มีแฟน น้องพี ก็แสนจะเป็นสาวน้อยในโลกสีชมพูซะขนาดนั้น”
“ชั้นไม่รู้”
“อืม คงงั้น เพราะแกเป็นชะนี” ก่อนจะพูดต่อว่า “ต๊ายยย งั้นก็แสดงว่า คุณหยกขาเข้าสู่ความเป็นชาวเราเต็มตัวสิคะ”
“ทำไมอ่ะ”
“ก็หึงซะจนมาทะเลากับแกไงล่ะ”
“อืม ก็ใช่อ่ะ เค้าดูหวงน้องพีมาก..” นลพรรณพูดเบาๆ อย่างน้อยใจเล็ก ๆ
“โถ ก็ต้องเข้าใจค่ะ คนเค้าไม่เคยมีแฟนเป็นของตัวเอง”
“อืม ชั้นก็พยายามคิดอยู่”
“เออ แล้วตอนนี้คุยกันหรือยังคะ”
“ยังเลย หยกไปฮ่องกงหลังจากที่ทะเลาะกับชั้น”
“แรงนะคะ หอบผ้าหอบผ่อนหนีกันเลยเนี่ยะ”
“เค้าไปทำงานพอดีจ้ะ”
“อ่าวเหรอ ค่อยโล่งหน่อย ว่าแต่นังหนูนั่นไปด้วยหรือเปล่า”
“อืม ก็ใช่นะ”
“ต๊ายยย ตายยยย แรงค่ะแรง”
“อืม ชั้นอยากให้หยกเค้าทำอะไรบ้างหน่ะ ดูแล้วเค้าเหมือนไม่สนใจคนอื่นเลยว่าจะคิดยังไง”
“ก็เป็นธรรมดาค่ะ ใครจะไม่หวงเมียตัวเองคะ นี่ดีนะคะ ไม่กันแม้กระทั่งหมาตัวผู้” ปกรณ์กลั้วหัวเราะ
“ขนาดนั้นเลยเหรอ...”
“ค่ะ เป็นธรรมชาติค่ะนังแพรว แต่ตอนนี้ชั้นแนะนำว่าแกควรเคลียร์กับคุณหยกให้เรียบร้อย เพราะเรื่องนี้ เป็นเรื่องของพวกแกสองคนจริง ๆ นะ”
“อืม ก็คงอย่างนั้นหล่ะ แต่หยกเค้าก็คงฟังชั้นบ้างล่ะ”
“ก็ขอให้เป็นอย่างนั้นล่ะค่ะ” ปกรณ์ให้กำลังใจเพื่อน “อุ๊ย ๆๆ มีสายเข้าอ่ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะยะ เจอกันค่อยเมาท์อีกที”
“โอเค ขอบใจมากนะเป้ บายจ้ะ”
“จ้ะ”  เธอกดวางสายและถอนหายใจหนัก ๆ อย่างคนใช้ความคิด เธอไม่อยากให้ศิลากลายเป็นคนที่ตาบอดเพราะความรักที่เขามีเลย
  เธอไม่กังวลในตัวพีร์ ถึงแม้จะรู้จักกันไม่นาน แต่ก็พอเห็นแล้วว่าหนุ่มน้อยใจคอเด็ดเดี่ยวเพียงไหน  แต่กับศิลาที่แสดงออกว่าเวลานี้เขาไม่ฟังใครทั้งนั้นหน่ะสิ ที่เธอกังวลว่า เขาจะทำยังไงกับเรื่องของตัวเอง เพราะเท่าที่เห็นอยู่นี้ ศิลาเหมือนจะไม่สนใจใครเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไปแล้ว
เธอกลัวใจของศิลาจริง ๆ
เสียงโทรศัพท์ดังไล่ความคิดนั้นออกจากหัว มองที่หน้าจอก็ปรากฏว่าเป็นศิริพจน์ที่โทรมา
“ฮัลโหล พี่แพรว อยู่ไหนครับเนี่ยะ”
“อยู่ที่บ้านคุณพ่อคุณแม่หล่ะ คืนนี้พี่พาหลานมานอนที่บ้านเรา มีอะไรหรือเปล่าพจ”
“อ่อ เปล่าฮะ พจนึกว่าพี่แพรวอยู่บ้านพี่หยก คือ พจอยากเจอพี่อ่ะฮะ”
“งั้นก็รีบกลับบ้านเลย ว่าแต่มีเรื่องสำคัญอะไรหรือเปล่า”
“มีสิฮะ แต่เดี๋ยวรอเจอพี่แพรวดีกว่า พจค่อยบอก”
“ได้จ้ะ ได้ ไว้รีบมาบอกพี่ที่บ้านละกันนะ”

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #125 เมื่อ16-04-2010 20:14:11 »

อีป้าแก่ๆ อยากอ่านอีก +1 จัดไป อย่าให้เสีย  :pigha2:

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #126 เมื่อ16-04-2010 20:45:03 »

อ่า...พจชอบน้องพีแน่ๆเลย...

แต่อย่างน้อยคู่แข่งตัวแรงแบบเพื่อนพี่หยก ก็คงไม่น่าจะมาสนใจน้องอ่ะนะ...

จบแบบค้างๆ แต่รออ่านต่อนะจ๊ะ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #127 เมื่อ16-04-2010 23:25:52 »

ค้างอะ  :serius2:

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #128 เมื่อ17-04-2010 12:16:06 »

ต่อด่วนนนน

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #129 เมื่อ17-04-2010 12:30:44 »

ขัดใจกะพี่สองคู่นี้จริงๆ  :serius2: :beat:
นายศิลาชัดเจนได้แล้ว
เคลียร์จริงจังซะที
สงสารน้องพี อุปสรรคเรียงหน้ามาแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
« ตอบ #129 เมื่อ: 17-04-2010 12:30:44 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #130 เมื่อ17-04-2010 15:47:45 »

ภาคต่อ ตอนที่ 4
“อ่าว ตาพจ ว่าไง มีอะไรจะบอกพี่เหรอ” นลพรรณเห็นศิริพจน์ท่าทางดีใจเป็นพิเศษ ก็เลยถาม
“พี่แพรว พจน์ได้งานทำแล้ววววว!!” เขาเข้ามาบอกกับพี่สาวอย่างดีใจ
“เหรอ ที่ไหนล่ะ”
“ตลาดหลักทัพย์พี่แพรว” เขาอมยิ้ม
“ดีใจด้วยนะจ๊ะพจ เธอเก่งจริง ๆ เลย” นลพรรณยินดีกับน้องชายที่ในที่สุดก็ได้งานในฝัน เพราะน้องชายของเธอคนนี้สอบโบรกเกอร์ผ่านอย่างไม่ยากเย็นหลังเรียนจบ เธอยิ้มปลื้มกับน้องชายจากใจจริง
“ครับ ขอบคุณครับ”  เขายิ้มรับ เพราะถ้าเป็นพ่อกับแม่ของเขาคงจะดูไม่ดีใจขนาดนลพรรณแน่ ๆ เพราะไม่อยากให้ศิริพจน์ไปทำงานนอกบ้าน เขาพูดต่อ “พ่อกับแม่คงไม่ดีใจขนาดนี้แน่ ๆ”
“ไม่หรอกพจน์ พวกท่านแค่ไม่อยากให้เราไปทำงานนอกบ้านก็เท่านั้น”
“ไม่ได้หรอกครับ ถ้าวันไหนผมไม่ได้เห็นหุ้นวิ่งขึ้นวิ่งลง ผมคงขาดใจตาย ฮ่ะ ๆๆ” ชายหนุ่มหัวเรากับความคิดของตนเอง
  นลพรรณย้อนนึกถึงน้องชายคนนี้ของเธอ ศิริพจน์ดูเป็นผู้ชายที่เหมือนจะไม่มีอะไรก็จริง แต่ความจริงแล้วเป็นคนที่มีอุดมการณ์กับชีวิตตนเอง จึงทำให้เป็นคนที่ไม่ยอมคน และบางครั้งก็ดื้อเงียบ เรื่องนี้พ่อกับแม่ของเธอรู้ดี เพราะศิริพจน์เป็นลูกคนเดียวที่พวกท่านไม่สามารถเข้าไปจัดการชีวิตของเขาได้อย่างเต็มที่เหมือนลูกคนอื่น เพราะถ้าศิริพจน์อยากทำอะไรแล้ว ก็ไม่มีสิ่งไหนที่จะขวางเขาได้สำเร็จเลย
 “พี่แพรว แล้วนี่พี่หยกกลับมาเมื่อไหร่อ่ะฮะ” เขาถามถึงศิลาพร้อมนั่งลงข้าง ๆ พี่สาว
“อืม พรุ่งนี้หน่ะ” นลพรรณกล่าวด้วยสีหน้าปกติ
“เหรอฮะ”
“อืม...”
“เอ่อ พี่แพรวครับ” ศิริพจน์อ้อมแอ้มเรียกพี่สาว
“มีอะไรอีกเหรอพจน์”
“พี่แพรวคิดว่าผมเป็นคนแบบไหนเหรอครับ” เขาถามพี่สาวเบา ๆ
“เป็นคนแบบไหนเหรอ...”
“เป็นคนแบบไหนในสายตาคนอื่นอ่ะครับ”
“ก็เป็นคนที่ดูธรรมดาทั่วไปล่ะ”
“แล้วไงครับ”
“ก็ถ้าสนิทกับเราสักหน่อยก็จะรู้ว่าพจน์เป็นคนที่สนใจคนรอบข้างมาก ๆ แล้วก็ขี้เหนียวมาก ๆ อีกด้วย”
“โธ่ พี่แพรว เอาจริงสิครับ”
“ก็ไม่เห็นว่าเราจะทำตัวหรูหราเลยหนิ”
“ก็ไม่รู้อ่ะครับ ผมไม่รู้จะเอาเงินไปซื้ออะไรให้ใครดี ผมยังไม่มีแฟนซะหน่อย”
“เหรอ....แล้วอยู่ดี ๆ ทำไมถามพี่แบบนี้นี้หล่ะ หึ”
ก็แค่อยากรู้อ่ะครับว่ากับคนอื่นแล้วผมเป็นคนยังไง ทำไมผมถึงยังไม่มีแฟนซะที”
“แล้วบรรดาคนที่พ่อแม่พามาดูตัวล่ะจ๊ะ ไม่ชอบสักคนหรือไง”
“ไม่อ่ะครับ” เขาส่ายหัว
“แล้วตอนนี้เราอยากมีแฟนหรือเปล่าล่ะพจน์”
ศิริพจน์คิดนานกับคำถามนี้ ก่อนจะตอบไปว่า “ไม่รู้อ่ะครับ ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”
“แล้วตอนนี้เราแอบชอบใครหรือเปล่าล่ะ”
“ไม่น่า..พี่แพรว” เขายิ้ม ๆ “ช่างเถอะครับ สักวันเค้าก็คงจะมาเองล่ะมั๊ง”
นลพรรณยิ้ม ๆ กับน้องชาย “จ้า ก็ขอให้เจอเร็ว ๆ ละกัน แต่จะว่าไปนะ น้องพี่ก็เป็นผู้ชายที่ดีนะ แต่ช่างเลือกไปหน่อยก็เท่านั้น”
“ครับ หุหุ”
“แล้วตอนนี้พจน์ชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอ”
“ผู้หญิงแบบไหนเหรอ” เขาทวนคำถามพี่สาว “ตอบยากนะ พี่แพรว” เขาหลุดปากถามนลพรรณ
“แล้วถ้าคนที่ผมชอบไม่ใช่ผู้หญิงล่ะ พี่แพรวจะว่าไง” เขาถามทีเล่นทีจริง
“เฮ้ยย ตาพจน์ นี่พูดจริงเหรอ” เธอหัวเราะ เพราะขันที่น้องชายล้อเล่นมุขนี้ “ก็ต้องดูก่อนล่ะ ว่าเค้าเป็นไง”
“พี่คงชอบเค้าน่า...” ศิริพจน์หยอกเย้า
“เฮ่ยย ตาพจ นี่เราหมายความว่ายังไงเนี่ยะ นี่พูดเล่นใช่ไหมฮะ” เธอเริ่มสงสัย
“ผมพูดเล่น ฮ่ะ ๆๆๆๆๆ” เขาหัวเราะออกมาเมื่อเห็นพี่สาวเริ่มเครียด
“เหรอ พี่ก็นึกว่าเราพูดจริงซะอีก” นลพรรณเล่นไปกับน้องชายด้วย
“แหม ก็พี่แพรวเคยพาผมไปเจอผู้ชายไม่ใช่เหรอครับ” เขานึกถึงตอนที่พี่สาวพาไปเจอกับพีร์
“พี่ก็แค่อยากให้เราไปช่วยดูว่าน้องคนนี้โอเคไหมกับพวกเรา” เธอพูดต่อ “อีกอย่างน้องเค้าไม่ใช่ผู้หญิงซะหน่อย คิดอะไรไปได้นี่ตาพจน์”  เธอต่อว่า เพราะศิริพจน์เองก็ไม่น่าคิดแบบนั้น
“อืม เหรอครับ ว่าแต่นึกยังไงอยากไปรู้จักกับเค้าได้ล่ะครับ”
“ก็...” เธอเว้นวรรค “เรื่องมันยาวหน่ะจ้ะ เอาไว้เล่าให้ฟังวันหลังละกัน แต่รวม ๆ แล้ว น้องเค้าน่ารักดี พี่ก็อยากมีน้องอารมณ์แบบนี้บ้างเหมือนกัน”
“เหรอฮะ แล้วนี่พี่หยกไม่ว่าเอาเหรอ ไปตีซี้กับเด็กหนุ่มแบบนี้” เขาสัพยอกพี่ตัวเอง
นลพรรณยิ้มเพื่อซ่อนความรู้สึก แต่ศิริพจน์ก็ถามต่อว่า
“แล้วพีเนี่ยะ เค้ามีแฟนหรือยังเหรอฮะ” ศิริพจน์ถามออกไป
“หืม ทำไมเหรอ”
“ก็ถ้าเค้าโสด ก็น่าเป็นห่วงสิครับถ้าสนิทกับพี่แพรวมาก ๆ” ศิริพจน์เป็นห่วงภาพลักษณ์ของพี่สาว
“อันนี้พี่ว่าพจน์ลองถามพี่หยกจะดีกว่านะ เพราะเค้าเป็นเจ้านายลูกน้องกัน น่าจะพอรู้บ้าง” เธอตอบยิ้ม ๆ ไม่ได้แสดงอาการโกรธหรือหงุดหงิดออกมา
“เหรอครับ”
“เอางี้สิ มะรืนนี้ไปกินข้าวบ้านพี่กัน แล้วเดี๋ยวค่อยถามเค้า โอเคป่ะ”
“ครับ” ศิริพจน์ยิ้ม ๆ
 แต่นลพรรณเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า ศิลาจะทำยังไงเมื่อได้ยินคำถามนี้จากศิริพจน์

“ถามทำไม!!” เสียงแข็งกร้าวตอบมาพร้อมแววตาขุ่นขวางจากศิลา เมื่อได้ยินคำถามนี้จากศิริพจน์
“ก็ ผมก็แค่อยากรู้หน่ะครับ เห็นพี่แพรวเค้าชอบพูดถึงแบบปลื้ม ๆ”
ศิลามองหน้านลพรรณอย่างขุ่นเคือง พร้อมกับพูดกับศิริพจน์ “พี่ว่าไม่ล่ะมั๊ง พี่สาวเราคงอิจฉาน้องเค้าล่ะมากกว่า”
“นี่คุณ...” นลพรรณชักทนไม่ไหว
“เค้ามีแฟนแล้ว!” ศิลาตอบศิริพจน์ด้วยเสียงแข็งกร้าวด้วยความหึงหวงอย่างที่สุด
“เหรอครับ” ศิริพจน์รับคำ “งั้นก็ดีครับ พี่แพรวจะได้ไม่เสียหาย พี่หยกจะได้สบายใจได้ว่าพี่แพรวไม่ได้ใกล้ชิดหนุ่มคนอื่น” เขากล่าวยิ้ม ๆ
ศิลาเองที่เพิ่งนึกได้ว่าหลุดคำพูดรุนแรงออกไปมาก จึงมีท่าทีอ่อนลงเมื่อได้ยินคำพูดของศิริพจน์
“อืม ก็ใช่...” เขาตอบเสียงอ่อนลง

  ศิริพจน์รู้แล้วว่าที่พี่สาวตนเองให้มาถามศิลาเพราะอะไร จากท่าทางและแววตาของศิลาที่มองเขามานั้นเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมากในครั้งนี้ สัญชาตญาณเขาบอกว่าศิลามองเขาอย่างไม่ไว้ใจและเคลือบแคลงไปด้วยความหึงหวง และเมื่อเขาพูดถึงพีร์ ท่าทีของสายตาทั้งหมดยิ่งทวีความรุนแรงเด่นชัดขึ้น
    บ่งบอกชัดเจนแล้วว่าหนุ่มน้อยคนนี้เป็นของศิลา
    เพราะเหตุนี้นี่เองพี่สาวเขาถึงได้สนใจเป็นพิเศษ
    แต่ศิลาเองก็ไม่น่าจะหักหาญจิตใจของพี่สาวเขาได้ขนาดนี้   ถ้ามีรสนิยมแบบนี้ก็ไม่ควรจะมายุ่งกับพี่สาวเขาตั้งแต่แรก
แต่ก็จะทำไงได้ เพราะพ่อแม่บังคับกันทั้งคู่
  ศิริพจน์ถอนใจกับเรื่องของพี่สาว นี่นลพรรณต้องมาตกที่นั่งลำบากขนาดนี้เลยหรือนี่ และดูท่าว่าศิลาจะหวงฝ่ายนั้นมากเสียด้วย
   แต่อะไรก็ไม่เจ็บปวดเท่า เมื่อรู้ว่าพีร์มีเจ้าของแล้ว ศิริพจน์รู้สึกแปลบ ๆ ที่หัวใจ อย่างบอกไม่ถูก

“หยก...” นลพรรรณเข้ามาคุยกับศิลา ขณะที่เตรียมตัวนอน “หยก...คุณรู้หรือเปล่าหมู่นี้คุณดูหงุดหงิดง่ายมากเลยรู้ไหม”
“จะไม่ได้หงุดหงิดได้ไง ก็เพราะคุณหน่ะแหล่ะแพรว นี่คุณจะให้ตาพจน์มาแย่งน้องพีเหรอ หะ..คิดเหรอว่าผมจะเป็นเหมือนเดิม”
“คือ มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ ฟังแพรวนะหยก แพรวเองก็อยากรู้จักน้องพีมากขึ้น พี่แพรวให้พจรู้จักด้วย แพรวจะได้แน่ใจได้ไงล่ะว่าน้องเค้าโอเคไหม”
“เหรอ...” ศิลาทำเสียงไม่ค่อยเชื่อ
“คุณก็รู้ว่าแพรวกับน้องสนิทกันแค่ไหน”
“ก็ใช่ แต่คุณเห็นตาพจน์ตอนมองน้องพีไหมล่ะ” เขาหงุดหงิดเมื่อเห็นสายตาของศิริพจน์ตอนที่พูดถึงพีร์
“ทำไมอ่ะ”
“ก็...ฮึ้ยยย!!” เขาหงุดหงิดจนไม่สามารถพูดออกมาได้ด้วยความหึงหวง
“นี่หมายความว่า ตาพจชอบน้องพีเหรอ”
“ไม่รู้ล่ะ ผมไม่อยากคิดอย่างนั้น แต่ผมไม่ชอบก็แล้วกัน”
“แพรวจะไปเข้าใจได้ไงล่ะ แพรวไม่ได้เป็นอย่างพวกคุณนะ”
“ก็นั่นหล่ะ” เขาถอนใจ “เอาเป็นว่าผมขอโทษก็ละกันนะ แต่ผมขอร้องล่ะ ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก และก็บอกพจนด้วยว่า อย่ามายุ่งกับพี”
“อืม...” เธอรับคำ “แล้วนี่คุณจะทำไงต่อไปอ่ะ หยก แพรวอยากให้คุณแบ่งเวลาให้ถูกนะ ถ้าคุณพ่อคุณแม่สงสัยล่ะ”
“ช่างเค้าสิ” ศิลาตอบอย่างไม่ใส่ใจ “ผมเองก็อยากประกาศให้โลกรู้เหมือนกันว่าผมก็อยากมีชีวิตเป็นของตัวเองเหมือนกัน”
“ได้ไงอ่ะ แล้วลูกพวกเราล่ะ”
คำพูดนี้ทำให้ศิลาชะงักขึ้นมา “ผมขอโทษ” เขากล่าวเบา ๆ “โอเค ผมจะระวังตัวให้มากขึ้น”
“อืม แพรวขอล่ะหยก”
“อืม..โอเค”
   ศิลากับนลพรรณหันหลังให้กันอย่างขอใช้ความคิด นลพรรณเป็นห่วงสิ่งที่จะเกิดในอนาคตกับครอบครัวของเธอและน้องชาย ส่วนศิลาเองก็เช่นกันเขายังคิดไม่ตกเลยว่าจะจัดการกับส่วนต่าง ๆ ของชีวิตให้เรียบร้อยเหมือนเมื่อก่อนอย่างไร

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #131 เมื่อ17-04-2010 16:04:26 »

+1 เป็นกำลังใจนายศิลากะน้องพี
ใจเย็นๆ ค่อยๆ แก้ปมไปทีละเรื่อง

yunjaejoong

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #132 เมื่อ17-04-2010 20:15:02 »

หว้า...ชักจะเป็นห่วงน้องพีกะคุณศิลาซะแล้วล่ะซิ มีสุขแล้วก้อยอมมีทุกข์ตามมาแต่มันก้อจะผ่านไปได้ด้วยดีและน่ะเป็นกำลังให้น่ะ

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #133 เมื่อ17-04-2010 20:19:07 »

มันจะเป็นยังไงต่อไปเนี่ย ...  เรื่องของหยกกับพีร์เริ่มมีคนรู้เยอะขึ้น แถมยังเป็นน้องคุณแพรวอีก..

ท่าทางคู่นี้จะต้องเจออะไรอีกเยอะเลย...สู้ๆๆๆๆ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #134 เมื่อ17-04-2010 23:26:04 »

เริ่มส่อเค้าความยุ่งยากแล้วไงละ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #135 เมื่อ17-04-2010 23:33:59 »

ความวุ่นวายของแท้กำลังจะเริ่มจริงๆแล้วละสิ

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #136 เมื่อ19-04-2010 16:34:10 »

ตอนจบจะเจ็บมากไหมครับ

ANUNTAYA

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #137 เมื่อ19-04-2010 19:41:36 »

 :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:



หึงหวง

ตบจูบ



สุโคร่ย

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #138 เมื่อ21-04-2010 23:11:20 »

ภาคต่อ ตอนที่ 5
  ในเปิดเทอมนี้ พีร์มีตัวที่จะลงเรียนอีกแค่4 ตัว ก็จบแล้ว เท่ากับว่า เทอมสอง เขาก็ไม่ได้มาเรียนเหมือนเพื่อนนักศึกษาคนอื่น เขาเองก็คิดไว้แล้วว่าเวลาที่เหลือ จะหางานทำเลย
  เขายังใช้ชีวิตนักศึกษาตามปกติ โดยที่ศิลายังแวะเวียนมาหาเขาในบางวัน และนอนค้างกับเขาบ้าง พีร์เองก็รู้สึกดีเหมือนกันที่คนรักไม่ได้ละเลยที่จะไปมาหาสู่กับตนเอง ทั้งๆ ที่แสนจะหาเวลาว่างแทบไม่ได้และตัวเองก็มีที่พักอยู่ค่อนข้างไกลจากกรุงเทพฯ  และวันนี้ก็เช่นกัน
“น้องพีครับ อีกไม่กี่เดือนก็จบแล้ว...”  เขากล่าวขณะที่โอบกอดคนรักอยู่ในอก “ไปทำงานกับพี่นะ”
พีร์เงยหน้ามองศิลาที่ก้มหน้ามองเขาอยู่ “นะครับ...ทำงานที่บริษัทพี่นะ”
“จะดีเหรอครับพี่หยก” หนุ่มน้อยตอบ
“ดีสิครับ พี่ไม่อยากให้น้องพีอยู่ที่อื่นนะ” เขาออดอ้อน
“ครับ” เขารับคำเงียบ ๆ แล้วหลับตาลง แต่ในใจนั้นกลัดกลุ้มอยู่ไม่ใช่น้อย
   พีร์คิดว่า ถึงจะยังไงก็คงไม่ไปทำงานที่บริษัทศิลาแน่ ๆ ถ้าเป็นแต่ก่อนล่ะก็ใช่ ที่เขาอยากจะทำงานที่นี่ เพราะก็เป็นบริษัทที่ดีและมีผลประกอบที่สูงในแต่ละปี
     ด้วยความเป็นหญิงสาวในตัว ที่พีร์เคยบอกเล่าฝันหวานกับเพื่อนสาวว่า อยากมีผู้ชายสักคนมาเคียงข้าง และเขาคนนั้นก็ต้องเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมีฐานะ ถ้าเป็นเจ้าของบริษัทก็อยากจะไปทำงานกับบริษัทของผู้ชายคนนั้น 
   แต่ตอนนี้เขาหนักใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเมื่อความจริงมาเยือนมันก็ไม่ได้หวานหอมเหมือนความฝันของเขาซักเท่าไหร่ แต่เขาก็รู้สึกดีไม่น้อยเหมือนกัน แต่เขาคงไม่ไปทำงานในบริษัทศิลาอย่างแน่นอน
   
“พี ๆๆ ไปทำโปรเจกต์กันป่ะ”  เพื่อนสาวคนนึงในกลุ่มถามขณะนั่งกินข้าวด้วยกัน
“โปรเจกต์อะไรเหรอ”
“อ่อ ของตลาดหลักทรัพย์อ่ะ เป็นโครงการสำหรับเด็กปี4อย่างพวกเราให้ไปเสนอโครงการการลงทุน”
“จะดีเหรอ เราไม่ใช่เด็กเศรษฐฯอย่างเธอนะ”
“เฮ้ยย ไม่เป็นไรๆๆ มีเด็กการตลาดร่วมทีมอ่ะดีออก เพราะว่ามันเป็นเหมือนการประชาสัมพันธ์การลงทุนให้กับประชาชนหน่ะ”
“เหรอ น่าสนใจนะ ว่าแต่รับสมัครเมื่อไหร่ล่ะ” เขาตอบรับ
“อาทิตย์หน้าหน่ะ ว่าแต่ สนใจมะ”
“สนใจสิ”
“เดี๋ยวรายละเอียดส่งให้ในเอ็มก็ละกัน ออนมาก็อย่าลืมทักนะ”
“โอเค ๆๆ ขอบใจนะ”
   เขาสนใจเพราะอย่างน้อย ตอนนี้เขาก็ดูสายงานทางด้านเศรษฐกิจไว้ เพราะงานการตลาดของเขาเป็นอะไรที่มีคนเรียนกันแพร่หลาย เขาก็ไม่หวังรางวัลอะไร ขอแค่มีผลงานน่าสนใจสำหรับบริษัทที่จะไปสมัครงานก็พอ

“คุณแจ๊ค...กลิ่นนี้กับกลิ่นนี้อันไหนหอมกว่ากัน” นักร้องวัยรุ่นคนดังถามพลกฤษณ์ที่มาเดินเล่นด้วยกันในห้างหรูใจกลางเมืองในฐานะเด็กในสังกัด
“หืมม..ไหนดมสิ” เขาคว้าข้อมือบางนั้นมาดม ก่อนจะตอบอย่างกรุ้มกริ่มว่า “พี่ว่าเนื้อเราหอมกว่านะ”
“บ้า...” หนุ่มน้อยขวยเขินท่ามกลางสายตาพนักงานที่มองมาอย่างสนใจแกมหมั่นไส้เล็ก ๆ กับท่าทางดัดจริตของดาราวัยรุ่นคนดัง
“ลองกลิ่นนี้ไหมคะ” พนักงานสาวหยิบขวดน้ำหอมสีส้มมาให้ทั้งคู่
“ไหน ๆๆ” หนุ่มน้อยลองฉีดบนหลังข้อมือพลกฤษณ์แล้วดอมดม “ไม่เอาอ่ะ กลิ่นแปลก ๆ” พร้อมกับย่นจมูกอย่างไม่ชอบใจ
พลกฤษณ์ยกมือตัวเองขึ้นมาดมพร้อมตอบอย่างประหลาดใจว่า “พี่ว่าก็หอมดีหนิ” เขายกมือขึ้นมาดมอีกครั้ง พร้อมมองขวดน้ำหอมอย่างพิจารณา น้ำหอมกลิ่นนี้เหมือนเขาเคยได้กลิ่นจากใครสักคน เขานึกออกได้ไม่ยาก เพราะกลิ่นหอมสดใสนี้ เป็นกลิ่นที่เขาจำได้ว่าเคยได้กลิ่นครั้งแรกจากการเจอกับพีร์พร้อมศิลาที่ฮ่องกง
“ไม่เอาอ่ะ  เค้าไม่ชอบ คุณแจ๊ค สองกลิ่นนี้อ่ะ คุณแจ็คชอบกลิ่นไหนมากกว่า” หนุ่มน้อยยังคงเซ้าซี้กับเรื่องเดิม
“อืม กลิ่นที่ฉีดบนมือซ้ายหน่ะ” พลกฤษณ์ตอบนิ่ง ๆ  พลางนึกถึงแฟนเด็กของเพื่อนตนเองที่ทิ้งกลิ่นหอมติดจมูกไว้ต่างหน้า
 “หึหึ ไอ้หยกมันโชคดีเนอะ มีตัวนิ่ม ๆ หอม ๆให้ฟัด หึหึ” เขานึกถึงเพื่อนตัวเองแล้วหัวเราะน้อย ๆ
“หัวเราะอะไรอ่ะคุณแจ๊ค”
“เปล่า ๆๆ เสร็จยัง พี่หิวและ ไปหาอะไรกินกันเถอะ” เขารวบรัดตัดความ
“ป่ะ ๆ กินอะไรดีอ่ะ”
“ลงไปดูข้างล่างละกัน”
“ อืมมม” เขาตอบรับพร้อมเกาะแขนล่ำนั้นเหมือนลูกแมวติดเจ้าของ เดินออกไปท่ามกลางสายตาคนรอบข้าง
  ใช่ว่าเขาจะไม่เคยได้กลิ่นน้ำหอมนี้จากคนอื่น แต่สำหรับหนุ่มน้อยร่างอวบคนนั้น เขากลับจำได้อย่างแม่นยำ เพราะมันไม่ใช่แค่กลิ่นน้ำหอมอย่างเดียว แต่กลับคลุกเคล้าไปด้วยกลิ่นอายเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนเพศชายคนอื่นแต่ก็ไม่เหมือนเพศหญิงซะทีเดียว กลิ่นน้ำหอมสดใสที่เคล้ากับกลิ่นกายละมุนนั้นเป็นสิ่งที่เขายังจำไม่ลืมจนบัดนี้
 เขากับหนุ่มน้อยคนดังเดินไปในศูนย์อาหารเพื่อหาร้านอาหารสำหรับมื้อเที่ยงท่ามกลางผู้คนหนาตา พลกฤษณ์พลันได้กลิ่นที่เขาติดจมูกลอยเข้ามา หาก็หันไปตามทิศที่ลอยมาในทันที
 พลกฤษณ์มองตามร่างอวบที่เดินผ่านไปทางขวามือ พร้อมเพื่อนสาวสองคน เขามองตามพีร์ที่กำลังเดินเมาท์กับเพื่อนสาวอย่างสนุกสนาน พีร์ไม่ทันมองว่าเขาเดินผ่านใครมา และมีใครกำลังมองตามพร้อมส่งยิ้มให้อยู่

“พจน์ ๆๆ” เสียงเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่เข้ามาหาเขาอย่างรีบเร่ง ศิริพจน์คาดว่าคงมีงานด่วน เพราะตั้งแต่ทำงานมานี้ เขาไม่เคยได้รับงานอื่นนอกจากตำแหน่งที่ปรึกษาการลุงทุนของเขาเลย
“มีอะไรเหรอครับ” 
“นี่ เป็นโครงการให้เด็กปีสี่ทำโปรเจกต์หน่ะ พจน์ช่วยมาเป็นพี่เลี้ยงให้โครงการนี้หน่อยได้ไหม” ว่าพร้อมส่งเอกสารให้ชายหนุ่ม
“อ่อ ได้สิครับ ไม่มีปัญหา” เขามองที่เอกสาร “ว่าแต่ให้ผมเลือกเลยเหรอครับว่าจะทำงานกับทีมไหน”
“อ่อ เปล่า ๆ ให้ช่วยพี่จัดใส่แฟ้มหน่อยหน่ะ ส่วนเรื่องทำกับทีมไหนก็หัวหน้าบอกละกัน”
“ครับ ๆๆ” เขารับคำ
“โอเค ขอบใจมาก เดี๋ยวพี่มานะ คือ มีธุระด่วนจริง ๆ ไม่งั้นไม่มารบกวนเราหรอก”
“ครับ ไม่เป็นไรครับ” ศิริพจน์ยิ้มรับ พร้อมลงมือจัดเอกสารที่เป็นใบสมัครแยกตามแฟ้ม เขาพบว่ามีทีมจากหลากหลายมหาวิทยาลัยทั้งรัฐบาลและเอกชน รวมทั้งทีมจากมหาวิทยาลัยของเขา และรุ่นน้องในคณะของเขาด้วย เขาเปิดมาจนเจอเอกสารของทีมจากมหาวิทยาลัยรัฐบาลอีกแห่ง เขาเปิดดูไปเรื่อย ๆ จนมาสะดุดที่ใบสมัครใบหนึ่ง..
“นายพีร์ ...” เขามองชื่อนามสกุล พร้อมรูปถ่ายในชุดนักศึกษาของพีร์อย่างสนใจปนประหลาดใจ เขายิ้มตลกกับโชคชะตา โลกหนอโลกช่างกลมจริง ๆ 
  ศิริพจน์เองก็หวังว่าเขาคงจะได้ร่วมงานกับพีร์ ในงานนี้ เพราะเหมือนโชคชะตาจะเป็นใจให้เขาได้เจอกับพีร์ ได้สนใจในตัวพีร์ และถ้าไม่ใจร้ายเกินไป เขาก็หวังจะใกล้ชิดกับพีร์โดยโอกาสนี้
   

kikilalakik

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #139 เมื่อ21-04-2010 23:13:50 »

:z13: คนเขียนก่อนนอน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
« ตอบ #139 เมื่อ: 21-04-2010 23:13:50 »





ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #140 เมื่อ21-04-2010 23:28:52 »

 :z13: อีป้าแก่ๆขอจิ้มอีกคน 555

ANUNTAYA

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #141 เมื่อ22-04-2010 15:29:21 »

สเน่ห์แรงจริง


พีร์




ของเราเนี่ย 



สุดยอด   :mc4: :mc4: :mc4:

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #142 เมื่อ22-04-2010 21:33:31 »

เสน่ห์แรงขนาดนี้ พี่หยกรู้เข้ามีหวังตามหึงตามหวงแย่เลย

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #143 เมื่อ23-04-2010 03:08:06 »

 :serius2: กลุ้มแทนนายหยก
+1

OT

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #144 เมื่อ23-04-2010 12:14:55 »

 o13

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #145 เมื่อ23-04-2010 13:55:33 »

ภาคต่อ ตอนที่ 6
“พี ๆ เราได้อีเมลล์ตอบกลับจากทางตลาดหลักทรัพย์แล้วนะ”  เพื่อนสาวที่เป็นคนริทำโครงการนี้โทรมาหาพีร์
“เหรอ แล้ว เค้าว่าไงมั่งอ่ะ”  พีร์ซักถาม
“ก็ บอกว่าให้เริ่มเขียนแผนได้เลย และเค้าจะมีเจ้าหน้าที่มาช่วยเป็นที่ปรึกษาให้ในแต่ละทีมอ่ะ”
“เหรอ...แล้วเราจะเริ่มเขียนแผนกันเมื่อไหร่ดีล่ะ”
“พรุ่งนี้เย็นว่างป่ะล่ะ เจอกันที่ใต้หอแอนตอนหกโมงนะ”
“โอเค ได้ ๆๆๆ”
“โอเค เย็นนี้เจอกันนะ บะบาย”
“บายจ้ะ”
   เขาวางสาย พร้อมคิดถึงศิลา ที่ต่อจากนี้ไปเขาอาจจะมีเวลาให้ศิลาได้น้อยลง แต่ก็กังวลไม่ได้ว่า ถ้าศิลารู้ว่าเขาจะไม่ไปทำงานตามที่ชักชวน คนรักของเขาจะโกรธเขามากน้อยแค่ไหน
  แต่ก็เอาเถอะ เขาจะพยายามอธิบายให้ศิลาเข้าใจให้ได้ ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่
   
 การเขียนแผนงานในวันแรกเป็นไปได้ด้วยดีและมีแนวโน้มจะต่อยอดในวันรุ่งขึ้น พีร์กลับห้องพักมาเปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุค และออนไลน์ MSN เพื่อคุยกับเพื่อน ๆ ตามปกติ เมื่อเขาเข้าใช้งานสำเร็จ ก็พบว่ามีอีเมล์ใหม่เข้ามาขอติดต่อเขา เขากดตอบรับอีเมลล์นั้นไป
  ออนไลน์ได้สักพักก็มีผู้ติดต่อรายนึงเข้ามาทักเขา
“หวัดดีครับน้องพี”
พีร์เองก็ประหลาดใจเหมือนกันเพราะยังไม่รู้ว่าเป็นใคร แถมรูปที่ขึ้นบนหน้าจอก็ไม่ใช่รูปของเขา แต่เป็นรูปต้นไม้ใบหญ้า
“คับ”
“ผม พจน์เองนะ จำได้หรือเปล่า น้องพี่แพรวไง”
พีร์จำได้เลยทักไปว่า “คับ จำได้คับ คุณพจน์”
“โห ไม่ต้องเรียกคุณหรอกครับ เรียกพจ เฉย ๆ ดีกว่า”
“ครับ พจ ...แล้วพจได้เมลล์ผมได้ไงครับ”
“อ่อ ก็ ผมเป็นที่ปรึกษาของทีมพีหน่ะ ในโปรเจกต์ของตลาดหลักทรัพย์ไง”
“อ่อ คับ”
“ครับ พีครับ วันพรุ่งนี้ ตอนเย็น ผมอยากเจอพวกคุณหน่ะครับ”
พีร์ไม่ประหลาดใจเพราะคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของศิริพจน์อยู่แล้ว
“ครับ ได้ครับ”
“เอางี้ละกัน ผมไม่อยากให้พวกคุณต้องลำบากมาไกล เดี๋ยวผมไปหาพวกคุณที่มหาลัยนะครับ”
“ครับ ขอบคุณครับ”
 คืนนั้น เขากับศิริพจน์คุยกันอยู่นานพอสมควรอย่างสนุกสนานถูกคอ เขาทึ่งที่ศิริพจน์มีความคิดแบบนักเศรษฐศาสตร์แนวก้าวหน้า และเป็นผู้ที่ชื่นชอบตัวเลขเป็นอย่างมาก แต่กลับไม่ชอบที่จะใช้ชีวิตหรูหราอย่างคนอื่น
  ก็ดีแล้วหล่ะ เขาและเพื่อน ๆ จะได้เข้ากับศิริพจน์ได้ง่ายขึ้น
    ศิริพจน์มองรูปพีร์ยิ้มสดใสบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างมีความสุข เขามีความสุขเพราะไม่ใช่แค่คุยกับพีร์เฉย ๆ แต่กลับมองรูปของพีร์นั้นเสมือนเขาได้คุยกับตัวจริง เหมือนที่เคยเจอกันครั้งแรก
    ในการคุยกับครั้งนี้ เขาให้อีเมลล์ส่วนตัวในการแอดเมลล์ของพีร์ ต่างกับการติดต่อกับเพื่อนร่วมทีมของพีร์คนอื่นที่ใช้อีเมลล์ของที่ทำงานของเขาในการติดต่อ
  “ฝันดีนะครับ” เขาบอกลาพีร์อย่างนั้น
“คับ เช่นกัน” พีร์ตอบกลับ ก่อนจะขึ้นไอคอน “บายๆ” เป็นตัวการ์ตูนน่ารัก
เมื่อพีร์ออฟไลน์ไปแล้ว เขายังไม่ยอมปิดหน้าต่างที่คุยกับพีร์ แต่กลับนั่งอ่านบทสนทนาอย่างตั้งใจอีกครั้ง พร้อมกับกดโทรศัพท์ไปหานลพรรณ
 “ฮัลโหล พี่แพรวครับ”
“จ้ะ มีอะไรเหรอพจน์”
“พรุ่งนี้ตอนเย็นผมขอยืมรถหน่อยได้ไหม”  เขาโทรไปยืมรถของตัวเองที่ยกให้พี่สาวไปตั้งแต่ปีหนึ่ง ยกเว้นว่าเขาอยากใช้รถจริง ๆ จึงจะขับเอง
 
“น้องพีค๊าบบ วันเสาร์อาทิตย์นี้ว่างไหม” ศิลากรอกเสียงมาถามคนรักแบบอ้อน ๆ
“ไม่ว่างอ่ะครับพี่หยก มีอะไรหรือเปล่า”
“ทำไมอ่ะน้องพี มีทำรายงานเหรอ” เขาเสียงอ่อนลงนิดหน่อย
“อ่อ ครับ กลุ่มพีทำโปรเจกต์ส่งประกวดกับตลาดหลักทรัพย์อ่าครับ”
“เหรอ ฟังดูดีเนอะ แล้วเป็นไงมั่ง ทำเรื่องอะไรล่ะ เพื่อพี่จะช่วยได้มั่ง” เขาถามคนรักอย่างสนใจ เพราะตัวเขาเองก็เคยเป็นนิสิตในคณะเศรษฐศาสตร์เหมือนกัน
“ก็ เป็นการประชาสัมพันธ์กับคนภายนอกอ่ะครับว่าจะเข้ามาลงทุนยังไง ก็แบบสร้างความเชื่อมั่น และก็คิดโครงการการลงทุนต่าง ๆ อ่าครับ”
“เหรออ” เขาตอบรับ “งั้นพี่กับน้องพีก็คงไม่ได้เจอกันล่ะสิเนี่ยะ”
“พีก็อยากเจอพี่หยกครับ แต่จะให้ทำไงได้ล่ะ”
“โอเค ๆๆ งั้นเสร็จเรื่องนี้เมื่อไหร่ พี่จะย้ายข้าวของไปอยู่กับเราเลยนะ” ศิลาหยอกล้อคนรักอย่างสนุกสนาน
“บ้าน่า พี่หยกอ่า...”
  พีร์กับกลุ่มเพื่อน ๆ และศิริพจน์ เข้ากันได้และตั้งใจร่วมกันทำงานเป็นอย่างดี จนผลงานของพวกเขาผ่านเข้ารอบตัดสินเป็น 5 ทีมสุดท้าย ศิริพจน์เองก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมาก คือ รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและช่วยชี้แนะกลุ่มรุ่นน้องพวกนี้ได้ตรงประเด็น จนพีร์นึกประหลาดใจเพราะว่าถ้าเป็นคนอื่น คงจะแสดงท่าทีอวดรู้และข่มพวกเขาแน่ ๆ แต่ศิริพจน์นั้นให้ความเป็นกันเองและมีน้ำใจกับพวกเขาทุกคน เพราะเมื่อเลิกจากการทำงานในแต่ละวันนั้น ศิริพจน์ก็ร่วมกินข้าวกับพวกเขาอย่างไม่ถือเนื้อถือตัว รวมทั้งไปส่งเขาที่หอพักซึ่งค่อนข้างไกลจากหอเพื่อน ๆ ในกลุ่ม หรือบางวันศิริพจน์เองก็ขอนอนค้างกับเขาเพราะไม่อยากขับรถกลับไป พีร์เองก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และศิริพจน์เองก็ไม่ได้ทำให้เขาเดือดร้อนเลยแม้แต่น้อย
    ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เขารู้สึกว่าศิริพจน์เป็นเพื่อนที่ดีอีกคนหนึ่งของเขา ถึงแม้จะไม่ได้รู้จักกันนานมาก แต่ก็เหมือนเข้าอกเข้าใจเขาในหลายเรื่องที่คนอื่นไม่เข้าใจ และก็ไม่ได้ถือสาในเรื่องความคล้ายผู้หญิงในบางเรื่องของพีร์เลย
     ส่วนศิลาเองก็โทรหาเขาบ้าง เขาเองก็เล่าเรื่องทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องที่ศิริพจน์มานอนที่ห้องเขาในบ้างวัน เพราะถ้าศิลารู้เข้า ก็คงจะไม่ปล่อยให้เขาได้อยู่คนเดียวอีกแน่ ๆ พีร์นึกถึงคนรักที่หึงหวงรุนแรงจนบางครั้งก็เหมือนทำอะไรไร้เหตุผลเหมือนกัน
   แต่เขาก็รู้สึกดี ที่ศิลานั้นหวงและห่วงเขามากมาย
    “พรุ่งนี้ก็ถึงวันตัดสินแล้วนะ” พีร์กล่าวอย่างตื่นเต้น ขณะเดินมากับศิริพจน์ที่เดินมาส่งที่หอพักในมหาวิทยาลัย
“ครับ พีตื่นเต้นไหม” เขามองลงไปยังคนที่ตัวเล็กกว่า ที่ดวงตาฉายแววตื่นเต้นอยู่
“นิดหน่อยครับ”
“พีครับ จบแล้วพีคิดไว้หรือยังว่าจะทำงานที่ไหน” ศิริพจน์ถาม เพราะก็อยากรู้เหมือนกันว่าพีร์จะไปทำงานที่บริษัทของศิลาหรือไม่
“ก็ หางานทำเรื่อย ๆ อ่ะครับ”
“เหรอครับ ไม่สนใจมาทำงานกับตลาดหลักทรัพย์เหมือนพจเหรอ”
“ไม่อ่าครับ ไม่ได้เก่งขนาดนั้น”
“ไม่ใช่หรอกครับ” ศิริพจน์โอบไหล่คนร่างอวบ “เก่งไม่เก่งมันอยู่ที่การพัฒนาของเรา ถ้าสนใจก็ลองดูนะครับ มันไม่มีอะไรยากหรอก” เขาพูดพร้อมยิ้มให้อย่างใจดี
พีร์เองก็ยิ้มรับศิริพจน์เช่นกัน
“ขอบคุณนะครับพจที่มาส่ง” พีร์พูดตอนที่ศิริพจน์มาส่งจนถึงหน้าหอพัก
“ครับ ไม่เป็นไร”
พีร์จะหันหลังก้าวเข้าไปเพื่อขึ้นไปบนหอ แต่ศิริพจน์ก็เรียกเขาอีกรอบ
“พีครับ....”
“ครับ...” พีทำหน้าสงสัยเล็กน้อย
“พรุ่งนี้เจอกันนะครับ”
“ครับ เจอกันครับ” พร้อมกับโบกมือให้เหมือนเคย
   ศิริพจน์เดินยิ้มออกมาอย่างมีความสุข อีกใจก็อดใจหายไม่ได้ เขารู้สึกดีที่ได้สนิทสนมกับพีร์ บางครั้งเขาก็สังเกตเห็นพีร์มีท่าทีแปลก ๆ เวลารับโทรศัพท์ตอนกลางคืน เขาก็พอเดาได้ว่าเป็นศิลาโทรมา แต่ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และเขาเองก็ไม่ได้ถามเจ้าตัวว่ามีแฟนหรือยังให้รู้แล้วรู้รอด เพราะกลัวคนที่อารมณ์อ่อนไหวอย่างพีร์จะแสดงอาการต่าง ๆ ออกมา เขาก็อดเป็นห่วงความรู้สึกของพีร์ไม่ได้เลย
   ต่อจากนี้ไป เขาก็คงไม่ได้มาหาพีร์บ่อย ๆ แบบนี้เพราะงานแล้วหล่ะ แต่เขาก็ไม่สนใจเรื่องพวกนั้น และไม่สนใจศิลาที่จะรู้ว่าเขาสนิทกับพีร์ด้วย

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #146 เมื่อ23-04-2010 15:28:20 »

พจเริ่มรุกมากมายอ่ะ แถมยังได้มานอนที่ห้องน้องพีด้วย

ถ้าพี่หยกรู้นี่ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น  :z10:

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #147 เมื่อ23-04-2010 16:20:34 »

ทำอะไรลงไป ช่างไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย

อีป้าแก่ๆ จะรอดูต่อไป ตอนละเบิดตู้มตาม ก็แล้วกันนะ 555

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #148 เมื่อ23-04-2010 21:34:20 »

กีสส

อิจฉาพีร์ซะละ

ptyunjae

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #149 เมื่อ24-04-2010 00:04:54 »

เรื่องมันจะจบยังไงเนี่ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด