ตอนที่66 ชีวิต..สัตว์หมาได้อีก
“...............”อ่ะ จ้องกูเข้าไป กูทำอะไรผิดวะ แม่งนั่งจ้องกูอยู่นานละนะ เมื่อวานก่อนเรื่องที่กูต้องจัดหนักมันคืนวันนั้นจากการที่กูซิตอัพชนะคำท้ามัน กลายเป็นว่ากูโดนจัดหนักแทน พอร้องเพลงที่ร้านเสร็จอยู่ดีๆมันก็เกิดอยากกินนู่นกินนี่ แล้วแม่งเลือกที่กินไกลๆทั้งนั้น กูเลยต้องพามันไปกินอย่างช่วยไม่ได้ แถมไม่พอพากูขับรถอ้อมโลกอีก กว่าจะมาส่งมันที่หอนี่กูแทบหมดแรง มีการไล่กูกลับบ้านด้วยแต่กูไม่ยอมขอขึ้นไปบนห้องมันก่อน พอขึ้นไปก็มีการเล่นมวยปล้ำกันนิดหน่อย มันเสือกชกเข้ามาที่ท้องกูเหมือนไม่ได้ตั้งใจอะไรมากนัก แต่กูเจ็บมากๆเลยอะ ก็มันชกซ้ำเข้าที่เดิม
“เจ็บว่ะหลิม”กูบอกมันแล้วจับท้องตัวเอง เพราะว่ามันคงช้ำแล้ว กูไม่ได้ซิตอัพทุกวันเป็นประจำเท่าไหร่ ท้องมันก็เกร็งแล้วก็เจ็บเป็นเรื่องปกติธรรมดา กูไม่ค่อยวอรี่ แต่คือสลิ่มมันเสือกชกระหว่างกูซิตอัพอะดิ แม่ง ช้ำในแล้วเนี่ย
“สม”มันพูด แต่หน้าตามองมาที่ท้องกู
“ช้ำเพราะมึงอะ”กูโทษแล้วนั่งลง ท้องแม่งก็เกร็งอีก กูว่าพรุ่งนี้ไอแล้วแม่งทรมานแน่นอน เพราะถ้าใครเคยซิตอัพเยอะๆแบบไม่ได้ออกกำลังกายทุกวันเชื่อได้ว่าเป็นแบบกูทุกราย
“................”มันเงียบไม่พูดอะไร แต่ยืนมองกู
“แล้วจะให้ทำไงเล่า”มันพูดหน้างอ กูเลิกเสื้อดู มันมีรอยแดงๆช้ำๆจากที่สลิ่มมันทุบไว้นิดหน่อย กูก็พึ่งจะเห็นนี่แหละ ไม่คิดว่ามันจะเป็นถึงขนาดนี้นี่หว่า ตอนที่เจ็บๆปวดๆที่ร้านกูก็ไม่ได้สนใจอะไร มัวแต่วุ่นกับการดูแลร้าน
“ทายาให้กูเลยนะ”กูบอก
“ยาไร”มันถามเสียงห้วน
“มีไรก็เอามาเหอะ”กูทำหน้างอนิดหน่อย แกล้งมันไปงั้นแหละ แล้วสลิ่มมันก็เดินไปหายาที่กล่องยามันให้กู
“มีแต่เค้าเตอร์เพนอ่ะ”มันพูด
“เออๆ ทาๆมาเหอะ”กูบอก เพราะถ้าช้ำในอีกหลายวันกว่าจะหายแน่นอนอยู่แล้วแหละ แต่ไม่เท่าไหร่เป็นกว่านี่ก็เคยมาแล้ว แต่ไอ้ตรงที่ระบมเพราะโดนทุบนี่ดิ เหอะๆ
“ทาเองดิ”มันยื่นยาให้กู
“เรื่องดิ”กูย้อนอย่างไม่ยอม
“อ่ะ..ทา”กูพูดพร้อมกับเลิกเสื้อให้มันหน้าตาเฉย สลิ่มยืนมองหน้ากูหน้าแดงเหมือนทำตัวไม่ถูก แต่มันก็บีบยาลงที่มือมันแล้วแตะลงที่ท้องกูเบาๆ กูสะดุ้งวาบเลยทันที เพราะมันทั้งเย็นอีกทั้งเพราะมันที่ลูบมันไม่ใช่มือกูด้วยอะดิ
“...............”กูยืนมองหน้าสลิ่มที่มันเอามือลูบอยู่ตรงท้องให้กูอย่างเงียบๆ มันเหมือนตั้งใจทามากๆ
“พอ”อยู่ดีๆมันก็พูดขึ้น ทั้งๆที่ยายังไม่ทันเข้าเนื้อดี มันยังเป็นก้อนๆสีขาวๆอยู่ทั่วท้องกูเนี่ย
“อะไรของมึงเนี่ย”กูพูด เพราะกูกำลังเพลินเลย
“ทาเองดิ จ้องอยู่ได้ ไอ้บ้า”มันพูดแล้วเดินเอายาไปเก็บซะอย่างนั้น
“แล้วจะปล่อยไว้อย่างนี้รึไง”กูพูดแล้วมองที่ท้องตัวเอง มือก็ยังค้างจับเสื้อตัวเองไว้อยู่ เหมือนโรคจิตชอบโชว์เลยกู กร๊าก
“เออ หนาๆนั่นแหละ ยาจะได้ละลายช้า”มันพูดหน้าตาเฉย
“ห่า มีทฤษฏีนี้ที่ไหนวะ”กูพูด แล้วลูบท้องตัวเอง เพราะทนดูไม่ได้จริงๆ เหอะๆ หลังจากนั้นกูนั่งเล่นอยู่พักนึงแล้วมันก็ไล่กูกลับบ้านทันที มีการทำหน้าตาเด็ดขาดใส่กูด้วย กูก็เลยจำใจต้องกลับอะดิ
ส่วนเรื่องวันที่มันไปมีเรื่องมีราวทะเลาะกันวันนั้น วันต่อมาเรื่องก็โยงมาไม่ถึงพวกสลิ่มมัน โยงไปถึงแค่ไอ้โป้กับพวกไอ้เต้เพื่อนของสลิ่ม และพ่อพวกมันก็จัดการไว้ได้ วันนี้เย็นกูก็ไปรับมันที่โรงเรียนตามปกติ มันไม่ได้ซ้อมมวยแต่ไปซ้อมดนตรีแทน กูก็เลยต้องเป็นการพามันไปบ้านไอ้ติสอีก ก่อนที่จะมานั่งจ้องหน้ากูอยู่ที่ร้านนี่ไง
“จ้องหน้ากูทำไมเนี่ย”กูถามอย่างสงสัย ก็สลิ่มอ่ะดิ นั่งจ้องหน้ากูอยู่ได้
“เปล่า”มันตอบแล้วทำหน้าเหมือนไม่ได้มีอะไรจริงๆ
“อะไร”กูถามเพราะว่ากูยังสงสัยอยู่
“พรุ่งนี้มึงมีเรียนเปล่า”มันถามในที่สุด
“มี..ทำไม”กูถาม
“................”สลิ่มเงียบไป ทำหน้าเหมือนนึกคิดอะไรอยู่
“เปล่า”มันตอบแล้วเอนตัวเองลงนอนบนเก้าอี้ไม้ตัวยาวที่อยู่หน้าร้านนี่ กูนั่งมองมันว่ามันเป็นอะไรของมัน สักพักมันก็หันกลับมามองหน้ากูอีก
“มีอะไรก็พูดมาสิ”กูถามแล้วยิ้มให้มัน
“ได้หรอ”มันถามกลับทันที
“ครับ”กูตอบ
“ยืมรถมอเตอร์ไซด์มึงหน่อยดิ”มันพูดทั้งๆที่นอนอยู่นั่นแหละ
“................”กูเงียบจ้องหน้ามันงงๆ
“เอาไปทำไม”กูถาม
“ทำกับข้าวมั้ง”มันย้อน
“กวนตีน”กูย้อนบ้าง
“เอาไปทำไม”กูถามอีกครั้ง
“ก็พรุ่งนี้พวกกูจะโดดเรียนไปดูพวกไอ้ติสเล่นดนตรี แล้วคนมันเยอะกว่ารถนี่หว่า อีกอย่างก็ต้องรีบไปด้วยเดี๋ยวไม่ทัน”มันพูดเหมือนกำลังกลัวความผิดอะไรสักอย่าง
“แล้วไม่เรียนรึไง”กูถาม ถึงกูจะเป็นพวกขี้เกียจเรียน แต่ที่จริงกูก็รักเรียนนะถึงจะดูขี้เกียจไปบ้างก็เหอะ ถึงกูจะทำตามใจตัวเองเรื่องเรียนไปบ้างแต่กูก็มีขอบเขตของตัวเอง สำหรับกูแค่ผ่านก็พอเท่านั้น แต่สำหรับสลิ่มถ้าการเรียนมันไม่ดีขึ้นมาเพราะกู กูก็คงไม่ปลื้มเท่าไหร่ถ้าเกิดพ่อแม่มันไม่ปลื้มอะนะ
“มี..ก็กูไปเรียนก่อนนี่ไง ส่วนมากมันโดดกันไม่มาเรียนแต่ว่ากูจะไปเรียนก่อน แล้วหลังจากบ่ายโมงวิชามันไม่จำเป็นนี่หว่า มันโดดได้ ไอ้เวมันก็จะไปกับเด็กมัน ไอ้เขตก็ไปกับไอ้วิทย์เพราะว่าไอ้วิทย์ไม่ได้เอารถมา พี่มันเอาไปใช้ ส่วนคนอื่นมันจะโดดไปกันก่อนเที่ยงนี่หว่าแต่กูไปไม่ได้เพราะกูต้องรอส่งงานก่อน เออ..แล้วกูจะมาอธิบายให้มึงฟังทำไมเนี่ย..ตกลงจะให้ไม่ให้”มันพูดเหมือนพึ่งนึกได้ว่ามันอธิบายให้กูฟังมานานแล้ว
“ไม่ให้”กูตอบแล้วพลิกหนังสือเพลงดูต่อ
“ไรอ่ะ”มันท้วงแล้วลุกขึ้นนั่งทันที
“ขอยืมหน่อยไม่ได้รึไงวะ”มันพูด
“ไม่ได้ เกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำไง”กูพูด
“อะไรเล่า มึงเป็นพ่อกูรึไง”มันพูด
“ก็เกือบๆ”กูตอบหน้าตาเฉยๆใส่
“.................”มันเงียบไป หน้างอจ้องหน้ากูต่ออีก
“จะให้ไม่ให้”มันย้ำเสียงใส่กู
“ไม่ให้ครับ”กูตอบแล้วเงยหน้าจ้องหน้ามันตอบ
“กูขอยืนแป๊บเดียวเองอ่ะ”มันโวยวายเสียงดังใส่อีก
“ไม่ได้ก็คือไม่ได้ไง เกิดขับไปเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง..กูยังไม่เคยเห็นมึงขับเลยด้วยซ้ำ มอเตอร์ไซด์นะเว้ยไม่ใช่รถยนต์ เนื้อหุ้มเหล็กน่ะรู้จักไหม”กูพูดแล้วเอาหนังสือตีเข้าที่หัวมันอย่างปรามๆ
“กูขับออกจะบ่อยเหอะ แย่งไอ้เขตขับก็บ่อย ที่บ้านกูก็มีเหอะ”มันพูดปากยื่นปากยาวใส่กูอีก
“มึงก็ไม่เอาของมึงไปล่ะ”กูย้อน
“พ่อไม่ให้ขับ”มันพูดเสียงเบาลง
“นั่นไง”กูพูดทันที
“ขนาดพ่อมึงยังไม่ให้ขับ ขืนกูให้มึงไป แล้วไปเป็นอะไรขึ้นมา พ่อมึงเอากูตายพอดีสิ..อีกอย่างกูยังไม่อยากเป็นพ่อม่ายเมียตายหรอกนะ”กูพูด
“ไอ้สัตว์ ไม่ให้ก็ไม่ต้องให้”มันด่าเลยทันที กูได้แต่ยิ้มอย่างเอือมๆมองหน้ามัน
“...............”แล้วทั้งกูและมันก็เงียบกันอีก สลิ่มนั่งมองหน้ากูงอๆ กูก็มองหน้ามันไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร แค่จ้องตอบก็เท่านั้น
ตื้ดด ๆ ๆ ๆ
กูกับสลิ่มเหลือบไปมองมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะ นั่นก็คือของสลิ่มมัน
“................”มันจ้องจับกูเหมือนรู้ว่ากูกำลังคิดอะไร
“ปล่อย”มันพูดเมื่อกูและมันตะปบเข้าที่มือถือกันทั้งคู่ แต่ด้วยความที่กูไวกว่าแล้วคิดว่าจะหยิบมือถือของมันอยู่แล้ว กูก็เลยไปคว้ามาได้ทันก่อน
“โอ้ย”มันร้องเพราะว่ากูบีบเข้าที่ข้อมือของมัน พอกูเอามือถือมาได้ กูก็ปล่อยข้อมือมันออกแล้วยักคิ้วให้มัน เพราะกูรู้ว่ามันไมได้เจ็บหรอกแต่มันแกล้งกูต่างหากล่ะ
สายเข้า ----- พี่เชน -----
“ไอ้เชน”กูพูดแล้วพลิกหน้าจอมือถือมันให้เจ้าของเครื่องดู
“.............”มันจ้องหน้ากูเหมือนบอกให้กูรู้ตัวว่าห้ามทำอะไรกับโทรศัพท์มือถือของมัน
“ก็ได้”กูพูด แล้วยื่นมือถือกลับให้มัน มันรีบรับไปแล้วกดรับทันที
“ครับพี่..”มันพูดแล้วลุกขึ้นหนีไปคุยคนเดียวซะไกลกูเลยทีเดียว กูนั่งมองอยู่ตรงนั้นอยู่สักพักจนไอ้โปรกับไอ้ดิวมันเข้ามาที่ร้านพอดี พอมันเห็นกูมันก็ทักทายตามประสาก่อนที่จะนั่งลงซ้อมเพลงอยู่กับกูด้วย
“พี่โปร..”พอมันคุยโทรศัพท์เสร็จ มันก็ร่าเริงวิ่งกลับมาที่โต๊ะก่อนที่จะนั่งลงข้างๆไอ้โปร
“แม่บอกว่าพรุ่งนี้จะทำกับข้าวให้ชวนป้ากับลุงมากินด้วย”มันพูดบอกไอ้โปรด้วยหน้าตาที่สดชื่นสุดๆ
“อ่าวหรอ แม่พี่รู้ยังอ่ะ”ไอ้โปรถาม
“ไม่รู้อ่ะ แม่บอกว่าจะโทรชวนแม่พี่อีกที”มันพูด
“พรุ่งนี้พี่โปรไปด้วยนะ จะได้มาร้านพร้อมกับสลิ่มไง”มันพูด ระหว่างนั้นกูก็ได้แต่นั่งมองเหมือนตัวเองเป็นคนนอกครอบครัว โด่..ถึงกูจะเป็นคนนอกครอบครัว แต่ในฐานะตอนนี้แล้วกูเป็นคนในครอบครัวนะเว้ย ในฐานะที่กูเป็นผัวมันอะดิ เหอะๆ
“เออพี่โปร สลิ่มยืมรถหน่อยดิ”ไอ้สลิ่มเหมือนนึกขึ้นได้ มันพูดพร้อมกับเบิกตาโพรงทันที
“ห๊ะ..”ไอ้โปรคงงง มันมองหน้าสลิ่มที มองหน้ากูที กูเลยได้แต่ส่งสายตาเขม่นใส่มันเป็นการขู่ว่าห้ามให้เด็ดขาดนะมึง
“ยืมรถหน่อยๆ พรุ่งนี้สลิ่มมีธุระ”มันพูด
“เฮ้ออออ เมื่อยตัวจริงๆ ไปซ้อมในห้องกันเหอะไอ้ดิว”อยู่ๆไอ้โปรมันก็ลุกขึ้น ทำเอาสลิ่มมองตามงงๆ ไอ้โปรก็เหมือนรู้งาน ไอ้ดิวก็เช่นกัน มันลุกไปทั้งอย่างนั้น ทิ้งสลิ่มที่นั่งค้างไว้อยู่ตรงหน้ากู
“มึงก็นั่งแท็กซี่ไปดิ”กูพูด เพราะว่ามันหันมามองหน้ากูเหมือนรู้ว่าที่ไอ้โปรมันเดินหนีไปอย่างนั้นเพราะอะไร
“ไม่เอาอะ มันไม่แนว..อีกอย่างกูเลิกเรียนช้าด้วย แล้วมันเป็นเวลาตรงกับที่วงเพื่อนกูต้องขึ้น ถ้าเกิดกะทันหันยังไงมอไซด์ก็เร็วอยู่แล้วใช่เปล่าล่ะ แล้วนะถ้าไปแล้วตอนกลับอ่ะ กูก็ต้องกลับคนเดียวอะดิ ถ้ากูเอารถมึงไปใช่ป่ะ เลิกปุ๊บกูจะได้กลับเลยไง”มันพูดแล้วยิ้มให้กู
“หึ..”กูได้แต่หัวเราะแล้วส่ายหัวกับมัน
“................”มันก็จ้องด้วยสายตาอาฆาตอีกครั้งเหมือนจะบังคับให้กูให้มันให้ได้
“เป็นห่วง..ที่ไม่ให้เนี่ย”กูพูดบอก
“ไม่เป็นไรหรอกน่า”มันพูดไป หูก็เริ่มแดงอีกละ แดงง่ายเหลือเกินนะเมียกูเนี้ย
“.................”มันก็นั่งจ้องหน้ากูไม่เลิก นี่คงอยากได้จริงๆใช่ไหมเนี้ย
“เฮ้อ..ก็ได้”กูพูด
“แต่..”กูพูดดักไว้ก่อน
“พรุ่งนี้กูมีเรียนถึงสี่โมงครึ่ง ถ้าเลิกแล้วไปรับกูที่มหาลัยด้วย”กูบอก
“ได้ไงอะ”มันย้อนถาม
“ก็มึงเอารถกูไป จะได้ไงยังไงอะไรของมึงล่ะ”กูย้อน
“พรุ่งนี้เช้ากูจะไปรับมึง แล้วมึงก็ไปส่งกูที่มหาลัยหลังจากนั้นมึงก็เอารถกูไป แล้วพอเพื่อนมึงร้องเพลงเสร็จ สี่โมงเย็นมึงต้องมารับกูแล้วเดี๋ยวกูจะไปส่งมึงที่บ้านเอง”กูสรุปให้
“.................”มันเงียบ
“ตกลงไหม ถ้าไม่ตกลงตามนี้ก็ไม่ต้องเอาไป”กูพูด
“เออๆ ก็ได้”มันพูดตัดส่งๆ
“ก็แค่นั้นแหละ แล้วจะเอาคันไหนไป ถนัดขับคันไหน”กูถาม
“หึหึ..”อยู่ดีๆมันก็ยิ้มหน้าบานใส่กู นี่ครั้งแรกรึเปล่าเนี้ยที่มันยิ้มหน้าบานด้วยอาการดีใจสุดๆใส่กูแบบนี้ เพราะทุกทีไม่แสยะยิ้ม ก็ยิ้มอย่างลืมตัวซะมากกว่า
“เอาเวสป้า”มันพูดเสียงเล็กเสียงน้อยใส่กูอีก ยิ้มแก้มจะแตกแล้วมั้งน่ะ
“จุ๊บก่อนดิ”กูพูดแล้วยื่นปากไปให้มันอย่างหมันเขี้ยว ก็ดูมันทำเสียงใส่กูดิ แม่ง ตั้งแต่จีบมายังไม่เคยเห็นมันทำเสียงอย่างนี้ใส่กูเลยอ่ะดิ
เพี้ย !
“ไม่มีค่ารถเลยหรอ”กูทำปากจู๋พูดใส่มันที่พึ่งตบเข้าที่ปากกูเบาๆเมื่อกี้
“เรื่อง..”มันตอบแล้วทำสีหน้าแยกเคี้ยวใส่กูก่อนที่จะหยิบหนังสือเพลงทั้งหมดแล้วหนีกูเข้าร้านไปซะอย่างงั้น โห..พอได้กันแล้วก็ทิ้งกูเลย แมร่ง
.............
.............