Memorial~รักแรก รักสุดท้าย [แจ้งข่าวหน้า 516: 29/ก.ย/57]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Memorial~รักแรก รักสุดท้าย [แจ้งข่าวหน้า 516: 29/ก.ย/57]  (อ่าน 3409184 ครั้ง)

MaZeltoV

  • บุคคลทั่วไป
อะนะ..พีเมตรกลับไปคราวนี้คงวัดอะไรได้หลายๆอย่าง
เหมือนสลิ่มจะเบาลงมานิสสสสสสส :z3:

mutaru

  • บุคคลทั่วไป
ชอบคนอย่างไอ้เมตรจริงๆ จี๊ดดี ชอบ!

ออฟไลน์ CHIVAS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-1
สู้ๆ พี่เมตร
ทำให้ได้อย่างที่พูดนะ   :L2:

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
แปะไว้ก่อนเด่ยวค่อยอ่านตามไม่ทัน แหะๆๆ  :really2:

piglet

  • บุคคลทั่วไป
พี่เมตรสู้ ๆนะ
เอาใจช่วย
 :กอด1:

ออฟไลน์ Mr.Frog

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
สงสารอิพี่เมตรอ่า สู้เว้ยยยยย

ตอนจบขอแบบ NC โฮกๆๆๆ เลยนะบี้นะ อ๊ากกกส์
อ่านเรื่องนี้มา ยังไม่ได้ใช้ icon นี้เลยมั้ง :jul1: ขอใช้เยอะๆ 555+

panang

  • บุคคลทั่วไป
ว้ายยยยยยยยยยย  NC จะมาแหละ :impress2:

มาต่อเร็วๆเน้อ :กอด1:

lollionlypop

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมอ่านตอนนี้แล้วกลับรู้สึกว่าสลิ่มแม่งแอบแพรวพราว(ปะว่ะ)
แบบว่า ..หัวหมอ จนพี่เมตรตามไม่ทันไปแล้วอะ

ก็ดี สมน่า กร๊ากกกกกก

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
+1น้องมิ้น  น่ารัก คริๆ แอบจีบน้ององุ่นกลัว ๆ กล้า :z2:

Muzik

  • บุคคลทั่วไป
อีกไม่นานเมตรก็จะได้กินสลิ่มแล้ว โหะๆๆ  :z1:
สู้ๆนะเมตร สู้ๆนะเบบี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ honeymic

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
อีกนิด เมตรพยายามอดทนเข้าไว้

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
แปะไว้ก่อนเด่ยวค่อยอ่านตามไม่ทัน แหะๆๆ  :really2:
ที่รัก..แก่แล้วก็เงี่ย o22 กร๊ากกกกก :m20:

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
 :z13: เบบี้
อ่านไม่ทันเช่นกัน
แต่พยายามตามอยู่นะคะ
 :กอด1:

ออฟไลน์ jara

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
โอ่ว  และแล้ว เค้าก็คุยกันดีๆ สลิ่มตั้งใจจะทำไรหว่า

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
สู้ๆค่ะอิพี่เมตร อิอิ



 :pig4: :pig4: :pig4:

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
พักหลังๆๆพี่เมตรกรูดูน่าสงสารว่ะ..หุหุ.. น้องหลิ่มก็ห้วนสั้น เสมอต้น เสมอปลายได้ใจจริงๆๆ

ออฟไลน์ nk23992

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
อือ...ตกลงสลิ่มคิดยังไงกันแน่นะ
น่าจะมีภาคสลิ่มบ้าง...
ขอไรเตอร์มากไปป่ะน๊า

fungfung

  • บุคคลทั่วไป
สู้ต่อไปพี่เมตร ช่วงนี้แลน่าสงสารน่าดู
สลิ่มก็เดาใจยากชิบ

ออฟไลน์ ToeyTato

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
เดาไม่ถูกจิงๆ รออ่านต่ออย่างเดียว

ออฟไลน์ พระสนมฝ่ายซ้าย

  • ❤วั ง ว น ว า ย เ วิ่ น เ ว้ อ❤
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +283/-2
สถานการณ์กำลังไปได้ดี
สลิ่มเริ่มดีด้วยแล้ว ^^
ไม่เสียแรงที่เชียร์เฮียนะคะ
สู้ต่อไปน้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
ใกล้แล้วพี่เมตร
สู้ต่อไปเรื่อยๆ

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
ตอนที่75  ค้นหากับสิ่งที่ชอบ


“ไอ้เมตร!”กูหันไปก็เห็นพ่อกูยืนโบกไม้โบกมือรอรับกูอยู่กับแม่ กูรีบเดินไปหาพ่อกับแม่ทันที กูยกมือไหว้พ่อกับแม่ก่อนที่จะเข้าไปกอดพ่อไว้ พ่อตบไหล่กูเบาๆ
“พ่อหน้าแก่กว่าเดิมอีกอ่ะ”กูแกล้งแซว
“จริงอ่ะ”พ่อรีบจับหน้าตัวเอง
“อือ”กูตอบแล้วยิ้มให้
“ไอ้เมตรไปแกล้งพ่อ”แม่ปราม
“รถจอดไหนอ่ะ”กูถามแล้วเดินตามพ่อกับแม่ไป
ตั้งแต่วันที่ได้เจอกับสลิ่มมันวันเสาร์ที่แล้ว กูกับมันก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย กูก็ได้แต่โทรหามันแต่ก็ไม่ได้คุยกันนานเท่าไหร่นัก เพราะกูเองก็ต้องอ่านหนังสือ ส่วนมันก็ด้วยเช่นกัน บางทีกูไม่มีเวลาก็ส่งข้อความไปหามันบ้าง แต่ยิ่งเข้าช่วงสอบแล้วนั้นกูกับมันแทบได้คุยกันน้อยประโยคมาก แต่ก็ต่างคนต่างเข้าใจและอยู่ในสิ่งที่ต่างคนต่างจะต้องทำ ก็เคยไม่ได้คิดมากอะไรกันมากนักและคงเพราะไม่มีเวลาด้วยนั่นแหละ
เมื่อเย็นไอ้โมทกับไอ้มิ้วค์มาส่งกูที่สนามบิน ก่อนขึ้นเครื่องกูก็โทรบอกสลิ่มมันก่อนว่ากูจะขึ้นเครื่องแล้วแค่นั้น มันก็ไม่ได้พูดอะไรเหมือนเดิมนั่นแหละเป็นปกติ กูชินซะแล้ว เห็นว่าวันพรุ่งนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของมัน ตัวสำคัญซะด้วยเพราะไอ้เขตมันบอกกูว่าสลิ่มอยากได้เกรด4กับวิชานี้ กูก็ไม่อยากรบกวนเวลาการอ่านหนังสือของมัน กะว่าถึงบ้านแล้วจะโทรหามันแค่บอกว่ามาถึงแล้วก็พอ
“โห ทำไรกับบ้านไปบ้างเนี่ย นี่แม่ทำรั้วใหม่หรอ”กูพูดเพราะเห็นแม่เปลี่ยนรั้วใหม่เป็นแบบรั้วไม้สัก
“มันสวยดี แม่ไปเจอพอดี..เพื่อนแม่ลดให้ด้วยแม่ก็เลยให้เค้ามาเปลี่ยนใหม่”แม่บอก กูเปิดหลังรถแล้วหยิบกระเป๋าลง
“พ่อลงสวนเพิ่มหรอ”กูถามเมื่อเห็นที่สนามนั่งเล่นหน้าบ้านมีต้นไม้เพิ่มมาเต็มเลย พอดีพ่อกูชอบจัดสวนน่ะ เดี๋ยวซื้อๆอยู่ตลอดแหละต้นไม้อ่ะ
“อืม”พ่อตอบแล้วมาช่วยกูขนกระเป๋าเข้าบ้าน
“แม่..เมตรหิว”กูบ่นก่อนแล้วถอดรองเท้าไว้หน้าบ้านพร้อมกับถุงเท้าด้วย แล้วลากกระเป๋าเข้าบ้าน
“ยังไม่ได้กินอะไรมารึไง”แม่พูด
“กินไรล่ะ เมตรสอบเสร็จเมตรก็ไปสนามบินเลยนี่”กูบอก
“นั่งคุยกับพ่อไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวแม่ไปหาไรให้กิน”แม่พูดบอกแล้วเดินไปด้านหลังบ้าน  กูเดินไปนั่งตรงโซฟาแล้วนอนลงเลยทันที
“จะอ้วกอ่ะพ่อ”กูบ่นเพราะว่ากูไม่ชอบขึ้นเครื่องมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่กูก็ไม่ชอบขึ้นรถทัวร์อีกนั่นแหละเพราะกูไม่มีความอดทนพอ ไม่ชอบนั่งรถนานๆมันอึดอัด เวลาถ้ากูจะนั่งรถทัวร์กูจะจองสองที่นั่งวีไอพีตลอด ไม่ชอบนั่งข้างใครที่ไม่รู้จักนี่หว่า เหอะๆ
“มากี่รอบก็บ่นงี้ทุกรอบ”พ่อบ่นแล้วรินน้ำที่ตู้เย็นตรงครัวเล็กมาให้กู กูลุกขึ้นยกแก้วน้ำมาดื่ม
“พรุ่งนี้พ่อไปทำงานเปล่า”กูถาม
“ไปดิ”พ่อตอบ
“อืม”กูตอบแค่นั้น แล้วคิดถึงเรื่องที่ไอ้โมทมันเล่าให้กูฟังเรื่องพ่อ แต่กูยังไม่รู้จะเริ่มพูดยังไงดี มันจะโต่งๆมากไปรึเปล่าก็ยังไงอยู่
“แล้วสอบเป็นไงบ้าง”พ่อถามขึ้น
“ก็ดี..ก็ทำได้”กูตอบ
“จบพร้อมเพื่อนรึเปล่า”พ่อถามอีกเหมือนอยากให้แน่ใจกับตัวเอง
“พร้อมดิ พ่อนี่ก็ว่าไปเรื่อย”กูพูดบ่นๆ
“แล้วคิดเรื่องหลังจบไว้รึยัง”พ่อพูดอีก
“ก็..”กูนิ่งไป นั่งจับมือตัวเองแล้วหันไปที่อื่นไม่มองหน้าพ่อ
“ก็คิด แต่เมตรยังคิดไม่ออก”กูบอก
“สมควรจะคิดให้ออกได้แล้วว่าจะทำอะไร”พ่อพูด
“...............”กูเงียบฟังพ่อพูดแต่สมองก็คิดประมวลไปด้วย
“แล้วใจแกชอบอะไรล่ะ”พ่อถาม
“................”กูเงียบอีก
“พูดมาสิ พ่อจะได้ช่วยคิดไง..จะจบอยู่แล้ว จะมาทำตัววันๆไม่ได้หรอกนะ”พ่อพูด
“เมตรรู้น่ะพ่อ ก็คิดมาตลอดแต่มันก็ยังคิดไม่ตกว่าจะเริ่มตรงไหนก่อนดี”กูบอก
“งั้นลองไปดูงานที่บริษัทพ่อก่อนไหม”พ่อพูด
“ดูอะไร”กูถามกลับ เพราะรู้อยู่แล้วว่าพ่อต้องพูดแบบนี้
“ก็ถ้ายังคิดอะไรไม่ออก จบก็มาทำที่นี่ก่อน”ไม่นะพ่อ..จะพรากเมียพรากผัวเค้าให้จากกันรึไงอ่ะ เหอะๆ
“ไม่เอาอ่ะ”กูตอบทันที
“ทำไม”พ่อก็ย้อนถามกลับทันทีเช่นกัน
“เมตรยังอยากอยู่กรุงเทพอยู่”กูตอบ เปล่าหรอก..ที่จริงกูคิดถึงเมีย กร๊าก
“เฮ้อ แล้วจะเอายังไง”พ่อถอนหายใจ
“................”กูเงียบ
“พรุ่งนี้ก็ไปอยู่กับแม่ก่อนแล้วกัน หรือว่าจะอยู่บ้าน”พ่อถาม
“ไม่เอาอ่ะ ไปอยู่กับแม่ดีกว่า”กูบอก อยู่คนเดียวเป็นโรคประสาทพอดีกู
“ไปคิดเอาเองแล้วกันว่าจะเอายังไง ให้คำตอบพ่อพรุ่งนี้ด้วย..ไม่งั้นจบแล้วก็มาทำงานที่นี่แหละถ้าให้คำตอบพ่อไม่ได้”พ่อพูด
“น่ะ..พ่ออะ”กูพูด ไหงพ่อเล่นบังคับกันเสร็จสรรพแบบนี้วะ
“ก็ถ้าไม่ทำแบบนี้ ก็คงใช้เวลาคิดไปสี่ห้าปีเลยมั้ง”พ่อประชดอีก
“เมตรรู้แล้วน่า”กูบอก กูนั่งคุยกับพ่อเรื่องนู้นเรื่องนี่ต่อ ชวนให้ออกประเด็นไปเรื่องอื่น จนแม่ทำกับข้าวเสร็จก็ยกมาให้กูตรงห้องนั่งเล่น เพราะกูขี้เกียจไปนั่งกินที่โต๊ะกับข้าว
“พรุ่งนี้เอาเมตรมันไปอยู่กับคุณแล้วกัน”พ่อพูดบอกแม่
“พรุ่งนี้จะไปอยู่กับแม่หรอ”แม่ถามงงๆ
“อืม”กูพยักหน้าตอบ
“แล้วเรื่องงานคุณคุยรึยังล่ะ”แม่ถาม
“คุยแล้ว ไม่ได้เรื่องเหมือนเดิม”พ่อพูด
“ได้เรื่องสิพ่อ บ่นไปได้”กูบ่น
“ให้มันไปดูงานที่บริษัทคุณก่อนสิ เป็นสต๊าฟผู้ช่วยอะไรไปก่อนก็ได้ จะได้เรียนรู้งานว่าเค้าต้องทำอะไรบ้าง..ชอบไม่ชอบก็ว่ากันไปอีกที”แม่พูด
“อืม เอารึเปล่าล่ะ”พ่อหันมาถามกู
“................”กูคิดไปเคี้ยวข้าวไป
“ก็ได้ แต่พรุ่งนี้เมตรไปอยู่กับแม่ก่อนนะ..วันมะรืนค่อยไป”กูบอก
“ผลัดจริง”พ่อบ่น
“น่า”กูตอบปัดๆแล้วกินข้าวต่อ ทำเอาพ่อกับแม่ส่ายหัวเซ็งๆ เหอะๆ


.............
.............


“อ่ะ..นี่บัตรลดห้องอาหารนะ แกจะกินอะไรก็เลือกเอาแล้วกัน แล้วก็ถามพนักงานว่าไปตรงไหน”แม่ยื่นบัตรส่วนลดที่เป็นอภิสิทธิ์สำหรับพนักงานระดับสูงในโรงแรมเท่านั้นที่ได้มาให้กู
“ถ้าอันนี้กินฟรี ยื่นให้เค้าแต่สั่งได้เฉพาะตามบัตรเท่านั้นนะ”แม่บอกอีกแล้วยื่นอีกปึกหนึ่งให้กู
“แม่คิดว่าเมตรจะกินหมดนี่เลยรึไง”กูพูด
“ก็เลือกสิ”แม่พูด
“แล้วแม่จะไม่ลงมากินข้าวกลางวันกับเมตรไง”กูถาม เพราะนี่มันยังเช้าอยู่เลย เมื่อเช้ากูโดนแม่ปลุกตั้งแต่เช้าให้อาบน้ำแต่งตัว แล้วไปตลาดพร้อมกับแม่ก่อนที่จะกลับมาจัดอาหารสำหรับใส่บาตร เมื่อเช้ากูก็ได้ใส่บาตรพร้อมกับพ่อและก็แม่ ก่อนที่ยืนหน้าบ้านส่งพ่อไปทำงาน ดูเป็นลูกที่ดีมากๆ เปล่าหรอก..พ่อเรียกให้กูไปปิดประตูรั้ว กร๊าก แล้วหลังจากนั้นกูกับแม่กูออกมาจากบ้านด้วยกัน มาที่ทำงานแม่นี่แหละ
“มีร้านกาแฟเปิดใหม่ อยู่ใกล้สระว่ายน้ำน่ะ..แม่มีแต่บัตรส่วนลดเค้กนะ”แม่พูดแล้วค้นกระเป๋าเอาบัตรมาให้กูอีก
“อย่าทำหายล่ะ”แม่ย้ำ
“แล้วจะให้เมตรไปอยู่ไหนอ่ะ”กูถาม ไม่ได้มาที่นี่นานแล้วด้วย แต่ก่อนตอนอยู่มัธยมก็มาบ่อยอยู่หรอก มาว่ายน้ำบ้าง เล่นน้ำทะเลก็จะขึ้นมาอาบน้ำตรงห้องอาบน้ำของโรงแรม
“อยากไปอยู่ไหนก็ไปสิ”แม่พูด
“ซะงั้นอ่ะ”กูตอบงงๆ
“ถ้าไม่มีไรทำก็ขึ้นไปหาแม่ที่ห้องละกัน จะได้ให้ดูงาน..แต่ถ้าไม่อยากดูก็คิดเรื่องที่พ่อให้คิดให้ออกก่อนเย็นนี้ล่ะ เดี๋ยวก็บ่นเป็นต่อยหอยอีก แม่ขี้เกียจฟัง”แม่พูด
“ผู้จัดการคะ..ท่านประธานมาแล้วค่ะ”พนักงานคนหนึ่งเดินมาบอก
“เฮ้ย แม่ไปประชุมก่อนนะ ยังไงก็ทำตัวดีๆล่ะ..มีอะไรโทรเข้าหาเลขาแม่ ไม่ก็โทรขึ้นห้องนะ..ถ้าแม่ไม่รับก็ส่งข้อความมานะ เผื่อรับไม่ได้ ไปละ..อย่าวุ่นวายล่ะ”แม่ย้ำก่อนที่จะรีบวิ่งไป
“แม่”กูเรียกไว้ก่อน
“ถ้าเมตรไปข้างนอกอ่ะ”กูพูด
“เอาไป”แม่โยนกุญแจรถยนต์ให้กูแล้วทำท่าจะวิ่งไป
“แม่”กูเรียกไว้อีก
“เงิน”กูพูดหน้าตาย ทั้งๆที่ตัวเองก็มีเงินอยู่แล้ว
“โอ้ย”แม่ร้องบ่นอย่างเซ็งๆแต่ก็เปิดกระเป๋าตัวเอง กูรีบเอามือไปล้วงกระเป๋าเงินที่แม่กำลังเปิดออกเพื่อหยิบแบงค์ให้กู แต่กูรีบหยิบไอ้ตรงที่เป็นแบงค์พันออกมาสามใบ
“โชคดีแม่”กูบอกแล้วรีบก้าวขาอย่างเร็วออกมา โบกแบงค์ให้แม่
“ไอ้เมตร”แม่เรียก
“ไอ้ลูกคนนี้ อย่าไปไหนไกลนะ”แม่พูดบอกอย่างเซ็งๆกับกูนิดหน่อย
“สั่งอย่างกับกูเป็นเด็กสิบขวบ”กูเดินบ่นคนเดียว แล้วหันมามองบัตรในมือตัวเอง แม่ง เป็นปึกๆเลย แดกห่าอะไรดีล่ะเนี่ย แต่ไม่เป็นไร เงินก็มี รถก็มี หนังสือกูก็เอามาอ่านเต็มกระเป๋าเลยวันนี้ เพราะกะว่าจะอยู่ที่โรงแรมยาวจนรถกลับพร้อมกับแม่อยู่แล้ว คงต้องคิดอะไรให้ออกอย่างที่แม่เตือนนั้นแหละ ไม่งั้นพ่อกูก็คงไม่สบายใจอีก ขานั้นยิ่งเป็นคนชอบคิดมากอยู่ด้วย  กูเดินไปในโรงแรมไปเรื่อย สังเกตว่ามีอะไรผิดไปแต่ก่อนบ้าง มันก็ผิดไปเยอะเลยแหละ ต้นไม้เยอะขึ้น สวนเยอะมากขึ้น คนมาเที่ยวมากขึ้น ตึก บ้านพัก สระว่ายน้ำก็ปรับปรุงใหม่หมด มีตึกกับบ้านพักเพิ่มขึ้นมาด้วย อืม..ชุดพนักงานก็เปลี่ยนกับเพิ่มขึ้นมาเยอะมาก  ด้วยความที่ทางมันคดเคี้ยวมากขึ้น กูเลยเดินหลงวนไปวนมาซะงั้น
“เออพี่ครับ ผมจะไปเนี่ย”กูบอกแล้วยื่นบัตรร้านกาแฟให้พี่พนักงานที่กำลังจะเดินผ่านกูไปให้ดู
“อยู่ตึก Royal อ่ะครับ..ชั้น1”พี่เค้าบอก
“อ่อครับ ขอบคุณครับ”กูยิ้มให้แล้วเดินไปตามป้ายที่บอก วันนี้วันพฤหัส วันสอบวันสุดท้ายของสลิ่มมันด้วย เห็นว่าจะสอบเสร็จตอบบ่ายสอง เมื่อเช้ากูก็โทรไปหามันเห็นบอกว่ากำลังตื่นเลย เพราะงัวเงียรับโทรศัพท์กู หลังจากนั้นกูก็ไม่ได้โทรอีกเพราะว่าจะไปกวนมันเปล่าๆ กะว่าสักบ่ายสามจะโทรหาอีกรอบ
พอกูหาร้านกาแฟเจอ ที่จริงมันมีเยอะมากแต่ร้านนี้มันมีบัตรลดก็เลยต้องเลือกร้านนี้อะดิ  กูสั่งกาแฟกับเค้กมากิน ระหว่างรอกูก็ดูหนังสือรถ หนังสืออะไรจิปาถะไปเรื่อยเปื่อยเป็นการฆ่าเวลา พออาหารมาเสิร์ฟระหว่างที่กูกิน กูก็มองไปเรื่อย คิดเรื่องที่พ่อพูดไปเรื่อยเปื่อย ถ้ากูมาอยู่ที่นี่จริงๆ กูก็จะไม่ได้เจอสลิ่มมันสิวะ หรือว่ากูต้องทำยังดี จบแล้วสมัครงานเลยดีไหมวะ แต่กูไม่อยากทำเลยอ่ะ เฮ้อ..ถ้ากูยังคิดไม่ออกอย่างนี้ มีหวังเรื่องสลิ่มกูก็ไม่มีหวังเหมือนกันอย่าที่ไอ้โมทมันพูดเตือน
พอกูกินเสร็จ กูก็เดินไปห้องรับรองแขก ซึ่งเป็นประจำสำหรับกูแต่ก่อนอยู่แล้ว แต่มันจะแปลกไปหน่อย มันจัดเป็นห้องสมุดด้วยไปในตัว ที่นั่งก็จัดเปลี่ยนให้ดีมากขึ้นกว่าเดิม ที่กูชอบเพราะว่ามันเป็นห้องกระจกมองเห็นทะเลด้านนอก กูเข้าไปนั่งอ่านหนังสือเพราะว่ามันเงียบดี อีกอย่างกูก็ไม่มีอะไรทำด้วย กะว่าให้หายอิ่มก่อนจะไปว่ายน้ำแก้เซ็ง
“เขียนอะไรของมันวะ”กูนึกในใจ เพราะกูเห็นฝรั่งมันนั่งกับพื้นทั้งๆที่คนอื่นเค้าก็นั่งบนเก้าอี้กันหมด มันเขียนลิสรายการเป็นข้อๆ กูนั่งมองมันจนมันเงยหน้ามาเห็นกูพอดี มันยิ้มให้ กูก็รีบยิ้มให้เพราะว่ากูเสือกไปนั่งจ้องเค้าน่ะสิ
“เขียน”กูนึก แล้วหันมามองสมุดโน้ตของกูบ้าง สมุดโน้ตอันนี้เป็นเล่มที่แม่ให้กูเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อสองปีที่แล้ว ส่วนตัวแล้วกูไม่ค่อยจะเขียนอะไรมากนัก แต่ชอบที่จะพกไปไหนมาไหนด้วยเพราะว่ามันรู้สึกอุ่นใจแปลกๆ กูหยิบมันขึ้นมาดูแล้วพลิกหน้ากระดาษของตัวเองดูบ้าง ถ้ากูเขียนบ้าง ถ้ากูลองเขียนจะเป็นยังไงวะ..กูยังคงนั่งมองไอ้ฝรั่งคนนั้นเหมือนเดิมจนมันหันมามองหน้ากูอีกครั้ง กูก็ได้แต่ยิ้มตอบแหยๆอีกครั้ง ก่อนที่จะมองหามุมของตัวเองบ้าง กูลุกขึ้นหยิบหนังสือกับกระเป๋าของตัวเองไปที่โต๊ะติดกระจกแบบสูงข้างไอ้ฝรั่งคนนึง นั่งข้างฝรั่งมันจะได้อ่านไม่ออกว่ากูเขียนอะไรอะดิ กูเขิน..กร๊าก
กูนั่งมองสมุดโน้ตของตัวเอง ตั้งแต่เกิดมากูยังไม่เคยเขียนอะไรจริงจังเลยสักครั้ง ถ้าไม่โดนบังคับ เช่นเขียนรายงานส่งอาจารย์ เขียนเรียงความส่งอาจารย์หรือว่าเขียนการ์ดให้พ่อกับแม่น่ะ กูไม่เคยมานั่งคิดว่าจะเขียนอะไรพวกนี้ลงไป กูเคยได้ยินมีคนบอกว่า ถ้าต้องการเรียนรู้อะไรจากตัวเอง ให้เริ่มเขียนจากสิ่งที่ตัวเองชอบและไม่ชอบออกมา กูเลยลงมือแบ่งกระดาษของตัวเองออกเป็นสองข้าง อีกข้างเป็นสิ่งที่กูชอบและอีกข้างเป็นสิ่งที่กูไม่ชอบ  กูเอาไอพอตเสียบหูเปิดเพลงสบายๆฟังก่อนที่จะเริ่มลงมือสำรวจตัวเองไปเรื่อยเปื่อย  เวลาผ่านไปนานมากโดยที่กูนั้นไม่ได้รู้สึกตัวเลยสักนิด  ยิ่งนั่งเขียนไปอะไรๆมันก็เริ่มประทุออกมาเรื่อยๆ กูหันไปมองนาฬิกาอีกทีมันผ่านมาเกือบชั่วโมงกว่าเกือบสองชั่วโมงแล้ว กูนั่งอ่านสิ่งที่กูเขียนมาทั้งหมด แต่กูยังไม่สามารถสรุปอะไรให้ตัวเองมากนัก สิ่งที่รู้แค่ตอนนี้คือ ถ้ากูลองเปิดกิจการเป็นของตัวเองบ้าง พ่อกับแม่กูจะว่าไง นี่คงเป็นจิตใต้สำนึกที่กูคิดมาตลอดแต่กูไม่กล้าที่จะพูดออกไปเท่านั้นเอง เพราะมันดูเหมือนจะอวดดีใช่ย่อยกับการกระทำของกู ที่ไม่ได้มีประสบการณ์อะไรเลยแล้วเสือกมาคิดการใหญ่ ที่จริงกูไม่ได้อยากจะเปิดอะไรใหญ่มากมาย แค่อยากจะทำอะไรที่อยากทำก็เท่านั้น แต่พอเวลาที่พ่อแม่ถามว่าอยากทำอะไรนั่นมันเลยทำให้กูไม่กล้าพูดออกไปว่าที่จริงกูต้องการอะไร เพราะมันดูจะอวดดีไปหน่อยนั่นแหละ มันเลยทำให้พวกเค้าคิดว่ากูจะไม่เอาอะไรจริงจัง
“เฮ้อออ”กูนั่งถอนหายใจ หรือว่ากูจะมาทำงานกับพ่อก่อนดีวะ ให้เค้าไว้ใจก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที แต่ว่า..มันต้องห่างกับสลิ่มอะสิ
กูนั่งลิสงานที่กูนึกอยากจะทำออกมา เรียงกันไม่ได้เยอะอะไรมากนัก แต่มันก็ทำให้กูอ่านตัวเองออกมาและมีเป้าหมายมากขึ้นว่ากูกำลังต้องทำอะไรต่อไป  รู้สึกอีกทีกูก็เริ่มเมื่อยมือ เมื่อยหลัง หันไปดูนาฬิกาก็เกือบเที่ยงเข้าไปแล้ว ไม่นานแม่ก็โทรเข้ามือถือกูบอกไปให้กูเจอกันที่ฟร๊อนโรงแรม แล้วกูก็เก็บของเดินไปหาแม่ก่อนที่จะพากันไปกินข้าวด้วยกัน  กูเอากระดาษที่กูเขียนเมื่อกี้ยื่นให้แม่ดูระหว่าที่รออาหาร
“.................”พอแม่อ่านเสร็จแม่ก็เงยหน้ามองหน้ากูแต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร
“เมตร..เอ่อ ไงอ่ะ”กูพูดไม่ออก เขินนิดหน่อยก็ด้วย
“ที่จริงเมตรก็อยากจะลองดูอะไรหลายๆอย่างอะนะ แต่เป้าหมายก็คงไอ้อย่างที่เขียนไป เมตรไม่ได้ใฝ่สูงไปใช่เปล่า”กูพูด
“หึ..”แม่หัวเราะหน่อยๆแล้วอ่านกระดาษต่อ
“ไรอ่ะแม่”กูพูด
“ก็ไม่ไง ก็ดีนี่..ใฝ่สูงดีกว่าใฝ่ต่ำ”แม่กูพูดขำๆ
“โห”กูตอบแค่นั้น แม่ง เหมือนประชดกูซะงั้นอ่ะ
“ลองพูดกับพ่อเค้าดูสิ”แม่พูด
“ไม่เอาหรอก เมตรยังไม่อยากให้พ่อมาลงทุนอะไรกับเมตรมากนัก”กูบอก เพราะว่าพ่อก็คงทำให้แน่ๆถ้ากูตั้งใจว่าจะทำจริงๆ
“เค้าก็คงจะดีใจ ถ้าแกอยากจะทำมันจริงๆ”แม่พูดบอก
“แต่เมตร..ไม่มั่นใจ”กูบอก
“ทำธุรกิจไม่มีอะไรไม่น่ากลัว ทุกอย่างเสี่ยง..ดังนั้นถ้าอยากประสบความสำเร็จ ก็ต้องกล้าเสี่ยง กล้าๆหน่อยดิวะ”แม่พูดเสียงนักเลงใส่กูอีก
“แม่ก็พูดง่ายสิคุณผู้จัดการ”กูประชด
“เมตรก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วด้วย สลิ่มก็เหมือนหวังอะไรในตัวเมตรก็ไม่รู้..โมทมันบอกว่าแค่รักมันไม่พอ แล้วสลิ่มก็ไม่ยอมพูดบอกอะไรเมตรเลยด้วย ทะเลาะกันทีถึงพูดที มานี่ก่อนมาก็ทะเลาะกันเลยไม่ได้คุยอะไรกันมาก..เมตรก็หาทางออกไม่เจอละแม่”กูพูดระบายออกไป
“เมตรก็ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ถึงพอ ทำไมน้องไม่เห็นบอกรักเมตรสักที..ทั้งๆที่บางทีก็เหมือนรักเมตรด้วยซ้ำ”กูพูด
“...............”แม่เงียบจ้องหน้ากู
“บางทีเมตรก็รู้สึกเหมือน เมตรเหนื่อย”กูบอก
“เมตรรู้ว่าพ่อกับแม่คาดหวัง พอเมตรหาทางออกไม่เจอ..เมตรก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อ”กูพูด
“หาไม่เจอทำไมไม่พูดล่ะ แกก็บอกแม่มาสิ เรื่องแค่นี้ไม่เห็นจะต้องเครียดอะไรเลย..ถ้าน้องมันไม่มั่นใจ ก็เหมือนที่พ่อกับแม่ไม่มั่นใจในตอนนี้นั่นแหละ ทำไมไม่ทำให้มั่นใจซะล่ะ เรื่องแค่นี้ง่ายจะตาย”แม่พูดเสียงเหมือนเป็นห่วงและเหมือนกับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ได้มีอะไรยากและน่าหนักใจเลยสักนิด
“ก็เห็นไอ้โมทมันบอกว่าพ่อดูเครียดๆ เมตรก็เครียดด้วยนะ เมตรจะพูดได้ยังไง..เรื่องสลิ่มก็อีก ถ้าพ่อรู้เมตรก็ไม่รู้จะทำยังไงด้วย เรื่องเรียนกับงานก็ไม่เอาไหน แถมยัง..”กูรู้ว่ากูแทบแย่ไปซะหมดก็ตอนนี้ ถึงมันจะไม่ได้ดูแย่หรือร้ายแรงขนาดนั้น แต่สำหรับพ่อแม่ที่คาดหวังกับลูกไว้ และเค้าก็ทุ่มเทให้ทุกอย่างแต่กูกลับไม่ได้ดีนั้น มันเลยทำให้กูคิดมากนิดหน่อย
“เค้ารู้แล้วแหละ”แม่พูด
“................”กูเงียบ ค้างมองหน้าแม่ด้วยความตกใจ
“แม่บอกพ่อเค้าไปแล้ว”แม่พูด
“ทำไมแม่ไม่บอกเมตร”กูพูด
“บอกไปแกก็ตกใจแบบนี้น่ะสิ”แม่พูด
“แล้วทำไมพ่อไม่เห็นพูดอะไร”กูพูด
“เค้าก็คงไม่อยากพูดแหละมั้ง ก็เป็นคนแบบนั้นอยู่แล้ว..ก็คงอยากให้แกบอกเค้าเอง”แม่พูด
“เมตรไม่กล้าพูดหรอก ทำไมพ่อถึงเงียบล่ะ”กูคิดหนักเลยทีนี้
“ก็เงียบๆทำเป็นไม่รู้เรื่องไปแล้วกัน แรกๆเค้าก็ช็อกเหมือนกันแหละ แต่แม่อธิบายให้ฟังไปแล้วกับใส่ไข่นิดหน่อย”แม่พูดขำๆ
“ไม่ขำเลยอ่ะแม่ พ่อเล่นเงียบงี้..รับได้หรือรับไม่ได้ก็ไม่รู้”กูพูด
“เออน่า แกพร้อมเมื่อไหร่ก็หาจังหวะคุยกับเค้าเองแล้วกัน..มันก็เป็นธรรมดาที่จะรับได้หรือว่ารับไม่ได้”แม่พูด
“กินเหอะ”แม่บอกเมื่ออาหารมาเสิร์ฟ
“ส่วนเรื่องงานเย็นนี้ก็ลองไปคุยกับพ่อเค้าดูว่าจะเอายังไง เคลียร์ไป..ดูเค้าจะอยากให้ได้บทสรุปสักที”แม่พูดบอก
“ครับ”กูตอบแค่นั้นแล้วเขี่ยอาหารหน่อยๆ กลายเป็นว่าแม่เล่นทำให้กูคิดมากกับสิ่งที่กูได้รู้กันเลยทีเดียว เฮ้อ..พอกูกับแม่กินเสร็จ แม่ก็ต้องขึ้นไปทำงานต่อ กูก็ขึ้นไปด้วย อยู่กับแม่เกือบสองชั่วโมงก็เบื่อ เลยลงมาว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำด้านล่างอยู่นานเหมือนกัน ว่ายไปก็คิดเรื่องพ่อกับสลิ่มไปเรื่อยเปื่อย แช่จนตัวเปื่อยกันเลยทีเดียว ขึ้นสระอีกทีก็ใกล้เวลาโทรหาสลิ่มกูก็เลยรีบไปอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วโทรหาสลิ่มมัน  ก่อนที่จะไปนั่งรอแม่ที่ห้องรับรองเหมือนเดิม อย่างหนึ่งที่ทำให้คิดเรื่องพ่อกับสลิ่มได้ตอนที่กูกำลังว่ายน้ำอยู่ พ่อไม่พูดอะไรก็มีความเป็นไปได้ว่าเค้าอาจจะรับได้หรือทำใจได้แล้ว หรือว่าอยากให้กูมีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่งก็เพราะว่าเรื่องนี้ด้วย หรือว่าพ่อไม่อยากจะพูดถึงมัน หรือว่ารอให้กูไปพูดบอกเค้าเองอย่างที่แม่พูดบอก  ส่วนเรื่องของสลิ่มถ้ากูจะเริ่มต้นอีกครั้งกับการทำให้มันเชื่อใจ กูต้องทำยังไงดีวะ..ถึงจะได้คำว่า “เป็นแฟนกัน” สำหรับกูและมัน  คิดถึงประโยคที่แม่พูดเมื่อเที่ยงนี้ “เรื่องแค่นี้ ง่ายจะตาย” มันทำให้กูรู้สึกดีแปลกๆที่ว่ายังมีแม่ที่เข้าใจกูและเห็นว่าเรื่องของกูกับสลิ่มเป็นเรื่องสำคัญ และหรือไม่ว่ากูจะทำอะไรเค้าก็ยังคอยให้กำลังใจเป็นฐานให้กู มันเลยทำให้กูชื่นใจ รู้สึกดีขึ้นมาซะเฉยๆ
คิดได้อีกทีมือกูมันก็เขียนไปกับกระดาษแล้วเรียบร้อย อยู่ดีๆมันก็เขียนออกไปแบบว่าหยุดมือไม่ได้ นี่กูมีอะไรที่อยากจะบอกมันเยอะขนาดนี้เลยหรอวะ กูเริ่มเขียนจนปวดนิ้วปวดมือไปหมด เพราะกูไม่เคยจดอะไรนานๆตามความคิดของตัวเองโดยที่ไม่หยุดพักขนาดนี้มาก่อน พอเริ่มอ่านใหม่อีกครั้งก็เสือกอายตัวเองซะงั้นว่ากูเขียนไปได้ยังไงวะ
“ห่า..เขิน”กูพูดเบาๆขำๆกับตัวเอง กูฉีกกระดาษออกมาแล้วพับใส่กับสมุดตรงด้านหน้าแรกไว้ ถ้ากูเอาให้มันอ่าน มันจะรู้สึกแบบกูไหมวะ และถ้ามันอ่าน มันจะยอมใจอ่อนกับกูบ้างไหม มันจะดีใจไหม ไม่ๆ..กูจะไม่ให้มันอ่าน กูยังทำใจไม่ได้ กูก็เขินเป็นบ้างอะไรบ้าง ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยทำเหี้ยไรแบบนี้เลยให้ตายเหอะ
“ไอ้บ้าเมตรเอ๊ย”กูบ่นกับตัวเอง นั่งขำไปมองกระดาษไปจนไอ้ฝรั่งข้างๆมองหน้ากูงงๆ มันคงคิดว่ากูเป็นบ้า พอมันมองหน้ากู กูก็ขำใส่หน้ามันซะเลย อยู่ดีๆทำไมกูเสือกรู้สึกมีความสุขวะ ทั้งๆที่ยังไม่ได้เกิดเหตุการณ์อะไรสำคัญเลยด้วยซ้ำ หรือว่าที่เกิดมามันสำคัญแล้ว เอ๊ะ..หรือยังไง


.............
.............


“นี่น้าต่อไกด์นำทัวร์รอบนี้”พ่อแนะนำ กูยกมือไหว้ผู้ชายตรงหน้า ที่ดูแล้วจะอ่อนกว่าพ่อกูไม่กี่ปี เค้ายิ้มให้กูแต่กูกลับรู้สึกไม่ถูกชะตากับรอยยิ้มของมันซะงั้น เมื่อวานตอนเย็นที่กูกลับจากโรงแรมของแม่พร้อมกับแม่ กูรอพ่อกลับมาบ้าน พอพ่อกลับมากูก็เลยลากมาคุยด้วย เรื่องงานของกู กูเอากระดาษให้พ่ออ่านเพราะว่ากูไม่รู้จะอธิบายให้พ่อฟังยังไง ถึงยังไงพ่อกับแม่ก็สนิทกับกู และกูก็ไม่ค่อยจะกลัวเรื่องอะไรพวกนี้อยู่แล้ว ชอบหรือไม่ชอบอะไรก็จะพูดออกไป แต่ครั้งนี้กูก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้พ่อเข้าใจจริงๆ กูเลยเอากระดาษให้พ่ออ่านซะเลย
“ลองดูงานไปเรื่อยๆก่อนไหม แล้วก็คิดอีกทีว่าอยากทำเกี่ยวกับอะไร”พ่อบอกกูเมื่อวานเย็นที่คุยกัน
“ได้หรอพ่อ”กูถามกลับทันทีด้วยความตื่นเต้น
“อืมสิ..ถ้าแกตั้งใจว่าอยากจะทำ พ่อก็จะลงทุนให้”พ่อพูดบอก
“พ่อไหวหรอ”กูเกรงใจนิดหน่อย ตลอดมากูเป็นคนเดียวในบ้านที่ใช้เงินเก่งมากที่สุดมาตลอด
“ถ้าแกมั่นใจว่ามันจะไม่เจ้งอ่ะนะ”พ่อพูดขำๆ
“โห ให้กำลังใจกันมาก”กูพูด
“ลองดูงานไปเรื่อยๆแล้วกัน อยากทำอะไรก็กลับไปก็ลองส่งข้อมูลที่อยากจะทำมาให้พ่อดูก่อน เอารายละเอียดหลักๆ..แล้วเราค่อยมาดูกันว่าอันไหนผ่านพอทำไหว ตลาดต้องการมากขึ้น”พ่อพูดบอก
“ส่วนเวลาที่รอสอบแกก็ตั้งใจสอบรอบหน้าให้ผ่าน แล้วค่อยกลับมาดูงานกับพ่ออีกที..หรือว่าอยากไปเรียนอะไรเพิ่มก็บอกมา ทำอย่างที่อยากจะทำก็แล้วกัน”พ่อพูดบอก
“จริงนะพ่อ”กูพูด
“อืม”พ่อตอบยิ้มๆ
“เมตรขอโทษนะ ที่บางอย่างเมตรทำตามที่พ่อบอกให้ไม่ได้”กูพูดบอก
“ทำอะไรแล้วไม่มีความสุข ก็ไม่ต้องฝืนไปทำมันหรอก..พ่อไม่เคยบังคับให้แกทำอะไรไม่ใช่รึไง ถ้าแกไม่มีความสุขแล้วพ่อจะมีความสุขได้ยังไง”พ่อพูดเสียงเรียบ
“..............”กูเงียบเพราะว่าพ่อเหมือนจะสื่ออะไรกับกู หรือว่ากูคิดไปเอง กูลุกไปนั่งใกล้พ่อโดยที่กูนั่งอยู่ตรงพื้นด้านล่าง
“ขอบคุณครับ”กูยกมือไหว้พ่อที่ตัก พ่อได้แต่กอดกูไว้แน่นไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น ส่วนกูก็ไม่ได้เอ่ยปากบอกอะไรพ่อกูออกไป ไม่ใช่กูไม่กล้าพูดแต่กูยังไม่พร้อม กูอยากวางรากฐานให้มั่นคงอย่างที่พ่อคาดหวังไว้ ให้เค้ามั่นใจว่ากูทำได้แล้ว ยืนด้วยตัวเองได้แล้ว ถึงเวลานั้นกูจะพูดบอกพ่อเอง ถึงแม้ว่ามันจะช้าไปหน่อยก็ตาม แต่กูก็หวังว่าพ่อคงจะรอเวลาที่กูจะพูดบอกพ่อด้วยตนเองแหละนะ

“ส่วนนี่พี่เอิทผู้ช่วยน้าต่อ”พ่อแนะนำอีก กูยกมือไหว้ผู้ชายอีกคนที่ดูยังวัยรุ่นอยู่ ไม่แก่ ไม่หนุ่มอายุน่าจะราวๆยี่สิบเจ็ด ยี่สิบแปดประมาณนั้น
“ส่วนนี่พี่ป้อม รู้อยู่แล้วนิ”พ่อบอก พี่ป้อมผู้ช่วยของพ่อกูเอง เป็นคนคิดงาน ครีเอทเรื่องต่างๆแทบจะเทียบตำแหน่งผู้จัดการเลยแหละ แต่พ่อกูจะสนิทกับพี่ป้อมมากกว่า เพราะพี่เค้าเป็นคนดี เสมอต้นเสมอปลายกับบริษัทของพ่อกูมานานมากๆ ไม่เคยมีนอกมีใน ทำงานหนัก มาก่อนเวลาแต่กลับทีหลังตลอด ทำงานเยี่ยงควายไม่เคยเกี่ยงเลยสักนิด พ่อกูเลยรักพี่ป้อมเหมือนลูกสาวตัวเองก็ไม่ปาน
“วันนี้ฝากด้วยแล้วกันนะ”พ่อบอกพี่ๆทุกคน วันนี้เป็นอีกวันที่กูต้องออกดูงานนอกสถานที่กับพวกพี่พวกนี้ กรุ๊ปทัวร์ที่มาลงคือกรุ๊ปญี่ปุ่น ซึ่งกูจะไปเรียนรู้งานเฉยๆว่ากูต้องทำอะไรยังไงบ้าง เป็นสต๊าฟว่างั้นเหอะ ส่วนคนแนะนำงานก็จะเป็นพี่ป้อมที่วันนี้พ่อส่งให้มาดูแลกู แต่ตัวหลักก็จะเป็นน้าต่อกับพี่เอิทอะไรนี่แหละมั้ง




.................>>>><<<<.................

รีบลง..ไฟติด
ลงนิยายมาสองอาทิตย์ หนังสือหนังหาไม่ได้อ่านเลยกู :z3:
ใกล้จะสอบปลายภาคอีกละ(เซ็ง :z10:)..เลยรีบลงให้เรื่อยมันจบๆไปก่อน(จะได้ไม่ต้องห่วง :เฮ้อ:)
ส่วนตอนพิเศษที่จะเพิ่มของสลิ่มเอาไว้ทีหลังเรื่องจบ :haun4: :z1: :m25:
ส่วนคู่อื่นๆที่เพิ่มอีก :z1:..ไว้ว่ากันอีกที  :m20:กร๊าก
ปล.สุดท้ายวันนี้กูจะอ่านหนังสือ แต่กูกลับนั่งเขียนนิยายอีก :z3: จะรอดไหม o22 ห่า!! :serius2:

ออฟไลน์ nopkar

  • เป็ด indy
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-3
สลิ่มก็แอบรอการพิสูจน์จากเมตรอยู่ลึกๆใช่มั๊ยยยยย..

ออฟไลน์ knightofbabylon

  • it's sorrow that feeds your lies!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-51
ทำให้ได้นะเมตร
สลิ่มก็แอบรอการพิสูจน์จากเมตรอยู่ลึกๆใช่มั๊ยยยยย..
เราก็ว่าสลิ่มรอที่จะเชื่อมั่นในตัวเมตรอยู่เหมือนกัน



อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าเมตรน่ารักว่ะ
น่ารักตอนอยู่กับพ่อกับแม่ ดูเป็นเด็กตัวน้อยๆดีอ่ะ


 :กอด1: ให้กำลังใจคุณเบบี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2010 17:47:27 โดย knightofbabilon »

huimei

  • บุคคลทั่วไป
สู้ตายนะเมตร
จะทำตัวให้หลิ่มเชื่อมั่นได้ใช้มั้ยเนี่ย  o13

 :กอด1: เบบี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2010 17:49:24 โดย huimei »

ออฟไลน์ iiดาวพระสุขლii

  • คิดการใหญ่ ใจต้องเหี้ย(ม),,
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +746/-3
สรุป ไอ้เมตร เอาตัว รอด..
คนเขียน เอาตัวไม่รอด....กร๊ากกกก   :m20:

ตั้งใจอ่านหนังสือเข้าล่ะ เบเบ๋ที่ร๊ากกกกก   :กอด1:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
 :กอด1: ให้กำลังใจเมตร
ดีใจที่เมตร"เจอ"ในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ
พ่อกับแม่ก็น่ารักเข้าใจในตัวลูกชายและก็พร้อมให้โอกาสเพื่อที่ลูกชายจะพิสูจน์ตัวเอง
คราวนี้เมตรคงจะทำให้ใครหลายๆคน มั่นใจ และเชื่อใจในตัวเขาซะที

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
อืมม ลุ้นว่าเมตรจะจัีดการยังไงกับชีวิตตัวเอง

ไรท์เตอร์ก็สู้ๆนะคะ อ่านหนังสือบ้างอะไรบ้าง หุๆ

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
โห...เฮียตั้งแต่อ่านมาเนี่ยตอนนี้
เฮียดูเป็นผู้ใหญ่จัง มีสาระมาก
เป็นกำลังใจให้นะ
เหมือนที่เฮียบอก
"กูจะทำเพื่อมึง"
o13

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
อยากรู้จังว่าเมตรเขียนไรไว้บ้าง

 o13 o13 o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด