Memorial~รักแรก รักสุดท้าย [แจ้งข่าวหน้า 516: 29/ก.ย/57]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Memorial~รักแรก รักสุดท้าย [แจ้งข่าวหน้า 516: 29/ก.ย/57]  (อ่าน 3409269 ครั้ง)

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
ตอนที่87  เตือนตัวเอง เพื่อ..ตัวเอง


“กูต้องกลับบ้านอีกแล้ว มึงไม่คิดถึงกูรึไง”
“...............”
“เซ็งเลยอ่ะ ขี้เกียจกลับแล้วด้วย”กูบ่นไม่เลิก
“อนาคตมึงนะ”แม่ง ประโยคเดียว จุกเลยไหมครับพี่น้อง
“รู้แล้วน่า ถึงได้เทียวไปเทียวมาอยู่นี่ไง แต่มึงกับกูไม่ได้เจอกันมาเป็นอาทิตย์แล้วนะ แล้วเดี๋ยวนี้เราก็ไม่ได้ตึ๋งโป๊ะกันด้วย”กูพูด
“ตายซะป่ะ”มันพูด
“โด่..ก็จริงนี่ เครื่องมาแล้ว ไปแล้วนะ ถึงแล้วจะโทรหา”กูบอก
“อืม”มันตอบแค่นั้น
“วางนะครับ”กูพูด
“อืม อย่าไปสะดุดขาแอร์ล้มล่ะ”มันพูด
“หึ..”กูหัวเราะตอบ เพราะรู้ดีว่านี่เป็นการอวยพรอย่างหนึ่ง ถ้าเป็นคนปกติทั่วไปคงอวยพรว่า “เดินทางปลอดภัย” หรือ “เดินทางดีๆนะ” หรืออะไรเถือกนี้ แต่สำหรับเมียกู “อย่าสะดุดขาแอร์ล้ม” คงหมายความประมาณว่า “โชคดีนะ” นั่นแหละมั้ง กร๊าก
     วันนี้เป็นอีกวันที่กูต้องกลับไปช่วยงานพ่อ ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ช่วงนั้นกูค่อนข้างใช้ชีวิตกับสลิ่มมันบ่อยมากๆ แต่หลังจากนั้นก็แทบไม่ได้เจอกันเลย เพราะกูต้องทำโปรเจคจบแล้วก็ต้องเตรียมสอบให้ตัวเองต้องผ่านหมดทุกตัวโดยที่ไม่ติดอะไรทั้งสิ้น เพราะไม่งั้นมันจะเสียอยู่ตรงที่ใบจบกูด้วยอ่ะนะ ส่วนสลิ่มมันก็เตรียมสอบ จนยิ่งประมาณเดือนมีนาคมนี่ได้เห็นหน้ากันแค่สองครั้งเองมั้ง พากันออกไปกินข้าวก็แค่นั้นเอง หลังจากสอบเสร็จทั้งกูและสลิ่มก็ต่างคนต่างต้องทำหน้าที่ของตัวเองไป ปิดเทอมสลิ่มมันต้องเรียนพิเศษแบบหนักสุดๆ เห็นว่ามันบอกว่าไหนๆก็ได้หยุดยาวสบายแล้วกับการเรียนและการสอบได้ทำเต็มที่แล้วมันก็เลยตั้งใจอยากจะทำอะไรเพื่อตัวเองอีก มันลงเรียนกีตาร์กับอาจารย์มันต่อหลังจากที่หยุดมานาน ไปเรียนวาดรูปติวสอบด้วยเห็นว่ามันจะเอาดีไปด้านนี้ แต่มันยังไม่ยอมบอกกูว่าจะเลือกคณะอะไร มันบอกว่ามันคาใจอยากเลือกอยู่สามคณะ กูก็ตามใจไม่คาดคั้นเรื่องแบบนี้มันต้องตัดสินใจสักระยะ ค่อยเป็นค่อยไป มันต้องลงเรียนพิเศษวิชาอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งเวลาแค่จะโทรหากันนี่แทบจะไม่มี เพราะเวลาของกูและมันไม่ค่อยตรงกันนัก กูกับไอ้โมทหาที่หาทางทำเลของร้านกู ส่วนตัวกูเองก็ค่อยเป็นค่อยไปกับกิจการของตัวกูด้วยเหมือนกัน กูเลยต้องเต็มที่ๆจะช่วยงานที่บริษัทของพ่อกู เพราะกูรู้ดีว่าวงเงินที่กูต้องใช้จากพ่อกูอีกนั่นมันเป็นก้อนที่ใหญ่มากทีเดียว กูกับไอ้โมทเลยรอบคอบที่จะคอยช่วยเหลือกัน รวมถึงไอ้มิ้วค์ที่สมองมันคิดอะไรดีๆได้หลายๆอย่างอะนะ ก็ต้องคอยช่วยคิดและมองข้อบกพร่องของกันและกัน  โดนส่วนตัวแล้วกูไม่ได้รีบร้อนอะไร กูอยากให้มันงานทุกอย่างมันแน่นอน ช้าเร็วไม่เป็นไร แต่ขอให้ทุกอย่างมันออกมาดีก็เท่านั้นพอ
     เดือนนี้เดือนเมษา จะวันเกิดกูแล้วด้วย ตอนแรกกูแทบลืมวันเกิดของตัวเองไปแล้ว แต่ไอ้โมทมันพูดขึ้นมาว่า “ทำบุญตักบาตรซะบ้าง ใกล้วันเกิดแล้วนิ” เลยทำให้กูนึกได้ว่า อ่าว..จะวันเกิดกูแล้วหรอวะ ที่จริงแล้วกูก็อยากอยู่วันเกิดฉลองกับเพื่อนๆแล้วก็สลิ่มมันนั่นแหละนะ แต่ที่ต้องกลับมาบ้านเนี้ยมันต้องอยู่ยาวถึงสองอาทิตย์ แล้วมันก็เลยวันเกิดกูไปวันนึงเลยด้วย เลยว่าจะพาแม่ไปวัดทำบุญอย่างที่ไอ้โมทมันบอก แล้วก็พาพ่อกับแม่ไปเลี้ยงข้าวด้วยเงินจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองนั่นแหละ


............
............


“หืม มีแต่ได้กับได้ว่ะพ่อ”กูบ่นขึ้นเมื่อดูแผนโปรโมชั่นที่จะยื่นให้โรงแรมที่จะหุ้นด้วยกัน
“แล้วจะทำยังไง คงต้องยอมไปก่อน”พ่อบอกสีหน้าเรียบเฉย
“แต่เมตรว่าที่ให้หักค่าหัวคิวแค่นี้เราไม่เสียเปรียบไปหรอพ่อ”กูยังเค็มไม่เลิก
“................”พ่อทำหน้าคิดนิดหน่อย
“เอาลูกค้าก่อนแล้วกัน”พ่อพูด
“ตามใจพ่อแล้วกัน”กูบอก
“น้องเมตรเสื้อแจ๊กเก็ตมาลงแล้วนะ”พี่ป้อมเดินมาบอก กูยิ้มตอบให้แล้วลุกขึ้น เสื้อแจ๊กเก็ตเป็นสิ่งที่กูคิดอีกนั่นแหละนะ ไม่ใช่อะไรหรอก กูสาระแนอยากได้เอง กร๊าก เลยอยากให้ทุกคนมีเหมือนๆกู เลยออกแบบ สั่งเย็บ สั่งตัดซะเลย
“สีสบายตาดี ช่างจะคิดนะเรา”พวกพี่พนักงานพูด ตอนแรกกูว่าจะเอาสีดำ แต่ดันไปเจอไอ้บริษัทคู่แข่งมันเอาสีดำไปแล้ว กูเลยเอาสีฟ้าน้ำทะเลซะเลย แล้วเสื้อเป็นแบบผ้าล่มจากที่ตอนแรกจะเอาเป็นแบบผ้าแบบเสื้อแจ๊คเก็ตปกติทั่วไป พอเอาเป็นผ้าล่มแล้วสีฟ้าน้ำทะเลมันก็เลยดูจะเข้ากันไปโดยปริยาย อันนี้ก็ไม่บังคับอ่ะนะว่าใครจะใส่ไม่ใส่ ส่วนมากกูออกแบบออกมาให้คนออกนอกพื้นที่เอาไว้ใส่อยู่แล้ว เพราะต้องตากแดด ตากลม บางทีตากฝนก็มีเหมือนกัน มันจะได้แห้งง่ายๆ
“เดี๋ยวต้องไปพบลูกค้าคนเดิมนะ เมตรก็เข้าไปคุยพร้อมพี่กับพ่อเลยแล้วกัน ดูเหมือนว่าคราวที่แล้วที่เค้าเจอเมตร จ้องอยู่นั่นแหละ เอาไปเป็นนายกวักซะหน่อย”พี่ป้อมพูดทำหน้าทำตาเจ้าเล่ห์ใส่กู กูก็นึกออกเลยว่าพี่เค้าหมายถึงลูกค้าคนไหน
“หึหึ เดี๋ยวเมตรคิดค่าตัวนะ”กูบอกขำๆ เพราะตัวกูเองก็รู้ตัวเหมือนกันว่าเจ๊แกชอบจ้องกูแปลกๆ เป็นผู้หญิงที่อายุน่าจะประมาณสามสิบต้นๆ ยังวัยรุ่นเพี้ยวอยู่เลย
“...............”พี่ป้อมไม่ตอบอะไร เอาแต่ยิ้มมองหน้ากูอย่างเอ็นดูก่อนที่จะหันไปมองหน้าพ่อ
“พ่อ เดี๋ยวเมตรมานะ”กูหันไปบอกพ่อ
“ไปไหนล่ะ”พ่อถาม
“กินกาแฟร้านข้างๆเนี้ยแหละ”กูบอกแล้วชี้ๆไปเรื่อย แล้วเดินออกมา กะว่าจะโทรหาสลิ่มมันหน่อย ตั้งแต่วันที่เดินทางมาถึงก็ยังไม่มีเวลาโทรคุยกันจริงจังสักที ได้คุยกันแค่สองสามนาทีก็วางตลอด กูเดินไปที่ร้านกาแฟสดร้านข้างๆ แล้วเข้าไปในร้าน สั่งกาแฟกับอะไรนิดหน่อยมากินฆ่าเวลา แล้วมากดโทรศัพท์โทรหาสลิ่มมัน

ตู๊ดดๆ  ๆ   ๆ

“โหล”มันพูด
“อยู่ไหนน่ะ”กูถามเลยประโยคแรก เพราะเสียงรอบตัวมันวุ่นวาย
“กำลังเดินไปเรียน”มันบอก
“กินอะไรรึยัง”กูถาม
“กินแล้ว เมื่อกี้..เขต!”มันตอบกู ก่อนที่จะตะโกนเรียกไอ้เขตซะเสียงดัง
“อ่าว วันนี้ไปไหน”กูถาม
“เปล่า วันนี้ไอ้เขตเรียนคณิตตรงวันกันพอดี”มันบอก
“อ๋อ แล้วจะกลับบ้านเลยรึเปล่า ใครมารับหรือกลับกับไอ้เขต”กูถามไม่เลิก กาแฟมาเสิร์ฟก็ไม่แดก สั่งไปงั้นแหละ
“ถามมาก”มันพูด
“อยากรู้คำตอบ ไม่งั้นจะถามเพื่อ..”กูย้อน
“เดี๋ยวไปร้านดนตรี ไอ้เขตจะไปดูไม้กลองให้ไอ้เวก่อน แล้วให้มันไปส่งบ้าน”มันบอก เพราะตั้งแต่ปิดเทอม ส่วนมากมันจะอยู่บ้านตลอดเลย มีแค่วันที่มันต้องไปร้องเพลงที่ร้านวันศุกร์กับวันเสาร์น่ะ มันจะไปนอนหอมัน
“แล้วอยู่ไหนอ่ะ”มันถามกลับ
“ภูเก็ต”กูตอบ
“หึ งั้นวางละ”มันพูด
“ร้านกาแฟ”กูตอบขำๆ
“เดี๋ยวต้องไปเจอลูกค้ากับพ่ออีก”กูบอก
“เมตร แป๊บนะ”มันบอก
“อืม”กูตอบแค่นั้น หลังจากนั้นกูก็เงียบรอฟังว่ามันทำอะไรของมัน
“ไปไหนอ่ะ”เสียงมันพูดถามใครสักคน กูว่าน่าจะเป็นไอ้เขต
“กูเจอไอ้เป๊ก”เสียงไอ้เขตตอบ
“อย่าพึ่งไปยุ่งกับมันเลย วันนี้กูจะมาเรียน”สลิ่มตอบ
“................”หลังจากนั้นปลายสายก็เงียบไป
“ปล่อยมันไป”กูได้ยินเสียงสลิ่มพูด
“มึงเป็นเหี้ยไร”ไอ้เขตพูดขึ้นเหมือนว่าสลิ่มมัน
“เปล่า”สลิ่มตอบ
“แปลก..มึงเป็นอะไร มันมองหน้ามึงด้วยนะ”ไอ้เขตพูด
“เปล่า บอกว่าเปล่าก็เปล่าดิ”สลิ่มตอบปัดๆ
“มึงจะไม่กระทืบมันแล้วใช่ไหม เอาชัดๆ..กูจะได้ไม่มองพวกมัน เห็นแล้วขัดลูกตา”ไอ้เขตพูดอย่างเซ็งๆ
“อืม คงงั้น”สลิ่มตอบ
“อ่าว ทำไมวะ ก็ตอนแรกมึง..”ไอ้เขตโวยวาย
“เออน่า ช่างมัน ไปเรียนเหอะ”สลิ่มตอบปัด
“ฮัลโหล”เสียงปลายสายพูดมา
“หื้มม”กูรับไป ยิ้มหน่อยๆ เพราะรู้สาเหตุที่สลิ่มมันไม่ยอมตอบไอ้เขตเมื่อกี้นิดหน่อย กูหมายถึงถ้ามันเป็นไปตามที่กูคิดไว้อะนะ
“ใจเต้นรึเปล่า”กูแซว
“เต้นห่าไรล่ะ เฉยๆ..แต่ถ้ามันมากระตุ้นกู ก็อีกเรื่อง”สลิ่มพูดบอก
“มึงก็เฉยๆไว้เหอะ ทำเหมือนไม่เห็น..ไม่งั้นมึงก็ต้องล้างแค้นทุกคน แค้นกันไปแค้นกันมาไม่เหนื่อยรึไง”กูพูด
“ไม่”มันตอบทันที
“หึ งั้นก็ไปกระทืบไอ้ห่านั่นเลยไป”กูพูดประชด
“จะเอาใช่ป่ะ”มันย้อนทันที
“เปล่า กูประชด ห่านี่”กูพูด
“อืม งั้นแค่นี้นะ จะเรียนละ”มันบอก
“ครับ”
“.................”กูยังไม่กดวางสาย ส่วนมันก็ยังไม่กดวางเหมือนกัน แต่ก็ไม่ยอมพูดอะไร
“ถึงบ้านแล้วโทรหากูด้วย”กูบอก
“อื้ม”มันตอบแค่นั้น
“แต่ถ้ากูคุยกับลูกค้าอยู่ก็คงรับไม่ได้นะ แต่เดี๋ยวจะโทรกลับ”กูบอก
“อื้มมมม~~”มันลากเสียงยาวกว่าเดิมหน่อยนึง
“ครับ คิดถึงนะ”กูบอก
“เออ!”เสียงเดียวเน้นๆ ก่อนที่จะวางสายไป  กูรู้ดีว่าทำไมสลิ่มมันถึงปล่อยคู่อริไปแบบนั้น มันก็คงไม่กล้าบอกใครหรือเล่าให้ใครฟังหรอกมั้ง แต่ก็นะ..มันก็ดีแล้วที่สลิ่มมันคิดและระวังตัวเองมากขึ้น  คือก่อนหน้านี้มันมีเหตุการณ์ที่กูกับมันอยู่ด้วยกันอะนะ แล้วก็เกิดสิ่งที่ทั้งกูและมันก็ไม่อยากให้เกิดสักเท่าไหร่
“เมตร ไปดูมวยกันเหอะ”มันพูดขึ้นโต้งๆ ตอนนั้นกูอยู่ที่ห้องสลิ่มมัน กำลังนั่งเล่นคอมของสลิ่มมันอยู่
“ที่ไหน”กูถาม
“.................”มันบอก
“จ่ายค่าเข้าให้กูป่ะล่ะ”กูถาม
“ไอ้เค็ม”มันพูด
“นิดนึง”กูพูดยิ้มๆ
“พรุ่งนี้พี่สิงแข่ง กูจะไปดู ไปไหม”มันถามยิ้มหน้าบาน
“ที่ยิ้มนี่อยากให้กูไปด้วย หรืออยากไปดูไอ้ห่าพี่สิงแข่งกันแน่”กูพูด
“มันก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วว่ากูอยากดูพี่สิงแข่ง”มันพูด
“งั้นกูไม่ไป”กูพูด
“..................”มันเงียบ กูหันไปมอง หน้างอลงไปนิดนึง ดีใจหน่อยๆเหมือนกันว่ะกู เอิ้ก~~
“ถ้าชวนแล้วพูดเพราะๆก็จะไป พูดว่า พี่เมตรครับ ไปดูมวยเป็นเพื่อนสลิ่มหน่อยนะ”กูพูดบอก
“เฮอะ ไปหาพี่สิงที่ค่ายแล้วไปพร้อมกับพี่สิงก็ได้”มันพูดแบบไม่ง้อ
“อ่าว ไหงงั้นอ่ะ”กูหันไปมองหน้ามันทันที
“ก็มึงไม่อยากไปเองนี่ กูก็ไม่บังคับหรอก”มันพูด
“มึงนี่นะ”กูไม่รู้จะพูดยังไงกับมันแล้ว
“ไปก็ได้ ฟรีใช่เปล่า”กูถาม
“เออ”มันตอบ หลังจากนั้นแหละ วันถัดมากูก็ไปดูมวยกับสลิ่มมัน ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหรอกนะ ดูมวยกันไปเรื่อยจนไอ้พี่สิงมันแข่ง แล้วก็ชนะ แล้วก็ดูคู่ต่ออีกสองคู่ก็จบ กูกับสลิ่มว่าจะรอไอ้พี่สิงมันแล้วจะไปกินข้าวพร้อมกัน กูกับสลิ่มเลยไปรอหน้าทางเข้าประตูสนาม แล้วเดินดูร้านค้าแถวนั้นไปเรื่อยเปื่อย สลิ่มมันก็ซื้อน้ำซื้ออะไรกินกันไป จนไอ้พี่สิงมันเดินออกมา บอกด้วยความรีบร้อนว่าต้องรีบไปเจอครูมวยอีกค่ายก่อน มีปัญหาอะไรกันก็ไม่รู้ บอกให้สลิ่มกับกูไปรอที่ร้านอาหารใกล้ๆเดี๋ยวจะตามไป ให้สั่งอาหารรอไว้ก่อนเลยเดี๋ยวมันจะเลี้ยงเอง กูกับสลิ่มก็ไงก็ได้เลยเดินไปเรื่อยๆ หาร้านอาหารกันเพราะแถวนั้นทั้งกูและมันก็ไม่ชำนาญทาง เพราะก็เคยมาครั้งแรกด้วย ออกแนวจะเถื่อนแล้วก็ออกบ้านๆนิดหน่อย
“มันมองหน้ากูทำไมอ่ะ”สลิ่มพูดไปแล้วเอาปากอ้าๆจะมาคาบหลอดในถุงน้ำแดงที่กูถืออยู่ กูหันไปมองไอ้คนนั้นมันเป็นผู้ชายที่นั่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซด์เก่าๆคันนึง มันก็มองมาที่สลิ่มจริงๆนั่นแหละ กูยื่นถุงน้ำแดงไปใกล้ปากสลิ่มมันมากขึ้นจนมันคาบไปดูดได้สำเร็จ
“ถือเองสิ”กูพูดบอก
“ขี้เกียจนิ”มันตอบ แม่ง ไม่ยอมถืออะไรเลย แดกลูกชิ้นเสร็จก็ทิ้งถุงเดินตัวปลิวตลอดทาง
“จะทิ้งแล้วนะ ดูดให้หมดเลย”กูพูดบอก
“จะรีบทิ้งทำไมเล่า”มันหันมาพูด
“น้ำมันหยดใส่รองเท้ากูเนี้ย รีบดูดสิ”กูยื่นถุงให้มัน มันเลยเอาปากไปคาบหลอดแล้วดูดน้ำแดงไปอย่างช่วยไม่ได้จนน้ำมันหมดนั่นแหละ แม่ง อย่างกับเด็ก น่ารักเกินไปละเมียกู แต่กูก็ไม่ออกอาการอะนะว่าตอนนี้กูกำลังมองมันด้วยความรู้สึกแบบไหนเพราะเดี๋ยวมันจะไม่ทำตัวแบบนี้เวลาอยู่กับกูอีกอ่ะดิ กูมองซ้ายมองขวาหาถังขยะ พอเจอกูก็เลยจับแขนสลิ่มมันให้เดินตามไปแล้วทิ้งถุงน้ำแดงลงถังขยะไป
“กินร้านไหนดี”มันพูดขึ้นแล้วมองไปทั่ว
“มันมองกูจริงนะ หรือมันมองมึง”สลิ่มพูดขึ้นอีก แล้วทำก้าวเดินไปมา เหมือนจะอ่านสายตาไอ้คนที่นั่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซด์ มันก้าวเท้าห่างจากกูแล้วหันไปมองไอ้นั่ง ปรากฏว่าไอ้ห่านั่นมันมองสลิ่มจริงๆ เพราะพอสลิ่มมันก้าวขาออกห่างจากกูไปเป็นเมตร สายตามันก็ยังจ้องที่สลิ่มอยู่เลย กูกับสลิ่มด้วยความที่ยังไม่แน่ใจ ก็เลยหันมองรอบตัวเอง เงยหน้ามองไปที่ตึกนู้นตึกนี้ว่าตกลงมันมองอะไร จุดจบก็คือมองสลิ่มอยู่ดีนั่นแหละ
“มองหาเหี้ยไรวะ”มันเริ่มหงุดหงิด
“ช่างมันเหอะน่า”กูพูดบอก
“มึงดูสายตามันดิ มันก็รู้ว่าเรารู้ตัวยังจ้องอยูได้”มันพูดโวยวาย
“ไปเหอะ ไม่ใช่ถิ่นเรานะ”กูพูด เพราะไม่ใช่ถิ่นที่เราอยู่จริงๆนี่ แล้วแถวนี้แม่งโคตรสถุลเลย มีแต่พวกนักมวยกับพวกคนในค่ายเดินไปเดินมา ดูสภาพก็รู้แล้ว พวกคนแก่ผู้ชายก็มีแต่พวกเล่นพนันมวยกันทั้งนั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-10-2010 15:44:39 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
“.................”สลิ่มมันไม่ตอบอะไร กูเลยจับแขนมันให้เดินตามกูมาด้วย
“ไม่ชอบอ่ะ หงุดหงิดแม่ง”มันบ่น
“ค้าบ ไม่ชอบ แต่ใจเย็นๆหน่อยสิ”กูบอก
“เมตร มันเดินตามมา”สลิ่มกระตุกแขนตัวเองบอกกู กูเลยหันไปมอง แล้วหยุดยืนนิ่งเพราะถ้าเดินต่อ มันก็คงต้องทำอะไรสักอย่างแน่ สลิ่มมันก็หยุดยืนแล้วหันไปมองไอ้นั่น ไอ้ห่านั่นเดินตาหน้านิ่ง พวกกูแม่งก็อ่านไม่ออกว่ามันต้องการอะไรได้แต่ยืนเป็นเป้าให้มัน จนมันเดินมาถึงใกล้พวกกู กูเลยกระชากแขนสลิ่มให้มายืนอยู่ด้านหลังกู
“.................”พอมันเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกมัน มันก็แสยะยิ้มออกมาไม่พูดอะไร มองไปที่สลิ่มก่อนที่จะเหลือบมามองหน้ากูที่จ้องหน้ามันอยู่
“น้องมีอะไรรึเปล่า”กูถาม
“................”มันไม่ตอบอะไร แต่ยิ้มยักไหล่อย่างกวนตีนแล้วเดินไป กูกับสลิ่มหันมามองหน้ากัน
“โรคจิต บ้ารึเปล่าวะ”สลิ่มบ่นคิ้วขมวดติดกัน
“ไปเหอะ อย่าไปสนใจเลย”กูพูดบอกแล้วก้าวขาเดินออกมา สลิ่มมันก็เดินตามมาด้วย 

ตุบ ตุบ ตุบ  !!

เสียงวิ่งที่เข้ามาใกล้ตัว ทำเอากูกำลังสลิ่มรีบหันไปดูอย่างตกใจ ไอ้ห่าคนนั้นมันวิ่งกลับมาอย่างรวดเร็ว แล้วจับเข้าที่กระเป๋าของสลิ่มที่กูซื้อให้มันวันที่ไปตัดชุดประกวดร้องเพลงวันนั้นนั่นแหละ และด้วยสัญชาตญาณของสลิ่ม มันก็ถีบเข้าให้แต่ว่าไอ้ห่านั่นยังกระชากกระเป๋าไม่เลิก สลิ่มมันก็ไม่ยอมปล่อย
“ปล่อยนะเว้ย”สลิ่มโวยวาย กูเข้าไปถีบไอ้ห่านั่นจนมันเซล้มไป กูกับสลิ่มยืนมองมันที่นอนหันมามองหน้าพวกกู
“โรคจิตรึไงวะ ไอ้เหี้ย”สลิ่มด่า จนคนที่อยู่แถวๆนั้นเริ่มแตกตื่นเพราะพวกกู  สลิ่มมันทำท่าจะเข้าไปหาไอ้นั่นอีก พอไอ้ห่านั่นมันลุกขึ้นได้มันก็ยังทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรอีก
“เอากระเป๋ามา”มันพูดเหมือนกระเป๋าเป็นของมันอย่างนั้นแหละ
“แดกตีนกูนิ!”สลิ่มย้อนอย่างโมโห ถ้าได้กระเป๋าไปนี่มันรวยเลยอ่ะ ในกระเป๋าของสลิ่มแม่งพกทุกอย่าง
“หึ ปากดีนะมึง”มันแสยะยิ้มพูดบอกสลิ่ม
“สลิ่ม ใจเย็น”กูพูดห้าม เพราะไอ้พวกที่ยืนมองอยู่กูไม่อยากจะพูดว่าผู้ชายทั้งหมดเลย เหมือนถิ่นแม่งก็ค่ายมวยอยู่แล้วมีแต่ผู้ชาย แล้วนี่ถิ่นสนามมวยอีกพวกมึงคิดดูแล้วกันว่าสภาพจะเป็นยังไง แล้วกูก็ไม่รู้ด้วยว่าไอ้ห่านี่จะมีพักพวกอยู่แถวนี้รึเปล่า
“................”สลิ่มเงียบเหมือนกำลังระงับสติอารมณ์ของตัวเอง กูจับแขนสลิ่มมันแล้วดึงมาเหมือนทั้งกูและมันเองรู้ว่าแถวนี้ไม่ค่อยประสงค์ดีกับกูและมันเท่าไหร่
“อย่านะมึง”กูพูดชี้หน้าอีกฝ่ายแล้วเดินมาพร้อมกับสลิ่ม
“เชี้ยเอ๊ย!”สลิ่มสบถเสียงดัง กูหันไปเห็นอีกทีมันตะรุมบอลกันแล้วเรียบร้อย  ไอ้เหี้ยนั่นไม่ยอม มันกลับมากระชากตัวสลิ่มไป กูรีบจะเข้าไปช่วยแต่เสือกมีไอ้เหี้ยไหนอีกตัวเข้ามาทางกูก็ไม่รู้ ด้วยสัญชาตญาณก็เลยถีบมันเข้าให้ กลายเป็นว่าเป็นสองคู่ไปแล้วตอนนี้  ระหว่างที่กูสู้กับไอ้นี่อยู่ก็หันไปมองสลิ่มเป็นระยะๆด้วยความเป็นห่วง
“โทษนะ”กูพูดบอกอีกฝ่ายที่สู้กันอยู่นี่แล้วชกหน้ามันเต็มๆแบบไม่มียั้งจนมันล้มลงไปกับพื้น 
“หลิ่ม พอๆ”กูรีบเข้าไปรั้งห้ามตัวสลิ่มไว้ แต่ดูเหมือนไอ้เหี้ยนั่นจะโรคจิตอย่างที่ว่า มันไม่ยอมหยุดเลย กูเลยถีบมันให้เพื่อเป็นฐานตั้งหลักให้กูก่อน สลิ่มมันสะบัดตัวเองไม่เลิกเหมือนจะให้กูปล่อยมัน
“สลิ่มใจเย็นหน่อย”กูกระซิบบอก
“..................”สลิ่มเงียบ หายใจแรงแต่ไม่สะบัดหรือสู้อะไรกูแล้ว มันยืนนิ่งมองอีกฝ่ายอยู่อย่างนั้น
“ถ้ามึงเข้ามาอีก กูจะแจ้งตำรวจ”กูพูดหน้านิ่งบอกพวกมัน แล้วจับตัวสลิ่มให้ถอยออกมา ไอ้นั่นยืนนิ่งไป ส่วนไอ้ที่กูชกยังไม่ลุกจากพื้นเลย เหอะๆ
“เอามานี่มา”กูพูดบอกแล้วจับกระเป๋าจากตัวมัน กูดึงกระเป๋าออกจากสลิ่มแล้วเอามาสะพายเอง สลิ่มมันก็ยอมไม่พูดตอบอะไร ยังหน้างอเหมือนยังอารมณ์เสียไม่หาย  กูกับสลิ่มเดินไปเรื่อยๆไม่ได้หันกลับไปมอง แต่ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเดินตาม กูเลยหันกลับไปมองก็มีคนเดินมาข้างๆกู ไม่ใช่ไอ้คนเดิมแต่เป็นใครก็ไม่รู้
“น้องกูอยากได้ของๆมึง”มันพูด กูเลยหยุดยืน
“ไปซื้อดิ”กูพูดย้อน
“หึ จะให้ดีๆหรือไม่ให้”มันพูด อะไรวะ บ้านเมืองมีขื่อมีแปล ไอ้ห่าพวกนี้มาจากไหนเล่นจะมาขอกันดื้อๆ ประสาท บ้าแล้วไอ้ห่า มันมากันเพิ่มอีกสองคน รวมถึงไอ้ที่สู้กับกูกับสลิ่มเมื่อกี้ก็เดินตามมาด้วย
“กูไม่ให้”กูพูดย้ำ
“มึงคิดว่ามึงจะได้กลับไปดีๆรึไง”มันพูดบอก
“แล้วมึงคิดว่าพวกมึงเป็นใคร ที่กูต้องยอมพวกมึงอ่ะห๊ะ”กูพูดบ้าง
“ก็ดี”มันพูดแค่นั้น หมัดแม่งสวนมาที่หน้ากูอย่างไว กูหลบทันทีหลังจากนั้นไม่ต้องพูดถึง ห่าอะไรเป็นอะไรงงไปหมด กูหันไปเห็นสลิ่มมันสู้กับไอ้คนเดิม ดูเหมือนจะแค้นฝังหุ่นกันไม่หาย กูไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรยังไง แต่ตอนนี้กูโดนรุมทีเดียวสามคน ไอ้ห่าที่โดนชกก็เหมือนจะแค้นกูไม่เลิก มาจะเล่นกูให้ได้

ผลัก !!

ล่อเข้าหน้ากูเลย แสรดดด~~
“ไอ้สัตว์เอ๊ย บ้านไม่มีจะกินรึไงห๊ะ”กูด่าเพราะว่ามันยื้อกระเป๋าของสลิ่มที่กูสะพายอยู่ไม่เลิก กูสวนต่อยกับมันโดยที่ระวังกระเป๋าไว้ยิ่งกว่าระวังตัวเองซะอีก เพราะถ้าหลุดไปได้ กล้องดิจจิตอล มือถือสามเครื่อง ของกูหนึ่งเครื่อง ของสลิ่มอีกสองเครื่อง ไอพอต เกม สมุดโน้ตที่มันรักยิ่งกว่าอะไร กระเป๋าสตางค์ของสลิ่มมัน กระเป๋าบัตรเครดิตกูที่ฝากสลิ่มมันไว้อีก ถ้าหายไปก็จนเลยอ่ะมึง
“เฮ้ย สลิ่ม”กูได้ยินเสียงเรียก กูหันไปเห็นไอ้พี่สิงมันกำลังวิ่งมากับเพื่อนมันพอดี
“หลิ่มระวัง!”กูตะโกนบอกสลิ่มเพราะสลิ่มมันกำลังตกใจที่ไอ้พี่สิงมันวิ่งมาพอดี แล้วไอ้ห่านั่นเข้ามาจะชกสวนสลิ่มให้ พอสลิ่มมันได้ยินเสียงกูทักเท่านั้นมันหันไปฟันศอกทันทีด้วยความตกใจ
“เฮ้ย”กูร้องอย่างตกใจ รีบวิ่งเข้าไปหาสลิ่มมันแล้ววิ่งไปหาไอ้คนที่นอนอยู่กับพื้นเพราะว่าโดนสลิ่มมันฟันศอกน็อกไปแล้วเรียบร้อย
“เหี้ยเอ๊ย”กูสบถแล้วรีบจับหน้าไอ้ห่านั่นที่นอนเหมือนชักตาค้างไปแล้ว กูเงยหน้าไปมองหน้าสลิ่ม มันยืนหน้าเสียไปแล้วเรียบร้อย
“กูไม่ได้ตั้งใจ”สลิ่มพูด กูหันกลับมามองไอ้คนที่นอนอยู่
“ได้ยินไหม กูถามว่าได้ยินไหม..กระพริบตาดิ”กูสั่งไอ้คนที่นอนอยู่ กูจับหน้ามันแหงนหน้าขึ้นหน่อยแล้วจับปลายคางไว้
“เฮ้ย เป็นไรวะ”ไอ้สิงมันวิ่งมาถึงพอดี มันนั่งลงด้านหน้ากูแล้วถามด้วยความตกใจ
“โดนฟันศอก”กูพูดแค่นั้น คนอย่างไอ้สิงมันก็คงรู้ดีว่าจะเป็นยังไง เพราะถ้าต่อยกันปกติ หรือว่าถ้าชกแรงๆจะเอาน็อก ก็ถือว่า “น็อก” คำว่า “น็อก” ก็คือเสี่ยงตายนั่นแหละนะ การฟันศอกถ้าโดนจุดน็อกขึ้นมาล่ะก็มันเสี่ยงตายง่ายกว่าต่อยกันจนเลือดออกหน้า คิ้วแตก หรืออะไรแตกซะอีก คนชกมวยอย่างพวกกูก็จะรู้ดีว่าจุดตายมีตรงไหนบ้าง จุดตายที่ถ้าเลี่ยงได้ก็คงเลี่ยงที่จะชกไปส่วนนั้นๆ แต่เมื่อกี้มันสุดวิสัยจริงๆ สลิ่มมันคงตกใจที่กูตะโกนเรียกเตือนมัน มันเลยฟันศอกเข้าให้แบบนั้น
“ไอ้เหี้ยฝัก ไอ้ฝักได้ยินไหม”ไอ้สิงตะโกนเรียก
“อ่าวรู้จักหรอ”กูถาม
“อืม เด็กแถวนี้น่ะ ขาโจ๋ หึ”สิงหัวเราะแบบไม่กระหยี่อะไร
“เปรี้ยวอีกแล้วสิมึง โดนเข้าให้แล้วไง”ไอ้ผู้ชายที่นั่งลงข้างไอ้สิงพูดเหมือนสะใจก็ไม่ปาน
“ไปตามลุงเพ บอกให้เรียกพยาบาลมารับที่นี่ด้วย”ไอ้สิงหันไปบอกเพื่อนมันที่ยืนอยู่ เพื่อนมันก็พยักหน้ารับแล้วรีบวิ่งไป
“สลิ่มกลับไปก่อนไป”สิงเงยหน้าขึ้นไปบอกสลิ่ม
“ไม่เอา”สลิ่มพูดเสียงเบาลง หน้าเสียเหมือนยังตกใจไม่หาย
“พี่บอกให้กลับไปก่อน”มันพูด
“สลิ่มไม่ได้ตั้งใจ มันจะเป็นอะไรไหม”สลิ่มพูด
“ถ้าหายใจก็คงยังไม่ตาย”ไอ้สิงพูดยิ้มๆ
“................”แต่ดูเหมือนสลิ่มมันจะไม่ขำ เพราะไอ้ห่านี่ยังนอนตาค้างอยู่ตัวก็ไม่กระดิกเลย
“สลิ่มไม่ได้ตั้งใจ”มันพูดย้ำคำเดิมไม่เลิก
“กลับไปก่อนเชื่อพี่ มันไม่เป็นอะไรหรอก แค่น็อกน่ะ”ไอ้สิงลุกขึ้นยืนแล้วตบไหล่สลิ่มเหมือนให้เชื่อใจมัน
“ใครอย่าพึ่งพูดอะไรนะมึง”ไอ้สิงพูดบอกทุกคนแล้วหันไปมองไอ้พวกที่รุมกูเมื่อกี้ด้วย
“พวกมึงก็เหมือนกัน อ้าปากพูดแม้แต่คำเดียว กูให้เฮียเก็บมึงแน่”ไอ้สิงพูดบอกพวกมันอย่างขู่ๆ
“พี่พามันกลับไปก่อนเหอะ ทางนี้เดี๋ยวจัดการเอง”ไอ้สิงหันมาพูดบอกกู กูพยักหน้าตอบให้แล้วลุกขึ้นยืนจับแขนสลิ่มมันจะให้เดินตามออกมา
“เดี๋ยวพี่จะโทรหา ไม่ต้องห่วง..ถึงมันตายคนอื่นก็คงดีใจ”ไอ้สิงพูด
“แต่สลิ่ม..”สลิ่มยังยื้อไม่ยอมเดิน
“จะดูให้เอง แล้วไม่ต้องไปหาที่ค่ายด้วยล่ะ พี่จะจัดการมันเองไม่ต้องห่วง”มันพูดย้ำ
“ขอบคุณครับ”สลิ่มพูดบอก
“อืม โชคดี”ไอ้สิงพูดบอกก่อนที่จะตบไหล่ให้สลิ่มมันเดินมาพร้อมกับกู กูจับมือสลิ่มมันที่ปล่อยให้กูจับอยู่อย่างนั้นมาจนถึงรถที่กูมาจอดไว้ตั้งแต่แรก
“มันไม่เป็นอะไรหรอก แค่น็อกน่ะ เดี๋ยวก็พื้น”กูพูดบอก สลิ่มมันกระชับมือกูแน่น
“แต่มันไม่มีเลือด”สลิ่มเงยหน้าพูดบอกกูหน้าเสีย
“................”กูเองก็ไม่รู้จะพูดยังไง เพราะถ้าไม่มีเลือด ห้าสิบเปอร์เซ็นต์สำหรับการน็อกมันก็เสี่ยงถึงชีวิต
“มันไม่เป็นอะไรหรอก สิงมันดูแล้ว มันเองก็คงจะไม่ยอมให้มึงเป็นอะไรด้วย”กูพูดบอกแล้วจับหัวมันเบาๆ ก่อนที่จะใส่หมวกกันน็อกให้อีกฝ่าย สลิ่มมันยืนนิ่งให้กูใส่แล้วก็ขึ้นรถอย่างเงียบๆ จนกูขับรถกลับมาถึงหอมันนั่นแหละ ต่างคนต่างเงียบมาตลอดทาง กูเองเห็นสลิ่มมันเงียบก็ไม่รู้จะพูดคุยอะไรด้วย มันก็คงกำลังใจไม่ดีนั่นแหละนะ
“เมื่อไหร่พี่สิงจะโทรมา”มันพูดไปมือก็ถือโทรศัพท์อยู่
“โทรไปสิ”กูพูดบอก
“อีกห้านาทีแล้วกัน”มันพูดแล้วจ้องมือถือตัวเองไม่เลิก สักพักก็มีสายโทรศัพท์ก็โทรเข้าเครื่องสลิ่ม มันรีบกดรับทันที
“ครับพี่สิง เป็นยังไงบ้าง”มันรีบถามทันที
“หรอ แล้วสลิ่มต้องจ่ายค่าอะไรไหม”มันถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“แต่สลิ่มเป็นคนทำ”มันบอก
“อืม ครับ..ครับ ขอบคุณครับ”
“มันปลอดภัยแน่ๆใช่ไหม”มันพูดถามอีกครั้ง
“หึ ครับ..ครับ หวัดดีครับ”สลิ่มพูดยิ้มออกมาหน่อยๆแล้ววางสายไป
“เป็นยังไงบ้าง”กูถาม
“ไม่เป็นอะไรแล้ว รู้สึกตัวแล้ว..เชคร่างกายก็ปลอดภัยดี”สลิ่มพูดด้วยน้ำเสียงโล่งใจ
“แต่พี่เค้าไม่ยอมให้กูจ่ายค่ารักษาพยาบาล”มันพูด
“ไมอ่ะ”กูถาม
“เค้าบอกว่ามันหาเรื่องกูก่อนเอง พี่สิงเลยจะจ่ายให้”มันพูด
“แล้วห่านั่นมันเป็นใครวะ”กูถาม
“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน คงเด็กแถวๆนั้นมั้ง เฮ้อออ..ปลอดภัยก็ดีแล้ว กูจะได้ไม่รู้สึกผิด”มันพูดยิ้มออกมาจนได้หลังจากที่นั่งหน้าเครียดอยู่นาน
“มึงก็ใจเย็นๆหน่อยสิ”กูพูดบอก
“ก็มันไม่ได้ตั้งใจนี่ ถ้ามันไม่กระชั้นชิดขนาดนั้น กูก็ไม่ทำแบบนั้นไปหรอก”มันพูด
“อืม ก็นั่นสินะ หาเรื่องเองนี่หว่า”กูพูดว่าไอ้ห่าพวกนั้น มันก็ช่วยไม่ได้จริงๆนั่นแหละนะ คนเราก็ต้องรักตัวเองก็ต้องปกป้องตัวเองก่อนเป็นเรื่องธรรมดาของสัตว์โลก
“ต่อไป..”สลิ่มพูดขึ้น แต่ก็เงียบเสียงไป
“ต่อไปก็ใจเย็นลงกว่านี้หน่อยแล้วกัน”กูพูดบอกแล้วลูบหัวมันเบาๆ
“อืม”มันพยักหน้าตอบ
“มึงมีเรื่องบ่อย ทุกคนเค้าก็เป็นห่วง รวมถึงกูก็ด้วย”กูบอก
“มึงน่าจะใจเย็น แล้วก็ระวังตัวเอง ระงับสติอารมณ์ตัวเองให้มากกว่านี้ อะไรที่มันร้ายๆที่จะเกิดมันจะได้ไม่ต้องเกิด”กูพูดบอก
“แต่บางทีคุยกันภาษาตีนมันง่ายกว่านี่”มันพูดเสียงงึมงำในลำคอ
“หึ มึงก็เป็นซะอย่างนี้ไง วันหลังก็ลองยกตีนขึ้นมาถามสิว่าทำไมมันถึงไปเร็วกว่าสมองสั่งนัก”กูพูดแซว
“บ้า”มันว่า
“ใจเย็นลงหน่อยเหอะ กูพูดจริงๆ..เดี๋ยวกูก็ไม่ค่อยได้อยู่แล้วด้วย กูเป็นห่วง”กูบอกแค่นั้น สลิ่มมันก็ไม่ตอบอะไร มันเลื้อยตัวลงนอนเหมือนเดิม
     นั่นแหละมั้งคงเป็นเหตุการณ์ที่เตือนสติทั้งกูและมันได้ หลายครั้งที่สลิ่มมันมีเรื่อง แต่นั่นเหมือนการตีฉบับวัยรุ่น มันรู้ว่ามันกำลังทำอะไร และระดับไหน แต่บางทีอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้โดยที่ใครก็ไม่ได้คาดหวัง ความตายแค่นิดเดียว แค่วินาทีเดียวมันก็ตายได้ มันเป็นเหตุการณ์ที่สามารถเตือนให้เราฉุดคิดถึงตัวเองได้ว่าเราควรจะมีสติให้มากกว่าใช้อารมณ์ ที่จริงมันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากูเองก็ใจร้อน และแต่ก่อนกูก็เป็นยิ่งกว่าสลิ่มมันซะอีก และตอนนี้กูก็ยังใจร้อนอยู่ แต่เดี๋ยวนี้กูคบกับสลิ่มมัน ทำให้กูอยากปกป้องมัน อยากอยู่กับมันไปนานๆเลยทำให้กูฉุดคิดได้ว่ากูไม่อยากให้มีเรื่องอะไรทั้งนั้นมากวนใจกูและมัน หรือเป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิตอยู่ของกูกับมันอะนะ  ถึงแม้ว่าตอนช่วงม.ต้นกับม.ปลายจะเหี้ยสุดตีนก็เหอะ แต่มันก็มีลิมิตของตัวกูเองอยู่ ไอ้โมทเองมันก็จะคอยๆเตือนสติกูเสมอ ที่กูว๊ากแม่งทุกคนไม่แคร์อะไรหรือใคร หรือแม้กระทั่งชีวิตของตัวเอง ตอนนั้นกูคิดว่า เกิดมาหนเดียว ตายหนเดียวจะเหี้ยอะไรกับชีวิตมากมาย ศักดิ์ศรีนี่สิที่หยามกันไม่ได้ แต่แล้วกลับมีหลายเหตุการณ์ที่กูเสี่ยงตาย ไม่ว่าจะเพราะความเร็วจากรถ อารมณ์ร้อนไม่คิดชีวิต ไม่ยอมใคร หรืออะไรหลายๆอย่างที่กูไม่แคร์หรือสนใครหน้าไหนเลย เวลากูมีสติมันก็ทำให้กูคิดว่า “กูสมควรจะตายตั้งหลายรอบแล้วนี่หว่า” แต่ก็นะ สุดท้ายก็ไม่เป็นเหี้ยอะไรเลย พอเวลาผ่านมาถึงแม้ว่าอารมณ์ก็ยังร้อนเหมือนเดิม นิสัยก็ยังไม่ยอมใคร แต่ก็พูดได้เต็มปากเต็มคำหน่อยอะนะว่าลดเรื่องการมีเรื่องลงไปเยอะมากพอสมควร ที่แต่ก่อนแค่ใครขับรถปาดหน้าก็แทบชักปืนออกมายิงกันแล้ว แต่เดี๋ยวนี้อยากปาดก็ปาดไป มึงรีบกูไม่รีบ ไปเลยตามสบาย..ส่วนสลิ่มมันก็คงคิดได้บ้างแล้วแหละ แต่กูว่าก็คงอยู่ได้ไม่นานเท่าไหร่ เพราะสันดานของสลิ่มมันก็ใจร้อนและอารมณ์ร้อนมากๆ ซึ่งกูว่ามันหายกันไม่ได้ง่ายๆ แต่กูว่ามันคงมีสติมากขึ้น แต่ถ้าใครมาทำมันสติแตกอันนี้กูก็ไม่รับรองความปลอดภัยอะนะ ดูท่าแล้วพวกที่เก็บกดอะไรไว้มากๆพอสติมันแตกมันจะเหวี่ยงไม่คิดชีวิตเลยอ่ะดิ
     หลังจากนั้นพี่ป้อมก็มาตามกูให้ไปพบลูกค้า กูจ่ายเงินค่ากาแฟเสร็จก็เดินออกไปขึ้นรถที่คนขับรถพ่อเป็นคนขับแล้วกูนั่งกับพ่อด้านหลัง พอไปพบลูกค้ากูก็นั่งฝั่งตรงข้ามกับลูกค้าอีก ให้เค้ามองแทะโลมไป ถามกูบ้างว่าชอบกินอะไร อยากกินอะไรไปเรื่อยแรกๆก็ไม่ค่อยเกี่ยวกับงานเท่าไหร่ จนพี่ป้อมโยงเรื่องคุยเข้าเรื่องงานนั่นแหละถึงได้เข้าเรื่องกันได้ เวลาคุยกันไม่นานนัก เพราะรู้สึกจะไปกันถูกคอเหมือนกัน กูเองก็ยิ้มๆพูดชมเค้าโอนอ่อนผ่อนตามไปเรื่อย เอาใจเค้าไปก่อนเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทและเงินพ่อกูด้วยอะนะ ก็ถือว่าทำได้เท่าที่ทำได้ และก็จะทำให้สุดความสามารถนั่นแหละ ตอนนี้ก็เรียนรู้งานไปด้วย และแสดงความรู้ความสามารถของตัวเองไปด้วย ทุกอย่างมันก็เพื่ออนาคตของตัวกูเองและศรีภรรยาอ่ะ หนักเท่าไหร่ก็ได้ ศรีทนด้ายยยย~~



...................>>>><<<<..................


ตอนที่แล้วจะไม่ยาวได้ยังไงวะ ก็ตั้ง 24 หน้าเวิร์ด :z3:
ตอนนี้ตอนแรกว่าจะพิมพ์ไปเรือ่ยๆ แต่กลัวว่ามันจะ 24 หน้าเวิร์ดอีก..ก็เลยเอาไปแค่นี้ก่อนพอ!! :jul3:

(โปรดอ่านให้เข้าใจ และอย่าถามซ้ำสิ่งที่บอก :angry2:) ต่อไปจะต่อเมตรกับสลิ่มให้อีก 1 ตอนก่อน :z1: และจะไปต่อปานกับแสบ :oo1: หลังจากนั้นจะต่อคีย์กับติน(ที่บอร์ด-ที่ไม่ได้ต่อมานาน :beat:)และจะกลับมาต่อคู่พิเศษที่เรื่อง รักแรก รักสุดท้ายนี้ จะเป็นคู่ของพีกับ.... :jul1:(ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะให้ใครเป็นฝ่ายเล่า ก็เลยยังไม่ได้พิมพ์) --- ตามนี้  :m16:

ปล.พอไม่มีสอบ ก็ไม่มีอะไรกระตุ้นให้เขียน :z10: เซ็ง..กิน นอน สบ๊าย สบาย เอิ้ก~~~~
ปล2.คนขอให้ต่อตอนพิเศษวุ่นวายหลายเรื่องมาก ซึ่งจะพยายามไม่ขี้เกียจแล้วพิมพ์ให้อ่านกัน..และถ้าตัวละครเรื่องไหนมันไปปะปนกัน ก็อ่านผ่านๆไปเหอนะ เพราะตอนที่กูพิมพ์ก็มีง่วงบ้างอะไรบ้าง เอิ้กกก~~~~~
:laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-10-2010 16:04:23 โดย เบบี้ »

Panda-Ba

  • บุคคลทั่วไป
 :z13:

สลิ่มจ๊าบหว่ะ ถึงกับน็อคอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-10-2010 17:33:10 โดย Panda-Ba »

WhatLoveIs

  • บุคคลทั่วไป
เบบี้จ๋า
ขอบคุณมากๆ เลย

เต็มอิ่ม

รอคีย์-ตินด้วยนะ อยากอ่านลัดคิวก่อนเลยได้ป่ะ ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
ดีใจที่สลิ่ม  คิดได้....

ถ้าไอ้หร่านั่นเป็นไรไป  อนาคต สลิ่มคงจะมืดมนอ่ะ 

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
ไอ้ห่า! คิดจะปล้นก็ปล้นกันง่ายๆงี้เลยนะ ถ้าเป็นกรูจะปล่อยให้ตายแม่งไปเลย สันดานแม่งเหี้ย! กรูป้องกันตัวโว้ย! :angry2:

แต่ทั้งสองศรีภรรเมียสามีใจเย็นขึ้นก็ดี :m4: สังคมมันก็เลวร้ายแบบนี้แหละ จะเอาแต่ใจตัวเองตลอดไปคงเป็นไปไม่ได้ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-10-2010 17:24:11 โดย เกริด้า(๐-*-๐)v »

p_pink

  • บุคคลทั่วไป
แบบนี้ล่ะดีแล้ว มีอะไรก็ต้องช่วยเตือนๆ กัน คนนึงร้อน อีกคนนึงก็ต้องเย็น
เวลามีเรื่อง จะได้ไม่ชิ-หา-ตายห่-กันหมด (เหอะเหอะ)

 :กอด1: ขอบคุณเบบี้จ้ะ

ออฟไลน์ nopkar

  • เป็ด indy
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-3
สลิ่มก็แมนได้ใจจริงๆ..55555555

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
โหคิวยาวเป็นหางว่าวเลย อดอดอดอดอดอดอดทนรอ  ศรีทนด้ายยยยยยยยยยยยยย  :L1:   :L1:   :L1: 

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
 อืมเพิ่งรู้ว่าการศอกมันหน้ากลัวขนาดนั้น
 แต่ไอพวกที่หาเรื่องก็บ้าได้ใจจริง ๆ แม่งอยากได้พูดมาได้ :3125:
 :pig4: writer คะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-10-2010 18:58:05 โดย aehJTS »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
ดีแล้วหลิ่มมมม

ใจร้อน มะดีหรอกกกกกกก

คิดได้แบบนี้ก้ดีแล้ววว

พี่เมตรจาได้หายห่วง

อิอิ

ออฟไลน์ kokikung

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-3
ตอนนี้ยาวสะใจมากกกกกกกกกกกก

3เรปได้ (ใช่ปะ)

แต่นะสลิ่มน่ากลัวฟันศอกทีเดียวน๊อคคาที่เลย

ฮ๋าๆๆๆๆๆๆ


ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
พี เพื่อนพี่เมตร อ่านะ   กับใครหว่าาาาา

KM137

  • บุคคลทั่วไป
ขอกันหน้าด้านเลยนะ :angry2:
สลิ่มอย่างแมน!!

YongaMO

  • บุคคลทั่วไป
พวกแบบนี้น่ากลัวจังเลย   o22

ใช่คู่พี+ทัวร์ป่าว อิ ๆ  :-[

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
พี่เมตรแม้น แมนอ่ะ
ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะ(มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก)
เพื่อตัวเอง...เพื่อสลิ่ม
และเพื่ออนาคตของเรา
ซึ้งซะ :impress:

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
อ่ะโห ฟันศอก อาวุธที่อันตรายมากๆของมวยไทยเลยอ่ะ แต่สมควรโดนอยู่ มาระรานคนอื่นก่อนนิ สลิ่มก็ต้องป้องกันตัวเนาะ

น้องเบบี้ขยันมากๆ  o13 คนอ่านเลยได้เพลิดเพลินไปด้วยเลย อิอิ  :mc4:

ออฟไลน์ Cupcake

  • @--##-หนูน้ำตาล-##--@
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
โตขึ้นเรื่อยๆแล้ว ทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
อ่านตอนนี้จบแล้วสอนให้รู้ว่า
 อย่าบังอาจมีเรื่องกับสลิ่มเป็นอันขาด!

lovelucifer

  • บุคคลทั่วไป
 o22      ฟันศอกเลยหรอ   :jul3:  สะใจมากมาย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






yayu

  • บุคคลทั่วไป

โดนสลิ่มฟันศอกเข้าไปซะ สลบไปเลย มันมาทำร้ายก่อนทำไม  :beat:

+เบบี้ มาต่อได้ยาวจุใจมากแล้วก็นั่งรอตอนต่อไป 
(แอบรอคีย์ตินเป็นพิเศษ):impress3:

ออฟไลน์ ToeyTato

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
อ่าา   โตขึ้นกันไปอีกสเตป 555+ แต่ไอ้เด็กเวรนั่นก็กวนตีนเองนั่นแหละ สมน้ำหน้า

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ดีครับ มายาวๆ จุใจดี

ออฟไลน์ ClioNe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
สลิ่มใจเย็นลงบ้างแล้วนะ..
พี่เมตรดูโตมากขึ้น..เพื่ออนาคตเนอะ..
:-[

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
โอววว  เห็นโครงการ แผนการต่อนิยายของเบบี้แล้ว
ถ้าเป็นธุรกิจนี่ คงฟันกำไรหลายล้านแล้วละมั้ง
เยอะจริงๆ o13

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
พี่เมตรดุเป้นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะเลย ต่อไปก็คงรับผิดชอบน้องหลิ่มได้แน่ๆ  :impress2:

Killua

  • บุคคลทั่วไป
เชียร์พีกะทัวร์ ฮ่าๆๆ พวกนั้นแม่งไม่น่าให้น็อคนะ นะจะกระทืบให้ทรมาณมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เอาให้ยอดน้ำข้าวต้มไม่ได้ ให้น้ำเกลือได้อย่างเดียว ให้แม่งนอนโรงพยาบาลสักปี เถื่อนเกิ๊น...

ออฟไลน์ iiดาวพระสุขლii

  • คิดการใหญ่ ใจต้องเหี้ย(ม),,
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +746/-3
ดูเมตรโตขึ้นนะ..จะว่าไปก็โตขึ้นทั้งคู่ เริ่มที่จะใช้เหตุผล ใช้ความคิด มากกว่า อารมณ์    o13

 :กอด1: เบบ๊วบ  (ของเค้ายาวจริง...อะไรจริง... :-[)

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
ปกป้องกันเเละกัน เตือนๆกันบ้าง
มีเรื่องไปก็เเค่นั้น ใจเย็นดีกว่า
มีสติเนี่ยละ ดีที่สุด

ขอบคุณค่ะ ชอบตอนนี้มาก

ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
เบบี้ประกาศโปรแกรมมาแล้วก้อทำได้แค่รอ รอ และรอ   :z2: :z2:
เมตรกะสลิ่มเจ๋งอะ
ปล.แอบอยากรู้จิงว่าทัวร์กะสลิ่มดีกันได้ไงน้ออออ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด