Memorial~รักแรก รักสุดท้าย [แจ้งข่าวหน้า 516: 29/ก.ย/57]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Memorial~รักแรก รักสุดท้าย [แจ้งข่าวหน้า 516: 29/ก.ย/57]  (อ่าน 3409490 ครั้ง)

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
ใจเเข็งมากหลิ่มน้อย

ห้าๆๆๆ ดัดนิสัยเมตรเลยค่ะ

mc.q

  • บุคคลทั่วไป
เอิ่ม ...มันเศร้าแปลกๆ
; (

ออฟไลน์ amito

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-0
เข้าใจสลิ่มนะ  :กอด1:ตอนนี้ยังไม่อยากยกโทษให้ก้อไม่เป็นไรหรอก  :กอด1:ก้อไอ้พี่เมตรมันช่างหางานเข้าตัว  :z6:ไว้กลับจากญี่ปุ่นแล้วค่อยมาคุยกันนะ  :กอด1:

Ramika

  • บุคคลทั่วไป
นิยายรายสัปดาห์ จริงๆ 55555

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
 :m16: คิดง่ายๆ ว่าโกหกนิดเดียวไม่เป็นไรหรอก
โกหกเรื่องแรกเรื่องต่อๆไปมันก็จะตามมาจนมันใหญ่อ่ะแหละเมตร  แล้วอย่างนี้สิ่มจะเชื่อใจเมตรต่อไปเหรอ
คบกันไม่ทันไรก็ผิดสัญญาแล้วเนี่ย

A_ay

  • บุคคลทั่วไป
อ่า
เมตร รอดมาให้สลิ่มได้งอนก็พอแล้ววว
โอ้ยยยย

faNg

  • บุคคลทั่วไป
อ่าส์ สงสารไอ่พี่เมตรดีมั้ยเนี่ย  o22

สลิ่มนายแน่มากกกกกกกกกกก  o13

พี่เมตรพูดน่ารักอะตอนขอโทษ  :o8:

รอตอนต่อไปนะค๊า

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
 :L2: หายเร็วๆนะจ๊ะเบบี้

เมตรเอ๊ย แบบนี้ต้องบอกว่า สมควร
สมควรที่น้องมันจะทำแบบนี้ใส่ น้องคงทั้งโกรธ น้อยใจ เสียใจ เป็นห่วง
สมควรที่จะต้องเจ็บตัวบ้าง จะได้รู้ว่าอย่ีาประมาท ถึงเขามาชนตัวเองก็เหอะ
สมควรที่จะต้องเลิกโกหกให้เด็ดขาด สัญญาไม่เป็นสัญญา

งานนี้สงสารสลิ่ม แม่ และพี่น้องเพื่อนฝูงที่เป็นห่วงมากกว่าอ้ะ ไม่สงสารเมตรเลย

บวกไปอีก 1 แต้ม รอว่าตอนหน้าจะเป็นเช่นไร ขอบคุณมากจ้า

ออฟไลน์ kuku

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
สงสารพี่เมตรอ่ะ แต่ก็นะตัวเองทำตัวเองอ่ะ สลิ่มใจแข็งโครตอ่ะ อยากเป็นให้ได้เหมือนสลิ่ม

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
เพิ่งเข้ามาอ่านตามอ่านอยู่ค่ะ
น้องสลิ่มโหดได้ใจ แต่เมตรก็ตื๊อได้ใจเหมือนกัน
ชอบมากเลย ยังอ่านไม่ถึงปัจจุบันเลย
ต้องไปกวดอย่างด่วน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
ตายแล้วพี่เมตร ทำไมทำยังงี้เนี่ย
สมแล้วที่สลิ่มดัดนิสัยอ่ะ น้องมันคงโกรธมากๆ เลยเนี่ย
แต่ยังดูรู้นะว่าสลิ่มเป็นห่วงมากกกกกกกกกกกกกก
ไม่งั้นคงไม่ช่วยทำอาหารมาให้หรอก
แงๆ สงสารใจสลิ่มจัง คงกลัวคนรักมาเป็นอะไรไปเพราะเมาแล้วขับนี่หละ
ไม่รักไม่สนใจไม่โกรธไม่งอนหรอก
พี่เมตรง้อต่อไป สู้ๆ  12 วันไม่นานหรอกนะ

ออฟไลน์ Fanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-2
สลิ่มใจแข็งมาก แต่ก็นะ เมตรก็ไม่น่าเล้ยย
พี่เมตรถ้าหายแล้วก็รีบง้อด่วน :angry2:

รอตอนต่อไปจ้าาาา :L2:

cascada

  • บุคคลทั่วไป
สม
สมน้ำหน้าเมตร ซ่าดีนัก

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
สมน้ำหน้าไอ้ห่าเมตร โดนน้องหลิ่ม งอนเลย
5 5 5

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
ไม่สบายก็รักษาสุขภาพด้วยนะเบบี้      :L2:

ออฟไลน์ booboos

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
สลิ่มโหดดีอ่ะ เมตรจ๋อยเลย555
ชอบเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ฮาเข้าขากันดีอ่ะ

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
 :m20: เขา เรียกว่าไร ว่ะ คุณเมตร เข้าโรงพยาบาล แฟน มะอยู...แอบซะใจ  :m20:โกหก น้อง อิอิ+1

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
สงสารก็สงสารหรอกนะ แต่ก็แอบสมน้ำหน้า ไอ้พี่เมตรอ่ะ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ทำตัวอย่างนี้ก็สมควรโดนแล้วละ

ออฟไลน์ kuku

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






[newZy]CASS

  • บุคคลทั่วไป
สลิ่มใจแข็งโคตรๆๆๆ
แต่ก็ดีล่ัะ
ดัดนิสัยเมตร
555
 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ BEN*_*MOS

  • เด๊กน้อยเลือดกรุ๊ปY
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-0
สงสารพี่เมตรจุงค่ะ :m15: :sad11:

ออฟไลน์ Dorumi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 644
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-1
จะสงสารหรือสมน้ำหน้าเมตรดีเนี่ย
เหมือนทำอะไรแล้วกรรวมตามทันเลยอ่ะ
ส่วนสลิ่มของเค้าแรงดีจริงๆ แรงดีไม่มีตกเลยนะ อิอิ

YongaMO

  • บุคคลทั่วไป
ง่า ๆๆๆๆๆ  :z3:

เมตรผิดอ่ะ ๆๆ แต่น่าสงสารมากกว่า :เฮ้อ:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
งานนี้เขตรวยยย

หัดดิน เอ้ยหัดกิน

  • บุคคลทั่วไป
"ริบบิ้น" ป่ะครับ ไม่ใช่ "ลิบบิ้น" แน่ๆ อ่ะ

อ่านแล้วชอบเขตอ่ะ
อยากรู้ว่าเขตถูกชะตากับพี่เมตรมากเลยหรอ
มากขนาดที่ว่ายอมให้คนที่ตัวเองรักมานาน
โดนคนอื่นงาบไปต่อหน้าต่อตาเนี่ยนะ!!

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
ตอนที่107  มีเมียเด็กต้องหมั่นตรวจเชค..



“เมตรเบื่ออ่ะ นอนจนตูดจะด้านอยู่แล้วเนี่ย” กูบ่น
“บ่นไรมากมายห๊ะลูก เฮ้อ” แม่บ่นเอือมๆ
“เมื่อไหร่เนี่ยแม่ บอกให้หมอถอดไหมได้ละ” กูบ่นอีก ไม่รู้แม่จะห่วงอะไรนักหนา ไหมตรงข้อศอกก็เอาอกได้ละ เหลือแต่ไหมที่โดนเย็บตรงหัวเข่าอีกด้านอ่ะ เอาออกไม่ได้สักที ที่จริงกลับบ้านแล้วค่อยนัดหมอมาถอดไหมก็ได้ ไม่รู้จะอะไรกันนักหนาดิ เฮ้อ
“พี่เมตร” กูหันไปเห็นไอ้เวมันเดินเข้ามาพร้อมกับไอ้วิทย์และไอ้เขต ไอ้วิทย์ก็ร่าเริงดีเหลือเกินเดี๋ยวนี้เพราะได้ข่าวว่ากลับมาคบกับไอ้เวแล้วเรียบร้อย
“ได้เบอร์มาละ” ไอ้เวยิ้มบอกพร้อมกับโชว์มือถือให้กูดู
“โทรให้เลยไหม ผมซื้อบัตรโทรต่างประเทศมาละ” ไอ้เวพูด
“อืมๆ” กูยิ้มพยักหน้ารับทันที
“มึงเปลี่ยนสีหน้านี่หน้ามือหลังตีนเลยนะ” ไอ้โมทพูด ทำเอาเบนแฟนมันหัวเราะ  กูนั่งรอไอ้เวมันต่อสายให้อย่างใจจดใจจ่อ
“เอ่ออาจารย์ครับ ขอสายสลิ่มหน่อยครับ” ไอ้เวพูดบอก 
“เออ พี่เมตรจะคุยด้วย” ไอ้เวพูด
     นี่ก็สองวันเข้าไปแล้วที่สลิ่มมันไปญี่ปุ่น  กูเองก็ไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลสักทีอย่างที่เห็น  สลิ่มมันสอบติดมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งเนี่ยแหละ สอบติดทุนเรียนฟรี 100% แบบไม่ต้องจ่ายค่าเทอมเหี้ยไรเลยสักอย่าง แต่เกรดต้องได้ไม่ต่ำกว่าสามหรือสามจุดห้าทุกเทอมรึไงเนี่ยแหละกูก็จำไม่ได้  มันเองไม่เอามหาวิทยาลัยรัฐที่เคยสอบไม่ติดแล้วมันก็สอบผ่านในรอบสุดท้ายเมื่อเดือนมีนาคมเพราะสาเหตุบางประการที่ไม่มีใครสามารถหยั่งถึง  กูเองก็ตามใจมันและที่จริงกูเชียร์ให้มันเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนเพราะเรียนฟรี แต่กลายเป็นว่ามันเรียนโคตรๆหนักแต่ก็ดูเหมือนเกรดเทอมแรกของมันก็ดูจะไปได้สวย มันเองพอเรียนหนัก กูเองก็ไปๆกลับๆภูเก็ตตลอดก็เลยไม่ค่อยได้เจอกันสักเท่าไหร่นัก ตั้งแต่ที่มันสอบติดกูก็ชวนให้มันมาอยู่บ้านกู เพราะเห็นมันพูดว่ามันจะย้ายออกจากหอแล้วและจะย้ายของกลับบ้าน กูเองเห็นว่ามันจะต้องย้ายของไปและบ้านกูก็อยู่ใกล้มหาลัยมากกว่าบ้านมัน ก็เลยชวนให้มาอยู่ด้วย อีกอย่างคือเวลากูกลับมากูจะได้เจอมันบ่อยๆด้วยแหละนะ
 “................” ไอ้เวยื่นมือถือให้กู มันทำหน้าแบบว่าขอไปทีประมาณนั้น
“ครับ” กูพูด
“.................” ก็เงียบอย่างที่เคยเป็นแต่นี่งอนไปเที่ยวด้วยสงสัยหนักเลยกู
“มึงจะจ้องกูกันทำไมเนี่ย” กูว่าพวกมันที่ยืนมองกูอยู่
“โด่..” ไอ้เขตทำเสียงแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารกับแม่กู
“เป็นไงบ้าง” กูถาม
“ก็ดี” มันตอบเสียงนิ่งไปนะที่รัก
“หายโกรธเหอะนะ” กูพูด
“.................” มันเงียบตอบ
“ขอโทษนะครับ..นะ” กูบอก
“กร๊ากกกกกกกกกกกกก” อยู่ๆแม่ก็หัวเราะซะเสียงดัง กูตกใจหันไปมองเห็นแม่กวักมือเรียกทุกคนไปสุมหัวกันแล้วพูดอะไรก็ไม่รู้ด้วยความสนุกสนาน
“อะไรของแม่อ่ะ” กูถามด้วยความอยากรู้
“เปล้า” แม่ตอบเสียงสูงซะไม่มีอ่ะ
“เฮ้อ..” กูส่ายหัวตอบ ปล่อยพวกนั้นไปเหอะ พวกมันก็บ้า แม่กูก็เกือบประสาท T_T
“...............” ปลายสายเงียบเหมือนเดิมอีกนั่นแหละ
“แล้วกินอะไรรึยัง” กูถาม
“อืม” มันตอบ กูจะตีความว่ามันกินแล้วก็แล้วกันนะ
“ไม่โกรธแล้วใช่ไหมครับ” กูพูด
“แล้วจะให้ตอบว่าไงอ่ะ..อืม ไม่โกรธ พอใจยัง” มันพูดเสียงเซ็งนิดหน่อย
“ก็..ทำไมต้องพูดประชดด้วยอ่ะ” กูพูดขึ้นเสียงไปหน่อยนึง
“อืม งั้นก็วางเหอะ” มันพูด
“หลิม” กูเรียกไว้ก่อน
“ทำไมอ่ะเมตร..” มันกระแทกเสียงเหมือนโมโหขึ้นมาซะงั้น
“เป็นแบบนี้ทำไมอ่ะ” มันพูดเสียงเบาไปจากเมื่อกี้เหมือนมันพยายามจะข่มอารมณ์โมโหของมันอยู่
“..................” กูเงียบดิ พวกมึงก็อย่าลืมไว้อาลัยให้กูด้วยแล้วกันนะ
“..................” สลิ่มเงียบไปเหมือนกัน
“จะไม่ทำแล้วนะครับ นะ..อย่าโมโหเลยนะ” กูบอก
“พูดไปก็เท่านั้นแหละ เลือกเอานะเมตรระหว่างกูกับเหล้า..” มันพูดขึ้น ใจกูนี่เต้นตุบๆๆ..จะหลุดออกมาอยู่แล้วคร้าบ
“กูไม่ได้ห้ามเลย แต่ถ้ามันบ่อย..” สลิ่มพูด กูรู้ดีว่ามันจะหมายถึงอะไร เพราะมันเป็นคนไม่แสดงออกและการที่มันพูดไม่เต็มปากเต็มคำแบบนี้ มันคงกำลังต้องการสื่อบอกอะไรกูสักอย่างแต่ก็เหมือนยังบอกไม่หมด
“วันหลังถ้ากูกิน กูจะอยู่กับมึงนะ” กูบอกและก็ไม่อ้างสิ่งที่กูเคยอ้างกับแม่ไปว่า เค้ามาชนเองไม่ใช่เพราะกูเมา กูเองตอนนั้นก็คงหงุดหงิดไปหน่อย เข้าใจดีว่าแม่ก็คงเป็นห่วงเพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ก่อนกูเมาแล้วขับกลับบ้านอย่างบ่อยแต่ก็ไม่เคยเกิดอะไร แม่เอง ไอ้มิ้วค์หรือกระทั่งไอ้โมทก็เตือนกูบ่อยเหมือนกัน แต่ตอนนั้นกูค่อนข้างเฮ้วไปหน่อยก็ไม่ค่อยฟังใคร และกูก็รู้ดีว่าที่เกิดขึ้นคราวนี้ที่แม่เป็นห่วงหรือแม้กระทั่งสลิ่มหรือคนอื่นๆ ไม่ได้หมายถึงเค้ามาชนกู เพราะเค้าจะชนกูตอนเมาหรือตอนไม่เมาก็ได้ แต่มันคงหมายถึงไม่อยากให้กูเมาแล้วขับมากกว่าแหละมั้ง
“..................” สลิ่มเงียบ
“แล้วเรื่องนั้น” กูพูดขึ้นแต่บอกเป็นนัยๆ ไม่ได้พูดไปตรงๆว่าหมายถึงเรื่องอะไร มันเองก็คงเข้าใจ ที่กูต้องโกหกเพราะว่าสลิ่มมันไม่ชอบให้กูเล่นพนัน แค่กูเล่นไพ่มันยังไม่ชอบเลย กูก็ไม่เข้าใจว่ามันอยู่สังคมพวกเพื่อนมันได้ไง จากที่กูไปประสบพบเห็นมานี่ก็ร้ายๆทุกคน ถึงสลิ่มมันจะดูเด็กเรียนสุด มันเองก็เฮ้วไม่แพ้กันแต่กูก็เห็นมันแตะแต่เหล้าอย่างเดียว ไพ่มันก็ไม่เคยเล่น บุหรี่ก็ไม่เคยสูบ สนุ๊กก็เข้าไปนั่งดูเพื่อนแต่ก็ไม่เคยเล่น มันเคยบอกกูว่าไม่ใช่เกลียด แต่แค่ไม่ชอบและคิดว่าเวลาที่นั่งลงไปตรงวงไพ่มันดูน่าสมเพชสำหรับกู กูนี่หงอยไปเลยดิพอฟังมันพูดด้วยหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่ได้ด่าแต่รู้สึกจะกัดไปในตัว  แต่มันก็ยังดูเพื่อนมันเล่นได้เพราะพวกมันก็เล่นกันเป็นปกติอยู่แล้ว เวลากินเหล้าส่วนประกอบมันก็มีเยอะหลายๆอย่าง แต่สลิ่มมันก็บอกว่าไม่เคยคิดจะเล่นด้วย ไม่เคยอยาก ไม่อยากรู้ด้วยว่าเล่นยังไง มันพูดด้วยสีหน้าที่แบบไม่สนใจเลยสักนิด พวกเพื่อนของสลิ่มเองไม่ว่าจะเจ้าชู้ บ้ากาม เอาไปทั่วมากขนาดไหน กูเองก็เคยสงสัยว่าทำไมมันถึงไม่เป็นไปตามเพื่อนมัน มันก็ตอบแค่ว่า..”กูรักเพื่อนแต่ไม่ได้หมายความว่ากูต้องทำตามเพื่อนนี่ พ่อกูยังไม่ทำตามเลย..แล้วเพื่อนเป็นใคร”..กูเลยต้องเงียบเพราะมันดูจะเป็นคนแปลกมากๆเหมือนจะเหี้ยแต่ก็เหมือนเหี้ยไม่เต็ม คือไงอ่ะ..พอมีเรื่องเสือกมันคนแรกที่พร้อมจะกระทืบ เดี่ยวๆก็เอา ลุยๆ แต่ไม่แตะอย่างอื่นนอกจากเหล้าเลย..เหอะๆ จริงๆเลยเมียกู
“ก็ไม่เคยห้ามนิ” มันพูดดักกูทางก่อนเลย
“แต่ก็ไม่ได้บอกว่าชอบ” มันพูดต่อ กูยังไม่ทันอ้าปากแก้ตัวเลยอ่ะ
“ขอโทษครับ” กูตอบได้แค่นั้น
“วันหลังจะไปเล่นเฉยๆ ไม่พนันแล้ว” กูบอก
“หึ..แค่มึงอ้าปากกูก็เห็นลิ้นไก่แล้ว” มันแสยะหัวเราะเหมือนไม่เชื่อ
“โห พูดจริงเหอะ” กูพูด
“แต่กูถือว่ามึงพูดแล้วนะ” มันพูด
“ครับ” กูรีบตอบ
“................” กูและมันเงียบพร้อมกัน
“อย่าโกหกอีก” มันพูด
“ครับ” กูตอบแล้วยิ้มหน้าจะบานแระ
“คนอื่นโกหกเรื่องเล็กๆน้อยๆไม่เป็นไรหรอกเพราะ..ก็แค่โกหกให้ผ่านไปที แต่สำหรับมึง..” มันพูดแล้วเว้นไปครู่หนึ่ง
“อย่าทำให้เป็นสันดาน” มันพูด แม่ง คำพูดแหลมคมพุ่งเข้าเส้นเลือดกูเลยไง
“ค้าบ” กูตอบ ด่าเจ็บกว่าแม่กูอีก
“แล้วจะออกจากโรงบาลเมื่อไหร่” มันถาม
“อีกวันสองวันแหละมั้ง” กูตอบ
“หรอ..ไม่มีไรแล้วใช่ไหม” มันถาม
“จะวางแล้วหรอ” กูถามกลับ
“อืมสิ แค่นี้นะ” มันพูด
“โทรหาด้วยนะ” กูบอกก่อน
“..................” มันเงียบเป็นคำตอบให้กูตีความเองอีกละ
“อืม” มันตอบเสียงอยู่ในลำคอ
“ครับ..คิดถึงนะ” กูบอกไปยิ้มไป โอเค..ตอนนี้โลกนี้เป็นของกูละ กร๊าก
“..................” สลิ่มไม่ตอบอะไรแต่มันเสือกกดวางสายไป กูยื่นมือถือกลับให้ไอ้เว
“หายงอนแล้วอ่ะดิ” ไอ้เวถาม
“เออดิ ขอบใจว่ะ..แล้วค่าบัตรเท่าไหร่” กูถาม
“ไม่เป็นไรพี่ ผมฝากมันซื้อของด้วย จะเอาไว้โทรหามันด้วยแหละ” ไอ้เวบอก
“เฮ้ยไม่ได้..แม่ เอาเงินให้เวดิ” กูสั่งแม่
“ตกลงเป็นแม่หรือเป็นธนาคาร” แม่หันมาพูดแต่ก็หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา
“ไม่เป็นไรครับ” ไอ้เวบอก
“มาเอาไปลูก ถือว่าแม่ซื้อให้แล้วกัน” แม่บอกแล้วยื่นเงินให้ ไอ้เวก็ไปรับด้วยความเกรงใจ
“สบายใจแล้วดิ งั้นก็เลิกเหวี่ยงได้ละนะ” ไอ้โมทพูดบอก
“กูเหวี่ยงเมื่อไหร่” กูย้อนเหมือนกูไม่ผิดจริงๆ
“อืม หลายวันมานี่มึงไม่เหวี่ยงเลย” ไอ้โมทพูดประชดกลับ
“เออ เมตร..พ่อบอกให้ซื้อรถยนต์ได้แล้วนะ” แม่พูดขึ้น
“ไมอ่ะ” กูถามกลับ
“เอ้า..ไปดูๆไว้ก็แล้วกัน พ่อไม่อยากให้ขับมอเตอร์ไซด์
“ไม่เอาอ่ะ เมตรไม่ชอบขับรถยนต์” กูตอบ ที่จริงก็ไม่เชิงไม่ชอบหรอก แต่กูเป็นคนที่ไม่ชอบรออะไรไร้สาระนานๆ อย่างรถติดแบบนี้อ่ะให้กูมาขับรถยนต์รอเหมือนไร้จุดหมาย อีกทั้งกูต้องแบ่งเวลาก่อนออกจากบ้านเป็นชั่วโมงมันก็ไม่ใช่สันดานคนขี้เกียจอย่างกูอ่ะ อย่างมอเตอร์ไซด์กูนึกจะออกตอนไหนกูก็ออกได้เลยไม่ต้องคิดเยอะ
“เดี๋ยวก็เป็นแบบนี้อีกอ่ะลูก หนังหุ้มเหล็ก เสี่ยงตายได้ตลอด” แม่พูด
“คนมันจะตาย ขับอะไรก็ตายทั้งนั้นแหละ” กูบ่นกลับ
“มึงก็ซื้อๆไว้เหอะ เวลาจะใช้รถยนต์ก็จะได้ไม่ต้องรอจากกูไง” ไอ้โมทบอก
“เอามาจอดทิ้งไว้นานๆไม่ขับเนี่ยนะ เสียดายเงินว่ะ” กูบอก เพราะกูเสียดายเงินจริงๆ เดี๋ยวพ่อก็ต้องลงทุนเรื่องร้านให้กูอีกตั้งหลายตัง กูไม่อยากเอามาใช้เรื่องไร้สาระแบบนี้หรอก
“เค้าจะซื้อให้มึง มึงก็เอาไปเหอะ..เผื่อฉุกเฉิน มึงอยากขับมึงก็ขับไปมอไซด์อ่ะ เวลาจะใช้จะได้ไม่ต้องคอยรอจากกู” ไอ้โมทบอก
“ตกลงต้องเอาให้ได้ใช่ป่ะ” กูพูด
“เฮียนี่ยังไง ของฟรีดีๆไม่เอา” ไอ้เขตบ่น
“ก็สลิ่มมันชอบนั่งมอไซด์อ่ะ” กูบอกมัน
“หึหึ..ก็จริง” ไอ้เขตขำ


.............
.............


     หลังจากที่กูถอดไหมเสร็จ ตรวจเชคร่างกายก็พบว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง หมอก็อนุญาตให้กูกลับบ้านได้  แม่กลับภูเก็ตไปเมื่อสองสามวันก่อน  ที่ลางานมาเป็นอาทิตย์นี่ถ้ากูเป็นหัวหน้าแม่กูคงไล่ออกไปแล้ว กูมาอยู่บ้านก็รู้สึกสบายขึ้นเพราะมีไอ้มิ้วค์อยู่ด้วย เวลาที่ปิดเทอมแล้วได้อยู่บ้านด้วยกัน ออกไปไหนได้พร้อมๆกันแบบไม่ต้องห่วงอะไรมันก็รู้สึกสนุกดี ขาดมันไปคนนึงกูว่าชีวิตกูคงเงียบๆน่าดู  ไอ้โมทเองก็ไปทำงานตามปกติ  เดี๋ยวพอไอ้โมทกลับมากูต้องเอารถไอ้โมทไปรับสลิ่มที่สนามบินเพราะว่าพ่อกับแม่ของสลิ่มไม่ว่างเลยสักคน มันก็จะให้คนขับรถพ่อมันมารับแต่กูก็ยังจะดื้อไปรับมันให้ได้ ก็ไม่ได้เจอกันมาหลายวันแล้วนี่นะ ตอนไปก็ไปกันแบบงอนๆด้วยแหละ
“นั่น..ใช่พี่หลิ่มเปล่าอ่ะ” ไอ้มิ้วค์ชี้ไปเหมือนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองนัก กูหันไปมองเห็นผู้ชายสูงเพรียวตัวเล็กคุ้นตาเดินออกมา แต่ทรงผมมันไม่เหมือนเดิมกูจ้องมองแล้วกระพริบตาแล้วกระพริบตาอีกเพื่อให้มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาด ตั้งแต่สลิ่มมันเริ่มเข้ามหาลัยผมมันก็ยาวขึ้นเรื่อยๆ มันเริ่มซอยและตัดให้เข้าทรงแต่ก็ยังคงความยาวไว้ เพราะแต่ละทรงที่มันเอามาให้กูดูแล้ววางแผนไว้ว่าจะตัดนี่ทรงผู้ชายแทบไม่มีเลย มันกะตัดทรงผู้หญิงล้วนๆ กูก็รู้นะว่าหน้ามันให้แต่มันจะเหมือนทอมเข้าไปทุกทีๆ ซึ่งขัดกับบุคลิกมันที่โคตรแมนงี้ ถ้าคนอื่นเห็นที่ไม่ใช่คนรู้จักเค้าก็จะงงไงว่าตกลงมันเป็นทอมหรือผู้ชาย
“พี่หลิ่ม” ไอ้มิ้วค์โบกไม้โบกมือให้ สลิ่มเพ่งมองมาทางพวกกูเหมือนไม่มั่นใจ กูว่ามันคงมองไม่เห็นอีกเหมือนเดิมนั่นแหละ คอนแทคเลนส์ก็ไม่ยอมใส่ แต่แล้วมันก็ยิ้มแล้วรีบเข็นรถมาทางพวกกู
“แม่ง มึงตามน้องมันให้ทันนะเว้ย..โดนงาบไปแดกได้ง่ายๆเลยแบบนี้” ไอ้โมทที่ยืนอยู่ข้างกูกระซิบบอกหน้านิ่งเหมือนมันพูดเตือนกูด้วยความจริงจังมากๆ  สลิ่มมันตัดผมทรงใหม่ หัวมันโหนกอยู่แล้วเลยดูสวยเข้ารูปเข้าไปใหญ่ มันไฮไลท์สีผมสีแดงตัดน้ำตาลเข้ม แล้วมันขาวอะไรๆมันก็เลยขึ้นไปหมด ยิ่งทำผมสีนี้ด้วยมันก็เลยดูเด่นไปกว่าเดิม กูมองมันตั้งแต่หัวจรดเท้า ที่จริงก็พอจะชินเพราะมันก็แต่งตัวแรงอยู่แล้วแต่รู้สึกตอนนี้มันจะแรงมากกว่าเก่ารึเปล่า
“อะไร” มันพูดถามกู
“หวัดดีครับพี่โมท” สลิ่มยกมือขึ้นไหว้
“ไอ้หลิม” กูกระชากมือมัน
“เอ้..” มันร้องแล้วรีบจะชักมือกลับเพราะว่ารอยสักแน่ๆ มันมาอีกแล้ว
“ปล่อยนะ” มันบอก
“มานี่เลย” กูขู่มันแล้วกระชากให้เดินตาม
“อะไรเล่า” มันยื้อตัวเองไว้
“ไปสักมาอีกแล้วใช่ไหม” กูพูด
“ไม่ได้สักซะหน่อย” มันเถียงแล้วเกาะไอ้มิ้วค์ไว้เป็นหลักยึดไม่ยอมปล่อย
“บอกให้มานี่ไง” กูบอกมันแล้วยื้อตัวมันไม่หยุด
“ไม่เอา ไม่ไป” มันร้อง
“สลิ่ม” กูเรียก
“..............” มันเงียบจ้องหน้ากูหน้างอ สุดท้ายแล้วก็ต้องปล่อยมือจากไอ้มิ้วค์แล้วเดินตามกูมา กูพามันเดินไปที่ห้องน้ำ
“เข้าไป” กูดันมันเข้าไปในห้องน้ำเล็กแบบส่วนตัว แต่ก็ไม่ได้ปิดประตูไว้ คนในนั้นก็มองพวกกูงงๆ
“บอกมาว่าสักตรงไหนอีก” กูชักเริ่มระแวง มันไปแบบนี้แล้วสักกลับมาโจ่งแจ้งกว่าเดิมแบบนี้ มันจะต้องสักที่อื่นอีกแน่ๆ
“ไม่มีแล้ว” มันพูด
“บอกให้บอกมาไง ไม่งั้นจับแก้ผ้าจริงๆนะ” กูขู่
“บอกว่าไม่มีแล้วไง ไอ้บ้า” มันว่าแล้วทุบกูด้วย
“บอกมาเดี๋ยวนี้นะ” กูจับข้อมือมันอีกข้างที่ไม่ได้สักแล้วขู่มันอีก
“..............” มันเงียบนิ่งไปเลยทันที
“เอ้..” มันปัดมือกูอีกเพราะโดนกูจับเข้าชายเสื้อมันเพื่อจะเลิกเสื้อขึ้น
“เออ มีอีกที่นึง” มันพูดหน้าแดงซะงั้น
“ตรงไหน” กูถามทั้งๆที่ยืนอยู่คาประตูนั่นแหละ ใจกูก็คิดใต้สะดือไปอีกว่ามันสักตรงไหนของมันวะ สมองกูนี่คิดลามกไปแล้วเรียบร้อย
“ขา” มันตอบเสียงเบา
“ที่เดียว” กูย้ำถาม
“อืม” มันพยักหน้าตอบ
“เฮ้อ..” กูถอนหายใจ
“พอได้แล้วนะไอ้หลิม มันจะเยอะเกินไปแล้ว ไม่เจ็บบ้างรึไง” กูพูด
“ไม่” มันส่ายหัวตอบ
“อย่างนี้มึงไปทั่วโลก มึงไม่ต้องไปสักซะทั่วโลกเลยรึไง” กูประชด
“อะไร กูก็เลือกนะ” มันเถียง
“พอแล้วนะ..เข้าใจไหม” กูพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“...............” มันเงียบทำแก้มป่องเหลือบตาไปมาเหมือนไม่สนใจอีก
“ถามว่าเข้าใจไหม” กูย้ำถาม
“อะไรเล่า” มันย้อนเหมือนจะไม่ยอมอีก
“กูก็ไม่ได้ไม่ชอบหรอกนะ มันก็สวยดี..” กูพูด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-12-2010 23:54:02 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
“แต่ถ้ามันมากไปๆ มึงเล่นไม่หยุดแบบนี้ก็ลายเต็มตัวกลายเป็นไม่สวยไปพอดีอ่ะ” กูบอก ดีนะที่มันยังสักคนละที่กันหมด เท้า ตรงคอและตอนนี้ก็ตรงระหว่างข้อมือถือมือ ซึ่งลายมันก็ไม่เหมือนใคร สีก็ไม่เหมือนใคร มันก็โอเคแตกต่างดีแต่ถ้ามากไปกว่านี้ก็ไม่ไหวมั้ง
“ชอบอ่ะ” มันย้อนยักไหล่ใส่
“แต่กูไม่ชอบ” กูตอบ
“แล้วมาบังคับทำไมอ่ะ” มันพูดย้อนอย่างกับเด็กเอาแต่ใจ
“.................” กูเงียบจ้องหน้ามัน
“งั้นก็ตามใจ อยากทำก็ทำไป” กูตอบส่งๆทำสีหน้าไม่พอใจแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำเลยทันที กูได้ยินเสียงสลิ่มมันเดินตามมาอยู่ข้างๆ
“อะไรเล่า..” มันพูดใส่แต่กูก็ยังไม่หันไปมอง
“เรื่องแค่นี้เอง” มันพูดแต่กูก็ยังทำเป็นไม่สนใจมันอีก
“ไม่เห็นต้องโกรธเลย” มันพูด กูหยุดแล้วหันไปมองหน้ามัน
“................” สลิ่มเงียบหลบตากูเหมือนกับรู้ว่ากูกำลังไม่พอใจอยู่นั่นแหละ เถียงคำไม่ตกฟากจริงๆเด็กสมัยนี้
“ไม่สักแล้วก็ได้” มันพูดส่งๆ
“................” กูยังคงเงียบเพราะไม่เชื่อใจมันอยู่
“ก็บอกว่าไม่สักแล้วไง” มันหันหน้ามาพูดบอก
“ถ้าสักอีก มึงจะเป็นยังไง..กูไม่รู้ด้วยนะ” กูขู่ สลิ่มหน้างอไปทันทีเมื่อได้ยินคำขู่จากกู กูยิ้มตอบให้แล้วจับมือมันให้เดินตามกลับไปหาไอ้โมทกับไอ้มิ้วค์ที่รออยู่ที่เดิม ระหว่างทางไอ้โมทเป็นคนขับ ส่วนไอ้มิ้วค์นั่งหน้า กูนั่งข้างหลังกับสลิ่มมัน
“จะหายแล้วหรอ” กูถามเพราะยังเห็นรอยแดงๆจากเข็มที่มันโดนสักมาอยู่เลย
“อื้ม ไปวันแรกก็ให้อาจารย์พาไปเลยอ่ะ อาจารย์นี่เต็มหลังเลย..ขาประจำ” มันพูดบอก
“แล้วคนอื่นไม่สักหรอ” ไอ้โมทถาม
“ฮึ..มีสลิ่มกับจารย์แหละที่ไปสักเพิ่ม อาจารย์เค้าบินไปบ่อยๆอ่ะ ไปอยู่กับญาติที่นั่น..คนอื่นไม่กล้ามันกลัวเจ็บ” มันเล่า
“.................” กูเงียบแล้วจับแขนมันให้เอามาวางไว้บนตักกู สลิ่มมันก็ไม่พูดอะไรแต่ยอมเอามาวางไว้ กูจับจ้องไปที่รอยสักที่เพิ่งได้สักมาใหม่ มันสักเป็นรูปนางฟ้าสีดำที่เริ่มตั้งแต่ข้อมือไปจนถึงหลังมือ เป็นรูปนางฟ้าตัวผอมยาว มีปีกออกบานและค่อนข้างใหญ่เป็นสีดำเข้มหมดเลยตัดกับสีผิวของมันมากๆ รอบๆตัวนางฟ้าเป็นลายเส้นถ้าพูดง่ายๆก็เหมือนลายกราฟฟิกที่วนล้อมรอบอยู่ตรงตัวของนางฟ้า ลายกราฟฟิกเป็นสีฟ้าอมม่วงเส้นบางๆ ตรงมือของนางฟ้าที่แบมืออยู่นั้นเป็นคำภาษาอังกฤษว่า Lover ก็คือชื่อวงมันนั่นแหละเป็นสีม่วงอมฟ้าเหมือนกัน รอบๆภาษาอังกฤษเป็นรูปดาวเล็กใหญ่ลายเส้นสีน้ำตาลเข้มแต่เว้นให้เห็นสีผิวของสลิ่มมัน มันก็สวยดี เด่นมากเพราะสีมันเข้ม ภาพมันบาล้านซ์กัน เล็ก ลายเส้นบางที่แซมเข้าด้วยกันมันก็ดูสวยดีละระเอียดมาก แล้วมันเรียนคณะแบบนี้ด้วย กูเองจะไปว่าอะไรก็ไม่ได้ คนมันชอบของมันตรงนี้กูก็ต้องยอมรับไป  กูนี่แหละคงต้องเตรียมตัวเองไว้เพราะสลิ่มมันยิ่งเรียนกูก็ว่ามันคงยิ่งบ้าขึ้นเรื่อยๆ กูนั่งจ้องอยู่อย่างนั้นจนสลิ่มมันตีเข้าที่ต้นขากูเบาๆ
“ถ้าพ่อเห็นแล้วโดนไล่ออกจากบ้านรอบนี้ ไม่ต้องมาอยู่บ้านเค้าเลยนะ” กูพูด
“พ่อไม่ว่าแล้วเหอะ” มันพูด
“เชอะ” กูทำหน้าทำตาใส่อย่างหมันไส้
“พี่โมทไปส่งบ้านก่อนนะ สลิ่มจะเอาของไว้บ้านก่อนอ่ะ” มันลุกไปเกาะเบาะรถที่ไอ้มิ้วค์นั่งอยู่ เอาคางไปเท้าไว้ตรงเบาะด้วย
“ครับ” ไอ้โมทตอบ
“แล้ววันนี้นอนบ้านพี่รึเปล่า” ไอ้โมทถาม กูนั่งยิ้มเพราะรู้ดีว่าไอ้โมทมันแกล้งสลิ่มโดยที่สลิ่มไม่รู้ตัว
“...............” สลิ่มเงียบ
“นอนเหอะพี่สลิ่ม มิ้วค์เช่าหนังมาแบบที่พี่ชอบเลยนะ” ไอ้มิ้วค์ช่วยพี่ชายมันเรียบร้อย
“กลัวแม่ว่าอ่ะ” ไอ้หัวหลิมตอบสีหน้าคิดหนัก
“นอนเหอะน้า..พี่เมตรซื้อกับข้าวมาเตรียมไว้จะทำตอนเย็นนี้เยอะแยะเลย” ไอ้มิ้วค์พูดโน้มน้าวสุดฤทธิ์ แต่ก็จริงๆนั่นแหละ กูไปซื้อกับข้าวไว้เพื่อทำอาหารตั้งแต่เช้าแล้ว ไปตลาดพร้อมกับไอ้มิ้วค์มัน
“................” สลิ่มเงียบคิดแล้วหันมามองหน้ากูแล้วเบะปากให้ซะงั้น กูยิ้มตอบแล้วเข้าไปหอมแก้มมันด้วยความหมันไส้
“เห็นใจพวกกูบ้างก็ได้” ไอ้โมทพูดขึ้นมันคงเห็นจากกระจกมองหลัง
“มันไปอยู่แล้วแหละ ออกจะคิดถึงกูขนาดนี้ กูดูออก” กูพูด
“แหวะ..ไอ้มั่ว” สลิ่มว่าแก้เขิน กูจับเอวมันแล้วดึงให้เข้ามาหากู สลิ่มมันก็สู้แรงไม่ไหวก็เลยล้มมาตามแรง มันตีเข้าที่ตัวกูเหมือนจะบอกให้กูปล่อยแต่กูทั้งรั้งทั้งกอดมันแล้วยกตัวมันให้ขึ้นมานั่งอยู่บนขากู  สลิ่มมันไม่ยอมส่งเสียงอะไรคงเพราะกลัวว่าไอ้คนสองคนข้างหน้าจะได้ยิน
“โอ้ยยยย” กูร้องเพราะดันโดนสลิ่มมันจิกเข้าที่หัวจนกูหน้าหงาย
“เจ็บๆ” กูร้องบอกแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยจากกอดมัน
“ปล่อยดิ้” มันบอกแล้วพยายามดิ้นให้ตัวเองกลับลงไปนั่งที่เบาะเหมือนเก่า
“หึ..” กูหัวเราะเพราะไม่ยอมแพ้มัน ทั้งๆที่โดนจิกหัวอยู่แต่กูกลับกอดมันแน่นขึ้นแล้วซุกจูบเข้าไปที่คอของสลิ่มจนเจ้าตัวต้องหดคอหนี
“ไอ้..” มันเรียกเหมือนจะด่าแต่เสียงก็เงียบไปแล้วทุบเข้าที่หัวกูอย่างแรง
“อ๊ะ เจ็บอ่ะ” กูคลายกอดลงและก็เลิกจูบมันแล้วด้วยเพราะแม่งเจ็บหัวจริงๆ
“...............” สลิ่มนั่งหน้าแดงเพราะทั้งกูและมันได้ยินเสียงสองคนข้างหน้ามันหัวเราะเหมือนมีเล่ห์นัยอะไรสักอย่าง  กูยักคิ้วแล้วขยิบตาแกล้งตอบ เลยโดนตบเข้าที่หน้าหนึ่งดอกเป็นการสั่งสอนซะงั้น กูปล่อยให้สลิ่มกลับไปนั่งตามเดิมจนถึงบ้านสลิ่มกูก็ช่วยมันขนของเข้าบ้าน ไอ้โมทกับไอ้มิ้วค์ก็เล่นกับหมาอยู่นอกบ้านด้วยความสนุกสนานเพราะพวกมันก็ชอบสัตว์อยู่แล้ว พอสลิ่มจัดของเสร็จมันก็เอาของฝากไปให้ป้าแม่บ้าน แล้วก็เอาไปให้ไอ้มิ้วค์กับไอ้โมทที่นั่งอยู่หน้าบ้านด้วย
“แล้วของกูอ่ะ” กูถาม
“ไม่มี” มันตอบเต็มปากเต็มคำ
“ไรอ่ะ” กูท้วง
“อันนั้นมันเป็นของตามมารยาท มึงอยากได้แบบตามมารยาทบ้างไหมล่ะ” มันย้อนได้กวนส้นตีนมาก
“เออก็ด้ายยย..ไม่เอาก็ได้” กูตอบเพราะก็ไม่ได้อยากได้อยู่แล้ว เห็นคนอื่นเค้าได้ก็เลยน้อยใจนิดหน่อยทำไมกูถึงไม่ได้วะประมาณนั้น
“เชื่องจริง” มันพูดบอกกูแต่ก็จัดของไปแบบไม่สนใจ กูเดินไปแล้วนอนลงบนเตียงรอมัน พอสลิ่มจัดของเสร็จมันก็เอากล่องอะไรไม่รู้โยนมาบนตัวกูที่นอนอยู่
“................” กูยิ้มตอบให้มันทั้งๆที่มันก็ไม่ยอมมองหน้ากู กูเปิดกล่องออกทั้งๆที่นอนอยู่ ก็เห็นว่าเป็นนาฬิกาตุ๊กตาหมีอยู่ในกล่องนั้น
“อะไรของมึงเนี่ย” กูพูดถามเพราะงงกับของที่มันให้
“หึ..ก็ไม่รู้จะซื้ออะไรอ่ะ เงินหมดพอดี เหอะๆ” มันพูดบอกกูไปก็ยิ้มเหมือนไม่รู้จะแก้ตัวยังไงไปด้วย
“มึงก็เลยซื้ออันนี้ให้กู มึงคิดว่ากูจะใส่ได้ไหม” กูพูดเพราะมันเป็นนาฬิกาเด็กชัดๆ
“ก็เอาไว้ตั้งโชว์ไง ไม่ต้องใส่” มันพูดไปแล้วยิ้มด้วยความภูมิใจในของฝากของตัวเองเหลือเกิน
“ดีจริงๆเมียกู” กูบ่นแล้วปิดกล่องลง
“หิวแล้วอ่ะ” มันบ่น
“ก็เสร็จสักทีสิ จะได้ไปทำให้กินนี่ไง” กูบอก
“เสร็จละ” มันบอกแล้วยิ้มออกมาทำเอากูหมันเขี้ยวรีบลุกขึ้นไปแล้วกระชากมันที่ไม่ทันตั้งตัวเข้ามาจูบแม่งเลย
“คิดถึง” กูบอกแล้วเดินออกมานอกห้องก่อนไม่รอมันที่ยืนหน้างอทำตัวไม่ถูกอยู่คนเดียว พอกลับถึงบ้านสลิ่มมันก็ขึ้นห้องกูไปทำอะไรของมันก็ไม่รู้ กูขึ้นไปเปลี่ยนเป็นกางเกงขาสั้นก็ลงมาช่วยไอ้โมททำกับข้าว ส่วนไอ้มิ้วค์นั่งห่อขนมจีบอยู่ ขอบอกว่าผู้ชายบ้านนี้พ่อบ้านมากๆ ทำเป็นหมดทุกอย่างเพราะกูโดนพ่อกับแม่สอนทำกับข้าวมาตั้งแต่เด็ก ไปไหนเลยไม่อดตาย อะไรมีอยู่ในตู้เย็นก็ทำกินได้หมด
“ห่อหมดเลยหรอพี่เมตร” ไอ้มิ้วค์ถาม
“เดี๋ยวก็หมด มึงเชื่อกูปะล่ะ ไอ้คนข้างบนกินเก่งจะตาย” กูบอกไอ้มิ้วค์ เพราะกูสั่งให้มันห่อเกี๊ยวให้หมดเลย
“แล้วไมพี่หลิ่มไม่ลงมาสักที” ไอ้มิ้วค์ถาม
“เออ..ทำอะไรของมันอยู่วะ” กูบ่นแล้ววางมีดลงบนเขียงก่อนที่จะเดินไปล้างมือเพราะจะขึ้นไปดูสลิ่มมัน
“ทำไรอยู่อ่ะ” กูเปิดประตูเข้าไปถามเห็นสลิ่มมันเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเรียบร้อย มันนอนเล่นโน้ตบุ๊คของกูอยู่บนเตียง
“เชคเมล เดี๋ยวก็ลงแล้ว” มันตอบ กูลงไปนอนกอดมันไว้แล้วมองหน้าจอโน้ตบุ๊ค
“อย่าอ่านสิ” มันเอามืออีกข้างมาดันหน้ากู
“จะอ่าน” กูตอบ
“เสือกจริง” มันว่าให้แล้วกดปิดหน้าเวปซะหมด
“อ่าว ยังเชคไม่หมดเลย ปิดไมอ่ะ” กูพูด
“ยังไม่รู้ตัวอีก” มันว่าแล้วผลักหน้ากูจนกูล้มตัวลงนอน สลิ่มมันจะลุกขึ้นกูเลยเข้าไปกอดเอวมันไว้ก่อน
“ไรอีก” มันพูด
“ขอกอดหน่อยดิค้าบ” กูทำเสียงอ้อนแล้วซุกเข้าที่เอวมัน สลิ่มเอามือดันหัวกูไว้แต่กูก็ยังกอดมันแน่นเป็นปลิง
“ไหนบอกตรงขา ไม่เห็นมี” กูมองขามันพอเห็นว่าไม่มีรอยสักกูก็ฉุดนึกขึ้นได้ กูมองหาไปทั่วขามันจนสลิ่มมันทำท่าจะลุกหนี
“จะไปไหน” กูจับล็อกขามันไว้
“อย่าจับดิ้” มันปัดมือกูที่จับอยู่ที่ต้นขามันออก แต่กูก็ยังจับไว้ใหม่แล้วลูบขึ้นไปจะเข้าไปใต้บ๊อกเซอร์ของมันอยู่แล้ว จนสลิ่มมันรีบมาจับข้อมือกูไว้เหมือนไม่ให้กูลูบไปเยอะกว่านั้น กูยิ้มมองจนมันหน้าแดง
“ถ้าไม่อยู่ตรงนี้ แล้วอยู่ตรงไหน” กูกระซิบถาม
“ไม่อยู่ตรงไหนทั้งนั้นแหละ” มันพูดแต่เสือกไม่สบตากูซะงั้น
“อ๊ะ..ไอ้เมตร” มันร้องเพราะกูออกแรงกระชากขาให้ขาซ้ายมาคร่อมตัวกูไว้ กลายเป็นว่าตอนนี้กูอยู่ตรงกลางของตัวสลิ่มมันไปแล้ว กูเอ๊ะใจทันทีเมื่อเห็นสลิ่มมันจับบ๊อกเซอร์ของมันที่ด้านซ้ายไว้เหมือนตรงต้นขามันมีอะไรอยู่
“ทะลึ่งว่ะ แฟนใครวะ” กูแซวแกล้งอีกฝ่ายที่นั่งหน้าแดงอยู่
“ไม่ต้องยุ่งเลย” มันผลักเข้าที่หน้าอกกูอย่างแรง กูยิ้มแต่มือกูกลับลูบเข้าไปใกล้มือของสลิ่มที่จับชายบ๊อกเซอร์ไว้อยู่ กูก้มหน้าลงไปใกล้ สลิ่มมันก็เอนตัวหนีแต่กูเอาอีกมือไปกอดเอวมันไว้จนสลิ่มมันหนีไปไหนไม่ได้
“ให้ดูก็ได้ ไม่ต้องเข้ามาใกล้ได้ไหมเล่า” มันพูดหน้างอ
“...............” กูเอามือออก สลิ่มมันเลื่อนกางเกงของมันเหมือนกล้าๆกลัวๆกูอยู่ กูจ้องมองไปที่ต้นขาของมันใจก็เต้นตุบๆๆเพราะว่ายิ่งมันเลื่อนกางเกงต่ำไปเท่าไหร่แล้วกูก็ยังมองไม่เห็นรอยสักมันยิ่งทำให้กูคิดว่ามันจะต่ำลึกเข้าไปถึงตรงไหนวะ
“หึ ลามกว่ะ” กูว่ามันเมื่อเห็นรอยสักเป็นภาษาญี่ปุ่น สักสีดำไม่ยาวนัก ตัวอักษรเล็กประมาณครึ่งเซนติเมตรได้ ลักษณะเหมือนเป็นคำสั้นๆอยู่ตรงต้นขามัน ที่ถ้าใส่กางเกงในรอยสักก็จะอยู่ไม่ไกลจากขอบกางเกงในเลยสักนิด ยิ่งกูจับจ้องไปที่ตรงนั้นเท่าไหร่สลิ่มมันก็ยิ่งหน้าแดงกว่าเดิมและยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ
“แปลว่าไรเนี่ย” กูถามพร้อมๆกับมือที่โดนสลิ่มมันปัดออกจนมันเองก็เริ่มหงุดหงิดเพราะถึงมือกูจะโดนปัดไปแต่กูก็ยังกลับมาจับที่ต้นขามันอยู่ดี
“ไหนบอกจะทำกับข้าวไง” มันเปลี่ยนเรื่องแล้วกระเถิบตัวเหมือนจะหนี กูคร่อมตัวสลิ่มแล้วเอนตัวเข้าหามันมากขึ้นจนมันจะล้มลงไปบนที่นอน มันเงียบไม่ว่าหรือพูดอะไร เอาแต่ตั้งใจจับกางเกงเพื่อปิดที่รอยสักของตัวเองไว้
“หึ..” กูหัวเราะออกมา เพราะขำมันทีงี้เสือกมาอายแล้วตอนมันไปให้เค้าสักมันไม่อายรึไงวะ
“หัวเราะไร” มันพูดเหมือนจะหาเรื่องโดยที่ไม่ได้ตั้งหลักอะไรมันเลยล้มลงไปนอนอยู่บนเตียงกูเองก็คร่อมตัวมันตามไปด้วย สลิ่มนอนหน้าแดงแต่เสือกเอามือมาจิกตรงผมกูไว้ซะงั้น กูยิ้มให้แล้วก้มลงไปจุ๊บเข้าที่ปากมัน  อีกมือกูก็ลูบอยู่ตรงต้นขามันจนสลิ่มมันโอนอ่อนผ่อนตามไม่ได้สนใจจับบ๊อกเซอร์ของตัวเองไว้แล้ว กูก้มลงจูบมันก็ยอมเผยปากรับจูบกูจนมันเริ่มจูบตอบกูด้วย
“อือ” มันสะดุ้ง กูลูบเข้าไปใต้เสื้อของสลิ่มจนสลิ่มมันขนลุกจนกูรู้สึกได้ กูไซร์ที่ต้นคอสลิ่มแล้วจูบอยู่ตรงใบหูมันอยู่อย่างนั้นจนสลิ่มมันกอดกูแน่น

แกร๊ก~~

“พี่..เอ่อ” ไอ้มิ้วค์เดินเข้าห้องมาโดยที่ไม่ได้เคาะประตูแต่อย่างใด กูหันกลับไปมองเห็นไอ้มิ้วค์ยืนค้างเหมือนทำหน้าไม่ถูก ทำตัวไม่ถูกแล้วอยู่ดีๆมันก็เดินออกนอกห้องไปไม่พูดไม่จาแถมยังปิดประตูซะเสียงดังอีก
“ไอ้บ้า” สลิ่มว่าแล้วผลักกูออกอย่างแรง
“หึ ขอโทษ” กูยิ้มตอบเพราะขำมันอ่ะ สลิ่มลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้ามาหากูทำท่าจะตบกูอีกแต่สุดท้ายก็เดินหนีออกนอกห้องไป กูรีบเดินตามมันลงไปข้างล่างเห็นไอ้มิ้วค์เงียบมองหน้าสลิ่ม สลิ่มก็เงียบมองหน้าไอ้มิ้วค์หน้าแดงแต่ต่างคนต่างไม่ยอมพูดอะไรสักคำ
“พี่ช่วย” สลิ่มบอกแล้วหยิบเกี๊ยวขึ้นมาทำท่าจะห่อ
“แต่ทำไม่เป็น..” มันพูดต่อค้างมองว่าไอ้มิ้วค์ห่อยังไง
“พี่ก็เอาน้ำแตะก่อนอ่ะ แบบนี้..อย่าใส่ไส้เยอะเดี๋ยวมันจะใหญ่เกินไปแล้วเกี๊ยวมันจะแตกออกจากกัน” ไอ้มิ้วค์บอกแล้วหยิบไส้ใส่ให้สลิ่มดู
“เออ แล้วเมื่อกี้ขึ้นไปทำไม” กูถามไอ้มิ้วค์
“อ๋อ เออใช่..จะบอกว่าพี่พีโทรมาหา แต่มิ้วค์บอกไปแล้วว่าเดี๋ยวให้พี่โทรกลับไปใหม่” ไอ้มิ้วค์บอก
“เคาะห้องก่อนสิวันหลังอ่ะ” กูบอกมันไปงั้นกะแกล้งสลิ่มมันเล่นเท่านั้นเอง ไอ้ตัวดีเลยได้แต่นั่งก้มหน้าห่อเกี๊ยวไม่พูดไม่จา
“มิ้วค์จะรู้ไหมล่ะ” ไอ้มิ้วค์ตอบ ไอ้โมทหันมามองหน้ากูเหมือนมันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ผัดข้าวไป” ไอ้โมทสั่ง กูเลยต้องหันไปผัดข้าวผัดกุ้งแทน พอผัดเสร็จก็เอาไปจัดโต๊ะ ไอ้โมททำต้มข่าไก่เสร็จมันก็เอาไปวางไว้ กูเอาขนมจีบไปนึ่งเพราะกินข้าวเสร็จจะได้กินขนมจีบเลยพอดี
“ทอดให้” สลิ่มเดินมาเห็นกูกำลังตั้งไฟเพื่อทอดหมูทอด
“เดี๋ยวก็โดนน้ำมันหรอก” กูบอกมันแล้วดันจะไม่ให้มันทอด
“เอ้ จะทอด” แม่ง ดื้อเสมอต้นเสมอปลาย กูก็เลยต้องตามใจมันนั่นแหละ กูไปหยิบถุงมือสำหรับจับอาหารออกจากเตาไมโครเวฟมาให้มันใส่แทน
“อ่ะ ตักสิ” กูสั่ง สลิ่มเอาที่คีบหมูมาคีบหมูในจานแล้ววางลงไป
“เกลี่ยให้เนื้อหมูมันโดนให้หมดสิ” กูบอก  มันก็ทำตามอย่างว่าง่าย
“หยิบไปใส่อีก” กูบอกมัน
“เดี๋ยวมันก็ไหม้พอดีอ่ะ” สลิ่มพูด ทั้งๆที่กระทะแม่งเหลือพื้นที่อย่างเยอะอ่ะ
“มึงทอดทีละอันแล้วเมื่อไหร่มันจะเสร็จ” กูประชด สลิ่มเลยคีบเนื้อหมูอีกชิ้นไปวาง
“คีบใส่ไปอีกสิครับ มันเหลือที่ตั้งเยอะน่ะเห็นไหม” กูพูดเสียงเอือมๆ สลิ่มมันก็ทำตามเหมือนไม่อยากจะทำ
“คอยกลับมันด้วยสิ เดี๋ยวก็ไหม้หรอกครับ” กูบอกอีก
“ได้ยัง” มันถาม
“คิดสิ” กูย้อน
“กูจะรู้ปะล่ะ” มันย้อน
“เฮ้อ เกะกะว่ะ” กูบ่นแล้วจะหยิบที่คีบออกจากมือมันเพื่อจะทอดเองมันจะได้เร็วกว่านี้
“ว่ากูหรอ ก็กูทำไม่เป็นนี่” มันพูดหน้างอแต่ไม่ยอมปล่อยที่คีบหมูออกจากมือตัวเอง
“ดูสิครับ ก็ถ้าสีมันเข้มขึ้น เนื้อแดงๆก็เริ่มไม่มีนี่ไง เหมือนเรากินหมูปิ้งนั่นแหละ” กูบอก มันก็ตั้งหน้าตั้งตาพลิกหมูดูกลับไปมา พอได้กูก็เอาไปหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ส่วนมันก็เหมือนจะคล่องแล้ว อาจจะมีไหม้ตรงขอบๆนิดหน่อยแต่ก็ปล่อยมันไปเพราะหั่นออกได้
“นี่..สลิ่มทำ” มันยกจานไปด้วยความภาคภูมิใจแล้วเอาไปวางที่โต๊ะอาหาร
“...............” กูพยักหน้าให้พวกไอ้โมทกับไอ้มิ้วคเป็นการเข้าใจกันว่ามันไม่ได้ทำจริงๆหรอกประมาณนั้น  พอกินข้าวกันเสร็จสลิ่มันก็จัดแจงไปนอนดูหนังกับไอ้มิ้วค์สองคน กูกับไอ้โมทเลยต้องเก็บครัว ไอ้โมทออกไปล้างรถต่อ พอกูจัดการล้างจานอะไรเสร็จก็ไปนอนดูหนังกับพวกมันด้วย โดยมีกูนอนริม สลิ่มนอนตรงกลาง ไอ้มิ้วค์นอนข้างสลิ่มอีกทีเพราะว่าไอ้มิ้วค์มันดันโซฟาชิดผนังห้องหมด ไม่นอนบนโซฟาว่างั้นเหอะ  พอไอ้โมทล้างรถเสร็จเข้ามาเห็นพวกกูก็โดนมันพูดบ่นประมาณว่าพวกกูสบายกันเกินไปละ แต่ไม่ทันไรมันก็ไปเอาหมอนมานอนด้วยอีกคน ก็ดีเหมือนกันนอนกันเยอะๆ เพราะหนังแม่งโคตรเหี้ย ฆ่า โรคจิต ดิบโหด มีหมดไม่รู้ไอ้คนที่นอนข้างๆกูนี่มันจะเมามันอะไรนักหนา ดูไปสะใจไปแต่กูนี่สิดูไปปิดตาไปเพราะมันเสียวอ่ะดิ เหอะๆ



...............>>>><<<<...............

ต่อไปก็พีทัวร์ :oo1:..ที่จริงสลิ่มเมตรมันมีต่อในนี้ตอนเดียวกันอีก แต่กลัวว่ามันจะเลยไปเป็น 24 หน้าเวิร์ดเหมือนที่เคยทำอีก :serius2:..เลยไม่เอาดีกว่า เพราะง่วงมากมาย :z3:
และหนังสือก็ยังไม่ได้อ่านเลย (ขี้เกียจได้อีก :z6:)
มาต่อให้ก่อน..หลังจากนี้รอพีทัวร์ตอนต่อไปแต่ต้อง*หลังจากสอบเสร็จไปแล้ว :เฮ้อ:
ปล.ที่จริงมีรูปแบบคล้ายรอยสักมาให้ดู แต่ขี้เกียจอัพโหลดให้..ร่างกายไม่อำนวย (ใกล้ละอีกนิดนึง :z10:) ขอโทษด้วย
ปล2.ขอบคุณสำหรับคำอวยพรให้หายป่วย มันไม่หายง่ายๆเลย..เหอะๆ
ไปแระ ฝันดีคร้าบผม
:bye2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-12-2010 00:03:14 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ ishiya

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
 :z13: เบบี้ก่อน และอวยพรให้ทำข้อสอบได้นะคะ..

WhatLoveIs

  • บุคคลทั่วไป
เบบี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

สำหรับรอบนี้ขอให้ผลบุญกุศลจากการที่นำความสุขมาให้ผู้อ่าน
ช่วยให้เบบี้สมหวังในสิ่งที่ต้องการ ทั้งหายป่วย ทั้งมีพลังในการอ่านหนังสือสอบ ฯ นะจ้ะ

ขอบคุณมากๆ ที่ทำให้พี่มีความสุขก่อนนอนนะ  :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด