Memorial~รักแรก รักสุดท้าย [แจ้งข่าวหน้า 516: 29/ก.ย/57]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Memorial~รักแรก รักสุดท้าย [แจ้งข่าวหน้า 516: 29/ก.ย/57]  (อ่าน 3409220 ครั้ง)

NATYU

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุด คู่นี้ก็สมหวังกันซักที
ทัวร์ไม่ต้องเสียใจอีกแล้วใช่มั้ย จะได้มีความสุขซักที
พีถ้าจะดีก็ให้ตลอดนะ อย่าให้ทัวร์เสียใจอีก

สลิ่มน่ารักอ่ะ อีพี่เมตรบ่นได้บ่นดี 555
รออ่านตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ kuku

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
อัพให้เร็วกว่านี้ก็จบง่ายดิ

ออฟไลน์ KaniSui

  • ♪(*^ ・^)ノ⌒☆
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
อยากอ่านหัวหลิมด้วยยยยย

รอค่าาาาาาา  o19

ออฟไลน์ ToffeE_PrincE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-4

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
คนแต่ง หายไป หนาย ย ย ย ยย ย ย ยย ย    :angry2:
   
 :z3:  :z3:  :z3:  :z3:

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-01-2011 22:19:31 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
ตอนที่118  อยาก..รัก..ปลื้ม


“พี่เมตรสีส้มนี่ก็สวยอ่ะ”
“อืม แต่กูอยากได้สีฟ้าว่ะ” กูพูดบอกเพราะรถเวสป้าของกูมันสีเขียว ส่วนรถโบราณของไอ้มิ้วค์รุ่น SR400 สีดำสนิทเงาวับ
“โห สีส้มเหอะ แจ่มดีออก” ไอ้มิ้วค์ชี้อีกคัน
“น้ำตาลไหม” กูยื่นอีกรูปให้ดู ไอ้มิ้วค์เอาไปดูแล้วคิดหนักกว่าเดิม
“โห สวยทุกอันเลยอ่ะ ทำไงดี” ไอ้มิ้วค์โวยวายเอาหัวเหวี่ยงไปมา
“เออ เอาไงดี” กูเองก็สับสนด้วยเหมือนกัน
“พี่เมตร..ทำเสร็จแล้ว ลองชิมสิ” ทัวร์เดินยิ้มแป้นแล้นเข้ามาพร้อมกับถาดอาหาร
“ไหม้ไหมเนี้ย” กูมองดูผัดหมี่ซั่วที่กูเพิ่งสอนให้มันทำเมื่อกี้และกูก็มานั่งดูรถก่อนที่จะให้มันทำด้วยตัวเอง
“ไม่ไหม้สักหน่อย” มันตอบหน้างอนิดหน่อยที่กูไปพูดว่ามันอย่างนั้น  ทัวร์มันให้กูสอนทำกับข้าวเพราะจะเอาใจพ่อผัวมัน  มันมาขอให้กูสอนเมื่อหลายเดือนก่อน  แล้วอยู่ดีๆมันก็หยุดไปสักพักได้แล้วก็กลับมาให้สอนทำใหม่เพราะว่าอยู่ๆไอ้พีก็พูดขึ้นมาว่า “ทำกับข้าวให้กินหน่อยดิ” กลายเป็นว่าไอ้ผัดผักบุ้งกับพวกข้าวต้มกุ๊ยที่กูเคยสอนมันไปนั้นยังพอช่วยมันได้แต่มันก็กลัวว่าไอ้พีจะพูดขอให้ทำให้กินอีกก็เลยต้องมาเรียนแบบไม่ยอมให้กูบอกไอ้พีน่ะสิ  ส่วนเรื่องของมันกับไอ้พีกูเองก็ไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่  ไม่ใช่ดิวะ..ตอนแรกก็ตกใจเหมือนกันแหละแต่พอรู้ทั้งนิสัยของไอ้พีและทัวร์มันดีก็เลยชินซะแล้วล่ะ
“มึงชิมก่อนดิ” กูยื่นส้อมให้ไอ้มิ้วค์  ไอ้มิ้วค์เหลือบมองหน้ากูหน่อยๆเหมือนไม่ไว้ใจแต่สุดท้ายมันก็กินเข้าไป
“เป็นไง” ทัวร์ยิ้มถาม
“อื้อ ก็ดีนิ” มิ้วค์พยักหน้าตอบ
“พี่เมตรชิมดิ” ไอ้มิ้วค์ยื่นส้อมให้กู  กูก็เอาส้อมมาแล้วพันเส้นหมี่เข้ามาชิม
“.................” ทัวร์ยืนยิ้มจ้องหน้ากูด้วยความคาดหวังสุดๆ
“เค็มไปหน่อย” กูบอก
“โหย เค็มตรงไหน พอดีเหอะ” มันแย้ง
“เค็มเหอะ ตัดหวานนิดนึงให้มันพอดีดิ แล้วเอามาใหม่กูจะแดก..หิว” กูบอก     
“เชอะ” มันทำเสียงแล้วยกถาดออกไปจากห้องนั่งเล่น
“พี่เมตร” ไอ้มิ้วค์เรียก
“หื้ม” กูขานรับ ไอ้มิ้วค์มองหน้ากูเหมือนมีเล่ห์นัยอะไรสักอย่าง
“พี่เมตรบอกพี่โมทยัง” มันพูด
“ยัง” กูตอบเสียงเบา
“พี่เมตรไม่พูดล่ะ” มันหน้างอขึ้นมาทันที
“แหม โยนขี้ให้กูนะมึง” กูว่าให้แล้วเหลือบมองที่รูปอีกที่ด้วยความอยากได้สุดๆ
“ถ้าพี่เมตรไม่พูดแล้วใครจะพูด” มันพูดอีก
“มึงเองก็อยากได้เหมือนกันนี่” ผมว่า
“โหย พี่เมตรอ่ะ..รีบบอกเร็วๆดิ เดี๋ยวเค้าก็ขายให้คนอื่นไปพอดีอ่ะ” มันทำหน้างอใส่อีก
“จิ้” กูได้แต่เครียดหนักกว่าเก่าเพราะไม่รู้จะบอกไอ้โมทมันว่าไงดี
“เฮ้ยไอ้เมตร” กูกับไอ้มิ้วค์สะดุ้งพร้อมกันด้วยความตกใจและรีบเอามือกวาดกระดาษที่อยู่บนโต๊ะลงทันทีเมื่อเห็นไอ้โมทเดินเข้ามาไม่ทันให้ได้ตั้งตัว
“อะไร” ไอ้โมทถามด้วยสีหน้าจับผิดพวกกู  มันมองลงไปที่กระดาษที่ตกอยู่บนพื้นโดยฝีมือของกูกับไอ้มิ้วค์
“เปล่า” กูกับไอ้มิ้วค์ตอบพร้อมกันแล้วเสือกก้มลงเก็บกระดาษพร้อมกันอีก
“อะไรของพวกมึงเนี้ย” ไอ้พี่โมทพูดแล้วเดินเข้ามาดึงกระดาษออกไปจากมือไอ้มิ้วค์ไป
“อ๊ะ..เอ่อ” กูได้แต่อ้ำอึ้ง
“อะไรของพวกมึงอีก” ไอ้พี่โมทหันมามองหน้าพวกกูเมื่อดูรถซีที่กูกับไอ้มิ้วค์หาเรื่องจะซื้อกันอีกคัน  และมันไม่เป็นที่ยอมรับของทั้งพ่อ แม่และไอ้โมทอีกนั่นแหละ  เพราะว่าแม่บอกให้กูซื้อรถยนต์ตั้งแต่กูประสบอุบัติเหตุเมื่อคราวก่อน  แต่กูเองก็ยังดึงดันไม่ยอมซื้ออยู่ดี
“เอ่อ” กูกับไอ้มิ้วค์อ้ำอึ้ง
“คือแบบว่ากู..อยากได้อ่ะ” กูพูด   
“แต่แม่เค้าอยากให้มึงขับรถยนต์ แล้วนี่อะไรวะ..มอไซด์สี่คันนี่ไม่พอรึไง” ไอ้โมทบ่นทันที  เพราะตอนนี้บ้านกูมีมีช็อปเปอร์ของไอ้พี่โมทคันนึง  เวสป้ากับเคเอสอาร์ที่เป็นชื่อของกู  และก็รถโบราณของไอ้มิ้วค์ที่เพิ่งซื้อมาจากเพื่อนของกูไม่นานอีกคัน  แต่ก่อนไอ้โมทมันก็ชอบเล่นมอเตอร์ไซด์เหมือนกัน  มันถึงยอมให้พวกกูซื้อและก็ช่วยกันออกเงินแต่งรถ  แต่เดี๋ยวนี้มันเองก็โตอย่างที่เห็นแล้ว  พอกูกับไอ้มิ้วค์อยากซื้อมอเตอร์ไซด์ขึ้นเรื่อยๆไอ้โมทมันก็บ่นไม่หยุดอย่างนี้แหละ  แต่ทำไงได้วะ..ก็คนมันชอบอ่ะ  ชอบมากๆด้วยอ่ะ  พอเห็นมอเตอร์ไซด์ใครสวยกว่านี่แทบจะคลั่งว่ะ  อย่างเคเอสอาร์ซื้อมาก็หกเจ็ดหมื่นแต่เสียเงินค่าแต่งรถทั้งเงินกูและเงินไอ้มิ้วค์รวมกันก็เกือบสี่หมื่นห้าหมื่นได้  ส่วนรถโบราณของไอ้มิ้วค์ที่ซื้อมือสองมา  แม่เป็นคนซื้อให้มันเป็นของขวัญวันเกิด  ส่วนไอ้มิ้วค์เองก็เก็บเงินแต่งรถหมดไปเกือบสามหมื่นเหมือนกัน  แต่ด้วยที่ว่าไอ้มิ้วค์มันเป็นคนเก็บเงินเก่งอยู่แล้วก็เลยไม่มีปัญหาอะไร  รถโบราณของมันที่แต่งนี่ก็แต่งด้วยเงินมันเองทั้งหมดเลย  กูก็ไม่ได้ช่วยสักบาทมีหน้าที่แค่พามันไปซื้อแล้วช่วยออกความคิดเห็นก็เท่านั้น
“ก็เห็นทีไรใจมันเต้นทุกทีเลยนี่หว่า” กูพูดอย่างช่วยไม่ได้
“ช่ายๆ อย่างกับตกหลุมรักเลยอ่ะเนอะ เหอะๆ” ไอ้มิ้วค์เสริมทันที
“เคเอสอาร์รุ่นใหม่เพิ่งออกด้วยนะโมท มึงดูดิ” กูรีบเรียกชื่อมันทันทีแทนคำว่า “มึง” อย่างก่อนหน้าแล้วหยิบโบรชัวร์ให้ไอ้พี่โมทดู  มันก็เอาไปด้วยหน้านิ่วคิ้วขมวดหน่อยๆ
“แต่มันแพง” มันพูด
“คันนี้มึงก็แต่งหมดไปตั้งหลายหมื่น” มันบ่นอีก
“ก็เอาคันนี้ไปขายไง” กูบอก
“ไม่ได้” มันพูดเสียงดังฟังชัด
“โหยยยยยยยยยยยย~~” กูกับไอ้มิ้วค์ประสานเสียงพร้อมกัน
“เดี๋ยวก็จะทำร้านอยู่แล้ว  เลือกรถไว้ด้วยกูจะได้บอกแม่ว่าจะเอาคันไหน” มันสั่ง
“ไอ้โมทอ่ะ ไอ้ห่า..กูอยากได้จริงๆนะเว้ย” กูพูดตะคอกนิดหน่อย
“....................” ไอ้โมทมองกูกับไอ้มิ้วค์ตาขวาง
“หยุดความคิดพวกมึงเดี๋ยวนี้เลยนะ” มันชี้หน้าพวกกูปรามๆแล้วเดินจากไป
“.....................” กูกับไอ้มิ้วค์มองหน้ากันด้วยอาการท้อแท้ซะไม่มีเมื่อกูหันมามองราคาเคเอสอาร์ที่วางอยู่บนโต๊ะ
“พี่เมตร” ไอ้มิ้วค์กระซิบ
“พี่มีเงินเก็บเท่าไหร่” มันกระซิบถาม
“กูไม่อยากใช้เงินเก็บว่ะ เผื่อจำเป็นต้องใช้แล้วมันไม่มีขึ้นมาทำไงล่ะ..คราวก่อนที่แต่งไปสี่หมื่นกว่าๆก็ไปทำงานกับพ่อเอากลับมาได้เนี้ยก็หมดไปเยอะนะเว้ย สลิ่มมันก็ใช้เงินเยอะด้วย..ขืนกูเอาเงินเก็บไปใช้ แล้วสลิ่มมันจะเอาอะไรกูก็ไม่มีเงินให้มันอ่ะดิ” กูบอกมันเพราะกูต้องทำงานกับพ่อและแม่แล้วเอาเงินมาเสริมตรงส่วนนี้ไว้ตลอด  เหมือนกับว่ามีเงินก้อนที่ธนาคารนึงเท่าไหร่ก็ให้คงที่  ส่วนอีกธนาคารกูก็จะใช้ส่วนนั้นแล้วทำงานเอาเงินเข้าตลอดไม่ยอมให้มันขาด  เพราะถ้ายิ่งลดมันก็จะลดลงไปเรื่อยๆอ่ะดิ
“แล้วจะทำยังไงล่ะ ถ้าขายคันนี้ไปมิ้วค์ว่าอย่างมากก็คงหกหมื่นกว่าๆอ่ะ..แต่ที่พี่อยากได้นั่นมันตั้งแสนห้าเลยนะ” มันพูดตอกย้ำกูอีก  เพราะรุ่นที่กูอยากได้มัน 250cc ราคาแสนห้าหมื่นบาท เย็..เข้..เอาเงินจากไหนล่ะ  แบบนี้ทั้งแม่และไอ้โมทไม่ช่วยกูแน่ๆอ่ะ
“กว่าจะแต่งอีก สองแสนพอดีอ่ะ..สัตว์” ไอ้มิ้วค์ด่าลอยๆออกมาแบบที่กูไม่ค่อยได้ยินบ่อยนัก  กูหันไปมองหน้ามันแล้วเอามือเท้าคางมองที่รูปรถทั้งหมดที่พวกกูปริ้นออกมาจากคอมเพื่อมานั่งวิเคราะห์กันว่าจะเอาคันไหน
“ขายของมึงปะล่ะ” กูพูด
“ขายของมิ้วค์” มันย้ำคิด
“น่าจะได้สัก..ห้าหมื่น ก็ขายหกหมื่น..กดราคาได้ถึงห้าหมื่นห้า แล้วค่อยเอาไปซื้อซี..ถ้ามึงแต่งอ่ะก็หมดประมาณสี่หมื่น  ที่ได้มาเงินก็ยังเหลือ เอาเปล่าล่ะ..กล้าขายไหม” กูเสนอ
“.....................” ไอ้มิ้วค์นั่งหน้าเครียดกันเลยทีเดียว  แล้วอยู่ดีๆมันก็ลุกจากเก้าอี้วิ่งออกไป  กูรีบวิ่งตามไปเพราะสงสัยว่ามันไปไหนของมัน  ไอ้มิ้วค์วิ่งไปที่โรงรถมอเตอร์ไซด์  ที่นั่นเป็นที่เดียวในบ้านของกูที่พวกกูดูแลดีที่สุดเลยก็ว่าได้  มดไม่ให้ไต่  ไรไม่ให้ตอม..ปิดโรงรถตลอด  ตอนกลางวันก็เอาผ้ามาคลุมอย่างดี  ตอนกลางคืนก็ล็อคโรงรถไว้ทั้งๆที่รถยนต์จอดแม่งข้างนอกไม่มีอะไรปิด กร๊าก เครื่องยนต์อะไรก็อยู่ในนี้หมดทุกอย่าง  บางทีถ้าทั้งกูสามพี่น้องไม่ได้ออกไปไหนก็คลุกกันอยู่ในโรงรถนี่แหละ  นั่งขัดนั่งเช็ดกันไปอย่างกับลูกก็ไม่ปาน
“แต่งมาตั้งนานแน่ะ” มันพูดเสียงอ่อนเหมือนท้อใจแล้วมองไปที่รถ Yamaha รุ่นโบราณ ตอนนี้หายากมากๆ..ใครมีไว้นี่ห้ามขายเลยก็ว่าได้  เพราะถ้าแต่งเป็น  แต่งสวยไม่รกเกินไป แม่งโคตรคลาสสิกเลยแหละ  กูยืนมองกูยังเสียดายเลยเนี้ย
“แถมยังหาอะไหล่ก็ยากด้วย” ไอ้มิ้วค์พูด แม่ง อนาถเหลือเกินความโลภ
“แต่ทำไงดี..อยากได้ซีจัง คันนี้เครื่องก็ยังแรงอยู่ด้วยอ่ะพี่เมตร มันขับทางไกลได้ เสียดายว่ะถ้าขายอ่ะ” มันพูดหันมามองหน้ากูด้วยความหนักใจ  พวกมึงก็คงเข้าใจนะว่าการรักพี่เสียดายน้องนั้นมันแย่มากขนาดไหน  และการที่มันขายไม่ลงนั่นก็จริงของมันเพราะรถโบราณรุ่นนี้เครื่องแรงขับทางไกลได้ดีมาก  ส่วนมากก็จะไปกันเป็นกลุ่มของพวกกู  แต่ถ้าเอามาขับทางใกล้ก็ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นัก  แถมคันนี้ก็ซ่อมและประคบประหงมกันมามากพอสมควร  เครื่องยนต์อะไรก็อัพใหม่เกือบหมด เฮ้อ..
“เอาไงล่ะ” กูย้ำถาม
“ขายไม่ลงจริงๆ” มันทำหน้าเซ็งบอกกู  
“ขอเหอะ” มันพูดแล้วนั่งยองๆลง
“แล้วพี่เมตรอ่ะ” มันย้อนถามกูบ้าง ใจกูนี่เต้นตุบๆๆๆ เพราะไม่อยากขายเลยแม่ง  อย่างที่บอกมาข้างต้นกูหมดค่าแต่งรถไปเกือบๆห้าหมื่นได้  และมันไม่ใช่แค่เงินอ่ะดิ  มันคือสิ่งที่เราอยากให้มันเป็นอ่ะ  มันเป็นสิ่งที่เรารักและดูแลมาอย่างดี
“พี่โมทไม่มีทางช่วยแน่อ่ะ” ไอ้มิ้วค์พูดย้ำ  เพราะอย่างรถเวสป้าของกูไอ้โมทมันก็ช่วยกูออกให้ครึ่งนึงของค่ารถที่ซื้อมา
“..................” กูเงียบนิ่งมองไปที่รูปรถที่เอามาเลือกเมื่อกี้ แม่งเอ๊ย ล้อรถสวยถูกใจกูได้อีก ของใหม่นี่มันดีจริงๆ
“จะเอาไปเทิร์นหรือจะขาย” มันถามเหมือนบังคับกูไปแล้วตอนนี้
“ถ้าเทิร์นก็ขาดทุนว่ะ ตอนแรกไอ้พีมันขอซื้อต่อแต่กูไม่ยอมขายเอง” กูบอก  ไอ้พีเคยขอซื้อต่อกูเมื่อเดือนที่แล้วแต่กูไม่ยอมขายเพราะรักคันนี้รองจากเวสป้าเลยแหละ
“ก็เอาสักเจ็ดหมื่นเลย” ไอ้มิ้วค์พูดตาโตเพราะรู้ฐานะบ้านของไอ้พีดี
“นิสัยไม่ดี อย่ามากดราคาให้แฟนเค้านะ” ทัวร์ออกมายืนหน้าบ้านแล้ววางถาดไว้ตรงที่นั่งหน้าบ้านก่อนที่จะมายืนดูพวกกู
“โหย แฟนพี่รวยจะตาย..นะ” ไอ้มิ้วค์อ้อน
“ไม่ได้ ไม่ต้องขายให้มันเลยนะ..ทัวร์ไม่อยากให้มันขับมอไซด์” ทัวร์พูด
“ขายเจ็ดหมื่นแล้วกัน” กูนึกขึ้นได้
“ทุเรศ..ใช้มาตั้งปีนึงแล้ว” ทัวร์พูด
“กูทะนุถนอมอย่างดีเหอะ” กูบอก
“มันอันตราย ไม่รู้จะชอบขับกันไปทำไมให้ตายเหอะ” มันบ่นแล้วเดินไปนั่งตรงที่นั่งหน้าบ้านแต่ก็ยังมองมาทางพวกกูอยู่
“ตกลงขายใช่ป่ะ” ไอ้มิ้วค์ยิ้มระรื่น  คงเพราะอยากขับด้วยเหมือนกัน
“อืม แต่คงซื้อแค่ 125cc นะ..แปดหมื่น ไอ้เหี้ยพีน่าจะไม่ขี้เหนียวหัวการค้าแบบม้ามันหรอก  คงคุยกันได้แหละ  อย่างมากกูคงขายให้มันได้สักหกหมื่นห้า  กูเอาเงินตัวเองซื้อใหม่อีกสักหมื่นกว่าๆแล้วก็ค่าแต่งอีกสักสามสี่หมื่น  ค่าแต่งเดี๋ยวกูรีบกลับไปช่วยงานพ่อเอามาแต่งดีกว่า..แม่ง ไม่ทันใจกูเลยว่ะสัตว์” กูบ่น
“แล้วซีของมิ้วค์ล่ะ” มันถามขึ้น
“....................” กูมองหน้ามันเพราะสงสารมันขึ้นมา  ส่วนตัวกูเองก็อยากได้ซีด้วยเหมือนกัน
“มึงมีเท่าไหร่” กูถามถึงเงินของมัน
“ซื้อแล้วค่อยเอามาแต่งเอง” กูบอกมัน
“เอางั้นหรอ” มันย้ำถาม
“ง่ายที่สุดแล้ว ถ้ามึงไม่รีบซื้อ..ใจมึงจะไม่หยุดเต้น” กูยิ้มบอก  ไอ้มิ้วค์ก็ยิ้มตอบให้กู
“งั้นพรุ่งนี้ไปดูกันเลยนะ” มันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเริงร่า
“พรุ่งนี้ไม่ว่างว่ะ ต้องไปกับสลิ่ม..ไว้วันมะรืนแล้วกัน” กูบอก  ไอ้มิ้วค์ก็พยักหน้าตอบ
“ค่าแต่ง พี่เมตรช่วยมิ้วค์ด้วยนะ” มันบอก
“ตีนเหอะ เงินเก็บมึงก็เยอะแยะ..จ่ายเองดิ” กูพูดเพราะกูรู้ดีว่าบัญชีมันเงินเยอะแต่เสือกไม่ยอมใช้เงินตัวเอง  มันเป็นลูกที่แม่กับพ่อรักงานให้เงินมันมากที่สุด  ดังนั้นกูไม่มีทางเชื่อว่ามันจะยากจนเด็ดขาด
“โด่” มันทำเสียง
“..................” กูกับไอ้มิ้วค์ยิ้มกริ่มมองหน้ากันเหมือนต่างคนต่างดีใจคิดอะไรกันอยู่
“เย้~” กูกับมันดีใจพร้อมกันเพราะจะได้รถใหม่แล้ว กร๊าก ไม่มีใครสามารถต้านทานกูได้จริงๆ ดีนะที่รถสองคันนี้เป็นชื่อกูไม่ใช่ชื่อไอ้โมท  ไม่งั้นมึงเอ๊ย..คงไม่ได้แดกอะไรเลยแหละ  มีแค่ช็อปเปอร์คันเดียวที่เป็นชื่อของไอ้โมทมัน
“อ่าวกลับมาแล้วหรอ” กูทักสลิ่มที่เพิ่งเดินเข้าประตูรั้วมา
“อ๋อ..สลิ่มอยู่ข้างบนอกอ่ะ” ไอ้สลิ่มมันตอบหน้าตายแล้วชี้ออกไปนอกรั้วเหมือนคนที่พูดอยู่นี่ไม่ใช่มันจริงๆ
“...................” กูยืนมองหน้ามันเอือมๆ
“หึ..” มันหัวเราะตอบแล้วเดินไปหาทัวร์
“กินไรอ่ะ” มันทักไปที่ผัดหมี่ซั่วก่อนเลย
“พี่ทำ” ทัวร์บอก
“....................” สลิ่มหันไปมองหน้าทัวร์นิ่งเหมือนไม่กล้ากิน แล้วมองกลับไปที่จานหมี่ที่วางอยู่
“กินได้มั่งเหอะ” ทัวร์พูดบอก
“มึงกินยังอ่ะ” สลิ่มหันมาถามกู
“กินได้” กูบอกมัน
“งั้นหลิ่มกินนะ” มันพูดจบก็ยกจานหมี่ซั่วแล้วกินเลยไมได้ถามกูสักคำว่าจะแดกหรือไม่  เป็นเมียที่ดีจริงๆ  เหอะๆ
“หวานอ่ะ” สลิ่มพูดแล้วอมส้อมทำหน้าบู้
“ก็พี่เมตรบอกให้พี่เติมน้ำตาลอ่ะ” ทัวร์ตอบทันที
“กูบอกว่าให้มันพอดีๆกันเหอะ” กูเถียง
“แต่ก็กินได้..หิว” สลิ่มทำหน้าไม่สนใจแล้วไปนั่งกินต่อมองมาทางพวกกูเหมือนสงสัย  
“นี่มึงยังไม่เลิกดูกันอีกหรอ” ไอ้โมทเดินออกมาจากในบ้านแล้วทักพวกกู
“กูตัดสินใจกันแล้วว่าจะซื้อ” กูบอกมัน
“....................” ไอ้โมทยืนจ้องหน้ากูอีก
“ก็ขายเคเอสอาร์ของกู ไม่มีไรเสียหายเลย..แค่ได้รถใหม่  ส่วนซีไอ้มิ้วค์จะเอาเงินเก็บซื้อเอง” กูยิ้มอธิบาย
“....................” ไอ้โมทยังยืนนิ่งจ้องหน้ากูอีก
“เข้าเนื้อกูไม่ช่วยนะ” เข้าเนื้อกูอยู่แล้วแหละคร้าบ..แค่ขายไปกูก็ไม่ได้กำไรแล้ว ห่า
“ไม่เข้าหรอก” กูบอก
“ตามใจ” มันพูดแล้วเดินเข้าบ้านไปเหมือนเหนื่อยใจที่มีน้องอย่างกูสองคน
“กูก็อยากได้ด้วย” สลิ่มพูดบอก
“ไม่ได้” กูห้ามทันที
“ขับรถยนต์สิสลิ่ม  มอไซด์มันอันตรายนะ” ทัวร์บอก
“แต่สลิ่มชอบมอไซด์มากกว่า” สลิ่มพูดไปกินไป
“แต่พ่อไม่ยอมซื้อให้ แย่จริงๆ..อยากขับบ้างเหมือนกันอ่ะ” มันพูดหน้าหงอยอีก
“เมตร..พรุ่งนี้มึงจะไปด้วยเปล่าตกลงอ่ะ” แล้วอยู่ดีๆมันก็ถามขึ้น  พรุ่งนี้จะสลิ่มมันจะนัดกินข้าวกับพวกไอ้วิทย์ที่ร้าน.............ที่สลิ่มมันอยากกินมากๆ  และเพื่อนๆต้องตามใจมันอีกนั่นแหละ
“ไป เลี้ยงด้วยนะ..หมดตูด” กูพูดโกหกไป  เพราะมันใช้เงินเก่งมากจริงๆ  กูว่ากูเองใช้เงินแบบไม่คิดแล้วนะ  คือมีมาก็จ่ายไปแบบไม่ได้จดได้เชคอะไรกับตัวเอง  แต่สลิ่มมันจดเงินเชคเงินของตัวเองตลอดว่าใช้ไปเท่าไหร่แต่นั่นแหละ กูบอกได้เลยว่ามัน “แค่จด” เพราะมันใช้เงินไม่คิดเลย  พอมันมาเห็นว่ามันใช้ไปเท่าไหร่มันจะพูดประโยคเดิมๆว่า “ทำไมกูใช้เงินเยอะขนาดนี้วะเนี้ย”  ด้วยน้ำเสียงที่เบื่อหน่ายตัวเองสุดๆ  และไม่สามารถแก้ไขได้เลย  กูเองก็ได้แต่ปรามมันเวลาที่มันอยากได้ของอะไร  ให้มันเบาๆลงบ้างและที่กูต้องโกหกแบบนี้มันจะได้คิดว่ากูไม่มีเงิน  แล้วมันก็จะเกรงใจและระวังในการใช้เงินมากขึ้น  เหมือนกับให้มันคิดว่ามันต้องจ่ายเงินแทนกูบ้างมันจะได้ระวังการใช้วงเงินของตัวเอง  ไม่งั้นมันจะเคยตัวน่ะสิวะ  กูเองก็จะเอามันไม่ไหวเหมือนกัน แม่ง กระดิกตัวทีบางทีแค่หน้าปากซอยก็พันกว่า  ถ้าให้เรียกว่า “วันนี้ไปช็อปปิ้งกันเหอะ” ประโยคนี้บอกได้เลยว่าเหยียบหมื่นตลอด เฮ้อ..ปวดหัวจ้ะ
“อีกแระอ่ะ” มันบ่นเพราะมื้อที่แล้วมันก็เพิ่งเลี้ยงกูไป
“พี่ทัวร์งั้นเย็นนี้เราไปกินบุฟเฟ่เค้กกันไหม” สลิ่มทำเสียงร่าเริงขึ้นมาทันทีทั้งๆที่หมี่อยู่เต็มปาก
“ไปสิ พี่ว่างอยู่พอดี” ทัวร์ยิ้มตอบ
“งั้น..พี่เลี้ยงนะ” มันพูดได้หน้าด้านมาก ดีมากเมียกู
“หึ..ก็ได้” ทัวร์หัวเราะตอบแบบไม่เชื่อหูตัวเองว่าสลิ่มมันจะกล้าขอได้ตรงขนาดนั้น  
“งั้นเอาของไปเก็บก่อน..อาบน้ำด้วยเดี๋ยวมา” พอมันพูดจบมันก็วางจานหมี่ซั่วแล้วมันก็วิ่งเข้าบ้านไปทันที แม่ง เร็วฉิบหาย แฟนกูหรือนินจาฮาโตริวะนั่น
“ผู้ชายนี่น้า..ไม่เจ้าชู้ก็ชอบแต่งรถ มีอยู่สองอย่าง..เออไม่สิ เจ้าชู้ เหี้ย แต่งรถ ทำไมมันจะต้องมีสเต็ปคล้ายกันด้วยนะ ให้ตายสิ” ทัวร์บ่นขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังมองมาทางพวกกู
“ขอบคุณนะ” กูพูดบอกมันแล้วนั่งดูรถต่อ  กูกับไอ้มิ้วค์นั่งดูรถกันต่ออย่างเพลิน  ดูอะไหล่กับเครื่องยนต์เรียบร้อย  ไม่นานสลิ่มก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จลงมาพร้อมกับชุดใหม่แล้วชวนไปกินบุฟเฟ่เค้กกันโดยมีกู ไอ้มิ้วค์ สลิ่มและก็ทัวร์  และแน่นอนว่าทัวร์เป็นเจ้ามือใหญ่ของมื้อนี้ กร๊าก หน้าด้านจริงๆกู..แต่เค้าจ่ายไม่ได้  เพราะเค้าจะต้องเก็บเงินเอาไว้แต่งรถง่ะ


................
................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-01-2011 22:36:36 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
“เย็..เข้ กร๊าก”
“หึหึ” กูหัวเราะไอ้ห่าเขตที่มันเพิ่งทำท่าเหมือนจะควักน้องชายมันเพื่อแกล้งไอ้สลิ่มที่ท้าทายมันเมื่อกี้
“ไอ้สัตว์แม่งหน้าด้านฉิบหาย” สลิ่มว่าเซ็งๆ
“เอ้า ฉลองให้กับว่าที่นักศึกษาเกียรตินิยมอันดับหนึ่งสาขาออกแบบดีไซด์ และ..” ไอ้เขตยกแก้วโกโก้แล้วทำท่าให้พวกกูยกแก้วไปชนแก้วมัน สลิ่มได้แต่นั่งอมยิ้มกับคำพูดของเพื่อนมัน ที่จริงวันนี้ไม่ได้ฉลองอะไรหรอกที่ไอ้เขตมันพูดก็เพราะความทะลึ่งของมันก็เท่านั้นแหละ  แต่ก็เรื่องจริงว่าสลิ่มมันน่าจะได้เกียรตินิยมเพราะสถานการณ์มันบังคับให้มันต้องเป็นแบบนั้น  เพราะเกรดมันต้องได้สามจุดห้าอัพขึ้นอยู่แล้ว  ตกไปมากกว่านี้ไม่ได้เลยเพราะไม่งั้นทุนเรียนฟรีจะกลายเป็นทุนแม่มันแทน
“ฉลองให้กับปีนี้ที่กูผ่านไปได้โดยไม่มีการดรอปเรียนวิชาใดๆ หึหึ” ไอ้เขตพูด พวกกูก็ได้แต่ยิ้มเอาแก้วไปชนค้างไว้
“และฉลองให้กับเฮียที่จะเริ่มตั้งหลักปักฐานภายในปลายปีนี้” มันพูด  กูยิ้มให้ไอ้เขต
“เชียร์” ไอ้เขตพูดอีก
“เชียร์” พวกกูก็ว่าตามมันไป  บ้าบอตามมันไปเหอะจะได้ไม่เครียด  กร๊าก
“มื้อนี้ไอ้วิทย์เลี้ยง เต็มที่เลยแล้วกันเฮีย” ไอ้เขตบอกกู  กูหันไปมองหน้าไอ้วิทย์ที่นั่งยิ้มยักคิ้วให้กู
“แล้วไอ้เชลโล่ไปไหนของมันไม่มาสักที” สลิ่มบ่น
“มันบอกเอาสายไปเปลี่ยนเชลโล่มันแหละ วุ่นวายฉิบหายแบกไปแบกมา” ไอ้เวบ่นปุ๊บไอ้เชลโล่ก็เดินเข้าร้านมาพร้อมกับเชลโล่ของมันเลยทันที
“หวัดดีครับ” มันยกมือไหว้ทุกคนก่อนที่จะหาที่วางเชลโล่แล้วนั่งข้างๆไอ้เขต
“ไปเหี้ยไหนของมึงมาเนี้ย” ไอ้เขตถาม
“พี่พูดไม่เพราะอีกละนะ” เชลโล่พูดบอกไอ้เขต
“อ๊ะไอ้เหี้ย” ไอ้เขตด่าแล้วตบหัวไอ้เชลโล่เบาๆ
“ผมบอกให้รอกันหน่อยก็ไม่รออ่ะ” มันพูดบอกไอ้เขต พวกกูได้แต่นั่งมอง
“ไรของมึงสองคนวะ” กูถามออกไปเพราะสงสัยมากและคันปาก
“เปล่า..มันกวนตีน” ไอ้เขตตอบ
“มึงอย่าบอกนะว่ามึงสองคนมีไรกันอ่ะ” แหม ปากเมียกูนี่ก็ใช่ย่อยเมื่อไหร่
“จ้างกูเอากูยังไม่เอาเลย สัตว์” ไอ้เขตพูดทำหน้าเหมือนไม่อยากได้จริงๆ
“ผมก็ไม่อยากเอาพี่เหมือนกันแหละ” ไอ้เชลโล่ย้อนแล้วลุกจากเก้าอี้ไปสั่งอาหาร
“...................” ทั้งโต๊ะเงียบมองกดดันไปที่ไอ้เขต
“ห่าไรครับนี่” มันพูด
“พวกคุณมองผมแบบนี้ ผมก็เขินเป็นนะ” มันพูดกลบเกลื่อนยิ้มๆ
“มึงชอบมันหรอ” ไอ้เวถาม
“เออ จะแดกเด็กหรอ” ไอ้วิทย์เสริม
“หึ..” สลิ่มแสยะหัวเราะแล้วทำท่าอย่างกับเจ้าเล่ห์อย่างกับเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
“เหี้ยหลิ่ม มึงอย่ายิ้มอย่างนี้ได้ไหม” ไอ้เขตสะบัดหัวนิดหน่อย ไอ้ห่านี่มันเป็นเด็กที่วอนตีนจริงๆ ท่าทางมันวอนจริงๆถ้าไม่รู้จักนี่กระทืบไปละ
“หึ..” ไอ้สลิ่มก็ยังคงหัวเราะแค่นั้นแล้วทำท่าไม่สนใจไอ้เขตอีก
“ชอบก็บอกน้องมันไปดิ” สลิ่มพูด  กูหันไปมองไอ้เชลโล่ที่ยืนเลือกเค้กอยู่  มันตัวสูงกว่าไอ้เขตอีกแต่ถ้าเทียบหน้าตาแล้วไอ้น้องเชลโล่หน้าหวานมากกว่าไอ้เขตเยอะ  ไอ้เขตหน้าออกแนวแหลมๆ ตี๋หน่อยๆ กวนๆ เหี้ยคล้ายๆเด็กช่าง เหอะๆ
“กูไม่ได้ชอบ” มันพูด
“มึงคิดว่ากูจะเป็นเกย์ตามพวกมึงรึไง” มันพูดอีก
“ใครเกย์” สลิ่มตบหัวไอ้เขตอย่างแรงด้วยสีหน้าไม่พอใจนิดหน่อย
“แอมเกย์” กูยกมือยิ้มให้ไอ้เขต
“กินไหม” ไอ้เชลโล่เดินกลับมาพร้อมกับถาดที่ใส่เค้กมาด้วย  แต่มันเสือกถามไอ้เขตคนเดียวอ่ะดิที่ทำพวกกูนั่งเงียบกันอยู่เนี้ย
“................” ไอ้เขตเบะปากให้
“เฮอะ ก็ไม่ได้อยากให้กินเท่าไหร่หรอกครับ” ไอ้เชลโล่ตอกให้
“ตัดผมเมื่อไหร่” สลิ่มถามเชลโล่
“ยังไม่อยากตัดเลย ทรงนี้ไม่ดีหรอฮะ” มันถามสลิ่มกลับ
“ก็ดี..ถามไปงั้น ไม่อยากให้ตัดหรอก” สลิ่มบอก
“พี่จะซ้อมกันเมื่อไหร่ ผมอยากซ้อมจะแย่แล้ว” มันพูดอีก
“อาทิตย์หน้า ซ้อมสักสองวัน..แล้วเดี๋ยวเปิดหมวก” สลิ่มยิ้มบอก
“โห งั้นกูก็ต้องไปขอแม่มึงให้มึงอีกอ่ะสิ” ไอ้เขตพูด
“แม่ผมไม่ได้ขอยากขนาดนั้นเมื่อไหร่ แค่บอกว่าไปเปิดหมวกเค้าก็ให้แล้วเหอะ” ไอ้เชลโล่ย้อน
“แล้วไอ้รอบที่แล้วที่กูต้องไปบ้านมึงนี่กูไปทำไมไม่ทราบ” ไอ้เขตพูดแล้วเหลือบตามองเหมือนไม่พอใจ
“ก็แม่อยากเจอ” ไอ้เชลโล่ยักไหล่ตอบสไตล์ฝรั่งจ๋า
“มัมมี่ไออยากเจอยูอ่ะ เข้าใจ” ไอ้เชลโล่ทำเสียงสูงใส่อีก
“ไอๆยูๆ เดี๋ยวกูถีบ” ไอ้เขตว่าให้  พวกกูได้แต่ยิ้มมองหน้ากันกับสองคนมัน
“อะไรของพวกมึงเฮียเนี้ย” ไอ้เขตหันมาเห็นพอดีก็จะด่าขึ้นมาแต่คงเกรงใจกูเล็กน้อยว่าจะแทนกูว่า “พวกมึง” เลยต้องคำว่า “เฮีย” ต่อให้ด้วย หึ
“วู้!” ไอ้เขตทำเสียงไม่พอใจแล้วลุกจากเก้าอี้เดินหายไปทางไปห้องน้ำไม่บอกไม่กล่าว
“มึงชอบไอ้เขตหรอ” ไอ้วิทย์ถามขึ้นตรงๆ
“...................” ไอ้เชลโล่ทำหน้าทำตาเหรอหราแล้วอยู่ดีๆมันก็หน้าแดงขึ้นมาอย่างกับสาวเพิ่งมีรักแรกอย่างนั้นแหละ
“เป็นพี่น้องกันก็ดีแล้วนี่ครับ” มันพูด
“หึ..แสดงว่ามึงไม่ปฏิเสธใช่ไหมเนี้ยยยยย” อยู่ดีไอ้สลิ่มมันก็พูดขึ้นแล้วขำกร๊ากออกมา
“อ่ะ..เอ่อ ไม่ใช่ ก็..แต่” ไอ้เชลโล่อ้ำอึ้งเหมือนคนไปไม่เป็นแล้วทีนี้
“ใครรุกใครรับวะเนี้ย กร๊าก” ไอ้เวพูดแล้วขำกร๊ากกันออกมาอีก  ตอนนี้เป็นที่ตลกปกฮาของพวกกูไปแล้วแหละ
“เอ่อพี่ ผมไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น..เราตกลงกันแล้วว่าจะเป็นแค่พี่น้องกัน” ไอ้เชลโล่พูดขึ้น
“....................” O_O พวกกูหยุดขำทันที
“หมายความว่าไงวะ” สลิ่มพูด
“ผม..บอกชอบพี่เค้าไปแล้วน่ะ” ไอ้เชลโล่พูด
“ห๊า!!!” พวกกูร้องด้วยความตกใจจนทั้งร้านหันมามอง
“ก็ผมแค่พูดว่า..ถ้าผมบอกชอบพี่ พี่จะว่าไง” ไอ้เชลโล่เล่าไปหน้าก็แดงไป
“พี่เค้าก็บอกแค่..เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันก็ดีแล้วนิ ดีกว่าทุกสถานะจนตาย” ไอ้เชลโล่เล่ายิ้มๆ
“.....................” พวกกูนั่งอึ้งแดก เพราะดูเหมือนมันกำลังเศร้าสุดติ่งเลยอ่ะดิ
“เฮ้ยไอ้เขตมัน..” ไอ้วิทย์พยายามจะอธิบาย
“ไม่หรอกพี่” เชลโล่ขัดขึ้นก่อน
“ผมว่ามันก็ดีแล้ว ผมคิดว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน..ผมตัดใจแล้ว อีกอย่างเราแคร์กันแค่นี้ก็พอ ผมไม่ได้ต้องการไปมากกว่านี้หรอก” มันยิ้มบอก
“พี่เขตเค้าก็ไม่ได้ชอบผู้ชาย ส่วนผมเองก็ไม่ได้ชอบ..คงอยู่ด้วยกันบ่อยเกินไปมั้ง ที่จริงผมก็อยากมีแฟนเป็นผู้หญิงอยู่นะ” มันพูด
“มึงเอาเวลาไหนไปอยู่ด้วยกันวะ” ไอ้เวถาม
“ก็เวลาซ้อมดนตรีกับเวลาที่พี่เค้าชอบชวนผมไปดูหนังอ่ะ บางทีก็ออกไปไหนด้วยกันบ่อยๆ พี่เค้าไม่ได้บอกหรอครับ” มันถาม
“ฮึ..” ไอ้เว ไอ้วิทย์และสลิ่มส่ายหน้าพร้อมกัน
“คุยเหี้ยไรกัน” อยู่ๆไอ้เขตก็กลับมา
“มึงไม่อยากคบกับเชลโล่มันหรอ” สลิ่มถามหน้าตายเหมือนกับประโยคที่มันพูดนั้นธรรมดามากๆ ไอ้เชลโล่ถึงกับนั่งนิ่งไปเลย
“ถ้าคบแล้วสักวันกูจะต้องบอกเลิกมึง มึงยังอยากจะคบไหมละ..ถ้าไม่มีประโยคแบบนั้นมันก็ดีที่สุดไม่ใช่หรอ” ไอ้เขตพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนกับว่ามันไม่กระหยี่กับความรักเท่าไหร่ มันพูดออกมาเป็นธรรมชาติอย่างกับที่ตรงนี้มีแค่มันกับเชลโล่แค่สองคนอย่างนั้นแหละ
“ไอ้เชี้ย” ไอ้วิทย์ด่าไอ้เขตเบาๆเหมือนจะปรามไอ้เขตมัน
“กูไม่เคยคิดจะคบใครจริงจังหรอกนะจริงๆ ขอโทษว่ะ” ไอ้เขตพูดแล้วหันไปมองเชลโล่มัน
“หึ..ผมรู้อยู่แล้วน่า พี่สบายใจเหอะ” เชลโล่ยิ้มตอบให้ ไอ้ห่านี่ก็เข้าใจง่ายเหลือเกินนะมึง กูยังอึ้งอยู่เลย
“แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามึงไม่สำคัญ” ไอ้เขตพูดอีก  พวกกูได้แต่นั่งเงียบ
“สำหรับกู..แค่เคยรักคนๆเดียวก็พอแล้วนิเนอะ” ไอ้เขตพูดแล้วถอนหายใจหันมามองหน้ากูเหมือนบอกให้กูรู้ว่ามันหมายถึงใคร  ไอ้วิทย์ตบบ่าไอ้เขตเบาๆเหมือนเข้าใจด้วยเช่นกัน
“ใครวะ” สลิ่มถาม
“หมาที่ไหนก็ไม่รู้ หึ” ไอ้เขตตอบยิ้มๆจ้องสลิ่มเขม็ง
“ควาย ไม่บอกเค้าไปล่ะ” สลิ่มย้อนว่าให้
“บอกง่ายก็ดีดิเนอะ” ไอ้เชลโล่ยิ้มทำลายบรรยากาศ
“เอ้อไอ้ห่า พูดดูดีฉิบหาย..มันไม่ได้เป็นกูนิเนอะ” ไอ้เขตเสริมไอ้เชลโล่แล้วกอดไหล่ของเชลโล่มันแสดงความสนิทสนมแบบพี่น้องให้เห็น  และกูคิดว่าไอ้เขตมันคงกำลังทำให้เชลโล่สบายใจในแบบของมันแหละนะ  มันเองก็คงทำได้แค่นี้
“เฮ้ยพี่” อยู่ๆไอ้เชลโล่มันก็พูดขึ้นเสียงดัง  พวกกูชะงักหันไปมองว่ามันตกใจอะไร
“นั่นมันคนที่ชนะเปียโนเยาวชนของมหาลัย.................นี่หว่า” ไอ้วิทย์พูด กูมองไปเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มใส่ชุดนักศึกษาคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับผู้ชายตัวสูงใหญ่หน้าตาเหี้ยพอๆกับกูอีกคนหนึ่ง
“น่ารักว่ะ” ไอ้เวพูด
“กูไม่น่ารักหรอ” ไอ้วิทย์หันมาค้อนให้  กูมองไปที่เด็กคนนั้นสไตล์เดียวกับน้องมุกแฟนเก่าของไอ้เวมันเลย  ตัวเล็กๆ ขาวๆ แต่งตัวก็ไม่สาวด้วย  เค้าสองคนนั้นเดินมานั่งอยู่ที่โต๊ะข้างๆพวกกู  พอพวกนั้นเห็นว่าโต๊ะกูมองกันเขม็งเค้าก็หันมามองงงๆ
“กูได้แล้ว” สลิ่มพูดขึ้นโต้งๆแล้วหยิบกระเป๋าสตางค์ของตัวเองออกมาหยิบนามบัตรของตัวเองออกมาด้วย
“ทำไรวะ” พวกกูถามพร้อมกันด้วยความสงสัย
“....................” สลิ่มยักคิ้วกวนให้พวกกูก่อนที่จะลุกไปซะเฉย  พวกกูได้แต่นั่งมองสลิ่มที่เดินเข้าไปหาโต๊ะข้างๆที่ไอ้สองคนนั้นนั่งอยู่  
“ขอโทษนะครับ” สลิ่มพูดแล้วผงกหัวให้หน่อยๆ  แล้วอยู่ๆไอ้เด็กคนนั้นที่เงยหน้ามองสลิ่มก็อ้าปากค้างซะงั้น  ส่วนผู้ชายอีกคนที่ดูแมนเหี้ยไม่แพ้กูมันเอาแต่มองค้อนสลิ่มลูกเดียว
“สะ..สลิ่ม วง Lover” เด็กคนนั้นพูดแล้วชี้สลิ่มด้วยอาการเขินหน้าแดงกันเลยทีเดียว
“ครับสลิ่ม” สลิ่มยิ้มให้อย่างเป็นมิตร  แล้วมันก็เลิกคิ้วกลับเหมือนเป็นเชิงถามชื่อของอีกฝ่ายกลับ
“ขนมครับ” เด็กคนนั้นตอบ
“เอ่อครับ..ขนม” สลิ่มย้ำเรียก  กูได้แต่นั่งอึ้งไอ้ห่าทำไมอยู่ๆสลิ่มมันถึงดูเพลย์บอยขึ้นมาฟ่ะ  
“น่ารักว่ะ” ไอ้เวยังย้ำคำเดิม
“มึงดูผัวมันนั่งค้อนจะแดกไอ้เหี้ยหลิ่มอยู่ละ” ไอ้วิทย์กระซิบแล้วขำ
“ผมกำลังเรียนแฟชั่นดีไซด์น่ะครับ แล้วมีงานต้องทำ..ตอนนี้ผมก็หานายแบบเพื่อถ่ายภาพอยู่ ถ้าสนใจจะร่วมงานด้วยก็ติดต่อมาได้นะครับ” สลิ่มพูด  ไอ้เด็กที่ชื่อขนมนั่งก็มองที่นามบัตรยิ้มๆแล้วพยักหน้าตอบให้
“นายแบบอะไร ตัวเตี้ยแบบนี้เนี้ยนะ” ผู้ชายอีกคนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงห้วนเชิงไม่พอใจ
“พี่ทายเสียมารยาท” เด็กขนมพูดว่าให้
“หึ..ไม่หรอกครับ ก็ต้องแล้วแต่แนวเสื้อผ้า” สลิ่มยิ้มตอบให้
“ถ้ายังไงผมจะรอนะครับ” สลิ่มพูดแล้วก้มหัวให้อีกฝ่าย
“เอ่อแล้ว..จะติดต่อไปนะฮะ” ไอ้เด็กนั่นรีบชิงพูดทันที
“ขอบคุณครับ” สลิ่มยิ้มบอกแล้วเดินกลับมาที่โต๊ะ
“ไอ้ห่าทำอะไรไม่บอกพวกกูเลยนะมึง” ไอ้เขตว่า
“กูเคยเจอก่อนหน้านี้แล้ว แต่งตัวน่ารักดี..กูชอบ” สลิ่มยิ้ม
“เจอที่ไหนวะ” ไอ้เขตถามด้วยความอยากรู้
“ที่.............แต่ไปกับผู้ชายอีกคน” สลิ่มบอกทำหน้าคิดเหมือนสงสัยอีก
“นั่นผัวรึเปล่า ส่วนนี่ผัวน้อย” ไอ้เขตกระซิบพูดขำๆ  พวกกูก็ได้แต่นั่งอมยิ้มไว้
“พี่ชายเค้ารึเปล่าไอ้ห่า” ไอ้เวว่าให้
“พี่ชายห่าอะไรมึงดู” กูบอกพวกมันให้หันกลับไปดูสองคนที่กำลังงอนกันอยู่เพราะยื้อแย่งนามบัตรของสลิ่มมัน  กูว่าไอ้ผู้ชายนั่นคงขี้หึงไม่น้อยกันเลยทีเดียว
“หน้าคุ้นๆเนอะ” กูพูดขึ้นเพราะเหมือนเคยเห็นหน้าผู้ชายคนนี้ที่ไหน
“ไม่คุ้นได้ไงพี่เมตร..ก็นั่นลูกมาเฟียชื่อดัง เสี่ยทศเจ้าของย่านผับดังๆแต่ก่อนไงพี่” ไอ้เชลโล่กระซิบบอกเหมือนกลัวว่าอีกโต๊ะจะได้ยิน
“ไฮโซดีๆนี่แหละ รวยแบบ..รวยไงอ่ะ รวยโคตรฉิบหายอ่ะ” ไอ้เชลโล่พยายามเปรียบ
“แบบว่าโคตรรวยอ่ะพี่ ที่จริงจะมีการ์ดตามตลอดเลยนะ..โหย ผมอยากเห็นการ์ดตัวเป็นๆจัง แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อเลยนะเนี้ยว่าจะได้เจอพี่เค้าอ่ะ” ไอ้เชลโล่ปราบปลื้มขึ้นมาอีก
“อ๋อคนที่เพิ่งวางมือไปใช่ป่ะ เจ้าของผับ...............อ่ะนะ” กูถามเสียงสูงด้วยความตกใจ
“ช่าย” ไอ้เชลโล่ตอบ ตอนนี้พวกกูกำลังสุมหัวนินทาโต๊ะข้างๆเรียบร้อยละ
“ที่เคยมีข่าวกับดาราอะนะ” ไอ้เขตถามเสียงสูงกว่ากูอีก
“ช่ายอีกนั่นแหละ” ไอ้เชลโล่ตอบอีก
“แล้วนี่มึงไปอยู่ใต้เตียงเค้ารึไง ห่า..รู้ทุกอย่างเลยเนี่ย” ไอ้เขตหันไปว่าให้
“ก็เท่อ่ะ ดูดิ” ไอ้เชลโล่พูดแล้วหันกลับไปเหลือบมองเหมือนปลื้มมากจริงๆ
“พี่ทายอ่ะ เอามานะฮะ” เด็กขนมนั่นลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้ววิ่งตามคนตัวโตนั่นที่เดินออกนอกร้านไปไม่รอ  ไอ้ตัวเล็กนั่นวิ่งตามไปกอดแขนไว้แล้วพยายามอ้อนเหมือนจะขอนามบัตรคืน
“จะติดต่อกลับมาหากูไหมเนี้ย” สลิ่มกัดฟันพูดตาลอยๆเหมือนกำลังอยากจะฆ่าไอ้ผู้ชายตัวโตที่ชื่อทายนั่นก็ไม่ปาน
“ตกลง..แฟนกันหรอวะ” ไอ้เขตถามอีก
“อื้อ น่าจะใช่นะ พี่คนที่ชื่อขนมอยู่ปีหนึ่งมหาลัย...............สุดยอดอ่ะ สอบเข้าได้ที่หนึ่งของคลาสสิกด้วย” ไอ้เชลโล่เล่า
“แล้วมึงรู้ได้ไงเนี่ย” พวกกูพูดพร้อมกัน
“ก็อย่างพี่สลิ่มพี่ขนมเค้ายังรู้จักเลย..แล้วทำไมผมจะไม่รู้จัก พวกพี่เอาแต่กินเหล้ากันอ่ะสิเลยไม่รู้อ่ะ ก็ตอนที่พี่มาเฟียนั่นเป็นข่าวกับดาราพี่ขนมก็โดนยกขึ้นมาเป็นหัวข้อสนทนาด้วยอ่ะดิ  แล้วพวกผู้หญิงที่โรงเรียนดนตรีเค้าก็พูดๆกันผมก็เลยไปนั่งฟังมา เหอะๆ อีกอย่างอะนะวันที่มหาลัยที่พี่ขนมเค้าสอบเข้าอ่ะ  ผมเองก็ตามไปดูสถานการณ์ทุกวันเลย เค้าเรียกว่าไงอ่ะ..เอาไว้เป็นประสบการณ์ไง  พอถึงวันที่ผมสอบบ้างผมจะได้ไม่ตื่นเต้น” มันเล่าซะยาว กูนั่งรำลึกว่ากูน่าจะเคยเห็นไอ้ผู้ชายที่ชื่อทายมาก่อนหน้านี้  เหมือนจำได้ว่ามันเคยมามหาลัยกูที่คณะวิศวะรึไงนี่แหละแต่ตอนนั้นยังเป็นแค่นักเรียนอยู่  กูจำได้ว่าพวกผู้หญิงคณะกูแม่งกรี๊ดกร๊าดกันทันทีเมื่อไอ้เด็กนี่เดินผ่าน  แต่ตอนนั้นกูไม่ได้สนใจไง  กูก็ใช้ชีวิตของกูไปตามปกติไม่ได้สนใจคนรอบข้างที่ไม่ได้ตรงสเป็คกูเลยว่างั้นเหอะ
“มึงจะสอบเข้าดนตรีหรอ เชลโลเลยอ่ะนะ” สลิ่มถาม
“อื้อ” ไอ้เชลโล่ยิ้มตอบ
“ก็ดี สอบให้ได้ล่ะ..จะได้ไม่ต้องมาเสียค่าเทอมแบบไอ้เหี้ยวิทย์” สลิ่มพูดเสียงเอือมๆ
“ห่านี่ก็วกมาหากูนะ กูก็นั่งของกูเฉยๆ” ไอ้วิทย์พูด
“อยู่ปีหนึ่งหรอวะเนี้ย หน้าแม่งโคตรเด็กอ่ะ” ไอ้เวยังไม่หยุดเพ้อ
“มึงหยุดสักทีได้ไหม ขัดหูกูฉิบหาย” ไอ้วิทย์คิ้วขมวดเหมือนอารมณ์เสีย
“ไอ้หลิ่มมึงชวนเค้ามาเล่นเปียโนวงเราดิ” ไอ้เวพูดด้วยท่าทางตื่นเต้น
“เค้าระดับไหนจะมาเล่นให้วงเราเนี้ยนะ วงเราก็ไม่ได้เล่นจริงจังอะไร..เปื่อยไปวันๆ” สลิ่มพูดขำๆ
“เค้าอึ้งแดกที่มึงเข้าไปหาเค้าแบบนั้นแสดงว่าเค้าก็ต้องรู้จักมึงนั่นแหละ..เออ ลองชวนก่อนเหอะน่า” ไอ้เวพูดอีก
“ไม่เอา กูขอค้าน” ไอ้วิทย์พูดขึ้น
“ใครเอามากูงอน” มันพูดอีก
“ไอ้เหี้ย” ไอ้เขต สลิ่มและไอ้เวประสานเสียงด่าไอ้วิทย์พร้อมกัน
“แต่ก็ น่ารักจริงๆแหละนะ..” สลิ่มพูดขึ้นหน้าตาเฉยเหมือนเห็นด้วยกับที่ไอ้เวพูด
“หึ แต่กูน่ารักกว่า” มันเสริมทันทีไม่ทันให้กูได้ด่าว่าหรือหึงอะไร แม่ง กูเชื่อเลยจริงๆ กูคิดว่ามันจะชมไอ้เด็กที่ชื่อขนมนั่นแต่ดันวกกลับมาชมตัวเองซะงั้น เวรกรรม
“มองไร” สลิ่มหันมาค้อนใส่เพราะกูนั่งจ้องหน้ามันอยู่
“รีบกลับบ้านเหอะ” กูยิ้มเจ้าเล่ห์ตอบมัน
“แสรดดดดดดด~..เกรงใจบ้างก็ได้เฮีย” ไอ้เขตทำเสียงเป็ดพูดว่ากู  กูได้แต่ยิ้มตอบให้  หลังจากนั้นพวกกูก็นั่งกินเค้กต่ออีกเกือบชั่วโมง  ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน  สลิ่มกับกูไปที่ร้านไอ้พี่โมทก่อนเพราะต้องไปเอาของแล้วก็ไปช่วยไอ้พี่โมทเปิดร้าน  ไม่นานหลังจากนั้นก็มีสายเข้ามาจากเด็กที่ชื่อขนมและเด็กนั่นก็ตกปากรับคำสลิ่มเป็นอย่างดีว่าจะช่วยงานสลิ่มโดยที่ไม่เอาค่าตัวหรืออะไรเลย  กูเองก็ได้แต่ดีใจกับสลิ่มด้วยเพราะมันไม่อยากเป็นแบบใส่เสื้อผ้าเอง  โปรเจคนี้มันบอกว่ามันอยากให้งานที่เริ่มต้นของมันออกมาดีมันก็จะทุ่มเทให้กับแบบๆหนึ่งไปเลย  แล้วคอนเซ็ปของมันก็คืออยากได้คนตัวเล็กๆแต่ไม่ผอมมากมาใส่เสื้อผ้าที่เลือก  กูเองก็ไม่เข้าใจนักว่ามันวางแผนไว้ยังไงแต่เห็นแบบเสื้อผ้าที่มันวาดไว้แล้วก็สวยๆทั้งนั้น  บางทีมันทำงานจนดึกดื่น  บางครั้งกูตื่นมาตีหนึ่งตีสองมันยังนั่งทำงานอยู่เลย  บอกให้รีบนอนให้ไวก็ไม่นอนกูเองก็ไม่รู้จะว่ายังไงเพราะมันเองก็ดื้อโดยสันดานอยู่แล้วด้วยอะนะ
“นอนได้แล้วครับสลิ่ม” กูพูดบอกอีกฝ่ายที่นั่งทำงานอยู่
“แป๊บนึง” มันตอบสายตาก็ไม่ละไปจากหน้าจอคอม
“หลายแป๊บแล้ว จะเที่ยงคืนแล้ว..พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้านะ” กูบอก
“อื้อ” มันตอบแค่นั้นแต่แม้กระทั่งตาก็ยังไม่ยอมทิ้งจากงานเลย
“อ๊ะ..อย่าเพิ่งยุ่งสิ” มันสะดุ้งเพราะกูเข้าไปกอดมัน
“หยุดเหอะ” กูกระซิบบอกแล้วจูบที่หูมัน  สลิ่มเองก็เหมือนไม่มีสมาธิที่จะทำงานต่อเพราะกูนัวเนียไม่หยุด
“เอ๊ะไอ้เมตร..จับตรงไหนของมึงเนี้ย” มันว่าแล้วพยายามยื้อมือกูที่ลูบไปใกล้น้องชายสลิ่มมันอย่างจงใจ
“หึ..มาทำให้หลับง่ายกันเหอะ” กูบอกแล้วออกแรงอุ้มไอ้ตัวดีนี่ขึ้นแล้วเดินไปปิดไฟทั้งๆที่อุ้มมันอยู่นั่นแหละ
“อื้อ เมตร”
“อ่ะเมตรปล่อย..ไอ้..อ้า ห่าเอ๊ย กูอาบน้ำแล้วนะโว้ย!!” สลิ่มโวยเสียงดังพร้อมกับมือที่ทุบเข้าที่เบ้าตากูอย่างแรง  สัตว์..น็อกสิจะเหลือหรอ  เจ็บฉิบหายอ่ะ



...............>>>><<<<................


กูไม่ได้มาต่อแค่ห้าวันเองนะโว้ย :angry2: ไม่ใช่ชาตินึง..พูดกันซะกูรู้สึกผิด :o12: ห่าพวกนี้(คนนะไม่ใช่หุ่นยนต์ :m16:)
ปล.ไม่ได้ตรวจคำผิด ขี้เกียจ..ใครอ่านได้อ่าน รับไม่ได้ก็ไม่ต้องอ่าน จบ!! :bye2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-01-2011 22:46:43 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ iiดาวพระสุขლii

  • คิดการใหญ่ ใจต้องเหี้ย(ม),,
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +746/-3
d  (ช่วยจองมั้ย    กร๊ากกกก)

ออฟไลน์ aohka

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
d เช่นกันจ้า... น้องเบบี้  :impress2:

ป๊าด... ตอนนี้มีพี่ทาย และ น้องขนม มาฟีทฯ ด้วยอ๊าาาาาาาาาาาาาา  :man1:

( พอให้บรรเทาอาการคิดถึงน้องขนมไปได้บ้าง...  :-[ )

รอตอนต่อไป... รออ่านน้องขนมตอนที่มาเป็นแบบให้สลิ่ม

 o13  o13  o13
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-01-2011 22:51:18 โดย aohka »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ knightofbabylon

  • it's sorrow that feeds your lies!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-51
มาคราวนี้มีอะไรให้น่าทึ่งนิดๆด้วยนะเบบี้

คุณพี่เขตอย่ากลัวดิ คุณพี่เมตรยังกล้าชนทุกรูปแบบเพื่อสลิ่มเลย
แต่น้องเชลโล่กับเขต สงสัยถ้าเกิดพัฒนามีความคืบหน้าจริงๆล่ะก็..
ออกตัวว่าเชียร์น้องเชลโล่กดคุณพี่เขตโลด  :jul3:


หนูหลิ่มน่ารักแต่ตอนนี้ชอบบรรยากาศพี่น้องมากกว่า
มิ้วค์กับเมตรอ่ะ  อ่านแล้วยิ้มกว้างมากๆเลย :-[


 :กอด1:เบบี้
แอบถามนิดนึง ขนมนี้ ใครเหรอ?
ใครใจดีบอกได้มั้ย ขนมอยู่ในเรื่องไหนของเบบี้?
เราอ่านเรื่องนี้เรื่องแรกน่ะ
เรื่องอื่นว่าจะไปอ่าน จนถึงบัดนี้ ยังไม่ได้อ่าน
งานแม่งเยอะแทบเท่าจำนวนปลวกและแมลงสาบในบ้าน  :o12:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-01-2011 23:16:06 โดย knightofbabylon »

ryukani

  • บุคคลทั่วไป
ขอแปะไว้ก่อนนนน


กรี๊ดดดดดดดดดด ขนมมาด้วยอ่ะๆๆ :-[



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-01-2011 22:56:57 โดย ryukani »

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
 o13
+1 นะน้องเบบี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-01-2011 23:16:03 โดย Little Devil »

ออฟไลน์ kokikung

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-3
อ๊ากมาต่อแว้ววววววววววว

น้องขนมกะพี่ทายโผล่มาแว๊ปๆๆให้ตื่นเต้นเล่นๆๆๆ

ฮ๋าๆๆๆๆๆๆๆ

คู่พี่น้องนี่จริงๆๆๆ อยากได้ขนาดเหลือเกิน

Killua

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้คนน่ารักเยอะอ่ะ น้องขนม น้องสลิ่ม โหย น่ากินทั้งน้านนนนนน

tungkung2011

  • บุคคลทั่วไป
 :o8:
กำลังค้างคับ   มาต่อเร็วๆ นะคร้าบบบบ

mumumama55

  • บุคคลทั่วไป
 :-[ สลิ่มก็ยังน่ารักเหมือนเดิมนั่นแหละนะ เพิ่มขนมด้วยอีกคน  :-[

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Jimmeiiii*

  • แสงสุดท้าย*
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3161/-192
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด,,ขนม พี่ทายมาเองงงงงงงงงงงงงง

ปล.ไอ้พี่เมตรอารมณ์เดียวกับกูมากเวลาอยากได้รถ,,แม่มักไม่เข้าใจตลอดๆๆๆ :m15:
สลิ่มคิดถึงนะ :-[ :o8:

@StaR@

  • บุคคลทั่วไป
หูยยยยยย....น้องขนมน่ากินกับพี่ทายสุดหล่อ
มาโผล่ที่เรื่ิองนี้ด้วย สลิ่มยังคงน่ารักเหมือนเดิมจริงๆ
แถมมีการชมตัวเองว่าน่ารักด้วยอีกต่างหากอ่ะ
อยากจะเป็นพี่เมตรจริงๆเลยเรา
 :กอด1: :L2: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดกร๊าดดดด ทัวร์กลายเป็นแม่ศรีเรือนไปซะแล้ว
พี่ทายขี้หึงน๊าาา แต่น้องขนมเนี่ยะเป็นนายแบบจะเป็นยังไงน้อ
ส่วนเขตกะเชลโล่ ก็ดีแล้วหล่ะถ้าไม่คิดจะรักจริงๆ ก็เป็นพี่น้องกันหล่ะ
มาต่ออีกนะจ๊ะ จะรอค่า  :bye2: :bye2:

ferly

  • บุคคลทั่วไป
ทาย ขนม โผล่มา ;)

ออฟไลน์ flyingploy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
กรี๊ดดดดดดดดดด น่ารักสุดๆๆๆๆๆ
เบบี้ใจเย็นๆ อิอิ

lasom

  • บุคคลทั่วไป
"กรูน่ารักกว่าเหอะ" :laugh:ก็กล้าเนอะ

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
อ่านตอนนี้แล้วคิดถึง ขนน กับ ทาย เหมือนกันนะเนี้ย
 o13 o13 o13

NATYU

  • บุคคลทั่วไป
อีพี่เมตรจะรีบน๊อกทำไม 555 อยากอ่านต่อ กร๊ากก
อ๊ายย ขนมโผล่มาด้วย น่ารักอ่ะ
ทัวร์น่ารัก มีการให้พี่เมตรสอนทำอาหารเอาใจพ่อพีอีก
อยากเห็นขนมถ่ายแบบให้สลิ่ม

รออ่านตอนต่อไปค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1

ออฟไลน์ P★RiTŸ

  • he's mine
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1281
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-5
ตอนแรกมีชื่อขนมขึ้นมา
ก็ว่ามันคุ้นชิบหาย
พอทายมาเท่านั้นแหละ หลุดกรี๊ดเลย
เกือบโดนด่าแหนะ  :laugh:
อ่านแล้วก็คิดถึงนะเนี้ย

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
เรื่องนี้มีแต่คนน่ารักเนาะเจ๊เบบี้
คนแต่งก็น่ารักกกกกกกกกกกกกกก

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
ชอบคู่เขตกะโล่ เอร้ยยย  อยากอ่านคู่นี้มาตั้งนานแล้ว :impress2:  แต่สงสารเชลโล่อ่ะเขตเอ้ยยยย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด