Memorial~รักแรก รักสุดท้าย [แจ้งข่าวหน้า 516: 29/ก.ย/57]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Memorial~รักแรก รักสุดท้าย [แจ้งข่าวหน้า 516: 29/ก.ย/57]  (อ่าน 3409272 ครั้ง)

ออฟไลน์ watwong

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
ทามไม คุณเบบี้ หายไปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปป อ๊ากกก จะลงแดงงง คิดถึง ซาหลิ่มมมม

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
ตอนที่120  สิ่งสำคัญอยู่ที่..?


กูนั่งรอสลิ่มกับพวกเพื่อนๆของมันมาร้องเพลงเปิดหมวกและเพลงนี้ก็เป็นเพลงสุดท้ายของวันนี้แล้ว

สลิ่มร้อง ไอ้วิทย์เล่นกีตาร์โปร่งกับร้องประสาน  ไอ้เชลโล่เล่นกีตาร์โปร่งอีกตัวกับร้องประสานเหมือนกัน  ส่วนไอ้เขตวันนี้มีหน้าที่เป็นแทมบูรินกับร้องประสาน  ทิ้งให้ไอ้เวที่ร้องเพลงเพี้ยนมากไปให้จังหวะของมาราคัสไปเพียงคนเดียว  เออ..แต่หน้าที่ของไอ้เวมีอีกอย่างเพื่อไม่ให้เสียเวลาคือถือหมวกด้วย  กูคาดว่านี่คงเป็นหน้าที่ๆเหมาะสมสำหรับไอ้เวแล้ว  เพราะไม่ว่ามันจะเล่นกลองดีมากแค่ไหนก็ตามแต่ถ้าวันไหนที่มาเปิดหมวกโดยไม่มีกลองมาด้วยมันก็คงต้องมีหน้าที่แค่นี้  เพราะกูสาบานได้ว่าไอ้เหี้ยเวร้องเพลงเพี้ยนมากจนน่าพาไปรักษาจริงๆ

วันนี้สลิ่มมันแต่งตัวไม่ค่อยปกติตามแบบที่มันพูดว่า “กูแต่งตัวปกติ” ของมันนั่นแหละ  คือตกลงว่าไม่รู้ปกติหรือว่าไม่ปกติกันแน่  แต่วันนี้อากาศดีแต่เช้ามันก็เลยใส่แค่เสื้อกล้ามเสื้อเชิ๊ตกับรองเท้าเน่าๆที่ไม่ได้ซักมาแรมปีเพราะต้องการให้รูปแบบมันเปื่อยตามสภาพ  แว่นตาที่มันเพิ่งไปถอยมาเมื่อวานเพื่อจะเอามาใส่วันนี้โดยเฉพาะราคาลดแล้วเหลือแปดพันกว่าๆและแน่นอนว่าสามสิบเปอร์เซ็นในแปดพันนั่นเป็นเงินกูด้วยส่วนหนึ่ง  แต่วันนี้กูเองก็ใส่แว่นใหม่มาด้วยเหมือนกันเพราะดันไปเจอแบบที่ชอบและสลิ่มมันก็ชอบด้วย  กูกับมันก็เลยได้กันมาคนละอันและแบ่งกันเปลี่ยนสลับกันใส่ไปมาเรียบร้อย

วันนี้ต้องเลิกเร็วกว่าปกติเพราะเตรียมเพลงกันมาน้อยและไม่ได้เอาเก้าอี้มากัน  มันชวนกันมาเปิดหมวกเมื่อเช้าก็มานัดเจอกันที่นี่ตอนบ่ายเลยทันทีไม่ได้มีซ้อมกันมาก่อน  วันนี้ที่จริงสลิ่มมันก็นอนอยู่ที่บ้านมันทั้งวันตั้งแต่กูกลับมาจากภูเก็ตมันก็อยู่บ้านมันเป็นอาทิตย์ๆเพราะมันเรียนหนักแล้วต้องทำรายงานเสนอผลงานนั่นแหละ  เมื่อตอนบ่ายมันโทรมาให้กูไปรับมันกูถึงได้เจอกับมันก็วันนี้แหละ
“นับเงินดิ” สลิ่มยื่นเงินให้ไอ้วิทย์ก่อนที่จะหยิบผ้าเช็ดหน้าตรงกูไปเช็ดหน้าตัวเอง
“แสบจมูกอ่ะ” มันบอกแล้วถูจมูกตัวเองไปมา
“อากาศแม่งเหี้ย” ไอ้เขตพูดแล้วเก็บอุปกรณ์ของตัวเอง
“เออ เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว” สลิ่มบ่นอีกแล้วเปิดกระเป๋ากีตาร์ของไอ้เชลโล่ให้เพื่อให้เชลโล่มันเอากีตาร์เก็บใส่กระเป๋าตัวเอง
“เออเมื่อคืนในห้องกูอุ่น..เดินออกไปที่ระเบียงเสือกหนาว กลับมาในห้องแม่งอุ่นเกินอีก..สัตว์ เปิดแอร์แม่งเลย อากาศพอดีเสมอต้นเสมอปลาย เหอะๆ” ไอ้เวบอก  กูยื่นน้ำให้สลิ่มมันแล้วช่วยพวกมันเก็บของด้วย 
“มึงไปไหน” สลิ่มถามไอ้เว
“กลับหอแล้ว การบ้านยังไม่ได้ทำเลย พรุ่งนี้ก็คงไม่ได้ไปไหนว่ะ เหนื่อยๆ” ไอ้เวตอบ
“อืมงั้น..ไว้นัดกันใหม่แล้วกัน” สลิ่มตอบ
“ที่รัก เค้าไปนอนด้วยนะ” ไอ้วิทย์พูดขึ้น
“จะทำงาน” ไอ้เวออกตัวก่อนเลย 
“มึงก็ทำไปดิ กูไม่ได้กวนสักหน่อย” ไอ้วิทย์พูดแล้วเอากระเป๋ากีตาร์ขึ้นสะพายบ่า
“มึงน่ะตัวกวนเลย กลับบ้านไปเลย..วันก่อนแม่มึงก็โทรมาบ่นว่ามึงไม่ค่อยกลับบ้าน อยู่กับกูรึเปล่า ซวยกูอีก” ไอ้เวบ่นหน้าเครียด
“มึงก็ไปฟังแม่ ทีตอนเวทไม่เคยกลับบ้านเป็นอาทิตย์แกทำไรได้ที่ไหน ไม่ต้องไปฟังหรอกน่า เค้าก็บ่นไปงั้นแหละ” ไอ้วิทย์บอก
“เค้าบ่นก็เพราะเค้าเป็นห่วงไม่ใช่รึไง กลับบ้านไปเลยนะมึง” ไอ้เวย้ำบอกคำเดิม
“โหย” ไอ้วิทย์หน้างอเหมือนขัดไม่ได้
“เว..ไปกินข้าวก่อนเหอะ หิวไส้จะขาดแล้วแม่ง” ไอ้เขตบ่น
“งั้นกูกลับนะ” เวหันมาบอกวิทย์
“.....................” ไอ้วิทย์ยืนหน้างอไม่ตอบอะไร
“.....................” ไอ้เวยืนมองหน้าไอ้วิทย์ก่อนที่จะเหลือบมองมาทางพวกกูที่ยืนมองการกระทำของพวกมันอยู่
“ขับรถดีๆล่ะ ถึงบ้านแล้วโทรมาด้วยนะ” ไอ้เวพูดแค่นั้น  ไม่ได้ง้อแต่อย่างใดแต่สำหรับกูกูว่าแบบนี้มันคือการง้อไปในตัวแล้วแหละ  ไอ้วิทย์ได้แต่ยืนพยักหน้าตอบให้
“งั้นผมกลับนะพี่” ไอ้เชลโล่ยกมือไหว้พวกกูแล้วอยู่ดีๆก็วิ่งตามไอ้เขตไปเลย
“เอ่อ กลับเหอะ” สลิ่มบอกแล้วตบไหล่เพื่อนมันให้เดินตามมันมา  ไอ้วิทย์ก็คอตกเดินตามพวกกูมาด้วย
“.....................”
“มึงก็ตั้งใจเรียนบ้างเหอะไอ้วิทย์ ไอ้เวมันทำอย่างนี้ก็เพราะมึงนะ..เข้าใจมันบ้างดิ” สลิ่มพูดขึ้น  ไม่ได้มีการเกริ่นนำก่อน  ไม่ได้มีการกล่อมหรืออะไรแต่มันพูดขึ้นโต้งๆกันเลยทีเดียว
“แต่กู..” ไอ้วิทย์เงยหน้ามาจะเถียง
“มึงก็รู้ว่าไอ้เวมันบ้าเรียน บ้านมันไม่ได้มีเงินไว้พอให้ถลุงเล่นเหมือนบ้านมึงนะ” สลิ่มพูด  กูอยากจะแทรกเข้าไปเหมือนกันว่า “มึงเองก็หยุดถลุงเงินกูบ้างก็ได้นะ” เหอะๆ
“มันตั้งใจว่าสักวันมันจะเลี้ยงพ่อแม่มันด้วยเงินของมันให้ได้ กูว่ามึงเองก็เพลาๆเรื่องเที่ยว โดดเรียนไอ้คาบที่ไม่ชอบบ้างเหอะ นั่นมันมีไว้ให้เด็กม.ต้นเค้าทำกันนะเว้ย” สลิ่มพูดซะทำให้กูนึกสมัยกูโดนเรียนตอนม.ต้น ม.ปลายและไม่วายตอนมหาลัยก็ด้วย
“กูรู้” ไอ้วิทย์พูด
“แต่กูอยากอยู่กับมันนี่” ไอ้วิทย์บอก
“แต่มึงมีหน้าทีเรียนนะ ไอ้ที่เรียนอยู่ก็ไม่ใช่สิ่งที่มึงเกลียดด้วย..ถ้ามึงจะเรียนไม่จบเพราะไอ้เวมัน มึงไม่คิดว่าไอ้เวมันจะเสียใจหรอวะ ถึงเวลานั้น..มันนั่นแหละที่จะบอกเลิกมึง เพราะมึงทำให้มันรู้สึกผิด” อืม..เมียกูพูดตรงเกิ้น
“เออรู้แล้ว มึงก็พูดซะ” ไอ้วิทย์ตอบเสียงเบาเชียว  เหมือนเด็กกำลังโดนลงโทษยังไงอย่างงั้นแหละ
“งั้นกลับบ้านดีๆล่ะ กูไปละ” สลิ่มบอกเพราะต้องแยกกันตรงนี้  กูไปจอดฝากรถไว้อีกที่นึงน่ะ
“อืม หวัดดีครับเฮีย” ไอ้วิทย์หันมายกมือไหว้กูหงอยๆแล้วเดินแยกไป
“มึงก็พูดซะตรง พูดแบบนั้นก็เหมือนว่ามันเลยนะเว้ย” กูบอกสลิ่ม
“ก็ว่าไง นี่ถ้าว่าขนาดนี้ไม่รู้ตัวกูก็ไม่รู้จะว่ายังไงละ..ถ้าพูดอ้อมไปมาเมื่อไหร่มันจะรู้ตัว คนอย่างไอ้วิทย์นะ ขนาดตอนม.ปลายกูด่ามันปากกูนี่จะฉีกกกกกกกกก..ไปถึงหูละ” สลิ่มพูดแล้วทำท่าดึงปากตัวเองเป็นการประกอบบอกเล่าให้กูด้วย
“มันยังเป็นอย่างนี้เลย แม่ง ทั้งขี้เกียจ ต้องกระตุ้นตลอด ติดไอ้เวด้วย..แล้วก็ขี้เหงา เหงานู่นเหงานี่ เหงาส้นตีนมากมายเลยมึง” มันเล่า
“มันเป็นคนแบบนี้มานานละ พวกกูก็ไม่รู้จะว่ายังไง..ก็ได้แต่ว่ามัน มันเองก็รู้นะไม่ใช่ไม่รู้แต่ก็ไม่เคยดีขึ้นเลย ดีบ้างเหี้ยบ้างผีเข้าผีออก..เป็นแม่มันกูปวดหัวตาย” สลิ่มส่ายหัว
“หึ..อยากเป็นแม่หรอ” กูยิ้ม
“ตีน” มันหันมาว่าค้อนๆแล้วยืนรอเพื่อข้ามถนน
“ไปซื้อของเลยใช่เปล่า” สลิ่มหันมาถาม
“อืม ไอ้มิ้วค์ไปว่ายน้ำกับเพื่อนน่ะ ไปด้วยไม่ได้ละ” กูบอกเพราะวันนี้เป็นวันที่ซื้ออาหารเข้าบ้าน  หลังจากที่อาหารหมดมานานสามวันเพราะว่าไม่มีใครว่างเลยทั้งกู ไอ้โมทและไอ้มิ้วค์เอง  ต่างก็ยุ่งด้วยกันหมด 
“อืมมมมมม” เทสโตหนึ่งถุง
“เอานี้ด้วย หึหึ” มันหัวเราะแล้วหยิบเลย์รถชีสหัวหอมใส่รถเข็นอีก
“เอ่อ หึ” สลิ่มหันมายิ้มให้กูแล้วหยิบมโนรา แล้วเดินไปหยิบท่าโร่มาอีก  กูหันหัวรถเข็นหนีมันแต่มันกลับวิ่งตามมาดักอยู่ข้างหน้ารถหน้าตาเฉย
“พอแล้ว” กูบอก  เพราะไอ้ที่มันพูดเมื่อกี้มันไม่ได้หยิบแค่นั้นดิวะ  มันหยิบทั้งแอลมอล  ทวิตตี้  ฮานามิ  เลย์เยอะแยะไปหมด
“ก็มันลดอ่ะ” มันพูดแล้วมองไปรอบๆตัวที่มีขนมวางไว้เป็นร้อยๆยี่ห้อ 
“อีกอย่างเดียว” กูบอกมันเพราะมันเอาของกินมาเต็มรถเข็นเลยตอนนี้ เฮ้อ
“ก็ได้” มันตอบแล้วทำหน้าครุ่นคิดมองไปที่ขนมก่อนที่มันจะเดินไปหยิบคิทแคทซองใหญ่ที่มันรวมไว้หลายๆอันมาหนึ่งอัน  กูเลยเข็นรถเข็นต่อเมื่อสลิ่มมันหยิบคิทแคทมาใส่รถเข็นแล้วเรียบร้อย  แต่อยู่ดีๆสลิ่มมันก็วิ่งตามรถเข็นกูมาพร้อมกับคิทแคทซองใหญ่อีกสามอันแล้วโยนเข้ามาในรถเข็นทันทีโดยไม่ได้ขอกูสักคำ
“.....................” กูหยุดนิ่งมองหน้ามันเอือมๆ  แต่สลิ่มมันกลับยืนยิ้มให้เหมือนไม่รู้สึกรู้สา
“หึ..เหอะๆ” มันหัวเราะแล้วเดินหนีไปด้วยความสบายใจที่ได้ของตามที่มันต้องการ  แล้วกูจะทำยังไงได้ล่ะ  ก็ต้องตามใจมันแหละแล้วเข็นรถตามมันไป  สลิ่มเดินไปที่มุมไอศกรีมกับพวกเฟรนช์ฟราย  กูเดินไปหยิบแครอท  หัวหอม  พริก  เห็ดอะไรอย่างละนิดอย่างละหน่อยเพราะยังไงที่หมู่บ้านก็มีตลาดอยู่แล้วด้วย  ของที่ซื้อจากห้างมันจะเสียเร็วและไม่ค่อยสดเท่าไหร่นัก  กูซื้อเห็ดไปทีไรสองวันแม่งเน่าละ
“เมตร..วันนี้จะทำกับข้าวหรอ” สลิ่มวิ่งมาถามพร้อมกับวางเฟรนช์ฟรายลงในรถเข็นหน้าตาเฉย
“......................” กูหันไปมองหน้ามันอย่างคิดหนักนิดหน่อย  เพราะวันนี้เหมือนจะเหนื่อยๆละขี้เกียจแต่ไม่อยากพูดออกไปก็เท่านั้น
“......................” มันมองหน้ากูเหมือนถามย้ำว่า “ไม่ทำหรอ” อีก  กูเอาผักไปชั่งน้ำหนักสลิ่มมันก็ยังยืนอยู่ที่รถเข็นอยู่จนกูกลับเอาของมาใส่รถเข็นอย่างเก่า
“จะทำไหมอ่ะ” มันย้ำถามอีกครั้ง
“ทำไมอ่ะ” กูถามกลับ
“อยากกินกุ้งแช่น้ำปลา” มันบอก
“อืม ทำก็ได้” กูตอบมัน
“เดี๋ยวกูไปเลือกกุ้งให้” มันพูดแล้วรีบเดินนำไปที่อาหารทะเลทันทีเหมือนดีใจ  แต่กูจะบอกว่า..มันเลือกไม่เป็นไง  สาระแนจริงๆเลยให้ตายเหอะ


.............
.............


“อร่อยอ่า เหมือนกับข้าวที่แม่ทำเลย” สลิ่มพูดหลังจากชิมต้มยำกุ้งเข้าไป
“อันนี้ก็รสเดียวกับที่แม่ทำเลย” มันพูดหลังจากเอากุ้งแช่น้ำปลาเข้าปากไป
“อ่าวมิ้วค์ ไม่กินอ่ะ” สลิ่มถามถึงไอ้มิ้วค์ที่นั่งหน้าหงอยอยู่
“มิ้วค์ไม่ค่อยหิวอ่ะครับ” ไอ้มิ้วค์ตอบ
“เป็นไรอ่ะ” สลิ่มนั่งลงที่เก้าอี้  กูตักข้าวใส่จานให้พวกมัน  ไอ้โมทก็เดินออกมาพร้อมกับผัดวุ้นเส้นอีกจาน
“เปล่าครับ” มิ้วค์ตอบ
“เป็นไรของมึง” กูถาม
“เออใช่ดิ วันพุธหน้านี้อ่ะองุ่นจะประกวดร้องเพลง ไปด้วยกันไหม..เดี๋ยวพี่ออกค่าบัตรให้” สลิ่มถามขึ้น  กูยืนนิ่งมองสถานการณ์  ไอ้มิ้วค์เงยหน้ามองสลิ่มหงอยๆ
“เอ่อ ไม่ไปก็ไม่เป็นไร” สลิ่มบอก
“เปล่าครับ คือ..ไปก็ได้” ไอ้มิ้วค์รีบตอบ
“หลิมเข้าไปหยิบช้อนส้อมให้หน่อยสิ” กูใช้สลิ่มเพื่อให้มันเข้าครัวไปเหลือไว้แต่กูกับไอ้มิ้วค์สองคน
“เป็นไรวะ” กูกระซิบถาม
“..................” ไอ้มิ้วค์เงียบหลบตากู
“อ่ะ” สลิ่มยื่นช้อนส้อมให้ 
“เร็วจังวะ” กูทัก
“ห่า กูเดินไปหยิบนะ ไม่ได้ไปผลิตเอง” มันย้อน
“เออๆ แดกๆ” กูพูดปัดๆแล้วหันมาสนใจอาหารแทน  เรื่องของไอ้มิ้วค์เอาไว้ทีหลังก็แล้วกัน 
“กินเข้าไปมึง เดี๋ยวก็เป็นโรคซึมเศร้าตายหรอก” กูบอก
“มิ้วค์คนนะ ไม่ใช่หมา” มันย้อนหน้านิ่ง
“หึ ยังมีแรงย้อนนะไอ้ห่า” กูว่ายิ้มๆ  ไอ้โมทเดินออกมาพร้อมกับวางน้ำปลาพริกให้ก่อนที่จะลงมือกินกันพร้อมหน้าพร้อมตา  เป็นครอบครัวที่อบอุ่นจริงๆให้ตายเหอะ(ถุย)
“ตกลงเป็นไร” กูถามอีกหลังจากกินข้าวเสร็จแล้วกูไล่ให้สลิ่มมันไปล้างจานแทนเพราะทุกคนก็มีหน้าที่ที่ต้องทำหมดแล้ว  มันก็โวยวายนิดหน่อยเพราะไม่เคยทำแต่สุดท้ายก็ต้องล้างโดยมีลูกมือคือไอ้โมทคอยช่วยอยู่ด้วย
“ทะเลาะกับองุ่น” มันพูดเสียงเบา
“ฮันแน่” กูแซวทันที
“ไม่ใช่นะพี่เมตร ก็ทะเลาะกันเรื่องไปดูองุ่นร้องเพลงประกวดนี่แหละ” มันบอก
“อ่าว ไมวะ” กูรีบถาม
“ก็องุ่นอยากให้ไปดู แต่..” มันทิ้งเสียงเงียบไป
“มิ้วค์ไม่อยากไปอ่ะ” มันบอก
“ทำไมวะ เค้าชวนก็ดีแล้วนิมึง” กูพูดบอก
“ไม่รู้ดิ” ไอ้มิ้วค์หันหน้าหนี
“มึงไม่ได้ชอบน้องมันแล้วหรอ” กูถาม
“เฮ้ยเปล่า ไม่ใช่เรื่องนั้น” ไอ้มิ้วค์รีบพูดทันที
“แล้วเรื่องไร” กูถามอีก
“ก็..ไม่รู้ดิ มิ้วค์ว่าบางทีมิ้วค์..ก็ไม่อยากเข้าไปสังคมขององุ่นมากนัก” มันบอก
“....................” กูเงียบรอฟังเพราะไม่ค่อยจะเข้าใจนัก
“มิ้วค์เหมือนมิ้วค์ไม่รู้เรื่องอะไร แบบ..ทั้งๆที่พี่กับพี่โมทรู้เรื่องด้านดนตรีทุกอย่าง แต่มิ้วค์กลับไม่รู้อะไรเลย” มันพูด
“ของอย่างนี้มันฝึกกันได้นี่หว่า มึงเครียดไรวะ..อยากเล่นก็บอกดิเดี๋ยวสอน” กูบอกมัน
“ก็เพราะไม่ได้อยากเล่นนี่ไง” มันรีบบอก
“....................” อ่าวเหี้ย แล้วงี้ให้กูต่อไงล่ะ
“บางทีที่มิ้วค์อยู่กับเพื่อนองุ่น เหมือนมันคนละโลกเลยอ่ะ..ไม่รู้ดิ” มันพูดยิ้มๆแต่หน้าแม่งเศร้าฉิบหาย
“เพื่อนก็มีแต่คนมีเงิน มีเงินแบบผิดปกติอ่ะพี่เข้าใจปะ..คุยกันจนเว่อร์กับเรื่องที่ไม่ต้องบอกก็ได้อ่ะ ไอ้ผู้ชายที่มาจีบองุ่นแต่ละคนก็..นะ” มันพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ
“มึงแคร์เหี้ยไรวะ สนใจทำไม..ช่างหัวมันดิ ไม่เห็นต้องแคร์เลย” กูพูด
“เมตรรรรรรร~” เวร..สะดุ้งทั้งกูทั้งไอ้มิ้วค์อ่ะ  กูกับไอ้มิ้วค์ปิดปากเงียบแล้วหันไปมองสลิ่มที่วิ่งเข้ามา
“คาโปกูไปไหน” มันถาม
“ก็อยู่ในกระเป๋ากีตาร์ไง” กูบอก
“มันไม่มี” มันพูด
“มึงเล่นแล้วเอาไปไว้ไหนล่ะ” กูว่า
“กูไม่ได้เล่น คนที่เล่นคนสุดท้ายคือมึงมั่งเหอะ” มันย้อน
“ตรงชั้นหนังสือรึเปล่า ไปหาดูก่อนสิครับ” กูบอก
“จิ้” มันจิปากนิดหน่อยแล้วเดินออกจากห้องไป
“แล้วน้ององุ่นว่าไงบ้างล่ะ” กูถาม
“ก็ไม่ว่าไง แค่งอนที่มิ้วค์ไม่ยอมไปดูนั่นแหละ” มิ้วค์บอก
“แล้วมึงก็ไม่เคยได้คุยเรื่องนี้กับน้องรึไง” กูถาม
“ฮึ ไม่อ่ะ” มันตอบ
“ไร้สาระว่ะไอ้มิ้วค์ ถ้ามึงกลัวนะมึงก็เลิกไปเลยไป” กูว่า
“..................” มันนั่งเงียบ
“แล้วพี่สลิ่มอ่ะ เค้าก็รักน้องเค้ามากด้วย..แล้วผมขับมอร์ไซด์อ่ะบางทีผมก็ไม่อยากให้องุ่นนั่งเพราะกลัวเป็นอะไรขึ้นมา องุ่นก็ไม่เข้าใจผมอีกอ่ะ..ถ้าพี่สลิ่มรู้ว่าผมคอยไปหาองุ่นแบบนี้แล้วพาไปไหนมาไหนด้วย ผมเองก็ไม่อยากจะคิดอ่ะว่ามันจะเป็นยังไงบ้าง” ไอ้มิ้วค์บอก
“เฮ้อ” เซ็งว่ะกู ปัญหาโลกแตก
“...................”
“มิ้วค์..” ไอ้มิ้วค์เหมือนจะพูดอะไรสักอย่างออกมาแต่มันก็นั่งเงียบไป
“มึงเป็นคนเก่งนะมิ้วค์ เป็นคนที่แม่คาดหวังมากที่สุดในบ้าน..แสดงว่ามึงก็มีดีอยู่ในตัว ถ้ามึงยังท้อแท้กับเรื่องเล็กๆแบบนี้แล้วมึงจะคบน้องมันรอดได้ยังไงวะ” กูพูด
“มิ้วค์ไม่ใช่พี่เมตรนิ” ดูมันย้อน
“เพราะกูเป็นเหี้ยแบบนี้ไงกูถึงไม่คิดอะไร การที่มึงเป็นคนแบบนี้มันดีกว่ากูเป็นไหนๆไม่ใช่รึไง” กูบอก
“มึงเรียนเก่ง มึงมีแม่กับพ่อที่ให้มึงได้ทุกอย่าง ให้มึงได้เท่าที่มึงต้องการไม่ว่าจะอะไร..มึงมีสิ่งที่มึงชอบ มึงรู้ตัวเองว่ามึงชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร มึงรู้ว่ามึงต้องวางแผนอนาคตของตัวเองยังไง ไอ้เหี้ยพวกนั้นมันอาจจะไม่เคยมีความคิดแบบมึงเลยก็ได้ มันเล่นไปวันๆ เที่ยวไปวันๆ ไม่ว่ามันจะมีเงินมากเท่าไหร่มันก็ได้แค่นั้นแหละ สักวันคนอย่างพวกนั้นก็มีจุดจบเหี้ยๆ..มึงอ่ะ มีค่ามากกว่าพวกมันอีก มันกล้าจีบแฟนมึงแสดงว่าน้องมันมีค่ามากพอให้มึงได้ปกป้อง ถ้ามึงยังป๊อดแบบนี้มึงก็ปล่อยน้องมันไปให้คนอื่นปกป้องแทนเหอะ” กูร่ายยาวให้หนึ่งดอกด้วยความรำคาญ
“น้องมันชอบมึงเพราะมึงเป็นมึงไม่ใช่รึไง แสดงว่าเค้าเคารพในตัวมึง มึงเองก็ต้องให้เกียรติตัวมึงเองด้วยว่ะ..กูก็ไม่รู้จะว่ายังไงเพราะกูก็ได้แต่ใช้อารมณ์ไปวันๆ แต่ถ้ามาจีบคนของกูแบบนี้ กูก็ได้แต่ตัดสินใจบอกตัวเองว่า..กระทืบมันแม่งเหอะเพราะจบง่ายดี แต่สำหรับมึง มึงควรทำยังไงกับตัวมึงก็ตัดสินใจเอาเองแล้วกันว่ะ” กูตบไหล่มัน 
“มีไรวะ” ไอ้โมทเดินเข้ามาแล้วนั่งลงตรงหน้า
“นิดหน่อย” กูตอบ
“มึง” ไอ้โมทเรียกพวกกูแล้วยิ้มให้
“กูว่ากูจะบวช” มันบอก
“.......................” อึ้งนิดหน่อยเพราะไม่เคยรู้มาก่อน
“เอ่อ น่าจะประมาณก่อนที่มึงจะทำร้าน” มันบอกอีก
“มึงจะได้ดูร้านกูแทนให้หน่อย” มันพูด
“มึงคุยกับแม่แล้วหรอ” กูถาม
“อืม แต่จะกลับไปบวชที่บ้านนะ” มันบอก
“อ่าว ไมอ่ะ” กูรีบถาม
“แม่เค้าอยากใส่บาตรกูทุกวัน” ไอ้โมทบอก
“อืม..กูลืมเรื่องนี้ไปเลย” กูยิ้มบอกมัน  กูหมายถึงเรื่องบวชอะไรนี่  ไม่เคยได้คิดเลย  ตอนเรียนก็เคยคิดว่าถ้าเรียนจบจะบวชแต่นี่ก็เรียนจบมาสองปีแล้วและคงเพราะเวลามันดำเนินไปรวดเร็วมาก หลายๆอย่างทำให้กูลืมไปสนิท
“กูอยากแต่งงาน”
“......................” อืม สงสัยวันนี้ไอ้โมทมันจะจัดดอกใหญ่ให้พวกกู -_--
“แต่ก็เอาไว้คิดหลังบวชอีกทีอะนะ” มันยิ้มบอก
“.......................” ไอ้มิ้วค์วิญญาณคงออกจากร่างไปแล้วแหละตอนนี้
“มึงตกใจกันขนาดนั้นเลยรึไง” ไอ้โมทพูดขำๆ
“ก็..ไม่เชิง” กูตอบ
“มาก” ไอ้มิ้วค์กระแทกเสียง
“มึงคิดว่าจะแต่งงานจริงๆหรอวะ กูหมายถึง..มึงแน่ใจแล้วหรอ” กูพูด
“ก็ไม่แน่ใจหรอก แต่คิดว่าสักวันก็คงอยากแต่งงานมีลูก..แต่กูก็บอกแล้วว่าหลังบวช ตอนนี้กูก็ยังไม่มั่นคงเท่าไหร่ ที่จริงกูอยากให้หมดห่วงเรื่องพวกมึงก่อน” ไอ้โมทบอก
“ห่วงพวกกู มึงจะลาไปตายหรอ ห่า พวกกูโตแล้วนะ” กูบอก
“โตมากนะพวกมึงเนี้ย ไม่ได้หรอก..พวกมึงยังทำให้กูไม่สบายใจ ถ้ากูรีบแต่งตอนนี้เกิดเป็นอะไรขึ้นมาทำไง กูคงยังไม่แต่งหรอก..แต่แค่บอกไว้ก่อน” มันบอก
“มึงรักพี่เค้ามากหรอ” กูถามถึงผู้หญิงของมัน
“ก็รัก..แต่ เรื่องของกูยังไม่สำคัญเท่าพวกมึงหรอก” มันบอก
“.....................” กูกับไอ้มิ้วค์นั่งเงียบ
“ตั้งใจเรียนล่ะมึง” ไอ้โมทลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาลูบหัวไอ้มิ้วค์ที่นั่งเงียบอยู่
“อึก ครับ” ไอ้มิ้วค์สะอึกร้องไห้ซะงั้น  มันเข้าไปกอดไอ้โมทไว้ทั้งๆที่มันนั่งอยู่  ไอ้โมทยิ้มให้กูแล้วตบไหล่ไอ้มิ้วค์
“มึงนี่เมื่อไหร่จะเลิกขี้แยวะ” กูตบหัวไอ้มิ้วค์เบาๆ
“มึงก็ด้วย สักทีเหอะ” ไอ้โมทว่าแล้วตบหัวกูกลับ
“เออน่า..ค่อยเป็นค่อยไปดิ เงินไม่ใช่บาทสองบาท” กูบอก
“พี่โมทแต่งก็ได้ มิ้วค์จะช่วยเลี้ยงน้องให้เอง” ไอ้มิ้วค์พูดทั้งๆที่กอดไอ้โมทไม่ปล่อย
“หึ..” กูกับไอ้โมทหัวเราะ
“เฮ้อ..เหนื่อยว่ะ ขึ้นนอนก่อนนะ” ไอ้โมทลูบหัวไอ้มิ้วค์แล้วยิ้มให้  ไอ้มิ้วค์ปล่อยแขนลง
“คุยกันเสร็จก็รีบขึ้นนอนล่ะมึง” ไอ้โมทบอกอีก
“เออ ขอบใจ” กูบอกมันส่งท้าย “ขอบใจ” ในที่นี้มันก็คงรู้ว่ากูขอบใจเรื่องอะไร  กูเองก็ไม่ใช่คนละเอียดอ่อนในเรื่องพวกนี้มากเท่าไหร่นัก  ก็คงได้แต่บอกขอบคุณ ขอบใจกันแบบนี้แหละมั้ง
“อึก..” ยัง..ไอ้เหี้ยนี่ยังไม่เลิกสะอึกร้อง
“มิ้วค์ไม่น่ามัวแต่มานั่งคิดเรื่องพวกนี้เลย ทั้งๆที่พี่โมทเอาแต่คิดเรื่องของเราแท้ๆ” มันพูด
“ก็นะ..มันเป็นพี่ใหญ่นิ มันเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่นะ” กูยิ้มบอก
“ขึ้นนอนเหอะ มึงเองก็โทรไปง้อน้องมันหน่อย บอกไปว่าจะไปดู..สลิ่มมันจะได้ซื้อบัตรให้เลยทีเดียว” กูบอก
“อืม แต่พี่เมตรไปด้วยกันนะ” มันบอก
“เออ” กูตอบมัน  แล้วก็เดินไปปิดไฟห้องนั่งเล่นก่อนที่จะเดินดูรอบบ้านว่าปิดทุกที่ดีแล้วรึยังก่อนที่จะเดินขึ้นห้องกันพร้อมกับไอ้มิ้วค์แล้วแยกย้ายกันเข้าห้องใครห้องมัน  พอกูเข้าไปในห้องสลิ่มมันก็นอนไปแล้วทั้งๆที่กีตาร์ยังวางอยู่ข้างตัว  กูก็ต้องปลุกให้มันไปนอนดีๆแล้วเอากีตาร์ไปเก็บให้ด้วย กว่ากูจะหลับตาลงนอนได้ก็ดึกพอสมควรเพราะคิดเรื่องกู เรื่องสลิ่ม เรื่องไอ้มิ้วค์และไอ้โมททั้งคืนเลยแหละ



................>>>><<<<................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-08-2015 21:17:48 โดย เบบี้ »

Rockstar

  • บุคคลทั่วไป
พี่โมทนี่ได้ใจจริงๆให้ตายเถอะ เราก็มีพี่ชายนะ รักพี่รักน้องแหละ แต่แบบไม่ค่อยแสดงออกอะไรเท่าไหร่
คือดูไม่ออกว่างั้นเถอะ ก็นะถ้าให้มาแสดงออกว่ารักกันมากคงพิลึก ฮ่าๆ แต่อย่าให้ใครมาทำน้องมีจัดหนัก เอิ๊กๆ
แต่อย่างครอบครัวพี่โมท เมตร มิวล์ เนี่ย ไม่ต้องพูดแต่สิ่งที่ทำให้ดูก็รู้เลยว่ารักกัน

ออฟไลน์ kokikung

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-3
อ้าวสลิ่มยังไม่รู้เรื่องมิ้วกะองุ่นหรอ

ถ้ารู้สลิ่มจะทำไงว๊า น่าตื่นเต้นดีแท้

พี่โมทโคตรๆๆซึ้ง

อยากมีพี่ชายโว้ยยยเอาแบบพี่โมทเลยได้ปะ

กะบวชเสร็จเบียดเลยใช่ปะพี่

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
อยากมีพี่ชายอย่างพี่โมทจังค่ะ :o8:

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
ซึ้งพี่โมทย์ พี่ชายคนโตก้อพ่อคนที่สองนี่เองแหละเนอะ  :กอด1:
สงสารนู๋มิวค์รักน้องสาวแฟนพี่ (แถมทั้งโหดทั้งหวง) คนกันเองแบบนี้ลำบากจริงเน้อ...
เอาใจช่วยนู๋มิวค์ละกัน
ปล.ตอนที่แล้วนี่ สามคู่สามสไตล์เลย อ่านแล้วบันเทิงมาก โดยเฉพาะคู่พีทัวร์เนี่ย :laugh:

ออฟไลน์ kaporzung

  • miKapleXD
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
    • [Premier Сasual Dating  Living Women]
เป็นปลื้มกะพี่โมทย์ เมตรมีพี่ชายดีมากๆ

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
บ้านนี้โชคดีมาก

cmos

  • บุคคลทั่วไป
เป็นพี่น้องที่รักกันดีจิงๆ ซึ้งอ่ะ อ่านแล้วน้ำตาซึมอ่ะ

พี่โมทรักน้องมากมาย

ออฟไลน์ kuku

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
ครอบครัวตัวม.น่ารักดี

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3

ออฟไลน์ ✪PATTY✪

  • เมี๊ยวววว~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
    • http://facebook.com/NKM.SNK
Re: Memorial~รักแรก รักสุด&#
«ตอบ #10932 เมื่อ23-01-2011 09:43:42 »

 o13

รักพี่โมทย์เจรงๆๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-01-2011 10:02:08 โดย patty_b009 »

covnizz

  • บุคคลทั่วไป

@StaR@

  • บุคคลทั่วไป
พี่โมทย์เป็นพี่ทีดีและเข้าใจน้องๆน่ะ
ดีใจที่พี่จะบวชทดแทนคุณพ่อแม่
ส่วนน้องมิ้วเข้าใจเลยลำบากใจใน
การปรับตัวในหลายๆเรื่องแต่บาง
เรื่องมันก็ไม่จำเป็นขอเพียงแค่อย่า
สูญเสียความเป็นตัวเองจนมากเกินไปก็พอ
พี่เมตรพูดดีมากๆในการให้กำลังใจน้อง
สลิ่มก็เหมือนกันแถมน่ารักอีกแล้ว
 :กอด1: :L2: :pig4:

1582

  • บุคคลทั่วไป
อยากได้พี่ชายอย่างพี่โมทย์ซักคนจัง  :กอด1: :กอด1:

เออ แต่พี่ชายแบบไอ้พี่เมตรก็ดีนะ  กวนตีนดี อิอิ

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7
 :impress2:อยากได้พี่โมทเป็นพี่ชายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


พี่โมทเท่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ o13

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
โหมดซึ้ง กาซิกๆๆ

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
ครอบครัวสุขสันต์มากๆ รับรู้ถึงความรักของสามพี่น้องเลยอ่ะ

ออฟไลน์ pukpra

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-0
โมทย์สมเป็นพี่ชายคนโตจริงๆ รักน้อง ห่วงน้องมากๆ โอยยย ปู้จายในดวงจายยย >.<

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
มีพี่น้องมันก็ดีอย่างนี้ล่ะ

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
พี่น้องบ้านนี้น่ารักกันจิงๆ
ว่าแต่โมทอยากแต่งแล้วเมตรกะสลิ่มไม่อยากแต่งมั่งหรอเนี่ย

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
วันนี้ยกให้โมทเลย  o13

C2U

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้ พี่โมทย์เป็นพระเอก 

เป็นพี่ชายที่แสนดีจริงๆ   :m4:


ออฟไลน์ mayuree

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 443
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-4
เป็นพี่ชายที่น่ารักมากๆ
สลิ่มก็เนียนราวกับเป็นครอบครัวเดียวกันเลยทีเดียว อิอิ :-[

morrian

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
พี่น้องบ้านนี้น่ารักเนอะ ดีจัง ^^

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
ครอบครัวรักกันดีจังเลยยยย

ออฟไลน์ KJJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เหอๆ สลิ่มมันกินเก่งจริงๆ ขนมทั้งนั้น
มิ้วค์มาซะเศร้าเชียว
พี่โมทก็มาโหมดซึ้งซะงั้น
เมตรก็เลยอึน 555+

ออฟไลน์ patchybelle

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ในที่สุดก็ได้มาตอบแล้ว
ใช้เวลาเดือนกว่าในการอ่านๆๆๆ ตั้งแต่แรกจนมาถึงตอนปัจจุบัน อ่านแล้วรู้สึกว่าได้เห็นพัฒนาการของเบบี้ที่เขียนได้เมพมากและขอชมเรื่องคำผิดหรือภาษาถ้าเทียบจากเรื่องก่อน ได้เห้นการเติบโตของตัวละครคือเมตรที่เริ่มโตขึ้น มีความคิด คิดถึงสลิ่ม คิดถึงอนาคต

เรื่องนี้ให้หลายอารมณ์มาก บางตอนก็แบบอะไรว่ะ บางตอนก็แบบสลิ่มโคดน่ารักเลย บางตอนก้อซึ้ง บางตอนก็แบบบางทีก้อได้ข้อคิดดีนะ
แล้วก็ชอบแทบทุกเพลงที่เบบี้แปะในแต่ละตอน
ชอบตัวละครแบบเมตร แบบสลิ่ม แบบพี่โมท แบบเขต ฮาาาา แต่ก็ชอบสลิ่มมากของมากที่สุด แล้วก็ชอบเมตรที่รักสลิ่มในแบบที่สลิ่มเป็น
วันไหนอ่านเรื่องนี้ถึงกับเพ้อกันเลยทีเดียว แบบคนสองคนนี่แมร่งต้องมีตัวตนจริงๆมั้งล่ะ ฮ่าๆๆๆ

ชอบเรื่องของเบบี้ทุกเรื่องอ่ะ มันเหมือนมีมุมมมองความรักหลายแบบดี เพราะคนแต่ละคนก็ำไม่เหมือนกัน การแสดงออก นิสัย หรือความรักของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
อย่างเรื่องนี้ก็มีหลายแบบเลย ชอบนะ ความรักแบบเมตร ความรักแบบสลิ่ม ความรักแบบเขต ความรักแบบวิทย์กะเว ความรักแบบทัวร์ ความสับสนของพี

คือไม่รู้จะบอกยังงัย จนตอนนี้สังเกตุได้ว่าสองวันเบบี้จะมาอัพทีนึง เราก็จะรอสองวันนั่นแหละ ถ้าไม่ได้อ่านก็เหมือนขาดๆ ฮ่าๆๆ


เม้นตอนล่าสุด
เราว่าเมตรเป็นแบบไม่คิดอะไรคือถ้ารักก็คือรักอ่ะ แต่มิ้วค์อ่ะคิดเยอะงัย กลัว เลยแบบต้องมานั่งเครียด บางทีความรักเราว่ามันใช้แค่ใจ ตัดสินไปเลยมันอาจจะดีก็ได้นะ ไม่งั้นก็ต้องมานั่งกังวล หรือไม่ก็อาจจะมาเสียใจทีหลังว่าทำไมไม่บอกออกไป ทำไมไม่คบกันไปตั้งแต่แรกไรแบบนั้น
พออ่านตอนสามคนพี่น้องคุยกัน โอยยย ซึ้ง รักกันดี น่ารักดี ^^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด