Memorial~รักแรก รักสุดท้าย [แจ้งข่าวหน้า 516: 29/ก.ย/57]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Memorial~รักแรก รักสุดท้าย [แจ้งข่าวหน้า 516: 29/ก.ย/57]  (อ่าน 3409495 ครั้ง)

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
 :z10: :mew4:  รอจองแบบรวมเล่มอยู่นะคะ

หายไปนานมากเลยอ่ะ  บอกเล่าข่าวสารกันบ้างไรบ้างก็ดีนะ


คิดถึงสลิ่มเมตร และ the gang มาก ๆ 


 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ miyuujung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
อ่าน จบ แล้ว    ยาวมากๆๆๆ สนุกมากๆๆด้วย เหมือนอ่านเรื่องเล่าจากชีวิตจริงๆยังไงยังงั้น 

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆแบบนี้นะคะ เตรียมพุ่งหลาวไปอ่าน ชุลมุนวุ่นรักค่อ อยากอ่านตอนของ ทายกับขนม ชื่อนายเอกแต่ละเรื่องของคุณ baby น่ากินชะมัด สลิ่ม ขนม 555 ว่าแล้วก็ชักหิวแฮะ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
มาดันด้วยความคิดถึง :mew1:

ออฟไลน์ maxiyorka

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
น่ารักสุดยอดเลย

ออฟไลน์ automaton

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
รอข่าวเรื่องรวมเล่มเหมือนกัน
คิดถึงเมตร สลิ่มจัง

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
รอรวมเล่มอยู่นะ
เก็บตังค์พร้อมแล้วเนี่ย :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
คิดถึงพี่เมตร
 เบบี้หายไปไหนนะ


อยากให้รวมเล่มเรื่องนี้ที่สุดเลย 

Baszt_aas

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
ตอนพิเศษ ..Valentine..


"วันศุกร์นี้ไปไหนดี" ไอ้เมตรพูดขึ้น  วันศุกร์ที่มันว่าคือวันแห่งความรัก  ผมเงียบเพราะอยากกวนตีนมัน
"ไปไหนดีสลิ่ม" มันเรียกอีกครั้ง  ผมที่นั่งหันหลังให้มันอยู่อมยิ้มออกมาเพราะอีกเดี๋ยวมันจะต้องเหวี่ยงแน่ที่ผมไม่ยอมหันไปคุยดีๆ
"ไอ้หลิม!" มันว่าเสียงเข้ม   ผมกัดริมฝีปากตัวเองแทบตายก่อนเปลี่ยนสีหน้าแล้วหันกลับไปมองมัน
"ไม่ไปไหน" ผมตอบหน้าตาย  ไอ้เมตรนิ่งไป  มันไม่ได้กลับบ้านมาเป็นเดือนแล้ว  นี่คงเป็นอีกวันที่มันได้หยุดอยู่กรุงเทพยาวเป็นอาทิตย์  อีกสามสี่วันมันก็ต้องกลับภูเก็ตอีก
"............." ไอ้เมตรนิ่งไป  มันยืนนิ่ง  มือของมันเริ่มเอวเหมือนหงุดหงิด  ผมนี่แทบหลุดขำแต่ก็ต้องรักษาอาการไว้
"วันวาเลนไทน์นะ" มันย้ำ
"แล้วไง.." ผมเลิกคิ้วย้อน  สำหรับผมวันนี้คือวันธรรมดาวันหนึ่งเท่านั้น  ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรเลยถ้าไอ้คนตรงหน้าไม่เรียกร้องอะไรละนะ
"ก็..แล้วไงเหรอ" มันขึ้นเสียง  หน้างอ  ผมยักไหล่  เบะปากก่อนหันกลับไปเร่งเสียงเพลงในโน้ตบุ๊กดังขึ้น  เพลง Hey Ya! ของ OutKast ดังขึ้นและอดไม่ได้ที่จะขยับร่างกายตามทำนองอย่างมีความสุข  ผมยกมือขึ้นปรบมือตามทำนองเพลงอย่างต้องการกวนไอ้เมตรไม่หยุด  ทำท่าทางสนใจเพลงมากกว่าจะสนใจมัน
"สลิ่ม!" มันขึ้นเสียง 
"Hey ya~ Hey ya~" ผมร้องตามเพลงแล้วยักไหล่ไปมาตามทำนอง
"เออ! ไม่รู้อ่ะ ถ้ากูไม่ได้อะไรจากมึงนะ..กูจะไม่กลับภูเก็ต" มันพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด  เหมือนกับอยากจะบอกผมว่ามันจะต้องได้อะไรสักอย่างเป็นพิเศษสำหรับวันนี้ 
"แล้วกูจะให้มึงไปเคลียร์กับแม่กูเอง" มันว่าอย่างกับเด็กแล้วเดินออกจากห้องนั่งเล่นไป  ผมหัวเราะออกมา  ปัญญาอ่อนฉิบ

ตื๊ด  ๆ ๆ..
ผมมองโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างกาย  เมื่อเห็นเป็นสายไอ้วิทย์จึงรีบกดรับ
"ครับ" ผมพูด
"ครับพ่องมึงสิ อารมณ์ดีไรมา" มันด่าทันทีเพราะเห็นผมพูดเพราะผิดปกติ  ผมหัวเราะ
"ว่ามา.." ผมพูดแล้วเลื่อนมือเบาเสียงเพลง
"กูได้สถานที่แล้วนะ พี่กูเค้าอนุญาตให้ไปเล่นหน้าร้านเค้าได้" มันบอก
"แล้ว ต้องจ่ายเงินอะไรไหม" ผมถามเพราะถ้าจ่ายจะได้เก็บจากไอ้เมตร  ผมไม่จ่ายเองหรอก  เปลือง
"ไม่ต้อง" ไอ้วิทย์ตอบ
"โอเค เจอกันพรุ่งนี้" ผมบอก  พรุ่งนี้คือวันศุกร์  วันแห่งความรัก..น่ะนะ  ไอ้วิทย์รับปากแล้ววางสายไป 
"พี่สลิ่ม" ผมเหลือบมองมิ้วค์ที่เพิ่งเดินเข้ามา  หน้าตามันดูมีอะไร
"อะไร" ผมทำเสียงเข้ม  หน้าเข้มอย่างขู่อีกฝ่ายไว้ก่อน  มาแบบนี้ไม่ดีแน่
"คือว่า..เอ่อ ฮะ" มันพูดไม่เป็นคำ  ผมยังคงนิ่ง  แบบนี้มันจะต้องเกี่ยวกับน้องสาวผมแน่ๆ
"ขอมิ้วค์..กับองุ่น ไปเที่ยวกันได้ไหมครับ วันศุกร์นี้" มันพูด
"มีเรียนไม่ใช่รึไง" ผมหันไปหยิบกีตาร์มาอย่างไม่สนใจที่ต้องใจดำไปอย่างนั้น  ผู้ชายก็คือผู้ชาย  จากที่ผมเห็นคนอย่างไอ้เมตร  ผมไม่มีทางไว้ใจใครแน่  แม้กระทั่งผมเองก็ไม่ใช่ผู้ชายที่ดี  สันดาน..ต่างคนก็มีสันดานกันทั้งนั้น
"ก็ ตอนเย็นครับ" มันบอก  ผมไม่พูดอะไร  ไอ้มิ้วค์ยืนนิ่งตรงนั้นอยู่นานเหมือนรอให้ผมพูดอะไรบ้าง  ผมเงยหน้าขึ้นจ้องไอ้มิ้วค์ไม่วางตา
"ไปไหน" ผมถาม
"เอ่อ คือ.." มิ้วค์อ้ำอึ้ง
"โรงแรมเหรอ!" ผมขึ้นเสียง  แกล้งมันไปงั้นเองแต่ก็แอบคิดน่ะนะ
"ไม่ใช่ครับ คือ..เอ่อ กินไอติม องุ่นบอกว่าอยากกินไอติม" มันรีบตอบ
"อยากกินกาแฟ" ผมพูดแกมสั่ง
"ครับ" มิ้วค์รีบวิ่งออกจากห้องไปชงกาแฟให้ผม  ผมหันไปเปิดหนังสือเพลงแล้วลิตส์รายการเพลงออกมา  ไม่นานไอ้มิ้วค์ก็นำกาแฟร้อนมาเสิร์ฟให้  ผมหยิบกระดาษกับปากกาเขียนสถานที่ลงไปก่อนยื่นให้ไอ้มิ้วค์
"พาองุ่นมาที่นี่ ถ้าพี่ไม่เจอแกที่นั่นตอนห้าโมงเย็น..โดน" ผมขู่ก่อน
"แต่ เอ่อ"
"ทำไม" ผมย้อนอย่างหาเรื่อง
"หลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกทีว่าจะให้ไปไหม" ผมปัด
"ฮะ" มิ้วค์ยิ้มออกมา
"เดี๋ยว" ผมเรียกไว้ก่อนเพราะมิ้วค์ทำท่าจะเดินออกไป
"ให้ไรองุ่นอ่ะ" ผมถามอย่างอยากรู้
"ไม่..ไม่บอกครับ" มิ้วค์ตอบเขินๆ  แต่หารู้ไม่ว่านั่นเป็นคำตอบที่ดูกวนโอ๊ยสำหรับผม
"ไอ้มิ้วค์!" ผมตะคอก  มิ้วค์เดินยิ้มออกไปแล้ว
"ไอ้เหี้ยนี่แม่ง.." ผมบ่นพึมพำคนเดียว  เพลงจบไปแล้ว  ผมเปิดดูโซโล่เพลงใหม่ที่ไอ้วิทย์เพิ่งแกะมาให้  เล่นยาก  ซ้อมมาหลายวันแล้วก็ยังเล่นไม่ได้สักที  ผมซ้อมกีตาร์อยู่พักใหญ่  วันนี้มีอารมณ์เป็นพิเศษ  เลยทั้งแกะเพลง  เลือกเพลง  ซ้อมกีตาร์  ร้องเพลงทั้งวันเลยก็ว่าได้  เป็นอีกวันที่ไม่ต้องมีอะไรมาให้กวนใจเล่นและนานมากแล้วที่ผมไม่ได้มานั่งชิวทำอะไรแบบนี้

ตื๊ด  ๆ ๆ..
"ครับ" ผมกดรับเมื่อเห็นว่าสายเข้าเป็นพี่ทัวร์ 
"สลิ่ม" ปลายเสียงพูดเสียงหงอยมาเลย  แบบนี้มีเรื่องอีกแน่  ผมกดปิดเพลง
"ว่าไงครับ" ผมพูดถามแกมหัวเราะเล็กน้อย
"วันศุกร์นี้ไปไหนกับพี่เมตรเหรอ" พี่ทัวร์ถาม  ผมว่าคงทะเลาะกับพี่พีมาอีก  ถ้าให้เดาพี่ทัวร์คงเรียกร้องอะไรอีกแน่  เรียกร้องอะไรที่ดูเป็นพิเศษในวันแห่งความรักน่ะนะ  อย่างที่บอก  สำหรับผมแล้วมันก็แค่วันวันหนึ่ง  ผมไม่เรียกร้องอะไรเพราะผมคิดว่า  เราก็ให้ของกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว  มันไม่จำเป็นถ้าเรามองว่าทุกวันคือวันพิเศษ 
"ไม่ได้ไปไหนเป็นพิเศษหรอก สลิ่มจะไปเล่นดนตรีกับพวกเพื่อนน่ะ" ผมตอบ
"อ่าว ไม่ไปไหนกันสองคนเลยเหรอ" พี่ทัวร์ท้วงอย่างตกใจ
"ไม่อ่ะครับ" ผมตอบยิ้มๆ
"เหรอ..งั้นเล่นที่ไหนอ่ะ พี่ขอไปดูได้ไหม" พี่ทัวร์พูดเสียงเบาลงอีก
"ได้สิ ที่.........นะครับ หน้าร้าน The band" ผมบอก  หลังจากนั้นพี่ทัวร์ก็บ่นเรื่องพี่พีให้ฟัง  แน่นอนว่าเป็นไปตามอย่างที่ผมคาดเอาไว้ไม่มีผิดเพี้ยน  คุยกันอยู่เกือบสิบห้านาทีพี่เขาก็วางสายไป
"สลิ่ม" ไอ้เมตรโผล่หน้ามา
"ไม่คิดจะหยุดเล่นบ้างรึไง" มันถามเหมือนว่าผม
"ยังไม่ได้คิดเลย คิดเมื่อไหร่เดี๋ยวบอกนะ" ผมกวนมันหน้าตาย 
"กวนตีน" มันด่า
"หึ.." ผมหัวเราะเพราะรู้ว่ามันหงุดหงิดอยู่
"มีไร" ผมถาม
"เย็นนี้จะกินไร" มันถาม  ผมเงียบนึกสักพัก
"ไม่หิวอ่ะ" ผมตอบ  ผมไม่รู้สึกอยากอะไรจริงๆ  เวลาซ้อมดนตรีหนักๆจะเป็นแบบนี้บ่อยครั้ง  เพราะเวลาที่มีอารมณ์ซ้อมก็จะติดมาก  วางมือไม่ลง  เรียกได้ว่าเล่นลืมวันลืมเดือนไปเลย
"เมื่อกลางวันก็กินไปแค่ผลไม้น่ะนะ คนอย่างมึงนี่นะไม่หิว..โลกแตกซะมั้ง" ไอ้เมตรหาเรื่องบ่น  ที่มันหาเรื่องบ่นคงเพลงหงุดหงิดผมอยู่  แล้วมันก็เดินไปบ่นไป
"ไอ้ควายเอ๊ย" ผมแอบบ่นมันเสียงเบาแล้วก็ต้องหัวเราะออกมาอีกครั้งเพราะวันนี้มันหาเรื่องด่าผมทั้งวัน  ผมซ้อมดนตรีอยู่เกือบสองทุ่มก็หยุดซ้อมแล้วมาดูหนังแทน  ที่ทำตัวสบายอย่างนี้ได้เพราะว่าการบ้านเสร็จหมดแล้ว  พรุ่งนี้ทั้งผมและวงผมพากันหยุดเรียน  มีไอ้เวคนเดียวละมั้งที่ไปเรียนตอนเช้า  เรานัดเจอกันตอนบ่ายๆที่บ้านไอ้เขต

- - - - - - - - -

ณ  บ้านเขต..
"แล้วมึงก็หนีเฮียมาอย่างนี้เนี่ยนะ ไอ้เหี้ย" ผมหัวเราะที่ไอ้เขตมันด่าด้วยน้ำเสียงกวนตีน  หลายครั้งผมคิดว่าเสียงกวนๆอย่างไอ้เขตเป็นเอกลักษณ์ดี  และคิดว่าใครก็คงจะทำได้ไม่เหมือนมันดู  ฟังดูกวนๆแต่ก็น่าตลกในคราเดียวกัน
วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์  ไอ้เมตรต้องไปทำธุระกับพี่โมทแต่เช้า  มันบอกให้ผมรอมันที่บ้าน  ถ้ามันกลับมาเราจะได้ออกไปไหนด้วยกัน  แต่ผมดึงดันจะออกจากบ้านและไม่ยอมบอกมันด้วยว่าจะไปไหน  มันโกรธผมบวกกับงอนที่ผมดูไม่สนใจมัน  มันก็เลยประชดโดยการเดินทางออกไปกับพี่โมทแบบไม่ใยดีผม  ผมนำกีตาร์โปร่งไฟฟ้าตัวเองที่มักจะหอบหิ้วไปไหนเป็นประจำ  Martin รุ่นลิมิเต็ดที่น้าซื้อมาให้จากอเมริกา  ครั้งนี้แปลกที่กว่าทุกที  เพราะพากันหอบมารวมตัวกันที่บ้านไอ้เขตที่นานๆจะมาทีด้วยเพราะว่าบ้านมันอยู่เกือบชานเมือง  ที่จริงควรจะไปบ้านไอ้วิทย์  แต่อย่างที่รู้กันว่าไม่มีใครอยากอย่างกรายเข้าไปเหยียบบ้านมันหรอกครับ
"เดี๋ยวเฮียก็โทรหาพวกกู" ไอ้เขตว่า
"ก็นะ" ผมพูดแค่นั้น  บางครั้งก็ขี้เกียจตอบโต้กับมัน
"เขต..เดี๋ยวกูเอาเคเอสอาร์มึงนะไป" พี่แดนเดินมา  พวกผมยกมือไหว้พี่ชายมัน  สงสัยเพิ่งตื่นเพราะมาตั้งแต่เที่ยงก็ยังไม่ปรากฏร่างจนถึงบัดนี้
"อ่าว ก็เมื่อวานบอกว่าจะไม่ออกไปไหนไง" ไอ้เขตขมวดคิ้ว  ผละมือจากที่กำลังเลื่อนผ้าม่านอยู่หันไปยืนเท้าเอวมองพี่ชายมัน
"เออ น่า" พี่แดนตอบส่งๆ
"งั้นเติมน้ำมันให้กูด้วย น้ำมันหมดแล้ว" ไอ้เขตพูด
"เหี้ยไรละ" พี่แดนโวยวาย
"ก็น้ำมันมันหมด.." ไอ้เขตพูดเสียงยานคางอย่างไม่ยอม  ผมคบกับไอ้เขตมานาน  ตั้งแต่รู้จักกันมาบอกได้เลยว่าผมไม่เคยเห็นสองพี่น้องจะคุยกันดีๆเลย
"มึงไม่เติมไว้วะ"
"เติมไว้ให้มึงเอาไปขับน่ะนะ" ไอ้เขตย้อน
"ทะเลาะกันทำไมเล่าโอ้ย" แม่ไอ้เขตที่กำลังเดินผ่านไปตรงห้องนั่งเล่นบ่นขึ้นแล้วเดินจากไปโดยไม้ห้าม  ไม่มีใครอยากห้ามแล้วแหละผมบอกเลย  แม่ง..เถียงกันบ่อยเกิน
"แล้วก็เอากลับมาด้วย พรุ่งนี้กูจะเอากลับหอ" ไอ้เขตพูด
"เออๆ" พี่แดนปัด
"รถตัวเองมีก็ไม่ใช้" ไอ้เขตบ่นอุบ
"แล้วนี่มึงจะไปไหน" พี่แดนเปลี่ยนเรื่องถาม
"ไปเล่นดนตรี" ไอ้เขตตอบส่งๆ
"ที่ไหน.." พี่แดนถามอีก
"เรื่องของกู" ไอ้เขตตอบ  ผมกับไอ้วิทย์หัวเราะ
"ไอ้เหี้ยกวนตีนว่ะ" พี่แดนว่าคิ้วผูกกันเป็นปม
"เลิกคบเหอะ" พี่แดนหันมาพูดกับพวกผมก่อนเดินออกไปด้วยท่าทางหงุดหงิดน้องชายตน
"มันไม่กวนตีนเลยเนอะ" ไอ้เขตว่าใส่พวกผม  ผมกับไอ้วิทย์ได้แต่ยิ้มๆส่ายหัวให้กับพวกมันที่ถึงแม้จะเถียงกันแต่ก็ยังรักกันดี
"เอ๊ย ไอ้แดน!" จู่ๆไอ้เขตก็ตะโกนขึ้นเหมือนนึกไรขึ้นได้
"เงินที่ยืมกูไปอ่ะ เอามาคืนก่อน" ไอ้เขตโหวกเหวกโวยวายเสียงดังแล้วรีบวิ่งออกไปหน้าบ้าน 
"ไม่คืนโว้ย!!" พี่แดนตะโกนตอบเสียงดังเช่นกัน  พร้อมกันนั้นผมได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซด์ขับออกไปแล้ว  ไม่นานไอ้เขตก็เดินหน้ามุ่ยกลับมา
"ฉิบหาย กูไม่ได้เงินคืนอีกแล้วเนี้ย!" ไอ้เขตบ่นด้วยความหงุดหงิด  ผมหัวเราะ
"มึงก็รู้ว่ามันไม่เคยคืนเงินมึง มึงก็ยังให้มันยืมอ่ะเนอะ" ผมบ่นมันบ้าง  เพราะผมเคยเตือนไอ้เขตหลายทีแล้ว  อย่างที่บอก  แม้ว่าพวกมันจะทะเลาะกันแต่ไอ้เขตก็รักพี่ชายมันน่าดู  เป็นประเภทอะไรก็ใจอ่อน  สำหรับผมถ้ายืมเงินเกินสองครั้งแล้วไม่ได้คืน..มีปิดคดีแน่นอนไม่ต้องห่วง  แต่ไอ้เขต  ทั้งๆที่มันรู้ว่าพี่ชายมันเป็นคนยังไง  มันรู้ดีว่าอาจจะไม่ได้เงินคืนแต่มันก็ให้เงินพี่มันยืมทุกครั้งไป  ครั้งล่าสุดนี้ก็เหมือนกัน..พี่แดนโกหกไอ้เขตว่าโทรศัพท์มือถือหาย  ขอยืมไปซื้อเครื่องใหม่  ซึ่งผมเตือนมันก่อนแล้วว่าอย่าไปให้  มึงโดนพี่มึงหลอกแน่นอนเชื่อกู  แต่สุดท้ายมันก็ให้ไปอีก  ไม่เคยเข็ด
"ก็แม่ง" ไอ้เขตทำปากขมุบขมิบเหมือนเถียงผมไม่ออก
"แล้วเชลโลอยู่ไหน" ไอ้วิทย์ถาม
"มันบอกเดี๋ยวจะไปที่ร้านเลย" ไอ้เขตตอบอย่างรู้ดี  ผมกับไอ้วิทย์ยักคิ้วให้กันเพราะมันสองคนดูมีอะไร
"อะไร" ไอ้เขตทำเสียงเข้ม  เดินไปหยิบเบสใส่กระเป๋า
"เปล้า" ผมกับไอ้วิทย์ตอบเสียงสูง 
"ไอ้เวมาแล้ว" ไอ้เขตเดินไปที่หน้าต่าง  มันคงเลิกเรียนแล้วถึงมาได้  ไม่นานไอ้เวก็เดินเข้ามา  มีมันคนเดียวที่วันนี้ใส่ชุดนักศึกษา
"ไงมึง" ผมพยักหน้าทัก 
"ผมใหม่" ไอ้เวยิ้มพูดพร้อมกันหมุนตัวให้พวกผมดู  ไอ้วิทย์หัวเราะที่เห็นแฟนมันตัดผมมาใหม่  ดูดีผิดหูผิดตา  จู่ๆมันก็โยนอะไรบางอย่างให้ไอ้วิทย์  ไอ้วิทย์รับไว้ทัน
"อะไร" ไอ้วิทย์ยิ้มกว้างแล้วเอากล่องมาเปิดออก  พวกผมมองอย่างอยากรู้
"หึ ปิ๊ก" ผมหัวเราะ  เพราะกล่องดูดีมากแต่ข้างในมีปิ๊กกีตาร์อันเดียว
"มีชื่อกูด้วย" ไอ้วิทย์ยิ้มหวานอย่างดีใจ  มันเอาปิ๊กกีตาร์มาอวดผม  ผมกับไอ้เขตทำท่าแหวะอย่างรับไม่ได้  เวลาที่เห็นสองคนทำหวานต่อหน้าแล้วอดจะคลื่นไส้ไม่ได้ทุกที  ให้ตาย
"ของกูล่ะ" ไอ้เวถามด้วยสีหน้าจริงจัง 
"หึ.." ไอ้วิทย์หัวเราะในลำคอ  มันหันตัวไปหยิบของมาจากในกระเป๋ากีตาร์ยี่ห้อดี  สิ่งที่มันหยิบมาคืนไม้กลอง
"พิเศษยังไงไม่ทราบ" ไอ้เขตว่าเพราะไอ้เวก็มีไม้กลองเป็นสิบ  ไอ้วิทย์ยื่นให้  ไอ้เวรับไปสำรวจดู
"ชอบไหม" ไอ้วิทย์ถามเมื่อเห็นไอ้เวยิ้มออกมา  ไอ้เวพยักหน้าแทนคำตอบ
"อืม สลักชื่อกันเข้าไป..วันหลังเยี่ยวรดไว้เลยสิ" ไอ้เขตว่าให้ด้วยน้ำเสียงประชดประชัน  พวกผมหัวเราะ
"มึงก็หาแฟนสิว้า..จะได้ไม่ต้องมาอิจฉาคนอื่นเค้าอย่างนี้" ไอ้เวว่า  ด้วยพวกเราเองยังไม่เคยเห็นไอ้เขตครบใครเป็นจริงเป็นจัง  ไม่ใช่ว่ามันไม่รักใครนะครับแต่ผมคิดว่า  มันคงยังไม่เจอคนที่ใช่เสียมากกว่า  การที่พวกผมแซวมันเหมือนไม่รู้อะไรนั้น  คงเป็นการแซวเพราะสนุกปากไปอย่างนั้นเอง
"จ้างให้ก็ไม่อิจฉา เชอะ" ไอ้เขตหัวเราะขึ้นจมูก 

แป้น !! ....มันพูดเสร็จก็หันทรัมเป็ตมาเป่าใส่หูไอ้เวที่อยู่ใกล้มันที่สุดอย่างแรง
"สัตว์!" ไอ้เวด่าพร้อมปิดหูตัวเอง  พวกผมหัวเราะ  ไอ้เขตเป่าทรัมเป็ตต่อทำให้ไอ้วิทย์ต้องหยุดมือที่เกากีตาร์อยู่แล้วมองมัน  เสียงทรัมเป็ตที่ใสกังวล  ไม่แม้แต่ผิดเพี้ยนคีย์แม้แต่น้อย  นั่นเป็นหนึ่งสิ่งที่ผมได้แต่มองอย่างหลงใหลเพราะผมไม่สามารถทำได้อย่างมัน  ไม่สามารถเล่นได้อย่างมัน  ผมคิดว่า..ดนตรีแต่ละชิ้นเกิดมาเพื่อใครบางคน  บางคนสามารถเล่นดนตรีได้หลายชิ้นแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเก่งทุกชิ้นอย่างที่สุด  สำหรับผม  คนเรา..มักจะมีดนตรีชิ้นโปรดอันดับหนึ่งอยู่ในใจของคนๆนั้น  อย่างผมแม้จะเล่นได้หลายชิ้นแต่หนึ่งสิ้นที่ขาดไม่ได้เลยคือกีตาร์และเสียงร้องของผม  สำหรับไอ้เขตก็คงไม่พ้นเบส  ทรัมเป็ตและแซกโซโฟน  สำหรับไอ้วิทย์ก็ไม่พ้นกีตาร์อย่างแน่นอน  ส่วนไอ้เวก็กลอง  ผมคิดว่าคนเราต้องมีหนึ่งสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ  แม้แต่นักดนตรีเองก็คงมีหนึ่งสิ่งที่รักในใจ  หนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้น่ะนะครับ
พวกผมนั่งหัวเราะไอ้เขตที่ยืนตัวตรงทำท่าตั้งใจเป่าทรัมเป็ตอย่างกับอยู่ในสนามกีฬาสมัยอยู่วงโยธวาทิตของโรงเรียน  ที่จริงแล้วตัวเด่นแซกโซโฟนหนึ่งในวงโยก็คงจะไม่พ้นไอ้เขต  หัวหน้าวงใหญ่ก็คือไอ้เว  มันตีกลองได้จัดจ้านแม้มันจะมาดนิ่งก็ตาม  ผมภูมิใจในเพื่อนผมมากทุกคนเพราะเราสร้างประสบการณ์มาด้วยกัน  เรียกได้ว่าลืมไม่ลงทีเดียว 
ไอ้เววางเป้ลงบนโซฟา  ผมยื่นกีตาร์ให้ไอ้เวเพราะมันขอก่อนจะเอนตัวพิงพนักโซฟา  ไอ้เขตเริ่มเป่าเพลง The Chariot ของ The Cat Empire ที่พวกผมฟังจนคุ้นหู  ดูเหมือนไอ้เขตจะเอาดีทางด้านนี้ด้วย  มันเล่นทรัมเป็ตได้ก้าวกระโดนมากทั้งที่เพิ่งหัดเล่นได้ไม่นาน  บางครั้งผมต้องมองไอ้เขตอย่างเสน่ห์หา  ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผมชอบเวลาที่มันเป่าทรัมเป็ตกับแซกโซโฟนมากกว่าตอนที่มันเล่นเบสเสียอีก  ปากของไอ้เขตมีลักษณะพิเศษของคนเล่นเครื่องเป่า  ปากบางสวยได้รูปแต่อย่างนั้นก็ต้องมีมุมปากที่บอกได้ว่ามีพรสวรรค์สำหรับเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่านี้  หลายครั้งเราอ่านลักษณะทางร่ายกายของนักดนตรี  อย่างผมกับไอ้วิทย์นิ้วจะยาวเรียวเราจึงเล่นเครื่องดนตรีที่ใช้นิ้วเป็นหลัก  กีตาร์และเครื่องสาย  ผมคงเกิดมาเพื่อสิ่งนี้

แป  แด้..แด แด่ แด้ม ~
"หึหึหึ" พวกผมหัวเราะเพราะไอ้เขตเห็นแม่มันเดินผ่านมาพอดี  มันหันทรัมเป็ตไปเป่าใส่หน้าแม่มันอย่างหยอกล้อ
"ไอ้บ้านี่" แม่ว่าขำๆก่อนเดินผ่านไปพร้อมกับจานผลไม้
"เชี่ย กวนตีน" ไอ้วิทย์หัวเราะดังกว่าเดิมเพราะไอ้เขตเป่าไปเป็นทำนองแจ๊ส  พร้อมกับส่ายสะโพกโยกย้ายด้วยท่าทางกวนเบื้องต่ำอีกด้วย
"ไปเหอะ หนีแม่ง" ผมบ่นเมื่อพลิกนาฬิกาดูก็เห็นว่าได้เวลาแล้วเพราะเดี๋ยวจะต้องเสียเวลากับรถติดอีก  วันนี้คนคงจะออกมานอกบ้านกันมากด้วยเป็นวันแห่งความรัก  ไอ้วิทย์พยักหน้า  ไอ้เขตเป่าอีกครั้งเป็นเสียงผิดหวังที่ผมไปดับความสุขมันอย่างนั้น  พวกเรารีบเก็บเครื่องดนตรีที่จำเป็นไปด้วย  วันนี้ไอ้เขตต้องเอาเบส  ไอ้วิทย์หิ้วกีตาร์ไป  ส่วนไอ้เวนำอูคูเลเล่ของมันไปเพราะจะไปใช้กลองคาฮองที่ร้านพี่ไอ้วิทย์แทนที่จะหิ้วไปเองอย่างไม่ค่อยสะดวกนัก  ผมหยิบกล่องกีตาร์ขึ้นแล้วเดินไปขึ้นรถยนต์ไอ้วิทย์ด้วยกัน  ไอ้วิทย์เป็นคนขับเพราะเป็นรถมัน  ไอ้เวนั่งหน้า  ส่วนผมนั่งหลังกับไอ้เขต  พอขึ้นรถได้..ไอ้วิทย์ก็กดเปิดเพลงทันที  ซึ่งส่วนมากคงไม่พ้นเพลง Rock and Roll หรือเพลงยุค 70s 80s ที่มันคลั่งไคล้นักหนา 
ผมชอบเวลาที่เราได้กลับมาอยู่ด้วยกัน  มันเหมือนกับเวลาที่เราได้ย้อนเวลาไปเป็นเด็กวัยรุ่นอีกครั้ง  ตอนที่เราเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลาย  เราไม่ต้องคิดมากอะไร  เราได้เล่น  ได้เรียน  ได้ทำอะไรที่เรารัก  อย่างไปไหนไปกัน  แต่เมื่อเราเข้ารั้วมหาวิทยาลัย  อะไรมันค่อนข้างเปลี่ยนไป  บอกเลยว่าเปลี่ยนวิถีชีวิตของเรานิดหน่อย  ผมไม่รู้ว่าพวกมันจะกังวลเหมือนผมกันบ้างไหม  แต่ผมกังวลว่าเราจะไม่ได้กลับมาเล่นดนตรีด้วยกันอย่างแต่ก่อน  โดยเฉพาะไอ้วิทย์  มันเป็นคนเดียวที่เดินตรงไปทางสายดนตรี  มันฝีมือดีมากแบบที่ผมกลัวว่ามันจะจากพวกเราไป  หลายครั้งที่เราได้กลับมาเจอกัน  มันเหมือนเราได้มาปล่อยอะไรที่เป็นเรา  ได้กลับมามองไส้มองพุงกันอีกครั้ง  ได้เข้าใจกัน  ชอบเพลงเหมือนๆกัน  ได้โยกย้ายขยับตัวในแบบที่อ่านกันออกว่าเราชอบนะ  เรารักนะแบบที่ไม่ต้องขัดเขินอะไร  แบบที่เราได้มานั่งรถด้วยกันสี่คนอย่างนี้แล้วเปิดเพลงที่เรียกว่าคอเดียวกัน  มันเหมือนเราได้มีความสุขคล้ายช่วงมัธยมได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง 
"ไม่ทราบว่าพวกคุณกำลังคิดอะไรอยู่ครับ" ไอ้วิทย์พูดขึ้นเมื่อเห็นว่าทุกคนเงียบ  มันขับรถออกจากบ้านไอ้เขตแล้ว
"คิดว่า..นาฬิกาที่มึงใส่อยู่นี้เรือนใหม่ เรือนเท่าไหร่ครับคุณวิทย์" ผมพูดขึ้นอย่างโกหกออกไป  ด้วยเห็นว่านาฬิกาที่ไอ้วิทย์สวมอยู่นั้นเป็นเรือนใหม่และคงทำให้ผมแก้ตัวไปได้ว่าที่จริงแล้วผมคิดอะไรอยู่
"สองหมื่นครับผม หม่อมแม่ซื้อให้" มันตอบอย่างภาคภูมิใจ
"คุณละครับคุณเว" ไอ้วิทย์ถามไอ้เวที่นั่งอยู่ข้างๆ
"คิดว่า..บีเอ็มนี่นิ่มดีกว่าเวสป้ากูอีก" ไอ้เวตอบขำๆ  พวกผมหัวเราะ
"คุณล่ะคิดอะไรอยู่" ผมหันไปหาไอ้เขต  มันอมยิ้มน้อยๆก่อนหันหน้าหนีไปนอกหน้าต่าง  มันเงียบไปครู่หนึ่ง
"คิดถึงพวกมึง" ไอ้เขตหันมามองหน้าผมเหมือนเขินๆ  มันพูดคำซื่อๆที่ผมคิดอยู่ในใจเมื่อกี้ออกมา  ไม่รู้ว่ามันพูดเพื่อแกล้งเล่นหรือพูดจากใจกันแน่
"ฮึ.." พวกผมหัวเราะ  ผมยิ้มเขินมันและดูเหมือนไอ้เขตจะเขินด้วยเหมือนกันที่ตอบอะไรได้เสี่ยวมากอย่างที่ผู้หญิงเองก็คงไม่พูดบอกเพื่อนแบบนี้ในบรรยากาศอย่างนี้
"แหม เหงาอ่ะดิมึง" ผมกระชากคอไอ้เขตมาจนมันล้มมานอนลงบนตัก
"วันนี้ใครหวานกันต่อหน้ากู มีเคือง!" ไอ้เขตพูดเสียงแข็ง  เสียงอินโทรเพลง Sweet Home Alabama ของ LYNYRD SKYNYRD เพลงโปรดของพวกเราขึ้น
เพลง Sweet Home Alabama by Lynyrd

             ~ ~
ไอ้เวร้องขึ้นอย่างรู้กัน  พวกผมเคยแบ่งท่อนกันร้องเพลงนี้สมัยที่ขึ้นเล่นดนตรีให้วันเกษียณอายุของอาจารย์ที่โรงเรียนตอนอยู่มัธยมปลาย  หลังๆเวลาที่เปิดเพลงนี้ทีไร  เราก็จะร้องท่อนใครท่อนมันอย่างรู้กัน

   ~  ~
   ไอ้วิทย์ร้องขึ้นบ้าง  แต่ก่อนเวลาแบ่งท่อน  ไอ้วิทย์บอกก่อนเลยว่าขอร้องท่อนนี้  มันไม่ยอมร้องท่อนอื่นเพราะบอกว่าท่อนนี้มีชื่อของ Neil Young นักร้องนักดนตรีระดับตำนานที่มันหลงใหลได้ปลื้มเหลือเกิน

   ~ ~
   พวกเราประสานเสียงร้องพร้อมกันพร้อมกับโยกไปซ้ายทีขวาทีตามทำนองเพลงด้วยท่าเต้นโบราณๆติดตลก

   ~  ~
   ผมร้องท่อนนี้บ้างซึ่งเป็นท่อนประจำ  พวกมันร้องประสานเสียงท่อนรับบ้างเป็นระยะ  ร้องไปก็อดยิ้มไปอย่างมีความสุขด้วยไม่ได้

   ~  ~
พวกเราร้องกันไปโยกย้ายกันไปจนรถเกือบชนก็มีเพราะไอ้วิทย์คงอินไปหน่อย  ด้วยความคึกก็เลยเล่นเพลงนี้อยู่ซ้ำๆอยู่หลายครั้งจนผมต้องบ่นว่า "เหนื่อย"  ไอ้วิทย์ถึงเปลี่ยนเพลงในที่สุด  พวกเราขำที่ดันมาคึกอะไรไม่เข้าท่า  สงสัยคงไม่ได้เจอกันนานไปหน่อยละมังครับ

ไม่นานเราก็ขับไปถึงถนนข้าวสาร  เวลาเกือบห้าโมงเย็นพอดี  ที่จริงร้านขอไปเล่นหน้าร้านนั้นเป็นร้านของเพื่อนพี่ไอ้วิทย์อีกที  พูดง่ายก็เพื่อนของพี่เวทนั่นแหละ  เป็นร้านที่ไม่ได้อยู่ในตรอกข้าวสารแต่ร้านอยู่แถวๆนั้น  ร้านทำเลดีติดกับถนนที่ผู้คนและรถสวนไปมามากมาย  นี่แหละคือประเด็นที่พวกผมอยากมา  แม้จะเป็นวันแห่งความรัก  สำหรับผมแล้วมันไม่จำเป็นแค่คนสองคน  มันหมายถึง..มีความสุขร่วมกันกับคนที่คุณรักรอบกาย  วันนี้มันจะพิเศษมากถ้าผมได้อยู่กับคนพวกนี้กับเครื่องดนตรีที่ผมรักและขาดไม่ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-08-2015 21:57:38 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
"เฮียโทรมา" ไอ้เขตพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตกใจ  ผมหันไปมอง  เฮียที่ว่าคงไม่พ้นไอ้เมตรเป็นแน่
"กูรับเอง" ผมบอก  ไอ้เขตยื่นโทรศัพท์มือถือมันให้กับผม  ผมรับมากดรับ
"อยู่ไหนวะ" เสียงบอกอารมณ์หงุดหงิดมาเลย
"อยู่แถวข้าวสาร ร้าน The band..ติดถนน........ มาสิ" ผมพูดก่อน  กะว่าจะบอกมันอยู่แล้วแต่แกล้งมันก็สนุกดีอีกแบบ
"ไปทำไมอ่ะ" มันถามด้วยน้ำเสียงจับผิด
"เล่นดนตรี" ผมตอบ
"นี่ไม่คิดจะบอกกูเลยใช่ไหม" มันว่า
"ก็บอกอยู่นี่ไง" ผมพูดแล้วผายมือขึ้นห้ามไอ้เชลโลที่ดูเหมือนจะเข้ามาถามอะไร  ไอ้เมตรเงียบไปหนึ่งอึดใจ
"ไม่ไป" มันพูดเสียงแข็ง
"พี่ทัวร์ก็มา" ผมพูดเหลือบไปมองพี่ทัวร์ที่นั่งอยู่
"ทำไมทัวร์ไป" มันว่า
"ทำไมกูถึงไม่รู้" มันซักไซ้ไม่หยุดอย่างกับเด็ก
"นั่นสิ" ผมแทบหัวเราะแต่ยังคงรักษาอาการเสียงเรียบนิ่งไว้อยู่
"ตกลงจะมาไหม" ผมถามอีกครั้ง  ไอ้เมตรเงียบไป 
"กูอยากอยู่กับมึงสองคน" มันพูดด้วยน้ำเสียงลดลง  จากฟังดูหงุดหงิดก็ดูเหมือนจะงอนแทน
"ก็เข้าใจ แต่ก็..นะ" ผมพูดแค่นั้นเพราะไม่อยากอธิบายมาก  คนเราความคิดไม่เหมือนกัน  แม้กระทั่งผมเอง..จะมาให้ไอ้เมตรเข้าใจในตัวผมหมดก็คงไม่ได้  ผมเป็นคนเห็นแก่ตัวนะ  เห็นแก่ตัวมากกว่าไอ้เมตรหรือใครทั้งหมดในวงอีก  ผมรู้ตัวดี
"เราเองก็อยู่ได้เพราะคนพวกนี้นะเมตร" ผมพูด  ตามองเพื่อนที่กำลังจัดเครื่องดนตรีไว้หน้าร้านอย่างมีความสุข  ทุกคนกำลังยิ้มที่ได้มารวมตัวกันในวันพิเศษอย่างนี้  อย่างนี้สิ..สำหรับผมถึงจะเรียกว่าวันพิเศษ  ปลายสายเงียบไป
"มึงจะบอกว่า เรานอนด้วยกันทุกคืน..วันนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ไม่เป็นไรงั้นสิ" มันพูดเสียงค่อย
"หึ..จะว่าอย่างนั้นก็ได้" ผมพูดพลางแสยะหัวเราะด้วยคิดอย่างที่มันว่าจริงๆนั่นแหละ
"............" ไอ้เมตรเงียบไปอีกครั้ง
"เวลามีค่านะเมตร จะให้กูไปขลุกอยู่กับมึงตลอดเวลาคงไม่ได้" ผมพูด  ไอ้เมตรเงียบไป
"ก็ได้.." มันตัดบท
"งั้น" มันพึมพำเสียงเบาเหมือนคิดอะไรอยู่
"บอกกูมาว่าอยากให้กูไปไหม" มันพูด  ผมได้แต่ก้มหน้ามองเท้าตัวเอง  มันจะต้องมาไม้นี้ตลอด 
"เร็ว" มันย้ำด้วยน้ำเสียงดีใจอะไรสักอย่าง
"..มาสักทีสิ" ผมพูดเสียงเบาแค่นั้น  ได้ยินเสียงมันตอบว่า "ครับ" เบาๆ  ผมอดอมยิ้มไม่ได้และต้องรีบคืนโทรศัพท์ให้ไอ้เขตไปคุยต่อ  พอตั้งเครื่องดนตรีเสร็จ  พวกเพื่อนของพี่เวทก็มากันเต็มร้านเหมือนเตรียมเปิดร้านกันแล้ว  ร้านนี้เป็นกึ่งร้านเหล้าและร้านอาหาร  เครื่องดนตรีของเราตั้งออกมาที่ด้านหน้าร้านลามไปถึงฟุตบาธตรงหน้า  อาณาเขตตรงนี้กลายเป็นของเราหมด  ผู้คนที่เดินไปมาเริ่มมองอย่างสนใจ  ส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติเสียมาก
เพื่อนพี่เวทจัดการนำกลองชุดเล็กมาตั้งให้ไอ้เวคงเพราะชอบใจมันสักอย่าง  เลยเปลี่ยนจากแค่กลองคาฮองที่ขอไว้เป็นกลองชุดทันที  เรียกได้ว่าสั่งได้เลย  ไอ้วิทย์เริ่มตั้งสายกีตาร์  มีคนเข้ามาขอถ่ายรูปมันเป็นระยะ  ก็อย่างว่าละ..มันเท่ซะขนาดนั้น  อยากให้คนพวกนั้นมารู้จักนิสัยแท้จริงของมันเสียจริง  คิดอย่างนั้นก็ต้องหัวเราะคนเดียวอีกแล้ว

เสียงอินโทรกีตาร์โปร่งจากไอ้วิทย์เริ่มขึ้น  ผมพูดนำด้วยเนื้อเพลงของเพลง You and Me ของ Lifehouse เพลงป๊อปที่พวกผมไม่ค่อยได้เล่นด้วยกันบ่อยครั้งนัก  นอกจากมาเล่นในโอกาสต่างๆอย่างนี้เพราะถึงแม้จะเล่นได้ดีเพราะเล่นง่าย  คอร์ดง่าย  ร้องง่ายแต่ดูเหมือนไม่ใช่สิ่งที่เราจะถ่ายถอดออกมาได้ดีเท่าเพลงร็อค  แจ๊สหรือบลูแบบที่ซ้อมด้วยกันบ่อยๆ  แต่เนื่องในวันพิเศษอย่างนี้  ความรู้สึกอารมณ์ร่วมก็มีจึงทำให้ถ่ายทอดได้ดีกว่าที่ผ่านมา

Thank you _/\_ Lifehouse You and Me by Lifehouse

ผมพูดยิ้มให้ทุกคนโดยให้โทนเสียงคีย์เดียวกันคล้ายการเกริ่นนำ  ด้วยเพราะไม่ชอบพูดเกริ่นอะไรมาก  บางครั้งก็ต้องเล่นลูกเล่นด้วยทางนี้ไป  เพราะหลายครั้งเวลาที่ต้องพูดเกริ่นก็จะยกให้เป็นหน้าที่ของไอ้วิทย์และไอ้เขตซะมาก  เพราะผมไม่ชอบพูด

ผมตัดบทก่อนที่ไอ้วิทย์จะเล่นกีตาร์อินโทรซ้ำอีกครั้งเพื่อเข้าเนื้อเพลงจริง  ที่ต้องพูดเป็นภาษาอังกฤษก่อนเพราะคนที่อยู่ตรงหน้าต่างเป็นชาวต่างชาติเกือบทุกคน 

     ~ Something about you now. I can't quite figure out
     Everything she does is beautiful. Everything she does is right~
ผมเหลือบหันไปเห็นไอ้เมตรเดินมาไกลๆ  มันเห็นพวกผมเล่นอยู่อีกฝ่ายก็อมยิ้มออกมา  ไม่รู้จะยิ้มทำไม  ไม่ได้ร้องให้มันสักหน่อย..ปัญญาอ่อน

พี่ทัวร์เมื่อเห็นว่าไอ้เมตรเดินมาก็ดีใจใหญ่  แต่ก็ต้องหุบยิ้มลงเมื่อเห็นว่ามีพี่พีเดินมาข้างๆไอ้เมตรด้วย  เสียงดนตรีจบลง  เสียงคนปรบมือให้อย่างมีความสุข  นั่นคือสิ่งที่ต้องการได้รับ  วันนี้เรายังเปิดหมวกกันเหมือนเดิมโดยเอากล่องกีตาร์ของผมเป็นที่วางด้านหน้าวง  ไม่ใช่กล่องกีตาร์ของไอ้วิทย์เพราะของมันแพงกว่าของผมมาก  เรียกได้ว่าควรเอาวางเก็บไว้ในร้านไม่เหมาะกับวางบนพื้นถนนอย่างนี้  ตอนแรกพวกผมกะว่าจะร้องเพลงส่งความสุขเท่านั้น  แต่ไอ้เวบอกว่าไหนๆก็ร้องแล้ว  จะได้นำเงินไปบริจาคด้วยเลย  พวกผมเลยว่าตามกันไป  นี่คือสิ่งหนึ่งที่เราเห็นพ้องต้องกัน  มองอะไรในมุมเดียวกัน  ไม่ขัดขากัน  ผมคิดว่าถ้ามันทุกคนไม่มองในแบบเดียวกันกับผม  เราคงไม่อยู่ด้วยกันมาจนถึงทุกวันนี้  คงได้แยกวงกันไปแล้วละมัง
ผมเห็นมิ้วค์กับองุ่นเดินมาพอดี  เลยหยุดจากตรงนี้เดินไปหาที่นั่งให้น้องก่อน  ให้นั่งใกล้ๆกับพวกพี่ทัวร์นั่นแหละดี  จะได้มีคนคอยเป็นหูเป็นตา
"ไม่ต้องมานั่งใกล้เลย" พี่ทัวร์ผลักพี่พีที่ทำท่าจะนั่งลงข้างๆพี่ทัวร์ออกทันที  พี่พีหัวเราะเหมือนไม่ได้โกรธอะไร
"ปัญญาอ่อนป่ะเนี่ย" พี่พีว่า  พี่ทัวร์มองหน้างอ
"มึงเหี้ยไรกับวันวาเลนไทน์มากมายวะ..มึงเกิดเมืองนอกไง ดูสลิ่มดิ แม่ง" พี่พีว่าพร้อมกับหันมายกตัวอย่างผมซะงั้น  ผมอมยิ้ม  สงสัยไอ้เมตรคงไปบ่นอะไรไม่ดีเกี่ยวกับตัวผมให้พี่พีฟังแน่
"คนไม่มีหัวใจ ก็งี้" ไอ้เมตรว่าขึ้นลอยๆ
"ใช่" พี่ทัวร์เห็นดีเห็นงามด้วย
"กลับไปคบกันซะเลยซิ เห็นดีเห็นงามกันหนิ" ผมชี้ทั้งสองคนอย่างต้องการกวนอารมณ์
"สลิ่ม!" พี่ทัวร์กับไอ้เมตรประสานเสียงกันอย่างไม่พอใจ  ผมกับพี่พีหัวเราะ
"ปัญญาอ่อนไปละมึงน่ะ" ผมปรามไอ้เมตร  มันหุบปากเงียบหน้างอ
"เฮียนี่..กลัวเมียเนอะ" ไอ้เขตที่อยู่ไม่ไกลแซวขึ้น
"เสียใจ..กูเป็นใหญ่ตอนอยู่บนเตียงเว้ย" ไอ้เมตรยักคิ้วอย่างเจ้าเล่ห์ตอกกลับไอ้เขต
"ฮึ บนเตียงก็แค่ไม่กี่นาทีอะนะ" ผมแสยะหัวเราะแกล้งย้อนมันกลับบ้าง  ฟังดูแล้วยังไงผมก็ได้กำไรน่ะนะ  พวกคนที่ยืนอยู่แถวนี้ได้ก็ขำกันออกมาที่ผมดันไปย้อนหน้าด้านๆอย่างนั้น
พวกเพื่อนพี่เวทออกมาต้อนรับถามไถ่ว่าพวกพี่ทัวร์จะดื่มอะไรไหม  เขานัดแนะกันเอง  ผมกลับมาที่เดิมอีกครั้งเพราะเดี๋ยวคนดูจะหายซะก่อน  พวกเราเล่นเพลงที่เตรียมมา  ส่วนมากจะเป็นเพลงที่เกี่ยวกับความรักทั้งหมด  บอกแล้วว่าวันนี้พิเศษเพราะทั้งร้องและเล่นเพลงที่ไม่ค่อยได้เล่นบ่อยครั้ง  ทั้งเพลงไทยและเทศ  ต่อด้วยเพลง True Colors ในสไตล์เดียวกับ Angus Stone เพลง Wherever you go ของ The Calling ที่นำมาปรับร้องในแนวอคูสติกหวานๆโดยเปลี่ยนให้ไอ้วิทย์เป็นคนร้องเพลงแทน  เพราะเสียงมันเวลาร้องเพลงนี้ดูเป็นผู้ชายที่น่าเสน่ห์หากว่าผมมาก  ผมร้องเพลงนี้ยังไม่รู้สึกเท่เท่ามันร้อง  เวลาเห็นมันร้องแล้วรู้สึกได้เลยว่า..มันดีอ่ะ  ผมจึงเปลี่ยนมาเล่นกีตาร์แล้วให้ไอ้วิทย์เป็นคนร้องแทน  ทุกคนเลยได้พักมือเพราะเพลงนี้มีเพียงผมที่เล่นกีตาร์และไอ้เชลโลที่เล่นไวโอลินให้ด้วย  คนในร้านดูจะชอบอกชอบใจกันดีไม่น้อย  มีคู่รักเดินควงคู่มาให้เห็นเป็นระยะ  ชาวต่างชาติบางคนถึงกับยืนจูบกันตรงหน้าวงเราเลยก็มี  ไอ้เวเดินนำกล้องมาถ่ายรูปพวกผม  ผมแอบเห็นมันถ่ายไอ้วิทย์  มีการส่งสายตาเยิ้มๆให้กัน  ไอ้เวถึงกับต้องส่ายหัวยิ้มๆพร้อมกับลุกขึ้นแล้วทำท่าจะเดินหนีสายตาเจ้าชู้ๆที่ไอ้วิทย์ส่งไปให้
"............" พวกผมยืนอึ้งเพราะพอเพลงจบไอ้วิทย์ก็เข้าไปจับข้อมือของไอ้เวไว้  ไอ้เวชะงักหันไปมองอย่างงงๆ  พวกผมมองอย่างไม่เข้าใจว่าไอ้บ้านี่มันจะทำอะไรเมียมัน
"กูบอกว่ากูจะเคืองนี่มันไม่ได้แคร์กูกันเลยใช่ไหม" ไอ้เขตเดินมากอดคอผมเข้าไป  ผมหัวเราะ  ไอ้วิทย์จับมือไอ้เวขึ้นแล้วนำขึ้นจูบต่อหน้าสายตานับสี่สิบห้าสิบคู่
มันสองคนยืนอมยิ้มมองกันหวานเยิ้มอย่างกับลืมไปว่าตรงนี้ก็มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนยืนมองพวกมันอยู่  ไอ้เวได้สติ  มันดึงข้อมือออกจากมือไอ้วิทย์แล้วนำผลักหัวไอ้วิทย์เบาๆเสียเลย  ก่อนเดินหนีไปหยิบไม้กลองแล้วนั่งประจำที่
"หึ.." ไอ้วิทย์ยิ้มชอบใจ
"กูจะอ้วก!" ไอ้เขตพูดใส่ไมโครโฟนทำเอาทุกคนหัวเราะกันเกรียว
"ขี้อิจฉาว่ะ" ไอ้เชลโลพูดพึมพำเลยโดนโบกจากมือไอ้เขตเข้าให้ทีนึง
"มึงอายบ้างไหมเนี่ย" ผมส่ายหัวบ่นเสียงเบาอย่างไม่ต้องการคำตอบ  เราเล่นต่อด้วยเพลง Yellow ของ Coldplay เพลงไม่บอกเธอ  เพลงรักคุณเข้าอีกแล้ว  เพลงกันและกัน  เพลงรักนิรันดร์ ซึ่งร้องเพลงไทยกับเพลงสากลสลับกันไปมา  แต่ส่วนมากจะเป็นเพลงสากลเพราะเอาใจคนดูส่วนมากมากกว่า  ทั้งอย่างนั้นพวกเราก็เลือกเพลงที่ติดหูคนฟัง  หรือที่เรียกว่าเพลงตลาดมาเล่นเพราะที่นี่ไม่ใช่การเล่นตามผับบาร์ที่เป็นดนตรีเฉพาะเจาะจงแนวนั้นๆ
พอวงไอ้เจ๋งและไอ้ติสมาถึง  มันรู้ว่าพวกผมมาเล่นที่นี่  พวกมันที่เพิ่งเสร็จจากธุระเลยแวะมาหา  มาเจอกันที่ไม่ได้เจอกันมานานแล้ว  ผมเลยยกให้ไอ้เจ๋งร้องสักเพลง  มันเลือกร้องเพลง Same Love ของ Macklemore ที่ได้รับเสียงปรบมือต้อนรับกันเกรียวกราวเนื่องจากเป็นเพลงที่กำลังดังและเนื้อหาดีไม่น้อย  ผมช่วยมันร้องประสาน  และผมคิดว่าไอ้เจ๋งร้องเพลงแนวนี้ได้ดีกว่าผมมาก  ไอ้เขตเลยได้เปิดตัวกับการเล่นทรัมเป็ตประกอบเพลงนี้ด้วย  ทั้งที่มันไม่ได้เอาทรัมเป็ตมา  แต่ผมไม่รู้ว่ามันไปเอามาจากใคร  เห็นมันวิ่งเข้าไปหลังร้านของเพื่อนพี่เวทแล้วออกมาพร้อมกับทรัมเป็ตด้วยท่าทางดีใจ  คนดูนำเงินมาโยนให้ไม่ขาดสายจนกล่องกีตาร์ของผมเต็มไปด้วยแบงก์ร้อยและแบงก์ยี่สิบ  มีชาวต่างชาติใจดีคนหนึ่งวางเงินให้ถึงสองพันบาท  และจากพี่พีกับพี่ทัวร์อีกคนละสองพัน  เรียกได้ว่าอาเสี่ยกับอาเจ้กระเป๋าหนักมาเอง  เราเล่นต่ออีกหลายเพลงก่อนจะสรุปเพลงจบด้วยกัน  เรียกว่าเครื่องดนตรีล้นวงเพราะมีแขกไม่ได้รับเชิญอย่างพวกไอ้เจ๋งมาด้วย
"อย่าลืมบอกรักกันนะทุกๆวันนะครับ" ไอ้วิทย์พูดเกริ่นขึ้นพร้อมกับยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ให้สาวๆที่เดินผ่านไปมา  พวกเธอต่างยิ้มเขินไอ้วิทย์กันใหญ่
"อย่าให้กูหล่อแบบมันบ้างนะ" ไอ้เขตเบะปากขึ้น
"กูอยากจะรู้..ว่าถ้าหน้าตามันไม่เป็นอย่างนั้น ผู้หญิงจะเขินไหม" ไอ้เขตพูดด้วยสีหน้าอิจฉาเพื่อนตนสุดๆ  ผมยืนขำหน้ามันเพราะมันพูดเอาตลกมากกว่าจะจริงจังอะไร
"ใครที่มีแฟนแล้ว ก็ขอให้รักกันนานๆ"
"ส่วน..ใครที่ เอ่อ..อกหัก ก็ขอให้พบรักใหม่เร็วๆ เจอกับคนที่ใช่และดีกว่า เดี๋ยวสะดุดขาไมตรงนี้ เงยหน้าขึ้นมาเจอแน่นอนครับ เรายกมือเบสให้ไปก่อนเลย" ไอ้วิทย์พูดขำๆ  เสียงกลองจากไอ้เวประกอบเสียงแซว  ทุกคนหัวเราะน้อยๆ  พวกผมแอบอมยิ้มกันไม่ได้
"สำหรับใคร..ที่แอบรักใครอยู่ ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ..การได้บอกรักใครถือเป็นเรื่องที่ดี ถ้ามีโอกาส..ก็อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปนะครับ"
"เพลงนี้เป็นเพลงสุดท้าย..เราวง Lover ขอมอบเพลงนี้ให้ทุกคนครับ" ไอ้วิทย์พูด
"This is the last song. It's called on Top of the World. Happy Valentine's Day. Have a good time." ผมยิ้มพูดก่อนที่ดนตรีจะขึ้นอินโทรโดยการปรบมือพร้อมกัน
       
Thank you Credit songs: Imagine Dragons On Top ot the World by Imagine Dragons
        ~ If you love somebody. Better tell them while they’re here cause
        They just may run away from you ~
       ผมร้องไปยิ้มไปเพราะผู้หญิงชาวต่างชาติตรงหน้ากำลังยิ้มกว้างเหมือนเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในหัวอย่างนั้น  ผมคิดว่าคงเป็นเรื่องที่ดีละมั้ง  ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ยิ้มแบบนี้  ยิ้มเดียวเหมือนตอนที่ผมนึกถึงความกวนประสาทของไอ้เมตรอย่างไรอย่างนั้น

       ไอ้เจ๋งกับไอ้วิทย์ร้องประสานให้อย่างรู้งาน  ผมหันไปยิ้มให้ไอ้เจ๋ง  ทั้งที่เราไม่ได้เล่นดนตรีด้วยกันนานแล้วแต่มันก็ยังมาร้องให้ได้  อีกฝ่ายยักคิ้วกวนเหมือนรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่

      เสียงปรบมือจากคนดูที่ช่วยกันตรงหน้านั้นดังกว่าเสียงปรบมือของนักดนตรีเสียอีก  นี่คือภาพที่ผมไม่ได้เห็นมานานพอดู  ทุกคนที่กำลังยิ้มกับดนตรีที่เราเล่น  เท่านี้ที่ก็เป็นหนึ่งสิ่งที่สามารถหล่อเลี้ยงชีวิตของผมให้ได้เดินทางไปทำในสิ่งอื่นที่ผมรักได้แล้ว  เมื่อไหร่ที่ผมกลับมานึกถึงมักทำให้หายเครียดและเดินต่อได้เสมอ

    "Thank you Imagine Dragons." ผมยิ้มบอกขอบคุณไปถึงนักดนตรีที่สร้างผลงานเพลงที่มีความหมายและทำนองดนตรีดีๆให้เรามาร้องแบ่งความสุขกัน ทุกคนยิ้มปรบมือและนำเงินมาวางให้อีกเป็นครั้งสุดท้าย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-08-2015 22:02:02 โดย เบบี้ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
  "ขอให้มีความสุขครับ" ผมบอกอีกครั้งก่อนที่จะเริ่มทำการแยกย้ายกันไป  เราวางเครื่องดนตรีลงทั้งที่คนดูยังคงนำเงินมาวางไม่ขาดสาย  หลายคนเริ่มทยอยแยกย้ายกันไป  มีชาวต่างชาติเข้ามาขอถ่ายรูปด้วยและถามไถ่ว่าพวกผมเป็นนักดนตรีหรือเปล่า  เลยได้แต่ตอบขำๆไปว่า.."เป็นคนเล่นดนตรี" ด้วยไม่รู้ว่าความหมายที่พวกเขาว่านั่นหมายถึงนักดนตรีแบบไหน  ถ้าใครจะนิยามว่าพวกผมเป็นนักดนตรีหรือเปล่า  ใครจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่จะเรียกกันไปละมัง  สำหรับผมแล้ว  เล่นดนตรีเพราะอยากเล่นเท่านั้น  อยากถ่ายทอดสิ่งที่เรียกว่าทำนองออกมาให้เป็นสไตล์ของตัวเอง  เพราะอยากเล่น..จึงเล่น  เท่านั้นเอง

      ผมคิดว่าคนเราควรมีจุดยืนของตัวเอง  จุดยืนที่มั่นคงและควรเป็นจุดยืนที่ไม่ก้าวแยกไปไหน  แม้ตัวจะเซเพราะลมแรงเท่าใด  จุดยืนยังคงอยู่อย่างนั้น..คงเดิม  ตัวผมเองก็คงเป็นอย่างนั้นละมัง  ผมเชื่อมั่นในจุดยืนของผม  คนเรานิยามความสุขไว้ไม่เท่ากับ  สำหรับผมเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว  เคยมีหลายคนมาทาบทามให้ไปเป็นนักร้องนักดนตรีอาชีพเพื่อชื่อเสียงที่โด่งดัง  ความสุขผมไม่ใช่ตรงนั้นเพราะการที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่ใช่ความสุขที่ยืนยงตลอดไป  ที่เล่นดนตรีอยู่นี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องการคนฟัง  แต่คนเราวัดระดับความสุขในมาตรฐานที่ต่างกัน  นอกจากผมรักที่จะเล่นแล้ว  จุดยืนของผมคือเล่นอย่างไรให้เพลงนั้นๆออกมาสวยงามอย่างที่ต้องการอีกด้วย  ดนตรีก็คือดนตรี  คุณต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่าคุณเล่นมันเพื่ออะไร  เวลาที่ผมได้เห็นทุกคนมีความสุขและเข้าใจในดนตรีที่ผมถ่ายทอดออกไปเพียงคนกลุ่มเล็กๆ  เท่านั้นคือสิ่งที่ผมต้องการ  ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ผมจะนำข้อเสนอที่ให้ไปเป็นนักดนตรีมืออาชีพนั้นนำกลับมาคิดให้ปวดหัว  ผมปฏิเสธออกไปแบบไม่อาลัยอาวรณ์  ไม่ว่าคนรอบข้างจะต่อว่าผมอย่างไร  ผมยังคงเชื่อมั่นและมีความสุขกับชีวิตทุกวันนี้ของผมเสมอ  แม้บางคนบางคนจะบอกกับผมว่า "จุดยืนบางจุดยืนก็ทำมาหาแดกไม่ได้" ผมได้แต่แสยะยิ้มอย่างไม่แคร์  เพราะคนพวกนั้นไม่ได้ทำให้ผมมีความสุข  ผมมีความสุขได้เพราะความสามารถของผม  ผมไม่ได้เล่นดนตรีเพื่อหาเงินทองอยู่แล้ว  ครอบครัวผมไม่เดือดร้อนอะไรเรื่องนี้นั่นยิ่งทำให้ผมเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองรักได้อย่างอิสระ  เงินทองที่ได้มาคือกำไรที่ผมได้รับจากการเล่นดนตรีเท่านั้น  กำไรที่ผมไม่เคยคาดหวังว่ามันจะนับมาเป็นตัวเลขเท่าไหร่  ผมคิดว่าถ้าคนเรามีจุดยืนดีๆอย่างมั่นคง  จุดยืนที่มีคุณธรรมประกอบและไม่ทำให้ใครเดือดร้อน  ไม่ว่าเวลาไหนที่ได้มองกลับมา  คุณจะรู้สึกภูมิใจในตัวเอง..ไม่ว่าใครจะมองเห็นหรือไม่เห็นสิ่งที่คุณตั้งใจทำหรือไม่  จะเข้าใจคุณมากน้อยแค่ไหน  มันไม่มีความหมายเลย..ถ้าคุณไม่มั่นคงในความเป็นตัวคุณเอง  ผมเชื่อมั่นในเรื่องนี้มาเสมอ

"ไปไหนกันต่อดี" ไอ้เวถามขึ้น  ฟ้ามืดแล้ว  นาฬิกาบอกเวลาเกือบหนึ่งทุ่ม  ผมอนุญาตให้มิ้วค์พาองุ่นไปหาอะไรทานได้  แต่องุ่นจะต้องโทรหาผมโดยใช้โทรศัพท์ที่บ้านโทรมาก่อนตอนสองทุ่มครึ่ง  ไม่งั้น..ไอ้มิ้วค์อาจโดนบาทาลูกพักตร์ได้
"ร้านพี่โมท" ไอ้วิทย์พูดเชิงถามความคิดเห็น
"บ้านไอ้เมตร" พี่พีเลิกคิ้วยื่นข้อเสนอแนะดีๆ
"นี่ไม่คิดจะแยกย้ายกันไปเป็นคู่ๆบ้างเลยรึไง!" พี่ทัวร์ที่รู้สึกไม่พอใจในการรวมตัวกันที่สุดแย้งขึ้น  พวกผมหัวเราะ
"เจ๊ไม่เคยได้ยินเหรอ รวมกันเราอยู่ แยกกันเราตาย" ไอ้เขตพูดหน้าเครียด  ผมคิดว่าถ้าแยกกันเวลานี้  คนที่อาจจะตายได้ในที่สุดคือไอ้เขตนั่นล่ะ 
"คนอื่นไม่ตายหรอก มึงนั่นแหละที่จะตาย" ไอ้เจ๋งพูดขึ้นเหมือนรู้กันดีว่าไอ้เขตเป็นคนยังไง
"กูคนนะไม่ใช่กระต่ายที่จะมาซึมตายน่ะห่า" ไอ้เขตย้อน  พวกผมหัวเราะ
"บ้านไอ้เมตรแล้วกัน" พี่พีย้ำ
"ก็ได้พี่" ไอ้วิทย์เห็นดี
"พวกมึงถามเจ้าของบ้านรึยังเนี่ย" ไอ้เมตรว่าหัวฟัดหัวเหวี่ยง
"กูขอพี่โมทแล้ว" พี่พีพูดขำๆ
"เสร็จโจร~" ไอ้เขต  ไอ้วิทย์และไอ้เจ๋งประสานเสียงด้วยน้ำเสียงแสยะ  ไอ้เมตรถอนหายใจเบาๆ
"เออๆ แยกย้ายๆ บ้านไอ้เมตรๆ" พี่พีตะโกนสรุป  พวกผมหัวเราะ  แบกเครื่องเสียงเตรียมกลับ  ก่อนกลับก็ไปลาเพื่อนพี่เวทกับพี่เวทด้วย  พวกเราเดินไปตามทาง  ผมไม่รู้ว่าไอ้เมตรจอดรถไว้ไหนแต่คิดว่ามันน่าจะจอดไว้ที่รับฝากรถที่เดียวกัน  พี่ทัวร์เดินเกาะแขนพี่พีไปไม่ปล่อย  เสียงดนตรีจากผับบาร์ต่างๆดังขึ้น  ผู้คนเดินสวนกันไปมา  ส่วนมากเป็นคู่รักที่เกาะเกี่ยวกันไม่ปล่อย  ผมหันหลังกลับไปมอง  เห็นไอ้เชลโลยื่นอะไรสักอย่างให้ไอ้เขต  ไอ้เขตรับไปเขินๆ
"หึ.." ผมหัวเราะพร้อมกับไอ้วิทย์  เรามองหน้ากันเพราะเห็นเหมือนกันว่าไอ้เขตเขิน  มันสองคนคงไม่สังเกตเห็นว่ามีพวกผมแอบดูอยู่  มันคงคิดว่าการเดินรั้งท้ายนั้นปลอดภัยจากสายตาผู้คนแล้ว 
"มึงน่ะ บอกเรื่องนั้นกับเฮียรึยัง" ไอ้วิทย์ถามขึ้น  ผมหันไปมองมันอย่างได้สติ  ผมกับมันเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันทำให้ได้ปิดเทอมพร้อมกัน  เมื่อสองอาทิตย์ก่อนผมตัดสินใจว่าปิดเทอมช่วงสั้นๆผมจะไปเรียนต่อด้านดนตรีที่อังกฤษ  ปรึกษาแม่กับพ่อแล้ว  ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรและสนับสนุนให้ไป  ผมจึงชวนไอ้วิทย์ไปด้วย  เป็นการชวนเล่นๆเท่านั้น  ผมตั้งใจว่าจะไปเรียนร้องเพลงกับเรียนเปียโนโดยเฉพาะ  เป็นการเรียนเพิ่มเติมในสิ่งที่อยากรู้แปลกใหม่จากอาจารย์ต่างชาติบ้าง 
ส่วนไอ้วิทย์เป็นคนประเภทที่ว่าสนใจแต่ไม่ชอบหาข้อมูล  มันตั้งใจว่าจะไปเรียนกีตาร์โดยเฉพาะแต่จะไปลงเรียนภาษาเอากำไรชีวิตด้วย  มันถามว่าเรียนประมาณไหนอย่างไร  ค่าเรียน  ค่ากินอยู่เท่าไหร่ให้รวมมาให้มันฟัง  มันจะเอาไปให้แม่มันดู  การใช้เงินของไอ้วิทย์กับผมค่อนข้างใกล้เคียงกัน  นั่นเลยยิ่งง่ายต่อการร่างรายการอย่างคร่าวๆส่งไปให้  ซึ่งแม่มันก็อนุมัติยอมให้ไปกับผมด้วย  แม่มันบอกว่าเห็นว่าไปกับผมเลยอนุญาต  ในกลุ่มเพื่อนแม่มันไว้ใจแค่ผมกับไอ้เวเท่านั้น  อีกอย่างก็เห็นว่าน้าผมอยู่ที่นั่นด้วยท่านเลยอนุญาต  น้าให้ผมไปอยู่อพาร์ทเม้นของน้าได้ฟรีเพราะว่าน้าผมเปิดอพาร์ทเม้นให้เช่าและมีห้องว่างอยู่หนึ่งห้องพอดีช่วงที่ผมจะไป  ผมเลยได้อยู่ใช้ได้ฟรีเดือนกว่าๆ  ค่าใช้จ่ายเรื่องเรียน  ค่ากินค่าอยู่สำหรับหนึ่งเดือนครึ่งถึงสองเดือนก็ประมาณเกือบหกแสน  แต่ผมบอกแม่ไปแล้วว่าผมขออยู่แบบไม่ประหยัดมากและไม่ขอทำงานด้วย  เพราะผมมุ่งมั่นไปเรียนดนตรี  ดูคอนเสิร์ต  เรียนรู้ภาษาและกินเที่ยวอย่างเต็มที่  แม่เลยให้งบไว้ไม่เกินแปดแสนบาท  เต็มที่ไม่เกินเก้าแสนบาท  โดยส่วนหนึ่งป้าผมช่วยออกให้ด้วยเพราะเห็นว่านานๆจะได้เลี้ยงหลานรักอย่างใกล้ชิดเสียที  เรียกได้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้น้าผมเห็นดีเห็นงามและดีใจใหญ่
"ยัง..ว่าจะบอกวันนี้แหละ" ผมตอบไอ้วิทย์
"ถ้าบอกก่อนทำวีซ่า มีหวังโกรธกูไปอีกปีนึงอ่ะ" ผมบอก  ไอ้วิทย์หัวเราะ
"แล้วมึงล่ะ" ผมถาม
"บอกแล้ว" ไอ้วิทย์พูด  มันคงอยากให้ไอ้เวไปด้วย  แต่คนในกลุ่มผม  นอกจากไอ้เชลโลที่เดินทางไปต่างประเทศเป็นว่าเล่นแล้ว  การที่จะมีเงินไปเรียนต่างประเทศทีละเกือบล้านในช่วงระยะเวลาสั้นๆทุกปีง่ายดายอย่างไม่ขัดสนนี้ก็มีแต่ผมและไอ้วิทย์นี่แหละที่พ่อแม่คุยได้ง่ายสุด  ว่าไงก็ว่าตามลูก  ไม่เหมือนของไอ้เขตและไอ้เว
"เฮียแม่งเป็นไรวะ" ไอ้วิทย์ยิ้มถาม
"เดินคอแข็งงอนกูอยู่นะนั่นน่ะ" ผมพูดไปถึงไอ้คนข้างหน้าที่เดินไม่ยอมหันมามองผมเลย  ไอ้วิทย์หัวเราะอีก
"ท้องทะเลท้องฟ้ามีเพียงแค่เรา ท่ามกลางหาดทรายขาว แสงดวงดาวพร่างพราว ประกายสวยงาม" ผมเล่นหน้าเล่นตาร้องเพลงอายของ สิงโต นำโชคขึ้น  อาย by สิงโต นำโชค (เครดิตเพลงสิงโต นำโชค _/\_ ขอบคุณ) ไอ้วิทย์ยิ้มกว้างเพราะผมดันจ้องหน้ามัน  ที่จริงผมตั้งใจจะร้องแกล้งไอ้คนที่เดินคอแข็งอยู่ตรงหน้าต่างหากละครับ

"มึงจะเน่าไปไหนเนี่ย" ไอ้เวเดินมาขนาบข้างผม
"คดีกูเยอะ" ผมยักคิ้วกระซิบบอกไอ้เว  พวกมันที่ได้ยินแอบกลั้นขำกันใหญ่  ผมลอยหน้าลอยตาเดินไปร้องไป  ซึ่งเสียงค่อนข้างดังและคิดว่าไอ้คนตรงหน้าคงจะได้ยินเป็นอย่างดี  ไอ้เมตรหยุดเดินหันมามอง  ผมรู้ว่ามันพยายามกลั้นอมยิ้มอยู่
"อะไร" ผมย้อนทำหน้ากวนใส่มันอย่างกลั้นอมยิ้มไว้เช่นกัน  ทำหน้าทำตาเหมือนกับว่าไอ้ที่ร้องอยู่นี้ร้องเล่นๆไม่ได้ร้องให้มันสักหน่อย  มันเบะปากใส่เหมือนงอนอีกแล้วหันไปเดินต่อ
"หากเธอก็รัก เธอก็รู้สึกดีๆ เหมือนกัน...แต่เธอก็เขินอายอย่างนั้น ที่จะต้องพูดมา แค่ร้องว่าอ๊าอิยาอิยา อ๊าอิยาอิยา ก็พอ..และฉันจะขอเป็นคนนั้นที่ดูแลหัวใจ ฉันไม่เคยพูดความในใจที่มีกับเธอเลยสักครั้ง เพราะฉันเขินจนกลัวที่จะพูดไป" ผมหยุดร้อง
"พอแล้วไอ้เหี้ย" ผมพูดขำๆ  พวกมันหัวเราะ
"เค้าขายตรงอ๊าอิยาอิยา มึงนี่ไม่รู้เรื่อง" ไอ้เวว่า
"คนที่ร้องเพลงไม่ตรงคีย์อย่างมีไม่มีสิทธิ์มาว่ากู" ผมกัดมัน  ไอ้วิทย์ขำยกใหญ่
"มึง.." ผมเรียกไอ้วิทย์แล้วหยุดเดิน  มันหยุดเดินด้วยแล้วมองผมอย่างสงสัย
"เอานี่ไปให้มันหน่อย" ผมพูดแล้วเปิดประเป๋าเป้  หยิบของที่เตรียมไว้ออกมา  มันเป็นกล่องดนตรีกล่องเล็กพอดีมือที่ผมสั่งทำขึ้นพิเศษ  ในกล่องดนตรีไม้นี้ข้างในมีรูปผมกับไอ้เมตรสองรูป  หนึ่งรูปเป็นรูปที่ถ่ายด้วยกันสมัยยังเด็ก  ส่วนอีกรูปก็เป็นรูปที่ถ่ายด้วยกันตอนที่มาคบกันนี้  ถ้าเปิดออกก็จะมีเสียงเพลงอีกด้วย  เป็นเสียงเปียโนที่ผมอัดเองกับมือ  เสียเงินไปหลายอยู่เหมือนกันเพราะอยากให้ของชิ้นนี้ออกมาดี
"อะไรวะ" ไอ้วิทย์ยิ้มอย่างอยากรู้  มันรับกล่องของขวัญไปแล้วเดินไปหาไอ้เมตรที่เดินนำอยู่ด้านหน้า
"เฮีย!" ไอ้วิทย์เรียก  ไอ้เวหยุดยืนข้างผมยิ้มๆ  ส่วนไอ้ติสกับไอ้เจ๋งที่กำลังแยกไปอีกทางเพื่อไปเอารถ  พอมันเห็นสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นมันก็หยุดยืนดูอมยิ้มทันที
"มีคนฝากมาให้อ่ะ" ไอ้วิทย์บอก  ไอ้เมตรหยุดเดินแล้วหันไปมองหน้าไอ้วิทย์อย่างงงๆ  มันรับกล่องของขวัญจากมือไอ้วิทย์ไปแล้วหันมามองรอบตัวเหมือนสงสัยว่าใครให้  ผมก้าวเท้าเดินสวนมันไปก่อนเพราะขี้เกียจอยู่ดู  ขณะที่ผมเดินผ่านไป  ไอ้เมตรกำลังเปิดกล่องนั้นนั่นแหละ  คงมีอะไรเกิดขึ้นด้านหลังเพราะพวกมันส่งเสียงแซวกันทันทีทำให้พี่พีกับพี่ทัวร์หันกลับมามอง  ผมส่ายหัวยิ้มให้ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก..เดินต่อเถอะ 
"เฮ้ย! เชี้ยเมตร!" ผมร้องอุทานด้วยความตกใจเพราะจู่ๆมันก็เข้ามาอุ้มผมจากด้านหลัง  มันไม่อุ้มเปล่าแต่กลับเหวี่ยงผมเป็นวงกลมอีกด้วย
"อ๊ากกกกกกกกกกกก กูเสียว!" ผมร้องเสียงหลงกันเลยทีเดียวเพราะมันเหวี่ยงแรงมาก  ทุกคนหัวเราะ
"อื้อออออออออ" พอมันหยุดเหวี่ยงได้  อีกฝ่ายก็ก้มลงล็อกหน้าผมไปจูบปากทันทีอย่างแรง
"แม่ง!" ผมตบหน้ามันให้เต็มฝ่ามือหนึ่งทีแต่มันกลับยืนยิ้มกว้างซะงั้น  โรคจิตฉิบหายแม่ง  กูไม่น่าหลวมตัวเลย 
"ขอบคุณนะเหี้ยน้อย" มันยิ้มบอก  ผมแทบจะกระโดดถีบเพราะเกลียดคำๆนี้จริง "เหี้ยน้อย" "เหี้ยน้อยหอยสังข์" พ่อมึงสิ..สาด
"เดี๋ยว.." ผมปรามอาการดีใจอันโอเว่อร์ของมันไว้ก่อน  ไอ้เมตรชะงัก
"ของกู" ผมแบมือออกตรงหน้ามัน  ทวงสิทธิ์ที่ควรจะได้บ้าง
"อยู่ในห้อง รับรองมึงชอบแน่" มันยิ้มกว้างด้วยท่าทางดีใจล้นเหลือ  ผมมองมันอย่างเจ้าเล่ห์
"ดูดิๆ น่ารักไหม" ไอ้เมตรเอาไปเปิดโชว์พี่พีกับพี่ทัวร์
"แหวะ" พี่ทัวร์เบะปากใส่เหมือนหมันไส้
"ตอแหล!" ไอ้เมตรด่าพี่ทัวร์ให้  พวกผมหัวเราะชอบใจ  กลายเป็นสลับคู่กันไปเพราะพี่ทัวร์เปลี่ยนจากเกาะแขนพี่พีเป็นเข้าไปกอดแขนไอ้เมตรแทน  ผมเดินไปคู่กับพี่พี
"พี่ให้อะไรพี่ทัวร์อะ" ผมถามอย่างสอดรู้  ผมว่าที่จริงผมเป็นคนสอดรู้นะ..แฮะๆ
"ชุดสุดคุ้ม" พี่พียักคิ้วตอบหน้าหื่น  ผมว่าพี่จริงพี่พีเป็นคนหื่นมากนะ..เหอะๆ
"ชุดสุดคุ้ม" ผมย้ำ  อ่านจากหน้าตาพี่พีแล้วไม่น่าใช่เรื่องดีสำหรับพี่ทัวร์
"คนที่ได้เปรียบมันพี่ไม่ใช่ไง" ผมว่า  พี่พียักไหล่
"เซ็กส์น่ะ มันเป็นปัญหาชีวิตคู่นะสลิ่ม" พี่พีจับปากพูดด้วยสีหน้าจริงจังอย่างกับแก้ปัญหาการเมืองอยู่อย่างนั้น
"งั้นดิ" ผมพูดหน้าเอือมพี่แก
"อืม..แต่ว่านะ พี่ควรให้อะไรมันเหรอ" พี่พีหันมาถามผมด้วยสีหน้าคิดไม่ตก  ผมว่าผมเป็นคนไม่มีเซ้นส์เรื่องโรแมนติกแล้ว  แต่พี่พีนี่จัดอยู่ในระบบอาการหนักเลยละ
"ให้อะไรที่คิดว่าพี่ทัวร์จะดีใจไง" ผมตอบโดยพื้นฐาน
"ให้เซ็กส์นี่น่าดีใจออก" พี่พีว่า  หน้าตานี่ตายสุดๆ  ผมขำออกมา
"เฮ้อ พี่นี่นะ.." ผมส่ายหัว
"ไปถามไอ้วิทย์ไป..ผม ไม่น่าคุยกับพี่รู้เรื่องอ่ะ" ผมบ่นแล้วเดินจ้ำเท้าหนีออกมา  พี่พีแม่ง..รั่วอ่ะบอกเลย  ผมหันไปกลับไปดู  เห็นพี่พีเข้าไปคุยกับไอ้วิทย์และไอ้เว  ไม่รู้สามคนนั้นคุยอะไรกัน  พวกมันหยุดชะงักที่ร้านดอกไม้ที่ตั้งขายอยู่ริมทาง  ผมมองว่าพี่พีแม่งคิดพิเรนทร์อะไรอีก  พวกมันกว้านซื้อดอกไม้ที่ร้านนั้นไม่ใช่เพียงช่อเดียว  แต่ซื้อมาเจ็ดแปดช่อใหญ่เรียกได้ว่ามาเต็มอ้อมกอดไอ้วิทย์กันเลยทีเดียว
"เจ๊!" ไอ้วิทย์ตะโกนขึ้น 
"เจ๊!!" มันกระแทกเสียงเรียกพี่ทัวร์อีกครั้งดังกว่าเดิม  ทำเอาคนหันกลับมามองเป็นตาเดียว  ไอ้เมตรกับพี่ทัวร์หยุดเดินหันกลับมามอง  ไอ้วิทย์เดินเข้าไปหา
"ผัวฝากมาให้อ่ะ" ไอ้วิทย์พูดด้วยน้ำเสียงกวนตีน  พวกผมยืนขำกันท้องคับท้องแข็งไปหมด  พี่ทัวร์หันมามองหน้าพี่พีหน้างอๆแต่ก็หลุดอมยิ้มออกมาในที่สุด  ผมบอกแล้วว่าเรื่องปัญญาอ่อนต้องให้พวกเพื่อนผม  อืม..เอาเถอะ  ไปกันได้
"จะถือยังไงหมดเล่า" พี่ทัวร์โวยวายเสียงห้วนแต่หน้ากลับแดงจนเห็นได้
"อ่าว ไม่ถือไว้ผมขว้างทิ้งนะ..ใครจะไปถือให้เยอะแยะ" ไอ้วิทย์ว่ากลับด้วยเพราะว่าดอกไม้เต็มอ้อมกอดของมันเลย 
"เอ้..อย่านะ" พี่ทัวร์ร้องแล้วรีบเข้าไปโอบช่อดอกไม้มาไว้ในอ้อมกอดตัวเองทันที  ทั้งที่ดูทุลักทุเลเพราะว่าตัวพี่ทัวร์เล็กกว่าไอ้วิทย์มาก  ดังนั้นช่อดอกไม้หลายช่อนั้นจึงทำให้พี่ทัวร์โอบไว้แทบไม่หมด
"ชอบอ่ะ" พี่ทัวร์ยิ้มเขิน
"อีนี่ก็บ้าเนอะ" พี่พีเดินมาบ่นเอือมๆที่เห็นพี่ทัวร์ยิ้มหน้าบานด้วยมีความสุข
"มีอะไรกัน กับได้ดอกไม้..อันไหนมันน่ามีความสุขกว่ากันวะ มึงคิดดิ" พี่พีพูดใส่ไอ้เมตรเหมือนจะให้ข้อมูลในความรู้สึกของตัวเองถูกต้องตามแบบฉบับให้ได้
"อีบ้ากับไอ้บอไง" ไอ้เมตรพูดขึ้นแกมหัวเราะเหมือนว่าพี่พีด้วย
"สลิ่ม..ถ่ายรูปให้พี่หน่อย" พี่ทัวร์เรียกผม
"ค้าบๆ" ผมรับปากแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาเตรียมถ่ายรูปให้พี่ทัวร์  พี่ทัวร์ขอถ่ายตัวเองคนเดียวสองรูป  ถ่ายคู่กับพี่พีที่ไม่ค่อยจะเต็มใจนักหนึ่งรูป  และถ่ายรวมกับไอ้เมตรและพี่พีด้วยอีกหนึ่งรูป  หลังจากนั้นก็มีพวกไม่ต้องรับมาถ่ายรวมตัวกันให้วุ่นวายไปหมด  กลายเป็นว่าจากที่ถ่ายรูปแค่พี่ทัวร์คนเดียวก็ต้องถ่ายเป็นหมู่คณะกันไปหลายรูป  ทำเอาเดือดร้อนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเพราะต้องมาช่วยพวกผมถ่ายรูปถึงหลายกล้อง
พอถ่ายรูปเสร็จพวกเราก็เดินต่อ  ผ่านร้านเหล้ามากมาย  ไอ้เมตรรับกีตาร์ไปถือให้เพราะหายงอนผมแล้ว  ผมเดินกอดคอไปกับไอ้เขตสองคน  พอได้ยินเสียงเพลง Blurred Lines จากร้านเหล้าร้านหนึ่งเปิดดังมาก  ผมกับไอ้เขตที่กำลังเดินอยู่นั้นถึงกับชักเท้าหยุดเดินอย่างรู้กันทันที

Credit song: Blurred Lines ของ Robin Thicke
         Blurred Lines by Robin Thicke
         ~ Hey, hey, hey. Hey, hey, hey. Hey, hey, hey ~
        ผมกับไอ้เขตร้องพร้อมกันกระทั่งโยกย้ายตัวไปมาตามจังหวะที่คุ้นเคย  แล้วส่ายสะโพก  ไอ้เมตร  พี่ทัวร์และพี่พีที่เดินนำหน้าอยู่หันมามองยิ้มๆ  วัยรุ่นและนักท่องเที่ยวแถวนั้นต่างหันมามองอย่างสนใจ  เสียงดนตรีก็ได้ใจเอามากๆ  ยิ่งกำลังอารมณ์แบบนี้ยิ่งไปกันใหญ่

ผมร้องตามอย่างชินปาก  ถึงแม้จะไม่เคยได้ฝึกร้องเพลงนี้อย่างจริงจังแต่ก็ชอบฟังเป็นทุนเลยเคยนำเนื้อมาร้องตามบ้างอยู่ครั้งสองครั้งก็จำได้ขึ้นใจแล้ว

   ~ ~
   ไอ้วิทย์มาจากไหนไม่ทราบ  มันวิ่งมากอดคอผมทำให้ตอนนี้ผมกลายเป็นอยู่ตรงกลาง  มันแย่งผมไปร้องซะอย่างนั้น  ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าพวกผมสามคนเต้นก้าวหน้าถอยหลังกันอยู่หน้าผับที่เปิดเพลงนี้อยู่  คนที่นั่งอยู่หน้าผับมองกันขำๆ

   ~ ~
   "Good boy~" ผมกับไอ้เขตที่ร้องประสานกันตรง "Good girl"  ถึงกับต้องชะงักหันไปมองไอ้วิทย์ที่ดันเปลี่ยนเนื้อร้องเป็น Good boy แทนซะอย่างนั้น  พวกผมขำไปร้องไป  คนอื่นยิ่งขำกันใหญ่โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่เดินผ่านไปมาถึงกับหยุดยืนแล้วอัดวิดีโอไว้

   "อ้ะ ปล่อยสเต็ป" ไอ้เขตว่าแล้วปล่อยแขนออกจากคอผม  ผมเลยเต้นโยกไปหาชาวต่างชาติที่อยู่ใกล้ๆด้วยท่าทางทะเล้นใส่ 
เธอปิดปากยิ้มขำหน้าแดงเพราะผมดันเข้าไปเล่นหน้าเล่นตากับประโยคนี้ใส่พวกเธอ

พวกผมปรบมือกันเป็นทำนอง  โยกย้ายท่าเต้นอย่างกวนอารมณ์  เรียกได้ว่าบางท่าเลียนแบบต้นฉบับออกมาเลย  ไม่ได้มีอายใครเลยก็ว่าได้  โดยเฉพาะไอ้วิทย์  มันร้องคำว่า Good boy ทีไร  มันก็เข้าไปเล่นหูเล่นตาให้ไอ้เวที่ยืนหัวเราะเขินอยู่ห่างๆ  เหมือนไม่อยากเข้าใกล้พวกผมอย่างนั้น
   "เชี้ย สะโพกมึงพริ้วมากสลิ่ม" ไอ้วิทย์พูดไปขำไปกับท่าเต้นที่ชูแขนส่ายสะโพกของผม  นี่กะเอาฮาอย่างเดียวเลยนะ  ไอ้เมตรส่ายหัวคล้ายรับไม่ได้  มันถึงกับนั่งยองขำมองผมไปแล้ว
   "ไอ้ฉิบหาย ไปได้แล้ว มึงไม่อายใครบ้างเลยรึไง" พี่พีว่ายิ้มๆพร้อมกับกวักมือเรียกพวกผมอย่างเหลืออด  ผม  ไอ้วิทย์และไอ้เขตจึงกอดคอกันอีกครั้งพร้อมกับเดินไปเต้นไปเป็นจังหวะ  ไอ้ที่เต้นอยู่หน้าร้านเมื่อกี้ว่าน่าอายแล้ว  ผมคิดว่าการเต้นไปเดินไปน่าอายกว่านะครับ  ผมร้องอยู่คนเดียวเพราะพวกมันคงร้องไม่ได้  พึมพำบาบอตามผมไปซะอย่างนั้น

พอผมร้องแทนท่อนที่เป็นเนื้อหาเพลง  ไอ้เขตกับไอ้วิทย์ก็ได้แต่ Hey hey hey ตามทำนองเหมือนจำเนื้อเพลงได้แค่นั้น  ผมร้องไปขำไป  พร้อมกับเต้นชี้ดาวชี้เดือน  เรียกได้ว่าเป็นการเต้นที่รั่วแดกรับไม่ได้สุดๆ  แต่ใครจะมานั่งจำหน้าเรากันละครับ  ผมคิดว่าบางทีเราต้องปลดปล่อยบ้างนะ  แม้ว่าอะไรแบบนี้ผมเคยทำมาแล้ว  เต้นบ้าๆบอๆต่อหน้าผู้คน  แต่มันนานมากเลยที่ผมไม่ได้กอดคอเพื่อนแล้วร้องเพลงแหกปากเป็นบ้าอย่างนี้  กว่าจะถึงรถได้นี่เรียกว่าลำบากพอดู  ผมกลับกับไอ้เมตร  ไอ้เขตและเชลโล  ส่วนไอ้เวไปรถคันเดียวกับไอ้วิทย์  พี่ทัวร์ก็กลับไปกับพี่พีและแยกกันไปเจอที่บ้าน  โดยไอ้เมตรสั่งว่าใครอยากกินอะไรก็ให้ซื้อมาเป็นพิเศษเองด้วย
   เมื่อกลับมาถึงบ้าน  พี่โมทก็โทรมากำชับว่าอย่าทำให้บ้านเลอะและอย่าเพิ่งเมาไปก่อนเพราะว่าพี่เขาจะมาแจมด้วย  ทุกคนดูวุ่นวายไปหมด  จังหวะที่ว่าจะบอกไอ้เมตรเรื่องไปอยู่อังกฤษเดือนครึ่งก็เลยไม่ได้พูดเสียที  เลยว่าจะคุยก่อนนอนไม่รู้ว่าจะได้คุยหรือเปล่าถ้าไม่เมาเสียก่อนละนะ  พอผมกลับถึงบ้านผมก็ขึ้นไปที่ห้องนอนทันทีเพราะอยากรู้ว่าไอ้เมตรมันให้อะไร  เปิดไปก็เจอกีตาร์ตัวเล็กพอดีมือ  เป็นขนาดเล็กกว่ากีตาร์โปร่งมาตรฐาน  ผมดีใจมากเพราะผมอยากได้รุ่นนี้มานานแล้ว  แต่พอจะตัดใจซื้อทีไรก็ได้กีตาร์ตัวอื่นที่โดนใจกว่ากลับมาบ้านทุกที  กีตาร์ที่ไอ้เมตรซื้อให้ใหม่นี้มาพร้อมกับกล่องกีตาร์หนังสีน้ำตาลอย่างดี  กีตาร์ขนาดเล็กที่สามารถพกพาไปไหนได้สะดวกกว่ากีตาร์ขนาดมาตรฐานทั่วไป  เรียกได้ว่ากระแทกใจผมสุดๆ  ผมดีใจมากร้องลั่นบ้าน  ชอบมากแบบ..ชอบมากอ่ะ !!!



- - - - - - - - - - -


   1). *ดูรายละเอียดได้ที่หน้า 516*
             บอก.... สำหรับใครที่รอหนังสือเรื่อง Memorial~ รักแรก รักสุดท้ายนะคะ  ตอนนี้เบบี้กำลังทำการแก้ไขนิยายเรื่องนี้ใหม่ตั้งแต่ตอนที่ 1 ที่ลงไว้บนหน้าเวปจนถึงตอนปัจจุบันเพื่อรวมเล่ม  เขียนแก้ไขที่ว่านี่คือเรียบเรียงเนื้อหาเกือบหมดตั้งแต่ตอนแรกเลยค่ะ  ดังนั้นจะต้องใช้เวลามาก  การเขียนใหม่เพื่อเป็นการปรับสำนวน  คำพูด(เพื่อให้อ่านได้ลื่นไหลขึ้น) ปรับเนื้อหาบ้างเล็กน้อย  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังคงเนื้อหาหลักและสไตล์ของนิยายเรื่องนี้ไว้เหมือนเดิมนะคะ  สำหรับใครที่บอกว่าชอบอ่านสำนวนของ Limited Lovers มากกว่าเรื่อง Memorial~ รักแรก รักสุดท้าย  เบบี้ก็พยายามปรับเรื่องนี้ให้อ่านง่ายขึ้นค่ะ  แต่คำพูดและสไตล์ของตัวละครยังอ่านง่ายๆและไม่เปลี่ยนไปจากเดิมค่ะ 
           และถ้าจะถามว่า.. ตอนนี้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว  เอ่อ..ยังเรียบเรียงแก้ไขได้ไม่ถึงไหนเลยค่ะ  มันเยอะมากจริงๆ  ถ้าหลังจากรีไรท์เสร็จแล้วก็จะต้องจัดหน้า  ตรวจอักษรทั้งหมดและเขียนตอนพิเศษเพิ่มด้วย  ส่วนตอนพิเศษในหนังสือก็ดำเนินไปเรื่อยๆค่ะ  ไม่ได้เร่งรีบอะไรเพราะยังคงคอนเซ็ปเดิมที่ว่า "ตอนพิเศษหนายาวจุใจแน่นอนค่ะ !!"  ดังนั้น..จึงรับปากไม่ได้ค่ะว่าจะประกาศรวมเล่มเรื่องนี้อย่างเป็นทางการได้เมื่อไหร่  ถ้าทุกอย่างมีเปอร์เซ็นต์พอเข้าที่เข้าทางแล้ว  จะมาประกาศแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้งค่ะ


2). ตอนพิเศษ Valentine นี้พิเศษจริงๆค่ะ  อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ปี 2555 (เกือบ 2 ปีแน่ะ) คือกะว่าจะไม่ลงตอนพิเศษนิยายเรื่องนี้ทางหน้าเวปอีกแล้ว  แต่แหม..ก็อยากมามอบความสุขส่งผ่านตัวหนังสือบ้างอะไรบ้าง  ให้เป็นของขวัญพิเศษสำหรับคนที่ไม่ได้แพลนว่าจะซื้อหนังสือเรื่องนี้ด้วย  ถือซะว่าตอนพิเศษตอน Valentine นี้เป็นตอนพิเศษที่จบเรื่องนี้ทางหน้าเวปอย่างเป็นทางการอีกครั้งนะคะ

3). เบบี้เปิดกระทู้พูดคุยสำหรับบอกความคืบหน้าของหนังสือนิยายเรื่องนี้  รวมไปถึงพูดคุยเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้นะคะ  ก็คือจะอัพเดทตลอด  จะสร้างกระทู้ย่อยเพื่อนำไว้พูดคุยโดยเฉพาะ "พูดคุยสัพเพเหระ หนังสือนิยาย Memorial~ รักแรก รักสุดท้าย" ซึ่งจะอยู่ในกระทู้ใหญ่ของ "Talk with us~ Salim & Met and the Gang" หรือสะดวกกว่านั้นสามารถเข้าไปที่ลิ้งค์นี้ค่ะ http://baby.thai-forum.net/t463-topic

4). ติดต่อเบบี้ได้เหมือนเดิมที่ PM เล้าเป็ดของเบบี้(ซึ่งนานๆจะเช็คที  ตอบช้าอย่าว่ากัน ^-^) อีเมล baby_novel แอด ฮอทเมล.com และบอร์ดเบบี้ http://baby.thai-forum.net ค่ะ


      ^..ใครไปทำบุญวันพรุ่นนี้เบบี้ก็ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ..^
สำหรับวันวาเลนไทน์  นอกจากขอให้มีความสุขกันทั่วหน้าแล้ว... ก็ขอให้ทุกคนสวยวันสวยคืน หล่อวันหล่อคืน หน้าแข้งงาม ไอ้นั่นใหญ่ ไอ้นี่อึ๋ม ผมดก คิ้วเข้ม รักแร้ไม่เปียก ตูดไม่บาน #กร๊าก

ไปละ !!... ขอให้มีความสุขกับการอ่านตอนพิเศษ Valentine และอย่าลืมมอบความสุขความสุขให้กับคนที่คุณรักและไม่ได้รักคุณด้วยนะคะ

Happy Valentine's Day
เบบี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-08-2015 22:08:11 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ KaorPaor

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-4

ยาวสะใจแต่ยังอ่านไม่จบเดี๋ยวมาต่อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2014 10:30:20 โดย KaorPaor »

ออฟไลน์ Donaldye

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 563
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
เราดีใจจนจะร้องไห้ คิดถึงสลิ่มเมตรมากๆ
คิดถึงมิตรภาพของสลิ่มกับเพื่อนๆ คิดถึงดนตรีของสลิ่มด้วย ดีใจจริงๆ :sad4:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
นึกว่าตาฝาดดดดดด
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษ
พี่เมตรน้องสลิ่มยังน่ารักเหมือนเดิม เกรียนดีจริงๆ

ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
โอ้ยยย ยยยย ดีใจที่คุณเบบี้มาลงตอนพิเศษ Valentine's คิดถึงเมตรสลิ่ม พีทัวร์ มากๆๆๆๆเลยค่ะ

และดีใจสุดๆ กับการรีไรท์เรื่องนี้ ...ขอบอกว่าจะไม่พลาดค่ะ!!! เก็บตังค์แต่เนิ่นๆเลยยยย ยย  :hao7:

ออฟไลน์ Annko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ดีใจจังที่เบบี้แวะมา ^^
ดีใจอีกเรื่องที่จะพิมพ์เรื่องนี้อีก ^^
รอค่ะ ^^

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
อั๊ยย๊ะ ดีใจมากๆเลย
ขอบคุนนะค่ะ คุนเบบี้ที่จะพิมพ์เรื่องนี้ใหม่
ขอเก็บตังก่อนนะคะ จุบุจุบุ
ขอบคุณนะคะที่แวะมาให้กระชุมกระชวย

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
ดีใจมากๆๆๆๆ ที่ได้อ่าน เมตร กับ สลิ่ม อีกหลังจากหายไป 2 ปี ดีใจมากๆๆ
ขอบคุณเบบี้นะ

ออฟไลน์ น้ำแข็งใส

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
ขอบคุณเบบี้สำหรับตอนพิเศษน่ารักๆค่ะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
เมตร สลิ่ม คิดถึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

ขอบคุณเบบี้ ที่มาลงตอนพิเศษให้นะคะ แล้วมาลงให้อ่านอีกน้า

จะรอรวมเล่ม ไม่ว่าจะรวมปีไหน 555555  :กอด1: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ booboos

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0

ออฟไลน์ รักแรก_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
กรี๊ดดดดดดดดดด

มากรี๊ดก่อนค่อยอ่าน

 :katai5:

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
นึกว่าตาฝาดซะอีก มาจริงๆด้วย :heaven :heaven

ออฟไลน์ nootopazzz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
คิดถึงสลิ่มเมตรและผองเพื่อนมากๆ

สลิ่มยังคงกวนหน้านิ่งกับพี่เมตรเหมือนเคย 555

ดีใจอ่ะที่เบบี้มาเขียนตอนพิเศษพร้อมแจ้งข่าว :hao5:

รอมาอย่างยาวนานในที่สุดก็มีข่าวดี แอร๊ยยย เก็บตังค์รออีกรอบ :katai2-1:


ออฟไลน์ pornvrin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
อร๊ายยยยยยยยย คิดถึงทั้งนักเขียน ทั้งสลิ่มเมตรเลยค่าาาาา ^^

ออฟไลน์ Nankoong

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-5
คิดถึงอิพี่เมตรรรรรรรรร.......รอหนังสือออออออ

dolphins

  • บุคคลทั่วไป
เบบี้ :กอด1:  คิดถึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  :mew1:  :man1:
สลิ่มยังคงกวน.. อย่างสม่ำเสมอ คิดถึงเดอะแกงค์ทุกคนเลย
รอเวลาที่จะได้เรื่องนี้มาครอบครอง แล้วก็ถ้าเป็นไปได้ก็หวังว่าจะได้อ่านเรื่องใหม่ของบี้อยู่นะ

ปล.ครั้งแรกในรอบปีที่อ่านนิยายแล้วเม้นท์ เพราะตั้งแต่เรื่องนี้จบก็เป็นนักอ่านเงาตลอด 555

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม
+1

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
คิดถึงงงงงงงงงงอ้ะ  :กอด1: :mew3: :mew3: :mew3:


ในที่สุดก็จะคลอดแล้ว   :man1: :man1:  รออยู่นะคะ  ทำเสร็จเมื่อไหร่จะขอจัดสักชุด



รอได้ค่ะ  ช้า ๆ ได้หนังสือเล่มหนาและเล่มงาม   :laugh:



สู้ ๆ ค่ะ


 :katai3:



ออฟไลน์ Bear Company

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษค่ะ  :m3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด