[18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]  (อ่าน 224787 ครั้ง)

vvivy

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ:

ความรักทำให้คนเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลย

แต่ก็ไม่อยากจะโทดคิม เห็นใจทั้งสามคนอ่า

 :pig4: :pig4:writerนะคะ

รอติดตามๆๆน๊า o13

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
คิมดูน่ากลัวจัง แล้วอามจะทำไงต่อไปดี

ออฟไลน์ nopkar

  • เป็ด indy
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-3

cmos

  • บุคคลทั่วไป
สงสารทั้ง 3 คนอ่ะ

จะเป็นยังไงต่อไปน้า

TaNWa

  • บุคคลทั่วไป
 :z13: พี่อาม
ชอบๆๆๆๆๆพี่คิมมาก :sad4:พี่คิมรักพี่อามมากชอบๆๆ

JkrR

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่11 ครึ่งแรกของครึ่งหลัง (ซอยสามนั่นเอง พี่อามเขียนยาวมากตอนนี้)
.
.
.
จนกระทั่งผ่านไปหนึ่งอาทิตย์คิมต้องกลับไปจัดการเรื่อง Check out ออกจากหอที่ยังค้างคาให้เรียบร้อย แต่วันนั้นเหมือนว่าฟ้าจะเป็นใจ คิมลืมโทรัพท์มือถือผมเอาไว้ พอได้โอกาสผมรีบเปิดดูทันที และผมว่ามี SMS จนเต็มกล่องจัดเก็บ ถูกต้องแล้วครับ นาวนั่นเองที่ส่งมาประมาณว่า
 
“พี่อามไปไหนนาวคิดถึงจะแย่แล้ว”
“ทำไมไม่เปิดมือถือ”
“เกลียดนาวแล้วใช่ไหม”
“พี่อามใจร้าย” ผมเลยส่งข้อความบอกกลับไปสั้นๆว่า
“คิมรู้เรื่องหมดทุกอย่างแล้ว ตอนนี้กำลังโดนขังอยู่ไม่รู้อยู่ที่ไหน” เท่านั้นแหละครับ นาวโทรมาหาผมทันที
“พี่อามเป็นไงบ้าง” เสียงนาวขาดห้วง ฟังแล้วรู้เลยว่าร้องไห้
“พี่ก็สบายดี คิมไม่ได้ทำรุนแรงกับพี่หรอก แต่ก็มีเจ็บตัวบ้างเหมือนกัน”
“พี่คิมทำอะไรพี่อาม” นาวอารมณ์เปลี่ยนเร็วมาก ดูโกรธขึ้นมาทันที เมื่อผมบอกว่าเจ็บตัว
“ไม่เป็นไรหรอก พี่ก็กำลังชดใช้ความผิดไง”
“ให้นาวไปช่วยนะ”
“นาวครับ พี่ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ไหน”
“ฮือพี่อามนาวขอโทษ นาวผิดเองที่ทำให้พี่อามเป็นแบบนี้” นาวเริ่มกลับมาร้องไห้อีกครั้ง
“ไม่หรอก พี่เป็นคนเริ่มต้นทุกอย่างเอง”

“แต่นาวสมยอม นาวเต็มใจ แล้วนาวก็ข่มขืนพี่อามด้วย พี่อามจะผิดได้ไง” ผมคิดในใจว่า ผมโดนนาวข่มขืนหรือเหมือนโดนข่มขืนกันแน่ เพราะก็ต้องยอมรับความจริงว่าลึกๆแล้วผมรู้ว่ามันจะเกิดแต่ก็ไม่ได้จะยับยั้งมัน”
“นาวแค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่โทรไปใหม่ อย่าโทรมานะ เพราะถ้าคิมจับได้ เราอาจไม่ได้คุยกันอีก” นาวร้องไห้เหมือนน้ำตาจะเป็นสายเลือดเลย ผมฟังแล้วหดหู่หัวใจมากมาย พอพูดกับนาวจบ ผมก็นึกถึงคนๆหนึ่งขึ้นมา
“พี่หมอชาญช่วยผมด้วย”
“เฮ้ย ใจเย็นๆเกิดอะไรขึ้น ค่อยๆพูดดิ” พี่หมอชาญฟังแล้วตกใจคำพูดผมมาก ผมเลยต้องอธิบายคร่าวๆว่าผมโดนคิมจับตัวมา แต่ไม่ได้บอกว่าเกิดจากเรื่องนาว แต่บอกว่ามีปัญหากันแล้วก็เลยถูกจับตัวมา เพราะถ้าเล่าทางโทรศัพท์ตอนนี้คงเล่ารายละเอียดได้ไม่ดีพอแน่นอน

“เฮ้ยลองดูดีๆ ไม่มีอะไรบ่งบอกเลยเหรอว่าอยู่ที่ไหน”
“อืม ไม่รู้ ไม่มีอะไรบอกเลย”
“มีโทรศัพท์ในห้องรึเปล่า ลองโทรไปถามส่วนกลางดู อาจได้คำตอบก็ได้นะ”
“แต่ผมไม่เห็นโทรศัพท์เลยนะ”
“ลองหาดู คิมอาจจะซ่อนไว้ก็ได้นะ เป็นไปไม่ได้หรอก ที่คอนโดหรูๆจะไม่มีโทรศัพท์ไว้ในห้องน่ะ”
“ครับพี่หมอชาญ ผมจะลองดู”
“ได้เรื่องแล้ว รีบโทรมาบอกนะ จะได้รีบช่วย”

จากนั้นผมรีบไปรื้อค้นโทรศัพท์โดยทันที ตอนแรกก็หาไม่เจอไม่รู้ว่าว่าคิมเอาไปไว้ที่ไหน จนกระทั่งมาถึงในห้องน้ำผมก็ค้นไปเรื่อยๆปรากฏว่าเจอครับ คิมเอาโทรศัพท์ไปซ่อนอยู่ในกล่องแล้วเก็บไว้ในตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้า (ถ้าใครเคยไปพักที่โรงแรมบางแห่งก็เป็นประมาณนี้) ผมรีบหาสายโทรัพท์ให้เจอแล้วรีบต่อสายทันที โดยผมโทรไปถามส่วนกลางถึงข้อมูลของคอนโดนี้ โดยให้เหตุผลว่าต้องการเขียนจดหมายแต่จำที่อยู่โดยละเอียดไม่ได้ ก็เลยทำให้รู้ว่าตัวเองอยู่ไหน แอบตกใจเล็กน้อยว่าตัวเองถูกขังกลางเมืองเลยทีเดียว แล้วก็ใช้มุขบอกว่าบังเอิญทำ keycard หายเลยออกจากห้องไม่ได้ พอเจ้าหน้าที่ทราบเขาก็มาจัดการแก้ไขเปิดห้องให้ครับ โดยผมซื้อ keycard ไว้อีกใบ แต่ก็นั่นแหละครับไม่รู้ว่าเป็นอะไร ทำไมถึงมีคนชอบมายุ่งเรื่องของผมอยู่เรื่อย

“ขอโทษนะคะ พี่รู้จักแฟนคุณ....(ชื่อจริงคิม)รึเปล่าคะ” สาวน้อยน่ารักที่มาช่วยผมถามทำไมหรือครับ
“ครับรู้จักดีเลยมีอะไรรึเปล่า” ผมคิดในใจกูนี่แหละ มีอะไรรึเปล่าเนี่ย
“อ๋อเห็นคุณ...บอกว่าจะเอาคอนโดนี้มาไว้เป็นเรือนหอนะค่ะ เลยไม่นึกว่าจะมีใครมาอยู่ที่ห้องนี้ได้ เพราะปกติแล้วดูคุณ...จะหวงห้องนี้มาก” เอาแล้วนี่ถ้าคิมกลับมาความจะแตกมั้ยเนี่ย เอาไงดีวะ

“อ๋อ คิมเขาให้ผมมาพักด้วยเพราะต้องไปทำงานเก็บข้อมูลด้วยกันที่ต่างจังหวัดนะครับ จะได้ทำงานด้วยกันสะดวกๆ” ผมนึกเรื่องที่คิมแต่งเรื่องให้สุดที่รักผมฟังมาใช้โดยฉับพลันครับ แล้วเรื่องก็จบลงไปครับ แต่เรื่องใหม่ก็เกิดเพราะผมคิดว่าถ้าคิมสนิทกับคนที่ส่วนกลางขนาดบอกว่าจะเอาห้องนี้ไว้เป็นเรือนหอ ถ้าวันนี้เกิดผู้หญิงคนนี้บอกว่าได้คุยกับผมจะทำอย่างไรล่ะ ไม่ได้แหละต้องรีบโทรตามพี่หมอชาญมาด่วนเลย

จากนั้นผมรีบโทรไปบอกพี่หมอชาญโดยด่วน พี่หมอชาญขับรถมาหาผมใน 45 นาที แล้วก็รอบคอบมากคือใส่แว่นดำแล้วแต่งตัวปกปิดมาอย่างดี กันกล้องจับได้ ดีอย่างที่คิมกับพี่หมอชาญไม่เคยคุยกันโล่งใจไปอีกดอก อย่างน้อยถ้าผมต้องหนีไปกับพี่หมอชาญคิมคงสืบลำบาก ตอนแรกจะช่วยผมเก็บของหนีโดยด่วน แต่ในตอนนั้นผมรู้สึกว่า การหนีต่อไปไม่มีประโยชน์ เพราะสุดท้ายก็ต้องเจอทั้งสองหนุ่มอยู่ดี ผมเลยตัดสินใจแฉตัวเองอย่างหมดเปลือกต่อหน้าพี่หมอชาญ ผมบอกพี่หมอชาญว่า ถ้าฟังเรื่องจบจะด่าผมก็ได้ แต่ขอให้ช่วยผมหน่อย ผมไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้อีกแล้ว ผมเลยเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นยกเว้นเรื่องลีลาสัมพันธ์สวาทบนเตียงเท่านั้น พอเล่าจบพี่หมอชาญก็เงียบสักพักก่อนจะพูดว่า

“เฮ้ย พี่ไม่ด่าแกหรอกว่ะ พี่ออกจะอิจฉาแกด้วยซ้ำ เขาสองคนดูรักแกมากนะเว้ย”
“พี่ครับ แต่ผมน่ะมีอะไรกับน้องตัวเอง แถมนอกใจแฟนอีกต่างหาก มันน่าอิจฉาตรงไหน”
“คนบางคนโหยหาความรักยังไม่มาเลย แต่แกเนี่ยมาเกยให้ถึงที่ เรื่องนี้พี่ว่ามันไม่มีผิดถูกหรอก แต่ว่ามันอยู่ที่ว่าความไม่ลงตัวต่างหาก”
“ถ้าผมเลิกกับทั้งสองคน น่าจะดีกว่านะ”
“อาม พี่ว่าถ้าแกเลิกทั้งสองคน ทั้งสองคนถ้าไม่ฆ่ากันตาย ก็ฆ่าตัวตายแน่ๆ”
“งั้นถ้าผมไปมีใหม่ล่ะ”
“หนักกว่าเดิมแน่นอน”
“โอ้ย งั้นผมไปตายดีกว่า
“แกตาย อีกสองคนนั้นก็ตายตามแกอยู่ดี”
“แล้วให้ทำไง”
“คิมเคยได้ยินเรื่องการแต่งงานของคนอินเดีย สมัยโบราณมั้ยที่ว่า ภรรยามีสามีหลายคนได้ในเวลาเดียวกันน่ะ ในเรื่องมหาภารตะก็มีปรากฏการแต่งงานของพี่น้องปาณฑพทั้งห้ากับผู้หญิงคนเดียวกันด้วยนะ
“เฮ้ย อย่าบอกนะว่า” ผมอึ้งสุดขีด
“เห็นทีว่าต้องอยู่ด้วยกันสามคนแล้วล่ะ”
“ไม่อาววววววววววว แล้วผมจะบอกญาติพี่น้องว่ายังไง มีลูกพี่ลูกน้องน้องตัวเองเป็นแฟนเนี่ยนะ ขนาดคู่ชายหญิงยังโดนวิจารณ์แหลกเลย แล้วผมโดนไม่โดนด่าเจียนตายก่อนเหรอ (รู้สึกว่าช่วงนี้ของผมคล้ายละครชิงชังที่พึ่งจบไปเลย ตอนที่เห็นก้อยกับยงชัยต้องผิดหวังเพราะเป็นพี่น้องกัน คิดถึงตัวเองขึ้นมาทันทีเลยครับ)

“จะยอมโดนด่าเจียนตายหรืออยากเห็นน้องสุดที่รักของตัวเองตายจริงๆล่ะ” ผมอึ้งไม่รู้จะทำยังไงดีครับ
“มันเป็นไปไม่ได้หรอก มันเป็นไม่ได้” ผมได้แต่ส่ายหัว
“หรือว่าจะหนีดีละ อามก็ไม่อยากทำใช่ไหมล่ะ” พี่หมอชาญพูดซะจนหาทางหนีทีไล่ไม่ถูก
“ไม่หนีแต่ขอหลบไปสักพักนึงก่อนละกัน เรื่องนี้คงเร็วเกินไปที่จะพูด คงต้องขอเวลาสักพักหนึ่ง กลับบ้านก่อนละกัน” ผมตัดสินใจ “พักปัญหา”
“เฮ้ย ถ้าแกกลับบ้านนะรับรองมีเฮ รับรองเกิดศึกชิงนายแน่ๆ”
“พี่หมอชาญอย่ากวนดิ คิมไม่รู้จักบ้านใหม่ผมซะหน่อย” ผมแย้ง

“เอาจริงๆ แกคิดเหรอว่าคิมเขาจะหาแกไม่เจอ บ้านรวยขนาดนั้นคิดว่าจะไม่มีเส้นสายหรือไง แค่หาบ้านคนไม่ยากหรอก คิดดูดิขนาดแบกน้องๆหมีอย่างแกมาไว้ที่คอนโดกลางเมือง โดยที่ไม่มีใครตามมาสืบหรือมาเจอแกเลย แบบนี้คิดว่าควรกลับบ้านรึเปล่า” ผมก็เลยแบบว่า เออพี่หมอชาญมันก็พูดจริงว่ะ ประเด็นก็คือแล้วผมจะไปอยู่ไหนล่ะ

“แล้วพี่หมอชาญจะให้ผมไปอยู่บ้านพี่หรือ ผมว่ามีความเสี่ยงที่จะเจอคิมได้ทุกเมื่อเลยนะ”

“ฮื่อ ไม่อ่ะถ้าคิมตามมาเจอ พี่ก็โดนฉีกอกเอาน่ะสิ ขนาดรักแกจะตายแกยังโดนขนาดซะยับเยินเลย” ประมาณว่าฟังผมเล่าแล้วก็ยังกลัวแทน
“แล้วจะให้ไปอยู่ไหนอ่ะ”
“ไปอยู่บ้านสวนยายพี่ละกัน ที่สมุทรสงคราม ติดแม่น้ำ อากาศดี อยู่สบาย ว่าแต่เราเหอะอยู่ได้รึเปล่า ออกจะพ่อแม่หวง แฟนก็ดูแลไม่ห่างเลย เดี๋ยวถูกยายพี่ใช้งานหนัก ร้องไห้หนีไปก่อนจะว่าไง” พอผมได้ยินที่ติดริมน้ำผมก็หูผึ่งแล้วครับ เพราะผมชอบที่ริมน้ำมาก ไอ้พี่หมอชาญยิ้มกวนๆ ดูมันดิกวนไม่เคยเปลี่ยน

“โหพี่หมอชาญ พูดอะไรแบบนั้นผมน่ะติดดินนะ ตอนเด็กๆผมชอบไปสวนผลไม้บ้านน้าที่นราธิวาสบ่อยจะตาย อยู่กับคิมผมก็ทำตัวธรรมดา แม้คิมจะดูแลผดีเกินก็เหอะ”
“ถ้างั้นรีบไปเก็บของเลย ยิ่งช้ายิ่งเสี่ยง พี่ขับรถแบบแวนมาน่าจะขนของได้เยอะนะ เร็วๆเลย” ผมรีบไปเก็บของตัวเองทันที เอาที่คิดว่าต้องใช้ หลักฐานประจำตัวอะไรก็เอาไปด้วยเพื่อต้องใช้ ปกติผมเก็บของช้า แต่วันนั้นเก็บของเร็วมาก ของเยอะมากแต่เก็บเสร็จภายใน 45 นาที ตรวจดูจนแน่ใจแล้วว่าไม่ลืมอะไรแน่ ก่อนจะไปผมรู้สึกว่าถ้าหายไปเฉยๆเดี๋ยวคิมจะคลั่งแน่ เขียนจดหมายไว้สักหน่อยดีกว่า ผมไม่อยากทำร้ายคิมให้ต้องเจ็บมากไปกว่านี้ ผมเขียนประมาณว่า

"คิมสุดที่รัก
ถ้าคิมได้อ่านจดหมายของเราแล้ว แสดงว่าเราคงไม่อยู่ในห้องนี้แล้วล่ะ เราไม่ได้จะหนีจากคิมไปหรอกนะ อามแค่คิดว่าเรื่องที่เกิดระหว่างเราสองคน บางทีต่างฝ่ายอาจต้องการเวลาพัก ให้แต่ละฝ่ายได้คิดทบทวนบ้าง เพราะบางครั้งการที่อยู่คนเดียวอาจจะพิจารณาได้ถ้วนถี่มากกว่าเหมือนตอนที่เราทำใจให้จิตสงบไง เราไม่สามารถให้ใครมาทำให้เราสงบได้หรอกนะ นอกจากตัวเราเองที่ต้องดูแลใจของตัวเราให้ดีๆ ที่ผ่านมาคิมรักเรามากเกินไป จนทำให้เรารู้สึกผิดที่ไม่ได้มีรักเดียวอย่างคิม คิมอย่าโทษตัวเองนะว่าเป็นเพราะคิมทำอะไรรุนแรงเลยเป็นต้นเหตุที่ทำให้อามหนีไป อามแค่อยากไปพักผ่อนให้สบายใจ คิมแน่ใจได้เลยว่าเราไม่ได้ไปอยู่กับนาวแน่นอน แต่เราไปอยู่ในที่ที่หนึ่งที่รับรองได้เลยว่า สงบและปลอดภัย เป็นที่ในแบบเราชอบ ถ้าเราพร้อมแล้วเราจะกลับมาหาคิมนะ เราสัญญา สิ่งหนึ่งที่อยากขอร้องคือคิมอย่าทำร้ายตัวเองนะ เพราะมันคงจะเป็นตราบาปสำหรับเรามากเลยถ้าคิมทำร้ายตัวเอง เราสัญญาว่าเราจะกลับมา ขอบคุณที่ดูแลเรามาตลอดตั้งแต่เป็นเพื่อนกัน จนมาเป็นแฟนกันคิมก็ยังคงดูแลเราดีมากกว่าเดิม แม้เราจะถูกขังไว้ที่นี่ คิมก็ดูแลเราอย่างดี ชาตินี้อามคงหาใครที่ดีกว่าคิมไม่ได้อีก
อามรักคิม
อาม"

พอเขียนจบผมรู้สึกเศร้าใจมาก แทบจะร้องไห้ออกมา แต่รู้ว่าถ้าร้องไห้จะหมดแรงเดินไหว เลยต้องรีบข่มใจ วางจดหมายในที่ที่เห็นชัด แล้วรีบขนของออกมา พอได้ขึ้นรถพี่หมอชาญตอนที่ขับออกมาแล้ว จึงปล่อยโฮออกมายกใหญ่ เป็นมหกรรมการร้องไห้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตผม มันหลายอารมณ์ความรู้สึกมาก ทั้งเศร้าใจ ผิดหวังในตัวเอง คิดถึงเรื่องเก่าๆระหว่างคิมกับผม ถ้าไม่มีนาวอยู่ด้วยเราแทบไม่เคยห่างกันเลย เป็นห่วงคิม แล้วอีกสารพัดอารมณ์ ร้องไห้เหมือนน้ำตาจะท่วมรถได้อยู่แล้วมั้งครับ พี่หมอชาญต้องคอยปลอบเป็นระยะ ผมร้องไห้จนหลับคารถไปเลยครับ

พอตื่นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองตื่นมาอยู่ในบ้านสวนของคุณยายพี่หมอชาญแล้วครับ ตอนมาถึงก็น่าจะประมาณช่วงบ่ายสองบ่ายสามได้แล้วครับ
พอผมลงจากรถ คุณยายท่านก็รออยู่แล้ว ผมคิดว่าพี่หมอชาญคงโทรบอกคุณยายตอนที่ผมหลับน่ะครับ คุณยายอัธยาศัยดีมาก ต้อนรับผมอย่างดียังกับเป็นหลานตัวเองจริงๆเลย คิดถึงคุณยายตัวเองจัง พี่หมอชาญบอกกับคุณยายว่า เหตุผลที่ต้องมาอยู่ที่นี่เพราะต้องการสัมผัสวิถีชีวิตแบบชุมชนชาวสวน เพื่อไปพัฒนาที่ดินของตัวเองในอนาคต แต่ก็เป็นเรื่องจริงนะครับ เพราะที่บ้านผมมีที่ดินในครอบครองที่รกร้างว่างเปล่าอยู่ ผมว่าเหมาะกับการทำเกษตรที่สุด มาอยู่ที่นี่ก็ดีเลยจะได้เก็บความรู้เยอะๆ แล้วสวนคุณยายก็อยู่ริมน้ำผมก็ชอบมากๆด้วย อยู่ที่นี่คงได้สงบจิตสงบใจเป็นอย่างดี

ตกเย็นคุณยายลงมือทำอาหารเอง เป็นอาหารพื้นบ้านที่รสชาติอร่อย ผมว่าอาหารพื้นบ้านเนี่ยไม่จำเป็นต้องปรุงรสชาติมาก แค่มีวัตถุดิบที่หาได้สดๆตามท้องถิ่นก็อร่อยแล้วครับ คุณยายบอกว่าดีใจที่ผมมาอยู่ด้วย เพราะปกติคุณยายอยู่คนเดียวแล้วก็มีคนงานในสวนที่เป็นคนเก่าคนแก่อยู่ด้วย ลูกๆหลานๆก็ออกไปทำงานข้างนอกหมด แต่คุณยายยืนยันว่าจะอยู่ที่นี่ เพราะรักสวนแห่งนี้มาก เพราะเป็นสถานที่แห่งความทรงจำระหว่างคุณยายกับคุณตาที่เสียชีวิตไปแล้ว ฟังแล้วผมละซาบซึ้งจริงๆ เฮ่อแล้วผมละ คิดแล้วกลุ้ม

พี่หมอชาญกลับหลังทานข้าวเสร็จเพราะพรุ่งนี้ต้องตรวจคนไข้แต่เช้า ผมคิดอะไรได้บางอย่าง เลยเขียนจดหมายถึงคิมและนาวเพราะกลัวจะว่าถ้าหายเงียบไปเลยเรื่องอาจบานปลายมากกว่านี้ โดยให้พี่หมอชาญหย่อนจดหมายที่กรุงเทพแทนที่จะเป็นที่นี่เพราะจะได้ไม่รู้ว่าปลายทางจริงๆคือที่ไหน และคืนนี้จะเป็นคืนแรกที่ผมนอนคนเดียว ผมจำไม่ได้แล้วว่านอนคนเดียวครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ และคืนนี้ผมก็ไม่รู้ว่าจะทนกับความเหงาเปล่าเปลี่ยวในค่ำคืนนี้ไปได้อย่างไร

ค่ำคืนผมต้องนอนคนเดียว มันช่างอ้างว้าง เปล่าเปลี่ยว เดียวดาย เมื่อไม่มีคิมหรือนาวมาอยู่แนบกาย การนอนคนเดียวมันทำให้ใจผมว้าวุ่นและยิ่งสับสนในความรู้สึกของตัวเองว่าอันที่จริงแล้วผมรักใครกันแน่ เพราะในตลอดคืนผมก็คิดถึงทั้งสองคนสลับกันไปมา จนแทบจะนอนไม่หลับ พอหลับก็เหมือนได้ยินเสียงของสองคนนี้ร้องเรียกชื่อผมสลับกันไปมา จนพลอยฝันเห็นว่าสองคนนั้นกำลังทำร้ายตัวเองเพราะเสียใจที่ผมหนีไปและไม่ยอมอยู่กับใครสักคนหนึ่ง ที่สุดแล้วผมไม่ได้นอนทั้งคืนจนกลายเป็นหมีแพนด้าไปในบัดดล แต่โดนแบบนี้ซะบ้างก็ดี จะได้ไม่ต้องไปรักใครง่ายๆแล้วตัดใจไม่ลงแบบนี้อีก เฮ่อ

การที่ผมอยู่ในบ้านสวนคุณยาย ก็มีเรื่องสนุกให้ทำเยอะมาก เพราะได้ลองทำอะไรใหม่ๆที่เด็กในเมืองอย่างผมไม่เคยทำมาก่อน ตั้งแต่ขุดดิน เก็บผลไม้ รดน้ำต้นไม้ แปรรูปผลิตผลทางการเกษตร และที่ผมชอบมากคือการได้มีโอกาสใส่บาตรทางน้ำ ซึ่งปกติผมจะเห็นแต่ในละครไทยแนวพีเรียดซะมากกว่า ผู้คนในละแวกใกล้เคียงทั้งคนงานหรือเพื่อนบ้านทั้งหลายก็ใจดีกับผมมาก นอกจากนี้ผมยังได้มีโอกาสเป็นไกด์นำชมสวนของคุณยาย เพราะคุณยายทำโครงการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์กับนักท่องเที่ยวทั้งหลาย คุณยายท่านก็ใจดี๊ ใจดีอุตส่าห์จ่ายค่าจ้างโดยหักจากเปอร์เซ็นต์จากตค่าบัตรเข้าชมสวนของนักท่องเที่ยว ผมพยายามปฏิเสธแล้วแต่คุณยายท่านก็ยืนยันว่าคนเราทำงานแล้วก็ต้องได้เงิน ผมเป็นเหมือนลูกหลาน ท่านไม่ปล่อยให้ผมทำงานฟรีๆหรอก โธ่คุณยายครับแค่ให้ที่พักพิงกับผมก็เป็นบุญคุณมากแล้วครับ

ในที่สุดเวลาผ่านไปประมาณสองเดือนกว่า รู้สึกว่าอยู่ในช่วงเปิดเทอมใหม่ของพวกมัธยมปลายแล้วมั้ง ผมก็ยังเขียนจดหมายหาคิมกับนาวโดยฝากพี่หมอชาญส่งเป็นประจำแต่ผมก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะกลับไปเคลียร์ปัญหาให้มันจบๆซะที.....


****************************

ตอนนี้ยาวได้อีก ดังนั้น เห็นทีต้องซอยสาม ตอนหน้า ยิ่งมันได้อีก เหอๆๆ อย่าลืมติดตามชม หุหุ

vvivy

  • บุคคลทั่วไป
ค้างๆอ่ะค่ะ..มาต่อเร็วๆนะคะ รอติดตามค่า

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
สองเดือนที่อามหายไป..นาวกับคิมจะเป็นยังไงบ้างเนี่ยะ....


รออ่านตอนต่อไปจ้า :L2: o13


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






gypsy

  • บุคคลทั่วไป
รอตอนต่อไปอย่างด่วนเลยครับ

อยากรู้บทสรุปแล้วว่า จะเป็นยังไง


ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
คงต้องทำตามอย่างที่พี่หมอว่าอ่ะ

สามคนบนเตียงเดียว

 :-[

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
รอคนโพส คะ

ตอนหลังนี้เศร้าๆๆ คิม ดูโรคจิตมากขึ้นจนน่ากลัววว


ง่าๆๆๆ อามจะทำไงต่อไป


รอตอนต่อไปนะคะ

JkrR

  • บุคคลทั่วไป
รู้สึกว่าอยู่ในช่วงเปิดเทอมใหม่ของพวกมัธยมปลายแล้วมั้ง ผมก็ยังเขียนจดหมายหาคิมกับนาวโดยฝากพี่หมอชาญส่งเป็นประจำแต่ผมก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะกลับไปเคลียร์ปัญหาให้มันจบๆซะที จนกระทั่งวันนึงมีคณะนักเรียน ม.ปลายคณะหนึ่งเดินทางมาทัศนศึกษาที่สวนคุณยาย ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ก็พบว่าโรงเรียนที่มาคือโรงเรียนที่นาวเรียนอยู่ ผมเลยป้องกันตัวไว้ก่อนโดยอ้างว่าไม่สบายกะทันหันและให้พี่อีกคนรับหน้าไปแทนก่อน แต่ก็ยังแอบมาดูห่างๆว่าจะมีนาวมาอยู่ในคณะนี้ด้วยรึเปล่า พอไม่มีก็โล่งใจแต่เพื่อความปลอดภัยผมคงต้องอู้งานไปก่อนเพราะอาจมีใครรู้จักนาวก็ได้ ขอแอบกลับไปที่ห้องก่อนดีกว่า แต่ขณะที่ผมกำลังเดินกลับห้องเพราะก็รู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังถูกติดตาม พอหันกลับไปมอง ปรากฏว่าถูกตามจริง ซึ่งก็คือนาวนั่นเอง ผมตกใจวิ่งหนีไม่คิดชีวิต นาวก็วิ่งติดตามผมอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นผมเหมือนโจรหนีตำรวจยังไงยังงั้นเลย แต่ที่สุดแล้วเมื่อถึงที่ลับตาคนที่รกไปด้วยต้นไม้จนไม่มีใครกล้าเข้ามาเพราะถูกงูกัด นาวก็ตะครุบตัวผมไว้ได้จนลงไปกองไปกองกับพื้นทั้งคู่ นาวใช้ปากบบดขยี้จูบผมอย่างบ้าคลั่ง

“พี่อามทำไมทำแบบนี้ นาวจะเป็นบ้าตายอยู่แล้วรู้มั้ย” นาวพูดจบก็ไซร้ตามเนื้อตัวผมไม่หยุดหย่อน
“นาวปล่อยพี่เดี๋ยวนี้นะ อย่าทำแบบนี้”
“ไม่ พี่อามไม่รู้หรอกว่านาวคิดถึงพี่อามขนาดไหน นาวจะเป็นบ้าตายอยู่แล้วรู้มั้ย นาวได้แต่เอาจดหมายของพี่อามมาจูบก่อนนอนทุกคืน การที่เราไม่รู้ว่าคนที่เรารักหายไปไหน มันทรมานยิ่งกว่าตายอีกรู้มั้ย” เมื่อนาวพูดจบเสื้อผ้าท่อนล่างผมก็หายไปเรียบร้อยแล้ว แล้วนาวก็ใช้มือและปากจัดการท่อนลำของผมอย่างหื่นกระหาย ผมขัดขืนสุดกำลัง แต่ก็โดนนาวเอาตัวทับไว้ ตอนนั้นนาวแรงเยอะมากจริงๆผมสู้ไม่ไหว แบบนี้รึเปล่าที่เขาบอกว่าเวลาเกิดเหตุการณ์บางอย่างอาจทำให้คนเรามีพละกำลังมหาศาล อย่างไฟไหม้แล้วยกโอ่งได้เป็นต้น ผมเองแม้ว่าไม่อยากทำแบบนี้แต่ก็อดเสียวกับนาวไปไม่ได้ ที่สุดแล้วผมก็เสร็จคาปากนาวและน้ำก็แตกออกมาอย่างมากมายเพราะไม่ได้ออกมาเลยตั้งแต่มาอยู่ที่สวนคุณยาย มันเลอะเทอะเปรอะเปื้อนทั้งปาก ทั้งหน้า ทั้งตาของนาวเต็มไปหมด นาวปาดน้ำกามที่เลอะเทอะทั้งหลายไปกินหมดจนเกลี้ยงโดยความหื่นกระหาย พอผมน้ำแตกผมก็หมดแรงขัดขืน นาวไม่รอช้ารีบเอาท่อนลำของตนออกมา มันผงาดออกมาอย่างน่ากลัวกว่าครั้งใดๆ นาวใช้น้ำลายป้ายที่หัวท่อนลำตัวเองและที่รูสวรรค์ผมก่อนจะเสียบเข้าไปอย่างรวดเร็วและไม่บันยะบันยัง ผมสะดุ้งเฮือกเพราะไม่ได้โดนเสียบมานาน มันทั้งเจ็บทั้งเสียวในเวลาเดียวกัน แรงกระแทกของนาวทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ผมสั่นไปหมดทั้งร่าง จนที่สุดแล้วนาวเองก็เสร็จสมอารมณ์หมายจนผมเองก็น้ำแตกไปอีกรอบ ผมรู้สึกว่าตัวเองน่าจะมีเลือดซึมออกมาด้วย นาวลงโน้มตัวลงมาซบผมทั้งๆที่เราสองคนกำลังเปลือยท่อนล่างอยู่ด้วยกันทั้งคู่ แล้วก็เอาแต่ร้องไห้ แทนที่ผมจะโกรธ จะต่อว่านาว ผมกลับเอามือไปโอบกอดนาวเอาไว้ ผมเห็นนาวร้องไห้แล้วก็ใจอ่อนทุกที ที่สุดแล้วนาวกับผมก็ลุกขึ้นมานั่งแล้วนาวก็จูบผมต่ออย่างหื่นกระหายเพราะขาดรสรักระหว่างกันไปนาน ผมพยายามปฏิเสธแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ถูกนาวโอบรัดเอาไว้ในอ้อมแขน ขณะที่ปากก็จูบผมไปอย่างไม่รู้จักจะพอได้ซะที

นาวจูบผมอยู่นานจนพอใจ ก็เข้ามากอดผมไว้ไม่ยอมปล่อยเลย
“พี่อามกลับบ้านกับนาวนะครับ” นาวใช้สายตาวิงวอนสุดๆ
“ไม่ได้หรอกพี่บอกคิมไว้แล้วว่าจะไม่กลับไปหานาว อีกอย่างคุณยายเจ้าของสวนที่นี่ก็ดีกับพี่มาก จะให้หายไปเฉยๆคงไม่ได้หรอก”
“แต่นาวคิดถึงพี่อามทุกวันเลย พี่อามจะไม่เห็นใจน้องเลยเหรอ”
“คิดถึงอย่างเดียวไม่พอหรอก พี่ต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเองที่สัญญากับคิมไว้แล้ว อีกอย่างพี่เกรงใจคุณยายด้วย” ผมพยายามหาเหตุผล
“อะไรๆก็พี่คิมตลอด พี่อามไม่รักนาวแล้วใช่ไหม” นาวทำท่าจะร้องไห้อีกแล้ว เสียบผมซะจนสมใจแล้วยังจะมาบีบคั้นหัวใจผมอีก
“แล้วมันไม่ใช่เพราะพี่ไม่ยอมทิ้งนาวหรอกเหรอ พี่ถึงโดนคิมเล่นงาน ถ้าพี่ไม่รักนาว ไม่เห็นใจนาว พี่ไปอยู่กับคิมไม่ดีกว่าเหรอ” พูดจบผมก็หันหน้าไปทางอื่นเพราะรู้สึกว่ากดดันเหลือเกิน จนไม่อยากมองให้นาวเห็น

“งั้นคืนนี้นาวขออยู่กับพี่อามทั้งคืนเลยได้มั้ย” นาวอ้อนวอนด้วยความน่าสงสาร แต่ผมไม่ใจอ่อนง่ายๆหรอก
“ไม่!!! กลับไปกับที่โรงเรียนซะ” ผมรีบใส่กางเกงแล้วเดินหนีออกมาทันที นาวก็ตามไม่ลดละ พออกมาจากที่ตรงนั้นได้ ก็เจอคุณยายพอดี
“อามมาทำอะไรตรงนี้ละลูก รกจะตายเดี๋ยวก็โดนงูกัดหรอก” คุณยายถามด้วยความสงสัย

“เอ่อ คือว่า” ผมนึกอะไรไม่ออกเลยครับ แล้วก็มีเสียงแทรกพูดขึ้นมาว่า
“พี่อามเขาพาผมมาชมสวนให้ทั่วๆน่ะครับ” พูดจบนาวก็แนะนำตัวเองกับคุณยายเสร็จสรรพ ไม่เปิดโอกาสให้ผมพูดอะไรเลย
“อ้าว นี่น้องชายอามเหรอเนี่ย บังเอิญจังเลย ว่าแต่เย็นนี้ต้องรีบไปไหนต่ออีกรึเปล่า
“ไม่ล่ะครับว่าจะอยู่กับพี่อาม เพราะเราไม่ได้เจอกันนานมากเลย” นาวยิ้มกริ่ม แล้วผมก็ตกเป็นรองจนได้
“งั้นเย็นนี้อยู่ทานข้าวเย็นกันนะลูก จะค้างเลยก็ได้นะ อยู่กันหลายคนสนุกดี”
“จริงเหรอครับคุณยาย ดีมากเลยครับ” นาวยิ้มดีใจสุดขีด โอ้ยงานเข้าอีกแล้วกู

นาวรีบวิ่งเข้าไปบอกอาจารย์ที่คอยมาคุมว่าจะขอกลับกับพี่ชาย อาจารย์ก็ไม่ว่าอะไร เป็นอันว่าคืนนั้นนาวก็ได้ร่วมทานข้าวเย็นกับผมและคุณยาย นาวดูร่าเริงสุดขีดแต่ผมได้แต่นิ่งเงียบเพราะไม่รู้ว่าคืนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง
เมื่อถึงเวลานอนผมตัดสินใจมานอนที่พื้นข้างล่าง เพราะไม่อยากนอนใกล้นาว เพราะกลัวว่าจะโดนอะไรอีก แรกๆดูเหมือนว่าจะดี ต่างคนต่างก็นอนหลับไป แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้สักพักนึง อยู่ๆนาวก็มามัดมือผมไพร่หลัง ผมตั้งตัวไม่ทันโดนนาวอุ้มขึ้นมาแล้วโยนลงไปที่เตียงดัง “พลั่ก”

“พี่อามนี่ตัวหนักนะเนี่ย กว่าจะอุ้มขึ้นมาได้แทบแย่”
“ปล่อยพี่เดี๋ยวนี้นะ” ผมไม่พอใจมาก
“เรื่องอะไรกว่าจะอุ้มขึ้นมาได้หนักจะตาย นาวจะเล่นรักกับพี่อามให้หายอยากไปเลย
“นาวพี่ขอละ อย่าทำกับพี่แบบนี้เลยนะ” ผมกลัวและกำลังจะร้องไห้
“ทำไมอ่ะ เวลาสองเดือนนี้ทำให้พี่อามลืมรสชาติระหว่างเราไปแล้วเหรอ”
“พี่สงสารคิม”

“งั้นตอนนี้สงสารผมก่อนละกัน” พูดจบนาวก็บรรเลงเพลงรักต่อ ผมจำอะไรไม่ได้มากรู้แต่ว่าตัวเองน้ำแตกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เต็มไปด้วยความเสียวซ่านและเสียงครวญครางของเราสองคนตลอดคืน แม้ผมกำลังจะหลับแต่นาวก็ยังปฏิบัติการอยู่ เมื่อตื่นเช้ามาผมแอบตกใจที่ว่าเรานอนอยู่ในท่า 69 ผมนอนตามปกติ แต่ท่อนลำของผมนาวยังอมไว้คาปาก เหมือนว่ามันจะมีน้ำทิพย์ที่นาวต้องรองรับมันเอาไว้โดยไม่ให้หกหล่นแม้แต่หยดเดียว ผมเห็นภาพนี้แล้วเหนื่อยใจว่านาวดูจะอาการหนักและหื่นกามขึ้นอีกมากมาย ด้วยความที่ผมยังคงถูกมัดไพล่หลังอยู่ เลยต้องใช้วิธีการขยับตัวไปมาเพื่อปลุกนาว พอนาวลื่มตาตื่นขึ้นมา อ้าปากออกจากท่อนลำผมแล้ว นาวก็ลุกขึ้นมาก่อนจะทิ้งตัวลงมากอดผมเหมือนจะไม่ให้ผมจากไปแน่น เพราะกอดรัดซะแน่นเหมือนผมกับเขาจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน

“ปล่อยได้แล้ว พี่หายใจไม่ออก” นาวดูเหมือนจะไม่ฟัง ทันทีที่ผมอ้าปากพูด นาวก็บดขยี้ปากผมอย่างเร่าร้อนและเนิ่นนาน จากนั้นนาวก็กลับมากอดผมอีกแต่คลายวงแขนลงไปมาก ผมนึกว่าจะขาดอากาศตายซะแล้ว นาวพูดขึ้นมาว่า
“พี่อามกลับบ้านกับนาวเหอะ” นาวพูดเสียงวิงวอน
“ให้พี่อยู่ที่นี่เถอะ ไม่งั้นพี่จะผิดสัญญากับคิมที่ว่าจะไม่กลับไปหานาว”
“งั้นนาวจะมาหาพี่อามทุกอาทิตย์เลยนะครับ”
“อืมได้สิ” ผมไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรดี นาวได้ยินแบบนี้ก็ดีใจมาก เข้ามาโอบกอดผมอีกเป็นเวลาเนิ่นนาน แต่คราวนี้แก้มัดผมด้วยแล้วก็ให้ผมโอบกอดเขาด้วยเช่นกัน นาวได้แต่พูดคำว่า “พี่อามของผม ผมรักพี่อาม” แต่ผมได้แต่นิ่งเงียบด้วยความเหนื่อยใจ

นาวอยู่กับผมตลอดจนกลับไปในช่วงบ่าย ช่วงก่อนกลับไปนาวดูมีความสุขมากกกกกกกก แต่ผมกลับร้อนรุ่มไม่เป็นอันทำอะไรเลย หลังจากที่ทานข้าวเย็นเสร็จ ผมก็ออกมาเดินเล่นนอกบ้านเพื่อให้ใจสงบแก้อาการสับสนของตัวเอง ขณะที่ผมกำลังเดินเล่นอยู่ๆก็มีรถคันหนึ่งแล่นเข้ามา ผมมองไม่ชัดเพราะแสงไฟหน้ารถแยงตา คนขับลงมาจากรถอย่างรวดเร็ว ตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่าเป็นใครเพราะช่วงนั้นเริ่มค่ำแล้ว แต่เมื่อเขาเดินมาใกล้ๆผม Shock สุดขีด เพราะคนที่เดินเข้ามาก็คือคิมนั่นเอง คิมมาได้ไงผมงงไปหมดแล้ว

“อามจริงๆด้วย” คิมเข้ามากอดผมไว้ซะแน่น ต่อจากนั้นเกิดอะไรขึ้นผมไม่รู้ เพราะผมเป็นลมไปแล้ว
ตื่นมาอีกทีผมก็รู้สึกตัวว่านอนอยู่ในห้องแล้ว แต่ไม่ได้นอนอยู่คนเดียวมีอะไรสักอย่างหนักๆมาทับตัวผมอยู่ ดูอีกทีก็คือคิมนั่นเองที่นอนกอดผมไว้อยู่ เมื่อผมตื่นก็เป็นธรรมดาที่จะขยับเขยื้อนตัวเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ แต่คิมก็ตื่นขึ้นมาด้วย พร้อมๆกับพูดว่า

“ตื่นแล้วหรื่อครับที่รัก” พูดจบก็โผเข้ามากอดผมอีก แต่ผมได้แต่นิ่งอึ้งและเงียบไปพักใหญ่ จนคิมสังเกตได้
“อามเป็นอะไรทำไมเงียบจัง”
“คิม เราขอโทษนะ เรากลัวแล้วก็สับสนไปหมดแล้ว”
“เราขอโทษนะ เราทำให้อามกลัวใช่มั้ย เราไม่จะไม่ทำอย่างนั้นแล้วนะ ตอนที่อามไม่อยู่กับเรา เราทรมานแทบตายเราจะไม่ทำอะไรให้อามหนีเราไปอีกแล้ว เราขอโทษนะ” พูดจบก็มาหอมแก้มผมแล้วก็ซอกคอ โอ้คิมคนเดิมของผมกลับมาแล้ว
“ที่เรางงคือคิมตามเรามาถูกได้ไง”
“คือมันเป็นเรื่องบังเอิญน่ะ เราไม่เคยเล่าให้อามฟังล่ะสิ ว่าเราจบมัธยมมาจากที่เดียวกับน้องนาว แล้วก็มีรุ่นพี่คนนึงที่จบที่เดียวกับคิมซึ่งสนิทกันมาฝึกสอนอยู่ที่นี่ด้วย เขาโทรมาบอกคิมว่าเหมือนเห็นแฟนคิมมาอยู่ที่นี่ เพราะคิมเล่าให้เขาฟังว่าแฟนตัวเองหายไป เรารู้ก็แทบจะเหาะมาเลยรู้มั้ย” ผมรู้สึกว่าทำไมชีวิตกูมันช่างนิยายชะมัด เล่าไปคนต้องมีคนบอกว่าไม่จริงชัวร์ๆ ทำไมชีวิตผมต้องเป็นอย่างนี้อยู่เรื่อยเลย

“แล้วคุณยายอ่ะ” ผมนึกถึงคุณยายขึ้นมาได้พอดี
“ไปนอนแล้วล่ะ บอกคิมให้ดูแลอามดีๆด้วย ว่าแต่น้องนาวมาที่นี่ด้วยใช่ไหม” ผมก็พยักหน้าแต่ก็อธิบายบอกว่าผมไม่ได้ชวนนาวมานะ แต่เขามาของเขาเอง
“เราไม่ได้ว่าอะไรหรอก แค่น้อยใจที่นาวตามอามเจอก่อน เราคิดถึงอามมากเลยรู้มั้ย” คำพูดคิมช่วงท้ายดูขาดห้วง เป็นเสียงเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ แต่คิมกลั้นมันเอาไว้ ผมเลยเข้าไปโผกอดคิม
“เราก็คิดถึงคิมเหมือนกัน เราขอโทษด้วยที่เห็นแก่ตัวแบบนี้ เราแค่ไม่อยากทำร้ายคิมแล้วแค่นั้นเอง”
“อามอย่าหนีเราไปอีกเลยนะ เราอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีอาม เราจะเป็นที่สองรองจากน้องนาวก็ได้ แต่อามอย่าทิ้งเรานะ เราทนไม่ได้จริงๆ” คำพูดคิมคำนี้มันเสียดแทงไปในใจผม ปกติแล้วผมไม่ชอบคนที่ชอบคบใครมากกว่าหนึ่งคนในเวลาเดียวกัน แต่ตอนนี้ผมกลับทำซะเอง ผมก็เลยสับสนและรังเกียจตัวเองเหลือเกิน

“ไม่เอาคิม ไม่พูดอย่างนั้น” ผมไม่อยากให้คิมลดค่าของตัวเองมาขนาดนี้
“พูดแบบนี้อามจะทิ้งเราจริงๆเหรอ อามฆ่าคิมให้ตายดีกว่า เราทนไม่ได้จริงๆนะ” คิมกำลังจะร้องไห้จริงๆ ผมจะบ้าตายแล้วครับ จะอธิบายก็ไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมาในเวลานั้น ผมก็เลยตัดสินใจจูบคิม คิมจูบตอบผมอย่างหื่นกระหาย และต่อจากนั้นเราก็บรรเลงเพลงสวาทตลอดคืน อย่างเร่าร้อนสลับกับแผ่วเบา คืนนั้นผมมีความรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะถูกคิมกลืนกินไปทั้งตัว เพราะไม่มีส่วนไหนในร่างกายผมที่ไม่ถูกปากและลิ้นของคิมในการขบกัดอย่างเบาๆและโดนเลียไล้ไปทั่วทั้งตัว ตอนนั้นเหมือนผมจะเหือดแห้งไปทั้งตัว คืนก่อนก็โดนนาวเล่นทั้งคืน คืนนี้ก็มีคิมคอยปรนเปรอ น้ำกามของผมมันหายไปหมดเลย ผมเหนื่อยจนหลับแต่คิมยังบรรเลงเพลงรักต่อไป ไม่รู้เป็นรอบที่เท่าไหร่

ผมตื่นมาอีกครั้ง เพราะโดนแสงแดดส่องเข้าตา เลยเห็นคิมเอาหน้าซุกไซร้กับอกผมอยู่ คิมยิ้มกริ่มมีความสุข แดดที่ส่องหน้าเขา ทำให้เขาช่างดูน่าหลงใหล คิมผมยาวขึ้นมากดูท่าว่าสองเดื่อนที่หาผมไม่เจอเขาจะไม่ตัดผมเลย เป็นเพราะผมใช่มั้ยเนี่ยที่ทำให้เขาไม่สนใจจะดูแลตัวเอง ผมปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมา เพื่อจะไปใส่บาตรพร้อมกับคุณยาย วันนั้นเป็นวันที่ผมมีความสุขมากอีกวันเพราะไม่ได้ใส่บาตรกับคิมนานแล้ว แต่ที่ผมแปลกใจคือคิมดูสงบและเยือกเย็นลงมาก ปกติเขาเป็นใจร้อน แต่รอยยิ้มของเขาที่ปรากฏบนใบหน้าทำให้ผมสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างจริงๆ

ตลอดทั้งสัปดาห์นั้นคิมก็อยู่กับผมโดยตลอด คราวนี้คิมติดผมมากยังกับพ่อหมีลูกหมี (ใครเป็นพ่อเป็นลูกคิดเอาเอง) แต่ช่วงที่อยู่ด้วยกันสองวันแรก ผมขอคิมพักเรื่องบนเตียงก่อนเพราะไม่ไหวแล้ว มันปวดเมื่อยไปหมดเลยทั้งตัว แต่คิมก็ยังไม่วาย เดี๋ยวจูบๆผมตลอดจนผมละกลัวว่าจะมีใครมาเห็นเขา แม้ว่าคิมจะมีความสุขแต่ผมกลับมีความกังวลว่าเดี๋ยวปลายสัปดาห์นี้นาวก็ต้องมา และไม่ต้องรอนานนาวก็มาจริงๆ แถมมาตั้งแต่เช้าโดยที่คิมยังนอนกอดผมอยู่ด้วย (ดีนะที่วันนั้นไม่ได้เปลือยเปล่า) ในขณะนั้นเราทั้งสามคนต่างก็ได้แต่นิ่งอึ้งไปตามๆกัน บรรยากาศมันดูอึดอัดมาก (สมัยนี้ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าน่าจะเรียกว่า บรรยากาศแบบมาคุๆ) จนคุณยายยังทักเลยว่าเป็นอะไรกันไป ผมเองก็ตอบแถไปตามเรื่อง จนมาถึงจุดสำคัญเมื่อตอนกลางคืน เพราะเราสามคนต้องนอนในห้องเดียวกัน ปัญหาคือต่างคนต่างก็ไม่รู้จะนอนกันตรงไหน ผมเลยตัดสินใจนอนที่พื้น สองคนนั้นเลยต่างคนต่างไปนอนที่พื้นโดยแยกกันไปคนละมุม ตอนแรกคิดว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว แต่ว่า... ผมรู้สึกได้ว่ามีคนมากอดผมจากด้านหลังแล้วก็รัดแน่นมาก

“คืนนี้หนาวจังเราขอนอนกอดอามนะ” คิมนั่นเอง ผมพยายามห้ามแล้วแต่คิมรัดผมแน่นมากซะจนทำอะไรไม่ได้ ต้องปล่อยคิมไปเพราะถ้าพูดดังก็กลัวนาวจะได้ยิน แต่ไม่ต้องรอนานหรอกครับ นาวก็เขามาหาผมเหมือนกัน โดยนาวดึงแขนของผมที่ยังว่างอยู่ออกมาแล้วก็มาหนุนแทนหมอนแล้วกลิ้งไปกลิ้งมา ก่อนจะมาซบลงที่ใกล้กับหน้าผมแล้วพูดว่า

“ให้นาวอยู่ใกล้ๆพี่อามนะครับ พูดจบก็ซุกหน้านอนลงไปโดยสงบ สองคนนั้นหลับปุ๋ย แต่ผมกำลังจะเป็นบ้าตายด้วยความสับสน ประเด็นก็คือ คิมมาป่วนเปี้ยนที่เป้าผมเลย แถมถอดกางเกงแล้วก็รูดท่อนลำขึ้นลงเลย ผมพยายามเอามือปัดแล้วแต่ไม่ได้ผล ผมไม่อยากให้น้องเห็น แต่ไม่ทันแล้วครับ นาวรู้สึกได้ว่าผมขยับตัว แล้วการกระทำก็ไวกว่าความคิดนาวทำสิ่งที่ผมตกใจมากคือมือหนึ่งก็รัดผมไว้ อีกมือก็เอาไปเล่นก็ท่อนลำผม กลายเป็นคู่แข่งทั้งสองคนกลายมาเป็นพันธมิตรทางเซ็กส์ คือต่างคนต่างใช้มือคนละข้างโอบรัดผม มืออีกคนละข้างก็เล่นกับท่อนลำและพวงสวรรค์ของผมอย่างเมามัน

“ทั้งสองคนหยุดเดี๋ยวนี้นะ ไอ้บ้าเอ้ย” ผมพยายามร้องห้ามแต่เหมือนทั้งสองคนเข้าขั้นหน้ามืดขนาดหนักต่างคนต่างเร่งมือของตัวเองเพื่อให้ผมถึงเส้นชัย ต่างคนต่างระดมจูบ ระดมไซร้ผมอย่างไม่มียั้ง ที่สุดแล้วผมก็น้ำแตกคามือของคนทั้งคู่ ที่ผมตะลึงก็คือต่างคนต่างก็เอาปาดน้ำของผมมาไว้ในมือ แล้วเอาขึ้นมาเลียกินไปจนหมด ผมทั้งตกใจและรู้สึกร้อนผ่าวในเวลาเดียวกัน เมื่อเสร็จกิจต่างคนต่างโอบรัดผมไว้แน่น เหมือนเราสามคนกลายเป็นแซนวิช ที่มีสองคนนั้นเป็นขนมปังชิ้นใหญ่ๆที่กำลังเบียดแฮมอย่างผมเอาไว้อย่างแน่นหนา ผมอึดอัดมาก จนต้องร้องว่าให้คลายวงแขนลงหน่อย แม้ว่าสองคนนั้นจะคลายวงแขนลง แต่ต่างคนก็ไม่ยอมปล่อยผมเลย และท่อนลำของผมแทบจะพ่นน้ำรักออกมาตลอดทั้งคืน จนผมแทบจะขาดใจตาย

เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาผมรู้สึกเหมือนตัวเองถูกเบียดแบบแทบเอาเป็นเอาตาย คิมประกบหลังนาวประกบหน้า ต่างคนต่างโอบรัดผมไว้อย่างแน่นหนา ยังกับนักโทษเลย จนผมต้องบอกว่า

“ปล่อยเหอะ เช้าแล้วจะไปใส่บาตร” สิ่งที่ทำให้ผมตกใจกว่าก็คือ สองคนนี้กลับไม่ได้ปล่อยผม แต่มองกันไปมองกันมา แล้วโดยที่ไม่ต้องเอ่ยคำใด ผมก็โดนสองคนนี้เปลื้องผ้าจนล่อนจ้อน
“เฮ้ยทำอะไรอ่ะ พอเหอะเมื่อคืนนี้แทบตายแล้วนะ ยังไม่พออีกเหรอ”
“เปล่านะ คิมจะพาอามไปอาบน้ำต่างหาก” คิมยิ้มกริ่ม
“ใช่ๆๆ อาบน้ำๆ พี่อามจะได้สบายตัวไง” นาวดูท่าทางเจ้าเล่ห์กว่ามาก ผมยังไม่ทันจะตอบโต้อะไร ก็โดนสองคนนี้ลากเข้าไปในห้องน้ำแล้ว ผมพยายามบ่ายเบี่ยงและหนีออกมา แต่ก็โดนสองคนนี้ล็อกเอาไว้

“พี่อามอย่าขัดขืนดิ เดี๋ยวไปใส่บาตรไม่ทัน คุณยายจะสงสัยเอานะ ว่าสามคนเนี่ยหายไปไหนกัน” นาวพูดดักทางผมจนผมต้องยอม ห้องน้ำในห้องที่ผมนอนไม่มีฝักบัว มีแต่ขันตักอาบ นาวเป็นตักน้ำมารดตัวผม จากนั้นคิมก็เอาสบู่เหลวมาใส่มือแล้วลูบไล้ตามตัวผม ผมดิ้นหนีแต่ก็ถูกนาวล็อกเอาไว้จากด้านหลัง นาวไซร้ไปที่หลังใบหูและตามซอกคอผม คิมก็ใช้มือลูบไล้ไปตามตัวผม แล้วจัดการดูดผมอย่างแทบเป็นแทบตาย ที่สุดแล้วนาวก็ล็อกผมไว้ให้คิมได้ใช้ปากเล่นกับท่อนลำของผม แล้วสองคนนี้เขาก็เปลี่ยนกันมาเป็นคิมที่เข้ามาล็อกตัวแล้วให้นาวได้ใช้ปากกับท่อนลำผมบ้าง ผมได้แต่ดิ้นไปดิ้นมา จนที่สุดแล้วพอผมใกล้จะกระฉูดออกมาอีกรอบ ทั้งสองคนก็ยืนขึ้นมาโอบผมไว้จากด้านหลัง ต่างคนก็เอามือหนึ่งโอบผมไว้ อีกมือหนึ่งก็ช่วยกันให้ท่อนลำของผมให้ถึงจุดหมาย พอใกล้ถึงขีดสุด ทั้งสองคนก็เอาผมผิงไว้กับผนังให้ห้องน้ำ ต่างคนต่างคุกเข่าลงแล้วก็ใช้ปากของตน ปากสองปากต่างดูดเลียท่อนลำแท่งเดียวอย่างหื่นกระหาย จนที่สุดแล้วน้ำกามผมก็พุ่งกระฉูดไปที่หน้าของทั้งสองคนจนเลอะเทอะไปหมด แต่ต่างคนต่างก็ยังดูดท่อนเลียท่อนลำของผมต่อไปจนมั่นใจว่ามันแห้งสนิท ต่างคนต่างก็ปาดน้ำกามที่เลอะหน้าของตนเข้าไปยังลิ้นของตน ผมหมดแรงทรุดฮวบลงมาตรงกลางระหว่างคนสองคน สองคนนี้ก็เข้ามระดมจูบผมไม่ยั้ง จนอารมณ์ของผมแตกกระเจิงไปหมดแล้ว จากนั้นคิมก็เอาน้ำมาล้างตัวผมอีกที แล้วช่วยกันลากผมออกมาแต่งตัว ตอนที่ออกมาใส่บาตรกัน สองคนนั้นต้องช่วยประคองผมออกมาจากห้อง จนคุณยายถามว่าผมเป็นอะไร ผมก็บอกว่าไม่สบาย

“ยายใช้งานอามหนักไปรึเปล่าลูก” คุณยายสงสัย
“เปล่าครับ ไม่ใช่นะครับ” ผมรีบปฏิเสธ
“อ๋อพอดีว่าอามเขาคิดถึงบ้านแล้วน่ะครับ” คิมรีบตอบทันควัน เป็นการส่งสัญญาณมาที่ผมว่า ผมต้องกลับไปชดเชยความผิดที่หนีมาได้แล้ว
“อ้าวเหรอ อืมอามก็อยู่นี่นานแล้วนะ ที่บ้านคงเป็นห่วงแล้ว จะกลับวันไหนบอก เดี๋ยวยายจะทำอาหารสุดฝีมือเลี้ยงส่งเลยดีมั้ย” แม้ว่าคุณยายดูรื่นเริง แต่เหมือนท่านจะใจหายเหมือนกัน
“ดีเลยครับคุณยาย” นาวยิ้มกริ่มแล้วตาที่มองมายังผมก็เหมือนจะกินผมได้ทั้งตัว น่ากลัวจริงๆ

“ไปใส่บาตรกันเถอะลูก สายแล้วนะ” คุณยายเร่งพวกเรา ผมเองลำบากที่สุดเพราะแทบจะหมดแรง พอมาถึงที่ท่าน้ำ แรงจะตักข้าวยังไม่มีเลยครับ สองคนนั้นเลยได้ทีร่วมกันกุมมือผมไว้ แล้วตักข้าวร่วมกัน ในสักษณะที่มือผมอยู่ใต้มือเขาทั้งสองคน ตายแล้วแบบนี้ก็โดนข่มนี่หว่า แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้ครับ ตายแน่ๆเลยกู พอกรวดน้ำสองคนนี้ก็กุมมือผมไว้อีก สรุปคือหนีไปไหนไม่ได้เลย ยังดีที่คุณยายไม่ทันสังเกต ไม่งั้นคงงงว่าไอ้สามคนนี้มันจะกุมมืออะไรกันหนักหนา ต่อจากนั้นคุณยายก็บอกให้ผมไปพักผ่อน เพราะดูท่าแล้วถ้ายังทำงานอาจอาการแย่กว่านี้ แต่ผมกลัวมากว่าถ้ากลับไปนอน อาจจะไม่ได้นอนมากกว่า พอถึงที่ห้องผมพูดเลยว่า อย่าทำอะไรผมเลยผมกลัวแล้ว แรงก็ไม่มี คิมกับนาวคงจะเข้าใจ เลยไม่ได้รุมปรนเปรอผมต่อ แต่ทั้งสองก็เข้ามานอนกอดผมไว้ คิมโอบผมจากทางด้านหลัง ส่วนนาวก็มาก็กอดผมจากข้างหน้า ผมหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า ภายใต้อ้อมกอดจากทั้งสองคนในเวลาเดียวกัน
 
************************************

น่าอิจฉาหรือน่าสงสารดีละเนี่ย เหอๆๆๆ แต่ดูท่า ฝันของท่านผู้อ่านหลายๆท่านใกล้จะเป้นจริงแล้วล่ะ หุหุ 

ออฟไลน์ amisezmin

  • 最愛の人
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0

ออฟไลน์ *SparklinG*

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0

ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0

ออฟไลน์ ErosAmor

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 851
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2

nithiwz

  • บุคคลทั่วไป
มีแต่เรท  อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
รับไม่ได้จริงๆ

อ่านต่อ  :o8: เคลิ้ม.....
(สงสารพี่อามจริง  คงจะฟ้าเหลืองเป็นเนืองนิจ)

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
ท่าทางอามจะแย่แน่ๆเลย  รอตอนต่อไปครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
พึ่งจะมีเรื่องนี้แหละที่ทำให้เราได้สมหวัง
3Pที่ใฝ่ฝัน
กร๊ากกกกกกกกกกกกก
 :m25:

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
3p จริงๆโด้ยยยยยยยยย

คริๆ +1 ให้เพราะความถูกจายยยยย

J๐ly

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมดูมัน รักอาม แต่มันไม่สงสารเลยว่ะ

หุหุหุ



แต่ก็นะ...อยากเป็นอาร์มจัง 5555

gypsy

  • บุคคลทั่วไป
 :-[ น้องอาม ฟ้าเหลืองแน่เลยอ่ะเจอแบบนี้
ทั้งคิมทั้งนาวแต่ละคน

น่าอิจฉามีโอกาสได้เล่นแซนวิสด้วย

vvivy

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Oo๐FosfoggY๐oO

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
ไม่รู้ว่าจะพูดไรดีแล้ว ทั้งคิมทั้งนาวไม่มีใครยอมกันแน่ๆ

อามเอ้ย ฟ้าเหลืองยาวแน่ๆ :m20: :m20: :m20:

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
คิม กับ นาว ช่วยกันอย่างนี้แล้วจะเหลืออะไรอีกหละ






 :undecided: :undecided:

JkrR

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 12 ทางออกของสามหัวใจ
เมื่อตื่นขึ้นมาผมพบว่า ตัวเองไม่ได้อยู่ในอ้อมกอดของคนทั้งสองคนแล้วครับ พอเดินออกไปข้างนอกก็พบว่าทั้งสองคนนั้นกำลังช่วยคุณยายทำงานบ้านอยู่ด้วยความขยันขันแข็ง มองไปแล้วก็น่ารักดีครับ ผมอยากให้เราสามคนกลับไปเหมือนวันเก่าๆ ถ้าผมมีสองคนนี้เป็นน้องกับเพื่อน คงมีความสุขมากกว่านี้ เพราะถ้าเราจะอยู่ด้วยกันสามคนแบบนี้มันคงไม่ง่ายเลย เพราะปกติแล้วผมเป็นคนเปิดเผย อาจจะไม่ได้ป่าวประกาศว่าตัวเองเป็นอะไร แต่ก็ไม่ได้ซ่อนเร้น ถ้าผมมีแฟนผมก็อยากให้ทุกคนได้รับรู้ แต่แบบนี้มันทำให้ผมไม่แน่ใจเลยว่าจะทำยังไงกับชีวิตตัวเองต่อไป เพราะถ้าผมจะแสดงออกต่อสาธารณะชนจริงๆ ผมคงทำได้เฉพาะกับคิม แล้วนาวก็จะน่าสงสารมากที่ต้องถูกผมซ่อนเอาไว้ สุดท้ายก็ต้องมีคนเจ็บอยู่ดี ผมไม่อยากให้ใครเจ็บเลย นี่คือเหตุผลจริงๆที่ผมอยากจะเดินจากคนทั้งสองมาในตอนแรก แม้ว่ามันจะเจ็บปวดบ้างในช่วงแรก แต่ดีกว่าที่ต้องมาเจ็บปวดกันตลอดไป แต่พอมาตอนนี้ผมก็เลือกใครไม่ได้อีก เลยได้แต่ถอนหายใจแล้วก็ไปนั่งถอดอารมณ์ที่ริมน้ำอย่างไร้จุดหมาย

ซักพักก็มีคนมานอนตักผม แล้วก็มีคนมาหอมแก้มผมจากนั้นก็กอด คนที่มานอนตักผมคือนาว ส่วนที่ผมหอมแล้วก็กอดผมคือคิม
“นึกว่าหายไปไหน แอบมานั่งอยู่นี่เอง หายเพลียรึยัง” คิมแถมผมด้วยความอารมณ์ดี แต่ผมได้นั่งเงียบไม่เคลื่อนไหว เหมือนหมีซึมๆเพราะอาหารไม่ย่อย
“พี่อามโกรธเราสองคนเหรอ ขอโทษนะ อารมณ์มันพาไป เราสองคนรักพี่อามมากจริงๆ มากกว่าทีใครจะยอมปล่อยให้พี่อามจากไป” นาวพูดแล้วก็เอื้อมมือขึ้นมาจับแก้มผม คำว่ารักกว่าที่จะปล่อยไป มันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองน้ำตามันเอ่อขึ้นมาว่านี่ผมต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ไปจริงๆใช่ไหม คิมเห็นท่าทางผมไม่ดี เลยกอดผมแน่นกว่าเดิม
“ขอโทษนะอาม เราไม่ได้ตั้งใจจริงๆ เราจะไม่ทำให้อามเหนื่อยขนาดนี้อีกแล้ว” คิมดูรู้สึกผิดมาก
“ไม่ได้โกรธหรอกแต่ว่า...” ผมก็ให้เหตุผลกับทั้งสองคนไปตามที่เล่าไว้ช่วงแรกของบทนี้แล้วละครับ พอผมพูดจบทุกคนก็ได้แต่เงียบ จนกระทั่ง....
“อาม คิมถามคำเดียว อามรักเราสองคนจริงๆใช่มั้ย”
“ไม่รักจะหนีมานี่ทำไมให้ลำบาก ก็เพราะการที่เรามันเห็นแก่ตัวไม่ยอมเลือกใครไงล่ะ ที่ทำให้เราสามคนต้องอยู่ในสภาพนี้” ผมพูดด้วยเสียงขาดช่วง มันยากเหลือเกินที่จะบอกอะไรที่ช่างลำบากใจอย่างนี้ออกมา
“งั้นอามแค่รักเราสองคนก็พอที่เหลือเป็นเรื่องที่คิมกับนาวเอง” ผมตะลึงไม่คิดว่านี่จะเป็นเรื่องจริง แต่นาวพยักหน้าเห็นด้วย
“แค่พี่อามบอกว่ารักเราสองคนก็พอครับ” นาวพูดจบแล้วก็คว้าผมมากอดไว้ แล้วคิมก็คว้าผมไปจูบ นาวเองก็เข้ามาด้วย กลายเป็นว่าตอนนี้ลิ้นของผมกำลังพันกับทั้งลิ้นของสองหนุ่มที่เหมือนจะตักตวงความต้องการจากผมไม่พอซะที

“พอเหอะ พอแล้ว อย่าทำแบบนี้ในที่แบบนี้เลยนะ” ผมรู้สึกว่ามันจะเลยเถิดไปแล้ว เลยต้องหยุด แล้วทั้งสองหนุ่มก็หยุด แต่ก็ไม่วายซบผมที่ซอกคอผมคนละข้าง จากนั้นก็เดินกันออกมาโดยที่ทั้งสองคนยังกุมมือผมอยู่ ผมไม่รู้ว่าตัวเองโชคดีหรือโชคร้ายที่มีคนสองคนมารัก แล้วผมก็รักเขาสองคนอย่างหมดหัวใจ คนหนึ่งก็เจ้าชายที่แสนดี อีกคนก็น้องชายที่ตัดกันไม่ลง ผมคิดถึงอนาคตตัวเองไม่ออกเมื่อต้องกลับไปกรุงเทพ เฮ่อ

ตกคืนนั้นสิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิดมันก็เกิด เพราะที่สุดแล้ว เราก็เล่น Threesome กันอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ยังดีที่ว่าคราวนี้ไม่ได้รุนแรงแต่ก็ไม่วายที่ผมต้องเหนื่อยอยู่ดี ก็ผมต้องโดนทั้งสองคนเล่นทั้งช่วงบนช่วงล่าง ไม่ให้เหนื่อยให้เมื่อยยังไงไหว แต่สองคนนั้นดูจะแฮปปี้มาก ไม่ร้องครวญครางก็ร้องเรียกชื่อผมตลอดเวลา มันจะอะไรกันนักหนา โอ้ยผมจะบ้าตาย เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ดีนะที่คืนนั้นผมไม่ต้องเสียบด้วย เพราะไม่มีน้ำจะให้แตกแล้วครับ แล้วผมก็หลับไปใต้อ้อมกอดที่เปลือยเปล่าของเราสามคน แต่ไม่วายที่มือสองคนนั้นจับท่อนลำผมไว้ คือถ้าแข็งขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็จะปฎิบัติการต่อโดยทันที คงไม่ไหวแล้วล่ะ ถ้าจะให้แข็งคงต้องไปกินม้ากระทืบโรงหรือไวอะกร้าแล้วมั้ง โอย ทำไมโลกเรามันช่างไม่รู้จักความพอดีซะเลย ผมไม่แน่ใจว่าตอนนี้กำลังถูกพระเจ้าให้รางวัลหรือถูกลงโทษกันแน่ จริงอยู่ครับว่ามันสุดแสนจะหฤหรรษ์ เสียวซ่านสะท้านไปทั่วทั้งกายแต่อะไรก็ตามที่มากเกินไปมันก็ไม่ดีใช่ไหมครับ อย่างชูชกก็กินจนท้องแตกตายเพราะโลภมากในการบริโภคอาหาร ผมก็กลัวเหมือนกันว่าจะตายคากองน้ำกามของสองหนุ่มที่ดูเหมือนว่าจะไม่รู้จักอิ่มไม่รู้จักจักพอที่จะตักตวงกามรสจากผมซะที

สัปดาห์ต่อมาผมก็ได้เวลากลับบ้านซะที โดยที่คิมกับนาวมารับผมกลับไป ก่อนกลับผมโทรคุยกับพี่หมอชาญเพื่อที่จะขอบคุณที่ช่วยหาที่พักพิงให้และเล่าเรื่องที่ผมตกลงอยู่กันไปแบบสามคน พี่หมอชาญได้ฟังแล้วก็เงียบไปซักพัก ก่อนที่จะถามว่า

“แน่ใจแล้วนะ ที่จะเลือกแบบนี้” พี่หมอชาญถามเสียงเครียด
“อ้าวก็พี่หมอชาญบอกว่าเคยบอกนี่ว่าอาจต้องคบไปสามคน”
“นั่นน่ะมันโบราณมาแล้วนะเว้ย ไม่ใช่ปัจจุบันนี้”
“แล้วจะให้ผมทำไงอ่ะ เลิกก็ไม่ได้อีก ผมก็เครียดนะเนี่ย”
“อามต้องแบ่งเวลาดีๆ เพราะสองคนนี้เขารักอามมาก แล้วอามคิดว่าจะอยู่แบบนี้ไปตลอดเหรอ”
“บอกตามตรงเลยนะพี่หมอ ผมว่าเรากันอยู่กันแบบนี้ต่อไปนานๆไม่ได้หรอก เพราะผมรู้แล้วว่าจริงๆ สองคนนี้เขาแย่งชิงความรักจากผมกันอยู่ตลอดเวลา ผมรู้ว่าเขาไม่ได้เป็นพันธมิตรกันจริงๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องนี้มันจะจบลงตรงไหน” จากนั้นพี่หมอชาญก็อวยพรให้ผมโชคดี และดูแลความรักของตัวเองดีๆ ฟังแล้วก็เหนื่อยใจ เพราะผมไม่รู้ว่าอนาคตความรักของผมจะเป็นอย่างไรเหมือนกัน

ทำไมผมถึงรู้ว่าสองคนนี้เขาไม่ได้เป็นพันธมิตรกันจริงๆเหรอครับ เพราะเวลาที่เราปฏิบัติการเล่นรักกันสามคน ผมจะเหนื่อยมาก เพราะสองคนนั้นต่างคนต่างงัดเอากลเม็ดทั้งหลายมาปรนเปรอผมให้ผมพอใจใครคนใดคนหนึ่งมากที่สุด แล้วพอต่างคนต่างเห็นลีลาของอีกฝ่ายบนเตียง ก็กลัวว่าจะน้อยหน้าก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้รู้สึกว่าผมเสียวกระสันแบบสุดๆ โดยที่หลายครั้งก็ลืมไปว่าผมจะไม่ไหวมั้ย จนช่วงหลังผมต้องเป็นฝ่ายเสียบสองคนนั้นบ้าง ไม่งั้นก็อาจจะไม่มีแรงเดินได้ เวลาจะจูบก็ไปจูบใครก่อนไม่ได้ ต้องดึงสองคนนั้นมาจูบๆพร้อมๆกัน ไม่งั้นจะโดนใครคนใดคนหนึ่งงอนเอาได้ง่ายๆ มันลำบากจริงๆนะครับ ดีที่ว่าผมได้กลับบ้านที่ใต้เพื่อเอาของจากหอที่เคยอยู่ในมหาวิทยาลัยไปเก็บโดยที่ไม่มีสองคนนั้นตามมา เพราะนาวก็ต้องเรียนหนังสือ คิมก็ต้องเริ่มเข้าไปเรียนรู้งานบริหารในบริษัทของที่บ้านแล้ว ผมก็เลยได้พักเรื่องบนเตียงหนึ่งสัปดาห์ แต่ว่าสองคนนั้นก็โทรมาหาผมได้ตลอดเวลา คือเขาแข่งกันโทรมา เหมือนรู้ว่าต่างฝ่ายต่างก็ต้องโทรมาหาผมโทรศัพท์ดังตลอดจนผมเองแทบประสาทเสีย ต้องดุไปคนละทีถ้าไม่เลิกทำแบบนี้จะปิดโทรศัพท์ ก็เลยดีขึ้น

พอตกกลางคืนต้องนอนคนเดียว ก็เลยคิดถึงสองคนนั้นขึ้นมา โอ้ยนี่ผมกลายเป็นคนสองใจไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วพอไม่มีสองคนนั้นมานอนกอดผมก็นอนไม่หลับอีก พอหลับก็ยังฝันถึงสองคนนั้นตลอดทั้งคืนอีก โอ้ยมันจะอะไรกันหนักหนาวะเนี่ย เราสามคนเคยทำอะไรร่วมกันมา ถึงได้มีความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้ ไม่รู้ว่ากลับกรุงเทพเที่ยวนี้ ผมจะจัดการยังไงดี แล้วผมต้องไปอยู่กับใคร จะแย่งกันอีกมั้ยวะเนี่ย

 
  ******************************************

น่าสงสาร หรือน่าเห็นใจดีครับนี่ เหอๆๆ

ตอนนี้พี่อามเริ่มลงไม่ถี่แล้วครับ ใกล้จะทันกับต้นฉบับแล้วจากอีกเว็บแล้ว

ส่วนจะเพราะอะไร อีกสักสามสี่ตอนน่าจะทราบกัน

ปล. อยากให้พี่อามมาทักทายชาวเล้ามั้งจังแฮะ

ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0
 :z1:

พี่อามน้ำหมดตัวแน่ๆ

gypsy

  • บุคคลทั่วไป
แอบอิจฉามาอ่ะ
มีคนมารักตั้งสองคน
แบบนี้คงต้องแบ่งวันกันแล้วมั้งเนี่ย
จันทร์ พุธ ศุกร์ให้นาว
อังคาร พฤหัส เสาร์ ให้คิม
วันอาทิตย์ก็ 3P ไปเลย
 :m4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด