เพลิงรัก "บทส่งท้าย บทที่ 2 ในที่สุด พระเอกกับนายเอกก็นั่นกันครบสามครั้ง เฮ้อ" (26/3/2010)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เพลิงรัก "บทส่งท้าย บทที่ 2 ในที่สุด พระเอกกับนายเอกก็นั่นกันครบสามครั้ง เฮ้อ" (26/3/2010)  (อ่าน 237951 ครั้ง)

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 1 (23/1/2010)
«ตอบ #60 เมื่อ25-01-2010 09:18:40 »

เพลิงรัก บทที่ 2

นายแพทยชาลีบิดตัวอย่างเหนื่อยล้า แล้วเหลือบตามองนาฬิกาข้างฝา มีเวลาเหลืออีกสิบห้านาทีก่อนเลิกงาน คนไข้คนสุดท้ายของเขาเพิ่งออกจากห้องไปเมื่อสิบนาทีที่แล้ว เขาใช้เวลาที่เหลืออยู่ดูแฟ้มคนไข้ที่ต้องตรวจวันพรุ่งนี้ เขาไม่ชอบอ่านข้อมูลคนไข้จากจอคอพิวเตอร์ เพราะทำให้ปวดตาเป็นที่สุด โรงพยาบาลปรับปรุงระบบใหม่ ข้อมูลคนไข้ทุกอย่างจะได้รับการบันทึกเข้าระบบคอมพิวเตอร์ เมื่อเขากดเรียกชื่อขึ้นมา แฟ้มข้อมูลทุกอย่างจะปรากฏบนหน้าจอ เวลาตรวจคนไข้ เขาจะเขียนลงบนกระดาษ แล้วยื่นคืนให้พยาบาล อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมง กระดาษแผ่นนั้นจะได้รับการสแกนเป็นแฟ้มข้อมูลแบบพีดีเอฟ แล้วบันทึกเข้าแฟ้มประวัติคนไข้ทันที
แต่ที่สำคัญ...เขาต้องเขียนภายในกรอบสีเทาเท่านั้น...
...กรอบ...เขาเบื่อจะอยู่ในกรอบ...เบื่อที่จะต้องอยู่ในระบบ...เขาขึ้นชื่อเรื่องแหกกรอบจนหัวหน้าแผนกบ่นกับเขาอยู่เป็นครั้งคราว
...ถ้าเขาไม่ได้เป็นแพทย์ที่เก่งมากจนอาจารย์แพทย์หลายคนชม ป่านนี้คงถูกไล่ออกไปนานแล้ว...
ชาลีกดเรียกชื่อคนไข้ของวันพรุ่งนี้ขึ้นมาดูเพื่ออ่านข้อมูลคร่าวๆ ปรากฏรายชื่อขึ้นเพียงสามคน หนึ่งในนั้นคือ รัฐศาสตร์ ส.ส. หนุ่มคนใหม่ของกรุงเทพมหานครที่ตอนนี้กำลังได้รับการจับตามองเพราะเป็น ส.ส. เลือดใหม่ไฟแรงที่ว่ากันว่าเก่งเหลือหลาย
เขาสงสัยว่ารัฐศาสตร์จะเป็นมะเร็ง...ผลเอ็มอาร์ไอยังไม่มาจากห้องตรวจปฏิบัติการ ที่จริงพรุ่งนี้ตอนเช้าตรู่ผลตรวจก็คงบันทึกเข้าระบบคอมพิวเตอร์เพราะคนไข้ต้องพบกับหมอตอนบ่าย แต่ตอนนี้เขาอยากรู้ก่อน คืนนี้จะได้นั่งดูอย่างละเอียด เขาชอบเตรียมพร้อมก่อนที่จะตรวจคนไข้ ไม่ใช่เดินเข้ามาในห้อง เรียกแฟ้มขึ้นมาดู อ่านตอนนั้น วินิจฉัยตอนนั้น อธิบายให้คนไข้ฟังตอนนั้น...นี่ไม่ใช่วิธีทำงานของเขา

ชาลีเดินออกจากห้องตรวจ บอกพยาบาลหน้าห้องว่าจะไปตามผลเอ็มอาร์ไอ พยาบาลสาวท้วงว่าพรุ่งนี้ผลก็จะบันทึกเข้าสู่ระบบ แต่ชาลีส่ายหน้า บอกว่าต้องการได้ผลตอนนี้
"เดี๋ยวแล็ปเขาก็โวยวายหมออีกหรอก" สาวิณี พยาบาลสาวคู่ใจของชาลีเตือน
"เขาไม่กล้าโวยหรอกคุณสา ผมมีวิธี" ชาลียักไหล่
วิธีของเขาที่จะใช้กับยุทธนาเจ้าหน้าที่ประจำห้องแล็ปเอ็มอาร์ไอนั้นได้ผลทุกครั้ง...เอ็มอาร์ไอกับเขาดูๆ ไปก็เหมือนไม้เบื่อไม้เมากัน แต่ยุทธนาก็ยอมเขาทุกครั้งไป บางทีชาลีอดคิดไม่ได้ว่ายุทธนาแอบชอบเขาอยู่ แต่ยุทธนาไม่มีทีท่าแสดงออก ยุทธนาเป็นผู้ชายที่ห้าวๆ สนุกสนานร่าเริง มีชีวิตชีวา ดูไม่เหมาะจะอยู่ในห้องแล็ป เขาอดคิดไม่ได้ว่ายุทธนาน่าจะไปเป็นเทรนเนอร์ตามยิมมากกว่า
เช่นเคย ยุทธนาบ่นทันทีที่ได้ยินสิ่งที่ชาลีต้องการ
"หมอก็รู้ พรุ่งนี้ก็เข้าแฟ้มแล้ว"
"เข้าตอนนี้เลยไม่ได้หรือ นี่ก็จะกลับบ้านแล้ว จะทิ้งไว้แล้วรอมาเอาเข้าพรุ่งนี้เช้าทำไม"
"ก็ระบบมันเป็นอย่างนี้นี่ครับ กะดึกจะเป็นคนเอาเข้า" ยุทธนาทำหน้ามุ่ย
"งั้นไม่ต้องเอาเข้า เอามันออกเลยดีกว่า ออกทางนั้นน่ะ" ชาลีชี้มือไปที่เครื่องพิมพ์
"หมอ เดี๋ยวผมก็โดนว่า นโยบายโรงพยาบาลให้เป็นดิจิตอล ไม่ใช่เปเปอร์ตอล"
ชาลีกลั้นยิ้มกับคำศัพท์ของยุทธนา "ปวดตานะคุณยุทธ อ่านข้อมูลคนไข้บนจอคอมพิวเตอร์นี่มันปวดตามากๆ นะ เห็นใจกันหน่อย"
"คราวนี้หมอก็จะได้รู้ซะทีว่าห้องยาเขาทรมานยังไง" ยุทธนาขยับตัว เดินตรงไปที่โต๊ะทำงาน ชาลีเดินตาม รู้ว่าอีกไม่นานยุทธนาก็คงจะทนเขาไม่ไหว แล้วเขาก็จะได้สิ่งที่เขาต้องการ
"ลายมือผมดีกว่าหมอคนอื่นๆ เคยเห็นแล้วไม่ใช่หรือ" ชาลีพูดเสียงเรียบ
"ครับ ทราบแล้ว แต่ว่าลายมือหมอน่ะชอบเกินกรอบ เวลาสแกนมันขาดไป ต้องนั่งทางในอ่านเหมือนกัน" ยุทธนาตอบ พลางเอื้อมมือไปดึงลิ้นชักโต๊ะ
"คุณยุทธ ไม่หิวข้าวบ้างหรือ นี่ก็จะสามทุ่มแล้ว ไม่อยากกลับบ้านหรือไง" ชาลีเปลี่ยนเรื่อง ก้มลงมองหน้ายุทธนานิ่ง ทำทีไม่สนใจเรื่องผลเอ็มอาร์ไอชั่วขณะ
“หิวสิครับ หมอจะเลี้ยงข้าวผมหรือ” ชายหนุ่มอายุสามสิบต้นๆ ใบหน้าขาวสะอาด ถอนหายใจเบาๆ "นี่หมอจะเอาให้ได้ใช่ไหม ถ้าไม่ได้ หมอก็คงไม่ยอมให้ผมกลับบ้าน?"
ชาลียิ้ม "อย่าถ่วงเวลาเลยน่า นะ เดี๋ยวเลี้ยงข้าวกลางวัน"
"แบบนี้เขาเรียกว่าติดสินบน" ยุทธยาเสียงเรียบ
"แล้วไม่ชอบหรือ"
"ชอบสิครับ" ยุทธนาตอบสั้นๆ เงยหน้าขึ้นมามองชาลีชั่ววินาที แล้วหันไปมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ มือกดแป้นอย่างคล่องแคล่ว ไม่นานก็ได้ยินเสียงเครื่องพิพม์ทำงาน
"ว่าแต่หมออย่าลืมก็แล้วกัน ติดผมอยู่หลายครั้งแล้วนะ" ยุทธนาพูดต่อ
ชาลีไม่ตอบ แต่ยิ้มมุมปาก แล้วเดินไปที่เครื่องพิมพ์ ก้มลงมองกระดาษที่กำลังโผล่ออกมา
...ยุทธนาชอบเขาจริงๆ ด้วย เมื่อครู่เขาเห็นประกายตาคู่นั้นบ่งบอกความรู้สึกชัดเจน แม้เพียงไม่กี่วินาที แต่เขาก็เห็น...
...เมื่อคืนที่เขาคิดว่าอยากจะเจออะไรที่ท้าทาย ไม่น่าเบื่อ ยุทธนาพอจะเข้าประกวดได้ไหมเนี่ย...
...แต่ยุทธนาเป็นคนนิสัยดี ข้อนี้เขาต้องยอมรับ หากเกิดอะไรขึ้นมา ยังจะมองหน้ากันติดไหมนี่ ตราบเท่าที่เขาทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ เขาก็ต้องประสานงานกับยุทธนาอยู่แทบทุกวัน...
…บ้าหรือชาลี เกิดจะมาคิดสงสารใครเขาตอนนี้ ทีคนอื่นๆ ที่ผ่านมาไม่เห็นจะคิดสงสารเลย หลายคนที่หักอกเขาไปก็เป็นคนนิสัยดีทั้งนั้น...
เสียงในหัวของนายแพทย์หนุ่มเตือน
...รอก่อนดีกว่า เก็บยุทธนาเอาไว้เป็นรายหลังๆ ตอนนี้พักซักเดือน แล้วค่อยหาคนใหม่ปั่นหัวเล่นสนุกๆ...
ชาลีบอกตัวเองแล้วเดินเลยไปดังวอร์ดเด็ก นึกได้ว่าเพื่อนสนิทของเขายังไม่ออกเวรเหมือนกัน จึงคิดว่าจะแวะไปช่วนหมอเอกภพออกไปหาอะไรดื่ม

ชาลีหยุดยืนอยู่หน้าห้องนายแพทย์เอกภพ--เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนแพทย์ ทั้งยังเป็นเพื่อนร่วมห้องพักมหาวิทยาลัย
เอกภพเป็นคนหน้าตาคมเข้ม ผิวขาวสะอาด รูปร่างสูงใหญ่ แต่นิสัยแตกต่างจากภาพลักษณ์ภายนอกโดยสิ้นเชิง เพื่อนของเขาเป็นคนนุ่มนวล มองโลกในแง่ดี ไม่เคยคิดร้ายกับใคร บางครั้งชาลีอดคิดไม่ได้ว่าเอกภพเกิดหลงยุค บุคลิกของเพื่อนสนิทนั้นต่างจากเขาจนบางคนเคยพูดว่าไม่น่าจะกลายเป็นเพื่อนคู่หูกันได้
เพื่อนเขากำลังยืนคุยอยู่กับผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งที่หน้าประตูห้องตรวจ นัยน์ตาคมเฉี่ยวใต้แว่นกรอบทองของเอกภพเป็นประกาย ชาลีมองแวบเดียวก็รู้ว่า เอกภพกำลังตกหลุมรัก...
...ตกหลุมรักคนไข้ตัวเองนี่นะ ไม่ใช่สิ ตกลงหลุมรักพ่อของคนไข้!...
เอกภพชอบตกหลุมรักเสมอ ในความคิดของเอกภพ ความรักเป็นสิ่งสวยงาม เป็นอาหารทิพย์ ในความคิดของชาลี ความรักเป็นหมากฝรั่งรสมินต์ เคี้ยวให้รู้รส พอหายอยากแล้วก็คายทิ้ง
ชาลีก้มลงมองเด็กชายตัวอ้วนกลม แก้มแดงระเรื่อย้วยเป็นพวง เด็กน้อยกำลังกอดขาชายร่างสูงที่กำลังยืนหันหลังให้เขา เด็กชายผู้น่ารักอายุไม่น่าจะเกิดสามขวบ มองเขาตาแป๋วแหว๋ว
...พ่อหรืออา...ชาลีคิด
...ถ้าผู้ชายคนนี้เป็นอาของเด็กน้อยที่น่ารักคนนี้ก็ดีไป แต่หากเป็นพ่อ เอกภพก็กำลังหาเหาใส่หัวอยู่ทีเดียวล่ะ…
“ไม่เกินสองวันอาการก็น่าจะดีขึ้นครับ คุณพ่อต้องคอยดูทุกๆ สามชั่วโมง ถ้าผื่นขึ้นมากกว่าเดิม ก็รีบพามาหาหมอ” เอกภพพูดเสียงนุ่มๆ กับหนุ่มใหญ่ท่าทางใจดี
“ขอบคุณคุณหมอมากครับ” เสียงทุ้มลึกกล่าวขอบคุณเบาๆ แล้วก้มลงพูดกับเด็กน้อยที่กอดขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย “น้องเติ้ล ขอบคุณคุณหมอสิลูก”
...ลูก...เอกกำลังตกหลุมรักพ่อของคนไข้ตัวเล็กของเขา...
เด็กน้อยยกมืออวบอ้วนขึ้นไหว้คุณหมอใจดีที่ก้มตัวลงจับแก้มย้วย แล้วผละจากการกอดขาของพ่อเปลี่ยนมาจับมือแทน เอกภพเงยหน้าขึ้นมาเห็นชาลียืนอยู่ไม่ไกลจึงยกมือขึ้นทัก ชายหนุ่มร่างสูงหันตามแล้วยิ้มให้เขาบางๆ ก่อนหันไปอำลาคุณหมอแล้วจูงมือลูกเดินจากไป
ชาลีขยับตัวเข้ามาใกล้เอก มองหน้าเพื่อนรักนิ่ง มั่นใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้เห็นประกายตาของเอกภพใกล้ๆ ชัดๆ
“เอก...เรามองออกนะ” ชาลีพูดเสียงเบา
เอกภพหันกลับเดินเข้าห้องตรวจ ชาลีเดินตามเข้ามาแล้วพูดว่า “รู้ไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่”
“อย่ามาทำรู้ดีเลยน่า” เอกภพยิ้มพราว เก็บของบนโต๊ะ ก้มหน้า "เราไม่ได้คิดอะไรกับเขา"
“งั้นหรือ” ชาลีเดินเข้ามาใกล้ “งั้นคนนี้เราขอนะ อยากลองเปลี่ยนแนวดูบ้าง”
หมอเด็กหน้าอ่อนที่กำลังหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะรีบเงยหน้าขึ้น ตาเรียวเล็กเบิกกว้าง “อย่านะชาลี เว้นคนนี้ซักคนเถอะ”
“ทำไม บอกเหตุผลมาสองข้อว่าทำไมเราไม่ควรจะจีบเขา” ชาลียิ้มมุมปาก “หน้าตาใช้ได้เหมือนกันนะ บุคลิกอบอุ่น แต่รอยยิ้มน่ะดูเซ็กซี่มากเลย”
“เขาเป็นผู้ชาย”
“ว่าได้หรือ” ชาลียักไหล่ “ไม่ลองก็ไม่รู้”
“จริงๆ นะ” เอกภพยืนยัน
“ถ้าเป็นผู้ชาย แล้วทำไมไปชอบเขาล่ะ รู้ใช่ไหมว่าจะปวดหัว”
“ชอบที่ไหน” เอกภพหลบตา
“ยังกะตัวเองปิดบังเก่งนักนี่” ชาลียื่นหน้าเข้าไปใกล้เพื่อน “รู้ตัวไหมเอก ปิดบังสายตาตัวเองไม่ได้เลยนะ เรายืนอยู่ห่างตั้งหลายก้าวยังมองออกเลย ตานี่เป็นประกาย ฟ้องความในใจจนเห็นชัดเจน”
เอกภพหน้าแดง แก้มใสๆ ของหมอหนุ่มเริ่มแดงระเรื่อ ผิวขาวสะอาดของหมอเอกภพไม่อาจปิดบังปฏิกิริยาธรรมชาติทางกายได้ ดังเช่นที่ไม่สามารถปิดบังประกายตาของตัวเองได้เช่นกัน “แล้ว...เอ่อ...คิดว่าเขาจะมองเห็นเหมือนที่ชาลีเห็นหรือเปล่า”
“ไม่รู้สิ ยังไม่ได้สังเกตขนาดนั้น แต่ถ้าอยากจะรู้นะ ก็ถามเขาตรงๆ ไปเลย จะได้รู้เรื่อง เข้าใจได้ง่ายๆ”
“บ้าหรือ ทำแบบนั้นได้ยังไง เผลอๆ จะโดนพ่อคนไข้ถีบเอา อายไปทั้งโรงพยาบาล”
“อายวันนี้ ดีกว่าเสียใจวันหน้า เกิดเขาเป็นไบ ยอมเล่นเล่นกับยู มันจะอีรุงตุงนัง กลายมาเป็นเมียน้อยของพ่อคนไข้” ชาลีเตือนสติ
“เขาหย่าแล้ว” เอกภพเสียงเบา ในใจพูดต่อว่า...เพิ่งหย่าได้ไม่ถึงเดือน แต่เขาบอกให้ชาลีรู้ไม่ได้ เพราะคงต้องโดนเพื่อนตำหนิอย่างแน่นอน
“อ้อ เลยคิดว่าจะเป็นแม่ใหม่ให้ลูกชายเขาหรือไง” ชาลีสรุป “คิดอะไรอยู่นี่เอก คิดให้ดีๆ นะ”
“เถอะน่า เราไม่ทำอะไรผิดๆ หรอก ถ้าชอบเค้าแล้วเค้าไม่ชอบเรา ก็เลิกคิด ไม่เห็นจะมีอะไร” เอกภพยอมชาลี
“แล้วถ้าเขาเกิดชอบนายล่ะ” ชาลีเตือน “ยุ่งตายเลย”
“มันยังมาไม่ถึง ยังไม่อยากคิดตอนนี้ เอาไว้รอดูกันตอนนั้นก็แล้วกัน” เอกภพยักไหล่ หยิบโทรศัพท์มือถือหย่อนใส่กระเป๋าสะพาย
...แล้วก็มานั่งร้องให้ขี้มูกโป่ง เขาต้องคอยปลอบ และลงท้ายด้วยการออกไปหาเค้กชอคโกแล็ตอร่อยๆ ทานจนท้องแทบแตก...ชาลีพูดต่อในใจ เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนแทบจะทำนายได้ถึงผลลัพท์ที่จะออกมา
“ไปกันหรือยัง” เอกภพชวนเพื่อนและอดเหน็บแนมชาลีไม่ได้ “หรือจะอยู่ซักแบคกราวน์เขาต่อ”
“ซักแน่” ชาลียักไหล่ “แต่รอก่อน ตอนนี้กำลังหิวข้าว ไปหาอะไรอร่อยๆ กิน”
“นี่ ชาลี อย่าให้มันมากนักนะ” เอกภพหน้ามุ่ย ทำเสียงเข้ม
“อะไร” ชาลีเลิกคิ้ว ทำหน้าเหรอหรา ทั้งที่เข้าใจดี
“เดี๋ยวเราก็เล่าให้ฟังตอนทานข้าวซะเลย เดี๋ยวได้อ้วกสมใจ” เอกเดินออกจากห้องตรวจแล้วหันมาหาเพื่อนที่ยืนอมยิ้มอยู่หน้าโต๊ะ “ตามมาสิ”
ชาลีส่ายหน้าอย่างระอาใจ เขารู้ว่าหากเอกภพเริ่มเล่าเรื่องชายหนุ่มที่ตัวเองตกหลุมรัก เขาก็คงต้องทำท่าโก่งคอจะอาเจียนล้อเลียนเพื่อนแล้วโวยว่า...จะโรแมนติกไปถึงไหน ตกหลุมรักอยู่ได้ทุกเดือน
สำหรับเอกภพ...ความรักสวยงามเสมอ แม้จะ 'พลาดหวัง' จากเป้าหมายทุกครั้ง
สำหรับเขา...ความรักนั้นน่าเกลียด อัปลักษณ์
ใช่สิ...เอกไม่เคย “เจอ” อย่างที่เขาเจอนี่นา อะไรที่เกิดขึ้นกับเอกมีแต่เรื่อง “เบาะๆ” หากจะเปรียบเป็นหนังก็เป็นหนังวอล์ทดิสนีย์ แต่สิ่งที่ “เกิด” ขึ้นกับเขาเมื่อกว่าสิบปีที่แล้ว มันไม่ใช่แม้แต่หนังเรทอาร์หรือหนังที่โดนแบนไม่ให้เข้าฉาย...
มันเป็นชีวิตจริงที่ผู้กำกับแทบไม่อยากเอามาทำเป็นภาพยนต์ฉายตามโรงด้วยซ้ำ ดาราคนไหนก็ไม่อยากเล่น
...โหดร้ายที่สุด...

ชาลีแยกกับเอกภพที่หน้าร้านอาหารไม่ไกลจากบ้านตัวเองเท่าใดนัก เขาส่งเอกภพขึ้นแท็กซี่แล้วเดินมาที่รถของตัวเอง คิดอย่างขำๆ ว่าในที่สุดเพื่อนของเขาก็ยอมซื้อรถตามที่เขาเซ้าซี้ จะได้ไปไหนมาไหนเองอย่างสะดวก แต่ถึงจะมีรถ เอกภพก็ชอบจอดทิ้งไว้ที่บ้านแล้วนั่งแท๊กซี่มาทำงาน
ตอนที่ลากเอกภพไปซื้อรถ เพื่อนของเขายังไปตกหลุมรักพนักงานขายรถเสียอีก แต่โชคก็ไม่เข้าข้างเอกภพเช่นเคย แฟนของพนักงานคนนั้นตามไปถึงโรงพยาบาล และขอให้เอกภพเลิกกับแฟนเธอเสีย โชคดีที่หญิงสาวคนนั้นสุภาพและเป็นผู้ใหญ่จึงเข้าไปคุยกับเอกภพดีๆ เขาจำได้ว่าตอนนั้นเอกภพนั่งร้องให้อยู่ในห้องตรวจ เขาต้องนั่งปลอบอยู่นานกว่าจะตั้งสติและรักษาคนไข้ต่อได้
“นายก็ทำไมชอบแต่จะตกหลุมรักกับบุคคลต้องห้ามวะ แล้วก็แห้วทุกที ไม่รักผู้ชายที่เป็นไบเซ็กช่วลซักครั้งจะได้ไหม” ชาลีเคยบ่นให้เพื่อนเขาอยู่เสมอ ในใจก็นึกถึง “อดีต” ของตัวเอง
...รักของเขาก็ต้องห้าม แล้วเป็นไง สามครั้งสามหนที่เขาเจอมา ผลของมันสาหัสแทบเจียนตาย นี่ถ้าพี่ทศไม่จับเขาส่งขึ้นรถไปนครศรีธรรมราชแล้วฟังธรรมของท่านพุทสธาสภิกขุ เขาก็คงจมอยู่ในปลักแห่งความโง่ไปอีกนาน เผลอๆ อาจจะจมปลักเน่าเหม็น ขาดใจตายไปตั้งแต่ตอนที่ไวโรจน์ประกาศทิ้งเขาหน้าห้องสอบปลายภาควิชาฟิสิกส์ แล้วซีรอกซ์รูปเขาประจานติดบอร์ดหลังสอบ...
...แต่เขารู้ซึ้งถึงรสธรรมแล้วจริงหรือ พระท่านสอนให้ปล่อยวาง ไม่ให้แก้แค้น แต่สิ่งที่เขากำลังทำหรือการดำเนินชีวิตของเขาตั้งแต่เรียนจบแพทย์มา ไม่ใช่เป็นการแก้แค้นหรอกหรือ...
...เขาเอาชนะความอ่อนแอของตัวเองได้ หยัดยืนขึ้นมาสู้ชีวิตต่อ ควบคุมชีวิตและอะไรต่างๆ รอบข้างได้อย่างดีเยี่ยม สิ่งที่ทำนี้ถูกต้องแล้วหรือไร...
...แต่อย่างน้อย เขาก็ไม่ถึงกับ “ทำลาย” ชีวิตบริสุทธิ์ของใครก็แล้วกัน ไม่เหมือน เจตริน ไม่เหมือน 'พี่ทิม' และไม่เหมือนไวโรจน์
...ซาตานสามตัวที่เคยทำลายชีวิตของเขาจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน...

ขณะที่กำลังล่องลอยอยู่ในทะเลความคิด นายแพทย์ชาลีก็พลันสะดุ้งเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาหมุนพวงมาลัยรถกลับมาทางด้านซ้าย หันหัวรถที่กำลังจะออกจากที่จอดกลับมาที่เดิม ดันเกียร์มาที่ N แล้วหยิบโทรศัพท์ เสียงพยาบาลในสายดูตื่นเต้น
“หมอคะ เพื่อนหมอ คุณเควินอยู่ในห้องฉุกเฉินค่ะ เพิ่งมาส่งได้ไม่ถึงห้านาที”
...เควิน...ไม่ได้เจอเควินมาเดือนกว่าๆ แล้ว เกิดอะไรขึ้น...
“กินยานอนหลับเกินขนาดค่ะ หมอวิทวัสกำลังล้างท้อง” พยาบาลตอบคำถามของเขา แล้วเล่าอาการและสถานการณ์ให้ฟังคร่าวๆ
เควินเป็นดาราหนุ่มที่กำลังมีชื่อเสียง จิตใจอ่อนไหว และเหมือนกับเอกภพที่ชอบตกหลุมรักใครไปทั่ว แต่สิ่งที่ทั้งสองแตกต่างกันก็คือ เควินควบคุมตัวเองไม่เคยได้ ทุกครั้งเควินจะเสียใจเจียนตาย และอาการหนักทุกครั้ง แต่คราวนี้หนักสุด ถึงกับพยายามฆ่าตัวตาย เอกภพผิดหวังเรื่องความรักบ่อยก็จริง แต่เอกภพเป็นคนมองโลกในแง่ดีและประคับประคองตัวเองได้ตลอดไม่เคยต้องให้เป็นห่วง
ชาลีบอกพยาบาลว่าเขาจะกลับไปดูอาการเพื่อน แล้วรีบออกรถด้วยความเร็วเทียบเท่ากับการขับในสนามแข่งเช่นที่เคยทำ ขับตรงไปอีกกว่าห้าร้อยเมตรก็เปลี่ยนเลนเพื่อกลับรถ พลันสายตาเขามองไปยังซอยข้างหน้าทางด้านขวาไม่ไกลจากจุดที่เขากำลังจะกลับรถเท่าไหร่ ชายร่างใหญ่คนหนึ่งกำลังตบหน้าหญิงร่างผอมบางที่กำลังยื้อยุดกระเป๋าถือ ในขณะเดียวกันมีชายร่างเล็กวิ่งเข้ามาเหมือนจะห้าม แต่ทันใด คนที่กำลังทำร้ายผู้หญิงก็หันมา จ้วงแทงพลเมืองดีคนนั้นไม่ยั้ง
ชาลีตกใจ แต่สติเขายังดี มือที่จับพวงมาลัยกำลังจะกลับรถเปลี่ยนทิศทางทันใด พุ่งรถข้ามถนนตรงเข้าไปหาทั้งสามที่กำลังพัลวันกันอยู่พร้อมกับกระพิบไฟหน้าและบีบแตรดังสนั่น
ชายร่างใหญ่หน้าตาโหดเหี้ยมหันขวับมามอง ยกเท้าขึ้นถีบหญิงวัยกลางคนจนล้มลง แล้วก็วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
ชาลีเปิดประตูรถ วิ่งตรงไปยังชายหนุ่มร่างเล็กที่นอนบิดตัวร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่ริมถนน ในจังหวะเดียวกัน มีรถคนหนึ่งกำลังเบรกเสียงลั่นแล้วจอดอยู่อีกฟากของถนน
“หยุด นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ หยุด” เสียงห้าวตะโกนทันที่ที่ลงจากรถ ร่างสูงวิ่งตัดถนนเพื่อจะไล่ตามผู้ร้ายที่วิ่งเร็วมากและกำลังลับหายเข้าไปยังซอยแคบ
ชาลีตะโกนเรียกคนที่เพิ่งจะลงจากรถและร้องบอกว่าเป็นตำรวจ “คุณ คุณ มาช่วยทางนี้ก่อน”
คนที่บอกว่าเป็นตำรวจชะงัก เหมือนกำลังจะตัดสินใจ ก่อนจะหันมาหาชาลีที่ใช้มือกดแผลของเด็กหนุ่มที่นอนร้องโอดโอยเพราะพิษบาดแผล
“เป็นยังไงบ้าง คุณดูได้ไหม ผมจะตามผู้ร้าย”
“อาการหนัก” ชาลีตอบโดยไม่หันไปมอง “มาช่วยกันก่อน”
“คุณเรียกรถพยาบาลนะ” เสียงห้าวสั่ง แล้วหันหลังจะวิ่งตามโจร
ชาลีหันขวับตาม แล้วเรียกเขาเสียงดัง “ไม่ต้องตาม คุณมาช่วยคนเจ็บก่อน ผมเป็นหมอ”
ชายหนุ่มคนนั้นหันกลับมา ชาลีมองเห็นเต็มตาจึงรู้ว่าคนที่ตะโกนบอกว่าเป็นตำรวจนั้นเป็นตำรวจจริงๆ ร่างสูงใหญ่ บึกบึน หน้าตาดีจนแทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นตำรวจ
“มากดแผลเขาไว้ก่อน ผมมีอุปกรณ์อยู่ในรถ จะไปเอามาปฐมพยาบาล” ชาลีสั่ง แต่ตำรวจหนุ่มคนนั้นยังดูลังเล “มาสิ ช่วยคนจะตายก่อน คนร้ายค่อยไปตามจับทีหลัง เร็วเข้า”
นายตำรวจถอนหายใจ แล้วนั่งลงข้างๆ นายแพทย์หนุ่ม สองตาประสานกันแวบหนึ่ง ชาลีเห็นประกายตาบางอย่างในดวงตาคมกริบคู่นั้น อดไม่ได้ที่จะเข้าข้างตัวเองว่าอีกฝ่ายก็คงจะเห็นอะไรบางอย่างในประกายตาเขาเหมือนกัน
ชาลีอธิบายวิธีกดแผลให้ตำรวจหนุ่มฟัง แต่อีกฝ่ายบอกว่า “ผมรู้วิธี คุณรีบไปเถอะ เดี๋ยวเด็กคนนี้ได้ตายจริงๆ”
...บ้าจริง เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานยังอมยิ้มได้...
ชาลีฉุนตำรวจหน้าคมคนนี้ยิ่งนัก

แทนที่จะได้ไปเยี่ยนเควินที่อยู่ในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลที่เขาทำงานอยู่ ชาลีกลับต้องมายืนอยู่ในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลอีกแห่งแทน เด็กหนุ่มพลเมืองดีที่โดนทำร้ายอาการหนักพอสมควร ชาลีกับนายตำรวจคนนั้นพาคนบาดเจ็บมาส่ง หญิงวัยกลางคนที่โดนปล้นก็ยังยืนทำหน้าตระหนกอยู่หน้าห้องไอซียู รอรับการสอบปากคำ
ชาลีอธิบายอาการเบื้องต้นให้หมอประจำห้องห้องฉุกเฉินฟังจนอีกฝ่ายเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจที่คนพาคนเจ็บมาส่งรู้เรื่องเป็นอย่างดี เขาบอกว่าเป็นหมอเหมือนกัน แม้จะเป็นหมอที่เชี่ยวชาญด้านอื่น ชาลียืนมองเด็กหนุ่มหน้าอ่อนที่นอนร้องครวญครางอยู่บนเดียงด้วยความรู้สึกเวทนา เขาคาดว่าหนุ่มน้อยคนนี้คงจะเพิ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นคนบาดเจ็บมาก่อน แต่ชาลีไม่เคยเห็นใครถูกจ้วงแทงไม่ยั้งต่อหน้าต่อตา แถมยังต้องมาปฐมพยาบาลคนนั้นด้วยตัวเองอีก ก้มลงมองตัวเอง เลือดสีแดงเลอะเสื้อผ้าเขาไปหมด ราวกับว่าเขาเป็นคนเจ็บเสียเอง
ชาลีถอยหลัง ปล่อยให้หมอประจำห้องฉุกเฉินได้ทำการรักษาคนเจ็บ เขาปรายตาไปมองนายตำรวจหนุ่มหน้าหล่อที่ยืนอยู่ที่ประตู ร่างนั้นก็เลอะไปด้วยเลือดของเด็กหนุ่มเช่นกัน เพียงแต่มองไม่เห็นเด่นชัดเท่าเสื้อขาวและกางเกงสีเบจที่เขาสวมอยู่
หญิงกลางคนยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉินไม่ยอมนั่งพัก ท่าทางยังเสียขวัญ เธอได้รับการปฐมพยาบาลแล้ว หัวคิ้วแตกมีผ้าปิดแผล โหนกแก้มตอนนี้เริ่มปรากฏรอยช้ำ ชาลีเดินเข้าไปถามชื่อและอาการ เธอพูดเสียงค่อยมากจนเขาแทบต้องเงี่ยหูฟัง
“เด็กเขาไม่เป็นอะไรมากหรอกป้า ถึงมือหมอแล้ว หมดห่วงได้” ชาลีตอบเสียงเบาเช่นกันเมื่อป้านวลศรีถามถึงอาการของพลเมืองดีที่เข้ามาช่วยเธอ
“ป้าคอยสังเกตอาการของตัวเองด้วยล่ะ ถ้ารู้สึกเจ็บข้างในท้องมากขึ้นกว่าเดิมก็ให้ไปหาหมอ ไปหาผมก็ได้” ชาลียื่นนามบัตรให้
“โรงพยาบาลนี้ฉันไปหาไม่ได้หรอกค่ะ มันแพง”
“ไปศิริราชก็ได้ ผมออกตรวจที่ศิริราช จันทร์ อังคาร พุธ บ่ายโมงถึงบ่ายห้าโมงเย็น” ชาลีตอบ “แต่มีอะไรก็โทรไปที่เบอร์มือถือนี่”
ขณะที่ชาลีกำลังคุยกับป้านวลศรี นายตำรวจที่ยืนอยู่ห่างๆ คุยโทรศัพท์เสร็จแล้วจึงเดินเข้ามาใกล้ ขอให้ชาลีกับป้านวลศรีไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจ
“ผมไปไม่ได้” ชาลีตอบทันที “ผมมีธุระ”
“มีธุระก็ต้องไปครับ คุณเป็นพยาน เห็นหน้าคนร้าย”
“คุณก็เห็น คุณก็เป็นพยานได้ ป้านวลก็เห็น” ชาลีหันไปหาป้านวลศรี ฝ่ายนั้นพยักหน้า
“ขอเวลาคุณสักนิดจะเป็นอะไรไป” นายตำรวจพูดเสียงเรียบ ใบหน้าเคร่งขรึม
“ผมมีธุระก็มีธุระสิ ตอนนี้ผมต้องไปแล้ว” ชาลีตอบแล้วหันไปหาหญิงสูงวัย “ดูแลตัวเองด้วยนะครับป้า ผมไปก่อน”
ชาลียกมือขั้นไหวป้านวลศรีแล้วเดินตรงไปยังทางออก นายตำรวจหนุ่มเดินตาม พยายามห้ามแพทย์หนุ่มเอาไว้ แต่ชาลีไม่สนใจ ยังคงเดินตรงไปข้างหน้าอย่างเร่งรีบ
“คุณกำลังขัดขืนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ”
“กลัวจัง” ชาลีหันไปทำหน้านิ่งใส่ผู้ชายร่างสูง “ถ้าเห็นว่าผมขัดขืน ก็จับผมใส่กุญแจมือเลยสิหมวด”
ชาลีจงใจลดพันตำรวจตรีให้เหลือแค่ร้อยตรี
“สารวัตรครับ”
อย่างที่คิด นายตำรวจหน้าหล่อคนนั้นแก้ยศตัวเองให้ถูก จ้องมองชาลีนิ่งไม่กี่อึดใจแล้วพูดเสียงเข้มว่า “ใช้เวลาไม่นานหรอก คุณให้ปากคำเสร็จ จะได้ให้ไล่ตามจับคนร้ายเลย”
“ผมบอกแล้วไงว่าไม่ว่าง ผมต้องไปดูเพื่อนที่โรงพยาบาล...” ชาลีเสียงแข็ง ความจริงเขาอยากให้ตำรวจไปตามจับคนโหดเหี้ยมคนนั้นเสียตอนนี้ด้วยซ้ำ
“คุณเป็นพยาน ไม่อยากให้ตำรวจจับคนร้ายที่แทงเด็กคนนั้นได้หรือไงครับ”
“อยากสิ ประหารซะเลยยิ่งดี คนที่ทำร้ายคนอื่นควรจะได้รับการตอบแทนอย่างสาสม” ชาลีพูดเสียงเข้ม ใบหน้าโกรธขึ้ง
...ไปลากเจตรินและไอ้พี่ทิมมารับโทษด้วยในคราวเดียวกัน...
ชาลีคิดต่อในใจ เผลอยกมือขึ้นลูกชายโครงตัวเอง...นึกถึง 'แผล' ที่ทั้งสองเคย 'ฝาก' เอาไว้ให้เขา
“ถ้าคุณเปลี่ยนใจก็โทรมา” ตำรวจหนุ่มยังไม่ยอมลดละ ยื่นนามบัตรให้ “ผมเห็นคนร้ายไม่ถนัด ป้านวลก็ขวัญเสีย ไม่รู้จะให้การได้มากแค่ไหน ผมต้องการสมองฉลาดๆ ของคุณนะ สมองของคนที่จะบรรยายใบหน้าของโจรได้อย่างละเอียดชัดเจน”
พันตำรวจตรีกัณต์ เวโรจน์...
เวโรจน์...ไวโรจน์ นามสกุลช่างคล้องจองกับชื่อคนเลวคนหนึ่งที่เคยฝากแผลไว้ในหัวใจของเขา
ไวโรจน์...ตอนนี้เป็นผู้จัดการใหญ่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ นิสัยเหมือนเดิม หลอกคนไปทั่ว แล้วทำร้ายคนให้เสียใจเป็นนิสัย
...ไม่ใช่สิ...สันดาน
...สันดานคนเลว...
...คนแบบนี้ต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสม...
...รอก่อนเถอะ เวลายังนานไม่พอ เขายังไม่มั่นใจพอว่าถึงเวลา 'จัดการ' กับไวโรจน์หรือยัง
****2****


ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #61 เมื่อ25-01-2010 09:51:59 »

สนุกมากมาย + ค๊า

mecon

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #62 เมื่อ25-01-2010 10:13:29 »

....โหยคุณหมอชาลีเนี่ย บริการประชาชนทุกระดับประทับใจจริงๆคะ....
น่ารักอ่ะ จริงๆแล้วก็ใจดีม๊ากมากไม่ขาดตกบกพร่องเรื่องจิตวิญญาณความเป็นหมอเลยนะ
แต่ถ้ากับหนุ่มๆๆค่อยสวมหน้ากากนางมารร้าย เอ้ย...สวมหัวโขนให้หนุ่มฟัน...แล้วทิ้ง :m20:
คนมันมีเสน่ห์อ่ะนะ..เลยใช้โปรยไปเรื่อย นี่ขนาดหนุ่มแผนกแล็บก็ยังไม่เว้นวาย อิอิ.

เพื่อนหมอเนี่ย...น่ารักเกิ๊นเวลาช้ำรัก..ก็คร่ำครวญไปตามประสาแอนด์กินช๊อคโกแลตเค้กแก้อาการเสียใจอีก
...แหม....อ่อนต่อโลกว่าหมออีกนะคะเนี่ย...ชีวิตเหมือนหนังวอลดิสนีย์...คิดได้ไงคะคำนี้อ่ะ เลิศ!!

เจอกับคุณตำรวจอีกรอบนึงแล้วนะ อิอิ หมอกับตำรวจคู่ก๊น คู่กัน แต่..คู่นี่คงบู๊ล้างผลาญแน่ๆ

+1 คะ  o13 o13

va_yu

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #63 เมื่อ25-01-2010 10:32:42 »

ปูมหลังของชาลีเริ่มเผยออกมาแล้ว.....

ออฟไลน์ ~l3aml3ery~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #64 เมื่อ25-01-2010 10:45:47 »

ตัวละครในเรื่องแต่ละคนน่าจิ้นทั้งนั้น :haun4: :haun4:

+1ค่ะ

ออฟไลน์ astral

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-5
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #65 เมื่อ25-01-2010 12:28:43 »

อดีตของชาลีน่ากลัวจัง

ทำเอาเข็ดกับความรักแบบจริงจังไปเลยนะนี่  :serius2:

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #66 เมื่อ25-01-2010 15:29:43 »

ร้ายอีกแล้วนายเอกของชั้น :laugh:

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-15
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #67 เมื่อ25-01-2010 19:42:39 »

แค้นฝังหุ่น :impress2:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #68 เมื่อ25-01-2010 20:26:57 »

 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:



เสร็จ แน่


แก้ แค้น เรยย


อย่าปล่อยโอกาสไห้ หลูด มือ น่ะ


 :laugh: :laugh: :laugh:

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #69 เมื่อ25-01-2010 20:45:03 »

สนุกมากกกกเลยคุณนาย
ตื่นเต้น น่าติดตาม
++++++++  ให้แล้วนะ    :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
« ตอบ #69 เมื่อ: 25-01-2010 20:45:03 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #70 เมื่อ25-01-2010 21:22:08 »

สงสัยอดีตของคุณหมอนี่ท่าทางจะหนักน่าดู
ตอนนี้ถึงได้เปนแบบนี้
ยังไงคุณหมอชาลีสู้ ๆๆ นะค๊า ๆ

 :L2: :L2:
ให้ไรท์เตอร์คร่า

taem2love

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #71 เมื่อ25-01-2010 21:50:51 »

ต้ายยยยยยแรงส์ๆๆๆๆๆค่ะ เข้ามาเจอเรื่องใหม่ของท่านนาย
ศึกสองคาสโนว่า(หรือเปล่า)
แอบน่าสงสารเหงบอกว่าดราม่าด้วย
คนนึงไม่อยากเจ็บเพราะรักกับอีกคนไม่อยากมีพันธะ
จะจบแบบไหนเนี่ยรออ่านต่อไป
เจอแต่ตำรวจอ่ะแต่ไม่เบื่อน้าาาาาชอบคนในเครื่องแบบ

ออฟไลน์ K2KARN

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3084
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +393/-6
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #72 เมื่อ25-01-2010 22:04:34 »

+1 พี่นาย เรื่องใหม่ๆ  :mc4:

โอ้ว เรื่องนี้เข้มข้นจริงๆ แค่ 2 ตอนเท่านั้นเองนะเนี่ย  :laugh:

ออฟไลน์ iiดาวพระสุขლii

  • คิดการใหญ่ ใจต้องเหี้ย(ม),,
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +746/-3
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #73 เมื่อ25-01-2010 22:30:06 »

เนื้อเรื่องสุดยอด  o13

น่าติดตามมากค่ะ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #74 เมื่อ25-01-2010 22:45:52 »

ทฤษฎีความรักของคุณหมอกะคุณตำรวจ สุดยอดมาก เฉือนกันไม่ลงเลย

princehoo

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #75 เมื่อ25-01-2010 23:10:35 »

 o13


ชอบๆๆๆ รออ่านตอนต่อไปนะครับ

prawy

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #76 เมื่อ26-01-2010 01:07:41 »

 :z6:



จัดการมัน                :laugh:

ออฟไลน์ i_lost in..

  • ' ในเมื่อเรามีความรักอันเต็มเปี่ยมจากครอบครัว แล้วทำไมต้องไปขอเศษเสี้ยวจากใคร '
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +166/-0
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #77 เมื่อ26-01-2010 01:36:55 »

อดีตหมอชาลีนี่ท่าทางจะหนักและทำร้่ายจิตใจหมอชาลีสุดสุด

ถึงทำให้หมอชาลีที่ดูใจดี(กับคนไข้) เกลียดความรักขนาดขั้นไม่เชื่อและไม่ไว้ใจในรัก แล้วหาทางแก้แค้นคนอื่น

ขนาดคนชื่อเหมือนยังโดน แล้วตัวการเมื่อถึงคราวโดนจะเป็นยังไงเนี่ย  ลุ้น

รออ่านตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #78 เมื่อ26-01-2010 12:07:47 »

คุณหมอคงมีความหลังฝังใจ o18
ดูแต่ละคนแรว๊งงง กันทั้งนั้น
ท่าจะมันส์มากกกก
+1 ขอบคุณคร้า
(เพิ่งตามไปอ่านเรื่องเก่ามา หนุกมากเลย :o8:)

ping ping

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #79 เมื่อ26-01-2010 19:27:04 »

เอกภพชอบตกหลุมรักเสมอ ในความคิดของเอกภพ ความรักเป็นสิ่งสวยงาม เป็นอาหารทิพย์ ในความคิดของชาลี ความรักเป็นหมากฝรั่งรสมินต์ เคี้ยวให้รู้รส พอหายอยากแล้วก็คายทิ้ง

  ^
  ^

  หมอชาลี คงมีอดีต(รัก) ที่ไม่สวยงามเท่าไหร่ (เดา + ดูจากเหตุผล ณปัจจุบัน)

  แล้ว ใครกันเป็นคนทำให้หมอชาลีต้องรู้สึกแบบนี้ ??

   ลุ้นต่อค้าบ.

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
« ตอบ #79 เมื่อ: 26-01-2010 19:27:04 »





ออฟไลน์ SweetSacrifice

  • I always get,what I aim for
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +479/-1
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #80 เมื่อ26-01-2010 21:46:50 »

ตอนแรกที่คิดเอาไว้นึกว่าอดีตของชาลีคือธงรบซะอีก 5555555555

dek_jun_rai

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #81 เมื่อ27-01-2010 03:06:35 »

เรื่องใหม่....หุ หุ หุ  o13

ออฟไลน์ Mimimimi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #82 เมื่อ27-01-2010 17:23:00 »

ว๊าว  เรื่องใหม่...  :L2:
เข้ามาอ่านเหมือนเคยน้า พี่นาย 
ว่าแต่ ชื่อเรื่องมันออกแนวละครตอนดึกเลยหนิ อิอิ 

McDeliVery

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #83 เมื่อ27-01-2010 20:10:37 »

โอ๊ะ ๆ มีเเต่คนตกหลุมรักหมอชาลี

หารู้ไหมว่า นายเอกเรื่องนี้ ร้ายจริง ๆ


 :z1:

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #84 เมื่อ27-01-2010 20:35:55 »

ตอนแรกที่คิดเอาไว้นึกว่าอดีตของชาลีคือธงรบซะอีก 5555555555

โหย คิดได้ไง 555 อะไรไม่ดีก็จะให้ธงรบรับเหรอคร้าบ

เอ่อ ตอนนี้ผมมาต่างบ้านต่างเมืองเลยยังไม่ได้โพสต่อ. รออีกนิดนะครับ ไม่ได้เอาคอมมาด้วย กลับถึงบ้านจะรีบโพสจุใจ
 

Loidelohm

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #85 เมื่อ27-01-2010 21:28:28 »

^
^
^
^
^
^
จิ้มด้วยแรงส่ง 240 กม/ชม.
อะจึ๊ก....อะจึ๊ก....
( คิดถึงธงรบอ่ะ )
พรวดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เข้าถึงใหนอ่ะ ว๊ากกกกกกกกกกกกก
มือหาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-01-2010 21:30:40 โดย Loidelohm »

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #86 เมื่อ27-01-2010 21:31:37 »

มาปูเสื่อรออ่านคร้า :m18:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #87 เมื่อ27-01-2010 22:01:49 »

มีปมให้ติดตามอีกแล้ว หมอชาลีนี่ก็ไม่เบา เจอแต่ตำรวจรูปหล่อ  :z1:

มารอดูกันต่อไปว่า หมอชาลี จะหาทางแก้ปมในใจได้ยังไง กับคนนามสกุลเหมือนกัน

ที่เคยทำให้เจ็บเจียนตาย

+1 ให้พี่นาย ใกล้ 1500 แล้ว ตกลงที่ไม่อยู่บ้านเพราะควบมอไซด์เที่ยวตามหา ภรรเมียหรือเปล่าครับ  :m20:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #88 เมื่อ29-01-2010 12:30:13 »


มาตามอ่านเรื่องของแม่นาสงฟ้า ชาลี อิอิ

แต่ว่าเรื่องนี้ดูจะเครียดๆ เนอะ

ว่ามิ?

ออฟไลน์ ~l3aml3ery~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
Re: เพลิงรัก บทที่ 2 (25/1/2010)
«ตอบ #89 เมื่อ29-01-2010 18:25:50 »

รอ.. แบบจุใจ!!!
 :give2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด