บุพเพวายร้าย(สอง)
24
“ คนของร้านต้องปิดเรื่องจุมกับพวกเราแน่” ไอ้วุฒิพูดมีเหตุผล แต่ถ้าผมเป็นจุมคงไปจากที่นี่มากกว่าให้ทุกคนโกหก
ไอ้วุฒิยืนขึ้นแล้วเดินเข้าไปด้านในของร้าน ผมกับไอ้แบงค์วิ่งตาม
ไอ้ไม่มีความอดทน!
“ จะไปไหนครับพี่?” พนักงานร้านยืนกันไม่ให้ไอ้วุฒิเดินเข้าไปมากว่านี้ถาม
“…………………………”(ไอ้วุฒิ)
“ ถ้าห้องน้ำด้านโน้นครับ ตรงเข้าไปเลี้ยวขวา” ไอ้วุฒิจ้องหน้าอีกฝ่าย
“ บอกให้จุมออกมา!?” ไอ้วุฒิว่าผลักไหล่น้องเขา
“ จุมไหนพี่?!” พนักงานถาม มีบ๋อยอีก 2คนเดินเข้ามาเพราะเห็นท่าทางเพื่อนจะมีปัญหา
“ วุฒิใจเย็นดิวะ!” ผมว่าจับไหล่ไอ้วุฒิ แต่มันสะบัดออก
“ ถ้าไม่รู้ก็ถอยไป!” ไอ้วุฒิพูดกับบ๋อยพยายามจะเข้าไปด้านในที่เป็นส่วนของพนักงาน (ลูกค้าในร้านเริ่มมองมาที่พวกผม)
“ พี่ผมว่าใจเย็นๆก่อนเถอะครับ”
“ จุม จุม!! ออกมาเจอพี่หน่อย” ไอ้วุฒิตะโกนพยายามจะเข้าไปข้างในให้ได้ แม้ไอ้แบงค์จะพยายามรั้งตัวไว้และบรรดาบ๋อยดันตัวไม่ให้เข้าไปก็ตาม
“ วุฒิ วุฒิ!” (ไอ้แบงค์)
“ จุม จุม!?” ไอ้วุฒิหมาบ้าไม่ยอมง่ายๆ
“ ขอโทษนะค่ะ ฉันให้คุณเข้าไปไม่ได้!” ผู้หญิงผิวขาว สีหน้าราบเรียบ ตัวเล็กในชุดกระโปงเรียบๆเดินมาตอนไหนไม่รู้บอก
“ ทำไมจะเข้าไปไม่ได้ ก็ในเมื่อเมียผมอยู่ในนี่!” ไอ้วุฒิว่าเสียงดัง
“ ถึงเมียของคุณ จะอยู่ในร้านของฉันจริงๆคุณก็ไม่มีสิทธิ์มาโวยวายสร้างความรำคาญให้กับลูกค้าลูกฉัน และถ้าคุณยังไม่ออกไปจากร้านของฉันตอนนี้ ฉันจะเรียกตำรวจ!” จ้องไอ้วุฒิเขม็ง ผู้หญิงท่าทางเรียบร้อยไม่คิดว่าเวลาเอาจริงจะน่ากลัวขนาดนี้
“ ก็เอาเด้!” ไอ้วุฒิท้า
“ ……………………..” ผมเอารูปจากมือพี่การะเกดให้เจ้าของร้านดู เธอมองหน้าแบบงงๆ
“ คือว่า พวกผมกำลังตามหาคนคนนี้อยู่ครับ ช่วยบอกด้วยว่าเขาอยู่ที่นี่หรือเปล่า?” ไอ้แบงค์ขอร้อง เธอมองหน้าผมก่อนที่จะหันไปมองไอ้วุฒิ(ไอ้แบงค์ล็อกตัวไอ้วุฒิจากด้านหลัง)
“ ขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่รู้จักคนในรูปและคิดว่าไม่เคยเจอเขาที่ไหน” เธอบอก ผมไม่คิดว่าเธอโกหก
“ ตอแหล!” ไอ้วุฒิว่า
“ ถ้าไม่เชื่อก็หาดูในร้านได้ตามสบาย แต่ต้องไม่ใช่คุณ!” เธอว่าพูดใส่หน้าไอ้วุฒิที่ท่าทางจะเดือดไม่แพ้กัน
“ โอเคครับ พวกเราจะพาเขาไปรอข้างนอก แต่ผมจะขอเดินดูในร้านและขอถามพนักงานในร้านถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป” ไอ้แบงค์ว่า
“ ไม่หรอกค่ะ ฉันดูท่าทางพวกคุณคงจะไม่คนเลวร้ายอะไร แต่ก็มีบางคนที่ท่าทางไม่เหมือน….” เธอว่าปรายตามอง แต่ไอ้วุฒิ
“ขอบคุณครับ”(ไอ้แบงค์)
“ แต่ตอนนี้ช่วยพาเพื่อนของพวกคุณออกไปก่อนได้ไหมค่ะ” เธอว่า พอผมหันกลับมาเลยเห็นลูกค้าในร้านจ้องพวกผมเป็นตาเดียว
“ครับ” ผมกับไอ้แบงค์พูดพร้อมกัน และก็หันมาสบตากันก่อนที่ไอ้แบงค์จะหันไปหาไอ้วุฒิ
“ วุฒิเดี๋ยวมรึงออกไปรอข้างนอกก่อน”
“ กรูไม่ไปไหนทั้งนั้น! ยังไงกรูก็ต้องหาจุมให้เจอ!” ไอ้วุฒิว่าท่าจะไม่ยอมท่าเดียว
“ ………………..” ผมหันไปมองไอ้แบงค์ว่าเอายังไงดีถ้าไอ้วุฒิมันยังอยู่ในร้านไม่เป็นการดีแน่ ไอ้แบงค์มองผมแล้วมองไอ้วุฒิ
“ วุฒิขอเถอะ ออกไปรอข้างนอกกับพวกพี่ยศ กรูกับไอ้ชนะจะจัดการเอง” ไอ้แบงค์บอก แต่ไอ้วุฒิไม่ขยับตัวสักนิด
“……………” ผมรู้สึกเหมือนกับว่าที่ไอ้แบงค์กำลังทำอยู่นี้ มันไม่ต่างจากผมคือ ตามหาจุมช่วยไอ้วุฒิ และตัวมันล่ะ? มันไม่ได้ตามหาจุมเพื่อตัวมันเองเหรอ?
ไอ้แบงค์ก็รักจุมไม่ต่างจากไอ้วุฒิ
ไม่ต่างกัน
ถ้าผมบังเอิญได้เจอจุม คนแรกที่ผมจะบอกคงจะเป็นไอ้แบงค์ ไม่ใช่ไอ้วุฒิ
“ วุฒิ ……………………………………ไม่ใช่มรึงคนเดียวที่อยาก เจอจุม อยากรู้ว่าจุมเป็นยังไง บ้าง กรูด้วย ยังไงกรูก็ต้องตามหาจุมให้เจอ …” ไอ้แบงค์พูด ผมคอแห้งผาก ลำคอเหมือนจะไม่มีอากาศมันกำลังตีบตัน
แบงค์
ตามหาเมียให้เพื่อน แล้วหัวใจมรึงล่ะ?
“ วุฒิออกไปกับกรู” ผมบอก จับแขนไอ้วุฒิและพาเดินออกมา ปล่อยให้ไอ้แบงค์จัดการคนเดียว ไอ้วุฒิก็เดินออกมากับผมโดยไม่พูดอะไรเลย
คำพูดไอ้แบงค์เมื่อกี้คงสะเทือนใจไอ้วุฒิเช่นกัน หากคิดดูแล้วไอ้วุฒิก็ต้องเข้าใจว่าไอ้แบงค์รู้สึกยังไง โหยหา เจ็บปวดแค่ไหน เพราะต่างก็รักจุมไม่ต่างกัน
ออกมานอกร้าน ผมปล่อยมือไอ้วุฒิเพราะคิดว่ามันคงไม่กลับเข้าไปแล้ว แม้ว่าไอ้วุฒิจะหยุดเดิน ผมเลยเดินนำออกไปหาพวกพี่ยศที่ยืนอยู่ด้านนอก
“ มีอะไรหรือครับ?” พี่ยศถาม
“ แค่คนอยากเป็นหมาบ้าน่ะพี่” ผมบอก พี่ยศทำหน้างง แต่ผมไม่ขยายความต่อ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งในรถ(เบาะหลัง)
ผมนั่งในรถเงียบๆแต่ก็หันหน้าไปมองทางออกของร้านตลอด ดูว่าไอ้แบงค์ออกมาหรือยัง (ไอ้วุฒิเดินวนไปวนมา)
รัก
คำเดียวสั้นๆ แต่อนุภาพของมัน น่ากลัวเหนือคำว่าน่ากลัว เพราะมันทำให้คนคนหนึ่งทำสิ่งที่ไม่คาดฝัน ทั้งที่คิดว่าชาตินี้จะไม่ทางทำ
มันทำให้คนคนหนึ่งรอคอยคนคนหนึ่งทั้งที่ไม่รู้ว่าเมื่อไร
ทันทีจักรเข้ามาห้วงความคิด ผมทำร้ายจักรครั้งแล้วครั้งเล่า สายตาจักรที่มองยังประทับติดในหัวใจ ไม่เคยลืมเลย
แค้นพี่ โกรธพี่ พี่เข้าใจ แต่พี่ก็รักไปแล้ว…
ผมหลับตาลง เหมือนน้ำตาจะไหล แต่ยัง มันยังคงปริ่มอยู่ในอก
“…………………………….จักร” ที่จักรเกลียดพี่มันไม่แปลกหรอก พี่ผิดแต่พี่ก็อยากให้จักรอย่างไม่มีเหตุผล และพี่ก็ยังให้ไอ้แบงค์รักพี่เหมือนกัน มันเพราะอะไรกันพี่ได้ถึงเป็นแบบนี้
รักทำให้คนมีความสุขอย่างที่ไม่เคยรู้สึกในชีวิต
รักทำให้คนคนหนึ่งทรมานเหมือนตายทั้งเป็นเช่นกัน
“ ……………….”
พรุ่งนี้ ผมต้อง..ไปรับจักร ผมจะได้เห็นหน้าน้องเขาแม้ว่าจักรจะไม่อยากเห็นหน้าผมก็ตาม
“ ??!!” พอผมลืมตาขึ้นมาก็เห็นไอ้แบงค์เดินออกมาจากร้าน ผมรีบเปิดประตูรถออกไปหาไอ้แบงค์ ขณะที่ไอ้วุฒิวิ่งไปหาไอ้แบงค์แล้ว ผมวิ่งตามไป
“ วุฒิ จุมไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่มีใครรู้จักจุม” ไอ้แบงค์บอก ผมก็ไปยืนข้างไอ้วุฒิพอดี
“ จะไม่ได้อยู่ที่ได้ไง! ?........” ไอ้วุฒิทำท่าคิด
“ กรูไม่สน กรูจะเข้าไปดูเอง ถ้ายายนั่นไม่ให้เข้า ได้เห็นดีกันแน่!” ไอ้วุฒิพูดจะเดินเข้าไปแต่ไอ้แบงค์ดันตัวไว้
“ วุฒิ อย่าใจร้อน”
“ แบงค์ ปล่อยกรู!! …………….หรือว่ามรึงไม่อยากให้เจอจุม!!” ไอ้วุฒิว่า ซึ่งคำคำนี้ไม่น่าจะออกมา …แม้ว่าผมกับไอ้แบงค์จะเข้าใจดี ทุกครั้งที่ไม่เจอจุมไอ้วุฒิมันก็จะอารมณ์เสียแบบนี้ เพราะไอ้วุฒิมันเป็นคนที่ไม่เข้าใจว่าทำไมทุกสิ่งทุกอย่างถึงไม่เป็นที่มันต้องการ ถึงแม้ว่าตอนนี้มันลดลงมากแล้วก็ตาม
บางครั้งผมก็สงสารไอ้วุฒิที่ถูกเลี้ยงมาแบบนี้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะตอนนี้ผมสงสารคือไอ้แบงค์
“ วูฒิ !มรึง พูดแบบนี้หมายความว่าไง!?” ผมพูดไม่พอใจ
“ ทำไม!จะพูดไม่ได้ ก็น่าจะรู้ๆกันอยู่” ไอ้วุฒิพูดเหมือนดูถูกไอ้แบงค์ ซึ่งถึงแม้ว่าผมจะรู้ว่าไอ้วุฒิมันนิสัยเป็นยังไง แต่ผมก็อดโกรธแทนไอ้แบงค์ไม่ได้ คนอย่างไอ้แบงค์ไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ ทั้งๆที่ไอ้วุฒิก็รู้
“ วุฒิ!! พูดเหี้ยๆแบบนี้ได้ไงวะ!” ผมดึงคอเสื้อไอ้วุฒิ โกรธมาก
“..นะ” ไอ้แบงค์ดึงมือห้ามผม
“ แล้วใครที่ตามมรึงไปหาจุมเหมือนตอนนี้ ไอ้แบงค์ไม่ว่าจะรู้อะไรก็บอกมรึงไม่เคยปิดบัง คิดว่าคำว่าเพื่อนสิบกว่าปีไม่มีความหมายเลยหรือไง!!” ไอ้วุฒิมันเงียบไม่โต้ตอบ มันก็คงรู้ว่าตัวเองพูดเกินไป
“ แค่รักจุมมันผิดมากหรือไง!!” ผมว่า
แค่รักมันผิดมากหรือไง!? นั่นผมอาจจะถามตัวเองก็เป็นได้
“ ………………………………ขอโทษ” ไอ้วุฒิพูดในที่สุด ผมปล่อยมือจากคอเสื้อไอ้วุฒิ เพิ่งรู้ว่าตัวเองก็อารมณ์ร้อนเหมือนกัน อาจเป็นเพราะคำว่า‘รัก’ ไอ้วุฒิก็คงเช่นกัน
“ เจ้าของร้านบอกว่าเก็บร้านถึงตี1เพราะมีคนเหมาร้านจัดวันเกิด แต่ทุกคนในร้านตอนนี้บอกว่าไม่เคยเห็นจุม………….”
เงียบ
“…………………………”
“ มรึงจะบอกว่า
จุมไม่เคยอยู่ที่นี่หรือไง!?” ไอ้วุฒิว่า ดูท่าทางสิ้นหวังมันแล้วมันคงรู้ตัวแล้วว่าอาจจะไม่เจอจุมที่นี่ แต่กำลังหลอกตัวเองอยูเหมือนกับ..ผม
“……………………..” ไอ้แบงค์ไม่ตอบ คงเพราะไม่อยากทำร้ายไอ้วุฒิไปมากว่านี้หรือไม่อยากทำร้ายตัวเองไปมากกว่านี้
ผู้ชาย 2คนที่ไม่อาจจะได้เจอคนที่รักได้ แม้ว่าจะพยายามแทบตาย
“ กรูจะไปลากคอไอ้บ๋อยนั่นมา!” ไอ้วุฒิว่า ดูท่าไม่เข้าใจจะเดินเข้าไปในร้านอีก
“วุฒิพอเถอะ จุมไม่ได้อยู่ที่นี่” ไอ้แบงค์บอกกระชากแขนไอ้วุฒิให้หยุด
“ กรูไม่เชื่อ!!” ไอ้วุฒิบอกสะบัดแขน ไอ้แบงค์ปล่อย แต่เป็นผมที่ตามไปดึงแขนไอ้วุฒิไว้
“ วุฒิ!” ผมเรียก ไอ้วุฒิหันกลับมา
“ ยอม รับ ความ จริง เถอะ” ผมบอกช้าๆทีละคำ และสีหน้ามันก็แย่ลงเรื่อยๆตามจำนวนคำที่เพิ่มมากขึ้น
“…………” ไอ้วุฒิส่ายหน้าที่เหมือนกำลังจะร้องไห้
คนหนีจะเจอง่ายๆได้ยังไง
“ ทำไม?” ไอ้วุฒิถามเสียงเบา ผมเข้าไปกอดมัน
“ สักวันต้องเจอแน่” ผมบอก
“ 24 เดือน 10 วัน จะให้รออีกนานแค่ไหน?” ไอ้วุฒิถามเสียงแหบ
“ กรูไม่รู้” ผมตอบตามความจริง ผมไม่รู้เลย
“ อย่าให้ กรูเจอ จะไม่ให้ไปไหนอีก” ไอ้วุฒิพูดเสียงเข้ม ผมรู้ว่ามันกำลังเสียใจ สิ้นหวัง ที่ไม่วี่แววจุมเลย
จุมจะรู้ไหมว่าไอ้วุฒิมันจะเป็นจะตายแค่ไหนที่ไม่มีจุม
“………………….” ผมเงียบไม่อยากถามอีก เพราะกลัวที่จะรู้ไปมากกว่านี้ ความทรมานมันสื่อถึงกันได้ไม่อยากหากเรามีอยู่แล้ว
“…………….” ไอ้แบงค์เดินเข้ามากอดผมกับไอ้วุฒิ
“ แบงค์”(ผม)
“…………….” ไอ้แบงค์จ้องหน้าผม ไม่พูด…
“…………….”
……แบงค์ ความทรมานของมรึงกรูก็รู้สึก แบ่งมันมาให้กรูบ้างได้ไหม กรูอยากทรมานกับมรึง
* * *
ไอ้วุฒิที่นั่งข้างขวาของไอ้แบงค์หลับไปแล้ว ผมมองออกไปนอกรถก่อนที่หันกลับเข้ามา ไอ้แบงค์มองตรงไปด้านหน้า แต่อาจจะไม่ได้มองอะไรเลย พวกผมนั่งอยู่ในนี้(ในรถไอ้แบงค์เบาะด้านหลัง) ตั้งแต่2 ทุ่ม จนตอนนี้ เพราะถึงจะรู้ว่าจุมไม่ได้อยู่ที่นี่แต่พวกผมก้ไม่อาจจะไปจากที่นี่ได้ในทันทีเหมือนทุกครั้ง เพราะคิดว่าอาจจะเจอจุมก็เป็นได้
สรุปแล้วไม่เจอบ๋อยคนที่พี่ห้าง และพี่การะเกดถามเรื่องจุมเมื่อคืนวาน ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมาก แต่จะให้ทำยังไงได้ ในเมื่อยังไงก็ไม่เจอจุมอยู่ดี
“…………………”
ผมยกข้อมือดูนาฬิกา ตี2 พอดี
“ ทำไมยังไม่นอน?” ไอ้แบงค์ถาม
“ แล้วมรึงล่ะทำไมยังไม่นอน?” ผมถามกลับ เอาหัวพิงไหล่ไอ้แบงค์ (เหมือนไอ้วุฒิ)
“ มีเรื่องให้คิด” ไอ้แบงค์พูด
“ พูดยังกะมรึงมีเรื่องให้คิดคนดียว กรูก็มีเรื่องให้คิดเหมือนกัน..” ไอ้แบงค์สบตาผม
“ เป็นเพราะกรู” ไอ้แบงค์พูด
“ มีส่วน แต่ไม่ทั้งหมด มรึงแค่รักจุม แต่คนที่ทำให้จุมหนีไปคือไอ้วุฒิ” ผมบอก คำว่า ‘ไอ้แบงค์รักจุม’ ราวกับมีดกรีดใจผมครั้งแล้วครั้งเล่า
“ แต่ถ้ากรูไม่รักเมียเพื่อน ก็ คง ไม่ เกิด เรื่อง ขึ้น..” ไอ้แบงค์พูดเสียงเริ่มสั่น
“ ความรู้สึกห้ามได้เหมือนก๊อกน้ำซ่ะที่ไหน” ผมพูด เข้าใจความรู้สึกนี้ดี ทั้งความรู้ที่รักจักร ทั้งที่รักไอ้แบงค์ ห้ามแล้ว แต่ห้ามไม่ได้ ห้ามเท่าไรหัวใจมันก็ไม่ฟัง
“……………………”
“
เพราะกรู…… …… …” ไอ้แบงค์พูดคำเดิม ก่อนที่จะเงียบไป ผมหันกลับไปมองร้าน ‘อิ่มอร่อย’ อีกครั้ง ร้านปิดไปนานแล้ว แต่ยังมีไฟเปิดหน้าร้านอยู่
……………………..ความเงียบ…………………………..
จุม
ไอ้แบงค์ยังรักจุม รู้ไหม? ยังตามหาจุมอยู่ไม่ต่างจาก2ปีที่แล้ว พี่ไม่แน่ใจว่าจุมโชดดีหรือโชคร้ายที่ได้รับความรักจากไอ้วุฒิ แต่พี่มั่นใจอย่างหนึ่งว่าจุมโชคดีที่สุดแล้วที่ได้ความรักจากไอ้แบงค์ ซึ่งพี่อยากได้มาก
ผมหันกลับมา ไอ้แบงค์ก็หลับไปแล้วทั้งที่เมื่อกี้บอกว่ามีเรื่องให้คิด
“ แบงค์” ผมเรียกไอ้แบงค์เบาๆ
“ ทำไมไม่มองกรูบ้าง ใครที่กับมรึงมาตลอด2ปีนี้ และก่อนหน้านั้นใครที่อยู่กับมรึง” ผมพูดแล้วน้ำตาก็คลอ ผมเลยเงยหน้าขึ้นพยายามไล่น้ำที่คลอเต็มเบ้าตาให้มันคืนกลับเข้าไป
รักยาก
ทางตัน
“ ทำไมกรูถึงเป็นแบบนี้………” ผมอยากถูกรัก อยากให้ไอ้แบงค์กอดผม แล้วพูดคำว่ารัก เท่าที่ผมต้องการ
“ ถ้าไม่เจอจุมมรึงยังจะรักจุมอยู่แบบนี้ไหม แล้วกรูล่ะ?”
ถ้ากรูหายไปมรึงจะตามหากรูแบบนี้ไหม?
“…………………………” ถ้าเป็นมรึงก็คงตามหากรูแต่ด้วยความรู้สึกแบบไหนนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง ใช่ไหม?
.
.
.
เย็น
!? ผมลืมตาก็เห็นหน้าไอ้แบงค์ที่กำลังยิ้มปนหัวเราะเบาๆ ผมเอามือจับแก้มยังรู้สึกเย็นอยู่เลย ไอ้แบงค์ยกขวดน้ำขึ้นไกว่ตรงหน้าผมห่างราว1ฝ่ามือ เมื่อกี้คงเอาขวดน้ำมาแนบกับแก้มผม
“ เช้าแล้ว” ไอ้แบงค์บอกยัดขวดน้ำใส่มือผม
“……………..” ผมมองซ้ายทีขวาที ไอ้วุฒิยืนมองร้าน ‘อิ่มอร่อย’อยู่นอกรถ
ผมรู้สึกเหมือนลืมอะไรบางอย่างไป ซึ่งสิ่งที่ผมลืมไปต้องสำคัญมากถึงได้ทำให้ผมไม่สบายใจอย่างยิ่งยวดอยู่ตอนนี้
จักร!! “ แบงค์กี่โมง!?” ผมถามไอ้แบงค์ที่กำลังเปิดประตูรถออกไป ตัวผมเองก็ดูนาฬิกาบนข้อมือด้วย
“ 7 โมงครึ่ง”
7 : 30 นาที ไอ้แบงค์และนาฬิกาของผมบอกอย่างงั้น
ป่านนี้จักรคงไปมอแล้ว คงไม่รอผมหรอก แต่ว่าจัรคงจะโกรธผมมากทั้งที่ผมบอกว่าจะไปรับ
“ มีอะไร?” ไอ้แบงค์ถามเลี้ยวตัวกลับเข้ามา
“ จักร” ผมบอกก้มหน้ากดโทรศัพท์โทรหาจักร
ตึ-------------------------------------------------ด
“…………………” จักรไม่รับโทรศัพท์ ทั้งที่ตอนนี้น่าจะยังไม่ถึงมอ
ตึ-------------------------------------------------ด
ผมมองหน้าไอ้แบงค์ ด้วยความวิตกกังวลและรู้สึกผิด
ตึ-------------------------------------------------ด
“ จักรไม่รับโทรศัพท์” ผมบอกมือยังยกโทรศัพท์แนบหู สัญญาณบอกว่าโทรติดแต่ไม่มีคนรับเช่นเดิม เป็นไปได้ไหมที่จักรจะลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน
“ ทำไม?”
“สัญญากับจักรไว้ว่า7โมงจะไปรับ” ผมบอก ส่งข้อความหาจักร
‘พี่ติดธุระด่วน พักเที่ยงพี่ไปหา’
“ มรึงกับจักร?” ไอ้แบงค์ถามเหมือนไม่รู้
“ เปล่า กรูยังตามตื้อจักรฝ่ายเดียวเหมือนเดิม” ผมบอกโทรหาจักรอีก
ตึ-------------------------------------------------ด
“…………………………” ไอ้แบงค์เงียบเปิดประตูรถออกไป ผมรู้สึกกังวลทันที รีบเปิดประตูอีกด้านตามไอ้แบงค์ออกไป
“แบงค์!” ผมดึงแขนไอ้แบงค์จากข้างหลังของเจ้าตัว ไอ้แบงค์หันกลับมา
“…………………………”(ไอ้แบงค์)
“ แบงค์ กรู……..” ผมพูดไม่ออก ไม่รู้จะพูดยังไงดี รู้แต่ว่าคำพูดของผมมันไม่น่าเชื่อเอาซ่ะเลย
“ กรูเข้าใจ” ไอ้แบงค์เป็นฝ่ายพูดแทน แต่ผมไม่เข้าใจคำว่า ‘กรูเข้าใจ’ คืออะไร
“ เข้าใจอะไร?” ผมถาม
“ …………..ถ้ามรึงใจกับน้องเขา สักวันหนึ่งน้องเขาต้องเห็นใจแน่” ไอ้แบงค์พูด ผมอยากจะร้องไห้
“ แล้วมรึงล่ะ?” ผมถาม ไอ้แบงค์แกะมือผมออกจากแขนตัวเอง
“ ชนะ เรื่องของกรูอย่าคิดเลย เป็นห่วงความรู้สึกของจักรดีกว่า…”
“…………………………” ผมพูดไม่ออก ก้มลงมองพื้นไม่กล้าสู้หน้าไอ้แบงค์เลย
เห็นหน้าจอโทรศัพท์ จักรรับแล้ว ผมยกขึ้นพูดทันที
“ จักร! จักร! ? ” ไม่มีเสียงตอบ นอกจากสัญญาณอีกฝ่ายกดทิ้ง(ไอ้แบงค์เดินไปหาไอ้วุฒิ)
ผมโทรหาจักรอีก
‘หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้……….’
จักรปิดเครื่อง
“…………………………” ขาผมหนักจนก้าวไม่ออก สายตาผมมองไปยังไอ้แบงค์ และแล้วไอ้แบงค์ก็หันมาเห็นว่าผมกำลังมองอยู่
“…………………………”ไอ้แบงค์หันไปหาไอ้วุฒิไม่ยอมสบตากับผม
* * *
เป็นจักรแบบที่อยากได้เลยเจ้าค่ะ

