
3.
สะดุ้งตื่น
ผม ฝันว่า พี่วุฒิ………………มาหาผมที่ห้อง พี่เขากอดผมไว้ ผมร้องไห้ไม่หยุดทั้งสับสน ทั้งกลัว แต่ก็รู้สึกดี เพราะพี่วุฒิต่างจากที่เคย และหลับไปทั้งอย่างงั้น
พี่เขาหน้าตาไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด แต่ตัวก็สูงขึ้นในสายตาผม ทำให้ผมมั่นใจว่านั่นคือความฝัน
“……………….”
ผมกำลังมองเพดานห้อง ไฟวงกลมรูปดอกไม้แบบนี้ไม่ใช่ที่ห้องผม?! ผมรีบลุกขึ้น สายตาปะทะกับพี่วุฒิที่นั่งอยู่ ไม่ห่างจากเตียง
“ พี่วุฒิ?!”
ความจริง?!
ไม่ใช่ ต้องไม่ใช่
“จุม” พี่วุฒิเรียกยืนขึ้นเดินมาหา ผมถอยหนี
“ ทำไมกลัวพี่เหรอ?” พี่วุฒิถาม นั่งลงบนเตียง ผมลุกขึ้นลงกระโดดวิ่งลงพื้นห้อง แล้วจับลูกบิดเปิดประตูวิ่งออกจากห้อง
“ จุม?!” พี่วุฒิร้องตาม ผมเสียวที่หลังกลัวพี่วุฒิจะจับได้เหมือนทุกที
“จุม?!” หมับ?!
พี่วุฒิจับไหล่ผม
ตุบ! ผมล้มลงทั้งที่ไม่ได้สะดุ้ดอะไรเลย และขาก็ไม่ยอมลุกขึ้น ผมต้องขยับตัวไปด้วยมือทั้งสองข้าง
“ จุ ม” พี่วุฒิเดินมาดักหน้า ผมมองเห็นเท้าพี่วุฒิที่ใส่ถุงเท้าสีดำ
“……………….” พี่วุฒิย่อตัวนั่งลง ผมยกมือขึ้นป้องเผื่อพี่วุฒิตีผม แต่พี่วุฒิไม่ได้ทำ พี่เขาเอาแขนช้อนใต้จักแร้ผมแล้วพยุงตัวให้ลุกขึ้น
“ วิ่งออกมาทำไม?” พี่วุฒิถามน้ำเสียงไม่ได้บอกว่าโกรธ ผมเลยกล้ามองหน้าพี่วุฒิ
พี่วุฒิทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เพราะผมหรือครับ? เพราะผมหรือเปล่า?
“ พี่ครับ ปล่อยผมไปเถอะครับ” 3 ปีแล้ว พี่ยังจะทำอะไรกับผมอีก อย่าทำร้ายผมเลย …………พอแล้ว
“ ป่ะ กลับห้อง” พี่วุฒิบอก เดินจูงมือผมเดิน
“……………….” ผมปล่อยให้พี่วุฒิ จูงมือเดินกลับห้อง เพราะไม่กล้าวิ่งหนีแล้ว เพราะคราวนี้ถ้าพี่วุฒิจับตัวผมได้คงไม่ใจดีแบบนี้ ผมรู้ความอดทนของพี่วุฒิมีขีดจำกัด
พี่วุฒิพาผมกลับเข้ามาในห้อง ก่อนที่จะไปเอาของในลิ้นชัก(ลิ้นชักโต๊ะติดหัวเตียง)
พี่วุฒิเอาเส้นสีเงินออกมา ผมถอยหนี แต่พี่วุฒิจับมือไว้ ผมไม่กล้าสะบัดออก
“………?!……….”
โซ่?! “ พี่ครับ พี่ครับ พี่” ผมบอกน้ำตาทะลัก
จะทำอะไรผม?!
“ พี่ไม่ทำอะไรหรอก พี่แค่กันไม่ให้จุมวิ่งออกไปเหมือนเมื่อกี้” พี่วุฒิบอกก้มลงเอาโซ่วนรอบข้อเท้าผมก่อนที่จะใส่กุญแจใส่ไว้
“ พี่ ครับ?!” ไม่ทำอะไรผมแล้วเอาโซ่มาล่ามผมทำไม?!
น้ำทะลักไหลจากตาไม่หยุด
“ ถ้าจุมบอกว่าจะไม่หนีพี่ไป พี่ก็จะเอาออกเดี๋ยวนี้” พี่วุฒิบอกเอามือโอบหน้าผมไว้ในมือ
“ พี่ครับ ผม…….” ผมไม่หนีไม่ได้หรอก แต่ถ้าผมพูด คงไม่จบแค่นี้
“……………….”
พี่วุฒิมีสีหน้าผิดหวัง “ งั้นพี่ก็ต้องทำแบบนี้”
พี่วุฒิพูดจบก็เดินออกจากห้องไป
“ พี่ครับ พี่ครับ” ผมเรียกพี่วุฒิไว้ อยากให้พี่เขามาเอาโซ่ออกไป โซ่ทำให้ผมกลัว กลัวว่าจะไม่สามารถไปจากที่นี่ ทำให้ที่นี่เหมือนคุก
“……………….”พี่วุฒิก็กลับเข้ามาจริงๆ
“ นี่เป็นของจุม” พี่วุฒิแบมือออก มีสร้อยสีเงิน ร้อยแหวน 3วง
ผมจำได้ แหวนสีเงิน 2 วง ด้านในสลักชื่อผม จุมฟ้า อีกวงหนึ่ง สลักชื่อ วรวุฒิ และแหวนสีทอง เป็นแหวนคุณแม่พี่วุฒิ
“ อย่า ทิ้งขว้างๆอีกรู้ไหม” พี่วุฒิบอกใส่ให้ผม ผมมองพี่วุฒิใส่สร้อยให้เงียบๆ
พี่วุฒิยังเก็บไว้ ยังเก็บไว้อยู่เหรอครับ?
“……………….” พี่วุฒิใส่ให้ผมแล้วก็จ้องมองแหวนที่ห้อยอยู่ ก่อนที่ก้มลงไปจูบเบาๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองผม
“…………………………….” สายตาสบกลางอากาศ (เป็นผมที่หันหน้าหนีก่อน)
สายตาอบอุ่นไปถึงหัวใจ จนทำให้นึกหวาดกลัวว่าสายตานี้จะเปลี่ยนไป เปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวพร้อมกับอารมณ์ที่เกรี้ยวกาจ
“จุม” พี่วุฒิเรียกชื่อผมเบาๆ ก่อนที่ใช้ปากสัมผัสที่คอของผม แล้วมาแก้มเหมือนจงใจผ่านริมฝีปากผมไป เรื่อยมาจนถึงหน้าผาก แล้วแนบริมฝีปากค้างไว้
“ จุมอยู่กับพี่จริงๆ” พี่วุฒิว่า
“ ครับ” (ผมพูดไม่รู้ตัว) พี่วุฒิก็อยู่ตรงหน้าผมเหมือนกัน
“ ไม่มีวันไหน ที่พี่ไม่คิดจุม” มือพี่วุฒิจับไล่ผมทั้งข้างซ้ายและขวา ผมต้องหันกลับมา มองหน้าพี่วุฒิ
“ …………………….” พี่วุฒิยื่นหน้าเข้ามา ริมฝีปากสัมผัสปากผมเนินนาบไม่รีบร้อน ปลายลิ้นรุกล้ำเข้ามา รสชาติหวานจนหัวหมุน แต่มือผมกำแน่น ทำให้ร่างกายเกร็งไม่รู้ตัว
พี่วุฒิดันตัวผมเข้าหาเตียงก่อนที่ผลักผมลงนอนกับเตียง (จ้องหน้าผมตลอดเวลา)
“ พี่…” พี่ครับ
“ …………………….” พี่วุฒิเงียบ แต่ผมสัมผัสถึงลมหายใจพี่วุฒิว่ากำลังร้อนขึ้น
“?!” พี่วุฒิจูบผมอีก คราวนี้รุนแรงกว่าเดิม หนักหน่วงกว่าเมื่อกี้มาก มือผมดันหน้าอกพี่ไว้โดยอัตโนมัติ แต่ร่างกายที่หนากว่า 3 ปีที่แล้วกำลังเบียดชิดจนรู้สึกได้ในอุณหภูมิในร่างกาย
ผมหันหน้าหนี พี่วุฒิตามมาครอบครองปากผมไว้ไม่ยอมปล่อย ผมรู้สึกเหมือนเลือดในตัวมันเย็น จนเลือดมันไม่ยอมทำหน้าที่ไหลเวียน
?! มือผมถูกพี่วุฒิดึงออกไปกดไว้กับเตียง ร่างกายพี่วุฒิบดเบียดเข้ามาหว่างขา สิ่งที่แข็งในกางเกงนั้นสัมผัสกับร่างกายผม
ผมไม่ต้องการ?!
ที่ตามหาผม เพราะแบบนี้ใช่ไหมครับ พี่วุฒิต้องการผมแค่นี้หรือครับ?
“ จุม ให้พี่นะ” พี่วุฒิพูดข้างหู พร้อมทั้งเลียไปด้วย
ทำให้ขนลุก
ผมขัดขืนได้เหรอครับ ผมปฏิเสธได้เหรอครับ แต่ผมทำแบบนั้น ผมต้องเจ็บตัวใช่ไหมครับ
“ ……………………ฮือๆฮือๆ” ผมไม่อยากเป็นแบบนั้นอีก พี่อยากทำอะไร พี่ทำเลยครับ
พี่วุฒิชะงัก ก่อนที่ลุกขึ้นจากตัวผม ผมขยับหนีแล้วขดตัวให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ฮือๆ……………………ฮือๆ”
“จุม”
พี่วุฒิเดินออกจากห้องไปแล้ว ผมขดตัวบนเตียงที่กว้างกว่าที่เห็น
# # #
…
.
…
กลิ่นๆหอม ผมได้กลิ่น อาหาร
ผมลืมตาตื่น ลุกขึ้นนั่ง มองไปรอบๆไม่เจอพี่วุฒิ แต่แล้วก็เห็นพี่วุฒิก็เดินเข้าห้องมา
“ หิวข้าวไหม คนดี?” พี่วุฒิถาม ผมขยับหนียังจำเรื่องก่อนหน้านี้ได้
“ มีคะน้าหมูกรอบด้วยนะ ชอบไม่ใช่เหรอ?” พี่วุฒิบอก ผมก็รู้สึกหิวจริงๆ
“ …………………….” พี่วุฒิพูดแล้วเดินออกไป ผมเดินตามออกไป เสียงโซ่ที่ลากกับพื้นทำให้ผมก้มลงไปมอง
ยาวกว่าเดิม? สังเกตเห็นแล้วว่าเป็น สองเส้นต่อกัน พี่วุฒิน่าจะทำตอนที่ผมหลับอยู่
ผมเงยหน้าขึ้น แบบนี้คงดีแล้วอย่างน้อยพี่วุฒิก็ไม่ทำร้ายร่างกายผม
บนโต๊ะอาหารตัวเดิมที่เหมือน 3 ปีที่แล้ว มีจานวางอยู่หลายใบ ผมเดินไปนั่งลงเก้าอี้ตรงที่มีจานข้าว พี่วุฒิเปิดโทรทัศน์แล้วเดินมาหาผม
น่าจะเป็นรายการสารคดี เกี่ยวกับสัตว์ เพราะกำลังพูดถึงลิง
“ กินเยอะๆนะ” พี่วุฒิบอก ตักหมูกรอบให้ผม
“ …………………….” ผมพยักหน้าเข้าใจ
คงเพราะผมหิว ผมถึงกินข้าวหมดจานอย่างรวดเร็วแม้ว่าข้าวจะพูน พี่วุฒิยิ้ม ผมยิ้มตอบ กระพุงแก้มมีข้าวเต็มปากอิ่มมาก ทั้งข้าวทั้งกับข้าวที่พี่วุฒิตักให้
“ ……………….”
“ นี่จานของพี่” พี่วุฒิเปลี่ยนจานที่หมดแล้วของผมเป็นของพี่วุฒิที่ยังไม่กินสักคำ
ผมมองหน้าพี่วุฒิ เพราะอิ่มแล้ว
“ ถ้ายังไม่อิ่ม กินของพี่ได้เลย” พี่วุฒิบอก ผมก้มหน้ากินต่อ แม้จะอิ่มแล้ว
“ เอานี่อีกนะ” พี่ตักซี่โครงหมูน้ำแดงให้ผม สองชิ้น ผมกินรู้สึกเหมือนจะอ้วก เพราะอิ่มจนจุก ผมมองข้าวในจาน ไม่รู้จะกินหมดไหม แต่ยังก็ต้องกินให้หมด ไม่งั้นพี่วุฒิจะโมโห
“ ทำไม?” พี่วุฒิถาม ผมเงยหน้าขึ้น
“ เปล่าครับ?”
“ อิ่มแล้วเหรอ?” พี่วุฒิถาม
“ ……………….” ผมไม่กล้าตอบ แต่ก็สังเกตสีหน้าพี่วุฒิไปด้วย
“ อิ่มแล้วใช่ไหม?” พี่วุฒิถามเน้น ผมรีบพยักหน้าตอบ
“ กินแล้วก็พอ” พี่วุฒิว่า มองผมเหมือนมีคำถาม แต่ไม่ถาม ผมกินน้ำจนหมดแก้ว เหมือนที่เคยทำ
“ …………………………….” (พี่วุฒิ)
“ ……………….” (ผม)
“ …………………………….” (พี่วุฒิ)
“ ………… … … .” ผมกำลังคิดว่าตัวเอง ทำอะไรหรือเปล่า? ทำไมพี่วุฒิไม่พูดอะไรเลย
“ …………………………….” (พี่วุฒิ)
“ ……………….” ผมใช้หางตามองพี่วุฒิว่าพี่กำลังอยู่ในอารมณ์ไหน พี่วุฒิมองผมกลับ แม้ว่าใช้หางตามองแต่พี่วุฒิก็รู้ ผมก้มหน้าลง
“ …………………………….” พี่วุฒิไม่พูดไม่จาเหมือนเดิม ผมลุกขึ้น เดินกลับเข้าห้องที่ออกมา
ผมต้องอยู่ในที่ที่ห่างจากสายตาให้ผมมากที่สุด เพราะพี่วุฒิไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ บางครั้งแค่ผมเดินผ่านก็โกรธแล้ว
ผมนั่งกอดเข่าบนเตียง ไม่รู้ว่าจะมีใครรู้หรือเปล่าว่า ผมโดนพี่วุฒิพาตัวมา ที่ร้านจะหาคนมาแทนได้ไหม? ชิดรู้เรื่องคงเป็นห่วง และคงตามหาผม
ไม่รู้ว่าผมมาอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว ดูนาฬิกาเมื่อกี้ 7 นาฬิกา ก็หมายความว่าเช้า ตอนที่เจอพี่วุฒิก็น่าจะเช้าเมื่อวาน
ประตูห้องที่เปิดค้างไว้ ค่อยๆปิดลง (พี่วุฒิปิด) ผมใจหาย เหมือนจะไม่ได้ออกไปอีก
“ …………………………….”
# # # #
ประตูเปิดออก ผมหันไป พี่ชนะเดินเข้ามา และตามด้วยพี่วุฒิ ที่ปิดประตูเมื่อเข้ามาในห้องแล้ว
“…………….” ผมนั่งอยู่บนเตียง มอง
พี่ชนะ? พี่เขามองที่ขาผม ผมหลบสายตา
“…………….”
“ จุม” พี่ชนะเรียกชื่อผม
“ ครับ” ผมว่า พี่เขาเดินมาติดขอบเตียง
“ มรึงพาจุมมาตั้งแต่เมื่อไร?” (พี่ชนะถามพี่วุฒิ)
“ วันพุธ” 2 วันมาแล้ว เพราะวันนั้นวันที่พี่วุฒิเจอผมคือวันจันทร์
“ วุฒิ ปล่อยน้องเขาเถอะ” พี่ชนะว่า ผมรอคอยคำตอบจากพี่วุฒิอย่างมีความหวังแม้จะน้อยนิดก็ตาม
“ ไม่!” พี่วุฒิต้องเสียงจริงจัง เดินมายืนข้างๆพี่ชนะ ผมขยับตัวจะถอยออกมา
“ น้องเขาไม่หนีไปไหนหรอก ใช่ไหมจุม?” พี่ชนะถามผมไม่ได้ตอบ เพราะถ้ามีโอกาสผมจะไปจากที่นี่
“ มรึงเห็นไหม คิดจะหนีกรูไปจริงๆ” พี่วุฒิพูด จ้องผม
แกร๊ก?
ผม พี่ชนะและพี่วุฒิมองประตูที่เปิด จักรวิ่งเข้ามา ตามติดๆด้วยพี่แบงค์ ผมมองพี่แบงค์เหมือนพี่เขาจะช่วยผมได้
“จุม?!” (จักร)
จักรก้าวยาวมาหาผม ก่อนที่ชะงักที่ข้อเท้าผม
โซ่
จักรมาอยู่ที่ได้ไง ผมสับสนไปหมด
“ นี่มันอะไรครับ ทำไมต้องล่ามจุมไว้ด้วย!?” จักรพูดเสียงดัง
“จักร!?” (ผม) จักรเดินตรงมาอีก พี่วุฒิเดินตามจักร แล้วอยู่พี่ชนะเข้ามาขวาง
“………….”
(จ้องมองกันในอากาศ)
“……….”
“ อย่าวุฒิ” พี่ชนะว่า พี่วุฒิขมวดคิ้ว
“ พี่ชนะ ทำไมต้องล่ามจุมด้วย นี่ใช่ไหมที่ไม่ให้ผมเข้ามา!” จักรถามพี่ชนะเสียงดัง จักรคงไม่รู้เรื่องของผม และเข้ามาเจอผมโดยบังเอิญ จักรพยายามหาทางแกะโซ่ที่ข้อเท้าผม ว่าจะปลดล็อกได้ยังไง พอรู้ว่าต้องใช้ลูกกุญแจก็มองหา
“ พาคนของมรึงกลับไป” (พี่วุฒิ)
“
ผมไม่กลับ ผมจะ …..” จักรว่าไม่ทันจบ พี่แบงค์ก็เอามือมาปิดปากจักรไว้ ก่อนจะพาจักรออกจากห้อง จักรส่งเสียงอู้อี้ในลำคอ สายตายังมองมาที่ผม
“…………….”
ผมมองจักรกับพี่แบงค์ที่ออกไป ………..ไปกันแล้ว
“…………….” ผมน่าจะรู้ใครก็ช่วยผมไม่ได้
“ วุฒิขอคุยกับจุมสักนาทีดิ” พี่ชนะว่า
“ มีอะไรก็พูดมา”(พี่วุฒิ)
“ กรูจะพูดได้ไง ก็มรึงหัวโด่อยู่เนี่ย!” “ มีอะไรจะคุย แล้วต้องปิดปังกรู” พี่วุฒิว่า พี่ชนะถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ ขอเถอะวะวุฒิ” พี่ชนะพูดเหมือนเหนื่อย
“…………….”พี่วุฒิจ้องหน้าพี่ชนะ แต่แล้วก็เดินออกไป
“…………….”
“จุม ไอ้วุฒิมันไม่ได้ทำอะไรจุมมากกว่านี้ใช่ไหม?” พี่ชนะถาม
“ ไม่ครับ พี่ชนะ แต่ผมกลัว” ผมบอก และกลัวจากใจจริง
“ ไม่ต้องกลัว ไอ้วุฒิมันเปลี่ยนไปแล้ว” พี่ชนะบอกผม
“…………….” เปลี่ยนไปแล้ว?
“ จุมก็ทำตัวว่าง่าย อย่าไปขัดใจมัน”
“…………….”ผมก็ไม่รู้ว่าสิ่งใดที่ว่าไม่ขัดใจ
“ จุมอยู่เงียบๆแบบนี้ไปก่อน พี่จะหาทางช่วย” พี่ชนะทำให้ผมมีความหวัง
แต่ผมก็ต้องช่วยตัวเอง
“ พี่ชนะ ผมไม่ได้ รักแล้ว” ผมพูดเสียงเบา คิดว่าถ้าพี่วุฒิรู้ว่าผมไม่ได้รักพี่วุฒิแล้วพี่เขาคงจะไม่ยุ่งกับผมและปล่อยให้ไปกับคนที่ผมรัก
ถึง แม้ ว่า คน ที่ผม รักนั้น เขาจะไม่สนใจผมอีกก็ตาม ใจผมก็เจ็บเมื่อคิดอย่างงั้น แต่ผมไม่มีทางออกที่ดีกว่านี้แล้ว
“ แล้ว?” (พี่ชนะ)
“ ถ้าพี่วุฒิรู้จะปล่อยผมไปไหมครับ?”
“ ทำไม จุมมีคนรักใหม่แล้วเหรอ?” พี่ชนะถาม
“ ครับ” จุมบอกก้มหน้า พยายามทำตัวไม่ให้มีพิรุธ ว่าผมโกหกแต่งเรื่องเอง
“ ใคร?” พี่ชนะถามเน้น
“ พี่ชนะจำเพื่อนผมที่ชื่อ ชิดได้ไหมครับ”
“ เออ พอจำได้” พี่ชนะว่า
“ เราคบกันอยู่ครับได้ปีหนึ่งแล้ว ผมคิดจะบอกพี่วุฒิ เพราะถ้าพี่วุฒิรู้ว่าผมมีแฟนแล้วจะได้ปล่อยผมไป”
“ อย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับไอ้วุฒิ” พี่ชนะบอกจริงจัง
“ ทำไมครับ?”
“ หรืออยากให้ชิดเจ็บตัวอีก” ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย
ผมไม่ควรดึงชิดเข้ามาเกี่ยว เมื่อ 3 ปีที่แล้วชิดก็ถูกพี่วุฒิส่งคนไปซ้อมจนต้องโรงพยาบาล
“ไหนพี่ว่าพี่วุฒิเปลี่ยนไปแล้วครับ” ผมใจหาย เป็นห่วงชิด เพื่อนคนสำคัญ เพื่อนที่คอยดูแลผมมาตลอด
“อะไรก็เกิดขึ้นได้”
แอ๊ด?!
ประตูเปิดออกช้าๆพี่วุฒิเดินเข้ามา สายตาพี่วุฒิมองผมต่างจากเมื่อกี้
“ ไอ้แบงค์พาจักรลงไปรอที่รถ” พี่วุฒิบอกพี่ชนะ
“ อืม” พี่ชนะลุกขึ้นหันมามองผมแล้วเดินออกจากห้องไป
“……………………….” ในห้องเงียบ
ผมก้มตัวลงนอน พี่วุฒิเดินตรงมาที่ผม
“……………………….…………………….”
“…………
…!!!?… ……….”ผมรีบลุกขึ้น รู้สึกแปลกๆ
“ จุม!” พี่วุฒิเรียก แต่เสียงแข็งผิดปกติ ผมลุกขึ้นยืน วิ่งลงจากเตียง(เสียงโซ่กระทบกับพื้นทำให้ใจสั่นมากกว่าเดิม)
ทันที!? พี่วุฒิวิ่งตามผมมาอีกด้านของเตียง แล้วจับไหล่ผมกดกับผนังห้อง
“ พี่ครับ?!” ตกใจ
“……………………….” พี่วุฒิพาหน้าเข้ามาแทบติดหน้า ผมสัมผัสได้ลมหายใจที่รดแก้ม
“ พี่?” (เสียงสั่นและไม่ใช่แค่เสียงที่สั่น)
“……………………….” พี่วุฒิก้มลงมาอีก ผมหันหน้าหนี พี่วุฒิหยุด
“ อย่าครับ” ผมบอก ขยับใบหน้าออกห่าง
กลัว ยิ่งพี่วุฒิเงียบก็ยิ่งกลัว
“……………………….” ทั้งผมทั้งที่วุฒิไม่ได้ขยับ
“ พี่ตามหาจุมจนเจอแล้ว พี่ไม่ปล่อย จุมไปหรอก!” พี่วุฒิบอก ก่อนที่จะดึงตัวผมไปชิดตัว ผมผงะหน้าออกห่าง
“…………!!!?…”
ตุบ!!!? พี่วุฒิผลักผมลงไปนอนกับเตียง ตามด้วยตามมาคร่อมตัวผม กระชากกางเกงผมลงไปตามขา
“ อย่าครับพี่!!?” ผมบอก จับมือพี่วุฒิที่กำลังดึงกางเกงชั้นในของผม
“……………………….” พี่วุฒิไม่ตอบ ดึงกางเกงในผมลงตามกางเกง มือผมที่ผลักพี่เขาสะเปะสะปะ แล้วก็แค่ยั้งๆไว้ เพราะไม่กล้าที่จะขัดขืน ยิ่งต่อต้านรุนแรงมากเท่าไร ผลที่ตอบกลับมารุนแรงกว่าเป็นทวีคูณ ผมรู้ เข้าใจ และรับรู้รสชาติของผมดี
น้ำตาร้อนเต็มเบ้าตา จนไหลตามหางตาลงมา
ทำยังไงดี ทำยังไงดี ผมคิดไม่ออก สติแตกกระเจิง รวบรวมไม่ได้ว่าจะให้ทุกอย่างหยุดได้ยังไง
“ พี่ครับ!?” ผมใจหาย ขาถูกแยกกางออก
“ พี่
อุ๊บ!?” พี่วุฒิปิดปากผมด้วยริมฝีปากพี่เขา ไม่รุนแรงแต่เน้นหนัก
ผมกลั้นหายใจ หลับตาแน่นจนสั่น และสะดุ้งเมื่อส่วนหลังถูกบางอย่างสอดใส่เข้ามา
เจ็บ! เบื้องหน้าถูกพี่วุฒิกำและรูดผมสะท้านไปทั้งร่างกาย ทั้งความรู้สึกตามธรรมชาติที่เกิดขึ้น ทั้งความหวาดกลัวที่แกะกุมทุกอณูของร่างกาย
ในปากลิ้นพี่วุฒิเกี้ยวพันลิ้นผมจนมันโอนอ่อนตาม ภายในร่างกายเริ่มร้อนระอุ แต่หัวใจกลับเย็นเฉียบ อีกครั้งที่นิ้วพี่วุฒิเพิ่มเข้ามาในร่างกาย และอีกครั้ง ร่างกายผมขมิบให้สิ่งแปลกปลอมให้หลุดออกไป แต่พี่วุฒิกลับดันเข้ามาลึกขึ้นเรื่อยๆ พร้อมทั้งเน้นปุ่มที่ทำให้ตัวผมบิดแอ่น เพราะเสียวสะท้าน
“ จุม จุม” ใบหน้าพี่วุฒิ นัวเนียอยู่บนอก และดูดเล็มยอดอกจนผมเจ็บเสียวแปล๊บ พี่วุฒิเริ่มรีบร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ
ภายในกำลังมีบางสิ่งที่อัดอั้นและอยากออกมาอย่างยิ่งยวด
“ อะ
อ้า อะ อยะ” เสียงผมที่เริ่มประหลาด ในหัวขาวโพน
พี่วุฒิเอานิ้วเอาไป และทันทีก็ช้อนขาผมขึ้น สะโพกผมลอยขึ้นเหนือที่นอน
ผมกลั้นหายใจเตรียมไว้ พี่วุฒิดันส่วนแข็งขึงเข้ามาในร่างกายผม
“ อะ อย่าครับ ผม
เจ็ บ!!” ผมบอก
“ จุมอดทนไว้” พี่วุฒิดันเข้ามาอีก
ร่างกายทรมานคล้ายจะแตกแยกออกจากกันได้
“ อย่า อย่าครับ” ผมถอยก้นหนี พี่วุฒิก้มลงมาจูบผม บดริมฝีปากลงมารุนแรงกว่าเดิม พร้อมทั้งเอาหมอนมารองใต้สะโพกของผม
“……..” พี่วุฒิจับมือให้คล้องคอพี่เขาไว้ แล้วดันลำแข็งขืนเข้ามาจนลึก! ช่องทางปวด และเจ็บ
มือที่ผมคล้องคอพี่วุฒิหมดแรงร่วงลงมา พี่วุฒิจ้องหน้าผมตกใจ
“ จุมพี่อยากให้เราเป็นของกันและกัน ……….เหมือนเดิม” พี่วุฒิบอก จับส่วนหน้าของผมที่หดตัวแล้ว แล้วรูดกลับไปกลับมา ทั้งเน้นส่วนปลายจนมันตั้งชันขึ้นมาอีก
ตาผมพร่าเลือน น้ำตามันบัดสิ่งที่เห็นไปมากกว่าครั้ง หน้าพี่วุฒิจึงไม่ชัดในสายตาผม
“ พี่รักจุม” คำพูดดังมาจากที่ไกลแสนไกล เป็นคำที่หล่อเลี้ยงผมมาโดยตลอด ถึงจะนานมาแล้วก็ตาม
คำที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับผม จำได้ว่า ตอนที่พี่บอกผม ผมรู้สึกเหมือนตัวจะลอย ใบหน้าร้อนจนรู้สึกมึนงง
“……อะ……”
ร่างกายผมสั่นไหวตามจังหวะที่พี่วุฒิกระชั้นเข้าออก เสียงผิวเนื้อกระทบกันตามจังหวะหนัก เบา ที่พี่วุฒิควบคุม
ทุกๆอย่างค่อยๆห่างออกไป ทั้งตัวผม ทั้งลมหายใจพี่วุฒิ
ค่อยๆมืดลง
มืดลง และสีดำสนิท
. …..
.
…..
ผมฝันเห็นตัวเองเมื่อครั้งโน่น ผมกำลังแอบมองพี่อยู่หลังอาคาร หัวใจผมเต้นระรัวเสียงดัง หัวใจอิ่มเอิบ อมยิ้มอยู่คนเดียว ทั้งที่ได้แค่ มอง….
# # #
อย่างยาวเพราะครั้งแล้วแล้วมีบางท่านบอกว่าสั้น? ก็ไม่สั้นหนาท่าน
ท่านนักอ่านที่ตามมาที่หลัง เจ้าหญิงนับถือในความอึดของท่านจริงๆเน้อ
ไม่ว่าจะอ่านจากโทรศัพท์ก็ดี คอมฯก็ดี อย่างอื่นก็ดี ขอบคุณที่ตามกันมา 