Re:บุพเพวายร้าย-พิเศษ3/3...........................................หน้า672,673
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Re:บุพเพวายร้าย-พิเศษ3/3...........................................หน้า672,673  (อ่าน 4432326 ครั้ง)

Bessonova

  • บุคคลทั่วไป
ขอสมัครเปนแฟนนิยายด้วยคน สงสารจุมมากกกกกกกก จุมอย่าเปนอะไรนะ เอาแบบหนีไปเมือกนอก แล้วอิพี่วุฒิตามหานานๆ โฮะๆ

ออฟไลน์ ปลาทองสีชมพู

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
มันซับซ้อนจริงๆ พี่วุฒิเนี่ยะ สงสารน้องจุมอ่ะ ทำอะไรๆก็โดน
แต่ก็เริ่มเข้าใจพี่วุฒิอะไรนิดหน่อย เฮ้ออออออออออออออออ

พรุ่งนี้จะเข้ามารอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า :-[

nootnoot

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาครั้งแรกนะเนี้ย ยอมสมัครเพื่อเจ้าหญิงแมวเลย

ตามมาจากเด็กดีเจ้าค่ะ
:mc4: :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
มาปูเสื่อรอตอนต่อปายยยย


 :man1: :man1: :man1:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
มานอนบนเสื่อรอด้วยคนจ้ะ  :m18:

ออฟไลน์ BlackClover

  • ◥≡Pe'un≡◤
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
มารอเจ้าหญิง   

ก่อนไปสอบ  :sad11:

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
 :L2: เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ meawlynx

  • =^^~
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +965/-339
Re: บุพเพวายร้าย 12
«ตอบ #187 เมื่อ11-03-2010 08:50:27 »

 


ตอบคำถาม
 - ตอนปัจจุบันน่าจะ 19 เจ้าค่ะ








บุพเพวายร้าย
12.  
   





       จากวันที่ผมมากจากบ้านพี่วุฒิวันนี้ก็ 1 เดือนพอดี...................





          เสียงเคาะประตูทำให้ผมสะดุ้งตื่น
   แม่มั้ง!
“ ครับแม่  เข้ามาเลยครับ” ผมบอกนอนแผ่ราบกับเตียง ยังเหนื่อยจากการเดินทางเที่ยวระยองเมื่อวาน ถึงจะนั่งรถไม่กี่ชั่วโมง แต่ขึ้นเรือนี่สิครับ ผมอ้วกไปตั้งหลายครั้ง แต่บันบันหน้าชื่นตาบาน นี่ยังบอกอีกว่าถ้ามีเวลาจะมาอีก ผมเลยบอกว่าจะมาน่ะมาได้แต่ขอไม่ขึ้นเรือได้ไหม พอผมเมาเรือแล้วก็หมดสนุกครับ
   ผมขมวดคิ้ว แม่เข้ามาแล้วทำไมไม่พูดไม่จา
   ใบหน้าที่รู้จักโผเข้ามาในสายตา เจ้าตัวกำลังยืนผมอยู่ข้างเตียง
    ผมผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ พี่วูฒิ!!!” ผมถอยจนหลังชนหัวเตียงที่เป็นไม้เรียบๆ
“ ไงไม่เจอกัน ตั้งเดือน คิดถึงผัวไหม!” พี่วุฒิก้มลงเอามือจับปลายค้างผม ผมปัดมือออก
   พี่วุฒิมาได้ไง ไม่ใช่ทุกอย่างมันจบไปแล้วเหรอ
   ผมกำลังฝันอยู่แน่นอน
“ กรูเคยบอกแล้วใช่ไหมว่า ปัดมือกรูเจอดีแน่!” พี่วุฒิว่าคราวนี้บีบคางผมจนปวดไปหมด
“ แน่ะ ทำร้องไห้ กรูไม่สงสารมรึงหรอกจะบอกให้เอาบุญ อย่าบีบน้ำตาให้ยาก” พี่วุฒิพูดแล้วก็สลัดมือที่บีบคางผมเหมือนกับว่าของที่จับมันโสโครก
“ แม่กับพ่อกรูอยู่ข้างล่าง .......” พี่วุฒิพูดมองต่ำลงมาราวกับกับหยั่งเชิงผม
   พ่อแม่พี่วุฒิมาทำไม?
“ รีบแต่งตัว กรูจะพาไปดูคอนโด”
“ คอนโด???” ผมพูดด้วยความสงสัย มือเช็ดน้ำตาให้แห้ง
“ ใช่ คอนโดที่กรูจะไปอยู่ตอนเรียน” พี่วุฒิบอก และทำไมผมต้องไปดูด้วย
“ ผมไม่ไป” ผมบอกลุกขึ้นไปชิดผนังอีกด้าน เพื่อเว้นระยะไม่ให้พี่วุฒิเข้ามาทำร้ายผมได้
   1 เดือนที่ไม่ได้เจอพี่วุฒิทำให้ผมมีความกล้าเพิ่มขึ้นที่จะพูดแบบนี้
“ ต้องไปเพราะกรูสั่ง!!”  พี่วุฒิบอกเดินสามขุมอย่างใจเย็นและเป็นต่อมาหาผม
“ ผมไม่ไป!” ผมบอกจะเดินหนีแต่แขนพี่วุฒิยื่นมาดึงแขนผม ก่อนที่ออกแรงกำจนผมเจ็บร้าว
  “ ต้องไป เพราะมรึงต้องไปอยู่กับกรูด้วย!”
   ตาผมเบิกตาในสิ่งที่พี่วุฒิพูด หรือว่านั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมพ่อแม่พี่วุฒิมาที่นี่
   มาเพื่อพูดอะไรบางอย่างกับแม่ผม
“ .......!??!”  ไม่ได้การ  ผมต้องลงไปบอกแม่ว่าผมไม่ไปอยู่คอนโดกับพี่วุฒิ
“ จะไปไหน!!”  พี่วุฒิพูดดึงแขนผมแม้ผมจะแกะออกก็ตาม
“ พี่จะเอาอะไรกับผมอีก ผมไม่มีอะไรให้พี่หรอก แค่นี้ผมทรมานไม่พอหรือไง!” ผมพูด น้ำตาจะไหลก็ช่างหัวมัน!
“ กรูจะเอามรึง!”
“ .........................................”
“ ชัดไหม!”
“ ไม่! ผมไม่ไป”
“ ต้องไป!” พี่วุฒิพูดง้างมือเหมือนจะตบหรือชกผม ผมรีบยกมือขึ้นบังไว้
“...........................”
   ค้าง??
   ไม่มีอะไรเกิดขึ้นผมจึงเอามือลงแล้วจ้องมองมือพี่วุฒิด้วยความไม่เข้าใจ
“ ........................”
   พี่วุฒิยักยิ้มขำที่เห็นผมกลัวจนลนลาน
“ นี่มรึงคิดว่ากรูจะต่อย ให้มรึงไปฟ้องแม่ว่ากรูตีมรึงเรอะ” พี่วุฒิพูดพร้อมเอามือปัดหัวผม
“ กรูไม่โง่ขนาดนั้นหรอก  แต่กรูทำอย่างอื่นได้โดยที่แม่มรึงไม่เห็น” พี่วุฒิบอกพร้อมเดินมาใกล้ แม้จะชนกับตัวผมแต่ก็ยังเบียดจนหลังผมติดกับผนังห้อง
“ พี่จะทำอะไร?”
“ ถ้ากรูบอกว่าจะข่มขืน.. มรึงจะทำอะไรกรู”
“ ................ช่วย!!”  ผมจะร้องให้พวกแม่ที่อยู่ข้างล่างได้ยิน แต่ปากผมถูกปากพี่วุฒิจู่โจมและตักตวงอากาศที่ใช้หายใจไป
   เหตุการณ์เลวร้ายมันเข้ามาโสตประสาทผม..ทุกอย่าง ทั้งตอนที่พี่วุฒิจูบผมอย่างเหยียดหยามเหมือนตอนนี้ ทั้งมือที่สัมผัสอย่างจ้าบจ้วง และร่างกายที่ถูกยัดเยียดให้อย่างรุนแรงและไม่มีที่สิ้นสุด มันมากเกินที่จะรับไหว มันเลยทำให้ผมหวาดกลัวพี่วุฒิ จนไม่กล้าที่จะผลักพี่วุฒิออกไป ร่างกายที่สั่นเทาได้แต่ยืนเกร็งไม่กล้าขยับเขยื้อน
   ตาที่หลับแน่นเห็นแต่ความมืด
ผมแทบจะขาดอากาศหายใจแล้ว เลยพยายามส่งเสียงให้พี่วุฒิรู้ แต่พี่วุฒิยังคงปิดปากผมแนบสนิท
   มือแข็งๆลูบไหล้สะโพกผมก่อนที่จะเข้าไปสัมผัสผิวข้างใน
   แล้วเอานิ้วเข้าไปตรงส่วนที่รัดแน่นที่สุดในสะโพกผม
   ตัวผมเริ่มดิ้นด้วยสัญชาติญาณ มือผลักไหล่พี่วุฒิ ใบหน้าหันหนีริมฝีปากได้รูปนั้น ทว่าเบื้องล่าง นิ้วพี่วุฒิยังคงอยู่ข้างใน และมีบ้างอย่างใส่เข้าไปด้วย!!!
“ อึ้~ก!!”   อะไร!!!!???????
พี่วุฒิใส่มันเข้ามารวดเร็ว... ใส่บ้างอย่างเข้าไปในร่างกายผมและเอานิ้วออกมาอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน ก่อนที่จะเป็นคนผลักตัวผมออกมาเอง
   ผมหน้าร้อนและคงแดงด้วย ร่างกายหายใจแฮ่กๆเอาอากาศเข้าปอด
   บางสิ่งบางอย่างอยู่ในร่างกาย
“ พี่ พะพี่  ทำอะไรผม??”  ผมถาม ร่างกายร้อนวูบวาบไม่หยุด เวลาเดินเหมือนมีอะไรอยู่ข้างใน และร่างกายเหมือนมันกำลังรัดแน่นเจ้าสิ่งนั้นอยู่ด้วย
“ กรูก็แค่ใส่ของเล่นใหม่เข้าไปเท่านั้นแหละ” พี่วุฒิว่านั่งไขว้บนเก้าอี้ไม้ตัวเดียวในห้อง และเป็นตัวที่ผมนั่งทุกวัน
“  ส่วนอันนี้ ก็ไว้เล่นคู่กัน”พี่วุฒิยิ้ใแล้วล้วง สิ่งที่คล้ายรีโมทเล็กๆออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วพลิกไปพลิกมาอยู่ในมือ
“ ลองเล่นดูไหม?” พี่วุฒิถาม ผมส่ายหน้าปฎิเสธเพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่ แต่พี่วุฒิกดปุ่มเล็กๆจากหลายปุ่มพร้อมกับหันมายิ้มทางผม
“  !!!??................เอ๊ะ  อ้า!!! อย่า” ข้างในร่างกายไอ้สิ่งนั้นมันกำลังสั่น
“ รู้แล้วใช่ไหมว่ามันเล่นยังไง!!” พี่วุฒิว่าพร้อมกับยืนขึ้นเต็มตัว แล้ว เดินมาหาผมที่นั่งกองกับพื้น
“ พี่ ทำแบบนี้ ทำไม  ทำไม”  ผมถาม พยายามไม่รู้สึกถึงสิ่งที่มันสั่นในร่างกาย แล้วมันก็หยุดเหมือนช่วยผม ใครว่าล่ะ...แล้วมันก็สั่นขึ้นมาอีก
   รู้สึก..มากขึ้นไปอีก ร่างกายร้อนวูบวาบ
“ ก็มรึงไม่ยอมไปดูคอนโดกับกรู กรูเลยต้องสั่งสอน ถ้ามรึงพูดรู้เรื่องตั้งแต่แรกกรูก็ไม่ทำแบบนี้ เข้าใจ๋!”
“ ผมไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้ใจร้ายกับผมขนาดนี้” ผมบอกพยายามข่มอารมณ์ร้อนรุ่มจากสิ่งนั่นที่สั่นบ้างหยุดบ้างในร่างกาย
“ กรูพอใจ” พี่วุฒิเดินมาหาผมแล้วพยุงผมยืนขึ้น
“ ลงไปข้างล่างกับกรู แล้วไม่ต้องพูดอะไรนอกจากคำว่า 'ครับ' ”พี่วุฒิบอกหันหน้ามองผม ที่ห่างกันแต่ฝ่ามือ
“เช็ดน้ำตาด้วย”
   ผมไม่เช็ดเพราะไม่อยากลงไป
“ มรึงรู้ไหมว่าปุ่มที่กรูกด มันแค่เรเวล 2 กรูคงจะต้องให้เรเวล 7 ให้มรึงลิ้มลองแล้วลากคอมรึงลงไปหาแม่มรึงให้รู้ว่ามีลูกร่านขนาดไหน!!” ผมตะหนกกับสิ่งที่พี่วุฒิพูด
“ ไม่ครับพี่อย่าทำแบบนั้น”
“เช็ดน้ำตาซ่ะ!  กรูชักไม่แน่ใจว่ามรึงเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่ น้ำตาร้องเท่าไรก็ไม่หมด”
“ ผมพยายามแล้ว”
“ พยายามแล้วก็พยามยามอีก!” พี่วุฒิสั่ง ยังคงจับมือผมรอให้น้ำตาผมมันหยุดไหล แต่เวลาไอ้ของเล่นนั่นสั่นอยู่ในร่างกายผม น้ำตามันก็ไหลออกมาทุกที
“ พี่ครับ เอามันออกไปเถอะครับ”
“ กรูจะเอาออกให้ตอนไปถึงคอนโดแล้ว” พี่วุฒิไม่ได้มองผม แต่มองมุ่งไปข้างหน้า ที่ไหนสักที่
“ แต่ว่า ...”
“ ไม่ต้องต่อลอง ไม่งั้นกรูจะโกรธ...” พี่วุฒิบอกเสียงเข้ม
“ .......................................................” ผมเลยได้แต่พยายามเก็บน้ำตานาน 2 นาน โดยมีพี่วุฒิยืนจับมือข่มขู่อยู่ตลอดเวลา
.
.
.
   
.
.
   พอเห็นว่าผมหยุดร้องไห้แล้ว พี่วุฒิก็จูงมือผมพาลงมาข้างล่าง
   แม่ คุณวชิระ คุณแพร นั่งรอพวกผมอยู่แล้ว ด้านล้างจะเป็นเก้าอี้ไม้จัดเป็นห้องรับ แขก มีตัวยาว 2 และตัวเดี่ยว 1 มีโต๊ะเตี้ยๆที่เป็นชุดกันอยู่ตรงกลาง คุณวชิระและคุณแพรนั่งเก้ากี้ตัวเดียวกัน แม่นั่งเก้าอี้เดี่ยว ผมเลยจำต้องนั่งเก้าอี้ยาวกับพี่วุฒิ
“ นึกว่าจะไม่ลงมาแล้ว” คุณแพรว่าเมื่อผมและพี่วุฒินั่งลง
“ เอ๊ะ !วุฒิ ทำไมจุมตาแดงลูกคงไม่ได้รังแกน้องใช่ไหม?” คุณแพรถาม แม่ก็มองมาที่ผม และสีหน้าท่านไม่สบายใจ ผมร้องไห้ขนาดนั้นเป็นใครก็ต้องดูออก
“ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ  พอผมเปิดเข้าไปจุมก็เข้ามากอดผมแล้วยังร้องไห้อีก จนผมต้องปลอบอยู่นานกว่าจะให้หยุดได้ ถึงได้ลงมานี่แหละครับ” พี่วุฒิพร้อมทั้งเอามือกอดเอวผมหลวมๆ พอผมหันไปมองก็ยิ้มหวานให้เหมือนที่ผมเจอพี่วุฒิครั้งแรกไม่มีผิด...ละครฉากหนึ่ง
“ ร้องไห้ทำไมล่ะจุม?” แม่ถาม
“ พี่วุฒิ...” พี่วุฒิบีบมือผมแน่นเหมือนเตือนว่าอย่าพูดอะไรนอกเหนือจากที่สั่ง!
“................................” ผมก้มหน้าลง
“ เขินล่ะสิ” (พี่วุฒิพูดพร้อมลูบหัวผม)
“ จุมลูกเอายังไงเรื่องที่คุณวชิระกับคุณแพรเขามาวันนี้?” แม่ถาม แต่ผมมีคำตอบแล้ว คำที่ผมต้องพูดเท่านั้น
“ ครับ”
“ แล้วเรื่องเรียนไม่มีปัญหาอะไหรือจุม?” แม่ถามน้ำเสียงเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด แต่ผมคิดว่าแค่ย้ายที่อยู่คงไม่กระทบมากเท่าไรอาจจะแค่ต้องตื่นเข้าก็เดิมเพราะหากเทียบจากบ้านไปโรงเรียนแล้วคอนโดพี่วุฒิอยู่ไกลกว่าบ้านผม
   จะว่าไปแล้วพี่วุฒิไม่จำเป็นที่จะต้องไปอยู่คอนโดด้วยซ้ำ
“ ถ้ามีอะไรที่ไม่เข้าใจเดี๋ยวผมติวให้จุมเองครับคุณแม่”  พี่วุฒิบอก แต่พอผมเงยหน้าขึ้น แม่ก็ยังวิตกอยู่ดี ผมเลยยิ้มให้แม่สบายใจว่าผมเลือกเองไม่มีอะไรที่แม่ต้องไม่สบายใจ
“ .............................”
“ ใช่ไหมจุม”(พี่วุฒิ)
“ ครับ” ผมตอบ ตรงหัวใจน้ำตากำลังไหลทะลัก
.
.
   ผมรู้ว่าผมผิดที่ตบหน้าชกหน้าพี่วุฒิ ทว่าพี่วุฒิก็ผิดเหมือนกันที่ดูถูกผมก่อน หากพี่วุฒิจะว่าตัวเองไม่ผิดผมก็ไม่ว่า ผมรับผิดเองคนเดียวได้ แต่ความผิดนั้นมันมากมายถึงขนาดนี้เชียวหรือ มากมายพอที่พี่วุฒิจะทำแบบนี้ใช่ไหม?
        มันไม่มากไปหรือครับ ความผิดผม
.
.
.
   หลังจากนั้นพี่วุฒิก็พาผมไปคอนโด
   ระหว่างทางผมขอให้พี่วุฒิเอาของเล่นพี่วุฒิออกจากตัวผมพี่วุฒิก็ไม่ยอม จนพี่วุฒิพาผมมาถึงคอนโด
“ มรึงอยู่ห้องขวา กรูอยู่ซ้าย” พี่วุฒิบอก ผมแปลกใจมากที่ห้องนี้ตกแต่งเรียบร้อยแต่ว่ามีร่องรอยของการใช้ชีวิตก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งปลั๊กโทรทัศน์ที่เสียบทิ้งไว้ ไฟที่เปิดก่อนที่พวกผมจะเข้ามา
“ กรูมาอยู่ได้จะอาทิตย์แล้ว” พี่วุฒิบอกนั่งบนโชฟายกแขนวางบนผนัก ส่วนผมยืนอยู่ห่างจากประตูเพียงก้าวเดียว ไม่อยากเดินไปไหน ไอ้ที่อยู่ในร่างกายมันทำให้รู้สึกเจ็บ และยังเวลาเดินยังรู้มันเสียดสีร่างกายจนร่างกายรู้สึกแปลกๆ
   จากประตูไปเป็นชุดโชฟารับแขกถัดไปเป็นห้องพี่วุฒิ ขวามือเป็นเคาน์เตอร์คอกเท็ล รวมเป็นส่วนหนึ่งของครัว
มรึงนี่ชอบยืนบื้อจริงๆ ไปดูห้องเซ่! อะไรไม่ชอบก็บอก จะได้เปลี่ยน”
“ แต่พี่ ครับ.........” แล้วเรื่องของเล่นของพี่ล่ะครับ จะให้มันอยู่ในตัวผมไปถึงตอนไหน? ตัวผมมันร้อนจนเหมือนจะเป็นไข้แล้วนะครับ
“ อะไรอีกล่ะ......”
“ ข้างใน.........” พี่วุฒิจ้องหน้าผมอยู่นาน แล้วพี่เขาก็ยิ้ม...ก่อนที่จะตอบว่า
“ ไปดูห้องก่อน เดี๋ยวกรูเอาออกให้.....”
“ ......................”
“ เร็ว!”
“ ครับครับ” ผมตอบเดินเลี้ยวไปในห้องขาวมือ เตียงสีขาวขนาดดับเบิ้ลเยื้องขวามือ ปลายเตียงมีโต๊ะเก้าอี้และโคมไฟคงจะให้เป็นโต๊ะเอนกประสงค์ (ผมคงเอาไว้อ่านหนังสือทำการบ้าน) แต่ผมไม่ได้เดิน หรือเข้าไปเปิดตู้ดู แค่มาดูเฉยๆ ผมไม่ได้อยากอยู่ที่นี่
   แค่เข้ามาตามที่พี่วุฒิสั่ง
หันควับ   
พลั่ก!!?
   ผมหันหลังกลับ จะออกมาแต่ชนพี่วุฒิเต็มๆ
“ พี่วุฒิ!?”
      ไม่รู้ว่าพี่วุฒิมายืนอยู่ข้างหลังผมตอนไหนไม่รู้สึกตัวเลย
“ มาฉลองห้องใหม่กันเถอะ” พี่วุฒิพูดเดินตามผมที่เดินถอยหลังก้าวต่อก้าว
“        .....        .......”
   โครม! ผมถอยชนเก้าอี้จนล้มลงไปแต่พี่วุฒิไม่ได้สนใจเดินไล่ตอนจนหลังผมชนผนังห้อง
“ พี่วุฒิ พี่จะทำอะไร?”      รู้ แต่ผมถามเพื่อให้แน่ใจ
“ ทำเรื่องของผัวเมีย” (ยิ้ม)
“ ไม่ครับ ผมจะกลับบ้าน” ผมบอกจะเดินหนีออกมา ทว่าพี่วุฒิกำมือผมกดกับผนัง ร่างกายเบียดเสียดร่างกายผมเหมือนจะให้ติดกับผนังห้องให้ได้
   สั่นไปหมด
“ ต่อไปนี้ ห้องนี้จะเป็นบ้านมรึง คงไม่มีที่ให้มรึงกลับแล้วล่ะ” พูดจบพี่วุฒิก็จูบ ผมหลับตาน้ำอุ่นๆไหลลงมาอาบแก้ม
   ผมไม่อยากเจอแบบนั้นอีกแล้ว มันควรจบแล้ว...
   ขัดขืนสิ มือผลักออกจากนั้นก็ต่อย แล้ววิ่งออกไป ..กลับบ้านบอกความจริงทุกอย่างกับแม่
   บอกตัวเองอย่างงั้น แต่ทำไม่ได้
“ อื้ อ!” ริมฝีปากพี่วุฒิบดขยี้ลงจนปากผมปวดไปหมดแต่ยังไม่พอลิ้นด้านในยังตักตวงในปากผมไม่หยุดหย่อนจนร่างกายสะท้านให้เริ่มรู้สึก แต่ก็หวาดกลัวจนร่างกายเย็นเฉียบแทนที่จะเร่าร้อน
   !?เสื้อยืดถูกถลกขื้น  มือแข็งสัมผัสทุกซอกทุกมุม ทั้งหน้าหน้าอก แผ่นหลัง และเบื้องล่างภายในกางเกง
   !!!!!?
   นิ้วเข้าไปแล้ว เข้าไปกระทบกับของเล่นที่วุฒิ แต่ไม่เห็นจะเอามันออกนอกจากกดแน่นกับร่างกายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายส่วนหน้าของผมก็แข็งขืนคับภายในกางเกง
   ผมขาสั่น แต่ก็เกร็ง ปลายเท้าจิกขนพื้นกระเบื้องจนซีดขาว
“ อ๊า ~” ผมร้อง ทันทีที่ปากเป็นอิสระ มือก็เป็นอิสระพอจะผลักพี่วุฒิก็ได้ยินเสียง
“ ถึงมรึงจะผลักกรู มรึงก็หนีไม่รอดหรอก มีแต่จะทำให้กรูโมโห และถ้ากรูโมโห....”
“ ...........................” มือผมค้างไว้ที่ไหล่พี่วุฒิ เหมือนรอฟัง
“ ถ้ากรูโมโห...............................” ยิ่งรู้ว่าผมอยากรู้ พี่วุฒิก็ยื้อเวลาออกไป ทั้งที่ นิ้วทั้ง 3 นวดเน้นในร่างกายผมมากขึ้น
“ อ้า         อะ                 เจ็บ” ผมว่า เม็ดเหงื่อพุดขึ้นตามไรผม ทั้งนิ้วพี่วุฒิทั้งไอ้นั่นมันมากพอที่จะทำให้ร่างกายสะดุ้งเป็นครั้งคราว
“ ..........................กรูจะเอามรึงจนสลบไปเลย..............ดีไหม” พี่วุฒิบอกขณะที่เอาลิ้นเลียคอผม จนผมต้องเงยหน้าขึ้น...
“ แต่ถ้ามรึงเป็นเด็กดี กรูจะเอามรึงแค่ครั้งเดียว” พี่วุฒิบอกเอานิ้วและไอ้นั่นออกมา ร่างกายมันก็เบาขึ้นในทันที..

“ นั่งลง” พี่วุฒิพูดกดตัวผมให้นั่งลง แล้วปลดกางเกงเอาน้องชายพี่ออกมา มันแข็งขืนอยู่แล้ว
“ ..........................?!”
   พี่วุฒิเอาน้องชายใส่ในปากผม มันคับปากผมแทบจะไม่มีช่องให้อากาศเข้า...น้องชายพี่วุฒิเข้าไปลึกจนแทบจะลำลักหลายครั้งแต่พี่วุฒิก็ยังพามันเข้ามาอีก
“ ถ้าฟันมรึงโดน กรูเอาคืน เจ็บหนัก!”
   ผมเป็นตัวอะไรกันแน่
   พี่วุฒิกดถอยทอยผมกับน้องชายให้ลึกเข้าไปอีก เหมือนน้องชายพี่วุฒิจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และพี่วุฒิก็ส่งเสียงครางในลำคอเบาๆด้วย
.
พอแล้ว  ยืน..ขึ้น” พี่วุฒิสั่งเสียงสั่นเมื่อใช้ปากผมจนพอใจ แต่ผมคงยืนไม่ทันใจ พี่วุฒิดึงผมขึ้นพลิกตัวให้หันหน้าเข้าหาผนัง
   แล้ว
อ๊า        ก!!!”[/b] ผมร้องก่อนที่จะกัดฟันแน่น เมื่อพี่วุฒิเอาน้องชายเข้ามาในตัวผมในครั้งเดียว ผมยืนแทบไม่ไหว นี่ถ้าพี่วุฒิไม่กดมือผมไว้ผมก็ร่วงไปนั่งกับพื้นแล้ว

   พี่วุฒิกระแทกเข้าออกมาหลายครั้ง ผมพยายามจะกลั้นเสียงแต่ก็ไม่ไหว
อะ อ้า!!...................................อ” ยิ่งพี่วุฒิทำเร็วมากขึ้นเสียงร้องของผมก็ถี่มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งแขน ทั้งขา ทั้งร่างกายมันไม่มีแรง ภายในนี้มันเหมือนมีไฟกำลังลุกโชนแต่เป็นไฟสีดำที่น่ากลัว ไฟสีดำที่พร้อมจะเผาไหม้ทุกสิ่งด้วยเพียงเราไม่ได้แตะต้องมันเลย
“ ......อ้า........อ๊า!”
   หลายต่อหลายครั้ง......
   ร่างกายผมปลดปล่อยสายน้ำออกมา แต่กระนั้นผมก็ยังหายใจแฮ่กๆ เพราะพี่วุฒิยังคงกระแทกมาครั้งแล้วครั้งเล่า
             ผม ฝืน ทน
ในที่สุด พี่วุฒิก็ปล่อยน้ำเข้ามาในตัวผมพร้อมเสียงคราง..

   พี่วุฒิหยุดนิ่งไม่ขยับเขยื้อนร่างกาย มือยังกำมือผมไว้กับผนัง น้องชายพี่วุฒิยังอยู่ในตัวผม และหายใจรดต้นคอผมถี่ๆ มันทำให้ผมกลัวว่ามันจะยังไม่จบแค่นี้
   ผมก็ยืนนิ่งเช่นกัน
   ถึงจะยืนเฉยๆก็เจ็บข้างใน ..................มันอึดอัด
“ ..............................”

“ ไปที่เตียง” พี่วุฒิสั่งจากกด้านหลัง

“ ไปที่เตียง” พี่วุฒิสั่งจากกด้านหลัง
   อย่าบอกนะว่า....
“ พี่ พี่ครับ ไหนพี่บอกว่าถ้าผมยอม พี่จะทำครั้งเดียว......”
แล้วใครบอกว่ากรูจะทำ...!”   พี่วุฒิพูดเสียงไม่พอใจ  แล้วเดินไปทิ้งตัวลงนอน ส่วนผมดึงกางเกงขึ้นมา
   ผมจะวิ่งออกไปเลยดีไหม?
“ เร็วๆ ไม่งั้นกรูจะเอามรึงจริงๆ” พี่วุฒิบอกลุกขึ้นมามาลากตัวผม แล้วผลักลงไปนอนกับเตียง ก่อนที่ผมจะทันได้ลุกขึ้น  !พี่วุฒิก็ล้มตัวลงนอนเอาแขนรวบตัวผมไว้ …….กอดทั้งแขนขยับไม่ได้……….
            
   !! ผมหลับตาลง กลัว
“ .................................”
   ??
   
   พี่วุฒิกอดผมเหมือนเดิม ไม่มีอย่างอื่น ผมเลยลืมตาขึ้นมา ค่อยๆหันไปมองพี่วุฒิอย่างหวาดๆ

“ ............................” พี่วุฒิหลับตา แต่ไม่น่าจะหลับ
“ ........................................” ผมจ้องหน้าพี่วุฒิ ทั้งคิ้วเข้มแต่เรียวสวย  เปลือกตา จมูกเป็นสันได้รูป  และริมฝีปากสีแดงที่ผมรู้อนุภาพมันดี
   พรึ่บ!
   พี่วุฒิลืมตาขึ้นจ้องผมเขม็ง ผมจะหันหน้าหลบ แต่มือพี่วุฒิจับหน้าผมให้ขยับไม่ได้ จนผมต้องสบกับพี่วุฒิเท่านั้น
“ นอน!” พี่วุฒิพูดแล้วหลับตา  พร้อมทั้งปล่อยมือจากหน้าผมแล้วเอาไปกอดลำตัวแทน
   ผมรีบงุดหน้าลงทันที นอนนิ่งๆไม่กล้าดิ้น ไม่กล้าถามว่าทำไม กลัวพี่วุฒิจะโกรธ.....
“ ...................................”
   เลยไม่รู้ตัวว่าหลับไปตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็ตอนตื่นขึ้นมาแล้ว







************************
    อัพแต่เช้า ฟ้าสีครามสดใส เรามอบความวายให้คุณ ตึ่งๆ
^T^~
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-03-2010 11:13:57 โดย meawlynx »

chae

  • บุคคลทั่วไป
Re: บุพเพวายร้าย 12.
«ตอบ #188 เมื่อ11-03-2010 09:17:17 »

จิ้มๆๆ

พี่วุฒิก็ยังคงความโหดได้อย่างมั่นคง

พี่เขาซับซ้อนจริงๆนั่นแหละ เพราะไม่รู้ว่าพี่เขาคิดและต้องการอะไรกันแน่
ความซวยเลยตกมาทีจุมต้องรองรับอารมณ์พี่วุฒิเสมอ
จุมอย่างท้อ ถ้าผัวมันนิสัยไม่ดี ก็หาใหม่ซะ (ฮ่าๆ)

ออฟไลน์ sweetener

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
Re: บุพเพวายร้าย 12.
«ตอบ #189 เมื่อ11-03-2010 09:27:07 »

จุมต้องอยู่กับความหวาดกลัวแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่
พี่วุฒิใจร้ายที่สุด  ไม่คิดถึงความรู้สึกคนอื่นเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: บุพเพวายร้าย 12.
« ตอบ #189 เมื่อ: 11-03-2010 09:27:07 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ meawlynx

  • =^^~
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +965/-339
Re: บุพเพวายร้าย 13.
«ตอบ #190 เมื่อ11-03-2010 09:33:29 »

:fire: :fire:






บุพเพวายร้าย
13.


    หลังจากวันนั้นวันที่พ่อแม่พี่วุฒิมาที่บ้านผม ทุกอย่างผ่านไปเหมือนจะปกติ พี่วุฒิมาบ้านผมบ้าง พาผมไปบ้านบ้าง จนใกล้เปิดเทอมเข้ามาทุกที่
            .
.



        เมื่อวานพี่วุฒิบอกว่าให้ขนของไปคอนโดได้แล้ว แม่ก็เห็นด้วยเพราะอีก4 วันก็จะเปิดเทอมแล้ว เพราะงั้นวันนี้เลยขนข้าวของของผมตั้งแต่เช้า โดยมีพี่ชนะกับพี่แบงค์มาช่วย ส่วนพี่เอ พี่เก้า และพี่เอส ไปเรียนต่างประเทศแล้วครับ
ผมว่าจะขนของไปไม่มาก เอาที่จำเป็นต้องใช้แต่พอขนจริงๆพี่วุฒิก็ให้ขนไปเกือบหมด ผมไม่อยากจะขัดใจ เดี๋ยวโกรธขึ้นมาอีกเลยตามใจอยากขนไปก็ขนไป
แม่กับแม่พี่วุฒิ หรือท่านให้ผมเรียกว่าคุณแม่ตั้งแต่วันที่ท่านและคุณวชิระมาพูดเรื่องให้ผมไปอยู่คอนโดกับพี่วุฒิ เวลาผมเรียกท่านว่าคุณแม่ทีไร ผมกระดากปากทุกที และคุณแพรมักจะหัวเราะผมด้วยความขบขันแต่ก็เอ็นดู ยิ่งทำให้ผมเขิน
ผมจัดเสื้อผ้าเข้าตู้เรียบร้อยก็จวนจะเที่ยงและหิวข้าวด้วย นึกได้ว่ามีของสดอยู่เต็มตู้เย็น คุณแพรเห็นว่าผมพอทำกับข้าวเป็นก็เลยซื้อมาใส่ไว้ตั้งตอนขนของเมื่อเช้า และยังจัดใส่ตู้เย็นให้ก่อนจะกลับอีก
ผมเดินออกมา พี่ชนะและพี่แบงค์ยังนอนเอาขาพาดโต๊ะนอนอยู่ท่าเดิม แต่ตื่นกันแล้ว
“ ไปกินข้าวกัน หิวจะแย่” พี่ชนะพูดพร้อมทั้งเอามือลูบท้อง
“ กรูก็หิว” เสียงพี่วุฒิพร้อมเจ้าตัวเดินออกมาจากห้อง ปลายผมยังชี้โด่ชี้เด่อยู่เลย ท่าจะเพิ่งตื่นเหมือนกัน
“ ผมว่าจะทำอาหารง่ายๆเพราะในตู้เย็นมีของสดเต็มเลย” ผมบอกเดินเข้าพื้นที่ครัว
“ เออดี จะได้ไม่ต้องออกไปไหน ร้อน” พี่ชนะเห็นด้วยจากที่ลุกขึ้นนั่งก็นอนลงไปอีก เพราะว่าไม่ได้ออกไปข้างนอกแล้ว
“ อย่านานนะจุม พี่หิว เมื่อเช้าพี่ยังไม่ได้กินอะไรเลย” พี่แบงค์ว่าลุกขึ้นเข้าห้องน้ำห้องที่อยู่ติดกับห้องครัว
   ผมค้นดูตู้เย็นมีของสดเยอะมากไม่รู้จะกินหมดก่อนจะเสียหรือเปล่า ทั้งผักสด ทั้งเนื้อหมู ไก่ ปลา ไข่ไก่..
“ จุม เอาข้าวผัดนะ เร็วดี” พี่ชนะบอกซึ่งก็ตรงกับความคิดพอดี และคิดว่าจะต้มจืดเต้าหู้สักถ้วยด้วย กันฝืดคอ
“ อย่ามาสั่ง อยากกินเร็วออกไปข้างนอกโน่น” พี่วุฒิว่าพร้อมกับเดินเข้ามาในครัว ซึ่งตอนนั้นผมเสียบปลั๊กหม้อหุงข้าวเสร็จพอดี
“ ไรว่ะ แค่นี้ก็ทำเป็น” พี่ชนะพูด แต่พอพี่วุฒิหันกลับไปก็ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้
“ ...........................”
   !?
   ผมกำลังหั่นหมู พี่วุฒิก็เดินมาหยุดข้างๆ ผมหันหน้าไป แต่ไม่ได้พูด
“ เร็วๆกรูหิว” พี่วุฒิเร่ง แต่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม
   ไม่นานมือก็โอบเอวผม แล้วลื่นต่ำลง
   ...........................................มือผมที่จับมีดเริ่มสั่น.........................
“ ให้มันน้อยหน่อยๆไอ้วุฒิ กรูรู้ว่ามรึงข้าวใหม่ปลามันแต่ช่วยเกรงใจกรูบ้าง” พี่ชนะจงใจพูดเสียง คงจะเห็นมือพี่วุฒิเพราะครัวไม่ได้กั้นห้อง แต่เป็นแบบเปิด มีเคาน์เตอร์แก้วแบ่งเท่านั้น แม้ทึบสีดำบางส่วนแต่ก็พอรู้ว่าทำอะไร
“ มรึงไม่พอใจกลับไป!” พี่วุฒิไล่
   ผมทั้งอาย ทั้งหวาดหวั่น มือที่จับมีดไม่มีแรงพอจะกดลงบนเนื้อหมูให้ขาดได้เลย
“ ออกไป!”
“ เอ๊ะ!” พี่วุฒิเอามีดจากมือผมไป
“ เดี๋ยวกรูหั่นเอง รอมรึง ไม่รู้เมื่อไรจะได้กิน กรูหิวจนจะกินมรึงได้ทั้งตัวอยู่แล้ว” พี่วุฒิว่าลงมือหั่นหมูเองถึงแม้จะดูเก้ๆกังๆแต่ก็ทะมัดทะแม่ง
“ ไม่ใช่ มรึงกินไปแล้วหรือว่ะ ไอ้วุฒิ ฮะๆ” พี่ชนะพูดเสียงดัง หน้าผมร้อนขึ้นมาทันที เพราะเข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร ยิ่งพี่แบงค์เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วสบตากับผมโดยไม่ตั้งใจแล้ว ผมยิ่งทั้งอายทั้งเขิน รีบหันหลังให้พี่แบงค์ทันที
“ ....................................................”
   ใบหน้าร้อนผ่าว
“ ไอ้-นะมรึงไม่ต้องกินแล้วข้าวผัด มรึงกินมีดก่อนดีกว่า” พี่วุฒิว่ายังหั่นหมูไม่เสร็จ เดินถือมีดไปหาพี่ชนะที่ตอนนี้ลุกขึ้นไปยืนจังก้าติดกับผนังห้อง
“ วุฒิ อย่านะเขากลัว” พี่ชนะพูดแต่ไม่เห็นกลัวสักนิด พี่วุฒิเดินไปได้ครึ่งทางก็กลับมา ผมเลยโล่งใจนึกว่าพี่วุฒิจะเอาไปทำอะไรพี่ชนะจริงๆ
“................................”
“ มรึงก็รีบด้วย ไม่งั้นกรูจะกินมรึงจริงๆแน่” พี่วุฒิเดินมาผมแล้วพูด แล้วเดินกลับไปหั่นหมูต่อ
“ ชาตินี้กรูคงได้นอนตายตาหลับเพราะกรูได้กินกับข้าวฝีมือไอ้วุฒิ พูดไปใครจะเชื่อ” พี่ชนะยังล้อเลียนพี่วุฒิต่อไปอย่างสนุกสนาน และยังมีเสียงหัวเราะเบาๆของพี่แบงค์ด้วย
   พี่วุฒิหันกลับไป เสียงพี่ชนะพี่แบงค์เงียบลง
“..................................” ผมมองผ่านหางตา พี่วุฒิยังคงตั้งใจหั่นหมูต่อไป ไม่มีทีท่าว่าจะมายุ่งกับผมอีก คงหิวข้าวจริงๆ
 
ไม่ถึง 30 นาทีทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อยครับ ทั้งข้าวผัดหมู ใส่ไข่ และใส่แฮมตามคำขอพี่ชนะ ทั้งแกงจืดเต้าหู้ร้อนๆ เสร็จแล้วพวกผมก็ลงมือกินกันเลยครับ เพราะหิวกันทุกคน
 
 




         กินเสร็จผมก็ยกจานชามมาล้างโดยพี่ชนะเช็ดโต๊ะอย่างอิดออด ส่วนผมเก็บจาน แล้วมีพี่แบงค์ช่วยขน
“ ไม่ต้องล้างหรอกครับ พี่แบงค์ผมล้างเอง พี่ไปดูหนังเถอะ” ผมบอกเพราะพี่ชนะขู่ไว้แล้วว่าจะเปิดหนังไม่รอใครช้า หนังที่ว่านี้คือ CDที่พี่แบงค์เอามาครับ
“ ให้พี่ล้างแหละดีแล้ว ไอ้วุฒิก็ทำอาหารแล้ว ไอ้ชนะก็เช็ดโต๊ะแต่ พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะงั้นพี่ต้องล้างจาน” พี่แบงค์บอกพลางกดน้ำยาล้างจานใส่ฟองน้ำจนล้นบนฟองน้ำ จนผมต้องบอกว่า ‘พอแล้วครับ’
   พี่แบงค์หยิบจานขึ้นมาจากซิงค์จานกลับร่วงลงไป ผมหัวเราะขำๆเลยครับ  พี่แบงค์หันมามองผมเขินๆ
“ มันลื่นอ่ะ” พี่แบงค์ว่าแล้วหยิบขึ้นมาถูได้ 2 สามครั้งจานมันก็หลุดมือไปอีก
“ ไรว่ะ” พี่แบงค์ว่าเอาจานขึ้นมาหวังจะล้างกู้หน้าอีก ผมเลยเอาจานกับฟองน้ำจากมือพี่แบงค์
“ ผมล้างเองครับ ถ้าพี่แบงค์จะช่วย ช่วยล้างน้ำดีกว่า” ผมบอก พี่แบงค์เลยจำต้องขยับไปนิดหนึ่ง แล้วเปิดน้ำใส่ซิงค์ข้างๆรอ
“ วันจันทร์นี้เปิดเทอมแล้วใช่ไหม?” พี่แบงค์ถามล้างจานแล้วเอาวางลงตะแกรงไปพลาง
“ ครับ”
“ ถ้าเปิดเทอมแล้วคงคิดถึงเพื่อนน่าดูเนอะ ...” พี่แบงค์พูดแต่ ผมงงๆครับมีแต่เปิดเทอมแล้วจะได้เจอเพื่อนมากขึ้น
“ ไม่เท่าไรหรอกครับ ถึงผมจะอยู่ที่นี่แต่ไปโรงเรียนก็เจอกันอยู่ดี ก็เหมือนอยู่บ้านแหละครับ” ผมบอก
“ อ้าว  เหรอ?”
“ ครับ”
“ เมื่อไรจะล้างเสร็จ?” พี่วุฒิเดินเข้ามาถามเสียงแข็ง ผมล้างเสร็จใบสุดท้ายพอดี
“ เสร็จแล้วครับ พี่อะไรหรือเปล่า?”
“ ไม่มี”
“ เออนี่วุฒิน้องเขาไม่ได้ย้ายโรงเรียนเหรอ? ไหนมรึงบอกว่าน้องเขาจะเรียนสาธิตที่มอเรา?”
“ ย้าย” พี่วุฒิตอบ
“ ย้ายอะไรครับ!?” ผมถาม เริ่มจะเข้าใจว่าทำไมแม่ถึงเป็นห่วงผมนัก
“ อ้าวนี่กรูลืมบอกมรึงเหรอเนี่ย ว่ามรึงจะย้ายมาเรียนสาธิมอกรู” พี่วุฒิพูดเหมือนมันเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันไม่ใช่เลย นั่นมันเรื่องใหญ่!
วันนั้นที่ให้ผมตอบแต่ว่า ‘ครับ’ เพราะไม่อยากจะให้มีการพูดมากความ หลังจากวันนั้นแม่มาพูดเรื่องเรียน เรื่องการคบเพื่อนกับผม ผมก็คิดว่าทะแหม่งๆแล้ว แต่ก็พูดแต่ว่า ‘แม่ไม่ต้องเป็นห่วง’ เพราะอยากให้แม่สบายใจ แม่ก็เลยไม่ได้พูดต่อ
“ ผมไม่ย้าย!” ผมบอกหันไปมองพี่วุฒิและตามด้วยพี่แบงค์ที่ดูท่าจะรู้สึกผิดที่พูดเรื่องนี้กับผม
      กรอบตาผมร้อนเตือนว่าไม่นานน้ำตามันจะไหลลงมา ทำไมต้องทำเหมือนผมเป็นอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่คน จะวางผมไว้ตรงไหนก็ได้อย่างงั้นเหรอ ผมก็มีเลือดมีเนื้อ มีหัวใจ และก็เพราะหัวใจผมถึงได้ยอมพี่ถึงขนาดนี้ พี่เข้าใจไหม!
“ ต้องย้าย เพราะผัวมรึงบอก”
“ ไม่ครับ” ผมตอบจะเดินเลี่ยงออกมา แต่พี่วุฒิเดินมาขวางไว้
“ มรึงจะต้องให้กรูโมโหให้ได้ใช่ไหม!”
“ และถ้าเป็นพี่ล่ะครับ พี่จะยอมไหม?” ผมถามกลับ
“ กรูจะยอมหรือไม่ยอมมันก็เรื่องของกรู แต่มรึงต้องยอม”
“ แต่ที่นั่นผมมีเพื่อน มีคนรู้จัก แต่ที่นี่ผมไม่รู้จักใครเลย และผมก็มอ6 แล้วด้วย”
มอ6 แล้วไง!” พี่วุฒิพูด ไม่คิดถึงหัวอกผมสักนิด
“ ยังไงผมก็ไม่ย้าย ผมจะเรียนอยู่ที่เดิม” ผมบอกจบ พี่วุฒิก็กำมือผมแน่นเหมือนทุกครั้งที่ผมขัดใจ
“ ปล่อยครับ” ผมบอก สะบัดมือให้หลุดแต่ไม่หลุด
      น้ำตาไหลงมาแล้ว ไหลลงมาง่ายเหมือนไม่ใช่ผู้ชาย แต่มันมีเหตุผลของมัน เหมือนหัวใจถูกกำแน่น จะพูดอะไรก็ไม่มีใครฟัง จะทำอะไรก็ไม่ได้ ทั้งต้องคอยหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา แล้วยังถูกทำเหมือนเป็นสิ่งของ ถูกบังคับสารพัด ถ้าไม่ทำตามก็โดนทำร้าย โดนข่มขืนจนกว่าอีกฝ่ายจะพอใจ
“ กรูจะปล่อยก็ได้ แต่มรึงต้องย้ายมาเรียนสาธิตมอกรู!”
“ ไม่ครับ” พูดจบ แขนผมถูกกระชาก
“ ทำอวดเก่งทั้งที่ไม่มีอะไรให้อวด”
 “ ไอ้วุฒิ!” (พี่แบงค์)
“ .......................................”  พี่วุฒิจ้องผมก่อนที่จะผลักผมกระแทกกับพื้น
“ ไอ้เชี่ยวุฒิ!” พี่แบงค์ว่าก้มลงมาเหมือนจะประครองผมแต่ต้องชะงักเพราะผมถอยหนี  พี่แบงค์เลยถอยออกไปปล่อยให้ผมลุกขึ้นมาเอง
“ เสียงดังอะไร!” พี่ชนะเดินออกมามือยังถือรีโมท พอมาเห็นบรรยากาศเครียด ใบหน้าก็ดูจริงจังขึ้นมา แล้วหันไปถามพี่วุฒิ แต่พี่วุฒิไม่ตอบ
“...................................”
“ มีไร แบงค์?” พี่ชนะหันไปถามพี่แบงค์แทน
“ เรื่องย้ายโรงเรียนน้องเขาไม่รู้” พี่แบงค์ตอบ หันมามองผมที่เอามือยันขอบซิงค์พยุงตัว
“ เชี่ยแหละ นี่ไม่กี่วันก็จะเปิดเทอม”
“ ไม่มีปัญหาหรอก เอกสารก็เสร็จหมดแล้ว แต่...มันไม่ยอม” พี่วุฒิยังคงจ้องผมไม่วางตา เหมือนกับว่าผมผิด
“ แล้วตกลงเอาไง?”(พี่ชนะ)
“ กรูบอกว่าย้ายก็ต้องย้าย”
“ ผมไม่ย้าย” ผมตอบทันทีอาจเป็นเพราะมีพี่ชนะพี่แบงค์อยู่ด้วยผมเลยกล้าพูดมากขึ้น
“ วอนอีกแหละ!” พี่วุฒิจะก้าวมาหาผม ดีที่แบงค์มาขวางไว้
“ ใจเย็นวุฒิ น้องเขาไม่ย้ายก็ไม่เห็นเป็นไรหรอก”
“ ไม่เป็นไรได้ไง ...ไม่ถึง 3 วันหรอกมันจะสวมเขาให้กรู!” พี่วุฒิพูดพร้อมผลักพี่แบงค์ออกไป แล้วคว้าต้นแขนข้างที่ผมจับขอบซิงค์ ก่อนที่จะกระชากจนหลุด ผมแทบทรุด
“ จะย้ายไหม ถามอีกครั้ง” ถามผม และบีบต้นแขนผมไปด้วย
“ ไม่ครับ” ผมตอบ ส่ายหน้าให้รู้ว่าผมไม่ย้ายจริงๆ
“ .............................” พี่วุฒิพยักหน้า 2 ครั้งริมฝีปากเม้มเหมือนกำลังสะกดอารมณ์  แล้วหันไปหาพี่แบงค์
“ กรูจะอธิบายให้มันเข้าใจเอง พวกมรึงจะกลับกันแล้วใช่ไหม?”
“................................” พี่แบงค์หันมามอง ผมส่ายหน้าบอกว่าอย่าเพิ่งกลับ
“ เดี๋ยวกรูว่าจะดูหนังที่ไอ้แบงค์เอามาก่อน”(พี่ชนะ)
“วันหลังค่อยดู” พี่ชนะหันหน้าสื่อสารกับพี่แบงค์ทางสายตาอยู่สักพัก
“ ..............................”
“ จุม พี่ว่าย้ายก็คงไม่เป็นไรมากหรอก อันไหนไม่เข้าใจพี่ติวให้” พี่แบงค์บอก แต่ผมส่ายหน้าตอบว่าไม่ย้าย นั่นไม่ใช่ปัญหา แต่ที่นั่นผมมีบันบัน และธีที่พอปลอบใจ เข้าใจผม แต่ที่นี่ผมไม่รู้จักใครเลย
“ เห็นไหมล่ะ ว่ามันพูดดีๆมันไม่รู้เรื่อง”
“ ไอ้วุฒิพวกกรูกลับก็ได้ มรึงอย่าทำอะไรรุนแรงกับน้องเขานะ”(พี่ชนะ)
“ เออ พวกมรึงไปเถอะ ขอบคุณที่มาช่วยขนของ”
   พี่แบงค์หันมามองผมอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินตามพี่ชนะออกไป
   พอประตูปิด พี่วุฒิก็หันมายักยิ้มให้ผม
“ พอมีคนอื่นอยู่ด้วยปากดี” พี่วุฒิพูดจับต้นแขนผมอีกข้าง
“ ................................”
“ ตกลงเอาไง!”
“ ไม่ย้าย” ผมตอบทั้งที่กลัวจับใจ
“ ดี คราวนี้กรูจะได้เอาจริงกับมรึงสักที” พี่วุฒิพูดจริงจัง แล้วแสยะยิ้ม จะลากตัวผมเข้าห้อง แต่ผมดิ้นไม่ยอม เพราะกลัว ยิ่งยอมก็ยิ่งกลัว ยิ่งขัดขืนกลับยิ่งน่ากลัว
“ ดิ้น ดิ้น อยากดิ้นดิ้นให้พอ กรูจะได้ปราบพยศมรึง!!”
   ยิ่งผมดิ้นพี่วุฒิก็ยิ่งรุนแรงกับผม ผมพยายามยื้อตัวเองให้ห่างออกมาเหมือนแรงต้านกับแรงพี่วุฒิ
   ทว่า
   พี่วุฒิกลับปล่อย ผมล้มก้นกระแทกกับพื้นอย่างจัง ตอนนั้นแหละที่พี่วุฒิคร่อมตัวผมไว้ พร้อมทั้งกดมือผมแน่นกับพื้น
“ชอบพื้นก็ไม่บอก”
“ พี่ครับ สงสารผมด้วย  ฮือๆ” ผมบอกจะลุกก็ลุกไม่ได้ ร่างกายมันเจ็บปวดจากการล้ม 2 ครั้ง จากมือพี่วุฒิที่บีบ ไม่ยั้งมือ จากหัวใจที่มันถูกทำร้ายครั้งแล้วครั้ง
“ กรูจะสงสารมรึงได้ไง ก็ต่อเมื่อมรึงทำให้กรูโกรธ กรูโมโหอยู่ตลอดเวลา แบบนี้ ห่ะ!!!” พี่วุฒิระเบิดระอารมณ์ใส่ผม
   มันเป็นความผิดผมเหรอ? ทำไมผมไม่รู้
“ ฮือๆ”
“ มรึงทำให้เป็นแบบนี้เอง จะว่ากรูไม่ได้”
“ ฮือๆ..”
   พี่วุฒิก้มลงมา จูบที่มันห่างไกลกับว่าจูบ มันรุนแรงเกินกว่าที่จะเป็น  !
 
   ไม่ หยุด!
   ช่วยผมด้วย!
 
.
.
. … .
..
.
.
 
   ผมสะดุ้งตื่นเหมือนคนจมน้ำ เสียงแอร์เบาจนแทบไม่ได้ยินแต่ผมได้ยินชัดเจน...
   ห้องทั้งห้องมันดูใหญ่กว่าผมจนน่ากลัวอย่างประหลาด
   ตอนนี้ผมนอนอยู่บนเตียงในห้องผม หันซ้ายว่าง หันขวาพี่วุฒิกำลังหลับ และหันหน้ามาทางนี้ ผมกลั้นเสียงที่กำลังเปล่งออกมา แล้วลุกขึ้น
   เจ็บ ยิ่งกว่าเจ็บ ร่างคงแตกเป็นชิ้นๆแล้วแต่ผมก็ยังคงอยู่
   ผมจะไปจากที่นี่ ไปจากพี่วุฒิที่โหดร้าย
   ผมมองตัวเอง ........ผมอยู่ในชุดใหม่ ที่ไม่ใช่ชุดของผมตัวเดิม เสื้อตัวเดิมผมจะไปใส่ได้ไงในเมื่อพี่วุฒิฉีกมันเป็นชิ้นๆไปแล้ว
“ ...............” น้ำตามันไหลลง แต่เสียงสะอื้นถูกกลั้นเอาไว้ ถ้าน้ำตามันไหลเป็นเลือดได้มันคงไหลไปแล้ว เพราะตอนนี้มันก็ยังไหลเป็นน้ำเหมือนเดิม
   ผมคลานลงจากเตียงแม้ร่างกายจะเจ็บจนแทบหมดสติแต่ผมก็ทน เพื่อที่จะไปจากพี่วุฒิ  ไปในที่ที่ตาผมมองไม่เห็นพี่วุฒิ
   คลานลงจากเตียงก็คลานออกไปนอกห้อง แล้วปิดประตู
 
   ปิดประตูแล้ว ผมนั่งกับพื้นเย็นๆมองไปรอบๆหลายครั้ง
      ไม่มี.........ว่างเปล่า
 
........ไม่มีพี่วุฒิ...........
 
 
   ผมขำ
   ผมหัวเราะ
   แล้วมันน่าหัวเราะตรงไหน มีอะไรน่าหัวเราะดูตัวผมสิ ปากก็แตก ตัวมีรอยซ้ำเต็มไปหมด ข้อมือมีรอยเข็มขัดรัด ก้นระบม ส่วนในฉีกขาดนับครั้งไม่ถ้วน หัวก็ปวดแทบระเบิด
   มีอะไรน่าหัวเราะ
   ยิ่งคิดหาเหตุผล ผมก็ยิ่งหัวเราะไม่หยุด ยิ่งหัวเราะน้ำตามันก็ยิ่งไหล จนต้องเอามือปิดปากกลัวว่าคนที่อยู่อีกห้องจะได้ยิน
   แต่.....มันก็อดไม่ได้จริงๆ
“ คิก คิก” ผมหัวเราะทั้งที่มือยังปิดปากตัวเองเอาไว้ .......
“ คิก คิก”





*************
อัพตามมาติดๆ

:fire:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-03-2010 11:38:43 โดย meawlynx »

ออฟไลน์ PAnppyJunJii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: บุพเพวายร้าย 14.
«ตอบ #191 เมื่อ11-03-2010 09:36:18 »

พี่วุฒิ :beat:



ออฟไลน์ silw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: บุพเพวายร้าย 14.
«ตอบ #192 เมื่อ11-03-2010 09:53:12 »

อ่านรวดเดียว หนุกมากเป็นแนวที่ถูกใจด้วย ฮ่าๆ แอบโรคจิตเล็กๆ

แต่ขอพระเอกเป็นพี่แบงค์ได้ไหมอะ

KM

  • บุคคลทั่วไป
Re: บุพเพวายร้าย 14.
«ตอบ #193 เมื่อ11-03-2010 10:03:32 »

น่าสงสารโคตรๆ

ไรว้าเนี่ย



พี่แบงค์เสียบด่วน

chae

  • บุคคลทั่วไป
Re: บุพเพวายร้าย 14.
«ตอบ #194 เมื่อ11-03-2010 10:04:02 »

ถ้าพี่วุฒิไม่ใส่ใจจุมให้มากกว่านี้
จิตใจจุมจะยิ่งแย่ ยิ่งตื่นกลัว อีกหน่อยจุมจะไม่กลายให้ใครเข้าใกล้แม้กระทั้งพี่วุฒิก็ตาม
(ปกติก็ไม่อยากให้พี่วุฒิเข้าใกล้อยู่แล้วนี่เนอะ ฮาาา)

ดูแลเขาหน่อยจะได้ไหมนะ คนอ่านปวดใจเหลือเกินค่ะ

ออฟไลน์ BlackClover

  • ◥≡Pe'un≡◤
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
Re: บุพเพวายร้าย 14.
«ตอบ #195 เมื่อ11-03-2010 10:14:59 »

เอ้า  สู้ๆๆ เป็นกำลังใจให้  ช่วยกันเข็นให้ถึงตอนใหม่ 

(เจ้าหญิงคิด : ยัยนี้มันตามมาทวงตอนใหม่ตั้งแต่วัันแรก จนถึงวันนี้ยังไม่เลิกทวง = =)

ปล. เค้ายังคิดว่าให้วุฒิเป็นพระเอกน่ะดีแล้ว  อยากเห็นคนเปลี่ยนไปในทางที่ดีเพราะความรัก

 ไม่อยากเห็นคนที่ดีเปลี่ยนไปในทางที่แย่เพราะความรัก (อ๊ะ  งงไหมนี้? พูดเองยังงงเอง)

อย่าใส่ใจด้วยความที่ตัวหนังสือกำลังตีกันมั่วในหัว เลยบ้าๆ บอๆ  :monkeysad:

ออฟไลน์ aorta999

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: บุพเพวายร้าย 14.
«ตอบ #196 เมื่อ11-03-2010 10:15:57 »

มาต่อไวๆนะครับ


กำลังเข้มข้นเลย

ออฟไลน์ meawlynx

  • =^^~
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +965/-339
Re: บุพเพวายร้าย 14.
«ตอบ #197 เมื่อ11-03-2010 10:18:13 »



บุพเพวายร้าย
14.








“ คิก คิก” ผมหัวเราะทั้งที่มือยังปิดปากตัวเอง
 
ติ๊ดๆ
   เสียงใครกดออดหน้าห้อง 2 ครั้งแล้วก็เงียบไป คงรอให้ไปเปิดประตู แต่ผมไม่อยากไป ถ้ามีธุระจริงๆคงต้องโทรเข้ามา
   ใครล่ะมาตอนนี้
ติ๊ดๆ
   เสียงกดออดอีก ผมเลยพยุงตัวขึ้นแต่ก็ทรุดลงไปนั่ง จนต้องหัวเราะกับความอ่อนแอของตัวเอง?
   เจ็บไปหมด..........ผมกัดฟันระงับความเจ็บปวดไว้ แต่ช่วยไม่ได้เยอะอย่างที่อยากให้เป็น

กริ้ก
      เสียงปลดประตูจากด้านนอก พรึ่บ! ประตูเปิดออก ผมหันไปมองคนที่เข้ามา
ใครมีกุญแจห้อง?
“ .....................จุม!?!...” พี่แบงค์มองเห็นเห็นแล้วรีบมาหาผมที่นั่งอยู่
   ผมผงะถอยหนี พี่แบงค์เลยถอยออกไป 2 สามก้าว แล้วยืนมองผมนิ่งอย่างเวทนา
“ ไอ้วุฒิมันทำขนาดนี้เลยเหรอ...!.” พี่แบงค์พูดจ้องมองผม ผมก้มหน้าฟุบ  แล้วกำมือตัวเองเล่นไปพลางๆ
   ไม่กล้าสู้หน้า
“ ไอ้วุฒิมันอยู่ไหน? เดี๋ยวพี่จะไปคุยกับมันให้รู้เรื่อง” พี่แบงค์ถาม พร้อมทั้งเดิน
“ ................................”
“ อยู่ในห้องใช่ไหม?” พี่แบงค์พูดแล้วเดินไปดูในห้องพี่วุฒิ ไม่เจอ แล้วจะเข้าไปดูในห้องผม
“ อย่าครับ!” ผมพูดมือคว้าขาพี่แบงค์ไว้ แต่พอสัมผัสได้ก็ชักมือกลับ มือที่ยื่นออกไปสั่นไม่หยุด
“ ทำไม!” เสียงพี่แบงค์ไม่พอใจที่ผมห้าม
“ เดี๋ยว พี่ วุฒิ ตื่น” ผมบอกน้ำตาไหลทะลัก
   ถ้าพี่วุฒิตื่นแล้วยังไม่หายโกรธ ผมจะทำยังไง
   พี่วุฒิอาจจะทำร้ายผม
   ผมกลัว...ทำยังไงพี่วุฒิก็ไม่หยุด จะร้องก็ไม่มีใครได้ยิน
   ไม่เอาแล้ว   ไม่เอา
   ผมส่ายหน้าโดยไม่รู้ตัว

“ ฮือๆ อย่าปลุก พี่วุฒิ”
“ ก็ได้ ก็ได้” พี่แบงค์ว่า เดินไปนั่งโชฟาเหมือนให้ผมแน่ใจว่า จะไม่เข้าไปหาพี่วุฒิจริงๆผมสบายใจได้
“ .................................” ผมสะอื้นในความเงียบ พี่แบงค์นั่งนิ่งๆไม่ขยับไปไหน
.
.
   เวลาผ่านไปไม่น่าจะนาน แต่ผมรู้สึกว่ามันนานเหลือเกิน ความเจ็บปวดมันแทรกซึมจนนาทีหนึ่งก็เหมือนนานจนทนไม่ไหว
“ 3 ทุ่มแล้วนะ จุมกินข้าวยัง?”
“ .......................” ผมหันไปหาพี่แบงค์ ที่กำลังหันหน้ามองผมที่นั่งอยู่ที่เดิม
 “ ..................................”
“ หิวไหม พี่ซื้ออะไรมาให้กิน”
“ .............................” ส่ายหน้าตอบ ผมไม่หิวจริงๆ
“ กินเถอะ แล้วจะได้กินข้าวกินยา ทายาด้วย........”
“ ................ไม่ หิ ว ครั  บ..”
“ กินนะ เดี๋ยวพี่ไปซื้อ” พี่แบงค์ยิ้ม ก่อนที่จะลุกขึ้น แล้วเดินออกจากห้องปิดประตูหายไป
 “ ......................................”
   ผมมองประตูที่พี่แบงค์หายไปอย่างใจลอย...
“..............................................”
.
.
.
.
   คราวนี้ไม่มีเสียงกดออด แต่มีเสียงเปิดประตูเข้ามา
   ผมสะดุ้งจ้องมองประตูไม่วางตา...... หวาดระแวง
   พี่แบงค์...เปิดเข้ามาผมเลยวางใจ
“ ขอโทษ นะไปนานเลย พอดีพี่ขับรถหาซื้อยา ถึงจะเห็นว่าตอนขนของมีกล่องยาอยู่”  พี่แบงค์ไปไม่นานเลยหากนับเวลาแล้ว เพราะผมจ้องมองเข็มนาฬิกาอยู่ตลอดเวลา เสียงมันดังกริ๊กๆช่วยให้ผมสงบลงได้อย่างประหลาด
“ พี่ซื้อโจ้กมา เดี๋ยวใส่ชามให้เลย” พี่แบงค์บอกเข้าครัวแก้ยางจากถุง เทโจ้กที่มีไอร้อนๆใส่ชาม วางบนถาดแล้วยกมาวางบนโต๊ะกินข้าว
“ ..............................” พี่แบงค์เดินมาหยุดตรงหน้า ผมเงยหน้ามอง?
“ ไปกินโจ้กเถอะ พี่อุตสาห์ออกไปซื้อมาให้...”
“ ..............................”
“ .........................................”
“ ผมลุกไม่ไหว” ผมบอก
“ งั้นพี่ช่วย” พี่แบงค์บอกแต่ก็ไม่ได้มาช่วยพยุงผม จนเมื่อผมยกมือขึ้น
“ พี่จับได้นะ.............”
“ ......................ครับ” ผมบอก แล้วมือที่แบงค์ก็จับไหล่ผมช้าๆ ผมมองอย่างไม่เชื่อใจอยู่ครู่หนึ่ง
“ พี่ไม่ทำไร หรอก” พี่แบงค์บอกดักไม่ให้ผมฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้   แล้วรอให้ผมเดินก่อนแล้วจึงพยุงผม จนมานั่งบนเก้าอี้สักที ระยะทางไปเก้าอี้ไกลมาก ไกลจนผมแทบจะผลักมือพี่แบงค์ออกจากตัวผม ผมไม่อยากให้พี่แบงค์ถูกตัว มันทำให้ผมไม่แน่ใจ ไม่วางใจได้และสับสน
   โจ้กหมู ไม่ใส่ไข่ ถูกเลื่อนมาตรงหน้า
“  ................อร่อยนะ พี่แอบชิมแล้ว” พี่แบงค์พูด ผมหันไปมองพี่แบงค์ที่พยักเพยิดให้ผมลองกินดู
“................................”
   คำแรกที่กินไปทำให้แสบแผลที่ปากจนต้องยุ่นหน้า
“ ร้อนเหรอ?”
   ผมสายหน้าตอบว่าไม่ร้อน เพราะมันอุ่นกำลังดีเลยครับ
“ อร่อย” ผมบอก
“ พี่ซื้อมา 3 ถุง ไม่อิ่มเบิ้ลได้”
“ .........................” ถึงผมจะบอกว่าอร่อยแต่กินไม่ลง กินได้ 3 สี่คำก็อิ่มไม่อยากกินต่อแล้ว
“ อิ่มแล้วเหรอ?”
“ครับ”
“ ไหนบอกว่าอร่อย....”
“ ..........................” ผมกลืนไม่ลงเลยครับ เหมือนจะเจ็บคอด้วย
“ งั้นอีกคำ..”พี่แบงค์ต่อลองจัดการเอาช้อนมาจ่อปากผม
“..........................”
“ นะ สงสารคนซื้อมา”
“ก็ได้ครับ” ผมอ้าปากให้พี่แบงค์ป้อนอีกคำ แล้วกินน้ำตาม
“ กินแล้วทำแผล” พี่แบงค์พูดแล้วค้นเอากล่องยาจากตู้ใต้โทรทัศน์ออกมา รวมกับยาที่แบงค์เพิ่งซื้อมาด้วย
“ ไม่ต้องหรอกครับ” ผมบอกลูบแผลที่ข้อมือไปมา
“ ไม่ได้หรอก ไอ้วุฒิมันทำและเป็นเพื่อนพี่ พี่ก็ต้องมีรับผิดชอบด้วยที่ไม่ห้ามมัน” พี่แบงค์บอกสีหน้าจริงจรัง
“ .....................”
“ เถอะนะจุม ให้พี่รู้สึกผิดน้อยลง” พี่แบงค์บอก สบตากับผม
“ ..........................” ผมไม่พูดอะไร แต่ก็ยื่นมือออกไปให้พี่แบงค์ทายาน้ำสีเหลืองแล้วพันผ้าก็อต เสร็จอีกข้างก็อีกข้าง พี่แบงค์ทำเบามาก และก็ช้าคงไม่อยากผมตกใจ
“ ตอนกลับพี่ชนะเขาคิดว่าจะกลับมาตอนเย็น เพราะกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็เลยขโมยกุญแจไป แล้วก็อยากที่คิดจริงๆไอ้วุฒิมันทำเกินไป...”
“ ..................................”
“ แต่ชนะมันมาไม่ได้ แฟนมันมีเรื่องนิดหน่อย” พี่แบงค์เล่าไปเรื่อยๆ แล้วหยุดมองหน้าผม
“ พี่ทายาที่ปากให้นะ” พี่แบงค์บอกผมก่อน
“.......................................”พอเห็นว่าผมไม่ตอบก็เข้าใจว่าผมรู้แล้ว เลยเอาคัตเติ้ลบัตใส่ยาแตะแผลที่ปากผมเบาๆ มันเจ็บจิ๊ดๆเหมือนที่แผลที่มือแหละครับ แต่แค่นี้มันเล็กน้อยสำหรับผม ผมเจอความเจ็บปวดมากมายกว่านี้ 100เท่า 1000เท่า มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
 “4 ทุ่มแล้ว ไปนอนเถอะ” พี่แบงค์พูดแล้วลุกขึ้น “ เดี๋ยวพี่พาไป”
   เหมือนเดิมถึงพี่แบงค์จะบอกว่าช่วยแต่ก็ไม่เข้ามาแตะตัวผม จนเมื่อผมมองหน้าพี่แบงค์ครู่หนึ่งก่อน มือที่แบงค์จึงได้ยื่นมา
"....................................."
   เหมือนพี่แบงค์จะรู้ว่าผมหวาดระแวง กลัวการสัมผัสจากคนอื่น
“..................ให้พี่อุ้มไหม?” พี่แบงค์ถาม
   ผมจ้องมองพี่แบงค์ด้วยความตกใจ อุ้ม!!!
“ ...................” พี่แบงค์จะอุ้มผมเนี่ยะนะจะไหวเหรอผมหนักจะตาย
“ ไม่ใช่อะไรหรอกนะ ห้องมันไกลพอดูนะกับสภาพจุมแบบนี้ พี่เลยคิดว่ามันน่าจะดีกว่าถ้าพี่อุ้ม”
“ ไม่เป็นไรครับ ผมเดินเองได้” ผมบอกยืนขึ้นเอง และก็นั่นแหละ ผมเซและคงจะล้ม ถ้าพี่แบงค์ไม่เข้ามาประคองเอาไว้ แต่ผมตกใจครับ
“ อย่า ครับ!”
ตุบ!
 ผมผลักพี่แบงค์เต็มแรง แต่มันไม่แรงอย่างที่คิด ทว่าพี่แบงค์ก็ปล่อยผมให้ลงไปนั่งกองกับพื้น
“ อึ้ก..ฮือๆ” ทุกอย่างมันน่ากลัว อึดอัด แม้แต่ตัวผม
“ จุม พี่ขอโทษ” พี่แบงค์เดินถอยหลัง 1 ก้าวและ 2 ก้าวตามลำดับ
   อย่าขอโทษ พี่ไม่ได้ทำอะไรผิด ที่ผิดเป็นผมเอง ผมผลักพี่เอง
“ ..................”  ทำไมผมถึงได้เป็นแบบนี้ ผลักไสความหวังดีของพี่แบงค์ ทั้งที่พี่เขาอยากช่วยผม สงสารผม
   ผมคงทำให้พี่แบงค์รู้สึกไม่ดี....สินะครับ
“ พี่ครับ”
“.................ครับ..................”
“ ช่วยพาผมไปเตียงที”  ผมบอกรับรู้ว่าพี่แบงค์อยากช่วยผม
“ ได้เหรอ?”
“ ..................” ผมเงยหน้าขึ้นมอง เตรียมใจไว้แล้ว พี่แบงค์ก้มลงมาช้อนตัวผมช้าๆ
“ จุมผอมไปนะ กินข้าวหรือเปล่าเรา?” พี่แบงค์ถามอุ้มผมไปห้องซ้ายซึ่งเป็นห้องพี่วุฒิ
" .................................." ผมไม่ได้ตอบ เพราะแต่พี่แบงค์อุ้ม ผมก็ทำใจจะอยู่แล้ว
" .............................ถึงแล้ว ถึงแล้ว"
“ ........................” วางผมลงเตียงก่อนที่จะดึงผ้าห่ม ห่มให้จนถึงคอ
“ ยังไม่ได้กินยาเลย” พี่แบงค์ว่าออกไปจากห้องอย่างรีบร้อน ก่อนที่จะกลับมาพร้อมยาในมือบวกแก้วน้ำที่ผมกินไม่หมดเข้ามา
   ผมลุกขึ้นนั่ง รับยากับน้ำจากพี่แบงค์มากิน แล้วล้มตัวลงนอน แต่พี่แบงค์ยังไม่ออกจากห้อง
“..............................” ผมหันหลังให้ แต่พี่แบงค์ก็ไม่ได้เดินออกไป
   แปลกไหมครับถ้าผมจะรู้สึกดีที่มีคนดูแล
   ผมหลับตาลง นึกถึงเมื่อตื่นขึ้นตอนนั้นพี่วุฒิก็คงจะตื่นแล้ว และ.. และ ..ผมจะเป็นยังไง?
   ผมบอกได้เลยว่ากลัวพี่วุฒิจับใจ ผมจะอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน
“ หนาว เหรอ?” พี่แบงค์ถาม คงเห็นว่าผมตัวสั่น
“ ไม่ครับ” ผมบอก รู้สึกอุ่นใจมากที่พี่แบงค์อยู่ในห้องนี้ เพราะถ้าพี่วุฒิตื่นขึ้นมาตอนนี้ ก็คงไม่กล้าทำอะไรผม หรือจะทำพี่แบงค์ก็คงไม่ปล่อยให้พี่วุฒิได้ทำ
“ขอบคุณนะครับ” ผมพูดหันหน้าไปหาพี่แบงค์
“ เป็นใครก็ต้องทำแบบพี่” พี่แบงค์บอก แต่ผมคิดว่าพี่แบงค์พูดผิด  เพราะพี่วุฒิไม่ได้ทำแบบนี้แน่นอน
“..............................................................เอาล่ะ พักผ่อนเถอะ พี่ไม่กวนแล้ว” พี่แบงค์บอกเดินออกไป โดยมีผมมองอยู่ตลอดเวลา
“ พี่ครับ”
“ ......................?” พี่แบงค์หันกลับมา
“ พรุ่งนี้......ผมจะ         ...จะยังไงดี?” ผมบอกไม่อาจจะห้ามน้ำตาไม่ให้มันไหลได้ เมื่อคิดว่าต้องเผชิญหน้ากับพี่วุฒิ
“ ....................................................แค่ เข้มแข็งไว้............” พี่แบงค์มองผมแล้วพูดออกมาอีก พูดเหมือนรู้ว่าผมกำลังคิดอะไร
“ คืนนี้พี่จะนอน ฃตรงโชฟาข้างนอกมีอะไรก็เรียกนะ”
“ ............................................... ........................ .” พี่แบงค์ปิดไฟก่อนที่ปิดประตูให้เหลือเพียงผมที่อยู่ในห้อง
   ห้องของพี่วุฒิ แค่คิดผมก็ตัวสั่นแล้ว
   ถึงแม้พี่แบงค์จะนอนข้างนอกที่โชฟาแต่ผมไม่วางใจ ผมกลับอยากให้พี่แบงค์นอนในห้องนี้ เผื่อพี่วุฒิเข้ามาผมคิดถึงขนาดนั้น อยากจะร้องขอพี่แบงค์ ‘พี่ครับ อย่าออกไปเลยครับ’ แต่ผมรู้ว่ามันมากเกินไป จึงเก็บคำเห็นแก่ตัวนั้นไว้เสีย.......
“ ..................................”
   ผมขดตัวให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมสะอื้นกับน้ำตา และผมหนาวในใจและมันอาจจะทำให้ผมแข็งตายได้ในสักวัน
   พี่ครับผมเป็นอะไรสำหรับพี่กันแน่?

.
.
.
...)...
.
*****************************************************
 



ยังอัพต่อเรื่อยๆจนกว่าจะถึงตอน 19 (ฮา)

^^~

:pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-03-2010 11:40:08 โดย meawlynx »

ออฟไลน์ BlackClover

  • ◥≡Pe'un≡◤
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
Re: บุพเพวายร้าย 15.
«ตอบ #198 เมื่อ11-03-2010 10:20:13 »

ยังรอต่อไปเรื่อย  จนถึงตอนที่ 20 (ฮา) :fire:

ptyunjae

  • บุคคลทั่วไป
Re: บุพเพวายร้าย 14.
«ตอบ #199 เมื่อ11-03-2010 10:21:07 »

 o12อ่านแล้วอยากตบอีพี่วุฒิจริงๆ
ทำกับน้องแบบนั้นได้ไงอ่ะ
คงรักเขาแต่แสดงออกไม่เป็นมั่ง
หวังว่าเรื่องตอนต่อไปคงไม่บีบคั้นอารมณ์มากไปกว่านี้นะค่ะ
อ่านแล้วอยากร้องไห้อ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: บุพเพวายร้าย 14.
« ตอบ #199 เมื่อ: 11-03-2010 10:21:07 »





ptyunjae

  • บุคคลทั่วไป
Re: บุพเพวายร้าย 15.
«ตอบ #200 เมื่อ11-03-2010 10:43:20 »

 :m15:ร้องไห้เพราะน้องจุมอีกแล้ว
น่าสงสารอ่ะ
จะเป็นโรคจิตอ่อนๆไหมอ่ะ
กลัวการสัมผัสจากคนอื่นด้วย
 :z6:สักทีกะอีพี่วุฒิ
 o13สำหรับพี่แบงค์

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: บุพเพวายร้าย 15.
«ตอบ #201 เมื่อ11-03-2010 10:50:07 »

ร้ายกาจมาก นายวุฒิ



 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

NUKWUN

  • บุคคลทั่วไป
Re: บุพเพวายร้าย 15.
«ตอบ #202 เมื่อ11-03-2010 10:51:25 »

 o22 เเง  :m15: สงสารจุมอ่ะ

ทำไมวุฒิเลวได้โล่เเบบนี้อ่ะ

เดี๋ยวหันมาเชียร์เเบงค์ซะเลย

สาวบ้านนอก

  • บุคคลทั่วไป
Re: บุพเพวายร้าย 15.
«ตอบ #203 เมื่อ11-03-2010 11:10:25 »

 :z3: ตอน12หายไปได้อีกค่ะคุณเจ้าหญิง
แต่อีตาวุฒนี่พ่อแม่ก็รักแล้วมานเป็นอารายยยย :serius2:

ออฟไลน์ meawlynx

  • =^^~
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +965/-339
Re: บุพเพวายร้าย 15.
«ตอบ #204 เมื่อ11-03-2010 11:10:57 »

:z2:










บุพเพวายร้าย
15



       เสียงตะโกน เสียงดังของวัตถุดังเข้ามาในหู แต่ตาผมก็ไม่อาจะลืมขึ้นมาได้ เปลือกตามันหนัก และปวดไปหมดทุกที่ที่รู้ได้ ผมพยายามฟังอยู่ครู่หนึ่งแล้วทุกก็เงียบหายไป ผมหลับลึกอีกครั้งไม่สามารถต้านร่างกายที่ต้องการพักผ่อนไว้ได้
.
.
.
....
 
   ผมรู้สึกตัวขึ้นอีกได้ยินเสียงการพูดคุยที่ฟังไม่รู้เรื่องเข้าโสตประสาตหู หนังตาหนักอึ้งทำให้จะลืมตาได้ยากเต็มที่ แต่ผมก็ลืมตาขึ้นมาได้
    แสงแดดผ่านกระจก ผ้าม่าน เข้ามาแม้จะเล็กน้อยแต่บอกให้ผมรู้ได้...เช้าแล้ว หรือจะสายแล้ว
   แต่ถึงอย่างนั้นในห้องก็ยังมืดสลัว เมื่อตาชินกับมันแล้วก็ห้องสว่างเป็นปกติ แต่ตาของผมลืมได้ไม่เต็มตา ...คงจะบวม
“.............................อะ เจ็บ!” ผมร้องอุทานขยับตัวนิดเดียวร่างกายก็แทบแตกเป็นชิ้นๆ ปากที่ร้องก็ตึงบวมจนต้องหลับลงอีกครั้ง
   เสียงพูดคุยจากภายนอกเงียบลงไปแล้ว
“............................................”
   แขนของผม มีสายน้ำเกลือ และถุงน้ำเกลือก็อยู่บนเสาสแตนเลสข้างเตียงผมนี่เอง
   ในห้องไม่มีใคร
   พี่วุฒิ?
   พี่แบงค์ล่ะกลับไปหรือยัง?
   ผมไม่มีแรงแม้จะลุกขึ้นแต่ก็พยายาม
แกร็ก!?
   ประตูเปิดออก พร้อมกับร่างที่ทำให้ผมพูดไม่ออก
“ ..........................” พี่วุฒิ
“ ...................................” พี่วุฒิเดินมาหยุดตรงข้างเตียงพร้อมทั้งมองลงมา
“ ...................................” พี่ครับ พี่จะไม่ทำอะไรผมใช่ไหมครับ
สั่น
   น้ำไหลอาบแก้มอุ่นๆร้อนๆของผม พี่วุฒิขมวดคิ้วเมื่อเห็นมัน
“ ร้องไห้ทำไม?” พี่วุฒิถาม “ เจ็บเหรอ?”
   กลัวพี่เท่านั้นแหละครับ
“ พะพี่ครับ ผม ขอโทษ อย่าทำอะไรผมน ะค ะครับ” ผมบอกผ่านปากแตกๆ รู้เลยว่าตัวมันสั่น ร่างกายที่ไม่มีแรงขยับเมื่อกี้ลุกขึ้นมา กลับมีแรงถอยหนีเท่าที่มันทำได้
“ ...........................................................มรึงจะย้ายไหม?” พี่วุฒิถามคงเป็นเรื่องย้ายโรงเรียน
“ ย้าย ย้ายครับ ผมย้ายแล้ว” ผมบอก ขอแค่อย่าให้พี่วุฒิทำอะไรผม........... ผมยอมทุกอย่าง…………….
“ ดี”  พี่วุฒิบอกนั่งลงข้างตัวผม “ นี่เป็นบทเรียน ถ้ามรึงกล้าขัดคำสั่งกรูอีกล่ะก็ มรึงไม่เจ็บแค่นี้แน่”
“ ไม่ครับ ผมไม่ทำแล้ว”
“..................................................”
“ .............................................เดี๋ยวกรูเอาข้าวมาป้อน มรึงคงลุกไม่ไหว...................” พี่วุฒิดึงตัวผมให้นั่งอยู่ตรงกลางเตียงแล้วเดินออกไป  ครันผมจะถามถึงพี่แบงค์ปากมันก็ไม่กล้าพอ ถ้าพี่แบงค์ อยู่คงจะเข้ามาพร้อมพี่วุฒิแล้ว
“......................................... .. .”
   พี่วุฒิออกจากห้องไปไม่นานแล้วกลับเข้ามาพร้อมถาดที่มีชามข้าวต้ม
“ ข้าวต้มไอ้แบงค์มันไปซื้อมาตั้งแต่เช้า แต่มันเย็นแล้วกรูเลยต้องอุ่นใหม่ แต่ยังอร่อยอยู่” พี่วุฒิเล่า แต่ผมไม่เห็นเงาพี่แบงค์
“ อ้าปาก” พี่วุฒิสั่งพลางเป่าข้าวต้มในช้อน แล้วยกขึ้นป้อนผม
   รสชาติไม่อร่อยเลยครับ ออกจะขมๆ คงเป็นรสปากผมที่ไม่สบาย
“ ไม่อร่อย?”(พี่วุฒิ)
“ ..................................” ถ้าผมบอกว่าไม่อร่อยจะผิดไหม แต่เมื่อกี้พี่วุฒิบอกว่าอร่อย
“  ไม่ตอบก็ไม่เป็นไร....” พี่วุฒิตัดบทป้อนผมอีกคำ และอีกคำ
   ไม่ ถึง 5 คำผมก็อิ่มแล้ว กลืนไม่ลง ข้าวมันขมในปากยิ่งกินก็ยิ่งขม
“ พี่ครับ....................ผม อิ่ม” ผมบอก สังเกตสีหน้าพี่วุฒิ
“ มรึงกินแค่ 3 คำบอกว่าอิ่มใครจะไปเชื่อ อย่างน้อยต้อง 10 คำ”
“ .............................” พี่วุฒิบอกแล้วยกช้อนรอ ผมจำต้องอ้าปากกิน เพราะพี่วุฒิดูจะไม่พอใจที่ผมกินแค่นั้น   สุดท้ายพี่วุฒิก็ป้อนผมจนครึ่งชามซึ่งผมไม่รู้ว่ามันกี่คำ
“ จ้องหน้ากรูทำไม มีอะไรก็พูดมา”
“ พี่แบงค์กลับไปแล้วหรือครับ?” ผมถาม
“ กลับไปแล้วเมื่อกี้ กลับไปพร้อมหมอศักดิ์นั่นแหละ” พี่วุฒิบอก
   หมอศักดิ์คงจะเป็นหมอคนเดียวกับที่เป็นหมอประจำครอบครัวพี่วุฒิและเป็นคนตรวจพี่วุฒิที่บ้านตอนที่พี่วุฒิไม่สบายตอนนั้น
“ .........................................................” พี่แบงค์กลับไปแล้ว ตอนนี้ถ้าผมทำให้พี่วุฒิไม่พอใจคงไม่มีใครช่วยผมได้
   ผมน่าจะรู้ว่าพี่แบงค์ไม่ได้อยู่ที่นี่ตลอดเวลา แล้วจะเป็นยังไงล่ะ? ผมต้องทำยังไง
"..................................."
“ กรูป้อนมรึงแล้วขอรางวัลหน่อย” พี่วุฒิพูดขึ้นขณะผมกำลังเหม่อ
   รางวัล?????ที่ป้อนผม
“ .....................................”
   พี่วุฒิโน้มตัวมาหาผม ผมรีบหลับตา
   พี่วุฒิจะทำอะไรครับ!!!
“ ................................”
             ผมตัวแข็งทื่อ
จูบ__________________หน้าผากแล้วค้างอยู่อย่างงั้น ผมก็ไม่กล้าลืมตาขึ้น
   .........ไม่กล้าแม้จะหายใจ
“...................................กลั้นหายใจทำไมเดี๋ยวก็ได้ตายหรอก” พี่วุฒิพูดพร้อมเอาริมฝีปากออกไป แล้วเอามือมาเกลี่ยแก้มผม เรื่อยมาจนมาถึงรอยแผลที่มุมปาก
   เจ็บ! เมื่อนิ้วพี่วุฒิถูกแผล แต่ผมไม่ได้ปัดมือนั้นออก
“มรึงเจ็บมากไหม?”
“ ....................คะครับ”
“เจ็บแล้วจำใส่หัวมรึงเอาไว้ว่าจะเจ็บกว่านี้ ถ้า.................” จากสายตาที่ก้มดูแผลกลายมาเป็นมองหน้าผมแทน
“ .....................ถ้ามรึงยังไม่เชื่อฟังคำสั่งกรู จะเจ็บกว่านี้.....” พี่วุฒิขู่ผมอีกครั้ง ผมหันหน้าหลบแทนคำตอบ
“......................................”
“มรึงเป็นของกรู จำไว้”
   ไม่มีคำไหนที่พูดออกมาว่าแคร์ผมสักนิด
“ แล้วก็ ....... เช็ดน้ำตาด้วย” พี่วุฒิสั่ง ผมเอามืออีกปาดน้ำตา มันไหลลงอีก.........ตอนไหนผมไม่รู้
“ กินยา” พี่วุฒิบอกเทยาจากแก้วใส่ฝ่ามือผม นอกจากเม็ดยาสีขาวแล้วยังมีเม็ดยาสีแดง สีเหลือง สีส้มด้วยเหมือนวิตามิน
   ผมรับยาและแก้วน้ำมากิน แม้แต่น้ำที่ไหลผ่านลำคอก็ยังต้องใช้ความพยายาม
“ ดี...................” พี่วุฒิยิ้มซึ่งผมไม่รู้ว่าอะไรเพราะอะไร “ เดี๋ยวมรึงนั่งสักพักค่อยนอน กรดจะได้ไม่ไหลย้อน”
   พี่วุฒิพูดจบก็ออกจากห้องไปโดยไม่ปิดประตู และไม่ถึงนาทีก็กลับเข้ามาพร้อมโน๊ตบุ๊ค?
“มองทำไม นี่คอนโดกรูมรึงไม่มีสิทธิ์ห้ามกรูไม่ให้เข้ามา” พี่วุฒิพูดทั้งที่ผมไม่คิดว่าจะห้ามพี่เขาเลยด้วยซ้ำ ผมแค่สงสัย
“................................”
   พี่วุฒิเอาโน๊ตบุ๊คไปวางบนโต๊ะที่ผมจัดไว้สำหรับเขียนหนังสือ บนโต๊ะก็มีโน๊ตบุ๊คของผมวางอยู่ พี่วุฒิจัดแจงพามันไปวางชิดขอบโต๊ะแล้วเอาโน๊ตบุ๊คตัวเองวางตรงกลางแล้ว เปิดขึ้นมาแล้วเข้าเน็ต รู้สึกว่าจะเป็นเกมส์
“ ..................................”
เอ๊ะ! มรึงนี่มองกรูทำไม นอนไปสิ” พี่วุฒิว่าหงุดหงิดลุกขึ้นมา ผมรีบฟุบลงนอนทันที
“ ..............................”
                                   ทว่า..
   พี่วุฒิเดินมาหาผม ผมรีบหลับตา รู้แต่ว่าพี่วุฒิหยุดข้างเตียง......
 
   แล้วพี่วุฒิก็เดินห่างออกไป ทว่ากลับขึ้นมาบนเตียงอีกด้าน ผมหันหน้าไปมอง พี่วุฒิกำลังนอนลง
“ มองทำไม!”
“................ ............ .. ..   ......ไม่ทำไมครับ” ผมบอก
   หมับ!?
   แขนพี่วุฒิวางบนตัวผม บวกกับบาดแผลบนตัวผมแล้วมันหนักมาก แต่พี่วุฒิไม่มีทีท่าว่าจะยกออก แล้วแบบนี้ผมจะหลับได้ยังไง
   ไม่พอ?ยังขยับตัวมาจนชิดตัวผมอีก
“ ถ้ามีอะไรเรียกกรู”
“.......................”
“เข้าใจไหม!”
“ครับ” ผมตอบแทบสำลักคำพูดตัวเอง
“ ............................ดี แล้วหลับตาด้วย” ผมหลับตาลงตามที่พี่วุฒิสั่ง ผมไม่เข้าใจว่าพี่วุฒิทำไมต้องทำแบบนี้ หรืออยากจะแกล้งผมทั้งที่ผมก็เจ็บถึงขนาดนี้
“ ................................”
“ กรูไม่อยากเล่นเกมส์แล้ว นอนกับมรึงดีกว่าเยอะ....................”
   พี่วุฒิกอดผมจนกระทั่งผมหลับไป      .
.
.
..
   ผมตื่นอีกทีก็เย็นแล้วสักทุ่มได้ ผมมารู้ตอนหลังว่าที่ผมตื่นขึ้นตอนแรกนั้นปาเข้าไปเที่ยงแล้ว
“ ...........................” พี่วุฒิไม่อยู่ในห้อง
“ ตื่นแล้วเหรอ?” หมอศักดิ์ถามผม หลังมือผมเข็มน้ำเกลือถูกถอดออกไปแล้ว
“ มีไข้อ่อนๆ แต่ทุกอย่างดีขึ้นมาก” หมอศักดิ์บอกเก็บของใส่กระเป๋าแพทย์สีดำ “ยังเด็กอยู่ร่างกายก็ฟื้นตัวเร็วแบบนี้แหละ แต่ถ้าบ่อยๆร่างกายก็คงทนไม่ไหว” หมอพูดเหมือนเป็นประโยคบอกเล่า
“ ขอบคุณครับ” ผมว่าเมื่อหมอศักดิ์บอกจะกลับแล้ว
“ หมอบอกคุณวุฒิไว้แล้ว เรื่องยา แค่กินให้ตรงตามเวลาก็พอ ส่วนยาแก้ปวดหมอไม่แนะนำ ถ้าอดทนได้ก็ดี”
“ครับ”
   หมอศักดิ์ออกไปแล้ว แต่ไม่มีใครเข้ามา ผมพยุงตัวลุกขึ้น แล้วอดทนลุกขึ้นแม้จะยังปวดตามร่างกายอยู่
 
เงียบ
 
   เปิดประตูออกมา เงียบ ไม่มีใคร
 
   ทว่ามีคนอยู่  พี่วุฒิอยู่ในครัว?และไม่สังเกตเห็นผม
“...............................” เข้าไปทำอะไรอยู่ในครัว?
   ผมเดินต่ออีก 2 สามก้าว แต่ไม่คิดจะเดินไปมากกว่านี้
   ไม่อยากให้พี่วุฒิก็รู้ตัว ก็ใช่....................
!?
   พี่วุฒินั่งลง ค้นหาของในตู้ด้านล่างแต่เหมือนจะพังตู้มากกว่า และก็ได้ตะกร้าพลาสติกสีเขียวออกมา จากนั้นก็เอาต้นหอม ผักชีที่ล้างรอไว้ในซิงค์ใส่ลงไป แต่ไม่ยอมสลัดน้ำออกก่อน น้ำในผักไหลลงมาท่าจะเปียกพื้น และก็ไม่เอาถาดมารองอีก วางลงเฉยๆ
           น่าจะเอาถาดไปรองสักหน่อย
   อย่าบอกว่าพี่วุฒิ
   ทำกับข้าว??????!
“อะไรอีกนม?” พี่วุฒิพูด เสียบหูฟัง ...โทรศัพท์ คงกำลังคุยกับนมขมิ้น
“ อะไรนะเอาผักชีตำใส่กระเทียม เกลือด้วยนิดหน่อย นิดหน่อยแน่ะแค่ไหน!”
“ วุ่นวาย” พี่วุฒินั่งลงหาครก แต่คงไม่เจอหรอก เพราะที่นี่ไม่มีครก
   พี่วุฒิหาครกอยู่นาน คงรู้แล้วว่าไม่มี
“ นมไม่มีครก เอาไง?” พี่วุฒิถาม
“ มีด...ทุบๆบนเขียงก็ได้ ….อะไรนะไม่ใช่ทุบ ก็เหมือนกันนั่นแหละ!” พี่วุฒิพูดพร้อมทำตามแล้วโยนทั้งหมดลงไปในหม้อ พร้อมใส่เกลือลงไปครึ่งช้อน
   ทำข้าวต้ม????
   ผมไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าพี่วุฒิกำลังทำข้างต้มให้ผม............
“............................................... .. .”
“ ยุ่งยาก” พี่วุฒิบ่นไปทำไป .............
 
 
“ ..............................”
 
   ผมจะหันหลังกลับห้องแต่พี่วุฒิสังเกตเห็นเสียก่อน
“ ออกมาตั้งแต่เมื่อไร!” พี่วุฒิถามเสียงแข็ง ดึงสายหูฟังออกจากหูเดินมาผม ผมถอยหลังไอ้ 2 ก้าวพี่วุฒิก็เดินมาเกือบถึงตัว
“ ................................”
“ ถามว่า ออกมาตั้งแต่เมื่อไร!” สะดุ้งครับ
วงแขนพี่วุฒิกอดเอวไม่ให้ผมถอยออกไปอีก
“ สัก 10 นาทีได้ครับ” ผมบอกขยับถอยหนี
   แนบ! ตัวผมถูกรั้งจนติดกับร่างพี่วุฒิ
“ แล้วทำไมไม่บอก”
“ .................................”
“ ออกมาแล้วก็ไปนั่งรอ” พี่วุฒิบอกพร้อมทั้งลากผมไปนั่งบนโชฟา
“ อย่าคิดว่ากรูทำเพื่อมรึงล่ะ กรูแค่ขี้เกียจออกไปซื้อ” พี่วุฒิบอกก่อนที่กลับเข้าไปทำข้าวต้มต่อ
“................................”
“ กรูทำอร่อยไม่อร่อยมรึงก็ต้องกิน ไม่งั้นเจ็บตัว!” พี่วุฒิทั้งบอกทั้งขู่ ซึ่งดูจะกลายเป็นคำพูดประจำไปเสียแล้วที่คำพูดมักจะจบประโยคมักจะเป็นคำขู่หรือไม่ก็คำคาดโทษ
 
   ติ๊ดๆ
   เสียงกดออด ผมกำลังจะลุกไปเปิด แต่พี่วุฒิบอกว่า ‘ไม่ต้อง’ เพราะพี่วุฒิไปเปิดเอง
...........คุณแพรเดินเข้ามา มีคนขับรถที่ผมเห็นขับรถให้คุณแพรทุกครั้ง ชื่อ พี่เอ็ม แขนทั้งสองข้างหิ้วพี่เอ็มหิ้วตะกร้าของบำรุงเข้ามา คนตัวเล็กๆอย่างคุณแพรถือไม่ไหวแน่
“ สวัดดีครับ” ผมลุกขึ้นสวัสดี
“ จ้ะ เป็นไงบ้าง..”
“ มาทำไม!!!” พี่วุฒิพูดยืนตัวตรงที่หน้าประตู ใบหน้าคุณแพรเปลี่ยนเป็นสีซีดทันที
“ พี่วุฒิ” (ผม)
“ ไม่ต้องยุ่ง!!”
“ ถามว่ามาทำไม!!!” พี่วุฒิตะคอกเสียงดัง ตัวสั่นด้วยความโกรธ
   ทำไมพี่วุฒิจะต้องพูดกับคุณแพรแบบนี้ด้วย ผมไม่เข้าใจ
“ วุฒิ ลูก”
“ กลับไป”
“ แม่ได้ยิน เรื่องจุม............” พี่วุฒิไม่รอให้คุณแพรพูดจบ ตะคอกเสียงดังแม้แต่ผมยังตกใจ แล้วคุณแพรที่เป็นผู้ให้กำเนิดล่ะจะรู้สึกอย่างไร
“ บอกให้กลับไม่ได้ยินหรือไงวะ!!”
“ วุฒิ” คุณแพรตกใจกับเสียงพี่วุฒิพอดู น้ำตาไหลอาบแก้มหมดจด
“ จะออกไม่อออก” พี่วุฒิเดินหน้าไปหาพี่เอ็มแต่คุณแพรเข้ามาขวางไว้
“ วุฒิ ..เอ็มเขาแค่ถือของมาช่วยแม่”
[/b] “ แล้วทำไม ไม่เรียกผม ให้มันขึ้นมาทำไม!!!” [/b] พี่วุฒิโกรธจัดจนหน้าแดง เสียงทุกเสียงทุกวาจาเต็มไปด้วยโทสะ
“ อ้อ..คงอยากจะแนะนำให้ลูกสะใภ้รู้จัก” พี่วุฒิเข้ามากระชากแขนผมเข้าไป
   ผมไม่เคยเห็นพี่วุฒิโกรธมากเท่านี้มาก่อน
“ จุมนี่แฟนคุณแม่พี่ คงรู้จักชื่อแล้วมั้ง..” พี่วุฒิบอกยิ้มแต่ไม่ได้รู้สึกอย่างงั้น คุณแพรส่ายหน้าเสียใจเสียน้ำตา
“ เดี๋ยว คุณพ่อพี่ก็คงจะพาแฟน มาให้รู้จักเหมือนกัน ไม่น่ามากันคนละครั้งเลยนะ น่าจะมาพร้อมกัน เสียเวลา” พี่วุฒิพูดกำแขนผมระบายอารมณ์คุกรุ่นจนแขนผมเจ็บร้าว น้ำตาคลอ
“ วุฒิ ..ทำไมไม่เข้าใจแม่เลย”
“ .............แนะนำกันพอแล้วก็เชิญกลับไปได้ ทั้งคุณแม่และก็ มัน!” พี่วุฒิว่าจ้องหน้าทั้งแม่ของตัวเองและพี่เอ็ม
   ผมไม่เข้าใจ คำว่าแฟนนี่หมายถึงอะไร และคุณวชิระล่ะรู้หรือเปล่า แล้วยังคำว่าแฟนของคุณวชิระอีก แต่อาจจะรู้ทั้ง 2 คนเพราะพี่วุฒิก็บอกว่าให้มาพร้อมกัน.....ผมไม่เข้าใจนอกจากความเจ็บปวดที่แขนของตัวเองตอนนี้
เงียบ
 
“ ......................” คุณแพรวิ่งออกไปจากห้อง พี่เอ็มวางของแล้ววิ่งตามออกไป แต่พี่วุฒิยังกำแขนผมแน่น และแน่นกว่าเดิม
 
เงียบ
 
“ โธ่เว้ย!” พี่วุฒิสะบัดมือจากแขนผมอย่างแรง   
“ พี่วุ...”
“ เงียบ ไม่ต้องพูด!” ผมปิดปากตัวเองทันที
“ เป็นไงล่ะครอบครัวกรู สุขสันต์กันดีไหม”
   ควับ!
   พี่วุฒิหันมามองผม แต่ผมไม่ได้พูดอะไรเพราะพี่วุฒิบอกไม่ให้ผมพูด ทว่าพี่วุฒิดูจะโกรธกว่าเดิม
“ ..................................”
   แล้วพี่วุฒิก็วิ่งออกไป ผมวิ่งตามไป
   พี่จะไปไหนครับ?!
“ ไม่ต้องตามมา กลับห้องไป!” พี่วุฒิสั่งก่อนที่จะถึงลิฟท์
“ ......................” ผมจะอ้าปากพูด พี่วุฒิก็ดักคอเสียงก่อน
“ กลับไป ก่อนที่กรูโกรธมรึงอีกคน!” ผมถอยหลังตามที่สั่ง แต่ยังไม่หันกลับไป
“ กลับห้อง!” พี่วุฒิตะคอกเสียงดัง ผมสะดุ้งแล้วหันหลังเดินกลับห้อง เดินได้ 3 ก้าวผมหันกลับไปเห็นพี่วุฒิวิ่งลงบันไดไปแล้ว
   ผมวิ่งไปดูเห็นพี่วุฒิกำลังวิ่งลงบันไดอย่างรีบร้อน
“ พี่ครับ” ผมเสียใจ รับรู้ความรู้สึกความเจ็บปวดของพี่วุฒิอาจจะไม่มากเท่าที่พี่วุฒิรู้สึกกับมัน...
 แต่สายตาพี่ ผมรู้สึกได้......









*                 *                   *                 *

16 อย่างรวดเร็ว อัพเช่นนี้ไปเรื่อยๆวันนี้คงถึงตอน 20 ฝ่า(ฮา)
 :fire: :fire:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-03-2010 11:40:54 โดย meawlynx »

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: บุพเพวายร้าย 16.
«ตอบ #205 เมื่อ11-03-2010 11:12:19 »

 :mc4: :mc4: :mc4:

ตอน 21ดีฟ่า



 :z3:

ออฟไลน์ PaTtO

  • อาซามิซามะ.. ทาคาบะ4ever
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1638
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3
Re: บุพเพวายร้าย 16.
«ตอบ #206 เมื่อ11-03-2010 11:19:58 »

^

^

^

จิ้มรีบน

เห็นด้วยอย่างแรง

ตอนที่21ไปเลย

๕ ๕+

ออฟไลน์ sweetener

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
Re: บุพเพวายร้าย 16.
«ตอบ #207 เมื่อ11-03-2010 11:20:38 »

เห้อออออออออออ
อิพี่วุฒิสมควรโดนดัดสันดานซะบ้าง

สาวบ้านนอก

  • บุคคลทั่วไป
Re: บุพเพวายร้าย 16.
«ตอบ #208 เมื่อ11-03-2010 11:23:49 »

อ๋า เด็กมีปัญหานี่เอง ซวยก็น้องจุมนี่แหละนะ :z10:


ปล.ถึงตอน21 ก็ดี แต่12หายไปนะคะ :z2:

ออฟไลน์ veeva

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-2
Re: บุพเพวายร้าย 16.
«ตอบ #209 เมื่อ11-03-2010 11:26:09 »

รออ่านต่อ ไอ้พี่วุฒิใจร้ายมาก อยากให้โดนเอาคืนจริงๆ  :angry2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด