บุพเพวายร้าย
22.
นาฬิกา ปลุกดังจากมือถือ ปลุกผม 6 โมงเช้าตามที่ผมตั้งไว้ พอจะขยับตัวก็รู้ว่ากำลังโดนพี่วุฒิกอดอยู่ พอผมจะแกะออกก็ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ แต่ยังคงไม่รู้สึกตัว(เหม็นกลิ่นเหล้าคลุ้ง) ผมพยายามแกะมือและยกแขนพี่วุฒิออกช้าๆ และเบามือที่สุด ก่อนที่จะหลุดมาได้
ดีนะครับที่เสียงนาฬิกาปลุกเมื่อกี้ ไม่ทำให้พี่วุฒิตื่น ท่าทางจะเพิ่งได้นอน เพราะตอนตี 3 กว่าๆผมตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำยังไม่กลับมาเลย
พอผมลุกออกได้มือพี่วุฒิก็คว้านหาตัวผม(น่าจะไม่รู้สึกตัว) เห็นแบบนี้แล้วยังกะเด็กหาตุ๊กตา หรือหมอนข้างเลยครับ ผมเลยเอาหมอนข้างไปวางไว้ใกล้มือพี่วุฒิแล้วพี่วุฒิก็ดึงหมอนข้างไปกอดไว้จริงๆ
“คิก” ผมขำกับกระทำพี่วุฒิที่ต่างจากตอนตื่นโดยสิ้นเชิง
แต่แล้ว
“ ...............................”
พอผมจ้องหน้าพี่วุฒิ รู้สึกว่ากลัวขึ้นมาเฉยๆ เลยรีบออกมา เข้าครัวแล้วหุงข้าวเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะตั้งหม้อบนเตาเพื่อที่จะทำปลาทับทิมขึ้นฉ่าย แล้วเอากวางตุ้งล้างน้ำอันนี้ทำผัดกวางตุ้งน้ำมันหอยครับ และตามเอาไข่ 3 ฟองมาตีกับหมูสับ วัตถุดิบสดพวกนี้คุณแพรให้คนเอามาให้ จะว่าไปแล้วนับตั้งแต่วันนั้นวันที่คุณแพรกับพี่เอ็มมาที่นี่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้มาที่นี่อีก แต่ก็ไปเยี่ยมผมที่โรงพยาบาลครั้งหนึ่ง
ผมทำอาหารทั้ง 3 อย่างใช้เวลา 30 นาทีครับ แต่ปลาทับทิมขึ้นช่ายยังไม่เสร็จนะครับผมตั้งหม้อไว้แต่ลดไฟลง พอผมกลับไปอาบน้ำออกมาก็จะสุกเข้าเนื้อพอดี พร้อมกินแล้วไปโรงเรียน ส่วนพี่วุฒิจะมากินที่หลังครับ เพราะพี่วุฒิบอกไว้ตั้งแต่อยู่ในรถตอนมาส่งผมแล้วว่าไม่ต้องปลุกมากินข้าวเช้าให้ปลุกไปส่งโรงเรียนเลย
แกร๊ก! พรึ่บ?
ผมหันมองห้องพี่วุฒิที่เปิดออก พี่แบงค์เป็นคนเปิดออกมา
“ อ้าวจุม ทำกับข้าวเหรอ?” พี่แบงค์ถาม อยู่ในชุดพี่วุฒิ ผมบนหัวยังเปียกอยู่ท่าจะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ
“ครับ แต่เสร็จแล้ว จะไปอาบน้ำแต่งตัว” ผมบอก
“ มองอะไร? พี่ใส่เสื้อไอ้วุฒินั่นแหละ หวงเหรอ” พี่แบงค์ว่า คงเห็นว่าผมมอง(ผมส่ายหน้าตอบว่าไม่ได้หวง)
“ ไม่ใช่นะครับ ผมคิดว่าเสื้อพี่วุฒิพอดีตัวพี่แบงค์เลยครับ” ผมเคยใส่เสื้อผ้าพี่วุฒิ แล้วมันหลวมไป
“ ก็สูงเท่ากัน น้ำหนักยังต่างกันแค่โลเดียว ก็ไม่แปลกหรอก เพราะงั้นพี่กับไอ้วุฒิเลยเปลี่ยนกันเสื้อยู่บ่อยๆ” พี่แบงค์ว่าเดินเข้ามาแล้วเปิดหม้อปลาทับทิมขึ้นช่ายของผม
“ น่ากิน พี่กำลังหิวพอดี ขอกินด้วยคนนะ”
“ ครับ แต่ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ” พี่แบงค์พยักหน้า ผมเลยเดินออกมา
“จุม”
“ครับ” ผมหน้าหันกลับไป
“ ไม่ใช่ แค่เสื้อหรอกนะที่พี่กับไอ้วุฒิบางครั้งก็ใช้รวมกัน.... ......”
“ ..............................” สายตาพี่แบงค์ที่มองมาทำให้ผมรู้สึกอึดอัด คำพูดเมื่อกี้มันทำให้ผมคิดว่ามีบางอย่างเกี่ยวกับผม
“ ............................” เมื่อพี่แบงค์ไม่ยอมพูดอีก มีแต่สายตาที่มองมา ผมเลยต้องพูดก่อน
“ ผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ” ผมบอก แต่พี่แบงค์ยังนิ่งอยู่ ผมเลยเดินมาเลย รับรู้ได้ว่าแม้แต่ตอนนี้พี่แบงค์ยังมองผมอยู่ เมื่อคิดอย่างนั้นแล้วร่างกายก็ร้อนๆหนาวๆขึ้นมา
ผมเข้ามาในห้อง พี่วุฒิยังนอนอยู่เหมือนเดิม ผมยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแต่พอมองนาฬิกาแล้วผมก็รีบไปอาบน้ำครับ ไม่รีบเดี๋ยวสาย
* * * * *
[/b] ผม[/b] แต่งตัวเสร็จ พี่แบงค์ก็นั่งรออยู่แล้ว ทั้งเอาอาหารมาวางรอแล้วด้วย พอเห็นผมออกมาก็ตักข้าวใส่จานให้ผมกับตัวพี่เอง
“ ไอ้ชนะเพิ่งกลับไป เมื่อกี้นี่เอง” พี่แบงค์บอก วางจานไว้ตรงหน้าผมที่นั่งเรียบร้อยแล้ว
“ แต่พี่ว่าจะอยู่ที่นี่แหละวันนี้ ว่าจะดูหนังที่เอามาวันนั้นยังไม่ได้ดูเลย” พี่แบงค์ว่านั่งลงตรงข้าม แล้วนั่งกวางกุ้งน้ำมันหอยให้ผม
“ ...............ขอบคุณครับ....”
“ แล้วเราไปโรงเรียนยังไง?”
“ เดี๋ยวพี่วุฒิไปส่งครับ” ผมบอก
“ แต่มันนอนอยู่นิ”
“ครับ แต่ผมกินข้าวเสร็จจะไปปลุกพี่วุฒิ” ผมบอกกินข้าวไปด้วย
“ ไม่ต้องไปปลุกมันหรอก เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ ไม่ได้หรอกครับ พี่วุฒิบอกให้ผมปลุก” ผมบอก และวันจันทร์ผมก็ทำแบบนี้ เพราะพี่วุฒิสั่งหนักหนาว่าให้ปลุก เพราะจะไปส่งเอง
“ ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่เข้าไปคุยเอง เมื่อคืนมันเมาจนหัวทิ้มให้มันนอนไปเถอะ คงยังไม่ส่างหรอก”
“ ครับ”
“...................................” (ยิ้มให้ ผมยิ้มตอบแบบไม่เห็นฟันเพราะข้าวเต็มปาก แก้มเลยพองๆ)
หลัง จากกินข้าวเสร็จ พี่แบงค์ก็เข้าไปพูดกับพี่วุฒิไม่ถึงนาทีก็ออกมา
“ มันรู้แล้ว” แล้วพี่แบงค์เดินนำหน้าผมออกมา รถพี่แบงค์ไม่ใช่คันเดิมครับ คราวนี้เป็นสปอร์ตยุโรปสีแดง แทนรถคันเดิมที่เป็นรถญี่ปุ่นสีบอร์น
หลังจากที่พี่แบงค์ขับออกจากคอนโด พี่แบงค์ก็พูดขึ้นว่า
“ จุม อยากรู้ไหมว่าทำไม พี่ถึงเลิกเจนแฟนพี่”
ผมหันไปมองพี่แบงค์ว่าทำไมถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา และผมไม่รู้
“ ......................” เงียบน่าจะเป็นเรื่องดีที่สุด
“ ที่เรา 2 คนคบกันเพราะเราก็ต่างสนใจในกันและกัน และคิดว่าไม่นานมันจะกลายเป็นความรัก แต่แล้วพี่ก็มีความรักแต่ไม่ใช่กับเจน”
“ ..............0.0............” ทำไมต้องบอกเรื่องนี้กับผมด้วย หรือพี่แบงค์ต้องการระบาย
พี่แบงค์หันมามองผมแป้บหนึ่งก่อนที่หันกลับไป
“ มันเป็นความรักที่แปลกมาก เริ่มจากความสงสัยในตัวเขา จากนั้นก็สนใจปนสงสาร นั่นมันทำให้พี่แอบเขาอยู่บ่อยๆมารู้ตัวอีกทีก็ไม่สามารถละสายตาได้ พอได้อยู่ใกล้พี่ก็รู้สึกมีความสุข แล้วพี่ก็เข้าใจว่าพี่ตกหลุมเขาคนนั้นได้ให้แล้ว...”
“.......................”
“...........จุมจะไม่ออกความเห็นกับเรื่องนี้หน่อย?” พี่แบงค์ถามแต่ผมไม่รู้จะพูดยังไง และอีกอย่างผมก็ไม่รู้จักเขาคนนั้นที่พี่แบงค์รักด้วย
“ ผมไม่ทราบครับ” ผมบอก หันหน้ามองข้างถนน ตอนนี้เข้าซอยทางเข้าไปโรงเรียนแล้วครับ
“ จุมว่าพี่ควรทำยังไง?”
“...........................” ผมไม่รู้จริงๆครับว่าพี่แบงค์ควรทำยังไง เรื่องแบบนี้มันพูยากมาก ผมไม่ได้ตอบ แต่หันหน้าไปมองพี่แบงค์แทน
“..............อย่างน้อยออกความเห็นก็ยังดีนะจุม พี่ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดีจริงๆ”
“ .......................ผมไม่ทราบครับ แต่ว่าพี่แบงค์เป็นคนดี ถ้าพี่แบงค์ลองจีบเขาดู ผมว่าเขาต้องชอบพี่แน่” ผมบอก
“ คิดงั้นเหรอ?”
“ครับ” (พยักหน้าด้วย)
“ ถึงแม้ว่าคนนั้นเขาจะมีเจ้าของแล้วมีผัวแล้วอย่างงั้นเหรอ?”
“ ............ .............อันนี้ผมไม่รู้ครับ” คำว่า ‘ตัวเองไม่รักดี’ ที่พี่แบงค์พูดตอนอยู่ที่ร้านเมื่อวาน ผมพอเข้าใจแล้ว เพราะพี่แบงค์ชอบคนที่ทีเจ้าของแล้วนี่เอง
!??
อยู่ๆพี่แบงค์ก็จอดรถ ทั้งๆที่อีกไม่ถึง 100 เมตรก็จะถึงหน้าโรงเรียน ตาผมละจากหน้าโรงเรียนที่มองเห็นนักเรียนเดินเข้ามาเป็นหน้าพี่แบงค์แทน
“.............?....................”
“ พี่เองก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง จะเข้าไปบอกว่าชอบว่ารักก็ไม่ได้ ทั้งๆที่รู้ว่าเขาลำบากแต่พี่ก็ได้แค่มองดู จะเข้าไปช่วยเขาก็ใช่ว่าจะทำได้เสมอไป แค่จะเข้าไปเช็ดน้ำตาให้ก็ไม่ได้ จะเข้ากอดตอนเขาเสียขวัญก็ไม่ได้ ทำได้แค่มอง....” พี่แบงค์พูดจ้องมองผม นัยน์ตาที่มองภายในนั้นเหมือนมีเปลวเทียนกำลังเต้นระริกเมื่อต้องลม
“ พี่อึดอัดจนเจ็บปวดไปหมด”
หมับ! พี่แบงค์จับมือของผมที่ผมวางไว้บนตัก
“ พี่แบงค์?”
“ ยิ่งพี่ใกล้เขามากเท่าไร พี่ก็ยิ่งโลภ อยากเป็นเจ้าของทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีสิทธิ์ ......” มือพี่แบงค์บีบมือผมแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
/i] “ พี่ครับ ผมเจ็บ”[/i]
“
............กลัว............... ผมรู้กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ราวกับว่ามันเป็นเรื่องของตัวเอง
“ ....................” พอดีกับผมมองเห็นจักร กับซี่ซีกำลังเดินกำลังเดินอีกฝั่งของถนน
“ พี่แบงค์ เดี๋ยวผมลงตรงนี้เลยนะครับ พอดีเจอเพื่อน” ผมบอกจะเปิดประตูออกไป แต่เปิดไม่ออก!?
“ ........................”
“ พี่ครับ” ผมเตือนว่าพี่แบงค์ยังไม่ได้ปลดล็อกประตู พี่แบงค์มองผมอยู่พักหนึ่งแล้วปลดล็อกประตูให้เท่านั้นแหละผมก็เปิดประตูออกไปทันทียังกะว่าถ้าไม่รีบออกมาจะไม่ได้ออกมาอีก แล้วข้ามถนนโดยไม่หันไปย้อนกลับกลับไปมองพี่แบงค์
.........น่ากลัว....
เมื่อกี้พี่แบงค์ดูน่ากลัวมาก…….บางครั้งพี่วุฒิก็ให้ความรู้สึกแบบนี้
“ จุม” ซี่ซี่เรียกผมเมื่อเห็นผมวิ่งไปหา
“ สวัสดี” ผมทัก “มาเช้าจัง”
“ ก็บ้านอยู่แค่เนี่ย” จักรบอกชี้กลับไปด้านหลัง ผมว่าจะหันไปดู ทว่าซี่ซีพูดขึ้นมาซะก่อน
“ อ้าวแล้วนั่นใคร?” ผมหันกลับไปมองด้านหลังเพราะซี่ซี่กำลังมองอยู่รวมจักรด้วย พี่แบงค์กำลังวิ่งมาหาผม
“ จุม” (พี่แบงค์)
“ ครับ?” ผมว่า แต่พี่แบงค์กลับไม่พูดอะไร
“ ........................” ผมเลยมองอย่างงๆ
ซี่ซีเอามือแตะๆแขนผม เป็นเชิงเร่งให้ผมแนะนำพี่แบงค์
“ นี่พี่แบงค์เพื่อนพี่วุฒิ พี่แบงค์นี่เพื่อนผมครับ จักร กับ...ซ”
“ สิทธิ์ครับ”(ทำเสียงใหญ่เกินจริง)
“ สวัดดีครับ....พี่ชื่อแบงค์....” พูดแล้วหันมาทางผม “จุม เดี๋ยวพี่โทรหา”
“ครับ?” ผมตอบอย่างงงๆเหมือนเดิมว่าพี่แบงค์ต้องการอะไร และวิ่งมาหาผมทำไม?
แล้วพี่แบงค์ก็เดินกลับไป
“ หล่ออีกแล้ว แค่ชื่อก็หล่อ พี่แบงค์ของซี่ซี” ซี่ซีพูด “ กลุ่มพี่ชายจุมนี่หล่อกันทุกเลยป่ะ?... ถ้ามีผู้ชายหล่อๆมาส่งแบบนี้ทุกวัน ซี่ซีจะตั้งใจเรียนได้ท็อปเลย อิจฉาว่ะ”
“ จะหล่อขั้นเทพแค่ไหน เกรดมรึงก็ไม่ขึ้นมามากกว่านี้แล้วล่ะไอ้สิทธิ์ เกรดชั้นบาดาลขนาดนั้น”
“ดูถูก”(ซี่ซี)
“ ก็มันไม่ผิด”
“ฟายนะมรึงไอ้จักร!” (เสียงผู้ชายของซี่ซี)
กริ้งๆ
มือถือผมดังจากกระเป๋ากางเกง
ใครโทรมาเช้าขนาดนี้ หรือจะเป็นบันบัน หรือธี? ไม่ใช่ครับแต่เป็น พี่แบงค์
“อัลโหลครับ?”
“ จุม.............................................................................”
“ครับ”
“ เมื่อกี้ไม่โกรธพี่ใช่ไหม?”
“.....................โกรธ??? เรื่องอะไรครับ?” ผมจะโกรธพี่แบงค์เรื่องอะไร
“ เมื่อกี้.....” เสียงพี่แบงค์เบาลง
“ ไม่ครับ...” ไม่มีเรื่องให้โกรธแล้วจะให้ผมโกรธอะไร
“ ขอโทษนะที่พูดเรื่องที่ทำให้ลำบากใจ”
“ ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ” ผมบอก เพราะที่พี่แบงค์เล่าเรื่องให้ผมฟังคงเพราะต้องการระบาย ตอนที่อยู่ในรถ ความอึดอัดของพี่แม้แต่ผมยังรู้สึกเลย
“ จุม ไม่เข้าใจหรอก”
“............................”
“ ถ้างั้นแค่นี้นะ”
“ครับ ? ”
ผมหันหลังกลับไปมองพี่แบงค์ยังจอดรถอยู่ที่เดิม.....................
* * * * *
คาบ ทำความสะอาดก่อนกลับบ้านแล้วผมเดินตามกับพวกจักรมาหน้าโรงเรียน ทำเขตรับผิดชอบ จนถึง 4 โมง จึงเดินออกมาก็เจอพี่แบงค์โบกมือให้
พี่แบงค์?
“ ไปนะ” ผมบอกพวกจักรแล้วเดินไปหาพี่แบงค์ โดยมีเสียงซี่ซีตามหลังแบบบ่นว่า ‘ทำไมไม่เป็นกรูบ้างวะ’
“ พี่แบงค์ แล้วพี่วุฒิละครับ?” ผมถาม
“ ไอ้วุฒิมันไปฮ่องกงกับแม่มันแล้ว เอ๊ะ แต่ว่าคงยังไม่ไปมั้งตอนนี้คงอยู่ที่สุวววณภูมิ ...”
“................” ผมไม่รู้มาก่อนเลย ตอนที่โทรมาหาผมตอนเที่ยงก็ไม่ได้บอก แต่ก็ดีแล้วเพราะหมายความว่าพี่วุฒิกับคุณแพรคงจะเข้าใจกันแล้ว
“ อย่าบอกนะว่ามันไม่ได้บอกจุม”
“ครับ” ผมว่าพยักหน้าไปด้วย พร้อมเปิดประตูเข้านั่ง ตามด้วยพี่แบงค์ที่เดินไปอีกข้าง
“ งั้นพี่บอกเองว่า ไอ้วุฒิมันตกลงกับพ่อแม่เรื่องจุม”
“ เรื่องผม?”
“ ใช่ จุมไม่คิดบ้างเลยเหรอว่า อยู่ดีๆพ่อแม่ใครเขาที่ไหนจะไปขอผู้ชายให้ลูกชายทั้งอายุไม่ถึง 19 ด้วยซ้ำ..”
ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกันแต่คิดว่าพี่วุฒิถูกตามใจมากอยากได้อะไรก็ต้องได้(หน้าแดง)
“ ถึงไอ้วุฒิมันจะถูกตามใจมากก็จริง แต่การรับลูกสะใภ้ที่เป็นผู้ชายตอนนี้สำหรับไอ้วุฒิมันเป็นเรื่องที่มากเกินไป ป้าแพรลุงวัชก็ต้องมีการเห็นว่านี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นของไอ้วุฒิ เลยตกลงกับไอ้วุฒิว่า จะให้ไปขอจุมให้ก็ได้แต่มันต้องไปทำงานกับพวกท่านเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งแยกกับกันระหว่างพ่อแม่ดังนั้นก็เท่ากับ ในหนึ่งเดือนไอ้วุฒิต้องไปเรียนรู้งานครอบครัวมัน 2 ครั้ง”
!!!สะใภ้ (หน้าแดง)
“ ..............................” พี่วุฒิไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้ผมฟังเลย ..หมายความว่าวันที่คุณแพรและคุณวชิระไปบ้านผมวันนั้นไปถึงการขอผมอย่างงั้นเหรอ? (หน้าไม่ได้แดงอย่างเดียวแต่ร้อนมากครับ)
จริงๆงั้นเหรอ มิน่าแม่ถึงได้ยอมเรื่องที่ให้ผมจะย้ายคอนโดง่ายๆ
“ เพราะงั้นวันนี้พี่เลยต้องมารับจุม และอยู่กับจุมจนถึงวันพฤหัส”
“ ...................ทำไมล่ะครับ?”
“ ก็ตอนที่มันไม่อยู่ไอ้วุฒิมันฝากจุมไว้กับพี่”
“ ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่ได้” ผมบอกเกรงใจไม่ใช่ว่าผมอยู่คนเดียวไม่ได้ โรงเรียนกับคอนโดก็ไม่ได้ไกลมาก นั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างมาก็ได้
“ รังเกลียดพี่?”
“ ไม่ใช่นะครับไม่ใช่” ผมบอกพัลวัน กลัวพี่แบงค์เขาใจผิด
กริ้งๆ ผมกดรับโทรศัพท์ พี่วุฒิโทรมาครับ
“ อยู่ไหน?” พี่วุฒิถามก่อนที่ผมจะพูดด้วยซ้ำ
“ในรถพี่แบงค์ครับ”
“ ไอ้แบงค์บอกแล้วใช่ไหม ว่ากรูไปฮ่องกง จนถึงวันพฤหัสฯ”
“ครับ”
“ จะไหน ทำอะไรก็บอกไอ้แบงค์ก่อน”
“ คะครับ”
“ แล้ว....”
ควับ!
พี่แบงค์ดึงโทรศัพท์จากมือผมไปขณะที่พี่วุฒิกำลังพูดผมไป (พี่แบงค์จอดรถข้างถนนก่อนหน้านี้ครับ)
“ไอ้วุฒิ มรึงจะห่วงอะไรหนักหนาวะ!!” พี่แบงค์พูด
“.........................” (ผมไม่ได้ยินว่าพี่วุมิตอบว่าอะไร)
“ เออ กรูดูแลให้.. ...กรูรู้กรูเข้าใจ..” พี่แบงค์กดวางแล้วส่งโทรศัพท์คืนให้ผม พี่แบงค์ยิ้ม ไม่เหมือนเมื่อเช้าเลย คงจะคิดอะไรได้แล้ว
“ ไปไหนต่อ? หรือจะกลับเลย” ผมคิดอยู่ครู่หนึ่ง พี่แบงค์ไม่ใช่พี่วุฒิ ผมจะทำอะไรอะไรก็ได้ที่ผมอยากทำ ตอนนี้ที่ผมคิดคืออยากเจอแม่ แต่แม่เข้าเวร
“ .....................ผมอยากไปหาเพื่อน...” ผมพูดเสียงเบาสังเกตท่าทีพี่แบงค์ไปด้วย ว่าพี่แบงค์จะว่าไง หรือพี่วุฒิสั่งไว้ว่ายังไง
“ เพื่อนคนไหน บันบัน กับธีใช่ไหม?”
“ครับ”
“งั้นบอกทางมา” พี่แบงค์ว่า ผมยิ้มกว้างปากแทบฉีก แล้วโทรหาบันบันว่าจะไปหา และทราบว่าธีก็อยู่ที่นั่นซึ่งผมก็คิดอยู่อยู่แล้ว
* * * * *
พี่แบงค์เหอะๆ:jul3:
