เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"  (อ่าน 838812 ครั้ง)

ออฟไลน์ kokikung

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-3
เหนื่อย กว่าจะตามทันอ่านเรื่องนี้

สงสารใครดี เกลียดมัน สักทีกะทั้งพี่น้องเลยนะ
  :z6:

 :pig4: รอมาอ่านต่อน้าค๊าฟฟฟฟฟฟฟฟ

yayu

  • บุคคลทั่วไป
สงสารฉานอ่ะ คงจะเสียใจน่าดู  :m15:

ออฟไลน์ SungJimun

  • ♥ 끝까지준홍 ♥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
แล้วทำไมกรุต้องมาอ่านค้างตอนนี้ด้วยวะเนี่ย  :serius2: :serius2:
โอ๊ยยยยยยยยยย ลุ้นๆๆๆ ต่างคนต่างผิดนะงานนี้ ไม่มีตัวช่วย แง

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
เฮ้อ....เศร้าใจอ่ะ แง้ๆๆๆ

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
เครียด นอนไม่หลับมาหลายคืนล่ะ  :เฮ้อ:

เมื่อไหร่เมฆกับฉานจะมาเคลียร์กันให้รู้เรื่องซะทีง่าา  :เฮ้อ:

 :call: :call: :call: :call: :call: :call:

ออฟไลน์ กว่าจะไร้เดียงสา

  • อาจมีค่าเพียงหยดน้ำ...สักวันจะกลายเป็นฝน
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-26
^
^
เราว่านะ ถ้าคนนี้มาทวง วันนี้ต้องได้อ่านเมฆฉานแน่ๆ....ชิมินุ้งเซ  o18...

ออฟไลน์ Seiki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2726/-64
เซยังไม่มีต้นฉบับมาเลย รอหน่อยนะ คนเขียนแจ้งมาแล้วว่าเขียนอยุ่ได้ครึ่งทางแระ  :z2:

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2

-N-

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีค่ะ

เพิ่งเริ่มอ่านเมื่อคืน และพอได้อ่านก็หยุดไม่ได้เลยยยย บรรยายได้น่ารักมากๆ ชอบเมฆบรรยายอ่ะ ตลกได้ใจดีจริงๆ แสดงอารมณ์ห่ามบวกฮาตามประสา ผช อ่ะเนอะ ส่วนฉาน เป็นชื่อแปลกแหวกแนวดีมาก ถ้า ฉาย นี่ไม่แปลก 5555 แต่ก็ชอบมากเลยค่ะ ผช อย่างฉานเนี่ย บอกตามตรง ชอบบุคลิกและสไตล์มาก (ยิ่งบอกว่า หล่อ คิ้วเข้ม หน้าคม มีลักยิ้ม โอ้ยยยย ละลายยยย อยากหาอิมเมจมากกกกกๆๆ อิอิ) นิสัยก้อเป็นคนตรงได้อีกเนอะ อย่างที่เมฆบอก ยิ่งกว่าไม้บรรทัด 5555 แต่เป็นคนที่เดาง่ายมากเลย คือ หมายถึง เป็นคนที่แสดงออกสุดๆ ชอบจัง ฉานดูรักกกก รักกกก เมฆมากๆ แต่ไอ้อาการหึง หวง สุดๆนี่ แอบน่ากลัวน ถ้าเราปนแฟนเราคงดีใจอ่ะ ที่เค้าดูรักขนาดนั้น หวงขนาดนั้นยิ่งตอนที่เมฆหายไป แล้วฉานตามหานะ สุดยอดอ่ะ ไม่คิดว่าจะมีใครรักกันได้มากขนาดนี้ แต่ตอนหึงนี่ก้อไม่ไหว มากมาย หวงนี่ไม่ต้องพูดถึง


คุณคนเขียนจ๋า ตัดจบได้ตอนที่ลุ้นสุดๆพอดี เจ็บปวดใจแทนเมฆอ่ะ เข้าใจเมฆนะ แต่ฉานอ่ะ รู้ว่าคิดมากเรื่องเมฆตลอด แต่ทำไมตอนนี้กลับคิดน้อยวะ ไม่เข้าใจ ต้องมาข่วยเมฆนะเว้ยยยยยย สงสารเมฆมากกกกกก  อิอาทก็เป็นบ้าอะไร ไปตายไป๊ แอร๊ยยยยยย อินนนนนนนนนนน



มาต่อเร็วๆนะจ๊ะ เป็นกำลังใจให้มากๆ คนอ่านรออ่านเพียบ!!

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
คำพูดฉานเชือดเฉือนใจน้องเมฆดีจริง ๆ 
แต่ก็เห็นใจฉานนะ  เราเป็นที่พึ่งพิงที่ปรึกษาของคนรักไม่ได้เชียวเหรอ
ยิ่งสิ่งที่เมฆทำ ยอมเอาตัวเข้าแลกแบบนี้  คิดดูว่าใจฉานมันจะเจ็บปวดขนาดไหน เสียใจมากขนาดไหน
ถึงจะพูดเหมือนตัดหางปล่อยวัด ไม่ดูดำดูดี แต่สุดท้ายยังไงฉานก็ทำไม่ลงหรอกต้องช่วยเมฆอยู่ดี

แต่ชอบนะที่ฉานพูดแบบนี้(เชื่อว่า ฉานก็ไม่ปล่อยให้เมฆไปเผชิญชะตากรรมคนเดียวหรอก)  ไม่รู้สิดีกว่ามาปลอบโยนเมฆตั้งเยอะ  ไม่งั้นเมฆก็จะไม่ได้เรียนรู้ ได้บทเรียนจากเรื่องราวครั้งนี้

-คนอ่านเกรียน ๆ กรากกก-

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Seiki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2726/-64


ตอนที่ 42


เสียงสวบสาบดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอเมื่อผมก้าวเท้า คนข้างหน้าเดินห่างออกไปไกลทุกที สองขาที่ทนย่ำบนกรวดหินสลับใบไม้แห้งมานานจนเริ่มอ่อนล้า แต่ทว่าคนที่เดินนำผมอยู่ข้างหน้านั้นไม่มีวี่แววว่าจะเหนื่อยล้าแต่อย่างใด สองข้างทางเป็นป่าทึบ แสงสว่างที่ลอดผ่านเข้ามาน้อยเต็มที ผมรู้เพียงแต่ว่าจะต้องออกไปจากที่นี่ หมอกขาวและความมืดค่อยๆเข้ามาใกล้ แสงที่ส่งผ่านม่านใบหนาของต้นไม้ในป่ารกชัฎ เริ่มจางหายลงไปทุกทีๆ ความหวาดกลัวเข้ามาเกาะกุมหัวใจ สมองสั่งให้ขาก้าวตามคนที่อยู่ข้างหน้า แต่เรี่ยวแรงของสองขาแทบไม่มี


“ฉาน ฉาน รอกูด้วยฉาน อย่าทิ้งกูไว้ในนี้ กูกลัว ฉาน ฉาน “







“พี่เมฆค่ะ พี่เมฆเป็นอะไร ตื่นไหวมั้ยเนี่ย ไม่ไหวก็ต้องไหวนะ” ผมลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก เปลือกตาทั้งคู่ยังรู้สึกหนักอึ้ง สะบัดหัวสองสามครั้งไล่ไอ้อาการปวดตุบๆ ที่แล่นริ้วไปตั้งแต่ขมับถึงท้ายทอย อันดากำลังจ้องตาอยู่กับผม สายตาที่ควรจะโกรธผม กลับมองมาด้วยความห่วงใย ผมกลืนน้ำลายหนืดเหนียวลงคอด้วยความยากลำบาก

“อันดา” ผมเรียกชื่อคนตรงหน้า เรียกเพื่อให้มั่นใจ ว่าผมตื่นแล้ว ไม่ได้ฝัน

“ค่ะ อันดาเอง พี่เมฆเป็นอะไร แม่นิ่มให้มาปลุก อันดาเห็นพี่เมฆนอนกระสับกระส่าย เหงื่อก็ไหล ทั้งๆที่แอร์เย็นจะตาย”

“อันดาไม่โกรธพี่เหรอ” สีหน้าผมคงสลดจนอันดารู้สึกได้ เพราะน้องอึ้งไปตอนที่ผมถามคำถามนี้จบ

“โกรธเรื่องอะไรค่ะ เรื่องพี่อาทเหรอ โกรธสิ แต่อันดาแยกแยะได้ พี่เมฆไหวมั้ย ลุกไปอาบน้ำ ถ้าอันดาไม่ได้คอร์สเรียนสดนะ แม่บ่นหูชาแน่ๆ”

 ฉิบหายแล้วไอ้เมฆ มึงต้องพาน้องไปสมัครเรียน!!! ผมดีดตัวลุกขึ้นแบบไม่ต้องรอเครื่องร้อน ถ้ากระโดดแล้วเข้าถึงห้องน้ำได้ ผมจะไม่รีรอเลย เสียงอันดาบ่นตามหลังมา แต่วินาทีนี้ใครหละจะสนใจ

น้ำจากฝักบัวที่เปิดระดับแรงสุดเท่าที่จะแรงได้ ทำให้สมองที่ตีบตันรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง นิดหน่อย เมื่อคืนผมเมา สติสุดท้ายจำไม่ได้แม้กระทั่งว่า ตื่นขึ้นมาอยู่ในห้องตัวเองได้ยังไง คิดไปถึงไอ้คนใจร้าย มันเดินจากไปแบบไม่คิดจะมองกลับมาหาผมอีกเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกไอ้ฉานทิ้งไว้เบื้องหลัง มันก็คงจะสมกันแล้วกับความโง่และสิ่งที่ผมตัดสินใจทำลงไป ผมเข้าใจไอ้ฉาน และผมก็คาดหวังว่าไอ้ฉานจะเข้าใจผม....เหมือนที่เคยเข้าใจ


แต่ผมคงหวังมากเกินไป เพิ่งรู้ว่าตกจากที่สูง เจ็บได้ขนาดนี้

ออกมาจากห้องน้ำ ก็ไม่เจอกับอันดาแล้ว คงลงไปรออยู่ข้างล่าง ครีมบนโต๊ะเครื่องแป้ง ที่ไม่เคยสนจะใส่ใจ ถูกผมจับมาวางเรียงกันแล้วใช้สองนิ้ว คว้านมากระปุกละปื๊ดสองปื๊ด เพื่อนแม่นิ่ม น้าพิมแม่ไอ้ฉาน หรือใครๆก็ตามมักจะซื้อมาฝากผมเสมอ ถ้ามีโอกาสได้ไปต่างประเทศ ผมเคยมองของพวกนี้ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ทีไอ้ฉานมันมักจะได้อะไรๆ ที่ผู้ชายเค้าได้เป็นของฝากกัน แต่สำหรับผมแล้วไม่น้ำหอมก็เครื่องสำอาง ....เค้าจะรู้มั้ยว่าผมอึดอัดใจแค่ไหน

“อ๊ากกกกกกกกก กูเป็นผู้ชายนะเว้ย แล้วนี่อะไรวะ ครีมทาใต้ตา รกแกะพอกหน้า เฮ้ยยย กูอยากตาย” บ่อยครั้งที่ผมคลุ้มคลั่งหลังจากรับของฝากจากมือผู้ใหญ่ แรกๆไอ้ฉานก็หัวเราะจนตัวงอที่ผมได้ของฝากสาวแตกอะไรแบบนี้ นานๆไปมันก็ชินแต่ผมยังคงคลุ้มคลั่งเสมอต้นเสมอปลาย


ครีมมากกว่าสี่ห้ากระปุกซึ่งผมไม่รู้ว่าสรรพคุณมันมีดีด้านไหนบ้าง แต่จะสนใจไปทำไม ดีไม่ดีพี่เมฆก็กำลังพิสูจน์ให้ได้รู้กันอยู่นี่ไง ถ้ามันดีจริง มันต้องช่วยให้หน้าโทรมๆที่ส่งผลมาจากเหล้าเมื่อคืน ให้สดใสเด้งดึ๋งขึ้นมาได้ทันใจแน่ๆ สองฝ่ามือกำลังประสานครีมสี่ห้าชนิด ต่างที่มาและคงจะต่างส่วนผสม ให้รวมเป็นเนื้อเดียวกัน ก่อนชโลมไปทั่วหน้า

“เชี่ย ครีมรัยวะ เหนียวฉิบหาย พวกผู้หญิงแมร่งทาเข้าไปได้ยังไง นี่ถ้าไม่เสี่ยงกับสายตาต่อว่าจากแม่นิ่ม และสายตาผิดหวังของสาวๆแถวสยามนะ จ้างให้พี่เมฆก็ไม่มีวันแตะเด็ดขาด” เซตผมให้เข้าที่ พร้อมดูความเรียบร้อยของตัวเองอีกที ปกติก็ไม่พิถีพิถันอะไรนักหรอก แต่เพราะอะไรๆมันรู้สึกได้ว่าไม่เต็มที่ เลยต้องดูแลตัวเองมากกว่าปกตินิดหน่อย

เสียงเจื้อยแจ้วของสองสาวต่างวัยดังมาจากโต๊ะกินข้าว กลิ่นข้าวต้มหอมฉุยลอยมาเตะจมูกแต่เช้า แต่จะมีความหมายอะไร ในเมื่อตอนนี้ผมแฮงค์อยู่ ถ้ากินไปนี่มีหวังกระชากอ๊วกกลางทางแน่ๆ

“อ้าวพี่เมฆ มากินข้าวก่อนลูก เหลวไหลใหญ่แล้ว เมื่อคืนกว่าจะกลับก็ค่อนเช้า แล้วนี่ขี้เซาน้องต้องไปปลุก จะกินอะไรให้เมาขนาดนั้นละลูก” ผมนั่งลงฝั่งขวามือของแม่นิ่ม ฝั่งซ้ายของแม่เป็นอันดา ที่นั่งยิ้มส่งแววตาล้อเลียนมาให้ผมอยู่

“แม่ครับ เมฆกินข้าวไม่ไหว ขอกาแฟเข้มๆแทนดีกว่านะ” ผมส่งแววตาออดอ้อนน่าสงสารไปเต็มที่ ความพยายามที่ทุ่มเทไป ได้เป็นค้อนแบบไม่จริงจังเท่าไหร่ส่งกลับมา

“ไหวมั้ยเนี่ยพี่เมฆ วันนี้พี่ฉานเค้ามีธุระนะไปไม่ได้ เราต้องควงกันไปสองคนนะ ไหวมั้ย” ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ผมคิดว่าผมรู้อยู่แล้ว แต่ทำไมเวลาได้ยินทีไร มันอดที่จะรู้สึกวูบโหวงอยู่ในช่วงอกไม่ได้สักที

มือที่วางบนหน้าตัก ค่อยๆกำขากางเกงตัวเองไว้แน่น เตือนตัวเองให้เข้มแข็งเอาไว้
ยิ้มที่ส่งไปให้อันดาแม้จะรู้ว่ามันต้องฝืน แต่ผมก็ต้องทำให้ได้ ในเมื่อผมเลือกเองของผมเอง
“ไม่เป็นไรนี่ เรานั่งแท็กซี่กันไปก็ได้ ดีซะอีกแถวนั้นหาที่จอดรถยากจะตาย”ผมส่งความมั่นใจไปให้น้อง แล้วก็ปลอบใจตัวเองไปด้วยในเวลาเดียวกัน

แก้วกาแฟส่งกลิ่นหอม แม่ต้องคั่วเมล็ดกาแฟแล้วบดชงให้ผมแบบสดใหม่แน่ๆ ความขมบาดลงไปในคอแต่กลับรู้สึกว่ากลืนง่าย รสหวานที่แม่เจือน้ำตาลลงไปนิดหน่อยทำให้ไม่ยากเกินไปที่ผมจะจัดการส่งลงคอไปแบบรวดเดียวหมดแก้ว ชาร้อนกลิ่นดอกไม้ถูกส่งตามเข้าไปล้างคอ ค่อยๆจิบ ไม่ได้เร่งรีบอะไร

“ เมฆ วันนี้น้าพิมน้าชาติ เค้าต้องอยู่ต้อนรับเพื่อนนะลูกนะ เห็นว่าเพื่อนจะทำอพาร์ทเม้นท์ให้ลูกสาว เห็นน้าชาติเค้าบอกว่าจะให้ฉานช่วยดูให้ หัดไว้ ปีสี่แล้ว จบมาน้าชาติเค้าจะได้วางมือสักที พี่ฉัตรเค้าก็ว่าจะต่อด็อกเตอร์ คงไม่มาทางนี้แล้วมั้ง เมฆไปกับน้องได้ใช่มั้ยลูก ” ผมชะงักเหมือนมีบางอย่างมาสะกิดใจ แต่ก็ต้องไล่ความรู้สึกหวิวๆนั้นออกไป

“ไม่เป็นไรครับแม่ เมฆไหว ใช่มั้ยอันดา ”  ท่าทางส่ายหน้าแบบไม่มั่นใจของอันดา ทำให้ผมอดที่จะยืดตัวข้ามโต๊ะ ไปยีหัวเด็กแก่แดดไม่ได้


แรงสั่นสะเทือนของโทรศัพท์สั่นกระทบขา ผมสะดุ้งเล็กน้อย ดีที่ว่าอันดาสนใจข้าวต้มตรงหน้ามากกว่าสนใจผม แม่นิ่มก็กำลังวุ่นวายจัดเตรียมนู่นนั่นนี่ ตามประสาคนที่กำลังเห่อกับการทำหน้าที่แม่ กิจกรรมยามเช้าบนโต๊ะอาหารของเราสองแม่ลูกยุติลงตั้งแต่ผมจบ ม.ปลาย จากที่แม่นิ่มต้องตื่นมาเตรียมอาหารเช้าให้ผม แปรเปลี่ยนไปเป็นอาหารเช้าง่ายๆสำหรับตัวเอง อย่างกาแฟสักแก้วและขนมปังสักก้อน เพราะผมต้องไปอยู่หอใกล้มหาลัยกับคุณชายฉาน เสาร์อาทิตย์ก็ฝากท้องบ้านไอ้ฉานเสียส่วนใหญ่ เพราะน้าพิมพ์ให้เหตุผลว่า สองคนแม่ลูกจะไปสนุกอะไร ต้องรวมกันให้เยอะๆเข้าไว้ ถึงจะเจริญอาหาร บรรยากาศเดิมๆวนกลับมาอีกครั้ง แม่นิ่มดูจะมีความสุขกับการทำหน้าที่แม่เป็นพิเศษ ยิ่งมีเสียงเจื้อยแจ้วของอันดามาเสริมด้วยแล้ว หน้าแม่นิ่มดูจะเปล่งปลั่งขึ้นอีกเป็นกอง

“บ่ายๆ จะเดินวนอยู่แถวลานกิจกรรมตรงสยาม” ข้อความสั้นๆ แต่กระตุกจังหวะหายใจจนสะดุด เลข10 หลักที่ผมจำได้จนขึ้นใจ

หมดเวลาที่ผมจะแกล้งทำเป็นลืมสิ่งสำคัญที่ผมลงมือวางแผนด้วยตัวเองแล้ว

ผมรู้ดีว่าในข้อความสั้นๆนั้นแฝงไปด้วยความหมายอะไรมากมาย


ผมกำลังกระชากน้องสาวเพียงคนเดียวขึ้นมาจากหุบเหวมืดมิด ที่มองไม่เห็นอะไร นอกจากนับวันรอให้อากาศที่ใช้ต่อลมหายใจค่อยๆหมดไป ออกมาเจอกับโลกกว้าง ถึงแม้จะยืนยันไม่ได้ว่าอนาคตข้างหน้าอันดาจะต้องพบเจอกับอะไร แต่อย่างน้อยถ้าน้องได้ยืนอยู่ในโลกที่มีแสงสว่างนำทาง อุปสรรคขวากหนามทั้งหลาย อันดาก็คงจะหลีกเลี่ยงที่จะพบเจอ หรือเดินข้ามมันไปจนได้ มันจะต้องดีกว่าหุบเหวที่มองไม่เห็นอะไรเลยแน่นอน
แสงสว่างที่เปรียบเสมือนอนาคตของน้อง ผมยินดีมอบให้
ถึงแม้ว่า ต้องแลกมาด้วยการที่ตัวผม ต้องกระโดดลงไปในหุบเหวนั้นเสียเอง


ผมยิ้มให้กับภาพที่มองเห็นตรงหน้า นิ้วแม่นิ่มที่ค่อยๆละเลียดเช็ดคราบนมที่เลอะขอบปากของอันดาออกอย่างแผ่วเบา ผมรู้ว่ามันเบามากและรู้สึกดีมาก  ภาพตรงหน้าไม่ต่างกับกระจกเงาที่สะท้อนวันเวลาในอดีตของตัวเอง มือกร้านตามวัยของแม่ค่อยๆลูบหัวอันดาอย่างเอ็นดู  น้ำคำตักเตือนจริงจังแต่อ่อนโยนนักในหูผม  รอยยิ้มที่ระบายเต็มหน้าจนตายิบหยีนั้น มันฉายชัดอยู่ในใจผม

ถ้าคุณเป็นผม แล้วมาเห็นภาพตรงหน้านี้
ผมแน่ใจว่า คุณก็ต้องทำแบบเดียวกับที่ผมทำ


การที่ผม นายสยมภู หวังว่าผู้อ่านยังจำกันได้อยู่นะ จะพาน้องสาวเพียงคนเดียวไปสมัครเรียนพิเศษ แค่นี้
แต่เชื่อมั้ยครับ ตอนนี้ผมไปได้ไม่ไกลไปกว่าหน้าบ้านเลย  แม่นิ่มสั่งนั่นสอนนี่สั่งเสียผมกับอันดาเสียมากมาย
จุดหมายปลายทางคือสยามและบริเวณใกล้เคียง ซึ่งผมก็คลุกคลีกับโซนนั้นมาตั้งแต่หัวเกรียนจนถึงตอนนี้ แต่นั่นไม่มีผลต่อความกังวลของคนที่เป็นแม่ หากไม่เกรงใจว่าผมและอันดาโตพอที่จะสื่อสารกับคนทั่วไปให้เข้าใจได้ แม่คงไม่ลังเลที่จะเขียนชื่อและที่อยู่สอดในกระเป๋าหน้าอกผมไปด้วยแน่ๆ สิ่งที่แม่พร่ำสอนผมจำได้จนขึ้นใจ ฟังซ้ำๆมาตั้งแต่เล็กจนโต จึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของอันดาที่จะซึมซับความห่วงใยตรงนี้ไป

สายตาซุกซนของผมต้องสะดุดกึก หน้าบ้านที่ผมคุ้นเคยดี บ้านที่มีแนวรั้วต้นนีออนเตี้ยๆ แบ่งพื้นที่ระหว่างบ้านสองบ้าน บ้านที่ถ้าเพียงแต่รื้อแนวรั้วธรรมชาตินี้ออกไปก็แทบจะเรียกได้ว่าบ้านเดียวกัน สามในสี่ของคนที่หยุดคุยกันอยู่ที่หน้าประตูบ้านเป็นคนที่ผมไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย แต่ผู้ชายอีกคนที่ยืนยิ้มโชว์ฟันขาวเหมือนเรื่องราวที่กำลังคุยกันอยู่นั้นสนุกเสียหนักหนา ผู้ชายหน้าตาดีที่ต่อให้อยู่ไกลสายตาผมไปมากกว่านี้ ผมก็จำได้ คนที่ผมจดจำได้ทุกรายละเอียดในร่างกาย จำได้ดีกว่าที่ผมรู้จักตัวเอง

ใจผมบอกตัวเองว่า กำลังเดินตามอันดาไปรอเรียกแท็กซี่ที่หน้าบ้าน แต่ขาผมทำไมมันยังอยู่กับที่ ลมหายใจผมทำไมถึงได้สะดุดไม่สม่ำเสมออย่างที่ควรจะเป็น แล้วสมองผมทำอะไรอยู่? ร่างกายผมต้องบังคับกลไกการทำงานด้วยอะไร?

ไม่มีใครให้คำตอบได้ แม้แต่ตัวผมเอง

แรงกระชากมาจากผู้หญิงตัวเล็กๆ บอบบาง เสียงโวยวายที่ผมจับใจความไม่ได้ว่าคืออะไร ตัวผมยืนอยู่นอกประตูรั้วบ้านตามแรงดึงรั้ง แต่สายตายังหยุดนิ่งที่จุดเดิม ที่คน คนเดิม


“เมฆ ปิดเทอมนี้บวชสามเณรภาคฤดูร้อนมั้ยลูก”...............”ยังไงก็ได้ครับเมฆแล้วแต่ฉาน”
“เมฆวันหยุดนี้ไปเที่ยวบ้านเพื่อนแม่กันมั้ย มีสวนผลไม้ ลูกต้องชอบแน่ๆ”..............”แล้วฉานจะไปด้วยมั้ยครับแม่ ถ้าฉานไปเมฆก็ไป”
“เมฆใกล้ถึงกีฬาโรงเรียนประจำปีแล้ว ปีนี้ลูกจะลงว่ายน้ำมั้ย”............”ไม่รู้สิครับ ต้องถามฉานก่อน กว่าจะเลิกมืด เดี๊ยวมันต้องรอเมฆนาน มันจะโวยวาย”
“เมฆเปิดเทอมวันที่เท่าไหร่ลูก”.................”ไม่รู้สิครับ เมฆไม่ได้สนใจ เดี๋ยวฉานมันก็จำให้ แม่นิ่มต้องไปถามฉาน”
“เมฆ จะผูกทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับฉานจนถึงเมื่อไหร่ จะตัวติดกับฉานตลอดไปไม่ได้นะ โตขึ้นต่างคนก็ต้องมีแฟน มีครอบครัว มีชีวิตของตัวเอง เมฆต้องรู้จักยืนได้ด้วยตัวเอง ต้องช่วยเหลือตัวเองให้ได้ ”

นั่นสินะ!!! ผมเองก็ไม่เคยหาคำตอบให้ตัวเองว่าจะอยู่ภายใต้ลำแสงของดวงตะวันไปจนถึงเมื่อไหร่ พอๆกับที่หาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ว่าเป็นบริวารมันตั้งแต่ตอนไหน ....ที่รู้คือมีมันอยู่ใกล้ๆแล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรตัวแปรที่มีผลให้ผมขับเคลื่อนตัวเองได้ เป็นผู้ชายที่ชื่อ ฉานแสง มันเป็นเพื่อน เป็นพี่ บางทีทำตัวเหมือนพ่อ เลวร้ายหน่อยคือมันกำกับชีวิตของผมเลยด้วยซ้ำ มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมแบบค่อยๆซึมเข้ามา ไม่รู้ว่าเริ่มตอนไหน เริ่มเมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดของคำว่ามีชีวิตเป็นของตัวเองจะเริ่มขึ้นตอนไหน  ไม่เคยรู้  ไม่เคยสนใจที่จะอยากรู้

จนมาวันนี้ วันที่ผมเห็นความเป็นจริงของธรรมชาติ ที่เรียกว่า ”มนุษย์ “ ภาพของผู้ชายคนหนึ่งที่ผายมือเชื้อเชิญให้ผู้หญิงที่มองจากระยะไกลก็มั่นใจได้ว่าสวยหวาน ผมดำขลับมันเงาตามธรรมชาติปลิวไปมาตามแรงลมพัด มือบางที่ละข้างนึงจากชายกระโปรงสีชมพูหวานไม่แพ้หน้าตาคนใส่ มาจับปอยผมที่ถูกลมพัดจนบดบังใบหน้าเอาไว้

ความบังเอิญที่มันพอดี


พอดีที่มีอีกมือแกร่งของผู้ชายยื่นมาจับปอยผมปอยเดียวกัน จุดหมายก็คงไม่พ้นใบหูขาวของเจ้าของปอยผมดุจเส้นไหมนั้น  มือที่แตะกันโดยบังเอิญ ทำให้สองคนชะงักไป  มือที่ได้ทำหน้าที่พาปอยผมเจ้าปัญหาปอยนั้นขึ้นไปทัดอยู่บนใบหูบาง จึงกลายเป็นหน้าที่ของสุภาพบุรุษไป โดยไม่ได้ตั้งใจ

มันบังเอิญ บังเอิญทีเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นอยู่ในกรอบสายตาผมพอดี ก็ในเมื่อมันบังเอิญแล้วทำไมผมรู้สึกเจ็บที่หน้าอกข้างซ้ายได้ขนาดนี้  แล้วไอ้ความทรงจำในอดีตทั้งหลายก็พรั่งพรูกันเข้ามาในช่วงเวลานี้พอดิบพอดี

ออฟไลน์ Seiki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2726/-64
กฎของธรรมชาติ ไม่ว่าใครก็ฝืนมันไม่ได้ มันก็เหมือนกับผู้ชายที่ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องคู่ควรกับผู้หญิง

ถึงแม้มันจะเป็น สิ่งเดียวที่ใครคนนั้นพร่ำบอกผมเสมอ เวลาที่ผมรู้สึกไม่มั่นใจ ว่ามันเป็นกฎที่ฝืนได้
แต่วันนี้ใครคนนั้นไม่ได้อยู่ข้างกายผมอีกแล้ว ผมจะเอาคำตอบมาจากไหน ว่าไอ้กฎบ้าๆนั่นมันยังฝืนได้อยู่
หรือว่าต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ


แรงบีบมือเป็นจังหวะหนักเบาสลับกัน มาจากคนที่ส่งสายตาห่วงใยมาให้ผม
สุดท้ายคนที่ตั้งใจจะเป็นผู้แล กลับกลายมาเป็นคนที่ต้องได้รับการดูแลเสียเอง
อันดาเรียกแท็กซี่ได้ ขณะที่ใจผมลอยไปอยู่ไหนก็ไม่รู้ ปลายทางที่จะไปอันดาก็จัดการ
แต่แท็กซี่จะขับไปทางไหน นั่นก็สุดแล้วแต่ จากรามคำแหงไปสถานีรถไฟฟ้าพญาไทแล้วค่อยวนไปแถวสยาม
แท็กซี่จะขับไปอ้อมวงเวียนใหญ่ ผมก็คงไม่มีปัญญาไปทำอะไรได้

แก้มผมถูกประทุษร้ายจากมือบางของคนข้างๆ มือเล็กๆแต่พิษสงเหลือร้าย ผมซี๊ดปากด้วยความเจ็บทันทีที่กล้ามเนื้อบริเวณแก้มทั้งสองถูกสองมือบิดจนเป็นเกลียว หน้าอันดากับหน้าผมตอนนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“พี่เมฆ ไม่เป็นอะไรนะ” รอยยิ้มที่ส่งมา เรียกความละอายใจห่าใหญ่มากระแทกใจผมเลยทีเดียว
ตุ๊ดชิบหายเลยพี่เมฆ!!! แทนที่มึงจะปลอบน้อง กลายเป็นน้องต้องมานั่งปลอบ แล้วไอ้ที่มึงพยายามสร้างภาพว่าแมน  ว่าเป็นสมชายจดปลายเท้ามันจะมีความหมายอะไร
ก็ในเมื่อคำนี้ควรจะเป็นคำที่ใช้พูดกับอันดาไม่ใช่เหรอ???  ประโยคเดียวกันใช้ถูกที่แต่ผิดเวลา

ผมเอื้อมมือไปยีหัวอันดาเล่น ผมเริ่มจะติดอาการนี้ซะแล้ว แก้เขิน แก้เก้อ แก้มันทุกอย่าง ส่งความอุ่นใจแบบเอนกประสงค์

“เออ พี่ไม่เป็นไรสักหน่อย” ตอแหลชิบหายไอ้เมฆ ทั้งๆที่เมื่อกี้มึงคงจะเผลอทำหน้าจะเป็นจะตายให้น้องเห็น เสียงตุบตับหยอกล้อเอาคืนกันเรียกรอยยิ้มจากพี่แท็กซี่ที่ผมลอบมองผ่านกระจก

“ดีมากค่ะคุณชาย ช่วยทำหน้าหล่อๆ ยิ้มด้วยๆ เออ อย่างนี้สิค่อยดีขึ้นมาหน่อย อุตส่าอวดเพื่อนเอาไว้ว่าพี่เมฆหล่อ”ท่าทางจัดฉากการแสดงบนใบหน้าผมของอันดา เรียกเสียงหัวเราะจากผมได้ น้ำตาที่กำลังตกใน ก็เหือดหายไปเล็กน้อย

ผมกับอันดาเป็นพี่น้อง แต่คนละพ่อกัน หน้าคมสมเป็นลูกครึ่งของอันดานั้น ไม่มีอะไรที่เหมือนผมเลย
ร้อยทั้งร้อยเจอผมกับอันดาเล่นกันแบบนี้ ถ้าไม่รู้จักเราสองคน ก็ต้องคิดว่าเป็นคู่รักกันแน่ๆ

ก็แล้วถ้าเหตุการณ์เมื่อกี้แต่เปลี่ยนจากอันดาเป็นไอ้ฉาน พี่แท็กซี่จะส่งยิ้มให้ หรือตกใจขวัญผวากันนะ!!

ถ้าเป็นไอ้ฉานมันจะไม่แค่จับมือผมแล้วบีบเอาไว้ มันต้องมากกว่านั้นถ้าเป็นฉานแสง อย่างน้อยตัวผมท่อนบนต้องอยู่ในพันธนาการของอ้อมกอดมัน จมูกคงอยู่ไม่ไกลจากหน้าผาก แก้มหรือปลายคางผมสักเท่าไหร่หรอก แล้วถ้าลองว่าไม่มีบุคคลที่สามขึ้นมาเมื่อไหร่ ผมกล้าพนันแบบสิบเอาหนึ่งเลยก็ได้ว่า ลิ้นผมต้องโดนมันดูดกินเข้าไปแน่ๆ ปากผมก็คงจะมันวาวไปด้วยลิปกลอสใสๆจากน้ำลายของมัน คำปลอบโยนจะที่ได้ คงหลังจากที่มันกินลิ้นผมจนพอใจแล้วนั่นแหละ

สุดท้ายผมก็ต้องคิดถึงมันอีกจนได้.......


เมื่อมาถึงสถานีรถไฟฟ้าพญาไท ก็หมดเวลาจมอยู่กับควมคิดของตัวเองทันที
บรรยากาศรอบข้างกระตุ้นให้ผมยิ้มได้ ถึงมันไม่ได้ยิ้มออกมาจากใจ แต่ก็ดีกว่ามานั่งร้องไห้ให้เสียความแมน เพื่อนอันดาอีกสองชีวิตเข้ามาอัดอยู่ในแท็กซี่คันเดียวกันผม เสียงเจี้ยวจ๊าวเหมือนนกกระจิบแตกรังดังเข้าหูจนรู้สึกหลอน อานุภาพแห่งการคุยของผู้หญิงน่ากลัวจริงๆก็วันนี้


คาปูชิโน่แก้วใหญ่เพิมวิปครีมพิเศษเท่าหลังคาบ้าน ถูกผมตักส่งเข้าปากแบบไม่แคร์ว่าจะมีคอเรสเตอรอลมหาศาลแค่ไหน ไม่เคยต้องมาสนใจว่าวิปครีมลูกใหญ่กว่าฝาครอบแก้วนี้จะโลวแฟตหรือไม่

ผมเป็นผู้ชาย.....ไม่เคยแคร์อะไรอยู่แล้ว

เสียงจอแจวุ่นวายของเด็กม.ปลายที่มาเข้าคิวสมัครเรียนกันยังกับของฟรี ผมนั่งรอที่ม้านั่งที่ทางสถาบันติวเค้าจัดไว้ แต่คงวางไว้เป็นแค่พร็อพประดับสถานที่เฉยๆ ในเมื่อคนที่ควรจะต้องใช้งานกลับไปยืนเข้าคิวยาวไกลเป็นกิโลเห็นจะได้ อันดากับเพื่อนจัดการเรื่องของตัวเองกันไป  ปล่อยผมให้นั่งซึมซับบรรยายกาศของเด็กหัวเกรียน ม.ปลาย และเด็กผู้หญิงหางม้าไปแกล้มคาปูชิโนเย็นแก้วใหญ่ไป
ทั่วบริเวณอุ่นหนาฝาคั่งไปด้วยผู้ปกครองที่มาให้กำลังใจลูกหลานเสมือนงานประเพณีประจำปีอะไรสักอย่าง มีทั้งเด็กกรุงเทพและเด็กต่างจังหวัดเดินสวนกันไปมาจนผมตาลาย เสียงในฟิล์มของแต่ละภาคมีเสน่ห์จนผมอดยิ้มไม่ได้ ผมชอบคนที่รักภาษาบ้านเกิดของตัวเอง ภาษาของทุกภาคมีเสน่ห์ และผมก็ชอบฟัง  บรรยากาศวุ่นวายชวนให้ตาลายไปบ้าง แต่โดยรวมก็สนุกดี นานๆครั้งถึงจะส่งสายตามองหาน้องสาวตัวเองบ้าง
ขนาดผมเองยังมองสาวๆที่เดินผ่านตาไปมา แล้วจะไม่มีใครมองอันดาน้องสาวผมเลยเหรอ ผมมั่นใจว่าน้องตัวเองสวยไม่แพ้ใคร แล้วสายเลือดของชาวต่างชาติที่หลอมรวมครึ่งนึงในตัวอันดา ยิ่งขับให้อันดาสวยเด่นขึ้นอีกเป็นไหนๆ อันดาไม่ได้ขาวจนส่องประกายได้ แต่ผิวเนียนเรียบลื่นไม่แพ้ใครอันนี้ผมยืนยัน
สัญชาตญาณของพี่ชายเข้ามากอบกุมหัวใจผม อาการหวงน้องทำให้หางคิ้วกระตุก เมื่อสังเกตุจริงๆถึงรู้ว่า ผู้ชายมากหน้าหลายตามองน้องกูกันตาเป็นมันเลยนะไอ้พวกเกรียนทั้งหลาย จากที่คอยสอดส่องหาอาหารตาทั่วๆไป กลายเป็นยืนส่งสายตากดดันไอ้พวกริ้นไร ที่มันแอบมองน้องผมเท่านั้น  เพื่อนอันดาเห็นอาการเหมือนหมาบ้าคาปูชิโน่ของผมก็สะกิดบอกต่อกัน หัวร่องอหงายสนุกกันไป
ไม่นานอันดาก็วิ่งมาหา พร้อมใบหน้าบูดสนิท หน้างอง้ำ ทำให้ผมซ้อมขมวดคิ้วสงสัยตั้งแต่อันดายังมาไม่ถึง เกิดอะไรขึ้นกับนางฟ้าน้อยๆของผม
“เป็นอะไรหืม หน้าบูดมาเชียว จองคอร์สไม่ได้ ห้องเต็ม รอบเต็มหรืออะไร” ปากบางที่เม้มเข้าหากันไม่มีคำตอบอะไรให้นอกจากสะบัดหน้าปฎิเสธทุกข้อสงสัย

“ก็แล้วเป็นอะไรหละ ไม่บอกพี่ไม่รู้นะ ใครทำอะไรน้องพี่บอกมา พี่จะเข้าไปจัดการมันให้เดี๊ยวนี้แหละ” ผมไม่ได้เอาจริงเอาจังแค่คำพูด แต่ผมเริ่มถลกแขนเสื้อขึ้นมารอท่าแล้วด้วย (ทั้งๆที่ไม่เคยจะเข้าใจว่าทำไมเวลาจะมีเรื่อง ต้องถกแขนเสื้อขึ้นก่อน นิ้วโป้งต้องเอามาถูจมูกไม่งั้นไม่ถูกต้องตามมาตรฐานของการมีเรื่อง ถึงไม่เข้าใจ แต่ผมก็ทำตาม T_T)

“อันดาได้รอบวันธรรมดา” ผมชะงัก ปลายเสื้อที่ถลกขึ้นไปเสมอหัวไหล่ ค่อยๆคลี่คลายออกมาเหมือนเดิม

“ว่าไงนะ” ผมไม่เข้าใจว่า การได้เรียนรอบวันธรรมดา มันทำให้นางฟ้าของผมหน้างอได้ไง ถึงพี่เมฆจะหล่อ แต่คนหล่อก็สามารถสงสัยได้นะครับ ไม่แปลกๆ

“ก็อันดาได้เรียนรอบธรรมดานะสิ พี่เมฆต้องไปเรียนใช่มั้ย ก็ไม่ได้มารับมาส่งอันดา” อ๋อ !! ที่แท้น้องก็อยากอยู่กับพี่ชาย นางฟ้าของผมน่ารักสุดหัวใจเลยใช่มั้ยครับ แต่การเรียนต้องมาก่อน เรามีเวลาอยู่ด้วยกันทั้งชีวิต เมื่อไหร่ก็เจอกันได้ วันหยุดผมจะชดเชยเวลาให้น้องอย่างเต็มที่ พี่เมฆขอสัญญา เอาขาหน้าแปะโป้งไว้ก่อนเลย

มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นละนะ ก็ไอ้ฉานมันไม่มาป้วนเปี้ยนบงการชีวิตผมแล้วนี่  ไม่ต้องแบ่งเวลาให้ใคร ผมยกให้น้องไปเลยเต็มที่
“เรียนวันธรรมดาก็ไม่เห็นเป็นไร นั่งแท็กซี่ไปกลับเลยก็ได้ ไม่มีปัญหา เสาร์อาทิตย์ พี่ชดเชยให้เต็มที่” น้องผมเป็นผู้หญิง เรื่องความสะดวกสบายก็ต้องเป็นเรื่องที่กังวลกันนิดหน่อยใช่มั้ยหละครับ
“ป่าว อันดาไม่ได้กังวลเรื่องนั้นสักหน่อย ก็ถ้าแม่รู้ว่าเรียนวันธรรมดาแล้วพี่เมฆมารับมาส่งอันดาไม่ได้ แม่ต้องส่งใครมารับส่งอันดาแน่ๆเลย ทีนี้ถ้าจะแว่บไปไหนก็ไม่ได้อะดิ เรื่องถึงหูแม่แน่ๆ แต่ถ้าเป็นพี่เมฆ เราคุยกันได้ใช่ม๊า” ศอกที่มากระแทกไหล่ผม พร้อมรอยยิ้มยียวนแถมด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ ไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอผมก็เชื่อสนิทใจ ว่าอันดานี่ใช่น้องผมแน่ๆ ถ้าผู้หญิงใช้คำว่ากะล่อนได้แบบผู้ชาย ผมว่าอันดานี่เข้าข่ายกะล่อนตัวแม่

“โอ้ยย พี่อุตส่าห์ดีใจ คิดว่าน้องอยากจะอยู่ด้วย ที่ไหนได้ วางแผนหนีเที่ยวแบบให้พี่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดนี่เอง” ผมตบหน้าผากตัวเองฉาดใหญ่ ถือว่าไล่ความโง่ และเขย่าขี้เลื่อยให้มันกระจายๆ เผื่อเนื้อสมองจะได้ทำงานได้คล่องขึ้น

“แหมพี่ฉาน เรามีเวลาอยู่ด้วยกันทั้งชีวิต แต่อันดาอ่ะเข้ามหาลัยแล้วต้องตั้งใจเรียนไม่ใช่หรือไง ตอนนี้ก็ขอปลดปล่อยบ้างอะไรบ้าง” คิดดูนะครับว่ายังต้องตรวจดีเอ็นเออีกไหม ขนาดคำพูดอันดายังกอปปี้ออกมาจากความคิดผมแบบเป๊ะๆ ไม่ผิดพลาดเลยสักคำ

ผมถอนหายใจไว้อาลัยให้กับชะตาชีวิตของตัวเองเสียเฮือกใหญ่ กำลังเทคอาการเข้าปอดแทนที่อากาศที่ถ่ายออกไป สายตากำลังมองหาของสวยงามมาปลอบใจ ในกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ ตาผมกลับไปหยุดอยู่ที่ผู้ชายที่สูงโดดเด่นออกมาจนเป็นจุดสนใจ เขาไม่ใช่คนที่เรียกได้ว่าหล่อ แต่ของที่เอามาประดับอยู่บนตัวทั้งเสื้อผ้าหน้าผมทั้งหลาย ทำให้เขาเป็นผู้ชายที่จัดว่าดูดี ไม่ต้องหล่อ แต่บุคลิคแบบนี้เป็นที่ต้องตาต้องใจของสาวๆได้ไม่ยาก

แค่ยืนคนเดียวก็เด่นมากพออยู่แล้ว ยิ่งโดดเด่นเข้าไปใหญ่เมื่อข้างกายมีสาวน้อยที่ผมใช้สายตามองทะลุชั้นหนาของเครื่องสำอางค์ แล้วพบว่าน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับอันดา การแต่งตัวตามสมัยของวัยรุ่นไทยใจกลางสยาม ถุงเท้าเซเลอร์มูนห่อหุ้มขาไว้ถึงเข่า กระโปรงสั้นจนผมอดหัวใจวายแทนผู้ปกครองของน้องคนนั้นไม่ได้ เสื้อกล้ามสีสดตัดกับเนินอกขาวที่โผล่ออกมาล่อตาล่อใจ ถึงแม้จะมีเสื้อคลุมตัวบางทับด้านนอกเอาไว้อีกที ก็แทบจะปกปิดอะไรไม่ได้ ไม่ต้องจินตนาการอะไรมากนักก็พอจะรู้ ว่าทรวดทรงน้องเค้าประกอบกันด้วยเลขอะไรบ้าง เห็นแบบนี้แล้วนึกถึงไอ้แกละทันที

“แต่งตัวแบบนี้ พ่อแม่ไม่ว่าเหรอจ๊ะ แต่ถ้าเป็นแฟนพี่ พี่จับเปลี่ยนสถานะเป็นเมียตั้งแต่ไม่ก้าวขาออกจากบ้านแล้วละจ๊ะ ถ้าเป็นน้องเป็นนุ่ง พี่จะตีให้ลืมไปเลยว่าวันพุธสีอะไร” ประโยคล้นๆ งง ของไอ้แกละ ถูกพวกผมต่อต้านด้วยการทำร้ายกบาลมันเสมอ เมื่อเจอมันแซวสาวๆที่แต่งตัวโชว์สรีระแบบไม่ต้องให้พวกผู้ชายใช้จินตนาการ จะว่าเพื่อนผมฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ ในเมื่อเธอจงใจเดินเข้ามาในฝูงหมาเอง แต่นั่นมันก็นานๆทีแหละครับ ที่อาหารตาพวกนี้จะหลุดมาแถวคณะผม ก็อย่างที่บอกถาปัตย์กับศิลปกรรมโดนเนรเทศไปอยู่สุดขอบมหาลัยขนาดนั้น นางฟ้าคนไหนจะผ่านไปนี่ต้องตั้งใจนะครับ  อ้างว่าบังเอิญนี่เชื่อไม่ได้

แล้วถ้ามาเป็นน้องผู้หญิงคนนี้ ไอ้แกละเพื่อนผมมันไม่ปรี่เข้าไปสั่งสอนน้องเขาเลยเหรอ ในเมื่อสิ่งไม่ถูกต้องไม่ใช่แค่การแต่งตัว แต่สองมือที่เกาะแขนผู้ชายที่ผมเริ่มคุ้นมาได้เมื่อไม่นาน ใบหน้าที่แทบจะเบียดเข้าหาท่อนแขนทุกทีที่มีการสนทนากัน ถ้าไม่ติดว่าอยู่ท่ามกลางประชาชี ผมก็อาจจะเข้าใจผิดไปได้ว่าไอ้ที่เค้ากระซิบกระซาบคุยกันอยู่นั้น มันมองยังไงๆ ก็ไม่ต่างจากการหอมแก้มกันสักเท่าไหร่หรอก นี่ขนาดท่ามกลางสายตาสาธารณชนยังทำขนาดนี้ แล้วลับหลังมันไม่เอาลิ้นออกมาพันเกลียวกันกลางอากาศแลกออกซิเจนกันแบบ ดูดเป็นดูด คายเป็นคาย ความ(เร่า)ร้อนกันเลยเหรอ

ไม่มีสัญญาในหมู่โจรที่สปีชีย์อยู่ในข่ายสัตว์เดรัจฉาน

ไอ้อาทส่งข้อความมาบอกผมว่า จะเดินรออยู่แถวลานกิจกรรมสยามตอนบ่ายๆไม่ใช่เหรอ แต่นี่มันเพิ่งจะสิบเอ็ดโมง ทำไมผมถึงเจอมันอยู่ที่สถาบันติวเตอร์แห่งนี้ได้หละ ผมยังปลอบใจตัวเองอยู่ตลอดเวลาที่คิดได้ว่า ยังมีเวลาให้อันดาทำใจ และตัวผมเองได้ทำใจ แต่นี่มันอะไร มันเร็วเกินไปไม่ใช่เหรอ ขนาดผมที่วางเกมส์ไว้เอง เมื่อเจอรุกฆาตอย่างนี้ผมยังช็อค แล้วอันดาหละ นางฟ้าของผมหละจะอยู่ในสภาพไหน
ผมละจากภาพที่แยกแยะไม่ออกว่ามันคือเรื่องจริงหรือการแสดงของคู่รักข้างหน้า ที่แสดงสมจริงสมจังจนผมแทบสะดุดลมหายใจหัวเองตาย คนข้างตัวที่ออดอ้อนผมอยู่เมื่อครู่ ไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว แค่ผมช้อนสายตาขึ้นก็พบว่า นางฟ้าของผมปลิวถลาจนจะถึงตัวไอ้คู่รักสะท้านฟ้าตรงหน้าอยู่แล้ว แต่ความจงใจมันย่อมไม่มีอะไรเหมือนความบังเอิญ ผมแน่ใจว่าไอ้อาทมองเห็นว่าผมกับอันดาอยู่ตรงไหน แต่ทำเป็นมองไม่เห็น ผู้คนพลุกพล่านวุ่นวาย ไอ้อาทคงจงใจอาศัยช่วงชุลมุนออกมาให้อันดาเห็นตอนนี้ แล้วมันก็เนียนทำเป็นมองไม่เห็นอันดาจนผมรู้สึกทึ่ง ตอนที่อันดากำลังจะเข้าไปใกล้ มันก็คว้าแขนน้องตุ๊กตาบาร์บี้คนนั้นฝ่าฝูงชนออกไปแบบเนียนๆ ขาผมวิ่งตามอันดาไป ผมไม่รู้ว่าไอ้อาทตั้งใจจะให้อันดาเจอกันซึ่งๆหน้าตอนไหน  แต่คงไม่ใช่ตอนนี้แน่ๆ เพราะขณะที่ขาผมก้าววิ่งตามอันดาไป โทรศัพท์ในกระเป๋าก็พร้อมใจสั่นขึ้นมากระแทกหน้าขาจนรู้สึกรำคาญ ผมหยุดเพื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทำลายตัวการแห่งความรำคาญนั้น สายตาก็มองตามแผ่นหลังอันดาไม่อยากให้น้องคลาดสายตาไปตอนนี้ 
ข้อความจากโทรศัพท์มาจากพระเอกรางวัลออสการ์ที่โชว์ผลงานออกสู่สายตาผมไปเมื่อสักครู่
ข้อความที่ส่งมาทำให้ผมต้องจิ๊ปากขึ้นมาแบบขัดใจเต็มที..
“เกมส์ใกล้จะบิงโก อย่าลืมสัญญาลูกผู้ชาย อาท รอรางวัลปลอบใจอยู่ทุกวินาที” ข้อความชวนสะอิดสะเอียดคงไม่สะใจไอ้เชี่ยนั่นมากพอ มันถึงต้องส่งท้ายด้วยอีโมชั่นเคลื่อนไหวได้ เป็นรูปหัวใจค่อยๆกลายเป็นริมฝีปากส่งจูบ ขนที่พร้อมใจกันลุกซู่โดยไม่ได้นัดหมาย ไม่ได้มาจากความเสียวซ่าน หรือวาบหวามแต่อย่างใด มันลุกขึ้นได้เพราะผมรู้สึกขยะแขยงกับข้อความที่กินความหมายมากมายนั้น

เวลาแห่งความสุขสั้นแสนจะสั้น
แต่เวลาแห่งความทุกข์นั้นมาเร็วจะเสมอ
 
๐ นับถอยหลังอีก 3 ตอนนะคะ สำหรับพี่เมฆกับไอ้กูปรีหนีน้ำอย่างฉานแสง
ตอนนี้คงจะมีหลายอารมณ์คละกันไปนะ ขอโทษที่ตอนที่แล้วทำหลายๆคนปวดใจ
เริ่มเกลียดพี่ฉานกันใหญ่ เหตุผลทุกคนมีเป็นของตัวเองนะค่ะ
แต่ว่ากว่าที่คนสองคนจะเจอกันที่ตรงกลางของเหตุผลได้ มันก็ต้องใช้เวลาเนอะ
ไม่เศร้าจริงๆนะ หลายคนมาทวงสัญญา ป้ายขอบคุณอันใหม่คงคลอดพร้อมตอนจบแน่ๆ:sad4:
อยากได้แบบยากๆแต่ทำเองไม่ได้ ขอช่วยจากคนอื่นก็ช้าแบบนี้ละนะ
พอรวบรวมรายชื่อคนที่เข้ามาอ่านแบบทิ้งคอมเม้นไว้
มันเยอะจนคาดไม่ถึงเลยค่ะ ต่อให้บางคนแค่หลงเข้ามาก็นับนะ
เรารักทุกคน นางเอกได้อีก
ขอบคุณทุกคนค่ะ ขอบคุณจริงๆ ยินดีต้อนรับแฟนๆ
พี่เมฆกับท่านฉานหน้าใหม่ทุกคนนะคะ
๐.....  :pig4:


====================
 :beat: ตบคนแต่งอย่างมีเหตุผล ไหนว่าไม่เศร้า ไม่กดดัน ไม่ตึงเครียด แล้วนี่อะไร  :fire: เน้นฮาไหน  :z6:

-N-

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดด ตอนนี้พี่ฉานหมดงบ ไม่ได้ค่าตัว กร๊ากๆๆๆๆๆ


ว่าแต่อีก 3 ตอนเรื่องจะเคลียร์ใช่มั้ยหรืออะไรยังไง อย่าเพิ่งจบนะที่รักกกกกกกก หวานให้มากๆๆๆๆๆก่อนนนนน

ออฟไลน์ iiดาวพระสุขლii

  • คิดการใหญ่ ใจต้องเหี้ย(ม),,
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +746/-3
อ่านแล้ว.....
ถอนหายใจเฮือกใหญ่ 1 รอบ....
แล้ว เดินออกไป นอนกอดห่อมผ้าห่ม กอดหมอนข้างหมีพูห์ ร้องไห้ กระซิกๆ บนเตียง...
รีบเข้านอน....เผื่อว่าตื่นมา...
ช่วงเวลาแห่งความน่าอึดอัดใจ....จะผ่านไปอีกวัน T_______T

ออฟไลน์ kokikung

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-3
อ๊ากกกกกกกกกกก

พี่ฉานหายไปไหนนนนน

เมฆไปง้อที
อยากให้น้องอันดาตาสว่างเรื่องไอ้เลวนั้นสะที

น่ากลัวตอนต่อไป

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซ  อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกค์   :serius2:

ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
อย่างพี่ฉานนะพี่แกรักใครไม่เป็นหรอกนอกจากพี่เมฆ
ต่อให้พี่เมฆทำให้พี่ฉานเจ็บปวดก็ตาม
รักพี่ฉานเอ็นดูพี่เมฆ :o8: :-[

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
ฉานหายไปไหน

สงสารเมฆจัง อันดาก็ไม่รู้ไรเลย :เฮ้อ:

ออฟไลน์ lovenadd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
อ่านตอนนี้แล้วเลดี้ปวดใจแทนน้องเมฆอะรับศึกหลายด้านจัง สาวน้อยหน้าหวานที่ฉานทำดียังกับคู่รัก
ที่เมฆเห็นละประชดกันทำไม เคลียร์ซิฉาน รู้ทั้งรู้ว่าองอิศารนะยึดติดดวงตะวันจะตาย ปกป้องเหมือนทุกทีซิฉาน
แล้วนี่อิอาทก็ทำงานมันแล้ว และยังเริ่มเดินรุกเกมส์แย่งเมียชาวบ้านอีก เรื่องทั้งหมดที่ตุงนัง ก็ไม่รู้จะโทษใคร
แต่คนที่มีเอี่ยวในงานช้างแห่งความยุ่งยากคงบอกว่าเป็นอันดา แต่จะโทษน้องก็ไม่ได้ความรักไม่เคยเข้าใครออกใคร
ก็ต้องโทษอิอาท แต่จะโทษมันที่สันดารเป็นแบบนี้ แต่คนที่ตอนนี้อยากโกรธเป็นฉาน อะทำไมไม่หมุนรอบอิศารนะ

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
อ่านข้อความอาทละก็ขนลุกตามเมฆเลย
น่ากลัวจริงๆ
หวังลึกๆ ว่าพี่ฉานจะไม่หนีหายไปไหน
แอบตามห่างๆ อย่างห่วงๆเนอะ

jigsaw44

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณคนแต่งกะคนโพส
ตอนนี้สองพี่น้องน่าสงสารจัง
น้องสาวเสียใจแต่พี่ชายกำลังจะเสียตัว
หวังว่าฉานคงไม่ปล่อยเมฆไปเพียงเพราะความน้อยใจหรอกนะ
ปล.สงสัยคนแต่งหัวล้าน อิอิ(แซวเล่นอย่าตัดแต้มเค้านะ) :กอด1:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ไม่อยากคิดแทนเมฆ  เพราะปวดใจจริง ๆ
แต่คิดว่าพี่ฉานคงเตรียมแผนไว้แล้วเหมือนกันโดยไม่ให้เมฆรู้
คงกะดัดหลังให้เมฆช้ำใจเล่นโทษฐานที่ไม่ปรึกษา
แต่ไอ่อาทนี่สิ  ไม่รู้ว่าจะมีแผนอะไรรึเปล่า
อ่านตอนนี้แล้วช้ำใจแทนพี่เมฆนะเนี่ยะ
พี่ฉานไม่ใส่ใจก็แย่แล้ว  ยังดันมามีผู้หญิงมาเกี่ยวข้องอีก
เฮ้ออ

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1

ออฟไลน์ CanonDNattari

  • ☆.•:*´เชื่อในสิ่งที่เห็นและต้องการให้เป็น ¨`*:•☆
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 701
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
ไม่มีอะไรจะพูดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  :z3: :serius2:


 :กอด1: คนโพส กับ คนแต่ง  :กอด1:

ออฟไลน์ n2

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +113/-4
อีก 3 ตอนจะจบแล้วหรือค่ะ :monkeysad:ไม่อยากให้จบเลย

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
บวกหนึ่งอย่างอารมณ์ดี เพราะงานพรีเซ้นต์เมื่อวานเย็นผ่าน เงินเพียบ

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
เราอ่านตอนนี้แล้วเครียดอะ ปวดหัวตึบ ๆ เลย  :z3:

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
ชะนีหน้าหวานนั่นคือใครอ่ะ

ทะไมพี่ฉานทำแบบบนั้น

สงสารพี่เมฆ ทำไรก็ดูไม่ดี เฮ้อ :เฮ้อ:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด